[END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]>>>คุณเมียภาคบังคับ<<< (MPREG) Up.แจ้งข่าว (26/02/59)  (อ่าน 252038 ครั้ง)

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบมาก :pig4:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
คุณเมียภาคบังคับตอนที่ 14





       "อืมๆ โอเคแล้วเจอกันคืนนี้นะ" พัสกรบอกลาคนปลายสาย



       "ไปไหนคะ? แล้วใครโทรมา" ณัฐภาสที่ทำหน้าที่แทนเก้าอี้เสียสละตักตัวเองให้ภรรยาสุดที่รักนั่งก็ถามขึ้น

เมื่อได้ยินเหมือนว่าภรรยาคนสวยของตัวเองนั้นนัดแนะจะไปไหนกับใครสักคนที่โทรมา



       "กลุ่มเพื่อนพัสนัดรวมกันนะฮะเลยโทรมาบอก" พัสกรเอี่ยวตัวบอกกับคนที่นั่งซ้อนหลังตัวเองอยู่



       "หืม....แต่พี่ได้ยินว่าเจอกันคืนนี้นี่คะแล้วพัสจะไปทันได้ยังไงในเมื่อพวกเพื่อนพัสอยู่กรุงเทพฯกันหมดไม่ใช่หรอ??"

ณัฐภาสถามอย่างสงสัยเพราะก่อนที่พัสกรจะวางสายก็จำได้ว่านัดกันคืนนี้นี่แล้วจะเจอกันได้ยังไงในเมื่อกลุ่มเพื่อนของ

พัสกรอยู่กรุงเทพฯกันทั้งนั้นนี่เท่าที่พัสกรเคยเล่าให้ตัวเองฟัง



       "พวกนั้นอยู่กรุงเทพฯกันก็จริงฮะพี่ภาสแต่ทริปนี้เขาจัดกันที่ภูเก็ตฮะแถมตอนนี้ทุกคนก็มาถึงภูเก็ตกันแล้วด้วย"



       "อ่า....อย่างนั้นเองหรอ แล้วนี่พวกเพื่อนพัสนัดเจอกันที่ไหนคะ?"



       "ก็ร้านชิวๆหรือผับที่ไหนสักที่ ที่ๆไม่ใช่ผับของสามิสามีนะฮะ เพราะว่าวันนี้เมียจ๋าจะหนีเที่ยว คึคึ" พัสกรแกล้งบอก

พร้อมกับดึงแขนทั้งสองข้างของณัฐภาสที่กอดรั้งเอวตัวเองไว้อยู่ออก ก่อนจะรีบลุกเดินออกจากบริเวณนั้น



       "อ่าว! ได้ไงอ่ะ! แล้วนั่นพัสจะไปไหน!!!" ณัฐภาสโวยขึ้นทันทีเมื่อพัสกรบอกอย่างนั้นและรีบลุกเดินตามภรรยาที่เดิน

หนีออกไปเพื่อถามให้แน่ใจอีกครั้งว่าพัสกรพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่



       "ก็ทำอาหารไงฮะหรือพี่ภาสจะไม่ทานข้าวฮึ? นี่ปาเข้าไปจะบ่ายสองแล้วนะฮะเรายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย" พัสกรหยุด

เดินและหันกลับมาถามบ้างเมื่อเห็นสามีเดินตาม



     "กินซิครับ!! ตั้งแต่บ่ายเมื่อวานก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย พี่หิ๊วหิว!!" ณัฐภาสบอกพร้อมกับลูบท้องตัวเองไปด้วยว่าเขานั้น

หิวมากอย่างที่พูดจริงๆ



       "แล้วมันเป็นเพราะใครกันล๊ะ!!" พัสกรทำหน้าดุถามเสียงแข็ง



       "แหะๆ มันเป็นเพราะพี่เองครับ ก็นะ เมียจ๋าอร่อยๆกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม" ณัฐภาสหน้าเจื่อนหัวเราะแหะๆอย่างยอมรับผิด

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป็นเพราะความเอาแต่ใจของเขานั้นเองที่ทำให้เขาสองคนต้องหิ้วท้องว่างๆมาถึงจนป่านนี้ และที่พัสกรต้อง

ไปทำอาหารอย่างนี้ก็เป็นเพราะว่าพัสกรขอทำอาหารของเขาสองคนเองแทนที่จะให้แม่บ้านทำเหมือนทุกที เพราะอย่างแรกเลย

คือเขาว่างเพราะคุณสามียังไม่ให้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักทีและสองคือเขาชอบทำอาหารไงก็เลยขอทำเอง จนหลังๆมาณัฐภาส

เองก็คงจะติดรสชาติอาหารในแบบของเขาด้วยเลยพลอยไม่ยอมทานอาหารฝีมือแม่บ้านอีกเลย หรือพูดง่ายๆก็คือถ้าไม่ใช่ฝีมือ

ของเมียพี่ภาสคนนี้ก็ไม่กิน



       "มันน่าให้อดนัก!!!" พัสกรพูดทิ้งท้ายอย่างค่อนขอดก่อนที่จะเดินหนีไปทำกับข้าวในครัวคนเดียวโดยที่ไม่ได้สนใจ

คุณสามีที่ยืนทำหน้าหงอยเหมือนลูกหมาถูกเจ้าของทิ้งอีกเลย



(ช่วงคุยกันสักนิดกับปัญหาแม่บ้านของสมาคมเมียๆ : พัสกร)



       หลังจากวันนั้นวันที่ผมและพี่ภาสได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ทั้งทางพฤตินัยและนิตินัยแล้ว มาจนถึงวันนี้

ก็ผ่านมาแล้วสองเดือนกว่าๆ และไอ้สองเดือนกว่าๆสำหรับผมเนี่ยมันเป็นอะไรที่แตกต่างมากๆเลยกับก่อนหน้านี้ ก่อน

หน้าที่เราจะจิ๊จ๊ะกันอะน่ะ เพราะพี่ภาสที่ขรึมๆแมนๆแสนสุภาพบุรุษได้หายไปแล้วจะเหลือก็แต่ไอ้สามีจอมหื่น บ้ากาม

สาวแตกของผมนี่แหละ คนบ้าอะไรขยันปั้มลูกบ่อยมากกว่ากินข้าวซะอีก พัสกรคนนี้ล่ะเพลีย!!



คำถาม : มีคนถามมาว่าวันนั้นหนูพัสแกล้งเมาหรือเปล่า??

พัสกรตอบ : อืม..วันนั้นพัสไม่ได้แกล้งเมาหรอกฮะ เมาจริงๆเลยล่ะ แต่สาเหตุที่เมาน่ะหรอ? อ๊าก! เขินอ่ะ คือแบบว่า

แบบพัสอ่ะโดนคุณปู่ย่าเลี้ยงให้โตมาอย่างคนที่พร้อมจะเป็นภรรยาและแม่ที่ดีใช่ป่ะล่ะ อือ..ก่อนหน้านี้ตอนที่เรายังทะเลาะ

พัสก็คิดอยู่นานว่าหลังจากนี้ควรจะทำยังไงกันต่อไปดี แล้วถ้าเราจะคืนดีหรือต้องแยกกันจริงๆจะต้องทำยังไง แล้วทีนี้

พี่ภาสก็มาง้อและอธิบายให้ฟังว่าความจริงมันเป็นยังอย่างที่พวกคุณก็รู้ๆกัน และเป็นเพราะเวลาและสถานะการณ์ที่เอื้ออำนวย

บวกกับความแน่ใจในความรู้สึกลึกๆของพัสจริงๆที่มั่นใจแล้วว่าคนนี้นี่แหละที่พัสรักและอยากจะฝากชีวิตตัวเองไว้กับเขา

ตลอดไปพัสก็เลยเลือกที่จะมอมตัวเองซะเลยโดยมีพี่คุณเป็นข้ออ้างในการดื่มในครั้งนี้ และอีกอย่างที่สำคัญเลยคือคำสอน

ของคุณย่าที่แว๊บเข้าวาในหัว ณ ตอนนั้น



คำถาม : คำสอนที่ว่านั้นคืออะไร? พอจะบอกกับเราได้มั้ย?

พัสกรตอบ : อืม...มันคือคำเรื่องการมัดใจสามีให้อยู่หมัดนะฮะ! คุณย่าเคยบอกไว้ว่านอกจากเรื่องงานบ้านงานเรือนแล้ว

เรื่องในมุ้งก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เป็นเรื่องสำคัญและขาดไม่ได้สำหรับชีวิตคู่ ท่าน(คุณย่า)เคยบอกไว้ว่าอย่าให้สามีขาดหรืออด

ในเรื่องนี้ถ้าไม่อยากให้เขาไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย ต่อให้กระดากหรืออายแค่ไหนก็ต้องทำเพราะว่าถ้าเขาเต็มที่และอิ่มที่เรา

แล้ว เขาก็จะไม่ขาดและต้องการเรื่องอย่างนี้กับคนอื่นอีก และยิ่งคนเจ้าชู้อย่างพี่ภาสที่เคยเปลี่ยนผู้หญิงยิ่งกว่าเปลี่ยน

กางเกงในแล้วด้วย พวกคุณคิดว่าเขาจะเป็นยังไงถ้าขาดเรื่องพวกนี้ไปนานๆ จะอยู่โดยที่ไม่มีอะไรกับใครไปนานๆได้หรือ?

ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจ แต่ว่าสันดานมันก็คือความเคยชินของคน ถ้าขาดมันมากๆ เหมือนกันกับที่เราจะต้องกินข้าวทุกวันแต่ก็จำ

เป็นที่จะต้องอดมันไปนานๆพอทนไม่ได้ทนไม่ไหวเข้าก็จะระเบิดออกมาและจะยิ่งต้องการกว่าเดิมเสียอีก หรือไม่จริง?

บางคนอาจจะเถียงว่าไม่จริงก็ได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่านี่คือความคิดและความเชื่อส่วนตัวของผม



คำถาม : หมายความว่าไม่เชื่อใจสามี?

พัสกรตอบ : อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ฮะ ว่าเชื่อใจและก็รักพี่ภาสมากพอที่จะฝากชีวิตของตัวเองไว้ในความดูแลของเขา

แต่ความรักของผมจะให้ใช้แค่ความรู้สึกไม่พอมันต้องมีสมองด้วย รักนะรักได้ฮะแต่อย่าหลงระเริงไปกับมันและใช้ความคิด

สัญชาตญาณและความรักความรู้สึกแยกแยะและคำนวนให้สมเหตุสมผลไปใช้ในชีวิตคู่ใช้ในการดำรงชีวิตครอบครัวให้

มีความสุขและอยู่รอดตลอดรอดฝั่งจะดีกว่านะฮะในความคิดของผม



คำถาม : มีคนบอกว่าคุณเรียบร้อยและดีเกินไปสำหรับสามีคุณ?

พัสกรตอบ : ฮึๆ...พวกคุณเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วฮะ ความจริงแล้วผมไม่เรียบร้อยอย่างที่เห็นผ่านๆมาหรอกฮะ จะว่ายังไงดีล่ะ

เอาเป็นว่าก่อนหน้านี้มันเป็นการแสดงน่ะฮะแต่ไม่ใช่การเสแสร้งให้ตัวเองดูดีหรอกนะฮะ ผมว่าพวกคุณก็คงจะเป็นเหมือนกัน

เวลาอยู่ต่อหน้าหรือเพิ่งพบเจอกับคนที่ไม่เคยรู้จัก จะเรียกว่ายังไงดีล่ะ อืม..เอาเป็นว่ามันเป็นแค่การวางตัวที่ดีในการที่เจอ

คนใหม่ๆในสถานที่ใหม่ๆก็แล้วกันฮะ



คำถาม : แล้วนิสัยจริงๆของคุณคือ?

พัสกรตอบ : อืม..คำถามนี้ยากแหะ จะให้มาบอกนิสัยของตัวเองมันก็คงจะไม่ได้หรอกฮะเพราะความคิดของคนเราไม่เหมือนกัน

ถ้าผมบอกว่าดีแต่ดีในแบบของผมแต่กลับร้ายในสายตาของคนอื่น ก็จะกลายเป็นว่าผมอวยตัวเองไปเลยนะน่ะ เอาเป็นว่า...

ผมดีเป็นบางครั้งและร้ายเป็นบางคลาแล้วแต่สถานะการณ์ในตอนนั้นแล้วกันนะฮะ คนเรามันต้องหลายหลายความรู้สึก

หลากหลายกริยาการกระทำซิฮะถึงจะคุ้มที่เกิดมา อย่างผมเนี่ยมีฝั่งนึกบอกว่าแสนดี เรียบร้อย น่ารัก น่าทะนุถนอม แต่กลับ

อีกฝ่ายก็บอกว่าผมนิสัยไม่ดีเลย เอาแต่ใจ ร้ายกาจ อะไรประมาณนั้นเห็นไหมครับว่าคนเรามันมีหลายๆแนวในคนๆเดียวกัน

นี่แหละอยู่ที่ว่าเราจะเอานิสัยยังไงมาใช้ตอนไหนถูกที่ถูกเวลาหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นอย่ายึดติดและคิดว่าคนนั้น

จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เลยฮะ



คำถาม : นิสัยอะไรของสามีที่คุณอยากจะให้เปลี่ยน? และเพราะอะไร?

พัสกรตอบ : มีแค่ข้อเดียวเท่านั้นแหละฮะคือ เรื่องหื่น!! เพราะอย่างที่เคยบอกไปว่าไอ้พี่ภาสสามีสุดที่รักของผมนั้นมันหื่นมาก

เดี๋ยวนี้ขยันปั้มลูกบ่อยมากกว่าการกินข้าวซะอีก มันเป็นอะไรที่ภรรยาอย่างผมเหนื่อยและเพลียมากถึงมากที่สุด!! พูดแล้วก็

อยากจะคลั่ง อย่างครั้งที่ผ่านมาล่าสุดก็เมื่อวานนี้เอง เรื่องมันมีอยู่ว่า

.

.

.

.

.

#ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้



       วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดีที่ผมจะจัดสวนรอบซุ้มนั่งเล่นหลังบ้านให้สบายตากว่าเดิมสักทีหลังจากที่ไปซื้อต้นไม้ทั้งไม้ดอก

ไม้ประดับกับพี่ภาสมาตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้วๆก็ไม่ได้ทำสักทีเพราะจะอะไรซะอีกล่ะถ้าไม่ใช่ว่าโดนคุณสามีกวนอยู่แทบจะ

ตลอดเวลา และวันนี้ก็ได้ฤกษ์สักทีเพราะว่าคุณสามีของผมไปธุระเรื่องบริษัทกับเจ้าสัวชัชวาลย์คุณพ่อของเขานั้นแหละ ผม

เลยมีเวลาที่จะมาจัดสวนสักที การจัดสวนปลูกต้นไม้เป็นอะไรที่ผมชอบทำมากรองจากการทำอาหารหรือทำขนมเลยนะ!!



       พัสกรใช้เวลาทั้งหมดในช่วงเช้าจนถึงเวลาบ่ายกว่าๆไปกับการจัดสวนรอบซุ้มนั่งเล่นหลังบ้านในแบบที่ตัวเองต้องการ

ไปอย่างเพลิดเพลิน จนลืมเวลาและไม่ทันได้ยินเสียงรถของสามีที่ขับแล่นเข้ามาทางหน้าบ้าน



       "ทำไมบ้านเงียบอย่างนี้อ่ะสร้อย แล้วนี่คุณพัสไปไหน?" ณัฐภาสถามขึ้นทันทีเมื่อเข้าบ้านมาแล้วเจอเพียงหลานแม่บ้าน

เพียงคนเดียวที่ออกมาต้อนรับตัวเองและไม่เห็นภรรยาคนสวยที่คอยมาต้อนรับอย่างทุกๆครั้งที่ได้ยินเสียงรถของเขาแล่นเข้า

มาภายในบ้านเมื่อเวลาที่เขาออกไปไหนคนเดียว



       "คุณพัสจัดสวนอยู่กับนายสนที่ซุ้มหลังบ้านน่ะคะ" สาวใช้ที่เป็นหลานแม่บ้านเก่าแก่ของบ้านเจ้าสัวชัชวาย์ที่

เจ้าสัวชัชวาลย์ยกให้มาช่วยดูแลความเรียบร้อยของบ้านนี้บอก เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วณัฐภาสก็เดินตรงไปหาภรรยาสุดที่รัก

หลังบ้านเลยทันที





       ส่วนทางด้านของพัสกรที่จัดสวนรอบซุ้มนั่งเล่นจนจวนจะเสร็จแล้วนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อได้ทำในสิ่งที่ชอบ

และจัดออกมาได้อย่างที่ตัวเองต้องการโดยที่ไม่ทันได้รู้เลยว่าสามีจอมหื่นของตัวเองนั้นกลับมาถึงบ้านแล้ว



       "สนไปพักทานข้าวเถอะเหนื่อยมาทั้งวันแล้วเดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง" พัสกรบอกกับนายสนที่มีหน้าที่ทำสวนและ

ดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านบวกกับตำแหน่งลูกน้องคนสนิทของณัฐภาสที่ณัฐภาสรักและเอ็นดูสนเหมือนกับน้องชายแท้ๆ

ของตัวเอง เมื่อมองดูนาฬากาที่ข้อมือแล้วเห็นว่าเลยเวลามื้่อเที่ยงมานานแล้วก็เลยพูดบอกให้สนไปพักเพราะว่าทางนี้ก็จะเสร็จ

แล้วเหลือเพียงแค่รดน้ำต้นไม้อีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง

     

       "เดี๋ยวให้ผมช่วยคุณพัสให้เสร็จเลยดีกว่า เดี๋ยวลูกพี่มาเห็นคุณพัสทำคนเดียวผมได้โดนเตะแน่ๆ โทษฐานที่ปล่อยให้เมีย

ลูกพี่จัดสวนคนเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นตาย ไอ้สนตายแน่ๆ" สนพูดบอกติดตลกแต่ก็เสียวๆสันหลังกลัวโดนลูกพี่ตัวเองเตะ

เอาจริงๆเหมือนกัน



       "เอาน่าาา..อย่าคิดมากน่า เดี๋ยวมีอะไรฉันรับผิดชอบเอง รับรองว่าไม่ให้สนโดนลูกพี่ของสนเตะแน่ๆ และตรงนี้ก็เหลือ

แค่รดน้ำต้นไม้พวกนี้อีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง สนไปทานข้าวเถอะ อีกอย่างที่สำคัญเลยนะฉันอยากนั่งคุยกับต้นไม้เงียบๆ

คนเดียวต่ออีกสักพักน่ะนะ" พัสกรบอกยิ้มขำ เมื่อเห็นสีหน้างงของสนตอนที่เขาบอกจะนั่งคุยกับต้นไม้แต่ก็ยอมเก็บอุปกรณ์

ทำสวนและเดินออกไปเลยเหมือนกัน คนอาจจะมองหรือรู้สึกแปลกที่เขาบอกว่าจะคุยกับต้นไม้ แต่เขาก็ไม่สนใจหรอก

ในเมื่อมันเป็นความสบายใจอย่างหนึ่งของเขาเวลามีเรื่องอะไรที่เขาไม่สามารถพูดหรือบอกกับใครได้เขาก็เอามาคุยกับต้นไม้

นี่แหละเพราะถึงมันจะไม่รับรู้หรือตอบกลับได้แต่มันก็เป็นที่พึ่งช่วยฟังอย่างเงียบๆเวลาที่เขาพูดระบายออกไปได้ดีเลยจริงๆ



     พัสกรยืนฮัมเพลงรดน้ำต้นไม้อย่างเพลิดเพลินอารมณ์ดีซะจนไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ในสวนหลังบ้านนี้คนเดียว

อีกต่อไปแล้วเพราะณัฐภาสสามีของเขานั้นเดินย่องมายืนซ้อนหลังของเขาอยู่แล้วตอนนี้



       "ทำอะไรนะหนูพัส!!!!" ณัฐภาสแกล้งตะโกนเสียงดังใส่พร้อมกับตะปบกอดเอวของพัสกรอย่างแรงจนทำให้พัสกร

ตกใจจนเผลอทำสายยางที่รดน้ำต้นไม้อยู่หลุดมือตกไปที่พื้น และเพราะแรงดันน้ำที่เปิดทำให้สายยางส่ายสะบัดไปตามแรง

อย่างไม่รู้ทิศทางจนทำให้ทั้งณัฐภาสและพัสกรเปียกมะลอกมะแลกไปตามๆกัน เมื่อตั้งตัวได้พัสกรก็รีบเดินไปปิดวาล์วน้ำ

เลยทันที



       "พี่ภาสอ่ะ!! เล่นอะไรไม่รู้เรื่องดูสิเปียกกันหมดเลย!!" พัสกรบ่นขึ้นเมื่อเดินกลับมาหาสามีหลังจากที่ปิดวาวล์น้ำ

เสร็จแล้ว และก็เพราะว่ามัวแต่บ่นณัฐภาสเลยทำให้พัสกรไม่ทันได้เห็นแววตาหื่นกระหายของสามีตัวเองเลย



       "อืม...เอาเป็นว่าพี่ขอโทษนะคะที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ตอนนี้เราขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเถอะนะคะ ปล่อยให้ตัวเปียก

ตากแดดแรงๆอย่างนี้นานๆจะป่วยเอา" ณัฐภาสทำหน้าหงอยๆพูดเหมือนสำนึกผิดจริงๆ แต่ใจนี่คิดไปไกลแล้วเมื่อเห็นสภาพ

เซ็กซี่ของภรรยาตัวน้อยของตัวเอง ด้วยความที่ว่าวันนี้พัสกรตั้งใจที่จะจัดสวนอยู่แล้วตั้งแต่แรกเมื่อได้รู้ว่าสามีจะไม่อยู่บ้าน

เลยเลือกชุดที่เก่าที่สุดมาใส่เพราะรู้อยู่ว่าตัวเองว่าปลูกต้นไม้เมื่อไหร่ก็เปื้อนเมื่อนั้น เลยได้เสื้อยืดเก่าๆสีขาวกับกางเกงนอน

ขาสั้นสีดำที่ตั้งใจจะทิ้งแล้วยังไม่ได้ทิ้งมาใส่ในวันนี้ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ต่อมหื่นของณัฐภาสแตกทันทีเมื่อเห็นพัสกร

ในตอนที่เปียกน้ำอย่างนี้ เสื้อยืดสีขาวที่ใส่อยู่ก็แนบเนื้อให้เห็นผิวขาวข้างในเลยเมื่อเปียกอย่างนี้ แถมยังขาสั้นสีดำที่ส๊านสัน

นั่นอีก แค่เห็นแค่นี้ณัฐภาสก็คิดไปไกลแล้ว



       "อ๊ะ!! พี่ภาสเข้ามาทำไมเนี่ย!!!" พัสกรโวยขึ้นเพราะในขณะที่เขายืนล้างตัวอยู่ใต้ฝักบัวอาบน้ำนั้นก็รู้สึกถึงแรงกอดรัด

จากข้างหลังและเมื่อหันไปแล้วเห็นว่าเป็นใครก็โวยขึ้นทันที ในเมื่อตอนแรกตกลงกันแล้วว่าจะให้เขาอาบก่อนและณัฐภาส

อาบต่อจากเขาที่หลัง แต่นี่อยู่ๆเจ้าตัวก็เข้ามากอดเขาหน้าตาเฉยเลยแถมยังตัวเปลือยเปล่าเหมือนกันอีกและที่สำคัญพอณัฐภาส

กอดเขาอย่างนี้แล้วเนื้อตัวได้สัมผัสกันก็ทำให้รู้เลยว่าสามิสามีคนดีของเขานั้นมีอารมณ์ต่อมหื่นแตกอีกแล้ว!!!!



       "พัสก็หน้าจะรู้นี่คะว่าพี่เข้ามาทำไม" ณัฐภาสบอกเสียงแตกพร่าพร้อมเป่าลมร้อนรดต้นคอพัสกรเบาๆจนพัสกรขนลุกขนชัน



       "แต่เมื่อคืนก็พึ่งทำ....อื้อออออออ" ยังไม่ทันที่พัสกรจะได้ท้วงติงอะไร ก็โดนณัฐภาสจับหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากันและ

ประกบจูบอย่างร้อนแรงเลยในทันที โดยที่พัสกรได้แต่ร้อมอู้อี้อยู่ในลำคอ ลิ้นร้อนไล่ต้อนเกี่ยวรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน จนพัสกร

เริ่มมีความรู้สึกวาบหวิวต้องการขึ้นมาบ้างเลยจูบตอบกลับไปบ้างเหมือนกัน และนั่นทำให้ณัฐภาสถูกใจไม่น้อย จากเด็กน้อย

ที่ไม่ประสีประสาเรื่องอย่างว่าในวันนั้นก็สามารถตอบกลับและรับแรงอารมณ์ของเขาได้อย่าดีไม่มีที่ติและไม่เคยทำให้รู้สึกเบื่อ

เหมือนอย่างคนที่ผ่านๆมาเลย มีแต่ทำให้ลุ่มหลงขึ้นทุกวัน ยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่าอดีตคาสโนว่าอย่างเขานั้นหลงเมียจน

หน้ามืดเลยทีเดียว ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ



     "อ๊ะ! อื้ออออออ" พัสกรร้องครางออกมาเมื่อณัฐภาสบีบขยำก้นนุ่มของเขาอย่างแรง พร้อมทั้งผละปากซุกไซ้คอขาวอย่าง

กระหาย ขบกัดและดูดเม้มทิ้งรองรักสีกุหลาบไว้ประปรายทั่วทั้งลำคอขาวท่ามกลางสายน้ำที่ไหลลงมาจากฝักบัวอย่างไม่

ขาดสาย



       "อ๊ะ! ทำอะไรน่ะพี่ภาส!!!" พัสกรถามอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆณัฐภาสก็อุ้มตัวของเขาขึ้นจนตัวลอยอย่างไม่บอกไม่กล่าว

ทำให้เขาผวาใช้ทั้งแขนทั้งขากอดรัดณัฐภาสด้วยความตกใจ เลยทำให้สภาพตอนนี้ของเขาทั้งสองคนนั้นเหมือนลูกลิง

กอดแม่ก็ไม่ปาน

 

       "กอดให้แน่นๆนะคะที่รัก" ณัฐภาสขยับดันหลังพัสกรให้ชิดแนบกับผนังห้องน้ำพร้อมทั้งกระซิบบอกเบาๆ สองมือแกร่ง

จับกระชับสะโพกมนไว้แน่น นิ้วร้อนของณัฐภาสกดนวดปากทางเข้าอยู่ซักพักาก่อนที่จะกดเข้าไปสำรวจและขายช่องทาง

จนมันพร้อมที่จะรับตัวตนของเขาได้แล้ว



       "อ๊าาาาาาาาาาา" พัสกรผวาร้องครางออกมาเสียงดังเมื่อณัฐภาสเลื่อนมือมาโอบเอวของเขาจับตัวเขากดลงพร้อมกับ

สวนสะโพกดันตัวตนของตัวเองเข้าไปในช่องทางของพัสกรอย่างแรงจนพัสกรร้องเสียงหลง ณัฐภาสซุกหน้าดูดดุนยอดอก

สีสวยของพัสกรที่ล่อตาล่อใจอยู่ตรงอย่างมันเขี้ยว โดยที่สะโพกแกร่งทำงานได้อย่างดีไม่มีตกกระแทกเข้าออกอย่างเน้นๆ



     "อ่าาาาาา แมร่ง! โคตรดี" ณัฐภาสสบถเสียงหื่นพร้อมทั้งอุ้มพัสกรเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ากระจกตรงอ่างล้างหน้าทั้งๆที่

ส่วนที่เชื่อมต่อยังไม่หลุดออกจากกัน ณัฐภาสถอดตัวตนออกทั้งอุ้มพัสกรลงจากตัวตัวเองก่อนที่จะจับพัสกรหันหน้าเข้า

กระจกและหันหลังให้ตัวเอง



       "มองตัวเองดีๆนะที่รัก" ณัฐภาสบอกพร้อมทั้งจับตัวตนตัวเองจ่อเข้าไปในช่องทางก่อนจะขยับเข้าออกอย่างหนักหน่วง

และต่อเนื่องทันที ไม่ทันที่จะให้พัสกรได้พักหายใจเลย



      "อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อื้ออออออออ" พัสกรได้แต่ร้องครางออกมาตามจังหวะการกระแทกของณัฐภาสเพียงเท่านั้น ณัฐภาสจับรั้ง

หน้าพัสกรให้หันไปหาตัวเองพร้อมก้มประกบจูบอย่างกระหาย ไม่เลย เขาไม่เคยที่จะเต็มอิ่มอย่างนี้เลยไม่ว่ากับใคร

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วเข้าใจดีเลยด้วยว่าเมคเลิฟกับเซ็กส์นั้นแตกต่างอย่างไร ความสุขที่เขาได้รับนั้นมันต่างกันมากเลยทีเดียว

การเมคเลิฟกับพัสกรภรรยาตัวน้อยของเขานั้นไม่ว่าเมื่อไหร่มันก็ทำให้เขานั้นสุขได้ทั้งกายทั้งใจรู้สึกเต็มอิ่มมากจนไม่สามารถ

ไปมีความรู้สึกกับใครได้อีกเลย



       "อ๊ะ อ๊ะ อ๊างงงงงงงงงงงง" พัสกรร้องครางออกมาจนสุดเสียงเมื่อปลดปล่อยออกมาโดยที่เขาหรือณัฐภาสไม่ได้แตะต้อง

ตัวตนของเขาเลยแม้แต่น้อย



       "อ่าาาาาาาาาาาาาา" ณัฐภาสครางอยู่ในลำคอ เมื่อปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางของพัสกรจนหมด ก่อนจะทิ้งพลุบ

หน้าซบลงกับหลังพัสกรอย่างเหนื่อยหอบทั้งๆที่ยังไม่ได้ถอดถอนตัวตนออกมาจากช่องทางรักของพัสกร

.

.

.

.

.

กลับมาปัจจุบัน



       "อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาาาาาาาาา"

 

       "อืมมมมมมมมมมมม" ณัฐภาสขยับสะโพกอีกสามสี่ทีก่อนที่จะดึงตัวเองออกพร้อมกลับทิ้งตัวลงนอนข้างๆพัสกร

ที่นอนคว่ำหอบตัวโยนเพราะความเหนื่อยจากบทรักเมื่อสักครู่นี้



       "อื้อ....ไม่เอาแล้วนะพี่ภาสเดี๋ยวพัสไม่มีแรง ไปเจอเพื่อนไม่ได้อีก" พัสกรบอกพร้อมใช้มือยันหน้าสามีออกที่ตอนนี้

พยายามที่จะจูบจะฟัดเขาอยู่นั่นแหละ ทำไมถึงมาอยู่สภาพนี้นะหรอ? ก็หลังจากที่ทานมื้อเช้าตอนบ่ายสองกันเสร็จแล้ว

เขาก็ทิ้งให้ณัฐภาสนั่งงอลอยู่ในครัวเรื่องที่เขาแกล้งบอกว่าจะไม่ยอมให้เจ้าตัวไปเจอเพื่อนของเขาในคืนนี้ด้วยก็เท่านั้น

ใครจะคิดล่ะว่าขณะที่เขาหนีขึ้นมาเลือกเสื้อผ้าของเขาและณัฐภาสสำหรับใส่ในคืนนี้อยู่ดีๆเจ้าตัวจะมาขู่ขอไปด้วยโดย

ใช้วิธีนี้ล่ะ แล้วเป็นไงน่ะหรอ? ก็เสียไปสองรอบไง และไอ้สองรอบเนี่ยของณัฐภาสนะของเขาอ่ะไม่ทันได้นับ พัสกรล่ะ

อยากจะบ้า!!! ไม่รู้ว่าสามีจะหื่นไปถึงไหน!!!



...

มาแบบมึนๆอย่างอึนๆ แต่ก็มาเพราะความคิดถึงนะ

#กอดดดดดดดด(แน่นๆ) :กอด1:



 





 







 

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ขยันทำการบ้านแบบนี้ เบบี๋กำลังจะมาใช่
ไหมน้อ~ ^^

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
พอได้หื่นก็หื่นไม่หยุดเลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มีสามีหื่นต้องทำใจนะพัส

ออฟไลน์ KS.F

  • มือใหม่หัดแต่งนิยาย ช่วยแนะนำด้วยน่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หื่นๆ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
หื่นอย่างนี้ เห็นทีจะลูกดก 55555

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
ดึกๆมี่จะเอามาลงให้นะคะ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะดึกแค่ไหน

ยังไงก็รอลุ้นกันเอานะคะ (มี่พยามเร่งให้เต็มที่เลย):katai4:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
นาลอ่คุณเมียภาคบังคับตอนที่ 15









       Tru...Tru...Tru



       เสียงโทรศัพท์ของณัฐภาสดังขึ้นไม่ดังมากนักในขณะที่เขาทั้งสองคนอยู่ในรถซึ่งกำลังเดินทางไปตามนัดของ

กลุ่มเพื่อนพัสกรหลังจากที่ตกลงกันได้แล้วว่าจะไปด้วยกัน แต่กว่าที่จะตกลงกันได้นั้นพัสกรก็ต้องเหนื่อยเพราะช่วย

สามีทำภารกิจปั้มลูกไปอีกสองรอบเต็มๆ ทั้งๆที่ตอนแรกก็ตั้งใจจะพาณัฐภาสไปแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนตัวเองด้วยอยู่

แล้ว แต่ด้วยความที่อยากจะแกล้งให้สามีนอยด์เล่นๆสักหน่อยจึงบอกว่าจะไปคนเดียวโดยไม่พาเจ้าตัวไปด้วยและผล

สุดท้ายเป็นไงน่ะหรอ? ฮึ! แทบตาย!!



       "พี่คุณโทรมาอ่ะ" พัสกรหยิบโทรศัพท์ของณัฐภาสขึ้นมาโชว์หน้าจอให้เจ้าของดูว่าเป็นใครที่โทรมา เพราะโทรศัพท์

ณัฐอยู่กับตัวเองและเจ้าของกำลังขับรถอยู่



       "รับแล้วเปิดลำโพงเลยค่ะ"  ณัฐภาสบอก



       ("ไอ้ภาสเว้ย!!! ไอ้ภาส!!!") เสียงเจ้าคุณตะโกนโหวกเหวกเสียงดังมาตามสายทันทีเมื่อพัสกรรับสายและเปิดลำโพง

ถือยื่นไปทางณัฐภาส



       "เออ! มีไร กูขับรถอยู่" ณัฐภาสบอกทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาออกจากถนน



       "เมียกู!! เมียกูท้อง!!! กูจะเป็นพ่อคนแล้วเว้ยยยยยยย!!!!" เสียงของเจ้าคุณตอบกลับมาอย่างดังเหมือนกับเจ้าตัวนั้น

ตะโกนคุยอยู่ก็ไม่ปาน แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดเลยคือน้ำเสียงของเจ้าคุณที่พูดออกมานั้นมันแฝงไปด้วยความดีใจเป็นอย่าง

มากจนคนได้ยินก็รู้สึกดีใจตามไปด้วย



       "เออ!! กูยินดีด้วยเว้ย เอาไว้ค่อยคุยกันที่หลังนะมึง กูขับรถอยู่" ณัฐภาสบอกยินดีจากใจจริงก่อนจะหันมองหน้าภรรยา

คนสวยที่เหมือนจะนิ่งไปเลยหลังจากที่วางสายจากเจ้าคุณไปแล้ว ส่วนเรื่องของเจ้าคุณกับธาราเขาเองก็ยังไม่รู้อะไรมากนัก

หรอก แต่ก็พอจะรู้ว่าสองคนนั้นอยู่ในสถานะไหนแม้ว่าเจ้าคุณจะไม่ได้พูดไม่ได้บอกอย่างชัดเจนก็ตาม ในเมื่อเพื่อนไม่บอก

เขาก็ไม่ถามเพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของใครของมันและจะไม่ก้าวก่ายกัน และก็อดที่จะตกใจไม่ได้เหมือนกันว่าธารา

อดีตเพื่อนรักของเขาจะเป็นผู้ชายท้องได้เหมือนกันกับพัสกรล



       "เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ทำไมถึงเงียบอย่างนี้ล่ะ" ณัฐภาสเอื้อมมือข้างนึงมากุมมือของพัสกรที่วางอยู่บนตักของเจ้าตัว

ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าภรรยาของตนนั่งก้มหน้านิ่งเงียบไปเลยหลังจากที่วางสายเจ้าคุณไป



       "เปล่าครับ" พัสกรตอบเสียงนิ่ง



       "ถ้าไม่ได้เป็นอะไรจริงๆก็เงยหน้ามามองพี่หน่อยสิครับ หรือสามิสามีคนนี้ไม่หล่อแล้วเมียจ๋าถึงไม่อย่ากมอง"

ณัฐภาสพูดถามอย่างทีเล่นทีจริงหวังว่าจะให้ภรรยาคนสวยเลิกคิดในสิ่งที่อยู่ในใจเสียที เมื่อหันมองพัสกรอีกครั้งและ

ได้เห็นสีหน้าด้านข้างหม่นๆของภรรยา ก็พอจะเดาได้บ้างว่าพัสกรคิดอะไรอยู่



       "คิดเรื่องลูกหรอคะ?" ณัฐภาสตัดสินใจถามออกไปตรงๆ เมื่อพัสกรยังคงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างที่เขาต้องการ



       "พี่ภาสรู้หรอ" พัสกรเงยมองหน้าณัฐภาสถามอย่างประหลาดใจ



       "ก็ต้องรู้สิคะพัสเเป็นเมียพี่ทั้งคนนะ ถึงเราจะอยู่ด้วยกันมาไม่นานแต่พี่ก็รู็ทุกอย่างแหละว่าเมียพี่ต้องการอะไรหรือ

รู้สึกยังไงอ่ะ เพราะถ้าไม่รู้นี่พี่คงจะเป็นสามีที่แย่มากเลยนะ! ถึงแม้ว่าจะเคยก็เถอะ!" ณัฐภาสพูดติดตลกในประโยคสุดท้าย



       "พัสแค่คิดว่าถ้าพัสท้องบ้างก็คงจะดี พี่ภาสเองก็คงจะดีใจไม่ต่างกับพี่คุณ" พัสกรบอกเสียงแผ่ว



       "ก็ต้องดีใจสิ พี่จะดีใจมากๆเลยล่ะถ้าพัสท้องน่ะ แต่เราจะไปกะไปเกณฑ์ให้เป็นอย่างที่ใจหวังไม่ได้หรอกนะครับ

ในเมื่อมันยังไม่ถึงเวลาของเราของคน ต่อให้พี่ขยันทำการบ้านกว่านี้สักร้อยเท่าถ้ามันไม่ใช่วันของเรายังไงเขาก็ไม่มา

เข้าใจที่พี่พูดใช่ไหมครับ?" ณัฐภาสพูดบอกพร้อมกับบีบมือพัสกรเบาๆ



       "พัสเข้าใจครับแต่ก็อดที่จะนอยด์ไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไมได้ถึงรู้สึกแย่อย่างนี้พัสก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน" พัสกรพูดบอก

เมื่อรู้สึกสับสนไม่และเข้าใจความรู้สึกของตัวเองแทนที่จะรู้สึกยินดีไปกับเจ้าคุณแต่กลับรู้สึกแย่ซะงั้น



       "อย่าคิดมากน่า ไม่แน่นะบางทีในท้องของพัสตอนนี้อาจจะมีลูกของเรานอนหลับปุ๋ยอยู่แล้วก็ได้ใครจะไปรู้ ในเมื่อพี่

ออกจะขยันซะขนาดนี้ แล้วอีกอย่างนะคะ ช่วงนี้พัสอาจจะไม่รู้ตัวเองก็ได้ว่าพัสนั้นอารมณ์แปลปวนมากๆเลยนะ"

ณัฐภาสบอกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพักนี้พัสกรเหมือนอารมณ์ขึ้นๆลงไม่คงที่เลย ถ้าเท่าที่เขาสังเกตุมาตลอดทั้งอาทิตย์นะน่ะ



       "พี่ภาสพูดจริงหรือฮะ? ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พัสอาจจะท้องอยู่แล้วก็ได้ใช่ไหมฮะพี่ภาส" พัสกรถามอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยิน

สามีบอกอย่างนั้น ซึ่งอารมณ์ที่แสดงออกมาทางน้ำเสียงและสีหน้านั้นแตกต่างจะเมื่อสักครู่โดยสิ้นเชิงเลย




       .....เนี่ยแหละ! ช่วงหลังๆมาพัสกรมักจะเป็นอย่างนี้ไงเขาถึงคิดอย่างนั้น.....




       "จริงสิคะ? เอาอย่างนี้ไหมถ้าพัสอยากแน่ใจเดี๋ยวพรุ่งนี้เราพี่พาไปตรวจที่โรงพยาบาลเลยดีมั้ยคะ?" ณัฐภาสพูดบอก

เพราะเขาเองก็อยากจะรู้ให้แน่ใจเหมือนกัน



       "ดีที่สุดเลยฮะ!!!" พัสกรตอบอย่างร่าเริงพรางเอามืออีกข้างที่ณัฐภาสไม่ได้จับไว้วางบนท้องตัวเองเบาๆ ทั้งๆที่ยังไม่

แน่ใจอะไรแต่กลับรู้สึกอุ่นวาบเข้าไปถึงหัวใจจนเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว และนั่นก็ทำให้ณัฐภาสอดยิ้มตามไม่ได้เมื่อ

เห็นว่าภรรยาคนสวยของเขานั้นอารมณ์ดีจนหลุดยิ้มออกมาได้แล้ว

.

.

.

.

.

        "ทางนี้เว้ยพัสทางนี้!!" เสียงตะโกนเรียกชื่อพัสกรดังมาจากโต๊ะมุมในสุดของร้าน ร้านที่กลุ่มเพื่อนพัสนัดกันมาเจอวันนี้

เป็นร้านอารหารกึ่งผับที่มีชื่อเสียงระดับนึงในตัวเมืองจังหวัดซึ่งอาจจะไม่มีชื่อเสียงเท่ากับผับของณัฐภาสแต่ก็บรรยากาศดี

และน่านั่งไม่น้อยไปกว่ากันหรอกแค่ต่างสไตล์กันก็เท่านั้นเอง



       "ว่าไงๆวันนี้คนสวยประจำกลุ่มมันมีคนคุมเว้ย!!" ยังไม่ทันได้นั่งหนึ่งในเพื่อนของพัสกรคนนึงก็พูดแซวขึ้นมาเมื่อเห็น

ว่าพัสกรเดินจูงมือกันกับณัฐภาสเข้ามาในร้าน



       "อย่าไปแซวหนูพัสมันมากน่าไอ้ยศ คนเขามีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วจะให้ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ไง จริงไหมคะพี่ภู"

หญิงสาวคนเดียวของกลุ่มเหมือนจะเอ่ยปรามเพื่อนชายคนแรก ก่อนที่จะหันไปถามภูผาที่นั่งดูคนอื่นทักทายกันอย่างเงียบๆ



       "ฮึๆ ก็คงอย่างงั้น พัสสวยขนาดนี้ใครได้ไปเป็นภรรยาก็ต้องหวงเป็นธรรมาดา จริงไหมครับคุณณัฐภาส" ภูผารับคำหญิง

หญิงสาวพร้อมกับหัวเราะเบาๆก่อนที่จะหันไปพูดกับณัฐภาสที่ตอนนี้นั่งลงกั้นกลางระหว่างพัสกรและภูผาส่วนอีกด้านหนึ่ง

ของพัสกรก็เป็นสมาชิกสาวคนเดียวของกลุ่มที่นั่งติดกันกับผู้ชายที่ชื่อยศที่เป็นคนทักพัสกรคนแรกนั่นเองเพราะโต๊ะที่นั่งนั้น

เป็นแบบวงกลม



       "อ๊ะ...แน่นนอนสิครับ! ภรรยาผมทั้งคนนะจะไม่ให้หวงได้ยังไง ยิ่งชอบมีพวกมดแดงแฝงมะม่วงตีเนียนจ้องจะงาบ

พัสอยู่ใกล้ๆตลอดเวลายิ่งแล้วใหญ่ เป็นใครก็ต้องหวงแบบผมทั้งนั้นแหละ จริงมั้ย?ครับคุณภูผา" ณัฐภาสพูดยิ้มๆติดตลก

เหมือนไม่ได้จริงจังอะไร แต่ไม่ใช่สำหรับภูผาแน่นอนที่จะเชื่ออย่างนั้น เพราะสายตาของณัฐภาสมองมาตอนที่หันมาพูด

กับเขานั้นมันแฝงคำพูดอะไรบางอย่างส่งมาให้เขาด้วย



       "เอ่อ...เรายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนี่หน่า พี่ภาสฮะคนหน้ากวนๆนั่นชื่อยศ หญิงเหล็กคนเดียวของกลุ่มชื่อครีมฮะ

ส่วนพี่ภูนี่พี่ภาสคงจะรู้จักแล้วเน๊าะ ส่วนนี่พี่ภาสสามีของเราเอง" พัสกรพูดแทรกขึ้นก่อนที่ณัฐภาสและภูผาจะได้พูด

อะไรกันต่ออีกเมื่อเห็นว่าบรรยากาศการพูดคุยของทั้งสองคนกำลังจะลงเอยด้วยการจิกกัดกันเหมือนกันกับทุกๆครั้งที่

มีโอกาสได้เจอกัน โดยที่เริ่มแนะนำตั้งแต่ผู้ชายที่มีบุคลิคกวนๆคนแรกว่าชื่อยศ ต่อมาก็หญิงสาวคนเดียวของกลุ่มที่ถ้า

ผู้ชายคนไหนมีโอกาสได้เห็นเป็นอันต้องหันมองกันทุกคนแน่ๆเพราะว่าเธอนั้นสวยจริงๆ และมาจบที่ภูผาซึ่งเป็นที่รู้จัก

กันดีอยู่แล้ว ก่อนที่จะแนะนำณัฐภาสให้เพื่อนของตัวเองได้รู้จักกันกับณัฐภาสบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าการที่พัสกรแนะนำ

บอกกับเพื่อนทุกคนตรงๆไปว่าณัฐภาสนั้นคือสามีของตัวเองก็เรียกเสียงโห่แซวของเพื่อนได้เป็นอย่างดี



       Tru...Tru...Tru

     

       "พี่ภาสฮะคุณพ่อโทรมา" ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกันต่อพัสกรก็หยิบโทรศัพท์ของณัฐภาสที่อยู่ในกระเป๋าถือของตัวเอง

ขึ้นมาให้เจ้าของพร้อมกับบอกว่าใครเป็นครโทรมาเมื่อณัฐภาสเลิกคิ้วถาม



       "อ่าว! ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ออกไปคุยข้างนอกนะ ขอตัวสักครู่นะครับ" ณัฐภาสบอกพร้อมกับรับโทรศัพมาจากพัสกร

ก่อนจะหันไปพูดบอกกับเพื่อนพัสกรที่นั่งคุยค้างกันอยู่และก็เดินออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกเนื่องจากว่าข้างในนั้น

เปิดเพลงเสียงดังคุยไม่รู้เรื่องหรอก



       "อ้าวๆ ผัวแค่ออกไปรับโทรศัพท์เองจะมองตามให้คอหักเลยรึไงครับคุณหนูพัส" ยศพูดแซวเมื่อเห็นว่าพัสกรมองตาม

หลังณัฐภาสที่เดินออกไปทางหน้าร้าน



       "ไอ้ยศบ้า!! เราแค่มองเฉยๆไม่ได้อะไรขนาดนั้นซะหน่อย" พัสกรว่าเพื่อนแก้เขิน



       "เออๆ ฉันจะเชื่อก็ได้ ว่าแต่แกจะดื่มอะไรเอาเหมือนเดิมรึเปล่า?" ยศถามพร้อมกับเตรียมผสมเหล้าให้กับพัสกร



       "ไม่ว่ะ! ขอแค่น้ำแดงก็พอ" พัสกรบอกในสิ่งที่ตัวเองอยากดื่มออกไป ซึ่งคำตอบนั้นทำให้เพื่อนๆงงกันไปตามๆกัน

เพราะถึงพัสกรจะไม่ใช่คนดื่มจัดและทุกครั้งที่ดื่มก็จะดื่มทีละน้อยๆถึงจะไม่ได้ดื่มจนให้ตัวเองเมาแต่พัสกรก็ไม่เคย

ปฎิเสธเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากเพื่อนเลยซักครั้งที่สำคัญพัสกรชอบดื่มโค้กและเกลียดน้ำแดงเป็นที่สุด



       "อะไรวะ? มีสามีแล้วแอ๊บเรียบร้อยหรอแก ฉันเห็นปกติแกเกลียดน้ำแดงจะตาย" ครีมถามอย่างแซวๆ



       "เฮ้ย! ไม่ใช่เว้ยไม่ใช่ เราแค่ไม่กล้าที่จะกินเฉยๆ" พัสกรโบกมือปฎิเสธเป็นพัลวันเพราะเขาไม่ได้จะแอ๊บอย่างที่เพื่อนพูด

แต่อย่างใด ตอนนี้นะเขาไม่ต้องมานั่งแอ๊บเรียบร้อยกับณัฐภาสแล้วล่ะเพราะณัฐภาสคงจะรู้นิสัยเขาจนหมดไส้หมดพุงแล้ว

แหละเพราะหลังๆมานี่เขารู้สึกยังไงก็แสดงออกไปอย่างนั้นตลอดไม่มีมาเก็บความรู้สึกเหมือนเมื่อก่อนหรอก ก็เหมือนกัน

กับเพื่อนกลุ่มนี้ที่เป็นเพื่อนสนิทกับเขานี่แหละเขาไม่เคยแอ๊บเรียบร้อยใส่กันหรอกมีแต่เปิดเผยแบบแรงๆกันทั้งนั้นเพียง

แต่คำพูดของเขาอย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่สามารถพูดหยาบๆอย่างเพื่อนได้เพราะเขาถูกสั่งสอนให้พูดอย่างนี้มาจนเคยชิน

แต่ก็ใช่ว่าเขาจะหยาบจะด่าไม่เป็นเพียงแต่ถ้าไม่ถึงขีดสุดเขาก็จะไม่ทำเท่านั้นเอง



       "แกเนี่ยนะที่ปฎิเสธเหล้าแล้วร้องจะกินน้ำแดงน่ะ" ยศพูดออกมาเหมือนไม่เชื่อไอ้ปฏิเสธเหล้าน่ะเขาเข้าใจเพราะว่า

พัสกรไม่ใช่คนดื่มจัดหรือคนติดแอลกอฮอล์ แต่ไอ้ที่จะกินน้ำแดงที่เป็นเครื่องดื่มที่เกลียดที่สุดทั้งๆที่มีโค้กของโปรดวาง

อยู่ด้วยนี่แหละมันถึงได้น่าีดูเหลือเชื่อขนาดนี้



       "เราแค่อยากกินน้ำแดงอ่ะ อยากกินมากด้วยแล้วอีกอย่างเราไม่แน่ใจว่า..." พัสกรบอกพร้อมกับลูบท้องตัวเองเบา

พรางนึกสงสัยตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้อยากกินน้ำแดงที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนาขนาดนี้ ที่เขาเกลียดน้ำแดง

น่ะ เขามีเหตุผลนะถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับคนอื่นก็เถอะ สำหรับเขาน้ำแดงมันเหมือนกับเป็นอาถรรพ์

สำหรับเขามาโดยตลอด ครั้งแรกเลยที่เขาร้องที่จะกินน้ำแดงก็ตอนประมาณสองสามขวบมั้งไม่แน่ใจเขาจำไม่ค่อยได้

แต่ที่จำได้แม่นเลยคือน้ำแดงแก้วแรกทำให้เขาเสียพี่ชายใจดีเพื่อนเล่นคนเดียวของเขาไปซึ่งมารู้หลังแต่งงานแล้วนี่ว่า

พี่ชายใจดีคนนั้นคือณัฐภาสสามีของเขานั่นเองเพราะหลังจากวันที่พี่ชายใจดีคนนั่นเอาน้ำแดงมาให้เขาตามที่เขาร้องขอ

วันต่อมาจนวันเวลาผ่านไปหลายปีพี่ชายใจดีคนนั้นก็ไม่เคยกลับมาหาเขาอีกเลยและเขาก็ไม่เคยมีความอยากที่จะกิน

น้ำแดงนั่นเลยมีแต่พอเห็นแล้วก็รู้สึกไม่ดีและเขาก็นึกอยากกินอีกก็ตอนที่เสียคุณปู่และคุณย่าไปแต่ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้

กินนะแต่คุณปู่กับคุณย่าก็จากไปอยู่ดี แต่เขาก็ไม่เคยห้ามความอยากนี้ได้สักทีและเหมือนครั้งนี้มันจะรุนแรงมากเป็น

พิเศษเสียด้วยเขาถึงร้องขอมันออกมาเอง ตอนที่ตอบเพื่อนไปว่าจะกินน้ำแดงนั้นมันหลุดปากออกมาเองนะไม่ใช่ความ

ตั้งใจของเขาเลย



       "ท้อง? แกบอกว่าแกท้มองหรอไอ้หนูพัส!!!" ครีมอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าพัสกรใช้มือลูบท้องตัวเองก่อนที่จะถามออกมา



       "จริงหรอพัส / ไอ้หนูพัส" ภูผาและยศถามออกมาพร้อมกันซึ่งสีหน้าทั้งสองคนก็ตกใจไม่น้อยไปกว่าครีมเลย



       "ยังไม่แน่ใจอ่ะ! พี่ภาสว่าจะพาไปตรวจพรุ่งนี้ เลยอยากป้องกันไว้ก่อนกลัวว่าถ้ามีเขาจริงๆแล้วมันจะอันตราย แหะๆ"

พัสกรพูดบอกเบาๆอย่างเขินๆ เมื่อเห็นว่าเพื่อนทุกคนล้วนแต่นั่งจ้องเขม็งรอคำตอบจากเขา



       "กรี๊ดดดดด!!!! ฉันจะมีหลานแล้วหรอเนี่ย!!! ยินดีด้วยนะแก ฉันยินดีด้วย ขอให้แกท้องจริงๆเถอะ สาธุ!!" เมื่อได้ยิน

คำตอบของพัสกรครีมก็หลุดกรี๊ดออกมาจนลูกค้าโต๊ะรอบข้างหันมามองกันแทบจะทุกคนจนยศต้องหันไไปขอโทษแทน

เพราะครีมยังคงปลื้มปริ่มยินดีกับพัสกรจนไม่สนใจใคร



       "เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ภูผาพูดบอกกับทุกคนหลังจากที่นั่งฟังเพื่อนๆในกลุ่มคุยกันอย่างเงียบๆอยู่นาน ทุกคน

ในกลุ่มรู้ว่าภูผาอายุมากกว่าตัวเองถึงจะเป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันหรือสนิทกันแค่ไหนแต่ทั้งพัสกร ครีมและยศต่างก็เรียก

ภูผาว่าพี่กันทุกคนเพราะเคารพและให้เกียรติที่ภูผาอายุมากกว่าตัวเองหลายปี

.

.

.

.

.

       ทางด้านของณัฐภาสที่ออกมาคุยกับเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของตัวเอง



       "ว่าไงพ่อ?" ณัฐภาสกรอกเสียงรับสายลงไปหลังจากที่หามุมสงบและเงียบไปด้แล้ว



       ("แกอยู่ไหนน่ะภาส อยู่บ้านแกหรือเปล่า") เจ้าสัวชัชวาลย์ถาม



       "เปล่า อยู่ข้างนอก พ่อมีไรอ่ะ"



       ("ฉันจะให้แกเข้าไปเอาเอกสารในตู้เซฟที่บ้านให้ฉันหน่อย ตอนนี้ฉันกำลังจะเข้าประชุมด่วนกับลูกค้าน่ะพอดีเขามา

แบบปุ๊บปั๊บ จะไปเอาเองก็ทิ้งทางนี้ไม่ได้จะให้ใครไปเอาก็ไม่ไว้ใจ ฉันเก็บมันไว้ในตู้เซฟที่ห้องทำงานน่ะ แกจะไปเอาให้

ฉันหน่อยได้มั้ยไอ้ภาส") เจ้าสัวชัชวาลย์บอก ที่จริงเวลานี้เขาควรจะได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว แต่ว่าลูกค้าต่างชาติ

รายใหญ่ที่ซื้อขายเพชรด้วยกันมาหลายปีก็เข้ามาหาที่บริษัทเพราะว่าทางนั้นเขามาติดต่องานที่ไทยพอดีและขอคุยเรื่องการ

ซื้อขายล็อตต่อไปก่อนที่จะกลับประเทศบ้านเกิดในวันพรุ่งนี้อีก ซึ่งเป็นล็อตใหญ่และมีมูลค่ามากกว่าทุกครั้งเสียด้วย

จะทิ้งลูกค้าไปเอาเอกสารสำคัญประกอบการประชุมครั้งนี้เองก็ไม่ได้แต่จะใช้ให้ลูกน้องไปเอาเองก็ไม่ไว้ใจเพราะว่าใน

ตู้เซฟของเขานั้นมีแต่เอกสารสำคัญๆและเอกสารบางอย่างก็มีมูลค่ามากด้วยก็เลยเลือกที่จะวานให้ณัฐภาสที่เป็นลูกชาย

ของเขานี่แหละไปเอาเพราะว่าเขาไว้ใจที่สุดแล้ว



       "ผมไปเอาให้พ่อก็ได้ ว่าแต่พ่อจะเอาเอกสารอะไรล่ะ" ณัฐภาสตอบกลับอย่างไม่ลังเลเมื่อได้ยินเสียงเหนื่อยอ่อนของ

เจ้าสัวชัชวาลย์ เพราะถ้าไม่กระทันหันและสำคัญจริงๆพ่อของเขาคงจะไม่เอ่ยปากขอให้เขาช่วยออกมาอย่างนี้หรอก

ถึงแม้ว่าช่วงหลังๆตั้งแต่โตมาความสัมพันธ์ของเขากับเจ้าสัวชัชวาลย์จะไม่ค่อยดีนักแต่ใช่ว่าเขาจะไม่ห่วงพ่อของเขา

เสียเมื่อไหร่ ยังไงๆพ็พ่อเขาทั้งคนนะ

.

.

.

.

.

       "คุณพ่อว่ายังไงบ้างฮะพี่ภาส" พัสกรที่นั่งคุยกับเพื่อนๆโดยมีน้ำแดงอยู่ในมือถามขึ้นเมื่อเห็นว่าณัฐภาสเดินหน้ายุ่งเข้ามา



       "เขาให้พี่ไปเอาเอกสารที่บ้านไปให้เขาที่บริษัทน่ะ พัสอยู่คุยกับเพื่อนก่อนนะเดี๋ยวพี่จะรีบมา" ณัฐภาสบอก ที่จริงเขาน่ะ

ไม่อยากจะให้พัสกรห่างตัวเองหรอกยิ่งมีภูผาคนที่แสดงอย่างชัดเจนว่าจ้องจะตะครุบภรรยาคนสวยของเขาอยู่ใกล้ๆแล้วด้วย

ยิ่งไม่อยากจะห่าง แต่จะให้เขาพาพัสกรไปด้วยก็เกรงใจพวกเพื่อนๆที่เหลือของพัสกรเพราะทุกคนตั้งใจมาเที่ยวหาภรรยาเขา

โดยตรงจะให้เขาเอาตัวพัสกรกลับไปด้วยทั้งๆที่มายังไม่ถึงสิบนาทีเลยอย่างนี้ก็จะดูหน้าเกลียดไปหน่อยและพัสกรเองก็คง

อยากที่จะพูดจะคุยกับเพื่อนตัวเองนานๆเหมือนกันเพราะเคยบ่นกับเขาอยู่บ่อยๆว่าคิดถึงเพื่อนพอเรียนจบปุ๊บก็โดนจับแต่ง

งานกับเขาปั๊บโดยที่ไม่ได้พูดคุยหรือได้เจอเพื่อนๆเลยสักครั้ง



       "พี่ภาสไปคนเดียวอย่างนี้จะดีหรือฮะ" พัสกรถามติดกังวลเพราะเขาไม่อยากให้ณัฐภาสไปคนเดียวแต่ก็ยังอยากที่จะคุย

กับเพื่อนๆของตัวเองต่อเพราะไม่ได้เจอกันมานานแล้ว



       "ดีสิคะ อย่าคิดมากเลยน่า อยู่คุยกับเพื่อนไปนั่นแหละครับเดี๋ยวพี่จะรีบไปแล้วจะรีบกลับมาหาพัสเลยโอเคมั้ยคะ?"

ณัฐภาสบอกภรรยาเสียงอ่อนแค่ดูหน้าตอนที่เขาบอกว่าพ่อใช้ให้ไปเอาเอกสารให้ก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวอยากจะอยู่คุยกับเพื่อน

ต่อขนาดไหน แต่ก็อดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ที่พัสกรแสดงความเป็นห่วงเขาออกมาทางสีหน้าชัดเจนขนาดนี้ทั้งๆที่อยู่ต่อหน้า

คนหมู่มากแท้ๆทั้งๆที่ปกติไม่เคยจะเป็น



       "พัสรออยู่กับเพื่อนที่นี่ก็ได้ครับ แต่พี่ภาสไม่ต้องรีบหรอกนะแล้วก็ห้ามขับเร็วๆด้วย" พัสกรบอกพร้อมกับพูดกระชับ

เรื่องนิสัยการขับรถเร็วของณัฐภาสด้วยหน้าตาจริงจัง โดยไม่ทันเห็นสายตาล้อๆของครีมและยศเพื่อนสนิทสุดแสบของตัวเอง



       "ครับผม!!" ณัฐภาสรับปากพร้อมกับขยี้หัวของภรรยาคนสวยเบาๆด้วยความเอ็นดูก่อนที่จะรีบเดินออกไปจากตรงนั้น

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเจ้าสัวชัชวาลย์บอกว่าต้องการเอกสารอย่างเร็วที่สุด โดยไม่ลืมฝากฝังให้ยศและครีมช่วยดูและพัสกรแทน

ในตอนที่เขาไม่อยู่ด้วย



       "กรี๊ดดด!! ฉากผัวแกที่ขยี้หัวแกด้วยความเอ็นดูสายตาอบอุ่นนั่นฉันนี่อยากจะดั้นตาย!! โอ๊ยแม่นี่ฟินจนตัวแทบแตก!!!"

ครีมกรีดร้องออกมาเบาๆพูดบอกกับพัสกรด้วยสายตาเพ้อๆ แหม!! ก็นะได้เห็นกับตาตัวเองใกล้ๆอย่างนี้เจ้าแม่สาววายที่

จิ้นวายเข้ากระแสเลือดอย่างเธอพอได้เห็นจังๆกับตาตัวเองอย่างนี้ก็อดที่จะกรี๊ดไม่ได้หรอก ก็นี่มันเรียลยิ่งกว่าอ่านนิยาย

หรือเสพอาหารตาตามเพจอีกนะ!!!



       "ฉันว่าแกไม่ได้จะตัวแตกเพราะไอ้หนูพัสสวีตกับผัวมันหรอกแต่ตัวแกจะแตกก็เพราะแดกไม่หยุดนี่แหละยัยครีม

ยัยอ้วนเอ้ย!!! ดูดิแกเป็นผู้หญิงแต่ตัวใหญ่กว่าไอ้หนูพัสมันอีก" ยศพูดสวนขึ้นมาทันทีเมื่อครีมพูดจบประโยค พร้อมกับ

ยกยิ้มยักคิ้วกวนๆใส่ครีมที่กำลังนั่งจิ้มอาหารเข้าปากอยู่อย่างเอร็ดอร่อย แต่เมื่อได้ยินประโยคที่ยศพูดก็หยุดตาค้างอ้าปาก

เหมือนจะพูดเถียงอะไรสักอย่างแต่ก็ทำไม่ได้เนื่องจากยังคงมีอาหารคาปากอยู่อย่างนั้นจึงได้แต่ทำตาขวางใส่ยศ



       "ไม่หล่อแล้วยังปากหมาอีกนะไอ้บ้ายศ!! แกเหมือนกันไอ้หนูพัสไม่ต้องมาหัวเราะฉันเลยนะแกเองก็ผิด" ครีมแว๊ดใส่

ยศที่นั่งขำตัวเองอยู่อย่างใส่อารมณ์ก่อนที่จะหันไปพาลพัสกรที่นั่งหัวเราะเพราะเห็นยศและครีมหยอกล้อแหย่กันเหมือนเดิม

ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมอยู่คนเดียวจนเจ้าตัวหน้าเหวอเมื่อโดนหางเลขไปด้วย



       "อ่าว! เราผิดอะไรด้วยอ่ะ แค่นั่งหัวเราะเฉยๆเองนะเว้ย"  พัสกรถามอย่างขำๆ



       "แกนั่นแหละตัวดีเลยไอ้หนูพัส!! แกผิดที่แกตัวเล็กกว่าฉัน!!" ครีมทำหน้างอบอกแบบพาลๆ



       "ถูกต้องเลยครีมที่ฉันผิดที่เกิดมาตัวเล็กกว่าแกแล้วอะไรอีกนะยศ" พัสกรอมยิ้มเมื่อนึกอะไรขึ้นได้พร้อมกับพูดเหมือน

จะยอมรับว่าตัวเองเป็นคนผิดก่อนที่จะโยนไปให้ยศที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับตัวเอง



       "ใช่ๆไอ้ครีมมันพูดถูกแกนั่นแหละที่ผิดไอ้หนูพัส!! ที่ดันเกิดมาตัวเล็กกว่ามัน ผอมกว่ามัน ขาเรียวกว่ามัน สวยกว่ามัน

น่ารักกว่ามัน เป็นกุลสตรีกว่ามันและก็ดันแต่งงานมีผัวก่อนมันอีก!! แกน่ะผิดเต็มๆเลยไอ้หนูพัส" ยศพูดเหมือนกับต่อว่า

พัสกร จนทำให้ครีมยิ้มออกมาอย่างถูกใจ



       "อ่า..เราขอโทษทีนะครีม แต่ครีมไม่ต้องเสียใจหรอกเพราะว่าครีมสวยมากสวยจริงๆ แต่นิสัยครีมอ่ะแมนเกินหญิงไป

แถมยังกินเก่ง บ้าวาย ไล่เตะผู้ชายเป็นว่าเล่น แต่ครีมจงภูมิใจไว้นะว่าครีมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชากรคานทองเพิ่ม

จำนวนขึ้นอีกตั้งคนนึงเชียวนะ" พัสกรพูดเหมือนยอมรับผิดอย่างนิ่งๆทั้งๆที่ต้องกลั้นขำแทบตาย ที่ต้องพูดไปแล้วนั่งมอง

ครีมที่นั่งจิ้มอาหารกินอย่างอารมณ์ดีเพราะฟังแต่ยังไม่ได้ทันคิดทวนหรือไตร่ตองเพียงแต่ได้ยินเสียงนิ่มๆเหมือนสำนึกผิด

ของเพื่อนทั้งสองคนเท่านั้นเอง จนต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคสุท้ายที่พัสกรพูดก่อนจะค่อยๆไล่ย้อนคิดไปถึงคำพูดของ

เพื่อนทั้งสองคน



     "เพิ่มจำนวนประชากรคานทอง? อ้วนกว่า? แมนกว่า? ขาใหญ่กว่า? ขี้เหล่กว่า? กรี๊ดดดดด!!! ไอ้เพื่อนบ้าแกสองคน

แท็กทีมกันกัดฉันหรอห๊าาาาา!!!!" ครีมกรีดร้องเสียงหลงเมื่อได้นั่งไล่ความคิดคำพูดของเพื่อนทั้งสองคนดีๆก่อนที่จะ

ปาน้ำแข็งในแก้วตัวเองใส่พัสกรและยศ



     "ฮ่าๆ/ฮ่าๆ" โดยที่พัสกรและยศไม่ได้สนใจในคำเหวี่ยงวีนหรือก้อนน้ำแข็งที่ครีมปาใส่เลย แถมยังแท็กมือหัวเราะกัน

อย่างชอบใจเมื่อได้แหย่เจ้าแม่ขาใหญ่ประจำกลุ่มจนหัวเสียเหวี่ยงวีนได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งครีมเองก็ไม่ได้โกรธหรือเคืองอะไร

จริงจังอย่างที่แสดงออกมาหรอกเพราะว่าพวกเขาทั้งสามคนชอบแหย่ชอบแซะกันแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว



       "ว่าไง คุยอะไรกันอยู่ว่ะท่าทางสนุกเชียว" ภูผาที่หายไปนาน(มาก)หลังจากที่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ถามขึ้นเมื่อเห็นว่า

เพื่อน(อายุน้อยกว่า)ทั้งสามคนของเขานั้นเหมือนจะนั่งขำหรือตลกอะไรกันอย่างสักอย่าง



       "ไม่มีอะไรหรอกพี่ภู พวกเราแค่แหย่ไอ้ครีมมันเหมือนทุกทีนั่นแหละครับ" พัสกรหันไปตอบภูผาที่นั่งลงตรงที่เดิม

ของตัวเองที่นั่งก่อนหน้านี้



       "ไงยัยครีม แกโดนบ่อยแล้วยังไม่ชินอีกหรอ" ภูผาถามครีมที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับตัวเองอย่างขำๆ เพราะพอจะรู้

อยู่เหมือนกันว่าหญิงสาวจะโดนสองคนนี้ล้อเรื่องอะไรบ้างซึ่งมีไม่กี่อย่างหรอกไม่เรื่องขึ้นคานก็เรื่องพัสกรสวยกว่า

ทั้งๆที่สวยพอๆกันทั้งคู่นั้นแหละ ถ้าครีมไม่สวยและเป็นอย่างที่ทั้งสองคนนั้นพูดล้อจริงๆล่ะก็เขากับยศคงไม่ต้องเหนื่อย

คอยไล่คอยกันพวกผู้ชายที่เข้ามาวอแวพัสกรและครีมตอนที่อยู่ในมหาลัยหรอกแต่ที่ยังโสดอยู่อย่างนี้ก็เพราะคุณนายเธอ

อยู่สายวายเป็นติ่งบ้านักร้องเกาหลีที่ถือคติว่า 'ถ้าไม่เจอผู้ชายในอุดมคติอย่างโอปป้าเธอเธอก็จะไม่ยอมมีแฟน' ไง แล้ว

อย่างนี้จะไม่ให้เธอเตรียมจองคานได้ยังไง



       "เดี๋ยวเราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" พัสกรบอกกับเพื่อนหลังจากที่นั่งคุยเล่นกันอยู่ได้สักพักใหญ่ๆแล้ว



       "ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม?" ภูผาเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ที่ตัวเองนั่งกดนั่งจิ้มอยู่ถามพัสกร



       "ไม่ต้องหรอกน่าแค่นี้เองพัสไปได้สบายมาก" พัสกรบอกก่อนจะผละเดินออกไป ซึ่งภูผาเองก็พยักหน้ารับรู้

และก้มลงกดๆจิ้มๆหน้าจอมือถือตัวเองต่อ

.

.

.

.

.
[มีต่อด้านล่างอีกค่ะ]
       

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
[ต่อจากด้านบนค่ะ]
.
.
.
.
.

       ตรู๊ดดดดด.....ตรู๊ดดดดดดด



       ("ว่าไงครับที่รัก") หลังจากที่ทำธุระในห้องน้ำและล้างมือเสร็จแล้วพัสกรก็หยิบโทรศัพท์มาโทรออกหาสามี เมื่อเห็น

ว่าในห้องน้ำไม่มีใครนอกจากตัวเองและนึกได้ว่าณัฐภาสออกไปนานแล้วเลยอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้



       "คือพัสเห็นว่าพี่ภาสไปนานแล้วเลยเป็นห่วงนะฮะ" เมื่อได้ยินเสียงของสามีพัสกรก็บอกออกไปตรงๆเลย



       ("อ่อ! ไม่ต้องห่วงครับพี่ใกล้จะถึงร้านแล้วครับแต่ถนนนี้รถติดชะมัด แล้วนี่พัสอยู่ไหนคะทำไมเงียบจัง") ณัฐภาส

บอกหลุดพูดสบถออกมาเมื่อยังติดอยู่ตรงไฟแดงทางตรงกันข้ามกับร้านอาหารที่พัสกรนัดกับเพื่อนใกล้ๆแค่นี้เอง แต่ไม่

ถึงสักทีเพราะว่ามัวติดไฟแดงอยู่ตรงนี้ ไฟเขียวทีนึงรถก็แทบจะไม่ขยับเลย อาจจะเป็นเพราะคืนวันศุกร์ด้วยคนถึงออก

มาเที่ยวกันเยอะขนาดนี้



       "พัสออกมาเข้าห้องน้ำ ถ้าพี่ภาสใกล้ถึงแล้วก็แค่นี้นะฮะ รีบๆมานะฮะสามิสามีเมียจ๋าคนนี้คิดถึง~" พัสกรพูดอ้อน

ทิ้งท้ายก่อนจะวางสายเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองและเดินออกจากห้องน้ำ

.

.

.

.

.

     ("พัสออกมาเข้าห้องน้ำ ถ้าพี่ภาสใกล้ถึงแล้วก็แค่นี้นะฮะ รีบๆมานะฮะสามิสามีเมียจ๋าคนนี้คิดถึง~")



     "ฮึๆ ขยันอ้อนอย่างนี้จะไม่ให้พี่รักพี่หลงได้ไงฮึหนูพัส" ณัฐภาสพูดยิ้มๆอยู่คนเดียวในรถอย่างอารมณ์ดี ทั้งๆที่

ตอนแรกนั้นเขาหงุดหงิดแทบคลั่งเมื่อกว่าจะกลับไปเอาเอกสารที่บ้านของเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของเขาไปให้เจ้าของ

ที่บริษัทไอ้ขาไปนะรถก็ติดเหมือนกัน แต่มันยังไม่นรกแตกเท่าตอนนี้ไงคนมันจะขยันเที่ยวอะไรกันนักหนา ดีนะ

ที่ผับเขาไม่ได้อยู่แถวนี้ เพราะแถวนี้ทั้งคับแคบและแออัดแถมยังดูไม่เป็นระบบระเบียบอีกด้วย แต่พอได้ยินเสียง

เมียเท่านั้นแหละหายหงุดหงิดและรู้สึกดีขึ้นทันทีเลยเหมือนกับตอนที่ร้อนๆกระหายๆแล้วได้ดื่มน้ำเย็นอย่างไงอย่างงั้น

.

.

.

.

.

       "บ้าๆ พัสกรนะพัสกรเป็นอะไรไปน่ะห้ะ! ห่างกันยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลยนะ จะคิดถึงอะไรขนาดนั้น" พัสกรใช้นิ้ว

เคาะหัวตัวเองเบาๆบ่นพึมพำอย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าจะติดสามีหนักอะไรขนาดนั้นในขณะที่เดินออกมาจากห้องน้ำ



       "ว่าไงครับคนสวย" เสียงพูดดังขึ้นพร้อมกับมีผู้ชายร่างใหญ่ผิวสีเข้มสักลายเต็มตัวสองคนดูน่ากลัวมายืนขวางทาง

ของเขาไว้ทำให้เขาเดินต่อไปไม่ได้



       "ขอโทษนะครับผมไม่รู้จักพวกคุณ ขอตัวก่อนนะครับ" พัสกรบอกและเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงออกมาแต่ผู้ชายสองคนนั้น

ก็ตามมาดักหน้าดักหลังขวางทางเดินของเขาจนไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย



       "ขอโทษนะครับผมรีบ สามีกับเพื่อนของผมกำลังรอผมอยู่" พัสกรพูดบอกอีกครั้งพร้อมกับพยายามที่จะคิดหาวิธี

หาหนทางที่จะออกไปจากตรงนี้ เพราะตรงนี้ยังคงเป็นมุมอับหลบอยู่ทางด้านหลังของร้านอยู่ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไรขึ้นมา

จริงๆก็จะไม่มีใครเห็นหรือช่วยเขาได้ทันแน่ๆ แต่ถ้าเขาหลุดจากหัวมุมทางโค้งตรงนี้ไปได้เขาก็จะปลอดภัยแล้ว



       "หึๆ ก่อนที่จะกลับไปหาผัวหาเพื่อนน่ะก็ไปกลับพวกพี่ก่อนแล้วกันคนสวย ฮ่าๆ/ฮ่าๆ" ผู้ชายคนที่อยู่ด้านหน้าเขา

พูดขึ้นก่อนที่คนร้ายทั้งสองคนจะหัวเราะออกมาพร้อมกันเหมือนพวกตัวร้ายโรคจิตในละครตอนสองทุ่มที่ฉายอยู่ทั่วๆ

ไปทางโทรทัศน์ ซึ่งสีหน้าและท่าทางของคนร้ายทั้งสองคนนั้นมันทำให้พัสกรรู้สึกพะอืดพะอมจนอยากจะอาเจียนออก

มาเสียให้ได้



       "อย่าเข้ามาใกล้นะ!! ช่วยด้วย!!! ช่วยด้ว...อื้อ!!...อื้อออ...อื้ออออออ!!!!" ยังไม่ทันที่พัสกรจะได้ดิ้นรนร้องขอให้ใครมา

ช่วยตัวเองอย่างที่คิดเลย ก็โดนคนร้ายที่อยู่ข้างหลังใช้มือตะคุบปิดปากเขาและกอดรัดลำตัวช่วงบนของเขาอย่างแรงจน

เจ็บไปหมดและคิดว่าปากเค้าคงจะแตกแน่ๆแล้วเมื่อรู้สึกถึงกลิ่นคราวเลือดในปากจากการโดนตะปบปิดปากเมื่อกี้นี้

อีกทั้งคนที่อยู่ทางด้านหน้าของเขานั้นยังใช้เชือกที่เอามาจากตรงไหนก็ไม่รู้มามัดขาเขาไว้อย่างแน่นอีก จนเขานั้นขยับ

ตัวหรือดิ้นไม่ออกเลยทั้งๆที่พยายามออกแรงดิ้นให้มากที่สุดแล้วแลัว ก่อนที่ทั้งสองคนจะช่วยกันอุ้มเขาออกมาทางด้าน

หลังของร้านซึ่งเป็นลานจอดรถสำหรับลูกค้านั่นเอง



     ปึก! ปึก! ปึก! 

   

     "อื้ออออออ.....อื้ออออออ.....อื้อออออออ" พัสกรร้องอู้อื้อยู่ในลำคอและพยายามใช้หัวตัวเองโขกกลับกระจกเมื่อเห็นว่า

เป็นรถของณัฐภาสสามีของตัวเองที่เข้ามาจอดเทียบกันกับรถของคนร้ายที่คนร้ายจับเขาเข้ามานั่งอยู่บนเบาะหลังและล็อค

ประตูเอาไว้ส่วนมันทั้งคู่ก็นั่งอยู่ทางเบาะหน้า



       "อย่าพยายามโง่ๆแบบจะใช้หัวโขกให้่กระจกรถเลยไม่ได้ผลหรอก จะเจ็บตัวเสียเปล่าๆ" หนึ่งในคนร้ายที่อยู่ทาง

ด้านหน้าหันมาบอกกับพัสกร เมื่อเห็นว่าพัสกรพยายามใช้หัวตัวเองโขกกับกระจกหน้าต่างรถอยู่



     ปึก! ปึก! ปึก!



     "อื้ออออออ.....อื้ออออออ.....อื้อออออออ" พัสกรไม่ได้สนใจเสียงของคนร้ายและพยายามใช้หัวตัวเองโขกกับกระจกรถ

อีกครั้งด้วยแรงที่มากกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าณัฐภาสกำลังล็อครถอยู่ พรางภาวนาให้ณัฐภาสได้ยินหรือสังเกตุความผิดปกติ

อะไรได้บ้าง แต่ก็ไม่เลย เพราะในขณะที่ณัฐภาสมองมาทางเขาคนร้ายก็ถอยรถออกจากตรงนั้นพอดีและเพราะอาจจะเป็น

เพราะรถที่คนร้ายจับเขาขึ้นมานี้นั้นติดฟิล์มดำมืดทั้งคันณัฐภาสก็เลยไม่เห็นว่าเขาถูกจับตัวมาอยู่ในนี้ทั้งๆที่เขาทั้งสองคน

นั้นห่างกันแค่เพียงเอื้อมมือเท่านั้นเอง





...

เฮ้อ!! กว่าจะเสร็จ เม้นเงียบมี่ก็อยากจะเงียบเหมือนกัน(แต่ทนไม่ได้ใจไม่แข็งพอ)

เมื่อวันที่สิบห้ามี่ส่งทงเฮ(อิมเมจพี่ภาส)สามี(ของหนูพัส)เข้ากรม(เกณฑ์ทหาร)ไปรับใช้ชาติ

อยู่เงียบๆคนเดียวที่หน้าจอคอมฯ

#ปาดน้ำตาเบาๆ(กระซิกๆๆ) :mew6: :mew4: :o12:

 

 

 





 

 



 

 





 



 



 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
กรี๊ดดดดดม่ายยยยยยน้าาาาาาพี่ภาคช่วยเอ๊ะใจเร็วๆ เข้าหนูพัสจะแย่แล้ววววว

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พี่ภาสคะ หนูพัสตกอยู่ในอันตรายแล้วค่ะพี่ :sad4: ..

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ช่วยพัสด้วยพี่ภาส~

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยังไม่วายมีเรื่องนะ

ออฟไลน์ dreeanm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอเบบี้ รีบๆมานะ

ออฟไลน์ janny_j

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ใครมาทำแบบนี้ คุณสามีช่วยคุณภรรยาด้วย แงงงง

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :a5: ค้างเลย

ออฟไลน์ ravi 279

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ภูผา ไม่ต้องเดาเลย

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
คุณเมียภาคบังคับ [เจ้าคุณ&ธารา] ตอนที่ 6





       "คุณๆ ตื่นๆ" ธาราลืมตาตื่นลุกขึ้นนั่งสะกิดเรียกเจ้าคุณเบาๆ
 

       "........" เงียบ ไม่รู้สึก
 
       "คุณๆ เจ้าคุณ ตื่นก่อน!" สองมือเขย่าแขนคนขี้เซาแรงกว่าเดิม
 

       "ฮื่อ!!" เจ้าคุณฮึมฮัมเหมือนขัดใจก่อนจะพลิกตัวหนีสิ่งที่รบกวนการนอนของตัวเอง ธาราเลยจิ๊ปากอย่างขัดใจ
 

       "เจ้าคุณๆ ตื่นๆ ตื่นก่อนสิ!!" พยายามเขย่าตัวและใช้เสียงเรียกเจ้าคุณดังกว่าเดิม
 

       "ฮื้อออ!! กูจะนอน!!~" บอกเสียงหงุดหงิดพร้อมกับเอาผ้าห่มคลุมหัวตัวเอง
 

       "คุณๆ ตื่นก่อน!! เจ้าคุณตื่น!! ไอ้คุ๊ณณณณณณณณณณณณณ!!!!!" คราวนี้ธารากระชากผ้าห่มออกจากตัวเจ้าคุณสุดแรงแล้วตะโกนใส่หูเจ้าคุณสุดเสียงเช่นกัน จนเจ้าคุณสดุ้งตื่นเต็มตาเลยทีเดียว
 

       "เออ!! จะเรียกทำไม!!!" เจ้าคุณลุกขึ้นนั่ง ตะคอกถามอย่างหงุดหงิดเพราะเขารู้สึกเหมือนว่าเพิ่งล้มตัวนอนไปได้
ไม่นานเท่าไหร่เองก็โดนปลุกขึ้นมาซะแล้ว พอเหลือบมองนาฬิกาดูเวลาแล้วยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ในเมื่อนาฬิกาแสดง
เวลาบอกว่าตอนนี้แค่ตีสามห้าสิบเท่านั้น นั่นก็เท่ากับว่าเขาเพิ่งนอนไปได้แค่ครึ่งชั่วโมงนิดๆเท่านั้นเอง แล้วอย่างนี้จะ
ไม่ให้เขาหงุดหงิดได้ยังไงกลับมาจากไปดูมาเหนื่อยๆขับรถจากผับมานี่ก็ตั้งไกลยังจะโดนกวนตอนนอนอีก
 

       "เฮ้ย!! กูถามทำไมไม่พูดห๊ะ!!!" เจ้าคุณถามแบบกระชากเสียงอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าธารานั่งก้มหน้าบีบมือตัวเองแน่น
ไม่ยอมพูดคุยกับเขาทั้งๆที่เป็นคนปลุกเป็นคนเรียกเขามาขึ้นเองแท้ๆ แต่ก็ต้องตกใจตาโตเมื่อธาราเงยหน้าขึ้นมาแล้ว
น้ำตาคลออยู่เต็มดวงตาสวย จนไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสายเมื่อเจ้าตัวสะอื้นปล่อยโฮออกมา
 

       "ฮื้อออออออออออ......."
 

       "อ่าว! ชิบ!! ร้องไม มาๆ อย่าร้องๆ" เจ้าคุณสบถออกมาอย่างตกใจ ก่อนที่จะคว้าตัวธารามากอดปลอบ พูดปลอบ?
ทั้งๆที่ยังคงงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูกนั่นแหละ ก็ธาราน่ะเคยร้องไห้ให้เขาเห็นซะที่ไหนล่ะ ขนาดโดนเขาปล้ำมันยังกัดฟัน
ทนไม่ยอมให้น้ำตาไหลเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง
 
 "ฮื้อออออออออออออออออออออออออ!!!!!!" มุดหน้าร้องไห้ซุกอกเจ้าคุณหนักกว่าเดิม
 
 "เงียบๆ อย่าร้องๆ โตแล้วร้องไม ไหนบอกกูดิ" เจ้าคุณพูดด้วยเสียงที่คิดว่าอ่อนโยน?ที่สุดสำหรับตัวเองแล้ว
 
 "ฮึก!! อยา...ก..ฮึก!" ธาราสะอื้นบอกอู้อี้จนเจ้าคุณจับใจความไม่ได้
 
 "อะไรน่ะ? พูดดีๆดิ" จับหน้าธาราเงยขึ้นถาม
 
 "อื้อออ...อยา...ก..กิน...เนื้อ..ฮึก...อ่ะ!....ฮื้อออออออ....." พูดไปสะอื้นไปร้องไห้ไปจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่องเจ้าคุณถึงกับ
ต้องตะแคงหูตั้งใจฟังเลยทีเดียว
 
 "ห๊ะ!! อยากกินเนื้อ?" เจ้าคุณถามเสียงหลงอย่างไม่อยากจะเชื่อหูเมื่อได้คำตอบจากธารา
 
 "อื้อ!!!!"
 
 "มึงอยากกินเนื้อตอนตีสามเนี่ยนะ?"
 
 "อื่้อ!!!!"
 
 "แล้วที่มึงร้องห่มร้องไห้เหมือนใครจะตายเนี่ยก็เพราะแค่อยากกินเนื้อเนี่ยนะ??"
 
 "อื้อ!!!"
 
 "โอ้ยย!! กูอยากจะบ้ามึงปลุกกูทั้งๆที่กูเพิ่งกลับมาจากทำงาน ทั้งๆที่กูเพิ่งจะได้นอนเนี่ยนะ? มึงใช้อะไรคิดเนี่ยห้ะ
ไอ้น้องธาร มึงบ้ารึป่าวห๊ะ! มึงโตแล้วนะไม่ใช่เด็กน้อยนะที่จะร้องกินนมตอนดึกๆอ่ะ มึงนี่แมร่ง..."
 
 "ฮึก!! ว่า..ทำ..ไม..อ่ะ...ฮึก!...ก็...ฮึก..อยาก...กิน...อ่า....ฮืออออออออออ" จากที่สงบๆไปบ้างแล้วพอโดนเจ้าคุณพูด
เหมือนกับดุตัวเองธาราก็ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาอีกรอบพร้อมกับคำอธิบายที่ไม่ค่อยจะเป็นคำสักเท่าไหร่เพราะเจ้าตัว
สะอื้นไปด้วยร้องไห้ไปด้วย
 
 "เออๆ กินก็กิน อย่าร้องๆ อย่าร้องดิว่ะ!! มึงคิดว่ากูปลอบใครเป็นรึงไง ฮึ! เงียบเลยๆ" เจ้าคุณกระชับกอดโยกตัวธารา
เป็นการปลอบเท่าที่คนหยาบกระด้างอย่างเขาจะทำได้
 
 "กินนะ..ฮึก..อยากกิน...ธาร...ฮึก....อยาก....กิน..ฮึก!" ธาราซุกอกกอดเจ้าคุณแล้วร้องบอก
 
 "เออๆ จะกินก็เงียบๆ ถ้าหยุดร้องแล้วจะให้กิน" เจ้าคุณบอกพร้อมกับพยายามนึกอะไรบางอย่าง อย่าว่าเขาใจอ่อนเลย เรียกว่ายอมเถอะ! ยอมตั้งแต่เห็นน้ำตาหยดแรกของมันล่ะ ถึงจะเป็นผู้ชาย
กระด้าง เถื่อนๆ แต่ผมก็แพ้น้ำตาเมียนะเว้ย!
 
 "ฮึก! เงียบ...แล้ว.....เงียบแล้วๆ...ฮึก!" ธาราผละตัวออกจากอกเจ้าคุณรีบเช็ดน้ำตาตัวเองพร้อมทั้งพยายามกลั้นสะอืื้น
 
 "แต่ตอนนี้มึงกินเจกับยายอยู่ไม่ใช่หรอวะ?" เจ้าคุณถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าธารากินเจเป็นเพื่อนคุณนายมณียายของตัวเอง
มาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเทศกาลกินเจกันเลย ไอ้เขาก็กินบ้างไม่กินบ้างไม่ซีเรียสอยู่แล้ว แต่นี่ไอ้น้องธารมันอยากกินเนื้อ
ที่เป็นของต้องห้ามเด็ดขาดเลยนะ
 
 "ไม่กินๆ....ไม่กิน..แล้ว...ฮึก!...จะกินเนื้อ ฮึก! เนื้ออ่ะเนื้อ!!" ธาราร้องบอกเหมือนเด็กๆ
 
 "เออๆ กินก็กิน อะๆ อย่าร้องไห้ออกมาอีกนะมึง ร้องไห้อีกกูไม่ให้กินนะ!" เจ้าคุณบอกอย่างปลงตก ก่อนที่จะเปลี่ยน
เสียงมาพูดขู่เหมือนกับใช้ดุเด็กเมื่อเห็นว่าธาราเตรียมเบะปากพร้อมที่จะร้องไห้อีกแล้ว
 
 "เงียบแล้วๆ ไม่ร้องแล้วๆ กินนะกิน" ธารารีบเช็ดหน้าเช็ดตาที่เปื้อนน้ำตาของตัวเองเร็วๆเมื่อได้ยินเจ้าคุณพูดแบบนั้น
 
 "เออๆ แล้วจะกินอะไร" เจ้าคุณถาม
 
 "เนื้อไง!!" ธาราตอบอย่างรวดเร็ว
 
 "ก็เนื้อของมึงน่ะจะกินแบบไหน ปิ้ง ย่าง ทอด ห่าไรก็บอกมาสักอย่างดิ"
 
 "เนื้อย่างๆ เนื้ออย่างกับน้ำจิ้มแจ่วแซบๆ" ธาราพูดพร้อมกับทำท่าสูดน้ำลายเมื่อเผลอนึกถึงรสชาติของเมนูที่ตัวเองพูด
 
 "ตอนนี้มึงจะไปซื้อที่ไหนห๊ะไอ้เนื้อย่างที่มึงพูดถึงน่ะ" เจ้าคุณถาม
 
 "ก็ทำไง" ธารามองนาฬิกาตามเจ้าคุณก่อนที่จะหันมาบอกกับเจ้าคุณอย่างมั่นใจ
 
 "มึงจะทำ?" เลิกคิ้วถาม
 
 "คุณทำไง" ธาราบอกอย่างยิ้มๆ
 
 "แล้วถ้ากูไม่ทำล่ะ?" เจ้าคุณลองหยั่งเชิงถามพรางสังเกตุอากัปกิริยาของธาราไปด้วย
 
 "ก็ ก็...."
 
 "เออๆ กูทำเองๆ อย่าเสือกร้องออกมาอีกนะมึง ไปๆจะกินก็ไปล้างหน้าแปรงฟันไป จะได้ออกไปซื้อเนื้อ" เจ้าคุณบอก
พร้อมกับลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อคลุมใส่โดยที่ไม่ลืมที่จะหยิบมาเผื่อธาราด้วยและเดินตามธารเข้าไปล้างหน้า
แปรงฟันเองบ้างก่อนที่จะพากันไปซื้อเนื้อมาทำเนื้อย่างตามอย่างที่ธาราต้องการ
.
.
.
.
.
 "อ้าว! พากันไปไหนมาแต่เช้าฮึเจ้าคุณน้องธาร" คุณนายมณีถามในขณะที่กำลังเดินลงบันไดมาจากชั้นบน เมื่อเห็นว่า
เจ้าคุณเดินถือของพะรุงพะรังเต็มสองมือโดยมีธาราเดินงัวเงียหลับตาจับชายเสื้อของเจ้าคุณตามหลังมาติดๆ
 
 "ตลาดครับยาย" เจ้าคุณตอบพร้อมกับเดินเลี่ยงเข้าไปในครัวโดยมีธาราติดสอยห้อยตามมาด้วยทั้งอย่างนั้น
 
 "แล้วทำไมน้องธารถึงเป็นอย่างนั้นล่ะเจ้าคุณ" คุณนายมณีถามพรางพยักเพยิดไปทางธาราที่เจ้าคุณจับทิ้งไปนั่ง
ตรงโต๊ะทานข้าวและตอนนี้เจ้าตัวก็พลุบหลับไปเรียบร้อยแล้วด้วย
 
 "ง่วงมั้งครับ ตื่นมางองแงร้องไห้จะกินเนื้อย่างตั้งแต่ยังไม่ตีสี่ดีเลยครับยาย จนผมต้องพาไปเลือกซื้อของที่ตลาด
แต่เช้าอย่างนี้นี่ไงครับ" เจ้าคุณบอกพร้อมกับชูถุงของที่เขาไปซื้อที่ตลาดกับธารามาเพราะเช้าขนาดนี้ก็มีแต่ตลาดเท่านั้น
แหละที่จะเปิดขายและมีของครบทุกอย่างน่ะ
 
 "ร้องไห้งองแง? น้องธารเนี่ยนะ??" คุณนายมณีถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหู เพราะเท่าที่จำได้พอพูดรู้เรื่องโตขึ้นมา
หลานชายของเธอก็แทบจะไม่ร้องไห้ออกมาให้เห็นเลยเพราะไม่ใช่เด็กงองแง เจ้าน้ำตาเหมือนกับเด็กคนอื่น อย่าพูด
ถึงตอนโตอย่างนี้เลย
 
 "ครับ ทั้งร้องไห้ทั้งงองแงเลย ผมพึ่งกลับบ้านมานอนได้ไม่ถึงชั่วโมงเลยอยู่ดีๆน้องธารมันก็ร้องห่มร้องไห้ปลุกผม
จนผมตกใจนึกว่ามันเป็นอะไร ที่ไหนได้มาบอกว่าอยากกินเนื้อ แต่กว่าจะพูดจะคุยกันรู้เรื่องนี่ผมแทบบ้าเหมือนกัน
นี่ถ้ายายไม่เชื่อผมนะไปดูที่ตามันได้เลยยังบวมช้ำอยู่เลย" เจ้าคุณพูดไปก็หมักเนื้อย่างของธาราไปด้วย
 
 "อ่า...ตาบวมจริงๆด้วยซิ แล้วนี่เจ้าคุณทำเป็นหรอให้ยายช่วยมั้ย?" คุณนายมณีถามเจ้าคุณพร้อมกับลูบหัวหลานชาย
ไปด้วยอย่างเอ็นดู
 
 "ผมทำเนื้อย่างได้ครับยายสบายมาก แต่ยายช่วยทำน้ำจิ้มแจ่วให้ผมหน่อยได้ไหมรึเปล่าครับ เจ้าตัวเขาอยากกินเนื้อย่าง
กับน้ำจิ้มแจ่วแซบๆเขาบอกแบบนั้น" เจ้าคุณบอกก่อนที่จะหันมาถามคุณนายมณีเพราะเขาไม่แน่ใจว่าถ้าเขาทำแล้วมันจะ
ถูกปากถูกใจเจ้าตัวรึป่าวเพราะเขาเคยทำแต่เนื้อย่างไม่เคยทำน้ำจิ้มซักทีได้แต่ดูเพื่อนทำ
 
 "อ่อ! ได้สิ ได้ๆ แต่ยายว่าน้องธารดูแปลกนะจากที่เจ้าคุณเล่ามาน่ะ" คุณนายมณีบอกพร้อมกับนั่งลงเก้าอี้ข้างๆหลานชาย
พรางนึกถึงสิ่งที่เจ้าคุณเล่าถึงอาการแปลกๆของธารา
 
 "ผมก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน อย่าว่าแต่ร้องไห้หรืององแงเลย มีอ้อนด้วยนะครับยาย ทั้งๆที่ปกติแค่ยิ้มให้ผมยังยากเลย"
 
 "อืม....แปลก...แปลกมากจริงๆ"
.
.
.
.
.
 "หอม...หอมเนื้ออ่ะ" ธาราลุกจากโต๊ะทานข้าวที่พลุบหลับอยู่เดินงัวเงียๆเข้าไปกอดหลังเจ้าคุณที่กำลังย่างเนื้ออยู่หน้าเตา
 
 "เออ หอมก็ไปนั่งรอที่โต๊ะไปจะเสร็จแล้ว เดี๋ยวเอาไปให้" เจ้าคุณหันมองธาราที่กอดเกาะอยู่ที่หลังตัวเอง
 
 "อ๊า....อร่อย!!" ธาราบอกออกมาอย่ามีความสุขเมื่อได้ลองกินเนื้อย่างที่เจ้าคุณเอามาให้ตัวเองที่โต๊ะทานข้าวก่อนที่จะ
นั่งลงตรงข้ามกันกับธาราอีกฝั่งนึง
 
 "หึๆ" เจ้าคุณยิ้มขำออกมาเมื่อเห็นท่าทางของธารา
 
 "อ้าว! ตื่นแล้วหรอน้องธาร" คุณนายมณีที่ขึนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากที่ช่วยเจ้าคุณทำน้ำจิ้มแจ่วและทำอาหารเช้า
ของตัวเองเสร็จ
 
 "ตื่นแล้วครับยายยยยย อื้อ!!อร่อยๆ หมดแล้วๆ เอาอีกคุณ เอาอีกๆ" ธาราลากเสียงตอบคุณนายมณีทั้งๆที่ยังไม่ละสายตา
จากจานเนื้อย่างของตัวเอง ก่อนจะยื่นจานเปล่าขอเนื้อย่างจากเจ้าคุณเมื่อตัวเองจัดการเนื้อย่างชิ้นสุดท้ายเข้าปากไปอย่างมี
ความสุขเสร็จเรียบร้อยแล้ว
 
 "ยังไม่อิ่มอีกหรอน้องธาร" คุณนายมณีที่มานั่งทานมื้อเช้าเจของเธอข้างๆกันกับหลานชายก็ถามขึ้น เพราะว่าปกติแล้ว
ธาราเป็นคนกินน้อยยิ่งมือเช้าอย่างนี้แล้วยิ่งแทบจะไม่แตะเลยถ้าเธอหรือเจ้าคุณไม่บังคับ
 
 "ยังไม่ถึงครึี่งกระเพราะเลยครับยาย เนี่ยธารยังกินได้อีกเยอะเลยนะ" ธาราบอกพร้อมกับลูบพุงตัวเองโชว์ และคำตอบ
ของธาราก็ทำเอาเจ้าคุณกับคุณนายมณีถึงกับมองหน้ากันโดยที่ไม่ต้องนัดไม่ต้องเรียกกันเลย
 
 "น้องธารอยากกินอย่างอื่นอีกไหมลูกนอกจากเนื้อน่ะ" คุณนายมณีถามเหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้
 
 "อ่ะ! ป้อน กินป่ะ?" ธาราจิ้มเนื้อที่ราดน้ำจิ้มแล้วยื่นไปตรงหน้าเจ้าคุณทำเอาเจ้าคุณตกใจจนตาเบิกโต คุณนายมณี
ยิ่งแล้วใหญ่รายนั้นถึงกับทำช้อนหล่นหลุดจากมือเลยทีเดียวเชียว
 
 "อื้อ!! อะไรอะ!!" ธาราร้องออกมาอย่างขัดใจ ทำหน้าเบะพร้อมที่จะร้องไห้เต็มที่ ทั้งๆที่ยังไม่มีใครได้ทำอะไรเลย
 
 "อะไร เป็นอะไร" เจ้าคุณถามทั้งๆที่ยังเคี้ยวเนื้อที่ธาราป้อนยังไม่เสร็จดีเลย
 
 "ทำไมเงียบอ่ะ!!" ธาราบอกกเสียงง้องแง้ง
 
 "แล้วจะให้พูดอะไร? ทำอะไร?" เจ้าคุณเลิกคิ้วถาม
 
 "ก็พูด อื้อ!! อร่อย!! แบบนี้ไง ทำแบบนี้ไง!!" ธาราบอกพร้อมกับจิ้มเนื้อเข้าปากทำให้เจ้าคุณดูเป็นตัวอย่างไปด้วย
 
 "เออๆ อย่าร้องออกมาอีกนะ ป้อนมาใหม่ดิจะทำให้ดู" เจ้าคุณรีบบอกออกมาเมื่อเห็นธาราน้ำตาเอ่อคลออยู่เต็มเบ้าตา
เตรียมที่ไหลออกมาแล้ว เมื่อเขามัวแต่คุยกันทางสายกับคุณนายมณีจนเหมือนไม่สนใจเจ้าตัว
 
 "อื้อ!! อร่อย!! อร่อยมาก!! อร่อยที่สุด!!" เจ้าคุณแกล้งยิ้มจนตาปิดแล้วบอกออกมาอย่างที่ธาราต้องการเมื่อเจ้าตัวป้อน
เนื้อย่างเข้าปากเขาอีกครั้ง
 
 "เห็นมะๆ บอกแล้วว่าอร่อย!! ถ้าไม่รักไม่แบ่งหรอกนะจะบอกให้" ธาราพูดเหมือนเด็กเอาแต่ใจ
 
 "ห๊ะ!!!! มึงพูดว่าอะไรนะ??" เจ้าคุณถามอย่างไม่เชื่อหู
 
 "ก็ถ้าไม่รักก็ไม่แบ่งเนื้อย่างอร่อยๆให้กินหรอกนะไง ตกใจอะไร" ธาราเอียงคอถามอย่างสงสัย
 
 "เออๆ ไม่มีอะไรหรอกมึงกินไปเถอะ" เจ้าคุณบอกปัดๆทั้งๆที่ตอนนี้สติเขาหลุดไปแล้ว ทำไม? เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมธาราเปลี่ยนไป อะไรที่ทำให้ธาราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ กินเนื้อมากจนสมองกลับ? หรือตอนที่เขาไปดูผับธาราลื่น
ล้มในห้องน้ำ? ถึงได้เป็นอย่างนี้
 
 "อือๆ แปลกๆไปนะเนี่ยคุณอ่ะ" ธาราพยักหน้าอือออพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะกลับไปตั้งใจกินเนื้อย่างของตัวเองต่อ
แต่สิ่งที่ธาราพึมพำว่าเขานั้นเจ้าคุณอยากจะตะโกนกลับไปเหลือเกินว่า 'มึงนั้นแหละที่แปลกอ่ะ' แต่ก็ไม่กล้าทำเพราะกลัว
จะไปสะกิดต่อมน้ำตาตื้นๆของเจ้าตัวเข้าอีก
 
 "ยายครับ" เจ้าคุณหันไปหาตัวช่วยเลยทันที
 
 "เดี๋ยวน้องกินเสร็จแล้วพาน้องไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วพาไปหาหมอกับยายนะเจ้าคุณ" คุณนายมณีบอกเจ้าคุณพร้อมกับ
มองธาราที่นั่งกินนั่งยิ้มกับเนื้อย่างของตัวเองอย่างมีความสุขไปด้วย
 
 "ยายหมายความว่า...." เจ้าคุณถามออกมาอย่างไม่ตกใจ ไม่รู้ว่าไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาของเขาวันนี้นั้นมีเรื่องให้เขาต้อง
ตกใจไปแล้วกี่ครั้งกัน เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ที่รู้ๆมันหลายครั้งมากๆเลย
 
 "ยายเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน" คุณนายมณีบอกแค่นั้น
.
.
.
.
.
 "ทำไมธารต้องมาโรงพยาบาลด้วยอ่ะยาย ทำไมอ่ะคุณ" ธาราถามขึ้นอย่างงองแง เพราะตอนนี้เขา เจ้าคุณและคุณนายมณี
ได้มานั่งอยู่หน้าห้องตรวจแล้ว โดยที่เขาไม่รู้อะไรเลย เพราะพอกินเนื้อย่างแสนอร่อยไปแล้วสี่จานเจ้าคุณก็ไม่ยอมให้เขากิน
ต่ออีก แถมยังโกหกว่าหมดแล้วอีกทั้งๆที่เขาก็เห็นว่ามันยังมีอีกอยู่ในตู้เย็นหมักเสร็จแล้วด้วยแค่ยังไม่ได้ย่างก็เท่านั้นเอง
ทำไมอ่ะทำไม ทำไมต้องหลอกเขาด้วย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรก็โดนเจ้าคุณลากไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็
มาโรงพยาบาลกับยายนี่แหละ ขัดใจๆ ขัดใจที่สุด!!!
 
 "คุณธารา ภูวนนท์ เชิญเข้าห้องตรวจได้เลยค่ะ" ยังไม่ทันที่ธาราจะได้คำตอบอะไรจากเจ้าคุณหรือคุณนายมณี ก็มีเสียง
พยาบาลหน้าห้องตรวจเรียกชื่อเขาขึ้นมาเสียก่อน
 
 "รู้ว่าเป็นเอกชนที่ค่ารักสาแสนจะแพง แต่จะเรียกเร็วไปไหน ยังนั่งไม่หายเมื่อยเลยนะ!!" ธาราพึมพำแบบเหวี่ยงๆอยู่
กับตัวเองเบาๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะแขนทั้งสองข้างของตัวเองโดนล็อคโดยเจ้าคุณกับคุณนายมณีคนละข้าง ลากเขา
เดินเข้าห้องตรวจแบบไม่สนใจเขาเลย
.
.
.
.
.
 "จากผลตรวจเลือดและผลตรวจปัสสาวะของคุณธาราผลที่ได้คือ 'ยินดีด้วยครับคุณตั้งครรภ์ได้ 11 สัปดาห์แล้วนะครับ'"
นายแพทย์พูดบอกผลตรวจ
 
 "จริงหรอหมอ?? เมียผมท้องจริงๆหรอ!!!!" เจ้าคุณถามออกมาด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด
 
 "เป็นเรื่องจริงแน่นอนครับ ตอนนี้คุณธาราตั้งครรภ์ได้ 11 สัปดาห์ สัปดาห์หน้าอายุครรภ์ของภรรยาคุณก็จะครบ
สามเดือนแล้วล่ะครับ ถ้ายังไงก็ขอเชิญคุณแม่ไปห้องอัลตร้าซาวน์ดูน้องก่อนนะครับแล้วหมอจะสรุปผลให้ฟัง" นายแพทย์
บอกพร้อมกับเดินนำหน้าไปกับพยาบาลสาวหน้าห้อง โดยมีเจ้าคุณที่ลากทั้งธาราและคุณนายมณีที่ยังคงตกตะลึงกันอยู่ไป
ห้องข้างๆที่ติดกันซึ่งก็เป็นห้องอัลตร้าซาวน์นั่นแหละ
 
 "เดี๋ยวหมอจะให้ฟังเสียงหัวใจของน้องด้วยนะครับ แล้วก็นี่...นี่ไงครับน้องอยู่ตรงนี้ ตอนนี้ส่วนหัวของน้องจะโต
ขึ้นเกือบครึ่งนึงของขนาดตัว ซึ่งจะยาวราว 5 เซ็นฯ นิ้วมือนิ้วเท้าแยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์ แขนขาจะเริ่มเคลื่อนไหว
ดังนั้นคุณแม่ก็เตรียมพร้อมกับการโดนน้องในท้องเตะในอีกเดือนสองเดือนข้างหน้าไว้เลยนะครับ" คุณหมอบอกพร้อมกับ
ชี้อธิบายส่วนต่างๆของเด็กในท้องไปด้วย โดยที่ทั้งธารา เจ้าคุณและคุณนายมณีตั้งใจดูและฟังหมออย่างเงียบๆ
.
.
.
.
.
 "เป็นอะไร? เงียบทำไมมึงไม่ดีใจรึไงหรือเสียใใจที่กำลังจะมีลูกกับกู" เจ้าคุณถามขึ้นเมื่อทั้งสองคนมาถึงบ้านแล้ว
เมื่อเห็นว่าธาราปิดปากเงียบแสดงสีหน้าเรียบเฉยมาตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลตอนที่ได้รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่ และก่อนหน้านี้
เจ้าคุณได้ขับรถไปส่งคุณนายมณีที่บริษัทมุกของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายนั้นพอตั้งตัวได้และรับรู้ว่าตัวเองกำลังจะมี
เหลนก็พูดคุยอย่างดีใจแบบไม่มีหยุดเลยเหมือนกัน
 
 "ลูกล่ะคุณ ลูก...เจ้าคุณเรากำลังจะมีลูก ฮืออออออ....." ธาราส่ายหน้าปฎิเสธในสิ่งที่เจ้าคุณพูดก่อนที่จะหันไปซุกอก
เจ้าคุณพูดบอกเหมือนกับเพ้อก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาด้วยความดีใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีใจหรือเสียใจเพราะมีลูกกับเจ้าคุณ
แต่เขารู้สึกดีใจ ปลื้มใจ หรืออะไรก็ไม่รู้จนไม่สามารถบอกออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ที่แน่ๆเลยเขามีความสุข มีความสุขมาก
ถึงมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยในชีวิตนี้
 
 "หึๆ เออๆ เรากำลังจะมีลูกจริงๆ อย่าร้องๆ เงียบเลย ร้องมากเดี๋ยวลูกไม่รักนะ" เจ้าคุณกระชับกอดธาราลูบหลังปลอบ
เบาๆ ก่อนที่จะเอาเรื่องลูกมาแกล้งพูดขู่ธารา พรางคิดถึงสิ่งที่หมอบอกและเตือนกับเขาว่าคนท้องอารมณ์แปลปวนบ่อย
.
.
.
.
.
       "ใครโทรมาว่ะ" เจ้าคุณพึมพำกับตัวเองเบาๆพร้อมกับค่อยๆลุกจากที่นอนเดินไปดูโทรศัพท์ที่ร้องดังอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งเพราะหลังจากที่เขาและธาราทานมื้อเย็นกันเสร็จแล้ว ธาราก็บ่นปวดหัวเพราะร้องไห้มากเกินไปหน่อย แต่พอเขาบอกให้นอน
ก็ไม่ยอมนอน ไม่รู้ว่ามัวห่วงอะไร ทั้งๆที่ตัวเองก็ง่วงนอนหาวแล้วหาวอีกจนตาแทบจะปิดก็ไม่ยอมนอน จะไปเฝ้าผับก็ไม่ให้
ร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นั่นแหละ จนเขาต้องยอมแพ้แล้วลงมานอนด้วยทั้งๆที่ยังไม่ง่วงและยังไม่ถึงเวลานอนอย่างนี้
ไปปกติเพราะทุกๆครั้งถ้าเขาหรือณัฐภาสไม่ว่างหรือไปธุระใครคนใดคนนึงก็ต้องอยู่เฝ้าเพราะถ้าเกิดมีเรื่องอะไรขึ้นมาจะได้
แก้ไขได้ทันเพราะเขาทั้งสองคนมีสิทธิ์ตัดสินใจในทุกๆเรื่องไง เพราะบางเรื่องมันก็เกินกำลังลูกน้อง

       "เออ ว่าไง?" เจ้าคุณกรอกเสียงถามลงไปเมื่อเห็นว่าเป็นณัฐภาสเพื่อนรักของตัวเอง ก่อนหน้านี้เขาก็ได้โทรไปอวดเรื่อง
ลูกกับณัฐภาสไปแล้วแหละ

       ("ไอ้คุณพัสถูกจับตัวไป!!! จากที่ร้านxxx คนร้ายอุ่มพัสเข้าไปในรถยี่ห้อxxx รุ่นxxx ทะเบียนxxx ตอนนี้กูขับวนดูอยู่ที่
ถนนxxx เพราะพิกัดสัญญาณโทรศัพท์พัสที่พี่พงษ์(พี่ที่เป็นตำรวจ)เช็คให้มันหายไปจากตรงนี้ ยังไงมึงช่วยกูหาอีกทาง
หน่อยนะ ได้เรื่องยังไงโทรมาบอกกูด้วย แค่นี้นะมึง!!!") ณัฐภาสบอกอย่างเร่งรีบร้อนรน แต่ดีนะที่เขาจดสิ่งสำคัญที่ณัฐภาส
บอกไว้ทันไม่อย่างนั้นคงต้องโทรถามให้อารมณ์เสียกันอีกรอบ

       "อื้อออ....จะไปไหนอ่ะ?" ธาราถามอย่างงัวเงียเมื่อเห็นเจ้าคุณกำลังสวมแจ็คเก็ตเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอก

       "กูทำให้ตื่นหรอ?" เจ้าคุณถามพร้อมกับก้าวเดินเข้ามายืนข้างๆเตียงนอนฝั่งที่ธารานอน

       "เปล่าอ่ะ! ปวดฉี่เลยตื่น แล้วจะไปไหน" ธาราส่ายหน้าตอบก่อนที่จะเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง

       "ไปช่วยไอ้ภาสมันตามหาน้องพัสน่ะ น้องพัสโดนจับตัวไป"

       "จริงหรอ!! ตั้งแต่เมื่อไหร่!! ที่ไหนอ่ะ!!" ธาราถามอย่างตกใจเมื่อได้ยินในสิ่งที่เจ้าคุณบอก

      "ที่ร้านxxxน่ะ มึงไปฉี่แล้วมานอนต่อเถอะ แล้วกูจะรีบกลับ" เจ้าคุณบอกพร้อมกับลูบหัวธาราเบาๆ

       "เดี๋ยวคุณ!! ธารมีเรื่องจะบอก" ธาราร้องเรียกเจ้าคุณที่กำลังจะเดินออกจากห้องไปเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้

       "มีอะไร" เจ้าคุณเลิกคิ้วถามก่อนที่จะเดินกลับมาหาธาราที่นั่งอยู่ปลายเตียง

       "คุณรู้ใช่มั้ยว่าพ่อธารคือใคร" ธาราเอ่ยถาม

       "รู้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับเรื่องนี้ล่ะ" เจ้าคุณถามกลับอย่างสงสัยเพราะมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกันตรงไหนเลยกับเรื่อง
ที่พัสกรหายตัวไป

       "เกี่ยวสิ!! เพราะสิ่งที่คุณรู้คือ ธารเป็นลูกคนเดียวของพ่อทั้งๆที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ พ่อยังมีลูกชายอีกคนนึงที่เป็น
พี่ธารแต่มันเป็นลูกเมียน้อยแล้วมันก็เป็นคนขู่บังคับให้ธารเลือกคบกับภาสแล้วทำตามที่มันบอกหลายๆอย่าง หนึ่งในนั้นคือ
การก่อกวน หาเรื่องชวนตีกับภาสและคอยหาโอกาสที่จะจับตัวน้องพัสไปอย่างนี้นี่ไง!!" ธาราพูดบอกอย่างสั่นๆ เหมือนกับ
กำลังกลัวหรือเสียใจอะไรสักอย่าง แต่คำตอบของธาราก็ทำให้เจ้าคุณต้องตกใจและพยายามประติดประต่อเรื่องราวที่ผ่านๆมา
เวลาที่ธาราเริ่มมาก่อกวนหาเรื่องณัฐภาสกับเขา

       "มันเป็นใคร? ชื่ออะไร? แล้วรู้มั้ยว่ามันจะจับน้องไปที่ไหน!!" เจ้าคุณถามออกมาเป็นชุด

       "มันชื่อ..............."



 ...
ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวมากและปัญหาเยอะมากเพราะมี่เผลอไปโดนตรงที่กดอัพบ่อยมาก
ใครที่อ่านไปก่อนหน้านี้แล้วมี่ต้องขอโทษด้วยนะคะ เพราะมี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
เรื่องอายุครรภ์ของธารานี่มี่เอามาจากในเน็ตนี่แหละค่ะ ส่วนเรื่องอาการแพ้ท้องนี่มีก็เก็บข้อมูลบวกกับความมโน
อยากจะให้ตัวละครเป็นอย่างนี้ ถ้ามันเวอร์หรือไม่สมจริงไปบ้างก็ต้องขออภัยนะคะเพราะมี่อยากจะให้
ธาราฉีกกฎเดิมๆของตัวเองเอาแบบที่เห็นความแตกต่างกันอย่างนี้เลยค่ะ
ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ

 
 
 
 
 

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้ม

ธาราภาคง้องแง้งนี่ทั้งชวนปวดหัวและน่าเอ็นดูเลยนะเนี่ย นึกยังไงอยากกินเนื้อตอนตีสี่ฟะ
พี่ชายธาราคือภูผาป่ะเนี่ย เดาจากชื่อไปด้วยกันได้อยู่ 55
รอตอนต่อไปน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2015 08:02:48 โดย boboman »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
ธาราเปลี่ยนปายยยยย แต่น่ารักดี อาการแพ้ท้องแปลกๆ มีอยู่นะ คนรู้จักเล่าว่าตอนแพ้ท้องอยากกินดิน 555

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ธารางอแงได้น่ารักมากๆ เลยค่ะ เห็นแล้วอยากจะตามใจทุกอย่างเลยจริงๆ :laugh:

ปล. ภูผาใช่ไหมคะธารา?

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
มันชื่อ!!!!!!!!!!!!
ค้างงงงงงงง

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
น่ารักดีนะธารเนี่ยยยย
อยากให้มาต่อตอนหน้าไวๆจัง สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ janny_j

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น้องธาร ถ้าท้องแล้วน่ารักขนาดนี้ พี่คุณจะไปไหนรอด

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
โอ๊ยจะตั้ลล๊าคคไปไหนน้องธาร หมั่นเขี้ยวเลย

ออฟไลน์ shiomi

  • ชีวิตของเราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตั๊ลร๊ากกกกกกกกกก แต่ละคู่มุ๊งมิ๊งฟรุ้งฟริ๊งมากๆเลย  :o8: :-[ :impress2: :man1:
แต่นายเอกโดยจับตัวไป #เศร้าแพร๊บบบบบบ สาธุอย่าให้พัสเป็นอะไรไปเลยนะแม่ไม่ไหวจะเคลียร์ :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
คุณเมียภาคบังคับตอนที่ 16 









       ในขณะที่ณัฐภาสตามหาภรรยาตัวเองอย่างเป็นบ้าเป็นหลังอยู่นั้น อาระวาดคนรอบข้างจนร้านอาหารแทบแตกอยู่แล้วนั้น

ระหวางทางที่รถเคลื่อนออกมาจากร้านอาหารนั้นคนร้ายก็จอดรถตรงข้างทางอยู่พักนึงเพื่อรอคำสั่งจากผู้เป็นนาย หลังจากที่

ได้คำสั่งที่แน่นอนและชัดเจนแล้วหนึ่งในคนร้ายก็จัดการโป๊ะยานอนหลับใส่พัสกรจนพัสกรสลบแน่นิ่งไป



       "อือออ.....ที่ไหนเนี่ย" พัสกรกระพริบตาตื่นขึ้นมาอย่างงงงวย สะบัดศีรษะไปมาไล่ความมึนงง ก่อนที่จะมองซ้ายแลขวา

รอบๆตัวของตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนนั้นโดนคนร้ายจับตัวมาจากร้านอาหารที่นัดเจอกับกลุ่มเพื่อนของตัวเอง ก็รีบลุกขึ้น

จากเตียงนอนที่ตัวเองนอนอยู่หาหนทางหนีทีไล่ก่อนที่คนร้ายจะกลับมาเสียก่อน ห้องที่พัสกรโดนจับตัวมาขังไว้นั้นไม่ได้

แตกต่างไปจากห้องนอนธรรมดาๆของคนทั่วไปและไม่ได้ดูลึกลับอะไรอย่างที่เคยเห็นในหนังในละครเลย แต่ก็ต้องสิ้นหวัง

เมื่อสำรวจดูแล้วพบว่าทั้งหน้าต่างและประตูของห้องนี้นั้นถูกล็อคจากข้างนอกทั้งหมดเลย ซึ่งก็หมายความว่าถ้าไม่มีใคร

เข้ามาช่วยเขา เขาก็ไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้แน่นอนเพราะถึงหน้าต่างจะเป็นกระจกก็จริงแต่หลังบานกระจกนั้นก็ยังมี

เหล็กดัดท่าทางแข็งแรงซ้อนอยู่อีกชั้นนึง



       แอ๊ดดดดด.....



       "ไม่ ไม่จริงใช่มั้ย?...." พัสกรพูดเสี่ยงแผ่วกับตัวเองเบาๆจนแทบจะไม่เป็นภาษาเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูจากข้างนอกเข้ามา

และบุคคลที่อยู่หลังประตูนั้นทำให้ตัวเขานั้นแทบจะล้มทั้งยืน



       .....เป็นไปไม่ได้ ไม่จริงๆ ใครก็ได้บอกเขาทีซิว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริง มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน คนๆนี้น่ะหรอ?

คนๆนี้จริงๆน่ะหรือ? ที่เป็นคนกับตัวเขามาขังไว้ที่นี่.....



       "เป็นอะไรไปครับน้องพัส ไม่ดีใจหรือครับที่เจอพี่น่ะ พัสรู้ไหมว่ากว่าพี่จะหาทางแยกตัวจากผัวของพัสจากพวกเพื่อนๆ

ของเราเพื่อที่จะมาหาพัสเร็วๆน่ะมันลำบากแค่ไหนกัน แต่พอมาเจอพัสทำหน้าอย่างนี้ใส่พี่ พี่เสียใจนะครับ" ทันทีที่ได้เห็น

อาการที่พัสกรแสดงออกไปทางสีหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้มาใหม่ก็พูดตัดพ้อออกมาทันทีเลยเหมือนกัน



       "พะ..พี่ภู" พัสกรเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา



       "ครับพี่เอง พี่ภูผาของน้องพัสคนเดิมคนนี้ยังไงล่ะครับ" ภูผาบอกพร้อมกลับขยับเดินมาชิดใกล้กับพัสกรในขณะที่

พัสกรก็ถอยหลังหนีเช่นเดียวกัน



       "ทำไมครับ พี่ภูจับพัสมาทำไมครับ" พัสกรถาม พยายามที่จะบิดแขนออกจากการจับกุมของภูผา



       "เพราะพัสเป็นของพี่ไงครับ พัสต้องเป็นของพี่มาตั้งนานแล้ว นานมากจนพัสคาดไม่ถึงแน่ๆ พี่รักพัสนะรักพัสจริงๆ

มาอยู่กับมาพี่เป็นเมียพี่เป็นแม่ของลูกพี่ดีกว่านะพัส" ภูผาพูดบอกเหมือนคนเพ้อ

 

        "พี่ภูพูดอะไรน่ะครับ พัสไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลย" พัสกรถามอย่างไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ภูผาพูดมานั้นคืออะไร



       "ในเมื่อพัสไม่เข้าใจ แต่เพราะเห็นว่าพัสกำลังจะมาเป็นเมียของพี่ พี่จะใจดีอธิบายให้พัสฟังก็ได้ครับ" ภูผาบอกพร้อมกับ

เดินต้อนพัสกรถอยหนังไปจนชิดติดกับขอบเตียงนอนภายในห้อง แต่ด้วยความที่มัวแต่กลัวและไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวเลยทำ

ให้พัสกรเสียหลักหงายหลังนอนไปกับเตียงโดยที่มีภูผาค่อมทับกันพัสกรหนีไว้อีกที



       "อ๊ะ!!" พัสกรอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเสียหลักหงายหลังไปบนที่นอนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อภูผานั้นค่อมทับตัวและ

กดแขนทั้งสองข้างของเขาเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะพยายามที่จะดิ้นขัดขืนมากสักเท่าไหร่แต่ด้วยความที่ร่างกายและแรงต่างกัน

เลยเหมือนกับว่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงเสียอย่างนั้น



       "น้องพัสรู้อะไรมั้ยครับ? ว่าพ่อกับแม่ของพัสนั้นเอาพัสมาขายใช้นี้ในบ่อนครั้งแรกกับพ่อพี่ตั้งแต่พัสห้าขวบเองได้มั้ง

แต่ตอนนั้นปู่กับย่าพัสรู้เรื่องซะก่อนเลยเอาเงินมาให้หนี้แทนให้แล้วก็พาหายเงียบกันไปอยู่เมืองนอกโน่น แต่ตอนนั้นอ่ะพี่

ไม่รู้เรื่องอะไรสักเท่าไหร่หรอก พี่รู้แค่ว่าพ่อจะเอาพัสมาเป็นของขวัญวันเกิดให้พี่เท่านั้นเองซึ่งพี่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่หลัง

จากนัั้นมาอีกหลายปีเมื่อพ่อกับแม่ของพัสกับมาตอนที่ปู่กับย่าของพัสตายกันไปทั้งคู่แล้ว พ่อของพัสก็กลับมาเล่นที่บ่อน

ชายแดนเพื่อนบ้านประเทศของเราอีกซึ่งตอนนั้นพี่นี่แหละเป็นคนดูแลอยู่ที่สาขานั้นแทนพ่อของพี่ และก็เหมือนเดิมพ่อของ

พัสหมดตัวและติดหนี้เงินกู้ในบ่อนของพี่โดยไม่มีเงินมาใช้คืนอีกเลยขอเอาพัสมาแลกกับหนี้ก้อนนั้น โดยที่ส่งรูปพัสมาให้พี่

และให้พี่ไปตามจับตัวพัสมาเอง ซึ่งแน่นอนว่าพี่ยอมตกลงโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลาเลย แต่เพราะความที่พี่ชอบพัสมาก

เพียงแค่ได้เห็นได้เจอกันครั้งแรกตอนที่เราเดินชนกันพัสจำได้ไหมครับ" ภูผาเอียงคอถาม



       "......."



       "อ่า...จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ หลังจากวันนั้นพี่ก็เลยตัดสินใจว่าพี่จะไม่จับตัวพัสอย่างไม่เต็มใจแล้ว แต่จะหันมาจีบ

พัสแบบดีๆแทน เห็นไหมครับว่าพี่รักพัสแค่ไหน ถ้าพี่ไม่รักพี่ไม่ทนหรอกนะครับเพราะว่าพี่มีสิทธิในตัวพัสอยู่แล้ว

หลังจากนั้นพี่ก็เลยต้องหาทางเข้าไปเรียนที่คณะและมหาลัยเดียวกันกับพัสโดยที่ลงทุกตัวให้ตรงกันกับพัสเรียนทุกๆวัน

พี่กะว่าหลังเรียนจบพี่จะขอพัสเป็นแฟน คบกันและจะแต่งงานกันหลังจากนั้น และทุกอย่างก็กำลังจะไปได้ดีเลยทีเดียว

ถ้าพ่อแม่ของพัสไม่หักหลังพี่โดยที่ไปรับเอาเงินของเจ้าสัวชัชวาลย์พ่อของไอ้ภาสมันมาใช้หนี้พี่และบังคับยัดเยียดให้พัส

ไปแต่งงานกับไอ้ภาสมัน ซึ่งไอ้ภาสมันเป็นคนที่พี่เกลียดที่สุดแล้วด้วยพัสคิดว่าพี่จะรู้สึกยังไงครับ!!!"



       "....."



       "พัสรู้อะไรไหมว่าพี่น่ะนะเกลียดไอ้ภาสมันมากขนาดไหน ถ้าพี่สามารถฆ่ามันได้ง่ายๆพี่ก็จะทำ ตั้งแต่เด็กมาพี่ก็ได้ยิน

แต่ชื่อของมันจากทั้งพ่อแม่และน้องชายคนเดียวของพี่ ว่ามันเก่งแค่ไหน ดีแค่ไหน ฉลาดแค่ไหน ไม่ว่าใครหรือเรื่องอะไร

พี่ก็ได้ยินแต่ชื่อของมันตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา พี่เกลียดมันจนพี่ต้องรับบทเป็นพี่ชายใจร้ายของน้องชายคนละแม่

คนเดียวของพี่อย่างร้ายกาจเพื่อที่จะให้น้องพี่เลิกยุ่งกับมันและบังคับใช้ให้น้องพี่นี่และจัดการมันและแยกพัสออกจากมัน

อย่างเงียบๆเนียนๆ แต่มันก็ไม่ได้ผลจนพี่ต้องล้มเลิกไปและลงมือทำทุกอย่างเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจีจี้เด็กในสังกัดพี่

หรืออดีตคู่นอนของไอ้ภาสมันหรือเรื่องพนักงานในผับไอ้ภาสที่ทยอยกันลาออกเพราะเป็นหนี้นอกระบบของพี่อยู่หรือแม้

แต่เรื่องที่พี่เข้าไปป่วนมันบ่อยๆโดยที่พัสไม่รู้อีกนั่นไง มันถึงได้จ้องจะกระโจนกัดพี่ทุกครั้งที่พี่อยู่ใกล้ๆพัสให้มันเห็นไง

พัสไม่เคยเอะใจเลยหรือครับ? หืม..." ภูผาถามพร้อมกับตั้งใจจะกดจูบที่ปากของพัสกรแต่พัสกรหันเบี่ยงหลบเสียก่อนเลย

ไปโดนที่ข้างแก้มแทน



       "....."



       "อ่อ! แล้วสิ่งที่ความอดทนของพี่สิ้นสุดลงก็คือการที่ได้รับรู้ว่าพัสกำลังจะมีมารหัวขนลูกของไอ้ภาสอยู่ในท้องของพัส

นี่ไง!!!!! พัสจะผ่านใครมาหรือเป็นเมียใครกี่คนพี่ไม่สน แต่พัสจะต้องเป็นแม่ของลูกพี่เพียงคนเดียวเท่านั้น!!!! เพราะพี่จะไม่

ยอมให้ลูกพี่ต้องรู้สึกเหมือนพี่แน่นนอน การที่เป็นลูกเก็บแบบหลบๆซ่อนๆมันเจ็บปวดนะครับ!!!!!" ภูผาทั้งตะโกนตะคอก

ออกมาใส่พัสกรอย่างอดกลั้น หลายๆเรื่องหลายๆความรู้สึกของเขาในตอนนี้มันแปลปวนตีรวนกันไปหมดแล้ว

 

       "พัสไม่รู้หรอกนะครับว่าพี่ภูจะรู้จักพัสหรือจะรักพัสมากแค่ไหน แต่พัสขอบอกพี่ภูไว้ตรงนี้เลยว่าความรู้สึกที่พัสมีให้

พี่ภูมาตลอดนั้นมีเพียงแค่ความเป็นพี่น้องและเพื่อนสนิทในกลุ่มเท่านั้นแหละครับ และตอนนี้พัสก็ไม่ใช่พัสกรคนเดิมเหมือน

เมื่อก่อนแล้วเพราะพัสแต่งงานมีสามีแล้วนะครับ พัสขอร้องเถอครับ พี่ภูปล่อยพัสไปเถอะนะครับเห็นแก่ความเป็นเพื่อน

เป็นพี่เป็นน้องของเรา ปล่อยพัสกลับไปหาพี่ภาสสามีของพัสเถอะนะครับ แล้วพัสจะถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นและได้ยินจากพี่ภู

มาทั้งหมดวันนี้นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนะครับ นะครับพี่ภู ปล่อยภัสไปเถอะนะครับ" หลังจากที่เงียบและฟังอยู่นานพัสกร

ก็พยามอธิบายและต่อลองอย่างใจเย็นเมื่อเห็นแววตาแข็งกร้าวท่าทางคลุกคามและดุดันเจือความเจ็บปวดของภูผาที่แสดง

ออกมาให้เห็นนั้นมันทั้งหน้ากลัวและหน้าสงสารไปพร้อมๆกันจนเขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี ที่คิดได้ตอนนี้รู้แค่

เพียงว่าต้องพูดคุยต่อลองให้นานที่สุดและภาวนาให้สฃณัฐภาสสามีของตัวเองให้ตามหาตนเจอเร็วๆ เพราะนับตั้งแต่รู้จักกัน

กับภูผามานั้นสิ่งที่พัสกรได้เห็น ได้รู้สึกและได้สัมผัสจากภูผามานั้นมีเพียงความเป็นเพื่อนเป็นพี่ที่ใจดีและความเป็น

สุภาพบุรุษที่แสนอ่อนโยนเพียงเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อภูผาที่เหมือนเป็นคนแปลกหน้าที่ไหนก็ไม่รู้อย่างนี้



       "พี่หรอ? เพื่อนหรอ? ไม่รู้สึกอะไรเลยอย่างนั้นหรอ!!! พัสคิดว่าการที่จะตัดใจจากคนที่ตัวเองรักมาอยู่นานหลายปีนั้น

มันงายเหมือนกับการตักน้ำล้างทรายออกจากตัวหรอห๊ะ!!!" ภูผาตะคอกออกมาอย่างสุดทนเมื่อได้ยินคำพูดทั้งหมดที่ออก

มาจากปากของพัสกร



       "แต่พี่ภูก็บอกเองนี่ครับว่าไม่อยากให้ลูกของพี่ต้องเป็นเหมือนพี่รู้สึกกันกับพี่ พี่ภูก็รู้แล้วนี่ครับว่าพัสท้องอยู่น่ะ ไม่ว่า

ยังไงเรื่องของเรามันก็เป็นไปไม่ได้อีกแล้วนะครับ เห็นแต่ความเป็นเพื่อนของเราเถอะนะครับพี่ภู นะครับ พัสขอร้อง"

พัสกรบอกออกมาทั้งน้ำตาเพราะตกใจเสียงตะคอกของภูผาและเริ่มรู้สึกกลัวท่าทางคุกคามของภูผาที่ดูเพิ่มมากขึ้นทุกที



       "ก็เพราะเหตุนี้แหละพี่ถึงต้องจับตัวพัสมาอย่างนี้นี่ไง เพราะพี่จะจัดการรีดไอ้ลูกมารหัวขนออกจากท้องของพัสด้วยมือ

ของพี่เอง เอาให้แน่ใจจริงๆว่าจะไม่มีลูกของไอ้ภาสติดท้องของพัสอยู่อีก แต่พัสไม่ต้องกลัวหรอกนะถึงแม้ว่ามันอาจจะเจ็บ

นิดหน่อยแต่พี่ไม่ปล่อยให้พัสเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน" ภูผาบอกพร้อมกับแสยะยิ้มออกมาเหมือนกับตัวร้ายในละครโทรทัศน์

อย่างไงอย่างงั้น



       "ไม่นะ!!! ไม่!! พี่ภูพัสขอร้อง!!! อย่าทำพัสนะอย่าทำ!!!!! อื้อๆ อื้ออออออ" พัสกรตะโกนร้องบอกสุดเสียงเมื่อเห็นว่าภูผา

ล้วงขวดใสเล็กๆออกมาซึ่งในขวดนั้นมีน้ำสีดำๆบรรจุอยู่ไม่ต้องให้ใครอธิบายหรือเดาให้ยากเลยพัสกรก็รับรู้ทันทีเลยว่า

ไอ้น้ำสีดำๆนั้นคือยาขับเลือดอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้แน่นอนว่าเขาท้องจริงหรือเปล่าแต่สัญชาตญาณความกลัว

ของเขานั้นก็สั่งว่าให้ปัดมันทิ้งไปอย่างอัตโนมัติแต่เพราะความแข็งแรงและขนาดร่างกายที่แตกต่างกันมากทำให้ภูผานั้น

จับพัสกรกรอกยาใส่ปากได้อย่างง่ายดายถึงแม้ว่ายาจะหกไปบ้างเพราะแรงดิ้นหนีของพัสกร แต่เขาก็พอใจเพราะว่ามั่นใจ

ในความแรงของตัวยาที่เขาได้มาว่าต่อให้กินไปเพียงไม่กี่อึกก็สามารถขับเลือดขับเด็กออกมาได้อย่างแน่นอน



       "หึๆ อีกไม่กี่อึดใจหรอกครับน้องพัส รักของเราครอบครัวของเราอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมหรอกครับ" ภูผาบอกออกมาพร้อม

กับหัวเราะอย่างชอบใจเมื่อเห็นว่าพัสกรนอนสงบนิ่งไปเหมือนกับไร้เรี่ยวแรงแต่ยังคงลืมตาและรู้สึกตัวอยู่



       ตึง!!! ตึง!!! ตึง!!! ปึง!!!



       เสียงตึงตังเพราะข้าวของล้มหรือเพราะการต่อสู้จากกลุ่มคนข้างนอกดังเข้ามาภายในห้องที่มีภูผาและพัสกรอยู่ข้างใน

ทำให้ภูผาที่ยืนมองพัสกรนอนไร้เรี่ยวแรงหน้าชื้นเหงื่ออยู่อย่างมีความสุขต้องขมวดคิ้วยุ่งด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ทันได้

เดินออกไปดูประตูห้องก็ถูกกระแทกหลุดพังออกมาจากอีกฝั่ง ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากณัฐภาสสามีตัวจริงของพัสกร

ที่เดินก้าวสามขุมเข้ามาด้วยไปหน้าที่บึ้งตึงเต็มไปด้วยความเกี้ยวโกธร ไม่ต้องรอพูดคุยหรือทักทายให้เสียเวลาณัฐภาสก็

กระโจนใส่ภูผาทันทีโดยที่ภูผาไม่ทันได้ตังตัวอะไรเลยเมื่อเห็นว่าภรรยาของตนนั้นนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียงนอนกลางห้อง



       ผัวะ!! ผัวะ!! ตึก!! ผัวะ!!



       "ไอ้เลว!! เป็นมึงจริงๆด้วย อย่าอยู่เลย สัส!!!!" ทั้งมือทั้งเท้าณัฐภาสประเคนเสริฟให้ภูผาเต็มที่อย่างสุดแรงโดยที่ไม่ต้อง

ร้องขอเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่ได้ยินได้รับรู้มาจากปากของเจ้าคุณว่าธาราอดีตเพื่อนรักของตัวเองได้บอกเล่าอะไรออก

มาบ้างมันทำให้ณัฐภาสคลั่งได้ง่ายๆเลยแต่นั่นมันยังไม่เท่ากับที่ภูผาจับพัสกรภรรยาของเขามาสักนิดเลย เรื่องที่ได้ยินมานั้น

มันกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยเหมือนมดกัดไปเลยเมื่อเห็นว่าภรรยาสุดที่รักของตัวเองขอนไร้เรี่ยวไร้แรงอยู่บนเตียงของคนๆนี้

มันทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่จนสามารถให้ฆ่าใครทิ้งก็ได้ตอนนี้อย่างไม่รู้สึกผิดสักนิด

 

       "พะ...พี่...ภาส...ชะ....ช่วย....พัสด้วย!!!" พัสกรพยายามที่จะเปร่งเสียงร้องเรียกสามีของตัวเองอย่างสุดความสามรถ

เพราะเริ่มปวดหน่วงที่ท้องน้อยแต่ด้วยความที่ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้วเพราะด้วยผลข้างเคียงและฤทธิ์ของยาที่ทำให้พัสกร

ต้องแน่นิ่งตัวชาอยู่กับที่ทั้งๆที่ยังหายใจและยังสามรถรับรู้ความรู้สึกของตัวเองและสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้างได้



       ผัวะ!!! ปึก!! ปัก!! ผัวะ!! ผัวะ!!!



       "พอแล้วไอ้ภาส!!! พอแล้ว!!! มาดูเมียมึงก่อน เดี๋ยวกูกับพี่พงษ์จัดการไอ้เหี้ยนี่ต่อให้" เจ้าคุณตะโกนเรียกเตือนสติเพื่อนรัก

อย่างณัฐภาสเมื่อเห็นว่าณัฐภาสขาดสติน็อตหลุดจนคลั่งเหมือนคนบ้าไปซะแล้ว เมื่อเขาและพี่พงษ์รุ่นพี่ตำรวจที่มาช่วยด้วย

ในครั้งนี้วิ่งตามเข้ามาหลังจากจัดการพวกลูกน้องของภูผาที่อยู่ชั้นล่างของบ้านเรียบบร้อยหมดแล้วแล้เข้ามาเห็นว่าพัสกร

นอนร้องเรียกณัฐภาสอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าและอาการไม่ค่อยจะดี แต่ณัฐภาสก็ไม่ได้ยินหรือรับรู้เลยเพราะความโมโหจน

หน้ามืดเลยตั้งหน้าตั้งตาทั้งเตะทั้งกระทืบภูผาที่หมดฤทธิ์สะบักสะบอมนอนกองให้ณัฐภาสซ้อมอยู่ที่พื้นมาได้สักพักแล้ว



       "พัส!! เป็นอะไรพัสเป็นอะไร" เมื่อได้ยินเจ้าคุณบอกอย่างนั้นณัฐภาสก็ได้สติขึ้นมาจึงละเท้าออกจากร่างของภูผารีบเดิน

มาดูถามอาการของพัสกรอย่างร้อนใจเมื่อเห็นว่าทั้งหน้าทั้งตัวของพัสกรนั้นชื้นเหงื่อไปหมด แต่นั้นมันยังไม่ทำให้เขาตกใจ

เท่ากับการที่เขาได้เห็นว่ามีน้ำเนียวข้นสีแดงไหลซึมออกมาให้เห็นจากช่วงล่างของพัสกรจนเลอะเปอะเปื้อนเต็มที่นอนหรอก



       "อย่าเป็นอะไรนะพัส!!! อย่าเป็นอะไรนะ!!! อดทนนะพัส!! อดทน!!!! พี่ขอร้อง!!!" ไม่ต้องรอคำตอบออกจากปากพัสกร

แต่อย่างใด ณัฐภาสก็ช้อนตัวอุ้มภรรยาสุดที่รักออกจากตรงนั้นไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าบ้านของภูผาทันทีโดยมีเจ้าคุณวิ่งตามมา

และอาสาเป็นคนขับรถให้เพราะณัฐภาสเพราะณัฐภาสคงไม่สามารถที่จะขับรถพาพัสกรไปโรงพยาบาลได้เองอย่างแน่นอน

ในเมื่อยังจัดการกับสติตัวเองไม่ได้อยู่อย่างนี้ หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วเจ้าคุณก็รีบออกรถขับมุ่งตรงไปโรงพยาบาลไปด้วย

ความเร็วทันทีโดยมีณัฐภาสพูดเร่งเจ้าคุณและทั้งปลอบทั้งเรียกสติของพัสกรอยู่ข้างหลังรถแทบจะตลอดเวลาด้วยความใจร้อน

.

.

.

.

.

[มีต่อข้างล่างอีกค่ะ]       

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
[ต่อจากข้างบน]



"กูว่ามึงใจเย็นและนั่งลงเถอะไอ้ภาส มึงเดินวนไปวนมาอย่างนี้มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก มึงนั่งเถอะ กูเห็นมึงเดินไป

วนมาแล้วกูปวดหัวแทนว่ะ" เจ้าคุณพูดเตือนสติเพื่อนรักเมื่อเห็นว่าณัฐภาสเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินมากเกินกว่า

ครึ่งชั่วโมงได้แล้วตั้งแต่ส่งพัสกรให้หมอเข้าไปดูอาการในห้องฉุกเฉินแห่งนี้



       "เออๆ มึงว่าพัสจะเป็นอะไรมากไหมว่ะ แล้วทำไมหมอยังไม่ออกมาอีกว่ะ!!!" นั่งไปได้ยังไม่ถึงสิบวิณัฐภาสก็เด้งตัวลุก

ขึ้นมาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเหมือนเดิมพร้อมกับพูดบ่นกับเจ้าคุณด้วยความหงุดหงิดร้อนใจ เมื่อเห็นอย่างนั้น

เจ้าคุณก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อและนั่งรอเป็นเพื่อนกันกับณัฐภาสอยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างเงียบๆ



       แอ๊ดดดดดดด.....



       "เมียผมเป็นไงบ้างครับหมอ!!!" เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องฉุกเฉินและเห็นหมอคนที่เข้าไปดูอาการของพัสกรเดินออกมา

ณัฐภาสก็แทบจะกระโจนเข้าใส่หมอเลยแต่ดีที่เจ้าคุณคว้าตัวเพื่อนไว้ได้ทัน ณัฐภาสเลยได้แต่เอ่ยปากถามออกไปด้วยความ

ร้อนใจ



       "หมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับที่หมอไม่สามารถช่วยเด็กในท้องของคนไข้ไว้ได้ทัน และหมอตรวจเจอ

ยาขับเลือดเถื่อนชนิดรุนแรงอยู่ในร่างกายของคนไข้ด้วยนะครับหมอเลยรักษาคนไข้ด้วยการกรีดท้องน้อยของคนไข้เพื่อ

ที่จะขูดมดลูกนำเลือดเสียออกจากมดลลูกคนไข้นะครับเพราะคนไข้เป็นผู้ชายและไม่มีช่องคลอด อีกสักพักพยาบาลจะ

พาคนไข้ไปที่ห้องพักนะครับ ถ้าคืนนี้คนไข้ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วครับ ยังไงหมอก็ขอตัว

ก่อนนะครับแล้วพรุ่งนี้หมอจะเข้าไปตรวจอีกครั้งนึง" คุณหมอที่เป็นคนรักษาพัสกรบอกอาการและวิธีรักษากับณัฐภาส

อย่างละเอียด  ซึ่งณัฐภาสเองนั้นก็เหมือนช็อกไปแล้วเมื่อได้ยินว่าพัสกรได้แท้งลูกของเขาไปแล้ว โดยที่มีเจ้าคุณบีบบ่าเพื่อ

ให้กำลังใจเพื่อนรักเบาๆเมื่อได้ยินสิ่งที่หมอบอกออกมา



       "ดะ...เดี๋ยวครับหมอ!! ลูกผม...ลูกผมเขาอายุเท่าไหร่แล้วครับ" เมื่อตั้งสติได้ณัฐภาสก็เรียกหมอไว้ก่อนที่หมอจะเดินออก

ไปจากตรงนั้นเพื่อถามถึงลูกที่เขายังไม่เคยได้มีโอกาสที่จะรับรู้การมีตัวตนอยู่เลย แต่พอได้รู้ก็กลายสายไปเสียแล้ว



       "อายุครรภ์ประมาณแปดสัปดาห์หรือสองเดือนนั่นแหละครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวนะครับ" พูดจบคุณหมอ

ก็ขอตัวเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีเพราะได้หมดหน้าที่ของตัวเองแล้ว



       "หึๆ ลูกกูไอ้คุณลูกกู ลูกที่กูกับพัสรอมาตลอด ลูกที่กูยังไม่เคยได้รับรู้การมีตัวตนของเขาเลย" ณัฐภาสพูดบอกกับเพื่อนรัก

อย่างเจ้าคุณด้วยเสียงขื่นขม ไหล่กว้างห่องุ้ม สองมือยกขึ้นปิดหน้าทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นหน้าห้องด้วยความอ่อนแรงอยู่เงียบๆ

อย่างนั้น เจ้าคุณทำได้เพียงนั่งยองตบบ่าเพื่อนรักเบาๆในเมื่อณัฐภาสเลือกที่จะเงียบเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป แต่เขาก็เข้าใจ

และรับรู้ความรู้สึกของณัฐภาสได้ดีด้วยความที่เป็นเพื่อนรักกันมาหลายปีและในฐานะคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อคนเหมือนกัน

เพราะตอนนี้ธาราภรรยาของเขาก็กำลังตั้งท้องอยู่เหมือนกันแถมยังอายุครรภ์ใกล้เคียงกันอีกเพียงแต่ลูกเขานั้นมีอายุมากกว่า

ลูกของณัฐภาสที่เสียไปแค่สามสัปดาห์เท่านั้นเอง

.

.

.

.

.

       "มึงกับไปดูเมียมึงเถอะไอ้คุณนี่ก็ดึกแล้ว" ณัฐภาสเอ่ยขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นานตั้งแต่เข้ามานั่งเฝ้าพัสกรในห้องพัก

ห้องนี้หลังจากที่พยาบาลจัดการตรวจเช็คอาการของพัสกรเรียบร้อยแล้ว



       "แต่มึง...."



       "กูไม่เป็นไรหรอก มึงกลับไปหาเมียมึงเถอะป่านนี้มันคงนั่งชะเง้อรอมึงจนไม่ยอมหลับยอมนอนแล้วล่ะกูว่า เชื่อกูดิ

กลับบ้านไปดูเมียมึงเถอะ อย่าปล่อยให้อะไรๆมันสายไปอย่างกู ไปเถอะกูอยู่คนเดียวได้สบายมาก" ณัฐภาสบอกพร้อมกับ

ยิ้มให้เพื่อนรักอย่างเจ้าคุณไปอย่างแกนๆ ซึ่งเจ้าคุณดูก็รู้ว่าณัฐภาสต้องฝืนออกมาขนาดไหนที่จะยิ้มให้ตัวเอง



       "เฮ้อ! เออๆกูกลับก่อนก็ได้ ถ้ายังไงพรุ่งนี้กูจะรีบมาแต่เช้า มึงก็พักผ่อนซะนะภาส มีอะไรก็โทรหากูได้ตลอดเลย

แล้วกูจะรีบมา" เจ้าคุณบอกพร้อมกับตบไหล่ณัฐภาสที่นั่งหันหลังให้เบาๆโดยที่ไม่ลืมบอกเพื่อนรักพักผ่อนเพราะคนที่

ต้องแบกรับทุกอย่างทั้งหมดก็คือณัฐภาสเลยอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง ยิ่งไอ้สีหน้าตอนที่หันมาฝืนยิ้มให้เขานั้นยิ่งหน้าเป็นห่วง

แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะเรื่องความรู้สึกนั้นไม่มีใครจัดการใครได้นอกจากตัวของตัวเอง เจ้าคุณมองแผ่นหลัง

งองุ้มเพราะหมดแรงของเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงอยู่สักพัก ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ



       "พี่ขอโทษนะครับพัส พี่ขอโทษจริงๆที่พี่ไม่สามารถปกป้องดูแลพัสและลูกของเราได้อย่างที่พี่เคยสัญญาเอาไว้ แต่พัส

อย่าโกรธพี่เลยนะ อย่าโกรธพี่เลย พี่ขอโทษ ฮึก! พี่ขอโทษครับคนดี พี่ขอโทษ...ขอโทษ" ณัฐภาสฟุบหน้าร้องไห้ปล่อยน้ำตา

ลูกผู้ชายรินไหลรดกับหลังมือภรรยาตัวเองอย่างเงียบๆพร่ำบอกแต่คำว่าขอโทษอยู่อย่างนั้น เขาเสียใจๆเสียใจจริงๆเสียใจมาก

อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยจริงๆในตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ มากเสียยิ่งกว่าตอนที่เขาต้องสูญเสียแม่ของเขาไป

เสียด้วยซ้ำ เขาได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆว่าทำไมแค่เด็กคนนึงที่เขาไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนถึงได้มีอิธิพลต่อหัวใจต่อ

ความรู้สึกของเขาได้มากมายขนาดนี้ หรือนี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าสายใยความรักความผูกพันธ์ของพ่อลูกน่ะ



       "ภาสลูก" เจ้าสัวชัชวาลย์เรียกพร้อมกับแตะไหล่ลูกชายเบาๆ พอออกมาจากห้องประชุมปั๊บเสียงโทรศัพท์ของเขาก็

ดังขึ้นปุ๊บ ซึ่งคนที่โทรหาเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เปป็นเจ้าคุณเพื่อนสนิทของลูกชายเขานั่นเอง และเรื่องที่เขาได้ยินจาก

คำบอกเล่าของเจ้าคุณในโทรศัพท์มันทำให้เขาต้องรีบเปลี่ยนเส้นทางจากที่จะกลับบ้านมาเป็นโรงพยาบาลนี้แทน เพราะ

ความเป็นห่วงลูกชายและลูกสะใภ้มากนั่นเอง



       "พ่อ!! ลูกผม!! ฮึก! ลูกผมเขาไปแล้ว ฮึก! เขาจากผมไปแล้วพ่อ ไปแล้วเขาไปแล้วพ่อ..." ไม่มีอีกแล้วนายณัฐภาสหรือ

ไอ้ภาสที่คอยตั้งแง่คอยหาเรื่องทะเลาะหรือเถียงกับคนเป็นพ่อแทบจะตลอดเวลาทุกครั้งที่เจอหน้ากันตั้งแต่การจากไปของ

ผู้เป็นแม่ของณัฐภาสหรือภรรยาสุดที่รักของเจ้าสัวชัชวาลย์เพราะความน้อยที่พ่อไม่มีเวลาให้เหมือนตอนที่แม่อยู่เลยทำให้

เรียกร้องความสนใจจากพ่อด้วยการแสดงออกแบบเด็กๆ โดยการต่อต้านทุกคำพูดของพ่อหรือยกพวกท้าตีท้าต่อยเพื่อที่จะ

ให้ตำรวจจับและรอเจอหน้าพ่อตอนที่มาประกันตัว เหลือเพียงแต่น้องภาสหรือเด็กชายณัฐภาสที่ร้องเรียกหาพ่อทุกครั้งที่

เจ็บตัวหรือเสียใจเหมือนกับตอนเป็นเด็กเล็กๆและครั้งนี้ก็เหมือนกันไม่ต้องมีคำพูดหรือคำอธิบายอะไรอีก มีแค่เพียงอ้อม

กอดและฝ่ามืออุ่นๆของพ่อคอยลูบหัวลูบหลังเบาๆ ก็พอแล้วสำหรับการปลอบโยนให้ทุเลาจากการเจ็บปวดในการสูญเสีย

ที่ในครั้งนี้



       "ไม่เป็นไรนะภาสไม่เป็นไร ลูกภาสเขาไปสบายแล้ว อยากระบายก็ร้องออกมากับพ่อซะให้พอ แล้วกลับไปเป็นไอ้ภาส

ลูกชายคนเก่งของพ่อที่เข้มแข็งเหมือนเดิมนะ ภาสยังมีหน้าที่สามียังมีหน้าที่หัวหน้าครอบครัวที่จะต้องทำอยู่นะ ถ้าเกิด

หนูพัสตื่นขึ้นมาแล้วเห็นภาสร้องไห้เสียใจอยู่อย่างนี้ภาสคิดว่าน้องจะรู้สึกยังไง ฮึ! คิดซะว่ายังไม่ถึงเวลาของเรานะภาส

ภาสกับหนูพัสน่ะยังอายุน้อยและแข็งแรงและยังมีโอกาสที่จะมีลูกใหม่ได้อยู่นะและจะมีอีกสักกี่คนก็ได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่

สำคัญที่สุดคือการเยียวยาจิตใจและความรู้สึกของหนูพัสน่ะลูกเพราะน้องทั้งอ่อนแอกว่าและมีจิตใจที่บอบบางอ่อนไหว

กว่าภาสเยอะเลยนะ อยากจะได้ลูกไวๆก็ต้องรักษาร่างกายและหัวใจของคนเป็นแม่ให้แข็งแรงและดีพร้อมก่อนนะภาส" 

เจ้าสัวชัชวาลย์พูดปลอบพร้อมกับทิ้งคำสอนทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ณัฐภาสได้มีเวลาคิดและจัดการ

กับความรู้สึกของตัวเองเงียบๆคนเดียวอยู่อย่างนั้น



       จุ๊บ!!



       "รีบหายเร็วๆนะครับที่รัก พี่เชื่อว่าลูกของเรายังรอที่จะมาเกิดในท้องพัสอีกครั้งนะครับคุณแม่" เมื่อตั้งสติได้แล้วณัฐภาส

ก็ลุกขึ้นจูบหน้าผากของภรรยาเบาก่อนที่จะก้มลงไปกดจูบแช่ริมฝีปากกับหน้าท้องพัสกรอยู่นานเพื่อส่งผ่านความรู้สึกไปถึง

ลูกน้อยของตัวเองที่เคยได้อาศัยอยู่ในนั้นแม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม



       "ไม่ว่าหนูจะอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ก็ตาม รีบกลับมาหาป๋ากับคุณแม่ไวๆนะครับลูกรัก ป๋ากับคุณแม่จะรอหนูนะลูก"







...

 มาแล้วจร้า....มาแล้ว....ไอ้มี่บ้ากลับมาแล้วจร้า หลังจากที่ทิ้งหายไปซะหลายวันก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ

เนื่องจากไอ้มี่บ้าคนนี้ติดภาระกิจที่ใหญ่หลวงไม่สามารถที่จะปลีกตัวมาได้นั่นเอง และพอมาถึงก็พาเอา

น้ำตาและความสูญเสียมาฝากกันเลยทีเดียว ยังไงก็แล้วแต่ 'เชิญด่า' กันเข้ามาได้เลยค่ะ แต่อย่าแรงมากนะ

เพราะเดี๋ยวมี่นอยด์พาลไม่อัพขึ้มาอีก(แกจะเอาไงกันแน่ฟร๊ะ!!) ฮ่าๆ ยังไงก็ขอโทษอีกครั้งนะคะที่หายไปนาน

คิดถึงคนอ่านมากกกกกกกกก(กอดแน่นๆ) :กอด1:  รักนะคะคนอ่านที่น่ารักทุกคน(จุ๊บแก้มเบาๆ)  :mew1:

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ :katai4: :bye2:





 

 

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai1:   อ่ะหือออออ  อิพี่ภูอิเลว อิชั่ววว   :z6: 

สงสารพัสอ่ะ ถ้าตื่นมาแล้วรู้ว่าเสียลูกไปแล้วจะเศร้าแค่ไหน แล้วต่อไปจะปัญหาเรื่องสุขภาพของพัสมั้ย

จะทำให้มีลูกยากขึ้นรึเปล่า  :katai1:  ตอนนี้อิพี่พาสก็สติแตกเหมือนกันสินะ  :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2015 08:03:35 โดย yymomo »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด