คำสารภาพของเด็กขาย ภาค "ดินกะชล" ตอนพิเศษ ถวายเพล (8 กันยายน 2015)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คำสารภาพของเด็กขาย ภาค "ดินกะชล" ตอนพิเศษ ถวายเพล (8 กันยายน 2015)  (อ่าน 431201 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
แล้วพี่ชลเค้าล่ะ T~Tสงสารพี่ชลจัง

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
อ่านแล้วร้องไห้สงสารพี่ชลอ่ะเจ็บปวดมาก
แต่เรื่องนี้เคยโดนก็อปลงหนังสือนะอ่ะไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกหลาย ๆ เรื่องด้วย

ออฟไลน์ Nae_Nae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

TO.EYEz

  • บุคคลทั่วไป
ตามทันซักที (เพิ่งทันเอาป่านนี้...)
อ่านได้แว๊บเดียวตอนแรกก็พอรู้อยู่แล้วล่ะค่ะว่าคุณดินเนี่ยท่าทางเจ้าชู้ ปากหวานไม่เบา
มิน่าล่ะ ไม่ว่ารุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ หญิงชายหน้าไหนก็หลงเสน่ห์คุณดินไปตามๆกัน

ตอนอ่านเกือบลืมไปเลยว่าคุณดินคิดกับคุณชลแค่เพื่อน
ก็นะ..ดูหวานกันซะสมบทบาทนึกว่าเป็นแฟนกันจริงๆ
พอคิดแบบนี้ก็ใจหาย สงสารก็แต่คุณชลที่ยังต้องอยู่กับวงจรชีวิตเดิมๆของตัวเองต่อไป
ไม่รู้ว่าวันไหนคุณดินจะจากไปอีก เฮ้อ... เศร้าแท้ๆ

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ยังคิดถึงคุณดินกับคุณชลอยู่นะครับ แม้ว่าจะไม่มีโอกาสมาเจอกันตามเส้นทางเดินของชีวิตแต่ก็ขอให้มีความสุขกันทั้งคู่นะครับ

ออฟไลน์ Phing

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
ตามอ่านทันแล้ว อ่านตั้งแต่ภาคแรกรวดเดียวเลย
อ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่างเลย
ตอนนี้พี่ชลเป็นยังไงบ้างน้า
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันนะคะ
 :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
ตอนที่ 46 เราสองคน

จากข้อเสนอของพี่ธีร์ในครั้งแรก ที่เสนองานให้ผม แลกกับการห้ามมีความสัมพันธ์กับใครๆ ให้มีกับพี่ธีร์ได้คนเดียวเท่านั้น ทำให้ผมปฏิเสธไป เพราะถ้าอย่างนั้น มันก็เหมือนกับการที่ผมขายทั้งร่างกายให้กับพี่ธีร์ ไม่ได้ต่างจากสถานะภาพที่เป็นอยู่เลย

เมื่อเห็นว่าผมคงไม่ยอมแน่ๆ พี่ธีร์เลยขอว่า งั้นพบกันครึ่งทาง... พี่ธีร์จะไม่ห้ามให้ผมมีอะไรกับใคร แต่พี่ธีร์ขอร้องว่า ถ้าผมจะมีความสัมพันธ์กับใคร จะต้องป้องกันตัวเองทุกครั้ง...

เมื่อพี่ธีร์ยอมถอยออกไปก้าวนึงแล้ว ผมจึงยอมรับข้อเสนอของพี่ธีร์ แลกกับงานกลางวันที่พี่ธีร์ให้ผมไปทำเป็นพนักงานหน้าร้านขายของ ของพี่ธีร์พร้อมกับทำบัญชีรายรับรายจ่ายไปด้วย... โดยมีเงินเดือนประจำไม่สูงนักเมื่อเทียบกับเงินได้ที่ผมเคยได้จากงานเดิม แต่ผมก็ยังภูมิใจตัวเองได้มากกว่า...

ผมยังจำได้ว่า วันที่ผมไปบอกม๊ากับป๊าว่าผมได้งานแล้ว จะส่งเงินมาให้ม๊าด้วย ม๊าถึงกับน้ำตาคลอ...

“ดิน... เก็บเอาไว้ใช้บ้างนะ ลูก...ม๊าไม่ลำบากอะไร...” ม๊าบอกผม

“เผื่อม๊าจะอยากซื้ออะไร ซื้อของใส่บาตรบ้างผมจะได้ได้บุญกับม๊าด้วยไง...” ผมบอกยิ้มๆ เพราะเห็นม๊าใส่บาตรตอนเช้าทุกวัน... จำได้ว่า ผมบอกม๊าต่อ “ผมทำงานสักพัก มีเวลา... ผมจะบวชให้ม๊านะครับ...ม๊าจะได้ใส่บาตรผม”


ม๊ายิ้มทั้งน้ำตา... “ตามใจเหอะลูก... ขอให้เจริญๆ นะ” ม๊าให้พรที่สั้น แต่มันช่างวิเศษสุดสำหรับผมจริงๆ...

..................................................................

กับไอ้ชล เมื่อผมไปบอกมันว่าผมได้งานกลางวันทำ และจะเลิกทำงานขายบริการแล้ว มันทำตาแดงๆ ก่อนจะบอกผมเสียงแหบ

“กูดีใจกับมึงนะ ดิน...”

“แต่กูก็ยังเป็นเพื่อนกับมึงนะ ชล... กูยังมาหามึงได้” ผมบอก รู้สึกสงสารมันอย่างบอกไม่ถูก

“ไม่เหมือนกันหรอก ดิน... เวลาของมึงกับเวลาของกู... ความแตกต่างจะทำให้เราห่างกันไปเรื่อยๆ... กูเคยคิดนะ ว่า มันต้องมาถึงจนได้ แต่ ไม่คิดว่ามันจะเร็วอย่างนี้”

ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆ กอดมันไว้... ไอ้ชลหันมากอดผมไว้แน่น... แนบหน้ากับอกผม

“ทำไมกูต้องรักมึงด้วยนะ ดิน...” มันพูดพร้อมกับเสียงสะอื้นเบาๆ... จนผมรู้สึกอุ่นๆ เปียกๆ ที่หน้าอก... ถึงผมจะเคยเห็นไอ้ชลมันร้องไห้มาบ้าง (มันร้องไห้เพราะผมหลายหนเหมือนกันครับ) แต่ก็ไม่เคยเห็นมันร้องไห้มากขนาดนี้มาก่อน เล่นเอาผมใจหวิวๆ เหมือนกัน สงสารมัน ไอ้ชลมันสนิทกะผมที่สุด มันมีพี่สาวอยู่คนเดียว ไม่มีพี่ชายหรือน้องชายเลย มีแต่ผมที่เป็นทั้งพี่ ทั้งน้อง ทั้งเพื่อน และ... (อันนี้ละไว้... หุ หุ)

“กูสัญญาว่าจะมาหามึงบ่อยๆ ไง...” ผมก้มหน้าบอกมัน

ไอ้ชลเงยหน้าขึ้นสบตาผม ขอบตามันแดงก่ำ น้ำตายังปริ่มขอบตา...

“ขี้แยนะมึง...” ผมยิ้มให้มัน

“จริงนะ... ดิน... มึงจะมาหากูจริงนะ” มันถามย้ำ

“อือ... กูสัญญาแล้วนี่นา”

ไอ้ชลค่อยยิ้มออกมาอย่างดีใจกอดผมไว้แน่นตึบ... เหมือนเด็กๆ ได้ของเล่นที่ถูกใจ...

ความจริงไอ้ชลมันอายุมากกว่าผมหลายปี แต่ผมกลับรู้สึกว่า ผมโตกว่ามันในด้านความคิดหลายๆ อย่าง... และส่วนใหญ่จะเป็นคนออกความเห็นเวลาอยู่ด้วยกัน ไอ้ชลเองมันก็ยอมตามใจผมทุกครั้ง ยกเว้นเวลาจะมีอะไรกัน ไอ้ชลจะเป็นคนเริ่มเป็นส่วนมาก เหมือนคนจุดไฟ แต่พอจุดติด ผมก็กลายเป็นไฟที่ไหม้รุนแรงจนผมกับมันหมดแรงไปทั้งคู่

แต่วันนี้ กลับกลายเป็นผมเองที่ ก้มหน้าลงไปจูบมันก่อน ไอ้ชลมันชะงักไปนิดนึง ก่อนจะเปลี่ยนมากอดคอผมเอาไว้
แลกลิ้นกันครู่ใหญ่ จนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยหายไปไหนไม่รู้ รู้อีกทีไอ้ชลก็นอนอยู่บนตียงโดยมีผมตามกอดประกบอยู่ด้านบน

“อาาาว์...โอออววว...อืมมม...” ไอ้ชลครางอย่างแผ่วเบา...ผมค่อยๆ โน้มตัวลงไซร้ซอกคอของไอ้ชลอย่างนุ่มนวล...หนวดเคราที่ไม่ได้โกนมาสองวันของผมทำให้มันสยิว ขนลุกจนเห็นได้ชัด...

“อาาาซ...” ผมเลียบริเวณติ่งหูของมันด้วยปลายลิ้น ค่อยๆ ฉกเข้าไปในบริเวณรูหูของเธอ...มันทำให้ไอ้ชลสะท้านเสียวจนตัวสั่นระริก “อาาาซ... ดิน กูเสียว...” พร้อมกับยกอดคอของผมแน่น...นิ้วเกร็งจิกแผ่นหลังอันกำยำของผมอย่างรุนแรง...ผมไซร้บริเวณซอกคอก่อนจะเลื่อนมายังบริเวณหน้าอกที่มีกล้ามตึง มือข้างซ้ายขยำลงบนกล้ามเนื้อหน้าอกของไอ้ชล...ปากค่อยๆ เม้มลงบนหัวนมที่ยังคงว่างอยู่อีกข้างหนึ่ง...ปลายลิ้น...เลีย...รอบๆ หัวนมสีชมพูของไอ้ชล...

“อาาาห์...อาาาว์...มมม ดิน อ๊าซซซ อูยซซซ” ผมแหงนหน้าขึ้นมองเห็นใบหน้าของไอ้ชลเปี่ยมไปด้วยความสุขล้น ตาหลับพริ้ม...ปากสีแดงจัดของมันห่อตัวด้วยความเสียวจากการถูกเลียปลายหัวนม ผมถูไถจมูกและคางของผมที่มีมีหนาวเคราแข็งๆ ไปบนหน้าอกของไอ้ชลทำให้เพิ่มความสยิวขึ้นเป็นทวีคูณ...

“โอววว...ดิน... อาซซซ” ผมเร่งความเร็วของปลายลิ้นขึ้นอีก รวมถึงกระดกลิ้นไปมารอบๆ ลานหัวนม อีกมือก็เคล้นขยี้อีกข้าง...ยามนี้ท่อนKของผมแข็งโด่เสียดสีกับสะโพกของไอ้ชลอยู่ไปมาจนมันอดไม่ได้ต้องเอื้อมมือลงไปกำไว้อย่างหลงใหลก่อนจะรูดเล่นไปมา

ผมเริ่มที่จะลากปลายลิ้นลงมาบริเวณหน้าท้องรอบๆสะดือ...ไอ้ชลสูดหายใจเข้าจนหน้าท้องแขม่ว...ผมยังคงลากลิ้นวนเล่นกับกล้ามเนื้อหน้าท้องของมันก่อนจะไล่ละลงมาที่สะโพก ค่อยๆ เอาฟันขบเม้มที่กระดูกเชิงกรานของมันเบาๆ

“อาาาห์...ซ...ซ...ซ...ซื๊ดดด...” ไอ้ชลตัวสั่นระริก สองมือจับหัวผมไว้แน่น “ดิน มึง... อูยวซซ กูเสียว... อย่าทรมานกู”

ผมมองหน้ามัน แววตาเป็นประกายหื่น ไล้ลิ้นของผมเข้าไปในซอกขาด้านในของไอ้ชล สะใจ...ที่ได้เห็นตัวของมันสั่นสะท้านและครางไม่หยุด... “อาาห์... ซี๊ดดดดินครับ... เอากูเหอะ อูยยย...กูเสียว อาซซี๊ดดดซซซ...โอววว...”

ผมโหย่งตัว คืบขึ้นไปด้านบนลำตัวของไอ้ชล ให้ท่อนKฝังมุกของผมลากละไปตามตัวมัน น้ำเงี่ยนใสๆ หลั่งออกมาจากส่วนปลายเปรอะเป็นทาง จนกระทั่ง ผมขึ้นไปนั่งคุกเข่าคร่อมหน้ามันอยู่ ลำKของผมทาบไปบนหน้าของไอ้ชล ไข่สองลูกละอยู่ที่ปากมัน

ไอ้ชลจูบแรงๆ ที่ไข่ของผมดังฟอด ก่อนจะอ้าอมเข้าไว้ในปากทีละข้าง ดุนเล่นด้วยลิ้นไปมาอย่างชำนาญ... ลีลาการอมไข่ของไอ้ชลไม่มีใครเหมือนจนผมต้องยืดตัวจนสุด ท่อนลำของผมเสียดสีไปมากับหน้าของมัน น้ำเงี่ยนหยดลงบนเส้นผมเหนือหน้าผากขึ้นไปอีก...

“อาาห์... อูยซซี๊ดดซซซ ชล...” ผมครางออกมาด้วยความเสียวกระสันกับ ลีลาการของไอ้ชลที่ใช้ปากกับลิ้นเล่นกับไข่ของผมอย่างเมามัน...

ไอ้ชลมันรู้จุดอ่อนของผม ที่จะเสียวสุดๆ เมื่อถูกอมไข่ มันจึงโจมตีไม่หยุด จากลูกหนึ่ง ที่มันอมเข้าไปดูดจนแก้มตอบ ก่อนจะเม้มริมฝีปากดึงเบาๆ จนผมเสียวจนเกือบจุก มันก็หันมาอมอีกข้างนึงด้วยลักษณะเดียวกัน... สลับไปมา บางทีก็อ้าปากกว้าง อมเข้าไปทั้งสองลูก เล่นเอาผมต้องยืดตัวด้วยความเสียวระคนจุกน้อยๆ ครางอย่างยอมแพ้

“อูยซซซ ชล.. เสียว ซี๊ดดดซซซ” ท่อนKผมแข็งผงาด ผงกงูบงาบอยู่กับสายตามันอย่างใกล้ชิด น้ำเงี่ยนใสๆ ใหลยืดหยดลงบนหน้าผากมันเป็นทาง ไอ้ชลเอามือจับที่โคนKผมกำแน่นเหมือนทดสอบความแข็งกร่ง

“ไอ้โรคจิต...” มันด่าผมอีกคำ “อมไข่แล้วKแข็ง...” ก่อนจะจับที่โคนKของผม ถอกสุดๆ ก่อนจะเหนี่ยวให้หัวบานๆ ของท่อนKของผมเข้ามาอยู่ในปาก จนผมต้องเอามือเท้าลงเป็นท่าคลานให้มันจัดการกับKผมตามสะดวก

“อาซซซ ชล... มึงสุดยอด... อาซซซ” ผมเสียววาบไปทั้งลำ เมื่อไอ้ชลมันตวัดลิ้นเลียไปตามเงี่ยงบานๆ ของส่วนหัว เผลอตัว แอ่นเอวกระเด้าKปากมันลึกเข้าไปอีก จนกระทั่ง Kขนาดซองบุหรี่แตก ยาวร่วมเจ็ดนิ้ว ฝังมุกอีกหกเม็ด ของผมหายเข้าไปในปากมันทั้งแท่ง

ลีลาการอมKของไอ้ชลไม่เคยทำให้ผมผิดหวังสักครั้ง ทั้งปากทั้งลิ้นร่วมมือกันอย่างมีจังหวะจะโคน ทั้งดูดทั้งดุน ทั้งเลียตั้งแต่หัวบาน ลำท่อนจนไปถึงโคน ไข่สองใบไอ้ชลก็ไม่ละเว้น

จนพักใหญ่ ที่ผมปล่อยให้ไอ้ชลมันเล่นสนุกอยู่กับKผม ก่อนที่ผมจะลงนอนประกบมัน ท่อนKที่ทาเควายจนเป็นมันปลาบ จ่อส่วนปลายบานที่ปากทางของไอ้ชล ค่อยๆ ออกแรงกดอย่างแผ่วเบา...

“อูอออยยยย์...ดิน เดี๋ยวนะ...มึงอย่าเพิ่งดัน...” ไอ้ชลผลักหน้าท้องผมเอาไว้ เมื่อส่วนปลายบานผลุบเข้าไปในตัวมัน เสียงมันหอบหายใจหนักๆ น้ำตาปริ่มที่ขอบตา “ไอ้บ้านี่... Kใหญ่ไม่เลิก” มันบ่นเหมือนกับว่า บ่นแล้วมันจะเล็กลงอย่างนั้นแหละ... ผมหัวเราะหึๆ

“ก็ใครล่ะ พอรู้ว่ากูKใหญ่ ก็ตีสนิทเลย” ผมล้อมัน เรื่องเก่าตั้งแต่ เริ่มรู้จักมัน “ยิ่งพอรู้ว่าฝังมุก ยิ่งตื่นเต้น”

ไอ้ชลอายหน้าแดง... หยิกเอวผมเบาๆ “ตอนนั้น กูไม่รู้นี่ว่ามึงจะขี้เงี่ยนขนาดนี้”

“ว่ากูขี้เงี่ยน แล้วใครวะ ที่พอที่ติ๋มบอกว่าให้กูเอา ไม่ปฏิเสธสักคำ”

ไอ้ชลยิ่งอายหยิกเอวผมอีก พอมันเผลอตัวผมก็ขยับกระเด้าดันKฝังมุกของผมเข้าไปจนสุดโคน เม็ดมุกครูดกล้ามเนื้อหูรูดของมันเป็นจังหวะ กึกๆ พร้อมๆ กับไอ้ชลที่สะดุ้งน้อยๆ ทุกครั้ง...กอดหลังผมแน่น ไม่ให้ผมขยับตัว

“อู๊ยซซซ ดิน... อูยซซซ มึง ชอบแกล้งกู...อาซซซ ดิน...โอ้วซซซ ซี๊ดดซซซซ”

ผมล้อมันต่อ “พอโดนกูเอา ก็เลยติดใจ แอบลักดูดKกูตอนเมา ก็หลายหน”

“มึงรู้เหรอ” ไอ้ชลลืมตาโพลง

ผมเกร็งหน้าท้องขยับบั้นเอวกระเด้าซอยถี่ๆ เล่นเอาไอ้ชลเสียวจนหน้าเบี้ยว ครางไม่เป็นภาษา

“อาาห์...อาาาว์ซซซ...อูวว...อูอวว์...อูววว์...ซี๊ดดด...”

“โดนกูเอา... เสียวไหมชล” ผมแกล้งถามมัน

ไอ้ชลส่ายหัวดิก...ทั้งที่หน้าเหยเก “ม่ายอ่ะ...งั้นๆ แหละ.... อูยซซซ”

ไม่รอให้มันพูดจบ ผมก็สาวลำออกมาจนเกือบสุดจนมองเห็นหัวบานแดงก่ำ แล้วค่อยๆ ดันกลับเข้าไปจนสุด มันกระชับแนบแน่น...เสียวปลายหัวของผมอย่างเป็นที่สุด...ก่อนจะค่อยๆซอยเนิบๆ...ก้มตัวลงจูบที่ริมฝีปากสีแดงของมัน... ไอ้ชลเผยอปากรับ ก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาในปากผมอย่างคุ้นเคย... เราจูบปากแลกลิ้นกันขณะที่ท่อนล่างของผมยังขยับต่อเนื่องเหมือนติดสปริง

“อาาาห์... มึง...เอาเก่ง...สุดยอด” ไอ้ชลบอกผมหลังจากถอนปากออกจากกัน

“หืมม...เพิ่งรู้เหรอ...” ผมสบตามัน นัยน์ตาเป็นประกายระยิบ ก่อนจะยกขาของมันพาดบ่า มันยิ่งทำให้ร่องหลืบของมันเป็นเป้าเด่นชัด... ผมสาวลำเข้าไปจนสุด และถอนลำออกมาจนสุด...ทำอยู่อย่างนั้นระยะหนึ่ง...ซึ่งการที่ท่อนลำอวบสาวออกจนถึงปลายหัวบานและยัดกลับเข้ามาจนสุดโคน เม็ดมุกเขื่องสะดุดกล้ามเนื้อหูรูด ทำให้ไอ้ชลสะดุ้งไม่หยุด ครางออกมาเพื่อผ่อนคลายความสยิวที่เกิดขึ้น...

“อาาห์...อูววว...อาาห์...อูววว์...อาาว์...อูอออววว์... ดิน ดินครับ ผัวครับ กูรักมึง”

ผมจับขาข้างขวาไขว้ไปทับขาซ้ายโดยที่มีตัวของผมประกบอยู่ด้านหลัง ท่อนเอ็นของผมยังคาหลืบสวรรค์มันอยู่ แขนข้างขวาของผมล๊อกขาขวาของมันไว้ ก่อนกระเด้าซอยเร็วขึ้นและหนักหน่วงขึ้นด้วยความมันส์และสะใจในการร่วมเพศครั้งนี้อย่างยิ่ง...

“อ๊าซ.. อาซ์...อาซ์...อาซ...” ไอ้ชลครางเป็นจังหวะ ตามจังหวะการกระเด้าซอยของผม

“กูเอามันส์ไหมชล.. หือม...” ผมกระซิบเสียงกระเส่าที่หูมัน...

“มันส์ อูยซซว ดิน... มึงเอาเก่งโคตร... กูเสียวซซซ จะแตกแล้วดิน.... อาซซซ เร็ว.. อูยวซซ”

ท่อนKของไอ้ชลที่แข็งแกร่งสะบัดไปมา... ผมรู้สึกถึงแรงขมิบที่เกิดขึ้นบริเวณกล้ามเนื้อหูรูดของมัน เป็นจังหวะ

“อาซซซ ดิน..อูยซซซ กูแตกแล้วซซซี๊ดดซซซ อาซซซ” ไอ้ชลครางยาว เกร็งนิ้วจับท่อนแขนของผมแน่น... พร้อมกับท่อนKมันกระตุกวูบ น้ำเงี่ยนสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจากส่วนปลายบาน เป็นระลอกๆ กระจัดกระจายไปตามจังหวะการแกว่งจากแรงกระเด้าของผม...

ผมจูบไซ้ที่กกหูของไอ้ชลขณะที่บั้นเอวยังคงกระเด้าซอยเร็วและหนักหน่วง...มันร้องครางออกมาไม่หยุดเสียง...

“อาาาห์...โอววว...อูววว์...อะ...อะ...อะ...อูยยย...อาาว์...” ไอ้ชลทนเสียวไม่ไหวถึงกับทรุดตัวเอาหน้าแนบกับพื้น..

“อูววว...อู๊...อู๊ยยย...อูวววซซซ...” ผมรู้สึกถึงสวรรค์ที่รออยู่เบี้องหน้าในไม่กี่วินาทีนี้...ปล่อยขามันให้ลงนอนคว่ำ พลิกตัวประกบอยู่ด้านบน ยกสะโพกของมันให้โด่งขึ้น กระเด้าสะโพกส่งท่อนเอ็นทะลวงต่ออย่างเมามัน...

 “อูยซซซ ซี๊ดซซ ชล.. กูออกแล้ว... ซี๊ดซซซ ” กระเด้าสะโพกส่งท้ายต่ออีกสิบกว่าหน ก่อนจะกดแนบแน่น ขณะที่น้ำเงี่ยนของผมทะลักหลั่งพรั่งเข้าไปในตัวมันอย่างมากมาย เป็นจังหวะๆ หลายต่อหลายครั้ง...

จนกระทั่งอาการเกร็งกระตุกของผมหมดไป ผมจึงปล่อยสะโพกให้มันนอนราบลงไปกับที่นอน แล้วเอนตัวลงกอดประกบทาบตามลงไป...

“มันส์ ไหมชล” ผมกระซิบถามที่หูมันหลังจากนอนประกบทาบกับหลังมันอยู่ครู่ใหญ่

“ไอ้ตัวเงี่ยน...” ไอ้ชลหันมาด่าผมเบาๆ เป็นคำตอบ... “หื่นอะไรมาวันนี้ เอากูอย่างกับไม่เคยเอา”

“เดี๋ยวมึงลืมกู...” ผมบอกมันล้อๆ ก่อนจะเอาริมฝีปากเม้มติ่งหูมันเล่น ท่อนKผมยังแข็งแกร่ง ผงกหงึกๆ อยู่ในตัวมัน

ไอ้ชลเหลือบตาขึ้นมองผม เหมือนกับจะค้อน ก่อนจะเอามือหยิกที่เอวผม... “มึงแหละ... ขี้เงี่ยนปานนี้... เดี๋ยวเจอใครอ้าให้ มึงก็เอาเค้าไม่เลือก...ขี้คร้านจะลืมกู...”

“มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูนะชล... กูจะลืมมึงได้ไง” ผมบอกมัน

ไอ้ชลชงักนิดนึง ก่อนจะบอก... “เพื่อนนะมึง... เอาเพื่อนทำเมียด้วย...ไอ้ลามก”

ผมหัวเราะหึๆ ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่... แต่เสบอกไป “เพื่อนก็ส่วนเพื่อน... เอาเพื่อนทำเมีย... เป็นของแถมอ่ะ”

“ดิน...” ไอ้ชลเรียกผมเบาๆ

“หือม...”

“รักกูมั่งป่ะ” ไอ้ชลมันถามเรียบๆ

“รักดิ... มึงเป็นเพื่อนที่กูรักมากที่สุด...” ผมตอบมันไปไม่ตรงคำถามนัก

มันดึงมือผมไปกอดมัน “กูหมายถึง... เอ่อ... รักแบบ...คนรัก” ผมนิ่งไปครู่ใหญ่... กำลังคิดว่าจะตอบมันยังไงดี แต่ไอ้ชลก็พูดออกมาก่อน... “ลำบากใจก็ไม่ต้องบอกก็ได้ ดิน... แค่นี้กูก็มีความสุขแล้วละ”

“ยังอ่ะ” ผมตอบมันตาพราวระยับ

“อะไร ดิน”

“กูเคยเอามึงทีเดียวด้วยเหรอ” ผมถามมัน พลางขยับบั้นเอว กระเด้าส่งท่อนลำที่ยังแกร่งแข็งอยู่ในตัวมันไปมาสองสามที เป็นการเตือนก่อนจะสาวยาวๆ...

“ไอ้บ้านี่...อูยซซซ” ไอ้ชลครางเสียว เมื่อเม็ดมุกที่ผมฝังไว้ที่ลำสะดุดกล้ามเนื้อหูรูดมันกึกๆ.. “ไอ้ตัวเงี่ยน ไอ้บ้ากาม”

“ว่ากูบ้ากามดีนัก วันนี้กูจะเอามึงให้หมอบเลย” ผมบอกมันเสียงหื่น ก่อนจะจูบไซ้ที่ติ่งหูมัน เกมส์กามของเราสองคนในวันนั้นเริ่มขึ้นอีกรอบ...

.....................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2011 18:43:02 โดย DIN »

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
จะบอกว่าไงดี... จริงๆ แล้วตอนนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร เพราะเพิ่งเปลี่ยนงานเมื่อตอนต้นปี งานใหม่ยุ่งมากครับ ตอนแรกว่าจะไม่มาเขียนต่อแล้ว แต่ความรู้สึกผิด ก็ยังวนเวียนอยู่ เลยต้องกลับมาต่อให้จบ คิดว่าจะจบให้ได้ก่อนสิ้นปีครับ

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
โอ้ว เย่ รีบกลับมาตอให้จบนะครับพี่ดิน

tippy

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาจากเรื่องแรกของพี่ดิน  ยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้แต่มาเม้นท์ก่อน  คาใจเรื่องพี่ชลเหมือนกัน ได้อ่านซักที
จะตามรอต่อนะคะ
(หลังจากไปอ่านมาแล้ว)

อยากให้พี่ดินกับพี่ชลเจอกันอีกครั้งถึงไม่ใช่คนรัก แต่ก็ผูกพันธ์กัน
ชอบเรื่องของพี่ดินนะคะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าทุกวันนี้พี่ดินยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน (เอ๊ะหรือมีแล้วไม่บอก555+)

จะรอพี่ดินมาต่อตอนต่อไปจ้า :impress3: > :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2011 03:13:24 โดย tippy »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เพิ่งเข้ามาเห็นว่าคุณดินมาเล่าต่อแล้ว

อ่านแล้ว เห็นอารมณ์ชัดเจน
ยังคงแจ่ม เจิดเหมือนเดิม
ขนลุก ซู่ๆๆๆ  ตั้งชัน อิอิ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
ตอนที่ 47 อายครูบ่รู้วิชา

ผมเริ่มทำงานที่ร้านของพี่ธีร์ ซึ่งเป็นร้านขายของเก่า ประเภทของตกแต่งบ้าน มีฝรั่งเข้ามาเป็นลูกค้ามากพอดู ผมรับทำหน้าที่ดูแลสินค้าของร้าน นับจำนวน จดยอดขายของร้านให้ตรงกับ เงินสดรับ หรือรายการที่ลูกค้าใช้บัตรเครดิต... โดยมีพนักงานขายเป็นผู้หญิงสองคน ผลัดกันอยู่เช้าถึงบ่าย ส่วนอีกคนอยู่บ่ายถึงค่ำ

เวลางานของผม คือประมาณแปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น ตอนเช้าที่ลูกค้ายังไม่เข้าร้าน ผมก็ตรวจตรานับสินค้าที่ร้าน ตรวจดูกับการขายเมื่อวานตอนระหว่างห้าโมงถึงร้านปิดที่ผมกลับไปแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นการตรวจตรารายการขายที่เกิดขึ้นว่า ตรงกับตั้นขั้วใบเสร็จหรือเปล่า ก่อนจะเป็นการนับเงิน เช็คยอดต่างๆ...

สองสามวัน ผมก็ไปค้างที่บ้านพี่ธีร์ครั้งนึง ซึ่งพี่ธีร์พยายามจะตื้อให้ผมไปอยู่ด้วยเสมอๆ แต่ผมส่ายหน้า

“ไม่ดีกว่าครับพี่... ขอผมทำงานอย่างนี้ดีกว่าครับ”

ไม่กี่วันที่ผมเข้าไปทำงาน ผมก็จับการทุจริตในร้านของพี่ธีร์ได้ว่าคนขายคนนึงยักยอกเงินในร้านทำให้พี่ธีร์ต้องไล่คนขายคนนั้นออกไป... ทำให้คนขายในร้านขาดไปคนนึง บางเวลาทำให้ผมต้องอยู่หน้าร้านคนเดียว ตอนคนขายอีกคนที่เหลือเค้าไปหาอะไรทาน หรือไม่ก็เป็นช่วงที่เค้ายังไม่มาทำงาน ซึ่งเค้าจะเข้างานสายๆ ประมาณสิบโมง และจะอยู่ไปจนเย็น เพราะเป็นช่วงที่ลูกค้าเข้าร้านเยอะกว่า...

ช่วงที่เค้าไม่อยู่ ถ้ามีลูกค้าเข้าร้านและผมอยู่คนเดียว ผมก็ต้องทำหน้าที่เป็นคนขายไปด้วย ซึ่งภาษาอังกฤษที่งูๆ ปลาๆ อย่างผมทำให้ผมค่อนข้างอึดอัดกับตัวเอง... ในที่สุด ผมก็บอกตัวเองว่า ควรจะทำอะไรสักอย่างแล้ว...

ผมไปสมัครเรียนที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ชื่อว่า สอนโดยอาจารย์เจ้าของภาษา ที่มีดีกรีทางด้านการสอนภาษาโดยตรง

ทั้งความตั้งใจของผม บวกกับแนวทางและวิธีการสอนที่ถูกต้อง ยิ่งได้ครูที่สอนเป็นฝรั่งสาวค่อนข้างสวย ยิ่งทำให้ผมตั้งใจเรียน จากการเริ่มรู้จักกันในฐานะอาจารย์สอนภาษากับลูกศิษย์... บ่อยครั้งที่ผมมีคำถามเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ ก็นำมาถามในชั้นเรียน ทำให้ความสนิทสนมของเรามีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนวันนึง มีการมอบหมายให้นักเรียนในห้อง ออกมาบรรยายสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ เป็นภาษาอังกฤษ

“เกาะเสม็ด” เป็นสถานที่ ที่ผมนำมาพูดเกี่ยวกับความงาม และความเป็นธรรมชาติ (เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เกาะเสม็ดยังบริสุทธิ์อยู่มากๆ ครับ) จนเลิกเรียน ผมกำลังจะเดินออก อาจารย์สาวก็เดินมาที่ผม

“Din, I liked your presentation, Kaoh Samed is interesting. If I want to go there, can you be my tourguide”

“Sure… When do you want to go there?”

“Next weekend, we have 3 days holiday. Is it ok?

“No problem…”

......................................

วันศุกร์ถัดมา ผมกับ อาจารย์รัท ก็มาเจอกันที่สถานีขนส่งเอกมัยตตอนสิบโมงเช้า ตีตั๋วรถทัวร์ไปบ้านเพ ระยอง กว่าจะไปถึงก็บ่ายโมงกว่าแล้ว หาอะไรกิน ที่ตลาดบ้านเพก่อนจะไปซื้อตั๋วลงเรือข้ามไปเกาะเสม็ด...

“It’s beautiful, I like here. Thank you, Din” สาวต่างชาติ ถึงกับครางออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อเราเดินจากท่าเรือมาถึงหาดทรายแก้ว ที่มีหาดทรายละเอียดสีขาวทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา ก่อนจะ หันมาจูบผมที่แก้มเป็นการขอบคุณอย่างไม่มีอาการเคอะเขินใดๆ

ผมโอบเอวอาจารย์สาวของผม ให้เดินไปทางขวาของหาดทรายแก้ว ไม่นาน... ก็เจอที่พักเป็นบังกาโลเล็กๆ มีระเบียงอยู่ด้านหน้า... ผมเข้าไปติดต่อกับเจ้าของ ไม่นานเราก็ได้ห้องพักสะดวกสบายพอควร

ในห้องมีที่นอนขาวสะอาดเล็กๆ วางติดกัน กับพัดลมเพดาน ห้องน้ำในตัว เจ้าของบอกว่า เครื่องปั่นไฟจะทำงานถึงห้าทุ่ม ก่อนจะส่งตะเกียงเล็กๆ ให้ผมพร้อมกับไม้ขีด

ยังมีเวลาอีกชั่วโมงกว่า ก่อนจะมืด เราเอาของไปเก็บในห้อง หญิงสาวต่างชาติ รื้ออะไรอยู่ในกระเป๋า ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ไม่นานก็ออกมา เล่นเอาผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น... โธ่ ก็แม่คุณเล่นเปลี่ยนเป็นทูพิช ชิ้นกระจิ๋ว ปิดบนปิดล่างไว้แทบจะไม่มิดขนาดนั้น...

“Let’s go swim, Din”

ผมรับคำก่อนจะเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้น เดินตามอาจารย์รัทลงไปที่หาดทรายไม่ไกลจากบังกาโลเท่าไรนัก...

ระหว่างอยู่ในทะเล เราหยอกล้อกันเล่นอย่างสนุกสนานราวกับคู่รัก อาจารย์รัทดูเหมือนจะผ่อนคลายเป็นพิเศษ ไม่ถือเนื้อถือตัว บ่อยครั้งที่กอดคอผมแน่นตึบ เบียดอกอวบกับอกผมอย่างแนบแน่น เล่นเอาเลือดในตัวผมร้อนฉ่า ไอ้ดินน้อยในกางเกงขาสั้นดันกางเกงจนโป่งพอง ดีที่อยู่ในน้ำไม่เป็นที่ผิดสังเกตุสำหรับคนบนหาดสักเท่าไร

แรกๆ ผมก็พยายามโก่งตัวหนี แต่อาจารย์รัทก็รุกเร้าจนหลังๆ ผมไม่หนีแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าหนุ่มไทยขี้ขลาด ผมดันสะโพกเบียดสู้กับสาวสหราชอาณาจักร จนไอ้ดินน้อยสัมผัสกับหน้าท้องของอาจารย์รัทอย่างจงใจ

เบียดไปเบียดมา อาจารย์สาวเริ่มหน้าแดง กอดคอผมบ่อยครั้ง จนสุดท้ายผมรั้งเอาอาจารย์สาวเข้ามากอดแน่น ประกบปากสอดลิ้นเข้าไปในปากอาจารย์สาวด้วยความชำนาญ กดพกบดเบียดกันอย่างไม่ยอมแพ้ พอผมถอนริมฝีปากออกมา สาวอังกฤษถึงกับคราง

“Wow!!! Din...You are such a great kisser”

“You are also wonderful Ruth” ผมตอบเบาๆ ก่อนจะจูบหล่อนอีกครั้ง สองมือรั้งสะโพกงอนของอาจารย์สาวให้เข้ามาแนบกับสะโพกของผมแน่นขึ้น ตวัดขาทั้งสองข้างของหล่อนขึ้นรัดสะโพกของผม

ในน้ำ ทำให้ร่างของหล่อนไม่หนักจนเกินไปนัก แต่ท่านี้ ทำให้ไอ้ดินน้อยทักทายกับสาวน้อยจากเกาะอังกฤษอย่างสนิทสนม ถึงแม้จะเป็นการทักทายผ่านผ้าถึงสองชั้นก็ตาม แต่ขนาดและความแข็งแกร่งที่นาบอยู่ระหว่างเราสองคน ทำให้หญิงสาวชาวอังกฤษถึงกับหน้าแดงก่ำ

“Din”

“Yes”

“Shall we go to our place?” หญิงสาวถามเสียงกระเส่า

“I thought you’d like to be a Mermaid (ผมคิดว่าคุณอยากจะเป็นนางเงือกเสียอีก)” ผมกระซิบล้อ

“Na… It’s not dark enough (ไม่... มันยังไม่มืดพอ)” หญิงสาวตอบยิ้มๆ

เราประคองกันขึ้นมาจากชายหาด เคราะห์ดีที่ไม่ค่อยมีคนและบังกาโลก็ไม่ไกลจากชายหาดนัก พอเข้ามาในห้อง อาจารย์รัท ก็ดึงผมเข้าไปในห้องน้ำอย่างไม่รอช้า เปิดฝักบัวให้รดมาที่เราสองคน ก่อนจะหันมากอดคอผมลงไปประกบปากอีกครั้ง

ผมตวัดลิ้นสู้อย่างไม่ให้เสียเชิงหนุ่มไทย มือของเราสองคนดึงทึ้งเอาชุดว่ายน้ำของกันและกันออกจากตัวเหวี่ยงไปอีกทางอย่างไม่ไยดี ประเดี๋ยวเดียว เราสองคนก็เปลือยเปล่ากอดกันกลมท่ามกลางน้ำฝักบัวที่ไหลรดลงมาไม่หยุด

“Aowwww… What happen to your cock? Din” หญิงสาวจากเกาะอังกฤษถามเมื่อ มือนึงเลื่อนลงไปกำไอ้ดินน้อยที่แข็งผงาดไว้เต็มมือ สัมผัสกับเม็ดมุกที่เลื่อนไปเลื่อนมา อย่างเปลกใจ

“Don’t worry… It’s just some Thai’s thing, but it will make you have such a good time with its” ผมตอบ

หญิงสาวดูเหมือนจะอยากรู้อยากเห็น กับสิ่งที่ผมอธิบาย ดันผมเข้าไปยืนพิงผนังห้องน้ำ ก่อนจะคุกเข่าลง ใบหน้าของหล่อนตรงกับไอ้ดินน้อยที่ผงกหัวบานโชว์ความแข็งแกร่ง กับเม็ดมุกบริวารให้หล่อนเห็นอย่างชัดเจน...

มือสองข้างของหญิงสาวกำท่อนKของผมรูดขึ้นลงไปมา สัมผัสกับเม็ดมุกที่เลื่อนไปเลื่อนมาระหว่างมือของหล่อนอย่างไม่เคยเห็น

“It’s wonderful Din, I’ve never seen it before” (มันแปลกมาก ดิน ฉันไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย)

ก็แน่ซิฟะ เท่าที่รู้หล่อนเพิ่งมาสอนที่เมืองไทยได้ไม่กี่เดือน... แล้วของอย่างนี้มันมีให้เห็นเยอะซะที่ไหน... หุ หุ ผมคิดได้แค่นั้น ก็ต้องแหงนหน้าคราง เพราะสิ่งที่หญิงสาวบอกว่าแปลก ได้หายเข้าไปในริมฝีปากสีชมพูของหล่อนแล้ว

ถึงจะเป็นหนุ่มไทย แต่ผมก็มั่นใจว่า ไซส์ของผมไม่ธรรมดา เพราะเห็นอาจารย์รัท อมได้ไม่ถึงครึ่ง แต่ก็สร้างความเสียวให้ผมได้ไม่น้อย ลิ้นนุ่มๆ ตวัดวนหัวบานไม่หยุด ก่อนจะไล้เลียไปตามลำท่อนลงไปอมดูดพวงไข่ของผมอย่างชำนาญเชิงมาไม่น้อย...

“อ๊าววว รัท ยู อาร์ เกรท.. อาซซซซ” ผมครางด้วยความเสียว

ยิ่งเห็นผมคราง หญิงสาวจากเครือจักรภพ ยิ่งเอาใหญ่ พวงไข่ของผมถูกดูดดุนไปมาอย่างสนุกสนาน สลับกับการขึ้นมาอมหัวบาน แล้วรูดริมฝีปากลงไปตามท่อนลำฝังมุกของผมอย่างเมามันส์ เหมือนกะจะพิชิตท่อนลำของผมด้วยริมฝีปากก่อนยังงั้นแหละ เสียวน่ะเสียวครับ แต่ไม่พอที่จะทำให้คนที่ชำนาญเชิงอย่างผมทะลักออกมาด้วยริมฝีปากของหล่อนได้หรอก

ผมปล่อยให้หล่อนสนุกสนานกับท่อนลำของผมพอควร ก่อนจะก้มลงไปพยุงตัวของหล่อนให้ยืนขึ้นมาประกบปากอีกครั้ง...

ผมตวัดลิ้นสู้กับหล่อนอย่างชำนานเชิง สองมือลูบไล้ไปตามร่างกายสวยงามของหล่อน พอเจอกับร่องหลืบนิ้วกลางของผมก็แทรกลงไปในความชุ่มฉ่ำเขี่ยตวัดไปมา

“Aow Din….”

สาวอังกฤษบิดตัวเป็นงูเมื่อเจอกับนิ้วหนุ่มไทยเจนศึกอย่างผม นี่แค่นิ้วเท่านั้น... แต่ไหนๆ หล่อนก็มาให้ผมเคี้ยวถึงเมืองไทยแล้ว ก็ต้องฝากฝีมือกันหน่อย...

ค่อยๆ ไล้ริมฝีปาก จากติ่งหู ซอกคอ จนมาถึงพวงถันที่ขาวกว่าหยวก ส่วนปลายเป็นสีชมพูชัดเจน ยิ่งเจ้าตัวกำลังอยู่ในอารมณ์กำหนัดเต็มที่แบบนี้ ยิ่งเปล่งประกายแดงก่ำด้วยเลือดฝาดสาวให้ผมลิ้มลองด้วยปลายลิ้นและริมฝีปาก

หญิงสาวถึงกับสะท้านเยือกเมื่อผมอ้าปากอมเอายอดถันข้างหนึ่งของปล่อนเข้าไปในปาก ปลายลิ้นตวัดไล้วนไปมา พร้อมกับดูดดุนอย่างหิวกระหาย ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ถูกเคล้นคลึงด้วยฝ่ามือและปลายนิ้วอย่างชำนาญ

“Ahhhh zzzz Din… You are great…zzz”

ผมเฟ้นฟอนคลึงเคล้าด้วยความชำนาญ สลับข้างไปมาพักใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนใบหน้าลงมาตามหน้าท้องเนียนเรียบ เคราสากๆ วนรอบสะดือจนหญิงสาวต้องแขม่วท้องไปมา ครางไม่หยุด และยิ่งครางดังกว่าเดิมเมื่อผมฝังริมฝีปากลงกับกลีบเนื้อสีชมพูสดจนเกือบแดง ปลายลิ้นตวัดไล้เลียติ่งเนื้อสีแดงสดที่ขยับตัวสู้ลิ้นของผมไปมา

“Aowww Zzzzzzz Din Zzzz Please” หญิงสาวครางเสียงดัง สองมือกดแกร็งกับหัวผมขณะที่ผมตวัดปลายลิ้นลิ้มลองความชุ่มฉ่ำที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุด

จนผมเห็นว่าควรแก่เวลาที่จะให้หล่อนรู้จักความเสียวจากท่อนฝังมุกของผม จึงลุกขึ้นยืนประกบอีกครั้ง มือขวาเหนี่ยวเอาขาข้างซ้ายของหล่อนขึ้นมาพาดอยู่ที่เอว ท่านี้ทำให้หัวบานอวบของท่อนKผมจ่อได้มุมพอดีกับร่องหลืบที่ฉ่ำเยิ้มของหล่อน ออกแรงดันอีกนิดส่วนหัวบานๆ ก็ผลุบเข้าไปในร่องหลืบ

หญิงสาวสะดุ้งเฮือก ผวากอดผมแน่น

“Din...Hold on, it’s so tight… Your cock is so big. Aowzzzz”

คำหลัง หล่อนอุทานเยือก เมื่อผมดันสะโพกอีก จนลำท่อนของผมจมเข้าไปอีก เม็ดมุกเสียดสีกับผนังร่องหลืบ ผมก้มลงดูดนมทั้งสองข้างอีกครั้งเพื่อลดความตึงเครียดของเธอ และปลุกอารมณ์ให้น้ำเมือกออกมาช่วยในการหล่อลื่น

“Ahh Ahh” หญิงสาวเริ่มครางอีกครั้ งเมื่อผมค่อยๆ ขยับร่างกายส่วนล่าง อย่างช้าๆ ค่อยๆ ดันท่อนลำผ่านกลีบแคมของเธอทีละน้อย...

“Ahh Zzzz...” สาวอังกฤษ ครางหน้าเบี้ยว เมื่อ ผมขยับลำอวบของผมเข้าออกอย่างใจเย็นเพื่อรอจังหวะที่จะให้มันเข้าไปจนสุดโคน... เม็ดมุกครูดกับผนังภายในของหล่อนจนผมรู้สึกได้ถึงความคับแน่น จนได้ จังหวะความลื่นที่เพิ่มขึ้นภายในซอกหลืบของเธอ ผมจึงขยับสะโพกดันเอาท่อนKฝังมุกของผมที่แข็งเกร็งเข้าไปจนสุดโคน...

เธอสะดุ้งสุดตัว...สองแขนจิกเกร็งบนหัวไหล่ของผม... เงยหน้าขึ้นจูบปากของผมราวกับจะระบายความรู้สึก... ผมซอยช่วงล่างอย่างเป็นจังหวะไม่ได้เร่งอะไรมากนัก... ไหนๆ หล่อนก็มาให้ผมฟันแล้ว ต้องทำให้หล่อนจดจำความเสียวจากมังกรไทยแลนด์อย่างไม่รู้ลืม...

จนกระทั่งหล่อนเริ่มปรับตัวได้ ค่อยๆ ขยับสะโพกรับการกระเด้าของผมอย่างรู้จังหวะ...

....นานพอดู กว่าเราจะค่อยๆ ประคองกันออกจากห้องน้ำ มานอนกอดกันที่เตียง

“Din, you are such a great lover. You know that?

ผมยิ้มให้ จูบที่ปากหล่อนอีกครั้ง ก่อนตอบ

“ยู อาร ออลโซ เกรท รัท”….

…………………………………

...สามวัน สองคืนที่เราอยู่ด้วยกันบนเกาะเสม็ด... ผมกับอาจารย์รัท แทบจะเรียกได้ว่า เป็นการฮันนีมูนกัน ด้วยวัยที่กำลังห่าม คึกคะนอง เราทำรักกันเกือบทุกที่ๆ มีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่เงียบสงบตอนกลางคืน หรือบนเขาที่เราเดินไปสำรวจด้วยกันในที่ลับตา เหมือนน้ำมันออกเทนสูง กับไฟที่สัมผัสกันเป็นไม่ได้ต้องลุกติดพรึบขึ้นมาจนเชื้อเพลิงมอดกันไปข้าง...

และถึงแม้จะกลับมาจากเกาะเสม็ดแล้ว ผมก็ยังแวะเวียนไปเรียนเติมรักกับอาจารย์รัทที่อพาร์ทเมนต์ห้องเช่าของอาจารย์อยู่เนืองๆ จนภาษาอังกฤษของผมดีวันดีคืน เป็นทุนให้ผมใช้ทำงานได้ดีจนพี่ธีร์เองก็แปลกใจ จนกระทั่งอาจารย์รัทหมดสัญญากลับอังกฤษในอีกสองปีต่อมา (เศร้าพอควร ตอนอาจารย์กลับ เราร่ำลากันแทบจะไม่ต้องใส่เสื้อใส่ผ้าเลยครับ)

และตอนผมเรียนจบจากอเมริกา มีโอกาสไปเที่ยวอังกฤษก่อนกลับ ผมยังเคยไปตามหาอาจารย์รัท ตามที่อยู่ที่อาจารย์ให้ไว้ แต่น่าเสียดาย อาจารยเพิ่งแต่งงานและย้ายบ้านไปก่อนหน้านั้นไม่ถึงปี... เรื่องของผมกับอาจารย์รัท เลยจบลงง่ายๆ แบบนั้นเอง....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2011 22:56:59 โดย DIN »

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
ว้าวววว พี่ดินกลับมาต่อแล้ววว :m4:
แหมมพี่ดินยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ทั้งภาษาและเจ้าของภาษา ฮ่าๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2011 22:47:42 โดย PoP~Pu »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :pighaun:
อ่านเสร็จ
หัวหมุน วิ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ

วนเวียนอยู่แต่.... Din,lover the great!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อ๊ากกกกกกก สลบเหมือด
 :jul1:

 :3123: +1  แถมเป็ด ครับ

eatsea

  • บุคคลทั่วไป
คุณดินคะเราคือ#915  ในเรื่อง"คำสารภาพของเด็กขาย(รุ่นเก่า)"

แต่เราPMไม่เป็นอ่ะ orz

พึ่งสมัครบอร์ดมาทำอะไรไม่เป็นเลย  ถ้าบล็อกคุณดินยังอยู่รบกวนPMให้เราหน่อยนะคะ  อยากเก็บเอาไว้จริงๆ

ส่วนภาคดินกับชลนี่เรายังไม่ได้เริ่มอ่านเลยค่ะ  ขอตัวไปทานข้าวเย็นก่อนละกันนะคะ  แล้วเดี๋ยวจะกลับมาติดตาม

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
คุณดินคะเราคือ#915  ในเรื่อง"คำสารภาพของเด็กขาย(รุ่นเก่า)"

แต่เราPMไม่เป็นอ่ะ orz

พึ่งสมัครบอร์ดมาทำอะไรไม่เป็นเลย  ถ้าบล็อกคุณดินยังอยู่รบกวนPMให้เราหน่อยนะคะ  อยากเก็บเอาไว้จริงๆ

ส่วนภาคดินกับชลนี่เรายังไม่ได้เริ่มอ่านเลยค่ะ  ขอตัวไปทานข้าวเย็นก่อนละกันนะคะ  แล้วเดี๋ยวจะกลับมาติดตาม

คลิ๊กที่ชื่อผมนะครับ แล้วทางซ้ายมือจะมีคำว่า ส่ง PM นะครับ

deknoykrub

  • บุคคลทั่วไป
ติดตามตลอด ยิ่งอ่าน ยิ่งรักคนแต่ง

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ดีใจครับที่คุณดินกลับมาต่อ  คิดถึงครับ

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
รักเรื่องนี้มากที่สุด
ขอให้คุณดินหมั่นลงเรื่องเรื่อยๆน่ะ

tamp42

  • บุคคลทั่วไป
ติดตามมาจากเว็บก่อนๆ ก่อนหน้านี้ที่คุณพี่เคยลงเอาไว้  แต่จู่ๆ ก้อขาดหายไปตามเหตุผลบางประการ  มีเรื่องราวหลายเรื่อง  :n1:หลายเหตุการณ์ ที่สะกิดความรู้สึก... ไม่เคยแนะนำตัวเอง แต่คราวนี้คงต้องขอ...ขอโผล่หน้า (ตัวหนังสือ) มาทักทาย  ชอบงานเขียนของคุณพี่ดิน มันเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลก...ที่ใครคนนึงที่รู้จักและสนิทมากๆ เค้ากำลังอยู่ในโลกใบนั้น ซึ่งไม่รู้ว่าเค้าจะหลุดออกมาเมื่อไหร่ มีหลายเรื่องหลายเหตุการณ์ที่คล้ายๆ กัน ระหว่างดินกับชล เพียงแต่ว่ามันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน  ณ  เวลานี้ ต่างกันแต่เพียงวาระ และบุคคล  โดยไม่รู้ว่าจุดพีคของเรื่องมันจะเป็นยังไง ต้องออกตัวก่อนว่าที่ติดตามอ่านเรื่องนี้ มิได้มุ่งอ่านเพื่อความวาบหวามประโลมโลกแต่ประการใด (นั่นอาจเป็นผลพลอยได้) แต่...รัก...รักที่จะติดตามอ่าน อ่านเพราะมันช่างคล้ายกับสิ่งที่เป็นจริงในตอนนี้  อยากรู้ว่าที่สุดแล้วจะดำเนินตามวิถีไปในทิศทางใด อยากเรียนรู้ อยากศึกษา เพื่อว่าจะช่วยให้คนที่รู้จักคนนั้นได้เลือกในทางที่ถูกที่ควร  ...นับมานาน 120 วัน และจะนับรอต่อไป หวังว่า "คุณพี่ดิน" คงจะอ่านเจอในซักวัน และจะได้อ่านเรื่องนี้จนจบ......."รอ รอ รอ"  :dont2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
ตอนที่ 48 มุมมองของคน

ผมยังคงไปมาหาสู่ไอ้ชลอย่างสม่ำเสมอ ในหนึ่งสัปดาห์ต้องมีวันที่ไปค้างที่หอมัน อย่างน้อยๆ ก็วันนึง หรือสองวัน... ตอนนั้นมันบอกไม่ถูกครับ ว่ารักมันหรือเปล่า รู้แต่ว่า ผมอยู่กับมันแล้วสบายใจ ไอ้ชลแทบจะไม่เคยทำความลำบากใจให้ผมสักนิด

วันไหนที่ผมไปค้างที่หอมันหลังจากเลิกงาน ไอ้ชลก็จะไม่ไปทำงานที่ร้านของพี่รัตน์ ซึ่งผมเอง ก็บอกให้มันไปทำงานเถอะ ผมอยู่ได้... แต่มันบอกว่า อยากจะอยู่กับผมนานๆ ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน

เรื่องต่างๆ ผมก็เล่าให้มันฟังเป็นส่วนใหญ่ ทั้งเรื่องงาน และเรื่องเรียน... แม้กระทั่งเรื่องอาจารย์รัท มันก็รู้... มันทำหน้าเสียไปเหมือนกันตอนที่รู้ว่าผมไปเที่ยวเกาะเสม็ดมา... แรกๆ มันก็งอนผมอยู่เหมือนกัน แต่ไม่นานก็ทำใจได้

“กูคงห้ามมึงไม่ได้หรอกดิน... ชีวิตเป็นของมึง...”

ตัวผมเองก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน แต่ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย... สนุกไปตามประสาวัยหนุ่มคะนอง จนหลังๆ ไอ้ชลเองยังพูดถึงอาจารย์รัทด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า

“กูว่า อาจารย์มึงไม่น่าชื่อรัทหรอก... โดนมึงเข้าไป ป่านนี้ ไอ้ที่รัทมันคงไม่รัดแล้วละ กูว่าหลวมแล้ว”

ผมก็ได้แต่ตบกระโหลกมันเบาๆ “ช่างพูดนะมึง... แล้วมึงล่ะ โดนกูไปกี่ทีแล้ว” เล่นเอาไอ้ชลอายหน้าแดง

ส่วนพี่ธีร์ ก็จะชวนผมไปนอนค้างที่บ้านบ้าง อาทิตย์ละวัน สองวัน... แต่ส่วนใหญ่ผมจะกลับไปนอนที่หอผม กับห้องไอ้ชลบ้าง... พยายามทำตัวให้เรียบง่ายที่สุด เพราะไม่อยากจะเจอกับเหตุการณ์ที่กระอักกระอ่วนอย่างเช่นวันนั้น

สมัยนั้น ที่เที่ยวของชาวเกย์ที่มาแฮงค์เอาท์กัน ที่นึงที่นิยมกันมากคือ บาร์โรม... ที่อยู่สีลมซอย 4 นั่นเองครับ

บาร์โรมในสมัยนั้น เปิดเพลงสากลนำสมัย พร้อมๆ กับ MV ใหม่ๆ ที่มาจากต่างประเทศ พวกเด็กๆ ทั่วๆ ไปก็จะเข้าไปอยู่ในบาร์โรม ทั้งครุยซิ่ง (อ่อย) กันไปมา หรือไม่ก็เต้นรำอย่างสนุกสนาน กับจะมีอีกพวก ที่นั่งกินเหล้า คุยกัน อยู่ด้านนอกตรงข้ามบาร์โรม ที่มีเจ้าของตัวใหญ่ๆ เป็นที่รู้จักกันในวงการเกย์ชั้นสูง ชื่อ “มิลค์บาร์” ติดๆ กัน เป็นร้านที่ใช้โทรศัพท์คุยกันข้ามโต๊ะ ชื่อ “บาร์ เทเลโฟน”...

ผมเคยไปเที่ยวที่บาร์โรมครั้งหรือสองครั้ง ในช่วงที่ทำงานอยู่ร้านพี่ปิ๊ก โดยลูกค้าพามาเที่ยว... แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย และเรื่องมันคงไม่เกิดหากพี่ธีร์ ไม่ชวนผมมาเที่ยวในคืนนั้น…

“ดิน คืนนี้ไปเที่ยวค้างบ้านพี่นะ” พี่ธีร์บอกผมตอนก่อนเลิกงานในเย็นวันศุกร์ วันนีง

“ครับ” ผมรับปากอย่างไม่คิดอะไรมาก ก่อนจะก้มหน้าก้มตา เปิดบิลสั่งซื้อของมาเข้าร้านให้เสร็จ เพราะไม่อยากจะให้ค้างไปอีกวัน

เลิกงาน พี่ธีร์พาผมมาที่บ้าน ก่อนจะหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ผมใส่ “คืนนี้เราไปเที่ยวกัน” พี่ธีร์บอกผม

สี่ทุ่มกว่า เราก็มาถึงสีลม สมัยนั้นยังไม่มี ที่จอดรถ ต้องไปหาจอดตรงถนนคอนแวนต์ ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเดินข้ามถนนมาที่ซอย 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบาร์ที่ผมกล่าวถึง

เพื่อนๆ กลุ่มของพี่ธีร์ นั่งแฮงค์เอาท์กันอยู่หน้าร้านมิลค์บาร์สองสามคน มองคนผ่านไปผ่านมา หลายๆ คนเดินเข้ามายกมือไหว้ ไม่ใครก็ใครในกลุ่มเพื่อนของพี่ธีร์

“เฮ้ยธีร์ วันนี้ทำไมมาถึงนี่ได้ แล้วพาใครมาด้วย” เพื่อนพี่ธีร์ทักทายอย่างสนิทสนม

“ลูกคนใหม่ละสิ” อีกคนนึงมองผมด้วยสายตาสำรวจตรวจตรา ก่อนจะบอก

“เด็กที่ร้านน่ะ... พยายามจะให้เป็น หมอนี่ไม่ยอมว่ะ” พี่ธีร์ตอบก่อนหันมามองผมค้อนๆ...

“มีอะไรดีล่ะเรา” เพื่อนของพี่ธีร์ หันมาถามผม ที่ได้แต่นั่งยิ้มไม่ตอบคำถาม เพราะไม่ใช่เรื่อง

พักใหญ่ พี่ธีร์เห็นว่า ผมคงจะเบื่อ เลยบอกผมว่า “ดิน จะเข้าไปเที่ยวในบาร์โรมก็ได้นะ พี่นั่งอยู่เนี่ยแหละ” พลางยื่นเงินค่าบัตรผ่านประตูให้ผม ที่สามารถนำไปแลกดริ๊งได้สองแก้ว

ข้างในบาร์โรม มีลักษณะเป็นดิสโกเธค มีสองชั้น ข้างล่างเป็น ฟลอร์เต้นรำรูปใข่ หัวฟลอร์ด้านนึง เป็นเวที ที่ประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ก็จะมีโชว์ ทั้งคาบาเร่ท์ ตลก... ส่วนด้านบนที่มีลักษณะเหมือนระเบียง เว้นช่องว่างตรงกลางเอาไว้ สำหรับคนมายืนอยู่รอบๆ ดูคนข้างล่างเต้น... หรืออ่อยกัน

ผมแลกเครื่องดื่มมาแก้วนึง ก่อนจะเดินขึ้นไปด้านบน ยึดได้เก้าอี้นั่งติดระเบียง นั่งมองคนข้างล่างที่วาดลวดลายดิสโก้อย่างสนุกสนาน... มีฝรั่งสองสามคนมาคุยกับผม เหมือนกับจะชวนไปด้วย เพราะเห็นผมมาคนเดียว แต่ผมก็ปฏิเสธไป

นั่งดูอยู่พักใหญ่... ผมก็เดินออกมาหาพี่ธีร์ที่ด้านนอก แต่ออกมาครั้งนี้ พี่ธีร์ไม่ได้อยู่เฉพาะเพื่อนกลุ่มเดิม... แต่มีคนคุ้นเคยที่ผมรู้จักอีกสามคน และ... เค้าเป็นเพื่อนกับพี่ธีร์ด้วย... ก็คือพี่วัช พี่ตรี และพี่โม่ง...

ผมจะหลบก็ไม่ทันแล้ว จึงยกมือไหว้ พี่ๆ ที่เคยมีประวัติด้วย...

“ฮื๊อ ดิน... นึกว่า หายไปไหน... มาอยู่กับธีร์นี่เอง” พี่วัชบอกขณะตวัดสายตาค้อนนิดๆ

ผมยิ้มเจื่อนๆ มองหน้าพี่ธีร์ เหมือนกับจะขอความเห็น แต่พี่ธีร์กลับดึงผมไปกอดคอ...พูดยิ้มๆ “ก็บอกเค้าไปสิ... ว่า เป็นแฟนพี่เอง”

พี่วัชเองดูเหมือนจะไม่ได้อะไรมากมาย... แต่สายตาพี่ตรีที่มองผมดูมันมีประกายตา และอากัปกิริยาที่ ดูถูก เหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด พี่โม่งทำท่าเบะปากนิดๆ ก่อนจะเดินหลบไปอีกทาง...

ผมยืนอย่างอึดอัดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะบอกพี่ธีร์

“เดี๋ยวผมขอเข้าไปดูโชว์นะครับ พี่...อยู่ชั้นบนครับ”

พี่ธีร์พยักหน้าอย่างเข้าใจ... “ไปเหอะดิน เดี๋ยวพี่ตามเข้าไป”

ผมแลกเหล้ามากินอีกแก้ว ยืนดูคนเต้นดิสโก้อยู่บนระเบียงชั้นสองก่อนจะเปลี่ยนเป็นโชว์คาบาเรท์ ตอนเที่ยงคืนครึ่ง จนกระทั่งจบโชว์ ร่วมตีหนึ่งกว่า

ตลอดระยะเวลาที่ผมยืนอยู่ตรงนั้น ถึงแม้สายตาผมจะมองลงไปที่เวทีข้างล่าง แต่ความคิดของผมกลับมีแต่สีหน้า แววตา และท่าทางของพวกพี่ตรี พี่วัชและพี่โม่ง

ภาพความหลังเมื่อปีที่แล้ว ใหลข้ามาในสมองผมเป็นฉากๆ แววตาท่าทางของพี่ทั้งสามคนตอนโน้น กับตอนนี้มันช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สายตาหื่นกระหาย ร้อนเร่าขณะที่มีเซ็กซ์กัน ประกายตาลุ่มหลงเมื่อพวกเค้ามองเห็นไอ้ดินน้อยที่แกร่งผงาดของผมขณะที่กำมันไว้ในมือ... เทียบไม่ได้เลยกับสายตาหมิ่นๆ ระคนเหยียดที่ผมเห็นเมื่อครู่

... เออหนอ คนหนอคน... ต่างสถานภาพ ต่างกาลเวลา ต่างสถานกาล ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป... ตัวตนอันจอมปลอม... ไม่ใช่สิ... ตัวตนที่แท้จริง ของคนที่บอกว่า เป็นผู้มีเกียรติที่เดินกรีดกรายไปมาอยู่ในวงสังคม ถูกกลบเกลื่อนด้วยหน้ากากอันจอมปลอมที่สวมใส่เข้าหากัน...

“แล้วมึงมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะ ดิน” ผมถามตัวเอง “ตรงนี้คือที่ๆ มึงอยากจะอยู่หรือควรจะอยู่หรือเปล่า คนแถวนี้เค้า ต้อนรับมึงดึอยู่หรือ... ดิน”

คำตอบของผมก็คือ “ไม่ใช่เลย... พื้นที่แถวนี้ ไม่มีที่ว่างให้คนมีประวัติ มีเบื้องหลังที่ไม่สะอาดอย่างมึงหรอกดิน...”

ผมยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย... จนเวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ รู้อีกที พี่ธีร์ก็เดินมาข้างๆ

“คิดอะไรอยู่ ดิน ยืนเหม่อ... พี่เดินเข้ามาใกล้ยังไม่รู้สึกตัว”

“คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอ่ะครับ...” ผมบอก ตอนนั้นคนเริ่มทะยอยกลับกันแล้ว

“กลับยัง ดิน”

ผมพยักหน้า... เดินตามพี่ธีร์ออกมา ระหว่างทาง เห็นพี่ตรียืนอยู่ปากซอย กำลังคุยกับ พี่วัช ข้างๆ มีเด็กหนุ่มหน้าตาดี สองคนยืนประกบอยู่ไม่ห่าง พอเห็นผมเดินออกมา พี่ตรีเหลือบสายมามองนิดนึง ก่อนจะหันไปกอดเด็กหนุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

ผมนั่งนิ่งเงียบไปตลอดทาง จนถึงบ้านพี่ธีร์ อาบน้ำเรียบร้อย... มานั่งดูทีวีอยู่บนเตียงใหญ่

“อึดอัดอะไรหรือเปล่า เห็นเงียบมาตั้งแต่ที่สีลม” พี่ธีร์อาบน้ำเสร็จ มานั่งข้างๆ ถามผม

“พี่ก็รู้นี่ครับ”

“ดิน... เรื่องอดีต เมื่อเราเปลี่ยนอะไรไม่ได้... เราก็ต้องรับกับมันให้ได้...” พี่ธีร์ยิ้มให้กำลังใจ “ตอนนี้ สิ่งที่เราต้องทำให้ได้ก็คือ... ต้องสร้างตัวเอง ทำตัวเองให้มีค่า... มีค่ามากกว่า ไอ้สิ่งผิดพลาดที่เคยทำมาในอดีต...”

ผมมองหน้าพี่ธีร์...

“เราต้องทำให้คนพวกนั้นมองเราอย่างคนที่มีค่า มากกว่าคนที่มีราคา... ราคาที่ใครๆ จ่ายให้เราไปกับเขา... มันไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเรานะ ดิน...”

ผมนั่งคิดตามคำพูดของพี่ธีร์ ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกครับ ว่าจะทำตัวให้มีค่าขึ้นมาทำยังไง รู้แต่ว่า ผมจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ในอนาคตข้างหน้า...

“คนพวกนั้น เค้าก็มองว่าเราออกจากที่ร้านเพราะพี่ แล้วเค้าก็คงประเมินต่อกันว่า จะอยู่กันไปได้สักเท่าไร” พี่ธีร์บอก “แล้วถ้าเราพลาด... เค้าก็คงแอบสะใจว่า... ในที่สุด ก็ไปไม่รอด เหมือนเด็กขายคนอื่นๆ”

ผมมองหน้าที่พี่ธีร์ ตาวาว “พี่ก็รู้ ว่าผมไม่ได้รับเงินพี่”

พี่ธีร์หัวเราะหึๆ “แล้วคนอื่นเค้ารู้อย่างที่เรากับพี่รู้ หรือเปล่าล่ะ ดิน... ใครมันจะรู้ว่า ไอ้หมอนี่ หยิ่งชิป... ขนาดนี้... กว่าจะล่อลวงให้มันมาที่บ้านได้ แทบจะกราบ” ประโยคสุดท้าย พี่ธีร์ทำตาเหมือนจะค้อน

“ก็ไม่ได้หยิ่งอะไรครับ แต่ไม่อยากรบกวน ไม่อยากให้ใครมองพี่ว่า มาชอบเด็กในร้าน... ไม่ดี” ผมอธิบาย

“แล้วเป็นไง... กลายเป็นว่าต้องอ้อนวอน มันดีกว่ายังไงวะ”

ผมหัวเราะหึๆ เริ่มอารมณ์ดีขึ้น หันไปกอดพี่ธีร์ “ผมขอโทษคร๊าบบบบบ...”

“ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อน... อย่างนี้ต้องลงโทษให้เข็ด” พี่ธีร์บอก ก่อนจะผลักให้ผมนอนลงบนเตียง หน้าพี่ธีร์อยู่ตรงหน้าท้องของผมแล้วจูบแรงๆ ที่ลอนกล้ามเนื้อหน้าท้อง เสียงพี่ธีร์งึมงัม “ใครไม่เห็นค่า แต่พี่เห็นแล้วกัน... ไอ้ตี๋หล่อของพี่คนนี้”

ปมกางเกงเลขาสั้นที่ผมใส่อยู่หลุดออกอย่างไม่ยากเย็น เผลอนิดเดียวไอ้ดินน้อยก็ตกเป็นเชลยในอุ้งมือที่บุกรุกแล้ว... พี่ธีร์กำบีบเบาๆ “สู้มือใหญ่เลยนะไอ้ดินน้อย”

“สัญชาติญานป้องกันตัวเองน่ะครับ...” ผมตอบยิ้มๆ

“ดุนะเนี่ยะ...” พี่ธีร์เลื่อนตัวลงไป กางเกงชาวเลของผมถูกพี่ธีร์ถอดออกไปทางปลายเท้ากระเด็นไปทางไหนไม่รู้ (ด้วยความร่วมมือเป็นอันดีของผม... แฮ่ม) สองมือจับกดที่โคนลำจนไอ้ดินน้อยถอกออกมาเต็มเหยียด หัวบานแดงก่ำผงกงูบงาบ เม็ดมุกโปนแข่งกับเส้นเลือดที่พันอยู่รอบลำ

“พวกนั้น มันคงอิจฉาพี่ด้วยแหละ จู่ๆ ก็เอาดาวมาครองไว้คนเดียว” พี่ธีร์บอกเสียงแหบกระเส่า “แข็งเป๊ก กำไม่รอบ ฝังมุกอีกหกเม็ดเส้นเลือดโปน หัวบานอย่างนี้...” พี่ธีร์ตวัดลิ้นเลียไปตามเงี่ยงบานๆ ที่บอก ก่อนจะปาดเอาน้ำใสๆ ที่เริ่มปริ่มซึมที่ส่วนปลาย
แล้วผมก็ต้องสะท้านเยือกเมื่อพี่ธีร์อ้าปากอมท่อนKของผม เข้าไปในปากทีเดียวครึ่งลำก่อนจะคายออกมา ครางหอบ

“เต็มปากเลย ดิน... ใหญ่ชิป... อูยวซซซ์...เซ็กซ์ชิปเป๋ง... ไอ้ตี๋นี่...” หัวบานหายเข้าไปในปากพี่ธีร์อีกครั้ง คราวนี้พร้อมกับแรงดูด... รูดเข้าออกเป็นจังหวะช้าๆ ผสานกับมือที่กดถอกอยู่ที่โคนลำ

“อาวซซซ์ ซี๊ดดดดซซซ พี่ธีร์ครับ... ดูดแรงๆ เลยครับ” ผมครางออกมาบ้างเมื่อพี่ธีร์เอาริมฝีปากเม้มรูดหัวบานด้วยแรงดูดมหาศาล...จนผมต้องแอ่นสะโพกเป็นจังหวะตามแรงดูดอย่างสุดเสียว... จนสะใจ พี่ธีร์ ก็เปลี่ยนมาเป็นเอาลิ้นตวัดไล่เลียจากหัวบานลงมาตามท่อนลำ ขบเม้มที่เม็ดมุกเบาๆ จนมาถึงพวงไข่สองลูกตรงโคน

เหมือนกับจะรู้ว่า ไข่เป็นจุดเสียวของผมอีกอย่างนึง หลังจากเอาลิ้นดุนเล่นอยู่ครู่ใหญ่ ไข่สองลูกของผมก็หายเข้าไปในปากพี่ธีร์พร้อมๆ กันทั้งสองใบ ดูดเบาๆ จนเกือบจุกก่อนจะปล่อยออกมา

“อาซซซ์ พี่ธีร์ครับ..อูยซซซซ์ อาซซซ”

“สะใจไหม ดิน” พี่ธีร์คายไข่ของผมออกมาจากปาก ถามเสียงกระเส่า

“สุดยอดครับพี่... อูยซซซ... อาซซซ์”

“ดิน..” พี่ธีร์ กระซิบเสียงปร่า

“ครับ”

“พี่อยากกินน้ำ... เอาน้ำให้พี่กินนะ... แตกในปากพี่นะ ดิน”

“ครับ...”

พอผมรับปาก ปฏิบัติการรีดพิษงูก็ดำเนินต่อ... พี่ธีร์รูดริมฝีปากกับท่อนKฝังมุกของผมอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับดูดเม้มจนแก้มบุ๋ม... ขณะที่ผมเกร็งตัว ร่วมมือเร่งความรู้สึกช่วย... จนกระทั่ง

“อูยซซซซ พี่ธีร์ครับ ผมจะออก แล้ว ซี๊ดดดด ดูดแรงๆ เลยครับ อูยวซซซ ครับพี่... อาซซซซ์ ซี๊ดดดดซซ”

ผมเกร็งตัวจนกล้ามเนื้อโปนเป็นลูก...ความเสียวสุดยอดพุ่งขึ้นถึงขีดสุด พี่ธีร์เองก็ดูดแรงๆ ก่อนจะยืดคอ กดลงไป ทำให้ท่อนลำฝังมุกเจ็ดนิ้วของผมหายเข้าไปในปากพี่ธีร์จนสุดลำ พร้อมกับน้ำรักที่พรั่งทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก...

“อาซซซ พี่ครับ... อูยวซซซ ดูดแรงๆ เลยครับพี่...ซี๊ดดดดซซซซ” ผมครางด้วยความเสียวระคนสะใจ ตัวเกร็งกระตุกเป็นระยะอยู่หลายครั้ง... พี่ธีร์เองก็หลับตาดูดจนแก้มตอบ... มือข้างนึง ทำปฏิกิริยายุกยิกอยู่กับตัวเอง... ก่อนจะทำหน้าเบี้ยว ดูดท่อนKของผมแรงขึ้นอีก...

“สะใจไหม...” พี่ธีร์ถามหลังจากอาการเกร็งกระตุกของเราสองคนผ่านไป...

“สุดยอคครับ” ผมยิ้มให้พี่ธีร์

“เชื่อหรือยังว่า พี่รักไอ้ตี๋หล่อของพี่คนนี้จริงๆ...”

ผมยิ้ม จูบที่หน้าผากพี่ธีร์ครั้งนึง แต่ไม่ตอบเป็นคำพูด.... ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายอีกรอบ แล้วกลับมานอนหลับไปขณะเวลาล่วงเข้าตีสามกว่าของวันใหม่...

......................................................................

เวลาที่ผมมีเซ็กซ์กับพี่ธีร์... น้อยครั้งมากที่พี่ธีร์จะให้ผมเอา... พี่แกบอกว่า พอให้ผมเอาทีไร... ระบบการขับถ่ายของพี่ธีร์จะรวนไปเป็นอาทิตย์ บางทีถึงกับไม่สบายไปเลยก็มี... พี่ธีร์จึงไม่ค่อยให้ผมเข้าข้างหลัง กลับชอบที่จะดูดผมให้แตกคาปาก อย่างนี้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไร...
 
.......................................................................

หายหน้าหายตาไปนาน ลืมไอ้ดินแล้วหรือยังครับ คนดี... ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง อยากเขียนให้จบ แต่ ไม่มีเวลาเลย ตอนนี้ พอมีอยู่บ้างเลยพยายามเขียนให้เข้าใกล้ตอนจบเข้าไปเรื่อยๆ... ครับ

อย่าโกรธผมน๊า....ที่ปล่อยให้รอนานๆ... เดี๋ยวผมจะกลับมาโพสต่อครับ....

ดิน

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
แค่กลับมาก็ดีใจแล้วค่่ะ

สังคมไม่ว่าสมัยไหนก็เหมือนกันหมด ดูกันแค่อดีต ดูกันแค่ผลประโยขน์

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :mc4:
หายไปนาน ดีใจกลับมาเล่าต่อแล้ว

คุณค่าคน ผลกำไร ให้ประโยชน์
จะเคืองโกรธ จะโทษให้ ไร้วิ่งหนี
น้อยคนนัก จักเห็นเรา เท่าที่มี
แค่คุณงาม และความดี ที่เราเป็น

เม็ดกรวดทราย ที่รายล้อม ห้อมเต็มหาด
ดูเกลื่อนกลาด ลาดสูงต่ำ ย้ำให้เห็น
คอยรองรับ คลื่นซัดซาด หาดกระเด็น
เม็ดกรวดทราย ก็ยังเป็น เช่นเหมือนเดิม


 :pig4: ยังรออยู่ครับ

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
วันนี้มีเวลา เอามาต่อเลยครับ

สงสัยจะลืมผมไปหมดแล้ว...

ตอนที่ 49 ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร

ชีวิตของผมหลังจากที่เปลี่ยนมาทำงานตอนกลางวันดำเนินต่อไป... หลังจากที่ไปๆ มาๆ ที่บ้านพี่ธีร์อยู่สามปีกว่า ผมก็ย้ายมาอยู่บ้านพี่ธีร์ในฐานะ “แฟน” ของพี่ธีร์อย่างเต็มตัว แต่ไม่ได้ทำงานที่ร้านของพี่ธีร์แล้ว เพราะผมได้งานที่บริษัทอื่น และพี่ธีร์เห็นว่า ก้าวหน้ามากกว่า ก็เลยให้ผมไปทำ…ส่วนไอ้ชล ผมก็ยังแวะไปหามันสม่ำเสมอเกือบทุกอาทิตย์ โดยที่พี่ธีร์คิดว่าเป็นแค่เพื่อนสนิทธรรมดา (แต่ไม่คิดว่าเพื่อนจะดูดKเพื่อน เพราะผมกับไอ้ชลไม่แสดงออกให้เห็น...แฮ่ม)

ผมทำงานที่บริษัทใหม่จนครบปี ได้สิทธิ์ที่จะลาบวช ผมก็ยื่นใบลา 1 เดือน หัวหน้าก็อนุญาตเป็นอันดี…

วันที่ผมบอกม้าว่า “ม้าครับ ผมจะบวช” ผมจำได้ว่า ม้ายิ้มอย่างดีใจ นัยน์ตาเป็นประกาย ปรกติ ม้าจะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกอะไรออกมามากมาย แล้วถามผมว่าจะบวชนานแค่ไหน ผมบอกว่าลางานได้เดือนนึง ม้าก็พยักหน้า

ไอ้ชลเองผมบอกมัน หลังจากศึกใต้สะดือยกแรกของเราผ่านไป มันยังนอนอยู่ใต้อกผม ไอ้ดินน้อยยังฝังมิดอยู่ในตัวมันทั้งดุ้นหลังจากน้ำเงี่ยนกระฉูดทะลักเข้าไป เต็มๆ... ผมบอกมันว่า “มึงไปงานบวชกูนะ”

“มึงจะให้กูไปถือหมอนมึงเหรอ” มันถามพร้อมกับทำหน้ากวน ผมเลยจัดหนักให้มันอีกดอก เล่นเอาไอ้ชลร้องจ๊าก เพราะผมอัดมันไม่ยั้ง... โทษฐานเสือกปากดี...

กับพี่ธีร์... ก็โมทนากับผม ก่อนวันที่ผมจะกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวบวช พี่ธีร์ยังเล่นผมซะแทบคลาน ตั้งแต่ สี่ทุ่มจนถึงตีสี่กว่า รีดผมไปหกรอบ... แถมรอบสุดท้ายยังมีการเอาป๊อปเปอร์ออกมาให้ผมดมพร้อมกับพี่เค้า... ได้เรื่องสิครับ... ผมแอ่นKให้พี่ธีร์ถอกออกมาดูดจนหัวบานแทบจะหลุดติดปากพี่แก… และด้วยความที่เป็นรอบที่หก... ทำให้ผมอึดเป็นพิเศษเรียกว่า กว่าจะแตกเราดมป๊อปเปอร์ไปไม่ต่ำกว่าสิบหน เล่นเอาพี่ธีร์ขากรรไกรแทบค้างไปเลย....

ผมนัดไอ้ชลที่หมอชิต ตอนเก้าโมงเช้า ท่าทางผมคงอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ไอ้ชลถึงกับหัวเราะหึๆ

“เมื่อคืนโดนหนักละสิมึง เดินมา กูนึกว่าผีดิบ... แล้วจะเหลือถึงกูไม๊เนี่ยะ” ประโยคสุดท้ายมันพูดเบาๆ เมื่อผมเดินไปใกล้มัน... ผมตบกระโหลกมันไปหนึ่งที ก่อนจะเดินไปซื้อตั๋วรถกลับบ้านผม

สามชั่วโมงบนรถ ผมหลับไม่รู้เรื่อง จนเกือบถึงบ้าน ไอ้ชลถึงปลุกผมขึ้นมาเตรียมตัวลง พอถึงบ้าน สวัสดีป๊ากับม้า เอาของเก็บในห้องแล้ว ผมก็ล้มตัวลงนอนเหยียดยาวบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวที่ใช้รับแขก หลับไปอย่างรวดเร็ว

ตื่นขึ้นมาเกือบห้าโมงเย็น เดินไปหลังบ้าน ไอ้ชลกำลังนั่งช่วยม้าทำกับข้าว ท่าทางสนิทสนมอย่างกับเป็นลูกของม้าอีกคน ‘ไอ้ห่านี่... มึงจะทำคะแนนไปถึงไหนวะ’ ผมนึกในใจ

“ตื่นแล้วเหรอ ดิน” ม้าเงยหน้าขึ้นมาถาม “ไปทำอะไรมาหนักหนา... กลับมาถึงบ้าน ยังไม่ทันคุยกันก็หลับไปแล้ว...”

“สงสัยไปปล้ำใครเค้ามาน่ะม้า... ทิ้งทวน” ไอ้ชลประชุมเพลิงผม

ม้าหันมามองผม ตาเขียว... “จริงอย่างที่ชลว่าหรือเปล่าดิน... มีแฟนแล้วไม่เห็นพามาให้ม้าดู... ลูกเต้าเหล่าใคร... ชิงสุกก่อนห่ามรึเปล่า” ม้าไส่ผมเป็นชุด

“ม้า... ผมแค่นอนดึกไปหน่อย เก็บของอยู่...” ผมบอกม้า พลางหันไปส่งสายตามองคาดโทษมายังไอ้ชลที่หัวเราะคิกคัก... เดี๋ยวสวย...มึง... มาไม่ทันไรแย่งแม่กรูไปแล้ว... แต่ว่าไปแล้ว หลังจากที่ผมพาไอ้ชลมาบ้านครั้งแรก... ผมก็พามันมาอีกสองสามครั้ง ซึ่งมันก็สนิทสนมกับป๊ากับม้าผมเป็นอันดี เพราะไอ้ชลมันสุภาพ เรียบร้อย... ม้าเลยถามหามัน เวลาที่มันหายไปนานๆ

“ป๊าไปไหนล่ะครับม้า...”

“สงสัยไปโรงเจมั๊ง ป๊าเราเค้าอยู่เฉยๆ เป็นที่ไหน...” ม้าบอกก่อนจะหันไปทำกับข้าวต่อ...

ผมเดินเข้าบ้านไปอาบน้ำ เพราะตั้งแต่มายังไม่ได้อาบน้ำเลย พออาบน้ำเสร็จ ป๊าก็กลับมาพอดี... ได้เวลากินข้าวเย็น...

กินข้าวเสร็จ ผมก็มานั่งคุยกับป๊ากับม้าเรื่องงานบวชของผม ซึ่งคุยกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว... ผมต้องการให้เป็นไปอย่างเรียบๆ ง่ายๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย ไม่ต้องมีการฉายหนัง หรือลิเก เพราะผมเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลือง ดังนั้นการบวชของผมก็คือ โกนหัวตอนเช้า เข้าโบสถ์... พอบวชเสร็จก็ออกมาเลี้ยงพระฉลองพระใหม่เป็นอันเสร็จพิธี...  ซึ่งม้ากับป๊าก็ตามใจผม... วันมะรืน ผมต้องไปกิน-อยู่ที่วัด เพื่อเตรียมตัว ท่องบทบวช สามวันก่อนบวช ซึ่งผมก็ได้ท่องมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่มีอะไรน่าหนักใจ

ร่วมสองทุ่ม ป๊ากับม้า บอกจะเข้านอนแล้ว แต่ ผมกับไอ้ชลบอกว่า จะออกไปข้างนอกประเดี๋ยวนึง

“อย่าดึกนักนะ ดิน” ม้าบอก

“ครับม้า... เห็นไอ้ชลมันอยากกินนมสด เลยจะออกไปดูที่โต้รุ่งนิดนึงครับ” ผมแกล้งแหย่ไอ้ชล เพราะเห็นมันทำตาอ้อนเหลือเกิน

“มีด้วยเหรอ... นมสด... ไม่เคยเห็นใครขาย” ม้าทำหน้างงๆ เพราะแถวบ้านผมตอนนั้น ไม่มีใครขายอะไรมากมายเท่าไรหรอกครับ ที่โต้รุ่งมีร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านหอยทอด ผัดไท ขนมหวาน กับอาหารตามสั่งเท่านั้นเอง...

“ไปหาขนมกินน่ะครับ ม้า อย่าไปฟังมันเลย” ไอ้ชลหันมามองผมตาเขียว... หยิกที่เอวผมที่หัวเราะคิกคัก ดีใจที่แกล้งมันคืนได้ ก่อนจะผลักผมให้ออกเดินนำไปที่รถมอเตอร์ไซค์

ผมขี่มอ’ไซค์ พาไอ้ชลไปที่ ตลาดโต้รุ่ง... พอจอดรถ ไอ้ชลก็ถาม

“มึงพากูมานี่ทำไม”

“อ้าว... ก็กูนึกว่ามึงอยากกินขนม...” ผมบอกมัน...หน้าตาย

ไอ้ชลหยิกผมที่เอวอีกที “ดินอ่ะ ชอบแกล้งกู... กูอยากกิน... นมสด... ของมึง”

ผมหัวเราะ ก่อนจะขี่รถออกไปอีกทาง ออกไปนอกเขตตลาด... สองข้างทางเป็นทุ่งนา ที่ยังไม่ได้หว่านไถ ค่อนข้างมืด... มีแต่แสงไฟของชาวบ้านไกลลิบๆ...แสงจันทร์ข้างขึ้นส่องสว่างพอควร (จำบรรยากาศได้ครับ หุ หุ)

พอออกมาไกลสายตาผู้คน มือของไอ้ชลก็เริ่มทำงาน แป๊บเดียวไอ้ดินน้อยก็ลอดกางเกงบอลขากว้างที่ผมใส่อยู่ออกมาอยู่ข้างนอกทั้งพวง... มือไอ้ชลรูดเล่นสองสามที ไอ้ดินน้อยก็ตั้งลำผงาดเย้ยฟ้าท้าลม ผงกหัวหงึกๆ

“พอห่างสายตาม้ากู ก็ลวนลามกูเลยนะ”

“มึงอย่ามาว่ากู... เมื่อคืนโดนข่มขืนไปกี่รอบล่ะมึง...” ไอ้ชลพูดงอนๆ ก่อนจะใช้ริมฝีปากเม้มเบาๆ ที่ติ่งหูผม...

“หก” ผมบอกมันไปตามจริง ไอ้ชลเอาฟันกัดเม้มติ่งหูผมพร้อมกับกำท่อนKผมบีบแน่นๆ

“จะเหลือถึงกูไม๊เนี่ยะ...” มันพูดพลางกดที่โคนลำ จนไอ้ดินน้อย “ถอก” ออกมาเต็มท่อนหัวบานตึงแทบระเบิด

ผมคราง “ซี๊ดดดด... ชล... กูเสียวนะมึง”

ไอ้ชลทำยิ่งกว่านั้นอีก มันเอามือนึงถอกจนหัวบานตึงเต็มเหยียด ก่อนจะใช้ฝ่ามืออีกข้าง ฝนที่หัวบาน จนผมกัดฟันกรอดด้วยความเสียวซ่าน “ชลคร๊าบ... กูยอมแล้ว... เสียวนะว๊อย...”

ผมเลี้ยวลงทางเล็กๆ ที่มองเห็นว่ามีห้างนาอยู่ไกลจากถนนประมาณห้าสิบเมตร ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าทำนา คงไม่มีใครใช้... พอจอดรถ ดับเครื่องสนิท ก้าวลงมา ไอ้ชลก็นั่งคุกเข่าพร้อมอยู่แล้ว... พอผมถอดเสื้อ สองมือของมันก็จับขอบกางเกงผม ดึงทีเดียว กางเกงลงไปอยู่ที่หัวเข่า ไอ้ดินน้อยที่แกร่งผงาดมาจากเมื่อกี้ กระดกตีกับหน้าท้องดังเพี๊ยะ...เล่นเอาผมครางอู้...

“อูยซซซ ไอ้เวร มึงเบาๆ ก็ได้ กูไม่หนีไปไหนหรอก”

ไอ้ชลไม่ตอบโต้ เพราะตอนนั้นปากมันอมท่อนKของผมเข้าไปเต็มปากทีเดียวครึ่งลำ ดูดอย่างหิวกระหายอย่างกับลูกวัวกินนมแม่ จนผมต้องค่อยๆ ขยับรูดเอากางเกงออกไป ใส่ไว้ที่ตะแกรงหน้ารถ... ก่อนจะยืนกางขาให้มันดูดให้หนำใจ...

“อูยซซซี๊ดดดซซซ อาซซซ ชล... มึงสุดยอด...” ผมครางอย่างเสียวซ่านเมื่อไอ้ชลขยอกกลืนไอ้ดินน้อยเข้าไปทั้งดุ้น... ก่อนจะลากเลียลงมาที่ไข่สองลูก ดูดดุนอย่างมันปาก...

ท่าทางอารมณ์ของไอ้ชลคงปนเปกันไปหมด ทั้งหวง หึง และหื่น เพราะมันทั้งอม ทั้งดูด ทั้งเลีย ไอ้ดินน้อย ทั้งไข่และท่อนKไม่มีส่วนไหนรอดไปได้เลย ทั้งๆ ที่ตั้งแต่รู้จักกันมาร่วมสี่ปี มันดูดของผมจนนับรอบไม่ถ้วน... ถ้าตวงน้ำของผมที่เข้าไปในตัวมันทั้งสองทาง และหกเสียไปบ้าง เอามารวมๆ กัน ป่านนี้คงได้เป็นแกลลอนแล้ว...

“อาซซซ ชล... อูยวซซี๊ดดดซซซซ” ผมสูดปาก เสียวไม่หยุด ทั้งๆ ที่เมื่อคืนผมก็เพิ่งเสร็จศึกใหญ่กับพี่ธีร์มาหยกๆ

บรรยากาศกระต๊อบห้างนา กลางทุ่ง ที่มีตอซังข้าวเก่าๆ ที่เตรียมจะไถหว่านในฤดูฝนที่จะมาถึง บวกกับ แสงจันทร์นวลๆ ที่ส่องลงมากระทบร่างของเราสองคน ทำให้ผมนึกอยากจะทำอะไรกับไอ้ชลที่มากกว่าที่เคยๆ... ผมค่อยๆ ดันหน้าไอ้ชลให้คายปากออกจากไข่สองลูกของผม ซึ่งไอ้ชลก็ไม่ขัดข้อง แต่ยังมีการแถมท้ายด้วยการดูดแรงๆ อีกที ทำให้ผมสะดุ้งด้วยความเสียดเสียว...

“อูยซซซ ไอ้เวร” ผมด่ามันเบาๆ ก่อนจะดึงมันขึ้นมากอดประกบ พลางถอดเสื้อผ้าของมันออกทีละชิ้นๆ ซึ่งมันก็ให้ความร่วมมือเป็นอันดี...

“มึงจะทำอะไรอ่ะ ดิน...” ไอ้ชลถาม

“กูอยากเอามึงอ่ะ...” ผมบอก ก่อนจะผลักมันให้หันหลังพิงมอเตอร์ไซค์ หันหน้ามาทางผม... “มึงมีเควายป่ะ”

ไอ้ชลล้วงกระเป๋ากางเกง ยื่นสิ่งที่ผมต้องการมาให้... ไอ้นี่มันเตรียมการไว้เสมอแหละครับ เวลาอยู่กับผม...

จัดแจงเปิดฝา บีบสารเหลวออกมาชะโลมลำท่อน จนเป็นมันวาวท่ามกลางแสงจันทร์ และอีกส่วนนึงทาที่ร่องหลืบของไอ้ชลตามฟอร์ม.. ค่อยๆ ผลักให้มันนอนราบไปกับเบาะมอเตอร์ไซค์...

“อูย... ดิน... เอาตรงนี้เลยเหรอ...” ไอ้ชลทำหน้าตื่น

“เปลี่ยนบรรยากาศ...” ผมบอกมันก่อนจะยกขาข้างขวาของมันขึ้นพาดบ่า เคลื่อนตัวดันสะโพกเข้าหาเป้าหมาย...

“ไอ้ลามก... ดิน อูยซซซ” คำสุดท้ายไอ้ชลมันสะดุ้ง ครางอ๋อย... เมื่อผมดันส่วนหัวบานผ่านกล้ามเนื้อหูรูดของมันเข้าไปเต็มเงี่ยง... ติดกึกที่มุกเม็ดแรก... ก่อนจะค่อยๆ ดันให้ผ่านเข้าไปช้าๆ... หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก ครบแล้ว ผมก็ดันส่งยาวๆ พรวดเดียว ลำท่อนยาวเจ็ดนิ้ว ใหญ่ขนาดซองบุหรี่แตกของผม ก็เข้าไปฝังอยู่ในตัวของไอ้ชล มิดทั้งลำ...

“อูยซซซ ดิน เบาๆ... เดี๋ยว” ไอ้ชลหน้าเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน... พยายามจะดันหน้าท้องของผมไว้... แต่พอรู้ว่าไม่ทันแล้ว มันก็กลับเป็นเหนี่ยวสะโพกของผมให้แช่ไว้ก่อน...

“โดนกูเอามาสี่ปีแล้ว ยังไม่ชินอีกเหรอ” ผมหัวเราะหึๆ

“ก็มึงมันใหญ่โคตร... อูยซซซซ ดินครับ... โคตรเซ็กซ์เลยมึง... อู๊ยซซซ” ไอ้ชลเผลอตัวเอามือลูบกล้ามหน้าอกกับหน้าท้องของผมด้วยความกระสันต์อยาก... ทำให้สะโพกของผมเป็นอิสระ... ที่จะเกร็งกระเด้าดันส่งให้ท่อนของผมเข้าออกในร่องหลืบของมันเป็นจังหวะ...

“อาซซซ ดินครับ... อูยซซว์ กูรักมึงนะ... ดินครับ ผัวครับ... อูยซซซ มึงเอาเก่งสุดยอด”

“เดี๋ยวกูจะทำให้มันส์กว่านี้อีก” ผมบอกมันพร้อมกับขยับสะโพกเป็นจังหวะ ก่อนจะเหนี่ยวเอาขาอีกข้างของมันขึ้นมาพาดบ่า...

“มึงจะทำอะไรอ่ะ ดิน”

“กอดคอกูสิ ชล” ผมบอกมัน...

ไอ้ชลทำตาม... พอได้จังหวะ ผมก็เกร็งตัว ดึงไอ้ชลให้พ้นขึ้นมาจากเบาะรถมอเตอร์ไซค์ที่มันนอนพาดอยู่

“อาซซซววซซ ดิน... มึง...ซี๊ดดดดซซซซ อูยซซซซ”

ผมอุ้มเอาไอ้ชลในท่าอุ้มแตง เดินไปที่กลางนา... ซึ่งเป็นที่โล่ง... กลางแสงจันทร์สว่างนวล ไอ้ชลทำหน้าตื่นเต้นระคนเสียวซ่าน... “อูยซซซดิน... ไอ้ลามก เดี๋ยวใครมาเห็น”

“ใครจะมาเห็น” ผมบอกมัน ด้วยอารมณ์คึกปนห่ามคะนอง... กระเด้าสะโพกเข้าใส่ไอ้ชลเป็นจังหวะ “เสียวไหมชล”

“เสียว... อาซซซ์... ดินครับ กูเสร็จแล้ว ซี๊ดดดซซซซ” ไอ้ชลสูดปากยาว ขณะที่ไอ้ชลน้อยกระตุกเป็นจังหวะพ่นน้ำเงี่ยนสีขาวขุ่นออกมาเต็มหน้าท้องทั้งของผมและของมัน...

แต่ผมยังไม่ปล่อยให้มันออกมา... ค่อยๆ อุ้มมันเดินไปที่ คันนาที่กั้นสูงเกือบระดับเอว... พอวางมันลงได้ ผมก็ไม่ปราณีปราศรัยกันแล้ว กระเด้าสะโพกดันส่งให้ลำท่อนเจ็ดนิ้วฝังมุกของผม เข้าออกในรูของไอ้ชลเป็นจังหวะหนักหน่วง

“อาซซซ ซี๊ดดดซซซ ดิน มึงโคตรเซ็กซี่...” ไอ้ชลมันเอามือหนึ่งลูบกล้ามเนื้อหน้าอกกับหน้าท้องของผมที่เกร็งเป็นลูกด้วยความหลงใหล อีกมือนึงกำรูดKของมันที่แข็งขึ้นมาอีก เป็นจังหวะการกระเด้าของผม ที่กระเด้าสะโพกอย่างเอาเป็นเอาตาย...

“อาซซซ ชล.... อูยซซซ กูแตกกกแล้วซซี๊ดดดดซซซ” ผมคราง สูดปากยาว เมื่อความเสียวประดังขึ้นสุดยอด เกร็งสะโพกกระเด้าหนักๆ อีกสี่ห้าที ก่อนจะกดแช่ไว้กับร่องหลืบของไอ้ชล ขณะที่กระตุกเกร็งกล้ามเนื้อหลั่งพลั่งเอาน้ำเงี่ยนเข้าไปในตัวมันเป็นระลอกๆ...

ไอ้ชลรูดไอ้ชลน้อยเป็นจังหวะถี่ยิบ... ก่อนจะหลับตาปี๋เกร็งกล้ามนื้อ หลั่งรอบที่สองตามผมมาติดๆ

“อาซซ ซี๊ดดดดซซซซ ดิน อูยซซ”

ผมกอดประกบไอ้ชล หายใจหอบหนักๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน เพราะจะว่าไปในยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ผมน้ำแตกเป็นรอบที่เจ็ด แถมครั้งนี้ยังโลดโผน แบกอุ้มเอาไอ้ชลที่ตัวไม่เล็ก ไว้เกือบยี่สิบนาที ก่อนจะเอามันมาพาดที่คันนา และด้วยความที่เป็นรอบที่เจ็ด... ผมจึงอึดเป็นพิเศษ... กว่าจะถึงจุดสุดยอด เล่นเอาเหนื่อยไม่น้อย...

ตอนนั้นถ้าจะถามผมว่า ทำไมผมแตกกับพี่ธีร์ถึงหกรอบไปแล้วเมื่อคืนนี้ ผมก็ยังมีอารมณ์ห่ามกับไอ้ชลได้อีก ผมก็บอกได้ว่าความรู้สึกของผม ระหว่างผมกับไอ้ชล และผมกับพี่ธีร์ต่างกัน...

กับพี่ธีร์... ผมรู้สึกเหมือนกับเป็นหน้าที่... และพี่ธีร์ก็เป็นคนที่มีจุดในเรื่องเซ็กซ์ที่โลดโผน ประสบการณ์สูง เรียนรู้จุดเสียวและความต้องการของผมได้ดี ตอบสนองได้ตรงจุดทุกครั้ง... ดังนั้นพอพี่ธีร์เริ่ม ผมจึงเตลิดไปกับพี่ธีร์อย่างง่ายดาย...

แต่กับไอ้ชล... มันเหมือนเป็นการตอบสนองอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง ที่อยากจะมีอะไรกับไอ้ชล... อยากสร้างความประทับใจให้กับมันทุกๆ ครั้งที่เรามีเซ็กซ์กัน.... เหมือนกับผมเป็นผู้นำ และไอ้ชลเองก็พร้อมจะเป็นผู้ตาม ตอบสนองในทุกท่วงท่าและอารมณ์....

เฮ้อ!!!!.... แบบนี้มันเรียกว่า “กูรักมึง” หรือเปล่าวะ ชล.... ช่วยบอกกูที...

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :jul1:
อูยยยย..คืนเดียว หกน้ำ
ทำไปได้ไง คุณดิน

รักชล..งั้นเหรอ
ความรู้สึกขณะนั้น คงใช่มั้งครับ

 :L2: ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
ขนาดตามหน้าที่ยัง 6 ครั้ง นี้ถ้ารักไม่อยากคิดว่าจะขนาดไหน

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
รัก มั้งรึเเคร์   เเต่ที่เเน่ๆ คือความรู้สึกไ่ทางด้านบวก

ออฟไลน์ DIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +405/-0
ตอนที่ 50 ใต้ร่มกาสาวพัสตร์

งานวันบวชของผมเป็นไปอย่างเรียบง่ายอย่างที่ผมตั้งใจ คนที่มาร่วมงานบวชของผมก็เป็นแค่ญาติพี่น้องที่สนิทกันจริงๆ ส่วนเพื่อนๆ ก็มีแค่เพื่อนที่คณะสามสี่คน พี่หน่อย รุ่นพี่ที่หอพัก (ถ้าใครจำได้ในภาคแรก) พี่ธีร์ และ ไอ้ชลที่ไม่ได้กลับไปบ้านตั้งแต่วันนั้น วันรุ่งขึ้น ผมก็เข้ามาอยู่วัด ส่วนมันก็อยู่กับม้ากับป๊าจนถึงวันบวช...

ตอนเช้า... เป็นการโกนหัวนาค... บริเวณหน้ากุฎิที่ผมอยู่... ผมนุ่งผ้าขะม้านั่งพนมมืออยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ เป็นญาติคนนึงที่ถือใบบัวสำหรับรองเส้นผม...

คนแรกที่มาขริบเส้นผมของผมคือป๊ากับม้า... ครั้งแรกที่กรรไกรจากมือป๊าตัดปอยผมตรงกลางกระหม่อม ผมถึงกับขนลุก น้ำตาซึม พร้อมกับตั้งจิตภาวนาว่า ขอให้การบวชครั้งนี้ หากเกิดบุญกุศลใดๆ ก็ตาม ขออุทิศให้ป๊ากับม้า พร้อมทั้งญาติโยม เพื่อนฝูงที่อนุโมทนาบุญครั้งนี้ด้วยเถิด

หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ ลุงป้าน้าอา มาถึงพี่ๆ ของผม พี่ธีร์ เพื่อนๆ และไอ้ชล ที่เข้ามาขริบเป็นคนสุดท้าย... มีการแซวกันเล่น หยอกล้อกัน ตัดเป็นทรงนั้นทรงนี้อยู่เป็นระยะๆ ก่อนที่พระที่ทำหน้าที่โกนผมจะเข้ามาโกนจนหมด ตามด้วยคิ้วจนในเสร็จกระบวนการ...

จากนั้นก็เป็นการอาบน้ำนาค... เริ่มต้นด้วยป๊ากับม้าที่ตักน้ำราดที่กลางกระหม่อม ก่อนจะใช้ขมิ้นที่เตรียมมาทาที่หัวที่เพิ่งโกนเสร็จหมาดๆ อวยพรให้ผมประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนคนอื่นๆ ก็เข้ามาตักราดไปตามไหล่หลัง อวยพรให้พ้นเคราะห์พ้นโศก ประสบความสุขความเจริญ รวมถึงพี่ธีร์ด้วย...

จนกระทั่งทุกคนอาบเสร็จ กำลังจะให้ผมลุกขึ้นไปแต่งตัวเป็นชุดขาวเพื่อเข้าโบสถ์... ม้าผมก็เอ่ยขึ้น

“อ้าวชล... ทำไมไม่เข้าไปอาบน้ำให้นาคล่ะ สนิทกันนี่นา... ไปๆ เข้าไปอวยพรเพื่อนสิ”

ผมเงยหน้าขึ้นมอง ไอ้ชลที่ทำท่าเหมือนจะปฏิเสธ พอสบตาผม มันก็พูดไม่ออก... เดินเข้ามาขลาดๆ ก่อนจะตักน้ำมาเต็มขัน... ตอนแรก ผมคิดว่ามันจะอาบให้ผมที่ใหล่เหมือนกับคนอื่นๆ แต่ไม่งั้นสิ...

ไอ้ชลมันนั่งลงคุกเข่าลงข้างๆ เก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่ ก่อนจะราดน้ำที่เท้าผมแล้วควักขมิ้นจากในอับ มาทาที่เท้าทั้งสองข้างจนเหลืองทั่ว ก่อนจะบอกเบาๆ... “ขออนุโมทนานะ ดิน... ขอให้ประสบความเจริญในทุกๆ ที่ที่เก้าเท้าเข้าไป...” พอพูดจบก็ราดน้ำที่เหลือลงไปจนหมด...

“ขอบใจนะ ชล” ผมเอ่ยเบาๆ สำรวม... เพราะไม่คิดว่ามันจะทำแบบนั้นมาก่อน... พอเงยหน้าขึ้นมา ตาผมก็สบกับพี่ธีร์ ที่กำลังมองมาอย่างสงสัยพอดี...

หลังจากนั้นผมก็เข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดนาค สีขาว เดินรอบโบสถ์สามรอบ โดยไม่มีกลองยาวหรือเถิดเทิงนำแต่อย่างใด คงมีแต่เสียงโห่สามราของญาติผู้ชายที่ไม่อยากให้งานบวชเงียบจนเกินไปเท่านั้น

พิธีบวชผ่านพ้นไปด้วยดี... ในที่สุดผมก็กลายเป็นภิกษุโดยสมบูรณ์แบบ ห่มจีวรสีกลักเดินออกมาจากโบสถ์ พร้อมกับคำอนุโมทนาของญาติๆ... ป๊ากับม้ามองผมไม่วางตา ราวกับจะเก็บภาพความภูมิใจนี้ไว้ตลอดไปด้วยความอิ่มเอมใจ…

********************

ช่วงที่เป็นพระ ผมปฏิบัติทุกอย่างตามกิจของสงฆ์อย่างเคร่งครัด เช้าตื่นไปบิณฑบาตร กลับมาฉันท์เช้า ก่อนลงโบสถ์ทำวัตรเช้า... พอสายๆ ก็กวาดลานวัตร อ่านหนังสือพระธรรม... พอบ่ายหลังจากฉันท์เพล ก็สอนหนังสือพวกเณรบ้าง กับช่วยหลวงลุงที่อยู่กุฏิเดียวกันทำงานบ้าง จนกระทั่งหกโมงเย็น ก็ลงโบสถ์ ทำวัตรเย็นไม่เคยขาด... มีรับนิมนต์บาง ตามแต่ท่านเจ้าอาวาสที่เป็นพระอุปปัชฌาจะ มอบหมายให้...

วันพระ ม้าจะทำปิ่นโต แล้วขี่จักรยานมาส่งที่วัด... สีหน้าม้าอิ่มเอมจนผมเห็นได้ชัดเจน...

“พระหิวไหม ตอนเย็น” โยมแม่ถามหลังจากผ่านไปสองวัน

“หิวบ้างละโยม แต่ก็ฉันท์น้ำปานะไป ทนได้ โยมแม่ไม่ต้องห่วง”

“อยากฉันท์อะไรเป็นพิเศษไหม...”

ผมส่ายหน้า... “โยมไม่ต้องลำบากหรอก... ที่ทำมาก็เยอะแล้ว”

ม้ามองผมด้วยสายตาอิ่มเอิบ ระคนภูมิใจ ก่อนจะพึมพำเบาๆ “ขอบใจพระนะ... ม้าดีใจ ภูมิใจที่สุดเลย ม้าไม่เคยคิดเหมือนกันว่า อะไรจะทำให้ม้าดีใจได้ขนาดนี้” ม้าพนมมือไหว้ก่อนจะขี่จักรยานกลับบ้าน...

ตอนนั้น... ถ้าใครถามผมว่า... ผ่านช่วงเวลาของอุปสมบทมาอย่างง่ายดายได้ยังไง โดยไม่สะทกสะท้านกับสิ่งรอบกาย ทั้งๆ ที่ต้องผจญกับ กิเลส (ความหิว) ส่วนตัว กับสิ่งยั่วยุต่างๆนาๆ อย่างพวกเด็กวัด หรือเณรบางรูป ที่ต้มบะหมี่สำเร็จรูปกินกันตอนดึก... ผมก็ตอบได้ว่า เพราะแรงศรัทธาของโยมแม่โยมพ่อนั่นเอง

คิดดูสิครับ... มีครั้งไหนที่เราขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ที่บุพการียกมือไหว้... ก็ต้องเป็นช่วงที่เราบวชเป็นพระ... แล้วทำไมเราถึงจะให้พ่อกับแม่ยกมือไหว้อย่างที่ไม่ละอายต่อบาป หากได้ทำผิดกฏของสงฆ์ซึ่งถือเป็นอาบัติ...

ดังนั้น ผมจึงตั้งอกตั้งใจปฏิบัติธรรม และปฎิบัติตามกิจของสงฆ์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ความตั้งใจของป๊ากับม๊า เป็นความจริง... ตลอดเวลายี่สิบเอ็ดวันที่ผมบวชอยู่นั่นเอง...

สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้จากขณะเป็นพระ ก็คือสมาธิขณะสวดมนต์ทำวัตรเช้า – เย็น เพราะบทสวดนั้นหลายบท แต่ละบทยาวเหยียด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าน่าเบื่อ ตอนที่บวชใหม่ๆ ผมต้องเปิดหนังสือมนต์พิธี สวดตามไปเรื่อยๆ แต่หลังจากบวชไปได้แค่อาทิตย์เดียว บางบท ผมก็สามารถที่จะสวดได้ โดยไม่ต้องมองหนังสือ และ พอเข้าสัปดาห์ที่สาม พอเริ่มการทำวัตร บทสวดต่างๆ ที่เป็นภาษาบาลี ก็วิ่งเข้ามาในความคิดเป็นสาย เหมือนกับตัวหนังสือวิ่งผ่านตา

และขณะที่สวดนั้น ความคิดของผมจะจดจ่ออยู่กับบทสวด ลืมทุกสิ่งทุกอย่างในโลกภายนอกจนหมด ไม่อยากได้ใคร่ดี ไม่อยากรู้เรื่องต่างๆ ของโลกภายนอก... อันนี้เป็นความรู้สึกจริงๆ ที่ผมสามารถสัมผัสได้ขณะนั่งคุกเข่าพนมมือต่อหน้าองค์พระปฏิมาจำลองในโบสถ์...

********************

อย่างที่บอก... บางวันผมก็ช่วยสอนหนังสือพวกเณรบ้าง เณรที่วัดมีอยู่ 7 – 8 รูป กำลังอยู่ในวัยซน ราวๆ 13 – 15 ปี กำลังห่ามคะนองได้ที่เหมือนกัน อาศัยว่า ผมเป็นพระที่ค่อนข้างใจดี... และเข้าใจในวิวัฒนาการของวัยรุ่น ทำให้เณรทั้งกลุ่มเห็นผมเป็นฮีโร่ ไปอย่างไม่ยากเย็น

ที่พื้นที่ว่างหลังกุฏิ เป็นลานดินโล่งๆ มีพระนวก (อ่านว่า นะวะกะ = พระใหม่) ได้มาสร้างบาร์คู่เอาไว้ พร้อมกับเอาเหล็กแป๊บ กับกระป๋องขนาดต่างๆ มาทำเป็น ดัมเบลฉบับบ้านๆ เอาไว้ หลายขนาด มี ม้านอน สำหรับออกกำลังกาย เอาไว้เสร็จสรรพ ดังนั้น ตอนเย็นหลังจากลงโบสถ์ก่อนมืด จึงเป็นเวลาของผมกับเณรที่จะมาออกกำลังกายกัน

พวกเณรจะชอบมาดูผมออกกำลังกาย พร้อมกับบอกชมว่า หลวงพี่กล้ามสวย พร้อมกับจับกล้ามเนื้อที่ต้นแขน กับกล้ามท้องของผมเล่น ผมก็เลยชวนให้เณรออกกำลังกายด้วยกัน พร้อมกับแนะนำไปบ้าง...

พวกเณรเล่าว่า พรรษาที่แล้ว มีพระใหม่จ้างเด็กวัดให้จับจิ้งเหลนมาให้ แล้วก็นำไปย่างทำน้ำมันจิ้งเหลนเพื่อเอาไปนวดท่อนลำเพื่อขยายให้ใหญ่ขึ้น...

“แล้วมันใหญ่ขึ้นจริงป่าวล่ะ” ผมถาม

“ไม่รู้ดิ หลวงพี่จะลองไหมล่ะ เดี๋ยวผมบอกเด็กวัดให้จับจิ้งเหลนมาให้” เณรที่โตสุดถาม

ผมหัวเราะหึๆ เขกหัวเณรจอมแก่นเบาๆ ไปทีนึง ก่อนจะบอกว่า “ม่ายละ แล้วรู้หรือเปล่าว่ามันบาป ผิดศีลข้อ 1 น่ะ”

“แต่ตอนที่เด็กวัดเอามาน่ะ มันตายแล้วนะครับ” เณรไม่ยอมแพ้

“มันก็เหมือนกันแหละเณร... ถ้าพระไม่บอกให้เด็กวัดไปจับมา จิ้งเหลนมันก็ไม่ตายใช่ป่าวล่ะ” แล้วผมก็ตัดบท “ไม่เอาละ มาออกกำลังกายกันเถอะ” ก่อนจะหันไปยกดัมเบลล์ แบบที่ทำขึ้นเอง บริหารกล้ามแขนต่อไป ในใจคิดว่า ถ้าพวกเณรเห็นของผม ยังจะยุให้ผมนวดด้วยน้ำมันจิ้งเหลนอีกหรือเปล่า หุ หุ

เรื่องเดียวที่ผมคิดว่าเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงระหว่างการบวชของผมก็คือ…

หลังจากบวช ผ่านไปสัปดาห์กว่าๆ ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ คือกระวนกระวาย เพราะธรรมชาติเริ่มเรียกร้อง... ว่าไปแล้วเพราะตอนที่ยังไม่ได้บวช เกือบจะเรียกได้ว่า... ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ผมไม่เคยห่างจากเรื่องนี้เกินสามวัน ช่วงสามสี่ปีมานี่ ไม่พี่ธีร์ ก็ไอ้ชล (ไม่นับเบี้ยใบ้รายทาง ที่หลงมาเข้าทางเดือยฝังมุกของผม ทั้งหญิงและชาย...แฮ่ม...) ...ยิ่งกับไอ้ชล เจอมันทีไร มันรีดของผมจนแห้งขอดทุกครั้ง... แต่นี่มันผ่านเลยไปกว่า สิบวันแล้ว

ตอนกลางคืน บางทีก็ตื่นขึ้นมาบ่อยๆ หลายครั้งจนเกือบจะต้องอาบัติเพราะอยากจะทำตามใจตัวเอง แต่ผมก็ต้องหักใจ เพราะคิดว่าต้องการจะทำศีลให้บริสุทธิ์สะอาด... (การทำให้น้ำกามเคลื่อนด้วยเจตนา ถือเป็นอาบัติชนิดหนึ่งของสงฆ์) ทำให้ผมผ่านช่วงเวลานั้นไปได้อย่างยากลำบาก ทุลักทุเลในช่วงท้ายๆ ของการบวช

จนกระทั่งวันลาสิกขาบท

วันนั้น ผมตื่นแต่เช้า ทำกิจวัตรตามวันตามปกติ แต่ไม่ได้ออกไปบิณฑบาตร เพราะฤกษ์สึกประมาณแปดโมงเช้า พอเจ็ดโมงกว่าๆ ป๊ากับม้า ก็มาถึงที่วัด พร้อมกับชุดขาวที่เตรียมไว้สำหรับทิดสึกใหม่

พอได้เวลา พระอาจารย์และพระสงฆ์ที่เป็นพยานมาพร้อมกัน เพื่อทำพิธีลาสิกขา จวบจนสุดท้ายที่ ผมนุ่งผ้าสีขาวออกไปนั่งคุกเข่า ป๊ากับม้ารดน้ำมนต์อาบให้ผมอีกครั้ง ก่อนจะให้ผมไปผลัดผ้า เป็นชุดคฤหัสถ์สีขาวเป็นอันเสร็จพิธี...

หลังจากนั้นเป็นการถวายภัตตาหารเช้า แด่พระอาจารย์และพระสงฆ์ที่มาเป็นพยาน รับศีลรับพร พระอาจารย์บอกให้ผมเดินออกจากวัดไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ พอพ้นเขตวัด ป๊าก็จอดมอเตอร์ไซค์รอรับอยู่แล้ว...

กลับมาถึงบ้าน...

“ผอมไปหรือเปล่า ดิน” ม้าถาม... ก่อนจะมาลูบหลังลูบไหล่ผม...

“อือ... ผอมแต่ดูแกร่งกว่าเดิม ไปทำอะไรมาล่ะ ดิน” ป๊าถาม

“ก็ ไม่ได้กินข้าวเย็นไงครับ ป๊า... แล้ว ที่วัดก็มีที่ออกกำลังกายด้วย เลยดูล่ำๆ กว่าเดิม...” ผมยิ้มให้ป๊ากับม้า...

“แล้วนี่จะไปกรุงเทพฯ เมื่อไรล่ะ”

“ว่าจะอยู่คุยกับม๊าสักสองวันครับ วันมะรืนค่อยไป ผมลางานถึงสิ้นเดือนครับ”

“เออ.... ดีๆๆๆ” ป๊ายิ้มให้... เพราะนานๆ ผมจะมีเวลากลับมาอยู่บ้านหลายๆ วันอย่างนี้สักที...

ตอนนั้นก็เกือบเที่ยง เป็นมื้อกลางวันพอดี....ม้าเอากับข้าวที่เหลือจากใส่ปิ่นโตเมื่อเช้า ออกมาอุ่นตั้งโต๊ะอีกครั้ง พร้อมกับเรียกให้ผมกินข้าวพร้อมๆ กัน เราสามคนนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างอบอุ่น....

กำลังกินข้าวอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหมาเห่าอยู่ที่หน้าบ้าน ตอนแรกเป็นลักษณะเห่ากรรโชก แต่ ผ่านไปสักพักก็เป็นเสียงเหมือนเห่าทักทาย กับใครสักคนที่พวกมันรู้จัก ผมลุกจากโต๊ะกินข้าวเพื่อไปดูว่าใครมา แล้วผมก็ต้องอุทานอย่างแปลกใจ

“ไอ้ชล มาไงเนี่ยะ”

ไอ้ชลยิ้มกึ่งบึ้ง “มึงจะคุยกะกูอย่างนี้เหรอ”

ผมเปิดประตูให้มันเข้ามาในบ้าน

“มึงรู้ได้ไงว่ากูสึกวันนี้อ่ะ” ผมถามมันอย่างแปลกใจ เพราะท่านอาจารย์เพิ่งให้ฤกษ์สึกก่อนหน้าวันจริงสัปดาห์เดียว... แต่ไอ้ชลมันทำตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินนำผมไปหลังบ้านที่ป๊ากับม้านั่งกินข้าวอยู่ ยกมือไหว้

“สวัสดีครับ ป๊า สวัสดีครับ ม้า”

“สวัสดีลูก” ม้ายิ้มให้ ดูเหมือนม้าจะถูกอกถูกใจไอ้ชลมากเป็นพิเศษกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ที่ผมพามาบ้าน... “ม้านึกว่าชลจะมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

“ติดงานครับ ม้า มาไม่ทันรถ...” ไอ้ชลบอก พลางหันมาหลิ่วตาให้ ผมถึงบ้างอ้อ... ‘นี่มึงเล่นเข้าทางแม่กูเลยเหรอวะชล’

“อือ... ไม่เป็นไรหรอก กินข้าวมาหรือยัง มากินข้าวกัน ลูก” ม้าชวน

ไอ้ชลกุลีกุจอ เอากระเป๋าวางแอบไปทาง วิ่งไปล้างมือก่อนจะมาตักข้าว... กริยาท่าทางสนิทสนมจนผมอ้าปากหวอ.. นี่เมิงไปไกลกว่าที่กูคิดอีกนะ...ท่าทางเมิงจะทำคะแนนเป็นลูกสะใภ้หรือเพื่อนกูวะ...

กินข้าวกันไปคุยกันไป... ไอ้ชลมันสนิทสนมเป็นอันดีกับ ม้าและป๊าของผม ม้ากับป๊าก็ท่าทางผ่อนคลาย พูดคุยกับไอ้ชลอย่างสบายๆ ไม่ถามเจาะลึกเหมือนเมื่อก่อน...

หลังจากมื้อกลางวัน ผมก็ไปช่วยป๊าปลูกต้นไม้ข้างบ้าน มีไอ้ชลกับม๊านั่งคุยกันเป็นกองเชียรอยู่ไม่ไกล อากาศค่อนข้างร้อนบวกกับจะแกล้งยั่วไอ้ชลมันด้วย ผมเลยนุ่งแค่กางเกงบอลตัวเดียว อวดหุ่นล่ำๆ ท่อนบนให้มันกลืนน้ำลายเล่น หลายๆ ครั้งที่ผมเห็นมันแอบมองผม... ห่างกันตั้งสามอาทิตย์ มึงต้องคิดถึงกูบ้างละน่า ชล... ผมนึก...

ไปเสร็จเอาสี่โมงเย็น หลังจากล้างเนื้อล้างตัวพักเหนื่อยจนเหงื่อแห้ง ผมก็บอกม้าว่าจะไปขี่จักรยานเล่นกับไอ้ชล เดี๋ยวจะกลับมากินข้าว...
 

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
รีบมาต่อให้จบเลยครับ พี่ดินนนนนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด