วันเปี่ยมรัก.28
“ป้ามันคนวาสนาน้อย คงหมดหวังจะได้อุ้มหลาน พี่น้องมันสามคนไม่มีใครเอาผัวเอาเมีย ป้าก็คงต้องอยู่ไปทั้งอย่างนี้แหละวันเอ๊ย คงได้แต่ชื่นชมลูกหลานคนอื่นเอา”
หลังจากผ่านมาหลายปี แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมก็หมดแรงที่จะเคี่ยวเข็ญทั้งลูกชายและลูกสาวที่มีกันอยู่สามคนและแต่ละคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแต่งงาน
“อยู่มันไปทั้งอย่างนี้แหละ ดีนะผู้ใหญ่มีวันเป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือกัน เอาอย่างนี้ดีมั้ยไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วมาเป็นดองกับป้าเลยดีมั้ย”
กำลังกินมันเชื่อมและฟังแม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมบ่นให้ฟังเพลิน ๆ แล้วมันเชื่อมที่กินอยู่ก็แทบจะพุ่งออกจากปาก
“แค่ก ๆ แอ่ก อ่ะ”
“อ้าว วัน เป็นอะไรลูก กินน้ำก่อนลูก กินน้ำก่อน”
รีบมาลูบหลังลูบไหล่ให้คนที่สำลักของกินและศิวัฒน์ก็รับขันน้ำมาดื่มหลังจากที่สำลักจนหน้าแดง
“วันเอ๊ย แค่เป็นยังไงบ้างลูก”
ตอนนี้ศิวัฒน์กลายเป็นลูกชายของแม่ผู้ใหญ่เปี่ยมไปอีกคนแล้ว เจอกันบ่อยอยู่ด้วยกันบ่อยและนอกจากผู้ใหญ่เปี่ยมจะชอบมาปรับทุกข์กับศิวัฒน์อยู่บ่อย ๆ ตอนนี้แม่ของผู้ใหญ่ก็มานั่งปรับทุกข์กับศิวัฒน์บ้างเหมือนกัน
“ดีขึ้นแล้วครับ ไม่เป็นไรแล้ว”
ส่งยิ้มแบบแหย ๆ ให้และแม่ผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองหน้าของศิวัฒน์อีกครั้งเพื่อให้มั่นใจจริง ๆ ว่าไม่เป็นอะไร
“วันไม่เป็นอะไรจริง ๆ แน่นะ”
“ครับ ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”
บอกให้สบายใจและแม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมก็เริ่มบ่นให้ฟังด้วยเรื่องเดิม เพราะไม่รู้จะไปปรึกษาใครจริง ๆ
“ทำไมเอ็งไม่เป็นผู้หญิงนะ ไม่อย่างนั้นป้าคงจะได้ไปขอมาดองกันแล้ว”
แม่ผู้ใหญ่เปี่ยมบ่นเรื่องนี้ด้วยความเสียดายหลายครั้งและศิวัฒน์ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี นั่งคุยกันมาพักใหญ่ ทำงานเอกสารจนเสร็จเรียบร้อยและผู้ใหญ่เปี่ยมก็เพิ่งจะขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดและเอ่ยทักคนที่มารออยู่ก่อนแล้ว
“วันมาแล้วเหรอ”
พยักหน้ารับคนที่ทักทายและผู้ใหญ่เปี่ยมก็เดินเข้ามาในศาลากลางประจำหมู่บ้าน
“วันนี้แม่บอกให้วันเป็นพ่อสื่อให้ผมหรือยัง”
แกล้งแซวแม่ที่ขยันพูดเรื่องนี้อยู่บ่อย ๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติและผู้ใหญ่เปี่ยมก็โดนแม่มองค้อนใส่
“ไม่ต้องมาทำเป็นเยาะเย้ยแม่เลยนะผู้ใหญ่ คนแก่ไม่มีวาสนาอยู่ไปวัน ๆ แบบนี้ลูกหลานที่ไหนจะมาเห็นใจล่ะ”
ลักษณะนี้ไม่ได้แกล้งงอนแต่น่าจะงอนจริง ๆ และผู้ใหญ่เปี่ยมก็สามารถแกล้งแม่ของตัวเองได้อีกเรื่อย ๆ ไม่หยุด
“ไอ้ปันมันหนีไปอยู่แท่นขุดเจาะน้ำมันที่อ่าวไทยก็เพราะว่าแม่จะหาเมียให้มันนี่แหละ”
“ผู้ใหญ่ไม่ต้องมาโยนความผิดให้แม่เลยนะ ไอ้ปันก็อีกคน นานทีปีหนถึงจะกลับบ้าน มาถึงก็ไม่เคยอยากนอนที่บ้าน ไปขลุกอยู่บ้านช่างหนูทั้งวันให้มันได้อย่างนี้สิ”
แม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมยังบ่นเรื่องเดิม ๆ ต่อเนื่องไม่หยุดและหันไปมองหน้าศิวัฒน์ที่ได้แต่ขำที่เห็นผู้ใหญ่เปี่ยมกับแม่ทะเลาะกัน
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว แม่จะไปขอวันกับปู่เชิดย่าแพงแล้วกันนะ หาที่ไหนไม่ได้ก็เอาไอ้วันนี่แหละวะ”
ไม่รู้ว่าต้องอับจนหนทางขนาดไหนถึงได้มองหาคนใกล้ตัวที่ถึงแม้จะเป็นผู้ชายด้วยกันก็ไม่สนใจแล้ว และคราวนี้ศิวัฒน์ก็ได้สำลักกล้วยเชื่อมที่กำลังกินอยู่อีกครั้ง
“แอ่ก ๆ แค่ก ๆ อ่ะ”
รีบยกขันน้ำมาดื่มแทบไม่ทันและผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองหน้าของคนที่ถูกพาดพิงถึงแบบยิ้ม ๆ เหมือนรู้กัน
“แม่พูดเองนะ”
“เออ แม่พูดเองนี่แหละ”
หมดหนทางแล้วจริง ๆ ถึงได้พูดแบบนั้นและศิวัฒน์ก็เมินหน้าหนีไปอีกทางเพราะผู้ใหญ่เปี่ยมเริ่มส่งสายตาแปลก ๆ มาให้แต่ไม่ได้พูดอะไรกันต่อแค่มองกันแบบยิ้ม ๆ และแม่ของผู้ใหญ่เปี่ยมก็เดินหนีเข้าบ้านหมดปัญญาจะแก้ไขเรื่องนี้ได้แล้วจริง
“ยินดีด้วยนะครับเมียผู้ใหญ่บ้าน”
ลงมานั่งด้วยกันและแกล้งกระซิบบอกคนที่ทำหน้าไม่ถูกจนต้องเมินหน้าหนีไปอีกทาง
“ไม่เห็นน่ายินดีตรงไหนเลย”
ไม่รู้จะพูดอะไรอีกและก้มหน้าก้มตาทำงานไปเรื่อย ๆ ผู้ใหญ่เปี่ยมมองหน้าของคนที่ได้รับการยอมรับแม้จะไม่สามารถเปิดเผยตัวได้แต่แค่นี้มันก็มากเกินพอแล้ว
“วัน”
“อือ”
“เรื่องที่จะกลับมาอยู่บ้านน่ะ ถ้าพร้อมวันไหนก็บอกเรานะเดี๋ยวเราจะไปช่วยขนของ”
มีเรื่องที่ต้องทำต่อจากนี้อีกหลายเรื่อง แผนการในอนาคตที่มีร่วมกันและเรื่องอื่น ๆ รวมทั้งเรื่องนี้ที่ศิวัฒน์กำลังจะลาออกจากงานประจำในเมืองใหญ่เพื่อกลับมาอยู่บ้าน
“เร็ว ๆ นี้แหละ”
บอกให้รับรู้และผู้ใหญ่เปี่ยมก็พยักหน้ารับ
“รีบกลับมาเร็วหน่อยก็ดีนะ จะได้มีเวลาหาเสียงแล้วก็มีเวลาเตรียมตัวก่อนเลือกตั้ง”
ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น ปีนี้ครบกำหนดที่จะต้องมีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนใหม่แล้ว และศิวัฒน์ก็เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้รับการลงคะแนนเสียงให้เป็นผู้ใหญ่บ้านจากผลงานที่ทำร่วมกันทำกับผู้ใหญ่เปี่ยมมาตลอด
“สู้ ๆ นะ”
ส่งยิ้มเพื่อเป็นกำลังใจให้และศิวัฒน์ก็มองหน้าผู้ใหญ่เปี่ยมและพยักหน้ารับ
“เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน”
+++
“ผู้ช่วยวัน ผู้ใหญ่เปี่ยมไปไหนอ่ะ”
เป็นผู้ช่วยเพราะชาวบ้านตั้งให้นานแล้ว และศิวัฒน์ก็ไม่คิดจะโต้แย้งอะไรอีก ทำงานที่ได้รับมอบหมายของตัวเองไปเรื่อย ๆ การทำงานกับคนในหมู่บ้านพร้อมกับผู้ใหญ่เปี่ยมมันทำให้ศิวัฒน์เปลี่ยนไป จากคนที่ไม่ค่อยอยากสุงสิงกับใคร ตอนนี้ถ้าให้ขึ้นเวทีไปเป็นตัวแทนของผู้ใหญ่เปี่ยมเพื่อกล่าวขอบคุณในงานต่าง ๆ ก็ทำได้แล้ว มนุษย์สัมพันธ์ดีกว่าเมื่อก่อนและทำให้ชาวบ้านรักใคร่เพราะผลงานที่ผ่านมา
“ผู้ใหญ่ไปประชุมที่อำเภอเย็น ๆ กลับ แล้วนั่นไปได้อะไรมาอีกล่ะ”
ถามชาวบ้านที่มาถามหาผู้ใหญ่เปี่ยมและชาวบ้านก็มองที่ตะกร้าในมือ
“ได้หนูนามา ว่าจะเอาไปผัดเผ็ดหน่อย ผู้ช่วยจะเอาไว้สักตัวมั้ยล่ะ”
“ไม่เป็นไร ไม่มีเวลาทำจริง ๆ เย็นนี้ตั้งวงกันเลยสิเนี่ย”
“นิดหน่อยน่าผู้ช่วย ถ้าผู้ช่วยว่างก็แวะไปก๊งกันได้นะ”
พูดคุยกับชาวบ้านได้อย่างเป็นธรรมชาติผิดจากเมื่อก่อนลิบลับ ปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นได้ไม่ยากด้วยการยอมรับความเป็นจริงและค่อย ๆ ฝึกฝนตัวเองมาตลอด ชาวบ้านที่แวะทักทายขี่รถมอเตอร์ไซค์จากไปแล้ว และศิวัฒน์ที่กำลังติดป้ายประกาศที่ศาลากลางหมู่บ้านก็หันไปมองป้าพรที่กำลังขี่จักรยานผ่านมาและในตะกร้าก็มีห่อหมกอยู่ในนั้นหลายห่อ
“อ้าว วันนี้ผู้ช่วยอยู่เหรอ เอาห่อหมกไว้สักห่อมั้ยล่ะผู้ช่วย”
ห่อเดียวไม่น่าจะพอ คงต้องหลายห่อหน่อยเพราะต้องเอากลับไปกินที่บ้านด้วย
“เอามาสามห่อก็ได้ป้าพร เย็นนี้จะได้ไม่ต้องทำกับข้าว”
ช่วยอุดหนุนและป้าพรก็หยิบห่อหมกใส่ถุงให้
“เพิ่งทำมาใหม่ ๆ ร้อน ๆ เลย ให้สี่ห่อเลยแล้วกันนะผู้ช่วยนี่ป้าแถมให้”
ไม่ว่ากี่ครั้งป้าพรก็มักจะแถมของกินที่ทำไปขายให้ตลอด ไม่อยากรับเพราะเกรงใจ แต่ก็ต้องรับมาจนได้เพราะถ้าไม่รับป้าพรก็ไม่ยอม
“เยอะไปหรือเปล่าป้าพร จะกินกันไม่หมดน่ะสิ”
“เอาไปเถอะผู้ช่วย แจก ๆ กันไป ใบยอก็เก็บจากที่บ้าน กำไรไม่กี่บาทให้ผู้ช่วยแบ่งไปกินนั่นแหละดีแล้ว”
ทั้งขนมทั้งอาหารแบ่งกันกินแบบนี้ตลอดและศิวัฒน์ก็ยื่นเงินส่งให้
“หลานลุงอินเป็นยังไงบ้าง”
ถามไถ่ทุกข์สุขของคนในหมู่บ้านและป้าพรก็เล่าให้ฟัง
“ขี่รถซิ่งก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ ตายห่าขึ้นมาพ่อแม่ก็เสียใจ ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แผลถลอกปอกเปิกสงสัยมันคงจะเข็ดไปอีกนาน”
พูดคุยด้วยเรื่องทั่วไป เรื่องของคนในหมู่บ้าน เรื่องอื่น ๆ ที่ควรรู้บ้างไม่ควรรู้บ้างไปตามประสา หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อยป้าพรก็ปั่นจักรยานจากไปแล้ว ศิวัฒน์วางถุงห่อหมกไว้บนแคร่ในศาลาและผู้ใหญ่เปี่ยมก็เพิ่งขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับมา
“ทำอะไรจ๊ะ หนูวัน”
ทักทายด้วยชื่อที่เอาไว้เรียกเวลาอยู่กันสองคนและศิวัฒน์ที่ติดป้ายประกาศเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินมาหาคนที่พูดจาไม่รู้จักกาลเทศะ
“ผู้ใหญ่!”
ทำเสียงดุใส่และผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองหน้าคนที่ทำหน้าดุแบบยิ้ม ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า จริงมั้ยจ๊ะหนูวันของพี่”
ก็อยากจะให้ไม่เป็นไรหรอกนะ แต่ถ้าใครมาได้ยินคงโดนเอาไปนินทาแน่ ๆ
“ซื้อห่อหมกจากป้าพรมา เราซื้อเผื่อผู้ใหญ่ด้วย”
“ซื้อเผื่อหรอกเหรอ นึกว่าเลี้ยง”
แกล้งแหย่และศิวัฒน์ก็แบมือขอเงินคนที่เข้ามานั่งด้วยกันที่ศาลา
“ผู้ใหญ่นั่นแหละต้องเลี้ยงเรา ไหนบอกว่าให้เลี้ยงตลอดชีวิตก็ได้ยังไงล่ะ งั้นเราขอเบิกงบประมาณสำหรับห่อหมกที่ซื้อมาด้วย”
เงินงบประมาณในการซื้อห่อหมกก็ต้องขอเบิกและผู้ใหญ่เปี่ยมก็หยิบเงินมาส่งให้เพราะกรณีเร่งด่วนไม่จำเป็นต้องทำเรื่องเสนอเป็นลายลักษณ์อักษร
“จ้า ได้สิจ๊ะเมียจ๋า พี่ยอมทูลหัวทุกอย่างแล้ว”
พูดแบบนี้ตอนอยู่ด้วยกันสองคนตลอด และศิวัฒน์ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้และมองผู้ใหญ่เปี่ยมแบบยิ้ม ๆ
“คนไหนเชื่อเมีย คนนั้นเจริญทุกคน”
เพราะกลัวไม่เจริญไม่ว่าใครก็ต้องเชื่อทั้งนั้นและผู้ใหญ่เปี่ยมก็มองหน้าศิวัฒน์แบบยิ้ม ๆ
“ก็ว่างั้นแหละ ถ้าไม่ให้เราเชื่อเมีย แล้วจะให้ไปเชื่อใคร”
TBC.