จากวิสกี้แก้วที่หนึ่ง ตามด้วยแก้วที่สอง ชายหนุ่มที่เริ่มเมามายควานหาเครื่องดื่มอย่างอื่นที่พอจะมีเก็บเอาไว้ ริมฝีปากของศิลปินหนุ่มหยักยิ้มเมื่อคว้าได้ไวน์ฝรั่งเศสราคากลางๆ ไม่ได้แพงมากแต่ก็พอจะออกฤทธิ์ได้มาเปิดฝาก๊อกออก...เขาเคยตั้งใจว่าจะเอาไว้ดื่มกับจิ๊บ...แต่คงต้องขอพลัดต่อไปอีกหลายๆรอบ
...ก้องภพเดินเซๆเข้าไปยังห้องทำงานในเรือนเล็กด้านหลังบ้าน พร้อมด้วยขวดไวน์ ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะรับฟังกล่าวโทษ และขอโทษอีกฝ่าย แต่สุดท้ายแล้วก็รับไม่ได้กับสายตาที่มองมา สิ่งที่เขาทำนั้นผิดบาปมากเกินไปจริงๆ
ยิ่งคิดนิ่งเจ็บใจในความโง่เขลาของตัวเอง ในความใจร้อนของตัวเอง ที่หากคืนนั้นเขามีสติยั้งคิดอยู่บ้างเขาคงไม่ทำแบบนั้นกับรามินทร์
ร่างสูงเดินไปเปิดลิ้นชักที่ใส่กุญแจเอาไว้แน่นหนา ด้านในมีกล่องพลาสติกเป็นกล่องทรงกลมยาวซุกเอาไว้ที่ด้านในสุดของลิ้นชัก ชายหนุ่มไม่เคยคิดจะแตะต้องมันอีกเลยนับจากเหตุการณ์ในครานั้น
....แต่วันนี้ ...เพราะยังมีสิ่งนี้เหลืออยู่ซิ่นะ ที่ทำให้ความตั้งใจของเขาที่จะปลดปล่อยพัธนาการของตัวเอง ที่เหนี่ยวรั้งความรู้สึกของรามินทร์ให้ทรมานเช่นเดียวกันกับตัวเองนั้นต้องพังลงอย่างไม่มีชิ้นดี ชายหนุ่มดึงเอากระดาษวาดภาพแผ่นหนึ่งออกมาจากกล่องทรงกระบอกนั้น ปลายนิ้วเรียวค่อยๆคลี่ม้วนกระดาษออกเผยให้เห็นผลงานที่ไม่อยากจะจำของตัวเอง
ภาพวาดระบายด้วยสีน้ำ น้ำหนักพริ้วไหวของปลายพู่กันดูอ่อนช้อยประกอบเป็นภาพร่างเปลือยของคนๆหนึ่ง วงแขนเรียวยาวยกขึ้นสองข้างเหนือหัว ที่ข้อมือบางมีผ้ามัดพันเอาไว้แน่นหนา รายละเอียดปลีกย่อยนั้นทำให้เห็นรอยช้ำเลือดบนข้อมือนั้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าสวยที่เอียงไปด้านซ้ายเหมือนหมดเรี่ยวแรง ใบหน้านั้นดูเหนื่อยอ่อน และมีแต่คราบน้ำตา บนร่างกายขาวนวลเนียนนั้นปรากฏเป็นรอยแดงเป็นจ้ำอยู่ทั่วแผ่นอก ทั้งยอดอกที่วาดจนเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความนิ่มมือหากลองไล้นิ้วสัมผัส ต้นขาที่โพล่พ้น ชายผ้าขาวออกมาอย่างหมิ่นเหม่เองก็เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำที่ตีตราความเป็นเจ้าของลงไปอย่างจงใจ จนแม้เพียงมองภาพก็เหมือนจะสัมผัสได้ถึงแรงของริมฝีปากยามที่กดลงไปบนผิวเนื้อแน่นที่ต้นขานั้น
มันคือภาพที่เขาวาดเอาไว้ ในคืนวันที่เขาทำร้ายรามินทร์ คนที่เขาบอกว่ารักมากที่สุด กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่บอกรักร่างกายนั้นด้วยวิธีที่อีกฝ่ายบอกว่าป่าเถื่อนโหดร้าย กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เขาสุขสมท่ามกลางเสียงกรีดร้อง เสียงอ้อนวอนของเด็กหนุ่มที่บอกใหเขาหยุด กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ที่เขาไม่ได้มีสติจะรับฟังเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น และ วิงวอนให้ปล่อยตัวเองไปของรามินทร์เลย
ภาพสุดท้ายที่เขาจำได้คือภาพนี้....ที่เขาบรรจงวาดเอาไว้
บังคับให้อีกฝ่ายดูภาพของตัวเองค่อยๆเป็นรูปเป็นร่าง....ก่อนที่ทุกครั้งนั้นเขาก็จะบังคับเรียกหาความสุขจากร่างของอีกฝ่ายเช่นกัน
.....รักมินนะครับ....อย่าไปจากพี่นะ....อยู่กับพี่นะ ...คือสิ่งที่เขาพร่ำบอกท่ามกลางเสียงร้องไห้และน้ำตาของเจ้าของชื่อ ยิ่งเห็นภาพยิ่งรู้สึกโกรธแค้นตัวเอง
ก้องภพยิ่งดื่ม และดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาไหลออกจากดวงตาคมทั้งสองข้าง เขาทำผิดต่อรามินทร์ไปมากมายเหลือเกิน
ในตอนนั้น...."พี่รักมินนะ...มิน....พี่...ขอโทษ"แต่มันจบไปแล้ว...ปลายนิ้วแกร่งที่สั่นระริกไล้เบาๆที่โครงหน้าที่เขาวาดเอาไว้ รอยน้ำตาทุกรอยที่เขาบรรจงวาดลงไปมันบ่งบอกได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างดี
"มิน...... พี่ขอโทษ" เสียงของก้องภพที่ร้องไห้คร่ำครวญกับรูปภาพ ภายในเรือนเล็กที่ไม่มีเสียงใดรบกวน ทำให้ช่วงขาเพรียวของคนที่มาเยือนต้องหยุดนิ่งที่หน้าประตู
++++++++++++++++++
เด็กหนุ่มหน้าสวยได้ยินคำเพ้อรำพันถึงคนรักเก่าของก้องภพอย่างชัดเจน เขาตั้งใจจะแวะมาหาอีกฝ่าย มาทานข้าวเย็นด้วยกันเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่เมื่อเดินเข้าไปหาในบ้านก็ไม่พบ มีเพียงแค่แก้วที่เคยบรรจุวิสกี้วางอยู่กับพื้นครัว สภาพในบ้านเหมือนมีการรื้อค้น ดูรกหูรกตาผิกปรกติวิสัยของก้องภพอยู่ไม่น้อย จิ๊บจึงได้ลองเดินมาที่เรือนหลังเล็ก ....และได้ยินคำพูดที่เหมือนจะเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของเขาเมื่อครู่...
เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาข้างใน ช้าๆ ... ดวงตากลมโตเห็นภาพนั้น
ก้องภพบรรจงวาดภาพนั้น...........เขาดูออกได้ทันที ผู้ที่เป็นแบบ นอกจากรามินทร์แล้วจะมีใครอื่นอีก
... ไม่ใช่เขาแน่ ..
ก้องภพไม่เคยรักเขามากพอจนอยากจะวาดรูปเขาด้วยซ้ำ!ความคิดแบบนั้นทำให้จิ๊บเร่งฝีเท้า มือเรียวดึงรูปออกจากมือของคนรักทันที
" พี่รักเขาแล้วมายุ่งกับจิ๊บทำไม! "เด็กหนุ่มตวาดเสียงดังลั่น แล้วโยนรูปนั้นทิ้งไปอีกทาง
"อ่ะ..จิ๊บ! ทำอะไรน่ะ..." ก้องภพเหมือนจะมองเลยอีกฝ่ายไปยังรูปภาพที่อยู่บนพื้นนั้น ร่างสูงอยู่ในอาการมึนเมา...เขาไม่ได้อยู่กับโลกปัจจุบันด้วยซ้ำไปจนกระทั่งอีกฝ่ายเข้ามาดึงภาพแสนรักแสนเกลียดนั้นออกไปจากมือ พลันศิลปินหนุ่มลุกจากเก้าอี้เดินเซๆ ไปหยิบภาพนั้นขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะเหมือนเดิม
"อย่ายุ่งกับภาพนี้...พี่ขอ" ท่าทางเหมือนไม่ได้สนใจไยดีอะไรเขาเลย ระหว่างตัวเขากับรูปเปลือยของผู้ชายคนนั้น ทำให้เด็กหนุ่มไม่อาจทนไหว มือเรียวกำแน่น จนสั่น ดวงตากลมโตนั้นแดงก่ำไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมา
" นี่คือ..คำตอบของพี่..ใช่ไหม? "เมื่ออีกฝ่ายยังไม่ยอมตอบ มือเรียวทั้งสองข้างก็เอื้อมไปกระชากคอเสื้อเชิ๊ตของก้องภพทันที
" ผมถามว่า นี่คือคำตอบใช่ไหม!? "น้ำเสียงที่มักจะพูดจาล้อเล่น ร่าเริงอยู่เสมอ บัดนี้กลับตะคอกถามด้วยอารฒณ์ที่ไม่อาจสะกดกลั้นได้อีกเสียใจ เจ็บปวด โกรธจนแทบบ้า
"พี่รักมิน....แต่มันจบไปแล้ว!! พี่ทำร้ายเขา และเขาเกลียดพี่...เกลียดพี่มาตลอด พี่แค่อยากจะเริ่มต้นใหม่กับจิ๊บ....." ดวงตาคมที่แดงก่ำนั้นสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง
"แต่พี่คงทำไม่ได้ ถ้าพี่ยังไม่ได้ขอโทษเขา ถ้าเขายังไม่ยกโทษให้พี่ ....พี่คงไม่ได้อยู่กับจิ๊บอย่างสุขใจไปตลอด ถ้าเขายังไม่ยกโทษให้พี่..."
" พี่รักเขา...พี่..รักเขา.. พี่ไม่ได้รักจิ๊บ "ใบหน้าสวยส่ายหน้าไปมา เขาไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว การที่ก้องภพร้องไห้กับรูปวาด พร่ำบอกว่ารักนักหนา นั่นมันชัดเจนแล้วแล้วที่เขาอยู่กับอีกฝ่ายทุกวันนี้
.. ความสุข คำพร่ำรัก นี่มันคืออะไร?..
ช่วงขาเรียวขยับออกห่าง..
"จิ๊บ...ไม่ใช่...ไม่ใช่แบบนั้น " ก้องภพคว้าตัวของอีกฝ่ายเอาไว้ ดึงเข้าหาแผ่นอกของตัวเอง
"มันจบ...จบไปแล้วจิ๊บ ฟังพี่...มันไม่มีทางมีอะไรดีขึ้นมาอีกแล้ว...."
" ปล่อยผม! "ร่างเพรียวดิ้นจากอ้อมกอดอีกฝ่ายสุดแรง มือทั้งสองข้างทั้งต่อยทั้งผลักออกสุดแรง
" ทำไมพี่ต้องทำ..แบบนี้กับผมด้วย? "
ตรงข้ามกับน้ำเสียงที่สั่นด้วยแรงสะอื้น จิ๊บร้องไห้ออกมาอย่างไม่สามารถทนเอาไว้ได้อีกต่อไป
มือทั้งสองข้างทุบกับอกอีกฝ่ายซ้ำๆ
"พี่รักจิ๊บ" ก้องภพเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดึงสติกลับมาหมดแล้ว
"แต่พี่ยังติดหนี้มินเอาไว้มาก...เราเคยเป็นแฟนกัน...รักกันมาก...อย่างน้อยพี่ก็คิดแบบนั้น แค่...เรามีปัญหา แล้วเขาเหมือนจะทิ้งพี่ไป พี่ทนไม่ได้ พึ่หึง พี่ไม่อยากให้เขาไป.......พี่เลยบังคับมินเขา...และวาดรูปนั่นเก็บเอาไว้ และพี่ปล่อยเขาไปวันที่วาดเสร็จ"
"พอแล้ว ผมไม่อยากฟัง!! "
มันเจบปวดเกินไป กับการที่ได้ยินคนที่ตัวเองรัก บอกซ้ำว่ารักหรือเคยรักใครอีกคน
เสียงสะอื้นนั้น นั้นจิ๊บพยายามสะกดมันเอาเอาไว้ เขาพูดออกมาช้าๆ แต่ปลายเสียงก็ยังคงสั่น
" ปล่อยผม..ปล่อยผม "
"ความรักของพี่กับมินจบไปแล้วจิ๊บ..."ก้องภพกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น เขาไม่อยากจะปล่อย
"มันเหลือแต่ความผิด...บาป....ที่พี่ข่มขืนเขา ทำร้ายขา... และพี่เสียใจที่มันเป็นแบบนั้น พี่เสียใจยิ่งกว่าที่วันนี้ต้องมาเล่าให้จิ๊บฟัง พี่ขอโทษจิ๊บ พี่ขอโทษ..." น้ำเสียงของร่างสูงเองก็สั่นเครือ อ้อมกอดแกร่งนั้นสั่นไหว
" ฮึก..ผมไม่อยากฟังแล้ว..พี่ได้ยินไหม ผมไม่อยากฟังแล้ว "
จิ๊บร้องไห้ออกมาอย่างสุดที่จะทนเอาไว้ได้จริงๆแล้ว
" ผมขอล่ะ..ปล่อยผมไป..ขอร้องล่ะ "
หมดแล้วซึ่งเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านอะไรอีก มันเจ็บเหลือเกิน .. เจ็บจนไม่มีแรงจะต่อต้าน และยิ่งไม่มีแรงที่จะเผชิญหน้าอีกฝ่ายได้อีก..
"อย่าไปจากพี่จะได้ไหม....." ก้องภพเอ่ย
"พี่รู้ว่าพี่เลวมากที่จะขอแบบนี้....แต่อย่าไปจากพี่จะได้ไหม....พี่...พี่ไม่รู้ว่าจะทนเก็บเรื่องนี้ให้พ้นจากจิ๊บได้นานกว่านี้อีกไหม...แต่ซักวันพี่ก็อยากจะให้จิ๊บรับรู้...อดีตของพี่ทั้งหมด " ชายหนุ่ทคลายอ้อมแขนลง
"อยากให้ใครซักคน มาช่วยแบ่งเบาความทุกข์นี้ออกไปจากใจของพี่บ้าง"
จิ๊บกัดริมฝีปากจนแดงช้ำ เขาร้องไห้หนักมากเสียจนต้องหอบหายใจ แล้วค่อยๆขยับตัวออกจากอีกฝ่าย
ใบหน้าสวยส่ายหน้าไปมา
" พี่พูดแบบนี้ได้ยังไง...ทำไมไม่คิดถึงใจ..ผม..บ้าง? " มือเรียวจับที่อกตัวเองแน่น
"ผม..เจ็บ..นะ "
เรียวขาทั้งสองข้างถอยออกจากอีกฝ่าย อีกก้าว และอีกก้าว
"เพราะพี่ไม่อยากจะโกหก...ทำหน้าเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แล้วกอดจิ๊บด้วยมือสกปรกนี่อีกแล้ว...." ก้องภพเอ่ยออกมาใบหน้าที่มักจะมีรอยยิ้มน้อยๆอยู่เสมอเบะเบ้น้ำตาไหลออกมาจากสองตา มือแกร่งที่ชูขึ้นนั้นสั่นระริก เหมือนกำลังจะบอกว่าเขาไม่เหลืออะไรอีกต่อไปแล้ว และสุดแล้วที่จะหมดจะทนกับความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงที่ทับถมลงมา
" พี่..เห็นแก่ตัว...พี่ทำผมเจ็บ..ทำไม? " เด็กหนุ่มเบ้หน้าร้องไห้ไม่ต่างจากเด็กเล็กๆ เขาก้าวถอยออกจากอีกฝ่ายมากขึ้น
"จิ๊บ......" ก้องภพยื่นมืออกไป เห็นอีกฝ่ายร้องไห้เขาอยากจะดึงอีกฝ่ายมากอด มาปลอบ มือแกร่งเปลี่ยนมากำแน่น ...แต่มือนี้ก็สกปรกเหลือเกิน
"พีไม่หวังให้จิ๊บเข้าใจพี่หรอกนะ....พี่แค่อยากให้จิ๊บรู้ความจริงนี้ก็พอ"
ใบหน้าสวยส่ายไปมา หน้าขาวๆเต็มไปด้วยน้ำตานองหน้าก่อนจะเดินจากก้องภพไป ไม่สนใจแม้แต่เจ้าเคนพยายามเดินมาพันแข้งพันขาและคนที่อยู่ภายในสตูดิโอวาดภาพคนนั้น
.. ใจทั้งใจของจิ๊บกำลังแตกสลายเกินกว่าที่จะอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไปแล้ว..