ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019  (อ่าน 71399 ครั้ง)

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ชัดเจนร้ายไม่เบา ฉลาดเกิ๊นนน คนเราจะอดทนค่อยๆรอค่อยๆโกหกให้เค้าแตกหักกันได้กี่ปีนะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ช่วงหลังๆเริ่มเบื่อกันแล้วมั้ยน่าจะเป็นความจริงตามที่บอก
แต่ทำไมต้องปลอมเอกสารอ่ะ โอยยยยย จะมีใครรู้ทันชัดเจนบ้าง
 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ชัดเจนนายร้ายเงียบมาก เป็นมือที่3 เป็นน้ำซึมบ่อทราย
ค่อยๆทำให้เขาแตกหักกันอย่างช้าๆ นายมีความอดทนสูงมาก
พอเขาเลิกกันนายก็ฉวยโอกาสนั้นไว้ พร้อมๆกับทำลายปาลไปพร้อมๆกัน
ยอมใจนายเลย รอเวลาเป็นสิบปี

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เพราะไม่ถามและไม่เล่า
ก็เลยเป็นเหยื่อของมือที่สาม สี่ ห้า ได้ง่ายๆ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เรื่องชัดเจนก็ยังคงไม่ชัดเจนว่าชัดทำไปทำไม

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ชัดก็หล่อ...แต่ทำไมนายร้ายแบบนี้

เสียดายความหล่อ :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่ชอบความร้ายของชัดเจน แต่นับถือใจที่ทำเรื่องแบบนี้เป็นสิบปี ความอดทนเป็นเลิศจริงๆ  :เฮ้อ:
จันทร์กับปาลอาจจะมีส่วนแตกหักกันตามประสา แต่เพราะชัดเจนสุมไฟ เรื่องมันถึงมาไกลถึงตรงนี้ โหดจริงๆ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
แทงข้างหลังมาตลอดเลยนี่น่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :ruready  ชัดเจนนายนี่มัน.... :katai1:

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

ภาค 20 He is my brother.




“ตื่นแล้วหรือครับ” ปาณัสม์เข้าห้องมารดาเพื่อมาดูอาการเยี่ยมเยียนเป็นประจำ ชายหนุ่มก้มลงไปจูบแก้มนุ่มนั้นเบาๆ

“จ้ะ กินข้าวกินยาเรียบร้อย” คุณหญิงรีบรายงานเพื่อไม่ให้บุตรชายเป็นห่วง

“ครับ วันนี้ก็พักเยอะๆ ตามที่คุณหมอว่านะครับ จะได้หายไวๆ”

“วันนี้อาการจะดีขึ้นเป็นสองสามเท่าเลยล่ะ” ศรารัณที่เดินเข้ามาสมทบทีหลังพูดขึ้น พร้อมกับเดินเลี่ยงไปอีกฝั่งและก้มลงหอมมารดาเหมือนที่ปาณัสม์เพิ่งทำไปเมื่อสักครู่นี้

“อ้าวพี่ปอนด์ ผมนึกว่าพี่ออกไปทำงานแล้ว”

“วันนี้ออกสายหน่อย ดูน้องปัณณ์น่ะ ตัวรุมๆ พี่เป็นห่วง เลยให้หยุดเรียนก่อน”

“น้องปัณณ์ป่วย?” ปาณัสม์นิ่วหน้าไม่สบายใจ

“อืม คงติดจากเพื่อนที่โรงเรียน”

“พาไปหาหมอดีไหมครับ วันนี้พี่ไม่ต้องไปบริษัทก็ได้” น้องชายบอกด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร เกดก็อยู่ ดูได้แหละน่า ไม่ต้องเป็นห่วงไป” ศรารัณยิ้ม

“แล้ววันนี้คุณหมอจะมาหรือครับ” ปาณัสม์ถาม

“คุณหมอ? เปล่านะ”

“ก็พี่บอกว่าวันนี้แม่น่าจะอาการดีขึ้น”

ศรารัณหัวเราะ พลางสบตากับมารดาที่อมยิ้มเหมือนรู้อะไร “วันนี้สองแฝดจะมาอยู่กับแม่” คุณหญิงกิ่งกานต์เฉลยเสียเอง

“เหรอครับ”

“อยากหยุดอยู่บ้านไหม” ศรารัณถามน้องชายกลับ

“พี่พูดแบบนี้ผมอยากเกเรเลย แต่ไม่ได้ครับ เช้านี้ผมมีเรื่องด่วนนิดหน่อย”

“จัดการได้ใช่ไหม”

“ครับ”

“เมื่อวานไปส่งน้องมาเป็นไงบ้าง” คุณหญิงเอ่ยถามขึ้นบ้าง เธออยากอัปเดตสถานการณ์

“ก็ดี ดีมั้งครับ” ปาณัสม์ตอบ

“ดีมั้ง นี่ดียังไง” พี่ชายถามด้วยความสงสัย เมื่อวานเพราะเขาไปขลุกอยู่ห้องลูกสาวตั้งแต่กลับมาจากที่ทำงานเลยไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

“เขาก็คุยกับผม แต่ยังไม่อยากกลับมา”

“ให้เวลาเทมส์หน่อย ก็เล่นไม่ไปง้อเลย พอจะไปขอคืนดีมันก็ยากหน่อยล่ะว้า” ศรารัณปลอบใจ

“ขอบคุณแม่กับพี่ปอนด์มากนะครับ ที่ช่วยผมเรื่องเทมส์”

“ถ้าได้น้องกลับคืนมา อะไรที่แม่เคยบอก เคยเตือนไปแล้ว ปาลต้องเอามาปรับใช้นะลูก”

“แน่นอนครับ ผมจะไม่ให้ทุกอย่างต้องเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง”



ปาณัสม์ขับรถไปทำงานเองเหมือนเมื่อวาน ด้วยเหตุผลเดิมก็คือชัดเจนไปช่วยงานศรารัณ ระหว่างทางรถค่อนข้างติดพอสมควรเขาเลยมีเวลาฟุ้งซ่านไปคิดเรื่องฉันทัช จะไม่ให้เขาคิดได้อย่างไร ในเมื่อเขากำลังหาหนทางที่จะพาฉันทัชกลับคืนมา



ภารกิจครั้งนี้เขาจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ยอมรับอย่างหน้าไม่อายเลยว่า ฉันทัชในเวลานี้ไม่เหมือนเดิม ถ้าเขาเดินมั่นหน้าเข้าไปง้อขอคืนดีฉันทัชตรงๆ คงถูกฝ่ายนั้นไล่ออกมาอย่างไม่ใยดี สุดท้ายจะทำให้อีกฝ่ายเหม็นหน้าเขาและไม่ยอมคุยด้วยแน่นอน

“คุณสิ ทนายพิธานมาหรือยัง” เมื่อเจอหน้าเลขาสาว ปาณัสม์ก็ถามเรื่องที่ต้องการทันที

“มาแล้วค่ะ สิให้คุณพิธานรอบอสอยู่ในห้องค่ะ”

“โอเค ระหว่างที่ผมคุยกับพิธานอยู่ ห้ามให้ใครเข้ามาในห้อง”

“แล้วถ้าเป็นคุณปอนด์ล่ะคะ”

“จะเป็นพี่ปอนด์หรือชัดเจนก็ห้ามเข้า ทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น”

“ได้ค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

เมื่อเข้ามาในห้องทำงาน ปาณัสม์ไม่ได้รีรอ เขารีบเปิดโทรศัพท์มือถือแล้วยื่นให้ทนายประจำบริษัททันที

“ครับคุณปาล?”

“พี่ช่วยดูให้ผมหน่อยได้ไหมว่าลายเซ็นนี้มันใช่ของผมไหม”

“ได้ครับ อาจจะใช้เวลาสักนิดหนึ่ง”

“เรื่องนี้ด่วนหน่อย ผมขออย่านานนะครับ” ปาณัสม์เร่ง

“ครับ เดี๋ยวผมจะเร่งให้”

“แล้วที่สำคัญ” ปาณัสม์เอ่ยเสียงขรึม

“ห้ามบอกใครเป็นอันขาด เรื่องนี้ขอให้เป็นความลับ”

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณปาล” ทนายพิธานนิ่วหน้า

“มันต้องมีอยู่แล้วครับ” ปาณัสม์หัวเราะ “ไม่งั้นผมไม่ให้พี่ปิดเป็นความลับหรอก”

“ตกลงครับ ผมจะสั่งให้ทุกคนรูดซิปปากให้สนิท”

“ดีครับ ยิ่งเร็วยิ่งดีนะครับ”

“ครับ ผมจะพยายาม”

“ขอบคุณครับ”




...








เกศสิรีเงยหน้ามาเจอชัดเจนยืนอยู่หน้าโต๊ะ “คุณชัด มาหาบอสหรือคะ”

“ใช่ครับ”

“บอสห้ามทุกคนเข้าไปค่ะ ยังไงคุณชัดรออยู่หน้าห้องก่อนก็ได้นะคะ หรือจะให้สิโทรตามก็ได้ค่ะ” เมื่อได้ยินคำตอบ ชัดเจนก็นิ่วหน้าด้วยความสงสัย

“นานหรือครับ” ชัดเจนถาม

“สิก็ไม่แน่ใจค่ะ บอสไม่ได้บอกอะไรไว้เลย”

“โอเคครับ งั้นผมกลับไปทำงานก่อนดีกว่า”

“จะให้สิบอกบอสไหมคะว่าคุณชัดมาหา”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวกลางวันผมค่อยมาหาคุณปาลใหม่อีกที”

“ตกลงค่ะ”

“ขอบคุณครับ”



ชัดเจนกล่าวและเดินออกมาจากบริเวณนั้นอย่างเงียบเชียบเหมือนขามา เมื่อเช้านี้ก่อนออกจากบ้าน พ่อของเขาเล่าให้ฟังว่าปาณัสม์มาหาที่บ้านเมื่อวาน บอกว่าอีกฝ่ายเหมือนลืมเอกสารอะไรบางอย่างเลยจะมาถามจากเขา แต่ชัดเจนไม่อยู่ ยังไม่ทันที่เขาจะได้ถามรายละเอียดเพิ่มไป ศรารัณก็มาเรียกให้ออกไปด้วยกันเสียก่อน เขาจึงตั้งใจมาหาปาณัสม์เพื่อสอบถามว่าเอกสารที่ว่านั้นคือเอกสารอะไร เขาจะได้ช่วยหา













ค่ำคืนวันศุกร์คนมาเที่ยวยังแน่นตาเหมือนอย่างเคย แม้จะไม่ค่อยได้มาบ่อยแล้ว แต่ไม่ว่าจะมาครั้งใดคนยังครึกครื้นเช่นเดิม

“ไง หน้าตาสดใสขึ้นนี่หว่า” ปาณัสม์ทักเพื่อนเป็นคำแรกเมื่อเจอหน้ากัน

“อืม ช่วงนี้กูเที่ยวน้อยลง ได้นอนเยอะขึ้น เหมือนมึงนั่นแหละ ไม่มีเพื่อนมาเที่ยวด้วย มาคนเดียวก็ไม่สนุกว่ะ แล้วนึกไงถึงนัดออกมา”

“มีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อย”

“ได้เสมอเพื่อน แล้วนี่มาคนเดียวหรือไง ชัดเจนล่ะ?” จักรีถามหาคนที่เหมือนเป็นอีกร่างของปาณัสม์

“มาคนเดียว”

“ดูเครียดๆ นะ งั้นสั่งอะไรก่อน เหมือนเดิมไหม?” จักรีเห็นสีหน้าเพื่อนก็คิดว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะมีปัญหา

“ก็ดี”

“ขับรถมาหรือเปล่า” จักรีถามก่อนเรียกพนักงาน เขาถือคอนเซ็ปต์เมาไม่ขับ

“เปล่า จอดอยู่คอนโด นี่กูนั่งแท็กซี่มา”

“ดีมาก กินเหล้าแล้วไม่ควรสร้างภาระให้เพื่อนร่วมท้องถนน” จักรีว่าเพราะเขาก็ให้เด็กที่บ้านมาส่งเช่นกัน ขากลับก็นั่งแท็กซี่กลับแบบนี้เป็นประจำ

“เออ กูขี้เกียจฟัง มึงบ่นเยอะ”

จักรีหัวเราะ เสร็จแล้วจึงหันไปเรียนพนักงานมารับออเดอร์ “แล้วแม่มึงหายดียัง?”

“อืม หายแล้ว”

“ไวจังวะ ไหนหมอบอกว่าต้องพักหลายวัน”

“ได้ยาดี ลูกรักมาคอยดูแล”

“ลูกรัก? เทมส์?” จักรีทวน

“ใช่ ไทน์ด้วย”

“ไม่บอกกูวะ”

“บอกอะไรมึง”

“ก็ไทน์มา กูจะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมแม่มึงด้วยไง” จักรีพูดแทบจะเห็นหูกระดิก ตาเปล่งประกาย เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบในความสวยงามและอินทัชก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว

“น้อยๆ หน่อย ชอบไทน์เหรอไง ยัยนั่น ปากเสียจะตาย”

“มึงก็ปากเสียไม่แพ้กันหรอกน่า กูสงสัยมานานแล้ว ทำไมมึงดูเหมือนไม่ค่อยชอบไทน์”

ปาณัสม์ควักเงินออกมาจ่ายบิลที่เรียกเก็บก่อนจะเริ่มชงเครื่องดื่มให้กับตัวเอง “ไม่ได้ไม่ชอบ”

“แล้วทำไมทะเลาะกันทุกที”

“ไม่รู้ว่ะ ไทน์มันก็ชอบด่ากูก่อนเหมือนกันนั่นแหละ”

“เขาต้องหวงพี่เขาสิวะ มึงได้มาก็ทิ้งๆ ขว้างๆ”

“กูเหรอ?” ปาณัสม์ถลึงตามองเพื่อน “กูต่างหากนะเว้ย ที่ถูกเขาทิ้งขว้าง”

“ไอ้ปาล มึงอย่าใส่ร้ายเทมส์”

“ช่างเถอะ” ปาณัสม์โบกมือ “กูผิดเอง ผิดวันยังค่ำ” เขายกแก้วขึ้นมาดื่มเพื่อตัดจบเรื่องนี้ทิ้ง

“ถามจริง มึงไม่อยากกลับไปคบกับเทมส์เหรอ” แต่จักรียังไม่อยากจบเรื่องนี้

“อยาก”

“อ้าว อยากก็ไปง้อสิวะ ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆ คิดว่าเขาจะเดินกลับเข้ามาหาเองรึ”

“เออ รู้แล้ว นี่ก็เริ่มทำอยู่ แต่จันทร์ก็คือจันทร์”

“ยังไงวะ” จักรีสงสัย

“นิสัยของเขา ถ้าไม่เอา ก็คือไม่เอา พยายามให้ตายก็ไม่เอา”

“ทำไมเพื่อนกูถึงห่วยแบบนี้วะ” จักรีบอกด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม หวังให้เพื่อนฮึกเหิม

“ใช่ กูมันห่วย ตอนนี้เลยต้องให้แม่กับพี่คอยช่วย”

“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ แล้วเมื่อก่อนมึงจีบเขาติดได้ไง”

“กูคิดมาตลอดเลยว่ากูเจ๋ง กูเก่ง กูจีบเขาติด ทำให้เขาเป็นของกูได้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ว่ะ เขาแค่เลือกกูเท่านั้นเอง” ปาณัสม์ตอบอย่างคนที่เข้าใจสถานการณ์

“ทำไมมึงถึงคิดอย่างนั้น”

“จากหลายๆ อย่าง หลายๆ เหตุการณ์ที่กูเจอและตลอดเวลาที่คบกัน” ปาณัสม์พูดพลางดันกรอบแว่นขึ้นอีกนิด “ก่อนที่เขาจะคบกับกู เวลาพาเขาไปข้างนอก พาเขาไปเที่ยว มึงก็เคยเห็นนี่ เขารับไมตรีทุกคนนะ ใครยื่นแก้วให้ก็รับแล้ววาง ยิ้มให้ ใครขอเบอร์ เขาจะขอเบอร์คนนั้นไว้แทน ตอนนั้นกูคิดว่ากูโคตรโชคดีที่เขาคุยกับกูคนเดียว ไม่สนใจคนอื่น” ปาณัสม์เริ่มอธิบาย

“เทมส์ก็ทำถูกแล้วนี่”

“เออ กูเข้าใจแบบมึงมาโดยตลอด แต่พอกูค่อยๆ ปะติดปะต่อเรื่อง มันไม่ใช่ว่ะ ทีแรกเทมส์ก็ทำแบบนี้กับกู แต่กูหน้าด้านไง ก็ตื๊อเขาไปเรื่อยๆ”

“มึงทำให้เขาใจอ่อนไง” จักรีพูดต่อ

“ไอ้จักร มึงยังไม่เข้าใจ” ปาณัสม์ถอนหายใจ “กว่ากูจะรู้ตัวว่าจริงๆ เขาไม่ได้คุยกับกูคนเดียว เขามีตัวเลือกเยอะแยะไปหมด”

“มึงก็ทำ” จักรีว่าเพื่อนกลับ

“ตอนคุยกับเขา กูตัดหมดเหอะ ไม่ได้คุยกับใคร”

“เทมส์เป็นแบบนั้นหรือวะ ดูไม่ออกเลย กูเห็นเขารักมึงมาก”

“พอคบกัน จันทร์ก็หยุดหมดอย่างที่มึงรู้จักเขานั่นแหละ”

“แล้วทำไมถึงอยากจะกลับไปขอเขาคืนดีวะ ไหนว่าก่อนเลิกกันมึงเบื่อเขา เลิกกันก็โล่งใจไม่ใช่เหรอ”

“ตอนนั้นกูคิดอย่างนั้นจริงๆ พอถึงตอนนี้กูถึงรู้ว่าไม่ได้ไง กูคิดถึงเขา รักเขาเหมือนเดิม”

จักรีส่ายหน้า “สายไปไหมวะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน ก็ทำไปนั่นแหละ อยากได้เขาคืนมา กูก็ต้องพยายาม ผลจะเป็นยังไงก็ช่างมัน ถึงสุดท้ายเขาจะไม่กลับมาหากูก็ต้องยอมรับ ตอนนี้กูเองก็โชคดีหน่อยตรงที่มีแบ็กอัปดี”

“แม่ พี่ หลานและชัด?”

“อืม หมดนั่นแหละ” ปาณัสม์ขมวดคิ้ว “เดี๋ยวก่อน แล้วชัดมาเกี่ยวอะไรด้วย”

“ก็มึงให้ชัดไปรับส่งเทมส์ไม่ใช่เหรอ นึกว่าให้ชัดไปทำคะแนนพูดดีให้มึงเสียอีก”

“มึงรู้ได้ไง กูให้ชัดไปรับเทมส์นานๆ ที กลัวเขารู้ตัว อยากจะซื้อรถให้ จันทร์ต้องไม่รับแน่เลย ด่ากูไล่หลังอีก”

“อ่า...เหรอ” จักรีเสียงอ่อยตอนรับคำเพื่อน

“มึงรู้อะไรมา ไอ้จักร บอกมา”

“กูเข้าใจว่ามึงให้ชัดไปรับส่งเทมส์ที่บ้าน ช่วงหลังมึงไม่ค่อยเที่ยวแล้ว กูเลยโทรไปชวนชัดแทน ชัดบอกว่าไม่ค่อยว่างเพราะมึงให้มันไปรับส่งเทมส์ตลอด”

“กู?” ปาณัสม์แสดงสีหน้าประหลาดใจ

“เออ”

“ไม่ใช่แล้ว”

“ช่างเถอะๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ กูคงฟังผิดเอง แล้วมึงนัดกูออกมาแค่เรื่องเทมส์เรื่องเดียวเหรอ”

“จริงๆ กูเรียกมึงออกมาเรื่องชัด มึงดูนี่ก่อน” ปาณัสม์หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดรูปโพสต์อิทที่เคยให้ฉันทัชดูไปก่อนหน้านี้ให้กับเพื่อนสนิทของตนดู ก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้ฟังอย่างครบถ้วน

“แปลก” จักรีพูดออกมาคำเดียวหลังฟังเรื่องราวจบ

“มึงคิดว่าไง”

“กูยังหาจุดเชื่อมโยงไม่เจอว่ะ” จักรีคิด “รุ่นเราไม่มีสอบ GAT เชื่อมโยง ยังไงกูลองเอาไปปรึกษาหลานกูดูดีไหมวะ เผื่อจะได้คำตอบ”

“ตลกแดกหรือ” ปาณัสม์ด่าเพื่อนตัวดีเข้าให้ หน้าสิ่วหน้าขวานยังหาเรื่องออกทะเล

“ขอโทษ กูล้อเล่น ไม่อยากให้เครียด”

“เล่นแบบนี้ มุกไม่ฮา พาเครียดหนักไปกว่าเดิม”

“กูไม่เข้าใจว่าเอาโน้ตใบนั้นไปทำไม หรือมันติดมือไปวะ นี่กูขอคิดแบบโง่ๆ เลยนะ โพสต์อิทมันมีกาวเหนียวๆ แบบว่ามันแปะไปกับเสื้อผ้าไรงี้หรือเปล่า พอจะเอามาคืนให้มึงก็ไม่กล้าเพราะมึงกับเทมส์ทะเลาะกันไปแล้ว”

“ไม่รู้ว่ะ แต่เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะ ยังไงกูก็ทะเลาะไปแล้ว กูอยากรู้เรื่องเอกสารนั่นมากกว่า” ปาณัสม์ถอนใจพลางพูดขึ้น

“มึงลองคิดทบทวนดูหน่อยว่าไปทำอะไรให้ชัดมันโกรธหรือเปล่า แต่เล่นแบบนี้ก็แรงไปหน่อย ถ้ามึงไม่เห็นเข้า เสียหายหนักเลยนะ”

“กูพยายามคิดหัวแทบแตก แต่ยังไม่เจอสาเหตุที่จะทำให้ชัดทำอะไรแบบนั้น”

“ตกลงลายเซ็นแผ่นปลอมนั่นไม่ใช่ของมึง?”

“ไม่ใช่ กูให้ทนายพิธานเร่งตรวจสอบให้ ผลเพิ่งได้มาเมื่อเช้า กูถูกปลอมลายเซ็น”

“แล้วจะบอกพี่ปอนด์หรือเปล่า”

ปาณัสม์ส่ายหน้า “ไม่ว่ะ กูไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ มึงเองก็รูดซิปปากให้สนิทล่ะ อย่าปากโป้งเชียว”

“เออ หาเหาให้กูอีก แล้วมึงจะเอาไง”

“ไม่รู้ บอกตรงๆ กูมืดแปดด้าน คนที่คิดว่าจะหักหลังกูเนี่ย ไม่มีชื่อไอ้ชัดอยู่ในหัวกูเลยนะเว้ย”

“เข้าใจ มึงโตมากับมัน เรียนก็เรียนด้วยกัน จนมึงแยกไปเรียนต่อป.โท”

“เพราะอะไรชัดถึงทำแบบนี้กับกูวะ” ปาณัสม์ถอดแว่นวางบนโต๊ะ เขากุมขมับ

จักรีขยับเข้ามาตบไหล่เพื่อนเป็นการปลอบใจ “ท่าทางมึงดูเครียดหนักกว่าตอนที่คิดจะกลับไปจีบเทมส์อีกว่ะ” จักรีหรี่ตาลง

“หรือจริงๆ แล้วมึงชอบชัดเจนวะ”

“เดี๋ยวกูต่อยหน้าแหก คิดอะไร ชัดมันเป็นน้องชายกู” ปาณัสม์จ้องเพื่อนตาขวาง คิดอะไรอกุศล

“เอาน่า มึงก็ชอบเครียดจริง จะให้กูช่วยหารายละเอียดเพิ่มไหม”

“ยังไง”

“ก็ให้คนของกูจับตาดูชัดเจน อะไรพวกนี้”

“กูไม่อยากทำเลยว่ะ” ปาณัสม์บอกด้วยสีหน้าทุกข์ใจ

“ถ้ามึงไม่ทำ มึงก็จะไม่มีทางรู้เลย กูไม่ได้บังคับนะ มึงจะปล่อยเรื่องเงียบไปก็ได้ หรือไม่ก็รอวันที่ชัดเจนมาสารภาพเอง มึงเลือกได้ทั้งนั้น”

“กูควรจะทำยังไงดี”

“ไม่รู้สิ มึงไปคิดมาเถอะว่าอยากให้เป็นไปแบบไหน ตัดสินใจยังไง ก็โทรบอกกูแล้วกัน”

“อืม ขอบใจ แต่กูคงไม่ทำอะไร กูไม่รู้ว่ะ กูไม่เข้าใจ”

“ทำไม” จักรีไม่เข้าใจ

“ชัดเป็นน้องกูนะไอ้จักร กูโตมากับมัน ถ้ามันไม่อยากบอกกูก็ไม่เป็นไร กูก็จะไม่คาดคั้นมัน”

“เข้าใจว่ามึงรักไอ้ชัดมาก แต่ผิดชอบยังไงก็ควรต้องบอกต้องสอนกัน”

“ขอบใจ ตอนนี้กูแค่อยากหาใครฟังกูระบายบ้างก็เท่านั้นเอง”






...





“แม่ครับ แม่ แม่มากับหนู” เสียงเด็กชายวัยสามขวบดึงมือมารดาที่รักไปทางหลังบ้านที่เป็นเรือนคนงานของครอบครัว

“อะไรครับ น้องปาล”

“พ่อบอกว่า ลุงชมมีน้องแล้ว ไปดูน้องกัน” เด็กชายออกแรงดึงมือมารดาสุดกำลัง

“รู้แล้วครับ รู้แล้ว อย่าดึงแม่”

“แม่ช้า แม่อุ้มหน่อย พาหนูไปหาน้อง”

“ลูกคนนี้นี่น้า เอ้า...มาครับ” เด็กชายชูมือขึ้นสูงเพื่อให้ผู้เป็นแม่อุ้มได้อย่างถนัดถนี่

“ลุงชม ทำไมน้องตัวเล็กจัง” คนที่อยากมาหาน้อง ชะโงกหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ

“น้องเพิ่งเกิดก็แบบนี้แหละครับ คุณหนู” ลุงชมตอบด้วยความเอ็นดู

“แม่ ตอนหนูเกิดก็เป็นแบบนี้เหรอ” เด็กชายปาณัสม์หันไปถามมารดา

“ใช่จ้ะ”

“หนูจับน้องได้หรือเปล่า น้องจะเจ็บไหม”

“ไปล้างมือกับแม่ก่อน แล้วมาจับน้องนะครับ ปาลจับน้องได้แต่ต้องจับเบาๆ นะ รู้ไหม”

“ครับ หนูขอแตะน้องนิดเดียว” เด็กชายให้สัญญา

“ปาลชอบน้องเหรอ” คุณหญิงถามระหว่างล้างมือให้บุตรชาย

“ชอบครับ หนูอยากมีน้อง”

“เหรอจ๊ะ น้องชื่อชัดเจนนะลูก”

“ชัดเจน หนูชอบชื่อนี้”

“งั้นปาลต้องดูแลน้องด้วยนะ”

“หนูจะดูแลน้องตลอดไป สัญญาเลย”





========================================

ความผูกพันธ์นี่มันลำบากใจจัง

เขมอ่านทุกคอมเมนต์เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ สำหรับกำลังใจ อดทนรออีกหน่อยทุกอย่างจะคลี่คลายค่ะ

เจอกันวันอังคารค่ะ



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก


ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เครียดแทนปาล

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มันยากตรงที่เจ่ไม่คิดเหมือนกันนี้แหละ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ชัดเจนฝังใจจากอะไรรึเปล่า
ปาลก็แบบรักเป็นน้องจริงๆอ่ะ ฮืออออออออออออออ
แต่ไม่ควรปล่อยไว้นะจริงๆ ถ้าปาลไม่สงสัยมันจะเสียหายขนาดไหน
มันไม่ใช่แค่เรื่องเทมส์แล้วอ่ะหน้าที่การงานอีก ถ้าแม่ปาลนี่ชัดเจนเกี่ยวอีกก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว  :katai1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้อออ  ชัดเจนคือปมของเรื่องจริงๆสินะ ไม่ว่าจะออกมาแบบไหน ปาลคงเสียใจน่าดู

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หวังว่าจะไม่ใช่ชัดเจนทำจริง ๆ นะ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :serius2: :serius2: ปวดหัวแทนปาล

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
รักน้อง แต่น้องไม่รัก  :ling1:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
แบบว่าชัดเจนหวงปาลรึป่าว เพราะตอนเด็กๆสนิทกันมากๆ แล้ววันนึงอีกคนไปมีแฟนอะไรหลายๆอย่าวก็เปลี่ยนไปมีเวลาให้อีกคนน้อยลง ทำให้ชัดเจนคิดว่าจันทร์แย่งปาลไป ก็เลยทำแบบนี้ใช่ค่ะเรามโนไปเอง แต่เรื่องเอกสารนี่คิดไม่ออกจริงๆว่าชัดเจนทำไปทำไม ตอนที่เป็นความคิดของชัดก็แปลกๆด้วย  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ถ้าชัดเจนรักเทมป์และต้องการจริง
แสดงว่าคงเป็นแผนครึ่งนึง
เรื่องแผ่นโน๊ตที่เอาไป และเรื่องอื่นๆที่ปล่อยให้เทมป์คิดต่อเอง
เพราะคิดว่ากระตุ้นให้เรื่องร้าวมากขึ้น และที่เก็บไว้
เพราะมันคือลายมือของคนที่ตนแอบรัก
ส่วนเรื่องปลอมลายเซนต์เพื่อยกเลิกการผลิต
คงเพราะเป็นสินค้าที่ต้องส่งให้้บริษัทก้องภพที่เทมป์ทำงานอยู่
ถ้าส่งให้บริษัทอื่น คงไม่มีเหตุการณ์นี้ ถ้าครั้งแรกผิดพลาด
ปาลก็คงจะเจอเทมป์เรื่องงานได้น้อยมากๆ
สรุปแรงจูงใจคือเทมป์ หรือถ้าชัดเจนชอบปาล
ผลก็ออกมาเหมือนกันอยู่ดี
เรื่อง

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ผมคิดว่า ชัดเจนคงไม่ได้คิดแบบปาลนะครับ เค้าคงไม่ได้มองตัวเองเป็นน้องชายของปาลหรอก ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าชัดเจนจะทำ ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นะครับ เพราะชัดเจนมองตัวเองว่าเป็น ‘เด็กในบ้าน’ ของปาลมาตลอด ถ้าสังเกต มันมีบทสนทนากับเทมส์ที่ชัดเจนหลุดคำนั้นออกมาประโยคนึง มันก็เลยทำให้ผมคิดว่า พวกนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ชัดทำเองล้วนๆ ไม่น่าจะมีพล็อตพวก แอบจับคนโกง อะไรแบบนี้

ที่ผมบอกว่าไม่แปลกใจ เพราะว่าชัดเจนเรียนจบด้วยทุนเรียนดีเกียรตินิยม จะหางานดีๆที่ได้รายได้ดีก็ไม่ยากหรอกครับ แต่กลับต้องมาอยู่ในบริษัทของเจ้านายพ่อตัวเอง เป็นเลขาให้ลูกชายเขา โอกาสก้าวหน้าก็ไม่เห็น ก็ไม่แปลกใจที่คนที่รู้สึกว่าความสามารถตัวเองมันไม่มีค่าอย่างชัดเจนจะรู้สึกด้อยลงไป และเอาจริงๆที่มาทำบริษัทของที่บ้านปาลอาจจะเพราะปฏิเสธไม่ได้ด้วยคำว่าบุญคุณหรือการเลี้ยงดูกันมาน่ะแหละครับ โครงสร้างระบบอุปถัมภ์มันมีข้อดี และมันก็มีข้อเสียครับ แถมชัดเจนยังรู้สึกชอบเทมส์อีก แต่ด้วยความที่ด้อยกว่าปาลแทบจะทุกด้านในการมองตัวเอง มันเลยทำให้เกิดหลุมในใจก็เป็นได้

ถ้าถามผมว่าแปลกใจไหมก็คงไม่ แต่ถ้าถามว่าผิดไหมที่ชัดเจนทำ อันนี้ผิดแน่ๆ คือผมเข้าใจก็จริงว่าจำเป็นต้องอยู่ จะไม่อยู่เดี๋ยวก็กลายเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก แต่ถ้าอยู่แล้วก็รู้สึกว่าความสามารถตัวเองมันไม่ถูกท้าทาย อันนี้ก็เป็นทัศนคติปกติของคนเก่งที่โตมาแบบ Struggling ที่เป็น Individuals ไม่ได้มีกิจการหรืออะไรมารองรับ แต่การแอบทำอะไรลับหลังคนอื่นที่จะเป็นการฮุบบริษัทหรือทำให้กิจการเจ๊ง มันก็ไม่ค่อยดีนะครับ ความเก่งไม่ได้ทำให้คุณสามารถเอาเปรียบคนอื่นได้ ใช่ คุณทำได้ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ ‘ควร’ จะทำ การที่คุณเก่ง สิ่งที่ท้าทายมากกว่าคือ การที่เราจะ ‘ไม่เอาเปรียบ’ แต่จะทำยังไงให้เราชนะกลุ่มคนที่ ‘เอาเปรียบ’ ได้ อันนั้นแหละถ้าคุณเก่งจริงคุณจะทำได้ มันเป็นเรื่องของ Morals Judgement ส่วนตัวล้วนๆครับ

เอาจริงๆคนที่บ้านปาลผมว่าเค้าก็ทรีตชัดเจนแบบแบ่งแยกเห็นชัดนะครับ การที่ปาลจะใส่ใจชัดเจนและเทคแคร์ไม่ต่างจากน้อง แต่การที่มีปาลทำแบบนั้นคนเดียว มันไม่ช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้นมาได้หรอกครับ เพราะยังมีสายตาและการกระทำของคนอื่นๆในบ้านอีกมากมาย ไม่ว่าจะคุณหญิง พี่ชายปาล เพื่อนของปาล พี่สะใภ้ปาล ถ้าต้องออกไปช่วยงานวิ่งวุ่นรับส่งคนนู่นคนนี้คนนั้นตลอด มันคงไม่ใช่การทรีตที่อีกฝ่ายรู้สึกว่าให้เกียรติแน่ๆ

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ชอบมากเลยค่ะ รอลุ้นๆๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่น่าเลยชัดด  :katai1:

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter


ภาค 21 เจ็บแล้วต้องจำ



เวลาผ่านไปเกือบเดือน ทุกอย่างกลับเข้าสู่ความสงบ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องร้าย ไม่แม้แต่จะมีทีท่าแสดงอะไรออกมาให้เห็น ไม่มีใครสงสัยใคร เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แค่ลมพัดผ่านมา แล้วก็ผ่านไปเท่านั้น



อีเมลของบริษัทถูกร่อนออกไปทั่วบริษัทตั้งแต่เช้า พนักงานทุกคนกำลังอ่านเนื้อหาด้านใน ว่าด้วยเรื่องโปรเจ็กไลน์ผลิตสินค้าใหม่ที่ถูกส่งออกไปเกาะฮ่องกงนั้นได้ผลิตล็อตแรกและถูกส่งออกไปฮ่องกงได้ตรงตามกำหนดเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งกระแสตอบรับนั้นก็ดีมาก เท่ากับว่าโปรเจ็กนี้ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้



ชัดเจนแทบไม่เชื่อตาตอนที่เห็นอีเมลฉบับนี้ และเมื่อได้อ่านเนื้อหาด้วยแล้วเขายิ่งไม่อยากเชื่อ เป็นไปไม่ได้ สินค้าจะถูกผลิตได้อย่างไรก็ในเมื่อ...



ในเมื่อเขาเป็นคนเปลี่ยนแปลงเอกสารและปลอมลายเซ็นของปาณัสม์เองกับมือ



ชัดเจนเดินหลังตรงไปห้องทำงานของปาณัสม์ แต่ในใจกลับคดงอบิดเบี้ยว เขาถูกปาณัสม์จับได้เสียแล้วเรื่องเอกสารที่ปลอมแปลงไป ชัดเจนลืมเสียสนิทที่พ่อของเขาเคยบอกว่าปาณัสม์มาหาที่บ้านเมื่อคราวก่อน จนกระทั่งวันนี้เรื่องมันแดงขึ้นมาแล้ว




ความลับไม่มีในโลก ชายหนุ่มไม่ได้กลัวที่ถูกจับได้ การที่เขาแอบปลอมเอกสาร เรื่องมันต้องเผยออกมาอยู่แล้วหากสินค้าไม่ถูกผลิต แต่ที่เขากลัวคือปาณัสม์กลับไม่พูดอะไรเลยต่างหาก


“ชัด?มีอะไรหรือเปล่า” ปาณัสม์เงยหน้าจากกองเอกสารตรงหน้าขึ้นมามองผู้มาเยือน

“ครับ”

“นั่งสิ”

“ขอบคุณครับ”

“มีอะไรล่ะ เรื่องด่วนหรือเปล่า” ปาณัสม์ถามซ้ำ

“เรื่องสินค้าที่ส่งไปฮ่องกง”

“อ้อ เห็นเมลแล้วเหรอ เป็นไงดีใช่ไหม ท่านประธานหลี่บอกว่าคนที่นั่นชอบมากเลยนะ” ปาณัสม์ยิ้ม


มือของชัดเจนกำแน่นวางอยู่บนต้นขาทั้งสองข้าง มาถึงตอนนี้ทำไมยังทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรอยู่อีก ทำไมถึงยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่อีกเล่า!


“คุณปาลรู้เรื่องแล้วใช่ไหมครับ”

“เรื่อง? เรื่องอะไรล่ะ” คนถามกลับมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง

“ผมทำเอง ผมเป็นคนทำมันทั้งหมดเอง” ชัดเจนสารภาพ

“กูรู้ว่ามึงเป็นคนทำ”

“ถ้ารู้แล้วทำไมยังเฉยอยู่อีก ทำไมไม่ด่าผม ไล่ผม หรือแจ้งตำรวจมาจับผม” ชัดเจนถามเสียงเครียด

“มึงเป็นน้องกูนะชัด จะให้กูไล่มึงไปไหน มึงเองก็รู้ดีพอๆ กับกูว่ากูไม่มีทางทำร้ายมึงแบบนั้นหรอกใช่ไหม” ปาณัสม์เหยียดยิ้มออกมาด้วยความขื่นขม

“ถ้าสินค้าล็อตแรกส่งออกไปไม่สำเร็จ คุณปาลรู้ใช่ไหมครับว่ามันจะเสียหายมากแค่ไหน”

“รู้สิ ต้องรู้อยู่แล้ว พี่ปอนด์คงหัวเสียและผิดหวังมากด้วย” ปาณัสม์เข้าใจและรับรู้ถึงผลที่จะตามมาได้เป็นอย่างดี

“แล้วทำไมถึงยังนิ่งเฉยอยู่อีกล่ะครับ”

“ข้อแรกเพราะกูแก้ไขเรื่องนี้ได้ทัน โชคดีที่ลุงบวรยังไม่ยกเลิกการผลิต ข้อสองเพราะมึงเป็นน้องกู สองข้อนี้มันพอที่จะทำให้กูฝังเรื่องนี้ทิ้งไหม” ปาณัสม์ยังสบตากับชัดเจนแน่นิ่งไม่ไหวติง แต่ชัดเจนกลับรู้สึกไม่ดี



แววตาของปาณัสม์มองมาที่เขา มันแสดงออกชัดว่าเสียใจและผิดหวังในตัวชัดเจนคนนี้เหลือเกิน ตั้งแต่เด็กจนโต เขาไม่เคยทำให้ใครผิดหวังเลย ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน ความประพฤติ แต่วันนี้พี่ชายตรงหน้ากำลังผิดหวังในตัวเขา



ชัดเจนเสียใจแต่เขาก็ทำมันลงไปแล้ว


“มีอย่างเดียวที่กูไม่เข้าใจว่ามึงทำแบบนี้ทำไมและเพราะอะไร”
         
“ผมขอโทษ แต่ถ้าย้อนกลับไปได้ผมก็ยังคงทำมันอีกอยู่ดี” เรื่องราวมันบานปลายมาขนาดนี้แล้ว ชัดเจนไม่อยากเก็บเงียบอีกต่อไป

 “ทำไม มึงทำแบบนี้ทำไมกันชัดเจน” ปาณัสม์ถามด้วยความไม่เข้าใจคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย เขาหรือใครไปทำอะไรให้ชัดเจนโกรธแค้นกันหรือ

“เพราะคุณเทมส์ครับ” ชื่อของใครคนหนึ่งหลุดออกมาจากปากของชัดเจน

“จันทร์? เขามาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย” ปาณัสม์มึนงง ฉันทัชเข้ามาพัวพันได้อย่างไรกัน

“ผมชอบคุณเทมส์ครับ ชอบมาตั้งนานแล้ว ชอบตั้งแต่ที่คุณปาลพาเขามาแนะนำกับที่บ้าน” ชัดเจนสารภาพ

“ชัดเจน มึงบ้าไปแล้วหรือไง!จันทร์เป็นคนที่กูรัก และเขาคบกับกู มึงไม่ควรคิดแบบนั้นกับจันทร์ เขาก็เหมือนเป็นพี่มึงอีกคน” ปาณัสม์ตกใจ พานโกรธกับการคำพูดของคนตรงหน้า


นี่ชัดเจนมันคิดจะตีท้ายครัวเขาตลอดเวลาเลยหรือ แล้วที่ผ่านมา เขาไว้ใจให้มันคอยดูแลฉันทัช ทั้งหมดมันก็ไม่ได้ทำจากความบริสุทธิ์ใจเลยใช่ไหม

“ผมรู้ ผมรู้ดี ทีแรก ผมตั้งใจจะขอมองคุณเทมส์แบบนี้ไปเรื่อยๆ ผมเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเป็นมือที่สามของใครเหมือนกัน แต่คุณปาล คุณมันไม่เคยเห็นค่าคุณเทมส์เลย รู้ไหมว่าเขาเสียใจ ทุกข์ใจมากแค่ไหน ที่คุณไม่มีเวลาให้ เอาแต่ทำงาน แล้วปีสุดท้ายคุณก็เอาแต่เที่ยว ไม่สนใจคุณเทมส์เลย ผมไม่อยากเห็นคุณเทมส์เป็นแบบนี้อีกแล้ว ถ้าเขาเลิกกับคุณปาลได้ เขาคงจะมีความสุข” ชัดเจนรัวความรู้สึกในใจออกมาเป็นชุด

“โดยการให้จันทร์มาคบกับมึงใช่ไหม” ปาณัสม์ถามเสียงลอดไรฟันด้วยความโมโห

“ใช่ครับ! ทำไมล่ะ ไม่ได้หรือ ผมรู้ตัวว่าไม่มีตรงไหนสู้คุณปาลได้ แต่ผมก็รักคุณเทมส์ไม่ต่างจากคุณหรอก” ชัดเจนสบตาอีกฝ่ายอย่างท้าทาย

“ชัดเจน มึงแน่ใจนะว่าที่มึงทำไปทั้งหมดเพราะความรักที่มึงมีให้จันทร์ ไม่ใช่เพราะมึงเห็นแก่ตัว”

“ผมรักเขา และต่อให้ผมไม่ได้คบกับคุณเทมส์ ผมก็จะไม่ยอมให้คุณได้คุณเทมส์กลับไปอีกครั้ง” ชัดเจนประกาศสงคราม

“ได้ยินแบบนี้แล้วอยากจะจับมึงส่งตำรวจเสียจริง” ปาณัสม์ฉุน อยากจะทำอะไรสักอย่างให้คลายความโมโห

“ก็เอาสิครับ” ชัดเจนท้า

ปาณัสม์พยายามข่มจิตใจ ทำอารมณ์ให้เย็น “ทั้งหมดที่มึงทำเพราะจันทร์งั้นหรือ เกี่ยวอะไรกับสินค้าล็อตแรกด้วย”

“คุณปาลจะกลับไปขอคืนดีกับคุณเทมส์ไม่ใช่หรือไง”

“ใช่”

“ถ้าคุณมีอะไรที่ยุ่งยากกว่าและสนใจมากกว่าคุณเทมส์มากๆ คุณคงไม่มีเวลากลับไป”

“ไอ้ชัด มึงนี่!” ปาณัสม์ตบโต๊ะเสียงดังปัง แต่ชัดเจนก็ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอะไร เขากลับจ้องเขม็งไปที่ปาณัสม์อย่างไม่หลบเลี่ยง

“ผมขอลาออก แต่คุณปาลจะไล่ผมออกก็ได้ ขอเวลาให้ผมบอกพ่อให้แกตั้งตัวหน่อยแล้วผมจะพาเขาออกไปจากบ้านเอง”

“พูดอะไรของมึง ไอ้ชัด” ปาณัสม์ถามเสียงขุ่น

“ทำไมครับ” ชัดเจนแปลกใจ

“มึงจะทำผิดแล้วหนีไปแบบนี้ไม่ได้ รออยู่ที่นี่จนกว่ากูจะกลับมาจากฮ่องกง” ปาณัสม์พูด เนื่องจากท่านประธานหลี่ได้เชิญหุ้นส่วนทางการค้าไปเยี่ยมเยียนที่ฮ่องกงอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจัดฉลองเริ่มต้นความสำเร็จ

“ผมคงไม่ต้องไปที่นั่นด้วยใช่ไหม”

“เกือบทำทุกอย่างพังแล้วยังจะกล้าเสนอหน้าไปอีกเหรอ ไม่ให้ไปเว้ย อยู่นี่แหละ รอกูกลับมา”

“ทั้งที่ผมทำถึงขนาดนี้ คุณปาลยังไว้ใจให้ผมทำงานกับคุณอีกหรือ”

“เรื่องจันทร์” ปาณัสม์เว้นวรรคก่อนจะพูดต่อ “ถ้ามึงอยากจีบเขา มึงควรจีบเขาอย่างตรงไปตรงมา ไม่ควรตุกติก นี่ขอเตือนมึงจากประสบการณ์ตรง จันทร์ไม่ชอบคนประเภทนั้น อีกอย่างกูกับมึงตอนนี้ก็มีสถานะไม่ต่างกัน ดังนั้นถ้ามึงจะจีบจันทร์ กูก็คงว่าอะไรไม่ได้ แต่บอกไว้ก่อน กูเองก็คงไม่ยอมให้มึงได้จันทร์ไปเหมือนกัน”

“ผมจะสู้คุณได้ยังไง รู้ไหมว่าคุณเทมส์เขาปฏิเสธผมไปตั้งนานแล้ว”

“ห๊ะ!? ปฏิเสธ? แล้วมึงทำแบบนี้ทำไมวะ” ปาณัสม์เริ่มงงกับสถานการณ์ หรือว่าชัดเจนจะอาการหนักเกินไป

“เพราะผมไม่อยากให้เขากลับไปคบกับคุณปาล เข้าใจไหมครับ ผมไม่อยากเห็นเขาเสียใจอีก!”

“กูไม่อยากให้สัญญากับใครอีกแล้ว เรื่องอนาคตกูเองก็คงบอกไม่ได้หรอก แต่หนึ่งปีที่ผ่านมากูอดทนและทรมานตัวเองมากพอแล้ว มันทำให้รู้ว่ากูไม่อยากเสียเขาไปอีก กูอยากกลับบ้านมาเจอเขาที่ห้องเหมือนเดิม”

“เดี๋ยวพอเวลาผ่านไปคุณปาลก็ทำตัวแบบเดิมอีก” ชัดเจนไม่ปักใจเชื่อ

“กูรู้ สิ่งที่กูทำในอดีตมันแย่และเลวร้ายมากแค่ไหน กูคิดได้แล้ว และไม่อยากให้มันเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมอีก สันดานกูมันไม่ดี คงจะเปลี่ยนยากหน่อย แต่กูก็จะพยายามและกูมั่นใจว่ากูทำได้เพราะที่ผ่านมามึงคงเห็นแล้วว่ากูไม่เหมือนเดิม”


ชัดเจนไม่ตอบแต่กลับพยักหน้าแทน อันที่จริงปาณัสม์ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างพอสมควร ถึงจะไม่ได้เกี่ยวกับความรัก แต่ก็เรื่องส่วนตัว ทั้งเที่ยว ผู้หญิงหรือความคิด ก็เปลี่ยนไปแล้ว

“รอกูกลับมาจากฮ่องกงก่อนแล้วค่อยคุยกันใหม่ ระหว่างนี้กูมีงานชิ้นหนึ่งให้มึงทำ”

“อะไรครับ”

“ช่วยพี่ปอนด์ งานอะไรช่วยพี่ปอนด์ได้ก็ช่วยเขา อย่าทำให้เขาผิดหวังเหมือนที่กูเจอได้ไหม”

“ผม...”

“เรื่องที่มึงทำลงไป กูจะไม่บอกใคร ถือเป็นสัญญาระหว่างมึงกับกู”





...




“รู้ไหม กระแสตอบรับดีมากเลยนะ” ท่านประธานหลี่บอกด้วยความพอใจ

“ขอบคุณครับ” ปาณัสม์ผงกศีรษะ

“จะว่าอะไรไหม ถ้าผมอยากจะเลื่อนล็อตหน้าให้ส่งมาเร็วขึ้นอีกนิด” ผู้อาวุโสหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“สำหรับผมถือเป็นข่าวดีเลยล่ะครับ” ก้องภพยิ้ม

“ยินดีครับ” ปาณัสม์รับคำสั้นๆ ดังเดิม

“สีหน้าคุณปาลดูไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายหรือเปล่า” ประธานหลี่ช่างสังเกต ฉันทัชเองที่ลอบมองอีกฝ่ายมาก็เห็นตรงกัน

“เปล่าครับ ผมสบายดี อาจจะเพราะช่วงนี้นอนน้อยไปหน่อย”

“ถึงจะยังหนุ่มยังแน่นก็จริง แต่ก็ต้องพักผ่อนให้มากเข้าไว้ ยังไงก่อนกลับผมจะให้เลขาเอาโสมไปให้พวกคุณบำรุงก็แล้วกัน คุณก้องด้วยนะ” ประธานหลี่บอกด้วยความอาทรและห่วงใย

“ขอบคุณครับ” ทั้งสองคนรับไมตรีนั้นไว้โดยไม่ได้ปฏิเสธ

“วันนี้ไปต่อกับผมนะครับ” ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันเรื่องความสำเร็จ แต่มีคุณชายหลี่ บุตรชายคนเล็กของบ้าน แอบกระซิบคุยฉันทัชเสียงเบา

“อือ” ฉันทัชพยักหน้าเออออไป โดยไม่ละสายตาจากคนไม่ปกติเลยแม้แต่น้อย

“เอ...ทำไมคราวนี้ว่าง่าย” หลี่หยางเซิงแซว เพราะปกติฉันทัชจะมีข้ออ้างเรื่องงานทุกครั้ง จนเขาเซ้าซี้นั่นแหละอีกฝ่ายถึงยอมออกมาด้วย








.............

“คืนนี้คุณดูไม่ค่อยสนุกเลย มีอะไรหรือเปล่า” คุณชายคนเล็กถามด้วยความเป็นห่วง

“...”

ไร้การตอบรับ หลี่หยางเซิงลองเรียกชื่ออีกฝ่าย “เยว่ซิน”

“...”

“เทมส์”

“...”

“จันทร์” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงเรียกชื่อฉันทัชด้วยชื่อนี้ขึ้นมา ชื่อนี้ออกเสียงไม่ยาก เขาจึงพูดออกไปไม่ลำบากนัก



หลี่หยางเซิงรู้ว่าฉันทัชมีชื่อเล่นว่าเทมส์ แต่ชื่อจันทร์นี่ล่ะ? มาได้ยังไง เขาได้ยินคนนั้นที่เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่ทำธุรกิจร่วมกันเรียกชื่อนี้กับฉันทัช ตอนแรกก็งงว่า ทางนั้นหมายถึงใคร แต่พอเห็นฉันทัชตอบเขาจึงพอเริ่มเข้าใจ เท่าที่รู้มา คนไทยก็น่าจะมีชื่อเล่นเพียงชื่อเดียวเหมือนประเทศอื่นๆ ไม่ใช่หรือ นอกเสียจากว่าจะเป็นชื่อที่ตั้งให้กันเองหรือฉายาอะไรเทือกนั้น



วันนี้ตลอดการกินเลี้ยงช่วงกลางวัน เขาเห็นสายตาของฉันทัชคอยมองไปที่คนๆ นั้นเป็นระยะ มันไม่ใช่ท่าทางสายตาของความพิศวาสหรือเสน่หา แต่มันสายตาของความเป็นห่วง ฉันทัชกำลังเป็นอะไรและรู้สึกอะไรกับคนนั้น

“ว่าไง”

“ระหว่างชื่อเทมส์กับจันทร์ คุณคุ้นชื่อจันทร์มากกว่าหรือครับ”

“เอ่อ.. ขอโทษทีครับคุณชายหลี่ คุณว่าไงนะ พอดีผมคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ฉันทัชได้ยินคำถามจากคุณชายหลี่แต่เขาเลือกไม่ตอบ กลับเฉไฉไปเรื่องอื่นแทน

“ผมถามว่า คุณดูไม่ค่อยสนุกเลย มีอะไรหรือเปล่า” หลี่หยางเซิงเปลี่ยนคำถามเสียใหม่

“ก็ไม่นี่ครับ ผมปกติดี ทำไมเหรอ” ฉันทัชยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเอาใจ

“รู้ตัวไหม ผมเรียกคุณหลายครั้งแล้ว”

“อ่า..ขอโทษครับ ผมคงกังวลเรื่องงานมากไปหน่อย” ฉันทัชรู้สึกผิดเล็กน้อย เขาไม่น่าเสียมารยาทกับคนที่นัดเขาออกมาคืนนี้เลย

“ให้ผมพูดกับคุณก้องดีไหมครับว่าใช้งานคุณหนักไปแล้ว หรือจะลาออกมาอยู่กับผมดี”

“ไม่เอาทั้งสองแบบเลยครับ” ฉันทัชหัวเราะ

“ปฏิเสธเก่งเหมือนเคย”

“เปล่าเสียหน่อย ข้อแรก ผมยังอยากทำงานกับคุณก้องอยู่ ข้อสองผมก็ยังอยากทำงานอยู่ครับ”

“แล้วไม่อยากอยู่กับผมหรือไง” คุณชายหลี่ถามเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง

ฉันทัชไม่ตอบ เขาเลือกที่จะยิ้มแบบที่ทำประจำเวลาไม่อยากตอบคำถาม

“หรือจริงๆ แล้วคุณอยากอยู่กับคนอื่น”

ฉันทัชหรี่ตามอง “เอ...พูดแบบนี้ มันแปลกๆ นะครับ”

“คุณบอกเองว่าคุณก็ให้โอกาสคนอื่นเหมือนกับที่ให้โอกาสผม”

“ใช่ครับ”

“คุณเจอคนนั้นแล้วใช่ไหม” ฉันทัชได้ยินประโยคนี้แล้วรู้สึกใจไม่ดี เพราะเสียงของหลี่หยางเซิงฟังดูไม่สดใสเอาเสียเลย

“ถอดใจแล้วหรือ”

“ถ้าคุณแค่ไม่แน่ใจในตัวผม ผมยินดีจะทำให้คุณเห็น แต่ถ้าคุณมีใครในใจแล้ว ผมก็ไม่อยากจะเข้าไป”

“ไม่สู้เลย?”

“ถ้าผมจีบคนอื่นอยู่ผมอาจจะสู้นะ” ชายหนุ่มถอนหายใจ “แต่กับคุณ บอกตรงๆ ว่าผมขอยอมแพ้ เพราะถ้าคุณจะตกลงเป็นแฟนผม คุณคงทำไปนานแล้ว ใช่ไหมครับ” หลี่หยางเซิงย้อนถาม

“...” คราวนี้ฉันทัชพูดไม่ออกจริงๆ ไม่ใช่ว่าอยากหลีกเลี่ยงอย่างที่เคยทำ

“ผมเจ็บนะ รู้ไหม ผมว่ายน้ำมาไกลแล้ว ไกลมาก แต่ทำไมผมยังไม่เห็นริมฝั่งสักที”

“คุณชายหลี่” ฉันทัชกระซิบเรียกชื่ออีกฝ่าย

“ผมว่ายออกมาทั้งที่ไม่เห็นอีกฝั่งแต่ผมก็ไม่ท้อนะ ผมสู้มาตลอด จนกระทั่งวันนี้ผมเห็นริมฝั่งนั้นกำลังเคลื่อนที่ มันเคลื่อนตัวออกไปจากผม ไม่ว่าผมจะว่ายได้เก่งและไกลแค่ไหน ผมก็ไม่มีวันไปถึงฝั่งได้ เพราะริมฝั่งนั้นไม่ได้รอผม”

“ผม...คือ...”

“ผมเข้าใจ คิดว่าเข้าใจนะ”


ฉันทัชมองคนที่พูดว่าเข้าใจ แต่เขาคิดว่าคุณชายหลี่ไม่เข้าใจหรอก หลี่หยางเซิงในตอนนี้เข้าใจแค่ว่าไม่มีหวังแล้วเพียงเท่านั้น

“ผู้ชายคนนั้นคือแฟนเก่าของผมเอง” ฉันทัชเกริ่น หลี่หยางเซิงแปลกใจที่จู่ๆ ฉันทัชก็พูดขึ้นโดยไม่สนใจว่าคุณชายหลี่จะรู้ไหมว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่ฉันทัชก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายเข้าใจดี ไม่งั้นคงไม่เรียกชื่อเขาว่าจันทร์หรอก

“ตอนที่ผมเจอคุณครั้งแรกที่ร้านนี้ ผมเพิ่งเลิกกับเขาได้ประมาณเดือนหนึ่ง”

“ผมเห็นคุณมองเขาวันนี้ คุณอยากกลับไปคบกับเขาหรือ”

“เปล่าครับ ผมไม่ได้อยากกลับไป ผมไม่อยากรู้สึกอะไรแบบนั้นอีกแล้ว”

“เขาไม่ดีกับคุณ?”

“เขาเป็นคนดี เขาดีกับผม แต่เพราะเราสองคนอยู่ด้วยกันมานานเกินไป ทำให้ทุกอย่างที่น่าจะดีกลับแย่ลง เราเมินเฉยกัน ชินชาใส่กันและเราเริ่มไม่อยากแคร์ความรู้สึกกันและกัน”

“คุณเลยไม่อยากเริ่มใหม่กับใคร” หลี่หยางเซิงยิงคำถาม

“ยอมรับว่าผมรู้สึกเข็ดขยาด แต่ผมก็อยากเริ่มใหม่กับใครสักคนอยู่ดี ผมรู้ว่ามันฟังดูย้อนแย้ง นั่นเป็นเพราะผมขาดความอบอุ่น ต้องการความรัก” ฉันทัชแค่นเสียง “แต่ตอนนี้ผมปอดแหกเกินไป ผมกลัวว่ามันจะซ้ำรอยอีก”

“ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นใหม่กับผมก็ตามเหรอ”

“ใช่” ฉันทัชยอมรับ “ไม่ใช่เพราะว่าเป็นคุณ แต่ผมหมายถึงทุกคน”

“ถ้างั้นแปลว่า คุณในตอนนี้?”

“ผมในตอนนี้คงจะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ผมเสียใจนะ กับคนอื่นผมมีข้ออ้างที่ปฏิเสธ แต่กับคุณ คุณชายหลี่ ผมหาข้ออ้างปฏิเสธคุณไม่ได้เลย” ฉันทัชเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของหลี่หยางเซิง

“ผมชอบคุณนะ ชอบคุณจริงๆ” ฉันทัชบอกจากใจ

“แต่ก็ไม่มากพอที่คุณจะยอมลืมความเจ็บช้ำในอดีต”

“ขอโทษนะครับ คุณอายุเท่าผมในเวลานั้นเลย ผมไม่รู้ว่าอนาคตเมื่อคุณอายุเท่าผมตอนนี้จะเป็นยังไง แต่ผมไม่พร้อมที่จะเสี่ยง”

“การที่ผมเลือกตัดใจจากคุณ แปลว่าผมคิดถูกแล้วใช่ไหม” คุณชายหลี่ ฝืนยิ้มออกมา

“ผมมันคนมีอดีต ถ้าตกลงคบกับคุณ ผมก็ยังระแวงต่อไปอยู่ดี”

“ทริปแรกของเราคงไม่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ” หลี่หยางเซิงพูดทวนสัญญาที่ฉันทัชเคยให้ไว้

“ใครบอกคุณอย่างนั้น ถ้าคุณมา ยังไงผมก็จะพาคุณไป เว้นเสียแต่ว่าคุณไม่อยากมา”

“คุณนี่ร้ายเหมือนเดิมเลย เหมือนผมเป็นฝ่ายยกเลิกเองยังไงก็ไม่รู้”

“คิดมาก” ฉันทัชพอหัวเราะออกมาได้บ้าง “แต่ผมยังอยากคุยกับคุณอยู่นะ” เขาชะโงกเข้าไปพูดใกล้ๆ กับอีกฝ่าย

“เยว่ซิน” หลี่หยางเซิงเรียกชื่อฉันทัชด้วยความอ่อนใจ “บอกว่าคุณร้ายกาจนี่ผมว่ายังน้อยไป มีอย่างที่ไหนไม่รับรักผมแต่ยังอยากคุยกับผมอยู่”

“ถ้าไม่อยากคุยกับผมก็ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ” ฉันทัชดึงตัวเองกลับมา

“คุณนี่นะ ผมจะเลิกคุยกับคุณได้ยังไง” หลี่หยางเซิงรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ได้ทัน

“เด็กดี” ฉันทัชเอ่ยชม

“แต่ผมก็จะคุยกับคนอื่นด้วย ยังไงคุณก็ไม่ตกลงกับผมอยู่แล้ว” หลี่หยางเซิงพูดเอาแต่ใจ เขาปล่อยแขนฉันทัช

“ไม่ว่ากัน คุณจะทำอะไรก็ได้ เอาจริงๆ ก่อนหน้านี้คุณก็ทำได้นะ” ฉันทัชหัวเราะ

“จะบ้าหรือไง ผมจีบคุณก็ต้องคุยกับคุณคนเดียวสิ”

“เอาเป็นว่า ไม่ได้จีบผมแล้ว ก็คุยกับคนอื่นได้” ฉันทัชสรุป



ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter


ฉันทัชเตรียมจะทาบคีย์การ์ดเข้ากับประตูห้องพักของโรงแรม แต่สายตาของเขากลับเหลือบไปมองประตูบานที่ปิดสนิทอยู่ข้างๆ เขาลังเลว่าควรจะเข้าห้องตัวเองไปเลยดีหรือไม่ แต่สุดท้ายขาของเขาก็พาตัวเองไปกดออดห้องอีกฝ่ายเสียแล้ว


“ว่าไง” ปาณัสม์เอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

“ทำอะไรอยู่” เกือบจะใกล้เข้าวันใหม่แล้วแต่อีกฝ่ายยังอยู่ในชุดเดิม ทว่าไม่ได้สวมแว่นแล้ว

“เปล่า”

“เปล่า?” ฉันทัชทวน

“อืม ตั้งใจจะเคลียร์งาน แต่ไม่มีสมาธิก็เลยเลิก วิวตึกฮ่องกงก็สวยดีนะ”

“งั้นหรือ ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม”


ปาณัสม์มองคนขอด้วยความประหลาดใจ ปกติฉันทัชมีแต่จะหลีกเลี่ยงที่จะเดินเข้ามาหาเขามากกว่า “เข้ามาสิ”


ในห้องพักของโรงแรมมีโซฟาเบดตั้งอยู่ใกล้ๆ กับที่นอน ฉันทัชจึงเลือกนั่งบนโซฟานั้นแทน ปาณัสม์ปิดประตูเรียบร้อย เดินกลับเข้ามานั่งบนเตียงบ้าง

“ไปดื่มมาหรือ” ปาณัสม์ถาม คราวก่อนฉันทัชจำได้ว่า มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเช่นกัน แต่ปาณัสม์หัวเสีย โมโหอย่างรุนแรง แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไม่โวยวาย ดูไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะปากของเขามันยังบวมช้ำเหมือนครั้งก่อนไม่มีผิด

“อืม”

“กับคุณชายหลี่?”

“ใช่”

“อ้อ” ปาณัสม์รับคำง่ายๆ ฉันทัชคิดว่าชายหนุ่มผิดปกติอย่างปฏิเสธไม่ได้เสียแล้ว เขาสังเกตเห็นตั้งแต่งานเลี้ยง ชายหนุ่มดูคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา คิ้วขมวดเป็นปม นานๆ จึงจะคลายออกมาทีหนึ่ง

“เครียดเรื่องงานเหรอ” ฉันทัชถามอีกฝ่าย

“เปล่า” ปาณัสม์ตอบ ฉันทัชสูดลมหายใจเข้าลึก มองหน้าอีกฝ่ายที่ไม่สบตาเขา ปาณัสม์มองออกไปนอกกระจก หน้าต่าง


ปาณัสม์ไม่เคยเล่าเรื่องงานให้ฉันทัชฟังเลยตั้งแต่อยู่ด้วยกัน เขาไม่เคยรับรู้ว่าปาณัสม์มีความเครียดหรือติดขัดอะไรบ้างไหม เพราะถ้าถามออกไป อีกฝ่ายก็จะทำเพียงแค่ยิ้ม ลูบผมของเขาและบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแบบนี้ทุกครั้ง ฉันทัชรู้ดีว่าปาณัสม์ไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วงหรือเป็นกังวล

“แล้วเป็นอะไร”

“เปล่า” ปาณัสม์ปฏิเสธเหมือนเดิม

“อกหัก?” ฉันทัชเดาสุ่ม เขาได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอก่อนที่ปาณัสม์จะตอบกลับมา

“จะบ้าหรือไง”

“ตกลงจะไม่บอก?” ฉันทัชเลิกเล่นยี่สิบคำถาม

“ไม่มีอะไรเสียหน่อย”

“งั้นกลับดีกว่า อยู่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้” ฉันทัชลุกขึ้นยืนเตรียมจะกลับห้อง

“จันทร์อยากช่วย?” ปาณัสม์คว้ามืออีกฝ่ายเอาไว้ได้ทันก่อนที่ฉันทัชจะเดินออกไป

“อืม”

“นอนกับปาลที่นี่นะ” ฉันทัชดึงมือออกจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แต่ปาณัสม์ก็เร็วพอที่จะจับมือขาวนั้นไว้แน่น

“ปล่อย” ฉันทัชสั่งกดเสียงต่ำ เขาทำหน้าตาขมึงทึงด้วยความไม่สบอารมณ์

“ไม่ใช่อย่างนั้น นอนเป็นเพื่อน นอนเฉยๆ ได้ไหม”

“ถ้างั้นก็บอกมาก่อนว่าเรื่องอะไร”

ปาณัสม์นิ่งเงียบ จนฉันทัชดึงมือออกอีกครั้ง ตั้งท่าจะกลับไป ก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายดังขึ้น “ชัดเจน”

ฉันทัชเดินตรงไปที่ประตูดังเดิม ปล่อยให้ปาณัสม์มองตามหลัง เมื่อฉันทัชเปิดประตูออก เขาก็พูดขึ้น “จะกลับไปอาบน้ำ แล้วมาใหม่ ปาลเองก็เหมือนกัน อาบน้ำด้วย”

“ได้เลยครับ”

ตอนนี้เขาสองคนต่างอยู่บนเตียงนอน ฉันทัชนั่งพิงหัวเตียง ส่วนอีกคนเอนตัวลงนอนไปแล้ว ฉันทัชยังเงียบ ไม่พูดอะไร เขากำลังรอให้ปาณัสม์เริ่มต้นพูดด้วยตนเอง

“ปาลเพิ่งรู้ ว่าชัดจีบจันทร์”

“อ่า..เหรอ” ฉันทัชพูดแค่นั้นแล้วเม้มปาก หัวสมองกำลังคิด เกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากที่ปาณัสม์บอกเขาเรื่องโพสต์อิท

“แล้วเพิ่งรู้อีกว่าชัดชอบจันทร์มาตั้งแต่วันแรกที่ปาลพามาแนะนำให้ที่บ้านรู้จัก”

“ไม่จริงมั้ง ไม่น่าจะนานขนาดนั้น” ตอนที่ชัดเจนบอกว่ารอฉันทัชมานาน เขาก็คิดว่าคงหมายถึงเวลาไม่นานเต็มที่ก็ไม่เกินสามปี ไม่นึกว่าจะยาวนานขนาดนี้

“เชื่อเถอะ ชัดบอกเอง” ฉันทัชได้ยินแล้วก็ไม่ปักใจเชื่ออยู่ดี เพราะชัดเจนบอกนั่นแหละ เขาถึงไม่อยากเชื่อง่ายๆ

“เทมส์ปฏิเสธชัดไปแล้ว” ไม่ใช่ว่าฉันทัชต้องการแก้ตัว แต่เขามองไม่เห็นถึงประโยชน์อันใดที่จะมาพูดในเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้น

“ชัดก็บอกแล้วเช่นกัน”

“นี่ปาล กินยาหน่อยไหม ดูเพ้อๆ นะ” ฉันทัชมองคนที่นอนมองเพดานอยู่

“ไม่ได้ป่วย”

“ยานอนหลับไหม”

“รำคาญเหรอ” ปาณัสม์หัวเราะออกมาเล็กน้อย

“เปล่า แค่รู้สึกปาลแปลกๆ” ฉันทัชเขี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าปาณัสม์ออกให้มันโล่งตาเสียหน่อย เห็นแล้วมันขัดสายตาเหลือเกิน

“นอนเถอะ ปิดไฟนะ” ฉันทัชไม่รอคำตอบเขาเอื้อมมือไปปิดไฟตรงสวิตช์ข้างหัวเตียง ไฟทั้งห้องมืดลง มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกสาดส่องเข้ามา ปาณัสม์ไม่คิดจะปิดผ้าม่าน ชายหนุ่มเลื่อนตัวลงมานอนข้างอีกคนที่นอนนิ่ง


ผิดปกติมากเกินไป ผิดปกติทุกอย่าง ปาณัสม์ไม่มีทางซวนเซได้มากขนาดนี้ เพียงแค่ชัดเจนมาจีบฉันทัชหรอก มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น

“ปาลเพิ่งรู้ว่า...” ปาณัสม์พูดขึ้นท่ามกลางความมืด

ฉันทัชมุ่นคิ้ว วันนี้อดีตคนรักดูเหมือนจะ ‘เพิ่งรู้’อะไรไปเสียทุกอย่าง

“รู้อะไร”

“ชัด..โกรธปาลมากและเกลียดมากด้วย” ฉันทัชได้ฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ หน้าเขาจะเหี่ยวก่อนวัยอันควรหรือเปล่าเพราะมัวแต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

“ชัดไม่เกลียดปาลหรอก” ฉันทัชปลอบ

“ก่อนที่ปาลจะบินมาฮ่องกง ชัดพูดอะไรหลายอย่างที่ปาลไม่เคยคิดเลยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาชัดคิดกับปาลแบบนี้”

“ชัดเปลี่ยนใจจากเทมส์ไปชอบปาล?” ถึงจะอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ฉันทัชก็อดไม่ได้ที่จะแหย่อีกฝ่ายออกไปเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ

“ฟ้าผ่าตาย” ดูเหมือนจะได้ผล เพราะปาณัสม์พูดด้วยน้ำเสียงที่ชวนขนลุกก่อนจะพูดต่อว่า “ถ้าชัดชอบปาลนะ ปาลคงต้องเป็นรับแน่เลย ไม่เอาอะ ไม่เอา”

ฉันทัชได้ยินถึงกับหัวเราะพรืดออกมา “สู้แรงชัดไม่ไหวหรือไง”

“จันทร์นึกดูสิ เวลาปาลเมา ชัดมันแบกปาลได้สบายเลย”

ฉันทัชพยักหน้าเห็นด้วย “หึ น่าให้ชัดจัดการเสียจริง”

“ไม่มีวันนั้นหรอก ชัดโกรธและเกลียดปาล” สุดท้ายปาณัสม์ก็วนมาประโยคเดิม ฉันทัชพ่นลมหายใจออกมา กำลังจะผ่านไปได้ดีแล้วเชียว

“ชัดทำอะไรให้ ปาลถึงรู้สึกแบบนั้น”

“ชัดปลอมเอกสาร ยกเลิกการผลิตสินค้าที่จะส่งมาฮ่องกง” ปาณัสม์พูดเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดในน้ำเสียง

“เป็นไปไม่ได้ คนอย่างชัดเจนเนี่ยนะ”

“ถ้าปาลไม่เห็นเอกสารเองโดยบังเอิญ คงไม่มีวันเชื่อ ปาลเจอสัญญาพร้อมกับโน้ตของจันทร์นั่นแหละ”

“ชัดเจนจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร”

“เพื่อให้ปาลไม่กลับไปยุ่งกับจันทร์อีก” ปาณัสม์ตอบอย่างรวดเร็ว เขาหายใจเข้าโดยแรง “ชัดไม่อยากเห็นจันทร์เศร้าเหมือนเมื่อก่อน”


สาเหตุที่เขาเศร้าในเวลานั้น ฉันทัชเองก็เริ่มแน่ใจแล้วว่ามันน่าจะเกิดจากการกระทำของปาณัสม์ที่ผสมกับคำพูดของชัดเจนเข้าด้วยกัน ปาณัสม์เองก็คงเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ยิ่งเหมือนไฟที่ถูกพัดให้โหมแรงไปอีก


ฉันทัชสองจิตสองใจว่าจะพูดดีไหมเรื่องการบิดเบือนความจริง อ้อ ไม่ใช่สิ เรื่องความจริงเพียงครึ่งเดียว เขาหันหน้าไปมองปาณัสม์ ถ้าพูดออกไป ความสัมพันธ์พี่น้องต่างสายเลือดจะสั่นคลอนไปมากกว่านี้หรือเปล่า มันจะคุ้มไหม ยังไงเรื่องพวกนี้ก็เป็นอดีตไปแล้ว

“อยากให้เทมส์กอดไหม” ในที่สุดฉันทัชก็เลือกไม่พูด เขาจึงเสนอออกไปเพื่อปลอบใจอีกฝ่าย

“ได้เหรอ”



ฉันทัชไม่ตอบ เขายกศีรษะของอีกฝ่ายขึ้นมานอนหนุนแขนตัวเอง ปาณัสม์พลิกร่างมากอดอีกฝ่ายอย่างอัตโนมัติ แล้วเลื่อนศีรษะจากแขนมาเป็นบนอกของฉันทัชเอง เจ้าของร่างที่ถูกกอดใช้มือข้างที่ถูกหนุนเมื่อสักครู่นี้ลูบเส้นผมคนอ่อนแอเบาๆ

“แบบนี้ยิ่งเหมาะจะเป็นเมียนะเนี่ย” ฉันทัชแซว ถึงแม้อีกฝ่ายจะตัวสูงใหญ่กว่าเขา แต่เวลานี้ปาณัสม์ดูเหมือนลูกนกตัวน้อยที่สั่นเทา

“ถ้าเป็นจันทร์อะ ปาลยอมนะ”

“ซึ้งใจเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงขอลองไปแล้ว”

“ตอนนี้ก็ลองได้”

“ไม่เอา ไม่อยากรังแกคนจิตใจไม่ปกติ” ถูกต้องตรงความหมายตามที่ฉันทัชได้พูดออกไป เพราะถ้าในเวลาที่ปาณัสม์มีจิตใจเป็นปกติ ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะยอมถูกกดหรอก

“ทำได้จริงๆ นะ” ปาณัสม์ยังย้ำ “เพราะจันทร์ไม่อยากถูกทำนี่นา”

“ไปได้ยินมาจากไหนอีก” ฉันทัชกลอกตา “จากชัด?” เขาเดาสุ่ม เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนั้น

“อืม” คำตอบของปาณัสม์ไม่ผิดจากที่สงสัย

“ชัดพูดว่าไง ทวนความจำให้เทมส์ฟังหน่อย”

“จันทร์บอกไม่ค่อยชอบเพราะมันจะปวดเนื้อเมื่อยตัว ทำอะไรก็ไม่สะดวก ที่สำคัญไม่ชอบถูกปลุกกลางดึกมาทำอะไรแบบนี้”

“เทมส์พูดแบบนั้นเลยเหรอ แล้วทำไมเทมส์ไม่บอกปาลเองล่ะ” ฉันทัชทวนคำ ชัดเจนเก่งชะมัด


ทั้งหมดที่ปาณัสม์บอก นั่นเขาเคยพูดจริง แต่ไม่ได้แปลว่าไม่อยากทำเสียหน่อย


“ชัดบอกว่าจันทร์ไม่กล้าพูดกับปาล กลัวปาลโกรธ”

“อ้อ...” ฉันทัชลากเสียงยานคาง “ถามจริงๆ นะปาลไม่สงสัยเหรอ ว่าเทมส์จะกล้าเอาเรื่องบนเตียงของเราไปเล่าให้ชัดฟังอะ”

“ตอนที่ได้ยินก็แปลกใจว่าจันทร์สนิทกับชัดถึงขั้นนั้นเลยเหรอ แต่พอชัดบอกว่าจันทร์คงกลัวปาลโกรธ เลยคิดว่าอาจเป็นไปได้แหละ” ฉันทัชได้ฟังก็อ่อนใจ ปาณัสม์ไว้ใจชัดเจนมากจนไม่ระแคะระคายอะไรเลย จะว่าไปใครเล่าจะคิดว่าน้องชายจะมาตีท้ายครัวตัวเองและวางแผนต่างๆ นานาขนาดนี้


แต่เขามั่นใจว่าไม่เคยพูดอะไรทำนองนี้กับชัดเจนแน่ๆ เป็นไปได้ว่าชัดเจนอาจจะได้ยินเขาคุยกับอินทัชหรือไม่ก็พูดเล่นกับปาณัสม์ก็เป็นได้

“ตอบตามตรงนะ ปาลคิดอะไรกับคุณเกศสิรีหรือเปล่า”

“ทำไมจู่ๆ ถึงถาม ปาลไปทำอะไรให้จันทร์คิดแบบนั้น หรือเพราะวันที่เกิดเหตุในผับใช่ไหม ตอนนั้นปาลเมานิดหน่อย เลยคิดแปลกๆ ไปอยู่บ้าง”

“เทมส์หมายถึง ทั้งหมดตั้งแต่รับคุณเกศสิรีมาทำงาน”

“สาบานด้วยเกียรติเลย ไม่เคยเลยครับ ไม่เคยคิดเลย นอกจากวันนั้นที่เมานั่นแหละ”

“อืม เข้าใจแล้ว”


จากที่จะไม่โกรธชัดเจน ตอนนี้ฉันทัชคิดว่าเขาควรจะโกรธได้แล้วล่ะมั้ง ชัดเจนทำให้ขาเตียงเขาสั่นคลอน ทำให้เขาระแวงปาณัสม์ และยังทำให้อดีตคนรักไม่นอนกับเขาอีก รู้ไหมเขาร้องไห้ไปเยอะแค่ไหน โอ้โห ฉันทัชอยากจะอุทานให้ดังลั่น นี่เขาพลาดอะไรไปเยอะเลยใช่ไหม


ชัดเจน นี่มัน ชัดเจน จริงๆ



“แล้วจะทำไงต่อ เรื่องชัดเจน” หลังจากสงบสติอารมณ์เพียงครู่ ฉันทัชจึงถามต่อ

“ชัดขอลาออก แต่ปาลไม่ตกลง”

“ทำไมล่ะ”

“ปาลเล่าเรื่องชัดให้จันทร์ฟัง ขอได้ไหมอย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังต่อ ถึงแม้จะเป็นไทน์ก็ตาม ปาลอยากให้มีคนรู้เรื่องชัดเพียงแค่เราแล้วก็ไอ้จักร”

“ปกป้องชัดเจนเหรอ”

“อืม ชัดจะพาลุงชมออกไปอยู่ข้างนอกด้วย ต้องลำบากแน่” ฉันทัชอยากจะเหวี่ยงปาณัสม์ออกไปนอกหน้าต่างเสียจริง โดนทำถึงขนาดนี้แล้วยังจะห่วงอีกฝ่ายอยู่อีก

“ชัดเจนเป็นคนเก่ง ไม่มีทางอดตายหรอก”

“ก็รู้ แต่ก็ห่วงอะ ชัดเป็นน้องชาย”

“ห่วงยิ่งกว่าตอนเลิกกับเทมส์อีก” ฉันทัชไม่ได้อยากจะประชดแต่เขาอดไม่ได้จริงๆ

“คนละแบบกัน ปาลรู้ว่าไทน์เก่ง มันดูแลจันทร์ได้ ปาลห่วงจันทร์มากนะแต่จันทร์ต้องไม่ชอบใจแน่ถ้าปาลยังไปวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ถึงต้องให้คนนั้นคนนี้คอยถามไถ่ ดูแลแทนให้ปาล”

“ไม่ใจอ่อนหรอกนะ”

“รู้น่า..ว่าจันทร์ใจแข็งแค่ไหน”

“เรื่องของชัดเจน ยังไงปาลก็คิดดูดีๆ ล่ะ”

“ครับ ถ้าปาลเคลียร์เรื่องชัดเจนเสร็จเมื่อไหร่ ปาลจะมาเคลียร์เรื่องของเรา รอนะ” ปาณัสม์เงยหน้าสบตาขึ้นมองฉันทัช

“เรื่องของปาลคนเดียว ไม่เกี่ยวกับเทมส์” ฉันทัชเห็นแววตาวิบวับของคนข้างล่าง คงจะอาการดีขึ้นแล้ว ทำให้เขาค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย

“จันทร์” ปาณัสม์เรียกชื่ออีกฝ่าย เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าฉันทัช มือข้างที่โอบเอวฉันทัชไว้เลื่อนขึ้นมาแตะริมฝีปากของฉันทัชไว้ ลูบไล้อย่างเบามือ

“อะไร” ฉันทัชเริ่มใจคอไม่ดี พออาการดีขึ้น อีกฝ่ายก็ทำตัวไม่น่าไว้ใจอีกแล้ว

“ไปกับคุณชายหลี่ทีไร กลับมาปากบวมทุกทีเลย” ปาณัสม์พูด ไร้ซึ่งน้ำเสียงโมโห มันน่าจะดีกับฉันทัชแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม เขาเริ่มไม่สบายใจอีกแล้ว

“คนโสดทำอะไรก็ได้” ฉันทัชแกล้งบอกเสียงแข็งกลบเกลื่อนความรู้สึกของตนเอง

“ไม่ชอบเลย”

“ปาลพูดเหมือนไม่เคยทำ?” ฉันทัชย้อนถาม

“ตอนเลิกกันใหม่ๆ ก็ทำนะ ทำมากด้วย”

“ไม่ต้องเล่าหรอก” ฉันทัชไม่ได้อยากรู้ว่าปาณัสม์จะไปมีสัมพันธ์กับใครบ้าง

“ฟังก่อน แต่ก็ทำไม่ลง ปาลเห็นแต่หน้าจันทร์ คำพูดของจันทร์มันดังก้องอยู่ในหัวไปหมด”

“เทมส์ควรจะดีใจใช่ไหม” ฉันทัชถาม

“ไม่รู้สิ แล้วแต่จันทร์ จะหัวเราะหรือสมน้ำหน้าปาลก็ได้นะ”

“....” ฉันทัชไม่ตอบ

“ปาลไม่อยากให้จันทร์จูบกับคนอื่นเลย แต่ก็รู้ว่าห้ามไม่ได้อีกแล้ว” ปารัสม์พูดเสียงเศร้า

“นอนกันดีไหม ดึกแล้ว” ฉันทัชเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากหลงกลอีกฝ่าย

“จูบหน่อยได้ไหม จูบปาลบ้างได้หรือเปล่า” หัวใจของฉันทัชเต้นแรงเมื่อได้ยินคำขอร้องนั้น เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดตรงๆ ออกมา


ฉันทัชคงใช้เวลานานไป เมื่อได้ยินเสียงปาณัสม์เตือนสติให้กลับมา “ไม่ได้ใช่ไหม ก็คิดไว้แล้วล่ะ จันทร์คงลำบากใจ งั้นนอนกันนะ”





========================================

เป็นตอนที่รวมหลายอย่างและขอโบกมืออำลา คุณชายหลี่ค่ะ (รักนะ)

หวังว่าตอนนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจเหตุการณ์และชัดเจนได้มากขึ้นน้า ไม่เคลียร์ตรงไหน บอกได้เลยค่ะ

เขมอาจจะไม่เคยพูดถึงเลย ปาลตัวใหญ่กว่าเทมส์ไม่มากค่ะ ในเรื่องขนาดตัวและความหนา แต่ความสูง ห่างกันเยอะค่ะ ราวสิบเซนต์



ปล 1 ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ ถล่มความคิดเห็นมาได้เลยค่ะ รออ่านอย่างตั้งใจ

ปล 2 ตอนนี้ลงให้ยาวเลย เพื่อจะบอกว่า เขมจะไม่สามารถลงนิยายได้อีกหนึ่งสัปดาห์

เราจะเจอกันอีกครั้ง ศุกร์ที่ 16 เลยค่า



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ความรักทำให้ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเลยเหรอชัดเจ๊นนนนนนนนนน
แต่พอมีเหตุผลว่าถ้าสินค้ารอบนี้มีปัญหาก็จะไม่ไปยุ่งกับเทมส์ก็สมเหตุสมผลอยู่ แต่ก็แบบ  :katai1: :katai1: :katai1:
เอาจริงๆ เทมส์นะ จะตัดก็ตัดไม่ขาดจะไปต่อกับเขาก็ไม่เอา  :ling1: :ling1: :ling1:
ปาลก็ซึมแล้วซึมอีกหงอยอีก ฮืออออออออออออ  :hao5: :hao5: :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2018 12:01:53 โดย miikii »

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :เฮ้อ: เรื่องนี้ชัดเจนเป็นกุญแจสำคัญสิ่นะ
ความเจ็บของเทมส์ในอดีต ก็เป็นเพราะชัดเจนครึ่งนึงนะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชัดเจนหนอชัดเจน หวังว่าชัดเจนจะทำใจได้และเจอคนดี ๆ มาแทนเทมส์นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด