|:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]  (อ่าน 148160 ครั้ง)

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หืมมม นี่รึป่าวคือที่มาแผลของไอติมตอนเริ่มเรื่อง  :z3:
มันเลยเถิดมาขั้นนี้เพราะติมรักอิตาแซ็คนี่แหละ ลูกเราเลยเจอเรื่องไม่ดี :katai1:
น้องติมลูกแม่!!!!!!!! :o12:


ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ค้างง  :katai1:

ดับบุหรี่คืออะไร อะไรคือข้อเสนอของเจค

ไม่นะะ อยากจะบ้า มันมาถึงจุดนี้ได้ยังงายย

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องติมลูกกกกก ลูกชั้นผิดอะไร แกนังเจค :z6:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
น้องติมได้แซ็ค ก็สมความปราถนา แต่มาอยู่ในวังวนขอเจค มันจะมีทางออกใช่มั๊ย

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


Fall in lust - Chapter 41 :: Condition. (เงื่อนไข)



*ข้อมูลเรื่องอาการ เรื่องทางการแพทย์ที่ปรากฏในตอนนี้ ทางคนเขียนไม่ได้มีความรู้ชัดเจน อาศัยการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และนำมาประกอบการเขียนโดยใช้ข้อมูลให้กลางที่สุด และไม่ลงลึกจนเกินไป เล่าภาพแบบกว้าง ๆ มากกว่าจะระบุเฉกเช่นผู้มีความรู้หรือประสบการณ์ ผิดพลาดตรงไหน ต้องขออภัยนะคะ*





   “It’s hurt more than I think. (มันเจ็บกว่าที่ผมคิด)” เสียงใสพึมพำแหบแห้งในอ้อมกอดเปลือยเปล่าของฝรั่งตัวโตที่นั่งกอดร่างผอมบางไว้อย่างทะนุถนอม
   

“Me too. (ฉันก็เหมือนกัน)” ไอติมกดหน้าลงมองตรงซี่โครงด้านซ้ายห่างจากใต้ราวนมของแซ็คที่มีรอยสีไหม้สีแดงสดร้อนเป็นวงกลมขนาดเท่าเหรียญบาทไทยอยู่ตรงนั้น ซึ่งเป็นแผลรูปแบบเดียวกันกับที่อยู่บนแผ่นหลังด้านขวาของไอติม
   

“Bunny,” แวบแรกไอติมนิ่งเพราะไม่คุ้น แต่สักพักจำได้ว่าล่าสุดที่คุยโทรศัพท์กัน อีกฝ่ายเรียกตัวเองด้วยชื่อนี้จึงเงยหน้าขึ้นจากซอกคอของฝรั่งแล้วนั่งตัวตรงมองหน้าเศร้าสร้อยของแซ็ค
   

“Leave me. (ไปจากฉันเถอะ)” ไอติมนิ่งค้าง กะพริบตามองแซ็คด้วยความงง ไม่ได้งงเพราะฟังไม่ออก แต่งงเพราะว่าทำไมเขาพูดแบบนั้น
   

“Why? (ทำไมล่ะ)”
   

“I’m going back to Jake and wait until the contract end. (ฉันจะกลับไปอยู่กับเจค แล้วก็รอจนสัญญาหมด)” แซ็คพูดด้วยสีหน้าขมขื่น ไอติมมองเขาด้วยความเห็นใจ
   

“But he said he will not get you back. (แต่เขาบอกเขาจะไม่รับคุณกลับไป)” แววตาแซ็คหม่นลง
   

“I will try to talk to him. (ฉันจะพยายามคุยกับเขา)” ไอติมมองแซ็คนิ่ง ทบทวนอะไรในชีวิต แล้วก็อดจะคิดถึงตัวเองไม่ได้ คิดถึงตัวเองที่เคยเป็นก่อนหน้านี้
   

“You know I want the old of me back. I miss him. I feel like I am grown up so much and I don’t like it. I just want to have fun in life as I am in the past. (คุณรู้มั้ยว่าผมอยากได้ตัวเองกลับมา ผมคิดถึงเขา ผมรู้สึกว่าผมโตขึ้นเยอะมากและผมก็ไม่ค่อยชอบนักหรอก ผมแค่อยากมีความสนุกในชีวิตเหมือนที่ผมเป็นในอดีต)” แซ็คมองไอติมด้วยความเข้าใจ
   

“…” ไอติมขยับมุมปากทั้งสองข้างเป็นรอยยิ้มช่วงสั้น ๆ แล้วก็หุบลง
   

“Yes, I think that leaving from you is the best way for me. To go back my old life, no drama, no creepy people, no something like this that is happening now. (ใช่ ผมคิดว่าการไปจากคุณคือทางที่ดีที่สุดสำหรับผมละ กลับไปใช้ชีวิตตามเดิม ไม่มีดราม่า ไม่มีคนน่ากลัว ๆ ไม่มีอะไรแบบนี้ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่)”
   

“I know. (ฉันรู้)” แซ็คมองไอติมด้วยความรู้สึกเศร้า
   

“It is going to be easy if I don’t love you now. (มันจะเป็นอะไรที่ง่ายมากถ้าตอนนี้ผมไม่ได้รักคุณ)” แซ็คมองไอติมด้วยความอึ้งครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มอ่อนด้วยความรู้สึกเศร้า
   

“That’s terrible. (โคตรแย่เลย)”
   

“I don’t really know before that the power of love is so strong. It made me stuck with you. (ผมไม่รู้มาก่อนจริง ๆ ว่าพลังของความรักมันจะแข็งแกร่งแบบนี้ มันทำให้ผมติดอยู่กับคุณ)” แม้จะรู้สึกเศร้าที่ดึงเจ้ากระต่ายสีขาวตัวนี้เข้ามาในโลกสีดำของตัวเอง แต่แซ็คก็รู้สึกขอบคุณที่เจ้ากระต่ายอยู่กับเขาในตอนนี้
   

“Thank you, bunny.”  ไอติมยื่นมือขวาไปจับจี้กระต่ายสีทองอ่อนนวลตา
   

“Now I am not only fall in lust with you. I am also fall in love with you, my carrot. (ตอนนี้ผมไม่ได้แค่ตกหลุมราคะคุณแล้วนะ แต่ผมยังตกหลุมรักคุณอีกด้วย แคร็อทของผม)” แซ็คยิ้มด้วยความอบอุ่นใจ แต่แววตาของเขากลับหวาดกลัวกับประโยคนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มไอติมหนึ่งที
   

“I love you, too. (ฉันก็รักนาย)” แม้จะพูดอย่างนั้น แม้จะยิ้มอย่างสุขใจ แต่ไอติมก็เห็นว่าสีหน้าและแววตาของแซ็คแสดงออกถึงความคิดไม่ตก
   

“You already broke that cage. Don’t go back to it again. (คุณแหกกรงนั่นไปแล้ว อย่ากลับไปหามันอีกเลย)”
   

“But I have known Jake for ten years I know what he could do. (แต่ฉันรู้จักเจคมาเป็นสิบปี ฉันรู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง)”
   

“Then you know that he will not welcome you back no matter how hard you try to negotiate with him. He wants to beat you now, that’s the point. (ถ้างั้นคุณก็ต้องรู้สิว่าเขาจะไม่ต้อนรับคุณกลับไปไม่ว่าคุณจะพยายามเจรจากับเขาแค่ไหน เขาต้องการขยี้คุณ นั่นคือประเด็น)” สีหน้าของแซ็คสลดลง ไอติมเชื่อว่าแซ็ครู้ แต่เขาแค่อยากลองพยายามตามที่บอก และไอติมรู้ว่าถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ แต่กับบางคนรู้ตั้งแต่ยังไม่ลองนั่นแหละ
   

“What we should do now is wait for his condition. (ที่เราต้องทำตอนนี้คือรอเงื่อนไขของเขา)” แซ็คพ่นลมหายใจ ไอติมกระเถิบตัวลงไปนั่งตรงข้ามกับแซ็ค มองเขาด้วยความเป็นห่วง
   

“What I want to know now is about your sick. What was that? (ที่ผมอยากรู้ตอนนี้คือการป่วยของคุณ มันคืออะไร)” แซ็คชะงัก หลุบตาลงต่ำครู่หนึ่งก่อนจะมองไอติมอีกครั้ง
   

“I am sorry if it should not call sick. (ผมขอโทษถ้ามันไม่ควรเรียกว่าป่วย)” แซ็คหลับตาลงและสั่นหัวช้า ๆ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและค่อย ๆ ปล่อยออกมา
   

“You could say that. (เรียกแบบนั้นก็ได้)” ไอติมนั่งเงียบ ยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของเขา แซ็คกุมมือไอติมตอบ ไอติมไม่เร่งรัด ปล่อยให้แซ็คพร้อมที่จะเล่าเอง ใช้เวลาไปน่าจะเกินหนึ่งนาที แซ็คถึงเปิดปากพูด
   

“I’m a philophobia. (ฉันเป็นฟิโลโฟเบีย)” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ จำการออกเสียงนี้ได้จากปากของเจค็อบ แต่ไม่รู้ว่ามันสะกดยังไงและแปลว่าอะไร เลยได้แต่มองแซ็คด้วยสายตาเป็นคำถาม แซ็คถอนหายใจไปที
   

“A person who fear of love. (คนที่กลัวความรักน่ะ)” ไอติมย่นคิ้ว เข้าใจความหมายที่แซ็คบอก
   

“Seriously? เอ่อ I’m not going to laugh at you. I just don’t know that there is this sick. (จริงเหรอ เอ่อ ผมไมได้จะล้อเลียนคุณนะ ผมแค่ไม่รู้ว่ามันมีอาการนี้ด้วย)”
   

“It’s about the mental. I used to see doctor a couple times, a psychiatrist. (มันเกี่ยวกับจิตใจ ฉันเคยเจอหมอสองสามครั้ง จิตแพทย์น่ะ)” ประโยคสุดท้ายของแซ็คเสียงแผ่วราวกับไม่อยากให้ไอติมได้ยิน แต่เพราะอยู่กันสองคนในห้องนอน มีเพียงเสียงแอร์เป็นแบ็คกราวด์ ไอติมจึงได้ยินประโยคนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดหรือแสดงท่าทีอะไร ทำเพียงพยักหน้ารับรู้
   

“How you become ฟิ ฟิโลเบีย เอ่อ yes, that’s name.”
   

“Because I used to believe in love so much. And maybe it is too much, then when my parents get divorced. I’m like, fucked up. (เพราะฉันเชื่อในรักมาก และบางทีมันอาจมากไป พอพ่อกับแม่ฉันหย่ากัน ฉันก็เหมือนกับว่า พังน่ะ)” ไอติมนึกทบทวน จำได้ว่าเขาเคยบอกว่าตัวเองเป็นคนโรแมนติกมาก วาดฝันความรักไว้นั่นนี่
   

“Why? (ทำไมล่ะ)”
   

“They are the love icon for me. They spend the life together for almost thirty years. I saw them in love with each other and I am so happy. But suddenly, like it was out of the blue, you have no clue about breaking up. They both told me that they will be separate soon and they think that I can handle this because I’m grown up. (พวกเขาคือสัญลักษณ์ความรักของฉัน พวกเขาใช้ชีวิตด้วยกันเกือบสามสิบปี ฉันเห็นพวกเขารักกันแล้วก็มีความสุขมาก แต่ทันใดนั้น เหมือนว่าไม่ทันตั้งตัวน่ะ แบบว่านายไม่มีสัญญาณของการเลิกกันเลย พวกเขาทั้งสองคนมาบอกฉันว่าจะแยกกันอยู่เร็ว ๆ นี้ และพวกเขาคิดว่าฉันจะรับมันได้ เพราะฉันโตแล้ว)” ไอติมทำเพียงนั่งฟัง กุมมือแซ็คเอาไว้ แซ็คยิ้มเศร้าแต่ก็เล่าต่อ
   

“Yes, I’m twenty, I guess, at that time. But I can’t handle it. I’m disappointed and I ran away from them. And then I met Jake and he taught me how to release my feeling. Yeah, he lets me play porn, teach me that I can live without love if I have sex. I live with that thing for long time and I get used to it. (ใช่ ฉันโตแล้ว ฉันยี่สิบได้มั้งตอนนั้น แต่ฉันรับมือกับมันไม่ได้ ฉันผิดหวังแล้วก็หนีพ่อกับแม่มา แล้วฉันก็มาเจอเจค เขาสอนฉันให้ปลดปล่อยความรู้สึก นั่นแหละ เขาให้ฉันเล่นหนังโป๊ สอนฉันว่าฉันอยู่ได้โดยไม่ต้องมีรักถ้ามีเซ็กซ์ ฉันอยู่กับอะไรแบบนั้นมานานจนฉันชินกับมัน)”
   

“He is like your father in that time. (เขาเหมือนพ่อคุณในช่วงเวลานั้น)” ไอติมพูดเสียงเบา
   

“And sometimes he is like my mother. (แล้วบางครั้งเขาก็เป็นเหมือนแม่ฉัน)” ไอติมพอจะนึกออก พอจะจินตนาการได้ว่าทั้งสองคนมีช่วงเวลาร่วมกันมายาวนาน เจคคงอุ้มชูแซ็คไว้มากมาย ก็ไม่น่าแปลกถ้าเขาจะแค้น
   

“You love him? (คุณรักเขามั้ย)” แซ็คก้มหน้าลง เงียบไม่ตอบ แล้วเขาก็ส่ายหัวช้า ๆ แต่ไม่ใช่เป็นการปฏิเสธว่าไม่
   

“I don’t know, (ฉันก็ไม่รู้)” แซ็คเงยหน้าขึ้นสบตากับไอติม
   

“He saved my life. I’m fucking fuck up and he pulled me from the dark time. (เขาช่วยชีวิตฉัน ฉันโคตรพัง แล้วเขาก็ดึงฉันขึ้นมาจากช่วงเวลาอันมืดมิด)” 
   

“And he becomes your dark time instead. (แล้วเขาก็กลายมาเป็นช่วงเวลามืดมิดของคุณแทน)” แซ็คขยับปากเป็นอาการขำน้อยๆ
   

“You got the point. (แบบนั้นแหละ)” ไอติมถอนหายใจ
   

“And you pull me out from that time with your white soul. (แล้วนายก็ดึงฉันออกมาจากช่วงเวลานั้นด้วยจิตวิญญาณอันขาวบริสุทธิ์ของนาย)” ไอติมยิ้มขำมุมปากซ้าย
   

“And do I am going to be like Jake? I’m pull you out and then you leave me. (แล้วผมจะเป็นเหมือนเจครึเปล่า ผมดึงคุณออกมาแล้วจากนั้นคุณก็หนีผมไป)” แซ็คยื่นมือซ้ายไปวางบนแก้มขวาของไอติม ถึงจะรู้ว่าเจ้ากระต่ายพูดเล่น แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ
   

“I can’t guarantee anything, but I will do my best as I said to you. I will try for you, bunny. (ฉันไม่สามารถการันตีอะไรได้เลย แต่ฉันจะทำให้ดีที่สุดเหมือนที่ฉันพูดกับนาย ฉันจะพยายามเพื่อนาย บันนี่)” ไอติมคลี่ยิ้มแก้มอิ่ม ยกมือขวาขึ้นจับหลังมือของแซ็ค
   

“Yeah, okay. (ก็ยังดี)” แซ็คยิ้มอ่อน
   

“Doctor give medicine to you? (หมอให้ยามั้ย)”
   

“For philophobia, no. It is about my mental, like a crux in life. They say I have to keep going, open my mind for relationship. They always say the same that it’s not scary. (สำหรับโรคกลัวความรัก ไม่ได้ให้ มันเกี่ยวกับจิตใจฉันเอง เหมือนปมในชีวิต พวกเขาบอกว่าฉันต้องก้าวต่อไป เปิดใจให้กับความสัมพันธ์ พวกเขามักพูดเหมือนเดิมเสมอว่ามันไม่ได้น่ากลัว)” ไอติมกำลังคิดว่า แซ็คไม่น่าจะไปหาหมอแค่คนเดียว เพราะเขาพูดว่า they
   

“But you are still scare. (แต่คุณก็ยังกลัว)” แซ็คพยักหน้า
   

“When someone told me that they wanted to be in a relationship with me I will think about my parents and then I’m screw it up. (เวลามีคนบอกว่าอยากคบกันฉับ ฉันจะนึกถึงพ่อกับแม่ แล้วฉันก็จะทำมันพัง)”
   

“Is it like a เอ่อออ panic? (มันเหมือนกับ เอ่อออ แพนิคงี้เหรอ)” แซ็คพยักหน้า ไอติมพยักหน้า แม้จะนึกภาพไม่ชัดนักหรอกว่ารูปแบบอาการมันมากแค่ไหน แต่จากการที่เห็นเขามีอาการหวาดกลัวผ่านสีหน้าและแววตา ก็พอจะเก็ทอยู่บ้าง
   

“What is the latest time that you go to see doctor? (ไปเจอหมอครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ฮะ)”
   

“After I came back from Thailand. (หลังจากที่ฉันกลับจากไทยน่ะ)” ไอติมพยักหน้าด้วยความเข้าใจ แซ็คหน้าเครียดขึ้นนิดหนึ่ง เขาดูอึดอัดที่จะพูดต่อ
   

“It’s okay if you don’t want to talk about it. (ไม่เป็นไรนะถ้าคุณไม่อยากพูดแล้ว)” แซ็คขบกรามพร้อมกับส่ายหัวช้าๆ
   

“One of doctor, a psychiatrist, that I met gave me medicines for satyriasis. (หนึ่งในหมอที่ฉันพบให้ยาฉันสำหรับสไตเรียสิส)” ไอติมงงกับชื่ออาการนี้ตั้งแต่เจค็อบพูดแล้ว ไม่คุ้นหู ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
   

“How is that? (มันเป็นยังไง)”
   

“It’s like a sex addicted. (มันเหมือนกับโรคเสพติดเซ็กซ์)” ไอติมอ้าปากหวอ กะพริบตาปริบ ๆ มองแซ็ค
   

“But it’s not on that level yet. Doc told me that I am just have more energy about sex, having too much, and can’t get enough, and—. (แต่ก็ยังไม่ถึงเลเวลนั้นหรอก หมอบอกว่าฉันมีพลังกับเซ็กซ์มาก มากเกินไป แล้วก็ไม่รู้จักพอ แล้วก็…)” แซ็คเม้มปาก มองไอติมอย่างไม่แน่ใจ จนไอติมพยักหน้าถึงพูดต่อ
   

“And I like to seek new taste of sex with new woman. (แล้วฉันก็ชอบหารสชาติเซ็กใหม่ ๆ กับผู้หญิงใหม่ ๆ ด้วย)” ไอติมค้างเติ่ง มองแซ็คที่มองตัวเองกลับมาด้วยสีหน้าสลด
   

“Oh, wow.” ไอติมไม่รู้จะพูดยังไง ที่รู้ก็คืออึ้ง เพิ่งเคยเจอคนที่มีอาการแบบนี้ในชีวิตของตัวเอง
   

“I don’t know if it is my mental or my nature. (ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องของจิตใจฉันหรือธรรมชาติของฉันเอง)” ไอติมยังคงอึ้งค้าง แซ็คคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคลานเข่าไปใกล้กับตู้ข้างหัวเตียงฝั่งตัวเอง เปิดลิ้นชักแล้วหยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลออกมาก่อนกลับมานั่งที่เดิม เขายื่นถุงนั้นให้ไอติม หนุ่มเอเชียรับมาแล้วเปิดออกดู เห็นซองยาอยู่ในนั้นสี่ห้าซอง ไอติมหยิบขึ้นมาอ่านฉลากยา
   

“From the doctor? (จากหมอเหรอ)” แซ็คพยักหน้า ไอติมเพ่งอ่านฉลากยาอีกครั้ง แปลไม่ค่อยจะออก เพราะคำศัพท์ยาก แต่ก็มีบางคำที่แปลได้ เช่น ยาทำให้ง่วง แต่ก็ยังงงว่าทำไมถึงต้องให้ง่วง ไอติมเพ่งอ่านฉลากยาจนครบ และคิดว่าแซ็คคงไม่โกหก จัดฉากซื้อยามา ไอติมพลิกอีกด้านของยา ก็เห็นว่ายาแต่ละซองถูกใช้ไปน้อยมาก
   

“ทำไมยาเหลือเยอะจัง” แซ็คก้มหน้าท่าทางไม่กล้าตอบ ไอติมก้มหน้าลงไปมอง แซ็คมองตาไอติมแล้วก็ถอนหายใจ
   

“I use the weed instead. (ฉันใช้กัญชาแทน)” ไอติมอ้าปากค้าง ไม่ได้ตกใจที่เขาใช้กัญชา เพราะเห็นกับตามาแล้ว แต่แปลกใจมากกว่าว่าทำไมเป็นกัญชาแทนยา
   

“There are more medicines. It could help my mind and my brain, but I don’t like to take it. I use only one and it could help me forget sex desire for many hours. I think it is better. (มันมียาเยอะมาก ยาช่วยจิตใจและสมองของฉัน แต่ฉันไม่ชอบกิน ฉันใช้กัญชาตัวเดียวเลย แล้วมันก็ทำให้ฉันลืมความอยากเรื่องทางเพศไปได้หลายชั่วโมง ฉันคิดว่ามันดีกว่า)” แซ็คบอกเสียงเบาเหมือนเด็กที่กำลังสารภาพผิด ไอติมไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงถึงจะถูก เพราะไม่เคยเจออาการแบบนี้ และไม่เคยใช้กัญชาว่ามันดีแค่ไหนสำหรับอาการนี้หรืออาการไหน หรือกับคนไหนๆ
   

“Stop using it, Zach. Use medicine, okay? (เลิกใช้มันเถอะนะแซ็ค ใช้ยานะ โอเคมั้ย)” แซ็คหลุบตาลงต่ำ พยักหน้าเพียงน้อยนิด
   

“As I said, I will try for you. (อย่างที่ฉันบอก ฉันจะพยายามเพื่อนาย)” ขวัญใจไอติมเงยหน้าขึ้นมองกระต่ายตัวจ้อยที่คลี่ยิ้มด้วยความดีใจ แซ็คคลี่ยิ้มบางเบาตอบ
   

“Why don’t you tell me about your sick? I have asked you. (ทำไมคุณไม่บอกผมเกี่ยวกับเรื่องที่คุณป่วย ผมถามคุณแล้วนะ)” แซ็คพ่นลมหายใจ
   

“I don’t want to place the blame on it. I think it’s because of me than them. (ฉันไม่อยากจะโทษอาการป่วย ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะตัวฉันมากกว่าอาการพวกนั้น)” ไอติมมองแซ็คด้วยความเข้าใจ ตอนนั้นเขาถามไปแล้ว แต่แซ็คตอบว่าเป็นเพราะตัวเขาเอง และแซ็คก็ไม่เคยเล่า ไม่เคยพูดเรื่องอาการประหลาดนี้ให้ฟัง จนกระทั่งเจค็อบพูดออกมา ไอติมถึงรู้ว่าแซ็คมีอาการนี้ และเพิ่งรู้ว่ามีอาการแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย
   

แล้วฟังแรก ๆ ก็ดูไม่น่ามีอะไรมาก แต่ฟังไปสักพักมันมีอะไร แถมยังมียามาให้กินอีก แต่คนป่วยดันไม่ใช้ยา กลับไปใช้กัญชาแทนเพราะคิดว่าใช้อันเดียวจบแทนการใช้ยาหลาย ๆ เม็ด
   

“Zach, you need to love yourself first before you are going to love someone. (แซ็ค คุณต้องรักตัวเองก่อน ก่อนที่คุณจะรักใคร)”
   

“But I already love you before I love myself. (แต่ฉันรักนายไปแล้วก่อนที่จะรักตัวเอง)” แซ็คยิ้ม แม้ว่าหน้าตาเขาจะทรุดโทรมและอิดโรย แต่รอยยิ้มเขาก็น่ามอง
   

“Don’t sweet mount. (อย่าปากหวาน)”
   

“Look like your old English is back. (เหมือนภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นเดิมของนายจะกลับมานะ)” ไอติมเลิกคิ้ว
   

“ฮะ?” แซ็คขำเบา ๆ เมื่อกี้คงอยู่ในห้วงอารมณ์จริงจัง และคงกลัวจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังจะเล่าเลยใช้สมาธิเต็มที่ สงสัยตอนนี้สมาธิคงแตกกระจายแล้ว
   

“I love this version than official version. (ฉันรักเวอร์ชั่นนี้มากกว่าเวอร์ชั่นทางการ)” แซ็คยิ้ม ไอติมยิ้มตอบ แซ็คยกแขนขวาโอบร่างไอติมแล้วดึงให้ไอติมกลับมานั่งบนตักตัวเองตามเดิม หอมหัวกระต่ายไปหนึ่งครั้ง
   

“Thank you. Thank you so much. (ขอบคุณ ขอบคุณมากจริงๆ)”

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v


เมื่อคืนไอติมนอนค้างกับแซ็ค แค่นอนเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่าการกอดการหอมกัน แม้กระทั่งจูบกันยังไม่มี ไอติมทำกับข้าวให้แซ็คกิน ซึ่งแซ็คกินอาหารได้มากที่สุดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และไอติมก็ได้ทำเยลลี่ในน้ำเป๊บซี่แช่แข็งให้ได้กินตามที่บอก แต่ปรากฏว่าแซ็คยี้ ไม่ชอบ เพราะเยลลี่มันแข็งเกินและไม่เข้ากับน้ำอัดลมเลย ไอติมเลยเป็นคนจัดการทั้งหมดแทน
   

เช้าวันต่อมาไอติมก็ออกมาทำกับข้าวหลังจากอาบน้ำเสร็จ และปล่อยให้แซ็คเป็นฝ่ายเข้าไปอาบน้ำบ้าง ระหว่างที่กำลังทอดไข่ดาว ลูคัสก็เคาะห้องตามเวลานัดหมายคือตอนเก้าโมงเช้า แต่ที่เซอร์ไพรส์ก็คือเจมส์มาด้วย
   

“พี่รู้เรื่องแล้ว วันนี้พี่ต้องได้กัดมัน ไม่งั้นพี่นอนไม่หลับ” เจมส์พูดอย่างแค้นเคือง
   

“ขอบคุณนะครับที่มา…” ไอติมหันไปมองลูคัสพร้อมกับคลี่ยิ้มบาง
   

“Thank you for coming today. (ขอบคุณที่มาวันนี้นะครับ)”
   

“We are in the same team. (เราทีมเดียวกันนี่)” ลูคัสรู้เรื่องเพราะแซ็คต้องคุยเกี่ยวกับเรื่องระงับการทำงานกับทางลูคัสไว้ก่อน เนื่องจากจะยิ่งทำให้แซ็คเป็นฝ่ายแย่ ความโชคดีคือสภาพแซ็คแย่จนไม่ได้เริ่มงานชิ้นแรกกับลูคัส จุดนั้นเลยปลอดภัยไปว่าเจค็อบจะเอามาเล่นงานแซ็คไม่ได้ว่าหนีไปทำงานกับที่อื่นก่อนสัญญาหมด แม้เขาบอกว่าจะยกเลิกสัญญา แต่คำว่าเงื่อนไขของเขานั้นยังคงมีอำนาจอยู่


ไอติมกับแซ็คเลยตกลงกันว่า จะยังไม่เริ่มงานกับลูคัสจนกว่าจะตกลงกับเจค็อบได้ และควรจะบอกเล่าให้ลูคัสฟังว่าเกิดอะไรขึ้น อีกอย่างยังไงก็ต้องให้เวลาแซ็คฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นคนเดิมหรือไฉไลกว่าเดิมก่อน ขายออกไปทั้งอย่างงี้ มีทติ้งที่คิดจะมีคงแป้กเพราะพระเอกสภาพแย่มาก


“แล้วเป็นไงบ้าง ไอ้นี่มันโรคจิตของแท้ว่ะ” แทนคำตอบ ไอติมดึงเสื้อยืดตัวใหญ่ของแซ็คขึ้นพร้อมกับหันหลังให้เจมส์ เป็นจังหวะเดียวกับที่แซ็คเดินตัวเปลือยท่อนบนออกมาจากห้องน้ำ


“โห รู้นะว่ามันเป็นคนจริงไม่พูดเล่น ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะเจ้าคิดเจ้าแค้นหนักด้วย” เจมส์ปล่อยเสื้อยืดลง หันไปมองลูคัสที่พ่นลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนตัวเองที่ยืนเงียบๆ


“ได้ข่าวว่าแกก็ได้แผลเตือนใจมาเหมือนกัน” แซ็คหันตัวด้านซ้ายและยกแขนขึ้นโชว์แผลที่ว่า เจมส์จึ๊ปากพร้อมกับส่ายหัว


“กะให้จำไปตลอดสินะว่าทำอะไรไว้กับเขา” ลูคัสพึมพำหน้าตาตึงเครียด


“วันนี้ลุ้นระทึกอีกรอบ” แซ็คหันมองไอติมที่กำลังจัดการไข่ในกระทะก่อนหันกลับไปมองเพื่อนทั้งสองคน


“เขาบอกจะไม่ตามรังควานฉันและปล่อยให้เวลาเป็นตัวจัดการ” แม้จะไม่หน้านิ่วคิ้วขมวด แต่อีกสองคนก็ครุ่นคิดจนหน้าตึงเครียด


“รอดูแล้วกัน ถ้าเจคเล่นไม่สะอาดนัก ก็ต้องเอาเรื่องที่เขาสั่งให้นายไปนอนกับใครต่อใครเป็นการสู้กลับ” แซ็คยิ้มเยาะ


“ฉันเต็มใจนะ อย่าลืม”


“แต่อย่างน้อยเจคก็ต้องโดนอะไรบ้างแหละ”


“หมอนั่นมีเส้นสายเยอะแยะ ก็คงรอดอะ” ลูคัสพ่นลมหายใจหน้าตึง


“ก็ดีกว่าเราไม่ทำอะไรเลย อยู่เฉย ๆ ให้เจคเล่นฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะ”  บรรยากาศตึง ๆ ลอยอบอวลไปรอบตัวทั้งสามคนก่อนจะถูกทำลายด้วยเสียงใส ๆ พร้อมรอยยิ้มของกระต่าย


“Break is ready. (อาหารเช้าพร้อมแล้วฮะ)” ลูคัสยิ้มรับ เจมส์เข้าไปช่วยไอติมวางอาหารใส่จาน แซ็คเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า


บรรยากาศการทานอาหารเช้าเป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่ทั้งหมดก็รู้สึกผ่อนคลาย กินไปดูซีรีส์บนจอทีวีไปแล้วก็คุยกันเรื่องงานด้วยนิดหน่อย ลูคัสเอารูปเพื่อนตัวเองที่ไปชวนมาร่วมงานด้วยให้ไอติมดู ไอติมสนใจอยากเจอตัวจริง เจมส์ก็ช่วยแนะนำนายแบบซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันห่าง ๆ ให้ไอติมไปหนึ่งคน ซึ่งไอติมสนใจเพื่อนของเจมส์มาก อยากจะเห็นตัวจริง เจมส์เลยบอกจะนัดให้


“Lukas, I’m thinking about to upload me and Bryan’s porn in Thailand on website, (ลูคัสฮะ ผมกำลังคิดว่าจะอัปคลิปผมกับแซ็คที่เมืองไทยลงในเว็บ…” ลูคัสเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เจมส์มองไอติมด้วยความตกใจนิดหน่อย


“ผมหมายถึงเว็บไซต์ของเขาเองนะ ที่ต้องเสียเงินสมัครสมาชิกเข้าไปดูน่ะฮะพี่เจมส์” เจมส์ร้องอ๋อก่อนจะอธิบายให้สองฝรั่งได้เข้าใจไปด้วยกัน


“Seriously? (เอาจริงเหรอ)” ลูคัสถาม ไม่ได้ตกใจ แค่แปลกใจกับความคิดของไอติม


“Is that not a good idea? (ไม่เข้าท่าเหรอฮะ)” ไอติมมองลูคัสตาปริบๆ


“It’s good. The chemistry between you and him is perfect, but it is about your parents. (มันดีสิ เคมีนายกับไบรอั้นเข้ากันจะตาย แต่มันเกี่ยวกับผู้ปกครองของนายต่างหาก)”


“Yes, your culture is different from us. Your mother will accept this? And Pan too. (ใช่ วัฒนธรรมนายต่างจากเรานะ แม่นายจะรับได้เหรอ แล้วยังแพนอีก)”


“น้า Pan can talk easy easy. Mom must explain more, and she will understand. (น้าแพนคุยง่ายง่าย แม่ต้องอธิบายเยอะ แล้วแม่จะเข้าใจ)” ไอติมยกน้ำส้มคั้นขึ้นดื่มไปหลายอึก


“ติม ถ้าลงไปเท่ากับติมเป็นนางเอกหนังโป๊เลยนะ แล้วบ้านเรา ติมก็รู้” ไอติมยิ้มกว้าง


“เอาจริง ๆ นะพี่เจมส์ ติมไม่ถือ ติมหน้าด้าน…” เจมส์หันไปอธิบายให้อีกสองคนฟังว่าไอติมพูดอะไร พอสองหนุ่มรู้ก็หัวเราะ


“…เจค็อบเคยบอกว่าไอ้คลิปนั่นจะสร้างเงินได้เยอะมาก ติมก็เลยคิดว่าถ้ามันทำเงินได้เยอะจริง ก็เอาลงไปเลยดีกว่า เก็บไว้กับติมก็บ๋อแบ๋” เจมส์พูดกับฝรั่งอีกสองคน ทั้งสองคนไม่ได้แสดงท่าทีอึดอัดหรือจะขัดขวางอะไร สำหรับแซ็คคือเป็นห่วงว่าไอติมจะถูกมองยังไงมากกว่า


“แล้วถ้ามันออกมาดี ออกมาดัง เดี๋ยวติมต่อยอดเอง” เจมส์แปลต่ออีกที ลูคัสพยักหน้าเบาๆ


“คุยกับผู้ปกครองของนายให้เข้าใจก่อน ถ้าเขายินยอม ฉันก็โอเค ยังมีเวลา ยังไงเราก็ต้องรอไบรอั้นฟื้นตัวก่อนถึงจะเปิดเว็บได้” ไอติมพยักหน้าและอมยิ้ม พอหันไปมองแซ็คก็ขยับยิ้มกว้าง แซ็คยิ้มตอบและพยักหน้าหนึ่งครั้ง


“If you are happy to do that. (ถ้านายทำแล้วมีความสุข)” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ เป็นการบอกว่ามีความสุข


“แล้ว ยังไงกันเนี่ย เราสองคน” ไอติมหันกลับไปมองเจมส์


“ก็ไปด้วยกันได้พี่เจมส์ ตกลงกันว่าก็จะใช้ทั้งชีวิตรัก และชีวิตเซ็กซ์ในงานไปด้วยกัน นอกงานแซ็คบอกจะพยายามเลิก แต่ติมไม่เร่งรัดหรอก ค่อย ๆ ทำไป”


“แล้วคบเลยป้ะเนี่ย” ไอติมย่นคิ้ว


“อืม… ไม่คบก็เหมือนคบ แต่ก็ไม่ได้คบกันแบบที่พี่เจมส์เป็นกับโจ…” หนุ่มเอเชียรุ่นพี่ขมวดคิ้วหน้างง ไอติมหัวเราะ


“…แปลก ๆ เนอะ แต่ติมกะแซ็คก็ตกลงกันจนได้” ไอติมหัวเราะอีกที เจมส์ขำทั้งที่หน้ายังขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปคุยกับลูคัสว่าเรื่องราวเป็นมายังไง ลูคัสยิ้มกริ่มและพยักหน้า


“แบบนี้นายก็เสียเปรียบสิ ให้หมอนั่นได้ฝ่ายเดียวได้ไง” ไอติมยิ้มกว้าง แซ็คละสายตาจากจอทีวีไปมองค้อนลูคัสไม่จริงจังนัก


“ใครว่าล่ะฮะ ผมก็มีสิทธิ์เหมือนกัน แต่เขาขอสิทธิ์หวงมากกว่าหน่อย” เจมส์ตั้งท่าจะอธิบายอีกที แต่ดูเหมือนลูคัสจะเข้าใจได้ว่าไอติมพูดอะไร


“อิ๊งคล่องขึ้นนะเนี่ย ดี ๆ เดี๋ยวก็ปร๋อแล้ว” ไอติมยิ้มด้วยความดีใจ


พอกินอาหารเช้าเสร็จไอติมกับเจมส์ก็ช่วยกันเก็บจานไปล้าง ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งดื่มนั่งคุยกันหน้าทีวี แต่แซ็คงดแอลกอฮอล์เพื่อฟื้นฟูร่างกายอยู่เลยดื่มน้ำผลไม้แทน


ก๊อกๆๆ


เสียงเคาะประตูดังขึ้น และโดยไม่มีใครพูดอะไรเลยสักคำ แต่ทุกคนก็หันมองหน้ากันนิ่งสักพักก่อนที่เจมส์จะฮึดขึ้นมา


“เตะเป็นเตะ ตบเป็นตบเว้ย” ไอติมหัวเราะกับท่าทีฟึดฟัดของเจมส์ หนุ่มเอเชียรุ่นพี่ของไอติมเป็นคนไปเปิดประตู ผายมือหน้าตายให้เจค็อบกับผู้ชายร่างท้วมใส่สูทเดินเข้ามาในห้อง


“สวัสดีลูคัส…” เจค็อบเอ่ยอย่างอารมณ์ดี แต่ก็ไม่ได้ดีจนเว่อร์หรือลายใหญ่


“…มาเป็นสักขีพยานด้วยก็ดีนะ”


“มาเฝ้าระวังจะถูกกว่า” เจค็อบยิ้มอย่างไม่ถือสา เดินนำผู้ชายใส่สูทผมบางไปตรงโซฟา และมองไปรอบห้องเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง สุดท้ายเจค็อบกับลูคัสก็เลยลุกขึ้นยืนเพื่อให้ทั้งสองคนได้นั่ง เจมส์ยกเก้าอี้ตรงเค้าน์เตอร์ไปให้ลูคัสกับแซ็คนั่งหน้าทีวี ตรงข้ามกับอีกสองคน


“นายสองคนคงจำได้อยู่แล้วว่าเขาเป็นทนายของฉัน” สองหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้ตัวสูงพยักหน้าพร้อมกัน ไอติมกับเจมส์ยืนอยู่ด้านหลังโซฟา ไอติมน่ะคอยมองเฉย ๆ ว่าเขาจะตกลงอะไรกันยังไง แต่เจมส์จ้องจะฟาดกลับทันทีถ้ามีอะไรชวนฟาด


“ไม่เข้าใจตรงไหนถามพี่ได้เลยนะติม” เจมส์กระซิบ ไอติมพยักหน้า และรู้สึกว่าดีแล้วที่พี่เจมส์มา


“เชิญคุณทนายได้เลย” เจค็อบหันไปบอกทนายที่มาด้วย แซ็คหยิบรีโมตขึ้นมากดลดเสียงทีวี


“เจค็อบกับแซ็ค ไนท์ฮู้ด เซ็นสัญญาการทำงานร่วมกันที่ xxx ทั้งหมด xx ปี โดยที่ตอนเซ็น คุณไนท์ฮู้ดมีสติครบถ้วน และได้อ่านข้อกำหนดทุกอย่างในสัญญาแล้ว…” แซ็คพ่นลมหายใจแต่ก็พยักหน้าลงหนึ่งครั้ง


“…แต่คุณทำผิดสัญญาด้วยการทำงานไม่ครบตามระยะเวลาที่ระบุไว้ โดยการจะไปเริ่มงานใหม่กับที่อื่นทั้งที่ยังมีสัญญากับคุณเจค็อบ”


“ยังไม่มีผลงานใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างแซ็คกับค่ายใหม่” ลูคัสแทรกขึ้นมาอย่างสุภาพ ทนายของเจค็อบนั่งนิ่งไม่ได้มีท่าทีใดเป็นพิเศษ พอแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่พูดอะไรต่อ ชายร่างท้วมผมบางจึงพูดในส่วนของตัวเองต่อไป


“โดยคุณไนท์ฮู้ดจะถูกปรับเป็นเงิน xxxxxx ดอลล่าห์ตามที่ได้เซ็นรับรู้เอาไว้หากมีการทำผิดสัญญาเกิดขึ้น…” ไอติมขมวดคิ้วกับตัวเลขที่ได้ยิน ละสติจากจุดนั้นให้ทั้งสี่คนคุยกันไปแล้วหันไปหาเจมส์ที่ทำหน้าตะลึงอยู่


“คิดเป็นเงินไทยกี่บาทอะพี่เจมส์”


“xxxxxxxx บาท เชี่ย ล่มจมชิบหายเลยนะงานนี้” เจมส์พึมพำด้วยความอึ้ง ไอติมเองพอรู้ว่ามันเป็นเงินกี่บาทในไทยก็อ้าปากค้างตะลึง ลืมกะพริบตาไปเป็นนาที หัวใจวูบวาบ หูอื้อจนได้ยินเสียงทั้งสี่คนคุยกันแบบไม่รู้เรื่องอะไร


“ปะ… แปดหลักไทยเลยเหรอ” ไอติมพึมพำเสียงแห้ง


“เฮ้… เฮ้ ใจเย็น ฉันรู้น่าว่าข้อนั้นกฎหมายไม่รับรอง แต่ถ้าเอาข้อได้เปรียบ ยังไงฉันก็ได้เปรียบ ถูกมั้ย” ไอติมไม่เห็นว่าเจค็อบมีสีหน้ายังไง แต่เห็นว่าอีกสองคนมีสีหน้าเอือมระอา โดยเฉพาะลูคัส


“วันนี้ฉันถึงมาต่อรอง…” เจค็อบมองแซ็คแล้วยิ้มอ่อน ทนายความหยิบกระดาษออกมาสามแผ่น


“…เราจะใช้กฎหมายในการพูดนิดเดียว ที่เหลือเป็นข้อตกลงระหว่างเราสองคนเท่านั้น”


“สัญญาฉบับนี้เป็นสัญญาหนี้สินระหว่างคุณเจค็อบกับคุณไนท์ฮู้ด” แซ็คย่นคิ้ว ยื่นมือไปรับกระดาษมาจากมือทนายความแล้วก้มลงอ่านสักพัก ก่อนที่จะคลายคิ้วออกแล้วก็เปลี่ยนเป็นจำยอม


“ขอฉันดูหน่อยสิ” ลูคัสพูดกับแซ็ค พระเอกรุ่นน้องยื่นให้ไป ลูคัสรับไปอ่านอย่างคร่าว ๆ แล้วก็ไปจบตรงยอดรวมของหนี้สินที่ว่า เขาย่นคิ้วเมื่อเห็นตัวเลข


“xxxxxx ดอลล่าห์?” ไอติมหันไปมองคนข้าง ๆ เจมส์ขมวดคิ้วไม่ต่างหากลูคัส


“เลขต่างกันขนาดนั้น ใครก็ต้องเลือกเลขน้อยเปล่าวะ” เจมส์พึมพำ ไอติมมองด้านหลังเจค็อบและนึกเห็นด้วยในใจกับความคิดของเจมส์


“ใช่” เจค็อบตอบหนักแน่น


“นายต้องการแบบไหน” ลูคัสถามเข้าประเด็น


“ฉันจะให้แซ็คเลือกว่าจะรับผิดชอบเงินส่วนไหน ถ้านายเลือกรับผิดชอบจ่ายแค่ค่าหนี้สินที่ติดค้างฉันอยู่ และยอมรับเงื่อนไขของฉัน สัญญาการทำงานจะถูกยกเลิกทันที”


“เงื่อนไขคืออะไร” หัวใจไอติมเต้นตึกตักหลังจากได้ยินว่าแซ็คถามอะไร


‘…จะไม่ฟ้องร้องเขาหากเขาทำตามเงื่อนไขของฉัน…’


“นายยังต้องไปนอนกับทุกคนที่ติดต่อเข้ามาหาฉันหรือถ้ามีติดต่อผ่านนายมา นายต้องแจ้งให้ฉันรับรู้ และนายก็ต้องไป…” ไอติมตัวเย็นเฉียบ แซ็คเงยหน้าขึ้นมองไอติมทันที กระต่ายตัวจ้อยยืนนิ่งราวกับโดนแช่เข็ง


“…เงินทุกบาทที่ได้จากงานนี้ ฉันยกให้นายทั้งหมด แล้วขึ้นอยู่กับว่านายจะแบ่งจ่ายใช้หนี้เท่าไหร่ในแต่ละครั้ง”


“แล้วเงินจากทางอื่นล่ะ” เจมส์ถามเสียงเหวี่ยง เจค็อบไม่ได้หันมองคนด้านหลังเลยสักนิด แต่ก็ตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว


“ฉันไม่รับ ฉันรับเงินแค่ทางนี้ทางเดียว และฉันจะเป็นคนแจ้งรายละเอียดของลูกค้าแต่ละคนเอง…” ลูคัสเปิดสัญญาหนี้นั้นอีกรอบเพื่อหาระยะเวลาที่ว่านั้น


 “…นี่คือข้อเสนอของฉัน ถ้าเขาตอบรับ เขาจะไม่ถูกฟ้องร้องด้วยเงินจำนวนนั้น แล้วก็มาใช้หนี้ด้วยจำนวนเงินนี้แทน”


‘…หนทางอันเหมาะสมกับเขาที่ฉันจะหาให้…’


ช่างเหมาะสมแล้วจริงๆ


“ห้าปีงั้นเหรอ”


“ใช่”


“แล้วเขาเลือกเองไม่ได้รึไง…” ลูคัสเงยหน้ามองไอติมที่ยืนหน้าอึน และหันกลับมามองแซ็คที่หน้านิ่ง


“…แบบว่า เอาแล้วก็รับเงินมา หาลูกค้าเอง”


“ลูคัส นายเองก็ใช่ว่าไม่เคยทำ และนายรู้อยู่แล้วว่าลูกค้าของแซ็คเงินหนาแค่ไหน นายน่าจะเชื่อใจฉันได้นะในจุดนี้น่ะว่าแต่ละคนที่ฉันเลือกมาให้ แซ็คจะได้เงินก้อนโตแน่นอน” ลูคัสพ่นลมหายใจ หันไปมองแซ็คที่พ่นลมหายใจออกมาเช่นกันก่อนจะเงยหน้ามองไอติมที่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน ไอติมสบตากับแซ็ค สีหน้าครุ่นคิด กำลังหาข้อสรุปอะไรบางอย่างให้กับตัวเอง


“อย่างที่บอกไป เรื่องนี้กฎหมายไม่รองรับ นี่เป็นการคุยกันระหว่างพวกเรากันเอง แล้วไม่ต้องกลัวว่าฉันจะให้ทำงานทั้งปี หรือทำทุกเดือน ฉันมีวันหยุดให้อยู่แล้ว” เจค็อบเอ่ยอย่างอารมณ์ดี แซ็คเลื่อนสายตาจากไอติมมามองหน้าเจค็อบแล้วขบกรามแน่น เจค็อบนั่งรอคำตอบอย่างใจเย็น แซ็คกำสองมือแน่น ท่าทีกระอักกระอ่วน หลุบตาลงต่ำก่อนปิดเปลือกตาไปครู่หนึ่ง พอลืมตาขึ้นเขาก็เอ่ยปากเสียงแหบทุ้ม


“ตกลง” บรรยากาศเงียบไปพักใหญ่ได้ยินแต่เสียงทีวีด้านหลังดังชัดที่สุด


‘…ฉันมั่นใจว่านายจะตอบรับมัน…’


เพราะเขารู้ว่าแซ็คเป็นยังไง


“ถ้างั้นก็เซ็นรับรู้ร่วมกันในสัญญาฉบับนี้ จะให้คนที่อยู่ในห้องนี้เซ็นในช่องพยานด้วยก็ได้ และเมื่อนายเซ็นสัญญาฉบับนี้เสร็จแล้ว ฉันจะทำลายสัญญาการทำงานนั้นทิ้ง” ไอติมได้ยินเสียงเจมส์พ่นลมหายใจแรง ๆ ด้วยความหงุดหงิด คลิปที่ให้เขาพูดว่าจะยกเลิกสัญญาไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเขาจะได้มาสนุกกับสัญญาฉบับนี้แทน ไอติมยืนทบทวนอีกพักจนแน่ใจกับสิ่งที่อยากจะพูดถึงได้เดินไปยืนข้างแซ็ค


“พี่เจมส์ช่วยแปลหน่อยนะ ติมขี้เกียจคิดอิ๊งฮะ” เจมส์พยักหน้าอย่างแข็งขัน ไปยืนตรงกลางระหว่างลูคัสกับแซ็ค


“คุณควรเอาโน้ตบุ๊กขึ้นมาพิมพ์ตามนะคุณทนาย ละไม่ต้องห่วง ผมมีเครื่องปริ้นอยู่บนรถ พิมพ์เสร็จปริ้นได้เลย แล้วก็เซ็นสัญญาได้เลย” เจมส์บอกอย่างยิ้มแย้มและมองจิกเจค็อบที่นั่งนิ่งไปที ไอติมมองทนายความเปิดโน้ตบุ๊กสีดำที่หยิบออกมาจากกระเป๋าของเขา พอเขาเงยหน้าขึ้นและพยักหน้าให้ ไอติมก็เริ่มพูด


“ช่วยเขียนไว้ในสัญญาตามนี้ด้วย…” ไอติมหันมองแซ็ค ขวัญใจไอติมยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของเจ้ากระต่าย


“…แซ็คมีมีสิทธิ์รับรู้สุขภาพของลูกค้าคน ๆ นั้นก่อนที่จะมีอะไรกัน และแซ็คมีสิทธิ์ปฏิเสธลูกค้าคน ๆ นั้นหากสุขภาพเธอมีความเสี่ยง หรือประวัติของเธอมีความเสี่ยงต่อชีวิตของแซ็ค…” ไอติมเว้นวรรคให้เจมส์แปลและให้คุณทนายความได้พิมพ์ พอแน่ใจว่าเรียบร้อยแล้ว ไอติมก็พูดต่อ


“…ห้ามไม่ให้แซ็คเอาสด ต้องใส่ถุงยางทุกครั้ง รับงานได้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงต่อค่าตัวที่กำหนดไว้ ถ้าเกินนั้นต้องเพิ่มค่าตัว และค่าตัวที่ได้รับ ถ้าในเมื่อคุณบอกว่าให้สิทธิ์ขาดกับแซ็คในเงินจำนวนนี้ งั้นคุณห้ามเข้ามายุ่ง ให้แซ็คจัดการเงินได้ด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องลูกค้า เรื่องคิวให้คุณเป็นคนจัดการ” เจมส์แปลอย่างว่องไว และแอบใส่ความแซะเจค็อบด้วยนิดหน่อย แต่อดีตเจ้านายแซ็คก็ทำเพียงยิ้ม


“Of course. It is his right. (แน่นอน สิทธิ์ของเขาอยู่แล้ว)”


“ในระยะเวลาห้าปี ห้ามแซ็คมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหน ยกเว้นผมคนเดียว ลูกค้าทุกคนต้องเป็นผู้หญิงทั้งหมด” ไอติมมองตาเจค็อบที่มองนิ่งกลับมา ครู่หนึ่งไอติมรู้สึกได้ถึงความเชือดเฉือนออกมาจากดวงตาของเจค็อบ


“Okay. Fine. (โอเค ได้)” เจค็อบว่าเสียงห้วน


“ภายในห้าปี แซ็ครับงานได้เดือนละครั้งเท่านั้น อยู่ที่คุณจะจัดตารางมา…” ไอติมปล่อยให้เจมส์แปลอย่างรวดเร็ว


“…และถ้าภายในห้าปี หนี้สินที่มียังใช้ไม่หมด แต่สัญญาจบลงแล้ว ก็ถือว่าจบกัน ห้ามยืดเยื้อ ห้ามต่อรองใด ๆ อย่าลืมว่าคุณจะเป็นคนหาลูกค้ามา ถ้ามัวแต่อืดอาดยืดยาดจนสัญญาหมดไป นั่นคือความผิดของคุณ…” ไอติมมองเจค็อบอย่างเฉยเมยในระหว่างที่ปล่อยให้เจมส์แปลจนจบ


“…และถ้าเดือนไหนไม่มีลูกค้า ห้ามนำไปคิดรวมกับเดือนต่อ ๆ ไปเด็ดขาด เดือนไหนไม่มีก็คือไม่มี คุณหาไม่ได้ก็เรื่องของคุณ” เจค็อบยกยิ้มมุมปาก


“Don’t worry. (ไม่ต้องห่วงหรอก)” ไอติมพ่นลมหายใจเบาๆ


“ลูกค้าเหล่านั้นต้องจ่ายค่าตัวของแซ็คได้ในราคา xxxx เท่านั้น” เจค็อบยกยิ้มมุมปาก


“ค่าตัวปกติของเขามากกว่าที่นายบอกอีก” แวบหนึ่งไอติมหน้าเหวอ เพราะคิดว่าราคาที่ตัวเองคิดมาก็มากแล้ว


“Anything else? (มีอะไรอีกมั้ย)” ไอติมส่ายหัว เจค็อบหันไปสอบถามทนายความว่าโอเคหรือไม่ ทนายความพยักหน้า และเงยหน้าบอกให้เจมส์ไปเอาเครื่องปริ้นมาได้เลย เจมส์แบมือขอกุญแจรถจากลูคัสก่อนรีบเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้คนที่เหลืออยู่ด้วยกันไปก่อน


“แล้วฉันขอเพิ่มอีกหนึ่งข้อ…” แซ็คพูดขึ้นมา เจค็อบยักไหล่ขวาชิลๆ


“…ห้ามยุ่ง ห้ามทำร้าย หรือรังควานไอศกรีม ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม เขาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้” เจค็อบหัวเราะแบบไร้เสียง


“ข้อนั้นไม่ต้องเขียนในสัญญาหรอก ฉันบอกแล้ว ว่าแค่นายรับปากเงื่อนไขของฉัน ก็เป็นอันว่าจบ…” เจค็อบยกยิ้มเยาะมุมปากซ้าย


“…เพราะเวลา จะทำหน้าที่ของมันเอง” แซ็คขบกราม จ้องเจค็อบตาแข็ง หนุ่มแว่นสูงวัยยิ้มอ่อนแล้วหันไปมองไอติม


“What if he wants to make a relationship with client? (แล้วถ้าเขาอยากจะสานสัมพันธ์กับลูกค้าเองล่ะ)” คนถูกถามยืนนิ่ง ไม่หันไปมองแซ็คที่หันมองอยู่


“It’s up to him. (มันแล้วแต่เขา)” เจค็อบยิ้มขำ


“Let’s see what the time could make to both of you. Five years of judgement, right? (งั้นมาดูกันว่าเวลาจะทำอะไรเธอทั้งคู่ได้บ้าง ห้าปีแห่งการตัดสิน ใช่มั้ย?)”


ปล่อยให้เวลาทำงานของมัน…


“มา เครื่องปริ้นมาละ” เจมส์กลับเข้ามาในห้องพร้อมกับเครื่องปริ้นสีดำและกระดาษเอสี่ปึกใหญ่ เป็นคนจัดการเชื่อมต่อโน้ตบุ๊กกับเครื่องปริ้นให้เสร็จสรรพ


“I’m sorry. It’s again and again, but I am sorry for chose that choice. (ฉันขอโทษ มันซ้ำซาก แต่ฉันขอโทษที่เลือกตัวเลือกนั้น)” ไอติมยิ้มอ่อน บีบมือแซ็คกระชับอีกนิด


“I understand. (ผมเข้าใจ)” แซ็คมีสีหน้าและแววตาสลดหม่นหมอง ไอติมยิ้มให้กำลังจีอกฝ่ายก่อนหันกลับไปมองเจค็อบที่หันกลับมาจากวิวริมระเบียงพอดี เจค็อบยิ้มเย็น ไอติมทำเพียงนิ่งตอบกลับไป แม้ใจจะหวั่นไหวกับสัญญาฉบับนี้ก็ตาม


ผู้หญิงที่เจค็อบจะหามาให้ ต่างจากนักแสดงทั่วไปที่ไอติมจะได้เห็นผ่านจอมอนิเตอร์ทุกครั้งที่กำกับงานของแซ็คหรือไปดูแซ็คที่กอง หรือแม้แต่ดูผ่านคลิปวิดีโอ


ภายในห้าปี อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ไอติมไม่เตรียมใจ ไม่เตรียมตัวรับอะไรทั้งนั้น อย่างที่เจค็อบว่า ปล่อยให้เวลาทำงานของมัน อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด ประโยคจำเจ แต่เป็นเรื่องจริง 






เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้


สำหรับบทกฎหมาย ตอมพยายามเอ่ยถึงให้น้อยที่สุด เพราะไม่ได้รู้ลึกมากมาย พยายามเอ่ยถึงในจุดที่พวกเรารู้กันอยู่แล้ว เช่น ผิดสัญญาจะต้องถูกฟ้องตามที่ได้ระบุไว้ในสัญญา อะไรประมาณนี้ค่ะ นอกนั้นก็เป็นไปตามเส้นเรื่องที่เกิดจากนิสัยและพฤติกรรมของตัวละครพาไปจ้าา 


แท็กเรื่องนี้ #ประสบกามประสบรัก

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ง่าาา สัญญาซาตานฉบับใหม่มาแล้ว

บททดสอบความสัมพันธ์เหมือนกันนะเนี่ยย

น้องติมสู้ๆ เอาชนะไอ้เจคมันให้ได้!!

ส่วนแซคพยายามดีแล้วทำต่อไป เฮ่!! //เรียกกำลังใจ
 :z3: o11 :interest:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
น้องติม ทำให้สุด เรื่องชนะเจค็อบคงยาก

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นังเจคคคค ตายยยยยย  :pigangry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
เป็นช่วงเวลาพิสูนจ์ใจสินะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไล่อ่านจนจบแล้ว  รอตอนต่อไปจ้า
บอกได้คำเดียวว่า เจคเอี้ยมาก!!!

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
เอาเถ่อะเนาะ อย่างน้อยๆ ผู้ชายก็จะมีแต่ไอติมล่ะ ฮึบ สู้ไปพร้อมกัน เส้นทางต่อไปก็แค่รอและเดินไปด้วยกันเท่านั้นเอง  o13

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust - Chapter 42 :: Last jigsaw. (จิ๊กซอว์สุดท้าย)




  “ฮัลโหลเดน”

           

 

[เออ ว่าไง]

           

 

“วันมะรืนนี้กูบินกลับไทยแล้วนะ”

           

 

[อ้าว ไม่ใช่ต้นเดือนหน้าเหรอวะ]

           

 

“เลื่อนเข้ามาอะ งานที่ต้องทำก็คุยไว้เรียบร้อยแล้ว ลูคัสให้กลับไปพักผ่อนแล้วก็รอเอกสารเรื่องงาน คิดว่าคงเสร็จหลังสงกรานต์ อีกอย่าง จะพาแซ็คกลับไปฟื้นฟูด้วย”

           

 

[ฮะ เป็นไรวะถึงต้องฟื้นฟู]

           

 

“เรื่องยาว แต่ไม่ใช่จะไม่เล่านะ แต่มันเรียบเรียงไม่ถูกจริง ไว้เจอหน้ากูจะเล่าเป็นฉาก ๆ เลย”

           

 

[เออ ๆ แล้วมึงกับเขายังไง กลับไทยด้วยกันคือคบกันแล้วหรืออะไร]

           

 

“ยังไม่คบ แต่ก็เหมือนคบ” ไอติมถอนหายใจ แต่ก็ตามด้วยรอยยิ้มขำขัน

           

 

[ยังไงวะ อันนี้เล่าตอนนี้ได้มั้ย ต่อมเสือกกูทำงานแล้ว] ไอติมยืนคิดอยู่พักหนึ่งว่าจะเล่ายังไงดี ก็เลยเล่าต่อจากจุดที่ค้างไว้กับเดนตอนที่อีกฝ่ายมารับกลับไปอยู่หอน้องโรเบิร์ต เล่าตกหล่นไปบ้างแต่ใจความสำคัญก็ยังอยู่ว่าสรุปก็จะเดินไปด้วยกันท่ามกลางอีสัญญาบ้าบอนั่น และท่ามกลางการปรับปรุงพฤติกรรมของแซ็ค ซึ่งไอติมไม่ได้เล่าอาการป่วยของแซ็คให้เดนฟังเนื่องจากมันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไอติมคิดว่าไม่ควรพูดต่อ ก็เล่าแค่ในสิ่งที่เดนเองก็รับรู้อยู่แล้ว และขยายความให้เดนนี่เข้าใจเพิ่มเติมมากขึ้นในบางจุด

           

 

[ไอ้เหี้ย สัญญาห่าอะไรวะน่ะ]

           

 

“เออ ก็สัญญาห่าไงล่ะ”

           

 

[นี่มันระเบิดเวลาชัด ๆ วันไหนถ้าขวัญใจมึงไปเจอคนถูกใจเข้าก็ตู้ม]

           

 

“อือ เขาตั้งเวลาไว้แล้ว ตัดสายไหนก็เหมือนกัน จะแดงหรือน้ำเงิน แดงก็ระเบิด น้ำเงินก็หยุด แต่ที่หยุดคือแค่ตัวระเบิด แต่ตัวแซ็คอาจจะไปต่อ” ไอติมพูดราวกับว่าผ่านการกรรมฐานมาแล้วเป็นร้อยปีจนปลดปลงเป็น

           

 

[ไอ้เหี้ยติม ในฐานะเมีย มึงโคตรใจกว้างนะ แต่ในฐานะเป็นเพื่อนกู มึงเกือบจะโง่ มึงเสียเปรียบนะเนี่ยเอาจริงๆ] ไอติมหัวเราะเสียงแผ่ว

           

 

“กูไม่ได้รู้สึกอย่างงั้น กูก็มีสิทธิ์กับชายอื่นนะ คือตัวกูเองก็อยากลองกับบางคน ก็ยอมรับแหละว่าแรด หรือแรง ๆ หน่อยก็ร่าน แต่ก็ไม่ได้คิดเก็บแต้มขนาดนั้น แบบว่าถ้าคนไหนมันน่าจริง ๆ ก็อยากลอง” เดนนี่ถอนหายใจ

           

 

[แล้วแบบนี้มันจะไปหยุดที่ตรงไหน หยุดเมื่อไหร่ หมายถึงทั้งเขาแล้วก็มึงด้วยนะ] ไอติมถอนหายใจสั้น ๆ หน้าตาอึน

           

 

“ไม่รู้หรอกเดน ต่อให้สัญญาหมดยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นไง…” ไอติมนิ่ง อึกอักพักหนึ่งแล้วก็เปิดปากพูดต่อ

           

 

“…นอกจากเขาจะได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ ระหว่างนั้นกูก็หวังให้เขาปรับตัวไปด้วย กูเลย เอ่อ…”

 

 

[…เอ่อ อะไรวะ มึงติดอ่างตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย] ไอติมย่นคิ้ว

 

 

“มึงก็ใจเย็นสิ กูเรียบเรียงอยู่นิ…” ไอติมหน้าบู้ ได้ยินเสียงหัวเราะของเดนนี่มาตามสาย ถอนหายใจอีกทีแล้วก็ว่าต่อ

 

 

“…กูเลือกให้เขามีงานแค่เดือนละครั้ง ซึ่งกูไม่รู้ว่าที่คิดไปมันจะได้ผลหรือเปล่า”

 

 

[มึงคิดว่าอะไร] ไอติมกำลังคิดว่าจะหาประโยคไหนที่ไม่ใช่เป็นการบอกเล่าเรื่องอาการป่วยของแซ็คมากจนเกินไป แต่ทบทวนอย่างรวดเร็วแล้วก็รู้สึกว่ามันเสี่ยงต่อการโยงเข้าหาอาการของแซ็คมากไปเลยพูดกว้าง ๆ ไว้ก่อน

 

 

“อีกแง่นึงมันอาจช่วยเขาได้ กูได้แต่หวังว่าเขาจะรู้ตัว” เดนนี่นิ่งเงียบ ไม่ได้ทักท้วงหรือดึงดันจะให้ไอติมพูดขยายความ แต่ประโยคที่เดนนี่พูดออกมาก็ทำให้ไอติมใจแป้ว

           

 

[มึงหวังได้นะติม แต่มึงอาจจะผิดหวัง…] หัวใจไอติมเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ

           

 

[…มันอาจจะไม่รู้ตัวอะไรเลยก็ได้ อย่าลืมว่าสัญญานี้เป็นประโยชน์กับขวัญใจมึงมาก]

           

 

“อือ กูไม่ลืม”

           

 

[ยังดีที่มึงเป็นคนร่าน ไม่ให้มันเอาได้ฝ่ายเดียว] จากที่กำลังใจแป้ว หัวใจอ่อนแอ ไอติมเปลี่ยนเป็นหัวเราะอารมณ์ดี

           

 

“ไอ้บ้าเดน”

           

 

[กูคนนึงแหละที่มึงต้องให้เอา เข้าใจป้ะ] ไอติมเม้มปาก ใบหน้าเห่อร้อน

           

 

“บ้าาา” เดนนี่หัวเราะในลำคอ

           

 

[เสียงอย่างงี้กูได้เอาแน่นอน] ไอติมห่อไหล่เขินอาย หัวเราะคิกคักสักพักแล้วตั้งสติพูดต่อ

 

 

“ก็คือตอนนี้ทั้งกูและเขาก็ไปตามสัญญาก่อน ซึ่งในช่วงเวลานี้กูก็ไม่อยากเป็นเมียหลวงแบบดร.วิกันดาอะไรขนาดนั้น มึงรู้จักดร.วิกันดาใช่ป้ะ”

           

 

[รู้ ที่เป็นเมียหลวง สวย เก่ง เป็นผู้ดี มีผัวเจ้าชู้ แต่ใจโคตรนิ่ง ผัวเทิดทูนเหนือหัว] ไอติมหัวเราะกับการที่เดนนี่รู้จักตัวละครชื่อดังในละครชื่อดังเป็นอย่างดี ถึงจะไม่ใช่ขาละคร แต่เรื่องไหนดัง เดนนี่ก็ดูตามกระแสบ้าง ถ้าถูกใจก็ดูต่อจนจบ ไม่ถูกใจก็จอด

           

 

“ส่วนกูจะหยุดเมื่อไหร่ก็ ดูท่าทีแซ็คอีกที กูก็ไม่ให้ตัวเองเสียเปรียบหรอกน่า ใช่ป้ะ”

           

 

[เออ ดีแล้ว ใช้ความร่านตัวเองให้เกิดประโยชน์] ไอติมหัวเราะ

           

 

“มึงนี่ชอบย้ำคำว่าร่านใส่กูจัง ไอ้นี่…” ถึงจะว่าอย่างงั้นแต่ไอติมก็หัวเราะชอบใจ

 

 

“…แล้วก็ ถ้าเกิดว่าก่อนหมดสัญญาระเบิดมันทำงานจริง ก็ต้องดูสถานการณ์นั้นว่าสภาพบอบช้ำจากระเบิดแค่ไหน”

           

 

[โวะ ไอ้ช่างเปรียบเทียบ]

           

 

“แหม ทีมึงยังเปรียบเทียบคนกับสะพานโกลด์เด้นท์เกจเลย กูพูดมั่งไม่ได้ไงล่ะ” เดนนี่หัวเราะ

           

 

“เอ้อ เดี๋ยวกูลืม พูดก่อน เจ้านายกูเขาชวนมึงมาเป็นตากล้องถ่ายหนังอะ”

           

 

[หนังโป๊อะนะ]

           

 

“อือ กูพรีเซ้นต์มึงไปว่ามึงเรียนมากับกูเขาเลยสนใจ กูก็อยากให้มึงมาทำนะเดน หนุกๆ”

           

 

[ได้เห็นนม ได้เห็นอันนั้นของผู้หญิงแบบจริง ๆ เลยดิ] ไอติมเบ้ปากย่นจมูกทั้งที่เดนนี่ไม่เห็น

           

 

“เออ เห็นหมดนั่นแหละ ถ่ายหนังโป๊มึงจะเห็นอะไรล่ะ” เดนนี่ครางเสียงแหบทุ้มอย่างคนกำลังครุ่นคิดทบทวนกับตัวเอง

           

 

[ตารางงาน เงินเดือน เขาเป็นไงมั่งวะ]

           

 

“อันนี้เดี๋ยวกูส่งให้ในอีเมล มึงจะได้อ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจ”

           

 

[โอ้โห เดี๋ยวนี้ทางการนะ] ไอติมทำปากยื่น เชิดคางขึ้นเชิดๆ

           

 

“ก็มีการมีงานทำอะเนาะ”

           

 

[อยู่ต่อหน้ากูจะถีบให้]

           

 

“มึงกล้าถีบเมื่อนมึงเหรอ” เดนนี่หัวเราะกับคำเถียงของไอติม

           

 

[เออ ไอ้เมื่อน กูสนใจ ถ้าอ่านรายละเอียดแล้วกูโอเค กูตอบรับ] ไอติมยิ้มดีใจ เพราะรู้ว่าไอ้เดนมันมีฝีมือ เรียนด้วยกันมา ทำงานคู่กันมาทำไมจะไม่รู้ล่ะ

           

 

“แจ๋ว”

           

 

[แต่ที่กูสนใจกว่างานคืออีกอย่างนึง] ไอติมขมวดคิ้ว

           

 

“อะไรอะ”

           

 

[มึงยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับไอ้พระเอก ในช่วงห้าปีนี้ กูมีสิทธิ์เอากับมึง อยู่กับมึงเหมือนที่พระเอกมึงเป็นกับมึง] ไอติมอ้าปากหวอ

           

 

“ฮะ ยังไงอะ”

           

 

[สามคนผัวเมียไง มึงเป็นเมีย แล้วมีผัวสองคน] ไอติมตาโต อ้าปากกว้างกว่าเดิม

           

 

“ฮึ้ยเดน ได้เหรอ”

           

 

[ได้ดิ มึงจะให้มันลอยตัวฝ่ายเดียวได้ไง มึงต้องทำให้มันเห็นว่ามึงก็มีทางเลือกรอไว้แล้วถ้าเกิดมันทิ้งมึงไป]

           

 

“โอ้…”

           

 

[กูรู้แหละว่าความรู้สึกมันอาจจะไม่ได้ดีนักหรอกถ้าเกิดมันทิ้งมึงไปจริง ๆ ในช่วงสัญญาค้าขายนั่นอะ แต่อย่างน้อย มันจะได้ไม่คิดว่ามึงเป็นของตาย คิดว่าจะทำยังไงก็ได้]

           

 

“แล้วถ้าครบห้าปีแล้ว เขาไม่ไปไหน แล้วมึงล่ะ จะอยู่กับกูกับเขาต่อเหรอ”

           

 

[ถ้ามึงให้กูอยู่ กูก็อยู่ แต่ถ้ามึงอยากอยู่กันสองคน กูก็ไป] ไอติมยิ้มซึ้ง น้ำตาคลอเบ้า

           

 

“เดน มึงจะแย่งซีนแซ็คไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ”

           

 

[กูมีซีนของกูเองเหอะ]

           

 

“แต่ถ้ามึงเกิดถูกใจใคร มึงก็บอกกูนะ”

           

 

[เออ บอกอยู่แล้ว] ไอติมนึกแล้วก็หัวเราะ

           

 

“ยุ่งเหยิงดีเนาะ แต่กูก็ขอบคุณมึงมากจริง ๆ เดน ไม่ว่าจะเพราะมึงหวังดีหรือแค่อยากปี้กูก็เถอะ” เดนนี่หัวเราะก๊ากกับคำเปรียบเปรยของเพื่อน

           

 

[ก็สองอย่างอะ กูก็ได้ของกูด้วย]

           

 

“แล้วถ้าเกิด เอ่อ มึงกับกูเกิดรักกันขึ้นมา มันจะยุ่งกว่าเดิมมั้ยวะ”

           

 

[รอให้มันเกิดขึ้นจริง ๆ ก่อน] ไอติมพยักหน้าหงึกๆ

           

 

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่อยมาเปิดตัวก็แล้วกัน กูเลวกว่าแซ็คมั้ยเนี่ย กูมีเป็นตัวเป็นตนเลยอะ แซ็คยังแค่ว่าร่วมงานละผ่านไป” ไอติมคันปากยิบ ๆ อยากเล่าถึงอาการของแซ็คให้เดนนี่ฟังเพื่อที่มันอาจจะเก็ทมากขึ้นว่ามันมีผลอะไรยังไงต่อตัวแซ็คบ้าง แต่ก็ยังคิดว่ามันไม่ควรเล่าเรื่องส่วนตัวขนาดนี้ของแซ็คให้ใครฟัง เพราะขนาดเจ้าตัวยังไม่ค่อยอยากจะเล่าให้ใครฟังเลย เจค็อบที่รู้นั่นก็เพราะอยู่ด้วยกันมานาน

           

 

[กูก็ไม่ได้จะเข้าไปปุบปับนะ เอาเป็นว่าถ้าสถานการณ์ร่อแร่ กูพุ่งตัวเข้าไปตอนนั้นแหละ]

           

 

“อ่อ โอเค ๆ งั้นค่อยดีหน่อย…” ไอติมชะงักแล้วย่นคิ้ว

           

 

“…เราคุยกันเหมือนเราจองทริปเที่ยวอะ” เดนนี่หัวเราะ

           

 

[ก็จะคุยให้มันเครียดทำไมอะ สนุก ๆ น่า] ไอติมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

           

 

“เออ สนุกจริง งั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อน กูบินกลับจากนี่เลย ถ้ามึงไม่ได้กลับไทยก็ค่อยนัดเจอกันตอนกูกลับมานี่ต้นเดือนพฤษภาคมอะ แต่ถ้ามึงกลับไทยบ้างก็เจอกันมึง”

           

 

[เออ เดินทางปลอดภัย] ไอติมกดวางสาย หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องโถงที่มีเสียงทีวีดังอยู่ และมีเจ้าของห้องกำลังนั่งมองจอทีวีหน้าตาคร่ำเครียด

           

 

“What’s the matter? (เป็นอะไรเหรอ)” แซ็คหันมองไอติมแล้วถอนหายใจ

           

 

“I don’t like the way you laugh with your friend. (ฉันไม่ชอบที่นายหัวเราะกับเพื่อนนายเลย)” ไอติมย่นคิ้วแต่ริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้ม

           

 

“Why? He is my close friend. (ทำไมล่ะ เขาเป็นเพื่อนสนิทผมนะ)”

           

 

“You look happier than you are with me. (นายดูมีความสุขมากกว่าอยู่กับฉัน)” ไอติมเดินไปนั่งข้างกายฝั่งซ้ายของแซ็คแล้วยิ้มกว้างขำขัน ยื่นหน้าไปหอมแก้มตอบของเขา

           

 

“Make me happy more than him. (ทำให้ผมมีความสุขมากกว่าเขาสิ)” ไอติมยิ้มกริ่ม แซ็คหันมองไอติมด้วยสายตาจริงจัง ยื่นมือขวาไปวางบนแก้มเนียนนุ่มของไอติม

           

 

“I don’t know how much I can do but I will do my best. (ไม่รู้ว่าฉันจะทำได้มากแค่ไหน แต่ฉันจะทำให้ดีที่สุด)” ไอติมยิ้ม ยกมือซ้ายจับข้อมือขวาของเขา

           

 

“We have to make a deal. (เราต้องทำข้อตกลงกัน)”

           

 

“A deal what? Like Jake did? (ข้อตกลงอะไร เหมือนที่เจคทำน่ะเหรอ)” แซ็คยิ้มขื่น ดวงตาทั้งสองข้างอ่อนไหว ไอติมยังคงยิ้มแล้วส่ายหัวช้าๆ

           

 

“Not like that. Just a promise between you and me. (ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ก็แค่สัญญาระหว่างคุณกับผมน่ะ)” แซ็คพ่นลมหายใจแผ่วเบาพร้อมกับพยักหน้า มือขวาลดลงไปวางบนตักตัวเอง ไอติมลดมือซ้ายตัวเองลงวางบนหลังมือของแซ็ค

           

 

“Promise me that you will wear condom every time. (สัญญากับผมว่าจะใส่ถุงยางทุกครั้ง)”

           

“Absolutely. (แน่นอนที่สุด)” แซ็คมองไอติมด้วยสายตามุ่งมั่น ปากไอติมยิ้ม แต่แววตาไอติมนั้นแสนจะหวั่นไหว

           

 

“Don’t make any girls to become a mother and you are a father. (อย่าทำให้ผู้หญิงคนไหนกลายเป็นแม่แล้วคุณก็เป็นพ่อ)” แซ็คส่ายหัวซ้ายขวา สีหน้าแววตาดังเดิม

           

 

“I don’t fit with that thing anymore. I won’t do that. (ฉันไม่เหมาะกับสิ่งนั้นเลยสักนิด ฉันจะไม่มีทางทำแบบนั้น)” แววตาไอติมรู้สึกดีขึ้นมากกว่าเดิม

           

 

“Don’t fuck any guys. (อย่าเอาผู้ชายคนไหน)” แซ็คยื่นหน้าไปหอมหน้าผากไอติมหนึ่งที

           

 

“Only you and you are only one of mine. (แค่นาย และนายก็เป็นหนึ่งเดียวของฉัน)” ไอติมอมยิ้มเขิน แต่ก็พูดต่อ

           

 

“Don’t use the weed or any drugs. (อย่าเล่นกัญชาหรือยาเสพติดใด ๆ อีก)”

           

 

“Not again. (ไม่อีกแล้ว)”

           

 

“Don’t hurt me, (อย่าทำร้ายผม)” แซ็คสั่นหัว ไอติมยกมือขวาขึ้นแตะคางแซ็คเอาไว้

           

 

“Body and heart. (ทั้งร่างกายและจิตใจ)” แซ็คมองไอติม กำลังนึกสงสัยว่าทำไมกระต่ายตัวจ้อยถึงคิดว่าเขาจะทำร้ายร่างกาย แล้วสักพักก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยทำให้ไอติมเจ็บจนลูคัสต้องเข้ามาปกป้อง พอนึกได้ดังนั้นแววตาของแซ็คก็สลดลง

           

 

“I’m sorry but I won’t do that again. Never ever. (ฉันขอโทษ แต่ฉันจะไม่ทำแบบนั้น ไม่อีก ไม่เลย)” แซ็คมองไอติมด้วยสายตาอ้อนวอน ไอติมยิ้มบางและพยักหน้า

           

 

“And if you have special feeling with some client, just tell me, don’t lie to me. You can leave but don’t lie. (และถ้าคุณมีความรู้สึกพิเศษกับลูกค้าบางคน ก็บอกผม อย่าโกหกกัน คุณไปได้เลย แต่อย่าหลอกกัน)” ไอติมมองตาแซ็คอย่างจริงจัง

           

 

“Don’t hurt my heart. (อย่าทำร้ายใจผม)” แซ็คพ่นลมหายใจ เขาอยากออกปากสัญญา อยากบอกว่าจะไม่มีทาง ไม่มีวัน และไม่มีใคร แต่เขาเคยสัญญาแนวนี้มาแล้วครั้งนึงกับคน ๆ หนึ่ง และสุดท้ายเขาก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้ จนคน ๆ นั้นต้องสร้างสัญญาแห่งเวลาขึ้นมาใหม่อีกอัน

           

 

“I don’t know the future, but I won’t lie to you. (ฉันไม่รู้อนาคต แต่ฉันจะไม่โกหกนาย)”

           

 

“Thank you. And if you break one of our promises—it’s me, who will leave you instead. (ขอบคุณฮะ และถ้าคุณทำผิดหนึ่งในสัญญาของเรา เป็นผมเองที่จะเดินไปจากคุณ)” แซ็คมองไอติมด้วยสายตาสั่น ๆ แต่ก็พยายามใจนิ่งเข้าไว้

           

 

“I will try to hold you to be with me. (ฉันจะพยายามรั้งนายไว้ให้อยู่กับฉัน)” ไอติมยิ้มกว้างแต่ไม่ถึงกับกว้างจนตาหยี แซ็คยิ้มตาม

           

 

“And this is so important, (และอันนี้สำคัญอย่างมาก)” แซ็คมองไอติมด้วยสายตาเป็นคำถาม

           

 

“I have the right to fuck other guys. Don’t forget that. (ผมมีสิทธิ์ที่จะเอากับชายอื่น อย่าลืมซะล่ะ)” แซ็คไม่ถูกใจนัก แต่ก็แสดงออกด้วยความนิ่งจนหน้าเรียบตึง

           

 

“We are not in relationship yet. (เรายังไม่ได้คบกัน)” ไอติมยิ้มกริ่ม มองแซ็คด้วยสายตาประมาณว่าจำได้ใช่มั้ย แซ็คกลอกตาช้า ๆ แล้วก็พ่นลมหายใจแผ่วเบา

           

 

“You have to let me know all that guy. (นายต้องให้ฉันรู้จักผู้ชายพวกนั้นด้วย)” ไอติมพยักหน้าตาใส

 

 

            “You can suggest me some guy. (คุณแนะนำผู้ชายให้ผมได้นะ)” แซ็คเบ้ปากอ่อน ๆ ไอติมหัวเราะ

           

 

“Never. (ฝันไปเถอะ)”

           

 

“And don’t worry I will use condom every time. (แล้วไม่ต้องกังวลนะ ผมจะใช้ถุงยางทุกครั้ง)” แซ็คทำได้เพียงพ่นลมหายใจอีกครั้งก่อนจะดึงไอติมเข้ามากอด ไอติมวางหัวลงตรงซอกคอข้างขวาของแซ็ค แขนขวาวางบนหน้าท้องแข็งแรง สองแขนของแซ็คโอบตัวไอติม สายตามองทีวีที่กำลังรายงานข่าวอยู่แต่สติเขากลับไม่ได้โฟกัสสิ่งบนหน้าจอเลย

           

 

“What we should call this status between us? (เราควรเรียกสถานะระหว่างเราว่าอะไรเนี่ย)” ไอติมนิ่งเงียบ แซ็คก้มลงหอมหัวไอติมหนึ่งครั้งด้วยความอ่อนโยน

           

 

“No need the status. Just us. (ไม่ต้องมีสถานะหรอก แค่เรา)” แซ็คยิ้มอ่อนโยน

           

 

“Okay. It’s us. (โอเค คือเรา)” ไอติมยิ้มบาง กระชับอ้อมกอด แซ็คกระชับกลับ เอาแก้มแนบลงบนหัวไอติม

 

 

            ทั้งสองคนไม่พูดอะไร ทำเพียงนั่งกอดกัน และนั่งฟังเสียงจากทีวีแบบที่ไม่รู้เรื่องว่านักข่าวสาวกำลังพูดอะไร เพราะสมาธิจดจ่ออยู่กับความรู้สึกดี ๆ ความรู้สึกอบอุ่นที่ส่งผ่านกันและกันจากสัมผัสทางกายและหัวใจ นั่งกอดกันอยู่อย่างนั้นท่ามกลางความรู้สึกดี ๆ โอบล้อมรอบตัวอยู่หลายนาทีจนไอติมนึกอะไรขึ้นได้

           

 

“Zach,”

           

 

“Hmm? (หืม)” ไอติมยกหัวขึ้นมองหน้าแซ็คที่มองกลับมาด้วยความอ่อนโยน

           

 

“I have another thing to ask you. (ผมมีอีกอย่างที่อยากจะขอคุณ)” ไอติมมองแซ็คด้วยความรู้สึกหวั่นใจ

 
V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

V
v
v



“แซ็ค คุณอยู่นี่แล้วนะ” ไอติมบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ยื่นมือซ้ายไปวางบนไหล่ขวาของอีกคน แซ็คมองกล่องแหวนกำมะหยี่สีน้ำเงินด้วยสายตาครุ่นคิด

           

 

“ฉันว่ามันไร้ประโยชน์ที่ทำแบบนี้”

           

 

“แต่อย่างน้อยคุณก็ได้ให้…” ไอติมลูบไหล่แซ็คเบาๆ

           

 

“…คุณตั้งใจเก็บเงินเพื่อซื้อแหวนวงนี้ให้แม่ไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอได้รับ เธอต้องดีใจมากแน่ๆ” แซ็คในสภาพที่ยังโทรมหันมองไอติมด้วยสายตาเศร้า ฝรั่งตัวโตส่ายหัวช้า ๆ หนุ่มไทยลดมือลงจากไหล่ของแซ็ค

           

 

“ผมแค่อยากให้คุณได้ทำในสิ่งที่คุณตั้งใจไว้แต่แรกน่ะ ผมคิดเอาเองว่ามันน่าจะรู้สึกดี ถ้าเราได้ทำอะไรที่ค้างคาอยู่ให้สำเร็จ” แซ็คมองไอติมตาละห้อย ไอติมยิ้มอ่อน

           

 

“พอเอาเข้าจริง ๆ ฉันก็กลัว” เมื่อคืนไอติมเอ่ยปากว่าอยากให้เขาเอาแหวนวงนี้มาให้แม่ ไอติมไม่ได้บังคับ แค่อยากเห็นความตั้งใจของเขาถูกทำให้สมความตั้งใจจริง ๆ สักที

           

 

“เหมือนเติมเต็มสิ่งที่มันยังว่างเปล่าอยู่” ไอติมย้ำประโยคเดิมที่พูดกับแซ็คเมื่อคืนนี้ เพราะคิดเอาว่าแซ็คน่าจะยังรู้สึกติดขัดกับตรงนี้ เหมือนจิ๊กซอว์ที่รอการเติมชิ้นสุดท้ายลงไป ไอติมไม่ได้คิดว่ามันคือการบำบัดอาการหรือรักษาอะไรให้เขาทั้งนั้น เขาแค่จำสีหน้าและความรู้สึกของแซ็คตอนพูดเรื่องแหวนวงนี้ได้ว่ามันเป็นยังไง

           

 

ก็แค่สัมผัสได้ว่าแซ็คยังติดใจเรื่องการให้แหวนกับแม่อยู่ เพียงแต่เวลามันเนิ่นนานเกินจนไม่กล้ากลับมาทำสิ่งที่ค้างไว้ต่อ

           

 

“ก็ได้” ไอติมยิ้ม แซ็คเปิดประตูฝั่งตัวเอง ไอติมเปิดฝั่งตัวเองบ้าง ปิดประตูเสร็จก็เดินอ้อมหลังรถไปหาแซ็ค ก้าวเท้าเดินข้ามถนนไปบ้านสีขาวชั้นเดียวหลังขนาดกลาง รอบบ้านถูกตกแต่งอย่างสวยงามและมีระเบียบ ไอติมเดินไปยืนหน้ารั้วบ้านกับแซ็ค หันไปมองพ่อฝรั่งตัวสูงก็เห็นว่าเขามีสีหน้าไม่มั่นใจนัก ไอติมมองหากริ่งหน้าบ้านจนเจออยู่บนเสาประตูรั้วบานเล็กของบ้าน ไอติมยื่นมือซ้ายไปกดกริ่งสองที แล้วก็ยืนรอ

           

 

“มันจะต้องโอเค” ไอติมบอก แซ็คพยักหน้า ทั้งคู่ยืนรอไม่นาน ประตูบ้านก็เปิดออก หญิงวัยกลางคน ผิวขาว หน้าตาสวย ตัวสูงผอมเพรียว ผมสีน้ำตาลอมแดงเดินออกมาจากบ้านและมองมาที่เขาสองคน เธอขมวดคิ้วมองครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินลงบันไดหน้าบ้าน เดินผ่านสนามหญ้ามาตรงถนนของโรงจอดรถ และพอเธอเดินมาได้ครึ่งทางเธอก็ชะงักอยู่กับที่ เธอมองหน้าแซ็คด้วยความตะลึง เท้าที่ชะงักเมื่อครู่ค่อย ๆ ก้าวเดินมาตรงรั้ว ไอติมหันไปมองแซ็คก็เห็นว่าเขากำลังยิ้มบาง พอไอติมหันกลับไปมองผู้หญิงคนนั้นก็เห็นว่าเธอกำลังน้ำตาคลอทั้งที่สองมือกำลังดันประตูรั้วบ้าน

           

 

“Mom.” น้ำตาเธอร่วงเผาะก่อนจะโผเข้ากอดลูกชายหลังจากเปิดประตูได้กว้างมากพอ

           

 

“My son.” แซ็คยิ้มอ่อนโยน เขาหลับตาลงและกอดร่างแม่ตัวเองแน่น ไอติมเห็นแบบนั้นก็ยิ้มด้วยความอบอุ่นใจ

           

 

“I’m glad to see you again. (แม่ดีใจที่ได้เจอเราอีก)” ผู้เป็นแม่พึมพำ ลูบหลังลูกชายตัวเองขึ้นลง

           

 

“I’m sorry I’m not strong enough. (ขอโทษที่ผมไม่เข้มแข็งพอ)” เธอดันตัวลูกชายออก น้ำตาเธอไหลอาบแก้ม สองมือยกลูบหน้าตอบของลูกชาย เธอมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง แต่ก็เลือกที่จะไม่ถาม ทำเพียงยิ้มเท่านั้น

           

 

“My son is always handsome. (ลูกแม่หล่อเสมอนั่นแหละนะ)” แซ็คยิ้ม มองแม่ด้วยสายตาคิดถึงสุดใจ

           

 

“I did not mean to bother you. (ผมไม่ได้ตั้งใจจะมารบกวน…)”

           

 

“No, you don’t. (…ไม่ ไม่เลย)” เธอยิ้มปริ่มใจ สองมือลูบหน้าลูกชายด้วยความคิดถึง สัมผัสเขาราวกับกลัวว่านี่จะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น

           

 

“How could you say that? We can have lunch together if you want. (จะรบกวนได้ยังไงกัน อยู่กินข้าวกลางวันกับแม่ก่อนได้นะ)” แซ็คยิ้มแล้วก็สั่นหัวน้อย ๆ ผู้เป็นมารดาเม้มปาก ก่อนจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

           

 

แซ็คหันมองทางไอติมที่ยืนยิ้มตาใสก่อนหันกลับไปมองแม่ตัวเอง “This is Ice-cream. I mean his name is Ice-cream. (คนนี้คือไอศกรีม หมายถึงว่าเขาชื่อไอศกรีมน่ะครับ…)”

           

 

แม่ของแซ็คหันมองไอติมแล้วยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ ไอติมยื่นมือขวาออกไปเช็กแฮนด์ เธอยื่นมือกลับมาจับมือไอติมพร้อมกับยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด “He is my positive vibes. (…เขาเป็นพลังงานบวกของผม)”

           

 

แม่ของแซ็คปล่อยมือออกจากมือไอติมแล้วหันไปมองลูกชายด้วยสายตาเป็นคำถาม แต่พอเห็นสายตาที่ลูกชายมองเด็กผู้ชายอีกคน เธอก็ได้คำตอบแล้วคลี่ยิ้ม “Welcome to the loving world. (ขอต้อนรับสู่โลกแห่งความรัก)”

           

 

แซ็คยิ้มขำแผ่วเบา มารดาของเขายิ้มกว้าง สองมือยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้ม หันไปมองไอติมด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรอีกครั้งก่อนหันกลับมามองลูกชายอีกรอบ

           

 

“ผมเอานี่มาให้…” แซ็คชูกล่องแหวนกำมะหยี่สีน้ำเงินขึ้นพร้อมกับเปิดฝากล่องออกจนเห็นแหวนที่อยู่ด้านใน

 

 

            “…ผมตั้งใจจะให้แม่ตั้งช่วงไฮสกูล เพราะอยากให้แม่มีแหวนเพชรใส่แบบแม่คนอื่น” แม่ของแซ็คมีสีหน้าทึ่ง เธอมองลูกชายด้วยสายตาซาบซึ้ง ไอติมคิดว่าเธอคงเข้าใจดีว่าแซ็คสื่อถึงอะไร และกำลังพูดถึงช่วงเวลาไหนของชีวิตของทั้งสองคน นั่นจึงทำให้เธอหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้งทั้งที่เพิ่งเช็ดจนแห้ง

           

 

“โอ… ลูกแม่”

           

 

“แต่เพราะผมโกรธแม่ที่เลิกกับพ่อ แล้วก็โกรธพ่อด้วย ผมเลยไม่อยากให้” หญิงสาวพยักหน้าน้ำตาไหลพราก เธอเข้าใจความรู้สึกของลูกชาย เข้าใจมันอย่างดี และเธอเองก็รู้สึกผิดมาเป็นสิบปีกับสิ่งที่เกิดขึ้น

           

 

“แม่ขอโทษ แม่ขอโทษจริงๆ”

           

 

“ไม่เป็นไรแม่ ถึงผมจะยังไม่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไรจริงๆ” หญิงสาวเช็ดน้ำตาออกจากแก้มอีกครั้ง

           

 

“แม่ไม่ขอให้เราเข้าใจนะแซ็ค อย่าเข้าใจมัน…” เธอหันมองไอติมแล้วยิ้ม ไอติมยิ้มตอบ มารดาของแซ็คหันกลับไปมองลูกชายและเปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง

 

 

“…แม่ขอให้ความรักของลูกยืนยาวจนหมดลมหายใจ ไม่ต้องตลอดไป ขอแค่อยู่ต่อไปจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต” แซ็คมองหน้าแม่ด้วยสายตาอ่อนไหว เขาพยักหน้า ก่อนจะยื่นกล่องแหวนให้กับผู้เป็นแม่ หญิงวัยกลางคนก้มลงมองของสิ่งนั้นแล้วก็คลี่ยิ้มพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า

 

 

“ผมขอโทษที่โกรธแม่ แต่ผมไม่เคยหมดรักแม่เลย” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองหน้าลูกชายแล้วยิ้มกว้าง ยื่นหน้าไปหอมแก้มทั้งสองข้างของลูก

 

 

“ขอบใจนะลูกชาย” หญิงสาวยื่นมือออกไปรับกล่องแหวน ก้มลงมองแหวนในกล่องแล้วก็ยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม

 

 

“แม่ชอบมั้ยครับ” เธอเงยหน้ามองลูกชายแล้วพยักหน้ารัว ๆ รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยความสุขความดีใจ แซ็คยิ้มละมุนเมื่อเห็นรอยยิ้มและแววตาของแม่ เขาหันไปมองไอติมที่ยิ้มกริ่มและพยักหน้ากลับมาให้เขา ไอติมเลื่อนสายตามองมารดาของแซ็คแล้วยิ้มให้กับเธอ เธอยิ้มตอบกลับมา ยื่นมือขวาออกไปจับมือซ้ายของไอติม แล้วใช้มือซ้ายที่ถือกล่องแหวนยกมือซ้ายของแซ็คขึ้นมาวางบนมือไอติม แซ็คกุมมือกระต่ายตัวจ้อยของเขา

 

 

“Thank you my two sons. (ขอบคุณลูกชายทั้งสองคนของแม่)” ไอติมคลี่ยิ้มเขิน มารดาของแซ็คยิ้มอิ่มใจและพยักหน้าเป็นการยืนยันอีกที ไอติมหันไปมองแซ็คก็เห็นว่าเขายิ้มกว้าง แววตาเป็นประกาย สดใสเกินใบหน้าทรุดโทรมไปมากโข

 

 

“If you don’t believe in love, then believe in him. (ถ้าลูกไม่เชื่อในความรัก งั้นเชื่อในตัวเขานะ)”

 

 

 

 

เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



ชอบเวลาเดนด่าไอติมว่าร่าน 555555 ไม่ได้รู้สึกว่าหยาบคาย บรรยากาศเหมือนเพื่อนด่าเพื่อนทั่วไป แต่เดนแค่ย้ำเก่งไปหน่อย 55555

ไม่ง่ายนะคะพี่แซ็ค น้องติมเองก็แรดไม่แพ้กัน พี่ได้ น้องเขาก็ต้องได้ด้วย น้องเขาไม่ยอมเสียเปรียบในเรื่องนี้จริงๆ  :hao7:

แท็กเรื่องนี้ #ประสบกามประสบรัก

เจอกันตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
แซคจะผิดสัญญาข้อไหน ที่ทำให้ไอติมจากไป  :mew6:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หมดปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้กับไอติมแล้ว  :hao3:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
รอวันที่เดนจะได้เป็นผัวน้องไอติมคนร่าน 2019

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
บางทีก็แอบคิดว่าเดนนี่รักไอติมมากกว่าเพื่ิอน
 :katai1:

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
ถ้าตอนหน้าแดนมาขอแซ่บๆเลยนะคะ
น้องติมห่างหายจากความแซ่บมาหลายตอนละ
จัดให้น้องสักหน่อยนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
เห็นด้วยกับคุณ t2009 สุดๆครับ (ฮะๆ)

โอ้โห จะมีใครเคมีน่าหวีดขนาดนี้อีกไหมครับเนี่ย คุยกันได้เข้าใจ มีมุมตลกๆอยู่ด้วยกัน ขนาดแซ็คยังสัมผัสได้เลยว่าต่อให้ไอติมเฟล พอมาอยู่กับเดนนี่มันจะเหมือนเขาได้กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง เพราะว่ามีคนที่อ้อนได้ และเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น รวมถึงรู้จักกันดีและหยอกเล่นกันได้ สองคนนี้ให้อารมณ์คล้ายๆคู่ในเรื่อง Brother's Love by Noir ซึ่งน่าหวีดมาก แต่จะเห็นชัดว่าคู่นี้มีมุมทะเล้นและเข้าขากันได้ดีกว่า ด้วยเพราะอายุเท่ากัน ประโยคเด็ดตอนนี้ที่ผมชอบใจที่สุด คือตรงนี้ครับ

“แล้วถ้าเกิด เอ่อ มึงกับกูเกิดรักกันขึ้นมา มันจะยุ่งกว่าเดิมมั้ยวะ”

[รอให้มันเกิดขึ้นจริง ๆ ก่อน]


ประโยคตรงนี้มันสื่อถึงนัยยะด้วยว่าทั้งสองคนโอเคกับความรู้สึก เพราะรู้จักกันมานาน ถ้าสมมุติเลยเถิดขึ้นมา ก็เตรียมใจไว้แล้วและไม่น่าจะมีปัญหา มันเป็นประโยคสั้นๆที่เรารู้สึกว่าความสัมพันธ์น่าประทับใจครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2019 22:59:46 โดย Grey Twilight »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เดนนี่ แซ่บอ่า :-[

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ชอบคู่เผื้อน-เมื่อนนี้จริงๆเลย 5555

เอาจริง ก็โอเคกับดีลนี้ของไอติมนะ แล้วตัวน้องติมเองก็

ค่อนข้าง 'ไปเรื่อยๆ' อยู่แล้วแหละ ให้เวลาเป็นตัวตัดสินละกัน

ว่าระเบิดใครจะถูกจุดชนวนก่อนกัน
 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
นังหมีถ้าแกไม่มีลูกติมแกแย่แน่ ดูแลให้ดีให้ได้อย่างที่พูดล่ะ คู่แข่งแกไม่ธรรมดานะว้อยยย  :hao3:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เดนนี่!!!! หวีดดดดดด ในที่สุดพระเอกของเรื่องก็ได้ซีนออกมาสักที :laugh:
ชอบความอ้อล้อและหยอกเย้าของคู่พระนายก็คือเดนนี่และน้องติม (อิตาแซ็คคือใครไม่รู้จัก) :laugh:
โอ้ยยยๆๆ ถ้ามาอยู่คู่กัน3p อิตาแซ็คอกแตกตายแน่ๆเด้อ :laugh:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust - Chapter 43 :: Home. (บ้าน)





“แมมมม่! น้าแพ๊นนน!” ไอติมยืนเกาะรั้วบ้านและตะโกนเรียกสองสาวของบ้านตัวเองด้วยความตื่นเต้น

           

 

“อะโฮ่! จัมโบ้! ปีโปปป้!” ไอติมตะโกนเรียกเจ้าหมาสองไซซ์ที่วิ่งหน้าตั้งแข่งกันออกมาพร้อมกับเห่าต้อนรับเขา มันส่ายหางรัว ๆ ด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้นายน้อย เจ้าจัมโบ้กระโดดเกาะรั้วเลียหน้าไอติม นายน้อยหัวเราะแล้วยื่นมือไปลูบหัวมัน ส่วนเจ้าปีโป้ที่ตัวเล็กกว่า ก็เห่าเรียกร้องความสนใจและพยายามเขย่งแบบพี่ชายบ้างแต่ก็มาไม่ถึง ไอติมเลยพยายามโน้มตัวลงไปจับหัวปีโป้ แต่เพราะโน้มมากเกินไปขาเลยลอยเกือบหน้าคว่ำ ดีที่ได้แซ็คเข้ามาคว้าไว้ทัน

           

 

“Easy, bunny. (ใจเย็นน่า บันนี่)” ไอติมหันไปหัวเราะคิกคักกับแซ็คที่ยิ้มขำ

           

 

“เอ้า น้องติม”

           

 

“แม่!” แม่แป้งมีสีหน้าเหลอหลาแต่ทว่าริมฝีปากก็ขยับเป็นรอยยิ้มกว้าง ด้านหลังคือน้าแพนที่ยิ้มกว้างไม่แพ้กัน แต่ความตื่นเต้นนั้นมีน้อยกว่าเพราะว่ารู้อยู่แล้วว่าหลานชายจะกลับมาถึงเมืองไทยวันนี้

           

 

“ไม่เห็นโทรบอกว่าจะกลับ”

           

 

“เซอร์ไพรส์ไงแม่!” ไอติมบอกเสียงสดใส ท่าทีคึกคัก แซ็คมองไอติมแล้วก็ขำ สองสามวันก่อนยังมีท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง แต่พอได้กลับมาถิ่นเกิดตัวเองก็กลับไปเป็นเด็กร่าเริงเหมือนเดิม

           

 

“โอ้ พ่อฝรั่งมาด้วยเหรอเนี่ย” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ และหันหน้าไปหาแซ็ค ชี้แม่เป็นเชิงบอกว่าแม่พูดถึง แซ็คจำได้ว่าต้องทักทายยังไงเลยยกมือขึ้นไหว้ แม่ของไอติมหัวเราะด้วยความเอ็นดู

           

 

“พี่แป้ง เปิดประตูเถอะ ไอ้โบ้กับไอ้โป้จะตายแล้ว”

           

 

“เออ ลืม ๆ มา ๆ เปิดประตู” แม่แป้งดันประตูรั้วบ้าน เจ้าหมาสองตัวออกมาวิ่งวนไปรอบเจ้านายน้อยด้วยความตื่นเต้น ทั้งครางหงิง ทั้งส่ายหาง ไอ้ปอมตัวเล็กวิ่งไปเห่าใส่ฝรั่งและยกสองขาหน้าขึ้น แซ็คหัวเราะ ก้มตัวลงอุ้มเจ้าหมาขึ้นมา มันพยายามเลียหน้าแซ็คด้วยความตื่นเต้น

           

 

“จำเขาได้ด้วยเหรอน่ะปีโป้” ไอติมถามพลางกอดเจ้าจัมโบ้เอาไว้

           

 

“หิวมั้ย” แม่แป้งถาม

           

 

“หิวมากกก อยากกินหมูกระทะ จัดให้หน่อยนะ นะๆๆ”

           

 

“อะได้ เดี๋ยวจัดให้” ไอติมยิ้มกว้าง ลุกขึ้นยืนแล้วกอดแม่ตัวเองแน่น ฝ่ายมารดาก็หอมแก้มลูกชายด้วยความชื่นใจ (แก้มที่เพิ่งโดนหมาเลียมานั่นละ)

           

 

“How are you, Bryan? (สบายดีมั้ยคะ ไบรอั้น)” คนถูกถามวางเจ้าหมาปอมลงกับพื้น มันวิ่งไปหาเจ้านายของมัน แซ็คยิ้มแล้วตอบ

           

 

“I’m good now, and hope will be better soon. (ก็ดีครับ แล้วก็หวังว่าจะดีขึ้นอีกเร็ว ๆ นี้)”

           

 

“You will not disappoint if you are here. (คุณจะไม่ผิดหวังเลยถ้าคุณอยู่ที่นี่)” แซ็คยิ้ม และพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

           

 

“I believe that. I had a hard time, but I got a good time because of him. (ผมเชื่องั้นแหละครับ ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ผมก็ได้ช่วงเวลาที่ดีกลับมาเพราะเขา)” แพนยิ้มและพยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนผายมือไปทางบ้าน

           

 

“Come in. (เข้าไปข้างในเถอะค่ะ)” แซ็คยกกระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นมาสะพาย แล้วก็ลากกระเป๋าเดินทางของไอติมไปด้วย กระต่ายตัวจ้อยหันมากะว่าจะยกกระเป๋าตัวเองก็ชะงัก แซ็คเลยบอกให้ถือแต่กระเป๋าเป้ไป ไอติมยิ้มขอบคุณแซ็ค หมุนตัวเดินเข้าบ้านพร้อมกับแม่และหมาทั้งสองตัว

           

 

“พาพี่เขาขึ้นไปเก็บของเถอะไป เดี๋ยวแม่ให้เด็กที่ร้านจัดการเรื่องหมูกระทะให้” ไอติมยิ้มท่าทางตื่นเต้นระริกระรี้ หันไปกวักมือเรียกแซ็คให้เดินตามขึ้นบันไดบ้าน โดยที่ตัวเองวิ่งตัวปลิว ปล่อยให้แซ็คแบกกระเป๋าของตัวเองตามขึ้นไป

           

 

“พ่อฝรั่งเขาผอมลงเนาะ”

           

 

“ได้อาหารพี่แป้ง แปบเดียวเดี๋ยวก็กลับมาอ้วน” แพนบอกพี่สาวด้วยรอยยิ้ม แม้ในใจจะสงสัยแต่เธอก็ไม่คิดถาม เพราะหลานชายขอร้องก่อนเดินทางกลับมาว่า เพื่อนชายคนนี้ขอมาพักพิงด้วยอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป นอกจากจะมาพักผ่อน ยังมาขอฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจด้วย

           

 

“ให้แพนสั่งหมูกระทะมั้ย หรือพี่แป้งจะทำให้ติมเอง”

           

 

“เดี๋ยวให้เด็กไปสั่งให้ดีกว่า ไม่น่ามีเวลาทำ ร้านถัดจากบ้านเราไปสองซอยอร่อยอยู่นะ เคยสั่งมาเลี้ยงเด็ก ๆ ที่ร้าน” แพนพยักหน้า

           

 

“แม่! น้องติมขอหมูเยอะ ๆ เลยนะ” สองพี่น้องแหงนหน้าขึ้นมองตรงบันได ได้ยินแต่เสียงแต่ไม่เห็นตัว

           

 

“จ้า เดี๋ยวเอามาให้สิบโลเลย”

           

 

“อะโฮ่!” ไอติมได้ยินเสียงหัวเราะของแม่กับน้าแล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนตัวเอง แซ็ควางกระเป๋าไว้บนโซฟาปลายเตียงและกำลังเอาเสื้อผ้าออกมาวางบนเตียง

           

 

“Wait a little and you will can eat. (รอนิดหน่อยและคุณจะได้กิน)” แซ็คเงยหน้าขึ้นมองไอติมแล้วยิ้มกริ่ม

           

 

“I love you speak English this version than the right version. (ฉันชอบนายพูดภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นนี้มากกว่าเวอร์ชั่นที่ถูกต้องนะ)” ไอติมยิ้มกว้าง เดินเข่าขึ้นเตียงไปนั่งกลางเตียงตรงข้ามกับแซ็ค

           

 

“ผมเก่งขึ้นเพราะอยากเถียงกับเจค็อบได้อะ…” ไอติมยิ้มห่อไหล่เขิน แซ็คยิ้มขำอ่อน ๆ นึกเอาเองว่ามันคงเป็นแรงผลักดันอะไรสักอย่างที่ส่งผลให้ภาษาอังกฤษของเจ้ากระต่ายพัฒนาขึ้นมา

           

 

“…แต่ก็ยังไม่เก่งมากพอหรอก”

           

 

“แค่ฉันไม่ต้องคอยแปลให้นายอีกทีก็เก่งมากแล้ว” แซ็คว่าพลางหยิบกางเกงยีนออกมาวางบนกองเสื้อผ้า ไอติมยิ้มขำ

           

 

“คุณเป็นดิคชันนารีที่หล่อมาก” แซ็คคลี่ยิ้มขำตามไอติม กระต่ายตัวจ้อยสั่นตัวดุ๊กดิ๊ก แซ็คมองแล้วก็ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มเศร้า

           

 

“ขอโทษนะที่ทำให้ช่วงนึงนายหมดสนุกไปเลย”

           

 

“ผมคิดว่าชีวิตกำลังสอนให้ผมโตขึ้นแหละ แต่พอได้กลับมาที่นี่…” ไอติมมองไปรอบห้องแล้วยิ้ม ก่อนวกกลับไปมองแซ็ค

           

 

“…เหมือนได้ชาร์ตพลัง ต้องขอบคุณลูคัส เจ้านายผู้ใจดีที่ยอมให้มาพักผ่อน” แซ็คบดปากเบา ๆ กำลังครุ่นคิด แต่พยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า

           

 

“นายกับลูคัส มีอะไรกันรึยัง” ไอติมตาโต แซ็คยักคิ้วหนึ่งครั้ง แล้วสักพักแก้มขาว ๆ ของไอติมก็แดงระเรื่อ แซ็คทำปากเป็นเส้นตรงแล้วกลอกตา

           

 

“เกือบมีอะ แต่ยังไม่มีหรอก…” แซ็คหรี่ตามองเจ้ากระต่ายตัวจ้อยที่ยิ้มตาแป๋วกลับมา

           

 

“…ผมคิดถึงคุณ เลยเบรกก่อน” แซ็คกระตุกยิ้มมุมปากซ้าย

           

 

“พูดซะฉันไม่กล้าทำงานเจคเลย”

           

 

“แต่ของคุณห้ามคิดถึงผม” แซ็คย่นคิ้ว สองมือหยุดหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า

           

 

“ทำไมล่ะ” ไอติมคลี่ยิ้ม

           

 

“เพราะคุณจะไม่กล้าทำยังไงล่ะ” กระต่ายตัวน้อยห่อไหล่เขิน ยิ้มเขินจนตาหยี แซ็คชะงักไปพักหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มขำ ฝรั่งตัวใหญ่นั่งลงบนโซฟา นั่งหันหน้าไปทางไอติมที่หน้าแดงก่ำ แซ็คยิ้มด้วยความรู้สึกดีๆ

           

 

“ขอบคุณนะที่เข้าใจฉัน” ไอติมคลานเข้าไปนั่งใกล้แซ็ค

           

 

“ถ้ามันเป็นแค่งานแล้วจบ ผมเข้าใจจริงๆ…” ไอติมยื่นมือขวาไปลูบหลังมือซ้ายของแซ็ค

           

 

“…แต่ถ้ามันมากกว่านั้น ผมก็เข้าใจ และคุณเองก็ต้องเข้าใจด้วยถ้าผมจะไป” แซ็คเลื่อนมือขวาขึ้นไปวางทับมือของไอติมและลูบแผ่วเบา

           

 

“ฉันจะพยายามไม่ทำอะไรให้นายจากไป” ไอติมยิ้มกริ่ม

           

 

“ไม่ต้องพยายามจนไม่มีความสุขล่ะ…” แซ็คก้มลงจูบหลังมือไอติมแล้วเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าขาวใส เจ้ากระต่ายหรี่ตา สีหน้ามุ่งร้ายแบบน่าเอ็นดูแทนน่ากลัว

           

 

“…แต่อย่ามีความสุขมากไป” แซ็คยิ้มกว้างขำขัน ไอติมแยกเขี้ยวทำหน้าขู่ แซ็คหัวเราะ ยืดตัวขึ้นนั่งชันเข่าบนโซฟาแล้วยื่นหน้าไปหอมหน้าผากไอติมหนึ่งที ไอติมยิ้มกว้างแล้วก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มของแซ็ค

 

           

 

 

ไอติมช่วยแซ็คเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ รอบนี้มาอยู่สองเดือนเต็ม แต่แซ็คก็ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามามากมาย เพิ่มจากรอบก่อนไม่กี่ชุด เพราะคิดว่าอยู่บ้านไอติมก็วนซักวนใส่เอา ถ้ามีทริปต่างจังหวัดแทรกเข้ามาก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะซื้อเสื้อผ้าเพิ่มอีกมั้ย แซ็คคุยกับไอติมไว้แล้วว่าจะทิ้งเสื้อผ้าติดบ้านไอติมไว้ เพราะต่อจากนี้คงมาเมืองไทยบ่อยขึ้นแน่นอน

           

 

“แต่ฉันคิดว่าบางวันเราคงไม่ได้ใส่เสื้อผ้าหรอกมั้ง” ไอติมหันไปมองแซ็คขณะที่กำลังหยิบเสื้อใส่ไม้แขวน กระต่ายตัวจ้อยอมยิ้มขำ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แซ็คยิ้มกริ่ม ไม่ได้พูดเพราะในหัวคิดแต่เรื่องแบบนั้น พูดแซวเพื่อให้แก้มขาว ๆ นั่นแดงมากกว่า

           

 

ก๊อกๆ

           

 

“น้องติม”

           

 

“เข้ามาเลยฮะแม่” ประตูถูกดันเข้าไป แม่แป้งมองลูกชายตัวเองกำลังช่วยหนุ่มต่างชาติเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ก็ยิ้ม

           

 

“หมูกระทะมาแล้ว ของวางอยู่ในครัว จัดการเอาเลยนะลูก” ไอติมยิ้มตื่นเต้นตาเป็นประกาย แค่คิดถึงของโปรดก็น้ำลายเหนียวแล้ว

           

 

“ฮะแม่” มารดาของไอติมยิ้ม หันไปยิ้มให้พ่อฝรั่งที่ยิ้มมาให้ก่อนจะดึงประตูปิด

           

 

สองหนุ่มต่างไซซ์ช่วยกันจัดการเสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อยก็ลงมาในครัวเพื่อมาทำหมูกระทะกิน และเนื่องจากด้านนอกแดดยังร้อนอยู่ ไอติมเลยพาแซ็คมาตั้งเตาที่หลังบ้านริมสระว่ายน้ำอันน้อยของไอติม โดยเลือกตั้งเตาในมุมอับลมเพื่อที่จะได้ไม่มีเศษถ่านปลิวไปลงสระน้ำ

           

 

“You can swim whenever you want. Don’t need to wear swimsuit. (อยากว่ายตอนไหนก็ว่ายได้เลยนะฮะ ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดว่ายน้ำก็ได้)” ไอติมว่าขณะที่กำลังใช้พัดพัดถ่านที่จุดไฟแล้ว

           

 

“Do you still keep my swimming trunk? That we bought from the last trip. (ยังเก็บกางเกงว่ายนำฉันไว้มั้ย ที่เราซื้อจากทริปก่อน)” ไอติมจับกระทะวางบนเตาแล้วเงยหน้าพยักหน้าให้แซ็ค

           

 

“Of course. And I have never wash it. (เก็บไว้สิ แล้วผมก็ไม่เคยซักด้วย)” แซ็คหัวเราะขณะที่แกะถุงหมูหมักเทใส่ถ้วยกระเบื้องสีขาวอันใหญ่

           

 

“Wash it and smell it from me instead. (ซักเถอะแล้วก็ดมจากฉันแทน)” ไอติมยิ้มขำตาหยี

 

 

เนื่องจากแซ็คไม่เคยกินอาหารชนิดนี้มาก่อน และเป็นครั้งแรกที่ได้กินจึงทำตามที่ไอติมบอกทั้งหมด ปกติไอติมจะตำน้ำจิ้มกินเอง เพราะชอบรสเผ็ดเปรี้ยวหวานในแบบของตัวเอง แต่เพราะความหิวและโหยหาเนื่องจากไม่ได้กินมานาน ไอติมก็เลยใช้น้ำจิ้มจากทางร้านซึ่งชิมแล้วก็รสชาติจัดจ้านดีมาก

           

 

“I don’t know how to use chopsticks. (ฉันใช้ตะเกียบไม่เป็น)” แซ็คบอกพลางพยายามใช้ตะเกียบคีบหมูบนกระทะเพื่อพลิกไปอีกด้านแบบที่ไอติมทำแต่ก็ทำไม่ได้ ไอติมหัวเราะความด้วยความเอ็นดูก่อนลุกเดินไปหยิบที่คีบแบบเหล็กบนโต๊ะหินอ่อนมาให้เขา

           

 

“It’s better. (ดีกว่ากันเยอะเลย)” ไอติมใช้ตะเกียบอีกคู่คีบหมูแล้วจิ้มน้ำจิ้มป้อนแซ็คหนึ่งชิ้น ฝรั่งรับเข้าปากไปแล้วเคี้ยวนิ่ง ๆ อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าและยกนิ้วโป้งข้างซ้ายให้ไอติมในขณะที่มือขวาก็พลิกหมูไปด้วย

           

 

“My favorite food. (ของโปรดผมเลย)”

           

 

“Then you are my favorite food. (งั้นนายก็เป็นอาหารโปรดของฉันเลยละ)” ไอติมเบ้ปาก มองแซ็คด้วยสายตาหมั่นไส้ ฝรั่งหน้าตอบโหนกแก้มแหลมยิ้มหวาน คีบหมูบนกระทะใส่จานให้ไอติมหนึ่งชิ้นใหญ่ ไอติมที่กำลังเคี้ยวหมูกับผักอยู่ในปากพยักหน้าเป็นการขอบคุณ

           

 

อาหารต้อนรับกลับบ้านของกระต่ายตัวจ้อยเต็มไปด้วยความอร่อย ฝรั่งที่เพิ่งเคยกินครั้งแรกก็อร่อยไปด้วย ทั้งเพราะรสชาติของอาหารและเพราะเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารที่เคี้ยวจนแก้มอูม เคี้ยวเนื้อหมู เคี้ยวอาหารทะเล เคี้ยวผัก และซดน้ำซุปได้น่ากินจนรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วย แซ็คกินไปน้อยมากเมื่อเทียบกับไอติมเพราะเขาคอยคีบเนื้อหมู เนื้อกุ้ง เนื้อปลาหมึก คีบผัก ตักไข่ให้ไม่ขาด หนุ่มอเมริกันมองหนุ่มไทยด้วยสายตาเอ็นดูแล้วก็ยิ้ม

           

 

จากที่ช่วงนึงเขารู้สึกว่ากระต่ายตัวจ้อยโตขึ้น พอได้กลับมาที่นี่ดูเหมือนว่าความเป็นเด็กจะกลับคืนมาอีกครั้ง ที่ต้องโตขึ้นคงเพราะสถานการณ์รอบข้างด้วย ถ้าถามเขา แซ็คชอบไอติมเวอร์ชั่นตอนโตมากกว่า แต่ก็ไม่อยากให้โตจนแข็งกระด้างเกินไป

           

 

“เอาวางไว้หน้าบ้านฮะ เดี๋ยวที่ร้านเขามาเก็บเอง” ไอติมบอกหลังจากล้างทุกอย่างเสร็จ แซ็คเอาเตากับกระทะเดินไปวางตรงนอกประตูรั้วหน้าบ้านแล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน ไอติมกำลังยกกระป๋องน้ำเป๊บซี่ดื่มอึก ๆ อยู่ในครัว

           

 

“นายจะไปหาหมอเพื่อตรวจเลือดเมื่อไหร่เหรอ” แซ็คถามพลางนั่งลงบนเก้าอี้นั่งทานข้าวในครัว ไอติมลดกระป๋องเป๊บซี่ลงแล้วหันไปมองคนถาม

           

 

“ทำไมล่ะ”

           

 

“ฉันอยากจะไปตรวจด้วยน่ะ” ไอติมร้องอ๋อ

           

 

“พรุ่งนี้ก็ได้ฮะ” แซ็คทำหน้าประหลาดใจ

           

 

“เข้าไปได้เลยเหรอ” ไอติมพยักหน้า

           

 

“ได้เลยฮะ เข้าไปแจ้งว่าเราจะขอตรวจเลือด ตรวจสุขภาพ”

           

 

“นึกว่าต้องนัดก่อน ปกติฉันต้องนัดน่ะ”

           

 

“ก็มีบางเคส บางหมอ บางโรงพยาบาลที่ต้องนัดแหละฮะ แต่ส่วนมากก็เข้าไปรอพบหมอที่โรงพยาบาลได้เลย”

           

 

“ดีจริง” ไอติมเคยฟังจากเดนนี่ว่าระบบการพบหมอของเมืองนอกนั้นยากกว่าเมืองไทย ใช่ว่าป่วยแล้วจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อพบหมอได้ง่าย ๆ หรือใช่ว่าจะได้รับการตรวจเลย เดนนี่เคยบอกว่า ครั้งนึงเคยเป็นหวัดอยู่สี่วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลยคิดจะไปหาหมอ แต่ว่าโทรนัดหมอยากมาก เพราะคนรับสายสัมภาษณ์อยู่นานเพื่อประเมินอาการว่าหนักหนามากน้อยแค่ไหน แล้วพอได้เข้าพบหมอ ก็เร็วปานม้าวิ่ง หลังจากนั้นเดนนี่เลยทำประกันสุขภาพเอาไว้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการพบหมอ แม้ต้องแลกกับเงินอันแสนแพงก็ตาม

           

 

“อยากออกไปไหนมั้ยฮะ” ไอติมถามและหย่อนกระป๋องเป๊บซี่ลงในถังขยะ

           

 

“ไม่ล่ะ นอนพักดีกว่า” ไอติมพยักหน้า

           

 

“งั้นคุณนอนคนเดียวได้มั้ย ผมจะออกไปหาแม่ที่ร้านน่ะ”

           

 

“ไม่นอนด้วยกันเหรอ” แซ็คมองไอติมตาละห้อย ไอติมอ้าปากหวอ ก่อนจะเปลี่ยนใจ

           

 

“ก็ได้ฮะ” แซ็คยิ้ม

           

 

ไอติมพาแซ็คกลับขึ้นไปบนห้องนอน เปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ พอหันไปมองแซ็คที่กำลังยืนเขย่าตัวขึ้นลงและพ่นลมออกจากปากติด ๆ กันก็มองด้วยความสงสัย แซ็คหยุดเขย่าตัวเอง กำมือสลับกับแบมือ พ่นลมหายใจออกทางปากยาว ๆ อีกสามสี่ครั้งก่อนเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ไอติมเดินไปนั่งบนเตียง มองแซ็คใช้สองมือรองน้ำจากก๊อกอ่างล้างหน้าขึ้นลูบหน้าอยู่หลายนาทีถึงเดินกลับออกมาข้างนอก

           

 

“Are you okay? (คุณโอเคมั้ย)” แซ็คพยักหน้าแต่ยังคงหายใจแรงอยู่ ไอติมลุกเดินไปหยิบผ้าขนหนูจากราวไม้ในห้องมายื่นให้แซ็คเช็ดหน้า แซ็ครับไปซับหน้าจนแห้ง หันไปมองไอติมก็เห็นว่ากระต่ายตัวจ้อยยืนมองด้วยสายตาสงสัย แซ็คหลับตาลงและพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ ก้าวเท้าเดินไปนั่งบนโซฟา ไอติมเดินตามไปนั่งข้างๆ

           

 

“I’m thinking about weed, (ฉันกำลังคิดถึงกัญชา)” แซ็คเหลือบมองไอติมแวบหนึ่ง ไม่กล้าสบตาใส ๆ ของเจ้ากระต่าย

           

 

“I need it. (ฉันอยากน่ะ)” ไอติมยื่นสองมือไปจับหน้าแซ็คให้หันมามองตัวเอง สองมือประกบแก้มของเขา มองใบหน้าที่เริ่มฟื้นจากสภาพทรุดโทรม

           

 

“No. You need me. (ไม่ คุณต้องการผมต่างหาก)” แซ็คคลี่ยิ้ม ยกมือขวาจับข้อมือซ้ายไอติมแล้วหันหน้าไปจูบฝ่ามือไอติมแผ่วเบา

           

 

“You are going to make me addict you instead. (นายกำลังจะทำให้ฉันเสพติดนายแทนนะ)” ไอติมพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบางเบา

           

 

“Yes, addict me. (ใช่ เสพติดผมได้เลย)” ไอติมลุกขึ้นยืน แซ็คเงยหน้ามองตาม ไอติมนั่งคร่อมตักแซ็ค สองมือลูบไปทั่วใบหน้าของฝรั่งตัวโต ขวัญใจไอติมเอนหัวกับพนักพิงโซฟา เปลือกตาปิดลง ใบหน้าผ่อนคลายกับฝ่ามือนุ่ม ๆ ของไอติมที่กำลังลูบวนไปทั่วใบหน้าตัวเอง

           

 

“You are still a tricky bunny. (นายยังเป็นกระต่ายเจ้าเล่ห์เหมือนเดิมเลยนะ)” ไอติมยิ้มกว้าง ก้มหน้าลงเอาจมูกแนบกับหน้าผากของแซ็คก่อนที่จะไล่หอมตั้งแต่หน้าผากลงมาแก้มขวา แซ็คหัวเราะทั้งที่ยังหลับตา ไอติมหอมผ่านคางขึ้นไปบนแก้มซ้าย ไปที่ขมับก่อนกลับไปตรงหน้าผากอีกครั้งแล้วก็ดึงหน้าออก พ่อฝรั่งลืมตาขึ้นมองกระต่ายตัวขาวพร้อมกับยิ้มละมุน

           

 

“I want to know our blood test now. (ฉันอยากรู้ผลเลือดเราสองคนตอนนี้เลย)” ไอติมยิ้ม ยกสองมือประกบแก้มของแซ็คอีกรอบ

           

 

“Why? (ทำไมล่ะ)”

           

 

“You know the reason. (นายรู้เหตุผลน่า)” ไอติมหัวเราะคิก

           

 

“Now it’s you who want to fuck me. (ตอนนี้เป็นคุณแล้วสินะที่อยากเอาผมน่ะ)” ไอติมห่อไหล่สองข้างขึ้นแล้วยิ้มเขิน แซ็คยิ้มละมุนและพยักหน้า ไอติมหัวเราะ แซ็คยกมือขวาขึ้นลูบหัวไอติม มองด้วยสายตาอ่อนโยน

           

 

“Thank you for following me until you met me and we have each other now. (ขอบคุณที่ติดตามฉันจนเราพบกัน และเรามีกันในตอนนี้)”

           

 

“Thank you your cock. (ขอบคุณจ้อนคุณเถอะ)” แซ็คขำพรืด ไอติมหัวเราะ เอาหน้าผากชนกับหน้าผากของแซ็ค ขวัญใจไอติมเอาจมูกเกลี่ยปลายจมูกไอติมไปมา

           

 

“Your cockrot, bunny. (ควxร็อทของนายยังไงล่ะบันนี่)”

 

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้





หากไม่ดูเป็นการรบกวน ก็จะชวนเธอมาเสพติดกัน กิ๊ๆ

จากตามขอให้เขาเอา มาวันนี้น้องโดนผู้คนนั้นขอเอาเองแล้วนะคะ ฮิฮิ้ว -..-



เจอกันตอนหน้าค่า

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
สงสารแซคนะ นางเหมือนไม่มีเป้าหมายในชีวิตมาก่อน พอมาเจอน้องติม นางแบบก็แก้ตัว กลับลำอะไรก็ยากอ่ะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องติมนางสตรองและใจกว้างมากจริงๆ  ที่เหลือก็แซคต้องช่วยเหลือตัวเองให้กลับมาแข็งแรงไวไว

อุตส่าห์ได้วิตามินรสไอติมมาบำรุงแล้ว

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
หมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง   :pigwrite:

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ขอให้เป็นแบบนี้ละมุนตุ้มไปเรื่​อยๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด