- โปรดอย่ากีดกันผมกับชานมไข่มุก - [ตัวอย่าง]ตอนพิเศษ : อยากจะชวนเธอกินชานม~ P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - โปรดอย่ากีดกันผมกับชานมไข่มุก - [ตัวอย่าง]ตอนพิเศษ : อยากจะชวนเธอกินชานม~ P.12  (อ่าน 47422 ครั้ง)

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

----------------------------

นิยายที่แต่งจบแล้ว
{{ King’s Club }} เพราะเสพติดเซ็กซ์
{{ Knight's Hour }} เพราะเป็นเจ้านาย
{{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P]
{{ I'm Not Him }} เขาให้ผมเป็นดารา
{{ He's Not Me }} ผมไม่อยากเป็นดารา
{{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา
แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอก!
แผนลับสลัดแฟน(เก่า)


สวัสดีค่า มาเปิดเรื่องใหม่กันอีกครั้ง เรื่องนี้จะเป็นแนว Slice of Life นะคะ
คือเป็นแนวเล่าไปเรื่อยๆ ฟินๆ น่ารักๆ จะไม่เผ็ดซี๊ดซ๊าดเปรี้ยงปร้างอย่างนาวา
เรื่องราวเกี่ยวกับ 'พิชญ์' ที่หนีออกจากบ้านมาเปิดชานมไข่มุก
แต่ให้ตายเถอะ ทำไมทุกคนถึงไม่เข้าใจ คิดว่าเขาหนีออกจากบ้านเพราะอกหัก!
รักมันกินไม่ได้ แต่ชานมกินได้ แถมกินแล้วดีด กินแล้วดีด้วย!!
อกหักไม่ยักจะตาย แต่ถ้าขาดชานมไข่มุก เขาต้องขาดใจตายแน่ๆ!!!

ปล.พระเอกไม่ใช่เพื่อนสนิท ไม่ใช่พี่ชาย ไม่ใช่แฟนเก่า
พระเอกออกมาตั้งแต่ตอนแรก แต่ชื่อจะเผยตอนไหนนั้นมาลุ้นกันค่ะ 5555


ชี้เป้า! สั่งจองได้ที่ facainovels.com

สารบัญ
ตอนที่ 1 : เปิดร้านวันแรก
ตอนที่ 2 : พิชญ์เองครับ
ตอนที่ 3 : แฟนเก่าอีสคัมมิ่ง
ตอนที่ 4 : กลยุทธ์ใหม่
ตอนที่ 5 : ความเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 6 : ชื่อของคุณคนแรก
ตอนที่ 7 : ความจริงของภูมิ
ตอนที่ 8 : สะสมแต้ม
ตอนที่ 9 : ความรักของกฤต
ตอนที่ 10 : พี่ชายที่แสนดี
ตอนที่ 11 : ย้ายที่พัก
ตอนที่ 12 : จับมือ
ตอนที่ 13 : เหตุผลที่แท้จริง
ตอนที่ 14 : วันว่างที่ไม่ว่าง
ตอนที่ 15 : เส้นทางของกฤต

ตอนที่ 16 : คลิปหลุด
ตอนที่ 17 : เบื้องลึกเบื้องหลัง
ตอนที่ 18 : เจอตัวภูมิ
ตอนที่ 19 : ว่าด้วยความรัก
ตอนที่ 20 : พ่อค้าน่ารักบอกต่อด้วย
ตอนที่ 21 : การกลับมาของภูมิ
ตอนที่ 22 : เปลี่ยนสถานะ
ตอนที่ 23 : เดตล่มที่ไม่ล่ม
ตอนที่ 24 : หัวขโมย
ตอนที่ 25 : บทสรุป
ตอนส่งท้าย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2020 19:11:33 โดย มาจะกล่าวบทไป »

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 1 : เปิดร้านวันแรก


   หลังหนีออกจากบ้านมาสองเดือนเต็ม ในที่สุด...ผมก็มีร้านชานมไข่มุกเป็นของตัวเองสักที!

   กว่าจะติดต่อขอเช่าที่ ร่ำเรียนวิชาชงเครื่องดื่ม ต้มไข่มุก ติดต่อซื้อวัตถุดิบ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่แค่คิดก็ทำได้ทันที ขนาดผมตั้งใจแล้ว มีเงินพร้อมแล้ว ยังใช้เวลาถึงสองเดือนกว่าจะเสร็จสรรพเรียบร้อย และวันนี้...ก็จะเป็นวันแรกที่ได้เปิดร้านดังใจใฝ่หา ผมเชิญพระจากวัดแถวนี้มาช่วยเจิมป้ายเพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนยืนมองร้านตกแต่งเป็นโทนสีน้ำเงินตัวอักษรสีเหลืองด้วยความภาคภูมิใจน้ำตาจะไหล

   จากนั้นก็นั่งตบยุง

   ในยุคที่ชานมเกลื่อนตลาด ร้านเปิดใหม่แถมยังอยู่ในซอยนับว่าฆ่าตัวตายชัดๆ แต่ผมก็ใช่ว่าจะนั่งเฉยๆ เมื่อวานเดินแจกใบปลิวหน้าโรงเรียนบริเวณใกล้เคียง เที่ยวยัดใส่กล่องจดหมายคอนโดแถวนี้ด้วยโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เชื่อสิว่ากิจการจะต้องเฟื่องฟู!

   วาดฝันหวาน แต่เบื้องหน้านี้หนาทำไมถึงเงียบเหงานัก

   หรือว่าโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่งจะไม่โดนใจ

   หรือว่าเพราะหน้าปากซอยมีชานมไข่มุกเจ้าดังเปิดดัก โธ่เอ๊ย ชานมของผมราคาถูกกว่าตั้งเท่าตัว ทำไมคนต้องไปต่อแถวซื้อชานมแก้วละเกือบร้อยด้วย!

   เจ็บใจนัก!

   ผมทุบเคาน์เตอร์อย่างอัดอั้น ก่อนจะเงยหน้ายิ้มการค้าแทบไม่ทันเมื่อมีผู้ชายเดินถือใบปลิวคุ้นตาเข้ามาในซอยด้วยใบหน้ามึนๆ

   “ทางนี้คร้าบ!” ถ้าไม่ติดว่ากลัวลูกค้าหนี ผมนี่แทบปราดไปอุ้มเขามาหน้าร้านพร้อมปูพรมแดงแล้ว

   “อ้อ อยู่นี่เอง” ผู้ชายคนนั้นพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำกึ่งมึน “โปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่งนี่...”

   “ครับๆ จะรับเป็นชานมไข่มุก ชาเขียวไข่มุก หรืออย่างอื่นก็สั่งได้เลยครับ”

   “...ถ้าฉันจะซื้อแก้วเดียว แต่ขอราคาแบบในโปรโมชั่นได้มั้ย”

   ใบหน้ายิ้มแย้มการค้าชะงักในทันควันเมื่อได้ยินคำต่อรองคาดไม่ถึง

   คุณครับ ชานมไข่มุกหนึ่งแก้วแค่สามสิบบาท โปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่งเรียกว่าเท่าทุนค่อนไปทางขาดทุนแล้ว คุณพี่ยังจะขอซื้อแค่หนึ่งแก้ว ในราคาโปรโมชั่นคือสิบห้าบาทก็ได้ด้วยเหรอครับ!

   “นี่เป็นเงื่อนไขโปรโมชั่นน่ะครับ...”

   “ไม่ได้เหรอ” ผู้ชายคนนั้นถามเสียงเอื่อย ไม่เชิงหาเรื่อง แต่ออกจะเฉยชาไร้อารมณ์ซะมากกว่า

   “ไม่ได้ครับ”

   “งั้นไม่เป็นไร” มองเงาร่างที่หันหลังกลับทางเดิม ผมก็พลิกลิ้นแทบไม่ทัน

   “แต่เนื่องจากคุณเป็นลูกค้าคนแรกของทางร้าน ผมให้เป็นกรณีพิเศษเลยครับ!” อีกนิดก็แทบจะก้มกราบแล้ว โปรดอย่าให้ความหวังแล้วเดินหนีไป เห็นใจเจ้าของร้านอย่างผมด้วยเถอะ!

   “สรุปว่าได้?” ผู้ชายคนนั้นหันกลับทันที ผมใจชื้นขึ้น คิดในใจว่าอย่างน้อยก็เท่าทุน ถือซะว่าได้ลูกค้า ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

   “ได้ครับได้” ผมยิ้มประจบ “รับอะไรดีครับ”

   “ชานมไข่มุก”

   “ครับผม”

   ในที่สุดก็ได้แสดงวิชาสักที ผมชงชานมด้วยท่วงท่าคล่องแคล่ว ก่อนจะตักไข่มุก ทับด้วยน้ำแข็ง เมื่อเทชานมจนเต็มและปิดฝาด้วยเครื่องซีล ทุกอย่างก็เสร็จสิ้น

   “จะให้เจาะหลอดเลยมั้ยครับ”

   “เจาะเลย”

   “ทั้งหมดสิบห้าบาทครับ” ผมเอ่ยอย่างนอบน้อมและสุภาพ หวังให้ลูกค้ารายแรกประทับใจไม่ลืมเลือน

   “เดี๋ยวนะ” พลันผู้ชายตรงหน้าผมค่อยๆ หยิบเหรียญบาทขึ้นมานับ

   หนึ่งเหรียญ สองเหรียญ สามเหรียญ...

   ผมยิ้มการค้าอย่างอดทน ไม่วายลอบสำรวจว่าชายคนนี้ทั้งที่ก็หน้าตาไม่ได้แย่ แต่งตัวก็ไม่โทรมมาก อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ น่าจะราวๆ ยี่สิบปลาย แต่ทำไมถึงเหมือนจนกรอบนักหนาก็ไม่รู้ ขนาดกระเป๋าสตางค์ยังไม่มี ใช้วิธีเก็บในถุงพลาสติกแล้วมัดด้วยหนังยางสีแดง

   สงสัยฟ้าคงจะเห็นใจ จึงประทานลูกค้ารายที่สองให้ผม

   “อยู่นี่เอง!”

   หรือไม่ฟ้าก็เกลียดชังกันมาก ถึงได้พาคนคนนี้มาเจอะเจอกัน

   ฉิบหาย ไอ้ภูมิ!

   “ก็ว่าหายไปไหนสองเดือน ที่แท้หนีมาเปิดร้านชานมไข่มุกนี่เอง!” ลูกค้ารายที่สอง ไม่สิ เพื่อนสนิทของผมที่ไม่ติดต่อหาเป็นเวลาสองเดือนไม่รู้ไปได้ข่าวคราวมาจากไหนถึงเดินกึ่งวิ่งมาหาอย่างร้อนใจแทบบ้า ภูมิเป็นชายร่างสูงชอบสวมเสื้อแจกเก็ตหนัง กางเกงรัดเป้า หัวเซ็ตตั้ง หน้าโฉด มาดนักเลง แต่ดันต่อยใครไม่เป็น เขามองป้ายหน้าร้าน ขยับปากอ่านชื่อ ‘พิชพิชชานม’ แล้วเบ้ปาก ปรายตาสำรวจห้องเช่าเก่าโทรมราคาถูก มองผมในชุดผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงิน มองลูกค้าที่กำลังนับเหรียญ แล้วหันกลับมามองผมอีกครั้งด้วยรอยยิ้มเหยเกแบบไม่อยากเชื่อ

   “สภาพดูไม่จืดเลยนี่”

   “ขอบคุณ” ผมตอบเสียงเรียบ ถ้าไม่ติดว่ามีลูกค้าอยู่อาจจะโต้กลับดุเดือดกว่านี้

   “ทุกคนเป็นห่วงมากนะ ทำไมถึงปิดโทรศัพท์ล่ะ”

   “ไม่ได้ปิด แต่ขายทิ้งไปแล้ว”

   “เหอะ แค่ผู้ชายห่วยๆ คนหนึ่งทำให้นายต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างขนาดนี้เลยเหรอ นายยังมีฉันอยู่นะ หรือไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว!”

   “...”

   “พิชญ์!”

   พลันผมถอนหายใจเฮือก นึกขอบคุณลูกค้าที่ยังก้มหน้านับเหรียญ ไม่แม้แต่จะสอดแทรกหรือเหลือบมองการทะเลาะอันน่าปวดหัวนี้

   “ฉันน่ะนะ...ชอบชานมไข่มุกมาก”

   “โกหก!”

   “ก็เลยอยากเป็นเจ้าของร้าน ไม่ได้ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อประชดใครทั้งนั้น ฉันมาทำตามความฝันเฉยๆ”

   “ฝันบ้าอะไร ฉันไม่เคยเห็นนายกินชานมไข่มุกด้วยซ้ำ!”

   “แล้วทำไมฉันต้องกินชานมไข่มุกต่อหน้านายด้วยไม่ทราบ” ผมชักคิ้วกระตุก เริ่มควบคุมไม่อยู่เมื่อเพื่อนสนิทเริ่มตะโกนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนลูกค้าหลายรายที่เดินถือใบปลิวเข้าซอยมาเดินกลับออกไป อาจจะเข้าใจผิด คิดว่าผมโดนนักเลงหาเรื่องอยู่เลยกลัวโดนลูกหลง ให้ตายสิ อยากต่อยหน้าไอ้ภูมิชะมัด ใครสั่งใครสอนให้แต่งตัวแบบนี้มายืนตะโกนหน้าร้านชานมไข่มุก ภาพลักษณ์เสียหมด!

   “หมดธุระแล้วก็อย่ายืนเกะกะหน้าร้าน ไหนว่าเป็นเพื่อนรักกันไง ถ้ารักกันจริงก็อย่าขัดขวางความฝันเพื่อนสิ”

   ภูมิทำหน้าเหมือนอยากจะเถียงต่ออีกนิด แต่โดนผมส่งสายตาพิฆาต คนท่ามากแต่ใจเหลวเลยยอมล่าถอย เขาคงจำได้ถึงวันวานที่โดนผมขึ้นคร่อมต่อยซ้ายต่อยขวา ข้อหาทำของเล่นผมพังแล้วเอาไปฝังดินหวังกลบหลักฐาน แต่เจ้าตัวคงลืมไป ว่าบ้านผมมีกล้องวงจรปิด พอความจริงตีแผ่ เลยได้แต่ร้องไห้กระซิกๆ ยอมโดนทารุณแต่โดยดี

   ข่มขู่เพื่อนสนิทจนเผ่นป่าราบสำเร็จ ผมก็หันมายิ้มการค้าอีกครั้ง ก่อนจะชะงัก...เมื่อคุณลูกค้าว่างจัดขนาดเอาเหรียญบาทวางเรียงตามขอบเคาน์เตอร์คล้ายฆ่าเวลารอผมเสร็จธุระ

   “ขอโทษด้วยนะครับ”

   “ขอโทษอะไร” ชายหนุ่มหน้าตายถามเหมือนเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   “ก็...”

   “สิบห้าบาท” พลันเขาชี้นิ้วไล่เหรียญบาทที่เรียงรายงดงาม พิสูจน์ว่ามีจำนวนสิบห้าเหรียญจริงๆ นะ เมื่อเห็นผมพยักหน้ารับ ชายหนุ่มก็รวบเหรียญทั้งหมดให้ “เดี๋ยว”

   ผมค้างในท่าแบมือประคองกองเหรียญบาท

   “สิบห้าบาทค่าเครื่องดื่ม ส่วนนี่...” ชายหนุ่มตบแปะๆ ตามตัว ก่อนจะล้วงเหรียญสองบาทสีทองวางไว้บนสุดของกองเหรียญ “คือค่ากำลังใจ”

   ผมมองอีกฝ่ายอึ้งๆ คาดไม่ถึงกับความมีน้ำใจของคนที่เพิ่งต่อรองค่าเครื่องดื่ม

   “อย่ายอมแพ้ละ”

   พูดจบ หนุ่มหน้าตายก็ถือแก้วชานมออกจากร้านโดยไม่หันกลับมาอีกเลย ทิ้งให้ผมยืนงงมองกองเหรียญในมือ ก่อนจะหลุดยิ้ม โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะยิ้มทำบ้าอะไร กำไรก็ไม่ได้ แถมยังได้ทิปแค่สองบาท ขึ้นรถเมล์ไม่พอด้วยซ้ำ แต่ช่วยไม่ได้นะ...สองบาทนี้มีค่า เพราะมาจากความใส่ใจและให้กำลังใจกัน

   ผมเก็บเหรียญหนึ่งบาทในลิ้นชัก ไม่ลืมจดบันทึกรายรับแรกของวัน หงุดหงิดชะมัด ถ้าภูมิไม่มาอาละวาดคงมีลูกค้าเยอะกว่านี้

   ว่าแต่เขาตามมาถูกได้ยังไง

   ผมขมวดคิ้ว นึกถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด ก่อนจะถอนหายใจ เพราะต่อให้รู้แล้วก็เปลี่ยนความจริงที่พวกเขาหาผมเจอไม่ได้

   ใช่ ‘พวกเขา’

   มีคนแรกก็ต้องมีคนที่สอง มีคนที่สองก็ต้องมีคนที่สาม

   ส่งภูมิซึ่งสมองน้อยที่สุดมาลองเชิง ไม่รู้ว่าคนที่เหลือจะโผล่หัวมาเมื่อไหร่ หมดกันชีวิตอันแสนสงบสุขกับชานมไข่มุกของผม จะย้ายที่ก็ไม่ได้ซะด้วยในเมื่อเพิ่งจ่ายมัดจำค่าเช่าที่ล่วงหน้าไปสามเดือน

   จริงอยู่ว่าเงินไม่ใช่ปัญหา แต่สุขภาพจิตนี่สิ...เกรงจะย่ำแย่เอา

   คิดแล้วก็ถอนหายใจอีกเฮือก ในเมื่อไม่มีลูกค้า ผมเลยชงชานมกินเองซะเลย ว่ากันว่าเวลาหดหู่ ดื่มชานมแล้วจะสดชื่นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุปาทานหมู่หรืออะไรก็ตาม แต่ผมก็ได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว และก็เป็นสาเหตุให้ตกหลุมรักมัน

   ผมเอนตัวพิงสะโพกกับถังน้ำแข็งด้านหลัง มือหนึ่งถือแก้วชานม อีกมือหมุนเหรียญสองบาทเล่น

   ก่อนจะนึกพิเรนทร์

   หาเชือกมามัดเป็นจี้ แขวนไว้กับตะปูข้างกำแพง ถือซะว่าเครื่องรางเตือนใจ

   ‘อย่ายอมแพ้ละ’

   ขนาดคนแปลกหน้ายังพูดแบบนี้ แล้วผมที่สู้อุตส่าห์หนีมาเปิดร้านจนสำเร็จจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้ยังไง!

   สู้โว้ย!!!

   ----------------------

   

   และแล้วก็ได้เปิดร้านชานมไข่มุกกันนะคะ เย้

   สำหรับพระเอกนั้นออกมาตั้งแต่ตอนแรก ปักธงกันตั้งแต่ตอนแรกเลยด้วย ไม่พลิกโผแน่นอน เพื่อนสนิท พี่ชาย และแฟนเก่า มาเป็นปริศนาเฉยๆ ค่ะว่าทำไมพิชญ์ถึงหนีออกจากบ้าน

   เรื่องนี้จะเป็นแนวเล่าเรื่อยๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวันในการทำร้านชานมไข่มุกของพิชญ์ ฉะนั้นพระ-นายจะจีบกันอย่างค่อยเป็นค่อยไปค่ะ แนวฟีลกู้ดเต็มพิกัด

   ปล.เรื่องนี้จะอัพช้าหน่อย แต่สัญญาว่าจะอัพทุกอาทิตย์ค่ะ

   แฮชเทคประจำเรื่อง #ผมกับชานมไข่มุก

   

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โผล่มาตอนแรกพระเอกก็ให้ของแทนใจ(?)เลยน้าา รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
        เป็นกำลังใจให้กับเรื่องใหม่นะคะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
กว่าจะรักกันได้นี่จะนานขนาดไหนน้อ พระเอกดูเป็นคนเรื่อยๆเอื่อย จะรู้ตัวว่ารักกันนี่คนอ่านต้องลุ้นขนาดไหน55555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
พระเอกแต่ละคนของคุณเนี่ย​  :เฮ้อ: ไม่รู้ตะมาแนวไหนอีกนะคะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :mc4: ยินดีกะเรื่องใหม่ จะรอติดตามค่ะ  :pig4:  :L2:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'


ตอนที่ 2 : พิชญ์เองครับ


   แนะนำตัวกันก่อน ผมชื่อพิชญ์ อายุยี่สิบสอง เรียนจบตรีด้านการเงิน จึงทำรายการรับ-จ่ายอย่างเป็นระเบียบรวมถึงวางแผนการเปิดร้านชานมเป็นแบบแผนมาก ครอบครัวผมฐานะดี ไม่ถึงกับรวยล้นฟ้า แต่ก็ไม่ลำบากขาดแคลนอะไร พ่อแม่รักใคร่กลมเกลียว ไม่ได้เป็นเด็กมีปัญหา ไม่เคยมีประวัติยาเสพติด หรือวิวาทมาก่อน

   ชีวิตดีขนาดนี้แล้วทำไมถึงหนีออกจากบ้าน!?

   อืม...ให้เล่าคงยาว เอาเป็นว่า...ผมอยากทำตามความฝัน แต่ไม่มีใครเข้าใจเลยหนีแม่ง

   เข้าใจตรงกันแล้วเนอะ!

   มาแนะนำตัวกันต่อ ผมเป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง หน้าตาก็ธรรมดา แต่งตัวก็ธรรมดา อย่างตอนนี้สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีน คลุมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงินสกรีนลาย ‘พิชพิชชานม’ ผมสีดำสนิทมัดรวบครึ่งหัวเป็นจุกเล็กๆ ด้านหลัง ไม่ได้ทำตามแฟชั่น แค่ขี้เกียจไปร้านตัดผม ที่โดดเด่นหน่อยอาจจะเป็นผิวขาวๆ ตามประสาคนไม่เคยลำบากตรากตรำ กับนิ้วเรียวยาวที่มักโดนชมบ่อยๆ ตั้งแต่เด็กว่าเหมาะกับการเล่นเปียโน

   แล้วผมเล่นมั้ยน่ะเหรอ

   ผมไปตีกลอง

   ยังจำได้เลยว่าตอนนิ้วเริ่มกร้านเพราะจับไม้กลอง พ่อกับแม่แทบจะขาดใจ แต่ไม่ทันห้ามปราม ผมก็เบื่อก่อน เลยเปลี่ยนจากตีกลองไปเล่นกีตาร์ไฟฟ้า เรียนอยู่ราวๆ สองเดือน ก็เปลี่ยนไปเป่าขลุ่ยแทน แบบว่าอยากอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยน่ะครับ อีกอย่างเวลาไล่นิ้วยามกดบนรูของตัวขลุ่ย ก็ทำได้น่ามองและทำเอาคนเห็นแทบละสายตาไม่ได้ แม่ซื้อขลุ่ยให้เป็นของขวัญวันเกิดตอนผมอายุสิบห้า ซึ่งตอนนี้เก็บไว้ไหนก็จำไม่ได้ เพราะผมเลิกเล่นดนตรี หันไปเอาดีด้านกีฬาแทน

   ผมไม่ชอบเล่นเป็นทีม เลยฝึกตีเทนนิสกับภูมิ แต่ภูมิก็อ่อนเกิน เลยเลือกตีกอล์ฟตัดปัญหา ตีไปตีมา...เบื่อสุดใจ นึกอะไรไม่ออกเลยสะสมแผ่นหนัง ตั้งใจจะไปแข่งขันแฟนพันธุ์แท้หนังฮอลลีวู้ดดูสักครั้ง แต่คุณปัญญาไม่ยอมจัดสักที จึงเปลี่ยนเป้าหมายมานั่งวาดรูป ยามนิ้วเรียวสวยตวัดพู่กันสร้างสรรค์ผลงานก็ดูดีอยู่หรอก แต่ภาพที่ออกมาดันดูไม่ได้ ผมคงไร้พรสวรรค์ด้านศิลปะ สุดท้ายก็เปลี่ยนไปทำอีกหลายอย่าง ซึ่งไม่ขอลงรายละเอียด เพราะเกรงว่าหน้ากระดาษจะไม่พอ

   สรุปง่ายๆ คือ...ไม่มีอะไรทำให้ผมตกหลุมรัก อยากจะทำ อยากจะลอง อยากจะสู้ไปด้วยกันเท่าชานมไข่มุกแล้ว!

   แม้จะได้ชื่อว่าหนีออกจากบ้าน แต่พ่อกับแม่ก็ปล่อยผมออกมาง่ายๆ ด้วยประโยคอำลาที่ว่า...เดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนก็เบื่อแล้วกลับมาเองนั่นแหละ

   ช่างดูถูกความรักของผมที่มีต่อชานมไข่มุกเหลือเกิน!

   เพื่อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทแด่รักแท้ในครั้งนี้ ผมจึงแบ่งเงินเก็บเป็นสามส่วน ส่วนแรกกินใช้ไม่อดตาย ส่วนที่สองใช้ในการเนรมิตร้าน ส่วนสุดท้ายไว้เช่าที่พัก ทุกอย่างมีเพียงพอสำหรับหนึ่งปี คอนโดอยู่ถัดจากที่นี่ไปสองป้ายรถเมล์ ก็ที่ผมเที่ยวยัดใบปลิวใส่กล่องจดหมายนั่นแหละครับ

   แม้สมัยเรียนจะมีรถรับ-ส่ง แต่ผมเป็นพวกขี้เบื่อ วันดีคืนดีออกมานั่งรถเมล์รอบเมือง เดินเที่ยวตามแนวรถไฟฟ้าแบบไม่มีจุดหมายบ่อยมาก ยิ่งรถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชนยิ่งชอบ เห็นผ่านหน้าเป็นไม่ได้ต้องขึ้นไปนั่งใช้สิทธิ์ประชาชนที่ดี โดยไม่แม้แต่จะดูด้วยซ้ำว่าปลายทางคือที่ไหน

   น่าตลกตรงไอ้ภูมิมักเป็นคนแรกที่หาผมเจอ

   ส่วนคนที่สอง...

   “กลับบ้านกับพี่”

   คือพี่ชายแท้ๆ ของผมเอง

   ถ้าจำไม่ผิดปีนี้ ‘พี่พจน์’ อายุยี่สิบเก้า หน้าตาค่อนข้างเคร่งเครียดจริงจังไปกับทุกอย่าง ขณะที่ผมโคตรจะผ่อนคลายสบายใจอะไรก็ได้ไปกับทุกอย่าง สาเหตุหนึ่งที่ผมกล้าหนีออกจากบ้าน เพราะเชื่อว่าพี่พจน์จะช่วยดูแลพ่อกับแม่ได้ แถมเขาก็ดูแลกิจการของครอบครัวอย่างดีมาก จนไม่รู้จะให้ผมกลับไปทำอะไร สู้เปิดร้านชานมไข่มุกยังมีประโยชน์กว่า

   “ไม่” ผมปฏิเสธทันทีขณะก้มหน้าเช็ดเคาน์เตอร์เพราะพี่แกเล่นมาแต่เช้าช่วงเพิ่งเปิดร้านตอนหกโมงตรง สงสัยไม่รู้ว่าผมพักที่ไหน เลยมายืนดักหน้าร้านทั้งที่สวมสูทเต็มยศ

   “พิชญ์ กลับบ้านกับพี่”

   “พี่พูดซ้ำประโยคเดิมทำไม ผมบอกแล้วไงว่าไม่” ผมเอ่ยอย่างเพลียใจ ก่อนจะหันไปสำรวจไข่มุกที่กำลังต้มสุก ดูลูกกลมๆ สีดำแวววาวนี่สิ ช่างน่าอัศจรรย์ถึงสัมผัสนุ่มนิ่มของมันนัก แม้จะไม่มีรสชาติในตัวเอง แต่เมื่อกินคู่กับชานมแล้วกลับสรรค์สร้างรสชาติอันตรึงตาตรึงใจ ผมคนไข่มุกในหม้อ ชื่นชมมันในใจไปเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่าการทำอาหารด้วยความรักจะทำให้คนทานรับรู้ได้

   “อย่าประชดกันแบบนี้”

   “ใครประชดครับ คุณพี่ชายที่แสนดี” ผมกลอกตาเมื่อคุณพี่ชายไล่ไม่ง่ายเหมือนภูมิ เกิดไข่มุกน้อยใจ คิดว่าผมให้ความสำคัญกับมันไม่พอแล้วไม่หนึบหนับโดนใจลูกค้าจะทำยังไง “ไหนๆ ก็มาแล้ว อุดหนุนน้องมั้ย ผมชงชานมไข่มุกอร่อยมากเลยนะ ซื้อไปฝากพ่อกับแม่ด้วยก็ดี สามแก้วทั้งหมดหกสิบบาท ขอบคุณครับ”

   “ทำไมหกสิบบาท...” พี่ชายมองป้ายราคาอย่างสับสน

   “โปรโมชั่นเพิ่งเปิดร้าน ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ความจริงพี่ควรได้สี่แก้ว แต่ผมรู้...ว่าพี่เอาไปก็คงไม่รู้จะให้ใคร เลยคิดราคาของสามแก้ว สองแก้วแรกสามสิบบาท แก้วที่สามคิดราคาเต็มสามสิบบาท รวมเป็นหกสิบบาท” ผมเอ่ยเสียงเอื่อย ขณะช้อนไข่มุกที่สุกกำลังดีสลัดน้ำออก ก่อนจะเอาส้อมจิ้มเข้าปากเพื่อชิมรสชาติ อืม...แม้จะโดนพี่ชายขัดตอนกำลังชื่นชมไข่มุก แต่รสชาติก็ออกมาเด้งดึ๋งโดนใจใช่เลย “พี่ลืมแล้วรึไงว่าผมจบการเงิน”

   “ไม่ลืม แต่..”

   “แก้วที่สี่นั่นน่ะ” พลันมีคนพูดแทรก ผมกับพี่ชายหันขวับพร้อมกัน

   จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ชายหนุ่มคนเดิมเพิ่มเติมคือเก็บถุงพลาสติกใส่เหรียญหวังกินฟรี

   “ถ้าไม่มีใครเอา ฉันขอ”

   ความหน้าด้านสุดขีดนี้ผมถึงกับหลุดหัวเราะ ก่อนจะหันไปยักคิ้วเป็นเชิงถามความเห็นพี่ชาย

   “จะทำอะไรก็ทำ” เขาพูดพลางยื่นแบงก์ร้อยให้ผมพลางกระซิบบอกว่าไม่ต้องทอน

   “ขอบพระคุณครับคุณลูกค้า” ผมน้อมรับอย่างยินดียิ่ง ไม่ลืมเอาแบงก์มาตบๆ แปะๆ ตามเคาน์เตอร์เพื่อเป็นฤกษ์เป็นชัยเรียกทรัพย์เข้าร้าน ยิ่งเห็นพี่ชายคนเก่งก็ยิ่งทำหน้าไม่เป็น ผิดกับชายหนุ่มหน้าตายที่มายืนรอข้างๆ กัน รอกินฟรีไม่พอยังเรียกร้องอีกต่างหาก

   “เอาไข่มุกเยอะๆ”

   ถ้าเป็นคนหาเช้ากินค่ำ เจอลูกค้าอย่างเขาต้องอยากบีบคอแน่นอน แต่สำหรับผมที่ทำชานมไข่มุกด้วยใจรัก เห็นเขาชอบก็ยิ่งอยากให้ เลยตักเพิ่มเป็นพิเศษเกือบครึ่งแก้วจนพี่ชายถึงกับตาถลน

   “ร้านแกต้องเจ๊งแน่ๆ”

   “พูดอวยพรน้องหน่อยสิครับ” ผมเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ หันไปชงชานมสำหรับสี่แก้วด้วยใจที่พร่ำเพ้อว่าชานมจ๋า เจ้าช่างเป็นเครื่องดื่มที่เลิศล้ำที่สุดในปฐพี ความหวานนั้นก็ช่างหวานจับใจจนชวนระทวย ความหอมของผงชานมมียี่ห้อก็ช่างชวนให้สดชื่น เมื่อผสมรวมกันแล้วเกิดเป็นรสชาติหวานนุ่มละมุนลิ้น ไอเลิฟยู

   ใส่รักไปเกินร้อย ก็ไม่รู้คนรับจะรู้สึกบ้างมั้ย

   “ภูมิบอกว่าแกขายโทรศัพท์ทิ้งไปแล้ว”

   “ใช่” ผมตอบโดยไม่มองหน้าพี่ชายด้วยซ้ำ เพราะกำลังบรรจงเทชานมใส่แก้วให้พอดีขอบอย่างบรรจง

   “ซื้อใหม่รึยัง”

   “ยัง” พลันผมหันไปมองค้อนพี่ชาย เพราะเอาแต่ถามจนเสียสมาธิเลยนะเห็นมั้ย ผมทำชานมล้นออกนอกแก้วไหลรินเป็นทาง เห็นแล้วใจแทบสลาย เจ้าชานมที่ต้องถูกเช็ดทิ้งอย่างไร้ค่า ทั้งที่ตั้งใจชงด้วยความรักมากแท้ๆ ขอโทษนะชานม ยกโทษให้ด้วย อย่าจองเวรจองกรรมและกันเลย

   โดนผมจ้องกึ่งเคือง พี่พจน์ก็ยอมปิดปากแต่โดยดี แต่คุณลูกค้าข้างๆ กลับหลุดขำ

   ถึงอยากถามแค่ไหนว่าขำหาอะไร แต่ผมไม่ก้าวร้าวขนาดหาเรื่องลูกค้า โดยเฉพาะเมื่อลูกค้าคนนั้นตัวสูงกว่าและดูจะมีกล้ามเนื้อกว่าตัวผอมแห้งเป็นไม้เสียบผีอย่างผมด้วย จะว่าไป สองเดือนมานี้เอาแต่หมกมุ่นกับชานม เอาเงินไปลงทุนแต่กับร้าน จนกินข้าวแค่วันละสองมื้อ แต่ละมื้อกินแค่ให้พออิ่มท้อง เลยผอมซูบทันตา

   ผมพิจารณาตัวเองยามวางแก้วชานมใส่เครื่องซีลปิดฝาจนเหมือนหลุดไปในโลกส่วนตัวครู่ใหญ่ จนกระทั่งได้ยินเสียงกระแอมไอ เลยบรรจงวางแก้วใส่ถุง ยื่นส่งให้คนที่คันคอเหมือนอยากจะพูดเต็มแก่แต่ไม่กล้า

   “ชานมไข่มุกสามแก้วไม่เจาะหลอดครับ”

   “พิชญ์ แล้วเรื่องโทรศัพท์...”

   “พี่รีบหน่อยดีกว่านะ เข้างานสายแล้วจะหาว่าผมไม่เตือน” ผมชี้ไปที่นาฬิกาแขวนข้างกำแพงร้าน พี่ชายชักหน้ายุ่งทันที เพราะเขาเป็นพวกคลั่งความสมบูรณ์แบบ ซึ่งการเข้างานสายนับเป็นจุดด่างพร้อยสำหรับผู้มีโปรไฟล์ชั้นเลิศ

   “อย่าคิดว่าจะเลี่ยงได้ตลอดนะ” พี่พจน์ทิ้งท้ายอย่างเจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย ผมยกมือทาบอก อยากจะร้องตอบว่าฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น พี่ชายคล้ายจะรับรู้ถึงความกวนประสาทผ่านความเงียบนี้ เลยถลึงตาหนึ่งที รับถุงใส่แก้วชานมแล้วสะบัดหน้าเดินออกจากซอย

   “เป็นครอบครัวที่น่ารักดีนะ”

   คุณลูกค้าเอ่ยเสียงเรียบเรื่อยเหมือนชวนคุยถึงดินฟ้าอากาศ ผมไม่รู้จะตอบยังไงดี จะกวนก็ไม่ได้ เลยพยักหน้ารับนิ่งๆ แล้วส่งแก้วชานมแบบเจาะหลอดให้เขา

   “แก้วนี้ฟรีครับ” ผมรีบบอก เพราะจู่ๆ เขาก็หยิบถุงพลาสติกใส่เหรียญออกมา

   “รู้แล้วว่าฟรี” คุณลูกค้ายักคิ้วหนึ่งที ก่อนจะพยักพเยิด ให้ผมแบมือรอรับบางสิ่ง

   เป็นเหรียญสองบาท

   “กำลังใจ?”

   ผมหมุนเหรียญในมือ ยากจะบรรยายความรู้สึกในตอนนี้

   “เปล่า” คุณลูกค้ารับชานมไปดื่ม ไข่มุกที่อัดแน่นในแก้วทำให้อีกฝ่ายแก้มบวมตุ่ยเคี้ยวหยับๆ อย่างเพลิดเพลิน เห็นไข่มุกที่ตั้งใจต้มด้วยรักได้รับความเอ็นดูขนาดนี้ผมก็ลอบปลื้มปริ่มอยู่ในใจ “ให้อยู่เป็นเพื่อน กลัวจะเหงา”

   ผมงงมาก

   ผมงงมากจนคิดว่าหน้าในตอนนี้ก็แสดงออกถึงความงงมากจนคุณลูกค้าแทบจะสำลักชานมด้วยความขำ

   “ไม่ใช่ให้อยู่เป็นเพื่อนนาย” คุณลูกค้าช่วยไขปริศนา โดยการชี้ไปยังกำแพงฝั่งซ้ายของผม “ให้อยู่เป็นเพื่อน ‘ไอ้โน่น’”

   ผมมองตาม ก่อนจะพบว่า ‘ไอ้โน่น’ ก็คือเหรียญสองบาทเมื่อวานที่ผมนึกพิเรนทร์เอาเชือกมาผูกเป็นจี้แล้วแขวนเป็นเครื่องรางเสริมสร้างกำลังใจ

   วินาทีนั้น จู่ๆ ก็นึกเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ คิดอย่างใสซื่อไม่มีอะไรเจือปน แต่เมื่อโดนเขาพูดแกมหยอกล้อเหมือนมีอะไรเกินเลย ก็ทำเอาหูแดงอย่างห้ามไม่ไหว ผมหันไปตั้งใจจะแก้ตัว แต่กลับพบเพียง...ความ...ว่าง...เปล่า

   คุณลูกค้าหยอกแซวจนสาแก่ใจก็ถือแก้วชานมจากไป

   ทันเห็นแผ่นหลังไวๆ เดินออกจากซอย

   ผมลูบหน้าลูบตา พยายามปรับอารมณ์ มองเหรียญสองบาทในมือสลับกับจี้ที่ห้อยติดกำแพง คิดว่าจะเอาลงมาเก็บดีมั้ย เพราะถ้านึกถึงใจคนให้ เห็นคนรับเหรียญสองบาทไร้ค่าไร้ราคามาห้อยกึ่งบูชาขนาดนี้ก็สมควรเข้าใจผิดอยู่หรอก

   วูบหนึ่งชักอย่างกวนกลับเล็กๆ ในเมื่อพูดต่อหน้าไม่ได้ งั้นผมจะแสดงออกผ่านการกระทำ

   อยากให้อยู่เป็นเพื่อนกันใช่มั้ย ได้!

   ผมใช้เชือกยาวเส้นเดิมมัดรอบเหรียญสองบาทเหรียญใหม่ จนกลายเป็นจี้สองเหรียญเรียงในแนวตรง ดูพิลึกแปลกตาดี

   ผลลัพธ์คือสะดุดตาลูกค้ามาก

   บางคนคนสั่งชานมแล้วอดหันไปมองไม่ได้ บางรายถึงขั้นถามว่านั่นเป็นของไสยศาสตร์หรือเปล่า เชือกขาวคือสายสิญจน์ ส่วนเหรียญทองๆ นั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใช่มั้ย

   ผมยืนยิ้มไม่ตอบคำ ปล่อยให้ลูกค้าจินตนาการเต็มที่ ตลอดทั้งวันมีคนวนเวียนมาเป็นครั้งคราว ไม่เยอะมากแต่ก็ไม่นับว่าน้อยจนน่าใจหาย เทียบกับเมื่อวานที่นั่งตบยุงแล้ว...โคตรดีเลยเถอะ!

   เพราะแถวนี้มีโรงเรียนซะเยอะ ส่วนใหญ่เป็นชั้นประถม เลิกเรียนกันตั้งแต่สี่โมง หกโมงก็แทบจะไม่มีคนแล้ว ผมปิดร้านตอนหนึ่งทุ่ม เดินแจกชานมเพราะไข่มุกเหลือแล้วไม่อยากทิ้งข้ามคืนให้ร้านรับปักเสื้อนักเรียนข้างๆ กันซึ่งเป็นคุณยายวัยหกสิบปี คุณยายไม่เคยกินชานมมาก่อน ตอนได้รับเมื่อคืนวานก็ดีใจใหญ่ ได้เผื่อแผ่ความรักให้คนเฒ่าคนแก่ผมก็มีความสุข

   ถัดจากร้านปักเสื้อนักเรียนก็เป็นร้านถ่ายเอกสาร ผมเอาชานมไปแจกเขาพร้อมบอกขอบคุณ เพราะวันนี้มีลูกค้าเยอะขึ้นจากคำแนะนำของเขาเลย ถัดจากร้านถ่ายเอกสารคือร้านเครื่องเขียน ต่อด้วยร้านขายตุ๊กตา ร้านขายขนมขบเคี้ยว จากนั้นก็ร้านหนังสือ

   ส่วนหน้าปากซอยก็คือ...ร้านชานมยี่ห้อดังเจ้าใหญ่ที่กินพื้นที่ถึงสองห้อง ข้างๆ กันเป็นร้านขนมปังปิ้งซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของคนเดียวกัน

   ครับ ร้านของผมอยู่ในสุดของซอย

   แจกชานมเสร็จผมก็ปั่นจักรยานกลับหอ นึกในใจว่าจะทำยังไงให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นดีน้า


   -----------------

   คุณพี่ชายเปิดตัว!!! พี่ชายเรื่องนี้ก็จะคนละแบบกับพี่นทีคนคลั่งน้องในเรื่องนาวาค่ะ พี่พจน์จะออกแนวดุๆ หน่อย แต่ก็รักน้องเหมือนกันน้าไม่งั้นคงไม่มาตามหรอก แต่น่าเสียดาย...เพราะพิชญ์ไม่ยอมกลับบ้านง่ายๆ

   เขาจะต้องทำร้านชานมไข่มุกให้ประสบความสำเร็จให้ได้!!

   แต่เริ่มต้นยังเงียบเหงา ลูกค้ายังไม่ค่อยมี พิชญ์จะประชาสัมพันธ์ยังไงดีน้า มาร่วมลุ้นเอาใจช่วยกับการร้านชานมพิชพิชด้วยนะคะ รับรองว่าน้องจะทำได้ทำดีแน่นอน!!

   

    #ผมกับชานมไข่มุก

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
หรือว่าเจ้าของเหรียญจะเป็นเจ้าของร้านชานมที่อยู่ปากซอยหรือเปล่านะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
สู้กันต่อไปนะน้องพิชญ์ ^^

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
จ่ะ เข้าใจน้องพิญมากขึ้นล่ะ งี้แหละคนมียูนีคคคเป็นของตัวเอง  :m20:
เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ มะวานมาขอจ่าย 15 บาท วันนี้ขอแก้วแถม ชักยังไง  :hao3:
รอดูพรุ่งนี้จะมาแนวไหน จะสร้างครอบครัวเหรียญ 2 บ.สีทองหรือเปล่าน๊า  :katai3:
  :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
         เอาชานมไข่มุกแก้วนึงคะ

ส่วนอีกแก้วที่ฟรี....ฝากไปให้พี่พจน์ด้วยนะค่ะ♥️♥️

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'


ตอนที่ 3 : แฟนเก่าอีสคัมมิ่ง



   เช้าวันนี้พี่ชายมาระรานกันอีกแล้ว

   “เอาไป” มาถึงก็โยนโทรศัพท์เครื่องใหม่เอี่ยมให้ ผมไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำ เพียงเก็บไว้ในลิ้นชัก แล้วหันไปถามลูกค้าเจ้าประจำที่นับจากนี้จะเรียกว่าคุณคนแรก เพราะเขาเป็นลูกค้าคนแรกของผมอย่างสุภาพ

   “วันนี้รับอะไรดีครับ”

   “ชานมไข่มุก...” คุณคนแรกพูดพลางเหลือบมองพี่ชายผมที่แทบจะเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อโดนน้องชายเมิน ผมรู้เจตนาลูกค้าทันที เลยหันไปถามพี่ชายอย่างไม่ค่อยจะสุภาพสักเท่าไหร่ว่า

   “วันนี้พี่จะซื้อชานมอีกรึเปล่า โปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่งยังมีอยู่นะ”

   “ไม่!” พี่ชายกระแทกเสียง ก่อนจะเดินหัวเสียจากไปด้วยมาดผู้บริหารในชุดสูทที่แม้จะโกรธแค่ไหนก็ยังหลังเหยียดตรงทรงภูมิ ผมหันมาทำหน้าจนใจใส่คุณคนแรกเชิงว่าพยายามแล้วนะ ผมเองก็อยากให้เขากินฟรี แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะพี่ชายไม่ให้ความร่วมมือ

   เขาหลุดขำพรวดจนตัวกระตุก เส้นตื้นสุดๆ จนน่ากลัวว่าสักวันจะสำลักน้ำลายตัวเองตาย

   “ชานมไข่มุกหนึ่งแก้ว”

   “จะจ่ายเต็มหรือครึ่งราคาครับ” ผมถามกึ่งระแวง เรียกรอยยิ้มจากร่างนั้นให้ยิ่งกว้างขึ้นอีก แต่ถึงจะบอกว่ายิ้มกว้าง จริงๆ แล้วก็แค่กระตุกมุมปากขึ้นมาหน่อยนึงเท่านั้น

   “จ่ายเต็ม”

   สีหน้าผมสดใสขึ้นทันที แม้จะยอมให้เขาเป็นพิเศษ แต่ก็ใช่ว่าจะยอมโดนเอาเปรียบไปตลอดกาล หลังชงชานมไข่มุกเสร็จผมก็รีบเจาะหลอดส่งให้ด้วยฉากหลังดอกไม้บาน

   “สามสิบบาทครับ”

   “อืม”

   อืมแล้วไง อืมแล้วอะไร อืมแล้วทำไมถึงให้เหรียญสองบาทมา...

   ผมมองหน้าเขาด้วยความอึ้ง ค้างในท่าแบมือรอรับเงินด้วยความหวังว่าต้องได้เพิ่มสิ มันไม่ควรมีแค่นี้สิ!

   “นี่คืออะไรครับ”

   “แปะโป้ง” คุณคนแรกดื่มชานมด้วยสีหน้าผ่อนคลายสบายใจเหมือนทำความดีเพื่อสังคม “วันนี้ไม่ได้พกเงินมา ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่นี้ แปะโป้งไว้ก่อนนะ”

   ผมพูดอะไรไม่ออก

   ชื่อเขาก็ไม่รู้ เป็นใครจากไหนก็ไม่ทราบ จู่ๆ มาขอแปะโป้งค่าชานมสองบาท แบบนี้ก็ได้เหรอ!

   ฝ่ายนั้นก็คล้ายจะรอว่าผมจะตอบยังไง พอได้ชานมแล้วถึงไม่รีบเดินออกจากซอยเหมือนเคย เพียงยืนดูดหลอดมองหน้าผมอย่างสำรวจ ราวพร้อมจะหลุดหัวเราะออกมาทุกเมื่อ

   แล้วจะให้เขาสมหวังได้ยังไง

   “ได้ครับ” ผมรับเหรียญสองบาทมากำในมือ ไม่รู้ทำไม แต่ในใจไม่มีความคิดว่าเขาจะโกงสักนิดเดียว พรุ่งนี้จะต้องได้เจอกันอีก ไม่มีทางแปะโป้งด้วยเหรียญสองบาทแล้วชิ่งหายดื้อๆ แน่นอน

   ก็อยากรู้นักว่าจะมาไม้ไหน

   “ยอมด้วย?” คุณคนแรกกลายเป็นฝ่ายประหลาดใจซะเอง ก่อนจะยิ้มกริ่มด้วยสีหน้าที่ชวนให้ผมลนลานเหมือนโดนเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะเมื่อเขาปรายตาไปยังเชือกผูกเหรียญสองบาทสองเหรียญข้างกำแพง ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรส่อไปในแง่นั้น เพียงแค่ใช้สายตาจ้อง แต่กลับทำให้ผมคันปากอยากแก้ตัวเอามากๆ

   “คือว่า...”

   “พิชญ์!”

   วันนี้ก็ไม่วายมีมารผจญคนใหม่

   แถมเป็นคนที่ผมไม่อยากพบที่สุดด้วย

   “หมอนี่ใคร!!”

   มาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลง ชี้นิ้วใส่คุณคนแรกที่ยืนดูดชานมอย่างสบายอุราเหมือนไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้

   ซึ่งก็ไม่เกี่ยวจริงๆ นั่นแหละ

   “ไม่ตอบ แสดงว่าแฟนใหม่ มึงมายุ่งอะไรกับแฟนกูไอ้เชี่ย!!”

   โอ๊ย พังไปหมดแล้วชีวิต ผมอยากจะร้องไห้เมื่อ ‘แฟนเก่า’ กระชากคอเสื้อคุณคนแรก ไม่ทันจะมุดเคาน์เตอร์ออกไปห้ามปราม ผมก็ต้องเป็นฝ่ายอ้าปากค้างเมื่อคุณคนแรกไม่หือไม่อือ ไม่โวยวายหรือคัดค้าน เพียง...คว่ำชานมไข่มุกในมือเต็มกลางกบาลของ ‘กฤต’

   คุณยายร้านข้างกันได้ยินเสียงวิวาทเลยชะโงกหน้าออกมา ทันเห็นฉากนั้นพอดีจนอุทานร้องอุ๊ย

   ส่วนผมร้องเชี่ย!

   หลายคนเดินเข้ามาในซอยก็พากันมองร้านผมด้วยสายตาแปลกๆ เข้าไปใหญ่ อยู่เฉยไม่ได้แล้ว ผมรีบมุดออกจากเคาน์เตอร์ ไปยืนขวางระหว่างกฤตกับคุณคนแรก ในมือถือผ้าขี้ริ้วช่วยซับชานมอย่างบรรจง

   “พิชญ์ห่วงเราเหรอ” กฤตที่โกรธจนตัวสั่นฟีบลงทันตาเมื่อผมปราดมาเช็ดน้ำเอ่ยเสียงอ่อนแกมง้อทันที ใช้มือเปียกๆ นั้นกุมมือผมไว้ แต่ก็โดนปัดทิ้ง แม้จะโกรธแต่เขาพยายามสงบใจ เผยยิ้มเจิดจ้าหลังปรับอารมณ์หึงหวง เพราะกฤตมีความผิดติดตัว และการจะขอให้ผมยอมอภัยย่อมไม่ใช่การพาลใส่คนอื่นแน่นอน

   ต่อหน้าผม กฤตจะเป็นผู้ชายยิ้มเก่งพูดจาหวานน่ารักเสมอ

   “เปล่า ห่วงชานม” ผมตอบเสียงเรียบขณะพยายามจะโกยไข่มุกบนหัวเขาให้ครบทุกเม็ด น้ำตารื้นขึ้นมาหน่อยๆ นึกเสียดายชานมที่ชงด้วยใจรัก เสียดายไข่มุกที่ต้มด้วยความเอาใจใส่ พลันเสียงหัวเราะหลุดพรืดอีกครั้ง จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่คุณคนแรก

   “ขอโทษด้วยนะครับ” ผมรีบหันไปขอโทษขอโพยลูกค้า “ผมจะชงแก้วใหม่ให้ เงินที่ค้างไว้ก็ไม่คิด ยกให้ฟรีแทนคำขอโทษครับ”

   “อืม” คุณคนแรกตอบรับอย่างว่าง่าย ถ้ากฤตใจเย็นได้แบบนี้สักครึ่งหนึ่งคงดี แค่คิดผมก็เผลอมือหนัก จากเช็ดหัวเขาเป็นจิกหัวเขาผ่านผ้าขี้ริ้วจนได้ยินเสียงร้องโอดโอย

   “พิชญ์! หัวเราจะหลุดแล้วพิชญ์!”

   “ผมเปล่าทำร้ายเขานะ” ผมหันไปแก้ตัวกับคุณคนแรกว่าไม่ได้ประทุษร้ายแฟนเก่าด้วยอารมณ์ส่วนตัวเลยจริงๆ ผมไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรงแม้แต่นิดเดียว อย่าได้หวาดกลัว อย่าได้เดินหนีเชียว

   โชคดีที่คุณคนแรกเข้าใจว่าเมื่อครู่เป็นเพียงอุบัติเหตุ จึงยอมถอยหลังให้ผมมุดเคาน์เตอร์กลับไปชงชานมแก้วใหม่ ส่วนกฤตที่โดนทึ้งหัวจนเส้นผมติดมือมาด้วยก็หงุดหงิดนิดหน่อย แอบส่งสายตาคาดโทษให้คุณคนแรก ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ผมอย่างเอาใจ

   กฤตหนอกฤต ผ่านไปสองเดือน ยังนิสัยเสียแบบไม่รู้ความผิดตัวเองเหมือนเดิม

   คนที่เข้าใจผิดก่อนก็เขา คนที่กระชากเสื้อหาเรื่องก่อนก็เขา ยังมีหน้าไปอาฆาตคนอื่นอีก ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนผมเอาหัวโขกเต้าหู้แล้วทำสมองหายที่ไหน ถึงหลวมตัวตกลงคบกับเขาได้ตั้งนานสองนาน

   “ชานมแก้วใหม่ครับ ผมแถมไข่มุกให้พิเศษเลย” ผมกล่าวกับคุณคนแรกด้วยน้ำเสียงจริงใจเป็นพิเศษ วาดหวังให้อย่าได้โกรธเคืองกับการปรากฏตัวของแฟนเก่าที่โคตรจะไร้มารยาทคนนี้

   “อืม” ซึ่งคุณคนแรกก็ตอบแบบขอไปทีคล้ายไม่คิดอะไรและทำราวกับว่ากฤตเป็นอากาศธาตุ “แก้วนี้ฟรีใช่มั้ย”

   “ครับ”

   “งั้นที่แปะโป้งไว้...”

   “อ้อ ต้องให้คืนสินะครับ”

   “ไม่ ไม่ต้องคืน” ผมชะงักในท่ายื่นเหรียญสองบาทให้คุณคนแรก เมื่อเขาใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือชานมกำรอบมือผมอย่างง่ายดาย ทั้งที่เป็นมือผู้ชายเหมือนกันแต่เขาทำเหมือนมือผมเล็กนิดเดียว

   “พิชญ์ สรุปแล้วพิชญ์กับมันเป็นอะไรกันแน่!”

   “กฤต!” ผมหันไปขึ้นเสียงใส่กฤตที่เสียมารยาทอีกครั้ง เขาหดคอนิดหน่อย ไม่วายจ้องคุณคนแรกแบบจับผิดอย่างปักใจเชื่อว่าผมกับเขาต้องมีซัมติงกันแน่ๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้คุณคนแรกเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มเย็น ปล่อยมือผมแล้วเดินออกจากซอยไป

    “พิชญ์จ๋า” ไร้คนนอก กฤตก็หันมาเรียกผมเสียงหวาน กุมมือผมทับสัมผัสของคุณคนแรก พยายามจะประสานนิ้วให้ได้ แต่โทษที ผมกำมือแน่น ไม่โอนอ่อนหรือใจอ่อนแม้แต่น้อย

   เอาจริงๆ แล้วกฤตก็ไม่ใช่คนหัวร้อนหรอก เขาไม่ใช่ภูมิ ติดแต่ขี้หึงไปหน่อย และร้อนตัวแบบไม่หน่อยด้วย

   เขากลัวผมมีคนใหม่ ในเมื่อสาเหตุที่เราทะเลาะกันก็เพราะว่าเขานั้น...

   “รู้มั้ยว่าเราตามหาพิชญ์ตลอดสองเดือนเลย เป็นห่วงแทบบ้า เราไม่อยากให้พิชญ์เข้าใจผิด เรื่องในวันนั้นน่ะเป็นแค่...”

   “กฤต” ผมพลิกมือ เปลี่ยนมาเป็นกำมือกฤตแทน พร้อมบีบเบาๆ...อืม ก็ไม่เบาเท่าไหร่ “ตามเจอได้ยังไง”

   “เพราะหัวใจสั่งมา โอ๊ย!! เพราะไอ้ภูมิบอก มันบอกว่าพิชญ์ไม่ยอมกลับเพราะโกรธเรา ก็เลยให้เราเป็นคนมาตามแล้วเคลียร์เรื่องเข้าใจผิดให้มันจบๆ ไปสักที นี่ก็สองเดือนแล้วนับจากวันนั้น เรายังไม่มีโอกาสแก้ตัวกับพิชญ์เลย!”

   ผมมองกฤตที่ชักดิ้นชักงอแล้วปล่อยมือ เกือบลืมบอกไปว่าสารพัดงานอดิเรกของผมรวมถึงการฝึกเทควันโด้ ไอคิโด้ และซูโม่ด้วย แม้จะเป็นแค่การเรียนแป๊บๆ แค่พื้นฐานไม่กี่เดือนแล้วเบื่อก็เถอะ

   ภูมินะภูมิ จะเสือกทำไม!

   ผมคิดอย่างเซ็งจิต เพราะรู้ดีว่ากฤตไม่มีวันหาผมเจอเองแน่ๆ

   “พิชญ์จ๋า” กฤตเรียกเสียงหวาน ยิ้มเจิดจ้าน่ามอง ทำให้ผมหันไปสำรวจว่าสองเดือนนี้เขามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างมั้ย ผลคือ...ไม่เลย แม้ใต้ตาจะดำ แต่ก็เป็นปกติของคนชอบเที่ยวกลางคืนอย่างเขาอยู่แล้ว กฤตเป็นผู้ชายหน้าหล่อที่เห็นแวบแรกใครเป็นต้องหัน เขาหล่อมากขนาดถูกทาบทามเป็นดารา แต่เนื่องจากเกลียดความลำบาก รักสบาย และความจำไม่ดี เขาจึงปฏิเสธแล้วเลือกเป็นนายแบบแทน กฤตสูงมาก เฉียดร้อยเก้าสิบได้ สูงยาว เข่าดี แต่งตัวเก่ง เขาจะออกจากบ้านไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ใส่สร้อยเท่ๆ หรือนาฬิกาเก๋ๆ เส้นผมสีน้ำตาลเสยเปิดใบหน้าที่เจ้าตัวแสนจะภูมิใจ แม้ยามนี้จะเปียกชื้นเจือกลิ่นชานมก็ตาม

   “เรารักพิชญ์คนเดียวนะ พิชญ์หายโกรธ แล้วกลับไปด้วยกันเถอะนะ ภูมิก็รออยู่ พี่พจน์เองก็ร้อนใจ ทั้งคู่อยากให้พวกเราคืนดีแล้วกลับมาคบกันเหมือนเดิมนะ”

   “โกหก” ผมแค่นยิ้ม พี่พจน์น่ะคัดค้านเรื่องผมคบกับกฤตยิ่งกว่าใคร ไม่มีวันพูดจาญาติดีกับแฟนเก่าของผมคนนี้เด็ดขาด เพราะเป็นเพศเดียวกันคือเหตุผลข้อแรก เพราะกฤตไม่เอาอ่าววันๆ เอาแต่เที่ยวคือเหตุผลข้อที่สอง และเพราะกฤตโคตรเจ้าชู้คือเหตุผลข้อที่สาม

   เขาหล่อขนาดนี้ หน้าตาดีขนาดนี้ ไม่มีคนเข้าหาย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่สาเหตุที่ทำให้เราเลิกกันน่ะไม่ใช่ข้อนั้นหรอก

   “เกะกะหน้าร้านจริงๆ พูดจบแล้วก็ไสหัวไปได้แล้ว” ผมโบกมือไล่กฤตแบบไม่แม้แต่จะเจ็บปวดหรือตัดพ้อตามประสาคนที่เจอหน้าแฟนเก่าซึ่งเลิกราอย่างไม่ค่อยจะดีนัก

   “พิชญ์จะให้เราทำอะไรเรายอมทุกอย่างเลย”

   “ก็บอกให้ไสหัวไปไง” ผมเอ่ยอย่างเหนื่อยใจเกินจะกล่าวซ้ำเป็นรอบที่สาม

   “พิชญ์จ๋า อย่างน้อยก็อย่าประชดกัน หนีมาเปิดร้านชานมแบบนี้สิ”

   คล้ายได้ยินเสียงอะไรบางอย่างขาดผึง

   อ้อ เส้นอารมณ์ของผมเอง

   “ฟังนะ” ผมเอ่ยเสียงเหี้ยม ขณะเอื้อมไปจับหูกฤตให้ตั้งใจฟังดีๆ แน่นอนว่าต้องเขย่งเท้าสุดตัว และต้องขอบคุณที่กฤตยอมย่อตัวแล้วเอียงเข้าหาด้วย “ฉันไม่ได้หนี ต่อให้หนีออกจากบ้านจริงก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะหนีหน้านาย และที่เปิดร้านชานมไข่มุกก็เพราะใจรัก!”

   คำว่าใจรัก ผมเน้นย้ำเป็นพิเศษจนแทบจะขบกัดหูกฤตกลืนลงท้องอยู่รอมร่อหากเขายังไม่เข้าใจอีก

   มีหูแต่ฟังไม่รู้เรื่องก็อย่ามีมันเลย!

   “โอ๊ย เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้ว” กฤตบิดตัวเป็นเกลียวตามแรงบิดของผมเพื่อรักษาหูตัวเองไว้

   “เข้าใจว่าอะไร” ผมปล่อยมือจากกฤต

    “เข้าใจว่าพิชญ์ยังไม่ยกโทษให้ งั้นเราจะมาง้อทุกวันเลย”

   ...ฉายากฤตสมองน้อย ไม่ได้มาเล่นๆ จริงๆ ครับท่านผู้ชม

   “ขอกลับไปคิดแผนใหม่ก่อนนะ” กฤตถอยห่าง กลัวจะโดนผมฉุดกระชากทำร้ายร่างกายอีก แต่ก็ไม่วายทำมือเป็นรูปหัวใจพร้อมขยิบตาให้ “พิชญ์ครับ รักนะ”

   รักนะบ้าบออะไรอีก! ผมแทบจะปาของใกล้มือเขวี้ยงใส่กบาลกฤต แต่ยั้งทันเพราะของสิ่งนั้นคือ...เหรียญสองบาท

   เพียงเห็น ความเกรี้ยวกราดก็คล้ายจะหดหายอย่างอัศจรรย์ ผมเป็นพวกโกรธง่ายหายไวอยู่แล้ว มองร่างกฤตที่สวมแว่นดำ ใส่หมวก ปลอมตัวเดินออกจากซอยอย่างกับตัวเองเป็นดาราดังแล้วถอนหายใจเฮือก ก่อนจะหันไปผูกเหรียญกับเชือกข้างกำแพงอย่างขะมักเขม้น

   และแล้วเครื่องรางเสริมสร้างกำลังใจก็กลายเป็นเหรียญสองบาทเรียงยาวแนวดิ่งสามเหรียญ

   ผมยืนจ้องสักพักก็หยิบไม้ถูพื้นมุดออกจากเคาน์เตอร์ไปเช็ดคราบชานมที่โดนกฤตย่ำจนเละเป็นสีดำๆ ด่างๆ เห็นแล้วใจปวดร้าวประหนึ่งความพยายามของตัวเองถูกเหยียบย่ำ ให้ตายสิ ทำไมภูมิ พี่พจน์ กับกฤตถึงไม่เข้าใจ ผมเปิดร้านชานมเพราะใจรัก ไม่ได้ทำเพื่อประชด ไม่ได้ทำเพื่อหนีหน้า ไม่ได้ทำเป็นงานอดิเรกแก้เบื่อฆ่าเวลาด้วย

   คำว่ารักมันเข้าใจยากขนาดนั้นเลยรึไง!!


   

   -------------------

   และแล้วตัวละครก็ออกมาครบแล้วนะคะ แถมรู้ชื่อกันหมดแล้วด้วย

   ภูมิ พี่พจน์ และกฤต

   ใครกันนะที่ทำให้พิชญ์ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน หรือจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังกว่านี้?? ยังไงก็ตาม...พระเอกของเราที่มาเห็นในทุกฉากทุกตอน ด้วยหน้าปลาตายก็ยังไม่เฉลยชื่อ มาลุ้นกันนะคะว่าเหตุผลของพิชญ์จะเฉลยก่อน หรือชื่อพระเอกจะเฉลยก่อน!??
   

    #ผมกับชานมไข่มุก

   
เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด