บทที่ 17 คำว่าเพื่อน
..........
วันนี้ผมต้องรีบตื่นเป็นพิเศษ เพราะต้องรีบมาซักเสื้อผ้าให้เสร็จก่อนสิบโมงเช้า ส่วนนายโชกุนนะเหรอ กว่าจะตื่นก็ปาไปเกือบ 10 โมง...
“ตื่นได้แล้ว... นัดเราไว้แท้ๆ กลับตื่นสาย”
“ครับๆๆๆๆ” มันพูดแล้วก็ลุกงัวเงียเดินเข้าห้องน้ำ กว่ามันเสร็จสิบโมงกว่าแล้ว
“รถใครอะโชกุน”
“รถเพื่อนนะ ยืมมันมาใช้ อย่าพูดมากน่า ขึ้นรถเร็ว” (ทำไมต้องดุด้วยอะ) ว่าแล้วผมก็ขึ้นรถคันนั้น เราทั้งสองใช้เวลากว่าชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงขอนแก่น...
“มาแล้วครับแม่...”
“มาแล้วเหรอจ๊ะ...” ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้าน ดูใจดีมากๆ แถวยังดูสวยอีกต่างหาก
“แม่ครับ นี่เกมรูมเมทผม ที่เล่าให้แม่ฟังบ่อยๆ นะครับ”
“เกม นี่แม่เรา”
“สวัสดีครับ”
“ไหว้พระเถอะจ๊ะ หน้าตาน่ารักดีนะ ไปเข้าบ้านลูก เดี๋ยวร้อน... ทานอะไรกันมาหรือยังจ๊ะ”
“ยังเลยครับแม่... กำลังหิวพอดีเลยครับ”
“งั้นเดี๋ยวแม่หาอะไรให้กินแล้วกัน”
“ผมช่วยมั้ยครับ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ เดินทางมาเหนื่อยๆ ไปพักก่อนแล้วกันนะจ๊ะ”
“ครับ” นายโชกุนเลยพาผมเดินสำรวจบ้าน บ้านของมันน่าอยู่ดีครับ มีสวนหลังบ้านอากาศเย็นดี โชกุนอยู่กับแม่สองคน แม่ของโชกุนเป็นพยาบาลวิชาชีพ เพิ่งรับปริญญาโทไปหมาดๆ ไม่นานนี่เอง
“บ้านนายน่าอยู่ดีนะ”
“น่าอยู่ก็มาอยู่สิ”
“อะนะ”
“กับข้าวเสร็จแล้วจ้า...” เสียงแม่ของโชกุนเรียกเราทั้งสองไปกินข้าว
“แม่ต้องไปทำงานแล้วนะจ๊ะ จะค้างคืนหรือเปล่าวันนี้ แม้ต้องเข้าเวรซะด้วยสิ”
“ค้างครับแม่ ผมจะพาเกมทัวร์ขอนแก่นก่อน พรุ่งนี้เย็นๆ ค่อยกลับนะครับ”
“งั้นก็ดี ลูกเกมไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะจ๊ะ แม่ไปหล่ะ”
“ครับ”
“นายจะพาเราไปเที่ยวไหนอะ”
“อืม... เดี๋ยวพาไปไหว้พระ และคืนนี้ไปเที่ยวผับกัน พอดีเพื่อนเราร้องเพลงอยู่ที่นั่นนะ”
“เพื่อนที่คณะเหรอ”
“อืมมม... ไอ้อาร์นะ จำได้ป๊ะ ไอ้ที่แสดงเป็นโจรในละครถาปัดนะ”
“อ๋อ... คนขาวๆ สูงๆ นะเหรอ”
“ใช่ๆ” แล้วผมกับโชกุนก็ทานข้าวกันจนอิ่ม จากนั้นมันก็พาผมไปไหว้พระ ไหว้พระธาตุขามแก่น เป็นครั้งแรกที่ผมมาเที่ยวที่จังหวัดนี้แบบจริงๆ จังๆ รถราเยอะจนปวดหัว บรรยากาศรอบๆ บึงแก่นนครก็ร่มรื่นดี ไหว้พระเสร็จมันก็พาผมมาเดินเล่นที่บึงแป๊บนึง ก่อนจะไปที่อื่น มันพาผมไปซื้อของนิดหน่อย ก่อนที่จะกลับบ้านมัน...
..........
“พร้อมออกตระเวนราตรีเมืองขอนแก่นยังคุณหนู” นายโชกุนพูดล้อเล่นกับผม ก่อนที่เราทั้งสองจะออกจากบ้านไปยังผับดังกล่าว (ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว) เวลาขณะนั้นราวๆ 3 ทุ่มเห็นจะได้ ผู้คนในตัวเมืองขอนแก่นยังเยอะอยู่ แล้วรถของนายโชกุนก็มาจอดหน้าร้านๆ หนึ่ง ภายในร้านบรรยากาศดีมาก เป็นร้านที่ขนาดกำลังพอดี ไม่ใหญ่จนเกินไป...
“นั่งรออยู่นี่นะ เดี๋ยวเราไปสั่งเครื่องดื่มก่อน”
“อืม...” นายโชกุนหายไปซักพักก็กลับมาพร้อมกับเพื่อนเขาคนหนึ่ง ผมมองเห็นหน้าไม่ชัด แต่ก็เดาได้ว่าน่าจะเป็นเพื่อนคนที่ชื่อ อาร์
“เกม... นี่อาร์... อาร์... นี่เกมเมทกู”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เราทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน
“ไม่ยักคิดว่าคนอย่างเกมจะมาเที่ยวแบบนี้นะครับ”
“55+ โชกุนลากมาครับ”
“คงใช่ ไอ้นี่มันนักเที่ยวตัวยงเลยครับ”
“เหรอ”
“ครับ เห็นโชกุนมันพูดถึงนายหลายครั้ง ยังไม่ได้มีโอกาสคุยด้วย มีอะไรขาดเหลือก็บอกแล้วกัน”
“ครับ” ผมพูดพลางยิ้มให้เพื่อนใหม่คนนี้ เราคุยกันอยู่ได้พักนึง อาร์ก็ขอตัวไปร้องเพลง ผมกับโชกุนจึงน่งคุยกันต่อ
“นายดื่มของแบบนี้มั้ยเกม”
“อยากลองเหมือนกัน แต่อย่าเข้มนะ เรากลัวเมาอะ”
“555+ เด็กน้อยจัง”
“อะนะ.... ขอบคุณคร้าบบบ” ซักพักผมก็รู้สึกมีสายตาหลายคู่จ้องมาบริเวณที่ผมนั่ง แต่ผมก็หาเจ้าของสายตานั้นไม่เจอ รู้สึกเสียวสันหลังยังงัยไม่รู้
“เป็นไรเกม”
“เปล่า รู้สึกเหมือนมีคนจ้องเราอยู่นะ”
“เหรอ... คิดมากไปมั้ง”
“นั่นดิ” แล้วผมกับโชกุนก็สนุกกับเสียงเพลงต่อ การเที่ยวครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้ามาสถานที่แบบนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วกัน ว่ามั้ยครับ เหอๆ
เสียงเพลงยังคงขับกล่อมคนฟังเรื่อยๆ เสียงของนักร้องเพราะจริงๆ ผมชอบเสียงแบบนี้มาก ก็เลยค่อยข้างสนุกกับการฟังเพลงพอควร...
“เกม เดี๋ยวเราไปห้องน้ำแป๊บนึงนะ”
“อืม...” แล้วผมก็นั่งคนเดียว พอโชกุนลุกออกจากที่นั่งแป๊บนึงก็มีคนเดินมานั่งตรงที่ของโชกุน
“มากับเพื่อนเหรอครับ” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น ดูท่าทางไม่น่าไว้วางใจเลย
“เอ่อ... ครับ มากับเพื่อน”
“เฮ้อ... โล่งอกไปหน่อยครับ นึกว่ามากับแฟนซะอีก” สะอึกเลยกู หาว่ากูมากับแฟน
“เพื่อนครับ เห็นเพื่อนผมเป็นผู้หญิงได้ไงเนี่ยะ”
“ผมไม่ได้เห็นเพื่อนคุณเป็นผู้หญิงซะหน่อย... ผม เรียว ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ชื่อเรียวเหรอ ญี่ปุ่นจังวะ แต่หน้าตามันก็ตี๋จ๋า จริงๆ แหล่ะ แม้จะมองเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เถอะ
“ครับ ผมเกม ครับ” ผมก็พูดไปตามมารยาทแหล่ะครับ
“เกมเรียนที่ไหนเหรอครับ”
“ที่ ม......ครับ”
“ที่เดียวกันกับผมเลย ผมเรียนมนุดอิง ครับ”
“เอ่อ... ผมเรียน ฟู้ด ครับ”
“ว้าว... ท่าทางจะทำกับข้าวเก่งนะครับ ผมกำลังต้องการคนทำกับข้าวให้ทานพอดีเลย”
“...” เงียบดิครับ ไม่รู้จะพูดอะไรอีก เห็นชัดๆ ว่ามันกำลังจีบผม (หรือเปล่า)
“ผมไม่ได้ต้องแม่บ้านหรือคนรับใช้หรอกนะ แต่...”
“เกม...” เฮ้อ.... สวรรค์ทรงโปรด มีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยจนได้
“เพื่อนคุณมาแล้ว งั้นผมไม่กวนแล้วนะครับ เจอกันที่ ม. นะครับ” แล้วนายคนนั้นก็ลุกออกจากตรงนั้นไปยังกลุ่มเพื่อนของเขา
“ใคร?” นายโชกุนถาม
“ไม่รู้ อยู่ๆ ก็เข้ามาคุย”
“เขาเรียกเข้ามาจีบ ระวังตัวหน่อยดิ ดื่มอะไรจากแก้วมันหรือเปล่า”
“เปล่า”
“ดีแล้ว พวกนี้มันไว้ใจไม่ได้หรอกนะ” แล้วผมกับนายโชกุนก็นั่งคุยกันและฟังเพลงกันต่อ โดยที่สายตาที่จ้องมองผมนั้นผมยังรู้สึกได้ แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะหันกลับไปดู เดี๋ยวมันจะคิดว่าผมเล่นกับมันด้วย...
ราวๆ 5 ทุ่มกว่าๆ วงของเพื่อนนายโชกุนก็ร้องเพลงเสร็จ และเดินลงจากเวที โดยมีอีกวงขึ้นร้องต่อ...
“ว่าไงครับ เราร้องเพลงเป็นไงบ้าง”
“ก็เพราะดีนะครับ เราฟังจนเคลิ้มเลย”
“เหรอ ขอบคุณครับ... แล้วแกจะกลับ ม. วันนี้เลยเปล่าโชกุน”
“เปล่า... พรุ่งนี้เย็นๆ แม่กูอยากคุยกับเกมเขาหน่อย”
“...” อาร์ยื่นหน้าไปกระซิบนายโชกุนแล้วมองมาทางผม ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ หันไปฟังเพลงของอีกวงที่กำลังเล่นอยู่บนเวที
“ไอ้เหี้ย... ไม่ใช่ซักหน่อย”
“เฮ้ย... อย่าโกหกกูหน่อยเลย กูดูสายตามึงออกนะเว้ย”
“อย่าเอ็ดไป... เหี้ยรู้ทันกูอีกแล่ะ”
“555+ ไอ้โชกุนเอ๊ย....” แล้วสองคนนั่นก็หัวเราะกัน ผมก็ทำหน้าสงสัยครับ
“ไม่มีอะไรเกม ไอ้เหี้ยนี่ถามว่าจะไปต่อกับพวกมันมั้ย”
“ไม่เอาดีกว่า เราว่ามันดึกแล้ว แถมเรารู้สึกมึนๆ แล้วอะ เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่า”
“ครับผม ไม่เป็นไร คราวหน้ามาเที่ยวอีกนะ เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง แล้วเจอกันที่ ม. นะ เราขอตัวหล่ะ... ไปก่อนนะโชกุน” แล้วอาร์ก็เดินไปสมทบกับกลุ่มเขา ไม่นานผมกับโชกุนก็ออกจากผับนั่นเหมือนกัน...
“เป็นไงเกม”
“ก็ สนุกดี ประสบการณ์ดีๆ”
“อืม...”
“นายขับไหวมั้ยอะ”
“ไหวๆ เราไม่ได้มาวซักหน่อย” มันพูดและก็ทำท่าทางเหมือนขี้เหล้านะครับ
“55+”
แล้วผมกับโชกุนก็มาถึงบ้านด้วยสวัสดีภาพ
“อาบนำก่อนมั้ยเกม... อะผ้าเช็ดตัว” ว่าแล้วมันก็ยื่นผ้าเช็ดตัวให้ผมแล้วล้มตัวนอนบนเตียง ผมเลยเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อชำระกลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหล้าที่ติดตัวผม...
“โชกุน... ลุกไปอาบน้ำ”
“คร้าบบบบบ” แล้วมันก็งัวเงียไปอาบน้ำ เสร็จแล้วมันก็ออกมาแต่งตัวแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที
“โชกุน...”
“อะไร...”
“มีที่นอนปิ๊กนิกมัยอะ”
“จะเอาไปทำไม”
“ก็ปูนอนข้างล่างนะ”
“ไม่มี... มานอนบนเตียงด้วยกัน เตียงออกจะใหญ่”
“เอ่อ...”
“มานอน ปิดไฟด้วย...” มันทำเสียงดุ จนผมไม่มีข้อโต้แย้งครับ เฮ้อ... เอาวะ นอนก็นอน แล้วผมก็เดินไปปิดไฟและกลับมานอนบนเตียงกับมัน ล้มตัวลงนอนได้ไม่นานผมก็หลับด้วยความเพลียทันที...
..........
‘เสียงอะไรว่ะ หนวกหูจัง... โอย... ทำไมมันปวดหัวอย่างนี้ว่ะ’ ผมคิดในใจ ก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ภายนอกหน้าต่างสว่างแล้ว
‘เออ... เมื่อคืนกินเหล้านี่หว่า ไม่เอาอีกแล้ว’ ผมคิดพลางจะพลิกตัวเพื่อลุก ก็รู้สึกได้ว่ามีคนนอนกอดผมจากข้างหลัง กอดผมไว้ซะแน่นเชียวครับ จะมีใครอีกหล่ะ ในห้องนี้มีผมกับโชกุนสองคนเท่านั้นนี่หน่า...
“อรุณสวัสดิ์ครับ...” เสียงนายโชกุนดังขึ้นใกล้ๆ หูผม สะดุ้งสิครับ ขนลุกเลยอะ...
“เอ่อ... อรุณสวสัดิ์เช่นกัน” ผมพูดพลางแกะมือมันออก แต่มันไม่ยอมแฮะ
“เอ่อ... โชกุน เราจะไปล้างหน้านะ”
“อย่าเพิ่งดิ อากาศยังหนาวอยู่ นอนซักพักก่อนนะ”
“...” ไม่รู้จะพูดอะไรต่อครับ ทำไมมันต้องกอดผมด้วยอะครับ ฮือๆๆๆ คิดไม่ออกอะ
“โชกุน...”
“อะไร บอกให้นอนไง ยังเช้าๆ อยู่เลย”
“เราปวดฉี่อะ”
“อ้าวเหรอ...” แล้วมันก็ปล่อยผมเป็นอิสระ ผมจึงเดินเข้าห้องนำ ทำธุระทุกอย่าง ก่อนจะออกจากห้องน้ำ พออกมาก็เห็นไอ้หัวสิงโตนั่งยิ้มหน้าแป้นอยู่บนเตียง...
“เข้านานจัง นึกว่าเป็นอะไรไปแล้วซะอีก” มันพูดพลางเดินเข้าห้องน้ำไป ผมจึงเดินลงไปข้างล่างแล้วเข้าครัวสำรวจของในตู้เย็น มีของสดอยู่บ้าง เลยลงมือทำกับข้าว 2-3 อย่าง ก่อนเดินไปเรียกมันลงมากินด้วยกัน...
“กลับมาแล้วจ้าเด็กๆ” เสียงของแม่นายโชกุนดังขึ้น ผมจึงเดินไปเปิดประตูให้ท่าน
“เป็นไงบ้างจ๊ะ ลูกชายแม่พาไปเกเรที่ไหนบ้าง ดื่มเหล้าหรือเปล่านิ”
“นิดหน่อยครับคุณแม่... คุณแม่ทานอะไรมาหรือยังครับ”
“ยังเลยจะ แม่ว่าจะซื้อกับข้าวเข้ามาก็ลืมสนิทเลย... เอ๊ะ หอมอะไรนะ หอมน่าทานจัง”
“ผมทำกับข้าวสองสามอย่างนะครับ ขอโทษที่ใช้ห้องครัวนะครับ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ ทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอเรา น่ารักจริงๆ ไม่เหมือนไอ้ลูกชายแม่ ไม่เอาไหนซะเลย”
“นินทาอะไรผมคร้าบบ... อรุณสวัสดิ์ครับแม่”
“จ้า... จะ 10 โมงแล้วจ๊ะพ่อลูกชาย เดี๋ยวเก็บของแป๊บนะจ๊ะ” แล้วคุณแม่ของโชกุนก็เดินเอาของไปเก็บโดยมีโชกุนถือของช่วย ส่วนผมก็ไปเตรียมโต๊ะอาหารให้พร้อม ก่อนคู่แม่ลูกจะเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร...
“กับข้าวน่ากินมากจ๊ะ... หอมด้วย ดูไว้โชกุน เพื่อนเราเก่งแค่ไหน”
“โหยแม่ มีคนทำให้กินผมจะหัดทำทำไมเล่า” แล้วผมและแม่ลูกคู่นั้นก็ทานข้าวด้วยกัน
“อร่อยมากเลยจ๊ะ มิน่าดูลูกชายแม่มีเนื้อหนังมากกว่าเดิม มีคนดูแลมันดีนี่เอง”
“ไม่เท่าไหร่ครับ นานๆ ผมถึงจะได้ทำอะไรให้โชกุนเขากินนะครับคุณแม่ มีเวลาไม่เท่ากันนะครับ”
“จ๊ะ… เก็บไปล้างซะโชกุน”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ... ไปโชกุน เอาไปล้าง”
“คร้าบบบบ” แล้วนายโชกุนก็เก็บถ้วยชามไปล้าง ส่วนผมก็โดนคุณแม่ของโชกุนพาไปคุยกันที่ข้างบ้าน...
“โชกุนอยู่โน่นเป็นไงบ้างลูกเกม”
“ก็เป็นเด็กดีครับ เพียงแต่ไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไหร่ครับ”
“อืม... อย่างนี้แหล่ะ แม่ก็เตือนเขาตลอดให้หัดดูแลตัวเองหน่อย เมื่อวันก่อนโชกุนโทรมาบอกแม่เรื่องที่ไม่สบาย แม่ขอบใจนะที่ดูแลลูกชายตัวดีของแม่นะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“เห็นโชกุนว่าเราเช็ดตัวให้มันด้วย อาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ตัวเขาร้อนมากนะครับ ผมกลัวเขาช็อกก็เลยต้องเช็ดตัวเพื่อให้ไข้เขาลดนะครับ”
“อืม... รู้เรื่องการปฐมพยาบาลดีนี่เรานะ”
“ก็ไม่เท่าไหร่ครับ พอดีผมเคยเจอกับตัวเองเรื่องตัวร้อนแล้วช็อกนะครับ ก็เลยจำได้ว่าต้องเช็ดตัวให้ไข้ลดนะครับ”
“จ๊ะ... แล้วลูกเกมว่าโชกุนลูกแม่เป็นไงจ๊ะ”
“ก็... ดีครับ”
“เหรอจ๊ะ”
“ครับ” ไม่รู้จะพูดอะไรครับ ไม่รู้ด้วยแหล่ะว่าคุณแม่ของโชกุนต้องการอะไร
“แม่ดูสายตาของลูกชายแม่ออกนะ เวลาที่มันมองลูกเกมนะ”
“เอ่อ...”
“ตอนกินข้าว แม่ก็สังเกตว่าโชกุนมันจะมองลูกเกมเวลาทานข้าวตลอด”
“...”
“ไม่มีใครเขาทำอย่างนี้หรอกนะจ๊ะ”
“...” เหอๆ พูดไม่ออกครับ แต่ท่านยังยิ้มอยู่นะ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะผมเชื่อว่าผมกับโชกุนเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าคุณแม่เขาต้องการอะไรเท่านั้นเอง...
“ไม่ต้องเครียดหรอกจ๊ะ แม่จะดีใจมากเลยนะถ้าได้ลูกเกมมาเป็นลูกอีกคน อย่างน้อยแม่ก็หายห่วงที่มีคนดูแลลูกชายจอมเกเรของแม่ได้...
...ไม่ตลกในสิ่งที่แม่พูดใช่มั้ยจ๊ะ พ่อของโชกุนเป็นผู้ชายเจ้าชู้ ทำผู้หญิงร้องไห้มาเยอะ แม่ไม่อยากให้ลูกชายแม่ต้องเป็นผู้ชายแบบพ่อเขา เพราะฉะนั้นถ้าโชกุนได้ลูกเกมมาเป็นแฟน แม่จะดีใจมากเลยนะ แต่ถ้ามันไปเอากะเทยแม่ก็ไม่ยอมหรอกนะ” (ผมไม่ได้ดูถูกกะเทยนะครับ) เหอๆ คุณแม่จีบแทนลูกเหรอเนี่ยะ เอาหล่ะสิครับ ผมไม่รู้จะพูดอะไร
“ลำบากใจมั้ยจ๊ะ หรือว่ารังเกียจจ๊ะ”
“เปล่าครับ เพียงแต่ว่า มันกะทันหันไปนะครับ”
“เหรอจ๊ะ ไม่เป็นไร คบกันเรื่อยๆ ก่อนก็ได้”
“เอ่อ....”
“จ๊ะ?” ตายๆๆๆๆ จะเอาไงดีว่ะกู น้ำท่วมปากมันเป็นอย่างนี้นี่เอง...
“คุยอะไรกันครับ ท่าทางสนุกเชียว” นายโชกุนเดินเข้ามาตรงที่ผมกับคุณแม่เขาคุยกันอยู่
“เปล่าจ๊ะ แม่แค่คุยเรื่องเปิ่นๆ ของเราให้เกมเขาฟังเท่านั้นแหล่ะจ๊ะ”
“คุณแม่เผาผมอีกแล้ว” เฮ้อ... โล่งอกไปที อย่างน้อยบรรยากาศอึดอัดแบบนั้นก็ผ่านไป แม้จะไม่ทีเดียวก็ตาม ผมกับโชกุนอยู่อีกซักพัก ราวๆ บ่ายโมงเราจึงขอตัวกลับ ม.
“แล้วผมจะมาเยี่ยมอีกนะครับ”
“จ้า... มาเที่ยวบ่อยๆ นะจ๊ะ แม่ถูกชะตากับเราจริงๆ”
“สวัสดีครับ” ผมและโชกุนจึงเดินขึ้นรถ
“อย่าลืมที่แม่พูดนะจ๊ะ ลูกเกม” ท่านพูดแล้วก็ยิ้ม ก่อนที่โชกุนจะออกรถไป
“เรื่องอะไรเหรอเกม”
“เปล่า ไม่มีอะไร” กูจะบอกมึงได้เหรอว่าแม่มึงอยากได้กูเป็นลูกสะใภ้นะ ตายๆๆๆ ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก เกมเอ๊ย.... ทำไงดีเนี่ย ส่วนนายโชกุนก็ยิ้มอย่างมีความสุข ความสุขอะไรว่ะ กูหล่ะปวดหัวจริงๆๆๆๆ.........
..........
เรื่องนี้ลงตอนเดียวนะครับ พอดีรีบไปทำธุระครับผม
นายเต้ขี้เหร่อย่างแรงครับผม