ขวดนี้เป็นขวดเหล้าใสขวดเล็กเท่าฝ่ามือ ดูไร้พิษภัย แต่ปีศาจร่ำสุราอย่างเมอร์ฟีรู้ดีว่าแบบนี้น่ากลัวกว่าเหล้าปกติเยอะ
“ก็ใช่ ข้าจะใช้เหล้านี้ดวลกับท่าน”
มือหนาบรรจงเปิดฝาเหล้าขวดเล็กออกแทบจะทันทีที่กลิ่นแอลกอฮอล์พวยพุ่งขึ้นมาจนตลบอบอวลไปทั่วร้าน ใบหน้าของนักร่ำสุราคนอื่นๆ ในร้านแดงก่ำกว่าเดิมด้วยความเมามาย ไม่เว้นแม้แต่เมอร์ฟีที่รู้สึกถึงความเมามายที่ไม่ได้สัมผัสมานาน
เมอร์ฟีวางจอกเหล้าประจำของตัวเองให้กับอีกฝ่าย ยิ้มนิดๆ อย่างอดไม่ได้ รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลิ้มรสเหล้าใหม่ๆ และได้ทาสมาหมักเหล้าตามใจชอบ แค่คิดเมอร์ฟีก็รู้สึกดีจนแทบลอยได้เลยด้วยซ้ำ
“ข้าเตรียมมาให้ท่าน”
มือหนาเลื่อนจอกเหล้าของเมอร์ฟีออกแทนที่ด้วยแก้วไวน์ทรงสูงอย่างพวกมนุษย์ใช้กันสองใบ สองมือประคองขวดในขณะที่ริน พยายามบรรจงรินให้สัมผัสกับอากาศมากที่สุด เมื่อเหล้าปริ่มขอบที่ต้องการก็หยุดมือ นำมันไปวางหน้าเมอร์ฟีและตัวเอง
เมอร์ฟีคว้าแก้วไปถือด้วยรอยยิ้มงดงาม “เจ้ามนุษย์ เจ้าชื่อว่าอะไร”
กลิ่นผลไม้ประหลาดที่เขาไม่เคยได้กลิ่น มันช่างยั่วน้ำลายเขานัก
“สเตเลียน”
“นักบวชงั้นรึ?” เมอร์ฟีหลุดขำพรืดในความหมาย “นักบวชที่ไหนเขาร่ำสุรากัน มนุษย์ ข้าจะเรียกเจ้าว่าเจ้าว่าเจ้าหัวดำละกัน”
สเตเลียนยิ้มไปนิดๆ แต่ดวงตานั้นยิ้มมากว่าฉายชัดว่ามีความสุดแค่ไหนที่ได้คุยกับเมอร์ฟี
“แล้วแต่ท่าน”
“เอาเถอะๆ เรามาเริ่มการดวลดีกว่า เจ้าต้องกินให้หมดแก้วในคราวเดียวพร้อมกับข้า นั่นจะนับเป็นแก้วแรก เราจะกินไปเรื่อยๆ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเมาแอ๋และขอยอมแพ้ ซึ่งข้าก็ค่อนข้างมั่นใจเลยว่าต้องเป็นเจ้าที่จะเป็นแบบนั้น เอาจริงๆ เจ้าจะยอมแพ้เลยก็ได้นะ ข้าจะอนุโลมให้เจ้าเป็นทาสข้าแค่สักปีสองปีก็จะปล่อยตัวไป”
เมอร์ฟีพูดอย่างลำพองใจโดยไม่ทันสังเกตเลยว่าเจ้าหัวดำยิ้มเจ้าเล่ห์ขนาดไหนอยู่
“อืม”
“งั้นก็เริ่ม!” เมอร์ฟีชนแก้วกับสเตเลียนดังแก๊งแล้วดื่มรวดเดียว
น้ำใสๆ เมื่อผ่านปลายลิ้นนั้นร้อนระอุราวกับไฟแผดเผาไปทั้งลำคอ ไม่มีความอ่อนโยนใดๆ จากน้ำนี้นอกจากการเผาทำลายให้ผู้ดื่มกินเมากันไปข้าง แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นคือความหวานเบาบางยังคงติดที่ปลายลิ้นที่ร้อนฉ่าจากการถูกเผา
อร่อย อร่อยเหลือเกิน!
ปีศาจร่ำสุรากู่ร้องในใจ อยากบังคับอีกฝ่ายให้เป็นทาสตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
“แก้วที่สอง”
สเตเลียนยิ้มน้อยๆ รินให้ทั้งตัวเองและเมอร์ฟีต่อแก้วสองกันทันทีและตามด้วยสี่ห้าหกไปเรื่อยๆ โดยที่แต่ละฝ่ายไม่มีท่าทีเมามายเลยสักนิด
“อึก .. แก้วที่ยี่สิบ”
เสียงของเมอร์ฟีสั่นน้อยๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ ทั้งเนื้อทั้งตัวแดงก่ำร้อนฉ่าไปทั้งตัว นัยน์ตาตอนนี้หวานเยิ้มทอดมองสเตเลียนอย่างคึกคะนองด้วยความมั่นใจจัดว่าตัวเองจะชนะ
“ยอมแพ้เสียเถิด สเตเลียน เจ้าน่ะ หน้าแดงแล้ว คิกๆ “
“ยังหรอก เมอร์ฟี”
สเตเลียนยิ้มน้อยๆ ใบหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อยมากจริงๆ หากดูเผินๆ คงดูไม่ออกว่ากำลังร่ำสุราอยู่ เหมือนกับเพิ่งออกกำลังเสร็จซะมากกว่า
“อึก แค่ก!”
สุดท้ายเมอร์ฟีก็มาสิ้นสภาพที่แก้วที่ยี่สิบเอ็ด นอนเมาแอ๋อยู่บนโต๊ะ
สเตเลียนยิ้มน้อยๆ ลูบหัวอย่างเอ็นดู
“ท่านเมอร์ฟี ท่านแพ้แล้วล่ะ”
เหล้าที่เขานำมาในวันนี้คือเหล้าประจำตระกูลที่ปกติจะเก็บไว้เป็นทรัพย์สมบัติไว้ส่งต่อไปเรื่อยๆ เพราะมันถูกคิดค้นมาตั้งแต่บรรพบุรุษของตระกูล นับรวมๆ ก็ร่วมหลายร้อยปีที่เหล้านี้ถูกหมักหมมมา ยิ่งเขาเป็นรุ่นที่ยี่สิบก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าเหล้านี่จะแรงขนาดไหน
แต่ก็นะ นักทำสุราย่อมไม่แพ้สุราที่ตนเองทำ เฉกเช่นเดียวกับพิษงูที่ย่อมมีการแก้พิษ ตั้งแต่ก่อนเข้ามาในร้านเขาได้อมยาแก้เมาสุราที่คิดค้นขึ้นมาเอง มันทำให้แอลกอฮอล์ในเหล้าเจือจางลงจนแทบจะกลายเป็นน้ำเปล่า ทำให้เขาสามารถกินได้สบายๆ เป็นอีกร้อยแก้วก็ยังไหว
“ไม่ ข้า อึก ไม่ได้เมาซะหน่อย” เมอร์ฟีงึมงำใช้มือทุบโต๊ะอย่างไม่ยอมแพ้ “ข้าเป็นท่านเมอร์ฟีผู้ร่ำสุราที่เก่งกาจที่สุดในเมืองเวลล์เลยนะ!”
“เสียใจด้วย ท่านแพ้ข้าแล้ว”
สเตเลียนปัดปอยผมที่บังใบหน้าของเมอร์ฟีไปทัดหู มองอีกฝ่ายอย่างหลงใหล นึกอิจฉาเหล่าทวยเทพที่ได้เห็นร่างสวยๆ ร่างนี้เริงระบำให้ดู
“ฮึก ไม่เอา ข้าไม่ได้เมา เจ้านั่นแหละที่มา เจ้ามนุษย์!”
เมอร์ฟีเริ่มงอแงสะอึกสะอื้นราวกับเด็กๆ
“ท่านเมอร์ฟี!” ดีนาฟที่ได้พรายกระซิบจากคนอื่นๆ ในร้านมาบอกรีบวิ่งมาหาท่านเมอร์ฟีและต้องตกใจมากๆ ที่เห็นท่านเมอร์ฟีปีศาจผู้ร่ำสุราที่แสนเก่งกาจของตัวเองเมาแอ๋ ไม่ใช่มนุษย์อย่างที่ควรจะเป็น
“เจ้า.. ชนะงั้นเหรอ มนุษย์”
สเตเลียนพยักหน้าเดินอ้อมโต๊ะเข้าไปรวบตัวเมอร์ฟีขึ้นมาอุ้มโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของดีนาฟ
“เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ มนุษย์!!!!”
“ข้าชนะการดวลแล้ว เจ้าไม่เกี่ยว”
ดีนาฟขบเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะท่านเมอร์ฟีเคยสั่งไว้ว่าถ้าแพ้ขึ้นมาก็ปล่อยให้ผู้ชนะทำตามใจชอบ ไม่ต้องห่วงเขา
ส่วนคนอื่นๆ ในร้านมองสเตเลียนอย่างเหลือเชื่อปนอิจฉา มีคนนับร้อยนับพันมาดวลกับเมอร์ฟีและแพ้กลับไปทุกราย ไม่ว่าจะพยายามอีกสักกี่ครั้งก็ยังคงพ่ายแพ้ ขนาดเล่นตุกติกในการดวลแต่ก็ยังแพ้จำนวนแก้วอยู่ดี
“ห้องเมอร์ฟีอยู่ทางไหน ข้าจะพาเขาไปนอน”
ดีนาฟหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมนำทาง “ตามข้ามา”
“ข้าไม่ได้เมาซะหน่อย อึก มนุษย์โง่!” ปีศาจร่ำสุรางอแงหน้ามุ่ยคร่ำครวญพักใหญ่ก่อนจะหลุดกรนคร่อกๆ สลบเหมือดไปในที่สุด
ห้องของเมอร์ฟีเรียบง่ายกว่าสเตเลียนคิดมาก เป็นเพียงห้องนอนสีดำเทาธรรมดาๆ ที่มีตู้สำหรับเก็บเหล้าล้อมรอบห้องเต็มไปหมด ทุกชั้นทุกตารางนิ้วแทบจะถูกวางด้วยเหล้าทุกชนิดเท่าที่โลกใบนี้จะมี สเตเลียนวางเมอร์ฟีลงบนเตียงอย่างทะนุถนอมห่มผ้าให้อย่างดี
ก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่หัวเตียงและเจอขวดเหล้าคุ้นหน้าคุ้นตา
พอนนีส…
“จะ เจ้ายิ้มอะไรน่ะ” ดีนาฟขมวดคิ้วลูบแขนที่ขนลุกซู่เพราะไอ้เจ้ามนุษย์บ้ายิ้มได้น่ากลัวมาก
“ออกไปสักที” สเตเลียนมองปีศาจหมีหน่ายๆ และทิ้งตัวลงนอนข้างเมอร์ฟี ดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดอย่างหมั่นเขี้ยว
“อ้าก! เจ้า เจ้าจะทำอะไรนายข้าน่ะ”
“ออกไป!”
มนุษย์เพียงคนเดียวในห้องคำรามใส่อย่างหงุดหงิด จะยุ่งอะไรกับเขานัก
ดีนาฟสะดุ้งสุดตัวตัวสั่นเทาแปลกๆ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายเป็นมนุษย์แต่กลับรู้สึกหวาดผวาขึ้นมาอย่างประหลาด “ก็ได้ๆๆ ข้าไปก็ได้ แต่ห้ามเจ้าฆ่านายของข้านะ มันผิดกฎ ถ้า ถ้าเจ้าฆ่า ฆ่าจะฆ่าเจ้าตามไป!”
สายตาของสเตเลียนเย็นชาและโหดเหี้ยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนดีนาฟยอมล่าถอยปิดประตูไป
ปัง
“กว่าจะไป” สเตเลียนกลอกตาเบื่อๆ ดีดนิ้วหนึ่งครั้งปรากฎภาพลักษณ์ที่แท้จริงของตัวเอง
เขาที่แพะสีแดงก่ำบิดเกลียวอยู่บนหัว นัยน์ตาสีดำแดงปรากฎพร้อมกับเส้นผมที่แท้จริงยาวถึงกลางหลัง ใบหูเรียวยาวมีตุ้มหูเหล็กเจาะอยู่ถึงสี่อัน ใบหน้ากับร่างกายใหญ่ขึ้นยิ่งกว่าเดิม
กลายเป็นร่างของ ‘ปีศาจเชื้อสายของท่านราชาปีศาจคาร์บิลัส ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ที่ยังครอบครองดินแดนปีศาจให้สงบสุขเรื่อยมา’
แต่อย่างไรเสียความจริงที่ว่าตระกูลเป็นนักหมักสุราก็เป็นเรื่องจริง ฝั่งแม่ของสเตเลียนคือตระกูลมนุษย์ผู้หลงใหลในการหมักสุรา สเตเลียนใช้ชีวิตในช่วงหลังจากเรียนจบในดินแดนปีศาจมาอยู่ในตระกูลมนุษย์ ศึกษาการหมักสุราและกลายเป็นผู้สืบทอดของตระกูล
ไม่ใช่เพื่อสืบทอดการหมักสุราอย่างที่ใครๆ คิดว่า
แต่เพื่อใช้จีบ ‘ใครบางคน’ ที่หักอกชาวบ้านไปทั่วตั้งแต่สมัยเรียนในโรงเรียนปีศาจ
และสเตเลียนก็เป็นหนึ่งในไอ้โง่พวกนั้น ใช้เวลาพักเที่ยงแอบมองอีกฝ่ายกินข้าวกับกลุ่มเพื่อน จิบเหล้า ดวลเหล้ากับปีศาจไปทั่ว แม้แต่ตอนแข่งกีฬาสีสเตเลียนก็แอบไปเกาะข้างสนามแอบใช้เวทย์ทำให้คู่แข่งแพ้ ทำให้เมอร์ฟีได้รับชัยชนะอย่างงดงาม
เขาเคยใช้ความกล้าเข้าไปจีบและได้การดวลเหล้ากลับมา
‘ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้ ข้า เมอร์ฟีผู้งดงามคนนี้จะยอมเป็นแฟนกับเจ้า!’
เมอร์ฟีในตอนนั้นก็ยังคงเหมือนตอนนี้ มั่นใจในตัวเองอันดับหนึ่งจนเขาอดหมั่นไส้ไม่ได้แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาชอบเมอร์ฟีมากๆ อยู่ดี
และผลตอนนั้นก็ทำให้เขาอับอายขายขี้หน้าสิ้นดี
เหลนของราชาปีศาจเมาเละแพ้ปีศาจร่ำสุรา!
หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์โรงเรียนทุกฉบับ เป็นภาพเขานอนแอ่กอยู่บนพื้นโดยมีเมอร์ฟีเท้าเอวหัวเราะข้างๆ มันเป็นอะไรที่อับอายขายขี้หน้าสิ้นดี คิดดูสิ ตอนที่ท่านอาคาร์บิลัสเห็นเขายังแทบจะอยากเตะข้าออกจะตระกูลข้อหาทำให้อับอาย
แต่เขาก็ยังชอบเมอร์ฟีมากๆ อยู่ดี
การดวลเหล้าเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาก็แพ้เมอร์ฟีซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนภาพฉายซ้ำ
ทุกคนหัวเราะเยาะเขาที่พยายามทำอะไรโง่ๆ ไม่สมกับเป็นเหลนของราชาปีศาจที่เหลืออยู่คนเดียวและเป็นผู้ที่มีโอกาสในบัลลังก์มากที่สุดรองจาก ‘ดัฟฟ์’ ปีศาจมังกรดำที่ตอนนี้ยังอยู่ในวัยรุ่นใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเที่ยวตระเวนกินไปทั่ว
จากอับอายเป็นชินชา
เขาพยายามแม้แต่วันสุดท้ายของวันจบการศึกษา เขาก็ยังไปขอท้าเมอร์ฟี
‘แน่นอนสิ สเตลิโน่! (หมอกดำทมิฬ)” เมอร์ฟียิ้มจนตาหยีมือสองข้างหอบดอกไม้การ์ดตุ๊กตาเหล้าของวันจบมากมายยอมวางทุกสิ่งทุกอย่างลงและดวลเหล้ากับเขา
เขาในตอนนั้นมีความสุขมากถึงแม้จะพ่ายแพ้แต่ก็ยังมีความสุข
‘ถ้าเจ้าว่างๆ เจ้าก็แวะมาหาข้าบ้างนะ’ เมอร์ฟีหัวเราะกับเขาที่เมาแอ๋ตั้งแต่แก้วที่สาม ‘ข้าจะเปิดร้านเหล้าในเมืองเวลล์ล่ะ ได้ดวลเหล้าไปทั่วคงจะเป็นเรื่องที่สนุกดี’
‘ครั้งหน้าข้าไป ข้าชนะแน่’
เขาบอกแบบนั้นด้วยความมั่นใจ ทั้งๆ ที่ยังเมาไม่สร่าง
‘มาสิ’ เมอร์ฟีในตอนนั้นลูบหัวเขา ‘ข้าปีศาจร่ำสุรา เมอร์ฟี จะขอเป็นผู้กุมชัยชนะเอง!’
น่าเสียดายจริงๆ ที่แม้แต่วันสุดท้ายเขาก็ยังพ่ายแพ้อยู่ดี
“วันนี้ข้าชนะท่านแล้ว เมอร์ฟี”
สเตลิโน่หัวเราะแล้วดึงแก้มเมอร์ฟีอย่างหมั่นเขี้ยวไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเมาแล้วร้องโอดโอยขนาดไหน
“เจ้าคิดว่าปีศาจร่ำสุราอย่างข้าจะเมาได้จริงๆ งั้นเหรอ”
เป็นอีกครั้งที่เหลนของท่านราชาปีศาจหมดมาด ช็อคอยู่ท่าเดิมเมื่อเห็นนัยน์ตาสีสวยของเมอร์ฟีมองมาที่ตัวเองโดยไม่มีท่าทีเมามายแม้แต่น้อย แววตาใสกิ๊งราวกับเพิ่งตื่นยังไงยังงั้น
“หมาย..ว่ายังไง”
สเตลิโน่ครางในลำคออย่างผิดหวัง นี่ก็หมายความว่าเป็นอีกครั้งที่เขาพ่ายแพ้สินะ
“เฮ้ๆ อย่าทำหน้าเหี่ยวเฉาแบบนั้นสิ” เมอร์ฟีผลุดลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิยิ้มขำให้ปีศาจหน้าโง่บางคน “อย่าลืมว่าเหล้าสำหรับปีศาจอย่างข้ามันก็แค่น้ำดีๆ นี่เอง ข้าไม่มีวันเมา สเตลิโน่” ใบหน้างดงามขึ้นสีแดงก่ำนิดๆ เมื่อต้องพูดประโยคต่อไป
“
นอกเสียจากว่า.. จะแกล้งเมา”
“ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี” สเตลิโน่ถอนหายใจเฮือกใหญ่นึกเสียดายเวลาที่ตัวเองร่ำเรียนมา ผลสุดท้ายเขาก็ยังพ่ายแพ้เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เมอร์ฟีขมวดคิ้วมุ่นหงุดหงิด “ทำไมเจ้าถึงไม่ฉลาดล้ำเหมือนข้านะ!”
“เจ้ากำลังด่าคนที่สอบได้ที่หนึ่งของรุ่นอยู่นะ เจ้ารองบ๊วย”
สเตลิโน่ตอกกลับด้วยสีหน้านิ่งเฉยได้ผลเป็นเมอร์ฟีดิ้นเป็นเจ้าเข้า
“โอ๊ย ข้าแค่อ่อนทฤษฎีน่า อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ! เจ้าทำบรรยากาศเสียหมดเลย ไอ้เจ้าโง่ ข้าจะบอกว่า ข้าน่ะ คือ ข้า”
พอจะพูดจริงๆ เมอร์ฟีกลับพูดไม่ออก
“เจ้าจะพูดอะไรกันแน่”
เมอร์ฟีก้มหน้างุดบีบนวดมือตัวเองแก้เขิน
“ข้าก็แค่คิดเฉยๆ.. ว่าถ้าเจอเจ้าครั้งหน้า ข้าจะแกล้งแพ้เจ้าบ้างก็ได้”
“ข้าไม่เข้าใจ”
สเตลิโน่ก็คือสเตลิโน่ โง่เขลาเรื่องที่เข้าใจง่ายแบบสุดๆ จนปีศาจร่ำสุรากลอกตาหน่ายๆ
“ข้าแกล้งเมาเพื่อให้เจ้าชนะ เข้าใจไหมเจ้างั่ง!”
ใบหน้าคมเผยสีหน้าประหลาดใจ
“อย่าบอกนะว่าเจ้าก็ชอบข้า นั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจสุดๆ”
“เออ เข้าใจไหมไอ้หน้าโง่!”
เมอร์ฟีหัวเราะร่วนเมื่อเห็นสเตลิโน่หน้าตูม “อีกอย่างนะ ต่อให้เจ้าเอาน้ำเปล่ามาแข่งกับข้ารอบนี้ ข้าก็จะแกล้งแพ้ เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องเสียเวลาไปเรียนการหมักสุราเป็นสิบๆ ปีแบบนั้น”
“แต่เจ้าก็ชอบเหล้าของข้านี่”
“นั่นก็ใช่” เมอร์ฟีพูดเขินๆ “เจ้าเอาเหล้าบ๊วยนั่นมาได้แล้ว ข้าจะลงแดงตายอยู่แล้ว”
พูดมาถึงตรงนี้สเตลิโน่ก็ตึงหน้าใส่เมอร์ฟี
ถึงเวลาที่เหลนราชาปีศาจอย่างเขาจะได้กู้หน้าคืนสักที!
“ข้าต้องการรางวัลของผู้ชนะ”
มือหนาปลดเสื้อคลุมของตัวเองออกเผยให้เห็นมัดกล้ามสมบูรณ์แบบที่มีรอยแผลเป็นอยู่หลายแผล เป็นผลมาจากการฝึกเพื่อเตรียมตัวเข้าชิงบัลลังก์ราชาปีศาจหรือไม่ก็ตำแหน่งตำแหน่งหนึ่งในนั้น อย่างน้อยการมีความสามารถในการป้องกันตัวก็เป็นเรื่องที่ดี
“เดี๋ยว ข้าไม่พร้อม” เมอร์ฟีจับเสื้อตัวเองแน่นหน้าเผือดสี “เจ้าดูตัวเจ้าด้วย ว่าเจ้าตัวใหญ่กว่าข้าปีศาจผู้งามเลิศขนาดไหน! ขืนเจ้าทับข้า ข้าได้แบนแต๊ดแต๋เหมือนกบโดนรถทับแน่”
“ข้ารอเวลานี่มานานแค่ไหนแล้ว รู้หรือไม่”
สเตลิโน่เลียริมฝีปากถอดเข็ดขัดตัวเองออกเหลือเพียงกางเกงและปีนขึ้นไปบนเตียง
“ข้า ข้าไม่พร้อม”
เมอร์ฟีถอยหลังจนชนขอบเตียงดังตึงหดคอมองสเตลิโน่ด้วยสีหน้าเจี๋ยมเจี๊ยม
“ข้าจะให้เจ้าเลือก” ปีศาจผู้มีเชื้อสายราชาจิ๊ปากอย่างไม่พอใจนัก “ระหว่างข้า สเตลิโน่ หนึ่งในผู้มีสิทธิ์ในบัลลังก์ของดินแดนปีศาจกับเหล่าทวยเทพที่นานครั้งจะลงมา เลือกมา เจ้าจะเลือกใคร”
“แน่นอนสิ ว่าข้าเลือกเหล่าทวยเทพ”
“ไม่สิ เจ้าไม่ได้มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้ว เมอร์ฟี เพราะข้าเป็นผู้ชนะ ข้าเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เลือกให้เจ้า” สเตลิโน่หัวเราะหึๆ แล้วขึ้นคร่อมเมอร์ฟี มองคอระหงที่มีผู้คนมากมายอยากขบกัดแต่ไม่มีโอกาส
“ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง” ร่างหนาคำรามฮึมๆ ข้างหูปีศาจร่ำสุรา เขาแพะที่บิดงอขูดกับผนังเตียงดังครืดๆ “เจ้าจะเลือกข้าแล้วละทิ้งเหล่าทวยเทพ หรือละทิ้งข้าเพื่อเหล่าทวยเทพ”
เมอร์ฟีหัวเราะชะเง้อขึ้นไปจูบคางที่ไรหนวดขึ้นเบาๆ
“แน่นอนสิว่าข้าเลือกปีศาจหน้าโง่อย่างเจ้า ขึ้นหน้าหนึ่งแต่ละที ข้าล่ะอายแทนท่านคาร์บิลัส ไม่รู้ว่าท่านเอาหน้าไปไว้ไหน หึๆ”
“เจ้าแน่ใจงั้นหรือเพราะหลังจากนี้เจ้าจะไม่มีโอกาสได้ร่ายรำให้ท่านโฟเทียสอีก” ถึงปากจะว่าอย่างนั้นแต่ก็สาละวนอยู่กับคอของปีศาจร่ำสุรา เลียและกัดเพื่อลิ้มรสสุราร้อนแรงจากเนื้อที่ส่งกลิ่นสุราจางๆ
“เจ้าคิดว่าพวกปีศาจร่ำสุราจะร่ายรำให้ทวยเทพตลอดชีวิตงั้นเหรอ จะตลกเกินไปแล้ว คิดว่าพ่อแม่ข้าครองพรหมจรรย์ตอนมีข้ารึไงเจ้างั่ง” เมอร์ฟีหัวเราะส่ายหัวในความไม่เอาไหนของดหลนราชาปีศาจ “ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสอนเจ้าอีกมากเลย สเตลิโน่ อีกร้อยปีละมั้งเจ้าถึงจะกลายเป็นผู้ล้ำเลิศไปทุกด้านแบบข้า”
สเตลิโน่หลุดขำพรืด
“นิสัยหลงตัวเองของเจ้านี่ข้าเป็นตามไม่ไหวจริงๆ”
“ใครหลงตัวเอง ข้าไม่ได้หลงตัวเองสักหน่อย” ปีศาจร่ำสุราที่ใช้เวลาชื่นชมตัวเองหน้ากระจกเกินหนึ่งชั่วโมงเถียงตอบอย่างไม่ยอมแพ้ “เจ้าอิจฉาข้าก็บอกมาเถอะ เหอะ ข้าจะบอกให้ว่า เจ้าน่ะ ไม่ได้ถึงเศษเสี้ยวข้าเมอร์ฟีผู้เลิศล้ำไปด้วยซ้ำ”
“แต่ข้าชนะประกวดชายงามนะ”
“นั่นไม่นับเพราะข้าไม่ได้ลงแข่ง!”
จากบรรยากาศหวานชื่นตอนนี้ร้อนระอุแทบเป็นไฟ เมอร์ฟีถลึงตามองปีศาจแพะที่เอาแต่พูดเรื่องไม่น่าสบอารมณ์ขัดหูทุกคำที่หลุดออกมาจากปาก
“ข้าจะเปลี่ยนใจแล้วนะ ถ้าเจ้าพูดมากกว่านี้” เมอร์ฟีหน้ามุ่ยมองเสี้ยวใบหน้าคมหน่ายๆ ถึงลึกๆ จะยอมรับก็เถอะว่าอีกฝ่ายดูดีก็จริงแต่ก็ได้ไม่ถึงเสี้ยวของตัวเองหรอก
“ขอประทานอภัยให้แก่เจ้าโง่สเตลิโน่ด้วยขอรับ ท่านเมอร์ฟีผู้งดงามที่สุดในเมืองเวลล์ ฉลาดล้ำที่สุด”
“ดีๆ”
เมอร์ฟียิ้มแป้นหอมแก้มสเตลิโน่ดังฟอด
“อย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย”
หัวเราะในลำคอแล้วโอบคอเหลนราชาปีศาจลงมาจูบอย่างตะกละตะกลาม
ช่วยไม่ได้.. ก็เขาเปิดร้านรอมาเป็นสิบปีแล้วน่ะนะ…
==================
แต่งหวานๆ เพิ่มน้ำตาลในชีวิตบ้าง รู้สึกช่วงนี้เศร้าบ่อยเกิน ถถถ
ฝากเพจจจ :
https://www.facebook.com/FoggyTime/