Chapter 15
กันต์'s Partเช้าวันจันทร์
ผมเดินเข้าห้องเรียนมา ก็เห็นพวกเพื่อนๆ ทั้ง 3 คนของผมมาถึงกันอยู่ก่อนแล้ว
“ แหมๆ ยิ้มเข้ามาเลยนะมึง พ่อป๊อปปูล่า “ ไอ้แน๊คแซวผมคนแรกเลยครับ
“ แต่กูว่ายิ้มแบบนี้ไม่น่าจะใช่นะ “
ไอ้เรย์มองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ราวกับว่ามันจะอ่านใจผมออกเสียอย่างนั้น
“ แล้วอะไรวะ “ ไอ้เจมส์ถามต่อ
“ ก็... อาจจะอารมณ์ดีเพราะใครบางคนก็ได้มั้ง “
ไอ้เรย์พูดมาแบบมีเลศนัยพร้อมกับมองมาที่ผมยิ้มๆ
“ ใครบางคนพ่องมึงดิ กูก็เป็นของกูแบบนี้อยู่แล้วทุกวัน แสนรู้นะมึงอะ “
ผมพูดขึ้นก่อนจะวางกระเป๋าและนั่งลงข้างๆ มันครับ
“ สาด กูไม่ใช่แมวนะเว้ย “
“ หมา.. ไอ้สัด! “
ผมนี่ก็บ้าจี้ตามมุขห้าบาทสิบบาทของมันนะครับ
“ ว่าแต่.. พี่เขายอมคุยด้วยแล้วเหรอวะ “
มันเอียงคอมากระซิบถามผมข้างหู ผมพยักหน้าเล็กๆ แทนคำตอบ พร้อมกับอดอมยิ้มเล็กๆ ขึ้นมาเสียไม่ได้ครับ
“ มิน่า ยิ้มหน้าบ้านเลยนะมึง “
“ ยิ้มพ่อง! “
ผมเบี่ยงหน้าออกมา ก่อนจะด่ามันครับ
“ เออมึง กูมีเรื่องจะขอร้องให้ช่วยหน่อยว่ะ “
ไอ้เรย์พูดขึ้น ไอ้เจมส์กับไอ้แน๊คที่นั่งอีกข้างของมันก็เอี้ยวตัวมามองผมราวกับรู้ว่ามันคือเรื่องอะไร
“ เรื่องไรวะ “
“ ช่วยกูจีบคนหน่อยดิวะ “
หือ... ร้อยวันพันปีมันไม่เคยจะมาขอผมให้ช่วยเลย มีแต่ตรงดิ่งเข้าไปจีบเอง ถึงมันจะไม่ได้หล่อมาก แต่มันก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไรเลยนะครับ แถมหุ่นยังดีอีก ปกติไม่ต้องให้ผมช่วยมันก็จีบติดได้ไม่ยากครับ
“ ใครวะ แล้วทำไมต้องให้กูช่วยด้วย “
มันอมยิ้มอ้ำอึ่ง ท่าทางจะเป็นเอามากนะมึงเนี่ย เห็นแบบนี้แล้วผมชักอยากรู้แล้วว่ามันไปตกหลุมรักใคร
“ ก็แพรดาวคณะปีนี้ไง “ ไอ้แน๊คตอบมาแทนเจ้าตัวครับ
โหนี่มึงกะเล่นของสูงเลยนะเว้ย...
“ เชี่ย...! เอาซะสูงเลยนะมึง “
“ ก็ไอ้วันงานนั่นแหละ แม่งชมแพรอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ตลอดเลยอะ จนพวกกูเบื่อจะฟังแล้วเนี่ย “
ไอ้เจมส์ผู้มาดขรึมพูดมาบ้าง สงสัยท่าจะจริง ไม่งั้นอย่างไอ้เจมส์คงไม่เหลืออดหรอก
“ แล้วกูจะช่วยมึงได้ยังไงวะ “
“ ก็มึงเข้าประกวดด้วยนี่ มึงก็น่าจะรู้จักเขาบ้าง แค่ไปตีสนิทแล้วแนะนำกูให้เขารู้จักหน่อยแค่นั้น “ ไอ้เรย์มันว่ามาครับ
“ พ่องมึงดิ นี่กูยังไม่เคยคุยกับเขาเลยนะเว้ย จะไปตีสนิทได้ยังไง “
“ น้าๆๆ กูขอร้องละ ถ้าสำเร็จนะ มึงอยากแดกอะไรกูจัดให้ทุกอย่างเลย “
มันยกมือไหว้ขอผมป้อยๆ
“ ก็กูไม่รู้จักเค้า จะให้กูช่วยยังไงวะ “
“ มึงก็ใช้ความเป็นคนเคยประกวดด้วยกันเข้าหาดิ น้าๆๆๆ “
“ เออๆ ไว้มีโอกาสเจอเค้าแล้วกูจะลองดูให้ก็ละกัน “
ผมบอกไปอย่างนั้น มันจะได้เลิกเซ้าซี้ผมสักที ที่สำคัญนอกเวลาเรียนปกติผมก็ไม่ค่อยได้เจอแพรเขาอยู่แล้วครับ
แต่ราวกับฟ้าเห็นเป็นใจ...
เที่ยงนี้ที่โรงอาหารคณะ
ผมถือจานข้าวมันไก่พร้อมน้ำซุปลงมานั่งที่โต๊ะปุ๊บ ไอ้เรย์ที่นั่งข้างๆ ผมก็กระแซะสีข้างผมทันที พลางหลิ่วตาไปยังผู้ที่กำลังเดินเข้ามาใหม่ยังโรงอาหาร และไม่ใช่ใครที่ไหนครับ แพรดาวคณะปีนี้เอง แถมยังเดินคู่มากับเดือนคณะด้วย งานนี้บอกได้เลยครับว่าอย่างเด่น....
“ เชี่ย... มากับไอ้ธันด้วย มึงแดกแห้วแน่ไอ้เรย์ “
ไอ้แน๊คอวยเพื่อนครับ ก่อนจะไปเลิกคิ้วขอเสียงสนับสนุนไปยังไอ้เจมส์ที่เออออตามกันไปเป็นปี่เป็นขลุ่ย
“ จริงเหรอวะ สองคนนี้เป็นแฟนกันเหรอวะ “
ไอ้เรย์หน้าสลดถามเพื่อนในโต๊ะเสียงอ่อยเลยครับ
แต่เท่าที่ดู ผมว่าสองคนนี้ก็ดูสนิทสนมกันจริงๆ นะครับ มีหยอกล้อกันหัวเราะคิกคัก เล่นเอาหนุ่มๆ สาวๆ หลายๆ คนในโรงอาหารตอนนี้มองกันอย่างอิจฉาเลยทีเดียว
“ เศร้าไปมึง... เดี๋ยววันนี้กูไปแดกเหล้าย้อมใจเป็นเพื่อน ชดเชยที่กูไม่ได้ไปกับพวกมึงวันนั้นด้วย “
ผมเอามือตบไหล่มันเบาๆ และก็ดูเหมือนมันจะถอดใจทันที เมื่อต้องสู้กับเดือนคณะหล่อๆ อย่างไอ้ธันแบบนี้
จากนั้นบทสนทนาบนโต๊ะระหว่างผมกับไอ้แน๊คและไอ้เจมส์ก็จะเป็นเรื่องนัดกินเหล้ากันคืนนี้เพื่อปลอบใจไอ้คนข้างๆ ผมที่นั่งหน้าหงอยอยู่ตอนนี้ครับ
คุยกันได้สักแปบจู่ๆ เสียงหนึ่งก็ทักผมขึ้นมา
“ โต๊ะว่างมั้ย ขอเรานั่งด้วยคนได้ป่ะ “
ผมหันไปมองยังที่มาของเสียง.. ชิบหาย...ไอ้ธันครับ แถมมาพร้อมกับแพรด้วย แบบนี้ยิ่งเหมือนเหยียบหัวใจไอ้เรย์เพื่อนผมให้จมดินเลยทีเดียว
ผมหันมองมาไอ้เรย์ที่มันเองก็มองสองคนนี้อย่างตะลึงงันอยู่เหมือนกัน อยากปฏิเสธนะครับ แต่ที่นั่งข้างๆ ผมมันก็ว่างจริงๆ นั่นแหละ
ผมควรจะทำไงดีเนี่ย...
ผมหันมองไอ้ธันกับแพรที่ยิ้มส่งมาให้แล้วก็ลำบากใจ
“ นั่งเลย ที่นั่งยังว่าง “
ผมรีบหันขวับไปมองยังไอ้เรย์ที่เป็นคนเอ่ยปากชวนเสียเอง พลางถามมันด้วยสายตา ซึ่งมันก็ส่ายหน้าเล็กๆ ว่าไม่เป็นไรส่งกลับมาให้แค่นั้น
“ ไม่ประกวดเลยไม่ค่อยได้เจอกันต์เลยเนอะ “
ไอ้หน้าหล่อศัตรูหัวใจเพื่อนผมที่นั่งข้างๆ ยิ้มชวนผมคุยครับ
“ อือ... “
ผมตอบไปแค่นั้นครับ ศัตรูเพื่อนเลยไม่ค่อยสนิทใจที่จะเป็นกันเองสักเท่าไหร่ ชิส์ๆ
“ วันนั้นเรายังไม่ได้เบอร์กันต์เลย นั้นเราขอเลยละกันนะ “
แล้วมันก็ล้วงกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาครับ
“ หา... เห้ย.. จะเอาเบอร์เราจริงอะ “
“ อื้ม.. “
“ ให้มันไปเถอะกันต์ ไอ้ธันมันอยากได้ “
คราวนี้เป็นแพรที่นั่งฝั่งตรงข้ามพูดขึ้นมาครับ แต่นั่นกลับทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ แล้วทำไมไอ้ธันมันต้องมาอยากได้เบอร์ผมด้วย หรือแค่จะส่งรูปให้เนี่ยนะ... แต่ดูจากสีหน้ามันสลับกับสีหน้าแพรที่สนับสนุนเต็มที่แล้ว ผมว่ามันแปลกๆ นะ
แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจให้เบอร์มันไปอยู่ดีครับ แล้วแม่งจะดีใจอะไรกันนักหนาวะ ยิ้มซะหน้าบานเลย ทำเอาสาวๆ หลายๆคนในโรงอาหารมองกันเป็นแถว
“ เออแพร.. เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำ แพรเอาอะไรป่าว “
ไอ้ธันเอ่ยปากถามสาวสวยที่นั่งฝั่งตรงข้ามมันครับ
“ เหมือนเดิม แต่ออกให้ก่อนนะ “
“ ตลอดอะ นี่เราต้องเลี้ยงน้ำแกจนจบมหาลัยเลยใช่มั้ยเนี่ย แฟนก็ไม่ใช่ “
ไอ้ธันทำหน้าอิดออดครับ แต่กลับถูกแพรชี้นิ้วเตือนและบอกไปว่า
“ เดี๋ยวชั้นไม่ช่วยนะ “
เท่านั้นแหละครับ มันก็ยอมบริการให้แต่โดยดี
ว่าแต่.... จากที่ไอ้ธันพูดเมื่อกี้ นั้นก็แปลว่า สองคนนี้ไม่ได้เป็นแฟนกัน แถมจากลักษณะที่เห็นแล้วน่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันมากกว่า
ผมหันไปมองไอ้เรย์ที่ข้างๆ ทันทีครับ
สัด!! ยิ้มร่าเลยนะมึง
“ ฮิ้ว... ข้าวอร่อยแล้วเหรอวะมึงไอ้เรย์ “
ไอ้แน๊คคนแรกเลยครับที่เริ่มแซว ก่อนจะตามมาด้วยไอ้เจมส์ตามลำดับ ส่วนผมยังคงงงๆ แถมรู้สึกเหมือนตัวเองงานจะเข้าแล้วด้วย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็ต้องทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ไอ้เรย์มันสิครับแบบนี้...
กินข้าวไปได้สักพัก สายตาผมก็ไปสะดุดกับเสื้อช๊อปสีกรมท่าที่เปล่งออร่ามาแต่ไกล ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ แก๊งจตุรเทพเองครับ แต่มากันไม่ครบนะครับ ขาดก็แต่.. ไอ้พี่กิจ..
แต่จะว่าไป ผมก็ไม่เคยเห็นพี่กิจกับพวกพี่ว๊ากมากินข้าวที่โรงอาหารกันเลยนะครับ ไม่รู้ไปกินที่ไหนกัน
พวกพี่เขาเดินเข้ามาราวกับนายแบบเสียอย่างนั้น ซึ่งผมเห็นหลายๆ สายตากำลังแอบมองดูพวกพี่เขาอยู่ โดยเฉพาะพวกสาวๆ ปี 1 และไม่ทันที่ผมจะได้ก้มหน้าสนใจอาหารตรงหน้าต่อ ก็ดันไปสบสายตาเข้ากับพี่พีพอดี จนพี่เขายิ้มทักมาให้ แถมยังเดินตรงเข้ามาหาอีก ซึ่งไม่ได้มาแค่พี่พีหรอกนะครับ เดินมากันครบแก๊งเลย...
งานนี้โต๊ะผมออร่าจับจนสว่างจ้าไปทั้งโรงอาหารแน่ๆ ทั้งเดือน ทั้งดาว ทั้งเทพ มากันให้รึ้ม....
“ ไง.. วันนั้นรีบกลับจัง พี่ว่าจะเลี้ยงปลอบใจเราสักหน่อย “
พี่พีพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ ก่อนที่พวกผมทั้งโต๊ะจะยกมือไหว้พวกพี่ๆ เขาครับ
“ ไม่เป็นไรพี่ ผมออกจะดีใจด้วยซ้ำที่ไม่ได้เป็นเดือนอะ “
“ เห้อ... เรานี่นะ... นั้นเอาเป็นว่าอาทิตย์นี้ว่างวันไหนเดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยง “ พี่พีพูดต่อครับ
“ เอ่อ.. จริงๆ ก็ว่างทุกวันนะพี่ หลังเชียร์อะครับ “
“ เออดี นั้นเอาเบอร์เรามาหน่อย เดี๋ยวพี่จะได้โทรนัด “
ทำไมวันนี้เบอร์ผมขายดีจังวะเนี่ย... คนโน้นก็จะเอา คนนี้ก็จะเอา
ผมบอกเบอร์พี่เขาไปเสร็จ พี่คิมก็พูดต่อขึ้นมาทันทีครับ
“ เป็นไงเรา หนังสนุกมั้ย “
เอ่อ... จะตอบยังไงดีหว่า... คือผมดูไม่จบครับ หลับไปเพราะเพลียตั้งแต่กลางเรื่องแล้วอะ แถมยังทำหน้าอายไปพิงไหล่พี่กิจอีก
อย่าต้องให้พูดเลยว่าตอนตื่นมาแล้วเห็นเครดิตหนังขึ้น ขณะที่หัวผมยังพิงไหล่พี่เขาอยู่นั้น มันน่าอายแค่ไหน ไอ้พี่กิจก็ตัวดี ปลุกน้องสักนิดก็ไม่มี....
“ ก็ดีพี่.. “
“ อ้าว... มึงไปดูหนังกับน้องมาเหรอ “ พี่พีทำหน้างงๆ หันมาถามเพื่อน
“ กูป่าว... ไอ้กิจมันโน่น “
“ ไอ้กิจเนี่ยนะ ! “
พี่พีเน้นเสียงถามราวกับเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ
แต่ไอ้คนข้างๆ ผม มันใช้ศอกกระทุ้งสีข้างผมเบาๆ พอผมหันไปมอง แม่งเสือกอมยิ้มส่งมาให้พร้อมกับทำตาแสนรู้ด้วยนะครับ ผมเลยเอาเท้าผมที่อยู่โต๊ะ ตื้บมันไปทีนึง
“ ก็เออดิ ก็มันพาน้องเค้าไปเลี้ยงที่ได้ตำแหน่งไง คือน้องเค้าเป็นโคสายรหัสเดียวกับมัน “
พี่คิมบอกไป พี่พีเลยพยักหน้าเข้าใจเล็กๆ ครับ
“ นั้นพวกพี่ไปก่อนนะ ไว้จะโทรหา “
พี่พีพูดจบ พวกพี่ๆ แก๊งจตุรเทพเทพก็พากันเดินจากไป
“ อะไรวะไอ้กันต์.. กูเป็นน้องรหัส เป็นลูกเมียหลวงแท้ๆ พี่เขายังไม่เคยพากูไปเลี้ยงเลย มึงอะแค่โคสาย ลูกเมียน้อยชัดๆ ไมดูแลดีจังวะ “ ไอ้เจมส์มันแขวะผมมาครับ
แต่ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกดีแฮะ... รู้สึกเหมือนตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นเลย
“ เรื่องแบบนี้มึงต้องดูหนังหน้าด้วย “
ถูกต้องมากไอ้เรย์เพื่อนเลิฟ
“ หน้าหล่อๆ ตี๋ๆ แบบมึงอะ พี่เขาไม่สนหรอก มันต้องน่ารักๆ แบบไอ้กันต์นี้ ทั้งหญิงทั้งชายมองกันให้เพียบ “
“ ผัวะ!!! “
ผมตบท้ายทอยไอ้เรย์มันไปทันทีเลยครับ อุตส่าห์ชมไปเมื่อกี้แท้ๆ
“ น่ารักพ่อง “
“ แต่กันต์ก็น่ารักจริงๆ นะ “
ผมหันขวับไปยังคนอีกข้างผมทันที ก่อนจะเห็นไอ้ธันมันยิ้มว่ามาครับ
แม่ง... ตกลงนี่ผมมันไม่หล่อใช่มั้ยเนี่ย!!!!
……………………………….
สรุปว่าไอ้เรย์มันยังไฟท์ต่อครับ แถมยังเซ้าซี้ให้ผมช่วยมันเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือ...
มันยังมั่วบอกมาอีกว่า... ทั้งพี่พีและก็ไอ้ธันต่างก็มาชอบผม....
เออ... แม่งเห็นใครมาคุยกับผมด้วยหน่อย เดี๋ยวนี้มันก็เหมาบอกว่าเขามาชอบผมกันหมดแล้วครับ...
แม่งประสาท....
......................................................