“ต๊าย พาใครมาด้วยอ่ะบลู” ฝ่ารถติดถึงที่หมายตามเวลานัด คลับของชาวเรา ที่สนุกสุดเหวี่ยงได้โดยไม่ต้องมัวแต๊บ มาถึงก็ไม่ต้องรอช้า เพราะบรรดาเพื่อนสาวได้มารอกันก่อนอยู่แล้ว แน่นอนว่าทุกคนค่อนข้างตื่นตากับคนที่มาพร้อมเพื่อนระดับตัวแม่ของตน หนุ่มแว่นหนาหน้าละอ่อน ที่ใส่ชุดขาวมาราวกับชีพราหมณ์คนนี้คือใครกันนะ?
“แฟนฉันไงยะ” บลูม่าตอบแบบไม่สะทกสะท้าน ไหวไหล่แบบเชิดๆ เริ่ดๆ แบบว่าอยากอวดแฟน แจ่ดูเหมือนเพื่อนๆที่ลอบสบตากันไปมา จะไม่ค่อยเชื่อคำตัวแม่สักเท่าไหร่ เพราะดูจากสไตล์ หนุ่มน้อยหน้าหวานคนนี้แล้ว ฟันธงว่า ‘สาว’ ชัวร์ อย่างนี้ตัวแม่ไม่มีทางชายตาแล เพราะเป็นที่รู้กันว่าข่นแม่ชอบแอ๊วหนุ่มล่ำผิวคล้ำนัยตาคมกริบเสียมากกว่า ดังนั้นสาวๆเลยได้แต่นั่งหัวร่อต่อกระซิกกันคิกคัก ก่อนกล่าวทักทายซอลย่ากันออกไปอย่างเป็นมิตร ด้วยต่างก็คิดว่าได้ ‘เพื่อนสาว’ คนใหม่
แนะนำตัวกันเรียบร้อย ต่างก็เม้าท์มอยกันตลาดแตก จิกหนุ่มคนนั้น เหล่หนุ่มคนนี้กันไปเรื่อย ด้วยว่าร้านนี้คือแหล่งรวมเหล่าผู้ที่มีรสนิยมเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครถือสา หากว่าจะถูกแอ๊ว
ยิ่งดึกเพลงเบาๆยิ่งเพิ่มจังหวะ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ในเลือดที่เพิ่มสูงเร่งเร้าให้เหล่าชาวเรายิ่งคึกคัก จังหวะยิ่งเมามันส์ แขกหลายๆโต๊ะต่างก็ออกไปออกเสต็ปกันบนฟลอร์อย่างเนืองแน่น ดึกดื่นผู้คนเบียดเสียด เพื่อนสาวของบลูม่าเองก็เริ่มออกไปวาดลวดลายลีลาร้อนแรงกันแล้ว แน่นอนว่าบลูม่าถูกชวนเป็นครั้งที่ร้อย ให้ออกไปโชว์ลีลาขั้นเทพ ทว่าวันนี้ตัวแม่กลับปฏิเสธ อยากขอนั่งมองเฉยๆเป็นเพื่อนคนรัก (ที่ใครๆต่างเข้าใจกันไปว่าเป็นแค่เพื่อนสาว)
“ออกไปเต้นก็ได้นะบลู ซอลเฝ้าโต๊ะให้ ไม่เป็นไรหรอก” โดนคะยันคะยอหนักเข้า แม้บลูม่าจะยังเฉย แต่ซอลย่าก็เริ่มเกรงใจเพื่อนคนอื่นๆของคนรักที่อาจรู้สึกเบื่อหากบลูม่าไม่ออกไปแจมด้วย
“พวกนั้นไม่เป็นไรหรอก ปล่อยซอลอยู่คนเดียว เหงาแย่เลย” แต่บลูม่าก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อ การนั่งเล่นเป็นเพื่อนซอลย่าแบบนี้ บลูม่าก็สบายใจดีอยู่แล้ว ทาร์เก็ตวันนี้คือแต่งตัวซี๊ดๆมาจี๊ดกับเพื่อนๆ ไม่ได้ตังใจมาแอ๊วมาเหล่หนุ่มเล่นเหมือนเช่นปกติ โดยเฉพาะตอนนี้มีคนรักนั่งอยู่ด้วยทั้งคนแล้ว บลูม่าก็ไม่คิดจะออกไปไหนอีก นั่งเฝ้าแฟนสบายใจกว่า
“แต่ซอลไม่อยากให้งานกร่อยนี่ ออกไปเถอะบลู โน่นแน่ะ มาตามกันอีกรอบแล้ว” แต่ซอลย่าที่ทนแรงกดดันจากเพื่อนๆของบลูม่าไม่ไหว ก็เป็นฝ่ายคะยั้นคะยอเสียเอง ซอลย่าไม่หึงเท่าไหร่ที่บลูม่าจะออกเจ้นกับเพื่อนๆบ้าง แต่หากมีหนุ่มมาแอ๊ว อันนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ทู่ซี้กันไปมาอยู่ครู่หนึ่ง แรงยุที่โจมตีมาทุกทาง ทำให้สุดท้ายบลูม่าก็โดนเพื่อนๆลากออกไปกลางฟลอร์ เพื่อแดนซ์กระจายกับพวกพ้อง ซอลย่ายิ้มส่ง พร้อมนั่งมองลีลาของคนรักเพลินๆ
ตั้งแต่มาจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรที่ซอลย่ารู้สึกขัดหูขัดตา แม้เสื้อกล้ามของบลูม่าจะคว้านลึกไปหน่อย หรือแม้แต่กางเกงรัดเป้า ขาดวิ่นตัวนั้น พออยู่ในหมู่เพื่อนๆที่แต่งกายไม่ต่างกัน บลูม่าก็ดูไม่น่าเป็นเป้าสายตาสักเท่าไหร่ เอาเข้าจริงหลายๆคนในร้านนี้ แต่งตัวโชว์ส่วนเด่นของตัวเองเต็มไปหมด อย่างกับเวทีประกวดนายงาม
จะแปลก...ก็คงมีแค่เขานี่แหละ... คิดไปซอลย่าก็ถอนหายใจพรู เอาเถอะ เห็นแบบนี้ก็ดีแล้ว คราวหน้าคราวหลังเขาจะได้ไม่ต้องคอยห่วงคนรักแบบเวอร์ๆอีก ไม้ตายที่คิดจะเอามาใช้จัดการบลูม่าให้สำนึก ก็ถูกผนึกเก็บเข้ากรุไป แล้วซอลย่าก็เท้าคางมองคนรักด้วยความหลงใหลต่อ ‘เฮ้อ...เซ็กซี่จังเลยน๊า...แฟนเรา’
“นี่...ไม่ออกไปตื๊ดด้วยกันหน่อยเหรอ เหงานะ นั่งคนเดียว” กำลังตกหลุมรักแฟนตัวเองอีกครั้งจนเหม่อ พอถูกทักในระยะเผาขน เลยพาลสะดุ้งเหวอ หน้าตาเลิ่กลั่ก และนั่นก็ทำให้คนทักถึงกับหัวเราะคิก
“ขอโทษนะ ไม่คิดว่าจะตกใจขนาดนั้น” คนทักเอ่ยปากขอโทษ ทั้งที่ยังหัวเราะขบขัน ก่อนจะขอโทษอีกครั้งว่าไม่ได้เจตนาหัวเราะเยาะ
“ไม่เป็นไร คือ...ผมเหม่อเอง” ซอลย่าตอบออกไปเขินๆ อันที่จริงในหน้าที่การงานต้องพบปะผู้คนอยู่แล้ว จึงไม่ได้ตื่นคนเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ค่อยชินนักกับการถูกชวนคุยในบรรยากาศที่ไม่ใช่เรื่องงานแบบนี้ แต่เห็นว่าคนที่ถือวิสาสะมานั่งข้างกันแทนที่บลูม่านั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นเพื่อนบลูม่าอีกคนที่ชื่อ แคนดี้ จึงไม่ได้รู้สึกประหม่าสักเท่าไหร่ ถูกชวนคุย ก็คุยด้วย เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อแฟน
“ไง ออกไปเต้นกันไหม?” แคนดี้ชวนซ้ำ
“ไม่เอาล่ะ ผมเต้นไม่เป็นหรอก ออกไปก็ทำโก๊ะเปล่าๆ พวกคุณไปสนุกกันเถอะ ผมเฝ้าโต๊ะให้” แต่ซอลย่าปฏิเสธ พร้อมระบุเหตุผลที่น่าฟัง กะว่าเดี๋ยวเพื่อนแฟนที่ชื่อว่าแคนดี้คนนี้คงรามือ และผละกลับไปสนุกกับหมู่เพื่อนๆตัวเองในที่สุด
แต่ดูเหมือนซอลย่าจะคิดผิดไปเสียแล้ว “ดีเลย ผมจะได้มีเพื่อนคุย ขี้เกียจเต้นแล้วอ่ะ แก่แล้ว หึหึ”
กลายเป็นต้องนั่งกันสองต่อสองเฉย...
ถึงจะรู้สึกตะขิดตะขวงนิดหน่อยในตอนแรก แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก ซอลย่าก็เห็นว่าการมีแคนดี้นั่งอยู่ด้วยก็ไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด แคนดี้แต่งกายธรรมดาเมื่อเทียบกับเพื่อนๆในกลุ่ม เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ ปักลายเท่ห์ๆหน่อย กางเกงยีนส์เดฟสีดำติดกระดุมเงินที่ขอบกระเป๋า รองเท้าบูทคอมแบต ผมซอยสั้น ไถเป็นลายกราฟฟิคที่ข้างหู พูดได้เต็มปากว่าดูดี ถ้าไม่ติดที่ว่าอ้อยไปหน่อย บอกเลยว่าหล่อมาก...รอยยิ้มหวานๆกับริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูอ่อนนั่น คงหว่านเสน่ห์แก่ผู้คนมาแล้วนักต่อนักสินะ
“ดื่มเหล้าไหม? เบียร์ก็มีนะ?” แคนดี้ถามขึ้น เพราะเห็นว่าแก้วที่ตั้งอยู่ตรงหน้าของซอลย่าคือแก้วน้ำเปล่า
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวต้องขับรถน่ะ ให้บลูเขาสนุกได้เต็มที่ดีกว่า...” เป็นอีกครั้งที่ซอลย่าปฏิเสธด้วยเหตุผล รู้สึกเสียมารยาทนิดๆเหมือนกัน ที่ไม่ยอมรับการเชื้อเชิญอะไรเลย และดูเหมือนจะพูดอะไรสะกิดใจอีกฝ่ายไปหน่อย ถึงขนาดที่แคนดี้เองยังนิ่งอึ้งไป
ซอลย่าใจเต้นตึกตัก ด้วยกลัวว่าจะถูกเพื่อนของคนรักหมั่นไส้เอา...
“นี่...ไม่ได้อำใช่ไหม? เรื่องที่เป็นแฟนกับบลูม่าน่ะ?” แคนดี้ถามขึ้น ด้วยใบหน้าเหมือนจะตกใจเล็กๆ ยิ่งพอซอลย่าพักหน้ารับ แคนดี้ก็ยิ่งเหวอ จนเผลอหลุดปากออกมาว่า สเป็คบลูม่ามันไม่ใช่แนวนี้...
มานึกขึ้นได้ว่าเสียมารยาท แคนดี้จึงรีบเสริมท้ายประโยค แหม...คนเรามันก็เปลี่ยนกันได้นี่เนอะ จากนั้นก็จดจ้องซอลย่าไม่วางตา ซอลย่าคิดว่า คงเพราะส่งสัยใน Position ระหว่างเขากับบลูม่าอยู่เป็นแน่ เป็นใครก็สงสัยเรื่องนี้กันทั้งนั้น จนซอลย่าเริ่มชินเสียแล้ว และคงไม่คิดจะสาธยายให้ฟังแน่ๆ ไปมโนต่อกันเอาเองก็แล้วกัน
“อุ้ย...” ดูเหมือนต่างคนต่างอยู่กันได้สักพัก จู่ๆแคนดี้ก็ร้องขึ้นมาเบาๆ เรียกความสนใจของซอลย่าให้หันไปมองตามสายตาที่แคนดี้มอง แม้ว่าฝ่ายนั้นจะรีบกลบเกลื่อนโดยการหันมาชวนคุยแบบกะทันหัน แต่มันไม่ทันกับสายตาของซอลย่าที่ชำเลืองไปเจอเข้าพอดี...
เจอเข้ากับแฟนตัวเองที่หน้าแดงก่ำกำลังโยกย้ายส่ายไปมายั่วเย้า แล้วยังมีผู้ชายเต้นประกบติดหน้าหลัง!!!ปึ่ง!!! เสียงสันกำปั้นกระแทกลงโต๊ะไม่เบานัก โต๊ะข้างๆอาจไม่ทันได้สนใจเพราะเสียงดนตรีที่ดังจนหนวกหู แต่แคนดี้ที่นั่งทำหน้าปะหลับปะเหลือกอยู่ข้างๆน่ะ ได้ยินชัดทั้งรูปทั้งเสียงกันทีเดียว ‘ฉิบ…แล้วอีบลู ผัวชีมึงหึงโหดแล้ว!!’
“เป็นอย่างนั้นทุกครั้งเลยหรือเปล่าครับ!?”“ค ครับ!!??” จู่ๆซอลย่าก็หันขวับ กลับมาถามเสียงเข้ม เล่นเอาแคนดี้ขึ้นเหนือล่องใต้ไม่ถูก “ม…ไม่บ่อยเท่าไหร่…อุ๊บ!!” หลุดปากตอบออกไป แล้วแคนดี้อยากตบปากตัวเองสักฉาด ‘บ้าจริง เขาต้องตอบว่าไม่เคยสิ!!’
“แสดงว่าก็หลายครั้งอยู่สินะครับ พฤติกรรมแบบนี้!” ซอลย่าย้ำคำหนักแน่น ที่เล่นเอาแคนดี้ถึงกับเหงื่อตก ในหัวประมวลผลเต็มสปีด เพื่อหาข้อแก้ต่างให้เพื่อนสาวแบบสุดกำลัง
“เห็นแบบนั้น แต่บลูม่าไม่เคยสานต่อกับใครนะ เพลงจบก็ตัวใครตัวมัน แม้แต่ไอดีไลน์มันยังไม่แลกเลย ที่มันทำแบบนั้น ก็แค่รักษามารยาท เพราะเขามาขอเต้นด้วย” ช่วยสุดฤทธิ์ เท่าที่แคนดี้คนนี้จะทำได้ เรื่องจริงทั้งนั้นที่พูดมา ยกเว้นเรื่องแอ๊วทิ้งแอ๊วขว้างแบบไม่รักษามารยาทที่ตัวแม่ชอบแหย่เล่น แล้วหนีทิ้งกลับบ้านเฉย
“งั้นคุณแคนดี้ช่วยเป็นเกียรติเต้นกับผมสักเพลงได้หรือเปล่าครับ!” เสียงห้าวห้วนชวนแบบไม่มีความเสน่หา แคนดี้ถึงกับร้อง ‘หา!?’ เพราะตามอารมณ์แฟนเพื่อนไม่ทัน ซ้ำยิ่งเหวอหนัก ตอนที่ซอลย่าคว้าแก้วว๊อดก้าของตัวเองขึ้นไปซดโฮกเดียวหมดแก้ว ‘ฉิบแล้ว…ตกกะไดพลอยโจน!!?’
พรึ่บ!!(O///.,///O) อันนี้สิกรี๊ดจริง วางแก้วว๊อดก้าปุ๊บ หยิบน้ำเปล่าราดตัวเองแบบทั้งขวด ราดตั้งแต่หัวลงไปจนโชก โดยเฉพาะช่วงหน้าอก และหน้าขา…กระดุมเสื้อเชิ้ตที่ติดเกือบถึงเม็ดบนถูกปลดลงมาที่กลางอก ไม่ใช่เพียงแค่แคนดี้ที่ตะลึงมอง หนุ่มรอบโต๊ะก็หันมาเป็นตาเดียวตั้งแต่ซอลย่าบ้าเลือดราดน้ำใส่ตัวเอง
เสื้อเชิ้ตไม่ได้หนา ทั้งยังสีขาว แค่โดนน้ำก็แนบเนื้อ ทั้งยังเป็นน้ำเย็นที่เมื่อโดนแอร์ยิ่งเย็นฉ่ำ อะไรตรงนั้นที่ที่ถูกเนื้อผ้าเย็นๆเสียดสี ก็ชวนกันตั้งเป็นตุ่มไตสีเข้ม ชนิดที่มองเห็นได้สามมิติทะลุผ้าเปียก….
กางเกงแสลคเนื้อบางไม่ต่างเสื้อ พอโดนน้ำก็แนบเนื้อลู่ไปกับต้นขาขาว กางเกงในสีขาว…หนำซ้ำยังจีสตริง…เนื้อก้นเด้งทะลุผ้าเปียกกระแทกตา
…เห็นแค่นี้ แคนดี้ก็พาลขาสั่น ตายแล้ว…กำเดาจะพุ่ง!!!
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเตรียมใจ แคนดี้ก็โดนซอลย่าลากดุ่มๆออกไปกลางฟลอร์ และนับตั้งแต่วินาทีนั้น…แคนดี้ก็ลืมไปเลยว่าตัวเองเป็นใคร ‘อีบลูช่วยกูที…เด็กมึงกำลังจะทำนกเขากูขัน…’
เต้นไม่เป็น ยั่วไม่ได้ ที่ทำอยู่นั้นอาศัยครูพักลักจำเอาจากการงานที่ทำๆอยู่ ร่างบอบบางอ้อนแอ้น ที่ตอนนี้ราวกับกำลังเปลือยในสายตาที่โลมเลียมาจากรอบข้าง กำลังโยกย้ายสะโพกเล็กพลิ้วไหว เสียดสีถูไถไปกับร่างที่แข็งทื่อเพราะทำอะไรไม่ถูกของแคนดี้
หน้าอกแอ่นยั่ว ยวนเย้าทุกสายตา หลายคนเริ่มเข้ามาเต้นใกล้ๆ มือไม้เริ่มเลื้อยเข้าสัมผัส ตอนนี้สติสัมปชัญญะของซอลย่าเริ่มมึนทื่อ ว๊อดก้าที่กระดกรวดเดียวหมดไปเมื่อครู่ ตอนนี้กำลังออกฤทธิ์ออกผลอย่างบ้าคลั่ง ซอลย่าที่คอไม่แข็งพอ โดนเข้าไปขนาดนั้น ยิ่งพาลให้ทรงตัวไม่อยู่
…ยิ่งขยับก็ยิ่งเคลิ้ม
ใครมาตรงหน้าก็ยิ้มให้ ใครกอดก็กอดตอบ ใครจับโดนจุดตาย ก็หัวเราะลั่นเพราะจั๊กกะเดียม ดิ้นเร่าเย้ายั่ว โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า แคนดี้ที่จู่ๆก็กลายเป็นบอดี้การ์ดกะทันหันนั้น พยายามกันชายอื่นให้แทบสลบ! แต่ซอลย่า ขณะนั้น ไม่รู้อะไรอีกต่อไปแล้ว…
ซอล!!!!เสียงแผดกร้าวที่ดังมาพาวงแตก มือใหญ่คว้าร่างที่ยังแอ่นซ้ายแอ่นขวาเข้ามากอดแนบอก หลายคนส่งเสียงไม่พอใจ ที่ถูกยึดนางเอกคนงามไป หลายคนถึงขนาดจะมีเรื่องด้วยโดยการดึงดันจะเอาตัวซอลย่าไปให้ได้
“นี่เมียกู ใครกล้าแตะ จมตีนกูแน่!!”เกย์ล่ำ หน้าโหด สูงใหญ่ พร้อมพลพรรคเพื่อนรักอีกสามตามมาคอยหนุน ที่ขนาดร่างกายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ความโหดและดุดันจึงเพิ่มเท่าทบทวี งานนี้ไม่มีใครกล้าเสี่ยง ของของใครใครก็หวง เล่นออกตัวขนาดนี้ ไม่ขอยุ่งดีกว่า
‘มีเมียเอ็กซ์ขนาดนี้ ไม่ดูแลให้ดีวะ ปล่อยมาอ่อยอยู่ได้’ มีบางคนบ่น หลายคนจิ๊จ๊ะเสียดาย แต่พอหันมาเจอสายตาอาฆาตพยาบาท ชนิดแค่สบตาก็ตายได้ของบลูม่าเข้าไป ก็พากันเงียบ แล้วแสร้งว่าไม่สนใจกันไป เป็นอันว่างานรื่นเริงจบลงในเวลาอันสั้น
แต่โทษทัณฑ์ของคนบางคนยังต้องได้รับการสะสาง
“อีแคนดี้!!!” เสียงห้าวตวาดเรียกชื่อเพื่อน เล่นเอาเจ้าของชื่อขานรับว่า‘จ๋า’เสียจนเสียงสั่น “เดี๋ยวมึงต้องไปปรับทัศนคติกับกูหน่อย!!”
ได้ยินคำอาฆาต แคนดี้ก็รีบแก้ตัวพัลวัน “กูไม่ได้ทำอะไรเมียมึงเลยนะอีบลู อีดอก นี่กูพิทักษ์นางอยู่ต่างหากล่ะ มึงนั่นแหละทำนางขึ้น แอ๊วผู้ชายยั่วนางแบบนั้น เป็นกูกูก็โกรธ” แก้ตัวไป ได้ทีด่าเพื่อนกลับ ถ้าไม่ใช่เพราะบลูม่าหาเรื่อง มีหรือที่เขาจะต้องออกมาวุ่นวายคอยสกัดดาวยั่ว เอ้ย ดาวรุ่งขนาดนี้
“เออๆ ขอโทษทีๆ งั้นวันนี้กูกลับก่อนแล้วกัน เดี๋ยวกูค่อยมาเคลียร์กับพวกมึงวันหลัง” โดนตอกหน้ากลับมา บลูม่าก็เข้าขั้นเงิบ เพราะแจ้งแท้แล้ว…เห็นจะจริงดังเพื่อนว่า
“เคลียร์กับเมียมึงก่อนเถอะ ตื่นมา นางเรียกมึงปรับทัศนคติแน่” แคนดี้ว่าตามหลัง แต่เพื่อนหล่อนไม่ตอบคำใดๆ แค่โบกมือลา แล้วอุ้มร่างเปียกชื้น ของคนรัก กลับออกไป
สิ้นร่างเพื่อน สาวสาวที่เหลืออู่ก็ได้แต่กล่าวขวัญถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างออกรส…
บาร์กี้ : ไม่ยักรู้ว่าอีบลูเป็นตุ๊ดรุก
โรดี้ : เท่าที่เห็น เมียนางแซ่บมาก ตอนเต้นนี่ อย่างกับคนละคนกับชีพราหมณ์ที่เดินเข้ามาตอนแรกลิบๆ
แคนดี้ : มาก…นางทำฉันเกือบลืมโพสิชั่นเดิมเลยอ่ะพวกแก ลืมกระทั่งหน้าผัวอ่ะบอกเลย
บาร์กี้ : ก็นะ…เล่นซะอีบลู กลายพันธุ์ไปเลย
แคนดี้ : พวกมึงว่าคืนนี้ อีบลูจะรอดไหม?
โรดี้ : กูว่าไม่ (แน่)
บาร์กี้ : ไม่…กูว่านางเอาอยู่.
.
.
.
.
หนักหัวจัง...คือความรู้สึกแรกที่ซอลย่ารู้สึกได้ ณ ขณะลืมตาตื่น ในหัวมึนงง ทั้งยังไม่อาจฝืนลืมตาได้ในทันที ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันนะ...ฝัน...?
“ตื่นแล้วเหรอ? ตัวดี”
สมองยังประมวลผลได้ไม่เต็มที่ ตื่นก็ยังไม่เต็มตา แต่เสียงทุ้มที่ดังอยู่เหนือศีรษะ กลับทำให้สติสัมปชัญญะผุดวาบขึ้นมาในฉับพลัน ซอลย่าลืมตาโพลง หันมองไปทางต้นเสียงด้วยหัวใจที่ตื่นตระหนก ยิ่งได้เห็นหน้าดุดันของบลูม่าด้วยแล้ว หัวใจดวงน้อยยิ่งหดเกร็ง
ซอลย่าถอนหายใจบาง พลางพยุงตัวขึ้นจากเตียงอุ่น เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนเป็นชุดนอนแห้งสบายแล้ว แต่ภาพสุดท้ายที่ซอลย่าจำได้เกี่ยวกับตัวเองก็ยังคงฉายชัด จำแม่นเลยด้วยว่า ตัดสินใจทำลงไปแบบนั้นด้วยเหตุผลใด
เพื่อประชดคนใจร้าย“ไหนอธิบายมาสิ ทำแบบนั้นทำไม?”
เสียงทุ้มของบลูม่ายังคงถามเข้ม เสริมความหนักแน่นด้วยร่างกายใหญ่โตที่นั่งกอดอกกดดันอยู่ข้างเตียง
“ก็เห็นว่าน่าสนุก”
จากตอนแรกที่แอบรู้สึกผิดว่าเผลอทำเกินไป แต่พอไพล่คิดไปถึงตัวต้นเหตุ ซอลย่าก็หน้าตึงขึ้นด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธด้วยเช่นกัน ดังนั้นน้ำเสียงที่ใช้ตอบออกไปจึงติดไปทางกระแทกกระทั้นเบาๆ
“สนุกเนี่ยนะ? สนุกมากถึงขนาดต้องเอาน้ำราดตัวจนโป๊เลยงั้นสิ!? แถมยังไปเต้นยั่ว ให้พวกนั้นมันถึงเนื้อถึงตัวอยู่ได้!” คำตอบที่ได้จากคนรัก ทำให้บลูม่ายิ่งอารมณ์ขึ้น
“ก็เห็นบลูทำแล้วน่าสนุก ทุกคนก็ออกจะแฮปปี้ เต้นกันไปเบียดหน้าเบียดหลังกันไป ซอลยังไม่ว่าอะไรบลูเลย” ถึงตอนนี้โดนว่า ซอลย่าก็ไม่ได้สากระคาย ดวงตากลมโตที่มีกองไฟสุมปะทุตวัดมองคนข้างเตียงด้วยแววตาคาดโทษ
การตอกกลับของซอลย่าได้ผล ทั้งดุ้นประโยคราวคมหอกแหลมปักฉึกลงกลางใจของบลูม่าแบบพอดีเป๊ะ หัวใจกระด้างกระเดื่องเริ่มอ่อนลงเพราะเริ่มรู้ตัว และรู้สึกผิด พอเบี่ยงประเด็นไปเป็นเรื่องทำตัวเปียก ก็โดนซอลย่าตอกลับมาอีกว่า ทำไปเพราะไม่อยากแตกต่าง ในเมื่อแต่งตัวมิดชิดแล้วอาจโดนมองว่าแปลกแยก เปลี่ยนแนวให้เป็นเซ็กซี่ไปเสีย ใครก็ว่าไม่ได้แล้ว งานนี้บลูม่าถึงกับต้องกุมขมับ เหมือนกำลังโดนย้อนศรเข้าเต็มเปา
“ซอลว่ามันก็สนุกดีนะ เอาไว้จะไปเที่ยวอีก”
ซอลย่าเอ่ยต่อ เมื่อเห็นว่าบลูม่าเริ่มจนปัญญาจะโต้เถียง แน่ล่ะ หนามยอกก็ต้องเอาหนามบ่ง
“พรุ่งนี้ซอลว่าจะไปหาซื้อชุดแนวที่บลูชอบใส่ดูบ้างน่ะ โชว์นิดโชว์หน่อยซอลว่าซอลคงแต่งขึ้นแน่ๆ บลูว่างั้นป่ะ เนี่ยเมื่อคืนซอลเห็นคนหนึ่ง เขาใส่เสื้อกล้ามซีทรูลายตาข่าย ซอลว่ามันเซี้ยวดี เดี๋ยวไปหาซื้อมาใส่เที่ยวบ้าง บลูพาซอลไปหาซื้อหน่อยนะ...” ยิ่งเห็นบลูม่าหน้าซีด ซอลว่ายิ่งร่ายโครงการยาว ทำหน้าตายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ชวนฝันหวานเพื่อสนับสนุนคำพูดร้ายกาจของตนไปด้วย
งานนี้บลูม่าขอยกธงยอมแพ้ จากที่ตั้งใจจะมาไล่ต้อน ตอนนี้กลับตกเป็นเชลยศึกเสียเอง เมื่อหมดโอกาสพลิกเกมเอาชนะ บลูม่าก็ขอยอมศิโรราบ...
“ยอมแล้วค่ะ ทูนหัว...บลูยอมแล้วค่ะ ต่อไปนี้จะไม่ดื้อไม่ซน ไม่แต่งตัวโป๊ ไม่แอ๊วหนุ่มหน้าไหนอีกแล้ว ยอมใจที่รักแล้วค่ะ ได้โปรดอย่าแกล้งลงฑัณฑ์กันแบบนี้เลยนะคะ รู้ซึ้งแล้วค่ะ ว่าความหึงโหดมันเป็นยังไง บลูยอมแล้วค๊า”“ยอมอะไรกันบลู ไม่เอาสิไม่ยอม ซอลอุตส่าห์สนุกด้วยแล้ว ห้ามถอนตัวสิ”
“ไม่ค่ะ ไม่เอาแล้ว บลูไม่ปล่อยให้ซอลเป็นอาหารตาของไอ้พวกเสือ สิงห์ กระทิง แรดพวกนั้นอีกเด็ดขาด เข็ดขยาดยันชาติหน้าเลยค่ะ!”
บลูม่ายื่นคำขาด สบถสาบานว่าชาตินี้จะไม่เปรี้ยวให้ซอลย่าดำเนินรอยตามตนอีกแล้ว เข้าใจแล้วว่าอะไรสำคัญ การทำตัวเหลวไหลเหมือนที่ผ่านมา การแคร์สายตาเพื่อนๆมากกว่าความห่วงใยของคนรัก อันนี้หล่อนตั้งปนิธานว่าจะรีบปรับปรุงตัวแบบด่วนจี๋ บลูม่าถอนหายใจพรู ว่าเกือบไปแล้ว...เกือบทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ให้เป็นเรื่องใหญ่เสียแล้ว ดีนะไหวตัวทัน ดีนะยั้งไว้ได้ เฮ้อ เดชะบุญ!
“อืม...หึหึ...อันนั้นก็แล้วแต่นะ” ซอลย่าแซวขำๆ หัวใจพองโตที่ในที่สุด คนรักก็ยอมตามใจ แม้ตนจะใช้วิธีขี้โกง
“จ๊ะ...ร้ายนักนะตัวแสบ” รู้ว่าโดนเกทับ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนรัก บลูม่าก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากกระโจนขึ้นไปกอดคนตัวเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยวเท่านั้น
“ก็ถ้ายอมดีๆตั้งแต่แรกก็จบไปแล้ว” ซอลย่าพูดกลั้วหัวเราะ ในขณะโดนจับล็อคไว้ในอ้อมแขน
“จ๊าๆ ก็ยอมแล้วนี่ไง ไม่แต่งโป๊ ไม่แอ๊วหนุ่ม ไม่ทำให้ทูนหัวต้องหึงหน้ามืดแบบนั้นอีกแล้วโอเคไหม?” บลูม่าให้คำมั่น
“สัญญาแล้วนะ” ซอลย่าหันไปมองหน้าคนรัก พร้อมขอคำปฏิญาณ
“สัญญาค่ะดวงใจ ด้วยเกียรติของเนตรนารีเลย” บลูม่าเองก็ลั่นวาจาแน่นหนัก พร้อมชูสามนิ้วขึ้นเป็นสัญลักษณ์ แห่งการลงสัญญา ทว่าเพียงครู่ต่อมา ดวงตาก็ทอประกายกรุ้มกริ่ม “แต่ว่า...”
“ต้องมีของแลกเปลี่ยนกันหน่อย”พูดจบบลูม่าก็จับซอลย่ากดลงบนเตียงนุ่ม ซุกไซร้ หยอกเย้า...
เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นในห้องนอนน้อย
ก่อนจะกลายเป็นเสียงอย่างอื่น ที่ฟังแล้วหวานหูมากกว่า...
เอาล่ะ...ช่องว่าง หายไปแล้ว.
.
.
.
.
หลังจากวันนั้น ความรักของสองสาวดูละมุนขึ้นมาก ต่างก็ปรับตัวเข้าสู่โลกของกันและกันได้อย่างกลมกลืน เพื่อนบลูม่าทั้งแก๊ง ในท้ายที่สุดก็กลายเป็นเพื่อนสนิทของซอลย่าไปด้วย เวลาไปเที่ยวไหน ก็เฮโลไปกัน คำว่าโลกส่วนตัวแน่นอนว่ายังคงมี แต่กำแพงที่เคยตั้งไว้เพื่อกีดกันกันและกันมันทลายหายไปจนสิ้นแล้ว โลกส่วนตัวของทั้งคู่ที่สามารถรวมกันได้ ยิ่งทำให้ความรักที่มอบให้กันมันไม่สามารถตีค่าได้ เพลงที่เคยเป็นความชอบของใครของมัน
วันนี้มันกลายเป็นเพลงของเรา ฉันไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าไร
เพราะมันดูแสนจะยาวไกล ไกลสักเพียงไหน
ฉันไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าไร
ฉันเองก็พร้อมจะก้าวไป จะไปสู่กลางใจเธอ
แต่จากตรงนี้ จะอีกไกลไหม
จากมือเธอนั้น ไปสู่ใจ
ฉันไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าไร
เพราะมันดูแสนจะยาวไกล ไกลสุดเพียงไหน
ฉันไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าไร ฉันเองก็พร้อมจะก้าวไป
จะไปสู่กลางใจของเธอ A Tu CorazonCredit : สู่กลางใจเธอ โรส สิรินทิพย์******************************************************
สวัสดีค๊า...ในที่สุด บลู x ซอล ตอนจบก็คลอดแล้ว (ดีใจน้ำตาไหล)
ตอนนี้ความจริงต้องลงตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้ว แต่มันดันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
จากการกระทำอันยั้งคิดไม่ทันของข้าพเจ้าเอง นั่นคือการลบไฟล์นิยายผิด...
จะลบไฟล์เก่าทิ้ง ดันไปกดผิดเป็นไฟล์ใหม่ที่แต่งเอาไว้แล้วครึ่งเรื่อง
ลบทิ้งแบบ shift+delete ชนิดที่ไม่ต้องพยายามกู้ ไปแบบกู่ไม่กลับ
นั่งร้องไห้เป็นหมาโดนน้ำร้อนลวกหางอยู่หลายวัน กว่าจะตั้งสติ และนั่งเทียนเขียนใหม่จนจบได้
และแล้ววันนี้ก็ได้เอามาลงให้ได้ชมกันแล้วค่ะ
เหลืออีกแค่ตอนเดียว ตอนหน้าคือตอนอวสานแล้ว เย้ๆ
แน่นอนว่าเป็นเรื่องราวของ พี่เมธกับน้องยุ ที่หายสาบสูญไปนานนั่นเอง
จะแฮปปี้เอ็นดิ้งแค่ไหน หรือจะมีเหตุการณ์ให้อกสั่นขวัญแขวนทิ้งท้ายหรือเปล่า
อันนี้ต้องไปรอลุ้นกันนะจ๊ะ
ขอบคุณที่ติดตามค๊า
อนาคี99 # Thearboo
คู่นี้คือแซบสุดอะไรสุดค่ะ
ยิ่งซอลย่านี่แซบหลบในมากๆ ค่ะ
รอคู่หลักค่ะ
ปล. ขออนุญาตเตือนเรื่องคำผิดนิดหนึ่งนะคะ ชีพราหมณ์ สะกดแบบนี้ค่ะ
ขอบคุณค๊า ตามแก้เรียบร้อยแล้วค่ะ จุ๊บๆๆๆ
นิยาย ‘ผมคือ...นางเอก’ กำลังจะรวมเล่มค่ะ
รบกวนช่วยโหวตตอนใดตอนหนึ่งในเรื่องผมคือนางเอกที่อยากให้วาดเป็นการ์ตูนมากที่สุด 1 ตอนค่ะ
ตอนที่ได้คะแนนนิยมมากที่สุด จะได้ปรากฎเป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆให้ได้ชมกันค๊า
เปิดโหวตทุกเส้นทางการติดต่อค่ะ
ไปตามโหวตที่เพจก็ได้นะคะ
ขอบคุณค่ะ ^^