เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้แต่แมวอยู่ได้นะรู้ยัง!! (Yaoi) ชี้แจง 18/9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้แต่แมวอยู่ได้นะรู้ยัง!! (Yaoi) ชี้แจง 18/9  (อ่าน 3205 ครั้ง)

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

.................................................

สามารถติดตามนิยายเรื่องใหม่และข่าวสารการอัพนิยายได้ที่เพจด้านล่างนะคะ
https://www.facebook.com/MinibearSecretWriter/

นิยายเรื่องอื่นๆของนักเขียน

(เรื่องสั้น) 4P ไอ้แว่นเนี่ย!แฟนพวกผม YAOI    (มิค, ไมค์, โม x มิลค์)    สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1237829

(เรื่องสั้น)(3P Yaoi) Love Away! รักมาหลายปี...เจอทั้งทีขอก(อ)ดหน่อยนะ   (ไวน์, วิน x บูม)    สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43083.0;topicseen

(เรื่องสั้น)Control Love รักครั้งนี้ผมควบคุม (Yaoi)   (ฮยอนชิก x อิลฮุน)   สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1054991

(เรื่องสั้น)Hate เกลียดอะไรได้อย่างนั้น ผมเกลียดเด็กช่างก็เลย... (Yaoi)   (เฟียส x ณโม)   สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1240000

(เรื่องสั้น)รักวุ่นวายของคุณชายต่างขั้ว (Yaoi 4P)    (พี, เอ็น, เค x ต้นรัก)   สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43081.0;topicseen

End  ผู้ชายอบอุ่นกับคนขี้บ่น (YAOI)      (เอล x เพื่อน)   สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67075.0#top

End (6P)I Hate They But I Love They รักของผมคือพวกเขา(Yaoi)    (บาร์เทน, โดนัล, เลนโว, ไลฟ์ลี่, ดีเลย์ x โซฟา)      สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50474.0;topicseen

End click love ยัยยากูซ่ากับนายตัวแสบ   (ไค x มิ)      สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1009757

End My Love เพราะเป็นมึงกูถึงยอม (Yaoi)    (คอกเทล x เบค่อน)   สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1016261

End NEWS! ข่าวลับ ข่าวรัก YAOI 3P   (ฟาเรนไฮน์, เซลเซียส x มิกกี้)   สถานะ จบแล้ว https://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1171585

End ผมเป็นพ่อมดฝึกหัดที่ชอบผู้ชายครับ!!! (Yaoi)(3P)   (อัล, ฮาฟ x ราสเต้)      สถานะ จบแล้ว https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67230.msg3834235#msg3834235

(...) จงเติมคำในช่องว่าง (Yaoi)   (วีอาร์ x ของขวัญ)   สถานะ จบแล้ว
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67587.0

ฟางเซียนอวี้ บุรุษปรุงใจ (Yaoi) (Harem) สถานะ OnAir
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67940.0


****นิยายเรื่องนี้นักเขียนจะลงทุกวันเสาร์และอาทิตย์นะคะ****

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2018 22:51:43 โดย minibearsecret »

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#บทนำ


ปิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนน เอี๊ยดดดดดดดดดด


เสียงบีบแตรและเสียงล้อบดถนนบ่งบอกความเร็วที่ถูกกระชากหยุดกะทันหันของรถญี่ปุ่นสีขาว ฝุ่นควันจากการเสียดสีของล้อยางและถนนพัดไปที่ชายสงคนที่คร่อมรถจักรยานยนต์จนมองภาพเบื้องหน้าไม่ชัด


เสียงการต่อสู้ดังขึ้นไม่นานก็หยุดลง กลุ่มควันที่จางปรากฏภาพทุกอย่างสู่สายตาของเจ้าของรถที่เปิดประตูลงมาเหยียบพื้นไม่ถึงสามวินาที


“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” เสียงทุ้มแบบผู้ชายทั่วไปแต่กลับสบายหูคนฟังจนเรียกสายตาจากภาพของลูกน้องตนไปมองยังเจ้าของคำสบถที่ยืนอยู่ฝั่งคนขับ


ใบหน้าที่มองได้ทั้งหล่อและสวยแต่ออกหวานของเจ้าของรถสีขาวที่เข้ามาถูกจังหวะจนสามารถจับตัวคนร้ายที่ลอบยิงตัวเองได้ ความประทับใจในการควบคุมรถคือสิ่งแรกที่ตรึงสายตา สิ่งต่อมาคงจะเป็นใบหน้าของเจ้าของรถและสุดท้าย น่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์ที่ยังไม่ถูกดับเครื่อง ดูท่าเจ้าของรถหน้าหวานจะมีดีกว่าที่เห็น


“ขอโทษที่ทำให้ตกใจและเสียเวลา” เสียงทุ้มที่แฝงด้วยอำนาจเรียกสายตาคนร่างโปร่งที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย้ายสายตาจากร่างของคนสองคนที่ถูกจับตัวไปยังเจ้าของเสียง


ดวงตาคมที่มองมาแฝงความดุดันทรงเสน่ห์ตามแบบฉบับคนยุโรป ไหนจะร่างกายที่สูงใหญ่ดูท่าจะซ่อนรูปมากกว่าที่ตาเห็นจากภายนอก แต่ไม่สำคัญเท่ากับประกายตาที่ส่งออกมาว่าถูกใจกับอะไรสักอย่าง และถ้าให้เดาก็คงเป็นตัวเอง


“ไม่ได้ตกใจขนาดนั้นครับ ว่าแต่สองคนนั้นคนร้ายหรอครับ” ร่างโปร่งที่ยังไม่ขยับตัวจากประตูรถตนชี้ไปที่ร่างของชายสองคนที่ถูกมัดไว้


“ใช่ อย่างที่เห็นขอบคุณที่ช่วยเหลือ”


“ไม่ต้องหรอกครับ ผมไม่ได้มาช่วย มันเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าหงุดหงิดจนเกินไปต่างหาก” ร่างโปร่งตอบแต่สายตาก็ไม่ละออกจากรอยถลอกบริเวณกันชนหน้าที่ไม่เกินห้าเซนติเมตรหลังจากที่เดินมาตรวจรถตัวเอง


“เป็นรอยเยอะไหมครับ” เสียงทุ้มของร่าสูงที่ไม่รู้ว่าเดินมาประชิดตัวตอนไหนเรียกสายตาจากรอยให้หันไปมอง เมื่อมายืนอยู่ข้างกันก็เทียบได้ว่าตัวเองเล็กกว่าอีกฝ่ายมากขนาดไหน


“ครับ มันน่าจะยิงแก้หงุดหงิดสักทีสองทีจริงเชียว” สายตามุมร้ายจากร่างบางส่งไปให้คู่กรณีที่ทำสีรถตัวเองถลอก แต่คำพูดต่างหากที่เรียกความสนใจจนประกายตาที่โชนแสงยิ่งเข้มขึ้นกว่าเดิม ถูกใจคำนี้ดังวนเวียนไม่หยุดในหัวร่างสูง


“ใจเย็นก่อน ไว้จะจัดการเผื่อให้ทีหลัง”


“หึ ฝากด้วยแล้วกันครับ ไม่น่าคิดจะมาทางลัดตั้งแต่แรกเลย ให้ตายเถอะ” เสียงบ่นพึมพำของร่างโปร่งที่เดินกลับไปที่รถตัวเองก่อนจะเปิดประตูเตรียมออกตัวอีกครั้ง แต่เพราะร่างสูงที่เดินตามมาไม่ขยับไปไหนเลยต้องลดกระจกเพื่อพูดคุยต่อ


“ชื่ออะไร”


“ทำไมครับ สนใจว่างั้น” เสียงหัวเราะเบาๆจากร่างโปร่งเจ้าของรถตรึงสายตาไว้ที่ดวงหน้าหวานจนเผลอตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


“ใช่ จีบได้ไหม”


“หืม คนจริง ผมไม่รู้ว่าคุณจะถามชื่อไปเพราะจะจีบหรืออะไรก็ตาม ผมชื่อไอน้ำจะเรียกไอหรือน้ำก็ได้ครับ หวังว่าจะไม่พบกันอีก”


“ขอให้ไม่สมหวัง” สิ้นเสียงเครื่องยนต์ที่ถูกหยุดก็ออกตัวไปจนลับสายตาปล่อยทิ้งไว้เพียงแต่ภาพใบหน้าหวานที่ติดตาจนยากจะลบไป


“นายท่านครับ” เสียงเรียบดังขึ้นจนต้องละสายตากลับไปที่คนพูดด้านหลัง


“สืบมาให้หมด”


“ครับนายท่าน” เลขาคนสนิทรับคำก่อนจะเปิดประตูเพื่อเคลื่อนตัวออกจากที่เกิดเหตุกลับที่พักตามกำหนดเดิม


TBC.

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#1


“ตี๋เล็ก เก็บของเสร็จรึยัง พรุ่งนี้ต้องกลับมหาลัยแล้วนะ แล้วของที่จะเตรียมไว้ไปฝึกงานด้วย ไหนจะเอกสารที่จะเอาไว้ส่งขอเรื่องฝึกงานอีก เตรียมไปให้ครบนะครับลูก”


“ครบแล้วม้า ไอเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าแต่ป๊ายังไม่กลับมาหรอม้า”


“วันนี้ป๊ามีดูที่ดินกับคู่ค้าคนสนิท มากินข้าวกันก่อนมา ป๊าคงจะหากินข้างนอกมาเอง มาๆ”


ที่บ้านตอนนี้มีเพียงผมที่เป็นลูกหลงคนเล็กสุดท้องกับม้าแสนสวยสองคนเท่านั้น ต้องตอนเย็นนั่นแหละที่จะอยู่กันครบ บ้านหลังนี้เรียกว่าบ้านใหญ่ ทุกเย็นวันอาทิตย์จะต้องกลับมากินข้าวเย็นพร้อมหน้ากันทุกคน จะยกเว้นให้แค่ผมที่ต้องไปเรียนที่กรุงเทพฯเท่านั้นที่จะกินเฉพาะเวลาที่กลับมาบ้านเท่านั้น


อะแฮ่ม สวัสดีครับกระผมนาม เจนเนตร แซ่เล้ง ที่มาของชื่อม้าเป็นคนหามาเองครับ มีความหมายว่าของขวัญจากพระเจ้า ในภาษา อเมริกา, อังกฤษและฮิบรู ไม่เข้าใจว่าม้ากะลูกครึ่งไทยจีนแบบป๊า ทำไมไปเอาความหมายจากทางยุโรปมาตั้งชื่อผมก็ไมรู้


ผมมีชื่อเล่นว่าไอน้ำครับ เฮียโตชื่อเมฆ เฮียรองชื่อหมอก เจ้สามชื่อฝน ไงครับบ้านผมลอยฟ้ากันทั้งพี่ทั้งน้อง ส่วนแซ่นั้นเป็นของป๊าครับ ที่บ้านของเรามีฐานะพอสมควรครับ มีฟาร์มและไร่ชาเป็นของตัวเอง เฮียเมฆเป็นคนดูแลฟาร์มครับตอนนี้ เฮียหมอกดูแลไร่ชา ส่วนเจ้ฝนดูแลหน้าร้านแทนม้าครับ ส่วนผมที่เป็นลูกคนเล็กมีหน้าที่เรียนให้จบครับ


ผมเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขายานยนต์ครับ ที่มหาลัยเอกชนมีชื่อที่กรุงเทพฯครับ ผมชอบเครื่องรถตั้งแต่เด็กแล้วครับ ถึงจะเรียนสายสามัญก็ตาม มีอาจารย์หลายคนตกใจพอสมควรที่ผมไม่ได้ต่อทางแพทย์เพราะคะแนนของผมสามารถสอบได้สบาย


ผมมีเพื่อสนิทอยู่คนครับชื่อตั้มซึ่งมันก็มาเรียนกับผมเหมือนกันเพราะที่บ้านมันเป็นบริษัทนำเข้าอะไหล่ที่กรุงเทพครับ แต่มันย้ายไปเรียนที่เชียงรายบ้านเกิดแม่มันครับเลยทำให้รู้จักกันแถมยังชอบเหมือนกันเลยสนิทกันไปทันที


ผมเป็นเด็กเหนือครับแถมยังมีเชื้อจีนอีก ไหนจะเป็นลูกคนสุดท้องที่ไม่ได้ออกไปไหนเพราะที่บ้านหวงยิ่งกว่าเด็กผู้หญิง ไม่แปลกที่ผิวของผมจะขาวขนาดนี้ ไม่ว่าจะไปยืนตากแดดขนาดไหนก็ไม่คล้ำลงสักนิด ไหนจะหน้าที่ออกหวานแบบม้าแต่ยังมีโครงหน้าแบบชายของป๊ามาด้วยไม่งั้นคงจะเพลียใจกว่านี้อีกครับ


ส่วนสูงของผมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานครับ 175 เท่ากับไอ้ตั้มครับ ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมก่อนออกฝึกงานครับ ผมคิดว่าจะไปฝึกที่บริษัทพ่อไอ้ตั้มเพราะที่บ้านมันสนิทกันกับบ้านผมพอสมควร เพราะแม่มันกับม้าผมเป็นเพื่อนกันมาก่อน


บ้านเกิดผมอยู่ที่เชียงรายครับ แต่เมื่อไปเรียนป๊าเลยให้อยู่ที่คอนโดที่ป๊าเช่าให้เพราะไม่อยากให้อยู่ในหอในตามใจผมครับ เพราะทำตัวดีด้วยครอบครัวเลยเชื่อใจพอสมควร และผมก็ไม่คิดว่าจะทำให้ที่บ้านผิดหวังด้วย ในเทื่อทุกคนรักผมขนาดนี้ ผมจะทำร้ายคนที่รักได้ลงหรอครับ


เฮียเมฆแต่งงานแล้วครับ มีลูกแฝดชายหญิงสองคนแต่เรื่องมัน่าเศร้าเพราะอาซ้อจากพวกเราไปหลังจากที่คลอดเจ้าแฝดไม่กี่วันเพราะร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้ว หลังจากนั้นเฮียก็ไม่สนใจใคร จนเมื่อปีที่แล้วที่เฮียพาผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาที่บ้านใหญ่ บอกป๊ากับม้าว่าเป็นคนรัก ทุกคนตกใจมาก ผู้ชายคนนั้นร้องไห้เลยครับ นึกว่าที่บ้านผมรับไม่ได้


กว่าจะเข้าใจม้ากอดปลอบตั้งนาน บอกว่าที่ตกใจเพราะเฮียเมฆไม่สนใจใครมาตั้งนานไม่คิดว่าจะรักใครอีก พอได้ยินก็เลยตกใจกัน ส่วนเรื่องเพศของคนรักป๊าม้าเป็นพ่อแม่ที่รักลูกมากกว่าที่คิดครับ ความสุขของลูกคือที่สุดครับ ม้าสบอกผมไว้


แฟนใหม่เฮียที่เป็นผู้ชายชื่อเฮียหลิว เป็นผู้ชายร่างเล็ก เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยเฮียในฟาร์มได้สองเดือน ดูเหมือนจะเป็นเฮียเมฆครับที่รักก่อน กว่าจะตกลงกันได้ก็ห้าเดือนไปแล้วจนมาวันที่พาเข้าบ้านละครับ เรื่องยาวมาก กว่าผมจะฟังกันจบ


เฮียหลิวนิสัยดีมากครับ คอยสอนในหลายๆเรื่องให้กับเจ้าแฝดเพราะก่อนหน้านั้นเคยเป็นครูมาก่อน แถมยังสอนอะไรเกี่ยวกับการมองคนให้ผมด้วยครับ ทั้งทัศนคติต่างๆในการใช้ชีวิตที่สอนผมก็ทำตามนะครับ


จบเรื่องเฮียเมฆไปครับ มาที่เรื่องของผมดีกว่า ในเมื่อผมชอบรถมาก ไม่แปลกที่รถของผมจะไม่เหมือนคนอื่น ถึงภายนอกจะเหมือนรถทั่วไปแต่ผมก็ดัดแปลงแถมเพิ่มอะไรลงไปเยอะเหมือนกันครับ ลงทุนไปเยอะจะรักมากก็ไม่แปลกครับ


เรื่องเงิน เป็นเงินที่ผมเล่นหุ้นมาครับ เจ้ฝนเป็นคนสอนครับเพราะเจ้ฝนจบด้านนี้มา ภายนอกเป็นรถซิตี้ธรรมดาครับแต่เพราะอุปกรณ์ที่ผมซื้อมาใส่เพิ่มที่ตัวเครื่องกับการลงโปรแกรมตรวจสอบให้รถไปด้วยก็ทำเอาความภูมิใจพุ่งไปสูงเลยครับ


“พรุ่งนี้ตี๋เล็กกลับแล้ว เจ้อดใช้งานเลย”


“รักน้องมาครับเจ้ฝน”


“ใช้พี่ต้องคิดถึงน้องไอมากเลยครับ”


“อุ้ย เฮียหลิวครับ อย่าหันมีดมาทางผมสิครับ” ก็สายตาเฮียเมฆแทนจะกรีดตัวผมขนาดนั้นนี่ครับ


“พอๆมากินข้าวเย็นกันมา อาตี๋เล็กไปเรียกเฮียหมอกกับป๊ามาไปลูก”


“ครับม้า”


ผมรับคำม้าแล้วเดินมาเรียกทั้งสองคนที่นั่งเล่นอยู่หน้าบ้านให้ไปกินข้าวเย็นได้แล้ว หลังจากนั้นก็เป็นเวลาครอบครัวแล้วครับ แพลนกล้องไปครับ


ตอนเช้ามืดครอบครัวผมก็พากันมาส่งผมที่สนามบินทางภาคเหนือเพื่อขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ เราล่ำลากันจนถึงเวลา ผมเดินแยกเข้าเกจเพื่อโหลดของก่อนจะเดินเข้าประตูขึ้นเครื่องไป


ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ


ตอนนี้ผมมาถึงกรุงเทพแล้วครับ ขึ้นแท็กซี่ไปที่คอนโดทันทีเพราะกระเป่ามีหลายใบให้ขึ้นรถไฟฟ้าคงไม่สะดวกขนาดนั้นครับ พอถึงก็วานพี่ยามช่วยขนของมาที่ห้องแล้วจ่ายค่าเสียเวลาไปเล็กน้อย ผมไม่ได้คิดว่าเงินสามารถซื้อได้ทุกอย่างนะครับ แต่ผมคิดว่าการให้เงินเป็นสิ่งตอบแทนในยุคนี้ถือว่าดีสุดเพราะสามารถใช้ในเรื่องอื่นๆตามที่คนรับต้องการได้


ผมจัดของต่างๆให้เข้าที่ แล้วทักไปบอกที่บ้านว่าถึงแล้วเตรียมตัวออกไปหากินต่อ ร้านอาหารด้านนอกมีเยอะครับ มีเงินก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องไปกินในห้างเสมอไป ผมเห็นค่าของเงินมากกว่านั้น ข้างแกงข้างทางก็ดีนะครับ ได้เยอะด้วยแถมคุ้มกับราคาอีกต่างหาก


“ป้าครับ คะน้าหมูกรอบเพิ่มไข่ดาวเหมือนเดิมครับ”


“จ้า กลับมาแล้วหรอหนูไอน้ำ”


“กลับมาแล้วครับ นี่ครับน้ำพริกกับแคปหมู ของฝากครับ”


“โอ้ย ลำบากเปล่าๆลูก ขอบใจนะลูก”


“ไม่ลำบากครับ ขอบคุณครับ”


เพราะผมฝากท้องกับร้านป้ามานานครับตั้งแต่ปีหนึ่งตอนนี้ผมก็ปีสี่แล้วด้วย ผมติดใจหมูกรอบกับไข่ดาวร้านนี้ครับ เรื่องของฝากปกติครับ กลับบ้านมาก็เอามาฝากป้าตลอด นี่ถ้าลูกป้าไม่มีแฟนป้าคงคิดว่าผมมาจีบลูกป้าแน่ครับ


ผมถ่ายรูปเก็บไว้อัพตอนกลางคืนแก้ลงคนหิวยามดึกครับ มีอีกหลายคนที่ต้องทำงาตอนกลางคืนแล้วหิวโหย อย่างเช่นเพื่อนในสาขาของผมบางคนที่กำลังปั่นรายงานเตรียมฝึกตอนกลางคืน ผมเป็นคนดีนะครับ แค่อยากลดความหิวของเพื่อนเท่านั้นเอง จริงๆครับ ฮ่าๆๆ


รสชาติที่ตรึงใจมากครับ ความเผ็ดของพริกแดงกับความละมุนของน้ำซอส ไหนจะความกรอบของผักคะน้ากับหมูกรอบนี่อีก ไข่ดาวที่ไข่แดงยังไม่สุกมากกำลังพอดีที่ไหลออกมาบนข้าวสวยร้อนๆ เหมือนขึ้นสวรรค์ครับ บอกเลย กลืนน้ำลายกันอยู่สินะครับ ผมเข้าใจๆ


หลังจากที่จัดการจนเกลี้ยงจานก็ยกจานไปวางที่กะละมังที่วางไว้ ที่ร้านนี้กินเสร็จต้องเอาจานไปเก็บเองครับ เพราะกว่าลูกป้าจะกลับจากโรงเรียนก็เย็น แถมยิ่งคนเยอะจะไม่มีเวลาเดินเก็บ ป้าเลยตั้งกฎเข้ามาเพิ่ม แต่ลูกค้าก็เข้าใจดีนะครับ เลยเก็บกันทุกคนที่เข้ามากิน


ผมเดินกลับมาที่คอนโดอีกครั้ง ระยะทางจากร้านกับคอนโดไม่ไกลครับ ประมาณสามร้อยกว่าเมตรเอง แถมตลอดทางเดินมีต้นไม้ขึ้นอยู้ด้วยเลยชิวๆไปสวนทางกับอากาศที่ร้อนจนตับจะออกมาเต้นระบำนอกตัว จะว่าไปก็เริ่มง่วงแล้วด้วย นอนยาวถึงเช้าเลยดีไหมนะ อืม พรุ่งนี้เรียนตอนเก้าโมง ตื่นเจ็ดโมงก็ทัน ว่าแล้วก็ไปอาบน้ำนอนดีกว่า


มหาวิทยาลัยเอกชน U


ขับลูกรักเข้ามาจอดที่โรงจอดรถของนักศึกษา ดูความเรียบร้อย บอกลาลูกแล้วมาที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะตัวเอง เจอเพื่อนๆหลายคนร่วมสาขาที่บ้างก็ฟุบหลับ บ้างก็กิน บ้างก็คุย แต่ทำไมไม่เห็นเพื่อนสนิทเรากัน


“ไงมึง ไหนของฝาก”


“ดีครับเพื่อนมึง มาถึงถามหาของฝากก่อน เป็นเพื่อนที่น่ารักมากครับ”


“บางทีกูก็งงกับตรรกะการพูดของมึงนะไอ้ไอ ตกลงจะสุภาพหรือหยาบกันวะ”


“กูก็สุภาพนะครับ หยาบตรงไหน”


“เอาเหอะ กูปวดหัว คุยกับมึง ว่าแต่เอาเอกสารไปยื่นวันจันทร์หน้านะเว้ย ไปพร้อมกันเลยเดี๋ยวจะพาทัวร์แผนกใหม่”


"พ่อมึงลงแผนกใหม่อีกแล้วหรอครับ คราวนี้อะไรครับ"


“ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนกูว่ามึงกวนตีนกูอยู่นะ เอาเหอะ กูปลง พ่อกูลงแผนกช่างเทคนิคใหม่ เป็นพวกควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์หรือเครื่องจักร มีหน้าที่ตรวจสอบกับพัฒนาอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับยานยนต์”


“ดูหรู ดูมีราคา ทำไมพอเป็นมึงพูดแล้วดูธรรมดาครับเพื่อน”


“กูเกลียดมึงเชี่ยไอ”


“โอ๋ๆครับมึง ไปกินข้าวกัน จะได้ขึ้นเรียน”


“เออ ว่าแต่เทอมนี้เรียนแค่อาทิตย์นี้อาทิตย์เดียวจริงเปล่าวะ”


“จริงครับ คล้ายๆเตรียมความพร้อมก่อนออกฝึก จะเอาเนื้อหาสำคัญๆมาสรุปให้ฟังทั้งอาทิตย์ครับ”


“ห้ามโดดใช่เปล่าวะ”


“ครับ ห้ามโดด มีเช๊คชื่อ คะแนนมีผลกับคะแนนฝึกด้วยครับ”


“เซ็งเลย เอาเหอะไปกินข้าวดีกว่า”


“ครับ”


ชีวิตในรั้วมหาลัยแห่งนี้ทำให้ผมมองเห็นอะไรหลายอย่างเลยครับ ทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี ผมถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่มีทัศนคติด้านบวกแต่กับขัดแย้งกับอิทธิพลของป๊าที่มีทัศนคติด้านลบปะปนเป็นบางครั้ง ผมที่อยู่กึ่งกลางเลยมีทั้งความคิดเชิงลบและบวก ผมต้องการส่งต่อด้านบวกให้กับคนรอบข้างมากกว่าเลยแสดงในด้านบวกเสมอ แต่ก็ไม่รู้ว่าเกราะที่กักขังด้านลบจะรั่วเอาวันไหนด้วยสิครับ


สังคมสมัยนี้หายากที่จะมีคำว่าน้ำใจกัน ยิ่งในเมืองหลวงแล้วยิ่งยากกว่างมเข็มในมหาสมุทรตามที่เรียนมาอีกครับ เรื่องเล็กน้อยอย่างการเสียสละเป็นเรื่องที่หายากเช่นกัน อย่างการเดินขึ้นรถประจำทาง การใช้รถไฟฟ้าสาธารณะ การเข้าแถวซื้อของ หรืออะไรก็ตาม


บ่นเป็นคนแก่เลยครับผมเนี่ย แต่มันก็แก้เบื่อเวลารอรถติดได้ดีนะครับ ยิ่งเรื่องรถติดนี่เป็นปัญหาของคนเมืองมากครับ เมื่อครั้งก่อนไปไหว้หลวงพ่อโสธรมาครับที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ช่วงแยกโรงเรียนหญิงล้วนตอนเช้าๆนี่รถติดมากครับ ผมไปพักที่โรงแรมชื่อดังของจังหวัดครับเลยต้องไปสายนั้นเพราะอยากจะถ่ายรูปริมน้ำแถวหน้าโรงพยาบาลครับ พอเจอรถติดไปทำเอาเฟลนิดหน่อยครับ


แต่ก็ได้ไหว้องค์หลวงพ่อโสธรตามที่ตั้งใจไว้ครับ แถมยังเลยไปที่เรงเจด้านหลังด้วยครับ จะว่าไปที่จังหวัดนี้ก็มีเชื้อสายจีนเหมือนผมเยอะครับ หนุ่มตี๋นี่เดินให้เห็นพอสมควร ขากลับแวะซื้อของฝากขึ้นชื่อที่ร้านช่วงทางกลับเส้นบางปะกงครับ อร่อยครับ ฝากเพื่อนหลายกล่องเลย


ย้อนเวลาไปนานจะว่าไป เหมือนลุงที่ขับแท็กซี่ครั้งก่อนเคยบอกว่าทางกลับคอนโดผมมีทางลัดนี่ครับ เหมือนจะแยกข้างหน้านี่แหละครับ หลบรถติดได้ด้วย พอถึงผมก็จัดการเปิดไฟเลี้ยวแล้วหนีเข้ามาเลยครับ  ดูเหมือนว่าจะเป็นถนนของหมู่บ้านอะไรสักอย่างนะครับ คล้ายบ้านจัดสรร แต่น่าจะปลูกมานานเหมือนกัน


หือ ข้างหน้ามีอะไรกัน แถมรถผมก็ขับมาไม่เร็วเพราะเห็นว่าเป็นหมู่บ้านอีกทั้งไม่ชินทางกลัวว่าลูกรักจะบาดเจ็บจากการตกหลุมเอา แต่รถมอเตอร์ไซด์คันนั้นทำไมต้องขับตัดไปมาแบบนั้นกัน จะว่าไปมันดูคุ้นๆเหมือนตอนนั่งรถไปกับป๊าวันนั้นเลย อย่าบอกนะ ไม่ได้การ คนดีแบบไอน้ำย่อมไม่นิ่งเฉยครับ


ปิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนน เอี๊ยดดดดดดดดดด


เสียงบีบแตรและเสียงล้อบดถนนบ่งบอกความเร็วที่ถูกกระชากหยุดกะทันหันของรถซิตี้สีขาว ฝุ่นควันจากการเสียดสีของล้อยางและถนนพัดไปที่ชายสงคนที่คร่อมรถจักรยานยนต์จนมองภาพเบื้องหน้าไม่ชัด


เสียงการต่อสู้ดังขึ้นไม่นานก็หยุดลง กลุ่มควันที่จางปรากฏภาพทุกอย่างสู่สายตาของเจ้าของรถที่เปิดประตูลงมาเหยียบพื้นไม่ถึงสามวินาที


“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” เสียงทุ้มแบบผู้ชายทั่วไปแต่กลับสบายหูคนฟังจนเรียกสายตาจากภาพของลูกน้องตนไปมองยังเจ้าของคำสบถที่ยืนอยู่ฝั่งคนขับ


ใบหน้าที่มองได้ทั้งหล่อและสวยแต่ออกหวานของเจ้าของรถสีขาวที่เข้ามาถูกจังหวะจนสามารถจับตัวคนร้ายที่ลอบยิงตัวเองได้ ความประทับใจในการควบคุมรถคือสิ่งแรกที่ตรึงสายตา สิ่งต่อมาคงจะเป็นใบหน้าของเจ้าของรถและสุดท้าย น่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์ที่ยังไม่ถูกดับเครื่อง ดูท่าเจ้าของรถหน้าหวานจะมีดีกว่าที่เห็น


“ขอโทษที่ทำให้ตกใจและเสียเวลา” เสียงทุ้มที่แฝงด้วยอำนาจเรียกสายตาคนร่างโปร่งที่ดูเหมือนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย้ายสายตาจากร่างของคนสองคนที่ถูกจับตัวไปยังเจ้าของเสียง


ดวงตาคมที่มองมาแฝงความดุดันทรงเสน่ห์ตามแบบฉบับคนยุโรป ไหนจะร่างกายที่สูงใหญ่ดูท่าจะซ่อนรูปมากกว่าที่ตาเห็นจากภายนอก แต่ไม่สำคัญเท่ากับประกายตาที่ส่งออกมาว่าถูกใจกับอะไรสักอย่าง และถ้าให้เดาก็คงเป็นตัวเอง


“ไม่ได้ตกใจขนาดนั้นครับ ว่าแต่สองคนนั้นคนร้ายหรอครับ” ร่างโปร่งที่ยังไม่ขยับตัวจากประตูรถตนชี้ไปที่ร่างของชายสองคนที่ถูกมัดไว้


“ใช่ อย่างที่เห็นขอบคุณที่ช่วยเหลือ”


“ไม่ต้องหรอกครับ ผมไม่ได้มาช่วย มันเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าหงุดหงิดจนเกินไปต่างหาก” ร่างโปร่งตอบแต่สายตาก็ไม่ละออกจากรอยถลอกบริเวณกันชนหน้าที่ไม่เกินห้าเซนติเมตรหลังจากที่เดินมาตรวจรถตัวเอง


“เป็นรอยเยอะไหมครับ” เสียงทุ้มของร่าสูงที่ไม่รู้ว่าเดินมาประชิดตัวตอนไหนเรียกสายตาจากรอยให้หันไปมอง เมื่อมายืนอยู่ข้างกันก็เทียบได้ว่าตัวเองเล็กกว่าอีกฝ่ายมากขนาดไหน


“ครับ มันน่าจะยิงแก้หงุดหงิดสักทีสองทีจริงเชียว” สายตามุมร้ายจากร่างบางส่งไปให้คู่กรณีที่ทำสีรถตัวเองถลอก แต่คำพูดต่างหากที่เรียกความสนใจจนประกายตาที่โชนแสงยิ่งเข้มขึ้นกว่าเดิม ถูกใจ คำนี้ดังวนเวียนไม่หยุดในหัวร่างสูง


“ใจเย็นก่อน ไว้จะจัดการเผื่อให้ทีหลัง”


“หึ ฝากด้วยแล้วกันครับ ไม่น่าคิดจะมาทางลัดตั้งแต่แรกเลย ให้ตายเถอะ” เสียงบ่นพึมพำของร่างโปร่งที่เดินกลับไปที่รถตัวเองก่อนจะเปิดประตูเตรียมออกตัวอีกครั้ง แต่เพราะร่างสูงที่เดินตามมาไม่ขยับไปไหนเลยต้องลดกระจกเพื่อพูดคุยต่อ


“ชื่ออะไร”


“ทำไมครับ สนใจว่างั้น” เสียงหัวเราะเบาๆจากร่างโปร่งเจ้าของรถตรึงสายตาไว้ที่ดวงหน้าหวานจนเผลอตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


“ใช่ จีบได้ไหม”


“หืม คนจริง ผมไม่รู้ว่าคุณจะถามชื่อไปเพราะจะจีบหรืออะไรก็ตาม ผมชื่อไอน้ำจะเรียกไอหรือน้ำก็ได้ครับ หวังว่าจะไม่พบกันอีก”


“ขอให้ไม่สมหวัง” สิ้นเสียงเครื่องยนต์ที่ถูกหยุดก็ออกตัวไปจนลับสายตาปล่อยทิ้งไว้เพียงแต่ภาพใบหน้าหวานที่ติดตาจนยากจะลบไป


“นายท่านครับ” เสียงเรียบดังขึ้นจนต้องละสายตากลับไปที่คนพูดด้านหลัง


“สืบมาให้หมด”


“ครับนายท่าน” เลขาคนสนิทรับคำก่อนจะเปิดประตูเพื่อเคลื่อนตัวออกจากที่เกิดเหตุกลับที่พักตามกำหนดเดิม


ใจเต้นแรงมากครับ ผู้ชายอะไรมีเสน่ห์ขนาดนี้กัน ตอนที่โดนตาคมนั้นมองเข่าแทบทรุด บ้าไปแล้วไอน้ำ มึงหวั่นไหวกับผู้ชายหรอวะ แถมยังดูไม่น่าเข้าใกล้แบบนั้นอีก จะมาใจบางตอนนี้ไม่ได้นะเว้ย ไหนจะเผลอปล่อยคำพูดด้านลบไปแบบนั้นอีก จะยิงคนหรอ ให้ตายเถอะไอน้ำ เจอคนหน้าตาดีหน่อยสติหลุดเลยหรือไงวะ


ตีอกชกหัวตัวเองไปก็เท่านั้น จะว่าไปผู้ชายคนนั้นดูคุ้นจัง เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน จะว่าไปหาเอาจากป้ายทะเบียนก็ได้เหมือนกันนี่ครับ ไม่รอดแน่ เอ้ย ไม่ใช่สิ เราแค่อยากรู้เฉยๆไอน้ำ เราไม่ได้จะไปกินเข้า บ้าไปแล้ว สติจ๋าไปอยู่ไหนกัน


TBC.


ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#2


ผ่านมาหลายวันจากวันนั้น นี่ก็วันศุกร์แล้วครับ คาบเช้าหมดไปแล้วดูเหมือนคาบบ่ายจะไม่มีเรียนแต่เป็นการอบรมเรื่องการออกฝึกงานครับ และได้ยินว่าจะมีบริษัทใหญ่มาด้วยเหมือนจะมาให้คำแนะนำตอนที่ทำงานกับหาเด็กเข้าทำงานละครับ ดูเหมือนจะยังมีคนที่ยังหาที่ฝึกงานไม่ได้เยอะและคนที่เข้าฝึกที่นั่นด้วย ไหนจะมาดูตัวเด็กที่จะเข้าทำงานอีก เห็นว่ามาหลายบริษัทเลยครับ ตามสัญญาเอ็มโอยูละครับ


เริ่มต้นของเดือนหน้าที่จะถึงจะเริ่มฝึกงานจริงๆครับ ช่วงที่เหลือหลังจากนี้จะเป็นการเคลียร์ตัวเองครับก่อนการฝึกงาน พวกเอกสารที่ติดต่อไว้แล้วยังไม่ได้จากมหาลัยบ้างพวกที่เตรียมเช่าหอบ้าง เยอะครับ ปัญหามากมาย แต่ไม่ใช่กับผมที่เกาะเพื่อนตัวเองไปสบายๆ ฮ่าๆๆ


“พวกมึงกูได้ยินว่าหนึ่งในบริษัทที่มาวันนี้มีบริษัทคอสแตนติโน่ มอเตอร์มาด้วยนะเว้ย”


“ก็ปกติเปล่าวะ มาทุกปี”


“แต่ปีนี้ซีอีโอมาด้วยนะเว้ย”


“เห้ย จริงหรอวะ คุณมาร์โชวคนนั้นอะนะ”


“เออดิวะ กูโคตรตื่นเต้นเลยมึง”


อย่าตกใจกันไปครับที่เพื่อนผมที่เป็นผู้ชายดูจะตื่นเต้นกับซีอีโอที่เป็นเพศเดียวกันแบบนี้ พวกมันยังชอบของทะเลไม่ขึ้นบกเข้าป่าครับ มันแค่ชื่นชมและตื่นเต้นที่ไอดอลของพวกมันมาให้เห็นตัวจริงเท่านั้นครับ เด็กสาขานี้มีเขาเป็นแรงบันดาลใจเกือบทุกคนครับ ไม่ว่าจะหน้าตา ฐานะ ไหนจะความสามารถด้านเครื่องยนต์ด้วย นอกจากพวกผมยังมีผู้ชายที่ชอบความเร็วที่ชื่นชมเขาเหมือนกันครับ


แต่จะว่าไปชื่อคุ้นๆเหมือนเห็นเมื่อไม่นานมาก่อน เหมือนจะไม่กี่วันด้วย อืม พอเปิดโทรศัพท์เตรียมหาก็เจอชื่อที่เคยหาไว้ อย่าบอกนะว่าเป็นเขากัน ไม่รู้ว่าจะใช่หรือเปล่าแต่หลบก่อนดีกว่า กลัวใจตัวเองครับ ช่วงนี้ยิ่งเพ้อๆอยู่ด้วย ภาพใบหน้าเขายังติดตาอยู่เลยครับ หลอนไปอีกคนอะไรกัน


“ตั้มเพื่อน กูมีธุระด่วนเดี๋ยวยังไงว่ากันนะ ฝากจองที่ไว้ก่อนก็ได้ ถ้ายังไงจะโทรมาบอกนะเว้ย ไปแล้วครับ”


“ดะ เดี๋ยวก่อน ไอ้ไอ ไอน้ำ” เรียกให้ตายก็ไม่กลับครับนาทีนี้


ใครบอกให้ทำที่จอดรถไกลโรงอาหารกันครับ แถมยังเงียบอีก ถ้ามีคนมาขโมยรถผมไม่แปลกใจเลยว่าจะเกิดขึ้นแบบไหน แต่ถึงจะบ่นผมก็มาจอดครับเพราะมันมีที่กันฝนกันแดดให้ลูกรักผมอยู่ ฮ่าๆๆ  เดินไปใกล้จะถึงรถแล้วครับแต่ลางสังหรณ์มันบอกว่าไม่ปกติ มันดูเงียบเกินไปที่นี่ ไม่เหมือนวันอื่นๆ ถึงผมไม่ได้เป็นญาติเจนผมก็สัมผัสได้ครับ


ผมหยุดเดินมองไปรอบตัวอย่าหวาดระแวง ทำไมบรรยากาศมันเหมือนจะมีผีโพล่มากันละครับ หรือว่าผมนึกถึงคุณเจนเลยเป็นแบบนี้ บ้ากันไปแล้วครับ สมองผมนี่แหละครับ ผมส่ายหัวแล้วตบหน้าตัวเองเบาๆเรียกสติ อย่าถามว่าไม่ตบแรง จะบ้าหรอครับเราต้องไม่ทำร้ายตัวเองครับ ผมเรียนมา ผมรู้


“สัมผัสดีนี่ครับนายน้อย” เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังหยุดมือที่กำลังจะปลดล็อครถตัวเองลงแล้วหันกลับไปที่เจ้าของเสียง ให้ตายผมควรเล่นหวย ทำไมถึงทายแม่นแบบนี้นะ ดูเหมือนซีอีโอคนนั้นจะมีเรื่องคุยกับผมแน่ครับ


“สวัสดีครับ ผมไม่รู้ว่าเรารู้จักกันมาก่อนตอนไหน แต่ผมมีเรื่องที่ต้องไปทำ คงต้องขอตัวก่อน หวังว่าจะเข้าใจนะครับ”


“ผมชื่อคิมหันต์ครับ เรียกผมว่าเลขาคิมก็ได้ครับนายน้อย เรารู้จักกันแล้ว ทีนี้กรุณาตามผมกลับไปที่อาคารเรียนเพื่อนร่วมประชุมช่วงบ่ายด้วยนะครับ นายน้อย”


“มีทางเลือกให้ผมไหมครับ”


“ดูเหมือนนายท่านจะคาดว่านายน้อยต้องถามมาแล้ว มีครับสองทาง”


“ว่ามาเลยครับ”


“ทางแรกกลับไปที่ห้องฟังอบรมจนจบแล้วเดินทางกลับไปที่บ้านพร้อมนายท่าน หรือ สอง ไม่ต้องเข้าอบรมแต่ขออนุญาตมัดตัวนายน้อยไปรอนายท่านที่เตียงแต่จะโดนอะไรบ้างอันนี้ผมบอกนายน้อยไม่ได้ครับ เลือกได้เลยครับ”


“แหมคุณเลขาคิมครับ ถ้าเจ้านายคุณจะเสนอทางเลือกแบบนี้ก็นำทางผมไปที่ห้องเถอะครับ”


“เลือกแบบที่สองสินะครับ”


“แบบแรกสิครับ ขอเถอะครับอย่าพูดล้อเล่นด้วยรอยยิ้มการค้าแบบนั้นเลยครับ มันน่ากลัว” สยองครับถึงผมจะหวั่นไหวกับเขาก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องไปนอนรอประหารแบบนั้นนี่ครับ บ้าไปแล้ว ใจผมนี่แหละ


“ถ้าอย่างนั้นเชิญครับ”


“ครับๆ” หนีไม่พ้นครับ โดนดักตั้งแต่ยังไม่เริ่มหนีเลย จะอ่านทางกันเก่งไปแล้วครับ


เดินมาจนถึงห้องอบรม เพื่อนๆผมนั่งกันเรียบร้อยแล้วครับ ไม่คิดว่าแค่ไปที่โรงรถคุยแล้วเดินกลับมาจะใช้เวลานานจนเพื่อนกินข้าวเที่ยงเสร็จมานั่งรอแบบนี้ หรือว่าพวกมันต่างหากที่กระตือรือร้นมาเร็วเอง


“อ่าวไหนว่ามีธุระ ทำไมมาเร็วจังวะ”


“พอดีเสร็จแล้วแค่เรื่องนิดเดียวไม่มีอะไรหรอก แล้วทำไมพวกมึงมากันเร็วจังวะ แถมนั่งหน้าด้วย” ผมก้มหน้าไปใกล้พวกมันที่ชะโงกหน้าเข้ามาคุยกัน


“กูพวกกูอยากเจอมายไอดอลนี่หว่า แถมเขาก็นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย นั่งตรงนี้เห็นเขาชัดดี กูจะแอบถ่ายรูปเก็บไว้ให้เต็มเมมเลยมึง” ดูเหมือนเพื่อนสนิทผมจะบ้ามากกว่าคนอื่นครับ


ผมมองตามสายตาพวกมันไปก็เจอกับเขาคนนั้นที่ทำให้ใจเต้นไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า จะบ้าตายเขามานั่งใกล้แถวหน้าอะไรขนาดนี้ แถมที่นั่งผมยังริมสุดด้วย อย่าบอกว่าบังเอิญเลยครับ ผมไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่


“มึง”แรงสะกิดจากไอ้ตั้มที่นั่งข้างผมเรียกสายตาผมที่สบกันกับเขาให้หันกลับมา ดูเหมือนมันจะมีเรื่องสงสัยมากครับเพราะหน้ามันยื่นมาจนจมูกจะชนกับผมอยู่แล้ว


“ว่า แล้วต้องยื่นหน้ามาขนาดนี้เลยหรอวะ”


“โทษๆ กูมีเรื่องสงสัยมากไง แถมมึงยังมานั่งจ้องตากับเขาอีกกูเลยอยากเผือกมากขึ้น เล่ามาให้ไวสหาย” ถึงจะเอาหน้าออกไปห่างกว่าเดิมแต่ความเสือกนี่ยังมาเต็มจนชนหน้าเหมือนเดิมครับ


“กูเคยเจอเขามาก่อนไม่ไม่กี่วันเลยสงสัยว่าใช่ไหม แล้วก็ดูเหมือนว่าจะเป็นคู่ค้าคนสนิทของป๊าด้วยเลยจ้องนานไปหน่อย”


“เข้าใจไปเรื่องแล้วเรื่องที่มึงมาพร้อมคุณคิมละ”


“รู้จักด้วย”


“รู้ดิวะ คุณคิมเป็นเลขาคุณมาร์โชวนะเว้ย พวกกูต้องรู้เรื่องมายไอดอลอยู่แล้ว”


“ออ กูเข้าใจ พอดีเดินขึ้นลิฟตฃ์มาด้วยกันก็เลยมาพร้อมกันไง จบ”


“กูเข้าใจ สัส ง่ายไป กูต้องเชื่อเรื่องที่มึงเล่าไหม เอาเหอะกูไม่คาดคั่นหรอก แต่กูว่าคุณมาร์โชวต้องคิดเคลมมึงแน่นอน”


“บ้าไปแล้วเพื่อนกู ไปนอนไหม คิดได้ไง”


“ก็มันจริงกูดูสายตาที่เชขามองมึงออก ยิ่งตอนที่กูยื่นหน้ามาหามึงนะ โอโห รังสีสังหารมาเต็ม ว่าแต่มึงเหอะ”


“อะไร”


“หน้าแดงทำไม อย่าบอกว่ามึงก็ชอบเขาอะ”


“บ้า พอๆ อากาศมันร้อน”


“ออ อากาศมันร้อนเนอะ เพนกวินมาเดินเล่นได้สบายมึงบอกร้อน แถเนียนมากมึง กูเป้นเพื่อนมึงมาตั้งแต่เกิด อย่าได้คิดหลอกกู”


“เออ กูหวั่นไหวพอใจยัง”


“หึ แล้วไปทำยังไงกันละ”


“ทำอะไร ก็มีเรื่องพอดีแล้วเจอกัน พอเห็นหน้ามันก็หวั่นไหวไง จะถามอะไรนักหนา โอ้ย”


“เป็นอะไรวะ” เสียงไอ้ตั้มถามเพราะตกใจที่อยู่ดีๆผมก็ร้องออกมา ผมพลิกแขนมองข้อศอกตัวเองที่ตอนนี้เป็นรอยแดงตรงจุดที่โดนกระแทกใส่ ก้มมองเห็นหินประดับที่ตกอยู่ดูท่าจะเป็นมันที่พุ่งมาโดนศอกผม ไล่สายตาหาที่มาพอมองไปที่หน้าเขาก็เจอพวกของหินที่อยู่ในแจกันประดับ ส่วนต้นเหตุที่มันพุ่งมาก็กำลังส่งสายตาดุมาให้ผมอยู่


“ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรยังหวงขนาดนี้ ถ้าคบกันกูต้องระวังลูกตะกั่วเวลาคุยกับมึงไหมวะ”


“เพ้อเจ้อ ใครจะคบใคร พอๆ เจ็บชิบ ดีดมาได้”


“เอายาดมทาก่อนไหมมึง เดี๋ยวช้ำอีก ตัวมึงยิ่งเป็นรอยง่ายอยู่”


“ขอบใจ”ผมหยิบน้ำจากยาดมไอ้ตั้มมาทาที่บริเวณที่โดนดีดหินใส่ พลางส่งสายตาค้อนใส่ต้นเหตุที่ทำให้เจ็บ ไม่ต้องมาส่งสายตาขอโทษเลย ไม่ยกโทษให้ง่ายๆหรอกครับ


ตัวแทนจากบริษัทต่างๆขึ้นไปพูดจนมาถึงบริษัทของเขาเป็นเลขาคิมที่ขึ้นไปพูดแทน ไม่รู้ว่าจะมาทำไมกัน มานั่งมองเฉยๆผมว่าส่งตัวแทนมาแบบบริษัทอื่นก็ได้ครับ ไม่ได้งอนทั้งนั้นครับ ที่พูด พูดโดยรวมครับ


“ส่วนเรื่องสัญญาเอ็มโอยูของเราท่านประธานจะขึ้นมากล่าวต่อจากนี้ครับ” ออก็ทำงานเป็นนี่ แล้วไม่ขึ้นไปพูดเองละครับ ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไรทั้งนั้นครับ โดยรวมครับโดยรวม


“สวัสดีครับ เรื่องสัญญารับนักศึกษาฝึกงานกับทางเรา....”ยาวไปครับ คิดว่ามาประชุมบริษัทตัวเองหรอครับ แล้วพวกเพื่อนผมก็เงียบกันดีเหลือเกินครับ ตั้งใจยิ่งกว่าเวลาเรียนไปอีก มีอะไรน่าตื่นเต้นกัน


“มึง กูอยากไปฝึกงานที่นั่นหวะ”


“อะไรของมึง ที่บริษัทมึงก็ดีนะ จะยื่นเอกสารแล้ว”


“แต่กูอยากทำที่อื่นแล้ว มึงคิดดูนะพอเราฝึกงานก็ต้องมีแต่คนบอกว่าเด็กเส้นแน่เลย”


“เอาความจริง”


“กูอยากเข้าฝึกงานที่บริษัทของคุณมาร์โชว”


“พูดแต่แรกก็จบ มึงไปก็ได้ไว้กูฝึกที่บ้านมึงต่อเอง”


“ไม่ กูว่ามึงก็ต้องได้ทำที่นั่นเหมือนกู”


“เกี่ยวอะไรกับกูครับ”


“กูเกลียดการใช้คำมึงจริงๆ แต่เรื่องนั้นเชื่อกูสิ เขาไม่ปล่อยมึงไปหรอก”


“พอเลย เลิกคุยเรื่องนี้เลย เดี๋ยวก็เป็นบ้าดีดหินใส่กูอีกครับ”


“เออๆ ว่าแต่หลังจากนี้กลับบ้านเลยเปล่า”


“อืม มึงละ”


“กลับบ้านเหมือนกัน ว่าจะไปเอาใบแล้วไปบอกที่บ้านเรื่องนี้ด้วย”


“นี่มึงเอาจริงหรอครับ”


“จริง มึงด้วย ไปกับกูเลย”


“ไม่เอา”


“กลัวอะดิ”


“กลัวอะไรครับ”


“กลัวรักเขาสินะ”


“พอ เลิกคุยครับไหนว่าจะไปเอาใบไง เลิกแล้วไปหยิบสิครับ กูจะกลับบ้านแล้ว ไว้ค่อยคุยกันครับ”


“เออ ดะกูหยิบมาเผื่อ แต่กูว่าไม่ต้องดีกว่า คงมีคนเอามาให้มึงแล้ว”


“กูบอกให้เลิกพูดไงครับ”


“โชคดีมึง ไปก่อนครับ สวัสดีครับ” อะไรของมันกัน แล้วไหว้ใครวะ


“เจ็บมากไหม”


“ถามทำไมครับ ถ้าทำแล้วไม่ต้องมาถามหรอกครับ”


“โกรธฉัน”


“เหอะ ผมจะไปกล้าโกรธคุณได้ยังไงกัน แถมเราไม่ได้รู้จักกันด้วย ขอตัว”


“เดี๋ยว มาคุยกันก่อน” ใจบางไปหมดยิ่งเห็นหน้ายิ่งบาง


“ปล่อยแขนผมเลย อย่ามาโดนตัวกัน คุณทำร้ายผมนะ”


“ขอโทษ ไม่โกรธกันนะ”


“มาขอให้ยกโทษด้วยการแกว่งแขนแบบเด็กๆคุณคิดได้ยังไง”


“ก็อยากกินเด็ก ต้องทำแบบเด็กสิ ถูกไหม”


“ฮือ” ผมดึงมือที่ถูกกุมไว้มาช่วยปิดหน้าตัวเองที่ร้อนจนแทบระเบิดแล้วทรุดตัวนั่งกอดเข่าบนเก้าอี้ที่พึ่งจะลุกแทนการเผชิญหน้า


“ขอโทษด้วยนะ พอดีฉันไม่ชอบพูดอ้อมค้อม”


“อ้อมบ้างก็ได้ครับ สงสารใจผมบ้างเหอะ”


“น่ารักนะ ไปคุยกันที่บ้านฉันเถอะ ที่นี่มีคนเยอะไป หรืออยากได้ข้อสอง”


“โอเค ผมจะตามไปครับ ไปเอารถก่อน”


“ให้คนของฉันขับ”


“ไม่ต้อง” ผมยกมือไหว้คนตรงหน้าที่หลุดตะคอกออกไปจนทุกอย่างเงียบไป “ขอโทษครับที่เสียงดัง แต่ผมขับเองได้”


“เฮ้อ โอเค ฉันพลาดเองทั้งที่รู้ว่าเธอหวงขนาดไหน ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปด้วย”


“แต่ว่า”


“ฉันเชื่อว่าเธอจะช่วยฉันเหมือนครั้งก่อน”


“ก็บอกว่าไม่ได้ช่วยไงครับ” ผมเดินเถียงกับคนตัวโตมาจนถึงรถตัวเอง เมื่อเรียบร้อยก็ออกตัวไปจากมหาลัยไปยังจุดหมายที่กำหนด


TBC.

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#3


ในทุกการขับรถ เราควรมีสติและสมาธิอยู่เสมอ เพื่อความไม่ประมาท แต่ถ้าถูกจ้องมาตลอดตั้งแต่ออกตัวก็ทำเอาหมดสมาธิได้เหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นเราต้องทำลายบรรยากาศอึดอัดนี่


“คุณรู้ไหมว่านอกจากครอบครัวผมแล้วไม่เคยมีใครนั่งรถผมมาก่อนนะครับ”


“เพื่อนเธอละ คนที่ชื่อตั้ม” โห แปลว่าหาข้อมูลผมมาดีมากครับ


“ก็บอกอยู่ครับว่าแค่ครอบครัว แล้วเพื่อนผมไม่ใช่ครอบครัวจะมานั่งได้ไง”


“แปลว่าฉันเป็นคนในครอบครัวเธอด้วยเพราะนั่งรถเธอ”


“ดีครับ ถ้าอย่างนั้นคุณก็มาเป็นพี่ชายผม”


“ไม่ดี ฉันไม่ได้อยากเป็นพี่เธอ อยากเป็นมากกว่านั้น”


“พ่อหรอครับ”


“ผัว” ไงละมึงไอน้ำ เล่นจนตายเอง จะตรงไปไหนกันครับ


“อ้อมบ้างก็ดีครับ”


“เขินหรอลูกแมวน้อย”


“ผมไม่ใช่แมวผมคือเสือครับ” ดีนะครับไฟแดงพอดีเลยหันมาตอบได้


“อย่างเธอเป็นแมวถูกแล้ว เป็นลูกแมวด้วย อืม แล้วฉันจะเป็นอะไรดีละ”


“ถ้าผมเป็นลูกแมว คุณก็เป็นพ่อแมวไงครับ”


“ทำไมต้องเป็นพ่อแมวละ” ได้โอกาสแล้วครับ


ผมขยับตัวโน้มหน้าไปจนหน้าผมกับเขาห่างกันไม่ถึงฝ่ามือ ก่อนจะวางมือขวาตัวเองไปบนหน้าอกที่ดูเหมือนจะแข็งมากกว่าที่เห็นของเขา ก่อนจะใช้ปลายจมูกของเราเกลี่ยกัน เหลือบมองเวลาอีกไม่ถึงสิบวินาที ผมจ้องตาเขาก่อนที่จะตอบ


“เพราะว่าเมื่อถึงเวลาจะได้เรียกคุณว่าแดดดี๊ยังไงละครับ”


“หืม”


“โอ๊ะ ไฟเขียวพอดีเลย” ผมขยับตัวกลับมาก่อนที่มือของอีกฝ่ายจะจับหน้าผมทัน ก่อนจะออกตัวเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน


“บ้าจริง” ดูเหมือนเขาพยายามควบคุมลมหายใจตัวเองอยู่ครับ ดูจากหางตา เหมือนจะตื่นแล้วละครับ เขาชอบผมจริงหรอครับ อาการน่ากลัวมาก ถึงจะหวั่นไหวแต่ไม่ได้แปลว่าผมจะต้องยอมตกเป็นของเขาตอนนี้นี่ครับ มันบอกยากนะครับว่าชอบหรืออยากกันแน่


“ซอยบ้านคุณไปทางไหนต่อครับ” พอถึงทางแยกก็ถามก่อนเพราะกลัวหลงทาง


“เลี้ยวขวาแยกหน้าตรงไปจนสุดเลย แล้วไม่เรียกแดดดี๊เลยหรือไง”


“ไม่ละครับ กลัวคนแถวนี้จะทนไม่ไหวเอา”


“หึหึ ซนจริงๆ อย่าให้ถึงเวลานั้นแล้วกัน ถ้าไม่เรียกละน่าดู”


“คิดไปไกลจังครับ คิดใกล้ๆก่อนเถอะครับ”


“บอกไว้ก่อนให้เตรียมตัวไง”


“พอเลยครับเลิกพูดๆ แล้วเข้าไปเลยไหมครับ”


“อืม เข้าไปเลย”


พอเข้ามาที่ภายในรั้วมีบ้านรายล้อมอยู่หลายหลังมากครับ ดูเหมือนเนื้อที่ภายในรั้วนี้จะกว้างกว่าที่คิดมากเลยครับ ถึงว่าทำไมถึงอยู่สุดทางแบบนี้ ขับผ่านบ้านหลังเล็กมาจนถึงบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า


“เอาไปจอดที่โรงตรงนั้นก่อนก็ได้เพราะถ้าจอดตรงนี้จะโดนแดด และเธอคงไม่ยอมให้ใครมาขยับรถหรอกถูกไหม”


“ครับ” ผมทำตามที่เขาบอก แต่แทนที่เขาจะลงตรงหน้าบ้านกลับบอกให้ผมไปจอดรถก่อนแล้วเดินตากแดดเข้าบ้านพร้อมผม ทำเอาคนงานในบ้านกับการ์ดรีบกางร่มไปรับแทบไม่ทัน


“ขอบคุณครับ” ผมไหว้การ์ดชุดดำที่กางร่มให้ผม ดูแล้วจะอายุมากกว่าผมเยอะเลยครับ เขาเพียงส่งยิ้มรับเท่านั้นก่อนจะพาผมเดินตามเจ้าของบ้านไปที่ประตูบ้านที่มีผู้หญิงวัยทำงานคนหนึ่งยืนรออยู่


“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ ทำไมถึงไปตากแดดละคะ”


“ไม่มีอะไร นี่ไอน้ำแขกของฉัน เตรียมอาหารเพิ่มให้เขาด้วย”


“ค่ะ”


“อ่าวคุณ นี่ผมเป็นแขกคุณหรอ”


“หรือจะเป็นเมียเลย”


“มันต้องจริงจังกันเบอร์นั้นเลยหรอครับ พอเลยคุณ สวัสดีครับ ผมชื่อไอน้ำครับ จะเรียกไอหรือน้ำก็ได้ครับ วันนี้ฝากท้องด้วยนะครับ ส่วนผมไม่ใช่แขกหรอกครับ ผมเป็นจีนครับ ฮ่าๆๆ” เล่นนิดเล่นหน่อยพาเข้าเรื่องนั้นตลอด นิสัยไม่ดีจริงๆ


“อุ๊บ คิคิ” คุณแม่บ้านหัวเราะรับมุขผม ส่วนเจ้าของบ้านหรอครับ ยื่นส่ายหัวใส่เฉยเลย


“ขอโทษนะคะ ป้าชื่อนิ่มค่ะ เรียกป้านิ่มก็ได้นะคะ”


“ครับป้านิ่ม”


“ทีฉันไม่เห็นจะเรียกชื่อ”


“น้อยใจหรอคุณ นี่ผมเรียกคุณเป็นพิเศษเลยนะ”


“ยังไงเห็นเรียกแต่คุณ”


“อ่าว ก็คนอื่นเรียกคุณว่ามาร์โชวบ้าง มิสเตอร์คอสบ้าง นายท่านบ้าง คุณเห็นใครเรียกคุณว่าคุณแบบผมไหมละครับ”


“คนไม่รู้จักกันก็เรียกแบบนั้น”


“คนไม่รู้จักกันเรียกคุณครับต่างหาก”


“ต่างยังไง”


“ก็ผมเรียกคุณว่าคุณไง ไม่ได้เรียกคุณครับนี่ครับ พิเศษไหมครับ”


“หึ ตามมา”


“เขินสินะ เขินผมใช่ไหม” ผมหันไปก้มหัวขอตัวกับคุณแม่บ้านแล้วรีบเดินตามคนเขินไป แต่ก็ยังได้ยินเสียงพูดคุยเบาจากด้านหลัง ดูเหมือนประมุขของบ้านวันนี้จะแปลกตาไปสินะครับ


เดินตามมาในห้องที่เหมือนห้องรับแขก มีโซฟาตัวใหญ่ที่เหมือนจะปรับนอนได้ โทนสีครีมธรรมดาครับทั้งห้องเลยดูสว่างไปหมด ไม่คิดว่าผู้ชายนิ่งๆดูน่ากลัวกลับชอบการแต่งบ้านสีนี้เหมือนกัน อยากจะเห็นห้องนอนซะแล้วสิครับว่าจะสีหวานหรือเข้ม


“นั่งสิ”


“ครับ”


“ที่เรียกมาวันนี้มีเรื่องจะคุยด้วยจริงๆ”


“เรื่องอะไรกันครับ”


“อยากมาทำงานที่บริษัทใหญ่ไหม มีเรื่องที่สนใจอยู่ด้วยนะ”


“ผมฝึกงานที่บ้านตั้มแล้วครับ”


“แต่ดูเหมือนเพื่อนเธอจะอยากมาทำงานกับฉันนะ ไม่สนใจมาด้วยกันหรือไง”


“ถ้าไปฝึกกับคุณ ก็โดนหาว่าใช้เส้นอีก”


“แล้วไปฝึกกับเพื่อนเธอไม่โดนหรือไง”


“แต่ก็เห็นกันมาตั้งนานแล้วครับ รู้กันหมดว่าผมเป็นเพื่อนตั้ม”


“แล้วยังไง มาอยู่กับฉันก็ไม่เห็นจะแปลก ถ้ามีคนพูดอะไรก็ตอบความจริงไปก็สิ้นเรื่อง”


“แล้วจะให้บอกว่ายังไงละครับ บอกว่าสนิทกับคุณหรอครับ”


“บอกไปว่าฉันกำลังจีบเธออยู่”


“จริงจังหน่อยครับ”


“นี่ก็จริงจังนะ หน้าฉันล้อเล่นหรอ”


“หน้าคุณก็ไม่เปลี่ยนไม่ว่าจะพูดแบบไหนก็เถอะ”


“หึ ปากดี”


“เอาดีๆคุณ ผมสนใจอะไหล่กับเครื่องยนต์ของคุณก็จริงแต่ก็ไม่อยากจะโดนว่าอะไรนี่ครับ”


“คิดมากไปได้ สนใจก็มา จะกลัวคนว่าไปทำไม ไม่มีใครมาว่าเธอหรอก เชื่อฉันสิ”


“ปกติคุณพูดแบบนี้กับลูกค้าประจำหรือครับ ชักชวนเก่งจัง”


“ไม่เคยทำ เธอคนแรก”


“จะบอกว่าผมทำให้คุณพูดมาก”


“จะถือว่าเธอกำลังชมนะ”


“โลกสวยไปอีก”


“ขอบคุณ”


“คุณนี่ ทำไมข้อมูลที่เพื่อนผมบอกไม่เห็นเหมือนคุณเลยครับ”


“บอกว่ายังไงละ”


“บอกว่าคุณเงียบ เย็นชา พูดน้อย หยิ่ง น่ากลัว ดูเหมือนพวกมาเฟีย แต่เพราะมีหน้าตาที่ดีกับฐานะที่ร่ำรวยก็เลยมีคนเข้าหาเยอะแยะมากมาย”


“เธอเชื่อ”


“บางข้อครับ”


“ยังไง”


“ก็เรื่องน่ากลัว ก็จริงครับ คุณดูน่ากลัวตอนที่เจอกันครั้งแรก เรื่องหน้าตากับฐานะก็จริงตามที่บอก แต่เรื่องนิสัยผมว่าคุณนิสัยไม่เหมือนที่บอกไว้ คุณดูนิ่งแต่ก็น่าเข้ามาทำความรู้จักจริงๆครับ ส่วนเรื่องหยิ่งหรือเย็นชา อันนี้ผมยังไม่เคยเห็นเลยบอกไม่ได้ แต่คุณที่อยู่ตรงหน้าผมออกจะพูดเยอะ เจ้าเล่ห์ แถมยังชอบกวนผมด้วย อ้อ หื่นด้วย”


“หึหึ หื่นตรงไหนกัน”


“อย่าคิดว่าผมไม่เห็นตอนที่คุณเป็นบนรถนะครับ แค่เข้าใกล้ ตื่นเลย”


“ก็ใครบอกให้ลูกแมวแบบเธอซนกันละ”


“อย่ามาโทษกันนะครับ คุณหื่นของคุณเอง แล้วก็จะมานั่งเบียดผมทำไมครับ โซฟาตั้งกว้าง” ตอนแรกก็มีแค่ผมที่นั่งอยู่โซฟายาวคนเดียวส่วนคุณมาร์โชวก็นั่งอยู่ที่โซฟาเดี่ยว แต่ไหงมานั่งเบียดผมอีกแล้วละ


“มาทำความรู้จักกันใหม่ดีไหม”


“เพื่ออะไรครับ”


“จีบไง”


“ตกลงคุณจะจีบผมจริงหรอครับ คนแบบคุณไม่น่าจะต้องมาทำแบบนี้”


“จะว่ายังไงดี ก็ฉันสนใจลูกแมวตัวนี้นี่”


“แล้วผมต้องยอมด้วยหรอครับ” ผมตอบกลับไปพร้อมดันหน้าที่ยื่นมาใกล้ออกไปด้วย


“ยอมสิ”


“คุณจะจีบผมแต่มาบังคับกัน ถ้าขนาดนี้ไม่บังคับผมเป็นแฟนไปเลยละครับ”


“ตามจริงก็อยากทำนะ แต่อยากลองเริ่มจากจีบก่อน เพราะยังไงเธอก็ต้องเป็นแฟนฉันอยู่แล้ว”


“เอาแต่ใจ”


“เอาเธอด้วย”


“ทะลึ่ง ถ้าอย่างนั้นก็มาทำความรู้จักกับข้อตกลงการจีบดีไหมครับ ในเมื่อคุณไม่ยอมให้ผมปฏิเสธก็ต้องยอมตกลงเงื่อนไขกัน”


“ก็ได้ แต่ต้องเอาที่พอใจทั้งสองฝ่ายนะ”


“ครับ อืม งั้นเริ่มจากผมก่อน ผมชื่อจริงว่าเจนนเนตร แซ่เล้ง เป็นลูกชายคนเล็กของที่บ้าน มีพี่ชายสองคนพี่สาวหนึ่งคน พี่ชายคนโตทำฟาร์มแทนป๊า พี่ชายคนรองทำไร่แทนป๊า ส่วนพี่สาวตอนนี้ทำร้านแทนม๊า บ้านเกิดผมอยู่ที่เชียงราย เรียนวิศวะยานยนต์เพราะชอบเรื่องรถมาตั้งแต่เด็ก รถที่ขับอยู่ใช้อะไหล่นำเข้าของบริษัทคุณกับตั้มมาแต่งและเพราะราคาที่สูงผมเลยรักลูกผมมาก ส่วนชื่อเล่นอย่างที่บอกจะเรียกว่าไอหรือน้ำก็ได้”


“ฉันชื่อมาร์โชว คอสแตนติโน่ เป็นเจ้าของบริษัทคอสแตนตินโน่มอเตอร์ เป็นลูกครึ่งไทยอิตาลี แม่เป็นคนไทยแต่ตอนนี้ไปอยู่ที่อิตาลีกับพ่อ ที่นี่มีฉันคนเดียวที่ย้ายมา เพราะชอบเรื่องรถเหมือนกันเลยตั้งบริษัทขึ้นมา”


“แล้วทำไมคุณถึงสนใจผมกันครับ ผมถามได้ไหม”


“ได้สิ อย่างแรกเรื่องหน้าตาเธอดูธรรมดาแบบเด็กผู้ชายทั่วไปแต่ดึงดูดสายตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ต่อมาความกล้าถึงแม้ว่าเธอจะทำเหมือนกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นแต่แววตาเธอมันเฉยชาจนน่าสงสัย และก็เรื่องของลูกรักเธอด้วยที่ฉันสนใจ รวมๆก็คล้ายกับที่แม่ฉันเคยบอกเรื่องรักแรกพบละมั้ง”


“ไม่อยากจะเชื่อว่าคนแบบคุณจะเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วย”


“คนแบบฉันทำไมกัน หืม ไหนบอกมาสิ”


“ผมไม่ได้ว่าอะไรคุณสักหน่อยนี่ครับ ลุกออกไปจากตัวผมเลย”


“ถ้าไม่ลุกละ”ยังจะยื่นหน้าเข้ามาอีกจากที่ใกล้อยู่แล้วกลายเป็นว่าตอนนี้จมูกชนกันแล้ว แถมถ้าพูดไม่ระวังปากโดนกันแน่เลย ฮือ ป๊าไอโดนรังแก


“ไหนว่าจะคุยเรื่องข้อตกลงครับ”


“หึหึ เปลี่ยนเรื่อง กลัวหรอ”


“มันก็ต้องกลัวไหมครับ ผมไม่เคยโดนกะ อื้อ”


“อยู่นิ่งๆก่อน ถ้าไม่อยากเสียตัว” ผมได้แต่พยักหน้าตกลงไปรัวๆ จะปล่อยให้ผมพูดจบก็ไม่ได้ แถมยังเอาหน้ามาซุกตรงคอผมอีก ใจผมเต้นแรงมากเลยครับ


“คะ คุณ”ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงสั่นๆ


ถ้าถามว่าทำไมไม่ผลักคนข้างบนออก อยากให้มาดูขนาดตัวมากครับ ผมส่วนสูงตามมาตรฐานนะครับร้อยเจ็ดสิบแปดด้วยซ้ำ แต่คนตรงหน้าไม่รู้ว่าเพราะเชื้อชาติจากฝั่งยุโรปด้วยหรือเปล่าเลยสูงกว่าผมไปเยอะเลยครับ แถมวัดขนากตัวผมยังดูผอมไปเลย การ์ดคุณมาร์โชวยังตัวใหญ่กว่าผมอีก แม้ว่าผมจะออกกำลังกายแล้วนะครับ โลกไม่ยุติธรรม


“หืม”


“ผมกลัว” น้ำตาจะไหลอยู่แล้วครับ ก็ใครใช้ให้เอาตรงนั้นมาทิ่มเอวกันครับ แถมตื่นมากด้วยไอร้อนแผ่ออกมาจนสัมผัสได้เลยครับ


“ชูว์ ไม่ร้องนะ กอดเฉยๆไม่ได้ทำอะไร ฉันกำลังพยายามอยู่”


“แต่ถ้าคุณลุงออกไปจัดการมันก่อนจะไม่ดีกว่าหรอครับ”


“หึ เสียชื่อกันหมด”


“ผมไม่บอกใครหรอกครับ เชื่อผมนะ ไปจัดการมันก่อนเถอะ”


“ถ้าอย่างนั้นฉันขอทำรอยที่คอครั้งหนึ่งก่อนแล้วจะไป”


“ทำไมต้องทำด้วยครับ” แค่ลุกออกไปจัดการตัวเองจำเป็นที่ผมต้องยอมด้วยหรอครับ


“หรือจะให้อยู่แบบนี้ ก็ได้นะ แต่ไม่รับปากว่าจะทนไม่จับกดเธอตอนไหนนะ”


“ก็ได้ครับ จะทำอะไรก็ทำครับ”อย่างน้อยแค่รอยที่คอ ไม่กี่วันก็หายแถมผมยังไม่ได้ต้องออกไปไหนช่วงนี้ด้วย ถึงอย่างนั้นถ้าต้องออกไปไหนก็มีแป้งกลบรอยได้ ดีกว่าปล่อยให้นานไปแล้วโดนกดตอนนี้ละครับ


“หึหึ”


“ฮึก เจ็บ ไหนว่าทำรอยครั้งเดียวไงครับ” เสียงของผมสั่นจนตัวผมเองยังตกใจ นอกจากความเจ็บตรงที่โดนทำรอยแล้ว บริเวณท้องน้อยก็รู้สึกวูบโหวงขึ้นมาเหมือนกัน


“มันเผลอ ถ้าอย่างนั้นรอสักพักนะ” ฟอด ยังจะมีหน้ามาหอมแก้มผมอีก


ผมมองตามหลังร่างสูงตรงหน้าจนหายไปบนชั้นสอง ก่อนจะเปิดกล้องโทรศัพท์ส่องดูรอยที่โดนดูด อือหือขึ้นรอยสีเข้มน่ากลัวมากครับถึงว่าเจ็บขนาดนั้น แถมตั้งสองรอย มันจะหายเร็วไหมครับเนี่ย ถึงจะเจ็บใจแต่อาการใจเต้นแถมยังไม่ขัดขืนอย่างที่ควรทำก็ตอบคำถามเรื่องที่เคยถามตัวเองว่าผมไม่ได้แค่หวั่นไหวกับร่างสูงแล้วแต่อาจจะเป็นอะไรที่มากกว่านั้นก็ได้ แต่ไม่มีทางที่ผมจะยอมบอกใครแน่นอน


ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์จนจะหลับคนที่หายไปก็กลับมา ทุกอย่างยังดูปกติไม่มีอะไรแปลกไปยกเว้นเหงื่อที่ซึมอยู่รอบกรอบหน้ากับซิปกางเกงที่รูดไม่สนิท แล้วก็ลมหายใจที่ดูหอบจนสังเกตได้ แล้วก็สายตาที่มองมามันดูอันตรายกว่าเดิมด้วยครับ ไม่รู้ว่าที่หายไปนี่ไปอัพเลเวลความน่ากลัวมาด้วยหรือเปล่า


“ขอโทษที่ปล่อยให้คอยนาน มาคุยกันต่อดีกว่า”


“อ่า ครับ อืม อย่าแรก ตอนนี้คุณบอกว่าคุณจะจีบผม ในความคิดผมถ้ายังไม่ได้เป็นแฟนกัน การสัมผัสตัวกันผมถือว่าผิด”


“จะบอกว่าไม่ให้เข้าใกล้จนกว่าจะเป็นแฟนกัน”


“ครับ”


“ไม่เอา”


“เอ๊ะ แล้วจะเอาแบบไหนครับ”


“ตรงกลางความพอใจของสองฝ่าย จนกว่าจะเป็นแฟนกัน กอด จับมือ หอมแก้ม”


“เอ ก็ได้ครับ”


“เธอฝึกงานกี่เดือน”


“สามเดือนครับ”


“ถ้าฝึกงานเสร็จก็มาคบกัน”


“อะไรนะครับ”


“ฉันจะจีบเธอสามเดือนระหว่างที่ฝึกงาน พอเสร็จเธอก็มาเป็นแฟนฉัน เพราะฉันคงทนไม่จับเธอมาจูบนานกว่านั้นไม่ได้แน่”


“หื่นไปแล้วครับ”


“แล้วก็สามเดือนก็จะได้มีเวลาให้เตรียมใจให้พร้อม”


“ทำไมครับ”


“เพราะหลังจากที่เป็นแฟน อะไรที่มากกว่าจูบ เธอต้องเจอแน่นอน”


“คิดไกลไปครับ ผมไม่ยอมคุณง่ายขนาดนั้นหรอกครับ”


“ฉันคิดไกลกว่าการจูบเธอไปแล้วนะ รู้ไหม”


“อะไรครับ”


“คืนเข้าหอไง”


“พอเลยครับ เลิกคิดไกลไปเลยครับ แค่สามเดือนคุณจะทนไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้”


“มารอดูกัน ส่วนเรื่องในระหว่างที่เราอยู่ในสถานะดูใจกันสามเดือน ห้ามมีคนอื่นทั้งสองฝ่าย ตกลงไหม”


“บังคับไหมครับ”


“ไม่ได้บังคับแต่มีตัวเลือกเดียวคือตกลง”


“ครับ ไม่บังคับเลย จะถามผมเพื่ออะไร”


“หึหึ มีอะไรอีกไหม”


“ผมต้องบอกที่บ้านไหม”


“แล้วแต่เธอเลย แต่บอกไว้ก่อนก็ดีอยู่ในสายตาผู้ใหญ่”


“ครับ” ผมจะบอกป๊ายังไงดีนะ เพราะเป็นคู่ค้าป๊าด้วยสิ


“วันนี้ค้างที่นี่นะลูกแมว”


“มีอะไรหรือเปล่าครับ”


“พรุ่งนี้จนกว่าจะถึงวันออกฝึกก็ไม่มีอะไรที่เธอต้องทำแล้ว เลยว่าจะชวนไปดูสนามกับโรงช่างของฉัน”


“แต่ว่าผมไม่มีชุด ไหนจะของใช้”


“วันนี้ใส่ของฉันไปก่อน พรุ่งนี้จะไม่รั้งไว้ แต่จะโทรไปหานัดเจอกันอีกที”


“ก็ได้ครับ”


“ถ้าอย่างนั้นไปกินข้าวเถอะ”


“ครับ”


ดูเหมือนผมจะตัดสินใจด้วยตัวเองยากขึ้นนะครับ ถ้าอย่างนั้นคงต้องโทรคุยกับที่บ้านซะแล้วครับ ไม่รู้ว่าป๊าม้าจะโอเคเหมือนตอนเฮียเมฆกับเฮียหลิวไหม แค่คิดก็เพลียร่างแล้วครับ



TBC.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#4


      เช้าวันต่อมาผมก็ได้เวลาโทรคุยกับที่บานหลังจากคิดคำพูดมาต่างๆนาๆ เช้าแบบนี้ทุกคนน่าจะกลับมากินข้าวเช้าด้วยกันเพราะเฮียเข้าเมืองมากันพอดี


“ฮัลโหล คิดถึงน้องไอกันไหมครับ” ผมส่งเสียงทักทายหลังสัญญาณกล้องจากการวีดีโอคอลบอกการเชื่อมต่อแล้วเสร็จ


“มีอะไรตี๋เล็กโทรมาแต่เช้า แล้วอยู่ที่ไหนไม่ใช่ที่ห้องเรานี่”


“ครับม้า น้องไออยู่บ้านคุณมาร์โชว”


“หืม บ้านอามาร์โชว ไหนเล่าให้ป๊าฟังสิ”


“ก็.......คือว่า....คือ....เมื่อวานคุณมาร์โชวพามาตกลงกันแล้วก็เลยค้างที่นี่เลย”


“ตกลงเรื่องอะไรแล้วตี๋เล็กรู้จักอามาร์โชวได้ยังไงกัน”


“ทุกคนตั้งใจที่น้องไอเล่านะ น้องไอจะเล่าทีเดียว”


“อืม” เสียงตกลงพร้อมกับการพยักหน้าของปลายสายที่มองมาที่จอทำเอาผมต้องตั้งสติเล่าความจริงจนหมด


“มันมีเรื่องเกิดขึ้นน้องไอขับรถกลับห้องแต่รถติดเลยว่าจะไปทางลัดพอดีเจอรถคนร้ายกำลังจะยิงรถที่จอดอยู่เลยบีบแตรใส่จนรถที่ตามมาจัดการคนร้ายได้เลยได้รู้ว่าเป็นรถของคุณมาร์โชวเขา หลังจากนั้นเมื่อวานคุณมาร์โชวมาที่มหาลัยน้องไอแล้วเจอกันก็เลยมาคุยกันที่บ้านคุณมาร์โชวเพราะเขาบอกมีเรื่องจะมาคุยด้วย พอมาถึงคุณมาร์โชวก็บอกว่าสนใจน้องไอแล้วก็จะจีบน้องไอครับ” หน้าร้อนอีกแล้ว บ้าจริง


“จนได้สินะ”


“ป๊ารู้แล้วหรอครับ”


“อามาร์โชวมาคุยกับป๊าเรื่องเราแล้ว ป๊าก็บอกแค่ทุกอย่างอยู่ที่เรา อย่าทำร้ายน้ำใจกันก็พอ”


“แล้วตกลงเรื่องอะไร เขาทำอะไรหรือบังคับอะไรเรารึเปล่า หรือว่าขืนใจเรา หรือว่า”


“เฮียหมอกใจเย็นก่อนนะ น้องไอสบายดี ปลอดภัยครบทุกส่วน ยังซิงอยู่ครับ”


ในบรรดาพี่ทุกคนเฮียหมอกเป็นคนที่ตามใจเขามาที่สุดและหวงเขามากที่สุด ยังจำตอนที่จะมาเรียนได้อยู่ว่ากว่าจะอ้อนให้มาได้นานขนาดไหน และนี่เป็นสาเหตุให้ทุกการกระทำของผมต้องนึกถึงใจคนข้างหลังเสมอและเฮียหมอกเป็นคนที่สามรองจากป๊าและม้าของผมครับ


“เอาละๆไม่งั้นจะคุยไม่จบ ตี๋เล็กบอกมาว่าตกลงอะไรกัน” เฮียเมฆก็หวงครับแต่ไม่มากเท่าเฮียหมอกแต่ก็รู้ว่าคอยจัดการให้ผมเสมอโดยที่ผมมารู้ทีหลังทุกที


“เราตกลงกันว่าระหว่างที่น้องไอฝึกงานจะเป็นช่วงที่เราดูใจกันก่อนแต่ยังไม่ใช่แฟนและห้ามไปมีอื่นทั้งคู่ แต่หลังฝึกงานถึงคบกันครับ”


“ระหว่างที่คุยกันห้ามเกินเลยนะตี๋เล็ก”


“อันนี้พวกเราตกลงอย่างมากสุดคือหอมแก้มครับเฮียหมอก แต่น้องไอไม่ยอมง่ายๆหรอกนะ น้องไอก็ผู้ชายเหมือนกัน”


“เฮียรู้แต่เฮียก็หวงตี๋เล็กอยู่ดี หรือว่า”


“พอๆ ตี๋เล็กโตแล้วอาหมอกอย่าคิดว่าจะทิ้งไร่ไปเฝ้าน้องนะ แถมอามาร์โชวยังทำงานกับป๊ามานาน ไม่กล้าทำอะไรที่มองหน้ากันไม่ติดหรอก”


“แต่ป๊า”


“น้องไอดูแลตัวเองได้ครับ ทุกคนไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะทำอะไรยังไงทุกคนคือคนสำคัญของน้องไอ น้องไอไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน” ผมยิ้มให้กับทุกคนที่ปลายสายเพื่อยืนยันคำพูดที่มักพูดจนติดปากมาแต่ไหนแต่ไร


ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะห้องดังมาแทรกตอนที่เฮียหมอกทำท่าจะพูดผมเลยหันไปบอกว่ามีคนมาเคาะห้องก่อนจะเดินมาเปิดดู


“ครับ” พอเปิดประตูออกมาก็เจอกับเจ้าของบ้านที่อยู่ในชุดแปลกตาไม่เหมือนกับที่เคยเห็นในชุกสูทมาตลอดที่เจอ วันนี้กลับอยู่ในเสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีฟ้าอ่อนกับกางเกงทรงสุภาพพอดีตัว


“ตื่นหรือยังแมวน้อย” คำทักทายพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นส่งมาจนเกือบจะลืมตอบคำถามไป


“ตื่นแล้วครับ”


“แล้วทำไมยังอยู่ในชุดนอนกันละ”


“พอดีคุยกับที่บ้าน จริงด้วย เข้ามาก่อนครับ ผมยังไม่ได้วางสายขอตัวนะครับ” ผมปลีกตัวมาที่เครื่องสื่อสารที่ยังคงรอสายเหมือนเดิม


“สวัสดีครับเสี่ยกำชัย” พอเห็นว่าป๊าอยู่ในสายคุณมาร์โชวก็ยกมือไหวตามความเคยชินที่เจอกันป๊าผมพยักหน้ารับ


ผมที่เห็นว่าปลายสายพากันสอบถามพูดคุยเรื่องที่คุยกับผมก่อนหน้าเลยปลีกตัวไปห้องน้ำอาบน้ำเปลี่ยนชุดมาใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ ชุดนี้เป็นของผมที่ใส่มาเมื่อวานครับแต่ซักแล้วส่วนช๊อปก็พึ่งไว้ในรถตัวเอง


“อ่าว ป๊าวางแล้วหรอครับ” ออกมาเจอเจ้าของบ้านนั่งมองอยู่บนเตียงก็พลันหน้าร้อนวูบขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ


“มาร์”


“ครับ”


“ต่อไปเรียกฉันว่ามาร์”


“แต่ว่า”


“นะ”


“คะ ครับ” หน้านิ่งๆแต่สวนทางกับคำพูดจนใจสั่น บ้าไปแล้ว


“หึหึ หน้าแดงนะ”


“พอเลยครับ แล้ววันนี้จะไปที่ไหนก่อนครับ”


“ไปสนาม”


“เห สนาม คุณมีสนามของตัวเองหรอครับ”


“เอาไว้ลองเครื่อง”


“ถ้าอย่างนั้น”


“ไม่ได้ ฉันพาไปดูเท่านั้น” ตอบกลับเร็วไปไหมครับ คิดสักนิดก็ได้ อยากเอาลูกชายไปลองสนามบ้าง


“ผมไม่เอาลูกไปก็ได้ แต่ผมอยากลองสนามบ้าง”


“อันตราย”


“ผมดูแลตัวเองได้”


“ฉันเป็นห่วง” เจอแบบนี้ไปก็ไม่กล้าที่จะดื้อแต่ความอยากลองสนามก็เป็นอีกเรื่อง หรือว่าต้องลองอ้อนแบบเฮียหมอกดี


ผมมองคนที่นั่งอยู่ปลายเตียงก่อนจะเดินไปทรุดนั่งบนตักแกร่งหันหน้าเข้าหาซบหน้าผากไปที่ไหล่ขวาของเจ้าตัว ผมรู้ได้ว่าร่างของคนที่ผมเข้ามานั่งตักเกร็งขึ้นมาทันที กับเฮียหมอกแค่คลอเคลียพันแข้งพันขาหน่อยก็ได้ตามที่ต้องการ แต่กับคนตรงหน้าคงต้องอ้อนขั้นกว่าถึงจะยอม ผมคิดอย่างนั้นนะครับ


“น้องไอรู้ว่าแดดดี๊ห่วงน้องไอ แต่น้องไออยากลองสนาม น้องไอใช้รถของแดดดี๊ก็ได้นะครับ รอบเดียวเองนะ แดดดี๊ให้น้องไอนะ”


ผมกระซิบบอกข้างหูคนที่เกร็งตัวได้ยินเสียงกัดฟันอยู่ข้างหูตัวเอง ลมหายใจดูหอบมากขึ้นแต่ก็พอรู้ว่าเพราะอะไร ก็ในเมื่อเจ้าตัวต้นเหตุกำลังแผ่ความร้อนทักทายสะโพกกันอยู่แบบนี้


“ยั่วกันหรือยังไงแมวน้อย ระวังฉันจะทนไม่ไหวเอานะ”


“น้องไอรู้ว่าแดดดี๊ทนเพื่อน้องไอได้ จริงไหม” ผมผละหน้าจากซอกคอแกร่งมามองหน้ากันตรงๆ


“ทดสอบความอดทนกันสินะ ถึงเวลาอย่ามาโอดครวญก็แล้วกัน”


“แดดดี๊ยอมน้องไอนะ นะ” ไม่พูดเปล่าแต่เอาจมูกถูไถจมูกคนตรงข้ามจนปากเกือบจะโดนกันหลายครั้งให้ใจสั่นเล่น


“หอมแก้มก่อนจะยอม” ฟอด ฟอด


“แถมให้เลย ยอมแล้วนะ”


“ครับ แดดดี๊ยอมคนดีหมดแล้วครับลูกแมวน้อย ซุกซนจริงๆ จะทำให้หลงถึงไหนกัน แค่นี้ก็ยกให้หมดตัวแล้ว”


“คิๆ ไม่เอา มันจักจี้” ผมหัวเราะเพราะโดนแกล้งคืนด้วยการหอมซอกคอกับมือที่เค้นสะโพกผมอย่างเอาแต่ใจ


“เฮ้อ ลงไปกินข้าวก่อนเลยนะ ขอไประบายก่อน”


“สู้ๆนะครับคุณมาร์”


“เดี๋ยวจะโดนตัวแสบ” คาดโทษผมเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำไป ยังไม่ทันดันตัวออกจากห้องเสียงทุ้มมีเสน่ห์ก็ครางเรียกชื่อผมออกมาจางห้องน้ำ บ้าจริง ลูกชายผมจะตื่นแทนแล้ว


ผมเดินลงมาพร้อมคิดถึงเรื่องที่พึ่งจะทำไป นี่เราเจอกันแค่สองครั้งผมก็ตามเขามาที่บ้านแถมยังกล้าที่จะเอาแต่ใจไปออดอ้อนแบบนั้นอีก จะเผลอตัวเกินไปไหมครับเนี่ย แบบนี้แย่แน่เลยครับ ใจผมนี่แหละ แย่แน่เลย


หลังจากนั่นอีกสองชั่วโมงเราก็มาถึงสนามที่คุณมาร์บอก ที่นานไม่ใช่เพราะไกลครับ แต่นานเพราะรอคนบางคนปลดปล่อยต่างหากครับ พอมาถึงผมก็เดินตามคนข้างตัวไปที่ห้องทำงานขอเจ้าตัวเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย


“นายครับวันนี้มีคนนอกมาท้าแข่งกับฝั่งเราแต่ว่าคนฝั่งเราติดเรียน เอาไงดีครับ”


“หืม” เสียงจากลูกน้องคุณมาร์เข้ามารายาน แต่ผมสนใจที่เนื้อความมากกว่าคนรายงานเพราะดูเหมือนจะต้องการนักแข่ง และคุณมาร์ก็สนใจเอกสารจนไม่ทันมองเลยหันมารอฟังอีกครั้ง เมื่อฟังซ้ำก็เข้าใจและไม่รู้ว่ายังไงแต่สายตาที่มองมาทำเอาต้องรีบออกตัว


“ผมว่าง”


“ไม่ได้”


“แต่เราตกลงกันแล้ว”


“ลองสนามไม่ได้แข่ง”


“มันก็เหมือนกันนะครับ แข่งก็ถือเป็นการลองสนามด้วย”


“แต่ว่า”


“ช่างเถอะครับ คิดว่าผมไม่เคยพูดอะไรก็แล้วกัน” มันคือแผนที่ดีครับ เชื่อผมไหม


“ออกไปก่อน” ได้ยินเสียงสั่งไม่นานทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบเหลือเพียงแค่ผมกับเจ้าของห้องเท่านั้นที่นั่งมองหน้ากันอยู่


“รอบเดียว”


“อะไรครับ”


“ให้รอบเดียวแล้วรีบมา อย่าทำอะไรนอกจากนั้น แข่งเสร็จรีบกลับมาทันที”


“ครับผม” ผมรีบรับคำเพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ ไม่นานก็มีคนพาผมมาที่สนามแข่งผมเห็นฝั่งตรงข้ามอยู่แต่เพราะกระจกทึบฝั่งตรงข้ามเลยมองเข้ามาไม่ได้


“นี่ครับ คันนี้เป็นรถของนายท่าน ไม่เคยมีคนใช้มาก่อนนอกจากนายท่าน พวกเราตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ระวังตัวด้วยนะครับนายน้อย” คุณโจเซฟที่จัดการเรื่องรถรีบเดินเข้ามาบอกผมเมื่อเห็นว่าผมมาถึงแล้ว


คนที่เหลือต่างหันมามองผมกันแต่ไม่ได้ออกหน้าออกตาขนาดเห็นชัดแต่พอมองออกว่าสงสัยในคำเรียกขานนั้น


“ขอบคุณครับคุณโจเซฟ ว่าแต่คนที่มาท้าเป็นใครหรอครับ เก่งมากไหม ผมห่างสนามมานานตั้งแต่มาเรียนกลัวจะทำขายหน้ามากกว่าเดิม”


“นายน้อยทำได้อยู่แล้วครับ ฝ่ายตรงข้ามอาจจะเจนสนามกว่าก็จริงแต่ผมเชื่อว่าฝีมือนายน้อยไม่น่าจะแพ้”


“หวา กดดันกันเกินไปแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นอย่าดุถ้าผมแพ้นะครับ”


“ใครจะกล้าว่านายน้อยกันละครับ ชะตาขาดกันพอดี”


“ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะกับคำพูดของมือขวาคุณมาร์ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบตัวพอจะหายสงสัยในคำเรียกขานกันแล้วมั้งครับถึงเปลี่ยนท่าทีจากเดิมพอสมควร


พอก้าวเข้ามานั่งในรถก็จัดการขยับท่าทางให้ชินมือมากที่สุด คิดว่าแค่ลองสนามแต่ดันได้แข่งด้วย ห่างหายมานานตามที่บอกครับ ครั้งล่าสุดก็ก่อนกลับมาเรียนเมื่อวันที่จะเก็บของเอง จะว่านานก็เกินไปเพราะยังไม่ถึงเดือน แถมที่สนามเดิมของผมเป็นสนามเถื่อนด้วย ดูท่าความต่างมันต่างกันเยอะครับ


ขับรถมาจอดที่เส้นปล่อยหันไปมองคู่แข่งแต่ผมไม่ได้เปิดกระจกอะไรเพราะแค่เห็นรถคันนี้คนในสนามก็เงียบไป ดูเหมือนที่ว่ารถคันนี้เป็นของคุณมาร์ไม่เคยมีใครขับมาก่อนจะเป็นเรื่องจริงถึงคิดว่าคนที่มาลงแข่งเป็นคุณมาร์แถมดูสีหน้าคู่แข่งผ่านฟิล์มดำแล้วยิ่งขำกับใบหน้าอวดดีตอนที่เห็นครั้งแรกตอนไปโรงรถกลายเป็นเคร่งเครียดแทน ดูท่าคุณมาร์ก็น่าจะมีฝีมือมากกว่าที่คิดนะครับ


ไม่นานสัญญาณการปล่อยตัวก็เริ่มนับถอยหลังผมเร่งเครื่องเตรียมตัวไม่ต่างจากอีกฝ่าย พอใกล้เลขสามผมบดล้อเตรียมออกตัว เมื่อสัญญาณปล่อยตัวดังขึ้นรถของผมก็พุ่งออกมาทันทีจนทิ้งนำมาไกลผมหันเลี้ยวตามความเคยชินแต่คู่แข่งก็เร่งเครื่องตามมาทันจนจี้ท้ายไม่ห่าง


ผมอาศัยจังหวะเข้าโค้งตามความถนัด เหลือบตามองอีกฝ่ายเห็นว่าตกใจพอควร แปลว่าศึกษามาดีสินะถึงคิดว่าจะเอาชนะตามวิธีที่เตรียมมาแต่เพราะผมเป็นคนขับ ความแตกต่างก็ยิ่งมากขึ้น ไม่นานก็ครบรอบตามที่กำหนด ผมเข้าเส้นชัยทิ้งห่างอีกฝ่ายหลายช่วงตัว เสียงคนที่วางเดิมพันฝั่งนี้โห่ร้องยินดี


ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงเมื่อชายคนหนึ่งก้างลงมาในสนาม ทุกคนต่างหันมองไปมาระหว่างเจ้าของรถกับรถเพราะต่างคิดว่าคนที่อยู่ในรถต้องเป็นเจ้าของสนามแน่นอนพอเห็นแบบนี้ต่างพอกันซุบซิบไม่หยุด สายตาจากคนที่เข้ามาทำเอาต้องรีบปล่อยพวงมาลัยแล้วเปิดประตูลงไป


“เกินไปไหม” เสียงแข็งมาเลยครับ


“ขอโทษครับ มันลืมตัว”


“ไหนว่าจะระวังตัว”


“ขอโทษครับ”


“เฮ้อ ถ้าหลุดโค้งขึ้นมาละ”


“คุณมาร์ ไม่ดุนะ นี่ไงรอบเดียวจบไม่งอแงด้วย ไม่แข่งแล้ว จะเป็นเด็กดี นะ”


“อย่าทำแบบนี้อีกรู้ไหม แค่นี้ก็ห่วงจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว”


“คุณมาร์ ผมเขินนะครับ” ก้มหน้าหลบสายตาปล่อยหมัดเบาๆที่ต้นแขนต้นเหตุหน้าที่ร้อนตอนนี้ ได้รับเสียงหัวเราะกลับมาพร้อมกับความอุ่นที่กุมมือผมไว้


“ขอโทษนะครับ ผมแพ้แล้วแต่ช่วงเข้าโค้งผมเองก็มองจนลืมหายใจเลยทีเดียว เป็นการแข่งที่ดีมากครับ”


“ทางผมเองก็เหมือนกัน คุณเก่งมากเลย” ผมยิ้มรับคำชมจากคู่แข่งที่เข้ามาทักทาย


“กลับ”


“เอ๊ะ ดะ เดี๋ยวก่อนสิครับ”


“ไม่ดื้อ”


“ครับๆ ผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณนะครับ” ผมตอบรับคนหน้านิ่งก่อนจะก้มหัวขอบคุณอีกฝ่ายแล้วเดินตามแรงดึงจากคนที่กุมมือมาตลอดทางจนถึงห้องทำงาน


“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”


“สนุกมากเลยหรอ”


“อะไรครับ” อยู่ดีๆก็พูดขึ้นมาแบบนี้


“ก็เห็นยิ้มไม่หยุด ชอบแข่งรถหรอ”


“อ๋อ ครับ ครั้งล่าสุดก็ก่อนกลับมาเรียน พออยู่หลังพวงมาลัยแล้วมันคึกคักมากเลย”


“ชอบควบคุมสินะ”


“ประมาณนั้นครับ” ผมตอบรับ ก่อนจะชะงักกับสายตาที่ส่งมาของอีกฝ่าย


“เข้าใจแล้ว ถ้าชอบเอาไว้ถึงเวลาจะให้ทำตามใจนะ”


“ผมว่าคุณกำลังคิดอะไรไปเองอยู่นะครับ เรากำลังพูดถึงเรื่องรถรึเปล่าครับ”


“แล้วคิดว่ายังไง”


“แล้วคุณคิดถึงอะไรละครับ สายตาไม่น่าไว้ใจเลย”


“เธอคิดไปเอง” ผมเชื่อว่าผมไม่ได้คิดไปเองแน่ครับ ก็สายตามันชัดเจนขนาดนี้ ตกลงคุณมาร์หื่นจริงๆใช่ไหมครับ


TBC.

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#5


   วันนี้วันจันทร์แล้วครับ ผมมีนัดส่งเอกสารฝึกงานกับไอ้ตั้มเพื่อนรักแต่เปลี่ยนจากที่บริษัทของครอบครัวมันมาเป็นบริษัทของคุณมาร์แทน ผมนัดตั้มไว้แล้วครับวันนี้จะไปรถมันเพราะลูกรักผมอยากพักผ่อนสักวันก่อน


“ไงมึง” เสียงทักจากรถที่เข้ามาจอดหน้าคอนโด เพื่อนตัวดีเองครับ


“สาย”


“นิดเดียวเองไม่ถึงห้านาทีด้วย”


“นิสัยนะมึงครับ ถ้าไปทำงานสายแบบนี้โดนด่าแน่ๆครับ”


“คร๊าบๆ คุณเพื่อน จะไม่สายอีกครับ ไปยัง”


“เออๆ”


จากคอนโดผมไปที่บริษัทของคุณมาร์ไม่ไกลมากครับแต่เพราะรถที่เยอะเลยเสียเวลานานกว่าเดิม ตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วด้วย นัดเพื่อนตัวดีตอนสิบโมง เพลีย


“ขอโทษนะครับ ผมสองคนเป็นนักศึกษาจากมหาลัย U ที่จะเข้ามาติดต่อขอฝึกงานครับ” พอถึงผมก็เดินไปที่สาวสวยประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเรื่องก่อนเลยครับ


“ได้นัดไว้ก่อนไหมค่ะ”


“ไม่ได้นัดครับ”


“ถ้าอย่างนั้นพี่จะแจ้งที่ฝ่าย HR ไว้ก่อนนะคะ อันนี้บัตรนะคะไว้ผ่านประตูชั่วคราว รบกวนน้องสองคนเดินไปทาง”


“นายน้อยครับ” ผมกับตั้มที่กำลังฟังทางไปฝ่ายHRที่พี่สาวคนสวยบอกต้องหันไปมองเสียงเรียกที่คุ้นเคย


“เอ่อ สวัสดีครับพี่โจเซฟ” ผมกับตั้มไหว้ตามมารยาทของคนเด็กกว่าคนตรงหน้าพยักหน้าตอบแต่ก็บ่นผมอยู่ดี


“ทำไมมาไม่แจ้งผมก่อนละครับนายน้อย นายท่านก็บอกแล้วว่าจะจัดการเอกสารให้ดื้อกว่าที่คิดนะครับนายน้อย”


“แล้วไหนคุณมาร์บอกว่าวันนี้ไม่อยู่ไงครับ ทำไมพี่ยังมาละครับไม่ได้ไปด้วยหรอครับ”


“เห นายท่านบอกหรอครับ อ่า แปลว่าผมมาทำแผนพังสินะครับ”


พี่โจเซฟกับเลขาคิมต่างกันมากครับ เลขาคิมนี่ระเบียบพูดน้อย แต่พูดคำพูดทีน่ากลัวว่าจะขำไม่ออก ส่วนพี่โจเซฟนี่ไม่ว่าเรื่องอะไรพี่เขาดูสนุกทุกเรื่องเลยครับ ออ เรื่องเรียกนี่พี่โจเซฟบอกไว้ครับ บอกว่าจะได้ดูสนิทกันดี คุณมาร์ก็บ่นนะครับ หาว่ามาวุ่นวายกับผมเกินไป เถียงกันไปมา สรุปคุณมาร์หวงผมแค่นั้นครับ งุ้ย เขิน


“แผน ถึงว่า” ตอนที่บอกว่าจะมายื่นเอกสารเองตอนแรกก็ห้ามไปๆมาๆก็ยอมเพราะกะให้ผมมาเองแล้วแกล้งกันสินะครับ แบบนี้มันก็ไม่ต่างกับเด็กเส้นอยู่ดีนั่นแหละครับ


“คุณน้องดาวไม่ต้องห่วงนะ ผมจะพานายน้อยกับเพื่อนไปเอง ไปครับนายน้อย”


“ขอตัวนะครับ” ผมไหว้ขอบคุณพี่สาวคนสวยก่อนจะเดินตามหลังพี่โจเซฟไปพร้อมกับตั้มที่ยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ผมตลอดเวลา มันจะแซวเอาโล่หรอไงครับ


“ถึงแล้ว คุณฟ้าใสครับ ช่วยมาทางนี้ด้วยครับน้องนักศึกษาจะมาฝึกงานที่นี่”


สายตาจากคนในแผนกที่หันมามองอย่างออกนอกหน้าเพราะดูเหมือนว่าพี่โจเซฟจะมีตำแหน่งสำคัญพอสมควร สิ้นคำผู้หญิงวัยกลางคนใส่แว่นท่าทางใจดีก็เดินมาหาพวกผมสองคนที่อยู่ด้านหลังพี่โจเซฟ


“คุณโจเซฟพามาเองแบบนี้ พบกันระหว่างทางหรือว่าอะไรกันคะ” สีหน้าท่าทางขี้เล่นตามลักษณะเอ่ยแซวคนด้านหน้าที่เอาแต่ขำกับสายตาเกรงกลัวของตั้มที่มองคุณฟ้าใส


“คุณฟ้าใสใจดีครับ ไม่ต้องกลัวนะครับ แต่ก็อยากให้ระวังเพราะสเปกคุณฟ้าใสนี่แบบเราเลย”


“อะ เอ่อ ผมเกรงใจครับ แหะๆ”


“อุ๊บ หะ” ไม่ไหวครับหน้ามันจี้มากครับ


“ไอ้ไอ มึงอย่ามาขำกูดิวะ”


“โอ๋ๆ ไม่แกล้งมึงแล้วครับ ยื่นเอกสารกันดีกว่า”


“อุ้ย เพื่อนกันจริงไหมคะ ออร่าวิ้งเชียว”


“อะแฮ่ม อย่าได้จับคู่น้องสองคนเด็ดขาดครับ ถ้ายังอยากทำงานต่อ”


“พอครับพอ ผมมายื่นเอกสารที่ไว้เตรียมฝึกงานครับ” ผมห้ามคนที่กำลังจะพูดไปไกลกลับมาก่อนจะเข้าเรื่องที่มาวันนี้ทันที


“ตามสัญญาเอ็มโอยูนะ เรียกพี่ว่าพี่ฟ้าก็ได้ มาลงฝึกแผนกช่างยนต์นะคะ ก่อนเริ่มงานสองวันพี่จะส่งรายละเอียดต่างๆไปให้ทางเมลนะคะ ปีนี้มีเด็กจากมอนี้ไม่กี่คนเอง แต่แซบทุกคนเหมือนกัน หึหึ”


“ขอบคุณมากนะครับ”ผมกับตั้มที่ดูจะยังระแวงพี่ฟ้าใสไม่เลิกไหว้ขอบคุณเตรียมออกแต่ดูเหมือนจะยังไม่หมดความวุ่นวาย ตกลงที่ผมเข้ามาเองนี่ไม่ต่างกับให้คุณมาร์จัดการให้เองเลยหรอครับ


“นายน้อยครับ นายท่านให้ผมมาตามนายน้อยไปที่ห้องทำงานครับ จะพาไปทานอาหารกลางวัน”


“สวัสดีครับคุณเวลาคิม / สวัสดีครับคุณคิมหันต์” ผมกับตั้มรีบไหว้คนที่เดินเข้ามาใหม่ ดูเหมือนจะเหนื่อยนะครับ เหงื่อออกด้วย


“ครับ เชิญเพื่อนนายน้อยด้วยครับ”


“ผมด้วยหรอครับ เอ่อ ผมเกรงใจ”


“มึง เพื่อนกูไหม ไปกับกูนะ อย่าทิ้งกูนะครับ” ผมรีบกอดแขนเพื่อนสนิทตัวเองทันที ไม่ได้ครับอยู่ด้วยกันสองคนทีไรหาเรื่องลวนลามกันตลอด ไม่ไว้ใจครับ หมายถึงใจผมนี่แหละครับ


“คือกูเข้าใจว่ามึงเขินแต่กูอาจจะตายก่อนได้ถ้าไม่เลิกมากอดแขนกูนะ มึงช่วยดูด้วยว่าคนของคุณมาร์โชวทั้งนั้นเพื่อน”


“มึงเพื่อนกูนะ คุณมาร์เข้าใจ เชื่อกูสิครับ”


“ถ้าพรุ่งนี้ติดต่อกูไม่ได้ระลึกไว้ว่ามึงทำกูนะ”


“ผมว่าถ้าช้าเพื่อนนายน้อยอาจจะเป็นตามที่พูดได้นะครับ เพราะที่นี่มีกล้องวงจรปิด” ผมรีบชักแขนกลับมาทันที ไม่ได้กลัวนะครับ แค่ปลอดภัยไว้ก่อน


“ไปก่อนนะครับ” ผมหันไปลาพี่ฟ้าใสอีกครั้ง เราพูดคุยกันเบาๆมีเพียงพี่ฟ้าใสเท่านั้นที่ไม่รู้จักผมในที่นี้ แต่ผมคิดว่าวันเริ่มฝึกงานคงรู้กันไปทั้งบริษัทแล้วละครับ เฮ้อ ไม่ว่าที่ไหนก็เด็กเส้นสินะครับ เพลีย


เราสี่คนผม ตั้ม พี่โจเซฟและคุณเลขาคิมก็ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดที่มีอยู่สองห้อง ห้องแรกเป็นห้องรับรอง ส่วนอีกห้องพี่โจเซฟบอกเป็นห้องทำงานของคุณมาร์ มีเลขาสาวสวยนั่งอยู่ที่หน้าห้องกำลังตั้งใจทำงานอยู่


“หัวหน้าโจ คุณช่วยอยู่เป็นเพื่อนคุณตั้มเพื่อนของนายน้อยก่อนนะ นายท่านมีเรื่องจะคุยกับนายน้อยก่อน”


“ได้ครับ” ผมไม่ทันได้ถามอะไรไอ้ตั้มก็โดนลากเข้าห้องรับรองไปส่วนผมก็ได้แต่เดินตามเลขาคิมไปที่ห้องทำงาน ผ่านเลขาสาวสวยที่เงยหน้ามายิ้มกับผมจนเกือบสะดุดอากาศจนต้องรีบยิ้มตอบแล้วเดินตามเข้าประตูไป ยะเยือกเลยครับไม่ว่าจะอากาศหรือสายตาของเจ้าของห้องก็ตาม


สายตาสงสารจากเลขาคิมไม่ได้ช่วยฟื้นฟูกำลังใจในตัวผมตอนนี้ได้เลยครับ เอ่อ ผมทำอะไรพลาดไปไหมครับ ทำไมต้องมาร่ายคำสาปน้ำแข็งใส่กันด้วย


“เอ่อ สวัสดีครับ” ทำอะไรไม่ได้ก็ไหว้ไว้ก่อนครับ พอดีผมเป็นเด็กมีมารยาทมากครับ


“..............” เงียบครับ ไม่ตอบรับ ไม่หือ ไม่อือ นิ่งจ้องมองผมอย่างเดียว


“เอ่อ คะ คือผมไม่รู้ว่าคุณไม่พอใจเรื่องอะไร แต่ถ้าไม่บอกผมก็ไม่รู้นะครับ และผมจะไม่ขอโทษถ้าไม่รู้ความผิดด้วยครับ”


“หึ กล้าดี แต่ทำผิดอะไรอย่างนั้นหรอ ไม่รู้จริงๆสินะ”


“เอ ผมเหล่พี่สาวหน้าห้อง”


“ใช่”


“โธ่ คุณมาร์ มันเป็นเรื่องปกติไหมครับ มีคนสวยผ่านเข้ามาในสายตาก็ต้องมองเป็นธรรมดา”


“จะว่าฉันไม่ปกติ”


“คุณมาร์อย่ามาตีรวนนะครับ คุณไม่เชื่อผมเลยหรอ ในสัญญาก็บอกไว้ไงครับว่าเราจะมีกันแค่สองคนไม่ยุ่งกับคนอื่นทั้งสองฝ่าย”


“ชอบเวลาที่บอกว่ามีแค่เราสองคน”


“นิสัยไม่ดี ขี้แกล้ง ชอบแกล้งให้ผมเขิน”


“หึหึ อยากกินอะไร ออ แล้วก็ไม่ต้องไปกอดเพื่อนขนาดนั้นก็ได้นะ”


“นั่นเพื่อนผมครับ”


“รู้แต่หวง”


“คุณมาร์ พอแล้ว ผมเขินจนตัวจะระเบิดแล้วครับ”


“อยากกินอะไร”


“ข้าวผัด”


“หืม กินง่ายดี”


“ผมชอบอะไรง่ายๆ แต่ผมไม่ง่ายนะครับ” ผมบอกพร้อมกับนั่งตรงข้ามคนที่นั่งทำงานตรงหน้า


“เพราะไม่ง่ายไงเลยจีบ ยิ่งได้มายากๆยิ่งน่าลงทุน”


“เขาว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาก่อนลงทุนให้ดี ระวังนะครับอาจจะไม่คุ้มทุนเอาก็ได้”


“ไม่หรอก มันจะยิ่งกว่าคุ้มทุนอีก รอตอนนั้นก่อนเถอะ ฉันเก็บทั้งต้นทุนทั้งกำไรเลย”


“หื่น”


“คิดไปเอง”


“แล้วจะไปตอนไหนหรือครับ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”


“เปลี่ยนเรื่อง”


“ก็คุณมาร์ชอบพาไปเรื่องนั้นตลอดนี่ครับ”


“หืม ฉันพาไปหรอ ทำไมไม่รู้ตัวกันนะ”


“คุณมาร์อย่าแกล้งผมนะ ตกลงไปตอนไหนครับ ปล่อยเพื่อนผมนอนรอจนเบื่อไปแล้วมั้งครับ”


“ห่วงจังนะ”


“คุณมาร์” ผมเรียกคนที่เอาแต่หวงไม่ตอบคำถามสักที เปล่าครับ ผมหิว ฮ่าๆๆ


“โอเค ไปกัน เสร็จแล้ว วันนี้จะเลี้ยงขอรางวัลหน่อย”


“ตลอด หาเรื่องลวนลามกันตลอด”


“ไม่ยอม”


“ยอม” ฟอด ฟอด


“จะน่ารักเกินไปแล้ว”


“ไม่เอาไม่กอด นี่ที่ทำงาน”


“ถ้าอย่างนั้นจับมือ”


“ถ้าไม่ยอม”


“จะจับฟัดไม่ต้องไป”


“จับมือเนอะ จับมือ โหมือใครใหญ่จัง” ผมรีบคว้ามืออีกคนมากุมทันที ไม่ได้ครับ ปากยังบอกไม่จบทำเร็วจะตาย


“อย่างอื่นก็ใหญ่นะ”


“ผมถามจริงนะครับ คุณมาร์เก็บกดหรอครับ”


“อาจจะจริง นี่ก็หลายวันแล้วมัวแต่ทำงานลืมเหมือนกัน ที่ถามนี่จะช่วย”


“จะบ้าหรือไงครับ ไปจัดการเองเถอะครับ ที่ถามเพราะคุณมาร์ไม่น่าจะเป็นคนที่หื่นขนาดนี้ต่างหาก”


“เพราะอยู่ใกล้เธอหรอก และเพราะเป็นเธอเท่านั้นเหมือนกัน”


"พอครับ เขินหมดแล้ว ไปหาอะไรกินกันนะครับ"


“หึหึ” ฟอด โดนหอมแก้มไปจนได้ ดันไม่ทันเลย จะรีบเดินหนีก็โดนคว้ามือให้เดินตามไปเรียกเพื่อนที่รออยู่ที่ห้องรับรอง


พอมองเห็นมือที่จับกันอยู่ก็ส่งสายตาล้อเลียนมาให้จนหน้าร้อนไปหมด พอเข้ามาในลิฟต์ก็เลยเอาหน้าผากกระแทกอกคนตัวใหญ่เพื่อแก้แค้นที่ทำให้อายแต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่ขำไม่หยุดแทน พี่โจเซฟกับเลขาคิมก็แอบหันมามองแล้วยิ้มล้อๆ แต่เลขาคิมนี่ยิ้มการค้าแต่ตานี่ขำมากจนรู้สึกได้ครับ


เดินออกจากลิฟต์มาก็มีพนักงานที่พักเที่ยงเลิกงานมาเหมือนกันมองมาเพราะเป็นท่านประธานเลยมีแต่คนทำความเคารพกันตลอดทาง ผมแอบหันไปมองด้านหลัง พอมีคนเห็นมือของเราก็ชี้คนอื่นให้มองตาม จะชักมือออกก็ไม่กล้ากลัวคนจับจะหงุดหงิด เลยทำได้แต่รีบเดินเบียดหลังคนตัวใหญ่เพื่อบังหน้าที่เห่อร้อนแทน


แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยังไม่พอใจอยู่ดีๆก็หยุดเดินกลางโถงสะงั้น ผมที่เบรกไม่ทันชนเข้าเต็มๆจนเจ็บจมูกน้ำตาเล็ดเลย


“หืม เจ็บไหม” มือที่กุมกันถูกปล่อยออกมาลูบตรงรอยแดงที่จมูกที่ชนแผ่นหลังกว้างเต็มแรง ขนาดตัวที่ต่างคุณมาร์เลยย่อเข่าลงมาจนใบหน้าของเราพอดีกันก่อนจะจับคางผมดันให้หงายหน้าขึ้นเพื่อมองว่ามีเลือดกำเดาไหมเพราะชนแรงพอตัวครับ


“มะ ไม่เท่าไหร่ครับ ปล่อยเถอะครับ คนมองใหญ่แล้ว” ผมขืนหน้าตัวเองออกจากมือที่จับคางไว้ก่อนจะกระตุกชายเสื้อสูทของคุณมาร์ให้เดินต่อ


“อายที่มากับฉัน”


“ไม่ใช่นะ!! หวา คุณมาร์ ไม่แกล้งสิครับ หิวจริงๆ ไปนะ”


“หึหึ น่ารักเกินไปแล้ว” จะมาขยี้หัวกันทำไมครับ แล้วสามคนนั้นไม่มีใครเดินเข้ามาช่วยผมหน่อยหรอครับ เอาแต่ยิ้มล้อเลียนอยู่ได้


“แดดดี๊ น้องไอหิว”


“ครับๆไม่ต้องอ้อนเนอะ ไปแล้วๆ” ทีแบบนี้รีบจุงมือเดินจนเกือบเดินไม่ทันเลยทีเดียว


ทำใจสิครับ ฝึกงานครั้งนี้นอกจากจะต้องตั้งใจทำงานแล้วต้องตั้งสติไม่สนใจเสียงรอบข้างด้วยเพราะว่าวุ่นวายแน่ครับ ผมอยู่เงียบๆมาตั้งสามปีในรั้วมหาลัย ทำไมกันนะ ต้องมาวุ่นวายเอาตอนปีสุดท้ายแบบนี้กัน วุ่นวายข้างนอกยังพอจัดการได้แต่วุ่นวายใจเพราะหวั่นไหวกับคนที่กุมมือนี่สิครับ จะจัดการใจตัวเองยังไงดี


TBC.


ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ถ้าน้องไอจะอ้อนขนาดนี้ แด๊ดดี้จะทนได้ไหมเนี่ย? (แต่ท่าทางแด๊ดดี้จะยิ่งแกล้งให้น้องอ้อนบ่อยๆ นะเนี่ย)

ออฟไลน์ chun22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
#6


หลังจากนั้นผ่านมาจนถึงวันฝึกงานแล้วครับ วันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะเข้ามาที่นี่ในฐานะนักศึกษาฝึกงานกับตั้มครับ แผนกที่ผมจะไปอยู่ในครั้งนี้คือศูนย์ควบคุมและพัฒนาอะไหล่ยนต์ครับ เป็นแผนกที่ตรงตามชื่อเลยครับ เป็นหน่วยที่คอยควบคุมการผลิตและพัฒนาอะไหล่ที่เหมาะสมกับสภาพตลาดและความต้องการของลูกค้าโดยตรงครับ


ผมนัดกับตั้มว่าเจอกันที่ร้านกาแฟใต้ตึกครับ เพราะว่าสะดวกด้วยและผมก็หิวด้วยครับ ที่ร้านนี้คุณมาร์บอกว่าขายหลายอย่างครับ เช่นอาหารเช้าแบบยุโรปเพราะกลิ่นไม่แรงจนเสียเอกลักษณ์ร้านกาแฟไป แถมยังรสชาติดีอีกด้วย การันตีโดยพี่โจเซฟครับ ขานี้เลขาคิมเคยเปรยๆว่ากินมาแทบจะทุกพื้นที่ของเมืองแล้วครับ เชื่อถือลิ้นได้ครับ


ผมเคยถามป๊าในช่วงที่โทรกลับบ้านนะครับถึงอิทธิพลของคุณมาร์ ป๊าบอกว่าถ้าเรียกอย่างง่ายก็มาเฟียดีๆนี่แหละครับ แถมยังเป็นเจ้าพ่อทางธุรกิจด้วย เรียกว่าประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังเด็กจะดีกว่าครับ ป๊าบอกว่าคุณมาร์เก่งมากแล้วก็ขยันมากครับ ไม่มีเรื่องในทางชู้สาวกับใครมาก่อนด้วยครับ แถมยังเป็นคนที่ทำทุกอย่างที่ต้องการได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ


ผมมาถึงที่ร้านกาแฟแล้วครับสั่งโกโก้ร้อนกับขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก เรียกว่าสไตล์ยุโรปจริงครับ นั่งกินรอเวลาไปเรื่อยๆไม่นานตั้มก็มาครับ เพื่อผมไม่สั่งหรอกครับอาหารเช้า มันกินแค่ขนมปังของผมกับกาแฟอีกแก้วเท่านั้น ปกติตั้มเป็นคนไม่กินข้าวเช้าหนักๆครับ แต่เพราะผมชอบกินตั้มเลยต้องตามผมด้วย


พอได้เวลางานเราสองคนก็เดินไปที่แผนกที่ถามทางมาอย่างดีจากคุณมาร์เมื่อคืน พอไปถึงก็เจอพี่ๆที่ทำงานนั่งกันอยู่ประปราย ดูทรงแล้วมีแต่ผู้ชายเป็นส่วนมากครับ ก็ช่างเทคนิคนี่ครับ ออกภาคสนามด้วยครับที่คุณมาร์บอกมา จะเป็นผู้หญิงก็คงจะแมนเกินชายละครับ


“สวัสดีครับ พวกผมสองคนเป็นนักศึกษาที่จะมาฝึกงานที่นี่ตั้งแต่วันนี้เป็นเวลาสามเดือนครับ ผมชื่อไอน้ำครับ เรียกไอหรือน้ำก็ได้ ส่วนนี่เพื่อนผมครับชื่อตั้ม พวกเราสองคนขอฝากตัวด้วยนะครับ” ผมแนะนำตัวพวกเราสองคนกับพี่ๆที่หันมาสนใจตั้งแต่เราเดินเข้าประตูมาแล้วครับ


“เออ ดีๆ พี่ชื่อวิชัย เป็นหัวหน้าแผนนี้ เราทำงานเป็นครอบครัวไม่ต้องคิดมากอะไร ไม่เหมือนพวกงานเอกสารที่ต้องแบ่งชั้นอะไรทำนองนั้นนะ ตามสบาย มีอะไรก็ถามจะได้มีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากที่จบไปนะ”


“ขอบคุณครับ” เป็นตั้มที่ตอบรับคำเพราะผมกำลังมองหาที่นั่งของพวกเราอยู่ครับ


“น้องไอเป็นผู้ชายที่น่ารักมากเลยค่ะ มีแฟนหรือยังคะ” พี่ผู้หญิงที่ขยับเก้าอี้หาที่ให้พวกผมทักกับผมโดยตรง


“ขอบคุณครับ ผมยังไม่มีแฟนครับ แต่มีคนที่กำลังดูๆกันอยู่ครับ”


“คำตอบดารา” เสียงแซวจากพี่ๆร่วมห้องดังขึ้นมาทำเอาเขินเหมือนกันครับ


“แหม ยังไม่เป็นแฟนก็แปลว่าพี่มีสิทธิสินะคะ พี่ชื่อเนมนะคะ สาวรุ่นใหญ่แซบนะคะจะบอกให้”


“ผมเกรงใจครับ” ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆตอบ ไปพร้อมเสียงหัวเราะจากพี่ๆคนอื่น


“สาวรุ่นใหญ่หรือจะสู้หนุ่มใหญ่กันครับพี่เนม เพื่อนผมมันมีเจ้าของแล้ว แถมดูท่าจะหวงมากด้วยครับ” มาแล้วครับเสียงแซวจากเพื่อนตัวดีของผม


“ตั้มครับ กูไม่ได้ขอความเห็นจากมึงครับ อย่ากวนตีน”


“น้องไอจะหยาบหรือสุภาพครับ พี่งง” เสียงพี่ที่บอกว่าชื่อเอ้ทักผมที่หันหลังไปด่าไอ้ตั้ม


“ถ้าอยู่ไปนานๆพี่จะชินเองครับ ถ้าผมไม่เป็นเพื่อนมันมานานผมก็ว่ามันกวนตีนไปแล้วครับ ตรรกะการพูดมันซับซ้อนครับอย่าไปสนใจเลยพี่เอ้”


“แบบนี้อยู่กันได้สบาย จริงไหมพี่ชัย”


“เออ ฮ่าๆๆ” กลายเป็นช่วยกันหัวเราะไปซะงั้นครับ


วันนี้เป็นวันแรกครับเลยยังไม่มีงานอะไรให้พวกเราทำ พี่ชัยเลยเอาพวกแฟ้มข้อมูลอะไหล่มาให้เราลองศึกษากันก่อนครับ ส่วนพี่เนมก็ออกไปติดต่องานกับฝ่ายอื่น และพี่เอ้ที่กำลังสังเกตตัวเลขที่ขยับไปมาที่หน้าจอของตัวเอง


“พี่เอ้ครับ ที่พี่ดูมันคืออะไรหรอครับ”


“อ๋อน้องไอหรอ มันเป็นการวัดค่าสถิติรอบการหมุนของเครื่องยนต์รถแข่งที่มีปัญหาที่ส่งเข้ามาเช็คกับทางเรา”


“ที่นี่มีศูนย์ซ่อมด้วยหรอครับ”


“เปล่าครับไอ ที่นี่แค่เช็ครอบกำลังหมุนหรือเครื่องยนต์ทางเทคนิคครับ ไม่ได้ทำใหญ่ขนาดนั้น”


“เอ้ มาช่วยกูดูตรงนี้ที”


“ครับพี่ชัย”


“พี่ฝากเครื่องแปปนะน้องไอ”


“ครับ” ผมมองตามพี่เอ้ที่ถูกพี่ชัยเรียกไปที่เครื่องตัวเอง


ผมหันกลับมาสนใจหน้าจอพี่เอ้อีกครั้ง ส่วนไอ้ตั้มหรอครับ กำลังมีความสุขกับการอ่านข้อมูลอะไหล่รถที่มันสนใจจนไม่สนใจคนอื่นไปแล้วครับ ขนาดผมเดินหนีมามันยังไม่รู้เลยครับ


ผมสังเกตไปเรื่อยๆแต่ก็ยังไม่เจอความผิดปกติที่พี่เอ้บอกก่อนหน้า เอ มันต้องจับผิดตรงไหนกันครับเนี่ย


“รอบหมุนน้อยกว่าที่ควรจะเป็นในรอบของรถแข่งระดับนี้ เลยเกิดภาวะขัดข้องตอนใช้งาน” เสียงทุ้มที่อยู่บนหัวผมตอบข้อสงสัยของผม แต่ว่ามันคุ้นๆนะครับ


“คุณมาร์” ผมหันเก้าอี้กลับไปมองคนที่เท้าแขนคร่อมตัวผมไว้ กลายเป็นว่าเป็นคุณมาร์ที่แอบเข้ามานี่เอง


“ไง สนใจหรอ”


“ครับ มันดูน่าสนใจมากเลยครับ ผมไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน”


“อยากเห็นเครื่องจริงไหม”


“เครื่องจริง เครื่องรถแข่งคันนี้หรอครับ อยู่ไหนหรอครับ”


“หึหึ”


“อย่าเอาแต่หัวเราะสิคุณมาร์ ผมอยากเห็นพาไปหน่อยนะ พาไปนะ นะ”


“คนมองหมดแล้วนะ”


“ก็ปล่อยคนมองไปสิครับ ผมอยากปะ” ผมหยุดความสนใจเรื่องเครื่องรถก่อนจะหันมองรอบตัว ทั้งไอ้ตั้มที่เลิกอ่านข้อมูลในแฟ้มที่ยิ้มล้อเลียน ทั้งพี่เนมที่ไม่รู้ว่ากลับมาตอนไหนยืนส่งยิ้มน่าขนลุกมาให้ ไหนจะพี่ชัยกับพี่เอ้ที่มองผมจากเครื่องคอมพี่ชัยที่ก่อนหน้ากำลังทำงานกัน และพวกพี่คนอื่นที่ออกไปนอกห้องกลับเข้ามาที่โต๊ะตัวเองแล้ว


“ไงครับ”


“ฮือ คุณมาร์” ทำไงได้ละครับ ยิ้มล้อเลียนมาจากทุกคนแบบนี้ก็ได้แต่ซุกหน้าไปกับหน้าท้องที่แข็งมากของคุณมาร์เพื่อทำใจกับตั้งสติที่บินหายไปก่อนแล้วกันครับ


“ข่าวที่ว่าเด็กฝึกงานที่จะมาฝ่ายเราเป็นเด็กเส้นนี่คิดตั้งนานว่าใครระหว่างน้องไอกับน้องตั้ม พอเห็นแบบนี้ เนมก็พอจะเดาออกแล้วว่าเส้นใหญ่มาก ถูกไหมคะท่านประธาน”


“หึหึ” นี่ก็ไม่อะไรเอาแต่หัวเราะอยู่ได้ครับ


“พี่เข้าใจที่ตั้มบอกแล้วว่าสาวใหญ่รึจะสู้หนุ่มใหญ่ เป็นแบบนี้นี่เอง” เสียงพี่เอ้ครับ ยังจะแซวกันอีกหรอครับ แล้วต่อจากนี้ผมจะมีหน้ามองคนอื่นต่อไหมครับ โดนล้อแน่เลย


“ปล่อยฉันก่อนลูกแมวน้อย”


“ไม่เอา”


“ไม่ดื้อนะครับ”


“น้องไออาย”


“ไม่อายเนอะเด็กดี ฉันอยู่นี่ไง ไม่มีใครล้อหรอกนะ”


“ไม่เอา พอคุณมาร์ไปทุกคนต้องล้อแน่เลย”


“ไม่เชื่อกันหรอ” พอจบคำผมก็เงยหน้ามองเจ้าของที่พึงพิงตอนนี้ที่ก้มลงมาสบตากัน ผมยอมที่จะคล้ายแขนตัวเองที่จับจนสูทยับไปพอสมควร


“ผมขอโทษ สูทคุณมาร์ยับหมดเลย”


“ไม่เป็นไร”


“แต่ว่า”


“ดูสิ ไม่มีใครว่าไอหรอก พวกเขาเข้าใจ”


“ผมรู้ว่าทุกคนใจดีแล้วก็เข้าใจ แต่น้องไอต้องโดนล้อแน่เลย”


“ไม่ชอบหรอครับ”


“เปล่านะครับ แต่มันเขินนี่ครับ”


“หึหึ น่ารัก”


“พอเลย แล้วคุณมาร์ลงมาทำไมครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า โทรมาก็ได้นะครับ”


“จะมาบอกว่าสองสามวันนี้จะไปดูงานที่ฮ่องกง แล้วจะมาดูงานที่นี่พอดี”


“ผมขอของฝากได้ไหม”


“แค่ตัวกับใจยังไม่พออีกหรอครับ”


“ฮิ้วววววววววววววววววววว” มาแล้วครับเสียงแซวจากพวกพี่ๆที่เงียบมานาน ไอเราก็นึกว่าตั้งใจทำงานที่ไหนได้รอเวลานี่เอง


“ฝากดูไอด้วยนะชัย”


“ครับท่านประธาน”


“ไปก่อนนะ ต้องรีบไปขึ้นเครื่อง”


“เดินทางปลอดภัยนะครับ ผมจะรอ”


“ครับ” คุณมาร์ยิ้มส่งท้ายที่ผมเห็นประจำเวลาอยู่ด้วยกัน แต่คงจะแปลกกับคนอื่นเพราะมองตาค้างไปแล้วครับ


“อิจฉาโว้ย”


“เป็นอะไรครับตั้ม โวยวายแบบนี้เพราะไม่มีใครเอามึงใช่ไหมครับ”


“กูละอยากให้คุณมาร์โชวที่รักมึงมาเห็นตอนมึงด่ากูจริงๆ ไอ้คนสองมาตรฐาน”


“พูดมากครับ”


“ตกลงที่บอกว่าไม่มีแฟนแต่มีคนดูใจนี่ท่านประธานจริงๆใช่ไหมคะ น้องไอ”


“อ่า ครับ” หน้าร้อนอีกแล้วครับ


“ฟินมากค่ะพี่ขอพายคู่น้องไอกับท่านประธานนะคะ เรือนี้ต้องไม่ล่มแน่นอน เชื่อเจ๊เนมเลยค่ะ” ไม่รู้ว่าพี่เนมทำอะไร แต่ดูมุ่งมั่นกับการพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์มากครับ


“มึงดังแน่งานนี้ กูรู้มาว่าฉายาพี่เนม เนมรู้โลกรู้เว้ย”


“งานงอกแล้วครับมึง”


“แต่อย่าได้แคร์เพื่อน มีผัวรวยต้องอวดจำไว้”


“ผัวบ้าอะไรครับ พอเลยไม่คุยด้วยแล้ว อ่านต่อดีกว่า”


“เขินแล้วหนีสินะ”


ผมไม่ฟังคำแซวจากเพื่อนต่อครับ กลับมามุ่งมั่นอ่านข้อมูลต่างๆแทน จะว่าไปสองสามวันเลยหรอครับ นานจังครับ เฮ้อ


TBC.

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฮื่ออ ชอบมากเลยอ่าๆๆๆๆ ชอบที่คุณมาร์หื่นบ่อย5555555 แต่งดีจังค่ะพี่ รักเลยย :mew1:

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เป็นตรรกะการพูดที่ซับซ้อนจริงๆ นั่นละนะ ก็แมวนี่นะ

ออฟไลน์ minibearsecret

  • ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ฟินเวลาผู้ชายได้กันนะ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
    • Minibear_Secret Writer
วันนี้นักเขียนจะเข้ามาขอชี้แจงเกี่ยวกับการลงนิยายเรื่องนี้นะคะ เนื่องมาจากหมดไฟในการเขียนเรื่องนี้และพอดีกับได้งานประจำด้วยเลยทำให้ยากต่อการลงนิยายพร้อมกันสองเรื่องได้ ตอนนี้เลยทำได้เพียงแต่ลงนิยายของลุงเซียนอวี้ที่แต่งไว้เยอะพอจะลงตามกำหนดได้อีกหลายครั้ง ส่วนเรื่องนี้เป้นการแต่งสดเกือบทุกตอนเลยไม่สามารถลงต่อได้ เลยเป็นที่มาของการชี้แจงในเรื่องนี้นะคะ หวังว่านักอ่านที่เข้ามาติดตามทุกท่านจะเข้าใจในปัญหาของนักเขียน และนักเขียนจะพยายามกลับมาต่อจนจบให้ได้หลังจากที่จัดการอีกเรื่องจนจบแล้ว ขอโทษที่ทำให้หมดสนุกกับนักเขียนในเรื่องนี้ ขอโทษจริงๆนะคะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ ขอบคุณที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านเรื่องนี้นะคะ ด้วยรักจากนักเขียน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องชอบนิยายเรื่องนี้มากเลยนะคะ รอทุกวันเลยว่าเมื่อไหร่จะอัพ แต่เห็นพี่ไม่มาอัพหลายวันเราก็กังวลว่าพี่อาจจะติดธุระสำคัญ ที่พูดมาทั้งหมดคือเราจะบอกว่าเรารอได้ค่ะ รอให้พี่ว่างจริงๆก็ได้นะคะ เราไม่รีบเลย เราชอบและเราอยากสนับสนุนงานของพี่ ถ้าเหนื่อยก็พักนะคะไม่ต้องหักโหมมาเร่งแต่งนิยายให้คนอ่าน ขอบคุณนะคะ :mew1: :3123:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เสี่ยดายจัง...........ได้อ่านช้าลงไปอีกไง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เรื่องกำลังสนุกเลย..........ฮือ...ฮือ...
รอนะ    :z3: :z3: :z3:

มาร์โชว์  ไอน้ำ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด