วาเลนไทน์ปีนี้[Soul’s Part]แดดร้อนเหมือนปีที่แล้วเลย ต่างกันที่ผมไม่ได้หน้าตาบึ้งตึง สายตาผมยังจับจ้องไปที่ร้านน้ำใต้ตึกคณะตัวเองอย่างเคย วันนี้เพื่อนผมก็อยู่กันครบแบบเมื่อปีก่อนเปี๊ยบ
“เลิกทำหน้าเพ้อๆ สักที!”
“ไม่เข้าใจก็เงียบๆ น่า”
“กูไม่อินแต่หมั่นไส้โว้ย!”
“วันนี้กูเห็นมึงได้เบอร์มาหลายคนนะ”
“มายื่นให้เอง ไม่ได้อยากได้สักหน่อย”
ผมเหมือนได้มองตัวเองในอดีต ไม่ต่างกับไอ้กันเลย เล่นสนุก มีความสุขกับการที่ได้อะไรมาง่ายๆ และไม่ยั่งยืน แต่ตอนนี้ผมมีคนที่ทำให้ผมมีความสุขกว่าชีวิตเมื่อก่อนเสียอีก
ประตูร้านน้ำเปิดออก คนตัวบางเดินถือแก้วชาเขียวปั่นมาทางนี้ ท่ามกลางนักศึกษาที่พลุกพล่าน ในสายตาผมกลับเห็นแต่เขา...ผมมันเพ้อจริงๆ นั่นแหละ
“ไม่กินอะไรจริงดิ”
“อยากกินกับพี่”
เขาส่งเสียงเหอะ วันนั้นบังคับให้ผมกินเค้กชาเขียวจนหมด ถึงได้เฉลยว่าเขารู้แล้วว่าผมไม่ชอบชาเขียว ให้ตาย...ไปหัดอ้อนแบบนั้นมาจากไหนก็ไม่รู้ ผมหลงกลเต็มๆ เรื่องชอบไม่ชอบชาเขียวนี่ผมไม่เคยบอกเขาว่าชอบ แต่พี่ซีนน่าจะคิดว่าผมชอบเพราะวันแรกที่ไปห้องผมมีแต่ขนมรสชาเขียวเต็มไปหมด แล้วพอพี่ซีนเข้าใจไปแบบนั้นผมจะปฏิเสธก็เริ่มจะไม่กล้า เลยตามน้ำไปอย่างจนตั้งหลายเดือน
“พี่โซลคะ”
“อูย งานจะเข้าไหมหนอ”
“ซวยแล้วเพื่อน”
เพื่อนรอบข้างพึมพำเมื่อน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม
“ครับ?”
“ขอติดสติกเกอร์ได้ไหมคะ”
สายตาที่ส่งมาทำให้ผมรู้ว่าน้องเขาไม่ใช่แฟนคลับ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังมีหลายคนที่พยายามเข้าหาผม ผมไม่รู้ว่ามีใครรู้เรื่องผมกับพี่ซีนบ้างเพราะพวกเราไม่ได้เปิดตัวกันขนาดนั้น แต่จากที่พี่ซีนพูดไปวันนั้นและแฟนคลับก็เอาไปอัปลงทวิตเตอร์เท่านั้นก็น่าจะชัดเจนและรู้กันเป็นวงกว้างแล้วไม่ใช่เหรอ
ผมไม่อยากทำให้น้องเขาเสียหน้าหรอก แต่ผมเลือกรักษาความรู้สึกของคนของผมก่อนเป็นอันดับแรกแม้ว่าเขาจะดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรด้วยเลยก็เถอะ
“ได้ไหมครับ”
“หืม?”
“ให้น้องเขาติดได้ไหม”
“ก็...ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่” พี่ซีนตอบอ้อมแอ้ม ได้ยินอย่างนั้นเลยให้น้องเขาติดรูปหัวที่ดวงเล็กๆ ที่อกด้านซ้าย
“มาขอทำไมเล่า”
“มีเจ้าของแล้ว จะให้คนอื่นเอาหัวใจมาแปะมั่วซั่วได้ไงล่ะครับ”
“มันก็แค่เทศกาลน่า ดูนี่กันยังเอามาแปะไว้เลย” พี่ซีนเบี่ยงตัวยืดอกให้ดู ไอ้เชี่ยกันมันติดตรงอกด้านซ้ายเลย ทำไมผมเพิ่งเห็นวะ!
“พี่ก็ยอมน่ะนะ?”
“แค่สติกเกอร์เอง หรือมึงคิดจริง?”
“เปล่านะครับ” จะงอนสักหน่อย เกือบงานเข้าตัวแล้วไหมล่ะ
หันไปสบตาไอ้กันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม มันทำหน้าเย้ยผม เชี่ยนี่ นอกจากช่วยสืบเรื่องพี่ซีนแล้วก็ไม่เห็นความดีของมันอีกเลย อย่าให้มันมีบ้างนะ ผมจะขอให้เป็นรักมันหลงยิ่งกว่าที่ผมเป็น!
“นี่ จริงจังเหรอ..” เสียงคนข้างตัวดึงสายตาผมกลับไปหาเขา พี่ซีนยู่หน้า พูดเสียงเบา “มันไม่ใช่หัวใจจริงๆ สักหน่อย ทำเครียดไปได้”
“แล้วหัวใจจริงๆ อยู่กับใครล่ะครับ”
“อยู่กับตัวเองไง ไม่มีหัวใจก็ตายสิ”
แฟนใคร น่ารักแล้วยังกวนด้วย
“ก็แค่หัวใจคนอื่นที่ให้มา กูไม่ได้เอาหัวใจไปให้ใครสักหน่อย” เขาเริ่มหน้าบึ้ง ทั้งที่แก้มขึ้นสีระเรื่อจนมาถึงหูแล้ว “แล้วกันก็เพื่อนมึง น้องกู”
ผมหุบยิ้มกับประโยคหลังนี่แหละ!
“ไปเป็นพี่เป็นน้องกันตอนไหน”
ไอ้กันโพล่งขึ้นทันที “พี่น้องที่พลัดพราก ไม่รู้จักเหรอ เขาเรียกว่าถูกชะตาเว้ย”
“พี่อยากนับญาติกับคนแบบนี้เหรอ”
“มึงนี่ชอบว่าเพื่อนนะโซล”
“แค่มันทำเป็นอ้อนพี่ พี่ก็ปกป้องมันแล้วเหรอครับ”
“กูเป็นลูกคนสุดท้อง เจอรุ่นน้องทำตัวเป็นเด็กใส่แบบนี้มันก็น่าเอ็นดูอยู่เหมือนกัน” ไอ้กันพยักหน้าหงึกหงักอย่างเอาใจ พี่ซีนเอื้อมมือไปลูบหัวมัน ถ้าผมไม่ได้ตาฝาดเหมือนเห็นหูกับหางมันสั่นดิ๊กๆๆ ด้วย
“ผมก็เคยอ้อนพี่นะ!”
“แล้วมึงอยากเป็นน้องกูเหรอ”
“ก็ไม่น่ะสิครับ”
“อื้อ จบไหม”
“จบครับ” ไม่จบได้ไงล่ะ ไม่เคยคิดอยากเป็นน้องเขาสักวินาทีเดียว ตอนนี้เป็นมากกว่ารุ่นน้องแล้วด้วย
“งั้นก็ยิ้มหน่อย นู่น น้องเขาถือกล้องอยู่นะ” พี่ซีนดึงแก้มผมเบาๆ
มีคนมองมาทางนี้เยอะ ผมไม่รู้ว่ามองอะไร แต่มีบางกลุ่มมองผมกับพี่ซีน จำหน้าได้บ้างเพราะบางคนมาหาบ่อย แต่วันนี้เหมือนพวกน้องเขาไม่กล้าเข้ามา อาจเพราะเพื่อนผมอยู่เยอะก็ได้ มีน้องคนหนึ่งยกกล้องขึ้นผมเลยเอาแขนพาดไหล่คนข้างๆ เอาไว้ แล้วก็โดนพี่ซีนฟาดไปเต็มๆ
เขินรุนแรงตลอด
ไม่น่าเชื่อจริงๆ เมื่อปีที่แล้วผมยังนั่งกุมขมับไม่รู้จะเข้าหาพี่เขายังไงดีอยู่เลย ที่จริงก็ต้องขอบคุณไอ้กันมากจริงๆ ที่บังเอิญไปได้ยินเรื่องที่พี่ซีนจะไปแคสซีรีส์ ไม่อย่างนั้นบทพระเอกคงตกเป็นของไอ้เฟิร์สนั่น และทุกวันนั้นเราคงยังไม่ได้รู้จักกัน ผมคงจะป๊อดต่อไปเรื่อยๆ
ก่อนจะไปเจอกันตอนถ่ายทำซีรีส์ไอ้กันแนะนำว่าน่าจะสร้างความประทับใจสักหน่อย พี่กิ๋งบอกไอ้กันว่าพี่ซีนรักหมามาก...แต่ไม่ได้บอกว่ารักแค่หมาตัวเอง
ไอ้กันถามจากพี่กิ๋งเลยรู้ว่าพวกพี่เขามีนัดกับรุ่นพี่ ซึ่งนัดกันที่มหา’ลัย ผมรอกับมันอยู่ทางที่รถพี่ซีนจะขับผ่าน พอเห็นทะเบียนที่คุ้นตา ผมก็พุ่งตัวออกไปพร้อมกับลูกหมาในมือ
เจ็บฉิบหาย...ในตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมกำลังทำอะไรที่โง่และบ้ามากๆ
และนั่นก็จริง ครั้งแรกที่เราได้ยืนใกล้กันขนาดนั้น ครั้งแรกที่เราได้คุยกัน พี่ซีนไม่ได้ประทับใจเลยสักนิด กลับอารมณ์เสียอีกต่างหาก อาจเพราะว่านัดวันนี้ของเขามีพี่พีมอยู่ด้วย
ตอนเจอกันช่วงแรกผมไม่ได้อยากจะกวนเขาหรอกนะ แต่ไม่รู้จะเข้าหายังไงแล้ว ผมกลัวตัวเองหลุดแสดงอาการออกมาทำให้เขารู้และเขาอาจจะรังเกียจ ฉะนั้นผมเลยต้องทำเป็นเล่นเอาไว้ก่อนน่าจะดีที่สุด
ผมไม่ได้อยากจะรุกเข้าหาเขาขนาดนั้น แต่พอยิ่งได้อยู่ใกล้ก็ยิ่งอยากดูแล ผมเผลอแสดงอะไรหลายๆ อย่างออกไป ทั้งคำพูดทั้งการกระทำ ยิ่งเห็นพี่ซีนมีอาการเหมือนจะหวั่นไหวผมยิ่งได้ใจ อยากได้มากกว่านั้น
“เฮ้ย กินจริงเหรอเนี่ย” เขาร้องเสียงหลง หลังจากผมวางแก้มชาเขียวปั่นของเขาลงแล้วทำหน้าพะอืดพะอม
“พี่ยังกินได้ทำไมผมจะกินไม่ได้”
“ก็มึงไม่ชอบ”
ผมไม่ฟังเขา ยกขึ้นมาดูดเรื่อยๆ
“ไม่ชอบก็อย่ากิน มันเสียของ”
“ผมอยากรู้ว่าทำไมพี่ถึงชอบมันนักหนา”
“นี่ของกินนะเว้ย”
“พี่ก็ชอบผมคนเดียวสิ”
เขามุ่ยหน้า ถ้าไม่ติดว่าตรงนี้คนเยอะล่ะก็นะ...
“อย่าเพิ่ง” พี่ซีนหยุดมือผมที่กำลังจะกินของโปรดเขา เขาวางแก้วไว้ตรงหน้าแล้วถ่ายรูปมัน เสร็จแล้วก็ยื่นให้ผม “อยากกินก็กินเลย กินให้หมดด้วย”
“ผมไม่อยากแย่งพี่นะ”
เขาหันมาแบะปากใส่ก่อนจะจิ้มๆ ในโทรศัพท์ คงจะอัปรูป จำได้ว่าปีที่แล้วเขาก็อัปรูปแก้วชาเขียวปั่น วันนั้นผมก็นั่งอยู่ตรงนี้และอัปรูปแบบเดียวกับเขา ขณะที่ผมนั่งยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียวไอ้ไมค์ก็ดีดกีตาร์เป็นเพลงรักให้ ทุกอย่างเหมือนเดิมเลยเมื่อไอ้ไมค์มันเริ่มเกากีตาร์เป็นเพลงรักขึ้นมาอีกรอบ มันหันมาขยิบตาให้ผม
ผมยกยิ้ม มองคนข้างกาย เพลงรักที่ไอ้ไมค์กำลังเล่นอยู่ไม่ได้มีผมที่นั่งยิ้มอยู่คนเดียวอีกแล้ว
ผมกุมมือเขา เห็นเขาขบริมฝีปากเล็กน้อยแต่ก็กุมมือผมตอบ
“มึงรู้ไหม ทำไมกูถึงร้องไห้เรื่องปิ๊กมี่”
“เพราะมันเป็นเหมือนครอบครัวของพี่”
“อืมใช่ แล้วก็เพราะเวลากูรักอะไรก็อยากให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ” เขาขบริมฝีปากอีกครั้ง ดวงตาที่เสหลบกลับเงยขึ้นสบตาผม
“อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะโซล”เสียงของเขามันเบาแต่กลับหนักแน่นในความรู้สึก ตั้งแต่วันแรกที่เจอเขา ไอ้ก้อนเนื้อที่กำลังเต้นแรงอยู่ขณะนี้มันก็เป็นของเขาแล้ว
“พี่ก็อยู่กับผมไปนานๆ นะครับ”
รอยยิ้มของเขายังเหมือนเดิม สว่างไสวและน่าหลงใหล วันแรกที่ผมเจอเขาคือที่นี่แต่เขายืนห่างออกไปไกล แต่ในวันนี้เขาอยู่ตรงหน้าผม แย้มรอยยิ้มที่ทำให้ผมตกหลุมได้ซ้ำๆ
วันวาเลนไทน์ปีนี้...เราได้อยู่ด้วยกัน
sscene ได้มาบ่อยจริงๆ ด้วย
soul_kr @sscene ไม่ได้มาซื้อน้ำอย่างเดียวแล้วด้วย J
----------------------------------
โฮะๆ ใครจำพระเอกของเราในวันวาเลนไทน์ตอนที่ยังไม่ได้รู้จักกับพี่ซีนได้บ้างคะ5555555
เป็นอีกหนึ่งในตอนพิเศษนะคะ แต่เป็นตอนพิเศษตอนสุดท้ายจริงๆ แล้วค่ะ(ที่จะลงในเว็บ)
ตอนพิเศษอื่นๆ เจอกันในเล่มนะค้า ^ ^/
ขอฝากเพจด้วยน้า
https://www.facebook.com/zongpei96/ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ค่า <3