▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย - SP6: จากเพื่อนสู่รัก [5.2.2017] ░ ▒ ▓  (อ่าน 196869 ครั้ง)

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โลกนี้ชะนีอยู่ยาก ส่วนนึงเลยผันตัวไปเป็นนางร้ายในเรื่องแทน (ออกทะเล~)


หวังอย่างเดียวว่าสนจะไม่ทำให้ต้นผิดหวังอีก

TvT

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
สู้ๆแล้วกันครับ ผมว่าคนอ่านหลายคนเมื่อได้อ่านคำชี้แจงแล้วคงเข้าใจผู้เขียนเยอะขึ้นครับ ยังไงก็ต้องนักษาสัญญาจะเขียนนิยายเรื่องนี้ให้น่าจดจำและเป็นความทรงจำที่ดีของผู้อ่านนะครับคนแต่ง

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
นิยายดราม่า ชอบเก็บไว้อ่านหลายๆตอนค่ะ ยิ่งดราม่ามากยิ่งอยากให้จบก่อนแล้วค่อยอ่าน มันค้างคา
นินาก็แค่หวง ลุ่มหลง ไม่ใช่รักดอกอินางเอ๊ย

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
รออ่านนะคะ ^^ ไม่ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปในทิศทางไหนก็ตามแต่.. คนอ่านอย่างเรายินดีน้อมรับเสมอค่าา~ :-[ อย่างมากที่สุด ถ้าทั้งสองคนไม่ได้ลงเอยกันจริงๆ เราก็แค่นอนจมน้ำตาเท่านั้นเอง.. :sad2:

เป็นกำลังใจให้นะค้าา :L2:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
ตามบายเลยจ้ะ เราเคารพความคิดของผู้เขียนอยู่แล้วจ้า  :mew1:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
อ่านคำชี้แจงของผู้แต่งแล้ว ขอเป็นกำลังใจช่วยอีกแรงคับ
         เขียนสบายๆเถอะคับผู้แต่ง ยิ่งละเอียดยิ่งดีคับ ผมชอบอ่านการบรรยายฉากแสดงอารมณ์ของตัวละคร มันไม่เห็นภาพหน้าตาเหมือนละครทีวีแต่ก็สื่ออารมณ์ใจได้ดีกว่าละครโทรทัศน์ได้เยอะกว่า แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับผู้แต่งหน่อยนะคับที่ต้องใช้ตัวหนังสือเขียนบรรยายภาพเหตุการณ์แต่ละฉากให้ตรงใจผู้แต่งให้ได้มากที่สุดเพื่อให้คนอ่านได้สัมผัสถึงความรู้สึกของตัวละครจริงๆ แต่ผู้แต่งก็เขียนดีแล้วคับคนอ่านส่วนหนึ่งยังรู้สึกถึงความเศร้าใจของ ต้น สน ยังอินกับบทบาทของนินาเลย หล่อนทำแรงไปจนคนอ่านอยากจะถีบ อยากจะตบหล่อน ๕๕๕  นิยายของผุ้แต่งเริ่มต้นมาดี ท่ามกลาง ระหว่าง และตอนจบเป็นยังไงผมไม่รู้ อ่านสนุกแล้วก็ลุ้น รอเหตุการณ์ที่จะเป็นจุดหักเหอีกครั้งของเรื่องที่จะนำไปสู่ตอนจบอย่างแท้จริง
        รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2015 12:38:45 โดย GuoJeng »

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
จะมาแนวไหนก็อ่านแน่นอนครับ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เราคงเป็นเจนเนอเรชั่นเก่าที่คุ้นกับการรอกระมัง เลยไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการเดินเรื่อง  เนื้อเรื่องไม่ได้รู้สึกว่ามันยืดคือก็ดำเนินไปตามเนื้อเรื่องของมัน   เหมือนที่คนเขียนบอกไว้ว่าเขียนเพื่อให้คนอ่านได้รู้สึกกับคำว่าความรักและความผูกพันธ์ของคนทั้งคู่   อ่านไปก็รู้สึกว่าคนเขียนพยายามมากกับทุกคำที่บรรยายออกมาโดยไม่ต้องเดา

บุคลิกของต้นและสนยังไม่มีที่ให้ความรู้สึกว่า *หลุด* เลยค่ะ  ต่อให้ตอนจบคู่นี้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันหรืออย่างไรเราไม่มายด์เรื่องนี้ตราบใดที่ตลอดเวลาเนื้อเรื่องมีการซัพพอร์ทเหตุและผล   ที่เรารับไม่ได้ส่วนใหญ่จะเป็นว่ามีการหลุดบุคลิก หลุดนิสัย การกลับลำเปลี่ยนแปลงพล็อตกลางคันโดยที่มีจุดที่อ่านเจอจนรู้สึกได้หรือเปลี่ยนเพื่อการหักมุม ซึ่งทั้งหมดนี้เรายังไม่เจอไม่รู้สึกเพราะว่าคุณคนเขียนใส่ใจกับการเขียน

เคยอ่านบางที่ว่านิยายดีๆนั้นตัวละครและเนื้อเรื่องจะดำเนินไปตามครรลองของมันเองในสมองของคนสร้าง เหลือแต่ว่าคนเขียนจะถ่ายทอดออกมาโดยวิธีไหนเท่านั้นเอง  เอาใจช่วยนะคะ  นิยายดีๆไม่จำเป็นต้องมี NC ก็ได้ค่ะ  บอกตรงๆว่าไม่ได้ตามอ่านเพื่อฉากอย่างว่าในเรื่องนี้

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
มาเป็นกำลังใจให้นะครับ จะมีกี่ตอนอะไรยังไง ผมก็ติดตามจนจบแน่นอน
ส่วนตัวแล้ว โอเคมากๆ กับการดำเนินเรื่อง ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ อ่านแล้วไม่รู้สึกขัดอะไร

ผมชอบเรื่องนี้มาก อาจจะเพราะผมไม่เคยอ่านเวอร์ชั่นก่อนๆ เพิ่งมาเรื่องนี้ครั้งแรก
มันเลยดูสดใหม่สำหรับผม น่าติดตามทั้งเนื้อเรื่องและในแง่ความสัมพันธ์ของตัวละครว่าจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ปล. รอตอนต่อไป 555+



ออฟไลน์ Moral

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ความรักแบบนี้แหละครับ รักแบบผูกพันลึกซึ้งยาวนานที่หามานานแล้วในนิยายทุกเรื่องไม่เคยเห็นเลย ทำให้ผมรู้สึกชอบนิยายเรื่องนี้มาก จะกี่ตอนผมก็ยินดีอ่านครับ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
CHAPTER 28-1: คนเป็นแม่
CHAPTER 28-2: ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 28-1: คนเป็นแม่


"ฉันว่าแกน่าจะหาผู้ชายใหม่ได้แล้วนะนินา ฉันเห็นแกหมั้นกับพี่สนมาปีกว่าแล้วไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้าไปถึงไหนเลย มีอะไรหรือเปล่าวะ"

นินาถอนหายใจพร้อมกับทำหน้าเศร้า "ก็คิดอยู่เหมือนกันแหละแก แต่ผู้ชายสมัยนี้ก็หาดียากว่ะ มีแต่ผู้ชายง้องๆ แง้งๆ ฉันไม่ชอบ เผลอๆ จะมาเอาเปรียบฉันอีก ถ้าเลือกได้ฉันก็อยากได้คนขยันๆ อย่างพี่สนนี่แหละ"

"ถ้างั้นแกก็หาที่มันหล่อๆ รวยๆ เอาพวกที่มันมีธุรกิจเป็นของตัวเองสิ"

"แหมแก พูดยังกะมันหาง่ายขนาดนั้น เอาง่ายๆ ในห้องเรามีสักคนไหม ไอ้คนที่มันมีธุรกิจก็เป็นของพ่อของแม่มันทั้งนั้นแหละ ลูกมันก็แค่มาเรียน ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เห็นดีแต่ขับรถจีบสาวไปวันๆ ไม่เอาหรอก ไม่ชอบแบบนี้ จริงๆ ก็มีมาจีบฉันหลายคนแล้วล่ะ แต่ฉันไม่เอาเองแหละ" ถ้าเห็นสีหน้าของนินาแล้วก็คงจะรู้ได้ว่าเธอไม่ชอบอย่างที่พูดจริงๆ

"เออ งั้นก็เรื่องของแกละกัน หายากก็ไม่ต้องหา ก็คงจะเหลือแต่พี่สนของแกนั่นแหละ แต่ฉันพูดตามตรงนะเว้ย ฉันไม่เห็นว่าพี่เขาจะสนใจแกเลยว่ะ แสดงว่าไอ้ที่ทำๆ ไปก็ไม่ได้ผลล่ะสิ"

นินาถอนหายใจอีกครั้ง นั่งเงียบและครุ่นคิด "บางทีฉันก็อยากยอมแพ้ว่ะอีบิว แต่แกคิดดูดิ หมั้นกับเขาแล้วนะเว้ย ถ้าเกิดถอนหมั้นกันขึ้นมาฉันก็เสียหน้าแย่เลย พวกเพื่อนๆ มันคงสมน้ำหน้ากันใหญ่ คนแถวบ้านฉันอีกล่ะ ยิ่งพ่อแม่นี่ไม่ต้องพูดถึง คงด่าฉันหูชาไปสามเดือน ไหนจะต้องคืนเงินสินสอดทองหมั้นอีก พ่อกับแม่ก็เอาเงินไปหมุนใช้หมดแล้วด้วย"

"งั้นแกก็ทำให้พี่เขาถอนหมั้นแกดิ จะไปยากอะไร แกจะได้ไม่ต้องคืนเงินหมั้นไง"

นินาถอนหายใจ "อันนี้แหละที่ฉันแปลกใจ พี่สนเขาบอกว่าไม่ได้รักฉัน ก็ไม่เห็นว่าจะถอนหมั้นซะที เห็นแต่ขู่ไปขู่มาอยู่นั่นแหละ"

"มีอย่างงี้ด้วยเหรอวะ แปลกดีว่ะ ว่าแต่แกอยากให้พี่เขาถอนหมั้นแกจริงๆ เหรอ" บิวหรือบิวตี้เอียงคอสงสัย

"ก็ไม่หรอก ยกเว้นว่ามันสุดๆ จริงๆ นั่นแหละ แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันก็อยากลองอีกสักตั้งว่ะ ผู้ชายอย่างพี่สนหายาก แล้วเขาก็กำลังจะมีธุรกิจร้านอาหารด้วย ฉันอยากทำน่ะแก อยากทำมากเลย เงินก็ไม่ต้องลงทุนสักบาท"

"ถ้างั้นแกก็ไม่เห็นต้องทำอะไรนี่ พี่เขาก็ยังไม่ถอนหมั้นแกซะหน่อย ก็แสดงว่าเขาจะแต่งงานกับแกนั่นแหละ เดี๋ยวแกก็จะได้เป็นเมียเจ้าของร้านอาหารเอง"

"ก็เขาไม่รักฉันน่ะสิ" นินาทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ "พูดเรื่องนี้แล้วก็เครียดว่ะแก ตั้งแต่ที่ฉันเอายานั่นให้พี่สนกิน พี่สนก็ไม่เคยมีอะไรกับฉันอีกเลย อ่อยก็แล้ว ให้ท่าก็แล้ว แต่พี่สนก็คอยอยู่ห่างๆ ฉันตลอดเวลาเลย"

"หา! มีด้วยเหรอวะผู้ชายแบบนี้ ไม่เคยเห็น ลองเป็นผู้ชายคนอื่นดิ ขนาดไม่อ่อยมันยังเอาจนได้เลย ฉันว่าแกต้องระวังพี่เขาจะเป็นเกย์นะแก ผิดวิสัยผู้ชายว่ะแบบนี้ ฉันจำได้ว่าเคยบอกแกเรื่องนี้ไปแล้วนะ"

"อีนี่ปากเสีย" นินาหันไปว่าเพื่อนพร้อมกับมอบค้อนให้หนึ่งทุบ "ถ้าพี่สนเป็นเกย์ก็ไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกนี้แมนแล้วล่ะ ฉันก็ไม่เห็นว่าพี่เขาจะชอบผู้ชายคนไหนเลยซักกะคน" นินาสะบัดเสียง

"ก็ไม่แน่นะ ผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจได้ที่ไหน กินกันเองเยอะแยะไป เขาอาจจะมีคนที่แอบชอบอยู่แต่เขาไม่บอกแกก็ได้ ใครจะไปรู้"

พูดถึงตรงนี้ นินาก็นึกถึงที่สนเคยบอกเธอว่าสนมีคนที่รักอยู่แล้ว แต่นินาก็ไม่เคยรู้เลยว่าคนที่สนรักคือใคร สนแค่พูดหลอกเล่นหรือเปล่า นินาชักอยากจะรู้แล้วสิว่าคนๆ นั้นเป็นใคร

"พอแล้วๆ แกอย่าพูดให้ฉันเขวเลย กลับมาที่เรื่องแผนใหม่ของฉันก่อนดีกว่า"

บิวตี้ได้ยินก็ตาโตด้วยความตื่นเต้น "แกจะทำอะไรเหรอ หรือว่าแกจะหลอกให้พี่เขากินยานั่นอีก"

นินาขึงตาใส่เพื่อน "แกนี่ ระวังหน่อยสิวะเดี๋ยวคนมาได้ยิน"

บิวตี้หัวเราะแหะๆ "ขอโทษที ตื่นเต้นไปหน่อย"

นินามองซ้ายขวา พอมั่นใจว่าไม่มีใครเดินผ่านมาแถวๆ ที่เธอนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ก็พูดต่อ

"ฉันก็ไม่แน่ใจว่าต้องใช้ยานั่นอีกหรือเปล่านะ แต่มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะพยายาม แล้วถ้าครั้งนี้ไม่ได้ผล ฉันก็จะเลิกแล้ว หาคนใหม่ดีกว่า"

"แสดงว่าแผนนี้ต้องเด็ดเลยใช่ไหมแก"

นินายิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "แน่นอน คราวนี้ฉันยอมทุ่มสุดตัวว่ะแก"

"ตื่นเต้นว่ะ อยากรู้ แกบอกฉันได้ไหมว่าแกจะทำอะไร" บิวตี้ทำท่าทางกระดี๊กระด๊า

นินาโน้มตัวไปกระซิบกระซาบแผนใหม่ให้เพื่อนฟังเพราะไม่อยากให้ใครบังเอิญผ่านมาได้ยิน คนฟังฟังจบแล้วกลับมีสีหน้าตกใจและกังวลเสียมากกว่า

"เฮ้ย แกคิดดีแล้วเหรอวะ เกิดมันไม่เป็นอย่างที่แกคิด แกเสียคนเลยนะเว้ย"

"ฉันถึงบอกไงว่าฉันยอมทุ่มสุดตัว เป็นไงก็เป็นกัน คนอย่างนินาน่ะ ไม่ยอมเสียหน้าใครง่ายๆ หรอก ไปเหอะ ไปเรียนกันดีกว่า อ้อ แกอย่าไปเล่าให้ใครฟังละกันนะอีบิว" นินาหันมากำชับเพื่อนรักก่อนจะพากันลุกเดินออกไป

"เออๆ ก็ไม่บอกใครหรอก เรื่องแบบนี้บอกใครได้ที่ไหนล่ะ เดี๋ยวฉันก็ซวยไปด้วย"

น่าเสียดายที่นินามีข้อดีหลายอย่างในตัว แต่เธอกลับใช้วิธีที่ผิดเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เธอต้องการ สาเหตุหนึ่งที่สนไม่ไปขายเสื้อผ้ากับเธออีกเลยก็เป็นเพราะว่านินาชอบสอนเทคนิคโกงลูกค้าให้สนอยู่บ่อยๆ ทำให้สนอึดอัดใจอย่างมาก พอสบโอกาสที่เกิดเรื่องคราวนั้น สนจึงตัดสินใจไม่ไปอีกเลย

จะว่าไปก็จะโทษนินาฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เธอเกิดและโตมาในครอบครัวที่สอนให้ทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ทำยังไงก็ได้ให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการโดยไม่สนใจวิธีการ เธอเรียนรู้สิ่งเหล่านี้จากพ่อแม่ของเธอมาตลอด ก็คงยากที่จะเปลี่ยนแล้วล่ะ


สนเดินทางกลับบ้านด้วยเครื่องบินในเย็นวันศุกร์วันหนึ่งเพื่อไปจัดการธุระเรื่องร้านอาหารที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างและดาวน์รถยนต์ไว้สำหรับใช้ตอนที่สนกลับมาอยู่ที่บ้าน บังเอิญต้นติดธุระงานเลี้ยงอำลาของชมรมพอดีจึงไม่ได้มาด้วย ได้แต่บนอุบด้วยความเสียดาย

การลงทุนคราวนี้ สนและพ่อกับแม่ตั้งใจจะให้เป็นธุรกิจของครอบครัว อีกทั้งยังจะช่วยสร้างหลักปักฐานให้กับอนาคตของสนต่อไปด้วย สนจึงต้องตั้งใจกับการลงทุนครั้งนี้ให้มากๆ เพราะนี่เป็นเงินของพ่อกับแม่ที่เก็บมาทั้งชีวิตเพื่อสนคนเดียว แม้สนจะมีเงินเก็บของตัวเองบ้างแต่ก็ไม่มากมายนัก แค่พอเอามาช่วยทำร้านและผ่อนรถได้บ้างบางส่วน แต่เงินลงทุนหลักๆ ก็เป็นของพ่อกับแม่นั่นเอง

สนถือโอกาสนี้นัดคุยกับแม่ของต้นด้วย สนขอให้แม่ของต้นเลือกวันและเวลาที่พ่อของต้นกับติวไม่อยู่บ้านเพื่อจะคุยกันได้สะดวก ความจริงพ่อของต้นกับติวไม่มีธุระจะไปไหนเลยทั้งเสาร์และอาทิตย์ แม่ของต้นจึงต้องวางแผนไหว้วานให้พ่อของต้นกับติวไปไปส่งขนมและของกินไปให้ต้นและเพื่อนๆ ที่เชียงใหม่  ตอนแรกติวบอกว่าให้ฝากสนไป แต่แม่ของต้นก็ให้เหตุผลว่ามีของหลายอย่าง สนคงเอาขึ้นเครื่องไม่ไหว พ่อของต้นกับติวจึงต้องไปส่งพัสดุไปรษณีย์อย่างงงๆ ก็ยังดีที่ยอมไป สนจึงต้องรีบใช้โอกาสทองนี้โดยไม่ลังเล

สนถือของที่ตั้งใจซื้อมาฝากครอบครัวของต้นหลายอย่างมาฝากที่บ้านต้นด้วย ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน สนไม่เคยลืมซื้อของติดไม้ติดมือมาด้วยเสมอ กลับมาคราวนี้ บ้านของต้นดูเก่าลงไปพอสมควร ได้ยินมาว่าพ่อของต้นจะเอาเงินที่ขายที่ดินได้มาปรับปรุงใหม่อยู่เหมือนกัน

หลังจากที่สนได้ทักทายและมอบของฝากให้แม่ของต้นแล้ว การสนทนาครั้งสำคัญของสนกับแม่ของต้นก็เริ่มขึ้น สนบอกต้นไว้แล้วว่าจะลองคุยเรื่องนี้กับแม่ของต้นดู เผื่อว่าแม่ของต้นจะยอมรับฟังและเข้าใจบ้าง

"เราอาจจะต้องรีบคุยกันหน่อยนะสน สักชั่วโมงนึงพอได้ไหมลูก เดี๋ยวพ่อแอ๊ดกับเจ้าติวจะกลับมาแล้ว"

สนพยักหน้าและยิ้มให้กับแม่ของต้น รู้สึกประหม่าและตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกัน

"อ้อ ก่อนจะคุยธุระของสน แม่ถามสนเรื่องคู่หมั้นหน่อยได้ไหมลูก แม่พลอยบอกแล้วล่ะแต่แม่ก็ลืมทุกที เขาชื่อนินาใช่ไหมลูก แม่ไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย คอยดูในเฟสของสนก็ไม่เคยเห็นอัปรูปคู่หมั้นให้ดู"

สนทำหน้าแหย พูดถึงนินาทีไรก็ผะอืดผะอมทุกที สนก็ไม่ได้รู้สึกดีหรอกที่ต้องรู้สึกกับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นแบบนี้

"เขาชื่อนินาครับแม่เยา แต่...พอดีผมไม่มีรูปเขาในมือถือน่ะครับ ก็เลยไม่มีให้แม่เยาดู"

แม่ของต้นขมวดคิ้วอย่างสงสัย "จริงเหรอสน นี่สนไม่มีแม้กระทั่งรูปของแฟนตัวเองในมือถือเลยเหรอ แปลกจัง น่าเสียดาย แม่อยากเห็นหน้าเขาจังเลย อยากรู้ว่าสวยเหมาะสมกับสนไหม"

ก็คงไม่ผิดที่แม่ของต้นจะคิดว่ามันแปลก เพราะมันก็แปลกจริงๆ นั่นแหละ "ก็...สวยมั้งครับ" สนแบ่งรับแบ่งสู้

"ยังไงกันลูก แม่ว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ เลย เห็นหมั้นกันมาเป็นปีๆ แล้วแม่ก็ไม่ค่อยเห็นสนพูดถึงคู่หมั้นเท่าไหร่ ตกลงสนรักน้องเขาหรือเปล่าลูก"

สนทำหน้าเหรอหราด้วยความตกใจ เขาไม่ได้ตั้งใจมาคุยกับแม่ของต้นเรื่องนี้เลย ไม่ได้อยู่ในความคิดด้วยซ้ำ

"เอ่อ..."

"บอกแม่มาตามตรงได้หรือเปล่าล่ะสน สนไม่ได้รักน้องเขาเหรอลูก ถ้าให้แม่เดา...แม่คิดว่าสนไม่ได้รักเขาหรอก สนน่ะเป็นคนที่รักใครแล้วก็ไม่เคยคิดจะปิดบังหรอกแม่รู้ นี่รูปในมือถือก็ไม่มี ในเฟสก็ไม่เคยอัปรูปแฟนตัวเองลง เห็นมีแต่ถ่ายรูปกับต้น มันผิดวิสัยของคนรักกันน่ะลูก"

ถ้าแม่ของต้นเดาได้ถูกขนาดนี้ สนก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัวแล้วล่ะ

"ก็...อย่างที่แม่เยาพูดนั่นแหละครับ ผม...ไม่ได้รักนินา ผมแค่...รับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำพลาดไป ผมเคยพยายามรักเขา แต่ผมก็รักเขาไม่ได้ครับแม่เยา"

"แล้วสนรักใครล่ะลูก แม่ว่า...หล่อๆ อย่างสนน่าจะมีคนมาชอบเยอะนะ ถ้าสนไม่รักน้องเขา สนก็น่าจะมีคนที่สนรักอยู่แล้ว ใช่ไหมลูก"

ไม่รู้ว่าสนแสดงสีหน้าตกใจออกไปหรือเปล่า แต่แม่ของต้นก็มองสนอย่างสงสัย สนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ความคิดในหัวตีกันไปหมดว่ามันถึงเวลาแล้วหรือยังที่สนจะบอกความจริงกับแม่ของต้น วันนี้สนตั้งใจมาพูดกับแม่ของต้นเรื่องที่ต้นเป็นเกย์ สนอยากให้แม่ของต้นเข้าใจลูกชายของตัวเองเท่านั้นเอง ไม่ได้วางแผนคิดเผื่อเรื่องนี้ไว้เลย แต่เมื่อแม่ของต้นเปิดทางมาอย่างนี้ มันก็น่าสนใจไม่น้อย

"เอ่อ..."

"บอกมาตรงๆ เถอะสน สนไม่ไว้ใจแม่เหรอ แม่เห็นสนกับต้นมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูก สนเองก็ไม่ต่างจากลูกชายอีกคนหนึ่งของครอบครัวเรานะลูก มีอะไรก็บอกแม่ได้ เผื่อแม่กับพ่อแอ๊ดจะพอช่วยคุยกับพ่อแต้วแม่พลอยให้ได้"

สนครุ่นคิดและชั่งใจอยู่สักพัก บางทีมันก็อาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้ที่แม่ของต้นควรจะรู้มากกว่าเรื่องที่ต้นเป็นเกย์ หลังจากที่ต้นบอกแม่เรื่องนั้นไปแล้ว หลังๆ แม่ของต้นก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ราวกับว่าต้นไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟังเลย พอพ่อของต้นถามเรื่องที่ต้นไม่มีแฟน แม่ของต้นก็ได้แต่บอกไปว่าให้ต้นตั้งใจเรียนหนังสือไปก่อน จบแล้วค่อยหาแฟนก็ยังทัน ทำให้หลังๆ พ่อของต้นเลิกถามเรื่องนี้ไป แต่ก็นั่นแหละ พอเวลาผ่านไปอีกหน่อย พ่อของต้นก็คงต้องกลับมาถามอีกจนได้

"ครับแม่เยา ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วครับ"

"ว่าแล้วไหมล่ะ แม่ก็สงสัยอยู่ เคยคุยกับแม่พลอยเหมือนกัน แต่แม่พลอยเขาบอกว่าสนไม่ได้รักใคร อ้อ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครล่ะลูก เรียนที่เดียวกันหรือเปล่า มีรูปมาให้แม่ดูไหม แม่อยากเห็น"

การพูดโกหกก็ว่ายากแล้ว แต่การพูดความจริงในบางเรื่องกลับยากยิ่งกว่า สนมองหน้าแม่ของต้นแล้วก็นึกหวั่นใจ แต่ไหนๆ สนก็กล้าเปิดเรื่องและมาคุยกัยแม่ของต้นด้วยตัวเองถึงที่แล้ว สนก็จะลองหยั่งเชิงดู ถ้าเห็นว่าจะไม่เป็นผลดีค่อยหยุดก็ยังทัน

"คนที่ผมรัก...ไม่ใช่ผู้หญิงครับแม่เยา"

แม่ของต้นทำหน้าเหรอหรา แล้วก็หัวเราะอย่างเห็นเป็นเรื่องขำ "อะไรกันสน นี่สนอำอะไรแม่เล่นหรือเปล่าลูก ถ้าแฟนสนไม่ใช่ผู้หญิงแล้วแฟนสนจะเป็นอะไรล่ะลูก อย่าบอกแม่นะว่าแฟนสนเป็นผู้ชาย แม่ไม่เชื่อหรอก สมัยเรียนที่นี่ ใครๆ ก็รู้ว่าสนน่ะจีบสาวเยอะแยะไปหมดเลย มีแฟนสาวๆ สวยๆ ตั้งหลายคน"

นั่นยิ่งทำให้สนหวาดหวั่นเข้าไปใหญ่ แสดงให้เห็นว่าแม่ของต้นก็ยังมองเรื่องความรักของชายกับชายเป็นเรื่องผิดปกติที่ยอมรับไม่ได้เหมือนเดิม

"แฟนผม...เป็นผู้ชายจริงๆ ครับแม่เยา" สนทำสีหน้าจริงจังกึ่งๆ อ้อนวอน

แม่ของต้นหยุดหัวเราะ สีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนจากยิ้มเป็นเคร่งขรึมและดูเครียดในที่สุด ถ้าสนย้ำชัดเจนแบบนี้ สนก็ไม่นาจะล้อเธอเล่นแล้วล่ะ

"จริงเหรอสน"

"จริงครับแม่เยา สนหลงรักผู้ชายคนหนึ่งอยู่ครับแม่เยา"

"สน...สนอย่าบอกแม่นะว่า...สนกับต้น...ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ไม่ได้นะสน พวกเราสองครอบครัวจะทำยังไงล่ะลูก มีลูกชาย...ก็เป็นแบบนี้กันหมดเลย จะให้พ่อกับแม่ทำใจยังไงล่ะลูก ไหนจะคนแถวนี้อีก เขาจะมองเรายังไง"

แม่ของต้นทำท่าจะร้องไห้ สนก็ชักใจคอไม่ค่อยดีเสียแล้ว แต่สนก็อยากลองพูดอีกสักหน่อย

"แม่เยา...ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอย่างนั้นหรือเปล่านะครับ แต่ผม...ผมรักผู้ชายคนนั้นจริงๆ ครับแม่เยา ผมรักเขามาก เราสองคน...รักแล้วก็ดูแลกันมาตลอด ผมถึงไม่มีความสุขเลยที่จะต้องแต่งงาน ผมถึงไม่เคยมีรูปของคู่หมั้นเก็บไว้ ไม่เคยอัปรูปของผมกับเขาขึ้นที่ไหน ไม่เคยมีเขาอยู่ในความคิดเลยครับแม่เยา"

"สน...นี่สนกำลังจะบอกแม่ว่า...สนกับต้น..."

คำพูดที่ว่า "รักแล้วก็ดูแลกันมาตลอด" ทำให้แม่ของต้นสงสัยว่าสนกำลังหมายถึงต้น เพราะเธอก็เห็นแค่สนกับต้นเท่านั้นที่รักและดูแลกันมาตลอดในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นกับสนได้มาเจอกันสมัยต้นเรียนชั้นปอห้า

สนสูดหายใจยาว รวบรวมพลังใจและความกล้าทั้งหมดเท่าที่มีอยู่อีกครั้ง ผู้หญิงตรงหน้าคือผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่สนให้ความเคารพรักพอๆ กับแม่ของเขาเอง แม่เยาช่วยเลี้ยงดูสั่งสอนและรักสนเหมือนลูก สนก็ได้แต่หวังว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่ใจร้ายกับสน เธอน่าจะเข้าใจได้ในที่สุดถ้าสนมีความจริงใจมากพอ

"ครับแม่เยา คนที่ผมรัก...ก็คือคนที่ผมถ่ายรูปอัปขึ้นเฟสบุ๊คด้วยกันบ่อยๆ นั่นแหละครับ"

แม่ของต้นถึงกับต้องเอามือปิดปากเพราะกลัวตัวเองจะกรีดร้องด้วยความตกใจออกมา สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าตกใจสุดขีด จากนั้นก็เริ่มร้องไห้ สนยิ่งใจคอไม่ดีเข้าไปใหญ่ สนกลัวอย่างเดียวว่าสิ่งที่สนพูดจะทำให้ต้นเดือดร้อนและมีปัญหากับครอบครัวมากขึ้นไปอีก

"สน...สนพูดเล่นใช่ไหมลูก! ไม่จริงใช่ไหมสน!"

สนค่อยๆ ลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ แล้วก็คุกเข่าลงตรงหน้าของแม่ของต้น เห็นแม่ของต้นร้องไห้แล้วสนก็อดที่จะร้องไห้ตามไม่ได้

"แม่เยา...ผมรักต้นครับ รักมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่เรายังเรียนมัธยมด้วยกัน แม่เยาก็คงรู้ว่าผมกับต้น...สนิทกันมากแค่ไหน ห่วงใยกันมากแค่ไหน เราผูกพันกันมาก ไม่เคยจากกันไปไหนเลย ดูแลกันมาตลอด จนไม่รู้ว่า...ความรักอย่างเพื่อนกลายมาเป็นความรักอย่างคนรักกันตั้งแต่ตอนไหน เราสองคนรักกันมากครับแม่เยา ผมขอโทษ...ที่ทำให้แม่เยาผิดหวัง แต่ผมก็หวังว่า...แม่เยาจะเข้าใจเราสองคนนะครับ ผมยังจำได้เลย...แม่เยาเคยบอกผมกับต้นว่า แม่เยาโชคดีที่ผมกับต้นได้เจอกัน แม่เยามีความสุขที่เห็นผมกับต้นดูแลกัน รักกัน เติบโตมาด้วยกัน เหมือนมีลูกชายสองคนที่น่ารัก ถ้าผมกับต้นรักกันแบบนี้ แม่เยา...ยังจะรักผมกับต้นเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ เราสองคน...ยังเป็นลูกชายที่น่ารักของแม่เยาอยู่หรือเปล่า หรือว่า...แม่เยาจะไม่รักเราสองคนแบบนี้อีกแล้ว"

สนร้องไห้อย่างสะเทือนใจ เงยหน้ามองคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่คนที่สองด้วยแววตาอ้อนวอน แม่ของต้นเองก็พูดไม่ออก ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะไม่รักต้นกับสนเพราะคงไม่มีแม่คนไหนที่ไม่รักลูกของตัวเอง แต่ทำไมเธอถึงยังดื้อรั้นไม่ยอมรับเรื่องนี้มาเป็นปีสองปี ในฐานะของคนที่เป็นแม่ เธอก็ไม่มีความสุขหรอกกับการที่ไม่ยอมรับในสิ่งที่ลูกของตัวเองเป็น ตั้งแต่วันนั้น ต้นดูมีระยะห่างกับคนในครอบครัวไปมาก แม้จะไม่พูดคุยกันเรื่องนั้นเวลาอยู่ด้วยกัน แต่เธอก็ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่าต้นต้องการให้เธอยอมรับในสิ่งที่ต้นเป็น แต่คนที่เป็นแม่อย่างเธอกลับให้ไม่ได้ แล้วเธอจะไปคาดหวังให้ใครที่ไหนเข้าใจลูกของเธอล่ะ แม่แท้ๆ ยังไม่เข้าใจลูกของตัวเองเลย ทำไมเธอถึงได้ทำร้ายจิตใจลูกของตัวเองอย่างอำมหิตเช่นนี้ ถ้าสนไม่มาขอร้องอ้อนวอน เธอก็คงไม่ได้รู้เลยว่าเธอทำสิ่งที่เลือดเย็นกับลูกชายมากแค่ไหน

"ผมกับต้น...ผิดหรือเปล่าครับแม่เยา เราสองคนเป็นคนไม่ดีหรือเปล่าที่รักกันแบบนี้ ความรักของเราสองคนผิดมากเหรอครับแม่เยาถึงไม่มีใครยอมรับ ถ้าครอบครัวของผมกับต้นไม่ยอมรับเราสองคนที่เป็นแบบนี้ จะให้ผมกับต้นทำยังไงครับแม่เยา ผมกับต้นก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนแล้ว ไม่รู้จะไปพึ่งใคร ต่อให้ใครคนอื่นยอมรับเราได้ แต่ผมกับต้นก็อยากให้พ่อแม่แท้ๆ ของเราสองคนยอมรับเรามากกว่าใครทั้งหมด แม่เยาครับ ต่อให้จับผมกับต้นแยกกัน บังคับให้แต่งงานกับคนอื่น หรือจะเฆี่ยนตีให้ตาย ผมกับต้นก็จะยังรักกันอยู่เหมือนเดิม เห็นใจผมกับต้นเถอะนะครับแม่เยา เราสองคนรักกัน รักใครไม่ได้อีกแล้ว"

"สน..."

แม่ของต้นมองหน้าสนแล้วก็สะท้อนใจ สนคงต้องรักต้นมากถึงได้ยอมคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนเธอแบบนี้ แล้วคนที่เป็นแม่คนอย่างเธอจะใจร้ายใจดำกับเด็กตาดำๆ สองคนที่เธอเลี้ยงดูสั่งสอนมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยได้เชียวหรือ คนหนึ่งก็ลูกในใส้ จะดีจะชั่วยังไงก็เป็นลูก อีกคนก็เป็นคนที่เธอรักเหมือนลูกชายแท้ๆ คนหนึ่ง สนเป็นคนเดียวที่ครอบครัวของเธอไว้วางใจมาก ถ้าต้นไปไหนแล้วมีสนคอยดูแลเธอก็จะไม่เคยห่วงเลย ถ้าหากต้นเป็นอย่างนั้นจริงและเปลี่ยนไม่ได้ ผู้ชายคนเดียวที่เธอจะมั่นใจได้ว่าจะดูแลต้นได้ดีที่สุดก็คงไม่พ้นสน อย่างน้อยก็ดีกว่าให้ต้นไปรักคนอื่นที่เธอไม่รู้หัวนอนปลายเท้า

"นะครับแม่เยา ให้ผมกับต้นรักกันเถอะนะครับ ผมสัญญา...เราสองคนจะเป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ จะไม่ทำให้พ่อกับแม่เดือดร้อนลำบากใจ จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้พ่อกับแม่ทั้งสองครอบครัวภูมิใจกับเราสองคน ผมเอง...ก็จะขอสัญญาว่าผมจะดูแลต้นให้ดีที่สุด ผมจะรักเขาให้มากที่สุดเท่าที่คนๆ นึงจะรักได้ แม่เยาเชื่อใจเราสองคนหรือเปล่าครับ"

ถึงตอนนี้ แม่ของต้นก็คงจะใจร้ายใจดำไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่อาจจะเรียกตัวเองว่าเป็นแม่ที่รักลูกได้อีกต่อไป

"แม่เชื่อใจต้นกับสนนะลูก ไม่ว่ายังไง แม่ก็รักต้นกับสนเหมือนเดิม แม่ขอโทษนะสน...ที่แม่...คิดถึงแต่ความต้องการของตัวเอง ไม่เคยถามต้นกับสนเลยว่ามีความสุขหรือเปล่าที่ต้องบังคับฝืนใจทำในสิ่งที่พ่อกับแม่เห็นว่าดี แม่ขอโทษนะลูก ต่อไป...แม่จะไม่ทำอย่างนี้อีก แม่เชื่อใจสนนะลูก แม่เห็นต้นกับสนมาตั้งแต่เด็กๆ แม่รู้ว่าเราสองคนรักกันมาก ดูแลกันเป็นอย่างดีมาตลอด ถ้าต้นคิดจะรักใครสักคน ถ้าพ่อกับแม่จะต้องฝากต้นไว้กับใคร แม่ก็เชื่อใจสนคนเดียวนี่แหละลูก"

"ขอบคุณครับแม่เยา ขอบคุณที่เข้าใจเราสองคนนะครับ ผมจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้ของแม่เยาเลย" สนก้มลงกราบแทบเท้าของแม่ต้นด้วยความซาบซึ้งใจ ถ้าต้นได้มารับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ต้นคงดีใจมากทีเดียว

"เราทำให้นายได้แล้วนะต้น เราทำได้แล้ว อย่างน้อย...แม่ของนายก็เข้าใจเราสองคนแล้วนะต้น" สนคิดในใจ

แม่ของต้นลูบศีรษะของสนเบาๆ อย่างเอ็นดู "ลุกขึ้นเถอะสน ลุกขึ้นเถอะนะลูก"

สนค่อยๆ ยืนขึ้นแล้วก็กอดแม่ของต้นไว้

"แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษ"

"ไม่เป็นไรครับแม่เยา ขอแค่แม่เยาเข้าใจผมกับต้น แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้วครับ ต้นเขาต้องดีใจมากแน่ๆ เลยครับแม่เยาที่แม่เยายอมรับสิ่งที่ต้นเป็นได้แล้ว"

แม่ของต้นลูบหลังสนเบาๆ นึกถึงลูกในใส้ของเธอแล้วก็ดีใจ ต้นโชคดีเหลือเกินที่ได้มาเจอสน เธอเคยพูดอย่างนี้กับต้นและสนตอนที่สองคนเป็นเด็ก จนถึงวันนี้ สนก็พิสูจน์ให้เธอได้เห็นแล้วว่าต้นโชคดีมากแค่ไหนที่ได้เจอคนดีๆ อย่างสน เธอไม่ได้ดูคนผิดอย่างแน่นอน

สนกลับมานั่งที่ ต่างคนต่างก็ค่อยๆ สงบสติอารมณ์และการร่ำไห้เพื่อที่จะคุยกันได้อย่างเป็นปกติ

"สน...แล้วต่อไปสนจะทำยังไงล่ะลูก แม่หมายถึง...เรื่องของสนกับคู่หมั้นน่ะลูก"

สนครุ่นคิด ปัญหาตอนนี้คงอยู่ที่พ่อของสนเป็นหลัก ส่วนแม่ สนเชื่อว่าแม่จะเข้าใจสนในที่สุด ขอแค่ให้สนได้คุยกับแม่เรื่องนี้เท่านั้น ติดที่ว่าสนรับปากพ่อไว้จึงยังไม่ได้คุยกับแม่ของตัวเองเลย

"ผมจะคุยกับพ่อกับแม่เรื่องขอถอนหมั้นกับนินาครับ แต่ว่า...ผมคุยกับพ่อเรื่องนี้แล้ว พ่อ...พ่อผมเขารับไม่ได้ครับแม่เยา เขาอยากให้ผมแต่งงานกับนินาหรือผู้หญิงสักคน มีลูกหลานสืบสกุลให้เขา เขาไม่อยากให้ผมรักต้นแบบนี้ครับแม่เยา"

"จริงเหรอสน" แม่ของต้นถามด้วยสีหน้าตกใจ รู้สึกเห็นใจและสงสารสนขึ้นมาจับจิตจับใจ อุปสรรคที่หนักหนาที่สุดก็คงจะเป็นพ่อของต้นกับสนสองคนนี่เอง

สนพยักหน้า สีหน้าดูยุ่งยากใจอย่างเห็นได้ชัด

"แม่เองก็ยังไม่กล้าบอกพ่อของต้นเลย พ่อของต้นก็คงคิดไม่ต่างจากพ่อของสนหรอกลูก แค่จะบอกว่าต้นเป็นเกย์ เขาก็รับไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งถ้ารู้ว่าต้นกับสนรักกัน...แม่ก็ไม่อยากคิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่โตแค่ไหน"

ต่างคนต่างมีสีหน้าหนักใจ แต่สำหรับสนแล้ว การที่แม่ของต้นยอมรับได้ก็ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่น่าจะช่วยให้เรื่องอื่นๆ ง่ายขึ้นในอนาคต

"เดี๋ยวเราค่อยๆ คิดกันไปก็ได้ครับแม่เยา กว่าผมจะได้แต่งงานกับนินาก็อีกเป็นปีเพราะต้องรอให้นินาเรียนจบก่อน เรายังพอมีเวลาคิดหาหนทางครับ"

แม่ของต้นพยักหน้าเข้าใจ ก็จริงอย่างที่สนว่า สนยังพอมีเวลาอยู่ อย่างน้อยก็อีกหนึ่งปี กว่าจะถึงวันนั้นก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ได้

"แม่เยาครับ ผมขอแม่เยาอีกเรื่องหนึ่งนะครับ"

"อะไรเหรอลูก" แม่ของต้นมองอย่างหวั่นใจ ไม่รู้ว่าสนจะมีเรื่องให้ต้องตกใจมากไปกว่านี้อีกหรือเปล่า เธอกลัวจะรับไม่ไหวเสียก่อน

"แม่เยาอย่าเพิ่งบอกต้นนะครับว่าผมมาคุยกับแม่เยาเรื่องนี้ ต้นเขารักผมก่อน ส่วนผม...เพิ่งมารู้ตัวทีหลัง ผมยังไม่ได้บอกต้นเลยครับแม่เยาว่าผมรักเขา แต่ผมจะบอกเขาเองครับแม่เยา ผมจะบอกต้นแน่นอนครับ"

"อ๋อ..." แม่ของต้นยิ้มและหัวเราะเบาๆ "เรื่องนั้น...แม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสนละกันนะลูก แม่คงบอกแทนสนไม่ได้อยู่แล้วล่ะ"

สนยิ้มดีใจ "ขอบคุณครับแม่เยา"

เมื่อสนรักต้น สนก็ต้องเป็นคนบอกรักต้นด้วยตัวเองอยู่แล้วล่ะ คงให้คนอื่นบอกแทนไม่ได้ สนก็ได้แต่หวังว่าปาฏิหาริย์ครั้งที่สามจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้เสียที วันนั้นจะเป็นวันที่สนได้บอกรักต้น วันที่การรอคอยสิ้นสุดลง ต้นกับสนคงมีความสุขมากที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว

TBC

ขอยกเครดิตตอนนี้ให้กับคุณ Freja อีกครั้งในฐานะคนที่เป็นแม่ ตอนนั้นกำลังคิดอยู่ว่าสนควรจะพูดอะไรดีแม่ของต้นถึงจะฟัง ก็ได้ไอเดียจากคุณ Freja นี่แหละครับ ขอบคุณนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2015 19:15:11 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ยัยนินานี่มีแผนร้ายไรอีกละ เฮ้อ เบื่อจริงๆ ผู้หญิงคนนี้


แอบน้ำตาซึมตอนสนสารภาพสิ่งที่อยู่ในใจกับแม่ของต้น ซึ้งอ่ะ มันแบบเข้าใจเลย
ว่าคงอึดอัดมากๆ ดีใจที่แม่ต้นในที่สุดก็ยอมรับได้ซะที

ขอให้สู้ต่อไปนะ สนและต้น :) ยังต้องเจออุปสรรคอีกเยอะแน่ๆ

ปล. แอบตกใจคนเขียนลงตอนดึกด้วย 555+

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :heaven

แม่ต้นเข้าใจ แต่คนอื่นนี่ท่าจะ........ยากส์

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ยัยบ้านิน่าแกจะทำอะไรอีกแล้วล่ะนั้น ทำแต่ล่ะสิ้นคิดจริงๆ ผู้ชายเค้าไม่รัก เค้าไม่สน
แล้วยังจะยื้ออีกทำไมจะหน้าด้านไปถึงไหนห่ะยัยบ้า
(อย่าว่ากันนะที่ด่ายัยนิน่าออกไปแบบอินเนอร์ล้วนๆ อ่ะ มันสุดจะทนจริงๆ )

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao5: ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าพ่อแม่จะยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ดีใจกับสนที่อย่างน้อยก็มีแม่เยาว์ที่เจ้าใจและยอมรับ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
     จะมีน้อยที่คนเป็นพ่อจะทำใจยอมรับเรื่องลูกได้ คนเป็นพ่อแม่สมัยนี้ต้องทำใจให้หมุนไปตามโลกจริงๆสินะ เรื่องของลูกถึงจะกวนตัวกวนใจแบบนี้แต่ลูกอย่างต้น สนนิสัยดีมากๆเลยนะ คนเป็นพ่อแม่ก็ทำใจยอมรับได้ล่ะคับ
             สนจะมาคุยกับแม่เยาเรื่องของต้นเหมือนมาทำเพื่อต้นแต่โชคดีมากๆที่แม่ของต้นพูดเข้าเรื่องสนไปซะเอง ๕๕๕ เลยกลายเป็นว่าพูดเรื่องสนรักต้นไปเลย โชคเข้าข้างต้น สนจริงๆ แบบนี้เรียกปาฏิหาริย์มีจริงๆ นั้นแหน่ะ!! ผู้แต่งแง้มๆละ ปาฏิหาริย์ครั้งที่ 3 จะเป็นวันที่สนบอกรักต้นนั้นเอง ๕๕๕  ลุ้นอ่ะ
              ระหว่างนี้คงไม่เกิดอะไรขึ้นเพราะยัยนินามาทำเสียเรื่องนะคับ  ยัยนินานี่มัน... สาวเหนือ ฮือ ฮืมมม สาวเหนือ ๕๕๕ รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2015 01:08:29 โดย GuoJeng »

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
นานๆ สนจะมีความดีความชอบสักทีนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ดีใจแทนต้น ที่อย่างน้อยแม่ก็เข้าใจต้นสักที
ต้นจะได้ยิ้ม  หัวเราะแบบเต็มๆกับแม่ได้

นินาก็ร้ายใช่เล่น สักวันคงสะท้อนให้พ่อแม่คิดได้
ว่าการสอนให้เอาตัวรอดแบบผิดๆ มีผลอย่างไร
ไม่รู้จะทันแก้ไขในรุ่นของน้องชายหรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2015 11:31:20 โดย snowboxs »

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
CHAPTER 28-1: คนเป็นแม่
CHAPTER 28-2: ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย ░ ▒ ▓
CHAPTER 28-2: ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย


งานเลี้ยงอำลาของชมรมเพื่อนผู้พิการเสร็จสิ้นลงแล้ว ไม่เลิกกันดึกมากนักเพราะพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ หลายคนต้องไปเรียนและทำงาน หลังจากที่ร่ำลากันเรียบร้อย สรกฤษณ์กับต้นเดินไปที่จอดรถด้วยกัน วันนี้เขาก็จะไปส่งต้นอีกเช่นเคย

"ใจหายเหมือนกันนะครับพี่กริด ต่อไปผมคงไม่ได้มาทำงานที่ชมรมนี้อีกแล้ว ผมชอบทำงานกับที่นี่ครับ อาจารย์อัศวิณีเป็นคนที่เก่งมาก ผมชื่นชมอาจารย์แกมากเลย สู้มาตั้งแต่ยังไม่มีใครสนใจจนเดี๋ยวนี้ผมงานโดดเด่นจนใครๆ ก็ต้องหันมามอง ผมดีใจที่ได้มีโอกาสทำงานดีๆ แบบนี้ครับ อย่างน้อย...เราก็ได้สร้างโอกาสให้กับคนอื่นๆ ได้เข้ามาเรียนที่นี่ เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา"

"พี่ก็ดีใจที่ได้มาทำงานที่นี่เหมือนกันนะต้น ขอบคุณต้นมากที่นึกถึงพี่ ชวนพี่มาทำด้วย เงินไม่เยอะหรอก แต่พี่ก็ได้ทำสิ่งที่มีคุณค่าให้คนอื่นๆ ปกติพี่ก็จะรับงานที่เป็นธุรกิจตลอด มาทำงานแบบนี้ก็มีความสุขดีเหมือนกันนะ ก็เสียดายเหมือนกัน ถ้าต้นไม่อยู่แล้วพี่ก็อาจจะไม่ได้เข้ามาทำอีกแล้วล่ะ"

เดินมาถึงรถพอดี สรกฤษณ์จึงเปลี่ยนเรื่องคุย

"ต้น...มีเวลาสักครึ่งชั่วโมงไหม พี่อยากคุยอะไรกับต้นหน่อย"

ต้นพยักหน้าพลางยิ้ม มากกว่าครึ่งชั่วโมงต้นก็ให้ได้ สรกฤษณ์ช่วยงานต้นมาเป็นอย่างดีตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ได้สรกฤษณ์มาช่วย โครงการของชมรมก็อาจจะไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้น ต้นก็อยากตอบแทนพี่ชายคนนี้บ้างเท่าที่ต้นจะทำได้

สรกฤษณ์ขับรถพาต้นออกมาจากร้านอาหารแถวๆ ห้วยแก้ว จากนั้นก็มุ่งตรงมาที่ถนนนิมมานเหมินทร์ใจกลางเมืองเชียงใหม่ จอดรถได้แล้วสรกฤษณ์ก็พาต้นเดินหาร้านเล็กๆ ที่พอจะนั่งคุยกันและกินอาหารเบาๆ ได้ ก็มาลงเอยที่ร้านขายเบเกอรี่และเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง

หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มจำพวกสมูธตี้ไปแล้วการสนทนาที่สำคัญของสรกฤษณ์ก็เริ่มต้นขึ้น

"พี่จีบต้นได้ไหม"

แค่คำถามแรก ต้นก็แทบจะตกเก้าอี้เสียแล้ว ต้นพอจะดูออกบ้างว่าสรกฤษณ์แสดงความสนใจในตัวต้น เข้าใจว่าที่สรกฤษณ์ไม่รุกเต็มที่เพราะเขามีแฟนอยู่แล้วนั่นเอง แฟนของสรกฤษณ์เป็นผู้หญิง หลังจากที่ทำงานกันมาปีหนึ่งต้นก็พอรู้ว่าสรกฤษณ์เป็นไบ การที่สรกฤษณ์จะชอบผู้ชายด้วยจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

"แล้วแฟนพี่กริดล่ะครับ" ต้นไม่ได้ถามเพื่อหยั่งเชิงแต่ต้องการเตือนสติฝ่ายตรงข้าม

"เรา...ห่างๆ กันมาพักหนึ่งแล้วล่ะ ก็อย่างที่พี่เคยเล่าให้ต้นฟังบ่อยๆ เราสองคนคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง พี่เบื่อนะ มีแฟนขี้ระแวงแบบนี้ จะไปไหน จะทำอะไรก็ต้องคอยรายงาน ชีวิตลำบากกว่าที่ควรจะเป็น"

สรกฤษณ์เลือกใช้คำว่าห่างกันพักหนึ่ง แน่นอน มันไม่ชัดเจนหรอกว่าจะกลับมารักกันได้อีกหรือจะเลิกกันไปเลย

"หมายถึงว่า...เลิกกันแล้วหรือว่ายังไงครับ"

สรกฤษณ์เม้มริมฝีปากพลางครุ่นคิด ต้นคงระวังเรื่องแบบนี้มาก ถ้าสรกฤษณ์ไม่ชัดเจนต้นก็อาจจะไม่เล่นด้วย

"พี่คิดว่าจะเลิกกับเขาเพราะเราไปด้วยกันไม่ได้เลย ทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน พี่รู้สึกสบายใจมากที่ห่างกับเขามาได้เกือบสองเดือนแล้ว สำหรับพี่ พี่ก็อยู่ได้โดยไม่มีเขา ส่วนเขา...ก็อยู่ได้โดยไม่ต้องมีพี่แล้วมั้ง หลังๆ นี้เขาก็ไม่ได้โทรมาเช็คอะไรพี่อีกแล้วนะ"

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแปลว่ายังไม่ได้เลิกกันอย่างจริงจัง ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากนักสำหรับต้น สิ่งที่สำคัญที่สุดของต้นคือเรื่องนี้ต่างหาก

"พี่กริดครับ ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บเพราะผมอีก ผมเคยทำผู้ชายคนหนึ่งเจ็บหนัก เจ็บจนมองหน้ากันไม่ติด ผมไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นอีกแล้วครับพี่กริด"

คนที่เจ็บหนักคนนั้นก็ไม่ใช่ใคร ทินนั่นเอง ตอนนี้ทินย้ายไปอยู่กรุงเทพ ทำงานที่นั่น คอนโดที่เชียงใหม่ที่เพิ่งซื้อได้ไม่นานก็ขายทิ้ง ทินไม่อยากเก็บไว้อีกแล้วเพราะมันเป็นที่ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทินกับต้นต้องจบลงอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนมา

สรกฤษณ์ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ พอเห็นสรกฤษณ์ทำท่าสงสัยอย่างนั้น ต้นจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับทินให้สรกฤษณ์ฟัง เมื่อเข้าใจทุกอย่างแล้วสรกฤษณ์ก็ถอนหายใจ

"ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับพี่เลยนะต้น พี่ชอบต้น พี่ก็อยากจีบ พี่ไม่มายด์ว่าจีบติดหรือไม่ติด ต้นจะรักใครพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ สุดท้ายต้นก็จะเป็นคนเลือกว่าต้นจะตัดสินใจลงเอยกับใคร ไม่เลือกพี่...พี่ก็ไม่เป็นไรหรอก อกหักเป็นเรื่องธรรมดานะต้น"

เห็นสรกฤษณ์ดื้ออย่างนั้นต้นก็ชักจะยุ่งยากใจเสียแล้ว

"พี่กริดครับ ต้นไม่เคยรักคนอื่นเลย...นอกจากสน ต้นไม่มีหัวใจให้ใครอีกแล้วครับ ขอโทษนะครับพี่ที่ผมต้องพูดตรงๆ แบบนี้" ต้นบอกไปตามตรง การทำร้ายพี่ทินเป็นรอยด่างในความทรงจำของต้น คิดถึงทีไรต้นก็เสียใจไม่หาย

"สนเขามีคู่หมั้นแล้วนะต้น แล้วถ้าเกิดสนแต่งงานไปต้นจะทำยังไง ต้นจะรักสนอย่างนั้นไม่ได้อีกแล้วนะ"

ต้นเงียบ สักพักก็ถอนหายใจ "บางที...การไม่มีใครก็ยังดีกว่าการที่ต้องหนีหัวใจตัวเองนะครับพี่กริด ถ้าผมยังรักใครคนอื่นไม่ได้ ผมก็ขอยอมอยู่คนเดียวดีกว่าครับ ผมบอกตามตรงว่าผมไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บกับผมอีก"

"โธ่ต้น ต้นจะคิดอะไรมากไปทำไมครับ ต้นไม่รักพี่ตอบพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย พี่ไม่มีปัญหาหรอก ต้นให้โอกาสพี่ได้พยายามได้ไหม อย่างน้อยๆ ต้นก็อาจจะนึกถึงพี่ขึ้นมาในวันหนึ่งที่ต้นไม่มีใครก็ได้ ไม่รู้ล่ะ ยังไงพี่ก็จะจีบต้น พี่จะแข่งกับสน ต้นคงไม่ว่าพี่นะ"

ต้นมองสรกฤษณ์อย่างหนักใจ สรกฤษณ์มาแบบเดียวกับทินอีกแล้ว พูดคล้ายๆ กันเลย ทินก็พูดแบบนี้ แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งคนเราก็อยากได้ความรักจากคนที่ตัวเองชอบ พอไม่ได้อย่างที่คิดก็อาจจะผิดหวัง ถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

"ผมก็ยังหนักใจอยู่นะครับพี่ หวังว่าพี่กริดคงเข้าใจนะครับ ผมทำร้ายคนๆ หนึ่งให้เจ็บหนัก ผมกลัวมันจะเกิดขึ้นอีก"

"พี่ก็ยอมเจ็บไงต้น พี่บอกแล้วว่าไม่เป็นไร สุดท้ายแล้วมันก็จะมีอยู่สองทางไม่ใช่เหรอต้น ต้นรักสนเหมือนเดิม...หรืออาจจะเปลี่ยนใจมารักพี่ ก็แค่นี้เอง พี่รับได้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย พี่ขอจีบต้นละกันนะ ไม่รู้ล่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่ก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ต้นรักพี่ พี่ชอบต้นเพราะต้นเป็นคนดี เป็นคนน่ารัก พี่อยู่ด้วยแล้วพี่สบายใจ รู้ไหมว่าพี่น่ะ...เฝ้าดูต้นมาตลอดเลยนะ พี่รู้สึกถูกชะตาด้วยตั้งแต่เจอครั้งแรกแล้ว"

"พี่กริด..."

ต้นพูดได้แค่นั้นแล้วก็หันหน้าไปทางอื่น สักพักก็หันกลับมามองสรกฤษณ์อีก

"ผมไม่มีสิทธิ์ห้ามพี่กริดเรื่องนั้นหรอกครับ ก็แล้วแต่พี่กริดจะตัดสินใจ ผมก็แค่บอกพี่กริดไว้ว่าผม...คงรักใครไม่ได้อีก ไม่อยากทำร้ายใครให้เจ็บอีก ถ้ามันไม่ใช่ปัญหาสำหรับพี่กริด ก็ไม่ว่ากันครับ"

สรกฤษณ์เป็นคนที่ค่อนข้างดื้อและจริงจัง ถ้าลองพูดมาแบบนี้แล้วก็แสดงว่าเขาก็คงจะต้องพยายามทำอย่างนั้นจนได้

"ขอบคุณนะต้น" สรกฤษณ์ยิ้มดีใจ

"ส่วนเรื่องแฟนของพี่กริด ถ้าพี่กริดยังรักเขาอยู่ ก็ยังไม่จำเป็นต้องเลิกกันหรอกครับ เผื่อว่าวันหนึ่งพี่กริดจะกลับไปหาเขาอีก อย่าหวังอะไรกับผมมากเลยนะครับ หัวใจของผมไม่ว่างแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะว่างอีกครั้ง มันไม่ว่างอย่างนี้มาสิบปีแล้วล่ะครับพี่กริด"

สรกฤษณ์รู้ว่าต้นพูดอย่างนั้นเพื่อกันไม่ให้เขามีความหวังมากเกินไปนั่นเอง แต่ก็อย่างที่สรกฤษณ์บอกนั่นแหละ สรกฤษณ์ยินดีหลีกทางให้ถ้าหากเขาพยายามแล้วต้นก็ยังรักสนเหมือนเดิม

"พี่จะบอกต้นไว้อย่างหนึ่งนะ ถ้าพี่พยายามแล้วไม่ได้ผล พี่ก็แค่กลับมารักษาแผลใจของพี่เหมือนคนอกหักทั่วๆ ไป ใครๆ เขาก็อกหักกันนะต้น ไม่ถึงกับตายหรอก แต่ถ้าพี่เอาชนะใจต้นได้ ต้นลองคิดดูสิครับ วันนั้นต้นก็จะมีชีวิตใหม่ ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานกับความรักที่ไม่มีวันเป็นไปได้อย่างนี้อีกต่อไป ต้นต้องลองเปิดโอกาสให้หัวใจตัวเองอีกครั้งนะต้น อย่าปิดมันไว้เลย พี่ไม่อยากให้คนดีๆ และน้องที่น่ารักอย่างต้นต้องมีชีวิตอยู่กับรักที่ไม่สมหวังตลอดไป ชีวิตต้นจะได้สดใสบ้าง พี่รู้นะว่าความรักแบบนี้มันเศร้าแค่ไหน มันมีแต่จะทำให้ชีวิตต้นหดหู่และหมดพลัง ต้นยังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะนะ ถ้าต้นมีใครสักคนที่ต้นรักและเขาก็รักต้นคอยอยู่เคียงข้างกัน ดูแลกัน ต้นจะทำอะไรดีๆ ให้โลกนี้ได้อีกเยอะเลย พี่ก็เลยอยากจะขออาสา ถ้าพี่ทำได้ พี่ก็จะได้ช่วยต้นได้ ต้นไม่อยากมีความรักที่สดใสและสมหวังบ้างเหรอ"

ต้นก็อยากจะซาบซึ้งใจอยู่หรอกนะ แต่ฟังแล้วต้นกลับรู้สึกหวาดหวั่นใจเพราะกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ถ้าต้นทำร้ายคนดีๆ อย่างพี่กริดอีกคนหนึ่ง ต้นก็ไม่รู้ว่าจะทำใจมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างภาคภูมิใจอีกหรือเปล่า แค่พี่ทินคนเดียวต้นก็รู้สึกผิดมากแล้ว

ต้นถอนหายใจ พยายามยิ้มให้กับสรกฤษณ์ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดอะไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้นคงขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจ แต่พอรู้ว่าปลายทางของคนๆ นั้นจะเป็นแบบไหน ต้นก็ไม่อยากขอบคุณที่คนๆ นั้นต้องยอมเจ็บเพราะต้นเลย ถ้าเลือกได้ ต้นก็อยากจะขอบคุณที่คนๆ นั้นเลือกรักต้นอย่างเพื่อนหรือพี่น้องเสียมากกว่า อย่ารักต้นแบบนี้เลย ต้นรักใครไม่ได้อีกแล้วจริงๆ


สนกลับมาถึงบ้านตอนเกือบสี่ทุ่ม รองเท้าของต้นไม่อยู่ก็แสดงว่าต้นยังไม่กลับจากงานเลี้ยงอำลาของชมรม ส่วนนิกกับปั้นจั่นก็น่าจะแยกย้ายกันไปห้องใครห้องมันแล้ว สองคนนี้แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ก็มีโลกส่วนตัวพอสมควร

ก่อนจะกลับบ้านที่นครปฐม สนยังไม่ได้เอาเสื้อผ้าไปซักเลย ก่อนนอนคืนนี้สนจึงตั้งใจว่าจะเอาชุดนักศึกษาสักตัวสองตัวไปซักก่อน ไม่แน่ใจว่าจะแห้งทันพรุ่งนี้เช้าหรือเปล่า แต่ถึงไม่แห้งสนก็ใช้เตารีดทำให้มันแห้งจนได้ ขอให้มีพอใส่ได้ไปก่อน

พอสนเข้ามาในห้องแล้วก็พบว่ามันดูแปลกไปนิดหน่อย เป็นระเบียบสะอาดสะอ้านมากกว่าเดิมเยอะเลย ปกติสนเป็นคนรักความสะอาดอยู่แล้ว ห้องของสนจึงไม่ดูรกมาก แต่ก็อาจจะไม่เป็นระเบียบบ้างนิดหน่อยตามประสาผู้ชาย

สนเหลือบไปเห็นโน๊ตที่แปะไว้ตรงตู้เสื้อผ้าก็รีบเดินไปหยิบมาอ่าน

"เราจัดการเสื้อผ้าและห้องของนายให้แล้วนะ ตอบแทนที่นายช่วยพูดกับแม่เราไง เราเชื่อว่านายทำได้แน่นอน ขอบคุณมากนะสน รอฟังข่าวดีนะ"

ต้นเอ๋ย ดูแลสนดีแบบนี้แล้วจะไม่ให้สนรักต้นได้ยังไง แค่นี้สนก็ยอมจำนนหมดทั้งหัวใจ ไปไหนไม่รอดแล้ว สนเปิดดูตู้เสื้อผ้า ชุดนักศึกษาของสนซักและรีดไว้อย่างดี เสื้อผ้าชุดอื่นๆ ที่สนใส่ก็อยู่ในสภาพซักรีดเรียบร้อยเช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ชุดชั้นในที่ต้นก็เอาไปซักให้ คงเอาเสื้อผ้าทั้งหมดที่สนทิ้งใส่ตะกร้าไว้ไปซักนั่นเอง สนหยิบชุดนักศึกษาตัวหนึ่งมาดูแล้วก็สูดดม ยิ้มอย่างมีความสุขให้กับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเสื้อตัวนั้นที่ต้นบรรจงทำให้อย่างดีเลย

พอหันไปดูที่เตียง ต้นก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนและเอาผ้าห่มผืนใหม่มาวางให้ ส่วนอันเก่าก็เอาไปซักและตากไว้หลังบ้าน ถ้าต้นอยู่ตรงนี้ สนคงอดกอดต้นไม่ได้แน่ๆ เผลอๆ อาจจะอดใจไม่ไหวจนถึงกับต้องยอมผิดคำสัญญาที่ให้กับพ่อไว้

สนไม่เคยขอให้ต้นช่วยทำเรื่องนี้ให้เลยเพราะเกรงใจ แต่ต้นก็มักจะแอบทำให้เสมอ โดยเฉพาะตอนที่สนยังทำขนมอยู่จนแทบไม่มีเวลาดูแลเสื้อผ้าและห้องนอนของตัวเอง สนเคยบอกต้นว่าไม่ต้องทำก็ได้ แล้วต้นก็พูดมาสี่ห้าประโยคที่ทำให้สนเถียงไม่ออก

"สน...นายก็รู้นี่ ที่เราสองคนเป็นเพื่อนรักกันมาตลอด ก็เพราะเราสองคนดูแลกันแบบนี้ไม่ใช่เหรอ นายดูแลเรา เราช่วยดูแลนาย มีอะไรก็ช่วยกัน ให้เราช่วยดูแลนายนะสน เรารู้ว่านายก็จะดูแลเราด้วย เราไม่ได้ทำให้นายฝ่ายเดียวซะหน่อย จริงไหม"

นั่แหละ สนจึงเถียงไม่ออกและยอมให้ต้นช่วยดูแลแต่โดยดี

เสียงรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน สรกฤษณ์คงจะมาส่งต้นแล้วนั่นเอง สนไม่รอช้า รีบเดินลงไปข้างล่างเพื่อที่จะไปรับต้น เขามีอะไรหลายอย่างที่อยากคุยกับต้นมาก โดยเฉพาะเรื่องที่แม่ของต้นยอมรับสิ่งที่ต้นเป็นได้แล้ว แค่คิดถึงสีหน้าของต้นเมื่อรู้เรื่องนี้ สนก็แทบจะเก็บมันไว้ไม่ไหวแล้ว

ฝ่ายสรกฤษณ์ เมื่อมาส่งต้นถึงหน้าบ้าน ก่อนที่ต้นจะลงจากรถ เขาก็หยิบสิ่งๆ หนึ่งจากเบาะหลังมาให้ต้น

"ดอกไม้สำหรับคนพิเศษของพี่ครับ"

สรกฤษณ์แวะซื้อก่อนที่จะมางานเลี้ยงอำลา แล้วก็วางไว้ที่เบาะหลังโดยที่ต้นคงไม่ทันได้สังเกตเห็นนั่นเอง

"รับไปสิต้น พี่ให้ต้น"

ต้นกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจรับช่อดอกกุหลาบสีแดงนั้นมาถือไว้ แล้วจู่ๆ สรกฤษณ์ก็เคลื่อนใบหน้าเข้ามาหอมที่แก้มของต้นเบาๆ ต้นตกใจจนต้องเอนตัวหนี แล้วก็หันไปมองหน้าสรกฤษณ์ที่ตอนนี้ยิ้มตาหวานให้ต้นอยู่

"แล้วเจอกันอีกนะต้น เดี๋ยวพี่จะโทรหา ไว้วันหลังเราไปเที่ยวด้วยกัน ทำงานด้วยกันมาเยอะแล้ว ไปเที่ยวด้วยกันบ้างดีไหม"

ต้นเอามือลูบแก้มตรงที่สรกฤษณ์หอม คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าสรกฤษณ์จะเล่นถึงเนื้อถึงตัวกับต้นแบบนี้

"ครับ" สีหน้าของต้นยังดูระแวงอยู่ คงกลัวสรกฤษณ์แอบทำอย่างเมื่อกี้อีก

"ขอบคุณที่มาส่งครับพี่กริด พี่กริดขับรถกลับบ้านดีๆ นะครับ"

สรกฤษณ์พยักหน้ายิ้มๆ "นอนหลับฝันดีนะต้น"

"เช่นกันครับพี่" ต้นบอกแล้วก็เปิดประตูรถลงมา ปิดประตูรถให้สรกฤษณ์แล้วก็โบกมือลาอีกครั้ง แต่สรกฤษณ์ก็ยังไม่ขับรถออกไป เขาอยากจะอยู่ส่งต้นจนมั่นใจว่าต้นได้เข้าไปในบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว

ต้นไขประตู้หน้าบ้านเข้าไปแล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นสนมายืนยิ้มรออยู่ ต้นรีบเอามือข้างที่ถือดอกไม้ไพล่หลังทันทีเพราะกลัวสนจะเห็นเสียก่อน

"เราทำสำเร็จแล้วนะต้น แม่ของนาย...เขายอมรับนายแล้วนะ" พอเจอหน้ากัน สนก็บอกเรื่องนี้ให้ต้นรู้ก่อนอย่างอื่น

น้ำเสียงที่ต้นเต้นของสนทำให้ต้นเบิกตากว้างด้วยความดีใจ "จริงเหรอสน"

สนพยักหน้า จากนั้นก็เดินเข้ามาหาต้นใกล้ๆ สนรู้ว่าต้นอยากจะกอดเขา เขาเองก็อยากจะกอดต้นเช่นกัน ไม่รู้ว่าสรกฤษณ์คิดผิดหรือคิดถูกที่อยู่รอส่งต้นจนกว่าต้นจะเข้าไปในบ้าน ภาพที่ต้นกับสนกอดกันอยู่ตรงหน้าประตูบ้านจึงปรากฎแก่สายตาของสรกฤษณ์อย่างช่วยไม่ได้ สองคนนี้ช่างรักกันโดยไม่แคร์ใครเอาเสียเลย สรกฤษณ์จึงต้องรีบขับรถออกไปโดยเร็วเพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจนานกว่านี้ สนเองก็รู้ว่าสรกฤษณ์คงเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เขากับต้นรักกันแบบนี้มาตั้งนานแล้ว

สนรู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่ต้นกอดสนด้วยมือเพียงข้างเดียว แต่ก็ยังไม่ถึงกับสงสัยมากเพราะคิดว่าต้นคงจะถืออะไรบางอย่างอยู่ ก็เลยไม่สะดวกที่จะกอดสองมือ

"ขอบคุณมากนะสน เราไม่รู้จะขอบคุณนายยังไง"

"ไม่เป็นไรต้น เรายินดี เราบอกนายแล้วไงว่านายเป็นความสุขของเรา เรายินดีทำทุกอย่างให้นายมีความสุข รู้ไหมต้น"

สนดันไหล่ของต้นออกแล้วก็ระบายรอยยิ้มให้กับคนตรงหน้าอีกครั้งอย่างเอ็นดู

"ขี้แงอีกแล้ว"

ต้นหัวเราะเบาๆ ทั้งน้ำตา "ก็เราดีใจนี่นา ขอบคุณนะสน ขอบคุณจริงๆ เราไม่เคยมีความสุขเลยที่แม่ไม่ยอมพูดเรื่องนี้กับเรา นึกว่าแม่...จะไม่ยอมรับสิ่งที่เราเป็นซะแล้ว"

"แม่ของนายเขาเป็นคนใจดีนะ ยังไงนายก็เป็นลูก เขารักนายมากนะต้น สุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับนายจนได้นั่นแหละ"

ต้นพยักหน้าเห็นด้วย

"อ้อ ขอบคุณนายมากนะต้นที่นายช่วยซักรีดเสื้อผ้าให้เรา แถมยังทำความสะอาดห้องให้เราอีก กลับมาถึงตกใจหมดเลย เกือบจำห้องตัวเองไม่ได้"

สนพูดติดตลก พอเห็นต้นยังเอามืออีกข้างไพล่ไว้ก็สงสัย

"นายถืออะไรมาด้วยหรือเปล่า ให้เราช่วยถือไหม"

"เอ่อ...ไม่เป็นไร" ต้นรีบบอก

"เหรอ ไม่หนักใช่ไหม"

ต้นส่ายหน้า ด้วยความอยากรู้สนจึงชะโงกไปดู พอเห็นว่าเป็นช่อดอกไม้ก็ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ

"ดอกไม้เหรอ แล้วนายจะซ่อนไว้ข้างหลังทำไมล่ะ ดอกกุหลาบสีแดงซะด้วย" สนหัวเราะเบาๆ เข้าใจว่าเป็นดอกไม้ที่ต้นคงได้มาจากงานเลี้ยงอำลา

ต้นเลิกเอามือไพล่หลัง แต่ก็ถือช่อดอกไม้ไว้ในลักษณะเหยียดแขนตรงแนบลำตัว

"ใครให้มาเหรอ" สนถามอย่างสงสัย

"พี่กริด" ต้นตอบเบาๆ คอยจับตาดูว่าสนจะตอบสนองอย่างไร

หน้าสนเปลี่ยนสี แววตาหวาดระแวงวิบไหวขึ้นในดวงตาคู่นั้น "เขาจีบนายเหรอ"

ต้นพยักหน้า เขาจะไม่โกหกสนเลย ยกเว้นว่าการพูดความจริงนั้นจะทำให้เกิดผลเสียหายมากจนไม่ควรพูด

สนทำหน้ายุ่งยากใจและครุ่นคิด "ต้น...นายไม่กลัวเป็นเหมือนพี่ทินอีกเหรอ"

ต้นถอนหายใจอย่างหนักใจ "เราบอกพี่เขาแล้ว แต่พี่เขาก็ยืนยันว่าเขา...จะจีบเราให้ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงน่ะสน"

สนมองหน้าต้นอย่างหนักใจ ไม่รู้ว่าต้นคิดอะไรอีกกันแน่ ต้นกำลังจะหาคนมาเผื่อเลือกอีกหรือเปล่า อย่าทำอย่างนั้นเลยนะต้น สนกำลังพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างที่จะปูทางไปสู่ความรักที่สมหวังของต้นกับสนอยู่ ถ้าต้นพาใครเข้ามาอีก มันก็มีแต่จะยุ่งยากมากขึ้น สนไม่อยากให้เกิดการผิดแผนอีกแล้ว

"ต้น นายเชื่อใจเราหรือเปล่า นายยังเชื่อใจเราอยู่ใช่ไหมต้น"

ต้นมองหน้าสนด้วยความยุ่งยากใจเช่นกัน ถ้าสนกับนินายังหมั้นกันอยู่แบบนี้ ไม่มีท่าทีว่าสนจะถอนหมั้น ความหวังของต้นก็คงจะยิ่งห่างไกลออกไป อีกไม่นานต้นก็จะไปเรียนเมืองนอกแล้ว ถ้าเหตุการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่ มันก็ยากที่ต้นจะเชื่อว่ามันจะยังไม่สายไป ถ้าต้นกลับมาแล้วพบว่าสนแต่งงานกับนินาไปแล้ว เผลอๆ อาจจะมีลูกด้วยกัน ความรักของต้นกับสนก็คงถึงกาลอวสาน อาจจะไม่ได้หายไปจากใจ แต่ความรักต้องห้ามนั้นจะปรากฎขึ้นให้ใครเห็นอีกไม่ได้ มีอยู่แต่แสดงออกไม่ได้ก็เท่ากับว่าความรักนั้นไม่มีตัวตนอีกแล้วนั่นเอง

"นายไม่เชื่อใจเราเหรอต้น" สนถามย้ำเมื่อเห็นต้นยังคงเงียบอยู่

"สน...เรา..."

"ไม่เป็นไรต้น ถ้านายไม่เชื่อใจเราก็ไม่เป็นไร"

คราวนี้ฝ่ายที่ต้องมีน้ำตากลับกลายมาเป็นสนบ้าง ไม่ใช่น้ำตาแห่งความซาบซึ้งดีใจเหมือนต้น แต่เป็นน้ำตาที่มาจากความเสียใจต่างหาก สนไม่ได้ฟูมฟาย แค่น้ำตามันไหลลงมาเองโดยไม่รู้ตัว แล้วสนจะพยายามทำไปเพื่ออะไรถ้าต้นไม่เชื่อใจเขาเลย!!!

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2015 19:16:21 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
จิัมๆๆๆ

คนอ่านก็ "ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย" เหมือนกัน
คือร้องไห้เหมือนเดิม แต่เอนไปทางสนนะ
รู้สึกสงสารสนแบบจับจิตจับใจเลย

ยอมรับว่าเห็นชื่อตอนนี้แล้วกังวล
คิดว่าจะเกิดซ้ำร้อยจากนินาเริ่มแผนใหม่ซะอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2015 11:29:50 โดย snowboxs »

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ตัดฉับแบบนี้ฆห่าฉันให้ตายสะยังดีกว่าให้ทรมาน เฮ้อ คนเราก็ต้องเผื่อใจไว้เจ็บทั้งนั้นแหละสน ก็ช่วยเข้าใจต้นหน่อยเถอะ สนจะก็จะเ้ขาใจต้นนะ เวลาที่สนลังเลว่าจะเอาอะไรดี ตอนนั้นผ่านมาแล้วแสดงว่าทายไม่ถูกแล้วสนจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไงนะ เรื่องนนาคิดแผนชั่วเนี้ย

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
สนอย่าเพิ่งนอยด์ไปค่ะ เราว่าต้นไม่ใช่ไม่เชื่อใจสนหรอก แต่ในฐานะ 'คนรอ' ที่ก็ไม่รู้ว่าวันนั้นสำหรับต้นกับสนจะมาถึงจริงๆ หรือไม่ ก็ย่อมต้องมีหวาดหวั่น หรือไม่มั่นใจกันเป็นธรรมดานั่นล่ะ แค่ในบางครั้งที่ต้นอยากจะปกป้องหัวใจตัวเองเอาไว้บ้าง ก็คงจะไม่ผิดเท่าไรหรอกกระมังคะ ^^

ปล. พอเห็นชื่อตอน 'ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย' เรานี่ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยค่ะ บอกตรงๆ ว่าเราหวาดระแวงนินากับแผนชั่วของนางมากๆ :try2: ..

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
                 ต้นทำถูกแล้วที่บอกสรกฤษณ์ไปตรงๆแบบนั้นว่ายังรัก สน สรกฤษณ์ก็ดีนะ แต่ยังไม่เห็นผลงานเท่าสนอ่ะ  คนมาทีหลังก็แบบนี้ล่ะพี่กริด ๕๕๕
                    เห้ออ! สนเหย อ้ายสนเหย คิดแบบนี้อีกแล้ว อยากจะมีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยให้โชคเข้าข้างยัยนินาอีกรึไง ยัยนั้นก็เตรียมแผนจะทำอะไรไว้อยู่นะ ต้นก็รีบๆพูดไปเถอะ อ้ำๆอึ้งๆ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเข้าจริงๆแล้วจะมาเสียใจทีหลังอีก แบบนี้สินะทีเขาเรียกกันว่า เจ็บแล้วไม่จำ  ไม่อยากจินตนาการเลยว่าต่อไปจะเป็นยังไง
               ค้างคา ค้างคามากเลยนะคับผู้แต่ง กำลังอ่านเพลินๆตัดไปเลยอ่ะ อ๊ากกกกกก รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะคับ จะเป็นไงต่อ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เปิดใจคุยกันคืนนี้ไปให้จบๆเถอะ ต้นเอ้ย

มานั่งระแวงแบบนี้มันไม่ใช่อ่ะน้องเอ๋ย

 :katai1:


ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
สนอย่าเพิ่งน้อยใจต้นนะ ไม่ใช่ต้นไม่เชื่อใจหรอก เชื่อสิ แต่แค่ไม่รู้จะทำยังไง ในฐานะคนรอบางทีก็ต้องใช้ความหวังมาก โอ้ยเครียด

เข้าใจต้นนะ แล้วต้นก็ทำถูกที่บอกไปตรงๆ แต่อีกคนก็ยังดื้อรั้น มันก็ต้องปล่อยไปแหละ

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ดีออกสน!!! ทำดีได้ตอนเดียว ลายออกอีกแระ แหม่~

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
 :hao5: หน่วงอีกแล้ว ลุุ้น ลุ้น ให้เรื่องของนิน่าจบก่อนที่ต้นจะไปเรียนเมืองนอก

เรื่องนินายังคาอยู่ พี่กริช เข้ามาอีก   :z3: :z3: :z3:

 :L2: :L2: ให้คนแต่งค่ะ แต่งได้ดี ถ้าตัวเองเป็นต้น แล้วต้องรอโดยที่ไม่รู้ว่ารออะไรแบบนี้ ก็คงต้องมองหารักใหม่ดีกว่า  :mew6: :mew6: :mew6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด