พันธนาการ...รัก #2
ร่างสูงสง่าในเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำยืนพิงพนักโซฟาอยู่ในห้องรับแขก ในมือถือเอกสารสำคัญเอาไว้สองสามแผ่น บรรยากาศโดยรอบแลดูเหมือนจะเงียบสงบยกเว้นก็แต่คุณป้าแแหม่ม แม่บ้านจากเมืองไทยผู้ซึ้งคอยดูแลเขามาตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ใหม่ๆเท่านั้น ป้าแหม่มเดินวนไปวนมาอยู่หน้าบันไดมาหลายรอบ แล้วก็วกกลับมาดุเขาหลายรอบแล้วเช่นกัน
“คุณยะคะ… ป้าแหม่มไม่เห็นด้วยเลยค่ะที่จะพาคุณหนูพระจันทร์ออกไปด้วยแบบนี้… มันอันตรายนะคะคุณยะก็รู้”
“ป้าพูดเหมือนไม่ไว้ใจการขับรถของผมเลยนะ… ผมไม่เคยมีประวัติการชนหรือเฉี่ยวกับใครมาก่อน ป้าก็รู้…”
“ฮื้อ…ก็นั่นแหละค่ะ คุณน่ะไม่ไปชนใครเขา…แต่ไปโดนเขากรีดรถมากี่รอบแล้วล่ะคะ ขับรถหาเรื่องออกจะตายไปคุณยะน่ะ…”
“แต่ป้าก็อนุญาตให้ผมไปรับไปส่งพระจันทร์ได้ไม่ใช่เหรอครับ… แล้วมากังวลอะไรเอาตอนนี้ล่ะ…”
“ก็นั่นน่ะมันตอนกลางวันนี่คะ… แต่ตอนกลางคืนมันเป็นเวลาซิ่งของคุณนี่… แล้วยังจะเอาอีแก่ออกไปขับอีก… จะไปมีเรื่องกับใครเขาอีกใช่มั้ยล่ะคะนั่นน่ะ…” คนแก่วัยเกือบห้าสิบค้อนขวับใส่คุณหนูตัวใหญ่ที่เคยดูแลมาแต่อ้อนแต่ออกเอง… พอต้องปล่อยให้มาทำงานอยู่ฮ่องกงคนเดียวคุณป้าแหม่มเลยไม่ยอมขอตามมาดูแลอย่างใกล้ชิดต่อ ที่สุดเลยโดนสถาปนาให้เป็นแม่บ้านใหญ่ไปเรียบร้อย…
“มาดามพูดดีมากครับ ผมพยายามเตือนมิสเตอร์หยางแล้วนะ ว่าคุณลูน่าน่ะถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่คุณอุตส่าห์ได้มาไว้ในมือแล้ว… จะเอาออกไปเล่นข้างนอกให้มันหลุดมือทำไม ไม่เสียดายมั่งเหรอ…” ภาษาไทยสำเนียงจีนฟังดูแปร่งๆแต่คุณแม่บ้านก็ชินเสียแล้วของเหยียนจวิ้นดังแทรกขึ้นแสดงความเห็น หญิงร่างอวบพยักหน้ารับถี่ๆว่าเห็นด้วยที่สุด… คุณยะน่ะใจร้าย…ชอบใช้งานคุณหนูพระจันทร์ของแกอยู่เรื่อยเลย…
“หยางหลง…! เฮ้…คัมมอน !! ไอใส่เบลท์ให้น้องชายยูไม่ได้…ยูมี pins or any clips มั้ย” เสียงพูดไทยคำฝรั่งคำดังมาจากบริเวณชั้นสองของบ้าน เสียงแหกแปดหลอดของดีไซเนอร์สาวลูกควบครึ่งอเมริกัน-เยอรมัน แต่พ่อแม่ไปพบรักกันที่ฝรั่งเศสดูเหมือนจะยังดังออกมาเรื่อยๆถ้าหากว่าชายหนุ่มเจ้าของบ้านไม่ยอมขึ้นไปตามคำเรียกร้องของเจ้าหล่อน
เจ้าของฉายา หยาง หลง ถอนหายใจดังเฮือก… ก่อนจะฟาดเอกสารวางไว้บนโต๊ะอย่างเซ็งๆแล้วเดินตามไปหาเจ้าของเสียงบนชั้นสองของบ้าน…
“ขอเถอะเซร่าเลือกเอาซักภาษาเถอะ…ฟังไม่รู้เรื่อง เข้าใจ๊?” พอขึ้นมาชั้นสองก็เจอสาวเจ้ายืนเท้าเอว คิ้วขมวดมุ่น หวีหลากหลายไซส์ปักเสียบอยู่บนมวยผมสีทองยุ่งๆบนหัว ส่วนที่ไหล่ก็มีหมอนเข็มวางอยู่พร้อมเข็มหมุดนับร้อยหลากสีที่คุณเธอเอามาปักไว้เพื่อการใช้งานที่สะดวกรวดเร็ว
“ไอแฮปปี้จะพูด… stop fucking blame me !... ยูน่ะ…อย่าพูดมาก… ดูน้องยูก่อน… เลี้ยงยังไงถึงใส่เบลท์ไอไม่ได้เลยซักเส้น…!!” หญิงสาวลูกครึ่งยกนิ้วชี้ขึ้นมาพร้อมส่งเสียงถามดังลั่น… แต่ชายหนุ่มร่างสูงกลับยักไหล่แบบไม่แคร์แล้วบอก…
“โทษที พอดีวันนี้พาไปยัดเค้กบุฟเฟ่ต์มา…เอวเพิ่มขึ้นกี่นิ้วล่ะถึงใส่เข็มขัดเธอไม่ได้เลยซักเส้น…”
“พูดอะไร…? Not increase, but decreasing!! ยูเลี้ยงลูน่ายังไง… ทำไม here ถึงน้อยลง…” พูดแล้วก็เอามือมาชี้ที่เอวตัวเองเพื่อเป็นการบอกว่า here ที่ว่าน่ะคืออะไรไปด้วย… “ยูไม่ให้น้องกินอาหารเหรอ เคยดูมั้ยว่าน้องยูตัวลดลงเหลือเท่า a puppy บ้านไอแล้วนะ… ยู…”
“Shut up Sarah, you’re talking too much. I need…to see him now.” พูดใส่หน้าหญิงสาวแบบไม่เกรงใจแล้วก็ผลักไหล่คนยืนขวางทางออก… หญิงสาวลูกครึ่งนามเซร่าถึงกับอ้าปากหวอเมื่ออีกฝ่ายดูเหมือนไม่สนใจที่หล่อนพูดเลย…
“What?!?!” แล้วจะเรียกเธอมาทำพาสต้าผัดกบอะไรล่ะ !!
---------------------------------------- - --- -- -
“พระจันทร์...เซร่าบอกว่า…เข็มขัดใส่ไม่ได้เลยงั้นเหรอ…” เมื่อเขาเปิดเข้ามาในห้อง ก็พบเด็กหนุ่มผมซอยสั้นที่คุ้นเคยอยู่ทุกวันยืนหันหลังให้… แต่สองมือกับลำตัวดูเหมือนจะกำลังเอี้ยวตัวทำอะไรซักอย่างอยู่กับเข็มขัดตัวเอง… แต่ดูท่าแล้วคงไม่ค่อยถนัดนัก ชายหนุ่มจึงค่อยๆสืบเท้าเข้าไปใกล้แล้วถาม “ทำอะไรอยู่…”
“พี่ยะ…จันทร์ใส่เข็มขัดไม่ได้…ช่วยหน่อย…” เด็กหนุ่มบอกพลางยื่นคลิปหนีบกระดาษมาให้… เขาเพ่งมองคลิปอันเล็กในมืออีกฝ่ายแล้วปัดตกลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี…
“พระจันทร์…นี่มันไว้ใช้กับกระดาษเท่านั้น… เข็มขัดเส้นหนาขนาดนั้นมันก็หนีบไม่อยู่น่ะสิ… รอแป๊บแล้วกัน…”
พูดแล้วเจ้าของบ้านร่างสูงก็เดินตรงไปที่ตู้โชว์ใส่ของใช้ส่วนตัวของเขา… ในนั้นเป็นที่เก็บทั้งเข็มขัด นาฬิกา สร้อยคอและของใช้อื่นๆที่เขาจำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันเอาไว้… เซร่าที่เดินตามเข้าห้องมอย่างหัวเสียนิดๆมองดูเพื่อนหนุ่มสมัยมหาวิทยาลัยเปิดตู้แล้วหยิบกล่องโน้นกล่องนี้ออกมาดูก็หันมาถามพระจันทร์ แต่อีกคนกลับส่ายหน้าว่าไม่รู้… หญิงสาวจึงถอนหายใจออกมาเสียงดัง…
“ยูหาอะไร…”
“…เจอแล้ว…อันนี้แล้วกัน…เซร่าเอาติดให้พระจันทร์แทนไอคลิปหนีบกระดาษบ้าๆนั่นที…” พูดอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้วก็ยื่นกล่องกระดาษแข็งๆให้ดีไซเนอร์สาว… หญิงสาวรับมาเปิดดูอย่างงงงวย…
“Oh well ! How cool~ I like it !! ลูน่า…ไอได้คลิปติดเบลท์ยูแล้ว…” พูดแล้วหญิงสาวก็วิ่งหน้าเริ่ดเอามาโชว์ให้พระจันทร์ดู มันเป็นที่ติดเนคไทด์แบบยาวของสุริยะมณฑลเอง…
“ติดดีๆนะ… ของขวัญจากคู่หมั้นฉัน… ขี้เกียจตอบคำถามเวลามันพังหรือหาย…” ชายหนุ่มเอ่ยแนวบ่น…
“I know…I know…” เซร่าพึมพำรับคำ… ระหว่างที่มือก็สาละวนเอาที่ติดเนคไทด์มาใช้งานเป็นที่ติดเข็มขัดชั่วคราวให้พระจันทร์ หนุ่มน้อยยืนนิ่งให้หญิงสาวจับหันหน้าหันหลังตามใจชอบ… และหลังจากที่หล่อนหวีผมให้เข้าทรงเป็นครั้งสุดท้ายก็เป็นอันเสร็จ…
“Finish !! น้องชายยูเปลี่ยนเป็นน้องสาวเรียบร้อยแล้ว…” เซร่าเอ่ยแซวขำๆเมื่อเห็นเด็กหนุ่มตากลมยืนยิ้มให้หล่อนไม่พูดอะไร จำได้ถึงคำขอจากเพื่อนที่โทรมาขอให้หล่อนช่วยแปลงกายน้องชายผู้น่ารักคนนี้ให้เป็นสก๊อยหน่อย… หล่อนงงอยู่ตั้งนานจนต้องไปเปิดดูในเว็บกูเกิ้ลเพื่อหาว่าสก๊อยคืออะไร… และสิ่งที่ได้ก็คือภาพสาวน้อยหน้าขาวโบ๊ะที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของพวกสิงห์นักบิดทั้งหลายแหล่นั่นเอง
“ใช้ได้…สก๊อยของพี่ยะ…” สุริยะมณฑลหรี่ตามองร่างผอมเพรียวของพระจันทร์ที่วันนี้ถูกจับแต่งแนวโทนดำแดงและผ้าลายสก็อตจนพร้อยไปทั้งตัว รวมไปถึงกางเกงหนังสีดำเพื่อให้เข้าคู่กับเขา ถึงโดยรวมแล้วจะดูรุงรังไปนิดในสายตาของเขาเพราะมันมีทั้งผ้าพันคอและสายโซ่อะไรต่างๆเยอะแยะมากมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าหุ่นอย่างพระจันทร์กับทำให้ของทั้งหมดดูลงตัวอย่างประหลาด ดูๆไปแล้วก็คล้ายสาวพังค์ตามหน้านิตยสารอยู่เหมือนกันนะ…
“ไม่ใช่สก๊อย…ตุ๊กตาหน้ารถของพี่ยะต่างหาก…” พระจันทร์แก้ให้พร้อมอมลมแก้มป่อง… เขาเกลียดความเร็วที่สุดแล้วยังจะให้เขาไปเป็นสก๊อยได้ยังไง…
สุริยะมณฑลยักไหล่แบบไม่ค่อยสน… แล้วแบมือขอบางสิ่งจากดีไซเนอร์สาวแทน
“เอ้า…อย่างสุดท้าย… ใส่ให้ลูน่าเองนะ… เดี๋ยวโดนใครเขาคาบไปรับประทานแล้วจะหาว่าไม่เตือน…” เซร่าวางของบางอย่างลงในมือเขา…
ชายหนุ่มมองโชคเกอร์หนังตกแต่งแบบมีหนามในมือแล้วก็นึกไปถึงปลอกคอสุนัขพันธุ์หน้าย่น… อยากจะบอกแทบตายว่าถึงใส่ไปก็ไม่มีใครเห็นหรอกเพราะอยู่ใต้ผ้าพันคอ… แต่ทว่าตามกฎกติกาแล้วตุ๊กตาหน้ารถทุกตัวจะต้องใส่ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นของฟรีไป…ใครจะหยิบจะฉวยไปไหนมาไหนก็ได้ตามใจชอบ
สรุปว่า…เขาก็ต้องใส่ให้สินะ…
“พระจันทร์หันหน้ามานี่” ชายหนุ่มเรียก พระจันทร์ก็เดินมาหาตามคำเรียกแถมเงยคอให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ
“Oh god~ The pervert vampire wanna bites his poor victim…!! Wait…let’s me take a photo!!”
“Please honey, shut the fuck up !” สุริยะมณฑลไม่เคยมองเซร่าว่าเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว เขาเลยสามารถด่าออกไปอย่างเหลือทนเมื่อสาวเจ้าทำท่าจะกดถ่ายรูปเขาจริงๆ…
“Why not?? พวกยูสองคนน่ะเป็นนายแบบได้เลยนะ… ขอไอถ่ายรูปหน่อยซี่… เป็นการโปรโมให้แบรนด์ไอด้วยไง…Please…Be kind to me. ใจดีหน่อยซี่…”
“พี่ยะ…แค่ถ่ายรูปเอง…ให้พี่เซร่าถ่ายเถอะครับ… พี่เขาขอหลายครั้งแล้วนะ…” พระจันทร์ออกปากขอร้องเองเมื่อเห็นสาวเจ้าออกปากขอถ่ายรูปทุกครั้งที่มาช่วยเขาแต่งตัวแบบนี้ ทว่าชายหนุ่มร่างสูงกลับถอนหายใจหนักหน่วง คว้าแขนเขาได้ก็กระชากลากออกไปจากห้องโดยไม่สนใจอื่นใดอีกทั้งสิ้น…
“พี่ไม่ยอมให้ยัยนั่นเอารูปเราสองคนไปปู้ยี่ปู้ยำแล้วแปะอยู่หน้าร้านขายชุดคอสเพลย์หรอกนะพระจันทร์ หยุดเห็นใจใจดีใส่คนอื่นเขาพร่ำเพรื่อเสียที…พี่ปวดหัวนะรู้มั้ย…” ชายหนุ่มจงใจพูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้คนที่ยืนกระทืบเท้าในห้องได้ยินด้วย…
พระจันทร์ทันได้ยินเสียงด่าเป็นภาษาอังกฤษไฟแล่บตามหลังดังมาจากด้านในห้องเช่นกัน เด็กหนุ่มก้มหน้าถอนใจแผ่วเบา ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกอะไรถึงยอมให้อีกคนจับใส่ปลอกคอล่ามเหมือนสัตว์เลี้ยงเอาไว้แบบนี้… แต่พระจันทร์รู้ดีว่าถึงจะขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อกำลังของตัวเองตอนนี้มันช่างน้อยนิดเหลือเกิน แล้วอีกอย่าง…ก็เพราะพระจันทร์ดวงน้อยตัดสินใจวางชีวิตเอาไว้ในมือของอีกคน…ตั้งแต่มาถึงฮ่องกงใหม่ๆแล้ว…
ก็ในเมื่อตอนนี้เขาก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กกำพร้า ที่ยังต้องการใครซักคนมาเป็นผู้ปกครอง…มาช่วยดูแล… ลำพังตัวเขาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พระจันทร์อยากให้พี่สาวตัวเองสบายด้วย… พี่เขายังต้องการเงินอีกเป็นจำนวนมากในการช่วยต่อลมหายใจ…และรักษาอาการป่วยจนหาย และพระจันทร์เองก็รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าตราบใดที่เขายังทำตัวดี…เป็นลูกแมวเชื่องๆกับผู้ปกครองคนใหม่คนนี้… เงินที่จะเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้เขาและพี่ก็จะยังไม่ถูกตัดขาด…
---------------------------------------- - --- -- -