ปล่อยให้ค้างไป ว่าง ๆ จะมาภาคพิเศษให้ทีหลัง
จบตอนพิเศษแล้วนะครับ กลับมาต่อปัจจุบัน(ในเรื่อง)กัน
ตอน เอาคืนเชอรี่ .................................................................................................
หลังจากวันนั้นที่ผมเมายาดองที่หอไอทักษ์ผมก็ไม่ได้กินเหล้าอีก ที่ทำงานทุกวันไออั้มยังเกาะแกะผมไม่เลิกยังเทียววนไปตรงที่ผมทำงานอยู่แม้มันจะเข้ากะกลางคืนก็ตามแต่ทำโอทีต่อจนถึงเก้าโมงเช้าทุกวัน ไม่รู้มันจะขยันอะไรกันนักหนา ไม่ใช่แค่อั้มคนเดียวนะ ที่อยู่ทำโอทีผมก็ยังเห็นพลอยเอาน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ ฝากเชอรี่มาให้ผมทุกเช้าเหมือนกัน ก่อนกลับห้องก็เดินผ่านมาโบกมือลาผมทุกวัน จนคนอื่นเริ่มชินไปหมดแล้วรวมทั้งผมด้วย ข่าวเกี่ยวกับผมแพร่สะพัดขจรขจายไปไกลจนหลายคนเริ่มจะมองและสนใจ ผมก็ได้แต่ทำใจแหละครับ เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดแหละดี ใครถามอะไรมาผมตอบได้ก็ตอบถ้าตอบไม่ได้ผมก็ยิ้มซะ
วันนี้เป็นวันเสาร์เขามีการแข่งกีฬาชิงชนะเลิศกันตอนเช้า พอสี่โมงเย็นจะเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์มีวงดนตรีและการแสดงบนเวทีและมอบรางวัลกัน ผมก็ไม่ได้ไปร่วมงานด้วยหรอก ผมรู้สึกเหนื่อย ๆ เพลีย ๆ เหมือนไม่สบายขอนอนพักอยู่ห้องแล้วกัน
คงจะถ่อสังขารไปร่วมด้วยไม่ไหว ได้ยาพารา หนึ่งเม็ด แก้อักเสบหนึ่งเม็ดและแก้แพ้อีกหนึ่ง เป็นสูตรเฉพาะของผมเวลาไม่สบาย กินรวมกันแบบนี้ทีไรผมก็หายไข้เลยทุกที ไม่ควรเอาอย่างนะครับเพราะไม่ได้มีหมอแนะนำ
ผมหลับไปนานเหมือนกันตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น ปกติผมก็ไม่ชอบนอนกลางวันเพราะตื่นทีไรใจผมจะต้องสั่น กระวนกระวายทุกที ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร จะต้องนั่งนิ่ง ๆ พักใหญ่อาการถึงจะหายไปเอง แต่นี่คงเพราะพิษไข้และฤทธิ์ของยาด้วยที่ทำให้ผมตื่นขึ้นมาอย่างสบายเนื้อสบายตัวมากขึ้น แต่ก็ยังกรึ่ม ๆ ไม่สร่างไข้ดี
“พงษ์ ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงมั้งหายยัง” ไอนันถามผมขณะที่ผมยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง
“ อืม ก็ดีขึ้น แล้วนายรู้ได้ไงว่าเราไม่สบาย” ผมทำหน้าสงสัยว่ามันรู้ได้ไง อืม มันต้องมาแอบแตะอั้งผมตอนหลับแน่เลย (น้าน )
“...................” มันไม่ตอบแต่มันยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเก็บเอาถ้วยจานที่ผมใส่อาหารประทังชีวิตวางเกลื่อนเมื่อตอนเที่ยงไปล้าง (ก็เขาเก็บไม่ไหวนี่หน่า)
อะไรว่ะถามไม่ตอบ ทำไมไม่ตอบนันจะให้เราคิดว่านายเอามือมาแตะที่หน้าผาก ที่ลำคอ ที่แขนที่ขา แล้วก็รู้ว่าเราไม่สบายงั้นเหรอ นายจะทำแบบนั้นจริงเหรอ
“ พงษ์ลุกไปกินข้าวไหวป่าว ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวซื้อมาให้” ผมว่ามันจะห่วงผมแปลก ๆ ไปรึป่าว เพื่อนกันเขาห่วงกันแบบนี้เหรอ หรือว่าผมคิดมากไป
“ไม่เป็นไรเราหายแล้วไปกินเองได้” ที่บอกกินเองได้ก็คงไม่พ้นร้านขายอาหารตามสั่งหน้าหอแหละครับง่ายและสะดวกที่สุด แต่ในใจก็นึกเสียดายวันนี้วันแข่งกีฬาโรงงาน มีงานเลี้ยงแท้ ๆ ตัวเองต้องมานอนซมอยู่ในห้องอย่างนี้ปานนี้ไอทักษ์ พี่สอ คงได้เมาหัวปิ้นแล้วม้าง แล้วก็ไอพี่ลมด้วย เอะไปนึกถึงมันทำไม
“ อืม.....อ๋อ ยานายเราเก็บไว้ข้างที่นอนหน่ะเข้ามาเห็นวางเกลื่อนเต็มห้องเลย” แฮ ๆ มันรู้ว่าผมไม่สบายจากถุงยานั้นหรอกเหรอ หลอกให้ดีใจหมดเลย อายว่ะอายความคิดตัวเองได้แต่ยิ้มเขิน ๆ ส่วนไอนันมันคงคิดว่าผมจะอายที่วางของเกลื่อนกลาดไม่รู้จักเก็บ แต่ขอโต้ดนั้นผมทำเป็นประจำ
“งั้นก็อาบน้ำแต่งตัว เดี๋ยวไอกบมารับ” มันบอกผมแค่นั้นแล้วก็ไม่พุดอะไรต่อบอกแค่เพียงว่าไอกบจะมารับไปกินข้าวข้างนอกแค่นั้น ผมก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อยเรื่องไม่สบายลืมไปได้เลยผมหายเป็นปลิดทิ้งตั้งแต่ตอนไอนันบอกว่าจะมีเลี้ยงเหล้านั้นแหละ ก็ผมพลาดงานเลี้ยงไปแล้วนี่เรื่องอะไรจะยอมพลาดอีกละครับ วันหยุดทั้งทีอุตส่าหยุดกินมาได้ตั้งหลายวันวันนี้ขอกินล้างพิษไข้ซะหน่อยละกาน
......................................................................................
ไอกบเอารถมอเตอร์ไซค์มารับพวกเราที่หน้าหอพัก ไม่ยักกะรู้ว่ามันมีรถขับด้วยแต่ดูสีดูยี่หอแล้วผมว่ามันคุ้นตายังไง ๆ อยู่ เส้นทางที่มันพามามันก็คุ้นๆ นะ อืม ผ่านสี่แยกทางไปหอพักอั้มแต่ไปคนละทาง ใช่แล้วทางนี่ต้องผ่านร้านยาดองแต่ไหงมันไม่จอดไม่ได้มากินที่ร้านนี่หรอกเหรอ มันขับผ่านร้านมามุ่งตรงไปทางหอพักไอทักษ์ อ๋อ มันจะไปหอไอทักษ์นั้นแหละสุดปลายทางมันก็ไม่มีที่ไหนนี่ แล้วก็มาถึงจนได้
มันเลี้ยวรถเข้าตึกแถวสีฟ้าสองชั้นด้านซ้ายมือ แล้วจอดตรงที่หน้าบันได เฮ้ย ผมรู้แล้วหล่ะว่ามันจะไปกินข้าวที่ไหน
รู้แล้วหล่ะว่าทำไมรถมันคุ้น ๆ แล้วก็รู้แล้วหล่ะว่ามันจะไปห้องใครไม่ใช่ห้องไอทักษ์แน่ก็คนที่ยืนโบกมืออยู่ไว ไวนั้นไง เชอรี่หล่ะ
ไอกบเดินนำขึ้นบันไดไปก่อน ทำยังกับว่ามันคุ้นเคยที่นี่ดีผมกับไอนันเดินตามเข้าไปในห้อง ก็เห็นไอกบกระดกเหล้าเข้าปากไปแล้ว
อะโห วันนี้โชคดีครับเปลี่ยนบรรยากาศการกินหน่อย จากยาดองวันนี้ขอขยับมาเป็นเหล้าแดงแทนละกัน (ยังคิดถึงร้านป้าอยู่นาเอาไว้วันหลังละกัน ) ซีดีคาราโอเกะพี่แอ็ดคาราบาวก้ออกมาวาดลวดลายกล่อมชาวบ้านชาวช่องนอนตั้งแต่หัวค่ำ แต่ที่จะนอนไม่ได้ก็เพราะเสียงของไอกบนี่แหละ ในห้องก็มีพลอย โอเด็ด แล้วก็เชอรี่อยู่ก่อนแล้ว ผมไม่ได้สงสัยหรอกว่าพวกนี้ไปชวนกันตั้งวงตั้งแต่ตอนไหน ที่แน่ ๆ คือไม่มีใครไปงานเลี้ยงกีฬาที่โรงงานจัดเลย
“โห เชอรี่ ขาขาวว่ะ อ่อยเลยนะ” เป็นไอนันที่ปากดีที่ไปแหย่รังมดแดง เข้า
“อิตานันบ้า นี่แหนะ” ผมก็ได้ยินแต่เสียงร้องโอ้ย ของไอนันดังกว่า บัวลอยของพี่แอ็ดที่ว่าดังแล้วซะอีก
“โหย มือรึอะไรว่ะหยิกเจ็บชิบ” ก็เพราะอย่างนี่แหละที่ผมไม่กล้าแซวเชอรี่มัน กลัวจะอ่วมก่อนได้ทำอย่างอื่น อิอิ
“สมน้ำหน้าปากดี ถ้ามีต่อไปเดี๋ยวจับปล้ำซะเลย” มันขู่แบบโหมดหื่นเลย ถ้าไอนันโดนเชอรี่ปล้ำมีหวัง ได้แห้งตายแหง ๆ ละไอนันเอ้ย
“ดีพลอย” ผมทักพลอยที่นั่งยิ้มแป้นอยู่หน้าทีวีข้าง ๆ ไอกบ ผมเพิ่งสังเกตเห็นชัด ๆ วันนี้เองว่าพลอยหน้าขาวเนียนมาก มองไงก็เหมือนผู้หญิงมากว่าผู้ชายไม่เหมือนเชอรี่มันที่แนวออกหล่อซะมากกว่า
“ดีจ้ะพี่พงษ์ นัน ” พลอยทักทายผมกับไอนัน ก่อนจะลำเรียงแก้วเหล้ามาให้ ผมรับเอาและยกเข้าปากทันที อาหาร กับแกล้มมาวางเรียงรายต่อหน้า ด้วยฝีมือของโอเด็ดกับเชอรี่ หน้าตาก็หน้าทานดีแต่รสชาติไม่รู้เป็นไง อันนี้ไม่รู้ต้องลองดู
“ แน่ใจเหรอเชอรี่ว่าเรียกกับข้าวอ่ะ” พูดไปแล้วแหย่เชอรี่มันไปแต่หารู้ไม่ว่าผลที่ตามมาคือแขนผมเป็นรอยเขียวจ้ำ ๆ ตามาทันที เหล้าเข้าปากอะไรก็ดูสนุกสนาน เราคุยสนิทกันมากขึ้นถามที่ไปที่มาของแต่ละคน พลอยก็จะนั่งข้าง ๆ ผมคอยตักโน้นเติมนี่ให้ตลอด เหล้าก็เติมเอา ๆ สงสัยกลัวผมจะไม่เมา รึป่าว สักพักผมก็สังเกตเห็นว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับใครบาง
“เอ้ย เชอรี่เป็นอะไร ทำไมหน้าแดงตัวแดงขนาดนั้น” ไอกบร้องทักแบบทำท่าตกใจ แต่ไม่เห็นโอเด็ดกับเชอรี่จะแปลกใจเลยสักนิด
“ อิเชอรี่มันแพ้แอลกอฮอล์ กินเกล้าทีมันก็เป็นอย่างนี่แหละ” โอเด็ด อธิบาย เหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่พวกผมไม่เคยเห็นใครเป็นมากแบบนี้นี่ก็ตกใจสิ ไม่รู้ว่าถ้าแพ้มาก ๆ จะเป็นยังไงต่อ แต่ผมว่าท่าทางไม่ดีแน่ ก็เลยต้องห้ามมันหน่อยนะ
“ อ่อนแอจริ้ง คนเรากินแค่นี้ทำเป็นออกอาการ” เอ้อ จริง ๆ แล้วผมจะบอกว่าเชอรี่กินน้อย ๆหน่อยก็ได้นะจ้ะ
“ย่ะใครจะไปเก่งอย่างแกหล่ะอิตาพงษ์ พ่อสิงห์ยาดอง” นั้นไง มันเอาเรื่องจริงมาชมเชยต่อหน้าก็เขินแย่ดิ
“เออ กินให้น้อยหน่อยก็แล้วกัน” แต่ในใจผมคิดจะแก้แค้น ที่มันทำรอยช้ำ ๆ ตามแขน ตามลำตัวที่มันฝากไว้ให้ได้โอกาสแหละ จะกรอกเหล้าเข้าปากให้มันแพ้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ไปเลย อ่า ฮา
“ เป็นบ้าอะไรอีก ยิ้มอยู่ได้สมน้ำหน้าเขาอยู่รึไงอิตาพงษ์” เออ เชอรี่มันทำหน้างอน ๆ (น่ารักตาย ) คงคิดว่าผมเยาะเย้ยมัน แต่ป่าวนะ ผมมีจิตใจงดงามจะตาย แต่ต้องแก้แค้น ต้องเอาคืน ต้องเอาคืนเชอรี่สิ หุหุ
เวลา ประมาณสี่ทุ่มความเป็นผู้ดีที่มีอยู่น้อยนิดก็ทำให้เราสำนึกผิดชอบชั่วดี โดยการเลิกแหกปากรบกวนชาวบ้านมาเปิดเพลงคลอเบา ๆ ไม่ได้สร้างบรรยากาศอะไรหรอกนะ เห็นมีครบคู่ก็เหอะ เหอ ๆ เพราะไอเพื่อนสองคนผมคงไม่เล่นด้วย จะเหมาคนเดียวก็.............(คิดไรว่ะเนี้ยะ) อ้าวแล้ว เราเปลี่ยนจากนั่งล้อมวงกับแกล้มมาเป็นวงอย่างอื่นแทน ความคิดไอกบครับ มันก็ช่างสายตาดีจริง พอเหล้าเข้าปากอะไรก็กรึ่ม ๆ ความคิดผมบรรเจิดเรื่องเอาคืน
“เฮ้ยเราไม่มีตังค์นะเว้ยเปลี่ยนเป็นถอดผ้าแทนได้ม่ะ” คงเพราะฤทธิ์เหล้านะครับ จริงๆแล้วผมไม่ใช่คนลามกนะ เอิกส์
“ อุ้ยส์ งั้นก็ดีสิพี่พงษ์ แต่พลอยขอดูอย่างเดียวนะไม่เล่นด้วย” ตาหวานเยิ้มเชียวนะน้องพลอย เอาไว้จะให้ดูคนเดียวทีหลังนะ จ้ะ
“เอ้ย ถ้าถอดก็เล่นด้วยกันดิ” ไอกบเสริมทัพช่วยผม ทำตากรุ่มกริ่ม
“เอางี้แล้วกัน ใครแต้มน้อยกว่าโดนหอมแก้ม” เข้าทางเลยเชอรี่เอ้ย เป็นข้อเสนอที่ถูกใจพี่มาก อ่ะ อ่ะ แนะ แหน่ ผมคงไม่ไปหอมแก้มไอกบกับไอนันหรอกครับ เดี๋ยวพวกมันได้เอาผมตาย ผมได้แผนแกล้งเชอรี่แล้ว
ไพ่ในสำรับถูกนำออกมาเราแบ่งทีมออกเป็นสองฝ่าย ก็ฝ่ายผม ไอกบ และไอนัน ส่วนอีกฝ่ายมีเชอรี่กับโอเด็ดสองคน พลอยไม่เล่นเพราะรักนวลสงวนตัวเลยต้องทำหน้าที่ชงเหล้าอยู่ข้างหลังผมแทน เชอรี่เป็นคนแจก ไพ่ ป็อกนะครับ
แจกคนละสองใบในใจก็ลุ้นแหละครับว่าจะได้แต้มเท่าไหร่ ถ้าแต้มน้อยก็โดนหอมแก้มถ้าแต้มมากก็จะได้หอมแก้มเชอรี่กับโอเด็ดผมไม่รู้ว่าใครจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบถ้าเป็นผู้หญิงคงจะเสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่องแน่ แต่นี่ไม่ใช่ ไอ้พวกเพื่อนผมมันก็ใจกล้าหน้าด้านซะจริง ไอกบเมื่อรู้ตัวเองได้แต้มมากกว่าก็รี่เข้าไปจุ๊บที่แก้มพวกนั้นคนละครั้ง มีแต่เสียงวี้ดว้ายกันใหญ่ ส่วนไอนันแต้มน้อยกว่าก็โดนรุมหอมแก้มกันไปคนละข้าง มันทำอะไรไม่รู้สึกรู้สากันเลยเหรอ ส่วนผมได้แต่นั่งเหงื่อแตกพลั่ก จนพลอยต้องถามว่าร้อนรึเปล่า
“ ฝากไว้ก่อนอิตาพงษ์” คำขู่ของเชอรี่มันครับ มันทำไรผมไม่ได้เพราะแต้มเราเท่ากัน ผมก็ได้แต่ทำหน้าเยาะเย้ยแล้วทำปากจุ๊บ ๆ ให้มัน แต่มันไม่รู้หรอกว่าผมจะเขินอายแค่ไหนกับเรื่องแบบนี้ นี่ผมจะแกล้งมันหรือผมจะโดนแกล้งกันแน่ไม่รู้ ลองอีกตาหนึ่งแล้วกันถ้ามันจะทน ( สั่น ) ไม่ไหว ก็ค่อยหนีกลับห้องแล้วกัน แต่กินเหล้าก่อนก็แล้วกัน ไพ่รอบสองถูกแจกออกมา ใจผมลุ้นยิ่งกว่าเดิม ไม่อยากให้แต้มมันมากหรือน้อยกว่าของมันเลย แต่ว่า....
“เย้ ป็อกโว้ย โอเด็ดจัดการ” คำขู่ของเชอรี่เป็นผลครับ ผมโดนเข้าไปคนละข้าง จากโอเด็ดกับเชื่อรี่ไอกบกับไอนันก็โดนด้วย ดูพวกมันสนุกสนานกันใหญ่ แต่แค้นผมฝังลึกนึกทั้งเจ็บตัวแล้วยังเจ็บใจที่โดนหอมแก้มอีก ผมต้องเอาคืนให้ได้
“มานี่เด๋วแจกเอง ไรว่ะป็อกอยู่คนเดียว” เหอ ๆ พวกนี้เสร็จผมแน่ไม่รู้จักอะไรซะแล้ว แล้วผมก็ทำการแจกโดยใช้วิธีของผมเอง
“ อ้าว ป๊อกเว้ย เชอรี่เอาแก้มมาซะดี ๆ” ฮือเชอรี่เอียงหน้าเข้ามาหาผม แก้มมันนวลเนียนสีแดงระเรื้อ ไม่มีสิวแม้สักเม็ดริมฝีปากเล็ก ๆ อมชมพูนั้นมันน่าสัมผัสจริง ผมจ้องหน้ามันแล้วค่อย ๆ เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ ๆ มันเหมือนเนิ่นนานกว่าจะเลื่อนไปถึง นี่ผมได้หอมแก้มมันจริง ๆ เหรอ
“เร็วเด่ ช้าอยู่ได้” โห จะรีบไปไหนเสียอารมณ์หมดเลย
“ ฟืดดด” หอมแก้มมันไปทีหนึ่งก่อนจะหันไปหาโอเด็ดต่อ อ่ะ อ่า โล่งอก รู้สึกดีเหมือนกันนี่หว่า และคนที่รู้สึกเขินกับเป็นเชอรี่แทนยิ่งสนุกใหญ่ได้การแล้วครับ ความกลัวหายหมดเหลือแต่ความด้านที่มันมีอยู่เต็มหน้าแทน
“ ป๊อกเก้าเด้งด้วย”
“เฮ....แปดแต้ม”
.
.
.
.
.
“เย้ เอียงมาเลยแก้มมาเลย”
“อ่าส์ แต้มสูงกว่า อีกแล้ว” วู่ สนุกจังได้แกล้งคน พวกผมสามคนสนุกสนานกันใหญ่
คนที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ฝั่งตรงข้ามโน้น สะใจจริง ๆ ก่อนผมจะโดนพลอยตีที่หน้าขาเบา ๆ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตี
แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ทำโทษคนขี้แพ้ก่อนนะ
เชอรี่ไม่ยอมเอียงแก้มมาให้ผมแล้ว มันนั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ ผมเลยลุกขยับตัวเข้าหา มันก็มองหน้าผม และจะถอยออกห่าง ผมมองด้วยสายตาที่ดุแล้วยิ้มที่มุมปาก เชอรี่มันคงเข้าใจว่ายังไงก็ไม่รอดแน่เลยยอมเอียงแก้มเข้ามาหา ไอเพื่อนผมก็ลุ้นกันตัวโก่งยังกะดูหนังสด ยิ่งผมขยับหน้าเข้าหามันช้า ๆ มันก็ยึกยักลุกลี้ลุกลนนั้นแหละคือสิ่งที่ผมต้องการ ทำให้มันอาย มันพยายามจะถอยหนีอีกครั้งผมเลยต้องจับแขนไว้ และก็บอกว่า “จะกลัวทำไมยังไม่ชินอีกเหรอ” มันยิ่งมองหน้าผมใหญ่ ได้โอกาสเหมาะผมเลยเลื่อนหน้าไปที่ข้างแก้มสีชมพูนั้นแล้วก็จุ๊บ.............ที่ปากเชอรี่ไปทีหนึ่ง
สะใจชะมัด ปล่อยให้มันค้างอยู่อย่างนั้นแหละ แล้วผมก็ขอตัวไม่เล่นต่อ ง่วงจังขอนอนเลยละกันโดยมีพลอยนอนเป็นเพื่อนข้าง ๆ นี่แหละ