เผลอตัว'ฟันหลุดไปไหนล่ะเนี่ย' แก้วที่ตื่นมาตอนเช้าต้องพบกับคำว่างุนงงที่ตนเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนที่ตอนนี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เมื่อคืนเขาจำได้ว่าโดนทั้งเอาเหล้ากรอกปาก โดนทั้งกลั่นแกล้งสาระพัด มาจำได้อีกทีก็ตอนที่อาบน้ำแปรงฟัน หน้าเน่อก็ล้างแค่น้ำเปล่า ไหนจะกลิ่นเหล้าที่ยังติดตัวอยู่ประปรายนี่อีก
"อื้มมม" เสียงครางงัวเงียทั้งๆที่ยังหลับตาของอีกฝ่ายทำให้แก้วตกใจรีบหันหน้าหนีแล้วเขยิบกลับมานอนที่เดิม ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะเห็นความผิดปกติอะไรในตัวเขาบ้างหรือเปล่าเมื่อคืนนี้ เขายังไม่อยากให้พี่ขุนรู้ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร ดังนั้นก่อนที่พี่ขุนจะตื่นแก้วจึงต้องรีบดันตัวออกมาแล้วหยิบแว่นมาใส่ เขาต้องรีบหาฟันปลอมให้เจอแล้วเข้าห้องน้ำเพื่อดูเมคอัพที่แต่งเป็นประจำให้เรียบร้อยก่อนที่คนข้างๆจะตื่นเพื่อไปทำงาน แก้วมักจะทำแบบนี้ประจำ ตื่นนอนก่อน อาบน้ำแต่งตัวก่อน ค่อยมาเรียกพี่ขุนให้ตื่น แต่บางทีถ้าพี่ขุนไปทำงานก่อน แก้วก็จะเซฟตัวเองโดยการนอนจมไปกับที่นอน แม้แก้วจะรู้ว่าพี่ขุนไม่ได้อยากจะมองหน้าแก้วอยู่แล้ว แต่อย่างไรเขาก็ต้องป้องกันเรื่องพวกนี้ไว้ก่อน เพราะเขาอยากให้พี่ขุนรักเขาแบบที่เขาเป็นจริงๆ ไม่ใช่รักที่หน้าตา
"พี่ขุนตื่นเถอะครับ วันนี้มีประชุมกับบริษัทคุณบรรพตนะ" แก้วที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยเดินไปปลุกคนที่ยังนอนอุตุอยู่บนเตียง วันนี้ป๋ากับพี่ขุนต้องเข้าร่วมประชุมคู่ค้าคนสำคัญของบริษัท ตอนนี้ก็เจ็ดโมงแล้ว ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็น่าจะถึงบริษัท ..
"เออๆ มึงลงไปก่อน" เมื่อโดนคนที่เพิ่งตื่นไล่เขาจึงลงมาช่วยพี่ๆแม่บ้านจัดอาหารให้ป๋า ตั้งโต๊ะเสร็จสักพักขุนก็ลงมานั่งทานด้วย หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปบริษัท ป๋ามีคนขับรถไปส่ง ส่วนแก้วก็ไปกับพี่ขุนเหมือนเดิม
"จะพูดอะไรก็พูดมา จ้องหน้ากูอยู่ได้" ขุนที่กำลังขับรถไปบริษัทเห็นคนข้างๆเอาแต่เหลือบมาจ้องหน้าเขารู้สึกรำคาญเลยเอ่ยทัก
"เอ่อ เรื่องเมื่อคืน .. พี่ขุนไม่โกรธแก้วใช่ไหม" แก้วเองก็รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายในงานเมื่อคืน
"กูจะโกรธมึงก็ตรงที่มึงมันอ่อนแอ เมื่อไหร่จะหัดสู้คนบ้างวะ .. คิดว่าพ่อมีอำนาจอย่างเดียวจะพอหรอ .. มันอยู่ที่ตัวมึงเองด้วย .. ใครมาดีก็ดี .. ใครมาร้ายก็ซัดแม่ง" พี่ขุนโกรธเขาเรื่องนี้สินะ แก้วได้แต่หันหน้าออกไปมองถนนไม่ซักไซ้คนข้างๆต่อเพราะรู้ว่าเขาคงไม่ได้สนใจอะไรมาก แก้วนั่งย้อนกลับไปเมื่อก่อน เขาไม่ค่อยมีเพื่อน บางคนที่เข้ามาก็หวังผลประโยชน์จากแก้ว พอไม่ได้เขาก็จากไปแล้วไล่แก้วออกมาจากชีวิตเขา แก้วเลยไม่คิดจะคบใครอีก พี่น้องแก้วก็ไม่มี ป๋าก็เลี้ยงเขามาแบบไข่ในหิน .. บางทีแก้วอาจจะต้องสู้คนบ้างอย่างที่ป๋ากับพี่ขุนบอก ป๋าสอนแก้วเสมอว่าให้รู้จักปกป้องตัวเอง แต่เป็นแก้วเองแหละที่ไม่กล้า เป็นแก้วเองที่กลัว
....
การประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด ขนาดว่าแก้วเองที่เป็นคนจดบันทึกหัวข้อสำคัญยังรู้สึกปวดหัวไปด้วยเลย ทางคุณบรรพตและลูกชายต่างมีศักยภาพในทางกฎหมายส่วนป๋าเคก็มีศักยภาพด้านการลงทุนจึงเป็นไปได้สวยที่เขาจะร่วมมือกันสร้างศูนย์กลางอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยใจกลางเมือง ป๋าเคร่วมถกเถียงและกระจายงานเหล่านี้มาเกือบปีแล้ว และจบจากนี้ พวกเขาก็จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตบุคลากรและรอจนกว่าตึกกลางกรุงจะสร้างเสร็จ โดยงานนี้จะมีผู้ถือหุ้นเพียงหกรายเท่านั้น มีป๋าเค เจ้าขุน 50% มีคุณบรรพตกับลูกชาย 25 % และสุดท้าย ป๋าณพ แก้วเกล้า 25%
"เหนื่อยหรอเรา ดูสีหน้าไม่ค่อยดี" เลิกจากการประชุม แก้วก็เดินตามป๋าเคมายังห้องทำงาน ตอนนี้ป๋าที่เห็นลูกรักอีกคนทำหน้าเหนื่อยก็เลยเดินเข้าไปลูบหัวถาม ส่วนแก้วก็รีบกอดป๋าเคตอบเพราะเขาก็รักป๋าเคไม่แพ้พ่อของตัวเอง
"ครับ .. เหนื่อยกับทุกเรื่อง" แก้วตอบพร้อมถอนหายใจออกมา ป๋าพอจะเดาออกว่าคำที่แก้วบอกว่าเหนื่อยกับทุกเรื่องน่าจะเกี่ยวกับลูกชายตัวดีของเขาด้วย
"เจ้าขุนมันทำร้ายอะไรเรา ไหนบอกป๋าสิ" ป๋าถามพลางลูบผมกระเซิงที่ตอนนี้ถูกหวีเรียบเป็นทรง
"เมื่อไหร่พี่ขุนจะรักแก้วสักทีก็ไม่รู้ .. เวลาแก้วเห็นพี่ขุนไปกับคนอื่นแล้วแก้วเจ็บ" แก้วตัดพ้อออกมาเมื่อนึกไปถึงเวลาที่พี่ขุนโอบกอดรตี ทำไมพี่ขุนไม่เห็นอยากจะโอบกอดแก้วแบบเต็มใจจริงๆสักครั้งบ้างเลย
"เฮ้อ .. ป๋าก็ไม่รู้นะว่ามันจะรักเราเมื่อไหร่ .. .. จะแต่งงานกันเลยไหมล่ะ .. ไม่ต้องรงต้องรอมันแล้ว"
"ไม่เอาครับ .. แก้วยังไม่อยากแต่งตอนนี้ .. แก้วอยากให้พี่ขุนรักแก้วก่อน .. อื้อ .. ป๋าครับ .. แก้วมีเรื่องให้ป๋าช่วย .. ป๋าช่วยแก้วนะ" แก้วที่บังเอิญนึกอะไรออกจึงขอออกไป แล้วมีหรอที่ป๋าเคจะช่วยลูกสะใภ้คนนี้ไม่ได้ ถ้าให้เขาพูด ตอนนี้เขาคงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเขารักแก้วมากกว่าลูกชายตัวเองเสียอีก
.
.
"สวัสดีครับผมแก้วครับ" แก้วแนะนำตัวพร้อมทักทายพี่ชายที่เพิ่งรู้จักก่อนหน้านี้ไม่นาน
"สวัสดีครับพี่ชื่อพี่วาร์ฟนะ . ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องแก้วแล้วเอ่อ" อ่อ ชื่อพี่วาร์ฟนี่เอง แก้วคิดเมื่อบรรยายภาพคนตรงหน้า พี่วาร์ฟทั้งหล่อ สูง ขาว คม เข้ม ออกแนวสมาร์ทๆหน่อย แถมรวยอีกต่างหาก วาร์ฟเป็นลูกชายคุณบรรพตคนที่ร่วมประชุมด้วยเมื่อเช้านั่นเอง
"ผมทายครับ เป็นเพื่อนแก้ว" ทายพูดพร้อมยิ้มทักทาย ส่วนตอนนี้วาร์ฟเอาแต่จ้องทายตาเป็นมันเหมือนเห็นของถูกใจ สงสัยจะมีซัมติงดึงดูดเขาเสียแล้ว .. แก้วที่ดูๆวาร์ฟมาสักพักก็เห็นว่าวาร์ฟไม่รังเกียจแก้วเลยสักนิดเดียว ป๋าบอกว่าวาร์ฟเป็นคนดี ปกติแก้วไม่ค่อยเจอผู้ชายแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่อย่างพี่ขุนน่ะถือเป็นข้อยกเว้นนะ
"สวัสดีครับน้องทาย" นั่นปะไร แก้วคิดไว้ไม่มีผิด คนตรงหน้าเขาจะต้องชอบผู้ชายแน่ๆ แล้วอีกอย่างพี่เขาก็คงจะเริ่มชอบทายแล้วด้วย
"เอ้อ แก้วมีอะไรหรอครับ เห็นพ่อพี่บอกว่าเราชวนพี่มาทานข้าวเพราะมีเรื่องจะคุยด้วย เรามีอะไรหรือเปล่าเอ่ย" วาร์ฟถามขึ้นตอนที่อาหารมาเสิร์ฟพอดี ตอนนี้พวกเขาสามคนนั่งทานอาหารอยู่ในโรงแรมเครือของป๋า เมื่อเย็นแก้วบอกพี่ขุนกลับไปก่อน แล้วอาศัยรถทายให้มาเป็นเพื่อนด้วย
"แก้วมีเรื่องให้พี่ช่วยครับ คงต้องรบกวนพี่อย่างสูงเลย" แก้วบอกแล้วเริ่มทานอาหารไปด้วย วาร์ฟในตอนนี้เริ่มสงสัยว่าแก้วจะให้เขาช่วยอะไรเพราะเขากับแก้วเพิ่งจะเคยพบกันครั้งแรกวันนี้
"มีอะไรให้พี่ช่วยบอกมาเลยครับ .. ถ้าพี่ช่วยได้พี่จะช่วยเต็มกำลัง " วาร์ฟพูดแล้วทำหน้าตาจริงจัง ดูเป็นคนจริงใจนะครับ ป๋าเป็นคนแนะนำแก้วเอง ว่าคนนี้ไว้ใจได้
"แก้วอยากให้พี่ช่วยจีบแก้ว" แก้วพูดจบคนตรงข้ามก็สำลักข้าวขึ้นมาทันที ทำให้แก้วกับทายอดกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เผลอหัวเราะออกมาเสียงดัง
"แก้วว่าไงนะ .. พี่จีบแก้ว .. ก็เราหมั้นกับขุนแล้วนี่ .. แล้วไหง ...?" วาร์ฟรีบเอาทิชชู่เช็ดปากแล้วเอ่ยถามออกมาด้วยความงวยงง ก็เขาเพิ่งจะรู้จากพ่อเองว่าขุนกับแก้วหมั้นกัน แม้จะแปลกแต่เขาก็รับได้ เพราะเขาก็ไม่ได้รังเกียจเรื่องชายรักชาย
"ผมมีเหตุผลครับ .. แต่พี่วาร์ฟช่วยแก้วหน่อยนะ .. น้าาา" แก้วอ้อนคนตรงหน้าด้วยหน้าตาที่น่าเกลียดนี่แหละ ไม่มีใครรู้หรอกว่าแก้วใช้การแต่งเมคอัพเอา ยิ่งคนที่ไม่ค่อยสังเกตอย่างพี่ขุนยิ่งจับไม่ได้ใหญ่
"อืม .. ก็ได้ครับ .. มีอะไรก็บอกพี่ละกันนะ .. อ่ะ .. ทายลองทานนี่สิ .. สูตรนี้พี่มาทานประจำเลยนะ .. อร่อย". ตกลงกันเสร็จเรียบร้อย แก้วก็ได้แต่นั่งดูพี่แกจีบและหยอดทายตลอดการทานอาหาร แก้วคิดไว้แล้วว่าถ้าพี่แกจริงใจและไม่มีใครแก้วก็พร้อมสนับสนุน เพราะดูๆแล้วพี่วาร์ฟเขาดูดีและมั่นคงกว่าคนชื่อเลย์เพื่อนพี่ขุนนั่นเสียอีก ถ้าเป็นแก้ว แก้วก็คงเลือกวาร์ฟนี่แหละ อ่อ แต่ยกเว้นพี่ขุนไว้คนนึงนะ คนนั้นเขาได้รับสิทธิพิเศษจากแก้วไปเรียบร้อยแล้ว
.
"ขอบคุณนะครับพี่วาร์ฟ .. แล้วเจอกันครับ" แก้วจงใจแยกกับทายแล้วให้วาร์ฟมาส่งเขาที่บ้าน กะเวลาไว้ไม่มีผิด พอแก้วลงจากรถวาร์ฟ พี่ขุนก็เข้ามาพอดี ขุนจอดรถแล้วเดินจะเข้าบ้านพอดีกับที่แก้วก็กำลังจะเข้าบ้านเหมือนกัน
"เดี๋ยวนี้มีผู้ชายมาส่งนะมึง .. อย่าให้มันมากนัก" ขุนพูดแล้วเดินขึ้นบันไดไป ส่วนแก้วตอนนี้เขากำลังลอบดูปฏิกิริยาของคนตรงหน้า ก็ยังไม่เชิงหึงหวง เพียงแค่อาจจะหมั่นไส้
"ไปไหนกันมาล่ะ" เดินเข้าห้องมาก็เจอพี่ขุนกำลังถอดเสื้อถอดกางเกงกำลังจะอาบน้ำ นี่คงไปกับเพื่อนมาก่อนสินะ เพราะตอนที่แก้วเดินไปหยิบของแอบได้กลิ่นเหล้าจางๆ
"ทานข้าวครับ" แก้วพูดแล้วกำลังจะเดินออกมา แต่ถูกคนตรงหน้ากระชากแขนเข้าไปใกล้ ๆ
"อย่าริอาจมีชู้ .. แม้กูจะไม่ได้อยากหมั้นกับมึง .. แต่ตอนนี้มันเลยตามเลยมาแล้วมึงก็ต้องให้เกียรติกู" ขุนพูดแล้วบีบข้อมือคนตัวเล็กแน่นจนแก้วต้องเบ้หน้าออกมาเพราะความเจ็บปวด
"เราแค่ไปทานข้าวครับ .. พ . พี่ขุน .. แก้วเจ็บ" แก้วพูดแล้วพยายามบิดมือออก
"ก็แล้วไป .. กูทำได้ .. แต่มึงห้ามทำ" ขุนพูดขู่เสียงเข้มก่อนจะปล่อยแขนแก้วอย่างแรงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป แก้วที่ได้ฟังคำพูดนั้นถึงกับยืนอึ้งน้ำตาคลอ พี่ขุนทำได้ แต่แก้วทำไม่ได้อย่างนั้นหรอ ช่างเท่าเทียมกันเหลือเกิน ตัวแก้วเองแก้วไม่เคยคิดจะมีใครอยู่แล้ว ในเมื่อแก้วเป็นของพี่ขุน แก้วก็จะเป็นของพี่ขุนคนเดียวตลอดไป แต่แก้วจะทำอย่างไร จะทำแบบไหนที่ให้พี่ขุนมีแก้วแค่คนเดียว ..
.
"อะ .. อ๊ะ .. พี่ขุน" คืนนี้คงเป็นคืนที่แก้วจะจดจำไปตลอดชีวิต นี่พี่ขุนอยากมากถึงขนาดกล้านอนกอดแก้วเลยหรอ ตั้งแต่นอนกันมาแก้วนับครั้งได้เลยว่าเขาถูกโอบกอดจากคนข้างๆไปกี่ครั้ง ไม่มีเสียหรอกที่แก้วจะได้รับความรักจากพี่ขุนอย่างแท้จริง พี่ขุนก็แค่อยากปลดปล่อย แล้วแก้วก็ดันเป็นคนเดียวที่พี่ขุนสามารถใช้ร่างกายในการผ่อนคลายส่วนนั้นได้ ก็เท่านั้น
"อ๊ะ .. อื้ออ .. พี่ขุนครับ .. แก้วว่าเราอย่า .." ไม่ทันได้พูดจบพี่ขุนของเขาก็ส่งแท่งร้อนที่ตอนนี้แข็งขืนจนเอ็นขึ้นเข้ามาในร่างกาย ช่องทางเล็กตอดรับแก่นกายใหญ่โตนั้นจนคนที่นอนซ้อนหลังถึงกับซี้ดปากด้วยความเสียวแล้วกดส่วนนั้นเข้ามาจนสุด
"อ่าา .. อย่าตอดแรงสิวะ .. แล้วใช้มือช่วยตัวเองไปด้วย ! ทำสิ ..! ซี้ดดดดดส์" ขุนบังคับให้คนตรงหน้าใช้มือรูดรั้งของตนเองไปด้วยเพื่อความเสียว แม้เขาจะไม่ชอบขี้หน้ามัน แต่เขายอมรับอย่างนึงว่าเขารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้สอดใส่เข้าไปในช่องทางนี้
"ร้องดังๆ .. รูดแรงๆสิวะ .. แบบนี้" ขุนพูดแล้วจับแก่นกายแก้วรูดขึ้นลงจนแก้วต้องกัดปากไว้ไม่ให้ร้องออกมาเสียงดัง โดนสัมผัสทั้งด้านหน้าด้านหลังขนาดนี้แก้วทนแทบไม่ไหว ใกล้จะปลดปล่อยออกมาเต็มทน
"อื้ออ .. อ๊ะ .. อ๊ะ .. แก้วเสียวครับ .. พี่ขุน .. จูบแก้วหน่อยได้ไหม" แม้จะรู้ว่าขอออกไปในสิ่งที่ไม่มีวันได้รับ แต่แก้วก็ยอมโดนด่า ดีกว่าที่จะนิ่งเฉย แก้วอยากให้พี่ขุนจูบแก้วบ้าง ตั้งแต่ร่วมรักกันมา นอกจากการสอดใส่ พี่ขุนก็แทบจะไม่ยุ่งกับส่วนอื่นของแก้วเลย
"เรื่องมากจริง .. อืมม .. แปปเดียวนะ .. ซี้ดดด " ขุนพูดแล้วจับหน้าแก้วให้หันมาหา เขารีบหลับตาแล้วกดจูบลงไป ตอนแรกก็ว่าจะจูบแค่ครู่เดียวแล้วผละออก แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นจูบที่ยาวนานและเร่าร้อน แม้ฟันแก้วจะยื่นออกมา แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการแลกลิ้นของเขาทั้งคู่
"อื้มมม .. อ่าา" เสียงครางกระเส่าของพี่ขุนที่ดังไปทั่วห้อง พร้อมรสจูบอันแสนหวานจากเขาทำให้ค่ำคืนนี้ถือเป็นค่ำคืนที่วิเศษสุดๆสำหรับแก้ว แก้วไม่เคยคิดว่าจะได้รับมันเลยในชีวิตนี้ แต่คืนนี้แก้วได้ทั้งการสัมผัสร่างกาย การจูบประโลมแลกลิ้น ถ้านี่คือการเปิดทางไปสู่ความรักของแก้วกับพี่ขุน ไม่ว่าพี่ขุนจะทำอะไรแก้ว จะทำอีกกี่ครั้งในคืนนี้ แก้วก็ยอม ..
"อ๊า .. อ๊า .. อื๊อออออออออออออส์". เสียงครางดังเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมของเหลวสีขุ่นที่หลั่งเข้ามาในร่างกายแก้วเป็นอันรู้กันว่าจบภารกิจของค่ำคืนนี้
"ไปอาบน้ำซะ" เสียงขุนดังขึ้นไล่แก้วไปอาบน้ำพร้อมถอนแก่นกายออกมาแล้วนอนพิงหัวเตียงด้วยความหอบเหนื่อย เขาก็ไม่คิดหรอกว่าการมีเซ็กส์กับมันจะดีขนาดนี้ ครั้งแรกกับครั้งที่สองเขาแค่เมาแล้วอยากปลดปล่อย แต่ครั้งนี้เขาทำไปเพราะโกรธ โกรธที่มันท้าทายเขา แอบไปนั่งดินเนอร์กับผู้ชายอื่นสองต่อสอง เขาไม่ได้หึงหรือหวงมันหรอกนะ เขาก็แค่โมโหคนอย่างมันก็เท่านั้น
"ปิดไฟแล้วนะครับ" อาบน้ำเสร็จสรรพขุนก็ขึ้นเตียงเตรียมนอน ส่วนแก้วก็เดินลงไปดื่มน้ำก่อนจะขึ้นมาปิดไฟเตรียมนอน
"ขอบคุณนะครับพี่ขุน" แก้วกระซิบข้างหูคนตัวโตที่หลับตากำลังจะหลับ ขอบคุณเขาอย่างนั้นหรอ ขอบคุณเรื่องอะไรกันล่ะ ขุนได้แต่คิดในใจ เมื่อคิดไม่ออกและไม่อยากสนใจเขาจึงค่อยๆปล่อยให้ตนเองเข้าสู่ห้วงนิทราไป ส่วนแก้วตอนนี้เขาได้แต่นอนอมยิ้มแล้วนอนกอดหมอนข้างเป็นบ้าอยู่คนเดียว ที่เขาพูดขอบคุณออกไปเป็นเพราะคืนนี้พี่ขุนทำให้เขาเห็นว่าแผนการที่ป๋าช่วยกำลังจะเป็นไปได้ด้วยดี ต่อจากนี้ก็เหลือแค่ทำให้พี่ขุนรักแก้วในสิ่งที่แก้วเป็น แล้วหลังจากนั้นแก้วถึงจะยอมเผยความจริงออกมาว่าเขาไม่ได้ขี้เหร่อีกต่อไป
.
อย่าลืมทานข้าวนะครับ เป็นห่วงจังเลย ข้อความที่ส่งมาในข้อความแชททำให้ทายได้แต่ส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ไอ้ครั้นจะลบเพื่อนออกก็ดูจะใจร้ายเกินไป เขาก็เลยตอบบ้าง อ่านอย่างเดียวบ้าง แต่คนที่พยายามจะหาทางคุยด้วยก็ยังไม่เลิกรา ทายไม่ได้ชอบผู้ชายแต่ก็ไม่รังเกียจ เขาแค่คิดว่าเลย์ยังไม่ใช่ เลย์เป็นเพื่อนกับคุณขุนก็น่าจะเลวพอๆกับคุณขุน ในความคิดของทาย ทายคิดว่าเลย์แค่อยากแซวเฉยๆ ไม่ได้จริงจัง แต่ตอนนี้เลย์ก็ตามจีบเขามาเป็นอาทิตย์แล้ว ถ้าน้บตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็สองอาทิตย์ได้แล้วมั้ง เจอกันก็หลายครั้ง แต่ทายยังไม่เคยเปิดโอกาสให้เลย์ได้เข้ามาคุยจริงๆจังๆได้สักหน
คราวหน้าไปทานข้าวกันอีกนะครับน้องทาย นี่ก็อีกข้อความนึง แต่เป็นข้อความจากคนที่เพิ่งแยกกันหลังทานอาหารค่ำเสร็จ พี่วาร์ฟ เขาส่งข้อความเข้าเบอร์มือถือมาหลังจากแลกนามบัตรกันไป คนคนนี้มีดีหลายอย่าง ทั้งดูดี มีชาติตระกูล แถมเพื่อนซี้ก็ยังเชียร์ซะออกนอกหน้า แต่ทายยังไม่พร้อมมีใคร เขายังรักการมีอิสระอยู่ แม้จะไม่ได้ชอบผู้ชายแต่เขาว่าเขาก็สามารถคบหาผู้ชายเป็นแฟนได้ถ้าหากคนที่เข้ามาจีบมีนิสัยใจคอตรงกัน บางทีสองคนนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ทายจะต้องเลือกคนใดคนหนึ่งในอนาคตเข้าสักวัน .. แต่ตอนนี้ขอเขาอยู่เป็นโสดไปก่อนนะ .. เขายังไม่พร้อมรับศึกหนักแบบเพื่อนจริงๆ
- ♛ ขุนแผน ปะทะ แก้วหน้าม้าเดอะซีรีย์ ♞ -
มาแล้วค่ะ แม่คนเขียนผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยเป็นไปได้ด้วยดีปลอดภัยไร้กังวล
ตอนนี้นางยังอยู่โรงพยาบาลอีกวัน แต่คนเขียนกลับมาแล้วเพราะต้องทำงาน
ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยอวยพรนะคะ เป็นกำลังใจที่ดีทีเดียว ^^
ตอนนี้ขอมานิดนึงก่อนน้าา ไม่สนุกอย่าว่ากันนะคะ หัวสมองไม่แล่นจริงๆไม่ได้นอนเลย
อาจจะตอบคนที่ถามเรื่องหน้าตาไปได้บ้าง แต่ถ้ามันยังไม่เคลียร์เม้นบอกได้เลยค่ะ จะได้ปรับปรุง
ปล. ถ้าตอนหน้าเขาจะเขียนเป็นความคิดของแต่ละคนจะเป็นไรไหม รู้สึกเขียนบรรยายแล้วงงเอง 55
ไปแล้วค่ะ ยังมีอีกสองเรื่องที่ต้องปั่น
ขอบคุณทุกคนมากค่ะ