แพ้
I had a dream
We were sipping whiskey neat
Highest floor, The Bowery
Nowhere's high enoughใครๆต่างก็มีความฝัน ผมเองก็มีผมฝันว่าจะมีสักวัน ที่ผมรวยแบบพวกเขาบ้าง
“เธอ มีกลุ่ม BIS3 ยังคะ”
ผมกำลังนั่งเล่นมือถือฟังเพลงอยู่ถอดหูฟังเงยหน้ามองเพื่อนร่วมคลาสคนสวยที่ไม่เคยคุยกันมาก่อน
“อ่า ยังครับ” ผมบอกออกไป
“อยู่กับกลุ่มเราไหม ขาดคนหนึ่ง” ผมพยักหน้ารับง่ายๆก่อนจะมองไปหากลุ่มของเธอที่ว่า กลุ่มนี้ประกอบด้วยแพทสาวสวยที่อยู่ดีๆก็มาทักผม เจคเดือนสาขาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ภัทรหลานชายเจ้าสัวใหญ่ที่ทำธุรกิจนำเข้ายาและกันย์ที่เมื่อคืนเราอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อไหร่ที่เจอกันที่ม. เราก็เป็นแค่คนที่ไม่รู้จักกัน
“ชื่ออะไรนะ” เจคเดินมาถามเพราะจะโน๊ตชื่อลงไป
“กันต์ พิสุทธิวงศ์” พอผมบอกออกไปเจคก็หันไปหาเพื่อนตัวเอง
“ชื่อเหมือนมึงเลยนี่”
คนที่ถูกพาดพิงเลิกคิ้วมองก่อนจะสบตาผมแค่ชั่วครู่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“เรียกยากว่ะ งั้นกูเรียกเป็นกันต์เล็กกับกันย์ใหญ่”
เจคขำที่ภัทรบอก
“ไอ้เหี้ย ชื่ออะไรของมึงภัทร”
ภัทรยักคิ้วให้เพื่อนก่อนจะเหมือนนึกอะไรออก เขาจ้องที่ผมสักพัก
“อ่อ กันต์นี้ใช่ไหมที่ได้ทุนมาจากต่างจังหวัด”
“คณะเรามีทุนด้วยเหรอ” สาวสวยคนเดียวในกลุ่มถาม
“ทุนพ่อไอ้กันย์ไง” พวกเขาขำกันเหมือนมันเป็นเรื่องไร้สาระ
ในมหาวิทยาลัยเอกชนภาคอินเตอร์ที่ค่าเทอมแพงกว่ารายรับทั้งปีของบ้านผม ผมได้ทุนเต็มจำนวน แต่ก็เพิ่งรู้ว่าเป็นทุนจากใคร ตอนแรกผมคิดว่าผมจะตั้งใจเรียนตามปกติของผมอย่างที่เคยเป็นมาตั้งแต่เด็ก ผมมั่นใจในความเก่งของผม จนกระทั่งมาเจอพวกเขา
...พวกเขารวย...
นี่คือ fact และความปกติของนักศึกษาที่นี่ ความรวยของพวกเขาเอื้อไปถึงพื้นฐานการศึกษาของพวกเขาด้วย และเก่งภาษาอังกฤษโดยที่ไม่ต้องพยายามด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิด ในขณะที่ผมพยายามแทบตายเพื่อที่จะมายืนอยู่ตรงนี้
อาจารย์กานต์คนสอบสัมภาษณ์บอกผมว่าที่นี่เราอยู่กันแบบครอบครัวเพราะคนไม่เยอะ ทุกคนน่ารักและเป็นมิตร ตอนเข้ามาแรกๆผมก็คิดแบบนั้น แต่เมื่ออยู่นานเข้าผมกลับเหมือนเป็นประตัวหลาดในบางทีเพราะคุยกับพวกเขาไม่รู้เรื่อง
พวกเขาขับรถราคาแพงมาเรียนเป็นปกติ กินข้าวราคาแพงเป็นปกติ สวมนาฬิการาคาเหยียบแสนหรือล้าน ไปซัมเมอร์ที่ต่างประเทศเป็นปกติ แต่ทุกอย่างล้วนไม่ปกติสำหรับผม
สิ่งแวดล้อมนี้เป็นสิ่งแวดล้อมที่ผมไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับมันได้เลย
“Smoking?”
เจคถามกันย์ที่จู่ๆก็เดินออกจากห้องไป ผมมองตามแผ่นหลังกว้าง
“He’s mad guy” เจคว่าพลางไหวไหล่
“เออ เมื่อวานมันเพิ่งทะเลาะกับแฟน” ภัทรบอกถึงเหตุผลที่ทำไมวันนี้คุณชายถึงอารมณ์ไม่ดีนัก
“About?”
“มันหายหัวไปแล้วไม่บอกน้อง ไปนอนไหนก็ไม่รู้” ปลายประโยคตี๋หนุ่มหล่อหันมามองผมเหมือนกับรู้เรื่องบางอย่าง หรือไม่ก็แค่อยากไล่ผมออกไปจากวงสนทนาทั้งๆที่ผมนั่งอยู่ตรงนี้ก่อน
“Annoying Thai gurl” เจคว่าพร้อมกับทำหน้าตาไม่สบอารมณ์ แพทหัวเราะเพื่อนก่อนจะปราม
“กูก็คนไทย”
“แล้วกันต์เรียนอะไรต่อ” ผมยิ้มให้คนสวยก่อนจะตอบ
“ไม่มีแล้ว เรากลับก่อนนะ” ผมลุกเก็บของลงกระเป๋าเพราะไม่อยากอยู่เป็นจุดสนใจของพวกเขาเสียเท่าไหร่
ผมเดินออกทางเชื่อมตึกที่มีรถหรูจำนวนมากจอดเรียงราย กะว่าจะไปนั่งรอรถรางที่ชาติหนึ่งมาทีแต่ต้องแวะเข้าห้องน้ำก่อน
“ดูดบุหรี่รึไง” กันย์ที่กำลังคาบบุหรี่ไว้ในปากเอ่ยทักผม ผมส่ายหัวแทนคำตอบ ผมรู้ว่าเขาชอบดูดบุหรี่ในห้องน้ำม. แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นห้องน้ำหลังตึกนี้
“แล้วมาทำอะไร”
“เข้าห้องน้ำ” ผมชี้ไปที่โถฉี่ก่อนจะเดินเข้าไปแต่เพราะรู้สึกเหมือนโดนจ้องอยู่ถึงได้เปลี่ยนใจเดินเข้าห้องน้ำแทน
“อายเป็นด้วย?” คนที่มองถามกลั้วหัวเราะ ตาดุๆของกันย์หรี่มองผมก่อนจะเดินแทรกตัวเข้ามาในห้องน้ำห้องเดียวกันกับที่ผมเพิ่งเดินเข้ามาแล้วล็อคประตูไว้ ริมฝีปากบางเหยียดยิ้ม
“อย่ากันย์” ผมบอกเมื่อมันพยายามใช้ตัวใหญ่ๆดันผมจนติดกับผนังห้องน้ำ
“ชู่ว” กันย์ว่าพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาใกล้ น้ำหอมกลิ่นฉุนจมูกที่ผมคุ้นชินลอยเตะจมูกเมื่ออีกคนใช้ศอกทั้งสองข้างค้ำไว้ที่ผนังห้องน้ำ หน้าเราอยู่ชิดกันจนมองเห็นได้เลือนลาง ผมเบือนหน้าหนี
“กูจะ อ๊ะ” ผมหุบปากฉับเมื่อปากบางๆนั่นฉกลงมา
เราจูบกันอยู่นาน กลิ่นน้ำหอมที่ติดตัวกับกลิ่นบุหรี่ตีกันจนผมมึน มือใหญ่ของกันย์ปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนผมออก ก่อนจะซุกจมูกลงที่ซอกคอผม เรานัวเนียกันนานจนได้ยินเสียงจากข้างนอก
“มึง หยุด” ผมขยุ้มคอเสื้ออีกคนออก
กันย์ดูหัวเสียอย่างเห็นได้ชัด คิ้วเข้มของคุณชายขมวดแน่น ผมรีบติดกระดุมเสื้อแต่มือของอีกคนก็ยังสอดเข้ามาลูบไปทั่วหน้าอก
“อย่า” ผมร้องบอก เขายิ้มก่อนจะก้มลงมากระซิบ
“เดี๋ยวก็ได้ยินกันหมด” กันย์บอกพร้อมกับใช้ฟันตัวเองขบลงที่ติ่งหูผม มันตั้งใจกวนตีนแต่ผมก็เผลอส่งเสียงคราง
“Be quiet guys” เสียงจากข้างนอกดังขึ้นผมมองหน้าคุณชายทันที
“ไม่แกล้งแล้ว”
เขายืดตัวขึ้นเสยผมก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้มพอใจที่แกล้งผมได้ ผมพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำนั้นบ้าง
ผมคิดว่าข้างนอกไม่มีใครแล้วเพราะผมทิ้งเวลาไว้นานเกือบห้านาที แต่ผมคิดผิดเพราะภัทรเพื่อนของกันย์ยังยืนดูดบุหรี่อยู่ที่เดิม
“คราวนี้เด็กทุนเหรอวะ”
เขายิ้มให้พร้อมกับชี้เข้าที่คอของตัวเอง ผมรู้ความหมาย ถึงได้ดึงปกเสื้อให้สูงขึ้นอีก บางทีกันย์คงจะทิ้งรอยไว้
“ถ้าคิดว่ากันย์มันจะเก็บมึงไว้ มึงคิดผิดแล้ว”
ผมไม่รู้เจตนาของคนพูด แต่ถ้าจะพูดเรื่องแบบนี้ละก็
...ผมรู้มาตั้งแต่แรกแล้ว...
ผมเดินออกมาล้างมือก่อนจะหันไปบอกหนุ่มตี๋ไฮโซที่กำลังมีข่าวคั่วดาราวัยรุ่นอยู่ตอนนี้
“ถ้าถึงวันนั้นแล้ว มาเก็บเพื่อนมึงกลับไปด้วยละกัน”
“ห้องสวยจัง” เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนขาสั้นบอกด้วยสายตาเป็นประกายเมื่อเดินเข้ามาในห้องชุด 1 ห้องนอนใจกลางเมือง ผมยิ้มน้อยๆก่อนจะตอบ
“ไม่ใช่ของพี่หรอก ของเพื่อน”
น้องพยักหน้ารับ
“แพงมากแน่ๆเลยครับ”
ผมหัวเราะก่อนจะเดินไปสวมกอดเด็กวัยรุ่นตัวบางจากข้างหลัง เจสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะหันมายิ้มพร้อมกับใบหูที่ขึ้นสีแดงน่ารัก
“ชอบไหม” ผมถามพร้อมกับก้มลงจูบซอกคอของน้อง ผมกับเจคุยกันซักพักจากโปรแกรมหาคู่เดทอันนั้น น้องน่ารัก สุภาพและดูคุยรู้เรื่อง เราเปิดกล้องกันสองถึงสามครั้ง ก่อนที่ผมจะชวนเจมาหา
“ครับ” คนเด็กกว่าตอบ ก่อนจะหันมารับจูบแบบเขินๆ
“เพื่อนพี่จะกลับมาตอนไหน”
“วันนี้เพื่อนพี่ไม่กลับ”
ผมที่มัวแต่ไล่ชิมปากสีสดค่อยๆตอบพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของน้อง ผิวขาวเนียนของเจเป็นแบบที่ผมจินตนาการไว้ ผมลากมือผ่านหน้าอกแบนราบ ตัวน้องสั่น อย่างกับว่า...
“เคยไหมเนี่ย” ผมถามพร้อมกับก้มลงจูบซอกคอขาว เจพยักหน้าเบาๆ
“เคยครั้งเดียวครับ”
ผมเลิกคิ้วก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นหน้าตาเขินอายของน้อง
“กับใคร” ผมถามพร้อมกับดันหลังเจให้นอนลงไปบนเตียงนุ่มแล้วโถมตัวเองลงไป พอเห็นตัวขาวโพลนของเด็กมัธยมใต้ร่างตัวเองแล้วตื่นเต้นฉิบหาย
“เพื่อนผม” น้องเจว่า ผมคิดตาม ผมเองสมัยมัธยมไม่เคยมีเรื่องตื่นเต้นแบบนี้ให้ทำ เลิกเรียนเสร็จก็ต้องรีบกลับบ้านไปช่วยแม่ขายของ
“แล้ว?”
“ตอนกีฬาสี เมากันเฉยๆ” เรื่องของเจปลุกอารมณ์ผมมากกว่าที่คิด
“พี่กันต์ครับ” น้องเรียกเสียงสั่นเมื่อผมล้วงมือเข้าไปในกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน
“เล่าต่อสิ พี่อยากรู้”
น้องเริ่มหอบหายใจหนักเมื่อผมครอบปากลงบนยอดอกที่เริ่มชูเด่น
“เราทำกันในห้องน้ำโรงเรียน” ภาพห้องน้ำในมหาวิทยาลัยเมื่อหลายวันที่ผ่านมาแฟลชแบ็คไหลย้อนเข้ามาในหัว ทำเอาผมแข็งขึ้นอย่างที่ไม่ต้องแตะแม้แต่น้อย
“เขาทำดีไหม” ผมถามพร้อมกับดึงตัวขึ้นมองหน้าตาน่ารักของน้อง
“ไม่รู้ครับ” เจตอบพร้อมกับเขิน
ทำไมเด็กมัธยมถึงได้น่ารักขนาดนี้ก็ไม่รู้ ผมคุกเข่าคร่อมน้องเจก่อนจะดึงกางเกงขาสั้นตัวเองลง น้องหันหน้าหนีปากสีสดเม้มปิดสนิทแต่แก้มกลับแดงจัด ผมหัวเราะก่อนจะจับร่างกายตัวเองจ่อเข้าที่ปากน้อง
“อ้าปากครับคนดี”
“ใคร” เจ้าของห้องกลับมาพร้อมกับคำถามในตอนเกือบห้าทุ่มของวัน ผมแปลกใจไม่น้อยเพราะกันย์ไม่ได้กลับมาที่นี่ได้เกือบอาทิตย์แล้ว บางทีสาวสวยฝั่งนู้นคงปรนนิบัติให้อย่างดี
“หืม” ผมเลิกคิ้วให้กับคำถามของคนมาใหม่
“เมื่อกี้ใคร” กันย์ชี้ไปที่ประตูทางออก
ผมไม่ตอบอะไรแต่ก้มหน้าคุยกับน้องผ่านโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู วันนี้ผิดแผนไปซะหมด เพราะเจ้าของห้องกลับมา ผมที่กะจะฟัดน้องเจต่อจนถึงเช้าเดินลงไปส่งน้องที่ล็อบบี้เมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องตัวจริงโทรมา เพราะทุกครั้งที่กันย์โทรมานั่นคือกันย์กำลังจะมาหา
“กูถาม”
“เด็ก” ผมที่ใช้แรงไปเยอะหาวหวอดพร้อมกับตอบ เพราะถ้าไม่ตอบกันย์ก็คงถามอยู่ซ้ำๆ อีกคนขมวดคิ้วทันทีที่ผมพูดจบ ทำให้หน้าที่ดุอยู่แล้วของคุณชายดูน่ากลัวกว่าเดิมหลายเท่า
“กูบอกว่าไง” มันชี้หน้าผม คำว่าหัวร้อนคงเหมาะกับคุณชายกันย์ที่สุด กันย์เป็นคนใจร้อนมาก คงเพราะในชีวิตสุขสบายตั้งแต่เกิดของกันย์ทำให้ไม่เคยรู้จักคำว่าอดทนหรือรอ
“นอกจากมึงกูก็ไม่ให้ใครเอาทั้งนั้นแหละ” ผมบอกพร้อมกับลุกขึ้นจากโซฟา ว่าจะไปอาบน้ำจะได้นอนสักที
“มึงมันเหี้ย!”
ผมไม่ชอบโดนใครตวาด ไม่ว่าใครก็คงไม่ชอบทั้งนั้น
“โมโหเหี้ยอะไร” ผมหันไปถามคนที่มาถึงก็มาอารมณ์เสียใส่ผมทั้งๆที่ตัวเองก็ไปกกผู้หญิงอยู่ตั้งหลายวัน แถมไม่ใช่แค่คนเดียวด้วย
“นี่มันห้องกู โทรศัพท์ที่มึงเอาไว้โทรนัดก็ของกู!”
ผมไม่ได้สติเลอะเลือนพอที่จะจำไม่ได้หรอก
“กูไม่เคยขอ” ผมบอกแล้ววางโทรศัพท์ของมันลงบนโต๊ะหินอ่อน ถ้าอยากได้คืนก็เอาไป ผมที่มีแค่ตัวกับเสื้อผ้าไม่กี่ชุดไม่ได้เหลืออะไรให้เก็บนักหรอก
“กันต์ อย่ามางี่เง่ากับกู”
คนที่ตั้งแต่กลับมาแล้วมาด่าผมปาวๆไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้หรอก
“มึงแหละงี่เง่า” พอผมบอกไปแบบนั้นร่างกายสูงใหญ่ก็ก้าวมาถึงตัวผมอย่างรวดเร็ว มือใหญ่ดึงแขนผมเข้าหาตัว ผมไม่ได้ตัวเล็ก แต่ถ้าเทียบกับกันย์แล้วผมก็เหมือนเด็กขาดสารอาหารคนหนึ่ง
“เจ็บไอ้สัส” ผมบอกเมื่อโดนอีกคนก้มลงกัดปาก
“ต่อไปนี้ มึงห้ามไปเอากับใครทั้งนั้น” ทำไมโลกนี้ไม่แฟร์เลยวะ ทีมันยังไปมีอะไรกับคนอื่นได้เลย
“เพ้อเจ้ออะไรวะ” ผมบอก อีกฝ่ายดึงเสื้อยืดตัวแพงออกจากตัวเองแล้วดึงเสื้อผมออกด้วย
“กูไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร” กันย์บอกพร้อมกับก้มลงซุกที่ซอกคอผม กลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดิมแต่ปนไปด้วยกลิ่นของผู้หญิงอบอวลอยู่รอบกาย
“ของ…” ผมพึมพำกับตัวเองก่อนจะบอก
“ทำอย่างกับกูชอบใช้ของร่วมกับคนอื่น”
ใบหน้าคมเงยหน้าขึ้นจากคอผมแล้วยิ้มให้ ...ผมเกลียดรอยยิ้มมัน...
“ลูกหมีเขามาก่อนมึง”
ผมหลบจูบของเขา
“เรื่องของมึง อย่ามาวาง position ให้กู”
อีกคนหัวเราะในคอ ก่อนจะหอมแก้มผมหนักๆ จมูกโด่งแนบลงบนแก้มผมหลายต่อหลายครั้งก่อนจะยื่นมาจรดกับปลายจมูกผม กันย์มองผมอย่างกับไม่เคยมอง พวกเรามองตากันอยู่นาน ตาเรียวสีเข้มของอีกคนปิดลงเมื่อผมยื่นหน้าเข้าไปจูบก่อนจะคลี่ยิ้มออกเมื่อผมเอื้อมมือขึ้นไปกอดกลับ ผมหลับตาลงรับจูบของเจ้าของห้อง
“คิดถึงมึงนะ”
เสียงทุ้มว่าเบาๆ ผมยิ้มให้กับตัวเองที่ในที่สุดก็แพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
TBC
____________________
*theme track - Kygo, Selena Gomez – It Ain't Me
https://www.youtube.com/watch?v=j6sSQq7a_Poเขียนแล้วมันส์มือมากค่ะ เป็นนิยายที่เขียนแล้วคนเขียนสนุก แต่ไม่รู้คนอ่านจะสนุกด้วยรึเปล่า 55555