@@@โดยLuk {My..Love} ความรักของเพื่อนแท้ ที่ยั่งยืนถาวรตลอดกาล
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

รบกวนโหวต..ให้คะแนนตัวละครที่คุณชื่นชอบสักนิดนะคะ

บูตัส
276 (61.1%)
บอลลูน
41 (9.1%)
โจ๊ก
64 (14.2%)
กนก
6 (1.3%)
แบม
65 (14.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 390

ผู้เขียน หัวข้อ: @@@โดยLuk {My..Love} ความรักของเพื่อนแท้ ที่ยั่งยืนถาวรตลอดกาล  (อ่าน 1194861 ครั้ง)

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
บูเป็นคนมีเสน่ห์นะเนี่ยมีแต่คนสนใจ

chineigiro

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู็จะเชยีร์ใครดี บูตัส นายจะเลือกใครบอกมา

ออฟไลน์ GoodNice

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ davina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-0
ชอบคู่กนก-โจ๊ก
ถ้าคบกันนี่้ สถานะยังงงๆอยู่นะ 555

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
รอลุ้นตอนต่อไป :impress2:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-16

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ไม่อยากคิดว่าใครคู่ใครแล้วค่ะ รอลุ้นตามเนื้แเรื่องเนี่ยแหละ อิอิ อยากอ่านตอนหน้าไวๆ

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
ให้ บูตัสมีแฟนเป็นเด็กอาชีวะก็ดู เข้าท่าใช่น้อย

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ก็ลุ้นกันไป  :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
เรื่องใหม่...แนวใหม่(??) ^^

มันขำ...เวลาเพื่อนอยู่ด้วยกัน
มันเจ็บ...เวลาพี่น้องต้องคุยกัน

มันอิน...เนื่องจากเราเป็นพี่ที่ทะเลาะกับน้องไม่บ่อยนัก
แต่ในแต่ละเรื่อง แต่ละอย่างที่ทะเลาะมันเพราะเป็นห่วงเขา
เวลามันอึนๆ อึดอัด ก็ไม่รู้จะทำยังไงให้เข้าใจ เสียน้ำตาไป...มันเสียฟอร์ม!! ^^"

เอาเป็นว่าเข้าใจบูมากอ่ะ แต่ถ้าเราเก็บน้องไว้กับตัว เขาจะไม่มีทางรู้เลยว่าโลกกว้างเป็นเช่นไร
กำลังติดใจและติดตาม ^^V เอาใจช่วยบูอีกแรงล่ะ

lukhia

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
My love 
Part 7


   กลับจากอาชีวะเราแยกกันตรงปั้ม โจ๊กอาสามาส่งผม ส่วนกนกไปรับน้องเดียร์แฟนมัน..เห็นว่าให้รอที่โรงเรียน

   ผมมาถึงบ้านห้าโมงกว่า บอลลูนยังไม่กลับคงเตะบอลกับเพื่อน กลับถึงบ้านราวหกโมงเป็นประจำ ผมเร่งเตรียมมื้อเย็นโดยหุงข้าวทิ้งเอาไว้ ลงมือทำหมูทอดกระเทียม ต้มจืดวุ้นเส้นเต้าหู้สาหร่ายสำหรับสองคน

   บอลลูนคงกลับมาแล้ว ได้ยินเสียงเปิดประตู ตามด้วยเสียงเดินขึ้นบันไดตรงเข้าห้องเหมือนปกติ น่าแปลกที่ผมคุ้นเคยกับการรอฟังเสียงของน้องกลับถึงบ้าน เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว

   เคยคิดเหมือนกันตอนดูโดเรมอน ทุกครั้งที่โนบิตะกลับถึงบ้านไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนมาก็ตาม เขามักจะตะโกนลั่น ‘กลับมาแล้วคร๊าบ!!!’ บางทีผมก็อยากให้บ้านผมเป็นแบบนั้น อยากให้น้องตะโกนแบบโนบิตะ คงรู้สึกดีมากๆหากน้องทำ แต่มันเป็นไปไม่ได้บอลลูนไม่ทำหรอก จัดโต๊ะเรียบร้อย ผมก็ขึ้นไปเคาะเรียกเหมือนทุกครั้ง

   “ก๊อกๆๆ ทานข้าว” แล้วก็มานั่งรอ ไม่ถึงห้านาทีน้องก็ตามลงมา เป็นครั้งแรกที่บอลลูนไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงนักเรียนตัวเดียว คงจะร้อนพึ่งเตะบอลมานี่นา หรือไม่ก็เสื้อนักเรียนเปียกเหงื่อ ปกติต้องสวมยืดหรือไม่ก็เสื้อกล้ามไม่เคยปล่อยตัวสบายๆอย่างที่เห็น 

             ผมเพิ่งมีโอกาสสังเกต น้องโตขึ้นมากจริงๆ สูงโย่งมีกล้ามเนื้อพองามไม่บอบบางขี้ก้างเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ความสูงคงพอๆกับโจ๊ก แต่ไม่หนาล่ำเท่ามัน มีกล้ามท้องเล็กน้อยเพราะเล่นกีฬาเป็นประจำ ขนสีอ่อนไล่ตั้งแต่สะดือจนหายไปกับขอบกางเกง บอลลูนวันนี้ดูแปลกตามากทีเดียว น้องเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ต่างจากน้องน้อยตากลมของผมในวันวานริบลับ

   “มองอะไร” เสียงห้วนห้าวทำผมสะดุ้ง ลืมไปว่าเผลอสำรวจไม่วางตา..คงผิดสังเกต

   “เปล่า..ไม่มีอะไร” ผมปฏิเสธ ไม่มีอะไรแค่ไม่เคยเห็นน้องปล่อยตัวเป็นกันเองนานเกือบสามปีได้  เลยรู้สึกแปลกตาก็เท่านั้น น้องขมวดคิ้วเข้มตาคมจ้องผมนิ่ง ชักเริ่มอึดอัดจนต้องหาอะไรทำเลี่ยงสายตา เหมือนน้องไม่เชื่อที่ผมพูด ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าน้องอยากให้ผมตอบว่ายังไงถึงจะพอใจ ถือโอกาสตักข้าวใส่จานโดยไม่กล้าสบตาด้วย..รู้ว่าน้องยังคงจ้องผมอยู่

   ตักข้าวเสร็จผมก็นั่งลง บรรยากาศอึดอัดขนานแท้ น้องเล่นไม่ยอมขยับยังคงนิ่งในท่าเดิมไม่เปลี่ยน ปกติต้องบริการตักอาหารใส่จานให้ผมก่อนทุกครั้ง พอน้องไม่ทำผมเลยเก้ๆกังๆ เหมือนนักเรียนกำลังถูกครูลงโทษยังไงไม่รู้ สถานการณ์เป็นแบบนั้นจริงๆ

   “พี่ทานนะ” ทนรอในสภาพนี้ไม่ไหว ผมหยิบช้อนตักหมูทอดกระเทียมใส่จานให้น้องก่อนในรอบสามปี ที่ผ่านมาน้องมักตักให้ผม กลายเป็นคิ้วเข้มขมวดยิ่งกว่าเดิมอีก สายตากดดันยังคงจ้องไม่เลิก
             รู้สึกน้ำลายเหนียวขึ้นมาดื้อๆ จนข้าวที่เคี้ยวอยู่กลืนลงคอลำบากฝืดไปหมด จำต้องยกน้ำจิบตาม ไม่อย่างนั้นได้สำลักเพราะข้าวติดคอแน่ๆ

   การกระทำของผม ยังตกอยู่ในสายตาคมสวยเทาอมฟ้าตามเชื้อชาติของบอลลูน ที่จ้องผมไม่วางตา จนไม่นึกอยากกินแล้ว จะลุกไปก็กระไรอยู่ นั่งเขี่ยข้าวอย่างละเมียดแบบอึนๆมึนๆไปแล้ว

   ผมไม่ได้กลัว เพราะรักและห่วงความรู้สึกของน้องจนติดเป็นนิสัย ทำให้ระวังการกระทำของตัวเองอยู่ตลอดเวลา กังวลหากทำอะไรไม่เป็นที่พอใจจนน้องหงุดหงิดโมโห ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของเราซึ่งเปราะบางอยู่แล้วแย่เข้าไปใหญ่ ผมจึงมักระวังตัวจนดูเหมือนกลัวน้องไปเสียอย่างนั้น

   “บอลไม่กินเหรอ” ทนไม่ไหว น้องเล่นจ้องไม่เลิก เลยเป็นฝ่ายเปิดปากเสียเอง บอลลูนไม่ตอบแต่ลงมือทานข้าวเงียบๆ เลิกมองผมแล้วค่อยยังชั่วรู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาทันที หลุดจากบรรยากาศมาคุจนได้


   หลังน้องช่วยเก็บล้างเสร็จ เราต่างแยกย้ายห้องใครห้องมัน ผมถึงได้เวลาอาบน้ำทำการบ้านทบทวนบทเรียน กว่าจะเข้านอนปาไปเที่ยงคืน ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือหนักเตรียมแอดฯด้วย เพื่อไล่ตามความฝันของตัวเอง ผมอยากเป็นหมอ..แต่ไม่ใช่หมอรักษาคนป่วย อยากเป็นหมอศัลยกรรม ด้านความสวยความงาม คงเหมาะกับผมที่สุด ตั้งแต่เล็กผมรักสวยรักงามคิดเองว่าถ้าสามารถดูแลตัวเราและผู้อื่นให้ดูดีได้ คงมีความสุขไม่น้อย..??

   ตื่นเพราะปวดฉี่ ลุกเข้าห้องน้ำเสร็จดันหิวน้ำอีก เลยต้องเดินลงมาข้างล่างเพื่อหาน้ำกิน เห็นไฟยังเปิดอยู่..บอลลูนคงนั่งดูศึกลูกหนัง

    เพิ่งนึกได้วันนี้วันศุกร์น้องมักดูบอลจนดึก พอได้ยินเสียงผมเดินลงบันได หันมาชำเลืองนิดเดียว ก่อนกลับไปสนใจจอทีวีอย่างเดิม

   ที่จริงห้องน้องก็มี แต่ถ้าเป็นคู่ที่ชอบมากๆมักลงมาดูด้านล่าง คงสะใจหรือเพราะลุ้นมันกว่าละมั้ง จอมันใหญ่ไซค์โฮมเธียเตอร์ 80 นิ้ว

   “นมร้อนด้วยไหม” ผมถามเผื่อน้องหิว เงียบไปอึดใจ

   “อืม” ตอบรับสั้นๆ ผมจึงไปอุ่นนมใช้วิธีเอาเข้าเวฟเผื่อตัวเองด้วย ก่อนจะนำมาวางให้ที่โต๊ะข้างๆ ถือโอกาสจิบนมดูศึกลูกหนังวันแดงเดือดคั้นเวลาไปด้วย ผมไม่เท่าไหร่กับกีฬาชนิดนี้หรือเกือบทุกชนิด เพราะไม่ค่อยชอบแต่พอดูรู้เรื่อง ถ้าไม่มีแรงจูงใจสมัยเด็ก กีฬาชกมวยผมคงไม่มีทางเรียนหรอก มวยไทยจึงนับเป็นกีฬาเดียวที่ผมถนัดและทำได้ดีที่สุดแล้ว

   กินนมเสร็จ หนังตาชักเริ่มปิดรู้สึกความง่วงเข้ามาครอบงำ กลับขึ้นไปนอนดีกว่า บอลลูนยังคงตั้งใจดูตาไม่กะพริบ กำลังลุ้นทีมตัวเองอยู่ เผลอหาวออกมา เลยลุกยืนบิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสายแก้เหมื่อยเสียหน่อยแล้วค่อยหยิบแก้วไปเก็บในครัว

   แต่ผมไม่รู้..บิดตัวพลาดอีท่าไหน หรือเป็นเพราะกางขาไม่กว้างพอทำให้ฐานไม่มั่นคง เลยเกิดอุบัติเหตุขึ้น เสียหลักล้มเข้าไปทางคนที่นั่งลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ


   “เฮ้ยยย!!!!..เห้ย!” เสียงผม..เสียงบอลลูน พร้อมกับร่างของผมที่เสียหลักล้มไม่เป็นท่า แถมเข้าไปคร่อมทับตัวน้องทั้งตัว ซึ่งคงตกใจที่จู่ๆผมก็ล้มลงไปใส่เต็มๆ อะไรก็ไม่ร้ายเท่าปากเราสองคน...???

   “พลัก!!!..เหว่อออ!!..ตุ๊บ!” ผมได้ล้มจริงๆแล้ว ก้นกระแทกจ้ำเบ้าอยู่ตรงพื้นจุกจนพูดไม่ออก เพราะแรงผลักของบอลลูน

   “แม่ง..ชิส!” สบถเสร็จ ลุกพรวดพราดหันหลังหนีขึ้นบันไดไปเลย คงโกรธจนควันออกหูแล้วมั้ง ปากเราดันจูจุ๊บกันเข้าไปเต็มๆ

   มันเป็นอุบัติเหตุ แต่น้องโกรธตาแดงก่ำ แววตาที่มองผมอึ้งจนหน้าขึ้นสี ผมไม่ทันได้ขอโทษเพราะยังจุกไม่หาย ที่สำคัญลุกไม่ขึ้นน้องเล่นผลักผมเต็มแรง แต่ผมไม่โกรธเลยนะ รู้ว่ามันเป็นปฏิกิริยาต่อต้านอัตโนมัติ น้องฝังใจเรื่องตุ๊ดที่ลวนลามตอนป.6 พอเจอเหตุการณ์แบบนี้คงป้องกันตัวไปตามจิตใต้สำนึก ไว้พรุ่งนี้อารมณ์ดีผมค่อยขอโทษดีกว่า ยังไงก็วันเสาร์มีเวลาเหลือเฟือที่จะอธิบายให้เข้าใจ..ผมไม่ตั้งใจมันเป็นอุบัติเหตุ


             เช้าตื่นมาทำความสะอาดบ้าน คัดแยกผ้าเตรียมให้แม่บ้านที่จะมาเก็บเอาไปซักรีด..เรียบร้อยแล้วผมก็ลงมือเข้าครัวเช่นเคย  น้องตื่นเกือบสิบเอ็ดโมง เสื้อผ้าหน้าผมอย่างหล่อชุดออกนอกบ้าน ในมือมีกระเป๋าตังค์กับกุญแจรถ ก่อนจะเดินไปนั่งใส่ถุงเท้าหน้าประตู ผมไม่รอช้ารีบออกมายังสวมผ้ากันเปื้อนอยู่เลย เพราะไม่คิดว่าน้องจะออกก่อนเที่ยง ไหนบอกนัดน้องเอกบ่ายสาม

             “บอลจะออกข้างนอกเลยเหรอ” น้องไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองผมด้วยซ้ำ

             “พี่ทำกับข้าวตั้งสามอย่าง ของชอบบอลทั้งนั้น กินก่อนไหมตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่” ผมยังคงพูดอย่างนุ่มนวล ถือเป็นการง้อและขอโทษไปด้วย หากน้องยอมกินจะได้ถือโอกาสขอโทษจริงๆจังๆ น้องไม่ตอบกลับลุกจัดขากางเกงที่ถลกตอนใส่ถุงเท้า แล้วหยิบเป๋าตังค์กับกุญแจก้าวออกไปทันที

             “พี่ขอโทษ” ผมเอ่ยไปแล้ว น้องชะงักก่อนเดินไหล่ตรงคอตั้งออกไปไม่เหลียวหลัง ไม่แม้แต่จะหันมาพูดกับผมสักคำ ใจอ่อนยวบไม่คิดว่าระหว่างเราจะกลับมาติดลบอีกครั้ง เป็นเพราะผมไม่ดีเองที่ดันไม่ระวังทำให้เกิดเหตุการณ์บ้าๆขึ้น รู้ทั้งรู้ว่าน้องฝังใจกับเรื่องเลวร้ายนี้แค่ไหน ซ้ำยังหวาดระแวงกับคำพูดที่ได้ยินมาด้วย ไม่แปลกที่น้องจะโมโหจนโกรธ

                 ผมจมอยู่กับความคิดตั้งแต่เช้ายันบ่ายสาม ตัวหนังสือที่กางอยู่ตรงหน้าไม่เข้าหัวเลยสักบรรทัด นัทดนัยพ่อพามันเข้าไปฝึกในค่ายด้วย คงพาไปทดสอบสมรรถภาพอีกตามเคย
                 กนกไปเดทกับน้องเดียร์ ส่วนแบมยังไม่กลับจากบ้านพี่ต้น ผมโทรคุยกับพวกมันหลังบอลลูนออกไปไม่เท่าไหร่ พอไม่มีใครว่างเลยอ่านหนังสือคนเดียว ตอนแรกกะจะชวนกันไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด สุดท้ายพอทุกคนติดธุระผมเลยจมปักอยู่กับเรื่องในหัว


                เสียงรถบอลลูนกลับมาแล้ว ดึงสติผมให้กระตือรือร้นขึ้นมาทันที ยังไงต้องอธิบายให้น้องเข้าใจทำให้น้องหายโกรธให้ได้ ขืนทิ้งช่วงจะเรื้อรังทำให้เราเข้าหน้ากันไม่ติดอีก ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยคาราคาซังอีกแล้ว คิดได้ผมสูดหายใจลึกดึงความมั่นใจกลับคืนจนเต็มปอด ก่อนจะลุกไปรินน้ำเย็นใส่แก้วเตรียมให้น้อง หากได้ดื่มน้ำเย็นชื่นใจสักหน่อยน้องอาจอารมณ์ดี ยอมรับฟังคำอธิบายของผม อดแปลกใจอยู้บ้าง ไหนน้องมีนัดเลี้ยงบ่ายสามแล้วทำไมกลับเข้ามา หรือว่าลืมอะไรทิ้งไว้...??

                “อ๊ะ!!..บอลไปทำอะไรมา” ผมวางแก้วถลาเข้าหาน้องอย่างตกใจ หลังเห็นมุมปากแดงช้ำ แถมโหนกแก้มบวมเป่ง น้องไม่ตอบกลับกระชากแขนผมลากแถดๆๆถูลูถูกังขึ้นบันได แววตาวาวโรจน์จนผมตั้งตัวไม่ทัน ไม่เคยเห็นน้องเป็นแบบนี้มาก่อน

                “เดี๋ยว!!..พี่เจ็บ..ปล่อยมือก่อน” ผมพยายามแกะมือน้องที่แข็งเหมือนคีบเหล็กง้างยังไงก็ไม่ออก ไม่พูดไม่จาเปิดประตูได้เหวี่ยงผมสุดแรงไม่ปราณีปราศรัย จนร่างผมลอยหวือหัวแทบคะมำดีที่มีเตียงขนาดคิงไซค์รับเอาไว้..ไม่งั้นคงได้หัวร้างข้างแตกกันบ้างแล้ว

                “ทำไมทำกับพี่แบบนี้ แล้วหน้าไปโดนอะไรมา” ถึงจะโดนทำแบบนั้นผมกลับไม่นึกโกรธ อดห่วงรอยช้ำบนหน้าไม่ได้ น้องไม่ตอบกระชากประตูปิดดัง..ปัง! ผมถึงกับสะดุ้งโหยง ไม่ใช่ขวัญอ่อนหรือขี้ตกใจหรอกนะ แต่การกระทำของบอลลูนทำให้ผมผวา ไม่เคยเห็นท่าทางแววตาที่น้องมองเหมือนอยากสับผมออกเป็นชิ้นๆแบบนี้มาก่อนเลย

                “เอ่อ..ใจเย็นๆมีอะไรค่อยพูดค่อยจา ใครทำอะไรบอลบอกพี่มาสิ” น้องยังคงนิ่งไม่ตอบจ้องผมเขม็ง แววตาจากที่โกรธเกรี้ยวปานพายุมีตัดพ้อผิดหวังปนเปคละเคล้าไปหมด จนผมเองยังใจสั่นด้วยไม่รู้สาเหตุ

                 “บอล!!..เป็นอะไรบอกพี่มาเร็ว” ผมเผลอตะคอก เพราะไม่ชอบบรรยากาศกดดันที่เป็นอยู่ตอนนี้

                 “หุบปาก!!!” คราวนี้สะดุ้งเป็นหนสอง น้องเล่นตวาดเสียงดัง คาดว่าแม้แต่ปากซอยคงได้ยินหากห้องน้องไม่กั้นเสียงได้ ท่าทางกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วขึ้นขาว จ้องตาวาวโรจน์อย่างเอาเรื่อง เกิดคำถามในหัวมากมายแต่ก็ไม่รู้จะหาคำตอบที่ไหน ว่าน้องโมโหผมเรื่องอะไรในเมื่อไม่ยอมพูดแล้วผมจะตรัสรู้ไหม

                 “อยากได้กูเป็นผัวมากนักใช่ไหม จะช่วยสงเคราะห์ให้ นับแต่นี้ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องของกูอีก” ผมอึ้งหลังฟังประโยคที่น้องหลุดจากปาก ด้วยอารมณ์ที่ไม่ต้องบอกว่ากำลังโมโหจนหน้ามืด พร้อมกับร่างสูงใหญ่ตรงเข้าหาผมเหมือนเสือตั้งท่าขย้ำเหยื่อ

      น้องโถมร่างมาทับผมไว้ทั้งตัว ทำให้หงายหลังบนที่นอนอีกครั้ง ตามด้วยเสื้อยืดที่ใส่อยู่ถูกดึงทึ้งด้วยแรงของคนที่โกรธจนไม่ยอมฟังอะไร

             

ต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2012 08:33:00 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  2  -





                 “หยุด!หยุดสิ..บอลฟังพี่..จะทำอะไร หยุดสิโว้ย!!..พลั๊ก!” ผมทั้งห้ามทั้งปัดป้องพัลวัน เพิ่งรู้ว่าน้องแรงเยอะมากก็ตอนนี้ ไม่ว่าจะพยามยามยึดมือยังไงก็ไม่อยู่ จนเผลอต่อยไปเต็มๆเพื่อต้องการหยุดเขาให้ได้

                “พลั๊ก!” ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้น้องเจ็บ ร่างกายมันไปเองหรือผมไม่รู้จะหยุดเขายังไงถึงได้ทำแบบนี้ก็ไม่รู้

                “มึง..ต่อย..กู” เสียงต่ำขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกัดกรามกรอด หลังอึ้งที่ถูกผมต่อยหน้าหงาย แววตาดุดันวาวโรจน์จ้องผมนิ่ง ยอมรับหายใจสะดุด มือไม้ปวกเปียกไปหมด ไม่เคยเห็นน้องโมโหขนาดนี้เลยจริงๆ กระทั่งลงมือลงไม้ใช้กำลังเอากับผมน้องไม่เคยทำสักครั้ง

                 บอลลูนไม่ฟัง ฉีกกระชากเสื้อยืดตัวบางของผมขาดติดมือดังแคว๊ก!! ก่อนจะดึงกางเกงต่อ ผมกำลังผวาจับต้นชนปลายประติดประต่อคำพูดและการกระทำของน้องอยู่ เริ่มจะเข้าใจลางๆว่าเขาต้องการทำอะไร

                 “หยุด!หยุดเดี๋ยวนี้! มีสติหน่อยสิ..เราเป็นพี่น้องกันนะ” ผมทั้งตะโกนห้าม มือก็ยื้อยุดฉุดกางเกงที่น้องออกแรงดึง..ไว้เต็มเหนี่ยว

                  “เราไม่ใช่พี่น้องกัน!!!” เสียงที่น้องตะคอกกลับมา ทำเอาผมอึ้งหลังได้ยินประโยคนี้ น้ำตาคลอหน่วยเพราะรู้สึกผิดที่เผลอชกน้องไป แต่ยังไม่ยอมให้ไหลออกมา กลับทะลักเป็นสายอย่างห้ามไม่อยู่อีกต่อไป

                   ประโยคนี้เหมือนมีดคมกริบ..กรีดเฉือนก้อนเนื้อตรงอกด้านซ้ายของผมจนเจ็บปวดทรมานสุดๆ ยิ่งกว่าถูกด่าว่าผมเป็นตุ๊ดจนนึกรังเกียจจากปากน้องเสียอีก มันเจ็บปวดจนหมดแรงที่จะยึดกางเกงเอาไว้ได้ ร่างกายอ่อนเปลี้ยลงไปในทันที
                   กางเกงผ้ายืดหลุดจากร่าง เปิดเผยส่วนเร้นลับต่อสายตา นับตั้งแต่อายุ 13 ผมไม่เคยแก้ผ้าให้ใครเห็นแม้แต่พ่อกับแม่ก็เถอะ บัดนี้มันเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าน้องชาย ที่เพิ่งทำร้ายผมด้วยคำพูดจนหัวใจผมบาดเจ็บสาหัส

                   “อย่า..ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่เกรงใจแล้วนะ” ผมรีบคว้าผ้าห่มเอามาปิดไว้ แต่กลับถูกกระชากทิ้งไม่ใยดี เลยกำหมัดแน่นตัดใจเด็ดเดี่ยวอาจต้องชกน้อง เพื่อรักษาตัวให้รอดจากสภาพทุเรศนี้ก่อน ทั้งที่ใจไม่คิดจะลงมือทำร้ายเลยสักนิด น้องเจ็บใช่ว่าผมจะไม่เจ็บด้วย

                   นอกจากไม่ยอมฟังแล้ว น้องยังถอดเสื้อออกเผยร่างกายส่วนบนที่ผมเพิ่งเห็นไปเมื่อวานตอนมื้อเย็น แต่ครั้งนี้ใกล้มากจนเห็นไรขนสีอ่อนชัด ได้กระทั่งกลิ่นเฉพาะซึ่งผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน ว่าน้องมีกลิ่นกายแบบนี้ พานทำให้ตะลึงพึงเพริดไปชั่วขณะ เปิดโอกาสให้น้องจับมือผมล็อกไว้แน่น ก่อนจะมุดหน้าตรงซอกคอ..ซุกไซร้อย่างคนไร้สติจนรู้สึกแสบไปหมด

                   “บอล..หยุดเดี๋ยวนี้..บอลลูนพี่บอกให้หยุด!” ผมทั้งร้องทั้งดิ้นบิดหน้าหนีสุดชีวิต แต่ร่างทั้งร่างกลับถูกกดทับจนขยับแทบไม่ได้

                     น้องยังคงไม่ฟัง แถมยังสร้างความเจ็บปวดตามร่างกายผมอย่างไม่ปราณีปราศรัย น้องกัดที่คอตรงหัวไหล่ กัดหน้าอกกักนมจนผมต้องหลุดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

                     “อร๊ากก!! ปล่อย..พี่บอกให้ปล่อย..หยุดสิโว้ย!!” ผมแหกปากตะโกนลั่น น้องกลับเปลี่ยนเป้าหมายมาประกบปิดปากที่กำลังร้องตะโกนของผมแทน แถมยังฉกลิ้นเข้ามาซอกซอนไปทั่วอย่างวิสาสะ

                      ตาผมเบิกโพรงปล่อยน้ำตาไหลปานเขื่อนแตก หวาดกลัวไปกับอารมณ์โมโหจนขาดสติ ที่น้องกำลังเป็นอยู่ตอนนี้ บอลลูนไม่ฟังผมเลยคล้ายไม่ได้ยินเสียงห้ามปรามของผม..ที่อ้อนวอนเขาแม้แต่น้อย

                      “โอย!!กัดเหรอ..ฤทธิ์เยอะใช่ไหม” กลิ่นคาวเลือดคลุ้งในปาก หลังผมหายใจไม่ทันเพราะน้องเล่นบดจูบเอาเป็นเอาตาย เหมือนต้องการขยี้ปากผมให้แหลกเละ ผมจึงกัดริมฝีปากเพื่อดึงสติให้น้องหยุดพฤติกรรมทำร้ายร่างกายผมเสียที แต่ผลที่ได้รับมันตรงกันข้าม..?

                      “ปึ๊กๆๆ!!..อุก!!” คราวนี้ผมร้องไม่ออกอีกแล้ว ทั้งที่น้องยอมปล่อยร่างผมเป็นอิสระ ยังทำได้แค่งอเข่าคู้เพราะจุกโดนชกใต้สะดือเต็มๆ สองสามหมัดจนหน้ามืด หมดแรงของแท้แล้วคราวนี้ น้ำตาทะลักทะลายแทบขาดใจ ไม่คิดว่าน้องจะลงมือทำรุนแรงกับผมเพียงนี้ ไม่เคยคิดมาก่อนด้วยซ้ำว่าบอลลูนจะทำร้ายผมลง

                      “หมดฤทธิ์แล้วสิ สำออยตอแหลหน้าซื่อตาใส พอจะสงเคราะห์ให้ดันทำสะดีดสะดิ้ง นึกหรือว่ารู้ไม่ทัน บอกแล้วอยากได้ก็จะช่วยสงเคราะห์ จะได้เลิกวุ่นวายเสียที” พูดจบเงาทะมึนที่เห็นเป็นเงาดำๆ ก็โถมทับลงมาบนร่างกายผมอีกครั้ง

             ก่อนสติผมจะดับ ยังจำได้ว่ารู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนฉีกเนื้อแยกร่างออกเป็นชิ้นๆ ไม่มีความเวทนาปราณีจากน้องชายที่ผมรักสุดหัวใจ ไม่มีความการุณในการกระทำที่โหดเหี้ยมป่าเถื่อน ซึ่งน้องยัดเยียดให้เลยแม้แต่น้อย ไม่มีความอ่อนโยนผ่อนปรนให้ผมเลย ไม่เคยคิดสักนิดว่า

                   จูบแรกของผมจะแรกมาด้วยน้ำตาและความทรมาน เซ็กส์ครั้งแรกของผมจะเลวร้ายถึงปานนี้ มันไม่ได้เกิดจากความรักอย่างที่ผมเคยฝันเอาไว้..ถ้าหากผมจะมีเซ็กส์มันต้องเกิดจากความรักของผมกับเขาคนนั้น
                  ต่างกับที่ฝันริบลับ..ไม่มีความอ่อนหวานเหมือนนิยายที่เคยอ่าน ไม่มีความอ่อนโยนแฝงไปด้วยความสุขสมเหมือนที่เขาบรรยาย ตรงข้ามมันคือนรกที่รู้สึกทรมานเจ็บปวดจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด

                 ก่อนสำนึกสุดท้ายจะหลุดลอยคว้างออกจากร่าง ไปพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนจากการโหมการกระแทกกระทั้น เหมือนกับกระดูกของผมจะหลุดออกเป็นชิ้นๆ จนกระทั่งไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีก คงจะดีไม่น้อยหากสิ่งที่ผมกำลังเผชิญอยู่..มันคือความฝัน..??


                 ผมขยับเปลือกตาที่หนักอึ้ง หัวหมุนติ้วรู้สึกเหมือนสมองพองจนแทบระเบิด นิ่วหน้ากับรสชาติของความเจ็บปวดระบมไปทั่วร่าง เหมือนชิ้นส่วนหลุดกระจาย ก่อนสำนึกจะบอกให้รับรู้ว่า ผมยังไม่ตายและไม่ได้ฝันไปอยากที่ใจผมภาวนาให้มันเป็น ผมยังคงนอนอยู่ในห้องเดิม ห้องของบอลลูน ด้วยสภาพสวมชุดนอนผ้าฝ้ายของผมเอง คาดว่าคนเปลี่ยนคงไปเอามาจากตู้ในห้องของผม

             เจ้าของห้องไม่อยู่ ทั้งที่ผมพยายามบิดหน้าใช้สายตาสำรวจอย่างยากลำบาก ไม่รู้ตอนนี้กี่โมงแล้ว..เพราะผมไม่ทราบว่าหลับไปนานแค่ไหน พยายามจะพยุงร่างกายลุกขึ้น แต่อาการจี๊ดจนกัดริมฝีปากแน่น คิดว่าคงห้อเลือดไปแล้วเรียบร้อย มันไล่ตั้งแต่ช่วงล่างขึ้นมายันหัวจนแทบระเบิด ดูเหมือนผนังห้องโคลงไปหมด ทำให้ต้องล้มลงนอนต่ออย่างหมดสภาพ
              จำต้องหลับตานิ่ง ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฉากๆ ก่อนน้ำตาจะไหลลงขมับไม่ขาดสาย นี่บอลลูนทำกับผมจริงใช่ไหม น้องทำกับผมได้ลงคอเชียวหรือ เกลียดผมถึงขนาดทำร้ายผมได้ขนาดนี้ เจ็บปวดตามร่างกายยังไม่ทรมานปานขาดใจ..เท่ากับตอนนี้หัวใจผมมันแหลกละเอียด ผิดหวังเสียใจหดหู่จนบรรยายไม่ถูก


              เสียงประตูถูกผลักเปิด พร้อมกับกลิ่นโจ๊กร้อนๆ ทำให้ลืมตาขึ้นสบกับตาสีเทาอมฟ้า..ที่ผมเคยคิดว่ามันสวยมาก แต่เวลานี้ผมกลับไม่อยากมองดวงตาคู่นี้แม้แต่วินาทีเดียว เลยเลือกจะปิดตาลงอีกครั้ง

                 “กินโจ๊กก่อน จะได้กินยา” เสียงทุ้มห้าวเรียบนิ่ง ไม่มีอิทธิพลกับความรู้สึกของผมเหมือนที่ผ่านมา ปกติก่อนหน้าหากได้ยินคำพูดแบบนี้ ผมคงหลุดยิ้มดีใจ พานคิดไปเองแล้วว่าน้องเป็นห่วงผมสินะ

            “นายไม่สบายไข้ยังไม่หาย กินโจ๊กรองท้องก่อนค่อยกินยาทีหลัง” น้ำเสียงฟังดูอ่อนลงเล็กน้อย แต่ผมเลือกที่จะนิ่งไม่อยากได้ยินด้วยซ้ำ

                “บู..อย่าดื้อ ไม่งั้นจับกรอกปากนะ ชอบให้บอลบังคับใช่ไหม” น้องเรียกชื่อผมหลังจากไม่เคยได้ยินมานาน  แถมยังแทนตัวด้วยชื่อเช่นกัน ทั้งที่ก่อนหน้าผมจำได้ว่ายังหลุด..กู..อยู่เลย

                “จะเอาแบบนั้นแน่” สักพักร่างผมก็ถูกช้อนจนต้องลืมตาขึ้นเพราะตกใจกับการกระทำที่อุกอาจนี้ไม่น้อย

                “อ๊ะ!..ทำอะไร” หลุดปากจนได้ ทั้งที่ตั้งใจจะไม่พูดด้วยแล้วเชียว แต่ผมกังวลกลัวโดนทำแบบนั้นอีก เมื่อวานขนาดผมร่างกายสมบูรณ์ยังเอาบอลลูนไว้ไม่อยู่ แล้วตอนนี้ไม่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

                  “ยอมพูดแล้วสิ บอกให้กินโจ๊กแล้วกินยา” น้องจ้องผมเขม็ง ชักสีหน้าไม่พอใจใส่ ไม่อยากรองรับอารมณ์โกรธแบบเมื่อวานอีก จึงพยักหน้ายอมทำตามอย่างไม่มีทางเลี่ยง

                 “อ้าปากสิ” บอลลูนตักโจ๊กป้อน ทำเอาผมอึ้งไปอึดใจใหญ่ ไม่คิดว่าน้องจะป้อน ผมไม่ได้ป่วยจนกินเองไม่ได้เสียหน่อย

                 “ไม่ต้อง..ทานเองได้” ผมบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

                 “อย่าอวดเก่ง ป่วยก็อยู่นิ่งๆ” ไม่ตามใจแถมสั่งผมอีก ตกลงนี่ผมเป็นพี่หรือเป็นลูก คงไม่ใช่เพราะบอลลูนพูดเองว่าเราไม่ใช่พี่น้องกัน เพราะคำพูดนั้นทีเดียวที่ทำร้ายผมจนตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เขาเลยไม่ใส่ใจความรู้สึกของผมอีก ไม่คิดจะรับฟังความต้องการผมสักนิดเดียว

                 “อ้าปาก..” เขาย้ำ..ดึงผมออกจากภวังค์ความคิด จำต้องอ้าปากรับโจ๊กที่ป้อนให้อย่างไม่คิดจะดื้อดึงอะไรอีก จะได้จบๆไป แต่ผมกลับผะอืดผะอมเหมือนจะอ้วก กินได้ไม่กี่คำก็ทนฝืนไม่ไหวก่อนจะขย้อนคายสิ่งที่กินออกมาเลอะเทอะเสียก่อน

                 “ไม่ไหว..จะอ้วก” ผมบอก น้องก็ไม่บังคับผมให้กินต่อ นอกจากส่งยากับแก้วน้ำมาให้

                 “กินยาแล้วนอนพัก พรุ่งนี้ไปเรียนไม่ไหวนะถ้าไม่หาย” หืม..พรุ่งนี้แสดงว่าวันนี้วันอาทิตย์ ผมป่วยข้ามวันข้ามคืนเลยหรือ กินยาเสร็จเรียบร้อยผมอดถามไม่ได้

                “กี่โมงแล้ว” เพราะไม่รู้จริงๆ ในห้องมันปิดม่าน

                 “บ่ายสอง” โอ้ผมนอนวันชนวันจริงด้วย กะขยับตั้งท่าลุกจากเตียง

                 “ทำอะไร” บอลลูนถือชามโจ๊กกับแก้วน้ำเตรียมเอาไปเก็บทักขึ้น

                 “กลับห้อง” ผมตอบ รู้สึกเราสองคนเลี่ยงที่จะไม่เอ่ยถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทั้งผมและน้องคงไม่พร้อมที่จะคุย ส่วนผมแม้จะอยากรับรู้ว่าน้องโกรธอะไรถึงทำร้ายผมแบบนั้น แต่ยังไม่มีอารมณ์ถาม ยอมรับผมผิดหวังกับสิ่งที่โดนกระทำมาก จนไม่พร้อมที่จะเอ่ยถึงมันในตอนนี้

                 “นอนนี่แหละ หายแล้วค่อยกลับไป” น้องบอก แต่ผมไม่ฟังทำไมผมต้องมานอนในห้องที่มีความทรงจำเลวร้ายนี้ด้วย แต่พอลุกผมก็ทรุดฮวบขาสั่นไปหมด..ไม่มีแม้แต่แรงจะยืน พื้นโคลงจนวูบเลยทีเดียว

                “ดื้อไม่เข้าเรื่อง” พูดจบตัวผมลอยหวืดก่อนแผ่นหลังจะสัมผัสเตียงที่เพิ่งลุกออกมามาดๆ ตามด้วยผ้าห่มที่คลี่คลุมให้ระดับอก

                “นอนอยู่นี่ห้ามลุกขึ้นมาอีก ไม่งั้นเจอดีแน่” น้องขู่ทิ้งท้าย แล้วคว้าชามกับแก้วเดินหันหลังออกประตูไป พอเสียงประตูปิดผมกับมาจมอยู่กับคำถามในหัวที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ว่าน้องไปเจออะไรมาแล้วไปมีเรื่องอะไร เกี่ยวอะไรกับผม..ถึงต้องโมโหรุนแรงจนทำร้ายผมแบบนี้

      คำพูดที่บอกเราไม่ใช่พี่น้องกัน เป็นความรู้สึกจากจิตใจหรือไม่ น้องคิดแบบนี้จริงหรือ ผมไม่มีน้องชายอีกแล้ว..ไม่มีแล้วใช่ไหม..ก่อนที่น้ำตาจะไหลและความอ่อนเพลียจะเข้ามาครอบงำจนหนังตาหนักอึ้ง ดึงผมจมไปกับภวังค์ห้วงฝัน..ผมฝันถึงพ่อกับแม่ในอดีตที่ผ่านมานับสิบห้าปี..?

                “บูเข้ามาทำความรู้จักกับน้องสิลูก” แม่เรียกผมให้ไปทำความรู้จักสิ่งมีชีวิตผิวขาวตัวกลมบนเบาะนุ่ม   

                “หวัดดีครับพ่อ..หวัดดีครับแม่” พวกท่านยิ้มรับแววตาอบอุ่นยังคงฉายชัด ผมขยับเข้าไปใกล้ก่อนวางกระเป๋า แล้วยืนเอามือไพล่หลังมองอยู่ห่างๆ รู้สึกตื่นเต้นปนสงสัย ถามตามที่คิด

                “เจ้าตัวอ้วนนี่มาจากไหน” ท่าทางลังเลไม่ผลีผลามของผมทำให้พ่อกับแม่กลั้นขำ แน่ล่ะผมไม่มีทางตกหลุมพรางอีกแน่ หลังเคยโดนพวกท่านหลอกมาแล้ว กลัวหน้าแตกถึงได้รอฟังคำตอบให้มั่นใจเสียก่อน

               “คุณดูลูกสาวเราระวังตัวแจเลยคราวนี้ฮะฮ่าๆ” หัวเราะทิ้งท้ายกวนอีกต่างหาก

               “เฮ้ย!แม่” ผมแหวเสียงขุ่น คิดหรือว่าพ่อกับแม่จะฟัง พากันชอบใจใหญ่หลังยั่วโมโหผมสำเร็จ

                “จร้าไม่ใช่ลูกสาวแต่เป็นลูกผู้ฉิง..กร๊ากก!” พอกันทั้งคู่

                “น่ารักมากใช่ไหม ตั้งแต่นี้เขามาเป็นน้องของลูกแล้ว”เสียงพ่อพูด

                “........???” หน้าผมคงตลกพิลึกหลังได้ยินแบบนั้น

                “ไม่เชื่อสิ..พ่อพูดจริง” พ่อยืนยันหนักแน่น มองหน้าสุดสวยเธอยิ้มให้เช่นกัน แต่ก็ยังต้องการย้ำให้มั่นใจอีกที

                “จริง” ทั้งคู่พยักหน้ารับ ไม่รู้ว่าผมพุ่งเข้าไปคุกเข่าจ้องเจ้าตัวกลมป๊อกที่นอนลืมตาแป๋วตั้งแต่ตอนไหน ก่อนจะเอื้อมมือสั่นน้อยๆเข้าไปใกล้ใบหน้าเล็กขนาดฝ่ามือปิดอย่างห้ามไม่อยู่ จวนสัมผัสรอมร่อนึกขึ้นได้รีบยั้งไว้ทัน ผุดลุกพรวดวิ่งออกนอกห้องไม่เหลียวหลัง ไม่ลืมตะโกนสั่ง

                  “อย่าเอาเจ้าตัวกลมไปไหน ผมไปล้างมือก่อน” ยังได้ยินเสียงหัวเราะดังตามมา สามีภรรยาจอมซ่าชอบแกล้งเป็นนิสัย จำต้องกำชับไว้ล้างมือจนสะอาดสะอ้าน มั่นใจว่าจะไม่ทำให้ผิวอ่อนละมุนเป็นอันตรายจากสิ่งสกปรกแล้ว รีบกลับเข้าไปข้างในทันที พ่อกับแม่ยังคงจ้องเจ้าตัวกลมไม่ห่าง ผมไม่ยอมเสียเวลาตรงเข้าไปคุกเข่าอยู่ข้างๆ อยากมองตัวกลมปุกผิวขาวอ้วนจ้ำม่ำชัดๆ จังหวะสายตาของเราประสานกันพอดี

                   “.....!!!” เสียงหัวใจผมเต้นตึกตักๆดังแทบทะลุอก ส่วนเจ้าตัวน้อยหน้ากลมบ็อกลูกตาใสบริสุทธิ์สบตาผมนิ่ง...ความรู้สึกอุ่นซ่านในใจแผ่ขยายลุกลามไปทั่วทั้งตัว

                   ฉับพลันความรู้สึกรักและหวงแหนก็เกิดตามมาอย่างท่วมท้น ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร รู้แต่เพียงว่าเจ้าตัวน้อยเป็นของผม เป็นน้องที่ผมฝันอยากมีมานาน คิดว่าตัวเองคงยิ้มไม่หุบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามือไปแตะอยู่ตรงแก้มนุ่มนิ่มเจ้าตัวกลมตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่สายตาเรายังจ้องกันนิ่ง ผมค่อยๆลูบแก้มเจ้าตัวน้อยเบาๆ ผิวน้องดูนุ่มจังบอบบางน่าทะนุถนอม.เขาคือน้องของผม คงไม่ได้กำลังฝันไปใช่ไหม ผิวนุ่มที่สัมผัสอยู่ ยืนยันชัดผมมีน้องแล้ว!!

                   “น้องของบู” เสียงผมครางเหมือนละเมอ จู่ๆแม่พูดขึ้นมาลอยๆ

                   “สัญญากับแม่ว่าจะไม่ทอดทิ้งน้องนะลูก”

                   “ผมรับปากไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะไม่ทอดทิ้งน้องแน่ครับ” ตั้งแต่นั้นมาเป็นเดือนแล้ว ที่ผมคลุกอยู่กับบอลลูน พูดๆๆๆบอลลูนของผมจะต้องพูดได้...

                   “พ่อ..พูดสิพ่อ” ผมจ้องเจ้าตัวดีที่มองตาแป๋ว รอยยิ้มบริสุทธิ์เผยจากปากเล็ก จนเห็นเหงือกแดง แต่ก็ยังไม่มีเสียง
 ฮืมมม..คำว่า ‘พ่อ’ คงออกเสียงลำบากไป เด็กน่าจะออกเสียง ’ม’ได้ก่อน ไม่งั้นคำว่าแม่ของทุกชาติภาษาจะเป็นเสียง ’ม’ เหรอครับจริงไหม?

                   “แม่..แม..แม่..พูดสิบอลลูนแม่..แม่ๆๆๆ”ผมชี้นิ้วดึงความสนใจให้เจ้าตัวกลมจ้องปากผมเวลาพูด แต่ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิมน้องยิ้มลูกเดียว

                   “บู..เรียกสิ..บู..บูๆๆ” เปลี่ยนเป็นชื่อผม

                   “บู..บอลลูนพูดซิ..บู..เรียกสิบูๆๆ” เจ้าตัวกลมยังยิ้มนิ่ง จ้องผมใหญ่ แล้วปากเล็กๆก็เริ่มขยับไปมา ผมลุ้นจนแทบลืมหายใจ

                  “บะ...” เสียงที่เบาแทบไม่ได้ยิน ถึงไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร แต่..บอลลูนของผม..พูดแล้ว!!!!!   ผมไม่คิดไปเองใช่ไหม?

                  “แม่..แม่..แม่” ผมพูดนำอีก บอลลูนน่าจะพยายามออกเสียง‘แม่’  แต่ปากตัวเล็กกลับนิ่งไปซะงั้น

                 “บู..บู..พูดสิ..บูวววว” ผมลองเปลี่ยนมาเรียกชื่อตัวเอง ลากเสียงสระอูยาวววว..ไปถึงเชียงใหม่เลยมั้ง  บอลลูนจ้องผมนิ่ง ก่อนปากเล็กกะจิดริดจะเริ่มขยับอีกครั้ง..

                 “บะ..บุ..บู” ...เสียงเบาๆที่บอลลูนเปล่งออกมา แต่ดังกึกก้องในหัวใจผม!! ความสุข..ความดีใจ..ความตื้นตันผสมกันยุ่ง..ออกมาเป็นน้ำตาซะงั้น  ผม...กำลังร้องไห้ บอลลูนพูดได้คำแรก.. คือชื่อผม!!!

                “บูอีกครั้ง..เรียกพี่อีกครั้ง..อึก..บูๆๆ” น้องจ้องผมก่อนจะขมุบขมิบปากเสียงเล็กๆ ลอดออกมาได้ยินชัดๆอีกครั้ง

                “บุ..แอ้..แอ้..บู”

                “ฮึกๆ..แม่!! แม่ครับ!!" ผมตะโกนเรียกแม่ไปน้ำตาไหลไป สุดสวยวิ่งหน้าตั้งเข้ามา 

               "บูตัสเป็นอะไรไปลูก..แล้วเสียงดังทำไม..เดี๋ยวน้องตกใจหมด"

               "ฮ่าๆๆๆ  "  ผมหัวเราะทั้งน้ำตา แม่มองอาการประหลาดของผม

              "น้อง..ฮึก...น้อง..พูดได้แล้วครับ!!"  แม่จ้องผมนิ่ง ก่อนละสายตาไปจ้องบอลลูนพร้อมๆกับสลับจ้องผมไปด้วย

             “คิคิ..คิคิ”เสียงบอลลูนหัวเราะออกมา ผมกลับแม่เรามองหน้ากัน ก่อนเราจะระเบิดเสียงหัวเราะตามน้อง

             “ฮะฮ่าๆๆๆ..” เสียงหัวเราะของเราผสมผสานเสียงหัวเราะเล็กๆของบอลลูน มันเป็นเสียงหัวเราะที่ล้นไปด้วยความสุขจากบ้านบริรักษ์

            เสียงที่เจ้าตัวเล็กเปล่งได้คำแรกคือชื่อผม!! รักบอลลูนที่สุดในโลกคร้าบ..ฮะฮ่าๆๆ!!!!!!!!!!









มาต่อแล้วนะคะ  สมใจกับหลายท่านหรือยังที่เชียร์น้องบอลกับบูตัส

เป็นอย่างไรเล่า น้านแหละ.. :a5: 

เดากันต่อไปบอลลูนไปเจออะไรมา ถึงได้กลับมาลงกับบูตัสจนเป็นเรื่องแบบนี้

ขอบคุณทุกเม้นท์ทุกโพสฯนะคะ  บวก 1 บวกเป็ด ให้ทุกกำลังใจค่ะ

ขอบคุณแฟนๆที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเล้าและติดตามอ่านผลงานของคนเขียนมาโดยตลอด

Thank Luk. :pig4: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2012 19:25:51 โดย luxilove »

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
สงสารบู แต่ก็แอบชอบตอนนี้นะ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เฮ้อ.... ความรู้สึกมันโดนหักหลังนะ...

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
+1 น้อง บู  สู้ ๆๆ น่ะ :z2: :z2:

ออฟไลน์ yunchun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
 :a5: บะ.บอล
น้องบูของชั้น  :o12:

ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :o12: รับไม่ได้... บอลลลลล เลวมากกกกก!!!

ทำไมทำได้แม้แต่พี่ตัวเอง รังเกียจใครก็รังเกียจได้ แต่กับคนที่รักตัวเอง เรียกตัวเองว่าพี่มาตลอด

ทำกันได้ลงคอ :m31: สมใจแกแล้วสิ ไอ้คนเลวววว :angry2: (ด่าได้เจ็บมาก==)

ไปๆมาๆ บอลดูหลงตัวเอง คิดว่าใครๆต้องมาแย่งชิงเเก บูต้องหลงรักอยาได้เเกรึไง

ฝันเหรอจ๊ะ บูออกจะน่ารัก ขอให้บูไม่รัก ขอให้บูไปหาคนใหม่ :z3:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






lukhia

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
บอลลูนใจร้าย ไอ้เด็กเวร  :fire: :serius2: :angry2:

puu142

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆๆๆๆ............ครับน้องบู

                                                   เป็นกำลังใจนะครับนักเขียน

ออฟไลน์ sumonta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
น้องบอลไปเจออะไรมาอ่ะ ทำไมถึงกลับมาทำร้ายบูแบบนี้ คนเขียนมาต่อไวๆนะค่ะเราอยากรู้ความคิดหรือความรู้สึกของบอลบ้างอ่ะ
 +1 ให้กำลังใจคนเขียนค่ะ
ปล.แต่ตอนนี้อยาก :z6: บอลมากอ่ะ

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
ทำไมบอลต้องเเคร์คนอืนมากกว่าคนทีอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กอยากฟังความรู้สึกบอลบ้างว่าคิดอะใรบูน่าสงสารทีสุด :m15:

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
สงสารบูอ่ะ
ความรู้สึกเหมือนถูกคนที่รักและไว้ใจหักหลังเลย
บอลโคตรใจร้ายอ่ะ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :monkeysad: สงสารหนูบูจัง แต่ถ้าไม่มีวันนี้

ที่คาดว่าน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนให้บอลรู้ใจตัวเอง!?

ทั้งคู่คงไม่ได้เข้าใจและรักกันอ่ะนะ 

แต่สงสัยว่าบอลไปเจอเขมมารึเปล่า และเขมยกแฟนชะนี

ตัวนั้นให้  แต่จะมีเอาบูตัสเป็นแฟนแทนไรแบบนั้น

 :laugh: ก็เดากันไป  รอต่อดีกว่า

และรอลูกแก้วมังกรอยู่นะคะ กำลังเข้มข้นเลย

 :กอด1: และ  :pig4: พี่ลักษณ์ที่ขยันอัพมากกกก

 :L1:

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
อยากอ่านความรู้สึกของบอลลูนจัง อยากรู้ว่าคิดอะไรอยู่

ออฟไลน์ KaeM_PonG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
สงสาร บูตัส

 :o12: :o12: :o12:

รอตอนต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด