(เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย  (อ่าน 97458 ครั้ง)

ออฟไลน์ นัตสึกิ

  • เป็ดตัวกระเปี๊ยก
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
อ่าวแอบมาต่อตั้งกะเมื่อไหร่
แล้วตาลุงนั่นเป็นครายยยย

ปล.พี่วันทำหนูค้างอีกละนร๊า

ออฟไลน์ BEN*_*MOS

  • เด๊กน้อยเลือดกรุ๊ปY
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
เรื่องมันชักไปกันใหญ่แล้ว :dont2:
คนเขียนรีบมาต่อเร็วๆนะคะ :monkeysad:
อย่าทำลายหัวใจดวงน้อยๆของคนอ่านซิคะ :o7:

ออฟไลน์ minmin96

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ pimkung

  • Karkat <3
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ตามอ่านถึงตอนนี้ สงสารทั่งหนึ่งกับสองเลย ฮืออ

เรื่องชักดราม่าแล้ว
รออ่านต่อไปค่ะ  :sad4:

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
มาต่อแล้วค่ะ


 
 
          "อืม..." ชายสูงอายุส่งเสียงในลำคอคล้ายกำลังคิดคำนึง  สายตาคมที่แฝงไว้ด้วยความรอบคอบและเพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์ชีวิตมองลงมาที่สองซึ่งกำลังจับแขนจับขาที่มีบาดแผลและเลือดไหลออกมา
          ชายสูงวัยพูดกับคนเจ็บซึ่งนั่งอยู่ตรงฟุตบาทเบื้องหน้าตนว่า
          "ลุงว่า..ยังไงก็ควรไปโรงพยายาลก่อนจะดีกว่านะ ถนนเส้นนี้..จำได้ว่าพอมีโรงพยาบาลอยู่หลายแห่ง จริงๆลุงต้องขึ้นทางด่วนข้างหน้า  แต่ตอนนี้ตั้งใจจะไปส่งสองก่อนจะดีกว่า"
          "คือ..สองรีบน่ะครับ ถ้าอยู่ทำแผลที่โรงพยาบาลแถวนี้ คงต้องรออีกนาน" สองตอบชายสูงวัยคนนั้น
          "อืม...แล้วสองจะรีบไปที่ไหนล่ะ?"
          "โรงพยาบาล..คือ..มันอยู่อีกแห่งน่ะครับ ไกลจากที่นี่"
          "โรงพยาบาลชื่ออะไร อยู่แถวไหน ลุงยังพอมีเวลา เดี๋ยวจะไปส่งให้แล้วกัน"  ชายสูงวัยตัดปัญหาที่จะโน้มน้าวให้คนเจ็บไปทำแผลที่โรงพยาบาลแถวๆนี้ เพราะเมื่อทราบที่หมายของสอง..ว่าก็เป็นโรงพยาบาลเหมือนกัน ดังนั้นเขาก็ควรพาไปส่งเสียทีเดียวจะเป็นการดีกว่า เพราะดูท่าทางแล้ว..คงจะรั้งให้เด็กที่นั่งเจ็บอยู่คนนี้ไปทำแผลก่อนเดินทางต่อไปไม่ได้เสียแล้ว ท่าทางคนที่เด็กหนุ่มกำลังไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลคงจะเป็นคนสำคัญเกินกว่าที่เจ้าตัวจะมานั่งดูแลตัวเองเสียก่อน
          "เอ่อ..จะดีหรือครับ..คือ..มันไกลน่ะครับ  สองเกรงใจ"
          สองพูดขึ้นอย่างลังเล เพราะรู้สึกเกรงอกเกรงใจต่อผู้สูงอายุใจดีคนนี้ ตามจริงแล้ว..สองเองก็พอนึกได้ว่า เขาเองก็ผิดเหมือนกันที่ขับรถด้วยความประมาท การที่คู่กรณียอมลงมาถามไถ่อาการและแสดงเจตจำนงในการรับผิดชอบอย่างเต็มที่  เพียงแค่นี้สองก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว และตอนนี้ บุคคลตรงหน้ายังบอกว่าจะไปส่งให้ถึงที่หมาย สองก็อดที่จะรู้สึกเกรงใจเสียไม่ได้
          "เอาล่ะ..ไม่ต้องเกรงใจ ก็ในเมื่อไม่อยากไปเสียเวลาทำแผลที่โรงพยาบาลแถวนี้  เดี๋ยวลุงจะไปส่งให้เลย  ยังไงๆสองก็ต้องไปโรงพยาบาลอยู่แล้วนี่ แล้วตกลงว่าโรงพยาบาลชื่ออะไรล่ะ"
          "โรงพยาบาลxxxครับ"  สองบอกชื่อโรงพยาบาลเอกชนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งออกไป
          เพียงแค่ได้ฟังชื่อ ชายสูงวัยก็ส่งยิ้มอ่อนโยนตอบกลับมา ก่อนที่จะพูดกับสองว่า
          "นั่นยิ่งไม่มีปัญหาใหญ่ เพราะรู้สึกว่าจะเป็นทางผ่านของลุงพอดี..  มิน่าล่ะ ถึงขับมอเตอร์ไซค์ ไปทางราบน่าจะเร็วสินะ วิธีนี้น่ะ ถ้าไปรถยนต์ก็คงลำบาก เพราะว่ารถติดมาก"
          "ครับ..พอดีผมหาแท็คซี่ไม่ได้ พี่ที่รู้จักกันเค้าเลยให้ยืมมอเตอร์ไซค์ครับ"
          "อืม...งั้นเราก็ติดรถไปกับลุงแล้วกันนะ  ว่าแต่ไหวนะ เลือดออกมากเหมือนกัน"
          "ฮะ..ไหวฮะ...ขอบคุณมากนะครับ"  สองตอบรับคำ  ก่อนที่จะส่งรอยยิ้มสดใสไปให้  เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มนั้นแสดงถึงความดีอกดีใจของตัวเองแค่ไหน
          "อืม..ไป..ไปขึ้นรถ  รู้สึกว่าช่างที่ศักดิ์โทรเรียกจะมาเอารถมอเตอร์ไซค์แล้วล่ะ"
          ชายสูงวัยบอกให้สองขึ้นรถเบนซ์ของตัวเองที่จอดอยู่ข้างทาง ตอนนี้ช่างซ่อมได้เอารถมารับรถมอเตอร์ไซค์ของพี่ยามแล้ว  ก่อนที่จะยกรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งถูกชนจนไม่สามารถวิ่งได้อีกขึ้นรถกระบะ โดยมีศักดิ์ควบคุมดูแลอยุ่   เพียงไม่นอนสองก็เห็นพี่ศักดิ์กลับมานั่งประจำที่คนขับถายในรถ โดยมาสองและชายสูงวัยผู้นั้นนั่งอยู่ด้านหลัง
          "เอ้า..นี่นามบัตรลุงนะ..สองมีมือถือใช่ไหม  เอาเบอร์ให้ไว้ที่ศักดิ์แล้วกัน  จะได้โทรถามเรื่องรถกันได้  ลุงจะให้ศักดิ์เป็นคนจักการ"
          สองรับนามบัตรใบนั้นมาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง  จากนั้นเขียนเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองลงในกระดาษที่ศักดิ์ยื่นมาให้ก่อนที่จะส่งคืนกลับไป  เมื่อแลกเบอร์กันเรียบร้อย รถเบนซ์สีดำเป็นเงามันปราบก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากที่เกิดเหตุเพื่อเดินทางไปยงัจุดหมายตามที่เจ้าของรถได้ตกลงไว้กับผู้บาดเจ็บ
          ใช้เวลาเพียง20นาทีสองก็มาถึงโรงพยาบาล..โรงพยาบาลที่สองดั้นด้นและดื้อดึงว่าต้องมาให้ได้  สองมองเข้าไปที่โรงพยาบาลด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย  ภายในใจกำลังเต้นระรัว   มันเป็นความรู้สึกหลายๆอย่างที่ประดังประเดเข้ามา  ทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ ดีใจที่จะได้เจอ กังวลถึงอาการของคนๆนั้น ลังเลเพราะไม่รู้ว่าจะได้รับการต้อนรับแค่ไหน  แต่ความรู้สึกที่ยังคงเหมือนเดิมคือความรู้สึกที่มั่นคงในตัวของคนๆนั้น ความรัก ความผูกพันห่วงหาอาทร  อยากสัมผัส  อยากอยู่ใกล้ ความรู้สึกเหล่านั้นไม่เคยลดน้อยลงเลย
           "เอ้า..ถึงซะทีนะ...เอาล่ะ...เดี่ยวลุงจะรออยู่ที่รถ ศักด์จัดการพาน้องไปทำแผลก่อนนะ  แล้วดูแลเรื่องค่ารักษาด้วย"
           "ครับ" ศักดิ์รับคำนายเหนือหัว  หลังจากที่ทำการจอดรถเรียบร้อย
           "เอ่อ...ไม่ต้องก็ได้ครับ เดี๋ยวสองไปเองได้ เอ่อเรื่องค่ารักษา..."  ขณที่สองยังไม่ทันที่จะพูดจบ ชายสูงวัยก็พูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงดุๆว่า
           "ไม่มีบ่ายเบี่ยงแล้วนะ นึกหรือว่า คนที่เราจะไปหา เค้าจะอยากเจอสองในสถาพแบบนี้น่ะ เค้าเป็นคนสำคัญก็จริง แต่สองคงไม่รีบร้อนขนาดลืมเลือนที่จะดูแลตัวเองให้ดีก่อนใช่ไหม  ไปทำแผลซะให้เรียบร้อย ไป..ศักดิ์  พาน้องไป"
           เพียงได้ฟังเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยอำนาจแบบนั้น  สองเองก็จำใจที่จะขัดแย้ง เพราะอย่างน้อยคนผู้นี้ก็มีอายุมากกว่าสอง  จะดื้อดึงไปก็ไม่มีประโยชน์ เพียงแค่นี้ก็เห็นผลแล้ว ว่าการที่รีบร้อนจนไม่คิดหน้าคิดหลังก็ไม่ได้ส่งผลดีอะไรเลย  
           สุดท้ายสองก็จำใจตามศักดิ์ไปเพื่อจะจัดการทำแผลให้เรียบร้อย ขั้นตอนนั้นก็แสนจะยุ่งยาก ต้องเดินไปเดินมาเพื่อทำบัตรอีก  แต่โชคดีที่มีศักดิ์คอยดูแลให้ สองจึงไม่ต้องใช้เวลานานมากเกินไป ในที่สุดสองก็ออกมาจากห้องดูแลคนไข้เบื้องต้น ด้วยสถาพที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซที่ปิดแผลไว้ตามแขนและขา   บนหน้าผากยังมีรอยของยาทาแผลที่ถูกนางพยาบาลทาไว้ให้  หลังจากศักดิ์รับยาและจ่ายค่าทำแผลให้สองแล้ว ศักดิ์ก็ขอตัวกลับไปหาผู้เป็นนายที่รออยู่ที่รถ คงเหลือเพียงแต่สองที่ต้องเดินต่อไปอีกตึก  สองเดินไปที่ลิฟท์ กดหมายเลขชั้นตามที่แจงให้รายละเอียดไว้  ในมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือถุงยา  ยังกำแผ่นกระดาษที่จดรายละเอียดห้องพักเอาไว้แน่น เมื่อลิฟท์ขึ้นไปถึงชั้นนั้น สองสูดหายใจลึกๆก่อนก้าวออกไป  
           คนตัวเล็กเดินไปตามทางที่มีหมายเลขของห้องที่แจงบอก  พอเลี้ยวหัวมุม..สองก็ค่อยๆไล่หมายเลขห้องไปเรื่อยๆ  และแล้ว..
           ตรงหน้าของห้องๆหนึ่ง สองก็เห็นสุภาพสตรีสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าห้องๆนั้น มันเป็นห้องที่มีหมายเลขตรงกันกับที่สองจดไว้ในกระดาษ
           สองเดินไปหยุดอยู่ที่ตรงนั้น สุภาพสตรีสองคนเหมือนรู้สึกได้ถึงผู้มาใหม่ จึงหันมามองทางสองซึ่งยืนห่างกันจากพวกเธอเพียงไม่กี่ก้าว
                        
                                             .....................................................          
 
           "แม่ไม่รู้จะทำยังไงแล้วนะ  ทำไมหนึ่งถึงไม่ยอมเข้ารับกายภาพบำบัดซะที ปล่อยไว้แบบนี้แม่ยิ่งร้อนใจ"
           มารดาของหนึ่งพูดกัยลูกสาวด้วยท่าทีที่ร้อนรน
           "ใจเย็นๆนะคะคุณแม่ น้องคงยังต้องการเวลาทำใจ เราต้องช่วยกันเป็นกำลังใจนะคะ"
           "เฮ้ย...แม่ล่ะกลุ้มจริงๆ"  มารดาบ่นกับลูกสาว  ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์บางๆยังแฝงไว้ด้วยความร้อนรุ่มในหัวใจ
           "เอาอย่างนี้นะคะ  เดี๋ยวหนูจะขอให้พี่หมอช่วยพูดให้นะคะ  เผื่อหนึ่งจะอยากเข้ารับการบำบัดเร็วขึ้น"
           หลังจากเห็นใบหน้าของผู้เป็นแม่มีสีหน้าที่ดีขึ้นบ้าง เพราะรับอาสาจะให้รุ่นพี่ที่เป็นหมอเจ้าของไข้ของน้องชายช่วยพูดให้ เธอก็รู้สึกเบาใจขึ้นบ้าง  แต่ก่อนที่จะพูดอะไรต่อจากนั้น หญิงสาวก็ได้ยืนเสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งหยุดลงใกล้ๆเธอและมารดา  
           สองแม่ลูกหันไปมองผู้มาเยือนรายใหม่
           เมื่อสายตาหันไปพินิจพิจารณาผู้มาใหม่ชัดๆ  เธอจึงเห็นว่า ที่อยู่ตรงหน้าคือเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง  ผิวขาวๆตอนนี้ถูกบดบังด้วยผ้าก๊อซที่มองเห็นได้จากแขนและขาที่โผล่ออกมาจากเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นที่เจ้าตัวใส่  ใบหน้าขาวซีดตอนนี้ปรากฏรอยถลอกบ้างแต่ตรงที่หนักสุดคือดวงตาขวาที่บวมช้ำและนัยน์ตาเป็นสีแดงๆของเส้นเลือดที่แตกออกเหมือนได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง เหนือขึ้นไปตรงหน้าผากมีรอยช้ำเขียวๆให้เห็นซึ่งตอนนี้ถูกทายาไว้เรียบร้อยแล้ว หล่อนเห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าก็รู้ว่าเป็นเด็กที่หน้าตาดีไม่น้อย ติดอยู่แต่ตรงที่ว่ารูปร่างอาจจะผอมบางไปหน่อย ยิ่งตอนนี้อาจเรียกได้ว่าทรุดโทรม  แต่ก่อนที่จะถามอะไรออกไป  เสียงแหบๆของเด็กหนุ่มตรงหน้าก็ถามขึ้นเสียก่อน
           "เอ่อ...นี่ห้องพี่หนึ่งรึเปล่าครับ"
           "จ้ะ..."  หญิงสาวตอบกลับ แปลกใจที่จุดหมายของเด็กคนนี้คือห้องพักฟื้นของน้องชายของเธอ
           "หนูเป็นใครหรือจ๊ะ"  คราวนี้มารดาของหญิงสาวถามขึ้นบ้าง
           "เอ่อ...ผมชื่อ  สองครับ  มาเยี่ยมพี่หนึ่ง"
           เพียงแค่ได้ฟังคำตอบ  สองก็เห็นหญิงสูงวัยตรงหน้าถึงกับหน้าถอดสี เพียงเท่านี้สองก็พอเดาๆได้แล้วว่าผู้หญิงสูงวัยคนนี้เป็นใคร
           "เอ่อ..คุณป้าเป็นคุณแม่ของพี่หนึ่งใช่มั้ยครับ"
           หลังจากถามออกไปแบบนั้น  สองก็เห็นหญิงสูงอายุตรงหน้าพยักหน้าให้เฉยๆเป็นการตอบรับ
           "สวัสดีครับ"  สองยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
           "อ๋อ...น้องคือ..สอง  สองที่อยู่ข้างห้องหนึ่งใช่รึเปล่า"  หญิงสาวรีบถามเด็กหนุ่มตรงหน้า
           "ครับ"
           "พี่เป็นพี่สาวของหนึ่งนะ  เรียกพี่นุชก็ได้จ้ะ"  หญิงสาวยิ้มให้สอง
           "สวัสดีครับพี่นุช"  สองยกมือไหว้พี่สาวของหนึ่ง
           "พี่หนึ่งอยู่ข้างในใช่มั้ยครับ  เอ่อ...สองขอเข้าไปเยี่ยมพี่หนึ่งได้มั้ยครับ"
           "เดี๋ยวนะ..หนึ่งเค้ากำลังนอน..."  เสียงของมารดาของหนึ่งหยุดอยู่แค่นั้น เมื่อพี่นุชรีบพูดแทรกขึ้นก่อนที่จะแอบเอื้อมมือไปจับแขนมารดาไว้เป็นเชิงส่งสัญญาณ
           "เข้าไปเถอะจ้ะ...พี่หนึ่งเค้ากำลังอ่านหนังสืออยู่น่ะ เห็นช่วงนี้ดูเหงาๆ  สองเข้าไปคุยเป็นเพื่อนพี่หนึ่งนะ"
           "เอ่อ...สอง..เข้าไปได้นะครับ"  สองถามหญิงสาวขณะที่แอบมองหญิงสูงวัยด้วยสีหน้าหวาดๆ
           "จ้ะ..เข้าไปเถอะ"
           "ครับ" สองรับคำกับพี่นุชที่ยิ้มแย้มให้ แต่มารดาของหนึ่งยังคงมีใบหน้าเรียบเฉย  สองหันกลับไปที่ประตูก่อนที่จะค่อยๆเปิดเข้าไป  คนตัวเล็กเดินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูลง
                                           .........................................................................

            หนึ่งปิดหนังสือที่กำลังอ่าน ก่อนเอาวางลงบนตัก  หนังสือเล่มนี้ พี่สาวเป็นคนเอามาให้หนึ่งอ่าน  ภายในเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำกายภาพบำบัด เบื้องต้น  หนึ่งก็พอจะเข้าใจอยู่หรอก  ใครๆหลายคนพยายามบอกเขาว่าโอกาสที่จะกลับมาเดินได้นั้นยังมีอยู่  ถึงจะไม่หนึ่ง100เปอร์เซนต์ แต่มันก็ไม่ได้น้อยขนาดไร้ซึ่งความหวัง  ขอเพียงแค่หนึ่งยอมเข้ารับการบำบัด แน่ล่ะ ...หนึ่งเองก็อยากกลับไปเดินได้อีกครั้ง แต่ใครจะรับประกันได้ล่ะว่ามันจะสำเร็จ การที่เป็นแบบนี้มันก็แสนจะทรมาน  ทรมานที่ไปไหนมาไหนดั่งใจปรารถนาไม่ได้ ทรมานที่ต้องมาเป็นภาระให้กับครอบครัว ทรมานที่ต้องกลายเป็นคนไร้สภาพ แต่สิ่งที่ทรมานที่สุด  คือการที่ไม่สามารถปกป้องใครบางคนได้  ไม่สามารถที่จะเดินเคียงข้างคอยอยู่ใกล้ๆได้เหมือนเดิม  กลายเป็นเพียงคนแก่ๆคนนึงที่ทำอะไรไม่ได้ จะพาไปเที่ยวก็ไม่ได้ จะคอยช่วยงานเช่นซักผ้า ทำความสะอาดห้องเหมือนเดิม ก็ทำไม่ได้  รังแต่จะเป็นภาระให้  ไม่อยากให้คนๆนั้นต้องมาเสียเวลากับผู้ชายไร้น้ำยาอย่างเขา  ไม่อยากให้คนๆนั้นต้องมาทุ่มเทจนต้องไปแย่งเอาเวลาเรียนอันมีค่ามาทิ้งไว้กับคนป่วยแบบเขา  ไม่อยากให้คนตัวเล็กคนนั้นต้องเหนื่อย  ใช่แล้ว..ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่หนึ่งคิด  มันเป็นความคิดของเขา แต่ในทางกลับกัน ในจิตใจลึกๆมันก็กลับมีความคิดบางอย่าง ความคิดที่เขาพยายามฝังมันเอาไว้ ความคิดในแง่ร้าย ความคิดที่จะทำให้คนที่เขารักต้องแปดเปื้อน เขาไม่อยากให้ความรักที่คนตัวเล็กมีให้ ต้องมาแปดเปื้อนกับความหวาดระแวงของเขา ความหวาดระแวงที่กลัวว่า คนๆนั้นจะรับไม่ได้ คนๆนั้นคงอยากผลักไสเขาออกไป รังเกียจคนพิการเช่นเขา เพียงแค่ความคิดนี้แวบๆเข้ามาเพียงเล็กน้อย หนึ่งก็ต้องรีบสลัดมันทิ้ง ความเจ็บปวดมากมายก็ถาโถม เจ็บปวดทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่  เจ็บปวดเพราะเกลียดใจตัวเองที่บังอาจไปคิดร้ายๆกับคนๆนั้น คนที่เขาไว้ใจ  คนที่เขาเองก็รู้ดีว่า คนๆนั้นพร้อมจะมอบความรักให้เขาได้มากแค่ไหน  พอคิดถึงตรงนี้ก็เกิดสับสน ว่านี่เขาจะไปถ่วงคนที่มีอนาคตทำไม ถ้าเป็นแบบนี้ก็แยกตัวออกมาไม่ดีกว่าหรือ  ถึงแม้มันจะเจ็บปวดทั้งสองฝ่าย  หนึ่งเฝ้าแต่คิดไปคิดมาอยู่แบบนั้น  เขาเองก็รู้ว่ากำลังสับสน  แต่ตัวเองก็ยังไม่เจอทางออก  
              หนึ่งค่อยๆหลับตาลง  ตอนนี้เขากึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง  ร่างกายส่วนล่างไม่อาจขยับได้ตามปรารถนาอีกแล้ว  บนตักคือหนังสือเล่มนั้น  สองมือยังประคองหนังสือเอาไว้ หนึ่งหลับตานิ่ง  รู้สึกตัวเองอ่อนล้าเหลือเกิน
             และตอนนั้นเอง....
            เขาก็รู้สึกว่าหนังสือที่อยู่ในมือถูกใครคนหนึ่งหยิบไป
            “แม่ครับ....ช่วยรินน้ำให้หนึ่งหน่อยครับ”  หนึ่งพูดทั้งๆที่ยังหลับตา
            เสียงน้ำกำลังถูกเทลงในแก้ว  สักพักหนึ่งก็รู้สึกถึงมือที่เข้ามาประคองช่วงไหล่ของเขาไว้   ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงลำแขนที่บอบบาง  นี่แม่ของคงเครียดมาก  ใช่แล้ว...ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ  ว่าทำให้มารดาร้อนใจแค่ไหน  แต่เขาเองก็อยากจะขอเวลาปรับจิตใจของตัวเอง และการยืดเยื้อดื้อดึงไม่เข้ารับการบำบัด คงทำให้มารดาของเขาคิดมากจนรับประทานอาหารน้อยลง
              หนึ่งค่อยๆดื่มน้ำ  ก่อนปล่อยให้ไหลลงลำคอที่แห้งผากช้า  ฉับพลับที่ปลายจมูกก็ได้กลิ่นน้ำยาล้างแผลฉุนๆ  เขาไม่เคยได้กลิ่นน้ำยาล้างแผลแบบนี้นานแล้ว   เพราะบาดแผลสดของหนึ่งหายดีแล้ว แล้วนี่กลิ่นมันมาจากไหน  แล้วหนึ่งก็ต้องรู้ว่ากลิ่นน้ำยาล้างแผลมาจากคนที่กำลังป้อนน้ำให้หนึ่ง  นี่แม่ของเขาไปโดนอะไรบาดมาหรือเปล่า  ทำไมถึงต้องใส่ยาล้างแผลรุนแรงขนาดนี้  เมื่อตอนที่ยังอยู่ด้วยกันก่อนที่มารดาจะออกนอกห้องไปพร้อมกับพี่นุช  ซึ่งเป็นพี่สาวของเขาที่เป็นหมอของที่นี่  เขาเองก็ยังเห็นมารดามีท่าทางปกติ  ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ไหน  แล้วนี่กลิ่นน้ำยาล้างแผลฉุนๆนี่มันมาได้ยังไง  
              ด้วยความสงสัย  หนึ่งจึงค่อยๆลืมตาขึ้น และภาพแรกที่เห็นคือลำคอขาวๆของคนที่กำลังโน้มเข้ามาเพื่อป้อนน้ำให้เขาดื่ม  คอเล็กๆขาวๆนั่น  ไหปลาร้าที่โผล่ออกมาจากขอบคอเสื้อยืด  เสื้อยืดที่เขาจำได้ดี  ลำคอและสีผิวที่คุ้นเคย  ลำคอๆขาวๆที่แสนคิดถึง  เขานึกถึงมันอยู่ทุกคืนทุกวัน  อยากใกล้ชิดอยากเอาจมูกของตัวเองฝังลงที่ผิวเย็นๆนุ่มๆ  คิดถึงแทบขาดใจ ....  แล้วหนึ่งก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ  เมื่อค่อยๆไล่สายตาขึ้นไปจนเห็นใบหน้าที่แสนคิดถึง  ใบหน้าที่คุ้นเคย  ใบหน้าที่เขาหลงรักหนักหนา  ใบหน้านั้นอยู่ใกล้ๆเขาตรงนี้แล้ว  ดวงตาที่ฉายแววอบอุ่นอันน่าปรารถนากำลังจ้องตอบกับดวงตาที่กำลังเบิกขึ้นของเขา  ดวงตานั้นเอ่อล้นด้วยน้ำใสๆ  ก่อนที่น้ำนั้นจะค่อยๆไหลออกมาอาบแก้มขาวๆ  ที่ตอนนี้มันดูซูบเซียว  อ่อนล้า  แถมบางส่วนยังถูกปิดไว้ด้วยผ้าก๊อซ......
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-03-2011 08:17:55 โดย cancan »

Killua

  • บุคคลทั่วไป
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง  :z3:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :เฮ้อ:สงสารน้องสองมากๆ

YELLOWSTAR

  • บุคคลทั่วไป
ค้างๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่หนึ่งกลับมาหาสองเหอะน่ะ  :o12:

ออฟไลน์ BEN*_*MOS

  • เด๊กน้อยเลือดกรุ๊ปY
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
ค้างงงงมากๆค่ะ สงสารพี่หนึ่งอ่า คุณแม่ใจร้ายไปแล้วนะ พี่หนึ่งอย่าทรมานสองอีกเลย!!!

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2011 22:00:32 โดย Little Devil »

ออฟไลน์ นัตสึกิ

  • เป็ดตัวกระเปี๊ยก
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ก็เข้าใจคุณแม่นะ แต่คุณแม่ก็ควรเข้าใจความรักของหนึ่งกับสองบ้าง
เอาใจช่วยหนึ่งกับสองนะ หนึ่งเมื่อได้กำลังใจจากสอง ก็ควรตั้งใจทำกายภาพบำบัดนะ

tawan

  • บุคคลทั่วไป

lovevva

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ autumm_99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ค้างมากมายย

ไรท์เตอร์รีบบบมาต่อน๊าา

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ autumm_99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ค้างมากมายย

ไรท์เตอร์รีบบบมาต่อน๊าา

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
 :m15: เศร้าจังอ่ะ
รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ mickeynut

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-3

jen9789

  • บุคคลทั่วไป

ขอบคุณคับที่มีเรื่องดีดีแบบนี้ให้อ่านคับ

ผมก็ติดตามเรื่องของพี่หนึ่งกับน้องสองมาตลอด ยิ่งอ่านยิ่งสนุกน่าติดตาม

แต่มีเรื่องหนึ่งขอร้องคับเพราะว่า กำลังเกิดอาการค้างที่อยากอ่านต่อคับ

ขอขอบคุณล่วงหน้าคับ เป็นกำลังใจให้คับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pimkung

  • Karkat <3
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ค้างอ่ะค่าาา
รอต่อไปฮัฟ  :call:

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วๆ  อ้อมาแล้ว  อุอิ  :z13:

ออฟไลน์ autumm_99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มารอค้าบบ

มาต่อยังหว่าาา   :call: :call:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เรียกน้ำลาย เอ้ย! น้ำตาได้เป็นกุรุสเลย
จะเศร้าไปอีกนานไหมหนอ
อย่างเห็นทั้งคู่มีความสุขเร็วๆ

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4
 :monkeysad: เศร้าและค้างมากมาย รออยู่เมื่อไหรจะหวานซักทีละ :call:

ออฟไลน์ jojobuffy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-4
ค้างสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m31:




มาไวๆนะคะ รออยู่ :เฮ้อ:



 :กอด1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8

Motor-tricycle

  • บุคคลทั่วไป
พี่หนึ่ง น้องสอง   :monkeysad:  สู้ไปด้วยกันนะ
หวังว่าคุณแม่คงไม่ใจร้ายนะ เพราะที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ว่าลูกตัวเองไม่มีแรง ไม่มีกำลังใจจะลุกขึ้น
ลูกก็ทรมาณ แม่ก็ทรมาณ นะคะคุณแม่

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ค้างมาก ถึงมากที่สุดเลยครับ
ความรัก หนึ่ง-สอง ช่างมีอุปสรรคมากมายอะไรแบบนี้นะ แต่ก็ภาวนาให้ทั้งคู่ช่วยกันประคองให้ผ่านไปได้ด้วยดี

ป.ล.มาต่อเร็วๆ นะครับ เศร้าได้อีก T^T

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด