1
Boy's love story / Re: ทีเซอร์ - teaser อิฐ - นุ่น 24_5_2567
« กระทู้ล่าสุด โดย KADUMPA เมื่อ 24-05-2024 11:29:02 »Teaser อิฐ - นุ่น
“ตอนนี้ผมมั่นใจแล้ว ว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง” นุ่นส่งเสียงแบบเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินจากอีกฝ่าย “คุณคิดว่าคุณตัดสินใจถูกอยู่คนเดียวงั้นสิ” อิฐทำหน้าตาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ที่ได้ยินคนรักที่อยู่ด้วยกัน มากว่าสิบปีของเขาพูดออกมาแบบนั้น “อ้าว มันก็แหงอยู่แล้ว ก็หรือไม่จริง เท่าที่อยู่ด้วยกันมา มีเรื่องไหนบ้าง ที่ผมตัดสินใจให้เราสองคน แล้วมันผิดบ้าง” เจอประโยคนี้เข้าไป อิฐก็ทำท่าอึกอัก คิดว่ามีเรื่องไหนบ้างที่ผ่านมา
“นั่นแหละ มันก็ต้องมีบ้าง แต่เผอิญผมไม่ได้เป็นคนยิบย่อยหยุมหยิม เก็บเอามาคิด เอามาเป็นอารมณ์ไปซะทุกเรื่อง” อิฐได้ที จี้จุดที่เขาเองนั้น รู้จักนุ่นดี ว่าอีกฝ่ายจะต้องปรี๊ดขึ้นมาในทันที “ใครผมเนี่ยนะ ที่หยุมหยิม ยิบย่อย” มาตอนนี้ เป็นที่นุ่นที่หน้าตาแสดงความหงุดหงิดออกมาอย่างที่สุด “ตุ๊กตุ่น แกดูพ่อแกนะ หาเรื่องกันตลอด เป็นอย่างนี้ไม่เคยเปลี่ยน” เด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปีที่นั่งมองผู้ชายสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่ตรงหน้า ลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“ตุ่น แกควรจะต้องดูที่ป๊าแกทำมากกว่า ขี้งอนก็ที่หนึ่ง เอะอะ ๆ งอน ๆๆ” เสียงล้อเลียนพร้อมท่าทางเลียนแบบที่พ่อทำท่าทางของป๊า เด็กหนุ่มคิดในใจ ว่ามันก็เหมือนอยู่นะ “แล้วทีพ่อแกล่ะ ยังไม่ทันฟังอะไรให้ดีซะก่อน ก็เสียงดังเข้าใส่คนอื่นเขาแล้ว” อันนี้เด็กหนุ่มก็จำได้ดี ว่าเขาเองก็โดนมาอยู่บ่อยครั้ง ตุ๊กตุ่นมองดูพ่อและป๊า คู่รักที่เฝ้าเลี้ยงดูฟูมฟักเขามาตั้งแต่จำความได้ กำลังฮึดฮัดใส่กัน ไม่มีใครยอมใคร
“ผมมีเหตุผลถึงได้เสียงดังใส่” อิฐไม่ยอมในเรื่องนี้ “มีเหตุผล ฮึ” นุ่นแค่นเสียงใส่ “เหตุผลอะไรไม่ทราบ” นุ่นจ้องตากลับแบบต้องการคำอธิบาย “ก็รู้ ๆ กันอยู่” อิฐเองก็มองกลับคู่ชีวิตของตัวเองในแบบที่ นุ่นน่าจะรู้ตัวดีอยู่แล้ว “อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า” นุ่นว่ากลับอิฐเข้าให้ อิฐทำหน้าตาขึงขังกลับเช่นกัน “ว่าผมไม่ดี ๆ แต่ก็ใช้มันมาเป็นสิบปี” อิฐยิ้มที่มุมปาก แสดงความภูมิใจลึก ๆ อยู่ในรอยยิ้มนั้น
“ก็มันมีให้ใช้อยู่อันเดียว” นุ่นตอบกลับไปทันทีเช่นกัน ตุ๊กตุ่นหลับตาปี๋ เมื่อรู้ว่ากำลังจะได้ยินอะไรต่อจากนี้ “และมันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลยสักนิด” อิฐหน้าแดงขึ้นมาในทันที มันเป็นความแดงในแบบที่ผู้ชายหยามกันไม่ได้ “คนเราต้องคิดบ้างนะ” อิฐตาหรี่ตาลงตอนพูด “ว่าตัวเองมันหลวมเองหรือเปล่า” ถึงตาที่นุ่นต้องมองอิฐตาเขียวปั้ด
“ตุ๊กตุ่น” นุ่นเรียกชื่อลูกชายออกมา “ครับ” เด็กหนุ่มขานรับป๊าของเขา “เลือกมา ระหว่างพ่อแกกับป๊า แกจะอยู่กับใคร” นุ่นถามน้ำเสียงเฉียบขาด “ตุ่น แกอยู่กับพ่อน่ะดีแล้ว” เด็กหนุ่มกะพริบตาถี่ ๆ หันไปทางผู้เป็นพ่อของเขา โอ๊ย เด็กหนุ่มตะโกนลั่นอยู่ในใจ นี่ก็พ่อผู้ให้กำเนิด นั่นก็ป๊าที่ป้อนน้ำป้อนนม ฟูมฟักเขามาตั้งแต่เล็ก และรักเขามากกว่าใคร
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” ตุ๊กตุ่นคงถูกสังเกตได้ว่านั่งเงียบ ๆ ทำหน้าเครียดตั้งแต่มาถึง แฟนสาวของเขาเลยถามขึ้น เมื่อเธอเดินมานั่งลงที่ข้าง ๆ กันที่บนโซฟา “นี่มันชัด จนเจนดูออกเลยหรือ” ตุ๊กตุ่นหันไปพูดกับเจน ที่ตาจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์ ส่วนมือก็กดรีโมทคอนโทรล เปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อย ๆ เหมือนกับไม่ได้ตั้งใจว่าจะดูอะไรเป็นพิเศษ
“อืม” เจนตอบกลับมาแบบสั้น ๆ ส่วนในใจของตุ๊กตุ่นกำลังคิดว่า เขาจะพูดมันออกไปยังไงดี “ตุ่นมีอะไรหนักใจ ก็เล่าให้เจนฟังได้นะ” เสียงพูดของเจนแสดงความห่วงใยในตัวแฟนหนุ่มออกมา ตุ๊กตุ่นได้ยินแบบนั้น ก็พยายามเรียบเรียงเรื่องราวที่อยู่ในหัว ว่าเขาควรจะเล่าออกไปให้แฟนสาวฟังยังไงดี
“คือที่บ้านของตุ่น” ตุ๊กตุ่นเริ่มเล่าเรื่องที่กำลังหนักใจอยู่ออกไป “ที่บ้านตุ่นเขากำลังมีปัญหากัน” เด็กหนุ่มอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้น มันอธิบายออกไปง่ายกว่านี้ “เหมือนที่บ้านเขากำลังจะเลิกกัน” ตุ๊กตุ่นบอกแฟนสาวออกไป แล้วก็มองดูปฏิกิริยาจากเจน ว่าเธอจะมีทีท่าอย่างไร เจนหันมามองแฟนหนุ่มแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างเดิม มือก็กดรีโมทเปลี่ยนช่องไปมา
“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนี่นา ใคร ๆ ก็เลิกกันได้” เจนพูดออกมาด้วยท่าทีเรียบเฉย “คนที่เขาอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็แค่แยกจากกันไป ดีกว่าต้องทนอยู่ด้วยกันตั้งเยอะ แบบนั้นหัวจะปวด” เจนบอกตุ๊กตุ่นไปแบบที่เธอคิด “ตุ่นเองก็จะได้ไม่เสียสุขภาพจิตด้วย คิดถึง ก็แค่ไปหา ดีกว่าจะต้องมานั่งเห็นพวกเขาทะเลาะกันให้ดู” เจนพูดต่อ ตุ๊กตุ่นนิ่งเงียบฟัง
“เวลาคัม ทู เดอะ เวิลด์” เจนทำพูดติดตลก กดรีโมทอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนช่อง “ใคร ๆ เขาก็เลิกกันได้ พ่อกับแม่เธอก็ไม่ต่างกันหรอก” จบประโยคนั้น บนหน้าจอทีวี ก็มีข่าวสั้นมาพอดี มันเป็นข่าวเรื่องที่คู่รักเพศเดียวกันชาวต่างชาติ กำลังฟ้องร้องขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกสาว เด็กหญิงวัยแบเบาะ ที่กำลังเป็นข่าวใหญ่โตอยู่ในขณะนี้พอดี
“ยังไงก็ดีกว่าคนพวกนี้แน่นอน” เจนพูดขึ้น ตุ๊กตุ่นมองไปที่หน้าจอโทรทัศน์ ก่อนจะใจเต้นแรงขึ้น เมื่อได้ยินเจนพูดต่อไปว่า “แบบนี้ น่าสงสารเด็กจะตาย เจนไม่ได้ต่อต้านพวกโฮโมหรอกนะ แต่ยังไงธรรมชาติก็สร้างผู้หญิงให้คู่กับผู้ชาย เพศเดียวกันแบบคู่เกย์นี่ จะเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่ง ให้โตมาเป็นคนดีได้ยังไง เผลอ ๆ นะ ถ้าเลี้ยงเด็กผู้ชาย ก็ทำให้เด็กโตมาแบบเพี้ยน ๆ ผิดเพศเหมือนตัวเองนั่นแหละ เป็นภาระปัญหาสังคมไปอีก” ตุ๊กตุ่นในตอนนี้ เขารู้สึกหน้าชา เนื้อตัวเต้นยิบ ๆ ไปหมด ใจของเขาเต้นแรงมากกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินแฟนสาวพูดออกมา
นุ่นที่นั่งใช้ปลายนิ้วไล้ไปบนขอบแก้วกาแฟเย็นชืด ที่ชงเอาไว้ตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาแขวนผนัง มันบอกเวลาว่าเริ่มค่ำแล้ว นุ่นเองก็นั่งรอ ตั้งแต่ที่ลูกชายคนเดียวของเขา ผลุนผลันออกจากบ้านไป จนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นกลับมา เขามองไปที่โทรศัพท์มือถือ ที่จับแล้วจับอีก แต่ก็ได้แต่วางมันลง ไม่กล้าโทรหา ในใจกลัวไปหมดทุกอย่าง
อิฐที่สังเกตเห็นอาการนั้นของนุ่น ก็เข้าใจได้ดี เดินถือแก้วกาแฟที่เพิ่งชงใหม่หอมกรุ่น เดินมานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร นุ่นหันมามองอิฐ ก่อนจะใช้มือดันโถใส่น้ำตาลไปที่ด้านหน้าของอิฐช้า ๆ อิฐแอบยิ้มอยู่ในหน้า ก่อนจะเปิดฝาขวดโหลน้ำตาลทราย ใช้ช้อนตักมันใส่ถ้วยกาแฟ คนช้า ๆ ให้น้ำตาลละลาย สายตามองไปที่นุ่นที่อีกฝ่ายเอง ก็มองกลับมา
“เย็นแล้ว ปกติตุ๊กตุ่นจะโทรหา ถ้าจะกลับดึก” น้ำเสียงของนุ่นกำลังเป็นห่วงลูกมาก ตุ๊กตุ่นเองนั้น กำลังปิดประตูบ้านลงแบบเบา ๆ ได้ยินเสียงพ่อกับป๊าคุยกันที่ในห้องครัวพอดี เด็กหนุ่มค่อย ๆ ย่องไปหยุดยืนฟัง “เดี๋ยวลูกก็กลับมา” อิฐพูดแบบปลอบใจอีกฝ่าย ที่ได้แต่พยักหน้ารับ สีหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารู้สึกผิดในใจ
“ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ลูกเลือกเลยนะ” นุ่นเอ่ยปากออกไปในที่สุด “ผมขอโทษนะอิฐ” นุ่นพูดด้วยความรู้สึกผิดจริง ๆ “ลูกมันเลือกไม่ได้หรอก” อิฐพูดออกไปแบบคนที่รู้จักลูกชายของตัวเองดี ตุ๊กตุ่นยืนเอาหลังพิงผนังห้อง แอบฟังพ่อและป๊าคุยกันต่อ “นุ่นเลี้ยงลูกมาดีพอใช่มั้ย” นุ่นถามอิฐออกไป ด้วยเสียงที่สั่นน้อย ๆ ตุ๊กตุ่นพยักหน้าให้กับคำถามนั้นของป๊า
“เทอมล่าสุด มันได้เกรดเฉลี่ยสี่จุดศูนย์ศูนย์นะ” ตุ๊กตุ่นจำได้ดี ที่ป๊าไปรับรอส่งเขาทุก ๆ ที่ ที่เด็กหนุ่มอยากไปเรียนเพิ่มหรือสนใจ โดยไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อยหรือรำคาญเลยสักครั้ง ตอนนั้นมีบางเรื่องที่ป๊านุ่นอยากให้เขาเรียนเพิ่ม ตุ๊กตุ่นก็เรียนให้อย่างขัดไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อยากทำ มาตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ถึงความหวังดีของป๊าที่มีให้
“ใจไม่ได้อยากจะบังคับเขาเลย แต่ไม่อยากให้เขาพลาดโอกาสเหมือนกับที่เราเคยเจอมา” อิฐเข้าใจกับสิ่งที่นุ่นพูด “โดยเฉพาะเรื่องนั้น” อิฐยื่นมือไปบีบมือของนุ่นเบา ๆ เมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตของเขาพูดเรื่องที่พลาดงานสำคัญในอาชีพไป เพียงเพราะเรื่องที่มีคู่ครองเป็นผู้ชายด้วยกัน “เราเลยต้องเลิกกันด้วยเรื่องนี้น่ะนะนุ่น” อิฐถามออกไป น้ำเสียงของเขาก็สั่นด้วยเช่นกัน ตุ๊กตุ่นรู้สึกโหวง ๆ ในใจที่ได้ยินป๊าพูดแบบนั้น
“ลูกมีแฟนแล้วนะอิฐ” นุ่นพูด น้ำตารื้นขึ้นคลอหน่วย “ต่อไปก็ต้องแต่งงาน” นุ่นพูดต่อ “ให้มีเพียงแค่พ่อเจ้าบ่าว เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวก็พอ ผมไม่อยากให้ลูกต้องพลาดสิ่งดี ๆ ในชีวิตไปเพราะผม” ตุ๊กตุ่นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวก ๆ “คุณก็เห็นแล้ว ว่าแฟนลูก โพสต์อะไรบ้างในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับเรื่องนี้” อิฐบีบมือของนุ่นแน่นขึ้น ส่งผ่านความรู้สึกที่เข้าใจดีและไม่เข้าใจเลยพร้อม ๆ กัน
ตุ๊กตุ่นลำดับภาพตั้งแต่เด็กจนโต นี่คงเป็นเหตุผลที่ป๊านุ่นของเขาไม่เคยแสดงตัวใด ๆ ที่โรงเรียน มีเพียงพ่ออิฐที่รับหน้าที่นั้น แต่ป๊าคือแรงผลักดันสำคัญอยู่เบื้องหลัง ตุ๊กตุ่นรู้ว่าป๊ารักเขามากแค่ไหน กับสิ่งที่ป๊าเฝ้าเพียรทำมันตลอดมา วันแล้ววันเล่า ก่อนจะต้องมาได้ยินว่า พ่อกับป๊าจะปล่อยมือจากกันเพราะสาเหตุนี้
*****************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดย Jay J
ไม่ปล่อยมือ Billkin x PP Krit
https://www.youtube.com/watch?v=cHVLOdpiwU8
โลกหมุนไป
The world spins
โดยที่เราไม่รู้ตัว
Not noticing it
สิ่งรอบรอบตัวก็ยังเปลี่ยนได้ทุกนาที
Things around us change almost every minute
บางทีความรักของเรา
Maybe our love
ก็เดาอะไรไม่ได้ดังใจ
We can’t predict or direct it
จะผิดจะพลั้งต้องลองกันไป
We can try just to make it work
บนหนทาง
On the road
มีอะไรที่แน่นอน
What seems to be certain?
ที่เคยคบวันก่อนเลิกกันง่ายง่ายก็มี
They were together the other day, now they’re not
บางทีชีวิตคนเรา
Sometimes our life
อาจเจอเส้นทางให้เดินเป็นร้อยเป็นพัน
See thousands of different paths lie down ahead of us
ต่างคิดต่างฝัน
Many dreams, alternative ones
ฉันก็แค่รู้ว่ามีแต่เธอที่อยู่ในใจ
All I know is only you within my heart
ฉันก็แค่รู้ว่าเธอคนเดียวที่มีความหมาย
All I care is you with all the meanings
ไม่จำเป็นต้องรู้สุดท้ายเป็นไง
Don’t need to know how the end will be
รู้แค่พรุ่งนี้จะเป็นเมื่อวานเมื่อผ่านเวลา
Realize only that tomorrow will be the past when time changes
รู้แค่ไม่ต้องสัญญาอะไรให้กันวันนี้
Just knowing promises are not needed today
มีกันและกัน
There, you and me
ไม่ว่าจะร้ายดี
For better or worse
เพียงแต่เราต่างคนไม่ปล่อยมือ
That we don’t let go our hands
ออกก้าวไป
Take a leap
ตามที่ใจเราต้องการ
However our hearts desire
อาจมีที่ไกลห่างแยกเดินกันคนละทาง
Though there may be times, we take each own separate avenues
แค่เพียงลึกลึกในใจ
Deep down inside
จะยังจดจำเรื่องราวที่สองเรามี
Memories of us still remain
เก็บไว้อย่างดี
Well kept alive
ฉันก็แค่รู้ว่ามีแต่เธอที่อยู่ในใจ
All I know is only you within my heart
ฉันก็แค่รู้ว่าเธอคนเดียวที่มีความหมาย
All I care is you with all the meanings
ไม่จำเป็นต้องรู้สุดท้ายเป็นไง
Don’t need to know how the end will be
รู้แค่พรุ่งนี้จะเป็นเมื่อวานเมื่อผ่านเวลา
Realize only that tomorrow will be the past when time changes
รู้แค่ไม่ต้องสัญญาอะไรให้กันวันนี้
Just knowing promises are not needed today
มีกันและกัน
There, you and me
ไม่ว่าจะร้ายดี
For better or worse
จะพบหรือเจออะไร
Whatever we are facing together
ไม่ว่าจะร้ายดี
For better or worse
เพียงแต่เราต่างคนไม่ปล่อยมือ
That we don’t let go our hands
บางครั้งเราก็ห่างกันไกล
Sometimes we are far away
และบางครั้งเราก็ต่างทางเดิน
Sometimes we take different turns
แต่สิ่งที่สำคัญ
The most important thing is
มันคือความในใจที่จะไม่เปลี่ยนไป
What we feel in our hearts, they won’t change
บางครั้งเราก็ห่างกันไกล
Sometimes we are far apart
และบางครั้งเราก็ต่างทางเดิน
Sometimes we’re on different journeys
แต่สิ่งที่สำคัญ
What important is
มันคือความในใจที่จะไม่เปลี่ยนไป
The feelings inside, they’re still the same
ฉันก็แค่รู้ว่ามีแต่เธอที่อยู่ในใจ
All I know is only you within my heart
ฉันก็แค่รู้ว่าเธอคนเดียวที่มีความหมาย
All I care is you with all the meanings
ไม่จำเป็นต้องรู้สุดท้ายเป็นไง
Don’t need to know how the end will be
รู้แค่พรุ่งนี้จะเป็นเมื่อวานเมื่อผ่านเวลา
Realize only that tomorrow is the past when time comes
รู้แค่ไม่ต้องสัญญาอะไรให้กันวันนี้
Just knowing promises are not needed today
มีกันและกัน
There, you and me
ไม่ว่าจะร้ายดี
For better or worse
จะพบหรือเจออะไร
Whatever we are going through together
เพียงแต่เราต่างคนไม่ปล่อยมือ
Just make sure we still hold our hands
“ตอนนี้ผมมั่นใจแล้ว ว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง” นุ่นส่งเสียงแบบเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินจากอีกฝ่าย “คุณคิดว่าคุณตัดสินใจถูกอยู่คนเดียวงั้นสิ” อิฐทำหน้าตาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ที่ได้ยินคนรักที่อยู่ด้วยกัน มากว่าสิบปีของเขาพูดออกมาแบบนั้น “อ้าว มันก็แหงอยู่แล้ว ก็หรือไม่จริง เท่าที่อยู่ด้วยกันมา มีเรื่องไหนบ้าง ที่ผมตัดสินใจให้เราสองคน แล้วมันผิดบ้าง” เจอประโยคนี้เข้าไป อิฐก็ทำท่าอึกอัก คิดว่ามีเรื่องไหนบ้างที่ผ่านมา
“นั่นแหละ มันก็ต้องมีบ้าง แต่เผอิญผมไม่ได้เป็นคนยิบย่อยหยุมหยิม เก็บเอามาคิด เอามาเป็นอารมณ์ไปซะทุกเรื่อง” อิฐได้ที จี้จุดที่เขาเองนั้น รู้จักนุ่นดี ว่าอีกฝ่ายจะต้องปรี๊ดขึ้นมาในทันที “ใครผมเนี่ยนะ ที่หยุมหยิม ยิบย่อย” มาตอนนี้ เป็นที่นุ่นที่หน้าตาแสดงความหงุดหงิดออกมาอย่างที่สุด “ตุ๊กตุ่น แกดูพ่อแกนะ หาเรื่องกันตลอด เป็นอย่างนี้ไม่เคยเปลี่ยน” เด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปีที่นั่งมองผู้ชายสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่ตรงหน้า ลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“ตุ่น แกควรจะต้องดูที่ป๊าแกทำมากกว่า ขี้งอนก็ที่หนึ่ง เอะอะ ๆ งอน ๆๆ” เสียงล้อเลียนพร้อมท่าทางเลียนแบบที่พ่อทำท่าทางของป๊า เด็กหนุ่มคิดในใจ ว่ามันก็เหมือนอยู่นะ “แล้วทีพ่อแกล่ะ ยังไม่ทันฟังอะไรให้ดีซะก่อน ก็เสียงดังเข้าใส่คนอื่นเขาแล้ว” อันนี้เด็กหนุ่มก็จำได้ดี ว่าเขาเองก็โดนมาอยู่บ่อยครั้ง ตุ๊กตุ่นมองดูพ่อและป๊า คู่รักที่เฝ้าเลี้ยงดูฟูมฟักเขามาตั้งแต่จำความได้ กำลังฮึดฮัดใส่กัน ไม่มีใครยอมใคร
“ผมมีเหตุผลถึงได้เสียงดังใส่” อิฐไม่ยอมในเรื่องนี้ “มีเหตุผล ฮึ” นุ่นแค่นเสียงใส่ “เหตุผลอะไรไม่ทราบ” นุ่นจ้องตากลับแบบต้องการคำอธิบาย “ก็รู้ ๆ กันอยู่” อิฐเองก็มองกลับคู่ชีวิตของตัวเองในแบบที่ นุ่นน่าจะรู้ตัวดีอยู่แล้ว “อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า” นุ่นว่ากลับอิฐเข้าให้ อิฐทำหน้าตาขึงขังกลับเช่นกัน “ว่าผมไม่ดี ๆ แต่ก็ใช้มันมาเป็นสิบปี” อิฐยิ้มที่มุมปาก แสดงความภูมิใจลึก ๆ อยู่ในรอยยิ้มนั้น
“ก็มันมีให้ใช้อยู่อันเดียว” นุ่นตอบกลับไปทันทีเช่นกัน ตุ๊กตุ่นหลับตาปี๋ เมื่อรู้ว่ากำลังจะได้ยินอะไรต่อจากนี้ “และมันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลยสักนิด” อิฐหน้าแดงขึ้นมาในทันที มันเป็นความแดงในแบบที่ผู้ชายหยามกันไม่ได้ “คนเราต้องคิดบ้างนะ” อิฐตาหรี่ตาลงตอนพูด “ว่าตัวเองมันหลวมเองหรือเปล่า” ถึงตาที่นุ่นต้องมองอิฐตาเขียวปั้ด
“ตุ๊กตุ่น” นุ่นเรียกชื่อลูกชายออกมา “ครับ” เด็กหนุ่มขานรับป๊าของเขา “เลือกมา ระหว่างพ่อแกกับป๊า แกจะอยู่กับใคร” นุ่นถามน้ำเสียงเฉียบขาด “ตุ่น แกอยู่กับพ่อน่ะดีแล้ว” เด็กหนุ่มกะพริบตาถี่ ๆ หันไปทางผู้เป็นพ่อของเขา โอ๊ย เด็กหนุ่มตะโกนลั่นอยู่ในใจ นี่ก็พ่อผู้ให้กำเนิด นั่นก็ป๊าที่ป้อนน้ำป้อนนม ฟูมฟักเขามาตั้งแต่เล็ก และรักเขามากกว่าใคร
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” ตุ๊กตุ่นคงถูกสังเกตได้ว่านั่งเงียบ ๆ ทำหน้าเครียดตั้งแต่มาถึง แฟนสาวของเขาเลยถามขึ้น เมื่อเธอเดินมานั่งลงที่ข้าง ๆ กันที่บนโซฟา “นี่มันชัด จนเจนดูออกเลยหรือ” ตุ๊กตุ่นหันไปพูดกับเจน ที่ตาจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์ ส่วนมือก็กดรีโมทคอนโทรล เปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อย ๆ เหมือนกับไม่ได้ตั้งใจว่าจะดูอะไรเป็นพิเศษ
“อืม” เจนตอบกลับมาแบบสั้น ๆ ส่วนในใจของตุ๊กตุ่นกำลังคิดว่า เขาจะพูดมันออกไปยังไงดี “ตุ่นมีอะไรหนักใจ ก็เล่าให้เจนฟังได้นะ” เสียงพูดของเจนแสดงความห่วงใยในตัวแฟนหนุ่มออกมา ตุ๊กตุ่นได้ยินแบบนั้น ก็พยายามเรียบเรียงเรื่องราวที่อยู่ในหัว ว่าเขาควรจะเล่าออกไปให้แฟนสาวฟังยังไงดี
“คือที่บ้านของตุ่น” ตุ๊กตุ่นเริ่มเล่าเรื่องที่กำลังหนักใจอยู่ออกไป “ที่บ้านตุ่นเขากำลังมีปัญหากัน” เด็กหนุ่มอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้น มันอธิบายออกไปง่ายกว่านี้ “เหมือนที่บ้านเขากำลังจะเลิกกัน” ตุ๊กตุ่นบอกแฟนสาวออกไป แล้วก็มองดูปฏิกิริยาจากเจน ว่าเธอจะมีทีท่าอย่างไร เจนหันมามองแฟนหนุ่มแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างเดิม มือก็กดรีโมทเปลี่ยนช่องไปมา
“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนี่นา ใคร ๆ ก็เลิกกันได้” เจนพูดออกมาด้วยท่าทีเรียบเฉย “คนที่เขาอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็แค่แยกจากกันไป ดีกว่าต้องทนอยู่ด้วยกันตั้งเยอะ แบบนั้นหัวจะปวด” เจนบอกตุ๊กตุ่นไปแบบที่เธอคิด “ตุ่นเองก็จะได้ไม่เสียสุขภาพจิตด้วย คิดถึง ก็แค่ไปหา ดีกว่าจะต้องมานั่งเห็นพวกเขาทะเลาะกันให้ดู” เจนพูดต่อ ตุ๊กตุ่นนิ่งเงียบฟัง
“เวลาคัม ทู เดอะ เวิลด์” เจนทำพูดติดตลก กดรีโมทอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนช่อง “ใคร ๆ เขาก็เลิกกันได้ พ่อกับแม่เธอก็ไม่ต่างกันหรอก” จบประโยคนั้น บนหน้าจอทีวี ก็มีข่าวสั้นมาพอดี มันเป็นข่าวเรื่องที่คู่รักเพศเดียวกันชาวต่างชาติ กำลังฟ้องร้องขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกสาว เด็กหญิงวัยแบเบาะ ที่กำลังเป็นข่าวใหญ่โตอยู่ในขณะนี้พอดี
“ยังไงก็ดีกว่าคนพวกนี้แน่นอน” เจนพูดขึ้น ตุ๊กตุ่นมองไปที่หน้าจอโทรทัศน์ ก่อนจะใจเต้นแรงขึ้น เมื่อได้ยินเจนพูดต่อไปว่า “แบบนี้ น่าสงสารเด็กจะตาย เจนไม่ได้ต่อต้านพวกโฮโมหรอกนะ แต่ยังไงธรรมชาติก็สร้างผู้หญิงให้คู่กับผู้ชาย เพศเดียวกันแบบคู่เกย์นี่ จะเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่ง ให้โตมาเป็นคนดีได้ยังไง เผลอ ๆ นะ ถ้าเลี้ยงเด็กผู้ชาย ก็ทำให้เด็กโตมาแบบเพี้ยน ๆ ผิดเพศเหมือนตัวเองนั่นแหละ เป็นภาระปัญหาสังคมไปอีก” ตุ๊กตุ่นในตอนนี้ เขารู้สึกหน้าชา เนื้อตัวเต้นยิบ ๆ ไปหมด ใจของเขาเต้นแรงมากกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินแฟนสาวพูดออกมา
นุ่นที่นั่งใช้ปลายนิ้วไล้ไปบนขอบแก้วกาแฟเย็นชืด ที่ชงเอาไว้ตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาแขวนผนัง มันบอกเวลาว่าเริ่มค่ำแล้ว นุ่นเองก็นั่งรอ ตั้งแต่ที่ลูกชายคนเดียวของเขา ผลุนผลันออกจากบ้านไป จนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นกลับมา เขามองไปที่โทรศัพท์มือถือ ที่จับแล้วจับอีก แต่ก็ได้แต่วางมันลง ไม่กล้าโทรหา ในใจกลัวไปหมดทุกอย่าง
อิฐที่สังเกตเห็นอาการนั้นของนุ่น ก็เข้าใจได้ดี เดินถือแก้วกาแฟที่เพิ่งชงใหม่หอมกรุ่น เดินมานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร นุ่นหันมามองอิฐ ก่อนจะใช้มือดันโถใส่น้ำตาลไปที่ด้านหน้าของอิฐช้า ๆ อิฐแอบยิ้มอยู่ในหน้า ก่อนจะเปิดฝาขวดโหลน้ำตาลทราย ใช้ช้อนตักมันใส่ถ้วยกาแฟ คนช้า ๆ ให้น้ำตาลละลาย สายตามองไปที่นุ่นที่อีกฝ่ายเอง ก็มองกลับมา
“เย็นแล้ว ปกติตุ๊กตุ่นจะโทรหา ถ้าจะกลับดึก” น้ำเสียงของนุ่นกำลังเป็นห่วงลูกมาก ตุ๊กตุ่นเองนั้น กำลังปิดประตูบ้านลงแบบเบา ๆ ได้ยินเสียงพ่อกับป๊าคุยกันที่ในห้องครัวพอดี เด็กหนุ่มค่อย ๆ ย่องไปหยุดยืนฟัง “เดี๋ยวลูกก็กลับมา” อิฐพูดแบบปลอบใจอีกฝ่าย ที่ได้แต่พยักหน้ารับ สีหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารู้สึกผิดในใจ
“ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะให้ลูกเลือกเลยนะ” นุ่นเอ่ยปากออกไปในที่สุด “ผมขอโทษนะอิฐ” นุ่นพูดด้วยความรู้สึกผิดจริง ๆ “ลูกมันเลือกไม่ได้หรอก” อิฐพูดออกไปแบบคนที่รู้จักลูกชายของตัวเองดี ตุ๊กตุ่นยืนเอาหลังพิงผนังห้อง แอบฟังพ่อและป๊าคุยกันต่อ “นุ่นเลี้ยงลูกมาดีพอใช่มั้ย” นุ่นถามอิฐออกไป ด้วยเสียงที่สั่นน้อย ๆ ตุ๊กตุ่นพยักหน้าให้กับคำถามนั้นของป๊า
“เทอมล่าสุด มันได้เกรดเฉลี่ยสี่จุดศูนย์ศูนย์นะ” ตุ๊กตุ่นจำได้ดี ที่ป๊าไปรับรอส่งเขาทุก ๆ ที่ ที่เด็กหนุ่มอยากไปเรียนเพิ่มหรือสนใจ โดยไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อยหรือรำคาญเลยสักครั้ง ตอนนั้นมีบางเรื่องที่ป๊านุ่นอยากให้เขาเรียนเพิ่ม ตุ๊กตุ่นก็เรียนให้อย่างขัดไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อยากทำ มาตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ถึงความหวังดีของป๊าที่มีให้
“ใจไม่ได้อยากจะบังคับเขาเลย แต่ไม่อยากให้เขาพลาดโอกาสเหมือนกับที่เราเคยเจอมา” อิฐเข้าใจกับสิ่งที่นุ่นพูด “โดยเฉพาะเรื่องนั้น” อิฐยื่นมือไปบีบมือของนุ่นเบา ๆ เมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตของเขาพูดเรื่องที่พลาดงานสำคัญในอาชีพไป เพียงเพราะเรื่องที่มีคู่ครองเป็นผู้ชายด้วยกัน “เราเลยต้องเลิกกันด้วยเรื่องนี้น่ะนะนุ่น” อิฐถามออกไป น้ำเสียงของเขาก็สั่นด้วยเช่นกัน ตุ๊กตุ่นรู้สึกโหวง ๆ ในใจที่ได้ยินป๊าพูดแบบนั้น
“ลูกมีแฟนแล้วนะอิฐ” นุ่นพูด น้ำตารื้นขึ้นคลอหน่วย “ต่อไปก็ต้องแต่งงาน” นุ่นพูดต่อ “ให้มีเพียงแค่พ่อเจ้าบ่าว เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวก็พอ ผมไม่อยากให้ลูกต้องพลาดสิ่งดี ๆ ในชีวิตไปเพราะผม” ตุ๊กตุ่นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวก ๆ “คุณก็เห็นแล้ว ว่าแฟนลูก โพสต์อะไรบ้างในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับเรื่องนี้” อิฐบีบมือของนุ่นแน่นขึ้น ส่งผ่านความรู้สึกที่เข้าใจดีและไม่เข้าใจเลยพร้อม ๆ กัน
ตุ๊กตุ่นลำดับภาพตั้งแต่เด็กจนโต นี่คงเป็นเหตุผลที่ป๊านุ่นของเขาไม่เคยแสดงตัวใด ๆ ที่โรงเรียน มีเพียงพ่ออิฐที่รับหน้าที่นั้น แต่ป๊าคือแรงผลักดันสำคัญอยู่เบื้องหลัง ตุ๊กตุ่นรู้ว่าป๊ารักเขามากแค่ไหน กับสิ่งที่ป๊าเฝ้าเพียรทำมันตลอดมา วันแล้ววันเล่า ก่อนจะต้องมาได้ยินว่า พ่อกับป๊าจะปล่อยมือจากกันเพราะสาเหตุนี้
*****************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดย Jay J
ไม่ปล่อยมือ Billkin x PP Krit
https://www.youtube.com/watch?v=cHVLOdpiwU8
โลกหมุนไป
The world spins
โดยที่เราไม่รู้ตัว
Not noticing it
สิ่งรอบรอบตัวก็ยังเปลี่ยนได้ทุกนาที
Things around us change almost every minute
บางทีความรักของเรา
Maybe our love
ก็เดาอะไรไม่ได้ดังใจ
We can’t predict or direct it
จะผิดจะพลั้งต้องลองกันไป
We can try just to make it work
บนหนทาง
On the road
มีอะไรที่แน่นอน
What seems to be certain?
ที่เคยคบวันก่อนเลิกกันง่ายง่ายก็มี
They were together the other day, now they’re not
บางทีชีวิตคนเรา
Sometimes our life
อาจเจอเส้นทางให้เดินเป็นร้อยเป็นพัน
See thousands of different paths lie down ahead of us
ต่างคิดต่างฝัน
Many dreams, alternative ones
ฉันก็แค่รู้ว่ามีแต่เธอที่อยู่ในใจ
All I know is only you within my heart
ฉันก็แค่รู้ว่าเธอคนเดียวที่มีความหมาย
All I care is you with all the meanings
ไม่จำเป็นต้องรู้สุดท้ายเป็นไง
Don’t need to know how the end will be
รู้แค่พรุ่งนี้จะเป็นเมื่อวานเมื่อผ่านเวลา
Realize only that tomorrow will be the past when time changes
รู้แค่ไม่ต้องสัญญาอะไรให้กันวันนี้
Just knowing promises are not needed today
มีกันและกัน
There, you and me
ไม่ว่าจะร้ายดี
For better or worse
เพียงแต่เราต่างคนไม่ปล่อยมือ
That we don’t let go our hands
ออกก้าวไป
Take a leap
ตามที่ใจเราต้องการ
However our hearts desire
อาจมีที่ไกลห่างแยกเดินกันคนละทาง
Though there may be times, we take each own separate avenues
แค่เพียงลึกลึกในใจ
Deep down inside
จะยังจดจำเรื่องราวที่สองเรามี
Memories of us still remain
เก็บไว้อย่างดี
Well kept alive
ฉันก็แค่รู้ว่ามีแต่เธอที่อยู่ในใจ
All I know is only you within my heart
ฉันก็แค่รู้ว่าเธอคนเดียวที่มีความหมาย
All I care is you with all the meanings
ไม่จำเป็นต้องรู้สุดท้ายเป็นไง
Don’t need to know how the end will be
รู้แค่พรุ่งนี้จะเป็นเมื่อวานเมื่อผ่านเวลา
Realize only that tomorrow will be the past when time changes
รู้แค่ไม่ต้องสัญญาอะไรให้กันวันนี้
Just knowing promises are not needed today
มีกันและกัน
There, you and me
ไม่ว่าจะร้ายดี
For better or worse
จะพบหรือเจออะไร
Whatever we are facing together
ไม่ว่าจะร้ายดี
For better or worse
เพียงแต่เราต่างคนไม่ปล่อยมือ
That we don’t let go our hands
บางครั้งเราก็ห่างกันไกล
Sometimes we are far away
และบางครั้งเราก็ต่างทางเดิน
Sometimes we take different turns
แต่สิ่งที่สำคัญ
The most important thing is
มันคือความในใจที่จะไม่เปลี่ยนไป
What we feel in our hearts, they won’t change
บางครั้งเราก็ห่างกันไกล
Sometimes we are far apart
และบางครั้งเราก็ต่างทางเดิน
Sometimes we’re on different journeys
แต่สิ่งที่สำคัญ
What important is
มันคือความในใจที่จะไม่เปลี่ยนไป
The feelings inside, they’re still the same
ฉันก็แค่รู้ว่ามีแต่เธอที่อยู่ในใจ
All I know is only you within my heart
ฉันก็แค่รู้ว่าเธอคนเดียวที่มีความหมาย
All I care is you with all the meanings
ไม่จำเป็นต้องรู้สุดท้ายเป็นไง
Don’t need to know how the end will be
รู้แค่พรุ่งนี้จะเป็นเมื่อวานเมื่อผ่านเวลา
Realize only that tomorrow is the past when time comes
รู้แค่ไม่ต้องสัญญาอะไรให้กันวันนี้
Just knowing promises are not needed today
มีกันและกัน
There, you and me
ไม่ว่าจะร้ายดี
For better or worse
จะพบหรือเจออะไร
Whatever we are going through together
เพียงแต่เราต่างคนไม่ปล่อยมือ
Just make sure we still hold our hands