“พี่คิมมมมมมมมมมม!!” ผมตะโกนเรียกพี่คิมเสียงดัง หลังตื่นนอนแล้วมองหาไม่เห็น
“อะไรเรียกทำไมเสียงดังขนาดนี้วะ”
“พี่ผมเป็นอะไรอ่ะ ดูดิๆ ที่แขนอ่ะตามขาก็มี” ผมบอกก่อนยื่นแขนยื่นขาให้พี่คิมดู ตื่นมาก็รู้สึกคันๆตามแขนพอจะเกาดันเจอเป็นตุ่มน้ำใสๆ สังเกตดีๆมีทั้งขาทั้งแขนเลยครับ
“ไปโดนอะไรมา แพ้อะไรรึเปล่า” ผมถามพี่แล้วพี่มาถามผมแบบนี้ใครจะรู้ฟร่ะ
“ไม่รู้...แพ้เหล้าก็ไม่น่าจะใช่เพราะยี่ห้อนี้ผมเคยกินมาก่อน”
“อย่าเกาดิ เดี๋ยวลาม ตัวร้อนด้วยนี่หว่า” พี่คิมจับแขนผมขึ้นดูก่อนว่า
“รึว่าผมจะเป็นเอดส์อ่ะพี่ ผมจะตายไหมผมกลัว” ผมถามเสียงสั่น เคยได้ยินมาว่าถ้าเป็นเอดส์มันจะเป็นตุ่มใสๆก่อนแล้วก็ตาย ถ้าผมเป็นพี่คิมก็ต้องเป็นด้วยดิ
“กูไม่ได้เป็น มึงจะเป็นได้ไงประสาท ไปลุกอาบน้ำเดี๋ยวกูพาไปหาหมอ”
“ไม่เอาไม่ไป ผมกลัวถ้าตรวจมาแล้วใช่ล่ะ” รีบสั่นหน้าแล้วซุกตัวเข้าหาผ้านวมเลยครับ
ผมยังทำใจไม่ได้อ่ะ อายุผมยังน้อยถ้าเป็นขึ้นมาผมจะมองหน้าแม่กับพ่อได้ไง แล้วไหนจะเพื่อนอีกพี่คิมอีก ผมไปติดจากใครมาวะในเมื่อพี่คิมก็ไม่ได้เป็นหรือเมื่อคืนที่ผมไปเข้าห้องน้ำในผับต้องใช่แน่ๆ
ถ้าเป็นแล้วมันต้องทำอะไรบ้างล่ะ
ก่อนอื่นต้องเลิกกับพี่คิมก่อนพี่คิมจะได้ไม่ติดไปด้วย
แล้วก็ต้องทำอะไรอีกวะ
อ่อใช่ไล่พี่คิมออกจากห้อง ย้ายที่อยู่
ไปสมัครเรียนที่ใหม่
แล้วจะเรียนทำไมวะไหนๆก็ต้องตาย
งั้นไปลาออกจากมอ
โทรไปลาเพื่อนแล้วก็หาที่นอนตายอย่างสงบ
แค่นี้มั้งคงไม่มีอะไรอีกแล้ว
“ไอ้นาวมึงจะนอนคุดอยู่ในผ้าห่มอีกนานไหม ไปอาบน้ำดิจะได้หาหมอ”
“อ๊ากกก พี่คิมอย่าเปิดดิ อย่าดึงๆ ไปไกลๆเลยเดี๋ยวติด ผมเป็นโรคที่สังคมรังเกียจนะรู้ป่าว” ผมรีบกระชากผ้านวมคืนจากพี่คิมที่กำลังดึงให้พ้นตัวผม แต่ทำไมแรงพี่คิมถึงเยอะขนาดนี้วะไม่รู้รึไงว่าผมเป็นห่วงถึงไม่อยากให้มาใกล้
“มึงบ้าไปแล้วเหรอ โรคอะไรของมึงมาอาบน้ำ”
“พี่คิมปล่อย อย่าถูกตัวผม เฮ้ย! พี่ผมขอร้องอย่าจับตัวเลยผมอ๊ะ........”
“ที่นี้จะเลิกบ้าได้รึยัง ไม่สบายทำไมฤทธิ์เยอะจังวะ”
“จูบทำไม พี่จูบผมทำไม ฮื่อออออ....อยากตายรึไง ทำไมทำแบบนี้ผมบอกแล้วไงว่าผมเป็นโรค ไอ้พี่บ้า ไอ้พี่โรคจิตไม่รู้รึไงมันติดทางน้ำลายได้นะ” ผมว่าพร้อมรัวกำปั้นทุบหลังพี่คิมเต็มแรง ทำไมมันโง่ ทำไมมันบ้าแบบนี้ปกติก็ฉลาดนี่หว่า
“กูบอกว่ามึงไม่ได้เป็นๆมึงก็ไม่เชื่อ ถ้ามึงอยากเป็นนักกูจะเป็นด้วยให้มันตายไปพร้อมๆกันนี้แหละที่นี้มึงจะได้ไม่ต้องโวยวายว่ากูไม่รักมึงซะที”
“ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้ ฮื่ออออ... พี่ต้องไม่เป็นดิ อึก... ไปๆ ไปหาหมอนะ พี่ยังไม่เป็นตุ่มๆเหมือนผม อาจจะยังไม่เป็นก็ได้หรือถ้าเป็นมันก็ต้องรักษาหาย” ผมปาดน้ำตาทิ้งก่อนลุกขึ้นดึงมือพี่คิมให้ลุกจากเตียงตาม
“เลิกร้อง แล้วไปอาบน้ำซะจะได้ไปตรวจด้วยกันนี่แหละ”
“ครับๆ พี่รอเดี๋ยวนะผมอาบน้ำแป๊บเดียว” ผมรีบว่าก่อนพี่คิมจะเปลี่ยนใจไม่ไปตรวจ
“อ่ะของเยี่ยมคนเป็นเอดส์”
“ไงมึงใกล้ตายยังวะ”
“วันนี้กินยาต้านยัง หน้าโทรมชิบหายมึง”
“เอดส์เหี้ยอะไรล่ะ กูเป็นอีสุกอีใส” ผมเถียงไอ้พวกเพื่อนเหี้ยที่ชักขบวนมาเยี่ยมเสียงดังลั่นห้อง
“ใช่เหรอ เมื่อวานกูยังจำเสียงมึงได้ติดหูอยู่เลย โคตรเหมือนคนเมายา แม่งโทรมาบอกกูว่ากำลังจะตายเสียงสั่นเป็นเจ้าเข้าเลย บอกอะไรก็ไม่ฟังพากูตกใจไปด้วยเลยมึง” ไอ้เชี้ยพรตเปิดเลยครับ
“เออเหมือนกันเลย มันก็โทรมาหากูบอกจะไปลาออกอะไรนี่แหละ” ไอ้มายด์เสริม
“กูด้วยๆ กูก็นึกว่ามันอำ แม่งมันไม่รู้จริงๆเหรอวะว่าเอดส์มันไม่ได้เป็นกันไงๆแค่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน” ไอ้ฟิกซ์ถามต่อด้วยใบหน้าขำๆ กึ่งล้อกึ่งสมเพชในความโง่ของผม ก็ใครจะไปรู้วะว่าโตขนาดนี้แล้วยังเป็นอีสุกอีใสได้อีก
“กูจะรู้ไหมล่ะ” ผมว่าหน้าบึ้งทั้งที่ยังนอนอยู่บนโซฟา โดยมีบรรดาเพื่อนเชี้ยนั่งหน้าสลอนอยู่บนพื้นห้อง
“ไม่รู้แล้วไม่เสือกถามใคร กูพูดเท่าไหร่แม่งก็ไม่เชื่อ” พี่คิมที่ถือกะละมังใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเดินบ่นเข้ามาอีกคน
หลังจากไปหาหมอผมก็รู้ว่าตัวเองเป็นอีสุกอีใสหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆแบบหมอไม่รับเย็บเลยครับ ที่สำคัญนอกจากจะอายหมออายพี่คิมที่ผมโวยวายไปซะเยอะแล้ว ผมก็ต้องมาอายไอ้พวกเชี้ยนี่ด้วยเพราะดันโทรไปล่ำลาระหว่างทางมาโรงพยาบาลซะครบทีมพี่คิมก็ไม่คิดจะห้ามอะไรผมเลยนะ
“อย่างนี้แหละพี่คนมันไม่ค่อยได้กินข้าว”
“กินรู้ได้ไงว่ากูไม่ได้กินถึงจะไม่ได้กินทุกมื้อก็เถอะ” ผมรีบเถียงไอ้พรตทันทีที่มันพูดจบ
“อ้าวเหรอนึกว่าปกติกินหญ้า ถามจริงมึงเป็นเพื่อนกูได้ไงวะโง่ขนาดนี้”
“ฟายอย่าให้กูหายก่อนนะ เห็นกูนอนแบบนี้แล้วรุมกูกันใหญ่ แล้วนั่นมันของเยี่ยมกูไม่ใช่เหรอ” ผมว่าก่อนถามไอ้ฟิกซ์ที่เริ่มรื้อในตะกร้าของเยี่ยม ส่วนไอ้มายด์กำลังถอดปิ่นโตที่พี่ตินณ์ทำกับข้าวมาฝากผมออกจากเถ้า
พี่ตินณ์โทรมาถามอาการผมแล้วเมื่อเช้าก่อนบอกแกต้องเข้าโชว์รูมก่อนเลยให้ไอ้พรตมาเยี่ยมคนเดียว เดี๋ยวมืดๆถึงตามมาเยี่ยมผม จริงแล้วผมอยากให้พี่ตินณ์มามากกว่าไอ้พวกนี้อีกนะ ไม่รู้มันจะมาทำไมแม่งกวนประสาททุกคนเลย
“ขอกินหน่อย มึงป่วยกินไม่ได้หรอกเสียของ” ยังมีหน้าหันมาตอบอีกครับ
“ไม่เกา!!” เชี้ยสะดุ้งเลย
“พี่คิมอยู่แค่นี้พี่จะเสียงดังทำไมอ่ะ”
“ก็กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้เกา เดี๋ยวมันเป็นแผลเป็น”
“ก็ผมคันอ่ะ พี่ไม่เคยเป็นไม่รู้หรอกว่ามันคันขนาดไหน” ผมว่าเสียงเขียวก่อนส่งค้อนให้ซะเลย หงุดหงิดๆ เบื่อพี่คิม แม่งชอบขัดใจอะไรก็ไม่ได้ เกาก็ไม่ได้ เช็ดตัวบ่อยก็บ่นไรนักหนาไม่รู้
“มึงรู้จักไหมวัคซีนอ่ะ ทำไมไม่ฉีดวะจะได้ไม่ต้องเป็น เหมือนคนเป็นเอดส์เหี้ยๆมึงแน่ใจนะว่าไม่ใช่” ไอ้พรตว่าพร้อมเอามือจับแขนผมพลิกไปมาเพื่อพิจารณาตุ่มน้ำใสๆ ก่อนทำหน้ารังเกียจ
“แน่ใจ!! แล้วมึงรู้ทำไมไม่บอกกูบ้างวะ กูจะได้ไม่ต้องเป็น”
“กูจะรู้ไหมล่ะว่ามึงยังไม่เคยเป็น”
“ก็กูไม่รู้จักอ่ะ ตอนคิดว่าเป็นเอดส์นี่กูหลอนมากเลยนะมึง หน้าพ่อกับแม่กูลอยมาเลยแถมไอ้พี่คิมแม่งก็เล่นบ้าๆกูนึกว่าจะติดกันไปแล้ว”
“เล่นอะไรกันหรา....บอกหน่อยดิ” ไอ้เชี้ยฟิกซ์รีบเสนอหน้าทำเสียงกวนตีนมาก่อนเพื่อนเลย
“เสือก!!”
“พี่คิมผมว่ามันไม่ได้ป่วยหรอก ไม่ต้องไปดูแลมันมากตั้งแต่มาผมยังไม่เห็นมันหยุดพูดเลย” ไอ้มายด์มันเอาตาข้างไหนดูวะว่าพี่คิมดูแลผม แค่เช็ดตัว ป้อนข้าวป้อนยานี่ไม่นับนะ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่แฟนต้องทำอยู่แล้ว
“คิดเหมือนกูเลย” อ้าวพี่คิมทำไมไปเห็นด้วยกับมันอ่ะ ผมป่วยอยู่นะผมคนป่วยต้องเอาใจผมดิ
“ตุ่มๆนี่ถ้าน้ำแตกมันจะเป็นไงวะ” ไอ้พรตที่นั่งพิจารณาแขนผมถามขึ้นอีก ตอนนี้ตุ่มที่ผมเห็นเมื่อวานมันใหญ่ขึ้น แถมขึ้นที่หน้ากับหลังด้วยครับ โคตรเจ็บอ่ะเวลานอน อยากเกามันทั้งตัว
“ถามบ้าๆ ถ้าน้ำแตกก็แยกทางดิ”
“เชี้ยฟิกซ์ ส่อสันดานมากมึง กูว่าคนที่จะเป็นเอดส์น่ะมึงแน่ๆไม่ใช่ไอ้นาวหรอก” ไอ้มายด์ว่าก่อนเอาตีนยันตูดไอ้ฟิกซ์ไป 1 ทีเต็มแรง
“จะเป็นได้ไง เค้าก็มีแต่ตัวเองคนเดียวน้า” ไอ้หน้าด้านมันอ้าแขนทำท่าจะกอดไอ้มายด์ก่อนต้องผงะถอยหลังเพราะไอ้มาย์ดยกตีนขึ้นมากันไว้ ทำเอาพวกผมหัวเราะเสียงดัง
“เมื่อกี้กินข้าวแล้วกินยารึยัง” พี่คิมถามถึงยาลดไข้ที่เอาให้ผมตั้งแต่ก่อนกินข้าว
“...กินแล้ว...มั้ง” จำไม่ได้แล้วว่าเอาไว้ไหน สงสัยกินไปแล้ว
“ไอ้โกหก ยายังตั้งอยู่นี่” ไอ้พรตว่าก่อนหยิบแก้วใส่ยาใบเล็กขั้นโชว์
“แล้วมึงเอาไปทำไมล่ะกูก็นึกว่ากินแล้วดิ”
“หน้ามึนนะมึง ไม่ต้องโทษเพื่อนกินเร็วๆเลย”พี่คิมพยุงผมขึ้นนั่งก่อนหยิบแก้วยาจากไอ้พรตมาเทยาใส่มือแล้วป้อนผม
“พี่คิมเพื่อนผมล่ะ” ผมถามพี่คิมหลังลืมตามาแล้วไม่เห็นใครนอกจากพี่คิมที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆ เมื่อตอนบ่อยพอกินยาผมก็นอนคุยกับไอ้พวกนั้นต่อก่อนเริ่มง่วงแล้วเคลิ้มหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ครับ
“กลับกันไปหมดแล้ว”
“อ้าวไม่มีใครบอกผมเลย”
“มึงหลับมันจะบอกมึงทำไม กูตีมือนะถ้าเห็นเกาอีกที”
“พี่คิมอ่า ผมคันให้เกาหน่อยนะ”
“ไม่ได้ โตแล้วทนเอาดิ ถ้าเป็นแผลเป็นตอนนี้มึงไม่หล่อเลยนะ อย่าให้กูต้องมัด”
“ทำไมผมต้องเป็นด้วยอ่ะ น่าเกลียดเนอะ พี่คิมขอกระจกหน่อย” ไม่เกาก็ได้วะ ถ้าไม่บอกว่าหมดหล่อผมไม่ว่าง่ายแบบนี้หรอกนะ
“กระจกก็ไม่ได้ ไม่ต้องดูหรอกหายแล้วค่อยดู”
“ผมน่าเกลียดมากเลยใช่ป๊ะถึงดูไม่ได้”
“ไม่หรอก เดี๋ยวก็หาย”
“ไม่จริงอ่ะ ต้องเยอะแน่ๆไม่งั้นพี่ก็ต้องให้ผมดูดิ”ผมว่าเสียงเบา ถ้ามันไม่หายแล้วพี่คิมไม่รักผมทำไงอ่ะ
“เออ น่าเกลียดก็น่าเกลียด”
“ง่ะ พี่คิมอ่ะโกหกบ้างก็ได้”
“มึงจะเอาไงวะ บอกไม่น่าเกลียดมึงก็จะให้น่าเกลียด พอกูบอกน่าเกลียดมึงก็ไม่พอใจ” เสียงนิ่งเลยอ่ะ
“พี่คิมอย่าหงุดหงิดดิ ผมเป็นคนป่วยนะ พี่ต้องเอาใจผมดิ ฮื่ออออออ.....”
“ถ้าแกล้งร้องอีกกูตีตายนะ”
“พี่คิมมมมมมมมใจร้าย เบื่อแล้วกลับบ้านดีกว่า” ผมว่าหน้ายุ่งก่อนทำท่าจะลุกขึ้นนั่ง ไม่มีคนตามใจเลยกลับไปหาแม่ดีกว่า
“เออๆ ไม่ดุแล้วจะตามใจด้วย ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ นอนลงดีๆ” พี่คิมเดินเข้ามากอดผมก่อนจับให้นอนลงเหมือนเดิม
“แน่นะ” ผมนอนถามตาใส
“เออ”
“อิอิ งั้นผมอยากอาบน้ำ ขอไปอาบน้ำนะเหนียวตัว” ผมว่ายิ้มๆ จะได้อาบน้ำแล้ว
“ไม่ได้ไข้ยังไม่หายดี เช็ดตัวก่อนพรุ่งนี้ค่อยอาบ”
“แต่...”
“พรุ่งนี้กูอาบให้”
“ก็ได้...งั้นเช็ดตัวเลยนะ” ผมยอมรับข้อเสนอก่อนยืนแขนไปตรงหน้าพี่คิม
“อืมเดี๋ยวเช็ดเสร็จแล้วกินข้าวนะ”
“ป้อนด้วย”
“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง เออป้อนก็ป้อน” พี่คิมเหมือนกำลังจะเริ่มบ่น แต่พอเห็นผมทำน้ำตาคลอๆก็รีบเปลี่ยนใจป้อนทันที อิอิ น่ารักอ่ะ
“ถ้าผมเป็นแผลเป็นน่าเกลียดพี่จะรักผมเหมือนเดิมไหม” ผมถามพี่คิมที่กำลังเช็ดตัวให้ผมเรื่อยๆก็คนมันเครียดเลยกังวลไปเรื่อย
“กูเคยบอกเหรอว่ารักมึง”
“บอกดิ เคยบอกผมจำได้” ผมรีบว่าเสียงดัง ทำไมพี่คิมชอบแกล้งผมวะ แล้วผมก็รู้นะว่าแกล้งแต่ก็อดขึ้นตามตลอดไม่ได้
“หึหึ เคยก็เคย” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นพร้อมใบหน้ายิ้มมุมปาก
“อ้าวแล้วตกลงรักเหมือนเดิมไหมอ่ะ” ผมทวงอีกครั้ง ชอบทำเป็นเนียนไม่ตอบอ่ะ
“ไม่แน่ใจว่ะ”
“ทำไมไม่แน่ใจ ใช่สิผมมันน่าเกลียดอัปลักษณ์แล้วนี่”
“มึงป่วยหรือมึงท้องวะ อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่า ไอ้พรตมีเมนส์อีก”
“พี่รู้ได้ไงว่ามันมีเมนส์ตอนไหน เคยไปมีอะไรกับมันเหรอ เมื่อไหร่บอกมาเลยบอกมา”
“ฮ่าๆๆ กูล้อเล่นน่า ปากนี่จะติดจมูกอยู่แล้วดั้งก็ไม่ค่อยอีก แม่งกอลั่มดีๆนี่เอง”
“พี่คิม!!”
“ไม่เอาไม่เสียงดัง เป็นกอลั่มกูก็รักน่า ถึงหน้าตาอัปลักษณ์ยังไงแต่ถ้าเป็นมึงกูก็รัก” พี่คิมว่าพร้อมเอามือบีบปากผมที่หน้าร้อนผ่าวเบาๆ
“พี่คิมอ่ะ บอกแต่แรกก็จบแล้วชอบทำให้โมโห”
“ก็เวลามึงโมโหมันน่ารักนี่หว่า ไอ้ตุ่มเนี๊ยะถ้ามึงไม่เกามันก็ไม่เป็นแผลไง พอไม่เป็นแผลมึงก็ไม่น่าเกลียดเข้าใจไหม”
“อื้อ...”ผมตอบเสียงเบาในลำคอก่อนหยักหน้า
“เป็นเด็กดีเชื่อกูอีกไม่กี่วันเดี๋ยวก็หายแล้ว” พี่คิมว่าอีกก่อนหอมแก้มผมที่มีตุ่มๆด้วยแหละ กล้าหอมได้ไงอ่ะ
“พี่คิมเดี๋ยวติด”
“ไม่ติดหรอกน่าทีนี้ก็สบายใจได้แล้วนะว่ากูไม่ได้รังเกียจมึง”
“ครับ”
“หึหึ เดี๋ยวกูไปเอาข้าวมาให้ไม่ต้องคิดมากนะ” แล้วพี่คิมก็เดินหายเข้าไปในครัวพร้อมสายตาผมที่มองตามหลังยิ้มๆ
หลังกินข้าวเช็ดตัวเสร็จพี่ตินณ์กับไอ้พรตก็มาเยี่ยมผมอีกรอบ กว่าจะได้นอนก็เกือบ 4 ทุ่มครับ ผมเป็นอีสุกอีใสอยู่เกือบ 2 อาทิตย์กว่าจะหาย แต่ก็ยังไม่หายสนิทมีทิ้งรอยไว้บ้างดีหน่อยที่ไม่เป็นแผลเป็น ช่วงที่ผมไม่สบายพี่คิมดูแลผมตลอดเลย ไม่ค่อยดุผมด้วยแถมตามใจตลอด เล่นเอาผมติดใจแล้วดิ รู้งี้บอกยังไม่หายก็ดีจะได้เอาแต่ใจตัวเองนานกว่านี้อีกหน่อย
----- จบตอนพิเศษ ----- ขอบคุณที่ติดตามและยังคิดถึงกันค่ะ ไม่ได้เขียนเรื่องนี้นานมากดีใจที่ยังมีคนจำได้
ถึงไม่ค่อยได้แต่งแต่ก็รักทุกคนเหมือนเดิมน้า จุ๊บๆๆ