ตอนที่ 7 Hansel and Gretel : เฮนเซลและเกรเทล
(ตอนที่ 7/1)
Rate: G
ตกเย็นหลังเลิกเรียน ร้านคาเฟ่แห่งนี้มีคนแน่นเป็นพิเศษทุกวัน นั่นเพราะมีทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆ จากโรงเรียนใกล้เคียง แวะเวียนมาใช้บริการเสมอ ๆ …มากันบ่อยจนกระทั่งมีการตั้งเป็นแฟนคลับเฉพาะแบบรายคนไปเลยทีเดียว ซึ่งมันก็ไม่แปลกนัก สำหรับบรรดาคนไม่ธรรมดา สุดแสนจะป็อปปูล่าทั้งห้าของคาเฟ่แห่งนี้
ยกเว้นเขา…คนธรรมดาสุด ๆ ที่ชาตินี้คงหาแฟนคลับกับเขาไม่ได้ โดยเฉพาะยิ่งมาเทียบรัศมีกับห้าคนนี้ เรย์จิเหลือบมองบรรดาพนักงานในชุดคอสเพลย์น่ารัก ที่คล้ายมีออร่าความงามเปล่งประกายอยู่รอบ ๆ ทั้งหมดนั้นอย่างปลง ๆ ในขณะที่มือแข็งแรงของเขา ก็ยังคงเช็ดทำความสะอาดโต๊ะที่ลูกค้าพึ่งจะลุกออกไปพร้อม ๆ กันด้วย
จะไม่ให้หลงกันได้อย่างไร เขาเองก็ยังไม่ลืม ในวันแรก..ที่ก้าวเข้ามาภายในร้านนี้ ว่าตนเองนั้นรู้สึกยังไงกับคนพวกนี้
โดยเฉพาะกับเด็กสาวน่ารัก…ซานะจัง…สาวน้อย…เอ้อ จริง ๆ คือเด็กชายคนหนึ่งเท่านั้น ร่างบอบบางคล่องแคล่วในชุดกระโปรงบานตัวสั้น ในตอนนี้ถือถาดอาหารสำหรับเสิร์ฟแขกในร้านอย่างมั่นคง แม้ตัวจะยังเล็ก แต่ก็มีแรงเยอะกว่าที่เห็นมาก แถมยังจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยไม่ขาดตกบกพร่องราวมืออาชีพ ทั้ง ๆ ที่เรย์จิเองก็รู้มาว่า สำหรับทั้งห้าคนนี้ การเปิดร้านคาเฟ่ นับเป็นครั้งแรกก็ตาม
ซานะจังคงเคยทำงานบริการมาก่อน เห็นได้ชัดจากการทักทาย เอาใจใส่แขกที่มาใช้บริการ ด้วยท่าทีที่แสนจะอ่อนโยนจนแขกหลายอดเอ็นดูไม่ได้ รอยยิ้มหวานน่ารักนั้น ยิ่งทำให้นับวัน ซานะจังของร้าน Absolution Café จะมีแฟนคลับมากขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย
และนอกจากแฟนคลับที่ดี…มันย่อมมีแฟนคลับที่โรคจิตอยู่คู่กัน
ในวันนั้นก็มีคนท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ แต่งตัวปิดหน้าปิดตา เข้ามาในร้านด้วย พอสั่งอาหารแล้ว มือกร้านน่าขยะแขยง ก็ลวนลามร่างบอบบางนั้นหน้าตาเฉย ด้วยการลูบที่สะโพกบางนั้น ก่อนจะเริ่มแอบล้วงเข้ากระโปรง
เรย์จิที่หันไปเห็นพอดีแทบจะกระโจนเข้าใส่ ศัตรูของสาว ๆ (?) แบบนี้ ให้อภัยไม่ได้
หากไม่ทันได้ทำอย่างนั้น มือที่ว่องไวกว่าของซานะจัง ก็คว้ามือซุกซนไม่รักดีข้างนั้นไว้ได้ ก่อนจะบิดโดยแรงจนอีกฝ่ายร้องจ๊าก
รอยยิ้มหวานส่งกลับไปราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อถามขึ้นว่า “ของที่ท่านสั่งมาไม่มีค่ะ จะไปทานที่โรงพักแทนมั้ยคะ”
คนโดนจับสะบัดตัวออกเต็มแรง ก่อนจะรีบผลุนผลันวิ่งหนีออกไป ปล่อยให้เด็กชายในรูปลักษณ์ของสาวน้อย ถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ
“ไม่มีอะไรแล้วฮะ เรย์จิคุง อย่าไปใส่ใจเลย” เด็กชายพึมพำ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เรย์จิที่ตั้งท่าค้าง ได้แต่ยิ้มแหย ๆ แล้วตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นอะไรแน่นะ ซานะจัง?”
“แน่สิฮะ…แค่นี้น่ะ…เรื่องเล็กมาก ๆ” หากจู่ ๆ เด็กชายก็ชะงักค้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่เห็น จนชายหนุ่มเผลอหันมองตามไปด้วย
ซานะกำลังมองยูเมะในชุดนางฟ้าตัวน้อย ๆ ที่ยังคงนั่งเป็นตุ๊กตาหน้าร้านอยู่เป็นเพื่อนสาววัยกลางคนสองโต๊ะถัดไป จากที่ตรงนั้น เด็กหญิงมองเห็นทุกอย่างจนหมดแล้วเช่นกัน
ดวงตากลมโตของยูเมะคู่นั้น…จ้องมองมาอย่างจริงจังราวโดนสะกด ด้วยแววตาที่เขาเองยังรู้สึกได้
แววตาที่แปลกประหลาด…จะว่าไป ยูเมะ ก็มีดวงตาคู่งามสีน้ำตาลเข้ม..สีเดียวกับของซานะ ที่ยามมองในบางครั้ง ก็ดูสวยแปลกตา…จนเขารู้สึกกลัว ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ขณะขยับจะถามต่อ เด็กหนุ่มกลับปฏิเสธขึ้นก่อนทันควัน
“ไม่มีอะไรหรอกฮะ ผมขอไปห้องน้ำซักครู่ ฝากตรงนี้ด้วยนะฮะ เรย์จิ” เขาว่าพลางผลุนผลันเดินออกจากโซนหน้าร้านไป โดยที่จนถึงตอนนี้ เด็กหญิงตัวน้อยนั้นก็ยังคงจับจ้องคนทั้งคู่อยู่…
........................................................
ค่ำคืนหลังอาหารเย็นในคาเฟ่หลังน้อยเป็นเวลาสำหรับการพักผ่อน และนอนหลับ ซึ่งในตอนนี้เด็กน้อยทั้งสอง และทาโนเอะ อยู่ด้วยกันในห้องนอน ห้องนี้ไม่กว้างนัก แต่ตกแต่งเสียจนน่ารัก เพราะเป็นห้องของเด็กน้อยทั้งคู่นั่นเอง
เตียงใหญ่กลางห้องเป็นเตียงที่จัดไว้ให้นอนด้วยกัน เป็นเตียงคู่ปูผ้าสีชมพูอ่อน มีตุ๊กตาหลายตัววางเรียงรายบนหัวเตียง และอีกตัว ที่เด็กหญิงยังคงกอดมันอยู่
มืออีกข้างที่ยังว่างจูงมือทาโนเอะที่เดินตามมาเข้ามานั่งบนเตียงด้านข้าง
“ทาโนเอะ ยูเมะอยากฟังนิทาน” เสียงใส ๆ ว่าแจ้ว ๆ อย่างน่าเอ็นดู ตอนนี้เด็กน้อยอยู่ในชุดนอนตัวบาง ที่เป็นกระโปรงฟูฟ่อง ผ้าเนื้อนุ่มน่ารักสีหวาน รับกับใบหน้าใสนั้นจนไม่ว่าใครเห็นก็ยากจะปฏิเสธความต้องการของเธอได้
หญิงสาวยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวอ่านต่อจากคราวที่แล้วก็แล้วกันนะ” เธอเอื้อมไปหยิบหนังสือนิทานเล่มเก่า ปกของมันสีออกเหลืองแล้ว เป็นนิทานภาพที่เด็กหญิงเก็บรักษามาเป็นอย่างดี และยังเป็นหนังสือที่…เด็กน้อยมักจะยื่นให้เธออ่านให้ฟัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หน้าปกเขียนไว้ว่า “บ้านขนมปัง”
มันเป็นเรื่องราว ของเด็กสองคน…และชีวิตที่ถูกทอดทิ้ง…โดยครอบครัวของตนเอง
มรสุมชีวิตที่โหดร้าย และการผจญกับแม่มดใจร้าย ที่แสนโหดเหี้ยม
หากจนท้ายที่สุดแล้ว เด็กน้อยทั้งคู่ก็ได้กลับมาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง
ทาโนเอะเริ่มอ่านไปเรื่อย ๆ มีเด็กหญิงตัวน้อย นอนฟังอย่างตั้งใจ ส่วนซานะที่เข้ามาพร้อมกันนั้น ผล็อยหลับไปแล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นอ่านใหม่ ๆ งานในคาเฟ่คงค่อนข้างเกินตัวไปหน่อยสำหรับเด็กชาย ทำให้เหนื่อยไม่น้อย ทาโนเอะจึงอ่านหนังสือด้วยเสียงที่เบาลง ให้ได้ยินกับยูเมะแค่สองคนเท่านั้น ปล่อยให้ซานะหลับใหลไปด้านข้าง โดยไม่คิดจะรบกวนอีก
"แล้วพี่น้องทั้งสอง ก็สามารถหนีพ้นจากเงื้อมมือของแม่มดใจร้าย และหาทางกลับบ้านได้ในที่สุด" เสียงนุ่มของทาโนเอะอ่านมาจนจบ
ร่างบอบบางของเด็กหญิงเอนอิงกับตัวหญิงสาวพลางพึมพำ "ดีจังนะ ในที่สุดเกรเทล ก็ได้กลับมาอยู่กับพี่ชายอีกครั้ง"
“ถ้าอย่างนั้นก็นอนได้แล้วล่ะ” มืออ่อนโยนลูบศีรษะเล็กเบา ๆ
“ค่า” ร่างบอบบางรับคำ ก่อนจะเอนตัวลงบนหมอนนุ่ม ข้าง ๆ ซานะอย่างว่าง่าย โดยมีทาโนเอะช่วยห่มผ้าให้ราวกับเป็นมารดา พอจัดแจงให้จนเป็นที่เรียบร้อย หญิงสาวก็เดินออกไปที่ประตู พร้อมกับปิดไฟตามหลัง สิ้นเสียงประตูปิด และเสียงที่เดินกลับห้องของทาโนเอะแล้ว ทุกอย่างก็กลับมาอยู่ในความเงียบ
มีเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ จากคนด้านข้างที่กำลังหลับ ที่ยังบ่งบอกได้ว่า ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
ร่างเล็กบนเตียงลืมตาขึ้นในความมืด ริมฝีปากนุ่มมีรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อเธอค่อย ๆ ขยับซุกตัวลงไปด้านข้างคนกำลังหลับอย่างจงใจ
“นอนดี ๆ สิยูเมะ” เสียงคนกำลังหลับงัวเงียดุเบา ๆ แบบไม่ได้จริงจังนัก เมื่อรู้สึกว่าเด็กน้อยได้แทรกตัวเข้ามานอนหนุนแขนของเขา จนรู้สึกตัวตื่นขึ้นจนได้
“น่า..นิดเดียวเองซานะจัง…ขอยูเมะกอดหน่อยนะ” เสียงใสออดอ้อนพลางกระแซะเข้ามา
เป็นร่างเล็ก ๆ ที่น่าทะนุถนอม ไออุ่นที่แค่สัมผัสก็อบอุ่นใจ
น้องสาวเพียงคนเดียว ที่เขาไม่เคยปฏิเสธคำขอได้เลยสักครั้ง
“เฮ้อ…ก็ได้ เข้ามาสิ”
ใบหน้าใสยิ้มเผล่ ก่อนจะใช้แขนของเด็กชายต่างหมอน แล้วหลับไปอย่างรวดเร็วในอ้อมแขนอ่อนโยนนั้น
.........................................
ซานะลอบถอนใจยาว เขารู้ดี…ถ้าขาดเขาสักคน ยูเมะคงไม่ยอมนอน เด็กคนนี้ ขาดเขาไม่ได้เลย
แต่การคงอยู่ของเขา…ก็มีแต่ยิ่งทำให้ตราบาป ของพวกเขาทั้งคู่…ชัดเจนขึ้น
ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหน ก็ไร้ซึ่งทางออก เขาและยูเมะ ได้แต่เดินวนในทางวงกตแห่งนี้ มานานแล้ว จนได้เจอกับเรอิจิ…แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยัง…
แต่ในช่วงนี้ ยูเมะก็เริ่มเปิดใจให้กับคนอื่น ๆ บ้างแล้ว
ดวงตาคู่นั้นทอแววเศร้า ดวงตา…ที่เป็นสีฟ้าสดใส ไม่ใช่สีน้ำตาลเหมือนตอนอยู่นอกห้อง กล่องใส่คอนแท็กซ์เลนส์สองกล่อง วางอยู่ข้างเตียง แน่นอนว่าอีกอัน เป็นของยูเมะ
เด็กชายเหม่อมองกล่องสองกล่องนั้นพลางครุ่นคิด
ยูเมะเข้ากับทาโนเอะได้ดี…พอเรย์จิเข้ามา เด็กน้อยก็ติดเรย์จิแจ ยูเมะที่เคยมีเพียงแต่เขา ในตอนนี้ ได้หันมามองคนอื่นบ้างแล้ว
มันอาจถึงเวลาแล้ว ที่เขาควรจะจากไป
การแยกกันอยู่ น่าจะดีที่สุด สำหรับยูเมะ…ที่เขารักที่สุด
ซานะมองร่างเล็ก ๆ ที่กอดเขาหลับอย่างมีความสุข แล้วใคร่ครวญอีกครั้ง ที่นี่ เป็นที่ ๆ ปลอดภัยแล้ว สำหรับยูเมะ เป็นที่ ๆ มีคนรักและเข้าใจเด็กน้อย เป็นที่ ๆ เหมือนกับครอบครัว
ถ้าขาดเขาไปสักคน ยูเมะคงเสียใจ แต่ไม่นาน…ก็คงทำใจได้
เขาไม่มีทางเลือก นอกจากจะจากไป เพื่อไม่ให้อาการของยูเมะ กำเริบขึ้นอีก…
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อเรอิจิ…แต่เขาก็ยังกลัว…ยังคงหวาดกลัวอยู่เสมอ ถ้าหากยูเมะ ยังคงอยู่ใกล้เขา เรื่องแบบนั้น…อาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้!
ยิ่งเห็นยูเมะเมื่อกลางวันนี้ ยิ่งตอกย้ำ สายตาที่มองมานั่น เป็นเพียงการเริ่มต้น
ใช่…เขาคงจะต้องไปจริง ๆ แล้ว…ก่อนจะมีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นอีก
ซานะตั้งใจอย่างแน่วแน่ ก่อนจะข่มตาลง เขาจะต้องนอนให้เพียงพอ เพื่อวันพรุ่งนี้…ที่คงจะไม่ได้สบายเช่นนี้อีกแล้ว แต่นั่นก็เรื่องเล็ก ถ้าเทียบกับในอดีตที่แสนจะทรมานนั้น
คาเฟ่นี้ขาดเขาสักคน คงไม่ถึงกับต้องปิดตัวลง ยูเมะ…และคนอื่น ๆ จะต้องดูแลมันต่อไปแทนเขาได้แน่ ๆ
น้ำตาใส ๆ ไหลรินอาบแก้มอย่างเงียบงัน เด็กชายเช็ดมันโดยระวังไม่ให้คนกำลังหลับรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
ลาก่อน ยูเมะ…เอเมที่รักของเขา ถึงจะไม่ได้เจอกันอีก แต่เขาคงไม่รักใคร…มากกว่าเธออีกแล้ว ชั่วชีวิตนี้!
....................................