ตอนที่ 17 ..ความรักที่หายไป ...(1).
“มึงใจเย็นก่อนเดียว”
“ใจเย็นเหรอ กูยังไม่รู้เลยว่าปลากับลูกหายไปไหนมึงจะให้กูใจเย็นได้ยังไงวะรัน”
สงครามนั่งไม่ติดเมื่อคนขับรถโทรฯมาบอกว่ามัจฉากับมาเฟียหายไประหว่างที่ไปซื้อของที่ตลาด เขาไม่เคยมีศัตรูที่เล่นกันแรงแบบนี้ คู่แข่งทางธุรกิจก็ไม่น่าจะใช่
“มึงสงสัยใครมึงลองค่อยคิดซิ”กันธรเองก็พยายามที่จะให้สงครามใจเย็นเขาเข้าใจว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่มีใครใจเย็นได้แต่สติก็สำคัญ
“กูไม่รู้แต่กูเจอนี่ในกระเป๋าบนหัวเตียงตอนที่เข้าไปค้นหาในห้องของปลา อาจจะเป็นเบาะแสได้เพราะเขาเคยเล่าเรื่องครอบครัวนี้ให้กูฟัง “
สงครามยื่นกระดาษแผ่นเล็กที่พับเรียบร้อยราวกับไม่เคยแกะออกอ่าน ลายมือหวัดบนกระดาษแผ่นน้อยยังพอที่จะบอกได้ว่า
จุดแรกเขาควรตามหาที่ตรงนี้ตอนที่เขาได้รับรายงานจากป๋องว่า ทั้งลูกและคนรักหายไป
เขาคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจไปค้นห้องมัจฉาเพื่อหาข้อมูลที่พอจะตามตัวได้เพราะเขาแน่ใจว่าไม่ใช่คู่แข่งทางธุรกิจของเขาแน่นอน
เรื่องราวที่มัจฉาเคยเล่ามันทำให้เขาคิด ว่าน่าจะเป็นต้นเหตุในการหายตัวไปครั้งนี้ของมัจฉา
// ปลาอันนี้เป็นเบอร์โทรศัพท์เบอร์ใหม่ของป้าไก่นะลูก แล้วก็ที่อยู่บ้านใหม่ป้าไก่ด้วย เมื่อวานพ่อลืมบอกไปว่าป้าไก่ย้ายบ้านแล้ว พ่ออยากจะให้ปลาเข้าใจ ที่พ่อแต่งงานใหม่ไม่ได้จะทิ้งลูกนะ พ่อต้องไปทำงานที่ไกลๆน้ามุกคนนี้เขาช่วยพ่อได้ พ่อจะส่งเงินมาให้ลูกนะ น้ามุกเขาสัญญาว่าจะช่วยส่งต่อมาให้ปลาจะได้เรียนหนังสืออย่างที่ปลาอยากเรียน พ่อขอโทษที่ไม่เคยได้ทำหน้าที่พ่อเลยสักครั้ง ถ้าพ่อเก็บเงินได้สักก้อนพ่อจะกลับมาหาลูกนะ ถึงวันนั้นพ่อจะต้องทำให้ลูกภูมิใจในตัวพ่ออย่างแน่นอน รักลูกนะ ..พ่อปู//
สงครามพยายามติดต่อเบอร์โทรศัพท์ในกระดาษแผ่นนั้นแต่ก็ไม่มีคนรับสาย ในใจเขาตอนนี้แทบจะไม่อยากจะคิดอะไร
เรื่องราวที่มัจฉาเคยเล่า มันผุดขึ้นมาในหัวของเขาตลอดเวลา ขอเถอะอย่าเป็นอย่างที่เขาคิดเลย
บรื๊น! เอี๊ยดด!!
เสียงเครื่องยนต์พร้อมกับเสียงเบรคดังลั่นมาจากหน้าบ้าน สงครามกันธรและรันรีบวิ่งออกมาจากตัวบ้าน
สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขายิ้มทั้งน้ำตา
“พ่อฮะ!”เด็กชายถลาลงจากรถวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของพ่อ ที่อ้าแขนรอรับอยู่แล้ว
“เฟียไปไหนมาลูก ทำไมมากับ....”สงครามเว้นคำต่อไป เพราะตอนนี้เขาไม่เห็นมัจฉามีแต่ลูกชายเขากับอดีตภรรยา
“พ่อฮะ ช่วยๆพี่ปลาฮือ..พี่ปลาเจ็บฮือ ฮึก”เด็กน้อยเรียบเรียงคำพูดไม่ถูกจนมายาที่ยืนอยู่จำเป็นต้องบอกเรื่องที่เกิดขึ้น
“พี่ปลาอยู่ไหนลูกบอกพ่อสิ !”สงครามเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำที่ลูกชายบอก ความเป็นห่วงแล่นริ้วเข้าสูภายในแทบจะทันทีที่รู้ว่ามัจฉากำลังเป็นอันตราย
....................
สงครามแทบอยากจะจับอดีตภรรยามาบีบคอให้ตายคามือ เมื่อทราบเรื่องทั้งหมด มัจฉาถูกจับกลับไปที่เดิม
ที่ๆมัจฉาพยายามออกมาและตอนนี้ สงครามไม่รู้ได้ว่ามัจฉาจะเป็นอย่างไร ฟังจากลูกชายที่เล่ากระท่อนกระแท่น
เขายิ่งเครียด ความเป็นห่วงแล่นลิ่วเข้าสู่หัวใจ เขาจะช้าไม่ได้นิ่งเฉยไม่ได้
“รัน”สงครามหันมาทางการันต์ คนที่เขารู้ดีว่าตอนนี้สิ่งที่การันต์มีในมือมันกำลังจะได้ใช้ให้เป็นประโยชน์แล้ว
“คุณจำทางไปบ้านหลังนั้นได้ไหมคุณมายา”รันหันไปถามหญิงสาวที่ยังยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆสงคราม
“จำได้สิ จำได้”
มายาระล่ำระลักบอกภายในใจยังสั่นและหวาดกลัว ตั้งแต่พาลูกขึ้นรถและออกมาได้
วินาทีที่เธอเห็นมัจฉาพุ่งตัวเข้าใส่คนที่ถือปืนนั่นเธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมสงครามและลูกชายเธอถึงได้รักเด็กผู้ชายคนนั้นนักหนา
“ธรมึงติดต่อตำรวจท้องที่ ไว้ก่อนเลยกูจะโทรฯหาอาโป้งให้ช่วยน่าจะทันก่อนที่พวกมันจะพาปลาข้ามแดน”
สงครามฟังจากที่มายาเล่าแสดงว่าคืนนี้มันต้องพามัจฉาและคนอื่นๆข้ามแดนแน่นอน
เพราะการเดินทางข้ามแดนตอนกลางวันพร้อมสินค้าที่มีชีวิตอาจจะเป็นเป้ามากไปกลางคืนจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสุดและแน่นอนเขาจะพลาดไม่ได้
//รอพี่ก่อนนะปลา //
สงครามได้แต่คร่ำครวญในใจ เขาเป็นห่วงคนตัวบางคนนั้นคนที่เป็นคนดีไม่เคยทำใครเดือดเนื้อร้อนใจแต่กำลังตกเป็นเหยื่อของคนชั่วเหล่านั้น
“เดียวคะ คือ “
“อย่าพูดอะไรตอนนี้มายา อย่าเข้าใกล้ผมมากกว่านี้เพราะผมอาจจะพลั้งมือทำร้ายคุณได้ ถอยไปมายา “
สงครามกัดกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์ที่พุ่งออกมาไม่หยุด ถ้ามัจฉาเป็นอะไรไปเขาจะไม่ให้อภัยผู้หญิงคนนี้เลย
“ยายกิ่งครับฝากมาเฟียด้วยนะครับ เดี๋ยวผมให้คนมาเฝ้าบ้านยายกิ่งไม่ต้องห่วงนะ”
สงครามหันไปคุยกับหญิงชราที่ยังคงกอดคุณหนูเอาไว้ ร่างเล็กๆหลับไปแล้วคงเพราะเรื่องที่เจอมาทั้งวันบวกกับร่างกายอ่อนเพลีย
เลยทำให้เด็กน้อยหลับไปทั้งน้ำตา
"คุณเดียวระวังตัวนะคะ "หญิงชราลูบเบาๆที่ต้นแขนของผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง
“เดียวคนฝั่งกูพร้อมแล้ว ไปกันเลยดีกว่า ...มายาคุณนำทางสิ”การันต์เอ่ยขึ้นทันทีที่เขาติดต่อคนให้เข้ามาช่วยในการตามหามัจฉาครั้งนี้
“ทำไมฉันต้องไปด้วยล่ะไม่เอานะฉันกลัวฉันจะอยู่กับลูกได้ไหม”สาวสวยร้องขอด้วยความกลัวเธอไม่อยากกลับไปที่นั่น
“ถ้าคุณอยากชดใช้เรื่องที่คุณทำนะมายา คุณไปกับเรา ผมจะไม่ให้คุณอยู่กับลูกตามลำพังเด็ดขาด”
สงครามยังคงเอ่ยเสียงราบเรียบกับอดีตภรรยา มายาได้แต่ก้มหน้ารับผิด หลายเรื่องในวันนี้ทำให้เธอเห็นอะไรหลายอย่าง
ที่เธอรอดมาได้ส่วนหนึ่งมาจากเด็กคนนั้นและเธอก็ไม่รู้ว่าจะรอดไปนานแค่ไหนถ้าลองเธอได้รู้เห็นอะไรเยอะขนาดนี้
เธอเริ่มไม่แน่ใจว่าเสี่ยชัยจะยังปล่อยเธอไปใช้ชีวิตปรกติได้
สงครามติดต่อกับเพื่อนสนิทของพ่ออีกคนที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
ให้ช่วยประสานกองกำลังจับเครือข่ายพวกค้ามนุษย์ ตลอดการเดินทางไปที่บ้านหลังนั้น สงครามกระวนกระวายในใจ
ความรุ่มร้อนแทบจะเผาใจเขาให้มอดไหม้ไม่เหลือซาก
บ้านหลังใหญ่ดูเงียบเชียบราวกับร้างผู้คนมานาน ไม่มีแม้แต่สัตว์เลี้ยงหรือสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นภายในรั้วบ้าน ทุกอย่างรอบบ้านราวกับไม่เคยมีคนอาศัยมาก่อน
“รันกูคิดว่าไปตามที่อยู่บ้านหลังนี้ดีกว่าไหม เพราะถ้าสองแม่ลูกนั่นเกี่ยวข้องกับเสี่ยชัยอย่างที่มายาว่า กูว่ามันคงย้ายคนไปที่นั่น เพราะมายารู้จักที่นี่พวกมันคงไม่เสี่ยงอยู่ที่นี่หรอก “
สงครามคิดถึงที่อยู่ในกระดาษแผ่นเล็กที่เจอในห้องของมัจฉา
“ธร มึงไปส่งมายาและช่วยดูลูกให้กูทีนะ “
สงครามหันมาหาเพื่อนรัก ที่ยืนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองดูการันกับผู้ชายร่างสูงใหญ่อีกคนที่ยืนคุยกันอยู่ท่าทางเหมือนจะสนิทกันมาก
“กูไปด้วยดิวะ “
กันธรไม่อยากปล่อยให้การันต์ไปโดยไม่มีเขา อย่างแรกคือเป็นห่วงอย่างหลังนี่หวงล้วนๆไอ้ผู้ชายตัวใหญ่ที่ประกบรันไม่ห่างนั่นมันทำเขาหงุดหงิด
“ธร กูเป็นห่วงเฟีย ช่วยกูหน่อย”
“แต่ว่า..”กันธรเอ่ยขัดพลางหันไปหาการันต์ ที่หันมาพอดี
คนร่างเล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่เขารู้ว่ากันธรคิดอะไร แต่เขาไม่มีเวลามาอธิบายมากนัก เขาเดินมาหากันธรพลางมองนิ่งๆลงไปในดวงตาคู่นั้น
แววตาสั่นไหวไม่มีความมั่นใจอะไรเลยส่งมาตัดพ้อเขา แม้การันต์จะเข้าใจแม้จะไม่อยากถลำตัวกลับไปในหลุมนั่นอีก แต่เขาก็จำเป็นต้องทำเพื่อมัจฉาที่รออยู่
“ธร...มึงเชื่อใจกูไหม.ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจกูง่ายๆหรอก”
คนตัวเล็กพูดจบก็หันหลังกลับเดินไปที่รถโดยไม่รอฟังอะไรจากอีกคนไม่รอว่าคนตัวโตนั่นจะยิ้มกว้างสักแค่ไหน
แม้มันจะเป็นคำพูดที่ไม่บ่งบอกอะไรมากมาย แต่อย่างแรกที่กันธรมีแรงฮึดขึ้นมาได้คือสรรพนามที่ใช้เรียกกัน
การันต์กำลังให้ความหวังเขาใช่ไหม เหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยงหัวใจที่กำลังจะเฉาตายให้กลับมาเต้นได้อีกครั้ง
เขามองตามแผ่นหลังเล็กๆนั่นจนลับตา เอาเถอะตอนนี้เรื่องของสงครามต้องมาก่อน เอาไว้เสร็จเรื่องเมื่อไหร่พ่อจะรุกไม่ให้ตั้งตัวได้เลยคอยดู
............................................................
ตำรวจนำกำลังเข้าล้อมบ้านหลังหนึ่งในเขตปริมณฑล ที่ตั้งห่างจากชุมชนพอสมควร รอบๆบริเวณเงียบเชียบไม่มีผู้คนสัญจร
ผู้พันหมิงเพื่อนสนิทของการันต์ที่นำกำลังมาช่วยเหลือในครั้งนี้ ส่งสัญญาณให้ทุกคนกระจายตัวให้รอบบ้าน
เมื่อเห็นรรถตู้สองคันจอดอยู่ตรงข้างบ้านมีผู้ชายสองคนนั่งอยู่ตรงม้านั่งหินอ่อนหน้าบ้าน การันต์ประกบข้างตัวสงครามไว้ตลอด
เขากลัวใจเพื่อนที่สุดหากมัจฉาไม่ปลอดภัยสงครามก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน เพราะความใจร้อนและเป็นห่วงคนที่รักมักจะทำสงครามขาดสติเสมอ
เมื่อทุกคนประจำที่แล้ว ได้สัญญษณจากผู้พันหมิงก็เริ่มรุกคืบเข้าล้อมจับกลุ่มคนในบ้านทันที ความรวดเร็วและด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่
ใช้เวลาไม่นาน ในการจับกุม สามารถช่วยเหลือเหยื่อครั้งนี้ถึง15 คน แต่..
“ไม่มีน้องปลาว่ะเดียว กูคิดว่ามันคงส่งไปก่อนแล้ว มึงติดต่ออาโป้งหรือยัง “
การันต์รีบบอกสงครามเสียงเครียดเมื่อเขาและผู้พันหมิงตรวจสอบคนที่จับได้ทั้งหมดแล้วแต่ไม่มีปลาและพี่สาวรวมอยู่ในนั้น ที่สำคัญเสี่ยชัยก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย
สงครามขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูนข้างแก้ม ทำไมต้องเป็นมัจฉาทำไมกันคนดีๆแบบนั้นต้องมาเจอพวกคนสารเลวนี่ด้วย
“กูจะไปสมทบกับอาโป้งที่ชายแดน “
“แต่กูว่าให้เป็นเรื่องของตำรวจเขาดีกว่าไหมวะ”
“ไม่รัน มึงจะให้กูนั่งรอเฉยกูทำไม่ได้ “
สงครามว่าพลางรีบเดินไปที่รถ เขาต่อสายหาเพื่อนสนิทของพ่อที่ฝากเรื่องไว้ สงครามได้แต่ภาวนาว่า
อย่าพึ่งให้พวกมันพาตัวมัจฉาออกนอกประเทศเลย เพราะไม่อย่างนั้น การตามตัวกลับจะยากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า
“อาครับ ได้เรื่องอะไรบ้างครับ “
// ตอนนี้คนของอากำลังตรวจค้นอยู่ทุกจุดที่สามารถนำคนผ่านแดนได้เดียวอย่าห่วงเลย อารับรองว่าแม้แต่แมลงวันก็ไม่สามารถผ่านตาคนของอาได้หรอกไอ้หลานชายสบายใจได้//
“ผมฝากด้วยนะครับลอาถ้าปลาเป็นอะไรไปผมคง...”
//เอาน่า ไม่เชื่อมืออาหรือไงฮึ//
“ขอบคุณครับอา”
//ยินดีเสมอหลานรัก//
รถเก๋งคันหรูพุ่งทะยานออกจากพื้นที่มุ่งหน้าสู่ชายแดนเพื่อนบ้าน ความเงียบเข้าครอบคลุมในหห้องโดยสารทั้งคัน
ไม่มีการพูดกันแม้แต่คำเดียว การันต์พยายามที่จะให้สงครามได้ลดความโกรธลง
เขาจำได้เมื่อตอนที่สงครามโกรธสุดๆเมื่อครั้งที่พวกเขายังเด็ก เขาโดนทำร้ายจากคนประเภทเดียวกันกับที่กำลังทำกับมัจฉาตอนนี้
คนที่ปกป้องเขาจากคนสาระเลวพวกนั้นคือสงครามความโกรธของสงครามทำพวกมันแทบจะกราบเท้าร้องขอชีวิตกับเด็กอายุยังไม่ถึงสิบห้า
และตอนนี้สงครามวัยนี้กับความโกรธที่การันต์คิดว่ามันมากมายกว่าตอนนั้นแบบเทียบไม่ติด
...........................................
“เพราะมึงคนเดียวไอ้ปลาเพราะมึง ฮือๆ “
เสียงพึมพำจากหญิงสาวตัวบางที่นั่งคุดคู้อยู่ในกระบะหลังรถที่ดัดแปลงทำเป็นชั้นวางของ ภายในมีพื้นที่แค่นั่งเบียดกันสามคน
พอให้หายใจ ภายนอกโอบล้อมด้วยสับปะรดเพื่อพลางตา มัจฉานั่งเงียบไม่โต้ตอบใดๆ เขากำลังช็อคจิตใจกำลังสั่นไหว
เพราะในรถคันนี้ไม่ได้มีแค่เขากับพี่กุ้งแต่ผู้หญิงอีกคน ที่ดูแล้วคงไม่มีสติ รองรอยการทารุณมีให้เห็นในทุกส่วนของร่างกาย
เธอเหม่อลอยไม่มีสติใดๆไม่รุบรู้อะไรนอกจากนั่งร้องไห้เหมือนโลกทั้งใบมีเธอคนเดียว
“แม่ฟาง”มัจฉาครางในลำคอเมื่อเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชัดๆ
แม้ว่าจะจากกันตั้งแต่ยังเล็กแต่แม่ไม่เคยหายไปจากความทรงจำของมัจฉา ความรักที่เขาโหยหามาตลอดจากผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่
ร่างกายผ่ายผอมซูบซีด แทบจะไม่มีเค้าแม่ฟางคนสวย แต่เขาจำแม่ได้ ฟังจากคำพูดของคนขับรถและเสี่ยชัย
แม่ฟางของเขารู้เรื่องค้ามนุษย์มากเกินไป หากทิ้งไว้ที่บ้านหลังนั้นไม่แคล้วจะสาวเรื่องไปถึงหัวเรือใหญ่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน
เลยต้องรับเอาข้ามแดนก่อน ตำรวจยังคงคิดว่าคนของเสี่ยชัยจะข้ามแดนตอนกลางคืน แต่เสี่ยชัยกลับทำสองแผนให้ตำรวจคิดตามนั้น
และรีบนำตัวมัจฉาและฟางกับกุ้งออกมาก่อน รถกระบะคันโตแล่นไปตามทางลูกรัง มุ่งสู่ทิศทางที่จะข้ามฝั่งชายแดนด้วยเรือ อีกนิดเดียวเท่านั้น ก็จะผ่านได้แล้ว
“บ้าจริง!!”
ภาพเจ้าหน้าที่ไทยในชุดสีดำพร้อมอาวุธครบมือยืนรายล้อมที่สองข้างทาง มีถึงน้ำมันขนาดใหญ่และท่อนเหล็กแข็งแรง
กางกั้นเส้นทางสัญจรเอาไว้ รถกระบะคันโตค่อยชะลอจนจอดสนิท เสี่ยชัย พลางใบหน้าด้วยผ้าขาวม้าและผงฝุ่นเปรอะเปื้อนเหมือนคนงาน
ในไร่เขากำลังเหงื่อกาฬไหลทะลักทั่วแผ่นหลัง เมื่อต้องเลื่อกระจกรถลงให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจ
“สวัสดีครับจะไปไหนกัน”ตำรวจนายหนึ่งเอ่ยถามคนขับรถกับเสี่ยชัยที่หน้าตามอมแมมจนแยกไม่ออกว่าหน้าตาจริงๆเป็นอย่างไร
“เอาสับปะรดไปส่งครับ “คนขับรถตอบเสียงนิ่งที่พยายามไม่ให้มีพิรุธ
“ไหนขอใบอนุญาตซิ”
เจ้าหน้าที่แบมือมาตรงหน้าเสี่ยชัย นาทีนั้นเสี่ยชัยคิดแค่ว่าทำยังไงให้ตัวเขาเองข้ามไปอยู่ในรั้วอีกฝั่งได้
เพราะมีคนของนายใหญ่รออยู่ฝั่งโน้นแล้วถัดไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรเขาก็ลงเรือข้ามฟากได้สบายแต่จะทำยังไง
หากเจ้าหน้าที่ไทยตรวจของในรถล่ะ ความคิดเริ่มสับสนเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของเจ้าหน้าที่ไทยอีกคนที่เดินไปหลังรถ
เสี่ยชัยค่อยๆปลดล็อคประตูเสี่ยงวิ่งลงไปน่าจะทัน “ถ้าตำรวจคนนั้นแตะประตูกระบะหลังมึงพุ่งรถไปทางซ้ายเลยนะ
ตรงนั้นมันเป็นไม้รถน่าจะไม่ปะทะแรงคงผ่านไปได้”เขากระซิบบอกคนขับรถ ที่พยักหน้ารับคำ หากพ้นประตูกันได้ก็ไม่ยากที่จะพุ่งรถเข้าเขตแดนอีกประเทศ
มัจฉาชะงักเมื่อรถจอดสนิทนานเกินไป เสียงพูดคุยภายนอกแว่วมา ทำให้เขาเข้าใจสถานการณ์ได้ดีว่าพวกเขากำลังจะออกนอกประเทศ และคงอยู่ด่านที่ไหนสักแห่ง
“พี่กุ้ง “
“อะไรอย่ามายุ่งกับกู!”
“ก็ไม่ได้อยากยุ่งแต่พี่กุ้งอยากกลับบ้านไหมล่ะ”
“มึงจะทำอะไร “
หญิงสาวให้แปลกใจกับคำถามของญาติผู้น้อง เธอเกลียดมัจฉาเพราะเธอคิดว่าเป็นต้นของความซวยในชีวิตเธอ
ยิ่งได้มาเห็นแม่ของมันอยู่ในสภาพที่แทบจะไม่เป็นคนเธอยิ่งสะใจ แต่ลึกๆเธอก็กำลังกลัว เพราะไม่รู้ว่าเสี่ยชัยจะพาเธอไปไหน
หลายปีที่อยู่กับเสี่ยชัย คำว่าเขต 4 เป็นเขตที่น่ากลัวมากสำหรับเธอเพราะมันเป็นซ่องดีๆนี่เองและไม่ได้อยู่ในประเทศไทย
ตอนนี้มัจฉามาถามเธอว่าอยากกลับบ้านไหม มันก็ต้องแน่อยู่แล้วเธออยากกลับ แต่ฤทธิ์ยาที่ไอ้พวกนั้นมันมอมเธอไว้ทำให้เรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับยังไม่มี น้องชายเธอก็ไม่ต่างกัน
"ถ้าพี่อยากกลับบ้านพี่ทำตามผมนะ “
“ทำไง?”
มัจฉาดึงเอาสับปะรดที่ตั้งเป็นแถวรอบๆออก เขาค่อยๆดึงแม้จะแน่นขนัดแต่ก็ยังมีช่องว่างที่มีลมเข้ามา หากเปิดช่องได้อีกนิดเสียงจะต้องลอดออกไปได้
“ดึงพี่กุ้งดึงแรงๆ”
มัจฉาดึงเอาสับปะรดหลายลูกให้ลงมากองอยู่ตรงที่เขานั่งข้างๆแม่ฟาง กุ้งเริ่มเข้าใจสิ่งที่มัจฉาบอก
สองพี่น้องช่วยกันดึงเอาลูกสับปะรดลูกโตๆหลายลูกให้พังลงมากแม้มือจะโดนบาดเป็นแผลเหวอะหวะแต่สองคนก็ไม่ได้สนใจ
เมื่อมองเห็นรูกว้างเท่ากับขนาดศรีษะของคนที่มุดออกไปได้ มัจฉาก็เริ่มตะโกนพร้อมๆกันกับกุ้ง
“ช่วยด้วยๆ เราอยู่ในนี้ช่วยด้วยๆๆ!!!”
สองเสียงประสานดังลั่นเป็นเหตุให้ฟางที่ยังเมายาเกิดอาการผวากรีดร้องดังผสมขึ้นไปอีก ปืนหลายกระบอกถูกตั้งขึ้นจ่อไปที่คนขับ
และตัวรถเตรียมพร้อมยิง เมื่อได้ยินเสียงคนขอความช่วยเหลือดังมาจากด้านใน
ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อรถกระบะพุ่งเข้าใส่เหล็กกั้นพร้อมๆกับประตูฝั่งผู้โดยสารเปิดออกเสี่ยชัยพุ่งตัวเองออกจากรถ
แล้ววิ่งเข้าป่าทึบด้านข้า โดยมีเจ้าหน้าที่ตามติดไปสองคน รถกระบะที่จอดนิ่งสนิทเพราะโดนท่อนเหล็กแข็งแรงกั้นไว้ไม่สามารถพุ่งข้ามเขตไปได้
“อย่ายิง!”เสียงผู้บัญชาการสั่งเสียงดังเพราะเห็นว่ามีคนในรถและคงเป็นเหยื่อคนที่เขาควานหาตัวอยู่
“หมวดตามไอ้คนนั้นไป อย่าให้ไปถึงท่าเรือ จับเป็นไม่ได้ยิงทิ้งได้เลย”
คำสั่งเฉียบขาดทำเอาคนขับรถขนลูกชันนี่เขาเจอกับใครอยู่ไม่ใช่นายตำรวจธรรมดาแน่ๆที่สั่งยิงทิ้งในฝั่งเพื่อนบ้านได้แบบนี้
เขาได้แต่นั่งคุกเข่าเอามือประสานท้ายทอยยอมจำนน ดีกว่าไม่เหลือชีวิต
“เดียวเหรอตอนนี้อาจับรถคันนั้นได้แล้วนะ ในรถมีสามคนเป็นผู้หญิงสองคนเดียวลองมาดูก่อนละกันตอนนี้อาอยู่ที่ชายแดนเขตสี่ รีบมาล่ะ อ้อตัวประกันปลอดภัยดีแต่ตอนนี้น่าจะหมดสติกันอยู่เพราะสับปะรดทับขนาดนั่น แต่ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอกเดียวอย่ากังวลเลยนะ “
หนุ่มใหญ่ในตำแหน่งผู้บัญชาการเอ่ยยิ้มๆกับคนปลายสายเขารู้จักนิสัยลูกชายของเพื่อนรักที่จากไปแล้วดีว่าเป็นยังไง
เพราะต้องดึงสติให้สงครามใจเย็นลงไม่งั้นได้ฆ่าผู้ต้องหาเขาตายด้วยมือเปล่าแน่ๆ
ผู้บัญชาการภาค 4หันไปมองกลุ่มคนที่เข้ามาช่วยนำร่างของเหยื่อสามคนที่หมดสติอยู่ไปปฐมพยาบาล
เขาติดต่อขอเฮลิคอปเตอร์เพื่อลำเลียงคนเจ็บไปส่งพยาบาลอย่างเร่งด่วนและสงครามคงไปเจอกันที่นั่น
ร่างไร้ลมหายใจของเสี่ยชัยถูกลากอกมาจากป่า แต่ก็ยังมีคนขับรถและพยานอีกสามคนในรถพอที่จะสาวถึงต้นตอ
และจับพวกค้ามนุษย์ข้ามชาติได้ เขาเกลียดคนพวกนี้ที่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา เขาจะกวาดล้างให้สิ้นซากไปจากสังคมไทย
เขาสาบานว่าจะเป็นศัตรูกับคนพวกนี้จนลมหายใจสุดท้าย ตราบใดที่เขายังอยู่ตรงนี้จะไม่มีไอ้หน้าไหนพาคนไทยไปขายที่ต่างแดนได้แน่นอน
.
.
..
..
TBC.......
ทุลักทุเลพอสมควรกับการขับรถขึ้นลงสามสี่จังหวัดในวันเดียวหมดแรงมากเลยแวะมาลงน้องปลาไว้ก่อนแล้วจะขอไปนอนยาวๆนะคะ ฮ่าๆ
สาหัสสากรรณ์มากน้องปลา พันวาเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ตอนไปประเทศเพื่อนบ้านช่วงรอยต่อชายแดน
ตำรวจตรวจจับคนเข้าเมือง เจอคนที่อัดแน่นในรถกระบะทั้งๆที่ภายนอกเป็นพวกใบยาสูบปิดทับอีกรอบ
คนเป็นสอบที่อัดแน่นข้างในโปะด้วยใบยากลิ่นฉุนมันทำให้พันวานึกสงสารว่าทำไมคนที่ทำแบบนั้นไม่คิดเลยหรือว่าคนที่อยู่อัดๆข้างในจะหายใจยังไง
ไม่แปลกที่มีข่าวคนลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหายแล้วเสียชีวิตขณะเดินทาง เฮ้อ....เวิ่นมาซะน่ากลัวเนอะ
ได้แต่หวังว่าธุระกิจแบบนี้จะหายไปจากโลกนี้ จริงๆสักที อะๆ เลิกเครียดๆ
แม่น้องปลาโผล่แล้ว หลายคนกำลังคิดถึงคุณพ่อล่ะสิ อิอิ เดี๋ยวจะค่อยๆโผล่มาทีละคน เรื่องร้ายๆผ่านไป เรื่องดีๆจะมีเข้ามา
พันวาบอกแล้วเรื่องนี้มาม่าไม่เยอะนะคะ เอาไปไว้หน่วงกับเรื่องของการันต์และกันธรดีกว่าเนอะ อิอิ
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตาม ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้นท์เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะค๊าาาา ดรั๊กก็จัง