Universe 31st : ไม่เหมือนเดิม
Kirin’s Partผมพยายามจะเข้าหาไนล์แต่ก็มีเหตุให้มีอะไรมาขัดตลอด จนกระทั่งผมกับแม่ และไอ้เทมส์กับพ่อและแม่มันถูกเชิญขึ้นบนเวทีเพื่อเปิดโครงการฯ ร่วมกันในฐานะพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญ ผมแทบจะไม่ได้สนใจอะไรเลยว่าบนเวทีพูดอะไรกัน ผมปล่อยให้เป็นหน้าที่คนอื่นพูดคุยโต้ตอบกันไป ในขณะที่ตัวเองเอาแต่จดจ้องมองน้องไม่วางตา
ผมกลัวว่าน้องจะหายไป ถ้าละสายตาไปแค่นาทีเดียว... แล้วไนล์จะหายไป
ผมมองไนล์อยู่แบบนั้นและไอ้เทมส์ก็คงสังเกตเห็น ผมเดาว่ามันคงรู้เรื่องทั้งหมดจากไนล์แล้ว เพราะจากสายตาที่มันมองผมก็ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ หนำซ้ำยังจ้องผมตาขวางตอนที่ผมมองไนล์อีกต่างหาก
แต่ผมสนที่ไหนล่ะ เพราะถ้าผมไม่เข้าหาไนล์วันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกเมื่อไหร่ หลังจากนี้ไปไอ้เทมส์ต้องหวงไนล์ไว้ไม่ให้ผมเข้าใกล้แน่ๆ...
และพอพิธีการบนเวทีจบลง โอกาสก็เป็นของผมโดยมีแม่คอยช่วย แม่กันครอบครัวไอ้เทมส์ด้วยการพยายามชวนคุย ผมเลยพุ่งตัวไปหาไนล์ที่ยืนหลบๆ อยู่แถวด้านข้าง ก็อย่างที่ผมบอก ผมจับตามองไนล์ตลอดเลยรู้ว่าน้องอยู่ตรงไหน มันเลยไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะถึงตัวน้องก่อนที่น้องจะได้ทันหนีผมเสียอีก
“ไนล์! มากับพี่มา”
ผมคว้าข้อมือเล็กไว้แน่น ในขณะที่ไนล์เองก็ได้แต่ตกใจตาโตเพราะตั้งตัวไม่ทัน กว่าน้องจะคิดได้ว่าต้องหนีผม ผมก็กึ่งจูงกึ่งบังคับให้น้องเดินมาถึงลิฟต์แล้ว
“ปล่อย! คุณจะพาผมไปไหน ปล่อยผมนะ คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้!” ไนล์ทั้งดิ้นทั้งสะบัดแต่ก็สู้แรงผมไม่ได้ ผมกำข้อมือน้องแน่นไม่ยอมปล่อย แน่นพอๆ กับที่ผมจะไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดรอดไปเด็ดขาด
ผมกดปุ่มที่ลิฟต์ย้ำๆ ก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออก ผมจูงน้องเดินเข้าไปทั้งๆ ที่น้องไม่ยอมนั่นล่ะ และหลังจากประตูลิฟต์ปิด ผมก็กดไปชั้นที่ตัวเองต้องการ ชั้นที่ผมจองห้องพักเอาไว้ ไม่คิดเลยว่ามันจะมามีประโยชน์เอาตอนนี้
“เราต้องคุยกันนะไนล์” ผมพูดกับน้องด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน แม้ว่าตอนนี้ไนล์แทบจะไม่มองหน้าผมเลยก็ตาม “พี่ขอร้องนะครับ พี่รู้ว่าพี่ทำผิด…”
“ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ ปล่อยผม!” ไนล์พยายามจะบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของผม แต่ผมไม่ยอม “ผมคืนทุกอย่างให้คุณแล้ว เราไม่มีอะไรติดค้างกัน อย่ามายุ่งกับผมอีก!”
ผมทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บปวด นึกเข้าใจความรู้สึกของไนล์ขึ้นมาทันทีเวลาถูกผมไล่หรือพูดจาไม่ดีใส่ ทั้งที่สิ่งที่น้องพูดกับผมยังเลวร้ายไม่ได้เศษเสี้ยวที่ผมเคยพูดหรือทำใส่น้องเลยด้วยซ้ำ … ผมทำเรื่องแย่ๆ มากขนาดนั้นไปได้ยังไง
และในขณะที่ผมกำลังจะเอ่ยปากขอร้องไนล์อีกครั้ง ประตูลิฟต์ก็เปิดออกเสียก่อน ผมเลยจูงมือไนล์ไปที่ห้องพักที่อยู่ไม่ไกล ไนล์เองที่พอรู้ว่าผมจะพาไปไหน จากที่แค่พยายามจะบิดข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุมก็เริ่มดิ้นรนให้ผมปล่อย ดวงหน้าหวานซีดเผือด ตาเบิกกว้างราวกับกำลังหวาดกลัว
และผมก็รู้ดีว่าไนล์กลัวอะไร นั่นทำให้ผมโคตรรู้สึกแย่กับการกระทำที่ผ่านมาของตัวเองยิ่งกว่าเดิม
ผมทำให้ไนล์กลัว ผมทำให้ไนล์มีบาดแผลในใจที่ไม่น่าจะหายขาดได้ง่ายๆ ทั้งที่รู้ว่าน้องเจอเรื่องอะไรมา ผมก็ยังทำแย่ๆ แบบนั้นใส่น้อง นั่นทำให้ผมกลัวขึ้นมาบ้าง เป็นความกลัวที่เกาะกินอยู่ในใจ
ผมกลัวว่าไนล์จะไม่ให้อภัย ไม่ให้โอกาส ไม่ให้คนที่กำลังสำนึกผิดแบบผมได้ดูแลน้องบ้าง ดูแลน้องเหมือนที่น้องเคยดูแลผม
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว พี่แค่อยากคุยกับไนล์ อยากคุยกันแค่เราสองคน พี่รู้ว่ามันยากที่ไนล์จะเชื่อใจ แต่ไนล์เชื่อพี่หน่อยนะครับ พี่ขอร้อง”
ผมอ้อนวอนขอน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นัยน์ตากลมโตยังคงดูหวาดระแวงแต่ไนล์ไม่ดิ้นรนเท่าในคราวแรก นั่นเลยทำให้ผมพาน้องมาถึงห้องพักจนได้
หลังจากที่ปิดประตูล็อคห้องเรียบร้อย ไนล์ก็ดิ้นรนขอให้ผมปล่อยอีกครั้งและครั้งนี้ผมก็ยอมปล่อยเขาเพราะเห็นว่าเราอยู่ในพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากพอแล้ว ผมมองหน้าน้องนิ่งในขณะที่น้องไม่ยอมมองผมเลยด้วยซ้ำ และที่สุดแล้วผมก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหว ผมตรงเข้าไปกอดน้อง กอดเพื่ออยากจะบอกน้องว่าผมคิดถึงเขามากแค่ไหน แม้ปฏิกริยาที่ไนล์ตอบกลับมาจะไม่ใช่ในแบบที่ผมคาดหวัง แต่ผมก็ไม่ได้ยอมแพ้ ผมยังคงกอดไนล์อยู่แบบนั้น จนในที่สุดไนล์ก็เลิกดิ้น น้องยืนเฉยๆ ให้ผมกอด ไม่หือ ไม่อือ และไม่แม้แต่จะยกมือกอดผมตอบ ซึ่งนั่นทำให้ผมเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม
เคยทำอะไรน้องไว้ ตอนนี้มันคืนสนองผมทั้งหมด เหมือนเวรกรรมตามทันยังไงไม่รู้“พี่คิดถึง คิดถึงมากๆ ...” ผมได้แต่พร่ำบอก แต่ไนล์ก็ยังคงนิ่งเหมือนเขาไม่ได้ยินดีที่จะรับฟัง และสุดท้ายเมื่อน้องพยายามจะดันตัวออก ผมเลยต้องยอมปล่อย เพราะไม่อยากจะทำอะไรที่เป็นการฝืนใจไนล์ ให้ไนล์รู้สึกแย่กับผมอีก
“คุณมีอะไรก็พูดมา รีบๆ พูด ผมจะได้รีบๆ ไป” ไนล์พูดกับผมด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาที่เขามองมายังผมไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้มันเต็มไปด้วยความรักและความคิดถึงทุกทีที่เขามองหน้าผม
และยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือสรรพนามที่เขาใช้เรียกผมและใช้เรียกแทนตัวเอง มันดูห่างเหินจนผมทนไม่ได้ และเผลอขอร้องออกไปอย่างตัดพ้อ
“ไนล์.. ไนล์เรียกพี่ว่าพี่ภู แล้วแทนตัวเองว่าไนล์เหมือนเดิมได้ไหม คือพี่..”
“พูดธุระของคุณมา ผมจะเรียกคุณว่ายังไงแล้วแทนตัวเองว่าอะไรมันก็เรื่องของผม” ไนล์ยังคงเย็นชาใส่ผม น้องพูดสวนออกมาทั้งที่ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ “ในเมื่อผมเคยให้แล้วคุณไม่อยากรับ ผมก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทู่ซี้ให้คุณอีก”
น้องมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจและนั่นทำให้ผมเสียใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะผมทำอย่างที่ไนล์พูดจริงๆ
“ไนล์ พี่ขอโทษ พี่อยากขอโทษสำหรับทุกอย่าง ตอนนี้พี่รู้ความจริงหมดแล้ว พี่มันโง่เอง พี่มันโง่ที่หูเบาเชื่อคนอื่น พี่มันโง่ที่ไม่หนักแน่นพอ พี่โง่ทุกอย่าง พี่ผิดเองทุกอย่าง” ผมตรงเข้าไปจับมือเล็กๆ ของน้องไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของตัวเอง ราวกับกำลังร้องขอ “ไนล์ยกโทษให้พี่ได้ไหมครับ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม พี่ขอร้อง ไนล์ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งนะ”
ไนล์ดึงมือออกช้าๆ น้องมองหน้าผมอย่างเย็นชา แต่ประโยคที่น้องพูดออกมากลับเย็นเยียบยิ่งกว่าสายตาที่น้องใช้มองผมอีกด้วยซ้ำ
“เราอย่ายุ่งกันอีกเลยครับ ต่างคนต่างอยู่เถอะ” น้องยังคงพูดนิ่งๆ แต่เฉือนหัวใจผมจนเหวอะหวะไปหมด “ผมผิดเองที่เข้าไปหาคุณทั้งที่คุณไม่ต้องการ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมไม่ควรแม้แต่จะเริ่มทำแบบนั้นด้วยซ้ำ .. ความรักที่คุณไม่ต้องการน่ะ มันไร้ค่าจะตายไป”
ไนล์พูดน้ำเสียงหยันๆ แววตากลมโตดูเจ็บปวดไม่น้อยที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา และนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น เมื่อนึกถึงการกระทำที่ผ่านมาของตัวเอง ผมละเลยความรู้สึกของไนล์ ผมละเลยหัวใจที่รักและภักดีกับผมมาตลอด ผมละเลยน้อง ละเลยทุกอย่าง แต่วันนี้ผมกลับมาร้องขอให้เราเป็นเหมือนเดิม ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ผมก็อยากที่จะพยายามเพราะผมไม่อยากเสียน้องไป
“แต่ตอนนี้พี่ต้องการ” ผมมองสบเข้าไปในดวงตากลมโต เพื่อแสดงความจริงใจให้น้องเห็น “พี่รู้ว่าที่ผ่านมาผมทำตัวไม่ดีกับไนล์ ทั้งที่ไนล์ดีกับพี่ รักพี่ แต่พี่ก็ยังงี่เง่าเอาแต่หูเบาแล้วก็เชื่อคนอื่น พี่รู้ว่าการมาขอโอกาสไนล์ตอนนี้มันดูเหมือนคนหน้าด้าน แต่พี่อยากให้ไนล์รู้จริงๆ ว่าพี่เสียไนล์ไปไม่ได้ พี่ระ..”
ปังๆๆๆๆผมชะงัก น้องเองก็สะดุ้งตอนได้ยินเสียงทุบประตูสลับกับเสียงเคาะประตูที่ดังอยู่หน้าห้อง จากนั้นก็ตามมาด้วยน้ำเสียงคุ้นหูที่ทั้งผมไนล์รู้ดีว่าเป็นเสียงของใคร
“ไอ้ภู!!! มึงเปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!!”เสียงไอ้เทมส์ที่ดังลั่นอยู่หน้าห้องทำให้ผมนึกรู้ว่าเวลาของผมหมดลงแล้ว ไนล์เองก็สะบัดมือออกจากการเกาะกุมผมทันทีแล้วทำท่าจะพุ่งไปที่ประตู เพื่อเปิดให้พี่ชายของตัวเองเข้ามา จนผมต้องตามไปกอดน้องไว้จากด้านหลัง เพราะรู้ดีว่าถ้าหลังจากที่ประตูบานนี้ถูกเปิดออก โอกาสที่ผมจะได้เข้าหาไนล์ได้แบบนี้คงจะเกิดขึ้นได้ยากเต็มที
... ไอ้เทมส์ มันไม่ปล่อยให้น้องมันได้คุยกับผมง่ายๆ อีกแน่ ผมรู้นิสัยมันดี โดยเฉพาะนิสัยหวงน้องของมัน ผมรู้ตั้งแต่ยังไม่เคยเจอไนล์เลยด้วยซ้ำ และยิ่งสถานการณ์ในตอนนี้อย่าได้หวังเลยว่ามันจะใจดีกับผม ไม่มีทางแน่
“ไนล์ พี่ขอร้อง อยู่กับพี่แบบนี้ก่อน คุยกับพี่ก่อนเถอะนะ อย่าเพิ่งเปิดประตูเลย” ผมอ้อนวอนน้องพร้อมกับกอดไว้แน่น ห้าวันที่ผ่านมาทำให้ผมรู้ว่าผมคิดถึงน้องมากแค่ไหน ตอนที่ได้เห็นหน้าน้องอีกครั้ง
“ปล่อยผม! ผมจะออกไปหาพี่เทมส์ ปล่อยย!” ไนล์ดิ้นแต่ผมก็ยังกอดน้องไว้ไม่ปล่อย
“ไอ้ภู! กูบอกให้มึงเปิดประตูไง!!! ปล่อยไนล์ออกมาเดี๋ยวนี้!!”
เสียงทุบประตูดังขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ไนล์เองก็ดึงดันที่จะให้ผมปล่อย ผมเองที่พอเห็นน้องดิ้นมากๆ เข้าก็ทำใจรั้งน้องต่อไปไม่ไหวเพราะกลัวจะทำน้องเจ็บตัวเข้า สุดท้ายผมเลยต้องยอมปล่อยไนล์ไป
และพอผมปล่อยไนล์ให้เป็นอิสระ ไนล์ก็พุ่งไปที่ประตูแล้วเปิดออกทันที พร้อมๆ กับที่ไอ้เทมส์พุ่งเข้ามากอดน้องแน่น มันมองผมด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนที่จะดันไนล์ไปข้างหลัง
ข้างหลังที่มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับผมและมัน ผู้ชายที่ผมคุ้นตามากแต่จำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหน และผู้ชายคนที่ว่าก็ดึงไนล์เข้าไปโอบไว้แน่น .. ผู้ชายที่ทำให้อารมณ์หึงหวงของผมพลุ่งพล่านจนแทบติดเพดาน
ผมไม่สนสายตาที่ไอ้เทมส์มองมาสักนิด เพราะตอนนี้ผมกำลังจ้องไปที่ผู้ชายคนที่กำลังโอบไนล์ไว้ ก่อนจะพูดเสียงเย็นด้วยความไม่พอใจ
“ปล่อยไนล์ คุณมีสิทธิ์อะไรมากอด?” ผมชี้หน้าผู้ชายคนนั้น พร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาก่อนที่ไอ้เทมส์จะเดินเข้ามากั้นกลาง และเป็นมันที่ผลักไหล่ผมให้ถอยออกมา
“มึงนั่นแหละไอ้ภู มึงมีสิทธิ์อะไรที่พาน้องกูออกมาแบบนี้ ใครอนุญาตให้มึงแตะตัวน้องกูได้กัน?”
ผมตวัดสายตามองเพื่อนสนิทอย่างไม่พอใจ ผมรู้ว่ามันโกรธที่ผมทำไม่ดีกับไนล์ ผมรู้ว่ามันอยากจะด่า อยากจะอัดผมเต็มแก่แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ไหม ตอนที่มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้มายืนกอดไนล์แบบนี้
“กูรู้ว่ามึงโมโห มึงไม่พอใจกู แต่ก่อนที่เราจะเคลียร์กัน มึงก็ไม่ควรให้ใครก็ไม่รู้มายืนกอดไนล์แบบนี้รึป่าววะ?”
ผมชี้มือไปที่ด้านหลังของไอ้เทมส์ แต่มันก็ไม่สนใจ มันยังจ้องผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จ้องเหมือนกับว่าถ้าผมไม่ใช่เพื่อนมัน มันคงจับผมกระทืบจนจมดินไปแล้วตอนนี้
“ลมไม่ใช่คนอื่น สำหรับผมลมไม่ใช่คนอื่น ลมไม่เคยเป็นคนอื่น คุณต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์มาชี้หน้าลมแบบนี้”แต่แทนที่ไอ้เทมส์จะเป็นคนตอบ เสียงใสๆ ที่คุ้นหู เสียงใสๆ ที่เคยเรียกผมว่าพี่ภูอย่างนั้น พี่ภูอย่างนี้กลับเป็นคนพูดขึ้นมาแทน แถมประโยคที่ไนล์พูดยิ่งทำให้ผมหึงหวงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และในจังหวะที่ผมหันไปมองน้อง ภาพของคืนที่ผมได้เจอไนล์ครั้งแรกหลังจากกลับจากอเมริกาก็แว่บเข้ามาในหัว ภาพคล้ายๆ กันกับแบบนี้ ภาพที่ผู้ชายคนนั้นโอบไนล์ไว้ พร้อมกับออกตัวปกป้อง
‘ไนล์!! ... คุณทำอะไร? มีสิทธิ์อะไรมากอดไนล์?’
‘อ่อ.. ลูกค้ามาตามถึงที่เลยเว้ย ท่าทางจะเด็ดจริง’‘ผมถามว่าคุณทำอะไร คุณมาลวนลามไนล์อย่างนี้ได้ยังไง?’‘ไปกันเถอะลม เราอยากกลับแล้ว .. นะลม.. ขอร้อง อย่ามีเรื่องกันเลย ไปกันเถอะ เราไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ’‘ไนล์แน่ใจนะว่าไม่ได้เป็นอะไร มันไม่ได้ทำอะไรไนล์แน่นะ ห้ามโกหกรู้ไหม’
‘อื้อ เราไม่ได้เป็นอะไร กลับกันเถอะนะ’และผมก็จำได้ ลม.. คือผู้ชายคนเดียวกับคืนนั้น คนที่ผมเข้าใจว่าเป็นลูกค้าของไนล์ แต่ที่จริงไม่ใช่ ลมเป็นอะไรกับไนล์ผมไม่รู้ แต่ที่ผมรู้คือผู้ชายคนนี้ชอบไนล์ของผม เขารู้สึกมากกว่าเพื่อน รู้สึกมากกว่าคนรู้จัก ไม่ว่าเขาจะรู้จักไนล์ในฐานะอะไร แต่เขาต้องรู้สึกกับไนล์มากกว่านั้นแน่ สายตาเขามันฟ้อง สายตาที่เขาใช้มองไนล์เป็นสายตาแบบเดียวกับที่ผมมองน้อง
แค่รู้สึกว่าตัวเองมาทีหลัง แค่รู้สึกว่าตัวเองไม่เคยได้ปกป้องน้องแบบที่ผู้ชายคนนั้นทำ ผมก็รู้สึกพ่ายแพ้จนย่อยยับ และนี่ยังต้องมาเห็นว่าไนล์ออกตัวปกป้องผู้ชายคนนั้นต่อหน้าต่อตาอีก และเพราะอย่างนั้นยิ่งทำให้ผมรู้สึกหึงหวงและไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
“ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนอื่น!! พี่ก็ไม่ใช่คนอื่นสำหรับไนล์เหมือนกัน!! ในเมื่อเราเคย..”
พลั่ก!!ผมยังไม่ทันได้พูดจบประโยคหมัดลุ่นๆ จากเพื่อนสนิทก็กระแทกหน้าผมอย่างจัง แต่นั่นก็ยังไม่เรียกสติผมได้เท่ากับการได้เห็นน้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตากลมโต ดวงตาที่เคยสดและผมไม่อยากเห็นมันเศร้าหมองอีก แต่ครั้งนี้ผมกลับทำให้ไนล์เป็นคนร้องไห้เสียเอง
เป็นผมอีกแล้วที่ทำให้น้องเสียใจ
“ถ้าไม่ใช่ว่ามึงกับกูเป็นเพื่อนสนิทกัน ถ้าไม่ใช่ว่ามึงกับกูเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก กูกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่ากูสามารถตัดเพื่อนกับมึงได้แน่ๆ โทษฐานที่มึงทำร้ายและทำให้น้องกูเสียใจ”
“...”
“แต่เพราะเรื่องนี้กูเองก็มีส่วนผิด น้องกูเองก็มีส่วนผิด เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของเราจะเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่กับน้องกู กูบอกมึงไว้ตรงนี้เลยไอ้ภูว่ามึงห้ามมายุ่งกับไนล์อีก กูจะไม่ยอมให้มึงเข้ามาใกล้หรือทำให้น้องกูเสียใจอีกเด็ดขาด และหมัดเมื่อกี้ก็เพื่อให้มึงได้สำนึกว่าคำพูดหมาๆ ของมึงทำให้น้องกูต้องเสียใจมาแล้วตั้งกี่ครั้ง หวังว่ามึงคงจะคิดได้และเลิกยุ่งกับไนล์สักที”
“ไม่ กูไม่เลิกยุ่ง” ผมใช้หลังมือปาดเลือดที่มุมปาก แม้ปากผมจะแตก แต่ผมก็ไม่สนใจเลยสักนิดเพราะความเจ็บที่เกิดขึ้นเทียบเท่ากับความเจ็บที่เกิดในใจผมไม่ได้เลย
ผมเกลียดความใจร้อนของตัวเอง ผมเกลียดที่ทำทุกอย่างให้แย่ยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้นอกจากไนล์จะเสียใจเพราะคำพูดของผมแล้ว ไอ้เทมส์ยังกีดกันไม่ให้ผมเข้าใกล้น้องอีก
“มึงต้องเลิกยุ่ง เพราะกูจะให้ไนล์หมั้นกับลม” ผมช็อค ยอมรับว่าตะลึงไม่น้อยกับสิ่งที่ไอ้เทมส์พูดออกมา ก่อนจะค้านหัวชนฝา เรื่องอะไรจะมาพรากไนล์ไปจากผม ผมไม่มีวันยอมแน่ๆ
“กูไม่ยอม! มึงมีสิทธิ์อะไรจะให้น้องไปหมั้นกับคนอื่น” ผมชี้ไปที่ไอ้เด็กนั่นที่ยืนอยู่ข้างน้อง “ไนล์ไม่ได้รักมัน คนที่ไนล์รักคือกู แล้วมึงจะมาบังคับให้น้องไปคบกับมันทำไม”
ผมพูดเต็มปาก ใช่! ผมกล้าพูดเต็มเลยว่าไนล์รักผม รักผมมาสิบปี รักผมคนเดียวมาโดยตลอด ผมต่างหากที่มีสิทธิ์อย่างชอบธรรมไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ที่ตัวหรือสิทธิ์ที่หัวใจของไนล์
“หึ! มึงก็กล้าเอาเรื่องนี้มาอ้างนะไอ้ภู.. ใช่! กูไม่เถียงว่าไนล์รักมึง แต่ไนล์รักมึงแล้วยังไงในเมื่อมึงไม่ได้รักน้องกู แค่ที่มึง.. ฮึ่ย!” ดูจากท่าทางผมก็รู้ทันทีว่าไอ้เทมส์มันหมายถึงเรื่องอะไร นี่ไนล์คงจะบอกมันแล้วเรื่องระหว่างไนล์กับผม ก็ดี ให้มันรู้ก็ดี เพราะยังไงผมก็ต้องใช้เรื่องนี้มาอ้างสิทธิ์ในตัวน้องอยู่แล้ว “แค่ที่มึงทำกับน้องกู ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้อะไรมันง่ายขึ้นนะ ข้อตกลงก็คือข้อตกลง ไนล์สัญญากับกูไว้แล้ว”
ผมชะงัก รู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของเพื่อนสนิท ทั้งที่มันก็รู้ทั้งรู้ว่าผมมีอะไรเกินเลยกับน้องแล้ว ทำไมมันถึงยังดึงดันห้ามไม่ให้ผมยุ่งกับไนล์ แล้วยังจะสัญญาและข้อตกลงอะไรนั่นอีก มีเรื่องที่ผมยังไม่รู้อีกรึไง
“มึงหมายความว่ายังไงเทมส์ สัญญาอะไร ข้อตกลงอะไร” ไอ้เทมส์ยิ้มเหยียด คล้ายๆ จะสมน้ำหน้าผม ก่อนจะตอบ
“ข้อตกลงและสัญญาที่ไนล์ยอมให้ไว้ก่อนจะขอกูไปอยู่กับมึงไง กูบอกน้องไว้ว่าถ้าไปอยู่กับมึงแล้วมึงไม่รักตอบ หรือถ้าเรื่องระหว่างมึงกับไนล์ไม่ป็นไปอย่างที่ไนล์หวัง ไนล์ต้องยอมให้โอกาสลม ไนล์ต้องยอมให้ลมดูแล.. ลมที่รักไนล์มาเป็นสิบปีไม่ต่างจากที่ไนล์รักมึง”
“…” ไอ้เทมส์ว่ายาวเป็นชุด ในขณะที่ผมได้แต่อึ้งซ้ำอึ้งซ้อนพูดไม่ออก เพราะไม่คิดว่าไนล์จะยอมรับข้อตกลงแบบนี้กับไอ้เทมส์เพื่อให้ได้มาดูแลผม และนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดกับน้องเข้าไปใหญ่ และอีกอึ้งก็คือไอ้เด็กนั่นมันรักไนล์มานานมากเหมือนกัน และในสายตาไอ้เทมส์มันก็มีภาษีดีกว่าผมหลายเท่า เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่เคยทำให้ไนล์เสียใจอย่างที่ผมเคยทำ
และถ้าผมเป็นพี่ชายที่หวงน้องมากๆ แบบไอ้เทมส์ หากจะต้องเลือกใครมาดูแลแก้วตาดวงใจของผม ผมก็คงเลือกไอ้เด็กลมอย่างไม่มีเงื่อนไขเหมือนกัน
“เพราะฉะนั้นถ้าให้กูเลือก กูก็จะเลือกคนที่พร้อมจะรักและดูแลไนล์อย่างดีเหมือนอย่างที่ลมทำมาตลอด ไม่ใช่คนที่ขยันทำร้ายหรือทำให้ไนล์ร้องไห้แบบมึง”
แต่ผมไม่ใช่พี่ชายไนล์ และผมก็อาจจะไม่ได้ดีเด่วิเศษวิโสเท่าไอ้เด็กลม ดังนั้นผมเลยไม่จำเป็นต้องเสียสละหรือเลือกใครให้ไนล์ ผมก็คือผม ผมที่จะไม่ยอมเสียไนล์ไปให้ใครเช่นกัน“แล้วทำไมกูต้องยอมทำตามที่มึงเลือกด้วย” ผมตอบเพื่อนสนิทอย่างยียวน เห็นมันกำหมัดแน่น มองผมตาถมึงทึงก็นึกรู้ว่ายั่วให้มันโกรธได้สำเร็จแล้ว “และต่อให้ไนล์เลือกไอ้เด็กนั่นกูก็ไม่สนอีกเหมือนกัน … อย่างที่มึงรู้ว่ากูกับน้องมึงเกินเลยกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เพราะฉะนั้นกูมีสิทธิ์ในตัวไนล์ทุกอย่าง! ไม่ว่ามึงหรือใครก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับไนล์ของกูทั้งนั้น!”
“ไอ้สัสภู! มึง!”
ไอ้เทมส์โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ผมเองก็ชักจะหงุดหงิดเพราะแค่เพื่อนกีดกันยังไม่พอ ยังต้องมาทนหึงหวงแต่ทำอะไรไม่ได้ทั้งที่ไอ้เด็กเวรนั่นกอดเมียผมแน่นแบบนี้
และพอไอ้เทมส์พุ่งเข้ามาผมเลยตั้งใจว่าจะซัดมันกลับเหมือนกัน แต่เจ้าของร่างเล็กกลับวิ่งมาขวางตรงกลาง ทำให้ทั้งผมและไอ้เทมส์ชะงัก ก่อนที่ไนล์จะวิ่งเข้าไปกอดไอ้เทมส์ไว้แน่น
“พี่เทมส์อย่าครับ พอเถอะ! กลับบ้านเรากันนะ ไนล์อยากกลับบ้านแล้ว"
ผมเองก็ชะงักค้างไปพอๆ กับไอ้เทมส์ที่ยอมหยุดทันทีที่เห็นว่าน้องเข้ามาอยู่ในรัศมีที่อาจจะโดนลูกหลงหรือได้รับบาดเจ็บถ้าเราสองคนทะเลาะต่อยตีกัน
นั่นคือสิ่งที่เรามีเหมือนกันในเวลานี้... ความรักและความเป็นห่วงที่เรามีให้ไนล์
และตอนนี้เพราะความรักที่ไอ้เทมส์มีให้ไนล์เลยทำให้มันกำลังจะทำตามที่ไนล์ร้องขอ มันกอดตอบน้องแน่น ทั้งที่จ้องหน้าผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อนั่นแหละ
“โอเคครับ กลับก็กลับ ไม่ต้องร้องไห้นะคนเก่งของพี่”
และเพราะความรักที่ผมมีให้ไนล์เหมือนกันเลยทำให้ผมทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำออกไป ยิ่งได้ยินไอ้เทมส์ปลอบเพราะไนล์กำลังร้องไห้ ผมเลยตัดสินใจทำในสิ่งที่ความรู้สึกเรียกร้อง
ผมตรงเข้าไปคว้าข้อมือเล็กของน้อง ในจังหวะที่ไอ้เทมส์ปล่อยน้องออกจากอ้อมกอดพอดี เพราะมันกำลังจะพาน้องกลับบ้านตามที่น้องขอ ไนล์เลยหันมาตามแรงดึงและมองหน้าผมด้วยสายตาโกรธเคือง
“ไนล์ พี่ขอร้อง.. พี่เสียไนล์ไปไม่ได้จริงๆ พี่ขอโอกาสจากไนล์สักครั้งได้ไหมครับ” ผมร้องขอน้องด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนหวังจะให้ไนล์เห็นใจ
“สามเดือน..” น้องพูดเสียงสั่นตอนมองหน้าผม น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วกลับมาคลอหน่วยอีกครั้ง ทำเอาใจผมเจ็บไปหมด “สามเดือนที่อยู่ด้วยกันมา นั่นแหละครับโอกาส .. โอกาสทั้งของคุณและของผม แต่คุณกลับไม่เคยเห็นค่าและให้ความสำคัญ”
“…” ผมเงียบ ความรู้สึกผิดท่วมท้นในหัวใจ
“ทั้งที่ผมพยายามทุกอย่าง ผมไม่ได้คาดหวังให้คุณมารักผมด้วยซ้ำ แต่ทำไม... ฮึก ทำไมคุณต้องทำร้ายผมขนาดนี้ด้วย” น้ำใสๆ ไหลอาบแก้มน้อง
“พี่.. พี่” ผมพูดอะไรไม่ออก นึกเกลียดตัวเองขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินน้องพูดออกมาแบบนี้
“คุณไม่รักผม ผมไม่ว่า แต่คุณกลับดุผม ต่อว่าผม ดูถูกผมสารพัด ความดีและความรักที่ผมมีให้คุณตลอดสามเดือนมันไม่เพียงพอเลยสักนิด เมื่อเทียบกับคำพูดของผู้หญิงคนนั้นแค่ประโยคเดียว”
ไนล์ยังคงร้องไห้ ในขณะที่มือผมที่รั้งน้องไว้ก็อ่อนแรงลงทุกที
“พี่ขอโทษ.. พี่ขอโทษนะไนล์” ผมพึมพำคำนี้ซ้ำไปซ้ำมา เสียงที่เคยทุ้มแน่นกลับแผ่วลงเรื่อยๆ เพราะความรู้สึกผิด และแม้จะอยากพูดอะไรมากกกว่านี้ผมก็กลับคิดว่าไม่มีคำไหนเลยที่เหมาะจะพูดกับน้องเท่ากับคำนี้
คำว่าผมขอโทษ และผมเสียใจ ต่อให้อยากบอกรักน้องแค่ไหนผมก็คิดว่ามันคงไม่เหมาะและดีพอที่จะบอกน้องในเวลาแบบนี้“พอเถอะครับ ถ้าคุณรู้สึกผิดที่ทำไม่ดีกับผม ผมยินดียกโทษให้” ผมยิ้มออกมาอย่างยินดีเมื่อได้ยินน้องพูดแบบนี้ แต่แล้วก็ต้องหน้าเสีย พอได้ยินประโยคถัดมา “แล้วก็กลับไปหาผู้หญิงคนนั้นของคุณเสียเถอะครับ ในเมื่อคุณลืมเธอไม่เคยได้ และรักเธอมาก ระหว่างเราก็ให้จบลงแค่นี้แล้วกัน”
“ไม่! ไม่ใช่นะไนล์!” ผมส่ายหน้าไม่ยอมรับการตัดสินใจของน้องทันทีเมื่อได้ยินน้องพูดจบประโยค ผมยึดข้อมือน้องไว้อีกครั้ง และก็น่าแปลกที่ครั้งนี้ไอ้เทมส์ไม่ได้เข้ามาขวางหรือห้ามอะไร แต่ผมก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว นอกจากได้ปรับความเข้าใจกับไนล์
“…” น้องไม่ตอบรับคำปฏิเสธของผม แต่กลับจ้องหน้าผมนิ่งด้วยสายตาอ่านไม่ออก
“มันก็จริงที่พี่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำ แต่มันไม่ใช่แค่นั้นนะไนล์…” ผมยังพูดไม่ทันจบ ก็เจอน้องสะบัดมืออกจากการเกาะกุมก่อน
“พอเถอะครับ พอได้แล้ว ผมไม่อยากฟัง” ไนล์หันหน้าหนีผม ก่อนจะถูกไอ้เทมส์ดึงเข้าไปกอด “กลับกันเถอะครับ”
ไอ้เทมส์ปรายตามามองผมเล็กน้อยตอนที่จะพาไนล์ออกเดิน และผมก็ได้รู้ว่าทำไมมันไม่เข้ามาขวางตอนที่ผมกับน้องกำลังคุยกัน… เพราะมันจะปล่อยให้ไนล์เป็นคนพูดเอง ให้ไนล์ปฏิเสธผมด้วยตัวเอง มันรู้นิสัยน้อง มันรู้ว่าไนล์จะยืนหยัดในความคิดตัวเองเวลาที่ดื้อมากๆ ไนล์จะฟังหัวใจและความรู้สึกของตัวเองมากที่สุดเมื่อตั้งใจแล้ว
และความตั้งใจในตอนนี้ของก็น้องคือการตีตัวออกห่างผม ซึ่งไนล์ก็จะทำมันให้สำเร็จจนได้ เหมือนตอนที่ไนล์อยากเข้ามาอยู่ในชีวิตผมนั่นแหละ
พอรู้ผมก็เริ่มร้อนรน ยิ่งเห็นไอ้เทมส์ส่งไนล์ให้ไอ้เด็กชื่อลมประคองผมยิ่งทนไม่ได้ เลยตัดสินใจจะพุ่งเข้าไปหาน้องอีกรอบ แต่เสียงใสๆ ที่ดังขึ้นกลับตรึงเท้าทั้งสองข้างของผมให้หยุดนิ่งได้ชะงัด
“ตอนนี้ผมไม่ได้เกลียดคุณ แต่ถ้าคุณอยากให้ผมเกลียดจะลองตามผมมาก็ได้นะครับ”และเพราะคำพูดประโยคนั้นของไนล์เลยทำให้ผมได้แต่ยืนนิ่งๆ และมองไอ้เด็กชื่อลมประคองไนล์เดินออกไป แม้จะไม่อยากปล่อย แต่เพราะรู้ดีว้าตัวเองได้ทำโอกาสที่ดีและเหมาะสมที่สุดหลุดลอยไปแล้ว ผมก็คงต้องยอมถอยออกมาก่อนเพราะถ้าขืนดันทุรังมากๆ อาจจะทำให้ไนล์โกรธและเรื่องราวมันอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้
สุดท้ายผมเลยได้แต่ยืนมองแผ่นหลังเล็กๆ ที่กำลังก้าวห่างออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแผ่นหลังเล็กๆ นั้นพ้นและลับตาออกไปจากห้องพร้อมๆ กับเสียงประตูที่ปิดลง ความรู้สึกหนึ่งก็เกิดขึ้นมาในหัวของผม
‘ไนล์ได้แต่มองผมและเห็นผมด้วยมุมแบบนี้ตลอด เขามักจะเดินตามหลัง ไม่เคยมาเดินข้างๆ เพราะเจียมตัวกับความรักของตัวเสมอ เลยได้แต่แอบมองผมอยู่แบบนี้ … แล้วจากนี้ทำไมผมจะมองไนล์ด้วยมุมแบบนี้บ้างไม่ได้’ในเมื่อผมไม่ได้มีโอกาสพูดว่ารัก ผมก็จะแสดงให้ไนล์เห็นเองว่าผมรักเขามากขนาดไหน ผมจะไม่ยอมแพ้ ในเมื่อไนล์ยังไม่เคยหยุดรักผมแม้จะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม ผมจะทำทุกอย่างจนกว่าไนล์จะยกโทษให้และยอมกลับมารักผมเหมือมเดิม ไม่ว่าจะยากลำยากแค่ไหนก็ตาม
.
.
.
(อ่านต่อด้านล่าง)