เรื่องของนายกับคุณเลขา..... คุณนัทกับคุณรัชชานนท์ ตอน หยั่งเชิง
ไม่รู้หรอกว่าหลับไปตอนไหน แต่มารู้สึกตัวตื่นอีกที ก็ตอนเกือบรุ่งเช้า นัทขยับตัวและยกแขนสองข้างขึ้นก่อนจะเกร็งร่างกายไปซ้ายและขวา
“อื้อออ”
เสียงร้องครางเบา ๆ ทำให้คนที่นอนหลับอยู่ที่เตียงข้าง ๆ ปรือตาตื่นขึ้น
ตื่นขึ้นและกระพริบตามอง
เด็กเป็ดที่นอนอยู่เอื้อมมือคว้าหมวกเป็ดเหลืองที่อยู่บนโต๊ะหัวเตียงมาสวม แล้วก็มุดหายลงไปภายใต้ผ้าห่มนวมผืนหนา
ไม่ยอมตื่น และคงจะหนาวมากจนอยากซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ฟ้ามองก้อนกลม ๆ ห่อด้วยผ้านวมสีขาวบนเตียงแล้วก็ยิ้มออกมา เมื่อคืนนี้นอนมองก้อนกลม ๆ นั้นจนเผลอหลับไป แล้วเช้านี้ก็ยังต้องมานอนมองอีกรอบ
ไม่ได้เรียก แต่ค่อยๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่ง
น้องนัทเป็ดเหลืองมีอะไรมาทำให้ยิ้มได้เสมอ เช่น เรื่องที่ได้ยินเมื่อคืน
ยอมรับว่าตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ถึงกับขมวดคิ้วมุ่น ประหลาดใจ ตกใจ และไม่อยากจะเชื่อ ว่าใครบางคนที่เคยไม่ชอบหน้ากันมาตลอด จะมีความรู้สึกแบบนี้ให้ ไม่ได้รู้สึกแย่ อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก พยายามชะเง้อหน้าเพื่อมองว่าคนพูดกำลังรู้สึกยังไงตอนที่พูด แล้วความรู้สึกไม่ชอบใจเล็กๆ ก็จางหายไป
นัทเป็นคนช่างพูด เมื่อได้พูดคุยกับเพื่อน แต่ไม่เคยที่จะพูดคุยกับทางนี้เลย
แรก ๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ในเวลานี้รู้แล้ว และการได้รับรู้ครั้งนี้ ก็ทำให้ฟ้าถึงกับยิ้มออกมา
คำว่าน่ารักมันยังน้อยไป คนที่เลยคำว่าน่ารักไปไกลแล้วอย่างนัทคงไม่รู้สึกตัว
แบบนี้มันเป็นการเร่งเร้าให้อยากเข้าหา
อยากจะเข้าหา ให้มากขึ้นและมากขึ้น ยิ่งรู้ว่าแอบมีใจให้แบบนี้ ยิ่งอยากจะเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
ฟ้าค่อย ๆ ดึงผ้าห่มออกจากร่างกาย
ลุกขึ้นและหย่อนขาลงมาข้างเตียง สวมร้องเท้าสำหรับเดินในบ้าน และค่อย ๆ ก้าวขามาที่เตียงของคนที่นอนหลับอยู่
พื้นที่บนเตียงของนัทยังพอมีเหลือให้นั่งได้ แล้วฟ้าก็ค่อย ๆ ขยับไปใกล้กับคนที่นอนขดตัว
โถมตัวลงไปหาอย่างรวดเร็ว และกอดรัดก้อนกลม ๆ ที่อยู่ใต้ผ้าห่มเอาไว้แน่น
“โอ้ยยยยยยยยยยย ปล่อยยยย จะทำอะไรวะ ปล่อยโว้ยยยย”
ได้ยินเสียงร้องโวยวายและคนที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มก็พยายามดิ้นรนเพื่อจะให้รอดพ้นจากการถูกกอด
“ปล่อยยยยยยยย อื้ออออ ปล่อยเด๊ พี่ฟ้า ปล่อยยยย นัทเจ็บนะโว้ยยยย”
แล้วยังไงล่ะ จะร้องทำไมให้มากมาย หยอกเล่นนิดเดียวทำเป็นเล่นตัวไปได้
“ไม่ปล่อย สู้เหรอ”
ไม่ให้สู้ได้ยังไง ก็เล่นแกล้งกันแบบนี้ ตัวก็ไม่ใช่เล็ก ๆ แล้วก็มากอดแน่นแบบนี้ ใครมันจะไปอยากเล่นด้วยกันวะ
“ไอ้พี่ฟ้า ปล่อย ไอ้พี่..........อื้ออออ ปล่อยเซ่”
นัทดิ้นรนอยู่ใต้ผ้าห่ม และสามารถโผล่หน้าออกมาได้ แหกปากร้องและไม่ยอมถูกกอดง่าย ๆ ขัดขืนดิ้นรนต่อสู้ไปมา
ผิวแก้มขาว ๆ เริ่มขึ้นสีแดงเรื่อเพราะความเหนื่อย และหยาดเหงื่อใส ๆ ก็ซึมออกมาที่ขมับและหน้าผาก
“อะไร”
ก็อะไรล่ะ พี่ฟ้านั่นแหละอะไร มันใช่เวลามาเล่นหรือไง คนกำลังนอนเพลิน ๆ แล้วอยู่ดี ๆ ก็กระโดดลงมาใส่แบบนี้ มันหมายความว่ายังไงวะ
“คุณรัชชานน์ ผมจะ.....โอ้ยยยยยยยย พี่ฟ้า ปล่อยนัทซะทีสิวะ”
กำลังจะใช้อำนาจใหญ่โตแล้วคราวนี้นัทก็ต้องดิ้นรนขัดขืนเพราะคนที่กำลังจะถูกสั่งไม่ยอมฟังคำสั่ง แถมยังทำท่าจะกอดแน่นกว่าเดิมซะอีก
ทำไมพี่ฟ้าเป็นคนแบบนี้ ไม่เห็นเหมือนที่คิดไว้เลย พี่ฟ้าต้องนิ่งเงียบ แล้วก็วางมาดตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ แล้วคนที่มาแกล้งนัทแบบนี้เป็นใคร
“ก็บอกมาก่อนสิ ว่าคนที่ชอบคือใคร”
เฮ้ยยย แล้วจะอยากมารู้เรื่องนัททำไมแต่เช้าแบบนี้
“ก็บอกว่าไม่บอกไง อย่าถามได้มั้ย”
อ๋อ ได้ ไม่ถามก็ได้
“ปรึกษาหน่อยได้มั้ยครับคุณนัท”
ปรึกษาอะไร ปรึกษาได้ แต่เมื่อไหร่จะเลิกกอดนัทซะที มันหายใจไม่ออก
“อะไรล่ะคุณรัชชานนท์”
พยายามจะเก็กหน้า ทำเป็นนิ่ง และพยายามขืนตัวออกห่าง
“นี่อย่าดื้อสิ อยู่เฉย ๆ ฟังก่อน แล้วจะปรึกษาได้มั้ยเนี่ย”
ก็แล้วมันเกี่ยวอะไร พี่ฟ้ามากอดนัทแบบนี้มันไม่เกี่ยวกับที่จะมาปรึกษาเลยนะ มันหมายความยังไงกันล่ะทำแบบนี้
นัทไม่เล่นด้วยหรอกนะ ถ้าพี่ฟ้าจะแกล้งหยอกล้อกันขนาดนี้ นัทก็ไม่อยากเล่น
“ก็รีบ ๆ พูดมาสิครับ ผมจะหายใจไม่ออกตายอยู่แล้ว”
“ชู่ววว เบา ๆ แล้วฟังก่อนสิ”
ฟ้ายกมือปิดปากคนที่พยายามจะพูดบางอย่าง และนัทก็เบี่ยงหน้าหลบ หันหนีไปทางอื่นทันที
อะไรวะ จะปิดปากนัทหรือไง แค่นี้ไม่ทำให้นัทหยุดพูดได้หรอก
“ก็พูดมาซะทีสิ คุณรัชชานนท์”
กระชากเสียงใส่ และฟ้าก็รู้สึกว่าคนที่ขยับตัวไปมาและไม่ยอมให้กอด กำลังทำหน้าตางี่เง่าได้น่ารักที่สุดในโลก
..........น่ารักเกินไปแล้วคุณนัท
“จะถามว่าชอบหมวกที่ซื้อให้หรือเปล่า”
โว้ยยยยย ถามบ้าบออะไรอย่างนี้วะ ปัญญาอ่อนสิ้นดี ไอ้พี่ฟ้า คิดจะหยอกนัทจริง ๆ ใช่มั้ย จะได้ไม่ต้องคุย เลิกกอดนัทเดี๋ยวนี้
“พูดไม่เห็นรู้เรื่องเลย อย่ามากอดได้มั้ย หายใจไม่ออกแล้ว”
ร้องลั่น ทำเสียงโวยวายใส่ แล้วฟ้าก็เลยยิ่งกอดคนในอ้อมแขนแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ถ้าสมมติมีคนมาจีบนัท นัทจะชอบคนที่มาจีบมั้ย”
ถามบ้าอะไรวะ ทำไมถึงต้องมีคนมาจีบนัทด้วย มันเคยมีที่ไหนกันเล่า
“ไม่มีใครจีบผมหรอกคุณรัชชานนท์ ถ้าชอบใครเดี๋ยวผมไปจีบเองได้”
ตอบไปคนละทิศละทาง และฟ้าก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำไมถึงไม่เข้าใจคำถามที่ถามออกไปเลยนะ
“ก็สมมติว่ามีคนมาจีบไง จะทำยังไง สมมติครับ เข้าใจคำว่าสมมติมั้ย”
นัทไม่ได้โง่ถึงจะไม่เข้าใจว่าสมมติคืออะไร
“แล้วสวยป่ะล่ะ ถ้าสวยก็ชอบ นัทชอบคนสวย”
ตอบออกไปแบบไม่คิดอะไร ตอบออกไปแบบกลางๆ แล้วคนฟังก็ขมวดคิ้วมุ่น ตอบยังไงเนี่ย ไม่คิดบ้างเลยเหรอตอนที่ตอบ
“แล้วถ้าไม่สวยแต่เปลี่ยนเป็นหล่อ แล้วก็ดูดีตลอดเวลาล่ะ จะว่าไง”
ห๊ะ
ดูดีตลอดเวลา อะไรของพี่ฟ้า นัทไม่เข้าใจหรอก พี่ฟ้าพูดอะไร แล้วยังเรื่องสมมติอีก
“ไม่เอา ดูดีอะไรก็ไม่เอาทั้งนั้น ปล่อยนัทได้แล้วโอ้ยยยยยยย เจ็บ พี่ฟ้า ปล่อยซะทีสิวะ”
ยิ่งพูดยิ่งไปคนละเรื่อง ยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่
“ไม่เอาสิ ฟังก่อน ตอบให้มันดี ๆหน่อย ถ้าสมมตินะ สมมติว่าคนที่มาจีบนัทเป็นพี่ นัทจะว่ายังไง”
ว่า
ว่ายังไง
ว่ายังไงคืออะไร
ว่ายังไงที่ว่า
ถึงกับนิ่งอึ้งและหยุดดิ้น และนัทก็ขบริมฝีปากเอาไว้ ผลักไสคนที่กอดเอาไว้แน่นให้ห่างตัว และไม่ยอมตอบคำถามอะไรเลย
“ไม่รู้ เรื่องสมมติ ก็คือเรื่องสมมติ ไม่ตอบ ไม่รู้ พี่ฟ้าก็ถามตัวพี่ฟ้าเองสิ เรื่องสมมติอะไร ไม่เห็นเข้าใจเลย”
ยิ่งพูดยิ่งหนี ยิ่งพูดยิ่งไม่ยอมให้กอด แต่คุณรัชชานนท์ก็ยังกอดแน่นไม่ยอมปล่อย
“แล้วถ้าไม่ใช่เรื่องสมมติล่ะ ถ้าเป็นเรื่องจริง นัทจะทำยังไง”
ถ้าเป็นเรื่องจริง
ถ้าเป็นเรื่องจริง
นัทก็....
นิ่ง ค้าง และนัทก็หยุดการเคลื่อนไหวแบบฉับพลัน เงยหน้ามองคนที่กำลังมองตรงมา
ไม่กล้าสบตาแต่รีบก้มหน้าหลบ
อย่าหยอกนัทแบบนี้
อย่าแกล้งนัทแบบนี้
โกรธ หรือเกลียด นัทไม่ว่า แต่อย่ามาแกล้งทำเหมือนมีใจแบบนี้
มันทำให้นัทกลัว
กลัวว่าจะชินกับสัมผัสอบอุ่น และคำพูดหวาน ๆ เวลาที่ต้องรู้ว่ามันไม่มีอยู่จริง นัทคงเจ็บปวดมาก
เพราะนัทไม่ดีเอง เลยต้องรับผลที่ตัวเองทำ
“อย่าแกล้งผมเลยคุณรัชชานนท์”
น้ำเสียงที่แผ่วโหย มาพร้อมกับการที่ฟ้า พยายามก้มหน้าลงไปหาคนที่เอาแต่ก้มหน้า และยิ่งก้มต่ำลงเรื่อย ๆ เมื่อถูกเร่งเร้าอยากได้คำตอบ
“นัท”
ครับ
“อย่าน่ารักกว่านี้อีกเลยได้มั้ย”
นัทไม่ได้น่ารัก อย่ามาใช้คำนี้ นัทไม่ชอบ มันทุเรศเวลามีคนพูดแบบนี้ใส่
นัทคงน่ารักเหมือนเด็กอนุบาล เหมือนเด็กประถม หรือเหมือนเป็ด เหมือนหมา เหมือนแมว เหมือนกระรอก กระต่าย
สำหรับพี่ฟ้า คำว่าน่ารักคงมีความหมายแบบนั้น แต่นัทไม่ชอบ เพราะนัทไม่ใช่หมา แมว เป็ด กระรอก แต่นัทเป็นคน
นัทไม่ชอบเวลาใครมาบอกว่าน่ารัก นัทไม่ชอบเลยจริง ๆ มันเหมือนเป็นการย้ำว่านัท มันไม่ได้มีดีอะไร นอกจากภาพลักษณ์ภายนอกที่คนมองว่าน่ารัก เหมือนสัตว์เลี้ยงขนปุยพวกนั้น
นัทไม่ชอบ และนัทไม่เข้าใจว่าคำว่าน่ารักแท้จริงแล้วมันหมายความว่ายังไง
“ผมไม่ได้น่ารักคุณรัชชานนท์ อย่ามองว่าผมน่ารัก ผมไม่ได้อยากเป็นแบบที่คุณพูด อย่ามายัดเยียดให้”
อะไรกันล่ะ ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย หาเรื่องให้อยากแกล้งนักนะ หาเรื่องให้หมั่นไส้ ฟ้ายอมปล่อยคนที่อยู่ในอ้อมแขนออกอย่างง่าย ๆ และลุกขึ้นยืน เดินออกจากห้องและเปิดประตูระเบียงเพื่อเดินไปนั่งหย่อนขาที่ระเบียงที่ยื่นออกไปที่ท่าน้ำ
ใครบางคนเดินหนีไปแล้ว
และนัทก็นั่งอยู่บนเตียง นั่งเงียบ ซึมเศร้าอีกแล้ว
ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ไม่รู้ว่าควรทำอะไร สุดท้ายลุกขึ้นจากเตียงและเดินอย่างเชื่องช้าออกไปหาคนที่นั่งอยู่ที่ระเบียงที่ท่าน้ำ
มายืนอยู่ใกล้ ๆ แต่ไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ทำหน้าเศร้า และฟ้าที่นั่งอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะก้มกลับลงไปอีก แกล้งทำเหมือนไม่สนใจ
นัทก็เลยได้แต่ยืนอยู่อย่างนั้น จะนั่งก็ไม่กล้า จะไปก็ไม่กล้า ไม่รู้ว่าจะทำยังไง
สุดท้ายได้แต่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ และกำลังจะหมุนตัวกลับแต่ก็ถูกดึงข้อมือเอาไว้
“มานั่งตรงนี้ครับ”
นั่งตรงนี้.........
นัทค่อย ๆ นั่งลงช้า ๆ นั่งข้างๆ คนที่ดึงแขนเอาไว้ และก็หย่อนขาลงไปในน้ำ
สัมผัสได้ถึงความเย็นของน้ำ และเมื่อเงยหน้าก็มองเห็นพระอาทิตย์ที่กำลังเริ่มจะโผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า
นั่งอยู่ด้วยกัน นั่งข้าง ๆ กัน และคนที่นั่งอยู่ด้วย ก็ยกแขนขึ้นโอบไหล่นัทเอาไว้
ทำไมพี่ฟ้าทำแบบนี้ นัทไม่เข้าใจ
พยายามดึงมือของคนที่โอบไหล่ให้ออกห่าง แต่คนที่แกล้งก็ไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ ยิ่งถูกผลักไส ยิ่งเข้าหา
ยิ่งต่อต้าน ยิ่งอยากเข้าใกล้
“คุณรัชชานนท์จะโอบผมทำไม”
ก็ไม่ทำไม ก็ชอบ แล้วคุณนัทจะทำไม
“หรือคุณนัทจะโอบผมแทนล่ะ”
เป็นคำตอบที่นัทได้แต่นิ่งอึ้ง และทำหน้าจ๋อย
พี่ฟ้าไม่เห็นเป็นอย่างที่เคยคิดเลย พี่ฟ้าคนนี้ไม่เห็นเหมือนคุณรัชชานนท์เลขาหน้านิ่งเลยสักนิด
ปกติคุณรัชชานนท์เป็นพวกไม่แสดงอารมณ์ ทำงานเหมือนหุ่นยนต์ ทำตามคำสั่งได้ทุกอย่าง นิ่งเงียบ เคร่งขรึมที่สุดจนบางครั้งนัทก็นึกกลัว
ส่วนพี่ฟ้าคนที่นัทอยู่ด้วยตอนนี้ หน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์เหมือนคุณรัชชานนท์ ต่างกันตรงที่พี่ฟ้าชอบเข้าหาแบบถึงเนื้อถึงตัว ชอบหยอก ชอบแกล้ง บางครั้งก็พูดจาแปลก ๆ ใส่ จนนัทนึกหวั่นใจ บางครั้งก็ใจดี บางครั้งก็แกล้งนัทแรงๆ จนแทบอยากร้องไห้ แต่ถ้าเป็นคุณรัชชานนท์จะไม่มีทางทำแบบนี้กับนัทเด็ดขาด
“นี่คุณนัทผมจะบอกอะไรให้อย่างนะ”
อือ
บอกอะไรเหรอ
ตั้งใจฟัง
ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
“มาพักผ่อนก็รีแล็กซ์บ้าง ที่หยอกที่แกล้งก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ผมทำเพื่อให้เราได้สนิทสนมกันมากขึ้น เวลาทำงานมันจะได้ไม่ต้องพูดกันมาก แค่มองหน้าก็เข้าใจกันแล้ว คุณนัทว่าแบบนี้ดีมั้ย”
นัทคิดไปเองสินะ คิดไปว่าพี่ฟ้าเริ่มมีใจ แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว แบบนี้ก็ดี เพื่อที่เราจะได้สนิทสนมกัน เพื่อจะได้สนิทกันมาก ๆ เวลาทำงานจะได้ราบรื่น แค่นั้น.....เองสินะ
พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ และคราวนี้นัทก็ยอมให้ฟ้าโอบไหล่ได้
โอบได้ง่าย ๆ และไม่ฝืนตัวออกห่างอีก
มองไปที่แสงสีส้ม ที่ระยิบระยับอยู่ที่เส้นขอบฟ้า มองพระอาทิตย์ดวงโต ที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาเรื่อย ๆ
ก่อนจะหันมามองคนตรงหน้า เพราะปลายนิ้วแกร่งที่เชยคางนัทเอาไว้และดึงให้หันหน้ามาหา
“น้องนัทครับ อย่าคิดมากนะ ผ่อนคลาย สบาย ๆ แล้วก็กล้า ๆ กว่านี้หน่อย คนที่นัทชอบ เขาสมควรจะได้รู้นะว่านัทชอบเขา”
เขาไม่สมควรรู้หรอกว่านัทชอบเขา เขาไม่....สมควร...รู้จริง ๆนะ....พี่ฟ้า
เปลือกตาปิดลงช้า ๆ พร้อมกับใบหน้าของใครบางคนที่โน้มลงมาหาใกล้ ๆ นัทกำชายเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น และสัมผัสได้ถึงปลายจมูกโด่งและริมฝีปากที่ประทับลงที่เปลือกตาและข้างแก้ม ก่อนที่ริมฝีปากอุ่น ๆ จะแตะซ้ำอีกครั้งที่ริมฝีปากของนัทเบา ๆ
ไม่เรียกร้อง ไม่รุนแรง แต่เป็นการแตะซ้ำเบา ๆ ขบเม้มและดูดดุนที่ริมฝีปากของนัท เพื่อให้นัทยอมเปิดปากรับปลายลิ้นที่สอดเข้าไปในโพรงปาก เพื่อเกี่ยวกระหวัดรัดกัน
“อืออ”
ไม่รู้ว่าส่งเสียงครางแบบนี้ออกไปได้ยังไง นัทไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้เลยจริงๆ
หลับตาและรับสัมผัสแผ่วหวานแบบนั้น หลับตาและไม่รู้ว่าความรู้สึกหลุดหายไปตอนไหน
ใครบางคนทิ้งตัวเข้ามาในอ้อมแขนของฟ้า และฟ้าก็ลืมตาขึ้น ชายเสื้อยังถูกกำเอาไว้แน่น แต่คนบางคน หลับกลางอากาศไปเรียบร้อย ไม่ได้ตกใจแต่รู้สึกว่าแบบนี้มันน่ารักเกินไป
กอดเอาไว้และเกลี่ยไล้ไปมาที่เส้นผมที่ลู่ตกลงที่หน้าผากของคนในอ้อมแขนและฟ้าก็ยิ้มออกมา
ให้ตายเถอะวะ ถ้าจะน่ารักขนาดนี้ ก็อย่าได้คิดเลย ว่าทางนี้จะยอมปล่อยไปง่าย ๆ ไม่มีทางปล่อยแน่ ๆ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่มีวันปล่อยไปเด็ดขาด ถ้านัทคิดจะหนี ก็จะวิ่งตามไปเรื่อย ๆ
ครั้งนี้จะไม่มีวันปล่อยหัวใจของตัวเองไปไหนอีก
พอแล้วกับความเจ็บปวด คราวนี้คุณรัชชานนท์ไม่คิดจะปล่อยให้หัวใจของตัวเองต้องเจ็บปวดทรมานเหมือนครั้งที่ผ่านมาอีกแล้ว
ยังไงก็ไม่มีวัน
TBC.
Ps. เผื่อใครอยากอ่าน เรื่องของฝน น้องชายของฟ้า ปรัชญาช่างกล ปูกับฝน
และเรื่องของ นุชา แฟนเก่าของฟ้าRunning.....นุชากับซ้ง