Dreaming Alone
ผมถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่าตัวผมเองกำลังทำอะไรอยู่กันแน่
เคยไหม...เวลาอ่านข่าวคนฆ่าตัวตายเพราะอกหักแล้วรู้สึกว่ามันไร้สาระ
เคยไหม...เห็นเมียหลวงตบกับเมียน้อยแล้วรู้สึกว่าพวกเขาไร้การศึกษา
เคยไหม...ที่เห็นว่าเห็นเด็กท้องก่อนแต่งคือพวกกลุ่มคนตลาดล่างที่คิดไม่ได้
แล้วเคยไหม...ที่อยากแก้ไขชีวิตตัวเองแต่กลับจมลงเรื่อยๆ
รู้ตัวอีกที...สิ่งที่เคยว่าคนอื่นก็ย้อนกลับเข้ามาที่ตัวเองเกือบหมดแล้ว
และถ้ามีใครมองมาทางผมตอนนี้ คงรู้สึกว่าผมโง่เง่าไม่ต่างกัน
Kantarat : กันต์ คุณเห็นอีเมลที่ผมส่งไปหรือยัง
Kant : ครับ เดี๋ยวผมเข้าไปหาวันจันทร์นะครับ
“ภัทร” ผมพยายามดันหน้าท้องของภัทรเพื่อให้เบาลง แต่ดูจากแรงอารมณ์ของเขาแล้วน่าจะยาก
“ยกเอวขึ้นหน่อย” เขาบอกก่อนจะสอดหมอนเข้ามาที่สะโพกผม ภัทรยกสะโพกผมขึ้นชิดกับหน้าขาเขาแล้วโน้มตัวลงมาชิดกับผม
“ร้องไห้ทำไม” เขาว่าพร้อมกับจูบลงที่แก้มผม ท่อนล่างที่บดเบียดเนิบนาบให้ความรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
“รู้แล้วว่าทำไมกันย์มันถึงหลงมึงขนาดนั้น” ภัทรว่าพร้อมกับยิ้ม เขาใช้นิ้วแตะส่วนปลายของผมที่แข็งจนแดงจัด
“แค่เสียบเข้ามามึงก็แข็งแล้วกันต์” เขาว่าก่อนจะจับขาข้างหนึ่งของผมขึ้นไปพาดบ่าแล้วกอดไว้ นั่นทำให้ของเขาสอดลึกเข้ามาอีก
ภัทรครางในลำคอก่อนจะเริ่มต้นขยับสะโพกถี่ๆ
“ภัทร เบา”
ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสตินักเวลามีเซ็กส์ ผมมักจะปล่อยใจมัวเมาไปตามอารมณ์ของร่างกาย แต่ครั้งนี้ผมกลับได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันชัดในหู ได้ยินเสียงหอบเหนื่อยและเสียงครางของภัทร เหงื่อจากร่างกายแข็งแรงของเขาหยดลงบนตัวผม สิ่งที่สอดเข้าออกในร่างกายผมแทงโดนจุดที่ทำให้ร่างกายสุขสม
“ดีไหม” ภัทรโน้มตัวลงมาถาม เขากอดผมไว้แน่น ซุกหน้าลงที่ซอกคอผมพร้อมกับดูดมันอย่างกระหาย หน้าท้องแข็งแรงของเขาเสียดสีไปกับร่างกายผมที่แข็งจัด ผมดิ้นพล่าน ภัทรเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วยิ้ม
“จะเสร็จเหรอ” เขาถาม ผมอ้าขาให้กว้างแล้วจับสะโพกเขาไว้ ภัทรเบียดหน้าท้องเข้ามาอีกแล้วกระแทกย้ำๆ
“สั่นไปทั้งขาเลย มึงแม่ง” ภัทรว่าเมื่อเห็นผมเสร็จจนตัวชา เขาย้ำตัวเข้ามาอีกไม่กี่ทีก็ครางเสียงดัง
“ร้อนฉิบหาย” หนุ่มตี๋ว่าก่อนจะถอนตัวออกแล้วดึงถุงยางออกจากตัว ผมมองพัดลมเพดานเก่าๆ ภัทรดึงหมอนออกจากสะโพกผมเบาๆแล้วเบียดตัวเข้ามานอนชิดกัน แม้เหงื่อของเราจะเต็มตัว ผมที่สติเริ่มเลือนรางพยายามลืมตามองหน้าเขา
“ถ้าง่วงก็หลับ” ภัทรก้มลงจูบที่ปากผมเบาๆ
“ฝันดีนะกันต์”
เมื่อคืนผมหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีแดดก็ส่องมาถึงตัวแล้ว ผมใช้มือดันตัวลุกแล้วพบว่าภัทรกำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ เมื่อเขารู้ตัวว่าผมตื่น เขาก็หันมายื่นมือให้
“ลุกไหวไหม”
ผมจับมือเขาไว้มั่นแล้วค่อยๆลุก คงเพราะไม่ได้มีอะไรกับใครมาเกือบสี่เดือน เลยเหนื่อยและเจ็บกว่าปกติ
ผมค่อยๆเดินเข้ามาในห้องน้ำ เปิดน้ำเย็นเฉียบราดหัวตัวเองแล้วมองแสงแดดที่ลอดเข้ามาจากหน้าต่างข้างบน เมื่อคืนผมหลับสนิทในรอบหลายเดือน ผมฝันร้าย ผมฝันว่าผมทำตัวเหลวไหล ผมฝันว่าผมถูกทิ้งอยู่ในที่ไกลแสนไกล
แต่สุดท้ายแล้วผมก็ยิ้มให้ตัวเอง ...แม้จะฝันร้ายแต่ผมก็ได้ฝัน...
“ผมยาวแล้วนะ” ภัทรทักผมที่เปียกลู่ของผม เขาลุกขึ้นมาวางผ้าขนหนูผืนเล็กของเขาลงบนหัวผมแล้วขยี้เบาๆ
“ภัทร”
“อะไร”
ผมจ้องที่ใบหน้าเรียบตึงของเขา แต่ก่อนผมคงคิดว่ามันน่ากลัว
“มองอะไร กูก็เขินเป็นนะ” เขาว่า ผมมองหูแดงๆของภัทร เขาละมือออกจากหัวผมแล้วเดินไปหยิบของจากในกระเป๋า
“กูอ่านมาจากในเน็ตว่าต้องกินยาแก้อักเสบ” เขาว่าแล้วแกะมันออกส่งให้ผม
“ไปเอาของพวกนี้มาจากไหน” ผมถามถึงยาแก้อักเสบ ถุงยาง เจลหล่อลื่นและอะไรมากในในกระเป๋าของเขา
“อย่ามองกูแบบนั้น” ภัทรเกาหัว
“พวกยาพาราแก้แพ้กับยาแก้อักเสบนี่กูพกอยู่แล้วเวลาไปต่างจังหวัด แต่ถุงยางกับเจลขอพี่กลุ่มเมื่อคืนมา”
ผมจ้องที่เขานิ่ง
“มึงตั้งใจอยู่แล้วว่างั้น”
“ก็เผื่อ เดี๋ยวมึงก็ด่ากูอีกว่ากูไม่เตรียมพร้อม” ภัทรว่าพร้อมกับหันไปหยิบขวดน้ำเปล่าแล้วส่งให้ผม
“อย่าเพิ่งคาดคั้นกู กินยาก่อน”
ผมรับเม็ดยาสองสีลงมาไว้ในมือ
อย่างที่ผมบอก ภัทรกับกันย์ไม่มีส่วนไหนเลยที่เหมือนกัน ในขณะที่ภัทรปากร้าย แต่เขากลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม แต่ในขณะที่กันย์บอกว่ารักผม เขากลับไม่เคยดูแลผมแบบนี้เลย
ผมกลับมาที่กรุงเทพแล้วกลับไปหาอาจารย์กานต์หลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ผมทำใจไว้แล้วว่าคงให้มาเซ็นเอกสารสิ้นสุดทุนอะไรสักอย่าง แต่กลับแปลกที่อาจารย์ยื่นซองสีน้ำตาลอันใหม่ให้
“โอกาสใหม่ของคุณ” เขาว่าพลางยิ้ม
“ยังไงครับ” ผมค่อยๆแกะมันออกด้วยมือที่สั่นเทา
“ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสนะกันต์ ยิ่งโอกาสครั้งที่สองแบบนี้”
ผมมองหัวของเอกสารหนาปึกที่เขียนไว้ว่าเป็นทุนการศึกษาของนักศึกษาที่มีทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ
“ทุนนี้ไม่ได้กำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำ ไม่ต้องใช้คืน” ผมมองหน้าอาจารย์ที่พูดพลางยิ้ม
“มีคนอีกเยอะที่อยากเรียนที่นี่นะกันต์ ผมไม่รู้ว่าทำไมครั้งที่แล้วคุณถึงพลาด แต่ครั้งนี้รักษามันไว้นะ”
ผมไหว้ขอบคุณอาจารย์ไปพลางพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองไปพลาง
“อย่าคิดว่าที่ให้เพราะเรื่องที่ผ่านมานะ อันนี้อาจารย์คนอื่นเขาเอามาให้” อาจารย์กระซิบเบาๆ
“ไอ้แอปนั้น ผมเลิกเล่นแล้ว” เขาว่าพลางขำ
“ตอนแรกๆก็สนุกดีนะ หลังๆมาชีวิตเริ่มวุ่นวาย” เขาว่า ผมพยักหน้าเห็นด้วย
“ใช้ชีวิตให้ดีนะกันต์”
ผมเดินเลาะออกมาเพื่อรอรถรางอย่างเคย แต่ก่อนผมมักจะมองรถหรูที่ขับสวนไปแล้วมองตัวเองที่รอรถประจำทางอย่างสมเพช เพิ่งมีวันนี้เองที่รู้สึกว่าการนั่งรอรถในป้ายรถเมล์มันก็ไม่ได้แย่นัก
“หายไปไหนมา!” ผมหันไปตามเสียง แพทกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาผม กระโปรงสั้นและส้นสูงของเธอทำเอาลำบากอยู่ไม่น้อย
“เราโดนถอนทุน” ผมตอบตามจริง
“เฮ้ย ทำไมไม่บอกกันบ้าง”
เธอตีที่แขนผมพร้อมกับทำหน้าตากังวลแบบเห็นได้ชัด
“แล้วยังไง กันต์เล็กจะทำยังไงต่อ”
“อาจารย์กานต์ช่วยหาทุนให้ใหม่แล้ว แต่ต้องเรียนเทอมสองใหม่” ผมว่าพลางยิ้ม
“โอ้ย หัวใจจะวาย” เธอว่าพร้อมกับพัดให้ตัวเอง แล้วหันมาบอกผม
“คราวหน้ามีอะไรก็ติดต่อมาบ้าง พวกไอ้ภัทรก็เป็นห่วง ถึงกันต์จะคิดว่าไม่สนิทกันแต่เราก็จะพยายามช่วย” เธอว่าจริงจัง พอเห็นว่ารถรางมาแล้วเธอก็ดึงแขนผมขึ้นมาด้วยกัน
“ทำไมวันนี้มารถรางล่ะ” ผมถาม เพราะปกติแพทจะขับรถหรูของตัวเอง
“เราเบื่อรถติด” เธอว่า เราคุยกันอีกหลายอย่างซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของผม เธออาจจะไม่รู้ว่าตอนที่คุยกับเธอผมกำมือตัวเองแน่นแค่ไหน ถ้านับจากภัทรแล้ว แพทอาจจะเป็นเพื่อนคนที่สองของผม
หลังจากกลับมาจากเที่ยว ผมก็ไม่ค่อยได้เจอภัทรเพราะผมตั้งหน้าตั้งตาทำงานเป็นค่าเลี้ยงดูตัวเองส่วนภัทรก็ไปเรียน เงินของกันย์ผมส่งไปให้แม่ใช้หนี้ อีกส่วนผมเก็บไว้ คิดว่าในอนาคตจะเก็บไปคืนเขา ถ้าไม่เจอเขาอีกผมน่าจะเอาไปบริจาคที่ไหนสักที่
ภัทรทำตามที่พูด เขามักจะมาหาผมในวันที่ไม่มีเรียนแล้วพาผมไปหาหมอตามนัด ตอนนี้ผมฝันร้ายบ้าง นอนหลับได้ไม่เต็มอิ่มบางคืน แต่โดยรวมแล้วก็ดีขึ้น เช่นเดียวกับแม่และพ่อผม พอท่านไม่มีหนี้ พ่อก็ดูจะทำตัวดีขึ้น
“อ้าว หายไปไหนมาหลายเดือน”
อาแปะร้านตัดผมเอ่ยทักผม หลังจากทำงานกะเช้าวันนี้ ผมเดินเข้ามาที่ร้านตัดผมผู้ชายแถวตลาดที่หัวละร้อยบาทเท่านั้น
“ทำงานเยอะครับ” ผมตอบ
“เอาทรงไหนดีวันนี้”
แต่ก่อนผมไม่ชอบร้านนี้เลยนะ เพราะถึงสั่งทรงวัยรุ่นแค่ไหนแปะแกก็ตัดออกมาเป็นรองทรงเหมือนเดิม สู้ร้านแพงๆในห้างไม่ได้
“สกินเฮดไปเลยครับแปะ”
ผมมองหน้าตัวเองในกระจกแล้วมองลักยิ้มเล็กๆ พี่ที่ทำงานทักว่าผมสดใสขึ้น และผมก็เห็นด้วย
“เอาจริงเหรอวะ”
“ครับ หัวจะได้โล่งๆ”
เมื่อก่อนพอนึกได้ว่ากันย์ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วผมรู้สึกวูบโหวงแปลกๆ แต่ตอนนี้กลับโล่งใจ ถึงผมจะชอบเขาแค่ไหน แต่ผมไม่ชอบตัวเองเวลาที่อยู่กับเขาเลย
“ทำเหี้ยอะไรกับหัวมา กันต์!” ภัทรถามหลังจากที่เห็นหน้าผม เขาทำหน้าไม่พอใจ
“มันแย่เหรอวะ” ผมถามเพราะจริงๆก็เสียความมั่นใจไปเยอะอยู่ ภัทรทำหน้าเหมือนผมไปฆ่าใครตายแล้วซบหน้าลงที่ไหล่ผม
“กูทำใจไม่ได้ว่ะ” เขาว่า
“หัวกู ไม่ใช่หัวมึง” ผมตอบก่อนจะขำ
TBC.
______________________________________
เราเห็นหลายๆคอมเมนต์ที่อ่านแล้วรู้สึกว่าดิ่ง
เราอยากให้อ่านนิยายนิยายเรื่องนี้แบบดูละครค่ะ
คิดตาม วิจารณ์ได้ ว่าเขาได้ ด่าคนเขียนได้ 5555
แต่ไม่อยากให้ใส่ความรู้สึกตัวเองลงไปในตัวละครเน้อ
เขากับเราไม่เหมือนกัน คิดคนละอย่าง
จริงๆเราว่าตัวกันต์เองโชคดีมากเลยนะ
แค่กันต์มองโลกในมุมลบมุมเดียวมาตั้งแต่แรกทั้งๆที่มันมีหลายมุม
ภัทรก็คือภัทร เด็ก 20 ที่อยากมีอะไรกับคนที่ชอบ
ภัทรไม่ใช่ไดจิที่จะคิดก่อนทำเนอะ
ต่อไปเรามาดูพัฒนาการของคนทั้งคู่ดีกว่าค่ะ
แต่ใดๆ สุดท้ายแล้วภัทรไม่กากนะฮะ แค่อาจจะไปโปรเหมือนอีกคน 55555555