กลรักลวงใจ
ตอนที่ 12 ความสุขส่งท้าย
@งานวันเกิดโป้ง
เมื่อพวกเรามาถึงร้านอาหารของที่บ้านไอ้โป้ง พ่อกับแม่มันก็เตรียมกับข้าวและอาหารวางเรียงรายไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ร้านอาหารของที่บ้านมันเป็นร้านขนาดกลางๆซึ่งวันนี้แบ่งโซนไว้สำหรับจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ไอ้โป้งโดยเฉพาะ แต่ในงานไม่ได้มีแค่พวกผมครับยังมีเพื่อนๆทั้งในโรงเรียนต่างโรงเรียนของมันอีกสิบกว่าคน
หลังจากที่เป่าเค้กและอวยพรวันเกิดมันไปแล้ว พวกเราก็เริ่มทานข้าวกันทันที หลายคนก็จัดหนักกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มันแอบพ่อแม่มันมา แต่ผมไม่ได้ดื่มกับพวกมันหรอกเพราะไม่ชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
“มาถ่ายรูปกันหน่อยเร้ววว” เสียงไอ้โป้งมันตะโกนบอกเพื่อนๆทุกคนในงาน
“ปอมมึงมาถ่ายเซลฟี่คู่กับกูหน่อยดิ” ว่าแล้วมันก็เดินมานั่งข้างๆผมเอาหน้าหล่อๆของมันมาชิดที่แก้มผม
แชะ!!!
ผมรีบผละใบหน้าออกจากมันด้วยเพราะมันรู้สึกร้อนๆที่หน้ายังไงก็ไม่รู้สงสัยจะอายมัน นอกจากไอ้สกายแล้วผมไม่เคยเอาหน้าไปแนบชิดใกล้ๆแบบนี้กับใครอีกเลย
“เป็นไงอาหารอร่อยถูกปากไหม?” มันถามหลังจากถ่ายเซลฟี่เสร็จเรียบร้อย
“ไม่เสียชื่อร้านอาหารเลยแต่ละอย่างนี่อร่อยมากๆเลย” ผมยกนิ้วให้ มันก็จริงนี่เริ่มจะจุกท้องแล้วครับ
“จัดเต็มเลยนะปอม” มันยิ้มให้ผม
“แน่นอนอยู่แล้ว เอ้อ!...เดี๋ยวของขวัญเราให้ย้อนหลังนะมันกระชั้นชิดเกินไป” ผมว่าเพื่อไม่ให้เป็นการน่าเกลียดจนเกินไป
“ไม่ต้องหรอกแค่ปอมมาก็ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดให้เราแล้ว” มันยิ้มให้ผมครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้มันเป็นยิ้มที่มีอะไรไซ่อนไว้ข้างในจนน่าขนลุก ผมรู้สึกอย่างนั้น
“ก็ว่าไป ฮ่าๆๆ” ผมแกล้งหัวเราะเสียงดังกลบเกลื่อนมันรู้สึกอายๆยังไงไม่รู้
“เดี๋ยวเราไปในร้านแป๊บนะทุกคน ตามสบายเลย” มันว่าแล้วเดินเข้าไปด้านในร้านสงสัยไปช่วยดูความเรียบร้อยของฝั่งโน้นที่ลูกค้าค่อนข้างจะหนาตา
“เอิ้นวันนี้เราจะกลับกี่โมงกันวะ” ผมว่าด้วยความที่ยังกังวลเรื่องไอ้สกาย มันยังไม่โทรหรือส่งข้อความมาไม่แน่ใจว่ามันจะรอผมอยู่หรือเปล่า
“ทำไมมึงรีบหรอ” มันว่าขณะที่กำลังจะยัดไก่ทอดชิ้นใหญ่เข้าไปในปาก
“จริงๆก็ไม่เชิง กูนัดกับไอ้สกายเอาไว้ว่ะแต่กูว่าจะไม่ไปหามันหรอก” ผมทำหน้ายุ่งหัวคิ้วแทบจะชนกัน
“อ้าว! แล้วทำไมมึงไม่ปฏิเสธไอ้โป้งไปล่ะว่ามีธุระ อีกไม่กี่วันก็จะครบหนึ่งเดือนแล้วนะเว้ย” อ้าวทำไมมึงพูดแบบนี้วะเพื่อนรักแล้วใครที่ไหนมัดมือชกกูมาที่นี่ อิเพื่อนเลว ฮ่าๆ
“ก็มึงนั่นล่ะกูเลยปฏิเสธมันไม่ได้” ผมทำหน้ายุ่งใส่มัน
“ช่างเถอะมึง กินๆไปเดี๋ยวก็กลับกันแล้ว ปล่อยมันไว้คนเดียวซักวันมันคงไม่ตายหรอกว่ะ” เมื่อผมเอ่ยโทษมันมันกลับเฉไฉไปอีก ก็มันมาแล้วจะให้ทำยังไงได้ล่ะครับก็ต้องกินวนไปครับอย่างน้อยมันก็อิ่มท้อง ฮ่าๆ
“เออๆ กินไปมึง” ผมว่าแล้วก็ตักโน่นตักนี่มากินจะได้ไม่ต้องคิดเรื่องมันให้ไม่สบายใจ
ผมนั่งกินไปแล้วก็เล่นอินสตาแกรมไปด้วยเลื่อนไปเลื่อนมาก็มาเจอภาพที่ผมกับไอ้โป้งถ่ายด้วยกันเมื่อซักครู่ ทำไมมันลงเร็วอย่างนี้นะ แถมแคปชั่นก็น่าปวดหัวไปอีก “ของขวัญวันเกิดปีนี้” แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องปวดหัวหนักเข้าไปอีกคือคนที่กดถูกใจภาพนี้มีไอ้ตี๋กับไอ้สกายด้วย(ผมฟอลมันทุกคน)
“เหี้ยแล้ว!” ผมสบถออกมาเสียงดังจนไอ้เอิ้นที่กำลังดื่มน้ำอยู่แทบสำลักออกมา
“อะไรของมองเนี่ย!” ไอ้เอิ้นมันดุผม
“มึงไอ้สกายมันรู้แล้วแน่ๆเลยว่ากูมางานวันเกิดไอ้โป้ง” ผมยื่นมือถือให้มันดู
“เวรแล้วไง มึงบอกมันว่าไงก่อนจะมาที่นี่” มันถามผม
“กูลืมบอกมัน กูไม่ไปหามันเอาดื้อๆนี่ล่ะ” เอาไงดีๆๆ ผมคิดในใจ
Rzzzz
เสียงมือถือดังขึ้นฉุดให้ผมหลุดจากภวังค์ เมื่อมองที่หน้าจอก็พบว่าเป็นไอ้ตี๋โทรมา
“ว่าไงตี๋” ผมพูดผ่านสายแต่สายตายังมองที่ไอ้เอิ้นมันก็รอฟังผมเหมือนกัน
“ปอมมาหาไอ้สกายด่วนเลย มันกินเหล้าเมาแล้วเรียกหาแต่ปอมอ่ะ” ไอ้ตี๋พูดผ่านสายแต่ไม่ใช่แค่เสียงมันแต่มีเสียงไอ้สกายตะโกนโหวกเหวกเสียงดังเล็ดลอดออกมาด้วย เฮ้ออะไรกันเนี่ยทำไมต้องเรียกหาผมหรือว่ามันโมโหที่ผมผิดนัดมัน
“ได้ๆเดี๋ยวเราไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” ผมบอกมันไปก่อนที่จะวางสาย
“ไปบอกโป้งก่อนไหมค่อยกลับ” เอิ้นมันบอกผม
“อื้ม! ป่ะไปกันเถอะ” ว่าแล้วผมกับเอิ้นก็ขอตัวเพื่อนๆคนอื่นๆเดินออกจากงานไปก่อน เดินออกมาก็เจอโป้งพอดี
“อ้าว! จะกลับกันแล้วหรอ” โป้งมันถามเมื่อเห็นพวกผมกำลังเดินออกมา
“พอดีที่บ้านโทรมาตามอ่ะ พวกกูกลับก่อนนะเว้ย”
“อ๋อ ถ้างั้นให้กูไปส่งไหมล่ะ” ดูเหมือนมันจริงจังกับคำพูดของมันมาก
“มะ...ไม่เป็นไรเดี๋ยวพวกกูกลับแท็กซี่เองดีกว่า มึงอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆเถอะ ไปล่ะ” ผมว่าแล้วก็โบกมือลามัน
“เดี๋ยวให้รถไปส่งมึงที่บ้านก่อน เดี๋ยวกูจะให้รถวนไปคอนโดไอ้สกายต่อ” ผมบอกไอ้เอิ้น จริงๆแล้วบ้านไอ้เอิ้นมันจะไกลกว่าคอนโดไอ้สกายอีก
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปคนละคันก็ได้มึงจะได้ถึงเร็วๆ”
“เอางั้นก็ได้ ถ้ายังไงมึงถึงแล้วโทรมาบอกกูด้วยล่ะ” ไอ้เอิ้นมันเป็นผู้หญิงผมก็ยังเป็นห่วงเพื่อนอยู่นะครับ
“โอเคไอ้คุณเพื่อนสุดที่รัก”
“นั่นรถมาพอดี มึงไปก่อนเลยเดี๋ยวกูไปคันหลัง” ผมบอกมันขณะที่มือกำลังโบกแท็กซี่อยู่
รถมาแล้วผมก็ส่งไอ้เอิ้นขึ้นรถ หลังจากนั้นไม่นานผมก็เรียกอีกคันตรงไปที่คอนโดไอ้สกายทันที
*-*-*-*-*
ก๊อกๆๆ
ผมเคาะประตูห้องรอไอ้ตี๋มาเปิดให้ แต่รอหลายนาทีก็ยังไม่มีวี่แววจึงลองเปิดประตูดูปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อคห้อง ทำไมไอ้ตี๋มันไม่มาเปิดห้องให้ผม ส่วนไอ้คนนั้นผมคิดว่ามันคงจะหลับไปแล้วมั้ง ดูท่าทางเมาซะขนาดนั้น
“ตี๋ อยู่รึเปล่า” ผมเดินเข้ามาในห้องก็พบว่ามันเงียบผิดปกติ เลยเรียกไอ้ตี๋เผื่อมันหลับอยู่ ไร้เงาไอ้สองคนนั้นครับหรือว่ามันจะออกไปกินเหล้ากันอีกรอบรึเปล่า เริ่มงงกับพวกมันแล้วล่ะเนี่ย
แอ๊ด!!!!
“ผมเปิดประตูห้องนอนไอ้สกายเข้าไป ก็พบว่าเตียงมันว่างเปล่า นั่นไงไอ้ตี๋มันเล่นตลกกับผมซะแล้ว มาเสียเที่ยวจนได้
“เฮ้ย!!!!!”
ผมร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ เพราะจู่ๆก็มีคนเข้ามากอดผมจากด้านหลังแถมยังเอาคางมาเกยบนบ่าของผมอีกต่างหาก
“เล่นไรเนี่ย ตกใจหมด” ผมว่าคนที่กำลังกอดผม มันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้สกาย ผมจำกลิ่นมันได้แม่น
“มึงโกหกกูว่าจะมาหาแล้วมึงเสือกไปกับไอ้นั่น” มันว่าผมกลิ่นเหล้ายังหึ่งจนผมหยีหน้า
“กู....ขอโทษ” ในใจรู้สึกผิดมาก
“กูไม่ยกโทษให้ มึงก็เหมือนแม่กูขี้โกหก โกหกว่าจะมาหากูตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยมา มึงแม่งเหมือนแม่กู” มันร้องไห้ครับผมนี่ตกใจมาก ไอ้สกายคนที่เคยแข็งแกร่งเย็นชาคนนั้นมันหายไปไหน ตอนนี้ผมมองไม่เห็นมันคนนั้นเลย เห็นแต่ไอ้สกายคนที่อ่อนแอและขี้เหงา
“กูขอโทษมึงจริงๆ...กูมันไม่ดีเอง...มึงอย่าร้องดิวะ” ผมบอกมันแล้วเอามือไปกุมที่มือของมัน
“ต่อไปนี้กูจะไม่โกหกมึงอีก กูสัญญา” ผมบอกมันแต่ในใจตอนนี้คือผมมาไกลแล้ว ผมโกหกมันตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้แล้วผมคิดว่าจะสารภาพมันในวันสุดท้ายที่จะครบรอบหนึ่งเดือน ส่วนมันจะรับได้หรือไม่ได้ผมต้องยอมรับชะตากรรมนั้นเอง
“มึงสัญญานะ” มันพูดเสียงอ้อแอ้ด้วยอาการเมา ผมยืนคุยกับมันจนลืมไปว่าไอ้ตี๋มันอยู่ไหนทำไมไม่เห็นมันเลย
“แล้วไอ้ตี๋ไปไหนแล้ว”
“กูบอกมันกลับไปก่อนเพราะกูอยากอยู่กับมึงสองต่อสอง” มันว่าแล้วเปลี่ยนมากุมมือผมแทนแล้วคลายอ้อมกอดผมเปลี่ยนให้หันหน้ามาจ้องตากับมันแทน
“กูว่ามึงไปอาบน้ำก่อนไหม มึงเมามากแล้ว” ผมบอกมันดูจากสภาพมันแล้วคงจะเมาหนักมากก่อนที่ผมจะมา
“กูไม่มาววว” มันพูดเสียงยาน ขนาดนี้ยังจะบอกว่าไม่เมาอีกหรือไอ้สกาย
“เออไม่เมาก็ไม่เมา ไปอาบน้ำซะแล้วจะได้นอนมึงท่าจะไม่ไหวแล้ว” เหมือนผมพูดกับเด็กยังไงยังงั้น หน้ามันแดงก่ำ ตามันก็เยิ้มๆ แต่ดูท่ามันน่าจะยังพอมีสติอยู่นิดนึง
“อาบก็อาบ แต่มึงต้องไปอาบกับกูด้วย” เออเอาเข้าไปมึงมันร้ายไอ้สกาย
“เออๆ” ผมทำท่าจะพามันเข้าไปในห้องน้ำ
“ถอดเสื้อผ้าให้กูด้วย” มันพูดเสียงอ้อน จะทำยังไงได้ล่ะครับผมก็ทำตามมันแต่โดยดี
มันยืนจ้องตาผมอยู่อย่างนั้นแล้วก็กางแขนออก ผมไม่สามารถที่จะจ้องตากับมันได้ครับเพราะว่ามันจะทำให้ผมละลายจนไปนั่งกองกับพื้นได้ ก็มันจ้องผมซะจนจะกินผมให้ได้ซะอย่างนั้น
ผมค่อยๆปลดกระดุมมันออกทีละเม็ดๆ จนหมดแล้วก็ถอดเสื้อมันออกหลังจากนั้นก็ปลดเข็มขัดแล้วก็ปลดตะขอก่อนที่จะค่อยๆรูดซิบลงเรื่อยๆจนสุด มือที่มันกางไว้ตอนนี้มาจับที่บ่าของผมเอาไว้ สิ่งที่ทำให้ผมอายมากกว่าที่มันจ้องผมก็คือตอนนี้ผมกำลังค่อยๆดึงกางเกงนักเรียนมันลงจนเหลือแค่บ็อกเซอร์และเหลือมันไว้แค่นั้น
“ถอดบ็อกเซอร์ให้กูด้วยดิ” มันสั่งผมด้วยน้ำเสียงสั่นๆข้างๆหูผม
“มะ...มึงถอดเองดิกู....” ผมว่าแล้วก็หยุดจะให้ถอดได้ยังไงละครับก็ตอนนี้น้องชายมันกำลังตื่นจนตุงบ็อกเซอร์ไปหมดแล้ว
มันยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรแต่มือมันกลับมาจับมือผมให้ไปจับที่น้องชายมันแล้วค่อยๆดึงบ็อกเซอร์ร่นลงมาอยู่ที่ขาอ่อนแล้วมันก็ใช้เท้ามันข้างนึงดึงลงจนสุด ตอนนี้มันเปลือยต่อหน้าผม
“มาให้กูถอดให้มึงบ้าง” มันว่าแล้วจะปลดกระดุมผม
“ไม่เอากูไม่อาบกับมึง ไปๆรีบอาบกูจะได้กลับบ้าน” ผมโวยวาย
“มึงต้องอาบกับกู มานี่!” มันพูดจบก็ดึงผมเข้าไปชิดตัวมันแล้วเริ่มปลดกระดุมผมออกอย่างรวดเร็ว แล้วก็ตามด้วยกางเกงผมจนหมด จะทำยังไงได้ล่ะครับก็สมยอมตามท้องเรื่อง
“ป่ะไปอาบน้ำกัน” มันว่าแล้วก็อุ้มผมขึ้นในท่าเจ้าสาว ผมตกใจเลยเอามือไปคล้องที่คอมันไว้
“อุ้มทำไมเนี่ยอยู่ใกล้ๆเอง” ผมทุบอกมันทีนึง
“กูอยากอุ้มจะทำไม” ว่าแล้วมันก็เดินพาผมเข้าไปในห้องน้ำ
มันวางผมลงบนอ่างแล้วก็เปิดน้ำทันที มันลงไปนั่งในอ่างฝั่งตรงข้ามแล้วหันหน้ามาที่ผม
“มานี่” มันเรียกผมก่อนที่จะดึงตัวผมเข้าไปนอนบนแผงอกแกร่งของมันแล้วก็กอดผมไว้อย่างนั้นจนน้ำเริ่มจะพอดีตัวเรามันก็ปิดน้ำไว้
“อีกกี่วันนะจะครบหนึ่งเดือน” อยู่ๆมันก็ถามผมขึ้นมา
“อาทิตย์นึงพอดี” ผมบอกมัน พูดแล้วก็ใจหายเหมือนกันนี่ผมอยู่กับมันจนจะครับเดือนนึงแล้วหรือเนี่ย เวลาที่มันมีความสุขทำไมมันเร็วอย่างนี้
“ภายในเจ็ดวันนี้มึงมาหากูทุกวันได้ไหม” มันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อะ...อื้ม” ผมตอบรับไปอย่างว่าง่าย ผมอยากจะถามมันเหลือเกินว่าเมื่อถึงเวลาแล้วมันจะเอายังไงกับผมต่อ ตอนนี้ผมครอบครองใจมันได้หรือยังหรือแค่แก้เหงาเท่านั้นผมอยากรู้เหลือเกิน
“มึงสัญญาว่าจะไม่โกหกกู” มันทำไมพูดคำนี้บ่อยจัง ผมรู้สึกไม่ดียังไงไม่รู้เหมือนมันเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคำนี้เอามากๆเลย
“สัญญา” ผมบอกออกไปทั้งๆที่มันไม่เคยมีตั้งแต่แรกแล้ว ผมผิดเอง
“อ๊ะ!!”
ผมร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆมันก็พลิกตัวผมให้นอนอยู่ข้างล่างตัวมันโดยที่ศีรษะผมยังอยู่ที่ขอบอ่าง
“กูสัญญาว่ากูจะเอามึงทุกวันเหมือนกัน” มันพูดจบก็โน้มใบหน้าลงมาจุมพิตที่หน้าผากผมก่อนที่จะเลื่อนลงมาคลอเคลียที่พวงแก้มก่อนที่จะลงท้ายด้วยริมฝีปากของผม มันดูดอยู่อย่างนั้นและใช้ลิ้นอันซุกซนของมันสอดเข้ามาซุกซนหยอกล้อกับลิ้นของผม มืออีกข้างมันก็มาเขี่ยที่ยอดอกผมอย่างช่ำชอง
“อืม!!!!” เสียงมันครางในลำคออย่างพอใจ มันแยกขาทั้งสองข้างของผมด้วยท่อนขาแก่งทั้งสองข้างของมันจนขาทั้งสองข้างของผมมันโผล่พ้นเหนือน้ำมาพาดที่ขอบอ่างแทน
“ไหนบอกจะอาบน้ำไง” ผมผละใบหน้าออกมาพูดกับมัน
“ก็เอาก่อนอาบไง” มาว่าแล้วก็ก้มลงมาจูบผมอย่างหนักหน่วงราวกับว่าอดอยากมานานแสนนาน มันเอามือทั้งสองข้างมาสอดไปที่หลังผมแล้วก็กอดเอาไว้ ส่วนแก่นกลางลำตัวของมันก็ถูไถที่ช่องทางของผม มันหยอกล้ออยู่อย่างนั้นจนได้ที่แล้วไอ้สกายก็ค่อยๆพามันเข้าไปสัมผัสกับข้างในผมทีละนิดๆ
“อ๊ะ!!..เบาๆเจ็บ” ผมบอกมันเสียงเบาขณะที่มือทั้งสองข้างของผมจับที่ขอบอ่างไว้แน่น
“อีกนิดเดียวนะที่รัก” ผมรู้สึกสะดุดเล็กน้อยกับคำที่มันพูดเมื่อซักครู่มันรู้สึกดีมากๆ ไม่นึกเลยว่าผมจะได้ยินมัน ความเจ็บทั้งหลายมันหายไปในพริบตาเลยทีเดียว
“อ๊ะ..สะ....สกาย...ซี๊ดส์!!!” ผมรู้สึกเหมือนตัวผมเต็มไปด้วยความสุขสมที่สุดเท่าที่เคยมีอะไรกับมันมา และนี่เป็นครั้งแรกที่เรามีอะไรกันในอ่างอาบน้ำซึ่งมันก็รู้แปลกดีเหมือนกัน
“ชอบไหม...ฮึ” มันพูดเสียงกระเส่าข้างๆหูผม มันขยับช่วงล่างของมันรัวไม่เป็นจังหวะจนน้ำในอ่างเริ่มกระเพื่อมและกระเด็นไปทั่ว เป็นการอบาน้ำที่แปลกไปอีก
“ชะ...ชอบ” ผมบอกมันเสียงกระเส่า เราจ้องตากันด้วยความรู้สึกที่มันอธิบายไม่ถูกมันรู้สึกดีจนไม่อาจจะละสายตาไปจากกันได้
“ซี๊ดส์!!!!” มันส่งเสียงครางออกมาทุกครั้งที่ร่างกายผมตอดรัดมันแน่นกว่าปกติ บ่งบอกได้ว่ามันคงมีความสุขกับร่างกายผมเหลือเกิน เหมือนฝันที่ผมได้มีอะไรกับมันและเป็นฝันดีที่สุดในชีวิตก็ว่าได้
“ระ...เร็วกว่านี้อีก...อ๊ะๆๆ” ผมร้องออกมาเพราะรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะปลดปล่อยมันออกมาแล้ว
“กะ...ใกล้ออกแล้วววว” มันร้องเสียงดังพร้อมกับเงยหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่าน ส่วนเอวมันก็ขยับรัวจนไม่เป็นจังหวะ
“อ๊ะ...อ้าส์!!!!” เราร้องพร้อมกันเสียงดังก้องไปทั่วทั้งห้องอาบน้ำ ผมรู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆในช่องทางของผมมันวนเวียนในนั้นเพราะไอ้คนที่นอนทับตัวผมมันยังไม่ถอนตัวออก
เสียงหายใจหอบของมันข้างๆหูผม รู้สึกได้ว่ามันเหนื่อยพอสมควรก็ใช่น่ะสิมีแรงเท่าไรก็ใส่มาหมดจนตัวผมแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆเสียให้ได้
“ลุก” ผมบอกพร้อมกับผลักไปที่อกแกร่งของมันแต่คนอย่างผมหรือจะมีแรงไปผลักมันออกได้ มันยิ่งกอดผมแน่นขึ้นแล้วยกตัวผมขึ้นจากที่นอนอยู่เป็นนั่งบนตักมันในอ่างอาบน้ำ
“ดีไหม” มันถามผม
“อื้ม” ผมได้แต่ตอบรับสั้นๆไปพูดมากไม่ได้ก็มันอายอ่ะครับ
“กูมีความสุขจัง กูขอโทษนะที่เคยเกลียดมึง เกลียดตัวตนของมึง” มันพูดขณะที่เราทั้งสองกอดกันแน่น มันพูดอย่างนี้แสดงว่าตอนนี้มันไม่ได้เกลียดผมแล้วใช่ไหมครับ เย้! ในที่สุดผมก็ทำได้แล้ว
“กูก็มีความสุข แค่มึงมีความสุขก็พอแล้วอย่างอื่นลืมมันไปซะ” ผมบอกมัน
“อีกเจ็ดวันกูมีอะไรจะบอก” มันจะบอกอะไรผมกันแน่เริ่มอยากรู้เหมือนกัน ไม่เป็นไรเอาเป็นว่าอีกเจ็ดวันผมก็จะบอกความจริงกับมันเหมือนกันผมตัดสินใจแล้ว
“อีกเจ็ดวันกูก็มีอะไรจะบอกเหมือนกัน” ผมบอกมันบ้าง
“กูจะรอ” มันว่า
“กูก็จะรอเหมือนกัน” ผมพูดแล้วก็ผละจากอ้อมกอดของมันแล้ววิดน้ำในอ่างไปที่ตัวมัน
“จะเล่นใช่มั้ยยย ฮึ” มันว่าแล้วก็วิดน้ำใส่ผมบ้างจนหัวเปียกไปหมด
“ไอ้สกายบ้า นี่แหนะ” ผมเอาคืนบ้างเราเล่นกันไปมาจนน้ำกระเด็นไปทั่วห้อง
หลังจากเล่นกันไปมาความเป็นชายของไอ้สกายมันก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง จนผมต้องสนองมันไปอีกจนกว่ามันจะพอใจ หวังว่าคืนนี้มันจะปล่อยให้ผมได้มีเวลาพักผ่อนเอาแรงบ้างนะครับ