... อสงไขย ...
กาลพิเศษที่ ๓
เด็กหนุ่มเหลือบมองของในมือพลางขมวดคิ้วอ้าปากจะเอ่ยถามมารดาฝ่ายนั้นก็เร่งให้เขาจัดของให้เสร็จโดยไวทั้งขนมมงคลมากมายซึ่งมารดาบังคับให้เขามาเป็นลูกมือช่วยทั้งมาลัยร้อยเองก็ฝีมือเขาทั้งสิ้นแก้วตานึกสงสัยว่าเหตุใดงานขึ้นบ้านใหม่จึงมีอาหารคาวหวานและมาลัยดอกไม้ราวกับงานสมรสหันไปถามเพื่อนสาวฝ่ายนั้นเพียงว่าเขาคิดมากไปเองถามมารดาก็ว่าเขาเรื่องมากทำๆเสียให้เสร็จก็พอสุดท้ายเขาเลยได้แต่นั่งงงลงมือทำไปโดยเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ
“เอ้า ไปช่วยพี่เขายกอาหารขึ้นประเคนพระเสีย” เพ็ญจันทร์รุนหลังบุตรชายให้เข้าไปช่วยคุณใหญ่ยกสำรับข้าวขึ้นถวายพระพระคุณเจ้าท่านมองยิ้มๆไม่กล่าวสิ่งใดแก้วตายกถาดอาหารให้ชายหนุ่มถือหากฝ่ายนั้นกลับนิ่งค้างเฉยไม่ยอมวาง
“?”
“น้องจับถาดด้วยกันกับพี่ซิ”
“เอ๊ะ?” ถึงแก้วตาจะสงสัยแต่ก็ยกมือขึ้นจับประคองถาดอาหารร่วมกับร่างสูงเพื่อประเคนหลังรับพรร่างสูงก็ไม่ยอมให้เขาห่างกายรั้งไว้ให้นั่งข้างกันเมื่อพระคุณเจ้าท่านพรมน้ำมนต์
“แปลก”
“สิ่งใดแปลก?” ชายหนุ่มที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำเอ่ยถามคนน่ารักซึ่งกำลังเอาชายมุ้งสี่เสาลงคลุมเตียง
“ก็ทำบุญวันนี้น่ะซิครับ” แก้วตาตบหมอนพลางว่า
“อย่างไรเล่า?” คุณใหญ่หัวเราะในคอเสียงเบาก่อนจะเดินขึ้นเตียงแล้วรั้งร่างเล็กขึ้นไปด้วยกัน
“ทั้งอาหารคาวทั้งขนมหวานทำไมถึงใช้เหมือนงานแต่งงานล่ะ?” เขาเอียงคอถามท่าทางน่ารักจนคนมองอดใจไม่ไหวต้องโน้มลงหอมแก้มเนียนเสียที
“ไม่เอาไม่คิดแล้วเจ้านอนเสียวันพรุ่งต้องตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรอีกนะ” ทั้งๆที่อยากจะให้อีกฝ่ายคิดสงสัยเหมือนตนแต่เมื่อโดนตัดบทอย่างนี้แก้วตาเลยได้แต่ถอนหายใจแล้วล้มตัวลงนอน
*********
ภาพข้างทางเลื่อนผ่านสายตากลิ่นเกลือลอยแตะจมูกบอกว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าพวกเขาจะถึงจุดหมายปลายทางหลังจากขับรถมานานหลายชั่วโมงตั้งแต่บ่าย คนตัวเล็กเหลือบสายตามองสารถีรูปงามพลางยิ้มเมื่อมาถึงบ้านพักเป้าหมาย ทั้งสองช่วยกันยกกระเป๋าคนละใบเข้าไป
“เหนื่อยไหมครับ?”
“ไม่เลย น้องล่ะ?”
“สบายมาก” ร่างเล็กตอบก่อนจะทำท่าเบ่งกล้ามให้อีกฝ่ายดูเจ้าของเสียงทุ้มหัวเราะกับท่าทางนั้นแล้วค่อยจูงมือเล็กให้ออกไปเดินเล่นด้วยกันลมทะเลพัดโบกให้เหนียวตัวแสงอาทิตย์ยามอัสดงสาดสีระบายท้องฟ้าเป็นสีเรื่อสองมือเกาะเกี่ยวกันไม่คลาย
“ที่จริงฤดีไม่เห็นต้องเจ้ากี้เจ้าการให้เรามาเที่ยวถึงหัวหินนี่เลยดูซิงานเสร็จข้าวของยังไม่ทันเก็บกวาดเลย” แก้วตาบ่นอุบแต่ถึงกระนั้นดวงหน้าจิ้มลิ้มยังคงมีรอยยิ้มไม่จาง หลังจากเรือนขาวสร้างเสร็จเมื่อวานเป็นวันฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่พวกเขาทุกคนจึงวุ่นวายกับงานเลี้ยงพระไม่หยุดหนำซ้ำเขาที่ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าถูกดัดหลังจากทุกคนรอบตัวรวมถึงร่างสูงที่ยืนยิ้มอยู่นี่ด้วย
แก้วตาที่คิดว่างานเมื่อวานเป็นเพียงงานขึ้นบ้านใหม่อย่างเดียวนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทุกคนเตรียมงานให้เป็นงานผูกข้อมือของเขาและคุณพระนาย!
ตอนที่เห็นอาหารคาวหวานที่มารดาจัดเตรียมเขายังแปลกใจอยู่ว่าเหตุใดมารดาจึงเตรียมอาหารราวกับงานแต่งงานอย่างนั้นทั้งถูกผลักให้เข้าไปนั่งรับพรหน้าบรรดาผู้ใหญ่คู่กับคุณใหญ่แล้วหลังจากนั้นเขาก็ถูกขังให้อยู่แต่ในเรือนขาวกับชายหนุ่มทั้งคืนคำตอบเพิ่งมาปรากฏเอาตอนหลังนี่เอง พอเช้ามาเพื่อนสาวตัวดีจัดการลากพวกเขาไปใส่บาตรพระแล้วโยนกุญแจรถให้คุณใหญ่พาเขามาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ถึงหัวหินนี่
“แต่พี่ชอบนะ” เด็กหนุ่มส่งค้อนให้คนตอบ
“ไปเล่นน้ำกัน!” ร่างเล็กสะบัดรองเท้าวิ่งไปตามชายหาดพลางหัวเราะเสียงดังให้ร่างสูงส่ายหน้ายิ้มเอ็นดูไหนทำท่าว่าไม่อยากมาอย่างไรล่ะ?
“แก้วตาใส่รองเท้าก่อนประเดี๋ยวเปลือกหอยจะบาด”
“โอ๊ย!” นั่นปะไรเอ่ยปากยังไม่ขาดคำเลยเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มวิ่งถลาไปยังคนที่ทรุดนั่งกุมเท้าตัวเองอย่างเร่งร้อนร่างสูงทรุดนั่งคว้าเท้าขึ้นดูรอยบาดไม่ใหญ่มากนักหากเลือดออกเยอะดูน่ากลัว มือหนาปัดทรายออกเบามือหันกายให้อีกฝ่ายขึ้นขี่หลัง
“ไปกลับไปล้างแผลกันก่อน”
“ผม เอ้ย แก้วเดินไปเองได้” เจ้าของแก้มเนียนระเรื่อเอ่ยปฏิเสธจะให้ขึ้นขี่หลังอย่างนั้นหรือ? ไม่เอาหรอก!
“แก้วตาอย่าดื้อ!”
“ก็มันใกล้แค่นี้เอง” เขายังพยายามบ่ายเบี่ยง
“...ถ้าอย่างนั้นพี่จะอุ้ม..”
“ไม่ๆ ขี่แล้วๆ” ร่างเล็กผวากายตวัดแขนคล้องคอแกร่งอย่างรวดเร็ว
“ก็เท่านั้นแหละ” ชายหนุ่มว่าพลางหัวเราะคนด้านหลังส่งค้อนให้ ขึ้นขี่หลังก็ยังดีกว่าโดนอุ้มละนะแต่ว่า....มันเขินนี่นา!
บนโซฟาหนานุ่มกลางห้องรับรองในบ้านพัก... แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อยามเมื่อมือคู่นั้นจับประคองเรียวเท้าของเขาขึ้นอย่างทะนุถนอมราวกับกลัวเขาจะเจ็บนักหนา สายน้ำเย็นไหลผ่านบาดแผลแผ่วเบาจากนั้นค่อยพันผ้าขาวรอบเท้าเรียวเพื่อปิดแผลเอาไว้ แก้วตาจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งต่ำกว่าด้วยสายตารักใคร่ ไม่มีวันไหนเลยสักครั้งที่เขาจะไม่ได้รับความรักความใส่ใจจากคนคนนี้แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยสักเพียงไหนอีกฝ่ายก็จะใส่ใจดูแลไม่ห่าง เขาคิด...ว่าชายหนุ่มเคยคิดเหนื่อยบ้างไหมกับสิ่งที่ทำหากคำตอบที่เขาได้รับกลับเป็นฝ่ายกระทำให้มันเกิดขึ้นด้วยตัวเอง...เวลาได้เห็นร่างสูงยิ้มเวลาที่เขาใส่ใจ ได้เห็นแววตารักใคร่เมื่อเขาออดอ้อน ได้ยินเสียงหัวเราะเมื่อเขาพูดจาหรือเวลาที่เขาได้ดูแลฝ่ายนั้น...เขามีความสุขอย่างเหลือเกิน...ไม่เคยคิดว่ามันเหนื่อยเมื่อเขาทำสิ่งเหล่านั้นให้คนที่รัก
“คุณพระนายครับ”
“......” ร่างสูงยังคงไม่ยอมเงยหน้าแม้มือใหญ่จะชะงักไปครู่เมื่อเขาร้องเรียก
“คะ...”
“........”
“คุณใหญ่” ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามบังคับหัวใจให้เต้นช้าลงแม้จะควบคุมความร้อนบนใบหน้าไม่ได้ก็ตาม
“ว่าไงครับ?” ชายหนุ่มยกยิ้มสวยเงยหน้าขึ้นถามแก้วตากัดริมฝีปากพลางนึกเคืองอีกฝ่ายในใจ ดูเอาเถอะพอเขาเรียกว่าคุณใหญ่ละเงยหน้าขวับขึ้นมาทันทีทันใดเลยเชียว!
“ขอบคุณครับ”
“?”
“ทุกๆอย่าง”
“พี่เต็มใจทำเพราะพี่รักแก้วตา” ชายหนุ่มตอบยังคงนั่งที่เดิม
“...แก้วก็รักคุณใหญ่เหมือนกัน” ร่างเล็กก้มหน้างุดเมื่อเอ่ยจบประโยค ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาก็ยังไม่ชินเสียทีกับการบอกรักแบบนี้หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดมานอกอกเสียอย่างนั้น แก้มหรือก็ร้อนผ่าวราวกับจะไหม้
ชายหนุ่มยกยิ้มเมื่อได้ฟังใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงแช่มช้า.. แก้วตาเบิกตากว้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อริมฝีปากสวยกดจูบลงตรงข้อเท้า เขาพยามยามดึงข้อเท้าให้หลุดจากการกระทำของอีกฝ่ายหากมือใหญ่ยังคงรั้งข้อเท้าเล็กเอาไว้ริมฝีปากร้อนค่อยแตะไล่ขึ้นเนิบช้าไปยังปลีน่องขาว
“อย่า...” เสียงแหบหวานสั่นไหวความร้อนจากริมฝีปากคู่สวยของชายหนุ่มราวกับจะลุกลามระเรื่อยขึ้น... ไปตามแนวขา...ร่างเล็กสั่นระริกความรู้สึกหวามไหวแล่นเสียดผิวเนื้อมือเล็กดันบ่ากว้างหากไม่จริงจังนัก
มือใหญ่ละจากเรียวเท้าขาวลากสัมผัสจับเอวคอดผ่านเนื้อผ้าของคนบนโซฟา ชายหนุ่มยืดกายขึ้นจูบริมฝีปากนุ่มบดคลึงเย้าหยอกสอดเรียวลิ้นเข้ากวาดต้อนความหวานล้ำจากโพรงปากเล็ก ละเลียดอ่อนหวานค่อยเรียกร้องให้ร้อนผ่าวไปทั้งกาย ใบหน้าหล่อเหลาผละออกจ้องมองใบหน้าเนียนที่ขึ้นสีเรื่อก็ให้อดใจเต้นไม่ได้ แก้วตาของเขาไม่ว่าจะเมื่อใดก็ยังงดงามเสมอ...
เขากดจูบอีกครั้งฝ่ามือเน้นคลึงเนื้อนวลหนักมือขึ้นตามแรงอารมณ์ ลมหายใจของคนตัวเล็กหอบกระชั้นดวงตาเรียวปรือปรอยล่องลอยตามพายุโหม ใบหน้าน่ารักเอียงอ่อนจูบตอบกลับร่างสูง มือขาวซึ่งเมื่อครู่ผลักไสบัดนี้ปลายนิ้วเล็กเกาะเกี่ยวบ่ากว้างแน่น เสียงหอบหายใจแข่งดังจนหูอื้ออึง แก้วตายกมือขึ้นประคองแก้มสากให้ผละห่างเพราะรู้สึกราวกับกำลังจะขาดอากาศหายใจ ริมฝีปากแดงช้ำฉ่ำหวานเผยอเชิญชวนให้ชายหนุ่มตักตวงแขนแกร่งตวัดอุ้มร่างเล็กขึ้นแนบอกทั้งๆที่ยังไม่ละริมฝีปากให้เด็กหนุ่มผวากอดคออีกฝ่ายเอาไว้แน่น
แผ่นหลังเล็กแตะพื้นที่นอนนุ่มไหล่เล็กห่อลู่สะท้าน ฝ่ามือสากร้อนไล้เลื่อนลูบสัมผัสผิวเนียนใต้ผืนเสื้อ ปลายนิ้วสะกิดจุดเล็กบนอกขาวกลั่นแกล้งให้ผวากายส่งเสียงต่อว่าในลำคอริมฝีปากยังไม่ละห่างจากกัน
ร่างสูงผละห่างจ้องมองคนน่ารักที่บัดนี้ใบหน้าแดงเรื่อดวงตาเรียวปรือปรอยยั่วยวนริมฝีปากแดงช้ำเผยอหายใจทุกสิ่งล้วนกระตุ้นให้ชายหนุ่มอยากกลืนกินอีกฝ่ายเข้าไปเสียทั่งตัว จมูกโด่งแตะสูดหอมลงลำคอระหงลาดไหล่มน แผ่นอกเล็กเม้มริมฝีปากขบหยอกให้ผวาแอ่น มือเล็กสอดเข้าเรือนผมของคนด้านบนอยากผลักไสหากกลับรั้งให้ครอบครองตัวเองมากยิ่งขึ้น แก้วตาส่งเสียงอื้ออึงในลำคอทั้งทรมานทั้งวาบหวานจนแทบขาดใจ
ฝ่ามือหนาเน้นคลึงผิวเนียนทิ้งรอยแดงที่เกิดจากแรงอารมณ์เอาไว้ทั่ว บดจูบขบกัดแผ่วเบาแนบฝ่ามือสัมผัสทั่วทุกตารางนิ้วไม่มีส่วนไหนจะหลุดรอดจากการถูกครอบครองโดยริมฝีปากของร่างสูง จนเมื่อถึงเบื้องล่างร่างเล็กผวาเกร็งเมื่อถูกริมฝีปากร้อนครอบครองส่วนอ่อนไหว ปรนเปรออ้อยอิ่งอ่อนหวานสลับเร่าร้อนเร่งเร้าจนต้องหวีดเสียงเมื่อถึงปลายฝั่ง
คุณใหญ่เลื่อนกายขึ้นกดจูบปลอบประโลมใช้หยาดหยดนั้นเบิกทางเบื้องหลังกดปลายนิ้วแทรกทีละเล็กละน้อยให้คนในอ้อมแขนจิกปลายเล็บลงบนหลังกว้างเพื่อระบายความเจ็บปวด ยิ่งเมื่อยามเขากดกายแทรกลึกลงไปแทนปลายนิ้ว บ่ากว้างก็ถูกฟันคมกัดจนเจ็บแปลบ ชายหนุ่มก้มลงกดจูบซับหยาดน้ำตาให้คนในอ้อมแขนระเรื่อยขมับเนียนชื้นเหงื่อปรางเนียน ริมฝีปากเล็ก พร้อมขยับกายไม่หยุดยั้งจากเชื่องช้า...ระรัวโหมตามแรงอารมณ์...คนด้านบนหยัดกายลึกสุดแรงล้ำผวากอดร่างเล็กในอ้อมแขนเอาไว้แน่นเมื่อถึงสุดปลายฝั่ง
********
บ้านพักห่างออกจากผู้อื่นจนแทบจะเรียกว่าหาดส่วนตัวได้นั้นทำให้ชายหนุ่มชอบใจอยู่มากโข ไม่ว่าจะเย้าแหย่กลั่นแกล้งคนรักอย่างไรเขาก็สามารถทำได้เต็มที่โดยไม่ต้องหลบสายตาใคร คุณใหญ่นึกขอบใจเด็กฤดีนักหนาในข้อนี้
“คุณใหญ่ ทานข้าวก่อนเถอะ” แก้วตาร้องเรียกให้คนที่ยืนรับลมตรงระเบียงเข้ามาในห้องครัว
“หน้าตาน่าทานนักเชียว” คุณใหญ่ยกยิ้มเมื่อมองอาหารตรงหน้า แก้วตาเทน้ำใส่แก้วแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“อาหารทะเล แก้วทำเท่าที่ทำได้ไม่รู้คุณใหญ่จะทานได้ไหม?”
“อร่อยแล้วก็ไม่คาวด้วย” ชายหนุ่มยิ้ม เอ่ยชมเมื่อตักอาหารเข้าปากให้คนทำยิ้มเขิน
“จริงซิ ตอนเย็นเราลงไปเล่นน้ำกันนะ” แก้วตาเอ่ยชวน ตั้งแต่มาถึงเมื่อวานเขายังไม่ได้เล่นน้ำเลยสักนิด โทษชายหนุ่มตรงหน้าเถอะที่ทำให้เขาไม่ได้เล่น ในเมื่อมาถึงเขาก็ถูกอุ้มขึ้นเตียงแล้วแทบไม่ลงมาอีกเลยเกือบทั้งคืน เช้านี้ตื่นมาได้ก็แอบคาดโทษไว้ว่าหากเขาไม่ได้เล่นน้ำทะเลแล้วล่ะก็แก้วตาจะทุบคุณใหญ่ให้ช้ำเสียทั้งตัว!
“แล้วแผลที่เท้าดีขึ้นแล้วหรือ? ถ้าโดนน้ำจะไม่ยิ่งอักเสบมากขึ้น...”
“คุณใหญ่! วันนี้ยังไงแก้วก็จะเล่นน้ำทะเลและคุณใหญ่ก็ต้องเล่นด้วยเหมือนกัน อุตส่าห์มาถึงหัวหินทั้งทีจะให้นั่งนอนอยู่แต่ในบ้านพักงั้นหรือ?” แก้วตาเลิกคิ้วถาม ใบหน้าน่ารักงอง้ำอย่างไม่พอใจ ให้คนตัวโตยอมแพ้
‘
‘
“แก้วตา ระวังหน่อยตรงนั้นโขดหินมันเยอะ” ด้วยว่าเท้าของแก้วตาที่เพิ่งโดนเปลือกหอยบาดเมื่อวานทำเอาคุณใหญ่กลัวว่าคนตัวเล็กจะได้แผลเพิ่มจึงร้องเรียกไม่ให้ฝ่ายนั้นออกไปไกลนัก แต่มีหรือที่คนดื้ออย่างแก้วตาจะฟัง ในเมื่อได้ลงน้ำทะเลแล้วเขาก็แหวกว่ายอย่างสนุกสนานไม่ฟังคำของอีกคนสักนิด
ชายหนุ่มส่ายหัวเมื่อคนรักไม่ยอมฟังหนำซ้ำยังว่ายหนีไปไกลมากขึ้น คุณใหญ่ผวาตามด้วยความเป็นห่วงแล้วโถมเข้ารวบตัวคนดื้อไว้ให้อ้อมแขน
“พี่บอกว่าอย่าไปทางโขดหิน ประเดี๋ยวมันจะบาดเท้าเอา” ริมฝีปากอิ่มเอ่ยชิดแก้มเนียนให้คนโดนดุเหลือบตาขึ้นมอง
“แต่ตรงนั้นมีปะการังสวยๆเยอะ คุณใหญ่น่าจะลองไปดู”
“รู้ได้อย่างไรว่าตรงนั้นมีปะการังสวย น้องเคยมาแล้วรึ?”
“อืม แก้วเคยมากับฤดีเมื่อปีกลายโน้น ปะการังงามๆทั้งนั้นแก้วอยากให้คุณใหญ่ได้เห็น” คนตัวเล็กชักชวนให้ชายหนุ่มคล้อยตาม จนในที่สุดเขาก็ตามแก้วตามาจนได้ ห่างออกไปจากโขดหินไม่ไกล ใต้ผืนน้ำใสมองเห็นแนวปะการังหลากลายสีสันให้ชายหนุ่มเบิกตากว้างอย่างชอบใจ แก้วตามองสีหน้านั้นแล้วให้ดีใจนัก ที่ตั้งใจอยากให้คุณใหญ่เห็นก็ได้เห็นเสียที
หลังจากดำผุดดำว่ายดูปะการังจนเป็นที่พอใจแล้วคุณใหญ่จึงว่ายน้ำลากให้แก้วตามาพักเหนื่อยตรงโขดหินราบเรียบก้อนใหญ่ เด็กหนุ่มชอบใจนักเมื่อแนบหน้าลงกับพื้นหินอุ่นเพราะถูกแดดอาบไล้
“หนาวหรือยัง?”
“หนาวแล้ว” แก้วตาตอบรับทั้งๆที่ยังหลับตาแนบแก้มอยู่กับหิน ชายหนุ่มมองใบหน้าน่ารักแล้วขยับกายเข้าใกล้ก่อนแนบจมูกลงแก้มผิวเย็นฉ่ำให้เจ้าของแก้มลืมตามอง
“ฮื่อ! ทำอะไรน่ะคุณใหญ่” แก้วตาเอ่ยถามแกล้งทำสายตาดุหากริมฝีปากกลับยกยิ้มบางเบาซ้ำยังไม่ห้ามปราม
“เพิ่มความอบอุ่นให้แก้วตา” คุณใหญ่ตอบพลางเคลื่อนกายแนบชิด แก้วตาผละใบหน้าออกจากโขดหินจ้องสบตาคนตรงหน้า
“ไม่เห็นจะหายหนาวเลย”
“งั้น...พี่กอดดีไหมน้องจะได้อุ่นขึ้น” คุณใหญ่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ แก้วตาผละห่างออกเล็กน้อยพยายามคิดตามคำพูดอีกฝ่าย
“ในน้ำนี่น่ะหรือ?”
“ถึงจะอยู่ในน้ำพี่ก็ทำให้แก้วตาอุ่นได้”
“ยังไง?” คุณใหญ่เคลื่อนกายแนบชิดอีกครั้งแล้วรั้งร่างเล็กของแก้วตาเข้าหา เด็กหนุ่มเอียงคอมองอย่างไม่ใคร่เข้าใจนัก หากเพียงชั่วพริบตาร่างสูงของคุณใหญ่ก็ดันให้ร่างเขาแนบชิดไปกับโขดหิน ริมฝีปากอิ่มฉกลงบนกลีบปากนุ่ม และเล็มแผ่วแล้วออดอ้อนลงลึกดื่มด่ำ ฝ่ามือหนาซุกสอดลามไล้เข้าใต้เสื้อเนื้อบาง กายแกร่งทาบทับทุกสัดส่วนบดเบียดคลึงเคล้าให้คนตัวเล็กหอบหายใจ ยามเมื่อริมฝีปากอิ่มผละห่างแก้วตาได้แต่มองตามอย่างเหม่อลอยก่อนจะถูกบดจูบอีกครั้ง อ่อนหวาน อ้อยอิ่ง เคล้าคลึงแผ่วเบาบ้างหนักหน่วงสลับไป จากที่หนาวอยู่เมื่อครู่พลันในกายกลับเริ่มรู้สึกร้อน แก้มเนียนขึ้นสีเรื่อให้ชายหนุ่มกดจมูกลงเพื่อชื่นใจ
“นี่มันในทะเลนะ ถ้าเกิดมีใครมาเห็นเข้าจะว่าอย่างไร” แก้วตาเอ่ยท้วงเมื่อมือใหญ่เริ่มปัดป่ายลงบนสะโพกมนก่อนเค้นให้สะท้านกายจนต้องผวาเข้าหาไออุ่นจากเจ้าของมือ
“พระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้าแล้ว” เจ้าของเสียงทุ้มตอบกลับทั้งที่จมูกโด่งกำลังซุกไซร้ซอกคอร่างในอ้อมแขน เสื้อเนื้อบางของคนตัวเล็กถูกดึงรั้งให้พ้นตัวโดยฝ่ามือหนาแล้วความร้อนจากฝ่ามือนั้นจึงเข้าแทนที่ความหนาวเย็นที่จู่โจม
เสียงครางผะแผ่วแว่วเครือในลำคอ แก้วตาอยากจะทุบร่างสูงนักที่ทำอะไรในที่โล่งแจ้งแบบนี้ ถึงแม้ฟ้าจะเริ่มมืดแล้วหากแต่มันไม่ใช่ที่รโหฐานเสียหน่อย จะทำอย่างนี้ได้อย่างไร ครั้นพอเขาจะเอ่ยท้วงก็ถูกจุบจนแทบสิ้นสติ ร่างเล็กถูกบดเบียดให้แผ่นหลังแนบสัมผัสความอุ่นร้อนจากโขดหิน เรียวขาขาวถูกรั้งขึ้นเกาะเกี่ยวเอวสอบก่อนความเจ็บแปลบจะแล่นริ้วจากเบื้องล่างให้เขาผลักอกแกร่งออกห่าง
“อื้อ! เจ็บ!” ยิ่งแก้วตาดันกายออกห่างเบื้องล่างกลับแนบชิด ร่างสูงขบฟันแน่นรั้งกายบางเข้าหาเพื่อจูบปลอบประโลม แนบริมฝีปากร้อนลงข้างขมับ แก้มเนียนและริมฝีปากสีชาด พลางเคล้นคลึงทั่วผิวกายให้คนในอ้อมแขนสะท้านไหว แล้วค่อยขยับเนิบช้าผ่อนแรง บดเบียดเร่งเร้าจนเด็กหนุ่มในอ้อมแขนครวญครางเสียงแผ่วหวาน ชายหนุ่มถอดเสื้อรองแผ่นหลังให้แก้วตาก่อนขยับเร่งเร้าหนักหน่วงจนร่างเล็กแทบสิ้นสติ
ทั้งหนุ่มสาวคราวแรกภิรมย์รัก ไม่ประจักษ์เสน่หามาแต่ก่อน
กำเริบรักเหลือทนทุรนร้อน พอร่วมหมอนก็เห็นเป็นอัศจรรย์
เหมือนเกิดพายุกล้ามาเป็นคลื่น ครืนครืนฟ้าร้องก้องสนั่น
พอฟ้าแลบแปลบเปรี้ยงลงทันควันสะเทือนลั่นดินฟ้าจลาจล
นทีตีฟองนองฝั่งฝา ท้องฟ้าโปรยปรายด้วยสายฝน
โลกธาตุหวาดไหวในกมล ทั้งสองคนรสรักประจักษ์ใจฯ‘
‘
ริมฝีร้อนแนบจูบแผ่วเบาตรงรอยแดงบนแผ่นหลังของแก้วตาอย่างขอโทษ ระเรื่อยไปยังหลังคอ ข้างแก้มและริมฝีปากบวมช้ำ คนหมดแรงทำได้เพียงส่งค้อนให้แล้วตัดพ้อเสียงอ่อน หลังจากหมดแรงร่างสูงก็อุ้มเขากลับเข้าบ้าน แต่อย่าหวังว่าเขาจะถูกปล่อยออกจากอ้อมแขนแกร่งนั้นง่ายๆ
“พี่ขอโทษนะเจ้า”
“คุณใหญ่บ้า ทำไมทำในที่แบบนั้น!” แก้วตาจิกเล็บลงบนหลังมือคุณใหญ่ที่เท้าแขนลงใกล้ใบหน้า
“ก็แก้วตาน่ารัก” คุณใหญ่กระซิบเสียงพร่า ไล่จูบลาดไหล่มนแล้วย้อนลงแผ่นหลังเล็กอีกครั้ง ฝ่ามือร้อนอีกข้างสัมผัสสีข้างแผ่วให้คนด้านล่างเกร็งกายแล้วเหลือบตาขึ้นมอง
“คุณใหญ่...” แก้วตาทำได้เพียงร้องเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่วก่อนจะถูกโอบกอดอีกครั้ง
เสียงขลุ่ยหวานแว่วครวญเรียกให้ร่างเล็กกระพริบเปลือกตาเหลียวมองพื้นที่ว่างข้างกายแล้วพยุงร่างลุกขึ้นนั่งหากเพียงแค่ขยับตัวความเจ็บร้าวก็แล่นจากเบื้องล่างแล่นขึ้นไขสันหลังจนต้องแช่กายนิ่งอยู่ท่าเดิมหลายนาทีกว่าจะทุเลา คิ้วเรียวขมวดแน่นพลางเม้มริมฝีปากกลั้นเสียงครางนึกเคืองอีกคนที่ทำให้เขาเจ็บตัวอย่างนี้ มือขาวคว้าผ้าขึ้นพันกายค่อยขยับเท้าเชื่องช้าเพราะความเจ็บยังไม่บรรเทาไปยังระเบียงห้องที่มีร่างของใครบางคนยืนเป่าขลุ่ยอยู่ พอร่างสูงรู้สึกถึงกายขยับไหวทางเบื้องหลังเขาจึงละริมฝีปากหันกลับมา
“หยุดทำไมล่ะครับกำลังฟังเพลินเชียว” ชายหนุ่มขยับเท้าเข้ามาประคองร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนกดจูบขมับเนียนอย่างรักใคร่
“ลุกขึ้นมาทำไมน้องยังเจ็บอยู่ไม่ใช่รึ?” มือเล็กยกทุบอกกว้างเมื่อได้ฟังแก้มเนียนแดงเรื่อด้วยความเขินอาย
“พูดทำไมเนี่ย!” ยิ่งได้เห็นคนในอ้อมแขนขวยเขินร่างสูงยิ่งหยอกยิ่งแกล้ง
“ไหนให้พี่ดูซิ” ไม่ว่าเปล่ามือใหญ่เลือนจับสะโพกอิ่มเต็มฝ่ามือซ้ำยังทำท่าจะสอดเข้าไปข้างในเสียอีก
“คนบ้าเอ้ย!” แก้วตาทั้งทุบทั้งตีคนตัวโตเป็นพัลวัน คุณใหญ่หัวเราะตวัดแขนกอดคนตัวเล็กย่อกายอุ้มร่างขาวกลับไปยังเตียงนอนอีกครั้งเขาค่อยวางร่างของคนรักลงอย่างเบามือแล้วนั่งลงเคียงข้างรั้งร่างเล็กให้เอนซบอก กดจูบหน้าผากเนียน
“พี่รักแก้วตา”
“อืม แก้วก็รักคุณใหญ่เหมือนกัน รักนะครับ” แก้วตาหยัดกายขึ้นจูบปลายคางสากก่อนเสียงขลุ่ยแว่วหวานจะบรรเลงขับกล่อมขึ้นอีกครั้ง
ฉันรักเธอแม้เทียบเสมอกับดวงชีวิต รักเธอชั่วนิจนิรันดร
แม้เธอห่างไกลใจก็หวงห่วงนิวรณ์ ถึงแม้ม้วยมรณ์ไม่ถอนรักที่มี
รักฉันมั่นเหมือนดังตะวันมั่นรักฟากฟ้า รักดังหมู่ปลารักวา-รี
เหมือนดังกับแหวนแสนจะรักแก้วมณี เหมือนขุนคีรีสวาทพื้นดินเดียวกัน
มากมายราวกับห้วงมหรรณพ มิรู้จบดังกับมีทำนบกั้น
แต่มั่นคงเหมือนดั่งสิงขรซ้อนแผ่นดินนั้น ทั้งความซื่อสัตย์มัดใจคงมั่นดั่ง
ตะวันซื่อต่อฟ้าฉันรักเธอ แท้จริงเสมอไม่ลวงให้หลง
รักฉันมั่นคงดังวาจา เห็นใจเถิดหนอขอมอบไว้ให้สัญญา
ฉันจะบูชาชั่วนิจนิรันดร ชั่วนิจนิรันดรชั่วนิจนิรันดร
********
จบกาล
สวัสดีค่ะ^^
วันนี้เอาตอนพิเศษส่งท้ายมาส่งค่ะ เป็นตอนพิเศษสุดท้ายที่จะลงในบอร์ดนะคะ ส่วนเรื่องหนังสือจะแจ้งข่าวอีกนะคะ น่าจะประมาณช่วงหลังปีใหม่ค่ะ^^
ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและเรื่องนี้นะคะ แม้จะยังสู้ท่านอื่นๆไม่ได้เราก็จะพัฒนาฝีมือกันต่อไปค่ะ ^^
ฝากผลงานอีกเรื่องที่กำลังแต่งอยู่นะคะ แม้ชื่อเรื่องจะหม่นแต่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องเบาๆค่ะ
รักพัดหวน
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46524.0ติดตามท้วงติง ชี้แนะได้ที่ ทวีตก็ได้นะคะ @sine501ค่ะ หรือจะแท็ก #อสงไขย หรือ #รักพัดหวนก็ยินค่ะ
แล้วพบกันใหม่
ด้วยรัก ^^