"นิทานเรื่อง หนูน้อยหมวกแดง"....by aoikyosuke
“ไอ้แดง เอาข้าวไปส่งที่บ้านยายให้หน่อย”
“แป๊บนึงแม่ ยุ่งอยู่”
“ไอ้แดง เอาข้าวไปส่งที่บ้านยายให้หน่อย”
“เดี๋ยวก่อนแม่ ตีบอสอยู่”
“ไอ้แดง เอาข้าวไปส่งที่บ้านยายให้หน่อย เอ็งจะไปหรือไม่ไป ถ้ายังไม่ลุกตอนนี้นะ คอมเอ็งนี่แม่จะทุบทิ้งซะ”
ไอ้แดงหรือหนูน้อยหมวกแดงมีอันต้องเบ้หน้า และวางมือจากการล่าบอสด้วยความเซ็ง เมื่อแม่มายืนหน้าถมึงทึงอยู่ตรงหน้า พร้อมกับตะกร้าใส่ของกินที่แม่บังคับให้เอาไปส่งที่บ้านยาย แม่ควรจะเห็นบ้างว่าลูกกำลังยุ่งอยู่ขนาดไหน กำลังตีบอสด้วยความเมามันส์ แม่ไม่น่าจะมาขัดจังหวะกันตอนนี้เลยจริง ๆ
“ไปเดี๋ยวนี้แหละแม่”
ถอนหายใจด้วยความเซ็งและต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้ คว้ากุญแจมอเตอร์ไซค์และหมวกกันน็อคไอ้มดแดงมาสวม และหิ้วตะกร้ามาแขวนไว้ที่แฮนด์รถมอเตอร์ไซค์
“ขี่รถให้มันระวังหน่อย ไม่ใช่ไปเบิ้ลใส่หน้าบ้านเขา จนชาวบ้านมาด่าแม่อีกล่ะ”
แม่นี่ก็ไม่รู้บ้างหรือไง ว่าการผ่าท่อมามันก็ต้องโชว์ ถ้าไม่เบิ้ลแล้วจะไปผ่ามาทำไมวะ ได้แต่ส่ายหน้าในความไม่เข้าใจวัยรุ่นของแม่ และไอ้แดงหรือหนูน้อยหมวกแดงก็บิดคันเร่งเต็มที่ เบิ้ลรถใส่ชาวบ้านไม่ได้ก็เบิ้ลใส่แม่นี่แหละวะ
“ไอ้ลูกเวร จะเบิ้ลหาพระแสงอะไรนักหนาวะ”
โดนแม่ด่า แต่ไม่ทำให้หนูน้อยหมวกแดงของแม่รู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิด หัวเราะออกมาด้วยความขำ รีบเดินทางไปบ้านยายเพื่อเอากับข้าวไปส่งในทันที
+++++
หนูน้อยหมวกแดงกับมอเตอร์ไซค์ Zoomer X คู่ใจเดินทางลัดเลาะไปตามถนนที่มีแต่หลุมและบ่อ เข้ามาในซอยที่มีหมาวิ่งไล่และหนูน้อยหมวกแดงก็ชะลอรถให้ช้าลงเพื่อให้หมาวิ่งไล่ เมื่อหมากำลังจะเข้ามาใกล้หนูน้อยหมวกแดงก็เบิ้ลรถใส่จนหมาวิ่งหนีด้วยความตกใจและเห่าไล่หลังด้วยความอาฆาตแค้นแต่หนูน้อยหมวกแดงไม่รู้สึกสะทกสะท้าน และหัวเราะออกมาด้วยความสนุกสนาน ไม่ใช่แค่หมาที่เห่าไล่ แต่รวมถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ถนนก็ยังออกมายืนด่าหนูน้อยหมวกแดงที่เบิ้ลรถเสียงดังในที่ชุมชนโดยไม่เกรงใจใคร
“ไอ้แดง ไอ้เด็กห่า จะบิดหาพ่อเอ็งหรือไง ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน”
คำสรรเสริญเยินยอที่ได้รับ ไม่ได้ทำให้หนูน้อยหมวกแดงลดดีกรีความกวนตีนและเป็นภัยต่อสังคมลงเลยสักนิด โดนแม่ด่าทีก็สำนึกผิดที แต่มีโอกาสโชว์ศักยภาพของท่อที่เพิ่งไปผ่ามาเมื่อไหร่ก็ต้องโชว์ จนมอเตอร์ไซค์ถึงหน้าบ้านยายแล้วและหนูน้อยหมวกแดงก็จอดรถเอาไว้และตะโกนเรียกยายอยู่หน้าบ้าน
“ยาย อยู่มั้ย แม่ให้เอาข้าวมาส่ง”
ตะโกนต่อไปก็คงจะเสียเวลา ยายหูตึง เรียกก็ไม่ค่อยได้ยิน หนูน้อยหมวกแดงจอดรถเอาไว้และหิ้วตะกร้าที่แม่ให้เอามาส่งเข้ามาในบ้าน เปิดประตูเข้าไปก็เห็นยายห่มผ้านอนหลับอยู่บนเตียง
“นอนอยู่ก็น่าจะขานหน่อย ปล่อยให้ผมตะโกนเรียกอยู่ได้ตั้งนาน”
ที่จริงคือเพิ่งตะโกนไปแค่ครั้งเดียวแต่แกล้งพูดให้ดูดีแค่นั้น และยายที่นอนอยู่ก็กระแอมเสียงและลืมตาขึ้นมองหนูน้อยหมวกแดงที่มายืนอยู่ข้างเตียง
“ยายคลุมโปงทำไมเนี่ย”
เอ่ยถามยายที่ห่มผ้าคลุมเอาไว้ทั้งตัวแล้วก็ทำให้นึกสงสัยขึ้นมา
“แค่กๆ ยายไม่ค่อยสบาย”
เพราะเห็นว่ายายไม่ค่อยสบายหนูน้อยหมวกแดงก็เลยเข้าไปใกล้อีกหน่อย
“แล้วทำไมเสียงยายแหบ ๆ “
“ยายเจ็บคอ”
ยายเจ็บคอเสียงเลยแหบ แบบนี้ก็พอจะเข้าใจได้ แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมตอนพูดถึงเห็นเขี้ยวของยายด้วย ยายมีเขี้ยวตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
“ยายมีเขี้ยวด้วยเหรอ”
หนูน้อยหมวกแดงยื่นหน้าเข้าไปด้วยความสงสัย แต่คราวนี้ยายไม่ตอบ แต่สลัดผ้าห่มออกและกระโจนเข้าหาหนูน้อยหมวกแดงทันที
“ก็จะได้เอาไว้กินเอ็งยังไงล่ะ”
หนูน้อยหมวกแดงไม่ได้ตะโกนโวยวายแต่ยกมือขึ้นยันหน้าหมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณยายและเตะเข้าให้ที่ชายโครงของหมาป่าอย่างรุนแรงจนหมาป่าทรุดลงไปกองกับพื้น
“โว้ยยยยย มันจะเกินไปแล้วนะไอ้แดง เตะเข้ามาได้ยังไงมันเจ็บนะโว้ย”
หมาป่าทำอะไรไม่ได้นอกจากเงยหน้าขึ้นมองหนูน้อยหมวกแดงที่พยักหน้าให้และใช้มือแค่ข้างเดียวบีบคางของหมาป่าและพูดเสียงรอดไรฟัน
“ถ้าไม่อยากตาย บอกมาเดี๋ยวนี้ว่ายายอยู่ที่ไหน ไม่อย่างนั้นเจอฟันศอกกับจระเข้ฟาดหางแน่”
หมาป่าต้องยอมจำนนและชี้มือไปที่คุณยายที่เพิ่งกลับจากการไปตัดกล้วยที่สวนหลังบ้าน
“อ้าว ไอ้หมาเอ็งไปนั่งอะไรตรงนั้น อ้าว ไอ้แดง มาตอนไหนล่ะนั่น เพิ่งมาเหรอ แบ่งกล้วยไปหน่อย สุกคาต้นหมดแล้ว ไม่ตัดมานกหนูมันก็เจาะหมด”
ยายของหนูน้อยหมวกแดงวางเครือกล้วยเอาไว้ และไอ้หมาของยายที่โดนหนูน้อยหมวกแดงจัดการก็เบ้หน้าและลุกขึ้นมายืนทำตาปริบ ๆ เพราะไม่ว่ากี่ครั้งก็โดนหนูน้อยหมวกแดงซ้อมตลอด ไม่เคยจะชนะได้สักที
“เอ็งก็เล่นแรงตลอดเลยนะแดง”
ได้แต่บ่นพึมพำ ด้วยความน้อยใจ และหนูน้อยหมวกแดงก็เหลือบมองหมาป่าด้วยหางตา
“ใครใช้ให้กวนตีนไปนอนบนเตียงของยายล่ะ ถามห่าอะไรก็ไม่ยอมตอบ ตอบวกไปวนมาอยู่ได้ มันต้องเจอแบบนี้”
หนูน้อยหมวกแดง ส่งตะกร้าให้ยายและแบ่งกล้วยที่ตัดแล้วใส่ถุงและเตรียมหิ้วกลับบ้าน
“เดี๋ยวแดงกลับก่อนนะยาย วันนี้รีบ”
ไม่ใช่แค่วันนี้ที่รีบ วันไหน ๆ ก็รีบตลอด และหมาป่าก็มองหนูน้อยหมวกแดงที่เดินไปที่มอเตอร์ไซค์ตาละห้อย
“กลับแล้วเหรอวะไอ้แดง”
ไม่ให้กลับแล้วจะอยู่ทำสวรรค์วิมานอะไรล่ะ ต้องกลับไปเก็บเวลต่อ ไม่ได้ว่างมาเล่นเป็นหมาป่าไร้สาระแบบคนว่างงานบางคน
“มาคราวหน้าถ้ากวนตีนอีก เจอยิ่งกว่าเตะแน่ไอ้หมาป่า โตป่านนี้แล้วเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ อยู่ได้ตลอดวะ”
คาดโทษหมาป่าที่เริ่มหัวเราะออกมา แล้วหนูน้อยหมวกแดงก็ส่ายหน้ากับหมาป่าตัวโตที่โตแค่ตัวแต่จนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมทำตัวเป็นผู้ใหญ่สักทีทั้งที่แก่กว่าหนูน้อยหมวกแดงตั้งหลายปี ไม่รู้จะทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน
“เดี๋ยวเยี่ยมยายเสร็จแล้วจะแวะไปหานะ คิดถึง”
คิดถึงบ้าอะไร พูดจาเพ้อเจ้อบ้าบออยู่ได้ ใครอยากให้คิดถึงวะ
“ไม่ว่าง ตีบอสอยู่ ไม่ต้องมา”
เสียบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ได้ หนูน้อยหมวกแดงก็บิดออกไปทันที ปล่อยให้หมาป่ายืนมองและหัวเราะออกมากับความร้ายกาจของหนูน้อยหมวกแดง
พ่อแม่ของเราเป็นเพื่อนกัน บ้านของเราเคยอยู่ติดกัน และเราก็เคยเป็นเพื่อนกันจนต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเมื่อโตขึ้น
หมาป่าไม่ได้เป็นหมาป่า แต่พ่อตั้งชื่อให้ว่าป่า เพราะพ่อทำงานอยู่กรมป่าไม้ หนูน้อยหมวกแดงไม่ได้เป็นหนูน้อยหมวกแดง แต่ตอนเด็ก ๆ น่ารักจนพ่อแม่ตั้งชื่อให้ว่าหนูแดง แต่โตขึ้นความน่ารักไม่มีหลงเหลือ จากหนูแดง กลายเป็นไอ้แดงไปเรียบร้อยแล้ว
“คิดถึงไม่ได้หรือไงวะ ก็คนมันคิดถึงจริง ๆ “
หมาป่าบนพึมพำคนเดียวเสียงเบา และรอยยิ้มก็จุดขึ้นที่ใบหน้าเมื่อนึกถึงเรื่องตอนเด็ก ๆ ที่เคยเป็นเพื่อนเล่นอยู่บ้านใกล้กัน
ไม่นึกว่าโตขึ้นมาหนูแดงที่น่ารักจะกลายเป็นไอ้แดง สายแว๊นไปแล้ว แต่จะว่าไป ไอ้แดงที่ไม่ได้มีความน่ารักแบบเด็กๆ หลงเหลือแบบนี้ ก็น่าสนใจกว่าหนูแดงที่ขี้แยและร้องไห้วิ่งตามตอนเด็ก ๆ เป็นไหน ๆ
Fin.