อ่ะๆ มาต่อให้แล้ว
แบ่งไม่ถูกจริงๆแฮะ
=====================================================================
รู้สึกตัวอีกที ผมก็ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของหนุ่มฝรั่งคนนี้แล้ว ไม่รู้ว่าอยู่แบบนี้มานานเท่าไร ถึงแม้ว่าอ้อมกอดเขาจะทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นอยู่บ้าง แต่ผมก็รู้สึกว่ามันทะแม่งๆพิกล รู้สึกว่ามันผิดแปลกอย่างไรไม่รู้
ผมค่อยๆขยับตัวออกห่างจากเขา รู้สึกหนักใจที่ยังเป็นอยู่แบบนี้ เมื่อไรกันที่ผมจะหลุดจากพันธนาการที่น่าชิงชังนี้ได้สักที ผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน
ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ แต่ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหมดแรงที่จะต่อสู้อีกต่อไปแล้ว ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปผมต้องเสียท่าให้กับเขาแน่นอน ถึงผมจะกลัวเขา แต่ผมกลัวตัวเองมากกว่า ทุกครั้งที่เขาพยายามถึงเนื้อถึงตัวผม แม้ใจผมพยายามจะต่อต้านขัดขืน แต่ร่างกายผมกลับโอนอ่อนผ่อนตามไปกับสัมผัสของเขา ผมกลัวว่าความรู้สึกนั้นจะกลายเป็นความเคยชิน จนปราการที่ผมเพียรสร้างขึ้นมาสั่นคลอนพังทลายลง
ใช่ว่าผมจะต่อต้านหรือแอนตี้ความรักประเภทนี้ เพราะว่าเพื่อนรักของผมก็เป็นบุคคลหนึ่งที่อยู่ในสังคมแบบนั้น แต่ผมไม่เคยคิดว่าเรื่องทำนองนี้จะเกิดขึ้นกับตัวผมเอง และผมก็ไม่เคยคิดฝันว่าในอนาคตผมจะเปลี่ยนเป็นคนที่นิยมเพศเดียวกันด้วย
เรโอก็ส่วนเรโอ เราต่างคนต่างคบหากันอย่างจริงใจในฐานเพื่อนสนิท และไม่เคยคิดก้าวก่ายเรื่องความชอบส่วนตัวของแต่ละคน เรโอไม่เคยยัดเหยียดรสนิยมของมันให้กับผม ทั้งยังไม่คิดสนับสนุนแต่อย่างใด ถึงแม้ว่ามันจะชอบแกล้งผม ด้วยการพาผมไปสถานที่พิเศษเฉพาะของบุคคลประเภทเดียวกับมันก็ตาม แต่ถึงกระนั้นมันก็ปล่อยให้ผมตัดสินใจเอง และไม่คิดแนะนำหรือยัดเหยียดใครให้ผมเลยสักครั้ง
แต่การกลั่นแกล้งของไอ้เจ้าเรโอมัน กลับทำให้ผมต้องพบกับเรื่องเลวร้ายไม่มีที่สิ้นสุดเช่นในปัจจุบันนี่สิ คิดแล้วก็อยากตบกระบาลมันเหลือเกิน ที่เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง ถ้าวันนั้นมันไม่พาผมไปที่บาร์เฮงซวยนั่น เรื่องทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้
เมื่อขยับตัวหลุดออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มได้ ผมก็ลุกขึ้นนั่งทันที ถอนหายใจยาวออกมาอย่างหนักหน่วง กวาดสายตามองไปทั่วห้องสี่เหลี่ยม ที่จะกว้างก็เรียกว่ากว้าง จะแคบก็เรียกว่าแคบ
แต่ทั้งหมดนี้สร้างความอึดอัดให้กับผมยิ่งนัก ถึงแม้จะไม่ได้ถูกมัดมือมัดเท้า แต่ผมก็ทำได้แค่เพียงเดินไปเดินมา ภายในห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้เท่านั้น ถูกจำกัดให้มีขอบเขตแห่งความอิสระเพียงเท่านี้ ไม่สามารถหลุดพ้นออกจากขอบเขตที่รายล้อมนี้ไปได้
ช่างเป็นความทรมานจริงแท้ เมื่อไหร่กัน ที่จะถูกปลดปล่อยไปเสียที...
รู้สึกได้ถึงเตียงที่ขยับเขยื้อน แต่ผมก็ไม่ได้หันกลับไปมองแต่อย่างใด แล้ววงแขนแกร่งของหนุ่มฝรั่งก็โอบกอดผมไว้จากด้านหลัง ความอบอุ่นแผ่ซ่านทั่วร่างกายผม อย่างไม่อาจยับยั้ง
“คุณเป็นยังไงบ้างครับ ยังปวดหัวอยู่รึเปล่า หืมม์...” ริมฝีปากของเขาคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้มผม ลมหายใจอุ่นๆรดรินสัมผัสผิวแก้มจนอุ่นวาบ
“ไม่แล้ว ฉันหายดีแล้ว...” ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แล้วขยับตัวออก เมื่อคิดได้ว่าควรจะทำ
แต่เขากลับรั้งตัวผมไว้ ซ้ำยังกอดแน่นกว่าเดิม เขาดันศีรษะผมให้พิงกับอกเขา ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างไม่อาจทำอะไร
“คุณอึดอัดหรือ...” น้ำเสียงของเขาเจือเศร้า มันเป็นคำถามที่ฟังดูธรรมดา แต่มันกลับทะลุทะลวงเข้าสู่จิตใจผมอย่างจัง
อึดอัดหรือ?? ที่เขาถามหมายถึงอะไร อึดอัดที่เขากอดผมแน่นอยู่อย่างนี้ หรืออึดอัดใจ...
ถ้าเป็นอึดอัดใจล่ะก็ใช่ ผมอึดอัดใจ อึดอัดมาก! แต่ผมไม่ทราบสาเหตุของการอึดอัดใจของผมเลย เพราะสิ่งที่เขาคิดกับผม หรือ เพราะตัวผมเอง ผมก็ไม่สามารถบ่งบอกได้
แต่สิ่งที่ผมอยากจะทำคือ หนี หนีไปจากที่นี่ ไปให้ไกลจากหมอนี่ โดยหวังว่าจะไม่ได้เจอกันอีก
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่ครับ?” เขาจับหน้าผมให้หันมา จ้องมองผมเหมือนกับกำลังอ่านความคิดในใจ ผมรีบปัดมือเขาออกแล้วหันกลับไปทางเดิม ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆจากหนุ่มฝรั่ง แล้วเขาก็กอดผมเอาไว้เงียบๆไม่ถามอะไรอีก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ผมซึ่งกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด ไม่ได้สนใจคนใกล้ตัวอีกต่อไป รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดลงบนบ่าข้างซ้าย แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ
“ผมรักคุณนะครับ...” คำพูดทำลายความเงียบของเขา ฉุดผมออกจากห้วงคำนึงทันที หัวใจผมเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“แม้จะฟังดูพร่ำเพื่อ แต่ทุกครั้งที่ผมบอก ล้วนกลั่นกรองออกมาจากใจผมทุกครั้ง ” คำพูดของเขาทำให้ผมอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่เข้าใจตัวเองเลย
ไม่เข้าใจ และไม่คิดจะเข้าใจ ผมไม่ต้องการที่จะเข้าใจอะไรทั้งนั้น และมันจะต้องเป็นอยู่แบบนี้
ตราบเท่าที่ความตั้งใจของผมยังคงอยู่
“ผมไม่เคยรู้สึกกับใครอย่างนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าความรู้สึก ‘รัก’ จะเป็นแบบนี้ เพราะคุณ... ”
“พอเถอะ! ฉันไม่ต้องการจะรับฟังความรู้สึกของนาย!” ผมตัดบทคำพูดของเขา เพราะไม่ต้องการที่จะฟังสิ่งที่เขาพูดอีกต่อไป คำพูดของเขา... กำลังทำร้ายผม...
หัวใจของผมกำลังเต้นแรง จนผมกลัวว่าเขาจะได้ยิน มันน่าอับอายมาก ที่ปฏิกิริยาของหัวใจผมในตอนนี้ เป็นเพราะคำพูดของเขา คำพูดที่น่าสะอิดสะเอียนในความคิดผม แต่มันกลับส่งผลต่อหัวใจผมอย่างไม่อาจควบคุม
“นั่นสินะครับ...” ศีรษะของเขาที่เกยอยู่บนบ่าผมผละออกไป น้ำเสียงของเขาฟังดูหดหู่ยิ่งนัก ผมรีบหันไปมองหน้าเขาทันที และพบว่าเขากำลังมองผมอยู่
สายตาที่เหมือนกำลังมองผมอย่างทะลุปรุโปร่งนั่น ทำให้ผมต้องเบือนหน้าหนี แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเขาเชยคางผมให้หันมาทางเขา ผมหลุบตาลงต่ำ ไม่อยากมองสบกับดวงตาที่ดึงดูดลึกล้ำเหมือนบึงน้ำสีมรกตที่สงบนิ่งนั่น
“นั่นสินะ ผมอาจจะรุกคุณเร็วเกินไป ทั้งที่พยายามบอกกับตัวเองแล้ว ว่าให้มันค่อยเป็นค่อยไป แต่ผมก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้สักที...”
ใบหน้าของชายหนุ่มกำลังเลื่อนเข้าใกล้ผมเรื่อยๆ ดวงตาของเขาจับจ้องมองผมไม่ไหวติง ความรู้สึกของเขาถูกถ่ายทอดผ่านดวงตา จนผมสามารถรับรู้ได้ รับรู้... แต่ไม่อยากยอมรับ
แล้วริมฝีปากของเขาก็จรดลงบนริมฝีปากผมอย่างนุ่มนวล ลิ้นอุ่นๆของเขากำลังสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของผม ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย ร่างกายของผมกำลังไร้การควบคุม
จูบของเขานุ่มนวลอ่อนหวานมาก จนผมใจสั่น สมองเริ่มไม่รับรู้ถึงสิ่งใด หัวใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ จนผมอยากจะสั่งให้มันหยุดทำงาน แต่ก็ไม่อาจจะทำได้
“ผมต้องการคุณ...”
=========================================================================
เอ่อ... รีบเผ่นออกจากกระทู้