มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆๆ นะคะทุกคน
8
คืนวันเสาร์นี้ อธิปพงศ์ที่เพิ่งกลับมาจากทำงานสักพักกำลังนั่งเล่นอยู่คนเดียวในห้อง จากที่ทะเลาะกันวันนั้นปิ่นปักก็ออกไปอยู่กับเพื่อน เลยทำให้ห้องนี้ดูปลอดโปร่งขึ้น เขามองไปรอบห้อง ไม่ได้รู้สึกเหงาหงอยเหมือนแต่ก่อน ชายหนุ่มนึกขึ้นได้จึงกดโทรศัพท์หาแม่ที่ลพบุรี รู้สึกตัวว่าในบางครั้งเขาก็ไม่ใช่ลูกที่ดีนัก เพราะไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมบ้าน แม้กระทั่งโทรหาก็แทบไม่มีเวลา นอกจากโอนเงินที่เขาหาได้ส่งไปทุกเดือน
อธิปพงศ์ยกหูและรอสายจากปลายทาง
"ฮัลโหล" คนเป็นแม่รับสายด้วยความดีใจที่ลูกชายคนเดียวโทรมา
"หวัดดีครับแม่ นี่หมูนะ แม่สบายดีมั๊ย และยายเป็นไงมั่ง"
"ก็สบายดี เรื่อยๆหน่ะ แล้วหมูล่ะลูกเป็นไงมั่ง"
"สบายดีครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง"
"ไม่ให้แม่ห่วงไม่ได้หรอกลูก แม่เป็นแม่นี่นา"
"อ่าครับ แล้วสวนแม่เป็นไงมั่ง" เขาหมายถึงกิจการสวนไม้ดอกไม้ประดับของแม่ที่ทำอยู่เป็นอาชีพหลัก
"ปีที่แล้วรอดน้ำท่วมก็เลยยังโอเคอยู่ แต่ปีนี้แม่ล่ะหวาดเสียวจริงๆ เลยลูกเอ๊ย...เออแล้วกรุงเทพเป็นไงมั่ง หวังว่าคงไม่เหมือนปีที่แล้วนะ"
"ครับ ยังไม่มีอะไร"
"อืม แล้วหมูกับแฟนเป็นไงมั่ง"
อธิปพงศ์เงียบไปเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
"หมู มีอะไรรึเปล่าลูก"
"เปล่าครับแม่ คือ ผมกำลังคิดอยู่ว่า ผมไปกับเธอได้จริง ๆ หรือเปล่า"
"ทำไมล่ะ เล่าให้แม่ฟังได้มั๊ย"
"ก็...."
อธิปพงศ์เล่าเรื่องทั้งหมดที่เขารู้สึกว่าเธอเข้ากับเขาไม่ได้จริงๆ อย่างไร หลังจากที่เขาให้โอกาสครั้งนั้นเธอก็ยังไม่คิดจะปรับปรุงตัว และพักหลัง เขากับเธอหมางเมินและทะเลาะกันบ่อยขึ้น
เหมือนเกลียวเชือกที่ค่อย ๆขาดสะบั้นลงช้า ๆ
"อืม" คนเป็นแม่ไม่รู้จะพูดอย่างไรเมื่อรับรู้เรื่องทั้งหมด ถึงเธอจะไม่เคยเจอแฟนลูกเลยสักคน แต่ก็ตกใจไม่ได้ที่ลูกชายจะเลิกกับแฟนอีกแล้ว
"แล้วที่หมูจะเลิกกับเค้านี่ เพราะหมูมีคนอื่นรึเปล่า" เธอคาดเดา จากที่เมื่อก่อนลูกชายเธอชอบทำอย่างนั้น
"เปล่าครับแม่"
"จริงอ้ะ"
"ครับ ผมพูดจริงๆนะ โธ่แม่ ผมก็จริงจังเป็นเหมือนกันน้า"
"อืม ๆ เชื่อก็ได้ แต่แม่ว่ายังไงก็ใจเย็น ๆ ค่อยๆ คิดนะหมู"
"ครับแม่"
อธิปพงศ์คุยกับแม่ต่อสักพักก็วางสาย เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้างที่ได้คุยกับแม่ แต่กระนั้นก็ยังไม่ลุล่วงใจ เขาจึงหยิบบุหรี่บนโต๊ะออกไปจุดสูบที่ระเบียง
ถึงรสชาติของบุหรี่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ช่วยบรรเทาความว้าวุ่นที่ฟุ้งกระจายอยู่ในใจเลย ปากสวยพ่นความทุกข์ใจบางส่วนออกมากับควันสีขาว อธิปพงศ์กลุ้มใจกับความรักที่ถึงทางตันของตัวเอง ในเมื่อแฟนสาวยังคงไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น ชายหนุ่มก็ไม่รู้จะทำอะไรกับเธอได้อีก
คืนนี้เขารู้สึกอยากเมา ด้วยความกลุ้มใจและไม่ได้ออกไปไหนนานแล้ว เขาจึงอยากดับความรู้สึกของตัวเองกับเหล้าและใครสักคน อธิปพงศ์จึงโทรหาคนคนนั้นที่เขาอยากอยู่ด้วยในเวลาทุกข์ใจอย่างนี้
"ฮัลโหล นิธิน คุณทำอะไรอยู่หน่ะ"
"อืม ผมดูทีวีอยู่ มีอะไรเหรอครับ"
"เอ่อ คืนนี้ไปเที่ยวกับผมมั๊ย"
"ไปเที่ยว?" นิธินทวนคำงงๆ เพราะคำว่าไปเที่ยวมีหลายความหมาย
"I mean to hang out in the nightlife, drinking and dancing sonething like that"
"อ๋อ ครับ ไปครับ"
"เดี๋ยวเจอกันที่บีทีเอสชิดลมนะครับ"
"ครับ เจอกัน" นิธินรับคำแล้วยิ้มบางๆ ออกมา
ถึงแม้จะดีใจที่ได้ไปเที่ยวกับอธิปพงศ์ แต่เขาก็สัมผัสผ่านน้ำเสียงได้ว่ามีความทุกข์ขมไม่น้อยอยู่ในตัวอีกฝ่าย และก็คงเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่ยังเกิดขึ้นกับตัวอธิปพงศ์ แต่คราวนี้เห็นทีว่าเขาจะกลุ้มใจมากทีเดียว ถึงได้ชวนออกไปกินเหล้าด้วยกันอย่างนี้ นิธินถอนหายใจเล็กน้อย และลุกไปสวมเสื้อผ้าสำหรับไปนั่งเป็นเพื่อนคนมีปัญหาที่เขารัก
คนทั้งสองเจอกันในครึ่งชั่วโมงต่อมาที่บีทีเอสชิดลม อธิปพงศ์ยิ้มให้นิธินที่มาในเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนส์ทรงกระบอก
"คนอะไรแต่งตัวแต่นี้ยังดูดี" อธิปพงศ์ที่สวมเสื้อยืดคอวีและยีนส์สกินนี่เดฟมองคนร่างใหญ่กว่าด้วยความชื่นชม นิธินเดินเข้ามาใกล้ ๆ และส่งยิ้มอบอุ่นให้เหมือนเคย
"ไปกันเถอะครับ" อธิปพงศ์ชักชวน โดยพานิธินต่อแท็กซี่เพื่อจะไปยังจุดหมาย คือผับแถว ๆหลังสวน นิธินเองก็สำรวจคนข้างๆ เหมือนกัน ไม่คิดที่เขาคาดการณ์ไว้ ว่าอธิปพงศ์มีอะไรในใจอย่างแน่นอน อธิปพงศ์รู้ตัวว่าถูกมองจึงหันมายิ้มให้ นิธินก็ยิ้มตอบด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน
เขาจึงจับมืออธิปพงศ์มากุมไว้ เผื่อว่าเจ้าตัวจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย
ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมา นอกจากแววตาและความรู้สึกที่ส่งผ่าน อธิปพงศ์รับรู้สิ่งที่นิธินกำลังมอบให้ด้วยความยินดี ถึงแม้ตอนแรกจะตกใจเล็กน้อยก็ตาม เขามองตาที่ฉายแววห่วงใยและปล่อยให้อีกฝ่ายกุมมือเขาอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะถึงที่หมาย
ถึงแม้จะเป็นวันเสาร์แต่ก็อยู่ในช่วงปลายเดือน ทำให้ในร้านยังมีโต๊ะว่าง อธิปพงศ์เลือกจึงโต๊ะข้างนอกสำหรับนั่งดื่มและฟังเพลงเบา ๆ สักพักแบนเหล้าและน้ำแข็งก็อยู่ตรงหน้า เมื่อบริกรรับเงินจากไป การร่ำสุราของคนทั้งสองก็เริ่มต้น
เมื่อสีเหล้าในแก้วเข้มขึ้น อธิปพงศ์ที่นั่งดื่มเงียบ ๆ ก็เริ่มเปิดปากระบายความทุกข์ให้นิธินฟัง โดยที่นิธินเองก็นั่งรับฟังด้วยความเต็มใจ
อธิปพงศ์ถามนิธินว่า
"นิธิน คุณมีแฟนรึเปล่า"
นิธินยิ้มน้อยๆและส่ายหน้า "ไม่มีครับ"
"จริงรึเปล่า" อธิปพงศ์ไม่อยากจะเชื่อว่าหนุ่มอินเดียรูปหล่อตรงหน้าจะยังโสด เขาที่กำลังเมากรึ่มๆ แอบดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ยังไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน
"นี่คุณยังไม่แฟนจริง ๆเหรอ..."
"คุณไม่เชื่อ.." นิธินยิ้มๆ
"ก็ ผมเคยได้ยินมาว่าคนอินเดียแต่งงานเร็ว ผมก็เลยอยากรู้ว่าคุณมีแฟนรึยังหน่ะ"
"ก็เคยมีหล่ะครับ แต่ว่าตอนนี้ผมไม่มี"
"อืม..." อธิปพงศ์รับและยกเหล้าขึ้นจิบ
"ผมขอถามหน่อยนะ ตอนนั้นส่วนใหญ่คุณมีปัญหาอะไรกับแฟนเหรอ"
"ก็ หลายเรื่องครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ และก็แฟนผมบางคนต้องแต่งงานกับคนที่ครอบครัวหาให้หน่ะ"
"อืม.." อธิปพงศ์พยักหน้ารับรู้ "แย่จังเลยเนอะ ไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีเรื่องแบบนี้บนโลกอีก"
"แต่มีที่อินเดียครับ"
คนทั้งสองหัวเราะให้กันและดื่มกันต่อ
พอเหล้าเหลือครึ่งขวด นิธินสังเกตุเห็นอธิปพงศ์ชงเหล้าเข้มขึ้น และกรอกใส่ปากแบบแก้วต่อแก้ว จนตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ในสภาพเมาขาดสติ เขาพรั่งพรูสิ่งที่เก็บกดมาตลอดให้นิธินรับรู้
"ทำไม....ผมมันโชคร้ายยังงี้ ทำไมผมถึงไม่เจอกับคนที่รักผมจริงๆ ซะที"
นิธินเห็นอธิปพงศ์เมาหนักแล้วจึงย้ายมานั่งข้างๆเพื่อดูแลคนที่เริ่มลืมตาไม่ขึ้น
"คุณนิธิน คิดดูสิ ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าแฟนผม เค้ารักผมจริงๆ ทำไม ถ้าสักวันผมตกงาน ผมกลายเป็นคนอัปลักษณ์ จะมีใครอยู่กับโผมมม เอิ้ก!"
"คุณหมู Enough!!" นิธินหยิบแก้วเหล้าออกจากมือนิธินที่กำลังจะชงใหม่
"ผมไม่มาวว ไม่ต้องเป็นห่วงผม"
"Enough!! You know,if you won’t face the problems, you’ll overwhelmed with trouble” คุณก็จะจมอยู่กับความรู้สึกทุกข์ตลอดไปนะ คุณเข้าใจมั๊ย"
ได้ยินอย่างนั้นอธิปพงศ์ก็ร้องไห้ออกมา นิธินเห็นว่าอีกฝ่ายเมามากแล้วจึงพาอธิปพงศ์กลับทันที เขาประคองคนเมาอย่างยากลำบาก ถึงแม้อีกฝ่ายจะตัวเล็กกว่าก็ตาม เขาตัดสินใจพาอธิปพงศ์ที่เมาไม่ได้สติไปที่พักของเขา เพราะเวลานี้เจ้าตัวคงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แม้แต่น้อย
นิธินประคองร่างอธิปพงศ์ที่แทบก้าวขาไม่ออกลงจากแท็กซี่เมื่อถึงที่พัก เขาเรียกลองเรียกคนเมาเบา ๆ
"คุณหมูๆ"
"งืมๆๆๆ"
เจ้าตัวตอบแค่นั้นก็ทำท่าจะลงไปนอน เขาจึงต้องคว้าเอวไว้ เมื่อเห็นว่าอธิปพงศ์ไม่ไหวจริง ๆ นิธินจึงช้อนตัวอธิปพงศ์มาอุ้มไว้แล้วพาขึ้นลิฟท์ไปข้างบน อธิปพงศ์ที่เมาอยู่รู้สึกตัวว่ามีที่นอนมารองรับแล้ว จึงระบายยิ้มอย่างมีความสุข
นิธินมองหน้าอธิปพงศ์ที่หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมอกเขา ถึงจะรู้สึกดีที่ได้ดูแลคนที่เขารักแต่ก็รู้สึกแย่ที่เห็นเจ้าตัวเป็นทุกข์จนหมดสภาพแบบนี้
เมื่อถึงห้องนิธินจึงวางอธิปพงศ์ลงบนเตียง และถอดเสื้อผ้าจะอาบน้ำ แต่คนเมากลับพลิกตัวนอนคว่ำคุดคู้จึงเผยให้เห็นสะโพกกลมกลึงได้รูป โดยเฉพาะตอนนี้เจ้าตัวสวมใส่ยีนส์แบบสกินนี่เดฟแล้วด้วย ทำให้ยิ่งเย้ายวนในสายตาเจ้าของห้องยิ่งนัก นิธินอดไม่ได้ที่จะมาดูใกล้ๆ ผิวขาวเนียนนั้นระเรื่อด้วยเลือดฝาดไปทั่วร่างจนเจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะอยากลองสัมผัสดูสักครั้ง
แต่เขาก็ชะงักเมื่ออธิปพงศ์พลิกตัวเป็นนอนหงายและลืมตามองมาที่เขา นิธินจึงได้สติรีบไปอาบน้ำทันที
อธิปพงศ์ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนหัวที่ความเมาทิ้งไว้เมื่อคืน เขาหยีตาปรับแสงสู้แดด พอมองไปรอบๆก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องเขา และก็มีเขาเพียงคนเดียวในห้องนี้ ชายหนุ่มจึงได้สติ และพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่ก็นึกไม่ออก จำได้แค่ว่าไปกินเหล้ากับนิธินเท่านั้น
"นี่กูเมาขนาดนี้เลยเหรอวะ" เขาตำหนิตัวเองในใจ และมองสำรวจไปทั่ว เมื่อเดินดูก็เจอแต่กระดาษโพสอิทที่มีคำศัพท์ภาษาไทยที่แปะอยู่ตามเครื่องใช้ ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับความทุ่มเทของเจ้าของห้องจริง ๆ แต่เมื่อได้ยินเสียงคนออกจากห้องน้ำ เขาก็หันไปมองตามทันที
"ฟู่วว...!"เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเป็นนิธิน นี่เขาเมาจนต้องให้อีกฝ่ายแบกกลับห้องเลยเหรอเนี่ย ชายหนุ่มแอบละอายใจ
นิธินที่ตอนนี้นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียวยิ้มให้คนเมาที่เพิ่งตื่น อธิปพงศ์จึงรีบบอกกับเขาว่า
"เอ่อ ผม ขอโทษด้วยนะครับ รบกวนคุณจริงๆ"
อธิปพงศ์ทั้งละอายใจและเขินอายกับภาพตรงหน้า เนื้อตัวกำยำพร่างพราวไปด้วยหยดน้ำ ทำให้ใบหน้าคมเข้มนั้นดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลขึ้นได้อีก
"ไม่เป็นไรหรอกครับ คิดมาก" นิธินตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับเช็ดผมไปด้วย
"เอ่อครับ แล้วนี่กี่โมงแล้ว"
"สิบโมงครึ่งครับ"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็โอดครวญ"โอ๊ย แย่แล้ว...ผมตื่นไม่ทันทำงาน"
"ไม่เป็นไรครับ ผมโทรไปหาคุณกุ้งแล้ว คุณกุ้งบอกว่าให้คุณลาได้หนึ่งวัน"
"โอย ผมนี่แย่จัง"
"ไม่หรอกครับ คิดมาก"
"เมื่อคืนผมทำอะไรน่าเกลียด ๆไปรึเปล่า" อธิปพงศ์ถาม
"ไม่มีหรอกครับ แค่คุณเมามากไปหน่อยเท่านั้นเอง"
"ผมขอบคุณคุณมากเลยนะครับ ถ้าไม่ได้คุณดูแลผมคงแย่แน่ๆ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ" นิธินยิ้มให้ไม่ถือสา ในเมื่อเห็นว่าวันนี้อธิปพงศ์ว่างแล้ว เขาจึงลองเอ่ยปากชวน
"คุณหมูครับ วันนี้ไปสนามคริกเก็ตกับผมมั๊ย"
"หืมม์...คริกเก็ตเหรอ"
"ครับ ผมชอบไปเล่นคริกเก็ตทุกวันอาทิตย์ ไปด้วยกันมั๊ยครับ"
"ผมเล่นไม่เป็นนะ จะดีเหรอครับ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอยากให้คุณไปด้วย จริงๆ นะ"
อธิปพงศ์ตัดสินใจไม่นานก็ตอบรับคำชวนทันที
"ได้ครับ ก็ดีเหมือนกัน"
ป๊อกกี้ตกใจอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าคนที่ไม่เคยขาดหรือลางานอย่างอธิปพงศ์ไม่มาทำงานในวันนี้ เลยมาถามเจ้าของร้านถึงที่มาที่ไป
"ว้ายย พี่หมูลางานเหรอคะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย กรุงเทพหิมะตกแล้วค่ะคุณแม่"
"อืม ชั้นให้ลาเอง ช่วงนี้เห็นหมูมันเหนื่อย ๆเลยให้มันพักบ้าง"
"ค่ะ หวังว่าวันนี้ลูกค้าพี่หมูคงไม่พาเหรดกันมานะคะ เหนื่อยจะเคลียร์" ป๊อกกี้มาเมาท์แค่นั้นและไปทำงานต่อ พี่กุ้งคิดถึงลูกน้องตัวเองจากการที่คุยกับนิธินที่โทรมารายงาน เขาตกใจว่าฝ่ายนั้นเมาจนขาดสติ แต่ก็ค่อยเบาใจเมื่อรู้ว่ามีนิธินคอยดูแลอยู่
"รบกวนฝากดูแลหมูด้วยนะครับ"
"ครับ ไม่เป็นไรครับ"
นิธินตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้พี่กุ้งรู้สึกวางใจขึ้นได้เยอะ
"พี่กุ้งคะ พี่กุ้ง" หญิงเข้ามาพี่กุ้งที่กำลังเก็บของอยู่
"ว่าไง มีอะไรเหรอหญิง"
"เอ่อ...." หญิงลังเล เพราะไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องนี้ดีหรือเปล่า
"ว่าไง มีอะไร"
"คือ พี่กุ้งคะ เรื่องพี่หมูอ่ะค่ะ" เพราะเมื่อเช้าหญิงเป็นคนรับโทรศัพท์จากนิธิน เธอจึงมาคุยเรื่องเกี่ยวอธิปพงศ์ที่เธอรู้สึก เธอจึงกล้า ๆ กลัว ๆ ถามเจ้าของร้าน
"คือ...พี่กุ้งว่า...คุณนิธินเค้าคิดอะไรกับพี่หมูรึเปล่าคะ"
"ยังไงล่ะ ว่ามาสิ" พี่กุ้งย้อนถามด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ไม่ให้ลูกน้องรู้สึกเกร็งไปกว่านี้
"เอ่อ หนูรู้สึกว่าคุณนิธินเค้ากำลังจีบพี่หมูอยู่ อ่ะค่ะ"
พี่กุ้งได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะออกมา "ฮ่ะๆๆๆๆ"
"ทำไมอ่ะพี่"
หญิงตกใจเหรอหราที่เห็นนายจ้างขบขัน แต่พี่กุ้งก็ถามมาอีก
"ดูออกด้วยเหรอ เราเนี่ย"
"ก็หนูไม่แน่ใจไงคะ ถึงมาถามพี่เนี่ย"
"อืม แล้วนี่คุยเรื่องนี้กับนังป๊อกมันหรือเปล่า"
"เปล่าค่ะ รายนั้นรู้ไม่ได้เลยนะ เรื่องแบบนี้"
"ดีแล้วหล่ะหญิง"
"แล้วตกลง พี่ว่าคุณนิธินเค้าจีบพี่หมูจริงรึเปล่าคะ"
ผู้อาวุโสตอบกลับมาว่า"ไม่รู้สิ"
"อ๋าว..."หญิงผิดหวังที่ได้ยินอย่างนั้น
"แต่เชื่อเถอะว่าที่รู้สึกหน่ะ ถูกแล้ว"
"หมายความว่า..."
"อืม แล้วเราว่าไง"
"ไม่รู้สิคะพี่ แต่ก็ดีนะ คุณนิธินก็หล่อและดูเป็นคนใจดีด้วย พี่หมูก็น่ารัก เหมาะสมกันดี คิคิคิ" เด็กสาวยิ้มชวนฝัน ถ้าเขาเป็นแฟนกันจริงๆ ก็คงเหมือนในการ์ตูนวายที่เธอเคยอ่าน
"อืม ก็ดีแล้ว งั้นก็รอดูต่อไปละกัน"
"ค่ะ อิอิ"
หญิงขอตัวไปทำงานข้างนอก ปล่อยให้พี่กุ้งใช้ความคิดอยู่กับเรื่องนี้ต่อ
ถึงเขาจะเคยเจอกับนิธินมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้จักนิธินดีพอ เลยไม่สามารถสรุปทุกอย่างได้ในตอนนี้ แต่เท่าที่สัมผัสได้นิธินก็เป็นผู้ชายนิสัยดีมากคนหนึ่ง พี่กุ้งจึงได้แต่หวังว่านิธินจะเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ....