>>>>>>>>>>>ต่อค่ะ<<<<<<<<<<
จักรพรรติยืนนิ่งอยู่หน้าห้องที่ปภพบอกไว้ ไม่กล้าเคาะเพราะตัวจิ้งเองยอมรับว่ายังไม่ได้เตรียมใจมามากนัก ในตอนที่เดินเข้ามากล้าพูดเลยว่าเขาเอ๋อมาก แต่ละคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ช่างแตกต่างกับเขาเหลือเกิน ชีวิตที่หรูหรา คอนโดที่เรียกได้ว่าแพงหูฉี่แบบนี้เขาไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะเหยียบเข้ามาด้วยซ้ำ เขาอดคิดไม่ได้เลยว่าจะต้องรวยขนาดไหนถึงจะได้อาศัยอยู่ที่แบบนี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
จิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ตัดสินใจเคาะห้องของปภพทันที แม้จะไร้เสียงใดตอบกลับมาแต่เขาก็ได้ยินเสียงปลดล็อคประตูที่ดังขึ้นมา ก่อนที่มันจะเปิดออกกว้างให้ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลากับเสื้อเชิตสีขาวที่กระดุมถูกปลดออกจนเผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง จิ้งไม่ได้สนใจจะมองสักนิดเพียงแต่มันมาอยู่ตรงหน้าเท่านั้นเขาถึงต้องมอง ใช่ว่าชอบเสียเมื่อไหร่ มีนมตูมๆก็ว่าไปอย่างคนอย่างจิ้งจะได้สนใจ
“มาสิครับ...เข้ามาก่อนเลย”
จิ้งลังเลเล็กน้อยแต่ก็ก้าวเข้าไปโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองใบหน้าของปภพเลยสักนิดเดียว ภายในห้องส่งกลิ่นหอมกลิ่นเดียวกับที่ลอยออกมาจากร่างของปภพ แปลก...ไม่รู้ทำไมกลิ่นที่ตลบอบอวลอยู่ในห้องมันทำให้ใจของจิ้งสั่นแปลกๆ เป็นเพราะอะไรกันตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ
ปภพปิดประตูลงล็อคโดยไม่ได้หันกลับไปมองคนข้างหลังสักนิดเพราะหากเขาหันไปแล้วอีกฝ่ายเห็นใบหน้าที่ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิดคงไม่แคล้วกระโดดหนีเหมือนกระต่ายตัวน้อยๆแน่ แต่ว่าเขา...ชอบใจสุนัขจิ้งจอกมากกว่า พวกเพื่อนรู้จักนิสัยของเขาดี หากได้เจอสิ่งที่ถูกใจไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนปภพก็จะคว้ามันมาให้ได้ และตอนนี้...เขาก็อยากจะเลี้ยงจิ้งจอกตัวน้อยที่หลงเข้ามาในกับดักนายพรานของเขาแล้วด้วยสิ คงปล่อยให้หลุดไปไม่ได้
“ผมมาถึงแล้วหมอก็บอกมาสักทีสิว่ารักษาพี่ผมยังไง” จิ้งไม่คิดจะถ่วงเวลาอะไรให้นานนัก เขาไม่อยากจะอยู่กับหมอให้นานกว่านี้หรอก เพราะยิ่งเห็นหน้าหมอภพเขาก็ยิ่งนึกถึงหน้าของแฟนหมอที่พูดจาว่าร้ายเขาและพี่จันทร์
“ไม่คิดจะดื่มน้ำดื่มท่าก่อนเลยหรือ หืม...น้องจิ้ง” จักรพรรติกัดฟันกรอดกับคำเรียกขาน แต่ที่น่าโมโหยิ่งกว่าคือท่าทางที่ไม่สนใจว่าเขาไม่อยากจะอยู่ด้วยนี่ล่ะ
“ไม่...จะให้ดีก็รีบๆพูดมาจะดีกว่า บอกตรงๆผมไม่อยากจะอยู่กับหมอนานนักหรอก”
“ทำไมล่ะ เกลียดผมมากเลยเหรอ”
ก็ใช่น่ะสิ อยากจะตะโกนใส่หน้าอยู่หรอกแต่ไม่รู้ทำไมถึงพูดไม่ออก จิ้งแม้จะเกือบใจอ่อนแต่ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นที่คลินิกกับผู้เป็นแฟนของหมอภพก็ตีกลับมาย้อนให้ความโกรธมีมากกว่าความเห็นใจ สายตาของจิ้งที่เกือยจะอ่อนลงกลับมาแข็งกร้าวจนคนถูกมองเลิกคิ้วขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ เขารู้ว่าหมอภพกับแฟนคือคนละคนกัน แต่เขาก็แค่มนุษย์ที่แยกอารมณ์ออกจากความสัมพันธ์ไม่ได้
“ผมว่าหมออย่าถามเรื่องที่รู้อยู่แล้วเลยครับ มันเสียเวลา หมอแค่ตอบในสิ่งที่ผมอยากรู้มาจะดีกว่า ผมจะได้รีบๆกลับไปสักที” ปภพนิ่งเงียบสบตากลมสีน้ำตาลของจักรพรรติด้วยความเฉยชา ใบหน้าหล่อเหลาไร้อารมณ์สาวเท้าเดินมาหาร่างบางอย่างช้าๆ บรรยากาศที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างสูงทำให้จิ้นต้องถอยหนีตามสัญชาตญาณ
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงด้วยความหวาดหวั่นมองร่างกายสูงใหญ่ที่ขยับเข้ามาใกล้ด้วยความคุคามอย่างเกรงๆ สายตาหวานเลิ่กลั่กพยายามมองหาทางหนีของตนเองเพื่อเอาตัวรอด แต่มันก็สายไป ในตอนนี้แผ่นหลังของจิ้งสัมผัวถึงความเย็นของผนังอย่างแนบแน่น ยิ่งคนตรงหน้าขยับสาวเท้าเข้ามาเท่าไหร่ จิ้งก็แทบจะสิงผนังให้ละลายกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
“จะรีบไปไหนครับ...อยู่คุยกับพี่นานๆหน่อยไม่ได้เหรอ พี่จะได้ทำความรู้จักกับน้องจิ้ง...ให้มากขึ้น” สองแขนหนาของหมอภพยันผนังกักร่างเขาเอาไว้ในวงแขนไม่ยินยอมให้หนีไปไหน จิ้งตัวสั่นอย่างไม่อาจจะห้ามยิ่งถูกกวาดามองทั้งร่างด้วยสายตาแบบนั้นเขายิ่งห้ามตัวเองไม่อยู่
“ผะ ผมจะกลับแล้ว!” ต้องหนี ต้องรีบหนีไปให้ไกลจากคนๆนี้ หากหนีไปได้...เขาสาบานเลยว่าจะไม่มีวันเข้าใกล้หมอนี่อีก แต่เขาจะหนีไปได้ยังไงในเมื่อหใอภพไม่เปิดทางให้เขาสักนิด ปภพมองใบหน้าของจิ้งที่ฉายความหวาดหวั่นออกมาจนชัดเจนจนต้องก้มหน้าลงไปใช้จมูกแตกผิวแก้มของจิ้งอย่างแผ่วเบา
“หยุดนะ!”
หมับ!เพียงแค่ยกหมัดขึ้นมาก็ถูกหมอภพคว้าและกดเอาไว้กับผนังทันทีโดยที่ไม่มีโอกาสสัมผัสใบหน้าหล่อสักนิด ใบหน้าของจิ้งเหยเกด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ไม่ว่ยส่งสายตาอาฆาตไปให้คนตรงหน้าอยู่ดี คนอย่างจิ้งไม่มีวันแพ้จะไม่มีวันแสดงความอ่อนแอให้เห็นเด็ดขาด
“เป็นจิ้งจอกที่ดื้อจริงๆนะ ทั้งๆที่พี่อุส่าใจดีด้วยแท้ๆก็ยังหันมากัดกันได้”
“ผมไม่เห็นอยากได้ความใจดีของหมอสักหน่อย! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ!” แม้จะดิ้นรนหนีเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากแรงจับของหมอภพได้
“หึ...ไม่เป็นไร รับรองเลยว่าพี่จะเลี้ยงน้องจิ้งอย่างดี”
“อ๊ะ ปล่อยนะ!”
จิ้งถูกปภพลากไปยังห้องนอนก่อนจะผลักให้คนตัวเล็กล้มลงไปนอนอยู่บนเตียงกว้าง หัวใจของจักรพรรติเต้นระรัวหวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น บ้าไปแล้ว หมอนี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึงจะชอบผู้ชายยังไงก็ต้องมีข้อยกเว้นบ้าง เขาไม่ใช่แฟนของหมอสักหน่อย มาทำแบบนี้กับเขาได้ยังไงกัน!
“หมะ หมอ จะทำอะไร” จักรพรรติขยับถอยหนีเมื่อเห็นว่าอีกคนค่อยๆปลดชุดออกจากร่างกาย ปภพคล่อมทับร่างกายบอบบางของจิ้งเอาไว้ โน้มใบหน้าลงไปใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน
“พี่ก็จะเริ่มการฝึกให้จิ้งจอกตัวนี้เชื่องไงครับ”
“อื้ม!” ตากลมเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อถูกปภพประกบจูบอย่างไม่ให้ตั้งตัว จิ้งเม้มปากแน่นไม่ยินยอมให้อีกฝ่ายสอดปลายลิ้นเข้ามาในริมฝีปากได้อย่างเด็ดขาด ปภพกลับชอบใจกับอาการขัดขืนที่จิ้งไม่ยอมรับจูบที่เขามอบให้ แบบนี้สิดี การได้ฝึกให้เชื่องแค่กับเขานี่แหละที่เขาชอบ จิ้งใช้แรงทั้งหมดผลักให้ร่างสูงออกไปให้ไกลตัว แต่กลับทำได้เพียงทำให้ปภพถอนริมฝีปากออกแค่นั้น
เพี๊ยะ!“อย่ามาจูบผมนะ! ตัวหมอเองก็มีแฟนอยู่แล้ว ทำไมต้องทำแบบนี้กับผมด้วย! ปล่อยผมนะ ผมจะกลับบ้าน!” น้ำตาเอ่อคลออยู่ในดวงตาคู่สวยจนฉ่ำวาว เขาเกลียดคนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อแฟนตัวเองที่สุด เหมือนกับ... เหมือนกับพี่ลิม
“แฟน? ใครครับน้องจิ้งกำลังพูดถึงใคร”
“นี่หมอมีแฟนหลายคนจนจำไม่ได้เลยสินะ หึ!” จิ้งยิ้มเยาะด้วยใบหน้าเย้ยหยัน แบบนี้เอง...คิดว่าตัวเองหน้าตาดีจะมีแฟนสักกี่คนก็ได้อย่างนั้นสินะ เลวจริงๆ แต่ปภพกลับทำหน้างุนงงสงสัยในคำพูดของจิ้งไม่หยุด เท่าที่จำได้เขาไม่เคยคบใครเสียหน่ยอ แล้วใครกันที่คนตัวเล็กบอกว่าเป็นแฟนของเขา
“พี่ไม่รู้จริงๆครับ น้องจิ้งบอกพี่มาสิ”
“ก็ไอคนที่ผมต่อยจนเลือดออกในคลินิกของหมอไง! ปล่อยสักที!”
“แต่ไมโลไม่ใช่แฟนพี่นี่ครับ ทำไมถึงมองว่าเขาเป็นแฟนพี่ล่ะ” จิ้งหัดิมฝีปากแน่น พูดไปเถอะ เขาไม่คิดจะเชื่อหรอก โกหกให้เด็กมันฟังเด็กมันยังไม่เชื่อเลย
“หึ! จะบอกว่าเขาไม่ใช่แฟนทั้งๆที่เขาด่าผมกับพี่สาวเสียๆหายๆเพียงเพราะมาหาหมอน่ะเหรอครับ เห็นว่าผมโง่หรือไง!” ปภพสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังในน้ำเสียงจนเขาแทบจะไม่อยากฟัง
“พี่ไม่รู้หรอกว่าเขาคิดอะไร แต่ถ้านั่นคือปัญหาล่ะก็ จากนี้ไป...แฟนของพี่จะมีจิ้งเป็นเจ้าของตำแหน่งนั้น!”
“ผมไม่อยากเป็น!” คนใต้ร่างตอบกลับโดยที่ไม่คิดด้วยซ้ำ คำปฏิเสธมันช่างเป็นเหมือนมีดกรีดลงบนใจของเขา จากที่คิดว่าจะค่อยๆฝึก คงต้องทำให้เป็นของเขาก่อนแล้วล่ะ
“เดี๋ยวก็อยากเองแหละครับ หลังจากคืนนี้ไป!”
ปภพบดจูบลงไปบนกลีบปากบางอย่างแรงด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น ดูดดึงจนริมฝีปากบางต้องเผยอออกกว้าง รสชาติหวานที่ได้ชิมมันทำให้หัวใจของปภพเต้นรัว กลิ่นหอมของจิ้งมันมอมเมาเขาให้หลงไหลอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครคนไหน จิ้งเปิดปากยินยอมให้อีกคนสอดปลายลิ้นเข้ามาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อถูกฟันคมของหมอภพกัดกลีบปากเล่นอย่างไม่ออมแรงจนได้กลิ่นเลือดสดๆ
“อ๊ะ อื้ม!”
มือหนาปลดพันธนาการออกจากเรือนร่างของจักรพรรติอย่างรวดเร็วจนในเวลาไม่นานร่างบางก็เปลือยเปล่า ยอดสีสวยที่ชูชันท้าทายสายตาถูกปลายนิ้วของหมอภพบีบบี้จนเจ้าของต้องแอ่นอกขึ้นด้วยความเสียวซ่าน ลิ้นร้อนซุกซนกวาดต้อนชิมความหวานภายในปากอิ่มอย่างเร่าร้อนโดยไม่เสียเวลาปล่อยให้อีกฝ่ายได้หายใจสักวินาทื
ปภพถอนริมฝีปากออกซุกไซร้ไปตามลำคอของจิ้งอย่างหื่นกระหายใจ ดูเม้มผิวเนื้อจนเกิดร่องรอยสีกุหลาบ เสียงหวานครางผะแผ่วทั้งที่จิตใจต่อต้านแต่ก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้เลย ภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปหมดจนจิ้งแยกไม่ออกว่าอะไรคืออะไรได้แต่นอนหอบหายใจอย่างหมดเรี่ยวแรง ปล่อยให้ปภพจูบไล่ไปตามร่างกายตัวเอง
กางเกงยีนส์สีจางตัวเก่งของจิ้งถูกปลดออกอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับชั้นในสีขาว ความองอาจภายใต้กางเกงผงาดขึ้นท้าทายอุ้งมือหนาที่กอบกุมขยับรูดรั้งอย่างต้องการเร่งเร้าอารมณ์ของร่างบาง เสียงหวานครางกระเส่ากับความเสียงซ่านที่ตีรวนขึ้นมา ยิ่งถูกปากร้อนครอบครองยอดอกจิ้งยิ่งไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ อกบางแอ่นขึ้นรับริมฝีปากร้อนตามแรงดูดดึง ปลายลิ้นตวัดเลียจนยอดเล็กชุ่มไปด้วยน้ำลาย
“อือ อ๊ะ อา”
ปภพชิมยอดหวานจนพอใจก็เปลี่ยนมาจูบไล่ตามหน้าท้องที่ไร้กล้ามเนื้อและไขมัน มือหนายังคงรูดรั้งความองอาจในมือไม่หยุดจนน้ำสีใสปริ่มออกมา ปภพมองความหยาดเยิ้มนั้นและก้มลงใช้ปลายลิ้นเลียเบาๆราวกับชิมรสรัก ก่อนที่ปากร้อนจะครอบครองตัวตนเอาไว้จนหมด แรงดูดดึงและจังหวะการขยับของศีรษะปภพมันสร้างความเสียวซ่านจนมือบางต้องยกขึ้นมาขยุ้มลงบนผมหนาสีดำ
“อืม อา ซี๊ด”
ยิ่งถูกอีกฝ่ายครอบครองลงไปลึกเท่าไหร่แรงขยุ้มบนเส้นผมหนาก็ยิ่งเพิ่งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ปภพไม่ได้สนใจความเจ็บปวดบนศีรษะสักนิดเพราะเสียงจากการดูดดึงมันดังขึ้นมาจนอารมณ์ปราถนาของปภพปะทุขึ้นจนแทบจะรออีกไม่ไหว ปากร้อนขยับกลืนกินความองอาจอย่างหนักหน่วง ความเสียวซ่านแล่นขึ้นมาเล่นงานจนใบหน้าจิ้งเหยเก ร่างบางกระตุกปลดปล่อยหยาดรักเข้าสู่ปากร้อนของปภพจนหมดสิ้น
“อ๊ะ อ๊า!”
จักรพรรติหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน ในหัวขาวโพลนไปหมดลืมเลือนไปเสียทุกอย่าง ปภพคายหยาดรักในปากลงบนฝ่ามือตนเอง ใช้หยาดรักป้ายลงที่จีบรักสีหวานพร้อมกับกดปลายนิ้วเข้าไปด้านใน จิ้งสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือความอึดอัดที่มีสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้ามาภายใน จีบรักตอดไล่ปลายนิ้วที่รุกล้ำหวังให้อีกฝ่ายถอนปลายนิ้วออกไป แต่ยิ่งร่างบางรัดรึงจนแน่นมากเท่าไหร่ ปภพก็ยิ่งกดปลายนิ้วเข้าไปมากเท่านั้น
“อยะ อื้อ เอาออกไปนะ” เสียงปฏิเสธจากจิ้งมันช่างแสนเบาสำหรับปภพเมื่อสิ่งที่สวยงามได้มาอยู่เบื้องหน้าเขา มีหรือที่เขาจะปล่อยให้จิ้งจอกตัวน้อยตัวนี้หลุดรอดไปได้ ยิ่งได้รู้ว่สภายใต้ใบหน้าที่แยกเขี้ยวขู่เขานั้น มีใบหน้าที่แสนเย้ายวนยามนอนอยู่ใต้ร่างของเขา ยามที่เขาปรนเปรอให้จนอีกฝ่ายสุขสม เขาอยากจะครอบครองร่างบอบบางที่แสนหวานนี้ จะไม่ยอมปล่อยให้ใครได้ไป เขาต้องเป็นเจ้าของจิ้งจอกตัวเล็กๆนี้แต่เพียงผู้เดียว
ยิ่งคิดปภพก็ยิ่งเร่งดร้าปลายนิ้วเข้าออกอย่างรุนแรง จีบรักที่ในตอนแรกบีบรัดไว้ไม่ยินยอมรับสิ่งแปลกปลอมนั้น ในตอนนี้มันทั้งนุ่มและร้อนผ่าวเปิดทางรับทุกการขยับเข้าหาอย่างเต็มใจ จิ้งนอนหอบหายใจส่งเสียงครางกระเส่ายามปลายนิ้วทั้งสองของหมอภพแตะโดนจุดกระสัน สะโพกของร่างบางยกขึ้นอย่างลืมตัว สองมือกำแขนของอีกคนแน่นอย่างเสียวซ่าน หัวใจจิ้งเต้นแรงรางกับว่าจะขาดใจ เสียงหอบหายใจถี่ขึ้นตามจังหวะการสอดใส่ของปลายนิ้ว
“อื้อ แฮ่กๆ อ๊ะ อ๊า”
“ต่อไปของจริงแล้วนะครับ...จิ้งจอกน้อย”
จิ้งไม่อาจจะเข้าใจอะไรที่ปภพพูดอีกแล้ว ทันทีที่นิ้วทั้งสองถูกถอดออกจากร่าง จิ้งก็เหมือนถูกปล่อยให้เคว้งคว้างกลางอากาศ จะชงก็ไม่หด้ ไปต่อก็ไม่ไหว ปภพก้มลงไปจูบริมฝีปากเล็กอย่างแผ่วเบาแล้วถอนออก ก่อนจะบดบี้จูบอันเร่าร้อนให้อีกคนลืมเลือนสติไปจนหมดสิ้น มือหนาประคองความองอาจที่ผงกหัวเฝ้ารอการปลดปล่อยของตนเอาไว้ จ่อไปที่ปากทางรักสีพีชที่ในตอนนี้เปิดกว้างรออยู่แล้ว
“อ๊ะ อื้อ!”
“เดี๋ยว ซี๊ด อ๊า จิ้งอย่าดิ้น!”
จิ้งทั้งทุบทั้งตีทั้งหยิกข่วนไปตามร่างกายของปภพทันทีที่เพียงส่วนหัวรุกล้ำเข้ามาภายใน ดวงตากลมหวาดหวั่นกับเรื่องที่ตนเองไม่คิดว่าจะมาเจอ หยาดน้ำตาไหลลงมาราวกับต้องการระบายความเจ็บปวด ปภพรู้ดีว่าร่างเล็กเจ็บเพียงใด แต่ในตอนนี้หากยังคงดื้อรั้นดิ้นรนมีแต่จะทำให้เขาห้ามตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ มันจะกลายเป็นการทำให้ยิ่งเจ็บเปล่าๆ แต่จิ้งไม่รู้และไม่เข้าใจในข้อนั่น สิ่งที่จอ้งรู้คือไอนั่นของหมอนั่นล่ะที่ทำให้เขาเจ็บมาก! และจิ้งก็ต้องการทำให้มันออกไปจากตัวเขาให้เร็วที่สุด
“เจ็บ! อ๊ะ อะ ออกไปนะ”
“ฮึ่ม!...” ปภพสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างต้องการระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เขาต้องใจเย็นกว่านี้เพื่อลดทอนความปราถนาในตัวของอีกฝ่ายให้ลดลง
ร่างสูงกดจูบลงไปสอดแทรกปลายลิ้นชักชวนให้จักรพรรติได้หลงลืมความเจ็บปวดทั้งสิ้นนี่ไป มือใหญ่กอบกุมตัวตนของคนตัวเล็กเอาไว้ ขยับรูดรั้งจนจิ้งเริ่มครางรับในลำคอ ช่องทางที่บีบรัดตัวเขาแน่นในตอนนี้เริ่มคลายลงจนสามารถดันความองอาจที่ค้างอยู่ให้เข้าไปได้จนสุด เพื่อให้คนตัวเล็กเจ็บน้อยที่สุด เขาต้องดันเข้าไปจนสุดในครั้งเดียว
จิ้งสะดุ้งเฮือกและเริ่มดิ้นรนอีกครั้งแต่เพราะริมฝีปากหนาที่บดจูบหวานล้ำอยู่ทำให้ไม่สามารถจะส่งเสียงใดๆได้ เล็บของจิ้งจิกลงบนไหล่หนาอย่างแรงแต่ปภพกลับไม่สะดุ้งสะเทือนใดๆสักนิด ลิ้นหนาเกี่ยวกระหวัดชักพาให้อารมณ์วาบหวามของจิ้งถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง จีบเล็กกระตุกตอดรัดจนแน่นไปหมด มันเจ็บจนร่างของจิ้งแทบจะแตกสลาย จิ้งไม่เข้าใจสักนิดว่าเพราะอะไรตัวเองถึงต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ ปภพถอนริมฝีปากออกจับจ้องใบหน้าของจิ้งที่บัดนี้ปรือตาสะอื้นด้วยแรงอารมณ์ แก้มบางแดงซ่าน ความกระสันที่ถูกความองอาจใหญ่โตภายในจีบรักขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้าทำให้จิ้งต้องกัดริมฝีปากไว้ แต่กลับเป็นภาพที่ยั่วเย้าอารมณ์ของปภพเหลือเกิน
สายตาคมทอดมองคนใต้ร่างด้วยความหลงใหล อยากจะกลืนกินคนๆนี้เข้าไปจนไม่มีใครที่ไหนสามารถหาจักรพรรติได้พบอีก ลูกจิ้งจอกแสนพยศที่ถูกใจนายพรานอย่างปภพจะไม่มีวันหนีออกจากบ่วงรักที่เขาทุ่มเทงัดออกมาผูกรัดคนใต้ร่างเอาไว้ได้แน่ ปภพสอดใส่ความองอาจเข้าไปในร่างของจิ้งอย่างหนักหน่วง เน้นย้ำให้อีกคนได้รู้และไม่ลืมว่าใครที่เป็นเจ้าของ เสียงหวานครางกระเส่าอย่างไม่เป็นภาษา ยิ่งถูกโถมกายเข้ามารุนแรงเท่าไหร่ อารมณ์วาบหวามก็ยิ่งนำความเสียวซ่านมาจุกอยู่เพียงจุดเดียว
อยากปลดปล่อย อยากได้มากกว่านี้
“อีก อ๊ะ อา อื้อ เอา อืม อีก” จิ้งหลงลืมความอายใดๆจนหมดสิ้น เหลือเพียงความรู้สึกต้องการที่เรียกร้องจนจิ้งแทบจะขาดใจ
“อืม จิ้งจอกน้อยของพี่”
สองแขนเล็กยกขึ้นโอบลำคอหนาไว้แน่น แหงนใบหน้าขึ้นรับจูบเร่าร้อนจากคนตัวสูง ปภพบดเบียดริมฝีปากสอดปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดรุกไล่จนต้องคราฃผะแผ่ว เอวหนาขยับนำสิ่งนั้นเข้าออกอย่างรุนแรง เสียงหายใจดังสลับกับเสียงครวญคราง หัวใจของปภพและจักรพรรติเต้นเป็นจัฃหวะเดียวกัน แม้จะไม่อยากยอมรับแต่ว่าเขาชอบบทเรียนสวาทของหมอภพเหลือเกิน มุนทั้งเร่าร้อนรุนแรงและหลอมละลายสติของเขาให้หายไปจนหมด เหมือนถูกชักนำให้เดินเข้าไปในวังวนต้องห้ามที่หอมหวานแต่อันตราย
“อื้อ อ๊ะ จะออก อืม ผมจะ อ๊ะ อ๊า!”
“จิ้ง อา ซี๊ด จิ้ง”
ปภพกระแทกกายเข้าออกเน้นๆอยู่หลายครั้ง ยิ่งจิ้งใกล้จะปลดปล่อยคนตัวสูงก็ยิ่งขยับกายถี่หวังจะปลดปล่อยพร้อมกับคนของตน จิ้งขยับมือรูดรั้งความองอาจในมือของตนเองอย่างแรงจนร่างทั้งร่างกระตุกปลดปล่อยหวาดรักสีขาวขุ่นใส่ฝ่ามือตัวเอง จีบรักกระตุกตอดรัดแน่นจนปภพเองก็ต้องเร่งกายปลดปล่อยสายธารรักที่อุ่นร้อนเข้าสู่ภายในร่างของจิ้งเช่นกัน
จิ้งนอนหอบหายใจอย่างหมดแรงในขณะที่สิ่งนั้นถูกดึงออกอย่างช้าๆ หยาดสีขุ่นผสมกับเลือดของจิ้งไหลออกมาทันทีที่ความใหญ่โตถูกดึงออก ร่องรอยต่างๆปรากฏชัดในสายตาจนปภพต้องใช้ปลายนิ้วลูบไล้มันอย่างแผ่วเบา เขาได้มาแล้ว ได้จิ้งจอกตัวน้อยที่แสนพยศมาแล้ว ความปลื้มปิติเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งได้เป็นคนแรกของจักรพรรติปภพก็ยิ่งดีใจจนต้องก้มลงไปจูบซับเหงื่อของจิ้งตามไรผม
“ที่รัก...พี่มีความสุขที่สุดเลย” ฟีโรโมนหลังมีสัมพันธ์กันช่างหอมนัก หอมเสียจนปภพแทบจะต่อยกสองเสียให้ได้ แต่เขาก็รู้ว่าร่างกายของจิ้งรับมากกว่านี้ไม่ไหว เขาฝืนใช้ทีเผลอกดร่างเข้าไปเพียงเพราะถูกอีกฝ่ายรัดจนแน่น ความรู้สึกนั้นปภพจำได้ดี มันทั้งเสียวซ่าน ทั้งเจ็บปวดแต่เขากลับชอบความรู้สึกนั้น ความรู้สึกที่ได้เข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับอีกคน
“อื้อ มะ ไม่เอาแล้ว”
จิ้งบอกอย่างเหนื่อยล้า ในหัวตอนนี้มึนไปหมดจนแยกแยะอะไรไม่ได้แต่จิ้งก็ยังรับรู้ได้ถึงฝ่ามือที่ลูบไล้ไปตามตัว ปภพจูบขมับคนตัวเล็กอย่างรักใคร่ พอใจที่เห็นว่าดวงตาคู่หวานกำลังจะปิดลงเพื่อก้าวเข้าสู่นิทรา เขายอมละมือออกจากผิวนุ่มลื่นแต่เพียงเลิกคิดจะลูบไล้เท่านั้นเพราะร่างสูงเปลี่ยนจากการลูบไล้ตามแนวราบของเรือนร่างมาเป็นก่ายกอดกระชับคนข้างๆเข้าสู่อ้อมอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
จิ้งปรือตาความอ่อนล้าจากบทรักเร่าร้อนสูบเอาเรี่ยวแรงจากตนไปจนหมดจนร่างกานเรียกร้องการพักผ่อนอย่างมาก ความเย็นของเครื่องปรับอากาศไม่มีผลกับร่างเปลือยเปล่าแม้แต่น้อยเพราะในตอนนี้ปภพได้ใช้เนื้อห่มเนื้อแก่จักรพรรติเรียบร้อย หากเช้ามาจิ้งจอกน้อยของเขาจะหันมาหลงใหลเขาดังที่เขาหลงใหลในตัวของจิ้งก็คงดี เขาก็ไม่อยากจะใจร้ายจับเจ้าลูกจิ้งจอกไร้เดียงสาขังกรงเสียด้วยสิ หึหึ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แสงแดดยามเช้าไม่ได้รบกวนการนอนหลับแต่อย่างใด แต่มันเป็นเพราะความร้อนในร่างกายและอาการเจ็บแปลบที่จีบรักอันบอบบางที่เพียงขยับกาบเปลี่ยนท่านอนก็รวดร้าวไปจนถึงกระดูกสันหลัง จิ้งลืมตาขึ้นมองเพดานสีขาวกระพริบตาปริบๆเพื่อเรียบเรียงเหตุการณ์ ภาพการร่วมรักอย่างเร่าร้อนของเขาและหมอภพกลับมาทันใด ใบหน้าหวานแดงซ่าน รู้สึกหนักศีรษะราวกับมีใครเอาหินก้อนใหญ่มาวางไว้ ดวงตาร้อนผะผ่าวจนหยาดน้ำตาไหลลงมา ลมหายใจของจิ้งร้อนขึ้นจนเจ้าตัวสัมผัสได้
เขากำลังป่วย ใช่!
มันเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ตัวดี เพราะตัวจิ้งเองไม่ชอบเลยเวลาที่จะต้องป่วยเช่นนี้ ไม่ชอบความร้อนผ่าวที่รู้สึก ไม่ชอบที่ผิวกายสัมผัสความเย็นได้ดีกว่าปกติ เขาไม่ชอบอาการสั่นที่เพียงแค่ถูกความเย็นภายในห้องแตะผิวก็สั่นสะท้าน ปภพเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้ากังวล มือถือกะละมังใบเล็กที่มีน้ำและผ้าใส่อยู่ด้านในมาวางไว้ใกล้ๆเตียง
“น้องจิ้งกำลังป่วยนะครับ อย่าร้องไห้เลย” เขาเปล่าเสียหน่อย! ปภพใช้มืออังหน้าผากเล็กวัดอุณหภูมิของร่างกายก่อนจะถอนหายใจออกมา
“พี่จะเช็ดตัวให้นะครับ อย่าขยับมากนะ” จิ้งปัดมือของหมอภพทิ้ง เมินหน้าหนีและเม้มปากแน่น น้ำตาไหลไม่หยุด
“อยะ อย่ามาแตะ” จักรพรรติเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง นึกเสียใจที่โง่เดินเข้ามาในจุดที่ไม่สามารถออกไปได้
“พี่ขอโทษครับ...แต่พี่ไม่เสียใจที่ทำลงไปสักนิด พี่จะรับผิดชอบทุกอย่าง” จิ้งขมวดคิ้วแต่ใบหน้ากลับยิ้มเยาะอีกฝ่าย
“ผมเป็นผู้ชาย ไม่จำเป็นสักนิดที่ต้องรับผิดชอบ”
“ถ้าไม่อยากให้พี่รับผิดชอบก็ไม่เป็นไรครับ...” จิ้งเสมองไผทางอื่นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทำไมกันนะ ทำไมทุกจังหวัการเต้นของหัวใจหลังจากได้ยินแบบนั้นมันถึงได้ปวดหนึบจนอยากจะร้องไห้
“งั้นน้องจิ้งก็มารับผิดชอบพี่แทนนะครับ”
“บ้าหรือไง! ผมไม่ได้ทำอะไรทำไมต้องรับผิดชอบด้วย! แค่กๆ” เพราะตะเบงเสียงใส่อีกฝ่ายอย่างไม่ทันได้คิดด้วยความโมโหจึงทำให้เสียงแหบแห้งยิ่งแหบแห้งเข้าไปอีก ซ้ำร้ายยังเจ็บคอเพิ่มขึ้นมาด้วย
“ก็น้องจิ้งมาขโมยหัวใจพี่ไปนี่ครับ น้องจิ้งมาผลักให้พี่ตกหลุมรักแล้วจะเดินจากไปได้ยังไง” จิ้งเบิกตากว้างมองคนตรงหน้าอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ถึงคำพูดจะดูเสี่ยวจนเลี่ยน แต่ที่น่าแปลกใจคือใบหน้าของหมอภพมันขัดแย้งกับคำพูดชัดๆ บอกว่าเขาขโมยหัวใจ แต่ทำหน้าเหมือนอยากจะจับเขากิน บอกว่าเขาผลักให้ตกหลุมรัก แต่ทำหน้าราวกับอยากจะจับเขาขังเอาไว้ไม่ยอมให้หนีไปไหน บ้าไปแล้ว! คนๆนี้บ้าไปแล้วแน่ๆ ปฏิกิริยาทางใบหน้ากับสมองไม่ได้ทำงานร่วมกันเลยสักนิด!
“ผะ ผม เปล่า” จิ้งพูดราวกับแทบจะหาเสียงตัวเองไม่เจอ ไอการคุกคามแต่ทำให้ใจเต้นนี่มันอะไรกัน ทำไมเขาถึงทั้งอยากเข้าไปใกล้และอยากถอยหนี
“ไม่ได้ครับ ทำแบบนี้พี่เสียหาย ถ้าเกิดน้องจิ้งไม่รับผิดชอบพี่แบบนี้...พี่คงต้องไปบอกคุณจันทร์แล้วว่า น้องชายผู้แสนดีของคุณจันทร์
ฟันพี่แล้วทิ้ง” จิ้งที่นอนซมเพราะพิษไข้อ้าปากพะงาบๆไม่รู้จะงัดอะไรมาเถียงหมอขี้ตื้อคนนี้เลย
“เช็ดตัวนะครับ จะได้ทานข้าวทานยา”
ปภพไม่ปล่อยให้อีกคนได้พูดปฏิเสธหรือเรียกสติใดๆเขาลงมือเช็ดร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยกุหลาบอย่างเบามือ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนตัวเล็กได้สวมใส่ในชุดของตนเองแม้มันจะดูยาวไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าชุดเก่าหรือนอนเปลือยเปล่าตกแอร์อยู่แบบนี้ ข้าวต้มร้อนๆถูกคนตัวใหญ่บังคับป้อนจนพร่องไปกว่าครึ่ง ทั้งๆที่จิ้งบอกแล้วกว่าร้อยครั้งว่าจะทานเองแต่ปภพก็ไม่สนใจซ้ำยังขู่เขาสารพัดจนต้องยอมอ้าปากรับข้าวอุ่นๆนั่นเข้าปาก
สุดท้ายก็เป็นอย่างนี้ไปตลอดหลายวันจนเขาขี้เกียจจะต่อปากต่อคำอยากจะดูแลก็ดูแลไป อยากจะทำอะไรก็ทำเขาไม่อยากจะเถียงด้วยแล้ว เพียงแต่เขาเองก็คิดลึกๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า...บางทีเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ แต่ไม่บอกให้หมอรู้หรอก เดี๋ยวหมอจะได้ใจ จิ้งได้แต่ซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ใต้ผ้าห่มผืนหนาที่ช่วยให้ร่างกายได้อุ่นขึ้น มองใบหน้าของหมอที่อดหลับอดนอนดูแลเขาไม่ห่างเตียงด้วยความรู้สึกหลากหลาย แต่ที่แน่ๆคทอหัวใจของจิ้งในตอนนี้มันเต้นแรงเสียจนกลัวว่าหมอจะตื่นขึ้นมาได้ยินมัน เอาเถอะหมอ...ขอดูความประพฤติไปก่อนแล้วกันนะครับ แล้วผมจะรับหมอมาเป็นอีกคนเพื่อช่วยดูแลหัวใจ
พี่จันทร์ครับ...ผมว่าการมีคนมารักมันก็ดีเหมือนกันนะ หึหึ
The End
[/b][/size]
อะไรนะ! จบแล้วเหรอ!! เตรียมหลบรองเท้าและสารพัดข้าวของที่โยนมา 5555 แมวลงครบแล้ว จบแล้วเนอะ ก็ตัดจบแบบฉับๆ แมวอยากให้เข้าใจว่า...บางครั้งตอนจบไม่จำเป็นต้องโอบกอดกันด้วยความรักเสมอไป แบบนี้ก็จบด้าย!!!(แถไปอีก) ขอบพระคุณที่อยู่กับแมวมาตั้งแต่เปิดคลินิกนะคะ ในตอนนี้คลินิกได้ทำการครบแก่เวลาแล้ว แต่แมวได้ยินเสียงอะไร พิเศษๆนะ ไม่รู้ไม่ชี้ คิกๆ ติดตามและพบกันใหม่เรื่องหน้านะคะ บายๆ (ไปแต่งเรื่องต่อไปค่า)
Facebook :
https://m.facebook.com/PassionateFictionTwitter :
https://mobile.twitter.com/little_kittensY