ตอนที่ 6
อย่าคราง..
BGM - คนไม่พิเศษ
“ไอเท็น!!! ลุกเลยมึง อย่าอู้!” ผมสะดุ้งโหยงเพราะเสียงตะคอกของพี่กุ๊กประธานเชียร์หน้าโหดของพวกเราชาวนิเทศศาสตร์ ตอนนี้พี่แกเดินถือโทรโข่งพุ่งมาทางผมที่แอบมานั่งหลบมุมอู้อยู่ข้างอัฒจรรย์ พี่แม่งเห็นกูได้ไงวะ
วันนี้เป็นวันแรกที่พี่กุ๊กนัดผมมาซ้อมเดินถือป้ายคณะสำหรับงานกีฬามหา’ลัยโดยมีเพื่อนในรุ่นอีกสองสามคนมาร่วมซ้อมด้วย จะไม่ให้ผมอู้ยังไงไหวอะ ก็พี่แกเล่นนัดมาซ้อมตั้งแต่สามโมงจนตอนนี้ปาเข้าไปจะห้าโมงแล้วครับ ทั้งๆที่หน้าที่ผมไม่มีไรเลย ก็แค่เดินถือป้ายเฉยๆ ซ้อมจนแขนกูนี่โตเป็นป๊อปอายแล้วไอเหี้ย
“ไม่ไหวแล้วพี่ ขอพักแปปนึงดิ” ผมบอกเสียงอ่อย
“จริงค่ะพี่ ปองก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ขอพวกเราพักสักห้านาทีนะค้า” ปิงปอง เดือนปีหนึ่งที่มาซ้อมเหมือนกันช่วยผมค้านเพราะทนความโหดของพี่กุ๊กไม่ไหว ไอ้นี่มันหล่อมากนะครับ เปิดเทอมมาใหม่ๆมีแต่คนมาถามหาน้องปิงปองปีหนึ่ง ด้วยความฮอตจนฉุดไม่อยู่ของมันรุ่นพี่จึงจับประกวดเดือน แต่ผ่านไปไม่นานจากเดือนแม่งกลายเป็นดาวซะงั้น
“พวกมึงไปพักกี่รอบแล้ว กูเรียกซ้อมแค่อาทิตย์ละครั้งเองนะเว้ย ดูพวกหลีดพวกนักกีฬาดิ เขาซ้อมกันทุกวันเหนื่อยกว่าพวกมึงอีกยังไม่เห็นมีใครบ่น”
“พักก่อนก็ได้มึง ดูหน้าน้องดิ ไม่ไหวแล้วเนี่ย” พี่ต้น พี่ปีสามอีกคนหนึ่งท้วงขึ้นเมื่อหันมาเห็นว่าหน้าผมกับปิงปองเหมือนคนกำลังจะขาดใจตายแล้วจริงๆ ทั้งเมื่อยทั้งเหนียวตัวไปหมดแล้วครับ อากาศแม่งโคตรร้อน ใครมันคิดวะให้พวกผมมาซ้อมเดินถือป้ายกลางสนาม อากาศเย็นสบายมากมั้ง ที่นี่กรุงเทพนะครับไม่ใช่กรุงโซล มึงดูซีรีส์เกาหลีมากไปปะเนี่ย
“เงียบเลยมึง กูเรียกมึงมาช่วยซ้อมไม่ได้ให้มาสปอยล์น้อง อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะว่าก่อนหน้านี้มึงให้มันพักกันไปกี่รอบแล้ว ไอ้เชี่ยต้น”
“แล้วมึงจะโหดไปไหนวะ งานแม่งอีกตั้งนาน นี่พึ่งซ้อมกันวันแรกค่อยเป็นค่อยไปดิ กูสงสารน้องเท็น น้องอุตส่าห์มาช่วยเดินให้เจอมึงโหดใส่เดี๋ยวน้องก็เผ่นกันพอดี” น้ำตารื้นเลยกู พี่ต้น ผมรักพี่ว่ะ ในบรรดาปีสามก็มีแต่พี่คนเดียวที่เข้าใจความรู้สึกผม แม่งเข้าใจถ่องแท้ซะด้วยเพราะกูกะจะเผ่นจริงๆนี่แหละ ใครจะไปทนไหวอะ ให้กูแบกป้ายเป็นกรรมกรเลย ร้าวไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดตีน
Rrrrr r
จังหวะที่กำลังเถียงกันเสียงโทรศัพท์พี่กุ๊กก็ดังขึ้น พี่แกเลยขอตัวออกไปรับสาย
“ไหวมั้ยครับน้องเท็น เดี๋ยวพี่ต้นไปเอาน้ำให้”
พี่ต้นทำท่าเหมือนจะลุกไปเอาน้ำให้ผม แต่กูไม่หิวเพราะพี่มันเอาน้ำให้ผมแดกไปแล้วเกือบลัง ไม่ต้องนอนแล้วกูคืนนี้ ลุกเยี่ยวสนุกสนาน
“ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวปวดฉี่”
“ถ้าปวดเดี๋ยวพี่พาไปห้องน้ำก็ได้ ใกล้ๆแค่นี้เอง”
“เฮ้ยพี่ไม่เป็นไรผมโอเค พี่ไปดูปิงปองเหอะ หนักกว่าผมอีก”
ผมชี้ไปทางปิงปองที่นั่งกอดเข่าสภาพไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ พี่ต้นเลยเลิกเจ๊าะแจ๊ะแล้วนั่งเงียบๆ สักพักก็มีผู้หญิงคนนึงเดินถือแก้วชานมดาวตรงเข้ามาทางผม แก้วในมือนี่เหลืองอ๋อยมาเลย
“น้องเท็น มีคนฝากมาให้ สู้ๆนะคะ” พี่เขายิ้มแล้วยื่นแก้วชานมไข่มุกสีเหลืองในมือมาให้ผม
“ใครฝากมาหรอครับ”
“เพื่อนพี่ฝากมาให้ ชื่อพาย อยู่ตรงนู้นอะ” ว่าแล้วก็ชี้ไปทางพี่ผู้หญิงผมยาวประบ่าที่ยืนรออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พอหันไปมองแล้วเขินเลยครับ พี่เขาหน้าตาน่ารักใช้ได้เลยแหละ ผมผงกหัวขอบคุณพี่เขาไปทีนึงแล้วยิ้มให้ พอพี่เขาเห็นก็เดินงุดๆหายไปอีกทาง สงสัยจะเขิน งี้แหละครับ ความเท่มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ
“เฮ้ยพวกมึง งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน กูมีธุระว่ะ” พี่ต้นที่พึ่งวางสายเดินหน้านิ่วเข้ามาบอก สบายแล้วกู ในที่สุดก็เป็นอิสระไม่ต้องเดินให้เมื่อยตุ้มแล้วโว้ย
“เย้!”
“น้อยๆหน่อยมึงไอ้เท็น อย่าให้มันออกนอกหน้ามากนัก อาทิตย์หน้ากูนัดซ้อมเวลาเดิมนะ กูไปก่อนล่ะ”
“เฮ้ยมึงกลับไงวะกุ๊ก” พี่ต้นถาม
“รถกูจอดอยู่ข้างๆเนี่ย ทำไมวะ”
“กูขอกลับด้วยคนดิ หอมึงกับหอกูใกล้ๆกันเดี๋ยวกูลงหอมึงแล้วเดินกลับเองก็ได้”
“เอ้าไอ้ต้น รถมึงเป็นไรวะ”
“ไม่รู้ว่ะมึง รถกูเสียสตาร์ทไม่ติดประจำเลยอะ”
ผมนั่งมองพี่กุ๊กกับพี่ต้นยืนคุยกันเรื่องจะขอติดรถกลับ ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกคุ้นชื่อพี่ต้นแปลกๆวะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่สงสัยกูคงคิดมากไปเองอะแหละ คนชื่อต้นแม่งมีเป็นล้าน เอาแค่ตอนปอสามในห้องผมก็มีคนชื่อต้นสี่คนแล้วอะครับ เรียกทีหันกันหมดทั้งต้นเล็ก ต้นใหญ่ ต้นน้อย และคนสุดท้ายนี่อุบาทว์สุดเลย ต้นรูกุ๋ย
“ถ้างั้นผมไปก่อนนะพี่ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ทั้งสองคนแล้วเดินแยกตัวออกมา หิวชิบหาย ไม่รู้พวกไอ้เหลิมไอ้กรมันจะซ้อมบอลกันเสร็จรึยังป่านนี้ เดินไปดูพวกแม่งหน่อยดีกว่า มันซ้อมกันอยู่อีกฟากของสนามเดียวกันกับผมนี่แหละครับ
พอผมเดินมาถึงฝั่งที่เขาแบ่งไว้สำหรับซ้อมบอลก็เห็นเดอะแก๊งยังวิ่งไล่ลูกฟุตบอลกันอยู่ในสนาม อึดชิบหาย พวกมึงรู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยกันบ้างมั้ยเนี่ย ลำบากกูอีกต้องมานั่งรอพวกมึงที่ไม่รู้ว่าจะเลิกซ้อมกี่โมง หิวก็หิว ตั้งแต่เลิกเรียนยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยครับนอกจากน้ำเปล่าจากพี่ต้น
“อ้าวน้องเท็น มารอเพื่อนอีกแล้วหรอเรา” ผมเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นพี่บีมยืนก้มหน้าลงมาคุยกับผม พอสบตากับพี่บีมผมนี่ตาพร่าเลยครับ โดนออร่าความหล่อแบบผู้ดีของพี่บีมแทงตา สงสัยผมมัวแต่มองหาเดอะแก๊งในสนามเลยไม่รู้ตัวว่าพี่เขามายืนซ้อนอยู่ข้างหลังตอนไหน
“ใช่ครับ” ผมยกมือไหว้ “วิศวะก็มาซ้อมเหมือนกันหรอพี่”
“อือฮึ พวกพี่ซ้อมกันอยู่ตรงนู้น” ผมมองตามมือพี่บีมไปก็เห็นพวกนักบอลวิศวะกำลังซ้อมบอลกันอยู่อีกฝั่งของสนาม นั่นไงครับ ไอ้พี่ปราบ พี่ซัน พี่ฉี และพี่น้ำหอมกำลังตะโกนคุยกันอยู่ ไกลขนาดนี้รังสีความหน้าตาดีแม่งยังแผ่ทะลุมาถึงฝั่งที่ผมนั่งอยู่ พวกพี่มึงใช้ความหล่อกันได้สิ้นเปลืองจริงๆ
“อะ”
“อะไรครับพี่” ผมถามทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่าพี่บีมยื่นแก้วชานมไข่มุกมาให้ผม คนมันงงอะครับ ก็ผมถืออยู่ในมือแล้วนี่ไงแก้วนึงไม่เห็นหรอ พึ่งได้มาจากพี่ผู้หญิงผมสั้นน้ำแข็งยังไม่ทันละลายเลยเนี่ย ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรกินชานมไข่มุกไม่ต่ำกว่าวันละสามแก้ว เยี่ยวทีนี่ต้องรีบกดชักโครกเลยครับ กลัวมดตอมเยี่ยว
“พี่สั่งแกร้บมาให้ เห็นเราชอบกิน ลองกินดูดิ ชานมข่อย พี่เห็นใครๆเขาก็ฮิตกินกัน”
“อ๋อ ขอบคุณครับพี่” ผมรับมาเพราะเกรงใจ พี่บีมอุตส่าห์สั่งมาให้ถ้าไม่รับก็น่าเกลียดแย่เลย
“แล้วพี่บีมรู้ได้ไงอะว่าผมชอบกินชาไข่มุก”
“อ๋อ” พี่บีมหัวเราะ “เมื่อคืนพี่ดูคลิปรีวิวชานมเสือภูเขาพ่นไฟของเรา เห็นเท็นบอกว่าไม่อร่อยก็เลยซื้ออันนี้มาให้ ล้างปากไง” เหยดแหม อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเรา ทั้งหล่อทั้งพูดจาดี ทำไมพี่เขาดีขนาดนี้วะ เกาแก้มเลยครับ ไม่คิดว่าพี่บีมจะมาดูคลิปอันไร้สาระของผมด้วย พอมีคนมาพูดถึงคลิปต่อหน้าแล้วมันเขินเหมือนกันแฮะ
“โห พี่ดูด้วยหรอ ขอบคุณนะครับ ไว้วันหลังพี่บีมแนะนำร้านให้ผมบ้างนะ บางทีก็คิดไม่ออกแล้วเหมือนกันว่าจะไปรีวิวร้านไหนเพราะไปมาเกือบหมดแล้ว พวกร้านแถวมออะ”
“ได้อยู่แล้ว ไว้วันหลังเท็นจะรีวิวร้านไหนชวนพี่ไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ พี่อยากดังบ้าง” พี่บีมพูดติดตลก แต่ผมฟังแล้วเกิดไอเดียเลยครับ พี่บีมนี่จัดว่าหล่อไม่ใช่เล่นเหมือนกันถ้าพามาออกรายการของผมยอดวิวน่าจะถล่มทลาย
“พี่บีมใจดีจังครับ ไม่เหมือนไอ้พี่ปราบ รายนั้นหล่ออย่างเดียวแต่นิสัยนี่ไม่ไหว” แล้วกูจะพูดถึงไอ้พี่ปราบมันทำไมวะเนี่ย ถุยๆๆ
“ฮ่าๆๆ อย่าไปรบกวนมันเลย ชวนพี่ก็ได้ ถึงจะไม่หล่อเท่าไอ้ปราบแต่พี่ก็อดีตเดือนวิศวะเหมือนกันนะ” พี่บีมยิ้มก่อนจะขยิบตาให้ผม พอได้ยินว่าพี่บีมเป็นถึงเดือนพี่เขายิ่งดูหล่อว่าเดิมไปอีก แต่หล่อคนละแบบกับพวกพี่ซันครับ พวกนั้นขอใช้คำว่าหล่อแบบสถุนก็แล้วกัน ส่วนพี่บีมนี่เรียกว่าน้องๆสุภาพบุรุษจุฑาเทพ
“งั้นเดี๋ยวไว้พี่แอดเฟสบุคเท็นไปนะ จะได้นัดกันง่ายๆ”
“ครับพี่”
“สวัสดีคร้าบทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง เท็นเทอร์ตี้เอ้ก อี้ เอ้ก เอ้ก” เสียงโหวกเหวกของพวกพี่ซันครับ หันไปมองก็เห็นพี่ซันกับพี่ฉีแม่งเดินตีปีกมาเป็นไก่โต้งเลย เป็นเชี่ยไรกันอีกเนี่ย กูอายเค้า ส่วนพี่น้ำหอมกับพี่ปราบดาก็เดินตามมาเงียบๆข้างหลัง ไอ้พี่ปราบหน้าหงิกเป็นตีนตามประสาพี่แกเหมือนเดิม ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมาอีก
“เล่นไรกันเนี่ยพี่ เบาๆดิ คนมองหมดแล้ว”
“ก็คลิปน้องเท็นเทอตี้เอ้กไงคร้าบ พวกพี่ดูแล้วน้าาา กินชานมไข่มุกด้วย น่ารว๊อกกกกอ่ะห์”
“เอ้าพวกพี่ก็ดูเหมือนกันหรอ กดสับตะไคร้ให้ผมยังเนี่ย”
“สับตะไคร้จนเขียงแตกแล้วครับน้องเท็น พี่กดไลค์กดแชร์ตามที่น้องบอกเรียบร้อย ยอดวิวสามแสนเป็นของพวกพี่ไปแล้วสองแสนห้า”
“มึงมาทำไรตรงนี้วะไอ้บีม” เป็นเสียงพี่ปราบถามขึ้นท่ามกลางบทสนทนาไร้สาระของพวกพี่ฉีกับพี่ซัน
“กูเอาน้ำมาให้น้องเท็น จะไปแล้วพอดี งั้นพี่ไปก่อนนะครับน้องเท็น ไว้เดี๋ยวแอดแล้วทักไปนะ” พี่บีมส่งยิ้มให้ผมอีกทีแล้วปลีกตัวออกไปเลย ส่วนไอ้พี่ปราบก็มองหน้าผมแล้วทำหน้าบูดกว่าเดิมอีก เป็นอะไรของพี่มันอีกเนี่ย
“กินชานมสองแก้วเลยหรอน้องเท็น แบ่งพวกพี่บ้างดิ” พอพี่บีมแยกไปพี่ซันก็หันมาถามถึงแก้วชานมในมือผม นั่นแน่ ตลกแดกแบบไอเหลิมอีกคนแล้ว
“แก้วนี้ผมดูดไปแล้วอะพี่ซัน งั้นพี่เอาแก้วนี้ไปแทนละกัน พี่บีมพึ่งซื้อมาให้เมื่อกี้ผมยังไม่ได้กินเลย”
“กูไม่แดก”
“อ่อๆๆ ถ้าไม่ใช่ชานมที่น้องเท็นซื้อมาให้พี่ปราบก็กินไม่ลงใช่มั้ยคร้าบ”
“ฮิ้ววววว” พวกพี่มันแม่งเสียงดังกันอีกแล้วครับ เสียงดังเก่งงี้ไม่ต้องลงหรอกฟุตบงฟุตบอลอะไปขึ้นสแตนด์เชียร์เหอะ เวิร์ค
จังหวะนั้นพวกไอ้กรไอ้เหลิมก็เดินกอดคอกันออกมาจากสนาม เหงื่อท่วมตัวมาเลยนะไอ้พวกสกปรก
“หวัดดีครับพี่” พวกมันยกมือไหว้พี่เขารอบวง
“เออดีมึง นิเทศซ้อมกันเสร็จยังวะ”
“เสร็จแล้วพี่ ว่าจะไปหาไรกินแล้วค่อยกลับไปนอน”
“เออ ผมว่าจะนอนให้ลืมไปเลยว่าพรุ่งนี้มีคลาสบ่าย” ไอ้เหลิมบอกพร้อมหยิบกระเป๋ามาสะพายเตรียมแยกย้าย
“พวกกูก็ว่าจะไปหาไรแดกเหมือนกัน เสร็จแล้วจะไปหาร้านนั่งดูบอลต่อ พวกมึงไปกับกูดิไม่มีเรียนเช้าไม่ใช่หรอ” พี่น้ำหอมเอ่ยชวน
“เอาดิพี่ พวกมึงว่าไง” ผมรีบตอบรับทันทีทั้งๆที่ไม่ได้ชอบดูบอลไรกับเขาหรอก โอกาสในการทำมิชชั่นมาอีกแล้วครับ กูไม่ปล่อยให้หลุดไปง่ายๆแน่รอบนี้
“เออไปก็ไปวะ กูได้หมดอะ อยากแดกเบียร์พอดี”
“งั้นสามทุ่มเจอกันห้องสมุด”
“เอ้าา ไปทำไรห้องสมุดอะพี่ ไหนบอกไปดูบอลไง ให้ไปนั่งรออ่านหนังสือผมไม่ไปนะ”
“ไอ้ควาย” พอพูดจบไอ้เหลิมก็ด่าผมทันที อ้าวกูพูดไรผิดอะ
“ฮ่าๆๆ น้องเท็นแม่งน่ารักว่ะ ห้องสมุดคือชื่อร้านเหล้าคร้าบ ไม่เคยไปหรอเรา” ตั้งแต่มาเรียนที่นี่กูก็พึ่งเคยได้ยินนี่แหละ เจ้าของร้านเป็นเหี้ยไรวะเอาห้องสมุดมาตั้งเป็นชื่อร้านเหล้า
“น่ารักหรอวะ แถวบ้านกูเรียกโง่” ไอ้พี่ปราบอีกแล้ว เหมือนพี่มันเกลียดผมอะ
“กูว่าแยกย้ายเหอะ อยู่ต่อเดี๋ยวมีคนต่อยกันปากแตกก่อน ได้แดกเลือดแทนแดกเบียร์กันพอดี สามทุ่มเจอกันเว้ย”
ห้องสมุด
ผมมาถึงหน้าร้านแล้วครับ วันนี้กูจัดเต็มมาก ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมเรียกได้ว่าเป๊ะทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดตีน นานๆทีได้เที่ยวต้องเอาหน่อย ผมสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเก่ง ปลดกระดุมเรียกสาวเบาๆครับสองเม็ดกับกางเกงยีนส์ขาดเข่าซึ่งไม่รู้ว่ากูซักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ สบู่เดอมาพอนหลบไปก่อนครับเพราะผมอาบน้ำหอมมาเลยวันนี้ กูยืนอยู่ท้ายซอยแต่คนที่อยู่ปากซอยแม่งต้องได้กลิ่นอาร์มานี่โค้ดที่ผมฉีด
“โอ้โหไอ้เท็น มึงจะไปไหนวะ” ไอ้เหลิมที่ใส่เสื้อยืดห่านคู่กับกางเกงบอลและรองเท้าช้างดาวถามผม เหยดแหม่ยังมีหน้ามาถามกูอีกหรือไอ้ทุยเพื่อนยาก มึงนั่นแหละคีบช้างดาวจะไปไหน แต่งตัวไม่ให้เกียรติสถานที่เลยไอ้ซ้าดด มองผ่านๆกูนึกว่าเด็กรับรถ
“มึงคงร้อนมากเนอะเท็น คอเสื้อนี่ลึกมาเลย ก้มทีกูเห็นถึงตีน” ไอ้กรเอ่ยแซวผมอีกคน สงสัยอิจฉาที่วันนี้ผมแต่งตัวหล่อกว่าแน่ๆ
“เลิกแซวกูแล้วเข้าร้านเหอะ กูเริ่มร้อนจริงแล้วเนี่ย อย่าให้กูจักแร้เปียกเลยเดี๋ยวไม่หล่อ”
พวกเราเดินเข้ามาในร้านก็เห็นพวกพี่ปราบนั่งกันอยู่ตรงโต๊ะแถวๆโปรเจคเตอร์ คงกะว่ามาดูบอลกันเต็มที่เพราะทุกคนสวมเสื้อกับกางเกงบอลมาสภาพไม่ต่างจากไอ้เหลิมเท่าไหร่ จะมีก็แต่พี่ปราบที่ดีกว่าหน่อยคือสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์ แต่แค่นี้ก็เด่นจนคนก็มองกันทั้งร้านแล้วครับ
“มึงแต่งตัวเหี้ยไรอีกแล้วเท็น สะเหล่อ” อ้าว มาถึงก็เปรี้ยวตีนเลยนะพี่ปราบ
“กูว่าน่ารักดีออก สะเหล่อตรงไหน น้องเท็นใส่มาบ่อยๆนะคร้าบพวกพี่ชอบดู” ดูไรวะ เสื้อกูมีอะไรให้ดูอะ สงสัยพี่มันเป็นคนตามแฟชั่นว่ะ
พวกผมนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่โดยไอ้กรดันให้ผมนั่งติดกับพี่ปราบ สงสัยมันอยากให้ผมนั่งใกล้ๆหาโอกาสตีซี้จะได้ทำภารกิจสำเร็จไวๆ แหม่ รอบคอบดีจริงๆเพื่อนรัก รอสักพักแก้วก็ถูกนำมาวางเพิ่มอีกสามใบ ดูจากสภาพโต๊ะตรงหน้าแล้วพวกพี่มันคงแดกนำไปเยอะแล้วเหมือนกัน ที่เขาบอกว่าพวกวิศวะคอทองแดงก็ท่าจะจริงครับเพราะพวกพี่มันยังไม่เมากันเลย
“อะครับน้องเท็น ชนแก้วกับพวกพี่หน่อย” พี่ซันรินเบียร์แล้วยื่นมาตรงหน้าผม
ผมรับแก้วมาพร้อมๆกับพวกไอ้กรไอ้เหลิมแล้วชนแก้วกับพวกพี่ซัน แต่ไม่ได้กินจนหมดแก้วเหมือนคนอื่นครับ จิบไปนิดนึงพอเดี๋ยวกูเมาไว ช่วงนี้ยิ่งไม่ค่อยได้แดกอยู่ เกิดเมาขึ้นมากูโดนไอ้กรบ่นจนหูชาแน่
“ไหนอะพี่บอลเตะไปยัง”
“วันนี้ไม่มีบอลว่ะ สงสัยพี่จำผิดวัน”
“กูว่าไหนๆก็ไม่ได้ดูบอลแล้ว มาแดกเบียร์กับพวกมึงครั้งแรกทั้งทีต้องทำอะไรที่มันตื่นเต้นหน่อย เล่นเกมกันป่าว” พี่ฉีเอ่ยชวนพลางกระดกเบียร์อึกใหญ่
“เกมไรอะพี่ ผมเล่นไม่เป็น”
“ง่ายมากครับน้อง มันเรียกว่าเกมหมุนขวด กติกาคือ พี่จะหมุนขวดเบียร์แล้วถ้าปากขวดไปหยุดที่ใครคนนั้นจะได้ถามคำถามรอบวง ถ้าใครเคยทำอะไรตามที่มันพูดก็แดกหมดแก้ว ง่ายๆแค่นี้คล้ายๆเกมหักไม้อะ”
“มาๆๆๆ กูเริ่มเอง” พี่ซันอาสาพร้อมยกขวดขึ้นมาวางบนโต๊ะแล้วหมุนทันที
ฟรึ่บ
ปาดขวดหมุนไปหยุดอยู่ที่พี่น้ำหอมครับ
“ใครไม่เคยมาร้านห้องสมุด หมดแก้ววว!” อ้าวพี่น้ำหอม คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด ดูทรงแล้วพวกพี่มันน่าจะเป็นขาประจำของที่นี่ครับ ส่วนเดอะแก๊งผมเรียกว่าร้านไหนขายแอลกอฮอล์พวกมันก็ไปมาหมดทั่วทุกเจ็ดย่านน้ำ เป็นผมคนเดียวครับที่กระดกหมดแก้ว คือพี่มันก็รู้อยู่แล้วปะวะว่าผมไม่เคยมาอะ แบบนี้แสดงว่าตั้งใจแกล้งกูนี่หว่าเดี๋ยวรอให้ถึงตากูก่อนเหอะ
พี่น้ำหอมหมุนขวดต่อครับรอบนี้ไปปากขวดหยุดอยู่ที่ไอ้เหลิม
“ใครไม่เคยกินขี้มูกตัวเอง หมดแก้ววว!!”
“ไอเหี้ยเหลิมอุบาทว์สัด กูต้องเคยกินด้วยหรอขี้มูกอะ”
“ตานี้มึงยกแก้วคนเดียวเลยไอ้ชิบหาย ไม่มีใครเขาทุเรศเหมือนมึงหรอก” เห็นไอเหี้ยเหลิมโดนรุมประนามแล้วผมสะใจยังไงไม่รู้ครับ
แม้จะโดนรุมประนามหยามเหยียดจากคนทั้งโต๊ะไอ้เหลิมก็ยังหัวเราะอย่างหน้าด้านๆ พอมันกระดกหมดแก้วแล้วก็หมุนขวดต่อ
ฟรึ่บ
รอบนี้ปากขวดไปหยุดอยู่ตรงที่พี่ปราบดาครับ พี่มันหยุดคิดนิดนึงก่อนจะยิ้มชั่วร้ายออกมา
“ใครพกตุ๊กตาหมาหน้าตาปัญญาอ่อนไว้กับตัว หมดแก้ว”
“ไอเหี้ยปราบ ตั้งใจเล่นหน่อยดิ ใครมันจะไปพกของแบบนั้นวะ”
“เออ ใครแม่งพกของแบบนั้นก็ปัญญาอ่อนแล้ว” หน้าสั่นเลยกู พูดอย่างนี้พี่เอามีดมาปาดคอผมเลยดีกว่า วันนี้กูก็พกมานะน้องหมาปลุกเสกโดยพ่อปู่อะ นอนนุ่มอยู่บนรถกูโน่น
ผมส่งสายตาคาดโทษไปให้พี่ปราบที่กำลังแดกเบียร์อย่างสบายใจเฉิบก่อนจะค่อยๆยกแก้วขึ้นมาแล้วกินจนหมดแก้วอีกครั้ง เริ่มมึนแล้วเหมือนกันนะเนี่ย
“ฮ่าๆๆๆ เอาจริงหรอวะเนี่ย น่ารักจังค้าบน้องเท็น พกตุ๊กตาด้วยหรอเรา”
“มันพกทุกวันแหละพี่ วันนี้มันก็เอามา ใช่ปะมึง” อ้าวไอ้กรเพื่อนรัก ขายกูอีกแล้ว
พี่ปราบดาหมุนขวดต่อครับ รอบนี้ไปตกอยู่ที่ไอ้กร เมื่อไหร่จะถึงตากูวะ เริ่มหนักๆแล้วยังไม่ได้แก้แค้นเลย
“ใคร
ไม่เคยมีแฟน หมดแก้วค้าบ” อ้าวไอสัด เล่นกูอีกแล้ว ไม่เคยมีแฟนแล้วผิดด้วยหรอวะ ผมยกแก้วขึ้นมากระดกทันที ตอนแรกนึกว่าจะมีแค่ผมคนเดียวแต่กลายเป็นว่าพี่ปราบดาก็ยกขึ้นมากินเหมือนกัน มันเริ่มเมาแล้วหรอวะทำไมหน้าดูแดงๆ
“กูถือคติรักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน ใครจะไปเหมือนพวกมึงล่ะ เปลี่ยนสาวจนกูจำชื่อไม่หวาดไม่ไหว”
“แหมเท็นมึงก็ไม่ใช่น้อยๆ คนชอบมึงเยอะจะตายห่า แต่มึงเสือกโง่ไม่รู้ตัวเอง วันก่อนก็มีคนมาขอไลน์ มาวันนี้อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะ ที่เด็กบัญชีเอาชานมมาให้มึงอะ”
“อย่าฮอตให้มันมากดิครับน้องเท็น เดี๋ยว
คนที่ชอบจะตายอยู่แล้วมันสู้ไม่ไหว” พูดแบบนี้แปลว่ามีคนชอบกูหรอ หมาที่ไหนจะมาชอบกูครับทุกวันนี้กูแห้งกว่าปลาสลิดบางบ่ออีก แต่พอพี่ซันพูดจบพี่ปราบก็แย่งขวดไปหมุน หมุนแรงมากครับรอบนี้ ขวดแม่งหมุนติ้วๆไม่หยุดเลย
เคร้ง
แล้วปากขวดก็ไปหยุดอยู่ตรงหน้าพี่ซัน พี่มันยิ้มร้ายมาเลยครับไม่รู้รอบนี้จะเล่นอะไรอีก
“ใครที่กำลัง
แอบชอบรุ่นน้องอยู่ ไม่ต้องหงุดหงิดแล้วนะคร้าบ ตานี้หมดแก้ววววววคร้าบผม”
“ฮิ้วววววว” ทีนี้พวกที่เหลือก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า ไม่เว้นแม้แต่ไอ้กรกับไอ้เหลิมก็เอากับเขาด้วย แม่งหัวเราะอะไรกันวะ กูงงเป็นไก่ตาแตกเลย อยากขำด้วยอะบอกกูบ้างดิ
ผมมองแล้วไม่มีใครหยิบแก้วขึ้นมาสักคน แต่จู่ๆพี่ปราบมันก็คว้าแก้วขึ้นมาแล้วกระดกทีเดียวจนหมด
“ฮิ้วๆๆๆ”
“เอาว่ะ”
เหย่ดคร่ก พี่ปราบดามันชอบใครวะ เห็นทำตัวปากหมาไปวันๆมึงมีมีโมเม้นท์มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกับเขาด้วยหรอ ชิบหายแล้วกู ถ้าเขามีคนที่ชอบแล้วแบบนี้ภารกิจผมก็จบเห่หมดดิ ไม่ได้นะโว้ย
พอจบตานั้นพวกมันก็เลิกเล่นครับแล้วนั่งกินเบียร์ที่เหลือกันต่อ ผมกินไปได้อีกประมาณสามแก้วก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้วเลยขอตัวออกมาสูดอากาศข้างนอกร้านดีกว่า แต่พอผมลุกขึ้นก็รู้สึกได้ว่าทุกอย่างมันโคลงเคลงไปหมด กว่าจะลากสังขารตัวเองมาถึงหน้าร้านได้เล่นเอากูแทบลิ้นห้อย
“ไหวมั้ย” ผมทรุดตัวลงนั่งอยู่หน้าร้านได้สักพักก็มีเสียงคนถามขึ้น แต่ถ้ากูหันไปมองตอนนี้อ้วกกูพุ่งเป็นสิงโตเมอไลอ้อนแน่ครับเลยไม่ได้สนใจ สักพักก็รู้สึกได้ว่าเขามานั่งยองๆอยู่ข้างๆ ถึงจะไม่เห็นหน้าก็รู้เลยครับว่าเป็นไอ้พี่ปราบแน่ๆ กลิ่นสบู่แบบนี้ผมจำได้
“รู้ตัวว่าไม่ไหวยังจะทำซ่า”
“หวายยยยดิ แล้วพี่ตามผมออกมาทำมายยย” เดี๋ยวนะนี่เสียงกูหรอ ยานยิ่งกว่าตอนกูสอบท่องอาขยานวิชาภาษาไทยอีก
“กูออกมาดูคนเมา”
“หนายยยยยยยอะคนมาววว ม่ายยยยยเห็น ม่ายยยยยมี ม่ายยยรับรู้วว”
“มึงนี่จริงๆเลยนะเท็น” ไม่พูดเปล่าแต่พี่มันยื่นมือมาโยกหัวผม ไอ้เชี่ยอย่าโยกเดี๋ยวอ้วกพุ่ง เอามือออกไปเลยนะมึง
“ตามผมมาทำมายยย มีคนที่ชอบแล้วก็ไปตามคนน้านนของพี่ดิ” แล้วผมจะประชดประชันพี่มันทำไมวะเนี่ย พอเมาแล้วชอบพูดทุกสิ่งที่คิดในใจตลอดเลยกู
“เมาแล้วงอแงจังวะเท็น กลับเหอะเดี๋ยวกูไปส่ง”
“ม่ายยเมา ม่ายยกลับ ม่ายยด้ายยงอแงด้วย” ผมยังดื้อด้าน ก็กูไม่อยากกลับอะ
“เมาแล้วครับ กลับกันนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” กูเมาจนหูฝาดไปรึเปล่าวะ พี่ปราบดาที่ปากหมานักหนามันพูดเพราะกับผมอะ แล้วทำไมใจกูต้องเต้นแรงด้วยเนี่ย
“ม่ายต้องมายุ่งเลยยย อุตส่าซื้อตุ๊กตามาให้ก็ไม่อาววว พี่แม่งโคตรใจร้ายเลยอ่า”
พี่ปราบดาถอนหายใจแล้วฉุดมือผมให้ลุกขึ้นตาม พอลุกขึ้นได้มันก็ลากผมมาที่รถของผมเอง รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับยัดเข้ามาในรถตรงเบาะที่นั่งข้างคนขับแล้วครับ ส่วนพี่มันก็ตามมานั่งประจำตำแหน่งคนขับข้างๆผม ระยะห่างเราสองคนอยู่ใกล้แค่นี้เอง
ผมพยายามที่จะคาดเข็มขัดนิรภัย ต่อให้เมายังไงก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนครับ แต่ทำไมไอ้เข็มขัดเชี่ยนี่มันใส่ยากใส่เย็นจังวะ ดูเหมือนพี่ปราบจะทนความงุ่นง่านของผมไม่ไหวเลยโน้มตัวมาคาดเข็มขัดให้ผม
“
ตัวหอม” เหี้ยยยยยย อยู่ใกล้กันขนาดนี้แล้วมึงจะพูดทำไมเนี่ยพี่ ไม่คิดว่าผมจะเขินบ้างหรอวะ แล้วไอ้หัวใจเวรนี่แม่งก็เต้นแรงอยู่ได้ อีก้อนเนื้อไม่รักดี มึงจะเต้นทำม้ายยยยยย แถมตัวผมห่างกับพี่มันแค่นี้ด้วยเดี๋ยวมันก็ได้ยินหรอก เปลี่ยนเรื่องดีกว่ากู
“พี่ปราบ.. พี่รู้หรอว่าห้องผมอยู่ไหน”
“เมาแล้วก็นอนเงียบๆไปเหอะ” พูดจบมันก็สตาร์ทรถแล้วขับออกมาเลย
“อะไรวะ ทำไมใครๆก็รู้จักห้องผมอะ สงสัยต้องหาห้องใหม่แล้วมั้ง" สวัสดีทวีสุขไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ฮือออ
“มึงอยู่นี่แหละดีแล้ว ถึงเวลาค่อยย้าย”
“ย้ายไปไหนอะ นี่ห้องผมไม่ปลอดภัยจริงๆหรอพี่”
พี่ปราบดาไม่ได้พูดอะไรต่อ สายตาของเขาจับจ้องอยู่บนถนนขณะที่รถเคลื่อนตัวบนถนนไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่าอุณหภูมิค่อนข้างเย็นเลยยกแขนขึ้นมากอดตัวเองไว้หลวมๆ
“หนาว..”
“หนาวหรอ ปิดแอร์มั้ย” พี่ปราบหันมามองผมแล้วถาม
“อือออออ..”
"เท็น"
"หื้มมม"
“พูดดีๆ
อย่าคราง”
พอพี่เขาพูดจบผมก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าตัวเองมันเห่อร้อนแปลกๆทั้งที่เมื่อกี้กูยังหนาวจนต้องยกแขนขึ้นมากอดตัวเองอยู่เลย พี่ปราบดาเห็นผมเงียบไปมันก็ยิ้มแล้วเอื้อมมือไปปรับแอร์ให้เบาลง แล้วสักพักเพลงก็ดังขึ้นคลอๆ เปิดเพลงกล่อมกูหรอ
‘มีคนๆหนึ่งที่ไม่ได้ดีพร้อมทุกอย่าง
และยังเป็นคนไม่ค่อยน่าสนใจ
เขาไม่ได้ทำอะไรที่ดูมีความหมาย
เป็นแค่คนหนึ่งคน
หน้าตาก็ธรรมดาค่อนข้างไม่พิเศษ
ไม่ค่อยสวยงามอย่างคนไหน
และยังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ
ไม่ๆซักอย่าง’เคลิ้มเลยกู จะหลับแล้วเนี่ย
“คำถามก็คือเธออยากชอบคนไม่พิเศษ
ไม่ค่อยสวยงามอยู่บ้างไหม”
เสียงพี่ปราบมันร้องเพลงหรอวะ จัดว่าเสียงดีใช้ได้เหมือนกันนะ
“เพราะคนๆหนึ่งที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ…”
“หลงรักเธอมานานแล้ว...”ถึงจะอยากรู้ว่าใช่เสียงพี่ปราบร้องเพลงจริงมั้ยหรือผมเมาจนหูเพี้ยนไปเอง แต่ตอนนี้ไม่มีแรงจะลืมตาขึ้นมาดูแล้วครับ หนักไปหมด แล้วทุกๆอย่างก็ค่อยๆกลายเป็นสีดำ
z Z Z
TALKเขินมากกกกกกกกกกก แต่งเองก็เขินเอง อิพี่ปราบเขาก็มีมุมอบอุ่นเหมือนกันนะ ใครว่าพี่ปราบกากตอนนี้พี่เขามากแล้วนะคะ5555555555555555
ลิงค์เพลงที่พี่ปราบร้องให้น้องเท็นค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=ajItw5tL_ZEเจอกันตอนหน้าค่า รักๆๆๆๆ
#ปราบดาพิเศษ
@medley0810