Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]  (อ่าน 52942 ครั้ง)

ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สิงห์ปืนไว มาทีหลังแซงไปแล้ว พี่ยุทธอย่ายอมเก็บแต้มด่วน

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
พี่ยุทธโดนนำซะแล้ว
 :laugh:

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

15


หลังกลับมาจากเที่ยวทะเลเดือนสิบก็เข้ามาทำงานที่อู่ซ่อมรถเฮียโหน่งเหมือนเดิม เขาโทรบอกแม่แล้วว่าจะอยู่ทำงานต่อที่นี่แล้วค่อยกลับบ้านช่วงใกล้เปิดเทอม ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่ยุทธก็ดีขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ได้ใช้เวลาด้วยกันบ่อยขึ้น อีกฝ่ายดูแลเขาดีสม่ำเสมอ คอยมารับมาส่งแม้เขาจะบอกว่าไม่เป็นไรก็ตาม และด้วยความที่อีกฝ่ายใจดี จึงทำให้เขารู้สึกสบายใจเสมอเวลาได้อยู่ใกล้ ทำให้เขากล้าที่จะแสดงออกมากขึ้น กล้าพูด กล้าเถียง หรือแสดงกิริยาที่เรียกว่าออดอ้อนยามอีกฝ่ายให้ความสนใจกับอย่างอื่นมากกว่า


เขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อนแม้กระทั่งไอ้นุ ไม่เคยแสดงออกถึงความเอาแต่ใจแบบเด็กๆ อาจเพราะมันเป็นรุ่นเดียวกันและเขาก็มองว่ามันเป็นเพื่อนมาก่อนจึงไม่ได้แสดงออกมากนัก ผิดกับอีกคนที่ใจดีด้วยมาตลอดจึงทำให้เขากล้าที่จะเรียกร้องด้วยการเอาแต่ใจแบบเด็กๆ


ยอมรับว่ากำลังเสพติดความเอ็ดดูที่อีกฝ่ายมีให้ จนบางทีก็หลงลืมไปว่าในขณะที่เขาทำทุกอย่างไปด้วยความสบายใจ อีกฝ่ายกลับต้องใช้ความอดทนกดกลั้นอย่างมากเพื่อจะไม่ทำอะไรเกินเลยนอกจากการกอดจูบเล็กๆน้อยๆ แต่เพราะเชื่อว่าพี่จะหยุดถ้าเขาไม่ยอม เลยทำให้กล้าที่จะเรียกร้อง ยอมรับว่าเขาวางความไว้เนื้อเชื่อใจไว้บนมือของอีกฝ่ายไปเกือบเต็มร้อย


“สิบ เดี๋ยวเสร็จจากตรงนี้แล้วไปช่วยพวกไอ้กล้ามันดูเครื่องทางโน้นนะ แม่งมัวแต่โม้จนงานการไม่เป็นอันทำ อ่อ! ถ้าถึงเวลาเลิกก็กลับไปได้เลยนะ ฝากบอกไอ้ชาติปิดร้านให้เฮียด้วยว่าจะออกไปหาลูกค้าซะหน่อย” เฮียโหน่งที่กำลังตีหน้ายุ่งกับเอกสารในมือเงยหน้าขึ้นมาสั่ง


“ครับ” เขาเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋า ปิดฝากระโปรงรถที่เพิ่งเปลี่ยนเครื่องเสร็จก่อนจะเดินไปหาพี่กล้าที่อยู่ทางโซนรถนอก แต่ไปได้ไม่ถึงสองก้าวเสียงของเฮียโหน่งก็รั้งไว้ซะก่อน


“ครับ?”


“ฝากเบิร์ดกะโหลกพวกมันด้วยถ้าเอาแต่คุยจนไม่ทำงาน” เดือนสิบทำหน้าเหลอ ก่อนจะยิ้มรับแกนๆ ไม่รู้พูดจริงหรือพูเล่นเพราะเฮียโหน่งชอบทำหน้านิ่งๆ แต่ถึงพูดจริงเขาก็คงไม่กล้าทำหรอก รุ่นพี่พวกนั้นแก่กว่าเขาตั้งหลายปี แถมแต่ละคนที่ตัวอย่างใหญ่ ตบทีโดนสวนกลับมาเขาคงได้สลบเหมือดคาที่


“พี่กล้าพี่ชาติมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” สองนายช่างที่กำลังเม้ามอยกันอย่างเมามันเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนที่พี่ชาติ หนุ่มหน้าคมฉบับคนใต้แท้ๆจะกวักมือเรียกยิกๆให้ไปนั่งลงข้างๆ


“งานทางโน้นเสร็จหมดแล้วหรอวะ” พี่มันถาม วางประแจตัวสุดท้ายลงในกล่อง


“ครับ เฮียโหน่งบอกให้ผมมาช่วยทางนี้ แล้วก็ฝากพี่ปิดร้านให้ด้วยเพราะเฮียจะออกไปหาลูกค้าข้างนอก” พี่มันพยักหน้ารับ


“ทางนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เหลือแค่แยกน็อตลังนี้ก็เรียบร้อย เอ็งกลับไปก่อนก็ได้เดี๋ยวพวกพี่ทำเอง”


“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมช่วย”


“กูก็ลืมไปว่าเดี๋ยวนี้น้องเรามีราชรถมาเกยถึงที่แบบตรงเวลาเป๊ะๆ จะกลับก่อนไม่ได้” พี่ชาติแซวยิ้มๆ


เป็นภาพคุ้นตาเพราะช่วงหลังๆมานี้มักจะมีออดี้คันงามเข้ามาจอดเทียบหน้าอู่ซ่อมรถในเวลาหกโมงเย็นของทุกวัน จะเว้นก็แต่วันที่ไอ้เด็กตัวขาวนี่ไม่ได้มาทำงานเท่านั้น และถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นคนที่อยู่ในรถซักครั้ง แต่จากหน้าแดงๆเวลาถูกแซวเกือบทุกครั้งของเดือนสิบก็ทำให้เดาได้ไม่ยาก ว่าคนที่คอยมารับมาส่งเกือบทุกวันเป็นอะไรกันกับเด็กน้อยของพวกเขา


“มีแฟนรวยขนาดนั้นทำไมเอ็งยังมาทำงานงกๆอยู่อีกวะสิบ เป็นพี่นี่เกาะแฟนกินสบายพุงไปละ” พี่กล้า นายช่างหน้าหล่อประจำอู่ ที่มีงานเสริมคือเป็นโฮสอยู่ในคลับว่าขึ้นบ้าง


“ก็เพราะน้องมันไม่ได้เป็นแมงดาอย่างมึงไงไอ้กล้า คนเขารู้จักทำมาหากินแต่เล็กแต่น้อย มึงก็หัดดูน้องมันเป็นตัวอย่างบ้าง ไม่ใช่ศักดิ์เอาแต่หน้าหล่อๆไปล่อให้สาวหลงแล้วหลอกแดกเขา” คนอาวุโสสุดสวนกลับแทน


“พี่ก็พูดเกินไป นั่นมันงานไหมล่ะแหม พูดซะผมดูเลวเลย”


“ไม่รู้แหละ กูหมั่นไส้ กูจะด่าว่ามึงมันเลวใครจะทำไม”


“เอาที่พี่สบายใจเลยครับ”


เดือนสิบได้แต่นั่งฟังพวกพี่มันเถียงกันไปมาอย่างขำๆ พอหมดคำจะเถียงก็พากันเปลี่ยนเรื่องมาเป็นนินทาชาวบ้าน ซึ่งอันนี้เขาก็ได้แต่เออออไปตามน้ำรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง มีหลุดขำบ้างเป็นบางครั้งกับท่าทางที่ใส่อารมณ์จนโอเว่อของพวกพี่ๆ พอนินทาคนอื่นจนไม่มีใครจะให้นินทาพี่ชาติผู้ซึ่งมีเมียเป็นตัวเป็นตนเลยหยิบยกเอาคนใกล้ตัวนั่นล่ะขึ้นมานินทา


 “อีอ้อยนี่มันน่าเบื่อจริงๆ รู้งี้กูไปแต่งกับน้องเปรี้ยวซะก็ดีหรอก เอาใจเก่งกว่าเป็นไหนๆ แถมยังว่านอนสอนง่ายบอกซ้ายไปซ้ายบอกขวาก็ไปขวา แถมลีลาบนเตียงยังสุดยอดอย่าบอกใคร”


“เลือกเมียผิดชีวิตเปลี่ยนไงพี่ชาติ ผมบอกแล้วก่อนเอาให้ดูดีๆ แล้วเป็นไงล่ะได้เมียมาทั้งที แต่ก็ยังต้องพึ่งแม่นางทั้งห้าให้พาขึ้นสวรรค์” พี่กล้าซ้ำเติมพลางหัวเราะเยาะรุ่นพี่ตัวเองหน้าระรื่น


“มีเมียหวงเนื้อหวงตัวนี่มันน่าเบื่อจริงๆโว้ย จะเอาก็ไม่ให้เอา เงี่ยนนักเดี๋ยวกูก็หนีไปเยกะ-รี่แม่ม” ว่าอย่างมีอารมณ์ ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ไม่เคยทำได้ซักที เมียมาทีไรเป็นต้องจ๊ะจ๋าพูดคะพูดขาให้เด็กในอู่ได้ทำหน้าเหม็นเบื่อตลอด


และหลังจากนั้นก็เป็นมหากาพย์ที่พี่ชาติสันหาเรื่องความหวงเนื้อหวงตัวของเมียมาเล่า แต่จะพูดให้ถูกต้องบอกว่าระบายมากกว่า พี่มันดูอดกลั้นมานานถึงกับเล่าหมดเปลือกแถมยังใส่อารมณ์เป็นระยะ โดยมีพี่กล้าตอบรับเป็นลูกคู่แถมยังยุแยงให้ครอบครัวเขาแตกแยกอยู่ข้างๆ ผิดกับคนมีอายุน้อยสุดที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดไปตั้งแต่ประโยคแรกที่ได้ยินพี่มันเริ่มนินทาเมียแล้ว สมองน้อยๆพานคิดไปถึงใครอีกคนที่ไม่รู้ว่าจะมีความรู้สึกเบื่อหน่ายแบบนี้อยู่ในหัวบ้างรึเปล่า


“สิบ.. ไอ้สิบ!”


“ห๊ะ! ครับพี่” คนถูกเรียกสะดุ้งสุดตัว หน้าตาเหลอหลาทำเอาอีกสองคนหลุดขำ


“นิ่งไปเลยเอ็ง เป็นอะไรวะ”


“เปล่าครับ ผมแค่คิดอะไรเพลินๆ” เดือนสิบยิ้มแห้ง


“อย่าบอกนะว่าเมียเอ็งก็หวงเนื้อหวงตัวเหมือนกัน น่าเบื่อใช่ไหมล่ะผู้หญิงแบบนี้ เอาไว้พี่พาไปเปิดหูเปิดตา รับรองว่าถ้าได้แจ่มๆซักคนเอ็งจะลืมเมียที่บ้านไปเลย” พี่ชาติตบไหล่เล็กปุๆราวกับเข้าอกเข้าใจเด็กมันนักหนา แต่ยังไม่ทันที่เดือนสิบจะได้ปฏิเสธรุ่นพี่อีกคนก็พูดขึ้นซะก่อน


“พูดดีไปพี่ชาติ ผมนี่ชวนพี่จนปากจะฉีกถึงหูไม่เห็นว่าพี่จะไปจริงๆซักที มึงอย่าไปเชื่อพี่ชาติให้มากไอ้สิบ เรื่องนี้กูเซียนเดี๋ยวกูจัดหาให้เอง อยากได้แบบไหนบอก จะเอาแบบลีลาเด็ดๆหุ่นน่าฟัด หรือมึงอยากได้แบบคิขุน่ารักแบ๋วๆ ชอบแบบไหนบอกมาได้เลยน้อง เดี๋ยวพี่จัดให้ คืนนี้เลยเป็นไง ฟงแฟนอะไรมึงไม่ต้องไปสนใจมันละ น่าเบื่อนักก็ปล่อยมันนอนกอดหมอนข้างไป” เดือนสิบฟังแล้วได้แต่ขมวดคิ้ว


“ไม่ดีมั้งครับพี่ เรามีแฟนก็ต้องซื่อสัตย์กับแฟนสิ ทำแบบนั้นเดี๋ยวเขาเสียใจแย่” ขนาดแค่คิดตามเขายังรู้สึกแย่เลย


“ดีสิวะ! เราแค่นอกกายแปปๆไปหาความสุขให้ตัวเอง ในเมื่อขะ โอ้ย! พี่ชาติตบหัวผมทำไมเนี่ย”


“กูไม่ถีบเข้าให้ก็บุญหัวมึงแล้วไอ้กล้า เสี้ยมสอนน้องแต่อย่างดีๆทั้งนั้นนี่ เอ็งไม่ต้องไปฟังมันให้มากนะสิบ ไอ้นี่มันไม่เคยรักใครจริงๆมันก็พูดอย่างนั้นได้ คนเราถ้ารักกันจริงเรื่องแค่นี้มันไม่เป็นปัญหาหรอก เห็นพี่บ่นๆว่าอ้อยมันน่ารำคาญอย่างนั้นน่าเบื่ออย่างนี้แต่เอาเข้าจริงๆถ้าให้ไปหาคนใหม่พี่ก็ไม่ทำหรอก”


“สาบานว่าพี่ไม่เคยคิดจริง” พี่กล้าเบรก คนกำลังทำซึ้งเลยจิ๊ปากใส่


“มึงนี่! มันก็ต้องมีแอบคิดจริงบ้างสิวะ แต่แค่แวบๆไง พอกลับไปเจอหน้าเมียที่บ้านอารมณ์นั้นมันก็หายไปเองนั่นแหละ”


“หูย… พ่อคนดี”


เขานั่งฟังพวกพี่ๆเถียงกันต่ออยู่พักใหญ่ จวบจนเวลาหกโมงเย็นซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน ออดี้คันสวยที่เริ่มเป็นแขกคุ้นหน้าคุ้นตาก็เข้ามาจอดเทียบหน้าอู่ เขาไหว้ลาพวกพี่ๆก่อนจะเดินไปขึ้นรถยนต์คันหรูท่ามกลางเสียงแซวที่ไม่ว่าจะได้ยินเกือบทุกวันแต่ก็ยังอดเขินไม่ได้อยู่ดี ทุกคนคิดว่าเจ้าของออดี้คันนี้เป็นแฟนเขาและเป็นผู้หญิง ซึ่งเดือนสิบเองก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร ปล่อยให้พวกพี่ๆเข้าใจไปแบบนั้นก็ดีแล้ว


“เบื่อเมียเมื่อไหร่มาหาพี่นะโว้ยไอ้สิบ เดี๋ยวพาไปจัดหนักๆเลย” ไม่วายเสียงพี่กล้าตะโกนตาหลังมาให้ได้ยินอีก


“เหนื่อยไหม” คนที่นั่งอยู่หลังพวกมาลัยเอ่ยปากถามไถ่ทันทีที่เดือนสิบก้าวเข้ามาในรถ วันนี้พี่ยุทธก็ยังดูเนี๊ยบเหมือนเดิม เสื้อเชิ้ตสีอ่อนสวมคู่กับกางเกงสแล็คสีเข้มสวมทับด้วยเสื้อสูทสีเดียวกัน ใบหน้าคมเข้มมีไรหนวดสีเขียวครึ้มขึ้นจางๆ ยิ่งขับให้เจ้าตัวดูเป็นผู้ใหญ่ ยอมรับว่าเขาชอบพี่ในลุคนี้มาก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่มองแล้วมันให้ความรู้สึกอุ่นใจแปลกๆ


“ไม่เหนื่อยครับ พี่ยุทธล่ะ” เขาถามกลับ ช่วงปิดเทอมอีกฝ่ายบอกว่าต้องไปช่วยงานที่บ้าน เดือนสิบไม่รู้ว่าพี่ทำอะไรเพราะไม่เคยถาม แต่เห็นแต่ตัวดีออกไปเกือบทุกวัน จะเว้นก็แต่เสาร์อาทิตย์ที่เป็นวันหยุดและเจ้าตัวบังคับให้เขาหยุดไปด้วยเพื่อใช้เวลาอยู่ด้วยกัน


“เห็นหน้าเราก็หายเหนื่อยแล้ว” เจ้าตัวว่าพลางหันมายิ้มน้อยๆให้เขา ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้พี่ยุทธดูดีขึ้นอีกเป็นกอง ดีเกินไปจนเขาคิดว่าหากพี่ต้องการใครซักคนก็คงจะหาได้ง่ายๆ


ยุทธนาเหลือบมองคนที่อยู่ดีๆก็เงียบไป จากระยะเวลาที่คบกันมาเกือบสองเดือนทำให้เขาได้รู้นิสัยอะไรหลายๆอย่างของเดือนสิบ น้องแสดงออกมากขึ้นในเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ท่าทีเขินอายถึงจะไม่ได้มีมากมายเท่ากับตอนแรกๆแต่ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งยามถูกเขาแหย่เขาแกล้ง อย่างประโยคที่เขาหยอดไป อย่างน้อยๆถ้าไม่ใช่ริ้วแดงๆบนผิวแก้มก็น่าจะเป็นค้อนวงโตๆที่ถูกส่งมาให้
แต่สิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนที่สุดตั้งแต่คบกันมาคือนิสัยชอบอ้อนชอบเข้ามาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆเหมือนลูกแมวติดเจ้าของ แต่จะเรียกว่าอ้อนหรือยั่วดียุทธนาก็ไม่มั่นใจนักเพราะเขาแทบจะตบะแตกทุกครั้งที่น้องทำแบบนั้น เดือนสิบมักจะเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เวลาที่เขาให้ความสนใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปในเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน


อย่างหลายวันก่อนหน้านี้ ตอนที่เขาแวะรับเจ้าตัวหลังเลิกงานแล้วพามานั่งเล่นด้วยกันที่ห้อง หาอะไรกินง่ายๆจนอิ่มท้องเขากับน้องก็มานั่งดูทีวีด้วยกันที่ห้องนั่งเล่น เดือนสิบนั่งอ่านการ์ตูนอยู่บนพื้นพรมส่วนเขาก็นั่งดูฟุตบอลที่วันนี้มีทีมโปรดลงแข่ง เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้ดูเวลาเพราะกำลังใจจดใจจ่อรอลุ้นให้ทีมโปรดยิงประตูได้ซักที พอรู้ตัวอีกทีก็มีก้อนอะไรหนักๆมาพิงอยู่ที่ขา ดวงตากลมแป๋วจับจ้องมาที่เขาไม่วางตา แต่พอถามว่าอยากได้อะไรเจ้าตัวกลับส่ายหน้า เขาเลยกลับมาสนใจกับเกมส์ที่กำลังดุเดือดตรงหน้าต่อ ทว่าผ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ ก้อนหนักๆที่ว่าก็เริ่มก่อกวนโดยการเลื้อยมาซบอยู่บนตัก หัวทุยถูไปมาอย่างออดอ้อนจนจิตใจที่จดจ่ออยู่กับหน้าจอแอลซีดีเริ่มไม่คงที่ แต่พอถามว่าต้องการอะไรเจ้าตัวก็เอาแต่ส่ายหน้าเหมือนเดิม


เป็นอยู่อย่างนั้นสองสามรอบจนสุดท้ายก็เป็นเขาเองที่อดใจไม่ไหวจนได้รวบตัวลูกแมวช่างอ้อนเข้ามากอดรัดไว้จนเต็มอ้อมแขน น่าแปลกที่พอทำแบบนั้นเจ้าตัวก็สงบลงและยอมอยู่นิ่งๆในท่านั้นดีๆ กระทั่งดูฟุตบอลจบไปไอ้คนที่เข้ามาคลอเคลียอยู่เมื่อตอนก่อนหน้าก็ร้องแง่วๆจะกลับห้อง


ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เดือนสิบไม่ยอมให้เขาเลยจริงๆ เขาเคยพูดเปรยๆว่าอยากให้น้องย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันทว่าเจ้าตัวก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว ยุทธนาเหลือบมองน้องอีกครั้งเมื่อเลี้ยวรถเข้ามาจอดในคอนโด เดือนสิบดูเคร่งเครียด คิ้วสวยขมวดยุ่งแทบจะตลอดเวลา ขนาดว่าขึ้นมาถึงห้องแล้วคิ้วก็ยังไม่คลายออก


“เป็นอะไรฮึ?” เจ้าตัวสะดุ้งหน่อยๆตอนที่เขาดึงตัวเข้ามากอด แถมยังทำตาโตเหมือนตกอกตกใจนักหนายามที่เขาฉวยโอกาสหอมแก้มใสๆนั่น เหมือนอย่างที่ทำอยู่ทุกวันจนแทบจะกลายเป็นชีวิตประจำวันก็ว่าได้ 


“เปล่าครับ” ปฏิเสธแต่กลับไม่ยอมสบตา มันไม่ใช่อาการหลบตาแบบเขินอายอย่างทุกครั้ง แต่มันเหมือนกับน้องกำลังหลบตาเขาเพราะมีเรื่องปิดบังมากกว่า


“ถ้าไม่บอกพี่จับปล้ำนะ” ไม่ว่าเปล่าแต่เขายังพลิกตัวน้องเข้าหาแล้วดันลงให้นอนราบไปกับพื้นโซฟาก่อนจะตามไปคร่อมทับไว้ทั้งตัว ถึงจะทำเหมือนแกล้งแต่เอาเข้าจริงเขาก็อยากทำอย่างที่พูดให้รู้แล้วรู้รอด อยากทำให้น้อยกลายเป็นของเขาจริงๆซักที เดือนสิบไม่ได้มีท่าทีตระหนกอย่างที่คิด แต่เหมือนเดิมคือน้องยังคงมีสีหน้าเคร่งเครียด ม่านกลมใสมองเขา คล้ายมีแววสับสนระคนไม่แน่ใจส่งผ่านออกมา


“พี่ยุทธ… อยากมี.. เอ่อ มีอะไรกับผมมากเลยหรอครับ” ถ้อยคำของน้องไม่ได้ดูประชดประชัน แต่เหมือนเจ้าตัวกำลังถามเพราะอยากรู้จริงๆ ซึ่งท่าทางของน้องทำให้เขามั่นใจมากว่าเจ้าตัวต้องไปเจอใครเขาพูดอะไรกรอกหูมาแน่ๆถึงได้กล้าถามเขาแบบนี้


“มากที่สุด” แกล้งตอบไปแบบนั้นเพราะอยากดูท่าทีของอีกฝ่าย ถึงมันจะเป็นความต้องการจริงๆของเขาก็เถอะ


“….!” ตาโตๆเบิกขึ้นหน่อยๆเมื่อได้ยินคำตอบชัดเจน


“แต่ถ้าเราไม่พร้อมพี่ก็ไม่บังคับ เคยบอกแล้วไงว่ารอได้ ยังจะคิดอะไรมากอีกฮึ?” เขาเกลี่ยแก้มนิ่มเบาๆ ยิ้มบางหวังให้น้องคลายใจ


“ถะ ถ้าพี่ยุทธต้องการ.. ผม.. ผมยอมก็ได้ครับ” ว่าจบเจ้าตัวก็โอบกอดเขาแน่น เขินอายจนต้องซุกหน้าเข้าหาลำคอแกร่ง ยุทธนาโอบรอบตัวอีกฝ่ายไว้หลวมๆเพราะยังคงอึ้งกับประโยคเมื่อครู่ไม่หาย ไอ้ดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอก แต่อะไรกันล่ะที่ทำให้น้องเป็นได้ขนาดนี้ คิดได้ดังนั้นเขาก็เลยดันตัวน้องออกเพื่อจะได้คุยกันดีๆให้รู้เรื่อง ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ยอม โอบกอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยจนสุดท้ายเขาเลยต้องยอมแพ้ พอเห็นเขานิ่งไปเจ้าตัวเลยยอมคลายแรงแขนออกนิดหน่อย เขาเลยฉวยโอกาสนั้นพลิกตัวเองไปนอนอยู่ข้างใต้แล้วให้น้องนอนทับอยู่ด้านบนแทน


“เล่าให้พี่ฟังหน่อยว่าวันนี้ได้ทำอะไรบ้าง” เขาเปลี่ยนเรื่องทันที น้องดูแปลกใจแต่สุดท้ายก็ยอมซบหน้าลงกับอกเขาอย่างผ่อนคลาย ก่อนจะเริ่มพูดเจื้อยแจ้วถึงเรื่องที่เจ้าตัวทำวันนี้ให้ฟัง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องราวที่ไม่ต่างจากทุกวันนัก ตรวจเช็คสภาพรถ ซ่อมรถ เปลี่ยนถ่ายเครื่องยนต์ หรือแม้แต่งานง่ายๆอย่างการแยกน็อต แต่น่าแปลกที่มันทำให้เขารู้สึกดีไปด้วยทุกครั้งที่น้องเล่าให้ฟัง


“แล้ววันนี้ไม่มีเรื่องตลกมาเล่าให้ฟังหรอ” บ่อยครั้งที่เจ้าตัวจะเอามุขขำๆที่ได้ยินจากพนักงานในอู่คนอื่นๆมาเล่าให้ฟัง บอกว่าคนนั้นคนนี้พูดเรื่องอะไร แต่น่าแปลกที่วันนี้ไม่เอ่ยถึงใครคนไหนซักคน และพอเขาถามอย่างนั้นเจ้าตัวก็ส่ายหน้า


“แล้วที่บอกว่าจะยอมนี่พูดจริงหรือเปล่า” เขาเปลี่ยนเรื่องอีกครั้ง แกล้งพูดจาขึงขังขึ้นเพื่อดูท่าทีของอีกฝ่าย และดูเหมือนจะได้ผล เพราะน้องดูเกร็งตัวขึ้นมาทันทีที่เขาแกล้งถาม ผ่านไปไม่นานเจ้าตัวก็พยักหน้ากับอกเขาเบาๆ ท่าทางของน้องทำให้เขาหลุดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เดือนสิบเงยหน้าขึ้นมอง เขาเลยดันตัวน้องเบาๆเป็นเชิงให้ลุกขึ้น ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวทำตามอย่างว่าง่าย อาจเป็นเพราะสีหน้าจริงจังของเขา


“ไหนเล่ามาซิว่าใครมาพูดอะไรให้ฟัง” เดือนสิบหลุบตาต่ำ น้องนิ่งไปชั่วขณะกว่าจะยอมเปิดปาก ซึ่งเขาก็รออย่างใจเย็น


“พี่ชาติ…” พูดได้แค่นั้นก็นิ่งไป แต่พอเห็นว่าเขามองอยู่ก็สูดหายใจลึกแล้วพูดต่อ “บอกว่าไม่ชอบเวลาแฟนหวงตัว ไม่ยอมมีอะไรด้วย บอกว่ามันน่าเบื่อ”


“….” เขานิ่งฟัง


“ผมกลัวว่าพี่จะเบื่อ ก็เลย.. เลย”


“เลยจะยอม” เขาต่อให้เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวไปต่อไม่ถูก เดือนสิบค่อยๆพยักหน้าลง แววตาติดจะออดอ้อนที่ส่งมาอย่างไม่ตั้งใจทำให้เขาอดจะเอ็นดูไม่ได้ อยากรวบตัวอีกคนมากอดแรงๆซักทีให้หายหมั่นเขี้ยวกับความน่ารักน่าชังนั่น แต่เพราะความอยากแกล้งมันมีมากกว่าเลยยังต้องเก๊กนิ่งเอาไว้ก่อน


“งั้นคืนนี้ก็ต้องนอนที่นี่นะ” แกล้งทำเสียงนิ่ง


“ครับ” น้องตอบรับอย่างว่าง่าย ตากลมหลุบต่ำก่อนจะก้มหน้างุดไม่ยอมสบตา ยุทธนาลอบยิ้ม มองท่าทางน่าเอ็นดูก่อนจะลุกไปโทรสั่งอาหารเพราะวันนี้พวกเขาไม่ได้แวะซุปเปอร์ และของสดที่ซื้อมาตุนไว้ในตู้เย็นก็หมด อีกเรื่องที่เขารู้คือเดือนสิบชอบทำอาหารมาก แถมยังทำอร่อยอีกต่างหาก ยิ่งอาหารพื้นบ้านทางภาคเหนืออย่าพวกแกงอ่อมหรือน้ำพริกต่างๆนี่อร่อยเด็ดขนาดว่าเพื่อนเขายังต้องยกนิ้วให้


เวลาเกือบสองทุ่มหลังจากกินข้าวเสร็จเขากับน้องก็ออกมานั่งดูทีวีอย่างทุกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ลูกแมวของเขาดูจะมีท่าทีหลุกหลิกเป็นพิเศษ ดิ้นไปดิ้นมาอยู่ไม่นิ่งจนเขาเกือบจะหลุดขำอยู่หลายรอบ แต่ก็ยังต้องนิ่งไว้เพราะอยากรู้ว่าน้องจะทำยังไงหากเขาคิดจะเอาจริงขึ้นมา เขาบอกให้น้องไปอาบน้ำหลังดูข่าวจบ เดือนสิบทำตามอย่างว่าง่าย น้องเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆและใช้เวลาอยู่ในนั้นนานจนเขากลัวว่าตัวน้องจะเปื่อยไปซะก่อนถึงได้ไปเคาะเรียก


“ใกล้เสร็จแล้วครับ” นานทีเดียวกว่าเสียงห้าวจะตอบกลับมา เขาหลุดยิ้มใส่ประตู ก่อนจะเดินมานั่งรออีกฝ่ายอยู่บนเตียง รออยู่ไม่นานร่างขาวในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่ที่เขาตั้งใจเลือกให้เป็นพิเศษก็เดินออกมา เรียวขาขาวโผล่พ้นกางเกงขาสั้นที่แทบจะเสมอกับชายเสื้อตัวใหญ่ เขามองน้องตาวาว เหมือนเป็นความจิตเล็กๆ ที่เฝ้าคิดว่าอยากเห็นแฟนอยู่ในชุดเสื้อผ้าของตัวเอง และพอได้มาเห็นจริงๆแบบนี้ก็อดยอมรับว่าเขาคิดดีไม่ได้เลย ห้องของเขา เสื้อของเขา กางเกงของเขา แม้กระทั่งคนตัวขาวๆนั่นก็ต้องเป็นของเขา!


“มานี่มา เดี๋ยวพี่เช็ดผมให้” ถึงจะดูกล้าๆกลัวๆแต่เจ้าตัวก็ยอมนั่งหันหลังให้เขาเช็ดผมบนเตียงกว้าง เขาซับน้ำจากเส้นผมสีดำขลับไปเรื่อยๆจนมันเริ่มหมาด จรดปลายจมูกสูดดมความหอมของแซมพูราคาแพง น่าแปลกที่ตัวเองก็ใช้แบบเดียวกันแต่ไม่ยักจะรู้สึกว่ามันหอมมากมายขนาดนี้ เดือนสิบสะดุ้งเล็กๆตอนที่เขาแตะนิ้วลงบนผิวแก้ม ค่อยๆเลื่อนไปถึงปลายคางมนแล้วดันให้น้องเอียงหน้ามา


แกล้งปล่อยลมหายใจรินรดแก้มใสจนอีกฝ่ายเผลอหลับตาปี๋ มือเล็กข้างหนึ่งยึดแขนเขาไว้ส่วนอีกข้างก็กำชายเสื้อยืดตัวใหญ่แน่น กลีบปากสีเรื่อในระยะประชิดช่างเรียกเลือดลมในกายได้ดี ไหนจะผิวเนื้อขาวๆที่โผล่พ้นคอเสื้อตัวใหญ่ออกมานี่อีก ยอมรับว่าทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้ากระตุกใจเขาจนมันสั่นไหวไปหมด ความคิดด้านดีที่มีอยู่น้อยนิดตั้งแต่ได้เห็นอีกฝ่ายเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อผ้าของตัวเองเริ่มร่อยหรอ จะดูเห็นแก่ตัวไปไหมถ้าเขาเลือกใช้โอกาสนี้ทำให้น้องกลายเป็นของเขาจริงๆซักที…


มีต่อค่ะ
.
.

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
.
.

“สิบ” เขากระซิบเรียก ใช้นิ้วคลึงเล่นที่มุมปากสวยเบาๆ กระทั่งดวงตากลมโตเปิดปรือขึ้น แววสั่นไหวจ้องมองกลับมา ม่านตาดำขลับสะท้อนภาพของเขาชัดเจน มีแค่เขาที่อยู่ในสายตาของเดือนสิบ


“พี่อยากให้เรายอมเพราะมันเป็นความต้องการของเราเอง ไม่อยากให้ยอมเพราะฟังคนอื่นพูดมา พี่เคยบอกไปแล้วว่ารอดะ.. อื้ม!” ถ้อยคำถูกเก็บกลืนเมื่อน้องเป็นฝ่ายแตะริมฝีปากลงมา มือเล็กเลื่อนประคองสองข้างแก้มสากก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นฝ่ายยกตัวขึ้นมานั่งคร่อมลงบนตักเขา กลีบปากนุ่มนิ่มผละออก ก่อนที่ป้านนิ้วโป้งจะเขามาแทนที่ เกลี่ยเบาๆขณะที่ม่านกลมเลื่อนขึ้นมาสบกัน


“ผมเชื่อใจพี่” กลีบปากเย็นชืดแตะลงมาเบาๆแล้วผละออก ความน่ารักของอีกฝ่ายทำให้เส้นความยับยั้งชั่งใจขาดสะบั้น ในหัวพร่าเบลอยามริมฝีปากประกบเข้าหากันอย่างนุ่มนวล


สัมผัสบางเบาราวปุยนุ่นพาจิตใจให้สั่นไหวค่อยๆ ทวีความหนักหน่วงเพิ่มมากขึ้นตามแรงอารมณ์ที่ปะทุอยู่ในอก เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นมาประคองข้างแก้มน้องเพื่อให้ตอบรับปลายลิ้นที่สอดแทรกเข้าไปได้อย่างถนัดถนี่ บดเคล้าเกี่ยวกระหวัดสลับดูดดึงเอาความหวานละมุนของรสชาติที่ลิ้มลองเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ มันทำให้เขาอยากได้อีก และอยากได้มากกว่านี้


“อื้อม.. พะ พี่ยุทธ” เสียงครางเครือดังรอดออกมาให้ได้ยินยามกลีบปากผละห่าง ความอุ่นชื้นไล่จูบซับทั่วใบหน้า ก่อนจะกลับมามอบความหอมหวานผ่านรสจูบร้อนแรงอีกครั้ง เดือนสิบโอบรอบลำคอแกร่งแน่นยามแผ่นหลังแตะลงกับที่นอนนุ่ม ผิวเนื้อถูกฟอนเฟ้นหนักหน่วงโดยเฉพาะช่วงสะโพกเพรียวที่เจ้าของมือใหญ่ดูจะชอบใจมากกว่าที่ไหนๆ เสื้อนอนตัวใหญ่ถูกเลิกขึ้นสูงก่อนจะหลุดออกไปเมื่อร่างสูงไม่ต้องการให้มันอยู่เกะกะ แววตาคมกริบที่กำลังกวาดมองทั่วร่างขาวเกือบเปลือยเต็มไปด้วยความต้องการมากมายจนจวนระเบิด


“อ๊ะ! พะ พี่ยุทธ อึก” หลุดครางเสียงหลงยามที่ส่วนกลางลำตัวถูกโจมตีด้วยฝ่ามือหนา ลืมตาขึ้นมองก็เห็นว่านัยน์ตาคมกริบกำลังจ้องมาที่เขาไม่ต่างกัน ก่อนที่ใบหน้าคมคายจะเคลื่อนเข้ามาชิดจนเดือนสิบเผลอหลับตาปี๋


“สิบ..”


“….” คนถูกเรียกเสียงอ่อนเสียงหวานเอาแต่หลับตาแน่น


“สิบครับ..”


“ฮื้ออ.. ไม่เอา ..อึก อย่าเรียก” เดือนสิบงอแง ปิดหูปิดตาหวังหลบหนีน้ำเสียงแหบพร่าและนัยน์ตาคมกริบเต็มไปด้วยความปรารถนาที่กำลังลุกโชน มันโหมกระพือเข้ามาปลุกปั่นความรู้สึกของเขาให้ปั่นป่วนจนแทบจะไม่เป็นตัวของตัวเอง


“เด็กดี.. มองพี่” เสียงทุ้มเต็มไปด้วยความอ่อนโยนทำให้เดือนสิบลืมตาขึ้นมอง นัตน์ตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววอ่อนโยนที่ได้เห็นอยู่บ่อยครั้งกำลังจับจ้องมาที่เขา เพียงแต่ครั้งนี้มันดูแน่วแน่มากกว่าครั้งไหนๆ จ้องลึกราวกับจะบอกย้ำให้เขาเชื่อใจ.. มือหนาบีบกระชับมือเล็กแน่นเข้า ก่อนจะยกขึ้นจรดริมฝีปากแล้วจูบลงมาเบาๆ


เพียงเท่านั้นเดือนสิบก็รู้สึกโล่งไปทั้งใจ ความกลัวที่เคยมีถูกปัดเป่าด้วยจุมพิตบางเบาแต่แสนอ่อนโยน เขาจ้องสบกับความแน่วแน่ที่ส่งมา ย้ำชัดกับตัวเองว่าเขารู้สึกปลอดภัยยามที่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้


เดือนสิบหลับตาลงอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายกดจูบลงมา มันอ่อนโยนแต่ก็เต็มไปด้วยความปรารถนาลึกล้ำ ทั่วกายโล่งวูบเมื่ออาภรณ์ชิ้นสุดท้ายถูกถอดออกไปอย่างไม่ใยดี ก่อนที่อีกฝ่ายจะแทรกกายเข้ามาอยู่ระหว่างขา เนื้อตัวเปลือยเปล่าที่เข้าสัมผัสกันแนบแน่นจนรับรู้ถึงความร้อนรุ่มที่แนบอยู่กับรอยแยกด้านหลังทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก


“อ๊ะ!” เดือนสิบแทบจะระเบิดตัวเองเป็นผุยผงซะเดี๋ยวนั้น ทั้งตัวสั่นคลอนยามยามอีกฝ่ายแกล้งขยับกายเร่งเร้าเข้าหาเป็นจังหวะเนิบช้าอย่างแกล้งๆ เสียงหัวเราะในลำคอหนาแว่วให้ได้ยินยิ่งเพิ่มความร้อนให้มากระจุกรวมบนใบหน้าอีกเป็นเท่าตัว เดือนสิบได้แต่หลับตาหอบถี่ เขาคงต้องระเบิดตัวเองตายจริงๆแน่ถ้าอีกฝ่ายยังไม่หยุดแกล้งกันซักที


“อึก.. อย่าแกล้ง.. พียุทธ อยะ.. อื้อ!” เสียงประท้วงถูกดูดกลืน แขนเรียววาดโอบรอบลำตัวอีกฝ่ายแน่นยามจุมพิตร้อนแรงกดแนบลงมาซ้ำๆ ครางแผ่วในลำคอยามที่ฝ่ามือหนาลากผ่านผิวเนื้อ ฟอนเฟ้นสลับบีบคลึงเบาๆให้ได้หอบสะท้าน


“อ.. อึก..” เสียงสะอื้นแผ่วหลุดรอดถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามกลั้นมันไว้แค่ไหน ยุทธนาจูบซับไปทั่วทั้งผิวเนียน ฝากรอยรักเอาไว้ทุกพื้นผิวยามที่ริมฝีปากเคลื่อนผ่าน เดือนสิบผวาเฮือกขาเรียวกระตุกเกร็งอย่างตกใจเมื่อริมฝีปากร้อนกดแนบลงบนซอกขาอ่อนด้านใน ม่านกลมเปิดปรือขึ้นมองอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ก็แทบจะหลับปี๋ลงในทันที เพราท่วงท่าตอนนี้ช่างชวนให้ใจกระตุกเหลือเกิน ใบหน้าแดงซ่านเชิดแหงน เสียงดูดดึงผิวเนื้ออ่อนดังชัดเรียกเลือดในกายให้พลุ่งพล่าน จนเดือนสิบต้องสะบัดหน้าร้อนผ่าวไปมาอย่างหาที่ระบาย


“สิบ..” ยุทธนาเงยหน้ามองน้อง ท่าทางของอีกฝ่ายตอนนี้ช่างกระตุ้นความต้องการของเขาเหลือเกิน แก้มใสแดงระเรื่อเพราะแรงอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ ดวงตาฉ่ำน้ำค่อยๆเปิดปรือขึ้นอย่างช้าๆ ดูออดอ้อนและเรียกร้องให้กระทำอยู่ในที เขาจับขาเรียวให้แยกออกกว้างเมื่อส่วนกลางลำตัวปวดหนึบจนไม่อาจทนไหว เฝ้ากระซิบถ้อยคำปลอบประโลมยามปลายนิ้วค่อยๆแทรกผ่านความอ่อนนุ่มเพื่อเบิกทาง เดือนสิบหลับตาปี๋กลั้นเสียงสะอื้นโดยการกัดริมฝีปากไว้แน่นจนน่ากลัวว่ามันจะช้ำไปเสียก่อน


“อย่ากัดปาก” เขากระซิบเสียพร่า จูบเบาๆลงบนกลีบปากบวมช้ำ ฟันคมขบกัดเบาๆที่ริมฝีปากล่างอย่างหยอกล้อ แกล้งขยับปลายนิ้วที่เพิ่มจำนวนเป็นสามเข้าออกเร็วๆ จนใบหน้าน่ารักสะบัดส่าย ปลายหางตามีหยาดน้ำใสคลอเคลีย ยิ่งเห็นแผ่นอกเนียนที่บัดนี้เต็มไปด้วยรอยจูบสะท้อนขึ้นลงไม่เป็นจังหวะตามแรงอารมณ์ที่เขาเป็นคนปลุกปั่น ส่วนกลางกลายที่แม้ไม่ได้แตะต้องก็ยิ่งขยายใหญ่เพราะความต้องการที่มากมายจวนเจียนระเบิด


“อึก.. ก อื้อ..” ก้มลงดูดกลืนกลีบปากสวยอีกครั้ง เกี่ยวกระหวัดสลับดูดดึงเข้ากับปลายลิ้นเล็กอย่างหยอกล้อ เสียงครางอื้ออึงในลำคอเล็กสลับกับเสียงจาบจ้วงยามริมฝีปากสวยถูกดูดกลืนยิ่งกระตุ้นความปรารถนาให้โหมกระพือ เขาแยกเรียวขาขาวให้กว้างขึ้นเมื่อเริ่มทนไม่ไหว จับให้พาดผ่านช่วงเชิงกรานก่อนจะจ่อความต้องการร้อนผ่าวลงบนปากทางเข้า


“พี่จะอ่อนโยน” เขากระซิบชิดริมหู ขบกัดเบาๆเรียกแรงสะดุ้งเล็กๆจากอีกคน


“ฮึก” เดือนสิบหลับตาแน่น มีเพียงเสียงสะอื้นตอบกลับมา ก่อนที่เส้นความอดทนของเขาจะขาดผึงยามเมื่อน้องยอมพยักหน้าลงเบาๆเป็นเชิงอนุญาต


“พี่รักสิบ”


เสียงทุ้มเอ่ยชิดกลีบปากสวย ยุทธนาจูบน้องอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆกดแทรกความต้องการแข็งขืนเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่ม และเพียงแค่เริ่มอีกฝ่ายก็แสดงท่าทีเจ็บปวดออกมาให้ได้เห็น ใบหน้าอ่อนใสแดงเรื่อบิดเบ้ หยดน้ำใสปริ่มที่หางตาจวนเจียนจะไหล
เดือนสิบผวาเฮือก มือไขว่คว้าหาที่พึ่งจนเขาต้องรวบเอามากุมไว้ จูบซับหยาดน้ำใสก่อนจะเข้าดูดกลืนเสียงสะอื้นแผ่วอีกครั้งอย่างปลอบประโลม


“ฮึก อย่าทิ้งผมนะ ..อย่าทิ้งผม” เสียงแหบพร่ำบอกยามที่กลีบปากบวมช้ำถูกปล่อยให้เป็นอิสระ


“ชู่ว.. เด็กดี ไม่ทิ้ง ไม่ทิ้งครับ เชื่อใจพี่นะ” เขาจูบลงบนหน้าผากเนียน ขบกรามข่มความต้องการมหาศาลที่ตีตื้นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อไม่ให้เผลอกระทำรุนแรงตามใจอยาก ยุทธนาคำรามต่ำในลำคอ ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆยามแทรกผ่านความแข็งขืนเข้าไปในช่องทาองอ่อนนุ่ม เขาทำมันด้วยความอ่อนโยนค่อยๆผลักดันอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งสุดความยาว ยุทธนาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ความอ่อนนุ่มที่โอบรัดอย่างบ้าคลั่งจนต้องคำรามต่ำในลำคอ


“อย่าเกร็งสิเด็กดี.. ผ่อนคลายหน่อยนะ” เอ่ยชิดใบหูขาวสะอาดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ขบกัดเบาๆก่อนจะไล่จูบซับทั่วขมับเนียนชื้นเหงื่อ


“ฮึก.. ผมรักพี่ยุทธ อย่าทิ้งผมนะ อย่าทิ้งนะ” เดือนสิบโอบกอดเขาไว้แน่น ใบหน้าน่ารักบิดเบ้เพราะความเจ็บจุกซุกซบเข้ากับบ่ากว้าง พร่ำบอกซ้ำๆด้วยน้ำเสียงแหบพร่าราวกับจะร้องไห้ออกมาว่าไม่ให้ทิ้งกัน


“สิบ..” ยุทธนาคำรามชื่ออีกฝ่ายในลำคอ ก้อนเนื้อในอกพองโตจนเขากลัวว่ามันจะระเบิดไปเสียก่อนเพียงเพราะได้ยินคำรักหวานหู …น้องจะรู้หรือเปล่าว่าการบอกรักเขาทั้งที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้มันยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนรุ่มขึ้นอีกเป็นไหนๆ ยิ่งเจ้าตัวเกร็งร่างโอบกอดเขาไว้แน่นแบบนี้ช่องทางเบื้องล่างก็ยิ่งตอดรัดถี่ๆจนเขาเสียวซ่านไปหมด ยุทธนาดันตัวน้องออกเพียงเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆหยัดกายขึ้น เขาวางท่อนแขนแกร่งท้าวลงกับพื้นที่นอนนุ่ม ตาคมกวาดมองทั่วทั้งเนื้อตัวขาวเนียนของร่างใต้อาณัติอย่ารักใคร่


“เด็กดี..” มือหนาสอดเข้ากับฝ่ามือเล็กของน้อง ก่อนที่กลีบปากนุ่มจะถูกเขาครอบครองอีกครั้ง ยุทธนาบีบมือเล็กเบาๆ ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกช้าๆเมื่อเห็นว่าน้องพรั่งพร้อมและตัวเขาเองก็เริ่มทนไม่ไหว เดือนสิบได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงอยู่ในลำคอเพราะเขาไม่ยอมปล่อยให้ริมฝีปากน้องเป็นอิสระ จูบเชื่องช้าค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ที่พุ่งสูง พอๆกับช่วงล่างที่เริ่มสาวเข้าออกเร็วขึ้นไม่แพ้กัน


“อ๊ะ.. อ๊า!” เสียงครางกระท่อนกระแท่นดังขึ้นเมื่อเขาผละจูบออกมา กายเล็กสั่นคลอนยามเขาเร่งจังหวะเสือกไสความต้องการเข้าไปในช่องทางคับแคบ ยุทธนาเกี่ยวกระชับเอวบางแน่น ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วอัดสะโพกเข้าหาอย่างหนักหน่วงเมื่อไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เดือนสิบหวีดร้องลั่นยามเมื่อส่วนปลายร้อนผ่าวบดขยี้เข้าโดนจุดกระสันภายในซ้ำๆ และอีกคนก็เหมือนจะรู้ว่าตรงจุดไหนที่ทำให้น้องรู้สึกดีถึงได้จงใจกดขยี้เข้าหาแต่ตรงจุดนั้นซ้ำๆ ราวกับจะแกล้งกันให้ได้ขาดใจตาย


“อืมม.. สิบ” ยุทธนาคำรามต่ำในตอนที่ม่านตาคมกวาดมองทั่วใบหน้ายั่วยวนของคนรัก ยิ่งอีกฝ่ายแสดงออกทางสีหน้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งสุมไฟแห่งความปารารถนาของเขาให้ลุกโชนมากขึ้นเท้านั้น อดคิดไม่ได้ว่าท่าทางของน้องตอนที่ถูกเขากระแทกกายเข้าหาอย่างเร่าร้อนแบบนี้มันกระตุ้นอารมณ์ได้ดีจนอยากจะทำซ้ำๆ


นัยน์ตากลมโตปรือมองร่างใหญ่ที่กำลังเสือกกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง ขาเรียวถูกแยกออกกว้างกว่าเดิม ก่อนที่ยุทธนาจะรั้งมันพาดไว้บนบ่ากว้าง ส่วนอีกข้างก็จับให้พาดผ่านช่วงแขนแกร่ง กระชับช่วงสะโพกเพรียวไว้มั่นแล้วขยับกายเสือกไสเต็มอัตรา


“อ๊า! พะ อึก พี่ยุทธ!” เดือนสิบหวีดลั่น สะบัดหน้าไปมากับหมอนหนุน ขณะที่มือไขว่คว้าหาหลักยืดก่อนจะจิกทึ่งลงกับผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่เพื่อระบายความเสียวซ่าน ทั่งร่างไหวคลอนตามแรงส่งที่อัดกระหน่ำเข้ามาซ้ำๆ ลมหายใจสะดุดจนแทบขาดห้วงยามอีกคนจงใจบดขยี้เข้าหาจุดเดิมซ้ำๆ เดือนสิบหอบถี่ มือเล็กข้างหนึ่งวางลงบนอกกว้างก่อนจะเลื่อนลงต่ำเพื่อดันหน้าท้องแกร่งที่เสือกเข้าหาให้ลดจังหวะลง แต่แทนที่เจ้าของแรงส่งจะทำตามคำอ้อนวอน ยุทธนากลับรวบมือน้องมากุมไว้แน่น และเร่งจังหวะเร็วขึ้นไปอีกจนร่างเล็กหวีดลั่น


“พียุทธ.. ช้า อ๊า! ช้าหน่อย ไม่ไหว อึก! ไม่ไหวแล้ว” เดือนสิบสะบัดหน้าไปมาอย่างกระสับกระส่าย ความเสียดเสียวพุ่งโจมตีหนักหน่วงทั่วทั้งร่างจนแทบระเบิดเป็นจุน ช่องท้องบิดมวนอย่างบ้าคลั่งเมื่ออีกฝ่ายจงใจอัดกระแทกลงมาซ้ำๆไม่ปราณี เขาหอบถี่ แหงนหงายใบหน้าครางกระเส่าไม่แพ้อีกคนที่คำรามต่ำและเอาแต่โยกกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง


“สิบ.. เรียกชื่อพี่ ซี้ดด สิบ”


“อ๊ะ! ยุทธ พี่ยุทธ.. อื้ออออ!”


สุดท้ายเมื่อร่างกายไม่อาจต้านความเสียวกระสันที่ถาโถม ร่างเล็กก็บิดเกร็งและปลดปล่อยความสุขสมออกมาหมดสิ้นจนเต็มหน้าท้องแบนราบไปจนถึงหน้าท้องแกร่ง เดือนสิบหอบถี่ราวกับคนที่กำลังขาดอากาศหายใจ มือทั้งสองข้างจิกทึ้งลงบนบ่าแกร่งของคนเบื้องบนที่ยังเสือกกายเข้าหาไม่หยุด


“อ่าาา!”


ได้ยินเสียงคำรามต่ำก่อนจะถูกเชยคางให้แหงนรับจูบลึกล้ำที่บดเบียดลงมา รับรู้ได้ว่ากล้ามเนื้อของคนเป็นพี่ขมวดเกร็งก่อนที่อีกฝ่ายจะปลดปล่อยความอุ่นร้อนเข้ามาจนเต็มช่องทางที่ยังขมิบรัดไม่หยุด ยุทธนาพรมจูบทั่วใบหน้าชื้นเหงื่อแดงระเรื่อของน้องอย่างหลงใหล จูบย้ำๆลงไปบนกลีบปากบวมเจ่ออย่างรักใคร่ ก่อนจะทาบทับกายแกร่งซุกหน้าเข้าหาซอกคอหอมๆแล้วสูดเอาอ๊อกซิเจนเข้าปอดถี่ๆไม่แพ้กัน


“พี่รักเรานะเดือนสิบ” เอ่ยจบก็กดจูบลงบนลาดไล่ขาว “ขอบคุณที่ไว้ใจพี่ ขอบคุณครับ”


คนฟังยิ้มจาง ฝ่ามือเล็กยกขึ้นลูบไล้แผ่นหลังกว้างชื่นเหงื่อไปมาก่อนจะโอบรัดเอาไว้จนเต็มอ้อมแขน “ผมก็รักพี่ อย่าทิ้งผมนะ อย่าเบื่อผม” เดือนสิบตอบรับเสียงพร่า ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาปัดปอยผมชื้นเหงื่อออกจากใบหน้าคมคาย แล้วกดจูบลงไปเบาๆบนขมับชื้นเหงื่อของคนเป็นพี่อย่างรักใครไม่ต่างกัน


ยุทธนาเงยหน้ามองคนที่กำลังคลี่ยิ้มจางส่งมาให้อย่างอึ้งๆ สัมผัสอุ่นที่แนบลงมาเมื่อครู่ยังคงแจ่มชัดในความรู้สึกถึงแม้ว่าอีกคนจะผละออกไปแล้วก็ตาม ไม่คิดว่าแค่น้องสัมผัสเพียงบางเบาจะทำให้เขารู้สึกดีได้มากมายขนาดนี้ เขายิ้มตอบ ก่อนจะก้มลงไปมอบจูบหวานล้ำให้เป็นรางวัลกับการกระทำน่ารักนั่น และน้องเองก็หลับตาพริ้มยอมรับสัมผัสอย่างยินดี


…ลูกแมวของเขาชักจะน่ารักเกินไปแล้ว


.

.


นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เดือนสิบเอาแต่นอนจ้องมองใบหน้าคมคายของคนที่เฝ้ากกกอดเขาไว้แบบนี้ทั้งคืน คลี่ยิ้มบางเบายามที่ปลายนิ้วลากผ่านสันจมูกโด่งของคนที่กำลังหลับใหลไม่รู้เรื่องแล้วอีกฝ่ายครางฮือ แต่พอเผลอเลื่อนสายตาลงต่ำแล้วพบกับแผ่นอกกว้างที่กำลังสะท้อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะก็พลันหน้าเห่อร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น เดือนสิบหัวเราะเบาๆให้กับอาการบ้าบอของตัวเอง ยอมรับว่าตอนนี้เขากำลังมีความสุขมากจริงๆ มีความสุขที่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้ อ้อมกอดของคนที่เขากล้าพูดได้เต็มปากว่า ‘รัก’


“อืมม” เสียงครางฮือจากคนที่กำลังหลับใหลก่อนที่อ้อมแขนแกร่งที่พาดผ่านอยู่บนช่วงเอวจะกระชับแน่นเข้า ยุทธนาขมวดคิ้วยุ่งเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่รบกวนเวลานอน เขาเปิดเปลือกตาขึ้นมองเพียงเล็กน้อย พอเห็นใบหน้าน่ารักของคนที่เฝ้ามอบความสุขให้กันมาตลอดทั้งคืนอยู่ใกล้แค่คืบก็คลี่ยิ้มให้


“ขี้เซา..” คนตื่นก่อนลากเสียงยาว ก่อนจะทำให้คนเมาขี้ตาใจเต้นตึกตักรับอรุณโดยการยกตัวขึ้นมาจุ๊บเบาๆที่ปลายคางสาก


“ใครสั่งใครสอนให้ทำตัวน่ารักแบบนี้ฮึ!?” เอ่ยจบก็รวบร่างขาวเข้ามาจนเต็มอ้อมแขนก่อนจะเพิ่มแรงรัดแน่นขึ้นเพราะความหมั่นเขี้ยว ทว่าอีกฝ่ายกลับอุทานเสียงหลง ซ้ำใบหน้ายังบิดเบ้เพราะความเจ็บแล่นริ้วตั้งแต่ช่วงสะโพกเพรียวมาจนถึงบั้นเอวที่ถูกร่างสูงกอดรัดแน่น ยุทธนารีบคลายแขนออกโดยอัตโนมัติเมื่อพอจะมองออกน้องเป็นอะไร


“เจ็บมากรึเปล่า พี่ขอโทษ” เขาว่าอย่างรู้สึกผิด น้องส่ายหน้าแล้วยิ้มจางให้ น่ารักน่าใคร่จนอดใจไม่ไหวต้องเอ่ยเย้า “คราวหน้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ็บ” เอ่ยจบก็โดนฝ่ามือเล็กๆเข้าตะครุบปากแทบไม่ทัน


“ใครจะยอมให้มีครั้งหน้ากัน” ยุทธนาหัวเราะในลำคอ แกล้งตวัดปลายลิ้นลงบนฝ่ามือขาวจนเดือนสิบถึงกับทำหน้าแตกตื่นชักมือกลับแทบไม่ทัน ตากลมๆมองค้อนใส่อย่างเอาเรื่อง แต่มองยังไงก็ลูกแมวหัดขู่ชัดๆ


“ไม่ยอมก็จับปล้ำ จะเอาทั้งวัน ทั้งคืนไม่ให้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันเลยคอยดู”


“ฮื้ออ! พี่ยทธธธ อย่าแกล้ง” คนขี้อายปิดหน้าหนี ส่ายหัวไปมาจนผมที่ยุ่งอยู่แล้วยุ่งเหยิงเข้าไปอีก


“ว่าแล้วก็จัดอีกซักรอบดีไหมฮึ? หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ทำบ่อยๆจะได้หายเจ็บไง” เขาว่าอย่างอารมณ์ดีพลิกตัวขึ้นคร่อมน้องไว้ก่อนก้มลงไปฟัดร่างขาวๆจนเต็มเม็ดเต็มหน่วย


“พี่ยุ๊ทธธธ ไม่เอาาาาา” ยิ่งอีกคนโยนวายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะถูกใจจากลำคอหนาได้มากเท่านั้น


กระทั่งกอดรัดจนพอใจ ยุทธนาถึงได้ยกตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้มองหน้าแดงๆของน้องได้ถนัด เดือนสิบหอบถี่ กลีบปากเผยออ้าเล็กๆยามกอบโกยออกซิเจนเข้าปอด แก้มใสแดงเรื่อ ดวงตาฉ่ำน้ำปรือปรอยด้วยความเหนื่อยอ่อนเพราะออกแรงดิ้นหนีริมฝีปากร้ายกาจของเขา หากแต่ประกายความสุขที่สะท้อนออกมากลับไม่จางหายไป เขาขยับตัวลงนอนข้างๆรวบน้องมากอดไว้จนเต็มอ้อมแขน  ริมฝีปากแทบจะแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา …มีความสุขจนอยากจะหยุดเวลาไว้แค่นี้


.

.


“ไม่ต้องมาจับ!” ปืนมองคนตัวเล็กกว่าที่สะบัดแขนออกจากมือเขาไปอย่างไม่ใยดี พีทกอดอกฉับ ใบหน้าสวยบึ้งตึงบ่งบอกอารมณ์ไม่พอใจระดับสิบ ปืนถึงกับถอนหายใจพรืดด้วยความอ่อนใจ มันจะไม่อะไรเลยถ้าเรื่องที่ ‘แฟน’ กำลังโกรธเคืองจะไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจผิดกันน่ะ


ใช่ เขากับพี่พีทตกลงคบหาดูใจกันมาได้ซักระยะแล้ว จริงๆก็ตั้งแต่กลับมาจากทะเลนั่นแหละ แต่จะพูดว่าเป็นแฟนกันก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะพี่มันบอกว่าขอดูพฤติกรรมเขาก่อน ซึ่งตรงนี้ไอ้ปืนงงมาก เป็นคนมาอ่อยเขาก่อนแท้ๆแต่พอเขาขอคบด้วยกลับมาทำยึกยัก แต่เอาเถอะ ถึงพี่มันจะว่าอย่างนั้นแต่ทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ไม่ได้ต่างจากคนเป็นแฟนกันนักหรอก


ส่วนไอ้เรื่องที่ทะเลาะกันอยู่ตอนนี้ก็เป็นปัญหาเดิมๆซึ่งตัวต้นเหตุก็เขาเองนี่แหละ ก็แหม.. เวลาเห็นเมียฟึดฟัดไม่พอใจแล้วมันก็รู้สึกดีนี่หว่า ปกติพี่มันแสดงออกที่ไหน ไม่ทำหน้าง่วงๆใส่ก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์ ไม่มีหรอกที่จะมาอ้อร้อใส่เหมือนเมื่อตอนก่อนจะได้กัน แล้วใครเซ็งล่ะครับ ก็ไอ้ปืนไงจะใครล่ะ ว่าแล้วก็ขอบ่นหน่อยเถอะ เอาจริงตั้งแต่ได้กันครั้งแรกที่ทะเลพี่มันก็ไม่ยอมให้เขาอีกเลยอ่ะ ถึงจะลากมานอนด้วยกันบ่อยๆแต่มากสุดก็ได้แค่ดูดๆเลียๆไง ไม่รู้จะเล่นตัวอะไรนักหนา แต่เอาเข้าจริงก็อดยอมรับไม่ได้เหมือนกัน ว่าพอพี่มันทำแบบนี้ก็เหมือนกำลังกระตุ้นให้เขาอยากเอาชนะ คือวันไหนตะล่อมเอาพี่มันได้นี่คือมิชชั่นคอมพลีทอ่ะ


 “โถ่พีท.. ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ เขาเป็นแค่รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่า” คนฟังส่งเสียงเฮอะขึ้นจมูก ตวัดมองเขาตาขวาง ดูก็รู้ว่าไม่เชื่อเรื่องที่เขาพูด เดียวนี้ไม่มีแล้วพี่ๆผมๆอ่ะเพราะมันไม่อิน หึ! จริงๆก็อยากเรียกเมียนั่นแหละ แบบเรียกพีทมันไม่เคลียร์ ขอเรียกเมียได้หรือเปล่า!


บอกเลยว่าหลงเมีย(ครั้งเดียว)หนักมาก นี่ยืดอกยอมรับแบบตรงๆเลยนะว่าได้หลังแล้วลืมหน้าอ่ะ แต่จะทำไงได้ ก็พี่มันน่ารัก 


“แล้วรุ่นน้องนี่มันจำเป็นต้องกอดกันแนบแน่นขนาดนั้นเลยรึไง! ถ้ากูไม่ไปเจอก่อนมึงคงพาน้องเขาไปขึ้นสวรรค์ชั้นไหนแล้วสิท่า! ชอบนักนี่หมวยๆขาวๆน่ะ! ชอบนักก็ไปเลย ไปเอากับเขาโน่นไม่ต้องมายุ่งกับกูแล้ว! มึงแม่งเหี้ย! อึก! ไม่ต้องมาจับกูเลย!”


ไอ้ปืนถึงกับร้องชิบหายอยู่ในใจ เมื่อเห็นน้ำใสๆเริ่มเอ่อคลอเต็มหน่วยตาเรียวสวย พี่มันกลั้นสะอื้นพลางยกมือขึ้นปากน้ำตาออกลวกๆ ก่อนจะสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้ยากหน่อยเพราะเขายึดไว้แน่น เจ้าตัวเลยทำได้แต่ถลึงตาแดงๆนั่นใส่ ยอมรับว่าเมื่อกี้นี่ใจเสียเลย ถึงจะเคยทะเลาะกันเพราะเรื่องผู้หญิงที่เข้ามาวอแวกับเขาอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่พี่มันจะร้องไห้ออกมาแบบนี้ เห็นแล้วก็อดสงสารได้ สงสัยคราวนี้จะแกล้งแรงไปจริงๆว่ะครับ


“ใจเย็นๆก่อนดิพีท มันไม่มีอะไรจริงๆ น้องหมวยเขาแค่จะล้มปืนเลยเข้าไปช่วยพยุง ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านั้นจริงๆครับ สาบาน” เขาพูดดีๆ ชูสามนิ้วขึ้นตรงหน้าอีกฝ่าย


“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย มึงมันเหี้ย” คนตัวเล็กว่าแล้วสะบัดหน้าหนี ไอ้ปืนเห็นช่องเลยเข้าไปรวบกอดอีกคนจากทางด้านหลังไว้แน่น เจ้าตัวขัดขืนในทีแรกแต่พอสู้แรงคนอายุน้อยกว่าไม่ได้เลยต้องยอมปล่อยให้มันกอดอยู่อย่างนั้น


“ครับ เหี้ยก็เหี้ย” ไอ้ปืนตอบรับเสียงหวาน แอบยิ้มกริ่มเมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มสงบลง


“มึงมันเลว”


“ครับ เลวครับ” ว่าแล้วก็รวบกอดพี่มันแน่นขึ้น ชอบนักล่ะเวลาต้องง้อแบบถึงเนื้อถึงตัวเนี่ย แล้วไอ้คนนี้ก็จะน่ารักไปไหน ปากด่าแต่ก็ยอมยืนนิ่งให้กอดให้หอม เพราะแบบนี้ไงเขาถึงได้ชอบแกล้งอีกฝ่ายนัก


“มึงมันเจ้าชู้หลายใจ!”


“เลิกหมดแล้วครับ ตอนนี้มีแค่คนนี้คนเดียว มีแค่พีท หลงจะตายอยู่แล้ว” ไม่ว่าเปล่ายังฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มๆนั่นไปอีก


“เฮอะ” พีทฮึดฮัด ขัดใจที่ด่าอะไรไปไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเสียน้ำตาด้วยความคับแค้นใจก็ตอบรับกลับมาด้วยความยินดี ซ้ำร้ายมันยังฉวยโอกาสเข้ามากอดมาจูบอย่างหน้าด้านๆ ทั้งๆที่มีความผิดติดตัวอีกต่างหาก แต่จะโทษมันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดขัดขืนจริงจังตั้งแต่แรก ถึงจะโกรธจะน้อยใจแค่ไหน แต่พอมันเข้ามาง้อมาพูดด้วยดีๆทีไรเป็นต้องโอนอ่อนผ่อนตามให้ตลอด เกลียดตัวเองจริงๆ



***********



 :katai5: ถึงกับหอบเลยทีเดียว เป็นตอนที่ปาดเหงื่อไปหลายรอบมากจริงๆค่ะ
ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วคงไม่ได้มาบ่อยๆ (พูดเหมือนปกติมาบ่อย) ฮาา แต่ก็จะพยายามไม่ทิ้งช่วงนานค่ะ กลัวคนอ่านจะหายไปซะก่อน อิอิ
ตอนที่แล้วมีคนเม้นว่าอิปืนไวว่องปานกามนิตหนุ่ม นี่ถึงกับไปเสิร์จกูเกิลเลยทีเดียว
มันแปลว่าคนที่ทำอะไรคนที่ทำอะไรได้สำเร็จในเวลาอันรวดเร็วรึเปล่าคะ  :z1:
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกๆคนที่หลงเข้ามาอ่านมากๆเลย ทุกๆคอมเม้นและทุกๆยอดวิวเป็นกำลังใจให้เรามากจริงๆค่ะ  :L1:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2017 23:21:27 โดย เล็กต้มยำ »

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ชอบปืนอ่ะ 5555


ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
เย้ยยยย คู่หลักเขาตามมาติดๆเลย คู่รองก็ไม่เบา #ทีมหลงเมียหนักมาก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :pig4: :pig4:
สิบน่ารักกก
ชอบปืนพีทด้วยยย  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
พี่ยุทธมิชชันคอมพลีทจ้าาาาาา
ผู้ชายอะไรอบอุ่นมากกกกกกก

น่ารักทั้งพี่ทั้งน้อง....

ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แหมไม่น้อยหน้าคู่เพื่อนสนิทเลย  :heaven

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
จัดเต็มเลยทีเดียวค่ะพี่ยุทธ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :mew1:หัวใจลอยเต็ม

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ชอบพี่ยุทธ ในที่สุด  :mc4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ทำไมคู่รองเหมือนจะหวาน ไม่ซิพ่อแง่แม่งอนกันจัง

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
น่ารักมากไม่ไหวแล้วพี่ยุทธอ่อนโยนกับน้องมาก  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ยุทธสิบน่ารัก เค้าได้กันแล้วเหว้ยแกรรรรร  :katai2-1: ส่วนปืนพีทนั้นพ่อแง่แม่งอนสุดๆ 5555555

ออฟไลน์ TheP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่ยุทธคอมพลีทแล้วว   :mc3: :mc3:
เดือนสิบน่ารักมากก อิปืนนี่กวนสุด  :give2:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
ทำไมรู้สึกชอบคู่ปืน

ออฟไลน์ PYonG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แอร๊ยยย เขาได้กันแล้ว
พี่ยุทธจัดเต็มเลยทีเดียว
 :-[ :-[

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
หลงน้องสิบบบบ

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

16


“เฮ้อ…” เดือนสิบมองเพื่อนสนิทที่ฟุบหน้าลงกับเตียงเขาแล้วเอาแต่ถอนหายเฮือกๆ อย่างหมดอะไรตายอยาก ก่อนจะยื่นมือไปสะกิดมัน


“เป็นไรของมึงวะไอ้ปืน มาถึงก็เอาแต่ถอนหายใจเฮือกๆรดที่นอนกูเนี่ย”


“กูเครียด” มันตอบอู้อี้


“เรื่อง?”


“เมียไม่ให้เอา”


พอได้ฟังเหตุผลก็ถึงกับหัวเราะลั่นจนไอ้ปืนหันมามองตาขวาง เรื่องที่มันคบกับพี่พีทเขารู้ดีเพราะไอ้ปืนชอบมาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ บอกพี่พีทไม่สนใจมันงั้นงี้ เดือนสิบฟังแล้วก็ได้แต่สมน้ำหน้ามันอยู่ในใจ เพราะไม่บ่อยนักหรอกที่จะได้เห็นคนเจ้าชู้ควงสาวเป็นว่าเล่นอย่างมันมานั่งบ่นเป็นหมีกินผึ้งว่าเมียไม่สนใจ


“มึงว่ากูควรทำไงดีวะ” ไอ้ปืนลุกขึ้นมานั่งดีๆ มันเงยหน้ามองเขาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง


“ไม่รู้สิ”


“ได้ไงวะ แล้วตอนพี่ยุทธขอเอามึงนี่พี่มันขอยังไงอ่ะ” คนฟังถึงกับหน้าร้อนวาบเมื่อเจอคำพูดตรงๆของเพื่อนสนิท ไอ้ปืนไม่ได้ถามเชิงล้อเลียนหรือแซวให้เขิน แต่มันถามด้วยสีหน้าจริงจังเพราะอยากรู้จริงๆ


“ถามบ้าอะไรของมึงเนี่ย” แต่เดือนสิบก็อดเขินไม่ได้อยู่ดี จะบอกยังไงล่ะ ก็ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายยอมพี่มันเอง.. หึยย แค่คิดก็หน้าร้อนวูบแล้ว ไอ้ปืนนะไอ้ปืน ไม่น่ามาถามเลย อุตส่าห์ทำเป็นลืมๆไปแล้วแท้ๆ


“เอ้า นี่กูจริงจัง หรือพี่มันยังไม่ได้แอ้มมึงวะ แต่ดูจากแก้มแดงๆนี่กูว่าไม่น่ารอด เป็นไง พี่มันเด็ดป่ะ?”


“ไอ้สัด”


“โดนไปกี่รอบวะ หมดแรงเลยดิ”


“เชี่ยปืน!”


“ฮ่าๆๆ มึงแม่งเขินน่ารักว่ะ ไหนมาให้กูฟัดทีดิ” ไม่ว่าเปล่ามันยังกระโจนขึ้นเตียงมากอดรัดฟัดเหวี่ยงเขาอย่างที่ปากว่าจริงๆอีกต่างหาก


“พอ.. แฮก พอเลยห่าปืน เล่นเชี่ยไรมึงเนี่ยลุกออกไปดิ หนัก!” เดือนสิบหอกแฮก แก้มแดงปลั่งจากการสู้รบปรบมือกับเพื่อนสนิท ผิดกับไอ้ปืนที่ยังมีแรงหัวเราะร่า มันขยี้ผมเขาไม่เบานักจนพอใจถึงได้ยอมถอยกลับไปนั่งดีๆ


“แล้วนี่พี่มันไปไหนวะ ถึงได้ปล่อยให้มึงมาเอ้อระเหยอยู่กับกูได้ ปกติวันเสาร์ต้องกกกันอยู่ในห้องไม่ใช่ไง?” คนฟังย่นจมูก


“เขาก็ต้องมีธุระบ้างสิ ใครจะมาว่างได้ตลอดเหมือนมึง งานการมีก็ไม่รู้จักไปทำ”


“ตั้งแต่มีผัวนี่ปากคอเราะร้ายไม่พอ มึงยังเห็นผัวดีกว่าเพื่อนอีกหรอห๊ะ” ไอ้ปืนผลักหัวเพื่อนสนิทไม่เบานัก เดือนสิบเลยหันมามองมันตาขุ่น


“มึงแม่งนิสัยไม่ดี สมน้ำหน้าที่พี่พีทไม่ยอม หึ!” ว่าแล้วก็กอดอกฉับ ซ้ำยังมองไอ้ปืนอย่างเยาะเย้ยอีกต่างหาก


“หนอย..” ไอ้ปืนถึงกับขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ดูท่าว่าตั้งแต่มีผัวเป็นตัวเป็นตนนี่เพื่อนเขาซักจะเอาใหญ่ เมื่อก่อนนี่มีอะไรก็ปืนจ้ะปืนจ๋า พอเดี๋ยวนี้มีคนใหม่ให้ออดให้อ้อนล่ะมาถีบหัวส่ง มันน่านักเชียว


Rrrrrr


แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเสียงโทรศัพท์ของเดือนสิบก็ดังขึ้นมาซะก่อน เจ้าตัวหันมอง ก่อนจะรีบโดดผลุงลงจากเตียงไปคว้าเครื่องมือสื่อสารมาถือไว้ แต่ก็ยังไม่วายหันมาแลบลิ้นใส่เพื่อนสนิทอีกต่างหาก …มันน่าตบให้หัวหลุดจริงๆ


“ครับ”


‘ทำอะไรอยู่’ เสียงทุ้มดังมาจากปลายสาย เรียกรอยยิ้มเล็กๆของคนทางนี้จนไอ้ปืนที่มองอยู่ถึงกับเบ้ปากใส่ ด้วยชักหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ


“คุยโทรศัพท์กับพี่ยุทธ”


‘กวนนะ เดี๋ยวจะโดน’ เสียงขู่ไม่จริงจังนักตอบกลับมา


“เปล่าซักหน่อย พี่ยุทธโทรมามีอะไรรึป่าวครับ”


‘ไม่มีอะไรหรอก กลับมาที่ห้องไม่เจอเลยโทรหา’


“ผมอยู่ห้องตัวเองครับ พี่ยุทธกลับมานานแล้วหรอ”


‘อื้ม..สักพัก มาหาได้ไหม ..คิดถึง’


“บ้าแล้ว ฮะๆ เพิ่งแยกกันเมื่อเช้านี้เอง” คนฟังหลุดยิ้มกว้าง มืออยู่ไม่นิ่งจนต้องยกขึ้นมาเกาแก้มเกาคอแก้เขิน ไม่บ่อยนักที่จะได้พูดคุยกันผ่านโทรศัพท์แบบนี้ มันเลยทำให้รู้สึกขัดเขินแปลกๆ


‘ก็อยากอยู่ด้วยตลอด อยากกอด อยากหอม อยาก…’


“บิดเข้าไป บิดจนเสื้อจะขาดหมดแล้วนั่น” เสียงของเพื่อนสนิทที่เดือนสิบหลงลืมไปชั่วขณะ ว่ามันยังอยู่ในห้องนี้ด้วยพาเอามือที่ไม่รู้ว่าเผลอมาบิดชายเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ชะงักค้าง


‘อยู่กับใคร’ เสียงปลายสายดังขึ้นมาอีกครั้ง เรียกให้เดือนสิบละความสนใจจากเพื่อนสนิทที่มองมาอย่างล้อๆ เขาย่นจมูกใส่มันก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาที่ระเบียง


“กับไอ้ปืนครับ มันมาหา”


‘สองคน?’


“อื้อ”


‘…...’


“พี่ยุทธ เป็นอะไรนึป่าวครับ” เดือนสิบถามขึ้นเมื่อเห็นว่าปลายสายเงียบไป


“……”


“……"


‘พี่กำลังห้ามไม่ให้ตัวเองหงุดหงิด’


“…..”


‘แต่มันห้ามไม่ได้เลย’


“พี่ยุทธ.. ผมกับไอ้ปืนเป็นแค่เพื่อนกันนะครับ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย” เขาบอกเสียงอ่อน แต่ริมฝีปากกลับคลี่ยิ้มกว้าง เหมือนก้อนใจมันฟูๆเมื่อรู้ว่าสาเหตุที่ทำให้พี่หงุดหงิดคืออะไร


‘ถึงอย่างนั้นมันก็อดหวงไม่ได้อยู่ดี สิบเป็นของพี่นะ’


“ครับ ผมรู้.. ”


‘บอกมันกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวพี่ไปรับ’


“ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง”


‘ทำไม’ เป็นอีกครั้งที่เดือนสิบหลุดหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินเสียงดุๆของคนเป็นพี่ ให้เดาตอนนี้คงกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่แน่ๆ


“เดี๋ยวผมไปหาเองก็ได้ ใกล้แค่นี้เอง”


‘พี่จะรอ..’


“ครับ”


‘เร็วๆนะ’


“ฮ่ะๆ ครับผม”


พี่ยุทธวางสายไปแล้วแต่เดือนสิบยังคงมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วยิ้มอยู่อย่างนั้น กระทั่งเสียงประตูบานเลื่อนดังขึ้นด้วยฝีมือของไอ้ปืน เขาหันมามองมันซึ่งมันเองก็กำลังยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองเขาอยู่เหมือนกัน แล้วมาทำหน้ากวนตีนใส่แบบนั้นคิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง เหอะ!


“ทำหน้าแบบนั้นใส่กูหมายความว่าไง” มันเปิดประเด็น


“มึงนั่นแหละ มองกูแบบนั้นหมายความว่าไง”


“หมั่นไส้ไง เบื่อพวกมีผัวแล้วลืมเพื่อน” มันว่ากวนๆ


“กูเปล่าซักหน่อย”


“ถ้าไม่ใช่งั้นวันนี้มึงก็ต้องอยู่เล่นเกมส์เป็นเพื่อนกู เพราะเมียไม่อยู่ กูเหงา!”


ได้ไง!! เดือนสิบได้แต่เถียงมันอยู่ในใจ


“แต่..”


“ทำไม หรือมึงจะทิ้งกูไปหาผัวจริงๆ ใช่ซี้กูมันก็เป็นได้แค่คนที่ถูกลืมนี่ เมียเมินไม่พอ ยังไม่มีค่าพอให้เพื่อนมาสนใจอีก ชีวิตไอ้ปืนนี่มันช่างไร้ค่าจริงๆ”


“เล่นใหญ่ไปละสัด” เขาเบรก กรอกตามองมันอย่างเอือมๆ


“กูน้อยใจ! กูมันไม่สำคัญ กูมันคนไม่จำเป็น มึงอยากจะไปอยู่กับผัวนักก็ไปเลย ปล่อยกูไว้ตรงนี้ ปล่อยมือฉัน.. ถูกแล้ววว เมื่อเธอเลือกเขา..”


เดือนสิบได้แต่เกาหัวแกรกๆ มองเพื่อนสนิทอย่างหน่ายๆ ไอ้ปืนทิ้งตัวนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงเขา แหกปากร้องเพลงลั่นไม่เกรงใจคนข้างห้องเลยซักนิด มันลืมไปรึป่าวว่าห้องเขาไม่ได้เก็บเสียงเหมือนคอนโดมัน เกิดโดนปาเปลือกทุเรียนมาใส่นะ พ่อจะฟาดซ้ำให้


“พอๆ กูอยู่กับมึงก็ได้ เลิกหอนซักทีรำคาญหู”


“อ้อหออ.. ปากคอมึงนี่นะ ทำไมถึงได้ร้ายกาจขึ้นขนาดนี้ห๊ะ!” เดือนสิบอยากจะบอก ว่าเขาก็กล้าแค่กับมันนี่แหละ ไม่รู้สิ เหมือนมันมีความสุขปนความสะใจลึกๆเวลาได้เห็นท่าทางฟึดฟัดของไอ้ปืน ยิ่งทำมันเถียงไม่ได้นี่นับว่ามิชชั่นคอมพลีท


สุดท้ายเดือนสิบก็ต้องโทรกลับไปบอกคนที่เพิ่งวางสายไปว่าเขายังไม่สามารถไปหาได้ตอนนี้ พี่ยุทธไม่ได้ซักไซ้อะไรมากก็จริง แต่ไอ้ท่าทีตอบรับง่ายดายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆนี่ก็ทำเขาใจแป้วไปเหมือนกัน


“หงอยไอ้สัดหงอย” ไอ้ปืนที่กำลังจัดแจงพื้นที่เล่นเกมอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องเงยหน้าขึ้นมามอง มันยักคิ้วกวนๆ เขาเลยเดินไปนั่งลงข้างๆ ก่อนจะส่งเสียงเหอะขึ้นจมูกใส่มัน


ไอ้ปืนหัวเราะคิกคักอย่างน่าหมั่นไส้ มันหันไปค้นอะไรซักอย่างในกระเป๋าก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาจ่อตรงหน้าเขาแล้วลั่นชัตเตอร์   ไอ้ปืนถ่ายรูปเขาอีกแล้ว


“ประสาท” เดือนสิบบ่นเมื่อเห็นมันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ไอ้ปืนหันมามอง ก่อนจะเขยิบมาใกล้จนชิด มันยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้า


“ประสาทที่ไหน มึงดูนี่ โพสยังไม่ถึงห้านาทีไลค์เกือบพัน เพื่อนกูฮอตสัดๆ” เขารับโทรศัพท์มาจากมัน จริงอย่างที่ไอ้ปืนว่า โทรศัพท์ในมือเขาสั่นครืดคราดพอๆกับจำนวนคอมเม้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


“นี่ยังจิบๆ” มันเอาโทรศัพท์กลับไปถือไว้ กดอะไรอยู่ชั่วครู่แล้วยื่นมาตรงหน้าเขาอีกครั้ง


ไอ้ปืนค่อยๆเลื่อนให้เขาดูทีละภาพอย่างช้าๆ เป็นรูปเขาทั้งหมดในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งแต่ละรูปมีจำนวนคนกดไลค์ไม่ต่ำกว่าพัน
“ไอจีกูแท้ๆแต่มีรูปมึงเยอะกว่ารูปกูอีก” ไอ้คนข้างๆบ่น แต่มือยังเลื่อนให้เขาดูรูปไปเรื่อยๆ


“ทำไมถึงมีคนถูกใจเยอะขนาดนั้นล่ะ” ไอ้ปืนยิ้ม มองเพื่อนสนิทที่กำลังจับจ้องหน้าจอมือถือไม่วางตาอย่างเอ็นดู


“เพราะเขาชอบมึงไง” ม่านตากลมเหลือบมอง


“ชอบกูเนี่ยนะ?”


“อือฮึ.. ไม่เชื่อดูนี่” ปืนว่าแล้วกดช่องคอมเม้นให้เพื่อนดู เดือนสิบรับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทมาถือไว้ ก่อนจะเลื่อนอ่านคอมเม้นที่ไอ้ปืนมันเปิดค้างไว้ให้


MaY_kannika พี่สิบน่ารักมากกกก พี่ปืนเอารูปพี่สิบมาลงเยอะๆนะคะ


KUKKAI_00 น้องสิบน่ารักมากจริงๆ รูปนี้มีแอบยิ้มเล็กๆด้วยอ่ะ แอร๊ยยย


LalitaSiTa น้องสิบของเจ้ อยู่ที่มหาลัยนิ่งมากเจ้ไม่กล้าเขาไปคุยด้วยเลย นิ่งมาก น้องปืนช่วยลากเพื่อนมาเล่นไอจีทีค่ะ


SAISOCUTE ยิ้มทีโลกสดใส พี่ปืนปารูปมาอีกค่ะ ปามาเยอะๆเลย ฮื่อออ คนอะไรทำไมน่ารัก


KRISSADAo1 เพื่อนมึงมีแฟนยังวะปืน จีบได้ไหม คนอะไรน่ารักเหี้ยๆ


Fasai_eiei ค่ะ พี่ปืนช่วยเอาเพื่อนมาเล่นไอจีที เฟสบุคก็ได้ อะไรก็ได้ หนูไหว้ล่ะ // กราบ


POKPONG_PUNIG @KRISSADAo1 คนนี้เพื่อนพี่จองแล้วครับ @YUTTANA



มือที่กำลังเลื่อนอ่านคอมเม้นชะงักกึก เมื่อเห็นชื่อคุ้นตาปรากฏอยู่ในนั้น เดือนสิบหันมามองไอ้ปืน สะกิดมันเบาๆให้ละจากหน้าจอคอมหันมาสนใจ


“ว่า?”


“ดูยังไง” เขายื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้ามัน


“ดูอะไร” มันทำหน้างง


“ดูคนที่มาเม้นไง”


“อ่ออ จะดูใครล่ะ”


“นี่” เขาชี้ไปที่ชื่อของใครคนนั้น คนที่ไม่คิดว่าจะมีไอจีกับคนอื่นเขาด้วย


“จะส่องผัวว่างั้น” เดือนสิบย่นจมูกใส่ เลยโดนมันบีบจมูกกลับมา ไอ้ปืนหัวเราะชอบใจที่ทำให้เพื่อนสนิทตีหน้ายุ่งได้ ก่อนจะจิ้มลงไปที่แอคเคาท์นั้น จริงๆแล้วเจ้าของแอคตั้งเป็นไพรเวท มีคนติดตามแค่ไม่กี่สิบคนซึ่งไอ้ปืนเป็นหนึ่งในนั้นที่โชคดีมีโอกาสได้ติดตามพี่มัน


“ไม่เห็นมีอะไรเลย” ร่างเล็กบ่น พลางขมวดคิ้วมองหน้าจอว่างเปล่า



มีต่อค่ะ
.
.
.

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ต่อตรงนี้
.
.


“ทีเด็ดมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น” ไอ้ปืนว่าก่อนจะกดลงตรงช่องที่มีคนแท็กรูปมา มันยิ้มกริ่มเมื่อเห็นตากลมๆนั่นเบิกขึ้นนิดๆ เมื่อได้เห็นแกลลอรี่ภาพขนาดย่อมที่มีตัวเองเป็นนายแบบแทบทุกรูป


POKPONG_PUING คนอะไรน่ารักได้ทั้งวี่ทั้งวัน @YUTTANA
เป็นรูปของเดือนสิบที่กำลังยืนกอดอกตีหน้ายุ่ง



ถ้าจำไม่ผิดเหตุการณ์นั้นน่าจะเป็นตอนที่ยืนรอไอ้ปืนซื้อน้ำอยู่ใต้ตึกคณะ เพิ่งเรียนแคลเสร็จทั้งเหนื่อยทั้งหิวหน้าถึงได้หงิกงอขนาดนั้น


TON_tossapol ใจละลายยยยยย @YUTTANA
เป็นรูปเดือนสิบที่กำลังตั้งอกตั้งใจจดแลคเชอร์อยู่ในห้องเรียน ในรูปติดเสี้ยวหน้าที่กำลังนอนหลับพริ้มของไอ้ปืนมาด้วย


POKPONG_PUING ระวังหมาจะคาบไปแดก @YUTTANA
เป็นรูปที่เดือนสิบกำลังถูกไอ้ปืนล็อกคอไว้อย่างแน่นหนา มือข้างหนึ่งของมันวางอยู่บนหัวเขา


YOSITA025 ดูซิวันนี้กูเจอใคร @YUTTANA
เป็นรูปเดือนสิบในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นกำลังยืนดูดน้ำเต้าหู้ทำหน้าง่วงๆ ข้างกันมีไอ้ปืนที่กำลังยืนจ่ายตังแปะคนขาย



ถ้าจำไม่ผิดรูปนี้น่าจะตั้งแต่เทอมที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงสอบที่ไอ้ปืนลากเขาไปนอนด้วยที่คอนโดมันเพื่อให้ช่วยติวหนังสือ


YOSITA025 น่ารักจนมือสั่นค่ะบอกเลย @YUTTANA
เป็นรูปที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันกับรูปก่อนหน้า ต่างแต่รูปนี้เดือนสิบกำลังยิ้มกว้างมือข้างหนึ่งยื่นไปรับถุงปาท่องโก๋ที่แปะคนขายแถมให้



และมีอีกหลายรูปในหลายๆช่วงเวลาที่ถูกแท็กมาเป็นร้อย แต่สิ่งที่เหมือนกันคือคนในรูป เป็นรูปของเดือนสิบทั้งหมด เจ้าของไอจีไม่ได้คอมเม้นรูปไหนทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีรูปไหนเลยที่พลาดจากการกดถูกใจจากแอคเคาท์ของ @YUTTANA


“อึ้งไปเลยดิ” ไอ้ปืนว่ายิ้มๆ โยกหัวเพื่อนสนิทที่เอาแต่เลื่อนดูรูปอย่างใจจดจ่อ


“อื้อ” แต่ก็ไม่วายครางรับ


“กูก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าพี่มันเล่น ไม่คิดว่าหน้าโหดๆอย่างนั้นจะมีไอจีกับเขาด้วย ถึงจะเป็นไอจีโล่งๆก็เถอะ” เดือนสิบหัวเราะเบาๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเห็นตามที่เพื่อนพูดทุกประการ


“เพิ่งรู้ว่าพี่มันตามไอจีกูก็ตอนเห็นพี่ป้องแท็กนั่นแหละ แต่จะพูดให้ถูกต้องเรียกว่าตามกูเพื่อดูมึงมากกว่า”


“อื้อ” ได้แต่ครางรับ เพราะตอนนี้เดือนสิบกำลังกลั้นยิ้มจนปวดแก้มไปหมด


ไม่ใช่เรื่องโกหกที่พี่บอกว่าชอบเขามานานแล้ว รูปที่หลายๆคนแท็กมาส่วนมากจะเป็นรูปตั้งแต่ช่วงที่เขาอยู่เทอมแรก ส่วนเทอมที่ผ่านมาก็มีบ้างประปราย ถึงจะไม่เยอะมาก แต่ก็มีมาเกือบทุกวัน มีหลายรูปจากหลายแอคเคาท์ อย่างนี้ก็แสดงว่าคนที่รู้ว่าพี่ยุทธชอบเขาก็ไม่ได้มีแค่พี่ป้องกับพี่หินน่ะสิ


“อยากยิ้มก็ยิ้มไอ้สัด ทำหน้าเหมือนคนอมขี้” ถึงจะโดดไอ้ปืนด่า และผลักหัวจนแทบหงาย แต่เดือนสิบก็ยังยิ้มกว้างและไม่คิดโกรธเคืองมันซักนิดเดียว เขากำลังมีความสุข มีความสุขมากจริงๆ


.

.


ไอ้ปืนกลับไปแล้ว กลับไปแทบจะทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากใครคนนั้นของมัน ท่าทางรีบร้อนไม่เอาแม้แต่แมคบุคเครื่องหรูที่เปิดค้างไว้ ป้อมที่กำลังจะยึดได้มันก็ไม่สนใจ คว้ากุญแจรถได้มันก็รีบวิ่งออกไปเลย เดือนสิบได้แต่ส่ายหัวระอา ปิดเครื่องแมคของมันแล้วเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะพาตัวเองมายืนอยู่หน้าคอนโดหรูที่เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตากับพี่ๆประชาสัมพันธ์เป็นอย่างดี


คีย์การ์ดที่เจ้าของห้องให้ไว้แต่ไม่เคยได้ใช้งานถูกนำมาใช้ เขาเปิดประตูแล้วค่อยๆแทรกตัวเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ทั้งห้องเงียบฉี่ มีเพียงเสียงแว่วจากทีวีจอใหญ่กลางห้องนั่งเล่น เดือนสิบถอดรองเท้า ก่อนจะย่างฝีเท้าแผ่วเบาเข้าไปใกล้ๆโซฟาที่มีร่างของคุ้นตานอนอยู่ตรงนั้น เขาทรุดตัวนั่งลงกับพื้น รอยยิ้มเล็กๆจุดอยู่ที่มุมปากเมื่อเห็นว่าพี่กำลังหลับสบาย


นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เอาแต่นั่งจ้องหน้าอีกคนแล้วยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่แบบนั้น กระทั่งเปลือกตาที่ปิดสนิทเริ่มขยับก่อจะเปิดปรือขึ้นช้าๆ ตาคมหรี่มอง ก่อนพี่จะคลี่ยิ้มจางส่งมาให้เขา


“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงทุ้มเอ่ยถาม


“ซักพักแล้วครับ”


“ทำไมไม่ปลุก”


“ก็เห็นกำลังหลับสบาย”


“กอดหน่อย” คนที่ตอนนี้กลายร่างเป็นหมียักษ์ลุกขึ้นนั่งพลางอ้าแขนกว้าง เดือนสิบหัวเราะเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืน กำลังจะนั่งลงข้างๆทว่าแข่นแกร่งกลับคว้าไว้ทั้งตัวแล้วรั้งให้นั่งลงบนตัก


“หนักแย่เลย” ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่ก็ยอมนั่งนิ่งๆให้อีกคนกอดได้ตามใจ


“หนักกว่านี้ก็ยอม” เสียงหัวเราะหึๆดังอยู่ใกล้หู ก่อนที่อีกฝ่ายจะฉวยโอกาสหอมแก้มเขาฟอดใหญ่


“ทำไมพี่ยุทธถึงชอบผมล่ะครับ” คนถูกถามชะงัก มองน้องที่กำลังเขี่ยฝ่ามือเขาเล่นไปมา เมื่อเห็นเขาเงียบไปไม่บอกซักทีม่านกลมใสถึงได้เหลือบขึ้นมอง ยุทธนาอาศัยจังหวะนั้นล็อกปลายคางเรียวไว้ ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆบนกลีบปากอิ่ม ขบเม้มเรียกเสียงอื้ออึงในลำคอขาว แล้วแทรกลิ้นเข้าดูดกลืนความหวานภายใน รสจูบนุ่มละมุนค่อยๆทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมือเล็กเลื่อนมาผลักที่อกกว้างเมื่อเริ่มทนไม่ไหว


เขาถึงได้จูบแรงๆลงบนกลีบปากนิ่มเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะผละออกมาเพื่อจ้องมองใบหน้าเนียนชัดเจน เดือนสิบหอบจนตัวโยน ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดปรือขึ้นช้าๆ เป็นช่วงเวลาที่ยุทธนาแทบหยุดหายใจ เมื่อม่านกลมใสค่อยๆช้อนขึ้นมองกัน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจหรือเผลอตัวกันแน่ ยามปลายลิ้นเล็กค่อยๆแลบเลียกลีบปากอิ่ม ก้อนเนื้อในอกเขาสั่นไหว ความต้องการมากมายตีรวนเป็นละรอกก่อนจะรวมตัวเป็นกระจุกที่จุดกึ่งกลางลำตัว เหมือนอีกคนจะรับรู้ถึงความต้องการนั้น เดือนสิบหน้าตื่น ตากลมล่อกแล่กดูน่าขัน


“ยังอยากรู้อยู่ไหมว่าทำไมพี่ถึงชอบสิบ” เขาแกล้งกดตัวน้องลงให้สัมผัสถึงความต้องการมากขึ้น คนถูกถามส่ายหน้ารัว แก้มใสแดงเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ยุทธนาหลุดยิ้มจางกับท่าทางนั้น ก่อนจะอาศัยความได้เปรียบทางสรีระร่างกายพลิกอีกฝ่ายให้นอนหงายไปบนโซฟาแล้วตามลงไปทาบทับในทันที อารามตกใจทำให้เดือนสิบเผลอเกี่ยวคอคนพี่ไว้แน่น


“พี่ยุทธ.. อื้มม!”


กลีบปากนิ่มถูกดูดกลืนอีกครั้ง ยุทธนาเลื่อนมือเข้าประคองข้างแก้มใส จับให้แหงนเงยเพื่อรับจูบได้ถนัดถนี่ ดูดดึง กวาดต้อนเอาความหอมหวานตรงหน้าอย่างตะกระตะกราม ในขณะที่ฝ่ามือหนาไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้ผิวเนื้อนิ่มช่วงเอวบาง ไปจนถึงบั้นท้ายกลมกลึงจนคนเป็นน้องครางฮือ


“พะ พี่ยุทธ.. เดี๋ยวครับ” เดือนสิบหอบแฮก ดันไหล่คนพี่ที่กำลังซุกไซร้ซอกคอขาวให้ออกห่าง แต่แทนที่จะฟังกัน อีกฝ่ายกลับเม้มริมฝีปากลงมาจนต้องเบ้หน้าเพราะความเจ็บจี๊ด


“ลงโทษที่กล้าปล่อยให้พี่หงุดหงิดอยู่คนเดียวตั้งนานสองนาน” เอ่ยชิดลำคอขาว


“อ๊ะ! พี่ยุทธ อื้อ! เดี๋ยว” มือปลาหมึกสอดผ่านเนื้อผ้าบาง ฟอนเฟ้นหนักหน่วงไปตามส่วนโค้งบนกายเล็กก่อนจะหยุดลงตรงติ่งไตสีหวาน ป้านนิ้วบดขยี้อย่างเอาแต่ใจพากายเล็กไหวสะท้าน เดือนสิบหอบถี่ กายเล็กหยัดแอ่นไม่รู้ตัวยามริมฝีปากร้อนครอบลงบดเคล้าอย่างไม่ปราณี ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่อาภรณ์หล่นจากกายจนทั้งร่างเย็นวาบ เรียวขาถูกแยกกว้างก่อนจะถูกเติมเต็มเมื่ออีกฝ่ายแทรกกายเข้ามา


“อึก.. เดี๋ยว พี่ยุทธ.. จะทำจริงๆหรอ” เอ่ยถามเสียงสั่น


“ครับ.. ได้ไหม?” ตากลมหลุบต่ำ แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไรคนด้านบนก็เริ่มเข้าคลุกวงในอีกครั้ง “นะครับ” เอ่ยอ้อนชิดแก้มใส จูบซ้ำๆอย่างออดอ้อนเอาใจ มือไม้เองก็ไม่อยู่นิ่ง แตะโน่นจับนี่จนเดือนสิบร้อนไปหมด เพิ่งรู้ตัวว่ายอมพยักหน้ารับคำก็ตอนที่เห็นอีกฝ่ายยิ้มกว้างนั่นแหละ


“พี่ขอนะ ขอนะครับคนดี” ขยับเลื่อนมือไปจับยึดปลายคางเรียวสวยของน้องไว้มั่น ก่อนจะบดริมฝีปากอุ่นลงเคล้าคลึงอย่างใจเย็น พร้อมกันนั้นมือหนาก็ไล่ไปตามแนวกระดูกสันหลังช้าๆ สลับบีบคลึงอย่างเอาใจราวกับจะทำให้อีกฝ่ายขาดไจซะเดี๋ยวนั้น


“อื้อออ..อ!” เดือนสิบหอบถี่ สองแขนเรียวโอบกอดคนรักแน่น ยามสัมผัสอ่อนโยนเริ่มทวีความเร่าร้อนขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เขาทำได้เพียงแค่กลั้นเสียงครางประหลาด ยามที่อีกฝ่ายแตะต้องตามจุดอ่อนไหวของร่างกายจนเสียวสะท้าน ขาขาวถูกแยกกว้าง หลับตาแน่นยามรู้สึกถึงการรุกรานที่ค่อยๆแทรกเข้ามาอย่างช้าๆ


“อะ…อ๊ะ!” กระทั่งหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว


“รัก” จุมพิตบางเบาลงบนกลีบปากที่เริ่มบวมช้ำ นัยน์ตาคมทอดมองดวงหน้าชื้นเหงื่อที่กำลังขึ้นสีระเรื่อชวนให้หลงใหลของคนรักอย่างอธิบายไม่ถูก นานเท่าไหร่แล้ว ที่เขาไม่ได้รู้สึกคล้ายกำลังหลงใหลในบางสิ่งบางอย่างมากขนาดนี้ คล้ายน้องเป็นสิ่งเสพ
ติด ที่ยิ่งได้ลิ้มรสก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ เขาอยากได้อีก อยากได้มากกว่านี้ และกำลังติดใจจนอยากได้ไปเรื่อยๆ

.
.

“พี่ยุทธ ฮึก.. ไม่ไหว” เสียงแหบพร่าปนสะอื้นพร่ำบอกพลางส่ายหน้าไปมาชิดอกกว้าง ยามอีกฝ่ายขยับกายเข้าหาไม่หยุดทั้งๆที่ตนปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สาม อยากประท้วงให้อีกคนพอได้แล้ว แต่กลับทำได้แค่นอนนิ่งให้อีกฝ่ายกระทำตามใจเพราะหมดแล้วซึ่งเรี่ยวแรงจะต่อต้าน


“เด็กดี.. อีกนิด อืมมม”  กายแกร่งกอดรัดร่างเล็กแน่น ขณะที่สะโพกยังคงดันเข้าออกไม่หยุด ข้างในของน้องร้อนมาก ร้อนไปหมดจนแทบจะหลอมละลายเขาให้สลายกลายเป็นจุล มันโอบรัดเขาแน่นยามจงใจแทรกลึกเข้าหาจุดนั้นซ้ำๆ …กระทั่งความเชี่ยวกราดของอารมณ์ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย เขาผละกายห่าง คว้ามือเล็กที่ผวาไขว่คว้าหาที่พึ่งไว้ แล้วกดแนบลงกับที่นอนนุ่ม


“ซี้ดดดด สิบ!” เสือกไสความรุ่มร้อนจวนเจียนระเบิดเข้าหาความอ่อนนุ่มที่กำลังโอบรัดรุนแรง ไม่นานเมื่ออารมณ์ดำเนินมาถึงจุดสูงสุดร่างสูงก็กระแทกตัวลึกเป็นครั้งสุดท้าย กายแกร่งบิดเกร็งก่อนจะปลดปล่อยเข้าไปในช่องทางอุ่นนุ่มทุกหยาดหยด…


เสียงหอบแฮกจนแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใครก้องสะท้อนในหู ยุทธนาพลิกตัวลงด้านข้าง ไม่วายรั้งร่างชื้นเหงื่อของคนเป็นน้องมากอดก่ายไว้ในอ้อมแขน จูบซับทั่วใบหน้าเนียน วนเวียนซ้ำอยู่กับกลีบปากนุ่มนิ่มราวกับหลงใหลนักหนา กระทั่งน้องเป็นฝ่ายดันเขาออกเบาๆ ม่านกลมใสปรือมองคล้ายจะหลับมิหลับแหล่


“พอแล้วครับ” เสียงแหบพร่าเอ่ยห้าม วางมือลงบนอกเขาแล้วเริ่มหลับตาลงอีกครั้ง


“พี่รักสิบนะ” เขาเอ่ยชิดขมับเนียนจูบลงไปซ้ำๆอย่างอดใจไม่ไหว ได้ยินเสียงครางแผ่วตอบกลับมา ก่อนจะเห็นว่าคนในอ้อมแขนเข้าสู่ห้วงนิทราไปซะแล้ว ยุทธนาอมยิ้มกับตัวเอง ก้มลงจูบปากนิ่มเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหักใจผละห่างร่างขาวแล้วเข้าห้องน้ำไปชำระกาย เสร็จแล้วก็กลับมาทำความสะอาดให้น้อง คนถูกรบกวนครางฮือ ตากลมเปิดมองยามเขาแนบผ้าชื้นน้ำลงบนร่างกาย แต่สุดท้ายเพราะต้านความอ่อนเพลียไม่ไหวน้องถึงได้ปิดเปลือกตาลงไปอีกครั้ง


เขากลับมานอนลงข้างกายน้องอีกครั้งหลังจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น รั้งร่างเล็กกว่าเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนจะจับเรียวขาขาวมาเกี่ยวพาดเอวตัวเองไว้ จับให้แขนเล็กโอบกอดเขาไว้ทั้งตัว ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาแผ่นอกบาง กดจูบเบาๆผ่านเนื้อผ้า รู้สึกดีจนอดจะอมยิ้มเล็กกับตัวเองไม่ได้ ยามที่ถูกเดือนสิบโอบกอดเอาไว้แบบนี้มันทำให้เขารู้สึกดีมากจริงๆ เหมือนว่าทุกอย่างของเขาเป็นของน้อง อย่างที่ทุกอย่างของน้องเป็นของเขา เหมือนเราเป็นของกันและกัน…


.

.


“จะไปทำไมล่ะครับ บ้านผมมีแต่ทุ่งนาป่าเขาไม่มีที่ให้พี่ยุทธเที่ยวเล่นหรอก”


“ก็ไม่ได้บอกว่าจะไปเที่ยว แต่บอกว่าจะไปด้วย” ยุทธนาประสานมือลงบ่นเข่าจ้องมองคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นพรม แล้วไอ้ที่บอกว่าไม่มีที่ให้เที่ยวเล่นนี่คืออะไร น้องเห็นเขาเป็นเด็กหรือไงกัน


“ทำไมพี่ยุทธดื้อจัง”


“เรานั่นแหละทำไมดื้อ”


สุดท้ายก็กลายเป็นคนอายุน้อยกว่าที่ถอนหายใจพรืด ตากลมกลอกกลิ้งไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อคนเป็นพี่เข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลังอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว พอเป็นแบบนี้ทีไรเดือนสิบก็ชักจะเริ่มเห็นอนาคตเรือนราง ว่าคงไม่พ้นต้องหอบหิ้วไซบีเรียนยักษ์ตัวนี้ไปด้วยแน่ๆ เดี๋ยวนี้ชักจะทำตัวร้ายกาจเข้าไปทุกวัน อะไรไม่ได้อย่างใจก็ชอบเข้ามาคลอเคลียเข้ามาออดอ้อนถึงเนื้อถึงตัวตลอด จนสุดท้ายคนที่ต้องเป็นฝ่ายใจอ่อนมันแทบทุกครั้งก็กลายเป็นเขาซะงั้น ร้ายกาจจริงๆ


“ผมไปอยู่เป็นอาทิตย์เลยนะ”


อย่างที่บอกว่าเขาจะกลับไปอยู่บ้านซักอาทิตย์ก่อนเปิดเทอม แล้วนี่ก็เหลืออีกตั้งสองอาทิตย์เผลอๆอาจจะอยู่ยาวไปจนปิดเทอมวันสุดท้ายเลยก็ได้ แต่ดูเหมือนระยะเวลาจะไม่เป็นอุปสรรค์ต่อคนอยากไปเที่ยวบ้านแฟนเท่าไหร่


“งั้นก็ต้องเอาเสื้อผ้าไปเยอะหน่อย จะไปมะรืนนี้ใช่ไหม งั้นไปซื้อของฝากให้พ่อตาแม่ยายพี่กัน”


“เดี๋ยวๆ เวอร์แล้วพี่ยุทธ นั่งลงก่อน” เดือนสิบหัวเราะเบาๆ รั้งแขนอีกฝ่ายที่ปุบปับลุกขึ้นยืนให้นั่งลงอีกครั้ง แล้วพ่อตาแม่ยายอะไรกัน พ่อจะรับได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย


“ไม่ต้องหรอกครับ ของฝากผมซื้อไว้แล้ว”


“ได้ไง ของเราก็ส่วนของเราของพี่ก็ส่วนของพี่สิ จะไปเจอพ่อแม่เมียทั้งทีพี่ไม่ยอมเสียคะแนนหรอก” คนฟังถึงกับย่นจมูก แอบเขินนิดหน่อยกับสรรพนามที่เดี๋ยวนี้อีกฝ่ายชักจะหลุดมาใช้อยู่บ่อยครั้ง


“พ่อผมดุมากนะ”


“นี่ขู่?” คิ้วเข้มเลิกสูง


“พูดจริงๆครับ ดุมากกก” ไม่วายทำหน้าจริงจังให้อีกฝ่ายได้ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า แต่ก็แค่ชั่วขณะเดียว


“คิดว่าพูดแบบนี้แล้วพี่จะยอมเปลี่ยนใจไม่ไปหรือไง คิดผิดแล้วเด็กน้อย” มือหนาโยกหัวเขาไปมา ตาคมพราวระยับราวกับกำลังนึกสนุก


สุดท้ายเดือนสิบก็ถูกลากออกมาซื้อของฝากเป็นเพื่อนอีกฝ่ายจนได้   แต่นี่เดินจนขาลากแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนพี่จะได้อะไรติดไม้ติดมือซักอย่าง จริงๆก็จะได้หลายอย่างแล้วนั่นแหละแต่พอดีโดนเขาเบรกไว้ซะหมดเลยต้องมาเดินต๊อกๆกันอยู่แบบนี้ แต่มันก็สมควรห้ามไหมล่ะ น้ำหอมขวดละตั้งหลายพันงี้ นาฬิกาเรือนเกือบหมื่นงี้ นี่ยังไม่นักรวมแอคเซสเซอร์รี่อีกหลายๆอย่างที่ราคาเหยียบหลายพันอีกนะ เดือนสิบอยากจะบ้า ต้องมาเถียงกับพี่ตั้งนานกว่าอีกคนจะเข้าใจว่าบ้านเขามันอยู่ในป่าในเขา ถึงจะซื้อไปพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ใส่หรอก ขนาดนาฬิกาเรือนละพันกว่าบาทที่เขาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสองปีก่อนพ่อยังไม่เคยหยิบมาใส่เลย เก็บไว้ในตู้อย่างดีจนป่านนี้ไม่รู้ถ่านหมดไปหรือยัง


“ผมว่าถ้าพี่ยุทธอยากเอาใจพ่อจริงๆแค่ซื้อผลไม้หรือไม่ก็ของเล็กๆน้อยๆติดไม้ติดมือไปก็พอครับ” เดือนสิบพูดให้กำลังใจเมื่อเห็นว่าคนเป็นพี่เริ่มตีหน้าเคร่ง


“แล้วไม่มีอะไรที่พ่อกับแม่เราชอบเป็นพิเศษหรอ อย่างเสื้อผ้า รองเท้า”


“ไม่มีหรอกครับ วันๆก็เข้าแต่ไร่จะเอาเวลาที่ไหนไปแต่งตัว” เสื้อผ้าใหม่ๆที่เขาซื้อให้ส่วนมากพ่อจะหยิบมาใส่ก็แค่ตอนมีงานเท่านั้น ซึ่งมันก็นานๆครั้งไง


“งั้นไปซื้ออุปกรณ์ทำไร่กัน” ว่าแล้วก็คว้าแขนน้องเดินจ้ำออกจากห้างทันที


“เดี๋ยวๆพี่ยุทธ เอาจริงดิ” เดือนสิบระร่ำถาม เห็นท่าทางกระตือรือร้นของคนเป็นพี่แล้วอยากจะขำก็ขำไม่ออก


“จริง”





************




พี่ยุทธนี่มัน..  :laugh:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2017 20:31:27 โดย เล็กต้มยำ »

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
พี่ยุทธมันร้ายยยย

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
พี่ยุทธน่ารักน้องสิบก็น่ารัก :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด