[2/2]
“อะไรนะ เทปขาย!!!!!”“ก็เออสิ แกจะโวยวายทำไมยะ มีคนประมูลไปตั้งสามล้านแน่ะ แม่เจ้า ทุบสถิติแกไปอีก พีคโคตร เจ๊ขอบใจแกมากนะที่พาเพื่อนน่ารักๆ มาค้างด้วย ว่าแต่มีอีกมั้ย พามาอีกสิ ฮิๆ”
“เดี๋ยวก่อน มันเกิดขึ้นได้ไงอ่ะ”
“ก็เพื่อนแกเมาแล้วเรื้อนขึ้นไปบนเวที อ้างว่าเป็นโฮสต์ เจ๊เห็นลูกค้าชอบ แล้วเค้าก็ดูอยากขาย ก็เลยปล่อยตามเลยน่ะสิ ดีซะอีกนะ เพื่อนแกจะได้มีเงินใช้ไง”
“ฟ๊าคคคคคคคคค”
เบย์แทบจะสติแตกเมื่อได้ยินเจ๊พูด ก่อนหน้านี้พี่อู๋โทรหาเขา บอกว่าเคลียร์กับเส้นสายเรียบร้อยแล้ว กำลังจะมารับแสงเทียนกลับ เบย์ตกใจวิญญาณแทบหลุดจากร่าง ถ้าพี่อู๋เห็นเขาออกมาแรดกับผู้ชาย แทนที่จะดูแลแสงเทียนไม่ให้คลาดสายตาอย่างที่รับปากไว้ เขาคงได้ตายเซ่นอารมณ์โกรธของลูกพี่แน่ๆ เลยไหว้วอนขอไอ้ฝรั่งเก๊ให้พากลับมาส่ง แลกกับการถูกจับกดในรถหนึ่งยก และเมื่อมาถึง อีเว้นต์ที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ทำให้เขาอยากตายจริงๆ
“ตายๆๆๆ ถ้าพี่อู๋รู้กูตาย!”
“แกจะโวยวายทำไมเนี่ย”
“ไม่โวยได้ไงล่ะเจ๊ ผัวเค้ากำลังจะมาตามอ่ะ!”
“ว้าย! จริงเหรอ! มีผัวแล้วทำไมไม่บอก” เจ๊เอามือทาบอก สีหน้าตระหนกตกใจ
“คงประชดมั้งผมว่า แล้วตอนนี้เค้าอยู่ไหน” เบย์ถามอย่างร้อนรน
“ข้างบน” เจ๊เอ่ย ก่อนจะชิ่งหนีไปอย่างไว กลัวผัวเด็กใหม่มาแล้วจะซวยเอา
ทันใดนั้นก็มีใครบางคนเดินเข้ามาแตะไหล่เบย์จากข้างหลัง หนุ่มน้อยสะดุ้งเฮือกหัวใจหล่นไปอยู่ส้นตีน ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร มือใหญ่เหมือนเปรตขนาดนี้ จำเขาได้แม้เห็นแค่ข้างหลังแบบนี้ ไม่มีทางเป็นคนอื่น
เขาค่อยๆ หันไปมองช้าๆ แล้วน้ำตาก็พลันจะไหล
“เหี้ย........”
“เรียกเฮียว่าเหี้ยเหรอ” โจรอู๋ดีดหูลูกน้องหนึ่งที แต่เบย์ชาจนไม่รู้สึกรู้สาใดๆ ทั้งสิ้น
“ทะ... ทำไมเฮียมาไวจัง”
“ก็บ้านเพื่อนกูอยู่ใกล้แค่นี้” ลูกพี่บอก “แสงเทียนอยู่ไหน”
“........” เงียบ นิ่ง แข็งทื่อ
“ไอ้เบย์ ข้าถามว่าเมียข้าอยู่ไหน” โจรหนุ่มจับไหล่ลูกน้อง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบ เอาแต่ก้มหน้า “รีบพาไปหาเร็ว ใจจะขาดแล้วรู้มั้ย”
เบย์กัดปากตัวเองจนได้รสเลือด กรามแข็งจนขยับไม่ได้
“ไอ้เบย์ มึงเป็นเหี้ยไร”
“คะ...คือว่า...แสงเทียน”
“แสงเทียนทำไม”
“แสงเทียนขายตัว...”
ผัวะ!หมัดหนักๆ จากพี่ชายซัดเปรี้ยงใส่ใบหน้าซีกซ้ายของเบย์เหมือนสายฟ้าฟาด หนุ่มน้อยเห็นดาวเดือนกระจายเต็มฟ้า
“มึงปล่อยให้เขาทำแบบนั้นได้ยังไง! ควายเอ๊ย!!!!”
“โอ๊ย... ผมไม่รู้เรื่องนะ!”
“กูสั่งให้มึงดูแลเขาอย่าให้คลาดสายตา! แล้วมึงไปทำห่าอะไรอยู่ไอ้เบย์!!!”
“ผม...ผมไปขี้!” เบย์โกหกเลิ่กลั่ก “ออกมาอีกทีเจ๊ก็บอกว่าแสงเทียนถูกซื้อตัวไปแล้ว แค่ไม่กี่นาทีนี่เอง ไม่รู้แอบเข้าไปในนั้นได้ยังไง”
โจรอู๋โกรธจนแทบจะร้องไห้ “ไอ้สัส! เหี้ยแม่ง!!!! กูไม่น่าปล่อยให้เขามากับมึงเลย!”
“ผมขอโทษนะเฮีย ผมเชื่อใจเขาอ่ะ ไม่คิดว่าเขาจะทำ”
“ขอโทษแล้วมันหายไหม!!!”
“ใจเย็นก่อนนะ เขาอาจจะยังไม่ได้ทำอะไรกันก็ได้ ถ้าเราตามทัน” เบย์บีบแขนลูกพี่หวังให้อารมณ์เดือดพล่านเบาบางลง แล้วเข้าไปถามบาร์เทนเดอร์หน้าญี่ปุ่นซึ่งอยู่ใกล้ๆ “พี่เคียว เห็นเทปรึเปล่า”
“ใคร?”
“เพื่อนผมเอง ผิวขาวผมดำหน้าหวาน ใส่เสื้อฮู้ดเหลืองลายจัสตินบีเบอร์”
“อ๋อ คนนั้นแน่เลย เห็นออกจากห้องดำแล้วขึ้นไปชั้นบนนะ”
“ขอบคุณฮะ!”
“เฮ้ย อย่าไปรบกวนเขาเลยน่า พี่ชงไวอากร้าให้หมอนั่นไปตั้งสองแก้ว ป่านนี้คงกำลังคึกอยู่ ฮิๆ”
ผัวะ!!!!หมัดจากชายปริศนาพุ่งกระแทกหน้าบาร์เทนเดอร์หนึ่งที ทำให้เจ้าตัวหมดสติคาเคาน์เตอร์ไปเลย
“เอาห่าไรให้เมียกูแดก! ไอ้สันขวาน!!!”
“อย่าชกมั่วสิเฮียก็!” เบย์แยกเขี้ยวใส่ลูกพี่ “รีบไปข้างบนเถอะ!”
.....
ร่างกายของเราเปลือยเปล่า
เฉิน... เฉินอะไรซักอย่าง ซุกหน้าอยู่ที่หว่างขาของผม กำลังลากลิ้นโลมเลียพื้นที่อันอ่อนไหวและไวต่อความรู้สึกของผมอย่างเร่าร้อน ผมกระดากอายหน่อยๆ เพราะไม่ชอบให้ใครทำแบบนี้ให้ จริงๆ ก็ห้ามแล้วนะ แต่คนนี้เป็นสายเผด็จการ บอกว่าจ่ายสามล้านแล้วก็ต้องตามใจลูกค้า...
รู้หรอกว่าทำแบบนี้ไม่ดี ไอ้หมอนี่เกือบทำผัวเก่าผมตาย แถมยังจะพาผมไปขายเมืองนอก
แต่สติสัมปชัญญะของผมอ่อนแอเหลือเกิน ไม่อาจต่อสู้ความผิดชอบชั่วดี ร่างกายก็อ่อนระทวยเกินกว่าจะขัดขืน มิหนำซ้ำความต้องการยังพุ่งพรวดราวกับปรอท เอาเถอะน่ะ... ไงๆ เราก็มีแต่ตัวเปล่าเท่ากัน แถมยังอยู่ตั้งชั้นสาม มันคงไม่ฉุดผมไปง่ายๆ หรอก...
อีกอย่างอีกอย่าง... หล่อระดับนายแบบขนาดนี้ไม่ใช่จะหาแดกง่ายๆ ได้ลองสักทีก็ถือเป็นแจ็คพ็อตชีวิตไม่ใช่เหรอ... คิกๆๆ
ผมปลดปล่อยออกมาทั้งที่ปากของมันยังคาอยู่ ไอ้มาเฟียเลียเก็บเกลี้ยงทุกหยดแล้วเอาของตัวเองมายัดใส่ปากของผมบ้าง ทำเอาผมสำลักเนื่องจากขนาดใหญ่คับปากกับความยาวที่ลงไปถึงในคอ จากนั้นก็บำเรอให้มันอย่างสุดความสามารถ อมแล้วดูดอยู่ห้านาทีก็หลั่งใส่เต็มปากผมจนล้นเลอะหมอน ก่อนจะถอนออกแล้วเอาส่วนที่เหลือติดปลายไล้ใบหน้ากับหัวนมของผม ประหนึ่งจิตรกรบรรเลงพู่กันบนผืนผ้า
“เมียโจรเรอะ”
เจ้าพ่อปักกิ่งถูโคนบนรอยสักของผมไปมา จะว่าไปก็เหมือนหมาต่างถิ่นเยี่ยวทับรอยเจ้าถิ่นตัวเดิม
“ไม่เป็นไร เฮียก็เป็นโจร”
ความร้อนในกายผมลดลงครึ่งหนึ่งหลังจากการหลั่งเมื่อครู่ เหลืออีกครึ่ง...หรือก็คือหนึ่งแก้วที่ยังคงไหลเวียนในกระแสเลือด ผมต้องการเอามันออกให้หมดโดยเร็วที่สุด ก่อนที่สติจะชิงแตกตัดหน้า
“เมื่อไหร่จะใส่เข้ามาซักที”
ผมจับไอ้นั่นของไอ้นั่น ที่มันเอาแต่ทาถูๆ อยู่ที่นมนั่นแหละ รูมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นมั้ยล่ะ
“แซบเหมือนกันนะเรา ไม่สงสัยเลยว่าทำไมไอ้อู๋ถึงหวงนักหนา...”
มันยิ้มอย่างชอบอกชอบใจ ก่อนจะหยิบถุงยางมาฉีกด้วยปากแล้วใส่ ตามด้วยถ่มน้ำลายใส่ฝ่ามือแล้วเอาถูที่ก้นของผม สอดใส่นิ้วเข้ามาสำรวจเส้นทาง ทำผมครางออกเสียง
“อืออออ”
“น่ารักฉิบหาย แม่งเอ๊ย” มันก้มหน้าลงกัดต้นขาด้านในผมจมเขี้ยว
“โอ๊ย!”
ผมสะดุ้งเฮือก ถีบอกมันหงายหลังตึง แต่มันหัวเราะไม่ถือสาแล้วลุกขึ้นมาจับขาสองข้างผมยกขึ้นพาดบ่า หายใจดังหืดหาด จับแท่งจ่อแล้วเตรียมยัดหัวเข้ามา แต่ก็ต้องหยุดชะงัก
ปังๆๆๆ!!!!“เหี้ยที่ไหนวะ!”
คนที่อยู่เหนือร่างผมสบถฉุนเฉียว ผมก็เซ็งเหมือนกันที่โดนขัดจังหวะ ทว่าเราก็ไม่ผละจากกัน กระทั่งได้ยินเสียงตะโกนข้างนอก
“แสงเทียนอยู่ข้างในใช่มั้ย!”
เบย์นี่นา ทำไมกลับมาไวจัง
โครมมมมม!!!ไม่ทันได้ฟังคำตอบจากผม ประตูไม้ก็ถูกถีบอย่างแรงจนกลอนหลุดกระแทกผนังดังตึง คนถีบยืนอยู่หน้าห้องมองเข้ามาด้วยดวงตาถมึงทึงราวกับเพชฌฆาตแดนประหาร ผมถึงกับหยุดหายใจเมื่อได้สบตากับมัน ความต้องการทางเพศและความมึนเมาแทบหายสิ้น
มันไม่พูดอะไรทั้งนั้น แต่ถลาเข้ามาถีบหน้ามาเฟียเต็มแรง พลังตีนระดับควายป่าคลุ้มคลั่งผสมช้างตกมันทำเอาคนโดนถีบปลิวตกจากเตียงหัวกระแทกขอบโต๊ะหมดสติทันที หมดท่ามาเฟียโหดเมื่อคืนก่อนโน้นสิ้นเชิง แต่คนกระทำก็ยังไม่สาแก่ใจ กระโจนเข้ามาทั้งกระทืบเตะต่อยจนเลือดอาบหน้า ผมใช้สติครึ่งๆ กลางๆ หยิบบ็อกเซอร์ที่หล่นบนพื้นขึ้นมาใส่ด้วยมือไม้สั่นเทาแล้วร้องห้าม
“พอได้แล้ว! เดี๋ยวเขาก็ตายหรอก!”
“ยังจะมีหน้าไปห่วงมันอีก!!!!”
โจรอู๋เอาเท้าออกจากหน้าของคู่อริแล้วเข้ามาฉุดแขนผมลากเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเปิดฝักบัวสุดแรงใส่หน้าผม
“ทำอะไรของมึงวะ!”
“ล้างเสนียด!!!”
“เจ็บนะไอ้เหี้ย! แค่ก! โอ๊ย!”
โจรสารเลวเอาฝ่ามือหนาดั่งกีบตีนควายลูบหน้าลูบตัวผมอย่างป่าเถื่อนจนสำลักน้ำนับครั้งไม่ถ้วน เหมือนจะล้างเอาคราบต่างๆ ที่ชายอีกคนฝากทิ้งไว้ออกให้เกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่เศษหางอสุจิสักตัวเดียว ผมเกือบตายใต้ฝักบัวแล้วถ้ามันไม่เห็นผมร้องไห้สะอึกสะอื้นก่อน เลยยอมหยุดและพาออกจากห้องน้ำ หยิบเสื้อกับกางเกงมาสวมให้อย่างลวกๆ และรุนแรง ก่อนจับผมอุ้มพาดบ่าลงบันไดมาข้างล่าง
“ฝากเก็บศพเหี้ยนั่นด้วยไอ้เบย์!”
“ค...ครับเฮีย”
“ไอ้เลว! มึงทำแบบนี้กับกูทำไม!”
ผมทุบหลังมันด้วยพละกำลังอ่อนด้อย แต่ความโกรธแค้นมหาศาล มันไม่ตอบแต่หายใจฮึดฮัดแรงมากเหมือนพายุเข้า พอออกมานอกร้านแล้วมันก็ปล่อยผมลงจากบ่า ก่อนจะฉุดกระชากลากถูเหมือนหมูหมาเข้ามาในซอยเปลี่ยว
“ปล่อยนะ! มึงไม่มีสิทธิ์ในตัวกู!”
“มี นี่ยังไม่ตีสามเลย” มันเถียง
“กูแค่พูดลอยๆ หรอก มึงน่ะเสียกูไปตั้งแต่ตอนที่แจ้นไปนอนกับเขาแล้ว รู้ไว้ซะ!” ผมรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ผลักมันออกจากตัวอย่างรังเกียจเดียดฉันท์ “เอาจริงนะอู๋ กูยอมเป็นกะหรี่ ยอมให้ไอ้มาเฟียเหี้ยนั่นซั่มยังดีกว่ากลับไปอยู่กับผัวคิดไม่ซื่ออย่างมึง!”
“มันจะมากไปแล้วนะแสงเทียน!!!”โจรอู๋ตะโกนจนหูผมชา ร่างกายมันสั่นสะท้านเหมือนแผ่นดินไหว ดูทั้งโกรธแค้นเสียใจและผิดหวังในตัวผมอย่างที่สุด เป็นสายตาแบบเดียวกับที่ผมมีต่อมันเมื่อวันก่อนตอนจับได้ว่ามันนอนกับคนอื่น
แล้วน้ำตามันก็ไหล
เชี่ย คนอย่างมันร้องไห้เป็นด้วยเหรอ... เหอะ แต่ผมไม่ใจอ่อนหรอกบอกเลย ผมเสียน้ำตามากกว่ามันไปไม่รู้ตั้งกี่ลิตรแล้ว
“ได้กันแล้วใช่มั้ย”
มันเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือ
ผมพยักหน้า
โจรยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดหน้าแล้วหันไปทางอื่น เหมือนไม่อยากให้ผมเห็นความแตกสลายรวดร้าวในดวงตา ทว่าไหล่ที่สั่นสะท้านก็แสดงถึงใจที่เจ็บปวดเจียนตายได้เป็นอย่างดี
“เป็นไง เข้าใจความรู้สึกกูรึยัง”
ผมถามในความเงียบ
“ข้ารู้ว่าเอ็งโกรธ อยากประชด แต่ทำแบบนี้มันเกินไปรู้มั้ย มากกว่าที่ข้าเจ็บ คือเอ็งอาจถูกมันฆ่าเอาก็ได้ เหตุการณ์นั้นเพิ่งผ่านมาหยกๆ ทำไมถึงกล้าทำ ขอถามที”
“อย่าคิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลย กูไม่ได้ประชดมึง กูแค่เงี่ยน ถึงไม่ได้นอนกับมัน กูก็จะนอนกับคนอื่นอยู่ดีนั่นแหละ”
“แสงเทียน!” มันขึ้นเสียง บีบไหล่ผมแน่นอย่างข่มขู่คุกคาม
“ทำไม!” ผมตะคอกกลับ เงยหน้าถลึงตามองมัน “ที่กูทำมันต่างกับมึงตรงไหน! ก็ขายตัวแลกเงินเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“เลิกพูดทุเรศๆ ซักทีได้มั้ย!”
“เรื่องนี้ไม่มีใครทุเรศเท่ามึง”
ผมผลักมันออกห่างแล้วเดินหนี แต่โจรอู๋ก็คว้าผมดึงกลับไปกอดแน่นจนแทบจมลงไปในอก เหมือนยอมให้ผมตายดีกว่าหายไป
“ข้าขอโทษ อย่าเพิ่งไปเลยนะ ฟังกันก่อน”
“.....”
“ข้าไปจบทุกอย่างกับเขาแล้ว ที่มาช้าก็เพราะเรื่องนี้... ข้าไม่กล้ามาหาเอ็งทั้งที่ยังไม่ได้เคลียร์ตัวเอง ข้ารู้ว่าเอ็งมีเรื่องสงสัยเต็มไปหมด วันนี้ข้าจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง ขอแค่โอกาสสักครั้ง... ได้ไหม”
ผมจุกในอกจนพูดอะไรไม่ออก และมันก็สรุปเอาเองว่าความเงียบเท่ากับอนุญาต
“จะเล่าของไอ้เฉินเชว่ก่อน เพราะนี่คือสาเหตุของเรื่องทั้งหมด”
น้ำเสียงของมันเยือกเย็นอย่างน่าประหลาด ผมคาดว่าโทสะจะบดบังสติจนพูดจาไม่เป็นภาษาคนซะอีก ที่เป็นอย่างนี้คงเพราะมันเตรียมตัวเตรียมใจมาพูดกับผมเป็นอย่างดีแล้วมั้ง หากเอาไฟมาโหมใส่ผมที่เป็นไฟอยู่แล้ว ผลลัพธ์คงมีแต่พังพินาศ
“ข้ากับมันเคยเป็นเพื่อนกัน บริษัทของเรา... หมายถึงพ่อเรา เป็นพันธมิตรกันมานาน ข้ากับมันรู้จักกันตั้งแต่เล็กๆ ทุกอย่างปกติมาตลอดยี่สิบกว่าปี จนกระทั่งหกเดือนที่แล้วพ่อของเรายิงกันตายเป็นข่าวใหญ่โต เอ็งคงเคยอยู่มั้ง”
ผมไม่ตอบ จำไม่ได้ แต่รอฟัง
“ต่างฝ่ายต่างโทษว่าเป็นฝีมือของอีกคน แต่ไม่ว่ายังไงทั้งข้าและมันกลายก็เป็นศัตรูกันตั้งแต่นั้น ฝ่ายเสียเปรียบคือข้า เพราะบริษัทของไอ้เฉาชุ่ยใหญ่กว่า มีอิทธิพลมากกว่า กิจการของฝั่งข้ายังเป็นสีเทาๆ แต่ของมันน่ะดำสนิท มันต้องการทำลายข้าให้สมกับความแค้น เพราะครอบครัวมันมีแค่พ่อคนเดียว”
“.......”
โจรอู๋เล่ายาวรวดเดียวแทบไม่พักหายใจ แต่คนที่ลมหายใจเหมือนจะขาดหายกลับเป็นผม
นี่มึงไม่ใช่โจรไก่กาหรอกเหรอเนี่ย“ความที่แม่ข้าดูแลสาขาที่จีน มันเลยจับเธอเป็นตัวประกัน แล้วให้ข้าหาเงินไปไถ่ร้อยล้านบาท... ถ้าหาไม่ได้ภายในกำหนด มันจะส่งเธอไปขายที่ซ่อง หรือไม่ก็ฆ่าเธอ”
“เฮ้ย.......”
หัวใจของผมดิ่งวูบ หันไปประจันหน้ากับมัน แต่มันเอาแต่ก้มหน้าซบกับบ่าของผม ความเปียกชื้นที่ผมสัมผัสได้ทำให้ปราการที่แข็งกร้าวมาตลอดสองวันอ่อนทรุดยวบทันทีราวกับปราสาททรายโดนคลื่นซัด มุมมองของผมที่มีต่อมันก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังตีนทันที
เพราะอย่างนี้เองเหรอ...
ที่มันต้องหาเงินมากมายก็เพราะไปเอาไปช่วยแม่เองเหรอ“ตอนนั้นข้าเหมือนโลกทั้งใบพัง... พังยิ่งกว่าตอนพ่อตาย มองไปทางไหนก็ไม่เจอความหวัง เหี้ยกว่านั้นคือมันห้ามไม่ให้ข้ายืมเงินใคร มันจะตรวจสอบย้อนหลังทุกบาท ถ้ารู้ว่าใครให้ข้ายืม มันจะเล่นงานไม่ไว้หน้า ข้าเลยต้องมาเป็นโจรปล้นชาวบ้าน... แต่เพื่อนข้า เส้นสายคนนั้น เขาอยากช่วย เพราะรู้ว่าข้าจะต้องลำบากมากๆ”
“เขาชื่ออะไร” ผมถามเสียงเรียบ
“ชื่อทิวา เป็นนักสืบเอกชน” โจรอู๋ถอนหายใจเบาๆ “และตอนนี้ก็กำลังรับผิดชอบคดีการหายตัวไปของเอ็งด้วย”
“อะไรนะ........” ความช็อกโจมตีผมอีกระลอก
“เพราะอย่างนี้ไงข้าถึงไม่อยากบอก ข้ากลัวเอ็งโกรธ แล้วก็... กลัวเอ็งยังมีใจให้ผู้ชายคนนั้นอยู่”
คงจะหมายถึงเฟลม
ใช่สิ ผมไม่ได้คิดถึงเฟลมนานแค่ไหนแล้วนะ...?
“กูโกรธที่มึงอมพะนำไม่บอกความจริงมากกว่า” ผมบอกอย่างฉุนๆ “แล้วเขากับมึงมีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่”
โจรอู๋มีสีหน้าลำบากใจเหลือล้น
“แลกกับความช่วยเหลือที่เขาปิดบังความผิดให้ข้า รวมทั้งอำนวยความสะดวกเรื่องต่างๆ... ข้าต้องจ่ายเป็นร่างกายในการตอบแทน”
คิดไว้แล้วว่าคำตอบต้องเป็นอย่างนี้ แต่มันอดจี๊ดไม่ได้
“ข้าผิดที่เป็นฝ่ายเสนอเงื่อนไขนั้น เพราะไม่อยากเอาเปรียบเขาฝ่ายเดียว แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะทำลายทุกอย่างในอนาคต...มันเป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เจ็บปวดเสมอเมื่อจับต้อง เหมือนเสี้ยนชิ้นใหญ่ฝังลึกมากๆ ที่ให้เราเลือกว่าจะผ่าออก หรือจะปล่อยให้มันทิ่มตำเราไปเรื่อยๆ จนวันตาย”
“...”
“แต่สุดท้ายข้าก็เลือกที่จะตัดทิ้ง คืนบ้านคืนรถให้เขา แล้วก็จะหาเงินมาคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ไม่ให้ติดค้างต่อกัน ตอนนี้ข้าเหลือแต่ตัวเปล่าจริงๆ ข้าทิ้งทุกอย่างเพื่อมาหาเอ็ง... เพื่อเอ็งคนเดียว”
“.......”
“ข้าน่ะเหี้ยมาทั้งชีวิต แต่จากนี้ก็อยากเป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อเอ็งนะ”“... มึงแม่ง”
ผมรู้สึกร้อนขอบตา เลยหันหลังให้มันอีกครั้ง
ผมพูดผิดไปว่ามันเหมือนเฟลม แต่ไม่ใช่เลย มันต่างกับเฟลมมาก คนนั้นทิ้งผมที่อยู่กันมาสามปีเพื่อไปเลือกคนที่รู้จักแค่สามเดือนเพราะชื่อเสียงเงินทอง แต่ไอ้หมอนี่กลับทิ้งเงิน ทิ้งคนที่ซัพพอร์ตมันในทุกสถานะมาเป็นสิบๆ ปีเพื่อผมที่อยู่ด้วยกันแค่ช่วงสั้นๆ และมีแค่ตัวเปล่า คนอย่างมันถ้าไม่โง่ก็บ้ามากๆ อ่ะ... เวรเอ๊ย
“แต่กูมาทีหลังไม่ใช่เหรอ แสดงว่ามึงกับเขารักกันมาก่อน ส่วนกูก็เป็นมือที่สาม กูไม่ดีใจหรอกนะที่แย่งของคนอื่นมา” ผมว่า
โจรอู๋พ่นลมออกจมูกอย่างฉุนเฉียว
“มาก่อนแล้วไง ข้าไม่ได้คิดกับเขาเหมือนที่คิดกับเอ็ง ทุกอย่างเป็นไปเพราะสถานการณ์บีบบังคับกับผลประโยชน์ล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวกับความรักเลย ต่อให้ข้าไม่เจอเอ็ง ข้าก็ไม่ได้รักเขาอยู่ดี”
โอเค ชัดเจน“แต่เขาคงรักมึง ใช่มั้ย”
“...ฮื่อ” มันพยักหน้านิดๆ
“ทิ้งเขาแบบนี้ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ”
“ข้าคิดว่าคนเห็นแก่ตัว คือคนที่รั้งอีกคนไว้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาไม่มีวันรักเราได้มากกว่า”
“......”
“ข้ารู้สึกผิดที่ทิ้งเขา แต่ข้ารู้มาตลอดว่าจะอยู่กันแบบนั้นตลอดไปไม่ได้ เราไม่สามารถพัฒนาไปเป็นคนรัก แต่ก็กลับไปเป็นเพื่อนไม่ได้ด้วย สุดท้ายไม่วันใดวันหนึ่งก็ต้องจากกันอยู่ดี”
“มึงไปพูดกับเขาแบบนี้เหรอ”
“อืม”
“แรงมากนะ ไม่กลัวเขาแค้นแล้วแว้งกัดรึไง”
“อะไรจะเกิดก็เกิดเถอะ แต่ข้าจะไม่ยอมเสียเอ็งไปแน่ๆ”
“.........”
หัวใจผมเต้นผิดจังหวะ แล้วก็เกิดกระแสอุ่นๆ จากหัวใจแผ่ซ่านไปทั่วร่าง...มันเป็นความรู้สึกที่โคตรดี ยิ่งกว่าการร่วมรักไม่รู้ตั้งกี่เท่า
“ยังสงสัยเรื่องไหนอีก”
“ไม่มีแล้ว” ผมพูดห้วนๆ
“งั้น... หายโกรธแล้วใช่ม้า?”
“ไม่รู้”
“เอ้า” โจรอู๋เกาหัว ย้ายมาอยู่ตรงหน้าผม ก้มตัวลงเล็กน้อยจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกัน “หนูจะเอาอะไร ยังงอนตรงไหนอีกล่ะครับคนดี หืม? นี่พี่ก็เล่าหมดเปลือกแล้วนะครับ ลึกกว่านี้ก็รหัสดีเอ็นเอล่ะจ้ะ”
“เชี่ย!” ผมฟาดแขนมันแรงๆ “พูดเหี้ยไรเนี่ย ขนลุก!”
“พูดเพราะๆ ไม่ชอบ ชอบคำหยาบเหรอ”
“เออ ขอร้องล่ะ อย่าพูดสำเนียงนั้นอีกนะ”
ใจกูจะวายไอ้สัด...น่ารักเกินมันเห็นท่าทีผมอ่อนลงก็หัวเราะคิก แล้วผมก็ถูกสวมกอดอย่างแนบแน่นอีกครั้ง มันเอาหน้าหนวดๆ ถูนัวเนียหน้าเนียนๆ ของผมจนแอบคัน... แต่ก็เป็นความน่ารำคาญที่โคตรรู้สึกดี แบบทุกทีเวลาที่เรานอนกอดกัน... อ้อมกอดของมันก็ทำให้ผมเหมือนอยู่ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ ทั้งได้รับพลังและอบอุ่นในเวลาเดียว ริมฝีปากที่ประทับตรงขมับ หน้าผาก เปลือกตา ปลายจมูก และแก้ม ก็ล้วนนุ่มนวลอ่อนหวานดั่งน้ำผึ้งชโลมใจที่แห้งเหี่ยวของผมให้ฟื้นคืนชีพ
ไม่น่าเชื่อว่าห่างกันแค่ไม่ถึงสี่สิบแปดชั่วโมง ผมจะโหยหาสัมผัสของมันมากกว่าที่รอใครบางคนมาทั้งชีวิตซะอีก และก็ยิ่งตอกย้ำว่าผมคงขาดมันไม่ได้แน่ๆ
“กลับมาอยู่ด้วยกันนะ”
มันกระซิบข้างหูผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เจือแววออดอ้อนเล็กๆ
ผมไม่ตอบ แค่พยักหน้านิดเดียว
“ขอบคุณนะ... ข้าคิดถึงเอ็งมากเลยรู้มั้ย”
ผมเอ่ยเสียงเบาและสั่นเครือ
“...กูก็คิดถึงมึง”
พลันน้ำตาผมก็ไหล ด้วยความตระหนักรู้ว่าคิดถึงมันมากจริงๆ แล้วก็เอ่ยออกมาเสียงแผ่ว
“ขอโทษนะที่ทำอะไรสิ้นคิด”
“ไม่เป็นไร คนเราพลาดกันได้ ข้าก็ทำผิดกับเอ็งตั้งหลายเรื่อง... เอาเป็นว่าหายกัน โอเคมั้ย”
“ถ้ามีอีก กูจับเฉือนคาเตียงแน่บอกเลย”
โจรอู๋หัวเราะ เอียงหน้าจูบผมอย่างดูดดื่มเต็มปากเต็มคำ ผมก็โอบแขนรัดรอบคอมันแล้วจูบตอบอย่างหนักหน่วงไม่แพ้กัน เราจูบแบบแทบไม่พักหายใจเกือบนาที ราวกับจะบอกเป็นนัยว่าใครคิดถึงใครมากกว่า
“อย่าหนีไปไหนอีกนะ”
“อื้อ...ไม่หนีแล้ว”
มันกัดปากผมเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว “ได้ยินว่าซัดไวอากร้าเข้าไปเหรอ หืม คุณโฮสต์”
“สองแก้ว...”
โจรผลักผมหลังชิดกำแพง ดึงขอบกางเกงร่นลง แล้วบีบก้นผมหมับอย่างคันไม้คันมือ
“รออะไร... ยกขาขึ้นสิจ๊ะ”
///
มาแล้วนะ แต่จะโดนแบนมั้ย 5555
พี่เว็บไม่เท่าไหร่ กลัวแต่คนอ่านจะรับไม่ได้ แงงง T^T
พยายามหาทางลงให้ปัญหาแบบเมคเซ้นส์มากที่สุด
คือถ้าไม่ได้....กับเฮียมาเฟียเลย นี่ว่าเป็นไปไม่ได้ค่ะ ละครเกิน
แต่ถ้าเลยเถิดกว่านั้น คนเขียนเองค่ะจะรับไม่ได้ T.T
ความตั้งใจแรกที่เขียนเรื่องนี้เลยคือ ต้องการแหกค่ะ
แหกกฎของนิยายวาย หรือนิยายทั่วไป ว่านายเอกจะต้องใสซิง
ถึงได้ให้เค้ามีสามีมาก่อนเจอพระเอก แล้วก็ผ่านอะไรมาโชกโชนสุดๆ
อยากให้เข้าใจพาร์ทนี้ว่าแสงเทียนเขวมาก เศร้ามาก เมามาก และฮีทมาก
เลยทำอะไรแบบนั้นลงไป อยากให้มองเขาในฐานะมนุษย์มากกว่าภาพจำของนายเอกในอุดมคติน่ะค่ะ
แต่ยืนยันว่าจากนี้จะไม่มีฉากชวนใจหายใจคว่ำประเภทนี้อีกแล้ว
ขอบคุณที่ทนอ่านจนถึงตรงนี้ค่ะ นับถือใจคนที่ยังอยู่ด้วยมากๆ เลย TwT
รักน้าาา