┤ ราคา ◇ ค่า ◇ รัก ├
งวดที่ 20.5 HIDE AND SEEK
“ธัญญ์”
เสียงเรียกนั้นทุ้มต่ำ ลอยเรี่ยอยู่ข้างหู
“ครับ?”
“เรามาเล่นซ่อนหากันไหม?”
เขาทวนคำ “ซ่อนหา?”
“ใช่”
“ใครหาล่ะ”
“เป่ายิงฉุบกัน ใครแพ้เป็นคนหาก่อนเป็นไง”
ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคิดนาน เขาพยักหน้าหงึกหงัก ซ่อนมือไว้ข้างหลัง ยิ้มกริ่มอย่างมั่นใจ เยาว์วัยเกินกว่าจะตระหนักได้ถึงนิสัยตัวเองที่มักออกกรรไกรก่อนอย่างอื่น
“ว้า แพ้ธัญญ์อีกจนได้”
ตกลงกันด้วยวิธีนี้ทีไร เขามักเป็นฝ่ายชนะเสมอ รอยยิ้มบนใบหน้าเด็กน้อยคลี่ออกกว้างกว่าเก่า สดใสน่าเอ็นดูอย่างที่ใคร ๆ พากันบอกว่าเหมือนเทวดาตัวน้อย
“คุณพ่อเป็นคนหา”
“ครับ ๆ”
ถ้อยคำตอบรับเสียงนุ่มนวล พร้อมรอยยิ้มอ่อนใจน้อย ๆ บนริมฝีปาก มือใหญ่ยีบนเส้นผมอย่างสุดแสนเอ็นดู จากนั้นค่อยดันหลังเขาเบา ๆ ให้ไปหาที่ซ่อน ก่อนจะเริ่มต้นนับหนึ่งถึงตัวเลขไหนสักตัวที่เขาเองก็ลืมไปแล้ว
ภายในรั้วรอบของชิด ทั้งนอกและในตัวบ้านมีหลายจุดให้ซ่อนตัว เขาเคยหลบอยู่ในซอกหลืบมืดทึบ ในมุมอับที่ปกติไม่มีใครให้ความสนใจนัก หรือหลังพุ่มไม้สูงใหญ่เกินขนาดร่างกาย อยู่ลำพังตรงจุดลับตา ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อคุณพ่อเดินเฉียดเข้ามาใกล้ หายใจให้แผ่วเบาที่สุด ทั้งที่ใจเต้นตึกตักเสียแทบแย่
จะถูกเจอแล้ว..
จะโดนจับได้แล้ว..
ธเนศมักมองผ่านเลยจุดซ่อนตัวของเขาไปในคราวแรก คล้ายว่าจะมองเห็น...แววตาอ่อนโยนทอดมองมายังตำแหน่งที่เขาขดตัวอยู่ แต่สุดท้ายกลับเบนสู่ทิศทางอื่นแล้วเดินผ่านเลยไป
ทว่าเพียงไม่นาน ยังไม่ทันได้ถอนใจด้วยความโล่งอกด้วยซ้ำ อีกฝ่ายก็จะวกกลับมาใหม่พร้อมรอยยิ้มกว้าง เอื้อมมือเข้ามาใกล้...
ฝ่ามือที่ใหญ่จนคิดว่าถึงจะรีบโตอย่างไรก็คงไล่ตามไม่ทันยื่นมาอยู่ตรงหน้า บดบังลานสายตาจนราวกับโลกทั้งใบของเขาอยู่ใต้ฝ่ามือนั้น
“หืม?”
ไม่มีที่ไหนในบ้านที่คุณพ่อหาเขาไม่เจอ
“อ๊ะ!”
ถูกเห็นเข้าแล้ว
แต่ในเมื่อคนหายังไม่เอ่ยคำว่า ‘โป้ง!’ ออกมาก่อน ตามกติกา หากเขารีบออกไปแตะตัวฝ่ายนั้นได้ ตนก็ยังเป็นผู้ชนะอยู่ดี รอบหน้าจะได้เป็นผู้ซ่อนอีกครั้ง
“แปะ!” เขาร้องเสียงดัง เอามือสัมผัสแขนคนตรงหน้า
“อ้าว!”
“คุณพ่อแพ้แล้ว”
“จนได้สิน่า!” ฝ่ายนั้นเอ่ยพลางหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ กางแขนรอให้โผเข้าไปหา จากนั้นรวบตัวเขาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด กดจมูกลงตรงกลางกระหม่อมฟอดใหญ่ ดูไม่เดือดร้อนกับการต้องกลับไปเป็นผู้หาซ้ำ ๆ แม้ว่ายังโอบรัดวงแขนอยู่นาน กว่าจะปล่อยเขาวิ่งไปซ่อนตัวอีกหน
เขาเคยดูสารคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่า ผู้ล่าที่ปล่อยให้เหยื่อวิ่งหนีเพื่อความสนุก จับกลับมา แล้วปล่อยออกไปใหม่ ค่อยจับกลับมาอีกครั้ง ซ้ำไปซ้ำมากระทั่งหมดแรงจะหนี แต่ช่วงเวลานั้นไม่เคยรู้สึกถึงความคล้ายคลึงมาก่อน จวบจนความสัมพันธ์ฉันพ่อลูกพังทลายลงในภายหลัง ความตื่นเต้นขณะซุกอยู่ในซอกหลืบมืดมิดเมื่ออดีต กลับนำความรู้สึกขนลุกขนพองมาสู่ตัวเขาที่เติบโตขึ้นอย่างบิดเบี้ยว
“เอาแล้วนะ”
สิ้นเสียงประกาศนั้นของธเนศ ธัญญ์ในวัยเด็กยกมือขึ้นปิดปาก บางครั้งก็เผลอกลั้นหายใจ นั่งขดตัวเฝ้ารอด้วยใจเต้นระรัว
“ธัญญ์...”
คุณพ่อมองเห็นเขา
แต่ไม่ได้เอ่ยปากคำว่า ‘โป้ง’ ออกมาก่อนสักที เขาจึงชนะอีกแล้ว..เขาชนะเกือบทุกครั้งไปนั่นละ
“..ธัญญ์..”
ทั้งที่รู้ว่าจะชนะแน่นอน แต่ทั้งร่างกลับยังสั่นเทิ้มอยู่เสมอ ในวินาทีที่สบตากับอีกฝ่ายจากเงาสลัวในที่ซ่อน
“..ธัญญ์...”
ไม่มีจุดไหนในบ้านที่ธเนศหาเขาไม่เจอ..
“...ธัญญ์...”
เขาเงยขึ้นมองฝ่ามือที่เหมือนเป็นโลกทั้งใบในวัยเด็ก และแขนทั้งสองข้างซึ่งกางออกกว้างตรงหน้า
ก่อนจะโผเข้าไปในอ้อมกอดนั้นเฉกเช่นทุกที
“ธัญญ์”
“ครับ?”
“เรามาเล่นซ่อนหากันไหม?”
เมื่อถามเช่นนั้น ธัญญ์มักทำตาโตอย่างกระตือรือร้น บางครั้งก็ทวนคำด้วยน้ำเสียงใสแจ๋วที่ยังไม่แตกวัยหนุ่ม
“ซ่อนหา?”
“ใช่” เขาพยักหน้า
“ใครหาล่ะ?”
“เป่ายิงฉุบกัน ใครแพ้เป็นคนหาก่อนเป็นไง”
นัยน์ตาดำขลับทอประกายสดใสของวัยเยาว์ ใสซื่อแต่กลับดูล่อลวงอยู่ในที จนมักทำให้คนมองเกิดความลังเลเสมอ เหมือนดอกไม้บอบบางที่อยู่บนต้น หากเห็นเข้าจะทำอย่างไร? เพียงแค่มองอยู่เฉย ๆ หรือเด็ดมาใส่แจกันสักใบที่คู่ควรไว้ชื่นชมใกล้ ๆ
แต่จะต่างกันตรงไหน เพราะไม่ว่าทางใด สุดท้ายก็ต้องโรยราอยู่ดี
เจ้าตัวเล็กพยักหน้า ระบายยิ้มจนตาหยี
ผู้คนมักลงความเห็นว่าดวงตาของเด็กคนนี้เหมือนกับคุณแม่ผู้อ่อนโยนของเจ้าตัว แต่น้อยคนนักจะรู้ ว่าแท้จริงแล้วเด็กคนนี้ตาเหมือนพ่อแท้ ๆ ของตัวเองต่างหาก
“เป่า ยิง ฉุบ!”
ธัญญ์ออกกรรไกร เขาออกกระดาษ
ธเนศมองมือตัวเองที่ยังแบออก ข้างกันกับมือน้อย ๆ ที่กำไว้โดยยื่นนิ้วออกมาสองนิ้ว
“ว้า แพ้ธัญญ์อีกจนได้”
กว่าธัญญ์จะตระหนักว่าตัวเองมักเลือกออกแต่กรรไกรเป็นอย่างแรก พวกเขาก็เลิกเล่นซ่อนหาแบบเดิม ๆ กันแล้ว
ธเนศใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้มาแต่เล็กจนโต รู้จักทุกซอกทุกมุมในบ้านดี รู้ยิ่งกว่าพ่อแม่ของตัวเองที่เคยอาศัยอยู่ตั้งแต่เขายังไม่เกิด และพากันย้ายออกไปอยู่บ้านสวนเงียบสงบที่ต่างจังหวัดเพื่อใช้ชีวิตบั้นปลายกระทั่งจากโลกนี้ไปเสียอีก
ที่แห่งนี้เป็นของเขา ทุกซอก ทุกมุม ทุกอณูอากาศ ยังมีตรงไหนที่เขาไม่รู้จักอีกหรือ
ฝีเท้าเบาหวิวย่องผ่านไปด้านหลัง เด็กน้อยฉลาดพอจะขยับตัวได้อย่างเงียบเชียบและระมัดระวัง แต่ใสซื่อเกินไปที่คิดว่าผู้ใหญ่อย่างเขาซึ่งทำทีเป็นฟุบหน้าลงกับแขนตัวเองจะไม่ลอบมองอยู่
ในเกมซ่อนหาแสนธรรมดานี้ จิตใจส่วนลึกอดปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาชอบมองเจ้าของแผ่นหลังเล็ก ๆ นั้นวิ่งห่างออกไป ก่อนจนมุมที่ไหนสักแห่ง และสุดท้ายจะต้องหมุนตัวกลับมาอยู่ในวงแขนคู่นี้
วิ่งเถอะ ซ่อนเถอะ ขดตัวอยู่ในมุมเล็ก ๆ ซึ่งไม่มีที่ให้ถอยอีก
บางที..มันอาจไม่ใช่การเล่นซ่อนหา ทว่าคือการไล่จับ
แต่จะเป็นแบบไหนก็ช่างเถอะ
“ธัญญ์”
เขาเรียกเบา ๆ ทำเป็นมองไม่เห็นร่างที่นั่งคู้อยู่หลังซอกระหว่างบานประตูห้องเก็บของที่เปิดค้างไว้กับผนัง
แล้วพ่อจะหาลูกเจอ
“ธัญญ์..”
เมื่อยื่นมือออกไป..และเมื่อเขาอ้าแขนออก
“ธัญญ์..”
เขายิ้มให้กับเด็กน้อยที่เงยหน้าขึ้นมองตอบ สบเข้ากับสีดำสนิทในแววตาที่เขาทั้งรักทั้งหวงแหนกว่าสิ่งใด มองมันค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ เมื่อเจ้าของดวงตาคู่นั้นโผเข้าสู่อ้อมกอดเขา
“แปะ!” ธัญญ์ร้องขึ้นเสียงใส “คุณพ่อแพ้แล้ว”
เขากระชับอ้อมแขน กดจมูกลงกลางกระหม่อมเด็กชายอย่างแสนรัก หัวเราะออกมาแผ่วเบา
จะในบ้านหรือนอกบ้านก็เหมือนกัน
“ธัญญ์..”
เด็กคนนี้เป็นของเขา
“ธัญญ์...”
แล้วฉันจะหาเธอเจอ
จากมุมนี้มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นลุงแช่มที่เป็นคนสวนกำลังก้ม ๆ เงย ๆ ตัดแต่งกิ่งไม้ แม้การเคลื่อนไหวเชื่องช้าลงกว่าสมัยก่อนมาก งานที่สามารถทำได้ก็พลอยถดถอยลงไปด้วย แต่อย่างไรเสียก็เป็นคนเก่าคนแก่ของบ้าน ทั้งยังสนิทสนมกับธัญญ์กว่าคนงานหรือแม่บ้านใหม่ ๆ ที่เข้ามาภายหลังเป็นไหน ๆ เลี้ยงดูไว้รอธัญญ์กลับมาไม่ถือเป็นเรื่องยากลำบากแต่อย่างใด
ธเนศขยับตัวบนเก้าอี้ตัวโปรด ทอดมองช่อไฮเดรนเยียสีน้ำเงินในแจกันใบสวย ใช้กรรไกรตัดกิ่งเล็มปลายก้านของช่อใหม่ที่เพิ่งตัดออกมาจากต้น บรรจงปักเพิ่มลงไปในแจกันอย่างระมัดระวัง คลี่ยิ้มบางเบาเมื่อนึกถึงคนที่ทำให้เขาหลงรักดอกไม้ชนิดนี้ไปด้วยอีกคน
“เย็นชา...ไร้หัวใจ...” เขาพึมพำเสียงแผ่ว โยนกิ่งที่เหลือจากการตัดทิ้งลงถังขยะ จำได้ถึงครั้งหนึ่งที่เคยคุยกับธัญญ์เรื่องความหมายของไฮเดรนเยีย พลางคิดว่าใครกันช่างให้ความหมายแสนแห้งแล้งกับดอกไม้ที่มีแต่กลีบเล็ก ๆ บอบบางเช่นนี้
ทว่าเมื่อใคร่ครวญซ้ำไปซ้ำมา กลับอดรู้สึกไม่ได้ว่ามันเหมาะกับธัญญ์มากทีเดียว
หลังนั่งจัดแจกันอยู่อีกพักใหญ่จนผลงานออกมาน่าพอใจ จึงค่อยวางมือจากบรรดาดอกไม้ หันมาสนใจแลบท็อปที่วางอยู่ด้านข้าง เลือกดูไฟล์เอกสารซึ่งเพิ่งสั่งลูกน้องให้ส่งมาทางอีเมล์
ข้อมูลพนักงานในบริษัทแบบเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล ไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากลงไปวุ่นวายนัก ตนเองวางมือจากเรื่องจุกจิกเหล่านั้นมานาน หากไม่เพราะเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับธัญญ์ คงไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด
เนื้อหาที่ได้มาส่วนใหญ่เขาพอรู้อยู่แล้ว จึงเพียงแต่กดเลื่อนผ่านตา แค่อยากตรวจดูอีกหนว่าไม่ตกหล่นจุดสำคัญตรงไหน
เขารู้ดีว่าทำเช่นนี้มีแต่จะดึงให้ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับธัญญ์ยิ่งดิ่งลงเหว ธัญญ์เองก็รู้อยู่แก่ใจเช่นกัน ว่าสิ่งที่เจ้าตัวทำอยู่ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น พวกเขาล้วนเข้าใจทั้งหมดนั้นดีอยู่แล้ว และยังคงทำร้ายกันและกันด้วยเหตุผลที่ตั้งมั่นไว้ของตัวเองเรื่อยมา ราวกับหากปล่อยมือจากเหตุผลบ้า ๆ นั่น ชีวิตนี้คงไร้ความหมาย ไม่เหลือสิ่งใดให้ยึดเหนี่ยวอีก
สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่อาจย้อนเวลากลับไปแก้ไข และปัจจุบันก็ไม่อาจชดเชย ซ้ำร้ายอนาคตก็คงไม่สามารถพยุงให้ดีขึ้น
หากเป็นปมเงื่อน พวกเขาไม่เพียงไม่ได้แก้ปมนั้น แต่ยังช่วยกันทั้งผูกและดึงรั้งให้พัวพันหนักกว่าเก่า หมดทางคลี่คลายได้อีก ยิ่งกระตุกยิ่งเกิดเป็นปมใหม่ จนกว่าจะถึงสักวันที่มันอาจขาดลง หรือไม่ก็สุดปลายเส้นเชือกไปเสียก่อน
ฝั่งความรู้สึกของธัญญ์ต่อเขา อาจเป็นความชิงชังจนไม่อาจให้อภัย โกรธเกลียดเคียดแค้นถึงขั้นจะไม่มีวันปล่อยมือ ไม่มีวันปล่อยให้เขามีความสุข แบบไหนก็ได้ที่เขาจะเจ็บปวดที่สุด ต่อให้ต้องแลกด้วยการที่ตัวเองก็จะไม่มีทางมีความสุขเช่นกัน
และในส่วนของตัวเขานั้น หากเป็นการจมทิ้งดิ่งลงที่ตัดกันไม่ขาด...ขอเพียงผูกมัดไว้ได้ไม่ว่าด้วยเงื่อนไขหรือสิ่งแลกเปลี่ยนใด เขาย่อมยินดีอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง..
คงเพราะเหตุนี้ จึงไม่มีใครยอมปล่อยมือ แม้คล้ายว่าเกาะเกี่ยวกันไว้แน่นหนา หากแต่ไม่ใช่ด้วยความรักบริสุทธิ์ชวนซาบซึ้ง เพียงแต่จิกเล็บลงไปบนเนื้ออีกฝ่ายให้ลึกที่สุด...ให้เจ็บปวดที่สุด...ก็เท่านั้น
เพราะอย่างนี้...เขาจึงมั่นใจ
ยามที่เขากางแขนออกอีกครั้ง ธัญญ์ย่อมโผเข้าสู่อ้อมกอดนี้เช่นเคยแน่นอน
To be continued...กลับมาแล้วค่ะ แบบสั้น ๆ ก่อน เป็นงวด .5 << ทำไมต้อง .5 พรากกกกส์
คือที่จริงก็อยากจะต่อเป็นงวดถัดไปเลยค่ะ แต่ตอนนี้ยังเขียนไม่ได้ เครียดกับเรียนกับงานกับคนไปหน่อยจนอารมณ์ดิ่งมาก เขียนอะไรพลอยจะดาร์ก ใจหนึ่งก็เคยอยากเขียนความสัมพันธ์ซับซ้อนชนิดเกลียดจนปล่อยมือไม่ได้อย่างนี้มานานแล้วค่ะ ด้วยสภาพ ณ ขณะนี้ เลยออกมาเป็นตอนนี้เลย
งวดหน้าเดี๋ยวปรับอารมณ์แป๊บนะคะ ฮา เราไม่ควรดราม่าก่อนเวลาอันควร (มั้ง?)
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยียนค่ะ แล้วพบกันงวดหน้า คิดว่าคงไม่เป็นเดือน (หวังว่า) ค่ะ ม้ววฟฟฟฟฟ>3<