สถานที่นี้มันช่าง...หนวกหู แต่ดูเหมือนกับเสียงเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาอยู่ในโสตประสาทผมเลยสักนิด ไม่ว่าเสียงเพลงจะดังขนาดไหน ปริมาณแอลกอฮอล์จะเพิ่มมากเท่าไหร่....ไม่มีสิ่งไหนทำให้ผมหยุดคิดเรื่องเจได้เลย
“อ้าวๆ ดื่มเข้าไปๆ โทรชวนเพื่อนมา แล้วมานั่งยกอยู่คนเดียวแบบนี้หมายความว่าไงวะ”โมทย์รั้งแขนผมไม่ให้ยกแก้วขึ้นดื่ม
“.......เป็นไงกันบ้างวะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”ตั้งแต่เดินออกจากห้อง ผมก็ไม่รู้จะไปที่ไหน จะเอาปัญหาไปฝากแม่ก็คงทำให้ท่านไม่สบายใจ มันยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น สุดท้าย...โทรตามไอ้โมทย์ออกมานั่งกินเหล้าเป็นเพื่อน แต่มันดันชวนไอ้ฟ้ามาด้วยนี่สิ
“ไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเลย ทะเลาะกับน้องเจมาล่ะสิ”โมทย์นี่มันก็ยังรู้ใจผมเหมือนเดิม
“คราวนี้กูไม่ผิดจริงๆ นะ แล้วกูก็จะไม่ง้อด้วย”ไม่ใช่ทิฐิหรอกนะครับ แต่...คราวนี้ผมเสียใจกับการกระทำของเจมากจริงๆ
“งั้นดีเลย เดี๋ยวกูไปปลอบน้องเจแทนมึงเอง”ไอ้ฟ้านี่ก็หางโผล่เชียว เผลอเป็นไม่ได้
“ปากหาเรื่องอีกแล้วนะมึง คนยิ่งหงุดหงิดอยู่”
“กูก็แหย่เล่น ไม่อยากต่อยกะมึงตอนนี้หรอก ไม่ชอบซ้ำรอยใครว่ะ”ฟ้ามองหน้าผมแล้วก็ยิ้มๆ แต่ยิ้มเยาะนะครับ เออสิ ก็ตอนนี้หน้าผมแหกไปหมดแล้ว แก้มบวม จมูกก็เจ็บ ปากก็แตก กลืนเหล้าทีนี่แสบปากไปหมดเลย แถมนั่งตรงๆ ก็ไม่ได้ เจ็บชายโครงครับ พลาดไปโดนเท้ามันตอนไหนก็ไม่รู้ ดีนะที่ไอ้สองคนนี้ไม่เห็นรอยช้ำที่ท้องด้วย ไม่งั้นมันคงขำหนักกว่านี้ แค่รู้ว่าเป็นฝีมือไอ้โก้ก็พากันหัวเราะชอบอกชอบใจ จะไปตบรางวัลให้ไอ้โก้กันใหญ่
“มือตีนแม่งโคตรหนัก น่าส่งไปคัดตัวทีมชาติชิปหาย”ผมไม่โกรธที่โก้มันต่อยหรอกนะครับ ยอมรับว่าตอนนั้นผมเองก็ปากเสีย อารมณ์กำลังแรง มองหน้าเจที่ได้ยินผมเรียกว่ามันว่าเมียก็รู้ว่ามันช็อคไปเหมือนกัน แต่...โก้น่าจะหาวิธีหยุดปากผมดีกว่านี้นะ บอกตรงๆ ว่าขาดทุน
“กูไม่รู้หรอกนะว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่มึงเป็นพี่ มีอะไรก็ควรจะพูดกันดีๆ กูเห็นทะเลาะกันทีไร มีแต่มึงที่คอยโวยวายตะคอกใส่เจตลอด ตัวมันก็แค่นั้น มึงพูดเสียงดังใส่ทีเดียวน้องมันก็หงอแล้ว”วันนี้วันดีจริงๆ เจอไอ้โก้ต่อย แล้วยังต้องมาฟังไอ้ฟ้าสวดอีก
“แต่คราวนี้เจมัน...”
“ไม่ต้องเถียง มึงน่ะอะไรๆ ก็เรียกร้องอยากให้เจเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เจมันไม่เห็นเคยเรียกร้องอะไรจากมึงเลยนะ”โมทย์ก็ร่วมวงสวดผมอีกคน ตกลงผมเรียกพวกมาผิดใช่มั้ยเนี่ย ไอ้สองคนนี้มันพวกเจทั้งนั้นเลยนี่นา
“พวกมึงก็ฟังกูก่อนสิวะ คราวนี้น่ะ...”ผมจะเล่าให้พวกมันฟัง ไอ้โมทย์ก็ดันพูดแทรกขึ้นมาอีก
“พอๆ กูไม่อยากฟัง มึงน่ะมันขี้หึงมาก รู้ตัวหรือเปล่าวะเอ็กซ์ อะไรนิดๆ หน่อยๆ มึงก็ปล่อยวางบ้าง”
“แต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะกูขี้หึงนะ เจน่ะมัน...”
“ไอ้เอ็กซ์ กูจะพูดให้ฟังนะ ความรักแบบนี้น่ะ มันยุ่งยากกว่าชายหญิงปกติตั้งหลายเท่า มึงต้องใจเย็นๆ หน่อย ไม่ใช่ผู้ชายเข้าหาก็หึง ผู้หญิงเข้าใกล้ก็หวง มีหวังได้เป็นบ้ากันพอดี ถ้าเป็นเกย์แบบกูก็ว่าไปอย่าง”ไอ้ฟ้านี่ก็มั่นใจในตัวเองดีนะครับ แม่งพูดเสียงดังเลยว่าตัวเองเป็นเกย์ โต๊ะข้างๆ หันขวับเลย
“เป็นแบบมึงมันดีกว่ายังไงวะ”โมทย์หันไปถามมัน ความจริงผมก็สงสัยนะครับ แต่กลัวว่าอ้าปากแล้วพวกมันจะห้ามผมพูดอีก
“ก็กูไม่สนผู้หญิงอยู่แล้วไง ใครคบกับกูก็ไม่ต้องคอยตามหึงเวลาไปไหนมาไหนกับผู้หญิง แต่ถ้าไปกับผู้ชายน่ะ...อีกเรื่องนึง”
“ไอ้เชี่ย นึกว่าดีกว่าตรงไหน แม่งก็แค่ลดกลุ่มเป้าหมายมึงแค่นั้นเอง แต่เดี๋ยว...พวกมึงอย่าเพิ่งขัดกู กูขอเล่าก่อน ไม่งั้นพวกมึงก็ไม่เข้าใจว่าปัญญาครั้งนี้น่ะ ไม่ใช่เพราะกูหึงมันนะ คราวนี้น่ะ เจมัน.....”ผมรีบพูดรีบเล่าเลยครับ เดี๋ยวพวกมันแทรกขึ้นมาอีก ระหว่างเล่าไปพวกมันสองคนก็ค่อยทำหน้าเครียดขึ้นเรื่อยๆ
“.......เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ เห็นมั้ยว่าไม่ใช่เพราะกูขี้หึงนะ แต่เจมันผิดจริงๆ”
“....เออว่ะ”
“แล้วไอ้หมอกนี่ไว้ใจได้มั้ยวะ”คำพูดแรกเป็นของไอ้ฟ้า ส่วนอันนี้เป็นของโมทย์มัน พอมันสองคนพูดแบบนี้ผมค่อยยิ้มได้หน่อย อย่างน้อยก็ยังมีพวก
“กูคิดว่าไว้ใจได้นะ เพื่อนสนิทไอ้อ้นด้วย แต่ที่กูไม่เข้าใจคือเจว่ะ ทำไมมันถึงไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกกูเลยวะ บางทีก็เหมือนว่ามันรักกูมาก ขาดกูไม่ได้ กูนี่ปลื้มจนตัวลอย นั่งทำงานไปยิ้มไปเหมือนคนบ้า แต่พอมันไม่แคร์นี่....เหมือนลืมกูไปเฉยๆ เสียอย่างนั้น”พอได้เล่าให้พวกมันฟังก็สบายใจขึ้น แต่...อารมณ์ก็ขึ้นด้วยเหมือนกัน
“มึงไม่ใจเย็นๆ แล้วฟังเหตุผลน้องมันก่อนล่ะ หนีมาแบบนี้มันแก้ปัญหาได้มั้ย”
“กูรู้นะโมทย์ ว่าที่กูออกมาแบบนี้น่ะไม่ดี แต่กูอยู่ตรงนั้นไม่ไหวจริงๆ แค่ได้ยินคำว่าคนอื่นออกจากปากเจ...กูก็เจ็บแทบตายแล้ว แล้วถ้าเถียงกันต่อไป เจพูดประชดอะไรกูอีก...กูคงได้ลงไปตายต่อหน้ามันจริงๆ”เวลาทะเลาะกันทีไร ถ้าเจไม่คิดว่าตัวเองผิด มันก็จะประชดให้ผมปวดใจทุกที
“เออๆ กูเข้าใจ มึงก็อย่าเครียดให้มาก ดื่มๆ ดีกว่าว่ะ นานๆ ได้เจอกันที”ฟ้ามันคงเห็นผมเครียดจริงๆ มันก็เลยยกแก้วมันกับผมมาชนกัน โมทย์ก็หยิบแก้วมันมาชนด้วยอีกคน พวกเราเปลี่ยนมาพูดคุยเรื่องงานของแต่ละคน โมทย์ก็ช่วยกิจการที่บ้านมัน ส่วนฟ้าเป็นวิศวะกร ตอนนี้คุมงานก่อสร้างบ้านจัดสรรแถวๆ บ้านผม ผมไม่ได้กลับบ้านมาสักพักแล้ว เลยไม่ได้เจอมัน พอผมบ่นพวกมันก็ว่าผมเอาแต่ทำงานแล้วก็ขลุกอยู่กับแฟน เพื่อนฝูงไม่สน พวกมันน่ะนัดสังสรรค์กันบ่อย เศก ก้อง เปา ก็ถามถึง แต่โทรชวนผมทีไรผมก็ไม่ว่างทุกที ผมฟังแล้วก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับไป เรื่องมันจริงนี่ครับ จะเถียงทำไม
โอยยยยย.....มึนหัวชะมัดเลยครับ เมื่อคืนกว่าจะแยกย้ายกันก็ร้านปิด บอกได้คำเดียวว่าเมาเหมือนหมาจริงๆ
“อืม....กี่โมงแล้ววะ”เสียงห้าวที่ดังอยู่ข้างตัว ผมรีบหันไปดูเห็นไอ้ฟ้านอนหงาย ยกมือลูบหน้า เสยผมขึ้นก่อนจะลุกนั่งข้างๆ ผม
“เฮ้ย!!!”ผมรีบลงจากเตียงมายืนอยู่ข้างๆ ก็ไอ้ฟ้ามันนอนเปลือยอยู่นี่นา แล้วผมก็ใส่แค่บ็อกเซอร์...อย่าบอกนะว่า...เมื่อคืน...
“ไอ้เชี่ยยยยย....อย่าพูดออกมาเชียวนะมึง นึกว่าเป็นอะไรร้องซะดังลั่น แม่ง....ถึงเมากูก็ยังมีสติอยู่นะมึง ไม่ต้องมาทำหน้าเหมือนโดนข่มขืนเลย แค่คิดกูก็จะอ้วกแล้ว”ผมแค่ชี้หน้ามัน ยังไม่ได้พูดอะไรก็โดนมันด่าสวนก่อน
“เป็นอะไรกันวะ เสียงดังลั่นห้อง”โมทย์เปิดประตูห้องน้ำออกมาถาม ใครจะไปรู้ล่ะครับ สภาพมันน่าเข้าใจผิดนี่นา
“ก็ไอ้เชี่ยเอ็กซ์น่ะสิ ตื่นมาแม่งก็ทำหน้าตาตื่นเหมือนกูไปข่มขืนมันงั้นแหล่ะ แม่ง....จะอ้วก คิดไปได้”ฟ้าทำหน้าตาหงุดหงิด ลุกขึ้นเข้าห้องน้ำสวนกับโมทย์ที่เดินออกมาแต่งตัวข้างนอก
“ก็กูเบลอๆ อยู่นี่หว่า แล้วมันเสือกมานอนโป๊อยู่บนเตียงอีก”ผมด่าคืนไปเบาๆ ลืมจำเรื่องเมื่อคืนได้แล้วครับ ก็เมาเหมือนหมานี่ครับ ผมกับไอ้โมทย์ขับกลับไม่ไหว ฟ้ามันเลยขับรถผมมาเปิดห้องนอนรวมกันที่โรงแรม นับว่าผมยังพอมีสติอยู่นะครับ เลยนึกได้ว่าร้านนี้ใกล้กับโรงแรมตัวเอง
เจอเรื่องตื่นเต้นแต่เช้า ตาสว่างหายมึนหัวเลยครับ ก่อนกลับพวกผมก็มานั่งกินอาหารด้านล่าง พวกพนักงานก็มองผมแปลกๆ คงคิดว่าผมขยันมาทำงานวันหยุด
“อ้าวเอ็กซ์...จะไปด้วยเหรอ มาตรงเวลาเชียว”เสียงหวานๆ เรียกผมด้านหลัง พอหันไปก็เห็นมดยืนอยู่พร้อมพนักงานอีกสามสี่คน
“หวัดดีมด...ไปไหนเหรอ”
“ก็ไปพัทยาไง”อ๋อ...พาพนักงานไปเที่ยว เกือบลืมเลยครับว่าเขาจะไปกันวันนี้ ตอนแรกผมก็ปฏิเสธคำชวนไป แต่โดนเธอกับพนักงานคนอื่นคะยั้นคยอมากๆ เข้าก็เลยยอมมาด้วย ชวนพวกมันสองคนให้มาด้วยกัน แต่ดันติดธุระกันทั้งคู่ เอาไว้โอกาสหน้าค่อยนัดกันใหม่ก็ได้ครับ
พวกเรานั่งรถตู้กันมาสองคัน ผมนั่งอยู่คู่กับคนขับรถ ระหว่างทางก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูตลอด เผื่อมีสายเข้า แต่...ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครโทรมาเลย...เจ...ไม่โทรหาผมเลยสักครั้ง
รถมาถึงพัทยาตอนบ่ายสองโมงตามกำหนดการ มดเป็นคนจัดรายการทัวร์เล็กๆ วันนี้เอง เริ่มจากทานอาหารก่อนเลยครับ ร้านนี้ยื่นออกไปในทะเล วิวดีเชียวครับ ได้บรรยากาศเหงาๆ....แค่นี้ผมก็เหงาพอแล้วนะ รู้สึกเหมือนโดนบรรยากาศซ้ำเติม
กว่าจะนั่งกินกันเสร็จเกือบสี่โมงเย็น นั่งรถไปดูโชว์แบบไทยๆ แต่ความสามารถระดับโลก ให้ความรู้สึกแปลกไปอีกแบบ มองชาวต่างชาติที่ลุกขึ้นปรบมือให้ บางคนกล่าวชมออกมาเสียงดัง ดูโชว์นี้แล้วได้อะไรหลายอย่าง นอกจากโชว์จะดูดี อลังการ สนุก น่าตื่นเต้น มีเกล็ดความรู้พื้นบ้านสอดแทรก...แต่นอกเหนือจากนั้น...ความภูมิใจครับ
หลังจากการแสดงจบพวกเราก็นั่งรถตระเวนดูโชว์ เรียกว่าตระเวนจริงๆ นะครับ เพราะไปดูอีกสองที่ เวลาใกล้ๆ เคียงกัน กว่าจะเลิกก็ยังไม่ดึกสำหรับที่นี่ แค่เกือบสี่ทุ่มเอง ไฟยังสว่างอยู่ทั้งเมือง นักท่องเที่ยวยังแน่นขนัดทุกร้าน พวกเรานั่งรถไปเช็คอินที่รีสอร์ท ไม่ใช่รีสอร์ทของผมหรอกนะครับ ต้องลองมาพักที่อื่นบ้าง เผื่อได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไว้ไปพัฒนากิจการตัวเอง
“เป็นอะไรเอ็กซ์ ทำหน้าเครียดทั้งวันเลย”ผมย้ายมานั่งข้างมด ปล่อยให้พี่บอลเป็นคนบอกทางคนขับ
“เหรอ...ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีได้ไง เห็นกำโทรศัพท์ไม่ปล่อยเลยทั้งวัน ทะเลาะกับแฟนเหรอ”พอพี่บอลไม่ถาม ก็กลายเป็นมดที่คอยถามแทน อาการผมมันแสดงออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอ
“ก็...นิดหน่อยน่ะ”
“เอาน่า มาพักผ่อนให้หายเครียด พักปัญหาไว้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวกลับไปค่อยแก้ ทำหน้ายุ่งแบบนี้เดี๋ยวลูกน้องก็พาลเกร็งกันหมด”มดพูดเบาๆ ผมเอียงคอไปมองด้านหลัง เห็นพนักงานบางคนหลับตา บางคนก็นั่งนิ่งๆ ไม่พูดจาเฮฮาเหมือนเมื่อเช้าเลยสักคน สงสัยผมคงทำให้บรรยากาศแย่ลงจริงๆ ด้วย
“ขอโทษที ผมไม่รู้ตัวน่ะ....งั้นเอางี้นะ เราอย่าเพิ่งไปเช็คอิน แวะหาร้านนั่งฟังเพลงสบายๆ กันริมหาดกันดีไหม”ผมร้องถามพวกที่นั่งด้านหลังด้วย คนที่หลับตาก็ลืมตาขึ้นมอง ส่วนคนที่ตื่นอยู่ก็หันไปปรึกษากันเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงเฮพร้อมเสนอชื่อร้านมากมายจนเลือกแทบไม่ถูก
“งั้นตกลงไปร้าน...แล้วกันนะ พี่บอลรู้จักทางมั้ยครับ”
“...เอ่อ...รู้ครับ แต่พี่ว่าเราไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนดีกว่า นี่มันก็ดึกแล้ว เดี๋ยวห้องเต็ม”พี่บอลเอี้ยวตัวมาตอบผมจากด้านหน้า
“แต่เราจองไว้แล้วนี่ แล้วมันก็วันหยุดธรรมดา คงไม่เต็มหรอกพี่ ไปเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา”ถึงเต็มก็พักที่อื่นได้ครับ โรงแรมรีสอร์ทมีให้เลือกพักเพียบ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่นอน
“งั้น...เดี๋ยวพี่โทรบอกอีกคันก่อนนะ”พี่บอลโทรไปหาพนักงานที่อยู่ในรถอีกคัน พูดคุยสักพักก็หันมาส่งยิ้มให้ผม
“สงสัยต้องไปเช็คอินก่อน เพราะอีกคันเขาไปรอเราที่นั่นแล้ว”สรุปต้องไปโรงแรมก่อน ก็ได้ครับ ร้านอยู่ไม่ไกลมาก ผมจะได้ถือโอกาสเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย ตอนนี้ยังอยู่ในชุดทำงานอยู่เลย ก็เมื่อวานเข้ามาเซ็นเอกสารที่โรงแรมแล้วก็ไปหาเจที่มหาลัยเลยที่นา เสื้อผ้าไม่ได้เปลี่ยนตั้งแต่เมื่อคืน
นั่งรถอีกแค่ไม่กี่นาทีก็มาถึงรีสอร์ทที่จองไว้ ติดทะเลเลยครับ กระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ถูกทลอยลงมา มดเดินนำเข้าไปด้านในเพื่อติดต่อกับพนักงาน ผมสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กๆ ที่หยิบมาจากรถตัวเอง ข้างในก็มีแค่เสื้อผ้าที่ผมติดรถไว้ใช้ฉุกเฉิน...ไว้เที่ยวกรณีฉุกเฉินน่ะครับ
รีสอร์ทนี้ตกแต่งได้ทันสมัย ไฟสีเหลืองนวลดูอบอุ่น ด้านในมีต้นไม้ดอกไม้อยู่ตามมุมต่างๆ มีน้ำตกขนาดย่อมที่ผนังด้านข้าง ได้ฟังเสียงน้ำไหล ผมกวาดตามองบรรกาศรอบๆ มองเห็นต้นไม้เขียวๆ ดูแล้วสบายตาดี.....แต่สายตาผมก็ต้องมาหยุดลงที่ภาพตรงหน้า...รู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกระตุกเบาๆ แต่ก็ทำให้หายใจติดขัด ลำคอแห้งผาก อยากจะพูดอะไรออกไป แต่...ทำได้เพียงแค่ยิ้ม….อยากเอื้อมมือออกไปหา...แต่ก็กลัวภาพตรงหน้าจะหายไป
“.........พี่เอ็กซ์”ผมไม่ได้ยื่นมือออกไป แต่สัมผัสอุ่นๆ ที่ข้อมือผม...มาจากฝ่ามือเล็กๆ ที่ยื่นออกมาจับเอาไว้ สำหรับผม...ไม่อยากได้แล้ว...คำขอโทษ...คำอธิบาย...ไม่ต้องการฟังแล้ว...คำว่ารักก็ไม่สำคัญ...แค่คนนี้.....ขอแค่คนนี้อยู่ข้างผมก็พอ
“อย่าเพิ่งพูดอะไรนะเจ”รู้สึกเหมือนเสียงตัวเองแหบแห้งลง เสียงพูดมันเบาจนตัวเองเกือบไม่ได้ยิน ผมจับมือเจให้เดินตามมา
“ได้กุญแจห้องหรือยังมด”ผมเดินไปหยุดอยู่หน้ามดกับพี่บอล
“ได้แล้ว นี่ของ......เอ็กซ์”มดยื่นกุญแจค้างไว้เมื่อมองเห็นคนข้างกายผม ผมรีบหยิบกุญแจในมือแล้วดึงเจไปที่ลิฟต์ กดชั้นได้ก็รอเวลาให้ลิฟต์เปิด แค่ 14 ชั้น แต่มันนานแสนนานสำหรับผม กว่าจะเดินกึ่งวิ่งมาถึงห้องตัวเองรู้สึกเหมือนระยะทางแสนไกล เปิดประตูห้องได้ก็รีบดึงเจเข้ามา
“พี่..อ๊ะ!”ผมไม่สนว่าเจจะพูดอะไรอีกแล้ว ขอแค่...ขอแค่ได้กอดเจไว้เหมือนเดิมก็พอ ผมดึงเจมากอดไว้แน่น เจก็เลื่อนมือมากอดผมตอบ
“.....พี่คิดถึงเจ”ไม่ว่าผมจะโกรธ จะทะเลาะกับเจแรงขนาดไหน แต่ก็ไม่เคยรักเจน้อยลงกว่าเดิมเลย ยังรัก...มากขนาดนี้
“...เจก็คิดถึงพี่เอ็กซ์”เจพูดเบาๆ ตรงอก ผมเลื่อนหน้าออกมามองเจ...ตาเจแดงๆ ดูก็รู้ว่าร้องไห้มาหนักเหมือนกัน ผมจูงมือเจเข้าไป ด้านในมีเตียงเดี่ยวสองเตียง ผมนั่งลงบนเตียง เงยหน้ามองเจที่ยืนอยู่ด้านหน้า อยากมองหน้าเจให้ชัดๆ อีกครั้ง ตาก็บวม แถมตัวยังอุ่นๆ เหมือนเป็นไข้อีก ไม่สบายอีกแล้วเหรอเนี่ย
“พี่เอ็กซ์...เจขอโทษนะ”เจทรุดตัวลงมานั่งคล่อมบนตักแล้วกอดคอผมไว้ ผมเลื่อนมือโอบเอวเจไว้หลวมๆ
“...ไม่เป็นไรครับ”สำหรับผม...ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ
“เจไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่เสียใจนะ ตอนนั้นเจรีบ แล้ว...มันก็มีอะไรหลายอย่าง มันวุ่นๆ เจ...ไมได้อยากปิดพี่ หรือเห็นว่าพี่ไม่สำคัญเลยนะ เจน่ะต้องนั่งเฝ้าน้าเป็นเพื่อนมันทั้งวัน จะนอนก็นอนไม่หลับ ต้องรีบกลับมานอนที่ห้องของเรา เจตื่นมาเห็นพี่เอ็กซ์ยังใส่ชุดทำงานอยู่ก็เลยคิดว่าพี่เหนื่อยจากงาน เจก็เลยไม่ปลุก แล้วเจก็...เขียนโน๊ตไม่เก่ง ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน กะว่าถ้าสายๆ พี่ตื่นแล้วจะโทรมาเล่าให้ฟัง ก็....ดันลืมโทรศัพท์อีก”
“ครับ...พี่เข้าใจ แต่ตอนนั้นพี่เป็นห่วงเจมากจริงๆ แค่คิดว่าเจหายไปก็แทบบ้าแล้ว กลัวว่าเจจะหายไปเหมือนตอนปิดเทอมนั้น แล้วยังมีโน๊ตแบบเดียวกันอีก...พี่แทบขาดใจตายเลยนะ”
“เจขอโทษนะครับ พี่ไม่โกรธเจแล้วนะ”แค่เห็นหน้าเจ ผมก็ลืมหมดแล้วล่ะ แล้วยิ่งมานั่งอ้อนแบบนี้อีก บอกตรงๆ ไม่เคยโกรธเจได้นานเลยสักครั้งเดียว
“ไม่โกรธแล้ว....แต่...เสียใจ”ผมแกล้งหันหน้าหนีไปอีกทาง เจทำหน้าเศร้าลงทันทีที่ผมพูด
“...พี่เอ็กซ์...เจขอโทษนะ เจสัญญา...จะไม่ทำให้พี่เสียใจอีก”
“ก็...ดีขึ้นหน่อย แต่ถ้าอยากให้หายเร็วๆ ก็...จูบก่อน”ผมเกือบหลุดยิ้มตั้งแต่เจให้คำสัญญาแล้ว ก็รู้กันอยู่ว่าเจมันชอบสัญญาอะไรกับใครที่ไหนกัน กับผมก็เพิ่งเคยได้จากมันนี่แหล่ะ
“โหหหห...แกล้งเจใช่มั้ยเนี่ย”พอเจเห็นผมยิ้มก็เริ่มโวยวาย ทำท่าจะลุกจากตัวผมทันที
“ไม่ได้แกล้ง...พี่เจ็บจริงๆ นะ แค่อยากให้เจปลอบเท่านั้นเอง คิดดูสิพี่นะโดน.....”คำพูดที่เหลือถูกกลืนหายไป เมื่อริมฝีปากนุ่มๆ แตะลงบนปากผม เรียวลิ้นเล็กๆ ค่อยๆ สอดผ่านปากเข้ามาช้าๆ พร้อมกับผมที่เปิดปากรับแต่ไม่ได้สนองตอบอย่างที่ควร รอจนเจเป็นฝ่ายกวาดลิ้นนุ่มๆ ทั่วโพรงปาก เมื่อผมไม่ร่วมมือด้วยเจก็ส่งเสียงครางอย่างขัดใจในลำคอเบาๆ ผมค่อยๆ สัมผัสปลายลิ้นเจช้าๆ และสอดกลับไปพร้อมดูดดุนเบาๆ จนได้ยินเสียงครางตอบรับ เจถอนหน้าออกมาแต่ผมก็ยังยื่นหน้าไปจูบเบาๆ อีกหลายครั้ง พยายามจะรั้งคอให้เข้ามาหา แต่เจกลับใช้สองมือดันบ่าผมไว้
“หึหึ.....หายรึยัง”เจหัวเราะเบาๆ เอียงคอน้อยๆ ถามผม เดี๋ยวนี้หัดเจ้าเล่ห์ใหญ่แล้วนะเนี่ยแฟนผม
“หายแล้วครับ”
“ใจง่ายจัง แค่นี้ก็หาย”อ้าวเจ...พูดงี้เดี๋ยวก็ต่อซะเลยนี่
“ก็พี่มันคนใจง่ายนี่นา รักเขาหมดใจแบบนี้แล้ว...แค่ยิ้มให้ แค่ได้กอด...ก็ลืมหมดแล้วว่าเคยเจ็บ เคยเสียใจขนาดไหน”สำหรับผม...แค่นี้พอแล้วจริงๆ นะ
“เจขอโทษอีกครั้งนะครับ....หายเจ็บนะ จุ๊บ”เจก้มลงมาจูบที่หน้าอกผมเบาๆ นั่นทำให้ผมอดหัวเราะไม่ได้
“แล้วเจมาที่นี่ได้ยังไงครับ”
“พี่โมทย์โทรมาบอกตอนเที่ยงๆ พอรู้ว่าพี่มาที่นี่ก็เลยให้โก้ขับรถตามมา”
“ขับรถมา”มิน่า...ก่อนแยกกันไอ้โมทย์ถึงยิ้มแบบแปลกๆ แถมยังอวยพรให้ผมเที่ยวให้สนุกอีก
“ก็รถที่แม่ให้เจไง พอเสร็จงานเฟรชชี่ที่มหาลัย พวกเจก็นั่งแท็กซี่ไปเอารถที่บ้านแล้วก็โทรถามพี่บอลเรื่องที่พักแล้วก็มานั่งรอกันนี่แหล่ะ”
“อ้าววันนี้มีงานเฟรชชี่เหรอ แล้วผลเป็นไงมั่งล่ะ”ผมถามไปเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าวันนี้มีงาน งั้นที่มันไม่ได้โทรหาผมก็คงเพราะยุ่งกับงานอยู่แน่ๆ แต่...ก็ยังอุตส่าห์ตามผมมาถึงนี่ ดีใจเป็นบ้าเลยครับ
“ตกรอบทั้งคู่เลย แต่โอ้กับเก๋ก็พาพวกนั้นไปเลี้ยงกันนะ”
“แย่จัง อุตส่าห์ได้เป็นเดือนมหาลัยมาตั้งสองสมัย แสดงว่ารุ่นนี้ไม่มีคนหล่อเท่ารุ่นก่อนๆ สักคน”
“ไอ้หล่อมันก็หล่ออยู่หรอก แต่...ปากแตกแบบนั้น เขาให้ประกวดได้ก็บุญแล้ว”
“อ้าว แล้วใครเป็นเดือนล่ะ”
“ก็ไอ้หมอกไง วันนั้นมันโดนลูกหลงไปหนึ่งหมัด ไม่รู้ว่าจากพี่หรือไอ้โก้”คำพูดเจทำเอาผมเกือบหลุดหัวเราะออกมา จะเป็นหมัดผมไปได้ยังไง ในเมื่อตอนนั้นไอ้หมอกเข้าไปจับไอ้โก้ไว้ ต้องเป็นหมัดไอ้โก้ถึงจะถูก แต่...บังเอิญหรือจงใจนี่สิ ที่ผมไม่แน่ใจ
“มันแค่หมัดเดียว ดูหน้าพี่สิ กี่หมัดกี่เท้าก็ไม่รู้ เจ็บไปหมดเลย ปากก็แตกด้วย น่าสงสารเนอะว่ามั้ย”ผมโอบรอบเอวเจแน่นขึ้น มันก็ทำหน้ายิ้มขำผม ก็คนมันอยากอ้อนนี่ครับ
“นี่โก้มันยังออมมือไว้แล้วนะเนี่ย ไม่งั้นมีหวังหมอบตั้งแต่หมัดแรกแล้ว เมื่อก่อนมันเป็นนักเลงเก่าไม่รู้รึไง”
“นี่ออมแล้วเหรอ ช้ำไปทั้งตัวเลย เจไม่สงสารพี่เหรอ....ปลอบใจต่ออีกหน่อยสิ”ผมกดสะโพกเจเบาๆ ให้รู้ว่าจะปลอบใจผมยังไง เจก็ยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร แบบนี้มันน่าจะงอนให้ง้อบ่อยๆ นะเนี่ย ผมเลื่อนมือมาจับชายเสื้อเจแล้วดึงขึ้น เจก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ยกมือขึ้นให้ผมถอดออกอย่างว่าง่าย พร้อมกับช่วยปลดกระดุมเสื้อให้ผมด้วย แต่...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก************************************************************************