ตอน 31 คำรัก- หมอนิว -
เช้านี้ผมตื่นมาด้วยอาการปวดหัว ตัวรุมๆ น่าจะมีไข้นิดหน่อย พยายามจะลุกขึ้นจากเตียงนอน แต่ก็ลำบากเหลือเกิน เพราะปวดเมื่อยตามตัวไปหมด ผมจึงทำได้แค่นอนนิ่งๆ กรอกตาไปมา หันไปมองคนข้างกาย ก็พบกับความว่างเปล่า
เฮ้อออ ไปดูคนไข้อีกแล้วสินะ
ผมถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ทั้งที่เพิ่งจะผ่านค่ำคืนหฤหรรษ์มาด้วยกัน เอ๊ะ หรือจะเรียกว่าหฤโหดดีนะ เพราะเมื่อวานเราใช้เวลาด้วยกันกับเรื่องอย่างว่าตั้งแต่สี่โมงเย็นจนเกือบสามทุ่ม ถ้าผมไม่บอกว่าต้องกลับไปเอารถที่สวนสาธารณะ พี่กี้ก็คงไม่ยอมหยุด ดังนั้นไม่แปลกเลยที่วันนี้ผม…อยู่ในสภาพนี้ แต่ที่แปลกใจ พี่กี้ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ ยังมีแรงไปผ่าตัดต่ออีกเหรอครับ ยอมในความอึดจริงๆ
แกร๊กกก…
เสียงประตูเปิดออกมาจากด้านนอก ผมมองไปตามเสียง พบกับร่างสูงของพี่กี้ ในมือมีถุงอาหารหิ้วมาด้วย
"ตื่นแล้วเหรอนิว พี่ไปซื้อโจ๊กมาให้น่ะ"
อ้าววว ไม่ได้ไปดูคนไข้เหรอ -*-
"พี่ตื่นมาแล้วจับตัวนิวดู เห็นตัวอุ่นๆ เลยไปหาซื้อพวกแผ่นแปะลดไข้มาให้ด้วย"
"…"
พี่กี้วางของในมือบนโต๊ะ แล้วเดินมานั่งข้างผม ส่วนผมนั้นไม่กล้าสบตาพี่แกเท่าไหร่ ไม่ค่อยชินกับการถูกดูแลตอนป่วย ปกติเคยแต่เป็นคนต้องดูคนป่วยเอง แล้วพี่กี้โหมดนี้คืออ่อนโยนมาก มากซะจนผมเขิน ทำตัวไม่ถูกเลยครับ
"ไหนพี่ลองวัดไข้อีกทีซิ" จบประโยค พี่กี้ก็ใช้ฝ่ามือใหญ่อังมาที่หน้าผากผม "ยังตัวรุมๆ อยู่เลย"
"…นิวไม่เป็นไรหรอก ไข้ไม่สูงเท่าไหร่" ผมเหมือนคนเพิ่งหาปากตัวเองเจอครับ
"เป็นสิ วันนี้ไม่ต้องไปดูคนไข้นะ"
"ไม่ได้ดิ วันนี้มีเคสตัดขา นิวต้องเข้าไปช่วยอาจารย์อาร์" ผมต้องเข้าไปดูเคสนี้จริงๆ นะครับ เพราะเป็นเคสเตียงที่ผมดูอยู่
"พี่ไม่ให้ไป เดี๋ยวพี่บอกพี่อาร์ให้"
"ไม่อ่ะ นิวอยากเข้าไปดู"
ผมได้ยินเสียงถอนหายใจจากพี่กี้ คงจะเบื่อหน่ายผมที่เถียงเอาๆๆ ก็ผมอยากเข้าไปดูเทคนิคนี่นา
"ห้องผ่าตัดเป็นห้องปลอดเชื้อนะนิว ตอนนี้นิวมีไข้ อาจจะไม่ปลอดภัย และอาจจะเอาเชื้อโรคไปติดคนไข้ได้นะ …ยังไงซะ ก็ต้องถูกพี่พยาบาลคนอื่นห้ามเข้าด้วยแน่นอน เพราะงั้นวันนี้นอนพักที่นี่"
พี่กี้พูดมาซะยืดยาว ทำเอาผมมองบนรัวๆ เห็นทางแล้วว่ายังไงซะวันนี้ก็คงต้องนอนแบ่บอยู่ห้องนี้ทั้งวันแน่ๆ แต่ก็ขอเถียงหน่อยเถอะ
"แค่นี้เอง กินยาเดี๋ยวไข้ก็ลด"
พี่กี้มองผมอย่างเซ็งๆ แล้วก็พูดขึ้นว่า "ยืนไหวเหรอ ผ่าตัดขา นานนะ" แล้วก็เหล่มองผมอย่างมีเลสนัย กะจะให้ผมเขินละสิ ไม่ได้ผลหรอกนะ ฮึ
"ไหวดิ แค่นี้เอง"
"คนเรา…ไม่ไหวบอกไหว" แล้วเพลงพี่บอยพีซ ก็ดังเข้ามาในหัว เจ็บแค่ไหน ฉันก็จะฝืนแกล้งทำว่าไม่เป็นไร
"นิวแข็งแกร่ง ไม่อ่อนปวกเปียกขนาดนั้นหรอกน่า"
"รู้งี้กลับจากเอารถ พี่จัดต่อจนถึงเช้าคงจะดี อยากรู้นักว่าแข็งแกร่งขนาดไหน หึหึ"
"เกินไปไหม จะอยากอะไรขนาดนั้น"
"ก็อยากรู้ว่าเก่งเหมือนปากว่ารึเปล่า หึหึ"
"หยุดเลย นิวจะไปอาบน้ำแล้ว" ผมทำท่าจะลุกจากเตียงนอน แต่พี่กี้จับผมนอนลงเหมือนเดิม
"เดี๋ยวพี่เข้าไปช่วยพี่อาร์เอง
พี่บอกให้..นอน เข้าใจไหมว่าเป็นห่วง"
ประโยคหลังทำให้ผมต้องหยุดชะงัก เพราะคราวนี้พี่กี้ใช้เสียงแข็งๆ บ่งบอกว่าหมายความตามนั้นจริง ผมจึงต้องนอนลงไปตามเดิม แล้วมองดูการกระทำของพี่กี้ที่เดินไปเปิดถุงโจ๊กแล้วเดินลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ
"ลุกขึ้นมากินโจ๊กก่อนนะนิว…"
ผมก็ทำตามพี่แกครับ ลุกขึ้นมานั่งเอาหลังพิงพนักหัวเตียง
"เดี๋ยวพี่ป้อน อ้าปากนะครับ"
มาไม้ไหนวะคร๊าบบบ พี่กี้สูตรอ่อนโยนโคตรๆ ทำเอาผมนึกถึงละครหลังข่าวที่ฉากนางเอกเสียตัวให้พระเอก พอเช้ามาพระเอกก็เอาใจสารพัด คืออยากจะบอกมากว่า ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้พี่ ผมไม่ได้เป็นง่อย มือใช้งานได้ แต่..ผมก็อ้าปากให้พี่แกป้อนนะ เห็นถึงความตั้งใจ มีความเอาใจใส่ดี
"รู้สึกว่าโจ๊กมันหวานไหม" พี่กี้ถามผมขึ้น ผมก็พยักหน้ายิ้มๆ
"อยากลองชิมอ่ะ"
แทนที่พี่แกจะตักโจ๊กเข้าปากตัวเอง แต่เปล่าเลยครับ ตักโจ๊กเข้าปากผม แล้วพี่แกก็ตามมาแย่งผมกินโดยใช้วิธีปากประกบปาก อื้ออ..อืมม จากที่โจ๊กเค็มๆ ผมว่ามันก็ชักจะเริ่มหวานจริงๆ แล้วล่ะ
ไม่นานเราก็ผละริมฝีปากออกจากกัน…
"หวานจริง หึหึ"
"เว่อร์ไปไหมพี่" ผมบ่นอุบอิบ แล้วก็รู้สึกว่าหน้าผมร้อนหนักกว่าเดิม ผมว่า..พี่กี้ทำผมไข้ขึ้นสูงแล้วล่ะครับ
"…วันนี้พี่ไม่อยากไปดูคนไข้เลย พี่อยากอยู่กับนิว..ทั้งวัน..ทั้งคืน"
"เกินไปแล้วววว"
"ไม่เกินไปเลย พี่พูดจริงๆ นะ"
พูดจบก็มองตาผมหวานเยิ้ม เป็นเอามากว่ะ แต่ก็อดคิดไปถึงชีวิตครอบครัว ที่มีคนเคยบอกไว้ว่า
'เซ็กส์ ไม่ใช่ปัจจัยหลักในชีวิตคู่ แต่ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตคู่'ผมเห็นด้วยเลยล่ะ จากที่เมื่อวานทะเลาะกันจนผมเกือบจะชกหน้าพี่กี้แล้ว วันนี้อะไรๆ มันก็ดีไปหมด ขนาดโจ๊กเค็มๆ ยังบอกว่าหวาน ปากที่ยังไม่แปรงฟันยังสามารถจูบกันได้โดยที่ไม่บอกว่าเหม็น แสงแดดที่แยงตาเข้ามายังมองว่าอบอุ่นน่ะ
"กินโจ๊กแล้ว คราวนี้กินยานะ"
พี่กี้ยื่นเม็ดยาลดไข้มาให้ผมพร้อมกับแก้วน้ำเปล่า ผมก็รับมา แอบแซวยิ้มๆ
"อ้าว นึกว่าจะป้อนยาด้วย"
"เอาป่ะล่ะ… แต่ไม่ป้อนด้วยมือนะ จะป้อนด้วยปาก"
"อีกละ… ไม่เบื่อบ้างรึไง"
"ไม่มีวันเบื่อ"
"จำคำพูดตัวเองไว้ดีๆ ล่ะ"
จากนั้นผมก็รีบกลืนยากับน้ำลงท้อง กลัวใจพี่แกจะเอาปากป้อนจริงๆ ผมไม่ชินกับความขมของยาเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วยาอาจจะรสหวานไปเลยก็ได้ ฮ่าๆๆ
พี่กี้มองผมกินยาเรียบร้อยแล้วก็เอาแผ่นแปะลดไข้มาวางลงบนศีรษะผม แล้วเจ้าตัวก็อาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะออกไปจากห้อง ก็เดินเข้ามาหอมแก้มผมหนึ่งที บอกว่าขอกำลังใจไปทำงาน เอ่อออ ทุกวันไม่เห็นต้องขอ พอเป็นวันนี้ละเอาใหญ่เลยนะครับ
พอพี่กี้ออกจากห้องไม่นาน ผมก็หลับไปด้วยความเพลีย…
.
ผมรู้สึกตัวตื่นอีกครั้ง เมื่อมีคนมาเคาะประตูหน้าห้อง ผมจึงลุกไปเปิด เป็นพี่แนนนั่นเอง ในมือมีอาหารสองสามถุง
"เที่ยงแล้วนิว กินข้าวกัน กี้มันฝากให้พี่ซื้อข้าวมาให้นิว มันยังตัดขายังไม่เสร็จเลย" พูดจบ พี่แนนก็ก้าวเข้ามาในห้อง แล้วเดินไปวางของบนโต๊ะอาหาร และไปหยิบจานชามออกมา
"แล้วไข้ลงหรือยัง ไหนพี่ดูซิ" พี่แนนวางมือบนหน้าผากผม
"ก็ลงแล้วนี่… มาๆ มากินข้าว"
"นิวบอกพี่กี้แล้วว่านิวไม่เป็นอะไรมาก แต่พี่กี้ไม่ยอมให้นิวไปดูคนไข้"
"ก็ถูกของกี้มันแล้ว พักบ้างเหอะแก"
ระหว่างที่คุยไป เราก็ช่วยกันแกะถุงกับข้าวใส่จาน เป็นอาหารอ่อนๆ ทั้งนั้น
"แลัวเป็นไง คุยกับกี้ยัง"
"คุยแล้ว"
"สองสามวันมานี้ เคสพี่มีปัญหา เลยไม่มีเวลาถามให้นิวเลย …แล้วคุยกันเป็นไงบ้าง"
"พี่กี้บอกว่าไม่ใช่ของพี่กี้ น่าจะเป็นคุณอิสที่แอบเอามาใส่ไว้ พอดีคืนสุดท้ายคุณอิสได้ขึ้นไปห้องพี่กี้"
"สุดมากกกก ทำไมกล้าทำเรื่องแบบนี้" หน้าพี่แนนดูตกใจมากครับ ใช่สิ ใครจะคิดว่าชีวิตจริงจะมีคนทำเหมือนตัวอิจฉาในละคร
"ดูเค้าจะอยากได้พี่กี้มากๆ อ่ะพี่ เมื่อวานนิวเจอเค้าที่คาเฟ่ เค้าถามถึงถุงยางด้วย"
"เค้าถามว่าไงอ่ะ?!"
"ถามว่า นิวได้รับของฝากพิเศษรึยัง"
"แล้วนิวว่าไง?!"
"นิวก็บอกว่าได้แล้ว แต่ก็…พูดกับเค้าแรงอยู่ หวังว่าจะคิดได้"
"อืม …พี่ได้ข่าวว่า เค้ามีคาเฟ่เป็นของตัวเองด้วยนะ ว่างๆ เราไปเยี่ยมเยียนเค้าหน่อยไหม"
พี่แนนชวนผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เหมือนกำลังมีเรื่องสนุกๆ รออยู่ข้างหน้า มีเหรอที่ผมจะไม่ตอบรับ แน่นอนว่าต้องตอบรับอยู่แล้ว จริงๆ ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งวุ่นวายด้วยเลยนะไอ้คุณอิสเนี่ย แต่ผมก็รู้สึกอยากแสดงความเป็นเจ้าของอ่ะ ว่าอย่ามายุ่งกับคนของผม คนเค้าไม่เอาแล้วยังมาตามตื๊อ คืออะไร?! มันเกินไปนะ ถ้าพี่กี้ไม่จัดการขั้นเด็ดขาด ผมนี่แหละจะจัดการเอง
"บ่ายนี้พี่แนนว่างไหมอ่า" ผมถามพี่แนนขึ้น
"ว่างนะ เคลียร์เคสเสร็จหมดแล้ว"
"งั้น…บ่ายนี้เราไปเยี่ยมคุณอิสเลยดีไหมครับ?"
"ได้เสมอจ๊ะ"
ผมกับพี่แนนมองหน้ากันยิ้มๆ แล้วก็วางแผนอะไรบางอย่าง จากนั้นเราก็เริ่มจัดการภารกิจที่เพิ่งคิดออกกันอย่างรวดเร็ว…
.
ผมเดินสำรวจความเรียบร้อยภายในร้านที่มีลูกโป่งหลากสีตกแต่ง และมีริบบิ้นสีหวานโยงตั้งแต่ประตูร้านจนเข้ามาด้านใน มีตัวหนังสือเรียงต่อกันเป็นคำว่า
'Thank you my love'ผมกำลังจะจัดงานเซอร์ไพรส์เล็กๆ ให้พี่กี้ครับ ปิดคาเฟ่เลี้ยงเลยครับ เป็นไงล่ะ ใจป๋าไหมละผม อาศัยสถานที่คือคาเฟ่ของคุณอิส ซึ่งผู้จัดการร้านที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็รับหน้าที่จัดการตกแต่งภายในร้านให้เสร็จสรรพ ซึ่งผมพอใจมาก เพราะรีเควสไปแบบไหนก็ได้ตามที่ต้องการ
"มีอะไรให้แก้ไขเพิ่มเติมไหมคะคุณหมอนิว" พี่ผู้จัดการร้านถามผมขึ้น
"ไม่แล้วครับ สวยมากเลย …อาหารเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ"
"ใกล้แล้วค่ะ เหลือแค่บางอย่างที่ต้องทำก่อนเสิร์ฟค่ะ"
"โอเคครับ ผมพอใจมาก …ว่าแต่เจ้าของร้านจะเข้ามาแน่ใช่ไหมครับ"
"ปกติก็เข้าทุกเย็นค่ะ ถ้าท่านไม่ติดอะไรก็คงเข้าค่ะ …หรือจะให้ดิฉันโทรเชิญให้ท่านเข้ามาไหมคะ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมก็อยากให้คุณอิสเซอร์ไพรส์เหมือนกัน"
"ได้ค่ะ งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวแล้วนะคะ"
จบการพูดคุย ผมก็กดเบอร์ไปหาคนที่คุณก็รู้ว่าใครทันที
"เป็นไงบ้างครับนิว"
"นิวหายแล้ว …ตอนนี้ออกมาข้างนอกกับพี่แนน"
"อ้าว แล้วไม่พักผ่อนให้หายดีก่อนอ่ะ"
"หายดีมากแล้ว พี่กี้ตามมานะ เดี๋ยวนิวแชร์โลฯ ให้"
"คร๊าบผม คงอีกซักครึ่งชั่วโมงนะ"
"ครับผม นิวรอนะ"
ผมนั่งรอพี่กี้พลางถ่ายรูปเล่นกับพี่แนนไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานพี่กี้ก็มาถึง ดูตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นบรรยากาศร้าน
"อะไรเนี่ยนิว"
"เซอร์ไพรส์ส์ส์ส์ส์!!"
แล้วพลุกระดาษก็พุ่งออกมาจากสองข้างทางเดินเข้าร้าน แล้วผมก็เดินเอาช่อดอกไม้ไปมอบให้พี่กี้ รู้สึกตัวเองแมนมาก ณ จุดๆ นี้ ฮ่าๆๆ
"ขอบคุณครับนิว ขอบคุณมากๆ" ระหว่างที่พี่กี้พูดขอบคุณ ก็กอดผมไว้ด้วย ยิ้มไม่หุบเลยล่ะ
"นิวก็ขอบคุณพี่กี้นะที่คอยช่วยเหลือนิวมาตลอด…
รักพี่กี้นะครับ"
ประโยคหลังนั้นผมตั้งใจพูดให้พี่กี้ได้ยินคนเดียว ไม่อยากให้คนอื่นได้ยินด้วย ก็อายอยู่น๊าา นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมบอกรักพี่กี้น่ะ
"พี่ก็รักนิวนะครับ"
แล้วเราก็กอดกันแน่นกว่าเดิม มีเสียงปรบมือรายล้อมอยู่รอบข้าง นาทีนี้ผมโคตรมีความสุขเลยครับ ยิ้มทั้งปากทั้งตา เหมือนโลกนี้จะมีแค่สองเรา จนพี่แนนต้องสะกิด
"พอได้แล้วมั้ง รอบข้างยังมีคนอื่นๆ อยู่นะ"
ผมกับพี่กี้จึงยอมผละออกจากกัน พอมองไปรอบข้างก็เห็นคุณอิสยืนยิ้มๆ อยู่ข้างผู้จัดการร้าน
"ในฐานะเจ้าของร้าน ยินดีด้วยมากๆ นะครับ"
"อ้าว นี่ร้านคุณอิสเหรอครับ" เป็นพี่กี้ที่หน้าตาเหรอหรามาก
"ครับ ร้านผมเอง"
พี่กี้มองหน้าผมแวบนึง ก่อนจะคุยกับคุณอิสต่อ
"ร้านสวยมากเลยครับ ไม่รู้มาก่อนนะครับว่านอกจากเป็นทายาทโรงพยาบาล แล้วยังมีคาเฟ่สวยๆ อีก"
"ปกติก็ไม่ได้ตกแต่งแบบนี้ทุกวันหรอกครับ พอดีว่าคุณหมอนิวรีเควสมา ทางร้านก็เลยจัดให้ ยิ่งรู้ว่าเป็นโอกาสพิเศษของคุณหมอทั้งสอง ผมยิ่งดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความประทับใจครั้งนี้ครับ"
"ขอบคุณมากครับ"
"ผมก็ขอบคุณคุณอิสมากนะครับ ที่เนรมิตให้อย่างที่ผมต้องการเลย"
"ด้วยความยินดีครับ"
จบประโยคของคุณอิส ผมกับพี่กี้ก็ตรงไปยังโต๊ะอาหารที่มีเทียนตั้งอยู่ เป็นดินเนอร์ท่ามกลางแสงเทียนเล็กๆ ที่ดูอบอุ่น อาหารก็ไม่ได้มากมาย มีแค่ไม่กี่อย่าง แต่เป็นสิ่งที่ผมชอบและพี่กี้ชอบทั้งหมดเลย
ค่ำวันนั้น ผมกับพี่กี้คุยกันเงียบๆ ไม่มีใครมารบกวน พี่แนนขอตัวกลับแล้ว ผมไม่ลืมที่จะขอบคุณพี่แนนด้วย เพราะถ้าไม่มีพี่แนน ทุกอย่างคงไม่ออกมาเพอร์เฟคขนาดนี้…
"มาแอบเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับนิว" พี่กี้เอ่ยถามผม พร้อมกับอมยิ้มทั้งปากและตา
"เพิ่งมาเตรียมช่วงบ่ายวันนนี้เอง เป็นไงอ่า ออกมาดีใช่ม๊าา"
"ครับ ไม่อยากจะเชื่อว่าเพิ่งเตรียม …แต่ร้ายนะเรา ตอนเช้านอนป่วยอยู่ดีๆ ตกเย็นมีเซอร์ไพรส์ให้พี่ซะงั้น"
"ชอบไหมล่ะ" ผมถามพี่กี้ตาวาวเลย
"ชอบสิ"
"แล้วชอบดอกไม้ช่อนี้ไหม"
"ฮ่าๆๆ"
พี่กี้ไม่ตอบ ได้แต่หัวเราะขำครับ คือผมเคยคิดไว้นานแล้ว ตั้งแต่ตอนจะง้อพี่กี้ว่าผมจะซื้อดอกไม้เป็นช่อให้ แต่ไม่มีโอกาสซักที เลยถือโอกาสนี้ซื้อให้ซะเลย เป็นการให้แทนคำขอบคุณ นี่คือที่มาของดอกไม้ช่อนี้ครับ
"หัวเราะไรอ่าา"
"พี่ตลกที่นิวซื้อช่อดอกไม้ให้พี่ ฮ่าๆๆ"
"ตลกตรงไหน ตอนมีแฟนเป็นผู้หญิง นิวก็ซื้อให้เค้าออกบ่อย แต่ละคนดีใจจะตายที่ได้ดอกไม้จากนิว"
"แต่พี่ไม่ใช่ผู้หญิงไง ฮ่าๆๆ"
"ทำไม หรือไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบก็ทิ้งไปเลย" ผมเริ่มหน้างอแล้วครับ งอนอ่ะ
"ชอบสิ พี่ชอบทุกอย่างที่นิวให้นั่นแหละครับ แต่พี่แค่ไม่คิดว่านิวจะซื้อดอกไม้เป็นช่อให้พี่นะครับ หน้าตาพี่มันไม่เหมาะกับช่อดอกไม้เท่าไหร่ ถ้าพี่เป็นคนซื้อให้นิวก็ว่าไปอย่าง หึหึ"
"ไม่รู้ล่ะ ซื้อให้แล้ว ยังไงก็ต้องชอบ"
พูดจบ ผมก็ก้มลงตักอาหารเข้าปากแทนการต่อปากต่อคำกับพี่กี้ แต่ดูเหมือนพี่กี้จะอยากพูดต่อ
"แล้วปิดร้านเลี้ยงพี่วันนี้เนื่องในวันอะไร พี่ยังไม่รู้เลย"
"ขอบคุณพี่ไง" ผมเงยหน้ามาพูดดีๆ กับพี่กี้
"นิวอยากขอบคุณที่พี่กี้ดูแลนิวมาตลอด ตั้งแต่มาทำงานใหม่ๆ จนมาถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ก่อนคบกัน จนมาเป็นแฟน พี่ก็ยังเสมอต้นเสมอปลายกับนิวตลอด เผลอๆ อาจจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ นิวไม่รู้จะตอบแทนพี่กี้ยังไง เลยจัดเซอร์ไพรส์เล็กๆ น่ารักให้"
พี่กี้เอื้อมมาจับมือผม แล้วพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
"นิวไม่ต้องตอบแทนพี่ครับ เพราะ
พี่ทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจ แค่ได้อยู่ข้างๆ ในวันที่นิวเหนื่อยล้าหรือต้องการใคร ก็เพียงพอแล้วสำหรับพี่"ผมยิ้มกับคำพูดของพี่กี้…เป็นประโยคบอกรักที่ไม่มีคำว่า 'รัก' แต่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
"นิวขอบคุณนะครับ"
พี่กี้ไม่ตอบ ได้แต่ส่งยิ้มหล่อกระชากใจมายังผม แล้วกุมมือผมขึ้นไปจุ๊บเบาๆ จากนั้นเราก็ทานอาหารกันต่อ แบบไม่มีใครมากวนใจเลย งงเหมือนกันที่วันนี้ไม่มีสายโทรศัพท์ดังเข้ามารบกวนทั้งเครื่องของผมและพี่กี้ เราจึงใช้เวลาด้วยกันอย่างคุ้มค่าที่สุด
ณ สนามหญ้าหน้าร้านมุมหนึ่ง
ร่างสูงของใครบางคนกำลังคีบบุหรี่อยู่ในมือ พลางยกขึ้นจรดใส่ปากสีสดเป็นบางครั้งคราว เหมือนมีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ในหัว เขาเดินวนไปเวียนมาอยู่อย่างนั้น จนไม่ทันสังเกตว่ามีใครกำลังเดินเข้ามาหาตนเอง
"นี่คุณอิส! ฉันขอพูดตรงๆ เลยนะว่าเลิกยุ่งกับเพื่อนฉันได้แล้ว เห็นใช่ไหมว่าเค้ารักกันมากขนาดไหน"
"ผมไม่ได้โง่ถึงขนาดดูไม่ออกนะครับคุณหมอแนน"
"งั้นคุณก็เลิกยุ่งกับพวกเค้าซักที!"
"ผมก็อยากจะเลิกยุ่ง แต่เพื่อนคุณต่างหากที่ไม่ยอมเลิกยุ่งกับผม"
"คุณเอาอะไรมาพูด เพื่อนฉันไม่มีทางมายุ่งกับคุณได้"
"เค้าไลน์หาผมทุกวันเลยนะครับ"
จบประโยค ร่างสูงก็หยิบมือถือของตนเองขึ้นมา แล้วเปิดโชว์หน้าไลน์ที่มีการพูดคุยกันระหว่างเขากับ 'Kie' มีข้อความต่างๆ นาๆ ทั้งบอกฝันดี คิดถึง อยากเจอหน้า คบน้องนิวเพราะสงสาร และล่าสุดวันนี้เพิ่งส่งเข้ามาเมื่อ 20 นาทีที่แล้ว
Kie : วันนี้น่ารักเป็นพิเศษนะครับ
ทั้งชื่อ และรูป display ที่โชว์คือกี้เพื่อนของตนมากๆ หมอแนนคิดในใจ เห็นข้อความที่อีกฝ่ายโชว์ให้ดูก็ถึงกับอึ้ง นี่ใช่เพื่อนเค้าอยู่เหรอ ทำไมส่งข้อความหาคุณอิส แต่จะเข้าไปถามเพื่อนตัวเองตอนนี้ก็ใช่เรื่อง
"คุณหมอแนนคิดว่าไงครับ ผมควรทำตัวยังไงดี"
"ไม่มีทาง เพื่อนฉันไม่ใช่คนแบบนี้!"
"ถ้าไม่ใช่ แล้วใครกันครับ ตอนนี้ผมสับสนไปหมดแล้ว ผมไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง คุณหมอกี้ในไลน์กับคุณหมอกี้ที่ผมเจอตัวจริง การกระทำที่มีต่อผมช่างแตกต่างกันมาก จนผมไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนหลอกแล้วครับตอนนี้ คุณหมอแนนช่วยยืนยันให้ผมทีนะครับ"
"งั้น… คุณแคปที่คุยกันแล้วส่งมาให้ฉันทีค่ะ ฉันจะสืบดูว่ามันอะไรยังไงเรื่องนี้"
หลังจากนั้นรูปข้อความการสนทนาก็เข้ามาอยู่ในมือถือของหมอแนน เพื่อรอค้นหาคำตอบต่อไป…
TBC.
Talk : จริงๆ นิยายเรื่องนี้จะจบบริบูรณ์ตอนนี้เลยก็ได้นะคะ แต่เรายังอยากแต่งต่อค่ะ 55555 ก็เลยวางระเบิดให้พี่กี้กับน้องนิวปวดหัวอีกแล้ว คราวนี้ปวดหัวมาถึงหมอแนนด้วยค่ะ ทั่วถึงมากๆ 555
อ่านตอนนี้แล้วอย่าโฟกัสที่บทท้ายๆ นะคะ เดี๋ยวจะเครียด พาลเอาความจิกหมอนช่วงแรกๆ หายไปด้วย ทั้งที่ตอนนี้หวานสุดๆไปเลย ฮี่ๆๆ
สำหรับคนที่ไม่ทันอ่านตอนก่อน ข้ามมาอ่านตอนนี้ได้นะคะ เราว่าก็พอเข้าใจอยู่ค่ะ เราชี้แจงในตอน 29 แล้วว่าจะมีบางตอนที่ปล่อยให้อ่านฟรี ถึง 7.00 น. วันถัดไป บางตอนก็จะปล่อยฟรีเลย ชี้แจงตามนี้ค่ะ
https://www.readawrite.com/c/6c36a09e928a7af2eff037c4c2f35448ฝากตอนนี้ด้วยเช่นเคยค่ะ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้เราหน่อยนะค๊าา ขอบคุณมากค่าาา/รัก