ตอนที่๒ “ไอ้ติน ม๊ามึงชอบอะไรวะ”ผมถามขึ้นมาระหว่างที่นอนแอ้งแม้งอ่านหนังสือทัศนศิลป์แก้เบื่อไปพลางๆ คือผมคิดของขวัญวันเกิดให้ม๊ามันไม่ออกอ่ะ จะให้ผมไปตัวเปล่ามันก็ดูไม่ดี
“หมายถึงอะไร”มันเงยหน้ามาจากหนังสือชีวะ ขยันเกิ๊นเพิ่งเปิดก็อ่านหนังสือแล้ว แต่ก็เข้าใจได้ก็มันปีสี่แล้ว ต่างจากพี่ภูเราที่ยังชิวๆได้ ไอ้ปั๊มก็คอยรายงานผมตลอดว่ามันชอบคลุกคลีกับน้องๆ เหอะๆ
“พรุ่งนี้งานวันเกิดม๊าไง กูว่าจะไป”ไอ้ตินวางหนังสือลงทันที ก่อนจะเดินมาเอามือแตะหน้าผากของผม
“ทำอะไรของมึงวะครับ”ผมดันมือมันออก
“มึงป่วยแน่ๆ ปกติมึงไม่เคยจะสนใจงานอะไรแบบนี้เลยนะ ทำไม มึงจะเรียกคะแนนจากม๊าเหรอ”มันหัวเราะเบาๆก่อนจะหอมแก้ม
ผมไปฟอดใหญ่
“เดี๋ยวตอนเย็นพาไป”มันยักคิ้วให้ผม
“ไปไหน”ไอ้ภูเพิ่งกลับมาพอดี มันหอบขนมมาด้วยถุงใหญ่ เหวี่ยงเสื้อคลุมออกจากตัวเสร็จมันก็กลิ้งมานอนบนเตียงทันที
“วันเกิดม๊าผมอ่ะ พี่ไปไหม”
“ไม่อ่ะ”เป็นคำตอบที่คาดเดาได้อยู่แล้วจากไอ้ภู มันไม่สนงานอะไรทำนองนี้หรอก
“แต่กูอยากให้มึงไปนะ”ผมพูดขัดมันขึ้นมา ไอ้ภูมองหน้าผมด้วยสีหน้าหมางงแลดูน่าถีบเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
“นึกครึ้มอะไรขึ้นมาวะ” มันทำเสียงงง
“ผมก็ว่างั้น วันนี้มันทำตัวแปลกๆ มีอะไรใช่ไหม บอกกูมานะ อย่าคิดปิดบัง”ไอ้ตินจับหน้าผมให้มองตามันเพื่อดูว่าผมโกหกมันรึ
เปล่า
“คืองี้ ปล่อยก่อน เจ็บนะเว้ย ไอ้ห่านี่หนิ”ผมปัดมือมันออก ใจจริงก็กะจะบอกมันอยู่แล้วแหละ ถ้าหากว่าบรรดากิ๊กเก่าของผมโผล่
มาจริงล่ะก็ พวกมันจะได้ไม่ระเบิดลงกลางงานเลยรึไง
“ก็แฟนเก่ามึงอ่ะ ติดต่อกับม๊าตลอดเลย” ไอ้ตินขมวดคิ้วทันที
“อันน่ะเหรอ”ยังจะมาย้อนถามอีก
“มึงมีเมียเก่ากี่คนล่ะ”
“หลายอยู่”มันตีสีหน้ากวนตีนก่อนจะเปลี่ยนโหมดเป็นจริงจังจนผมกลืนคำด่าแทบไม่ทัน
“กูแค่เคยได้ยินว่าเขาชอบโทรคุยกับม๊ากูเฉยๆ แต่จะให้กูไปบังคับห้ามม๊าไม่ให้คุยกับมันก็ไม่ได้นี่หว่า แล้วไงต่อ”มันตบขาผมเสียงดังป้าบ
“กูว่าพี่เขาตั้งใจจะสร้างเรื่องว่ะ กูว่าพี่เขาอาจเป็นตัวการที่ทำให้ม๊าคิดอะไรแปลกๆ”จริงๆนะ ปกติม๊าออกจะใจดี
“จะใช่เหรอ…ม๊ากูก็ไม่ได้โง่นะ ความจริงแล้วร้ายพอๆกับกูเลย”ไอ้ตินนิ่งไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ไอ้ภูเดาะลิ้นเบาๆก่อนจะออก
ความเห็นบ้าง
“ในความเห็นกูนะ เราปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด กูไม่กลัวหรอก ว่ากันตามตรงม๊ามึงเขารักมึงจะตาย ไม่กล้า
ทำร้ายความรู้สึกมึงหรอกน่า”ไอ้ภูลุกจากเตียงก่อนจะถอดเสื้อยืดออก ผมแอบเมียงมองดู หมู่นี้มันค่อนข้างจะฟิตเพราะมันชอบ
ไปฟิตเนสไม่ก็วิ่งออกกำลังกายกับรุ่นน้องที่เป็นเพื่อนมัน ผมเคยไปด้วยอยู่ครั้งนึง สรุปว่าวิ่งไม่ไหวหอบแดกลิ้นห้อยก่อนใครเลย เพราะสถานที่ที่ไปวิ่งคืออ่างเก็บน้ำหลังมอซึ่งมันไกลมาก
“นั่นสิ ผมว่ามันต้องมีเงื่อนงำ”แล้วจากนั้น ก็พากันอาบน้ำเตรียมตัวออกไปด้านนอก ผมขี้เกียจจะเถียงพวกมันก็เลยยอมๆอาบด้วยกันสามคน ปล่อยให้พวกมันลวนลามพอหอมปากหอมคอ
“กูไปทำเสื้อมาใหม่ด้วยนะ”ไอ้ตินหยิบถุงบางอย่างออกมา ผมเห็นแล้วแอบสยอง หวังว่าคงไม่เหมือนไอ้ตัวก่อนหรอกนะ ยังจำกันได้ไหมไอ้เสื้อย้ำสถานะอะไรนั่น
“ทำอีกแล้วเหรอวะ”ไอ้ภูแอบถอนหายใจเหมือนกันครับ ผมได้ยิน ฮ่าๆ
“เออดิ ตัวเก่าห่าฟิกเอาไปซ่อนหมดเลย”มันหันมาทำหน้าบูดใส่ผมก่อนจะโยนเสื้อยืดสีเทามาให้ผมกับไอ้ภูดู ผมค่อยๆคลี่เสื้อออก เสื้อของผมมีคำว่าCan สรุปว่าไอ้ตินไปสกรีนมาถ้าใส่ๆเดินด้วยกันก็ We Can Do
“ทำไรได้วะ”ไอ้ภูถาม
“ทำแบบที่คนอื่นทำไม่ได้ไง”ไอ้ตินหันมาคุยกับไอ้ภูระหว่างที่ใส่เสื้อ มันมองหน้ากันด้วยท่าทางที่รู้กันสองคนก่อนจะหันมามองผม
“จะไปไหมซื้อของเนี่ย เร็วๆเลยเฮ้ย”ผมเอาเสื้อฟาดหลังไอ้ภูเต็มแรง ก่อนจะรีบเดินหนีพลางใส่เสื้อยืดไปด้วย ยังดีนะที่ไอ้ตินยังมีหัวคิดไม่สกรีนคำบ้าๆให้ผมอายเล่น
ไอ้ตินมันบอกว่าม๊ามันชอบน้ำหอมตระกูลCK กลิ่นเย็นๆสบายๆ ผมเลยปล่อยให้มันเลือกไป ส่วนไอ้ภูหายไปตรงโซนนาฬิกา ที่อยู่ตรงข้าม ผมเห็นบีเอหญิงกำลังชี้แจงสรรพคุณของน้ำหอมเลยเลี่ยงๆออกมา ผมเองไม่ค่อยได้ใช้น้ำหอมแบรนด์ดังๆหรอก แต่ไหนๆก็มาร้านหรูๆแล้วก็เดินดูซะหน่อย ยืนลับๆล่อๆอยู่นานก็มีบีเอผู้ชายหน้าใสไร้สิวเข้ามาทัก
“อยากได้กลิ่นแบบไหนสอบถามได้นะครับ”บีเอหน้าใสพูดด้วยน้ำเสียงสุภา ผมหันไปส่งยิ้มให้ แบบไหนผมก็ไม่รู้เหมือนกันแต่กลิ่นหอมๆที่ลอยฟุ้งมาจากตัวอีกคนก็หอมมาก จนน่าดม เฮ้ย ไม่ใช่ หอมดี ผมเหล่ๆไอ้ตินเห็นกำลังคิดเงินอยู่
“อยากได้กลิ่นแบบที่พี่ใส่อยู่อ่ะครับ หอมดี”ผมตอบพร้อมรอยยิ้ม แซวเล่นไปงั้นแหละครับ เหงาปาก อยู่กับพวกมันสองคนแซวไม่ได้ ไม่รู้เป็นไรแพ้ทางตลอด โดนพวกมันสวนกลับมาทีเงิบเลย เงิบเขินนะ ผมเลยไม่อยากเสียภาพพจน์ มาแซวคนอื่นดีกว่า (เหตุผลไรวะ)
“อ้อ…”บีเอทำหน้าตกใจแบบมีมาดเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“ผมใช้ตัวนี้อยู่ครับ Giorgio Armani Attitude กลิ่นจะแรงมากหน่อย ฉีดตอนไปเที่ยวน่าจะเหมาะกับคุณลูกค้านะครับ”อุ่ย รู้ด้วยว่าผมชอบเที่ยว
“รู้ได้ไงว่าผมชอบเที่ยว หรือเราเคยเจอกันมาก่อน”หยอกเสียงนุ่ม บีเอยิ้มให้
"เปล่าหรอกครับแค่ดูจากลักษณะท่าทางของคุณลูกค้าน่ะครับ"
"ของแบบนั้นมองกันที่ภายนอกไม่ได้หรอกครับ ต้องดูที่ภายใน"ผมแกล้งทำเสียงนุ่มๆ บีเอหัวเราะเหมือนไม่รู้จะตอบอะไร ผมแอบส่องราคาไปด้วย อุแม่เจ้า แดกแกลบแน่นอน แต่ผมชอบกลิ่นนี้นะ หอมๆยั่วๆดี น่าสนๆ ซื้อไว้ไม่ผิดหรอก ไม่ได้เอาไว้ยั่วมันสองคนนะ บอกไว้ก่อน
“หรือไม่ก็ลอง Bvlgari Aqva Pour Homme กลิ่นจะออกเซ็กซี่ๆหน่อย ยิ่งเวลาออกกำลังกายนะครับ…”บีเอเว้นที่ว่างให้ผมเติมเอง เขาน่าแดงเล็กน้อยหลังจากพูดจบ ก่อนจะกระแอมเบาๆ แต่ผมกลับนึกถึงไอ้ภูขึ้นมาทันที
“แต่ถ้าอยากได้กลิ่นที่ซอฟลงมาหน่อย ผมแนะนำสองตัวนี้ครับ Davidoff Cool Water กับ Eternity calvin klein”ผมลองทั้งสองตัวที่ว่ามา หอมๆแบบอบอุ่น ผมว่าเหมาะกับไอ้ตินดี แต่คิดคำนวณเงินในกระเป๋าแล้วก็...คิดหนักเลยครับ ลองขนาดนี้ แถมคุยกันยาวอีก ถ้าผมไม่ซื้อจะผิดมากไหมวะ ผมมองหาไอ้ตินแต่มันไม่อยู่แล้ว อ้าว มันทิ้งผมไปไหนแล้ววะ กะจะยืมเงินมันออกก่อน (เลว) สงสัยคงต้องใช้บัตรเครดิตที่ไอ้ภูเคยให้ซะแล้ว เงินผมก็มีแต่อยู่ในATM ออกไปกดตอนนี้คงแปลกๆ
"ใช้บัตรส่วนลดได้ไหมครับ"ผมหยิบบัตรเซเว่นออกมา บีเอถึงกับมึนงง ฮ่าๆ บาปกรรมจริงๆ
"ล้อเล่นครับ"ผมซื้อน้ำหอมมาสามแบรนด์ น้ำตาร่วงแทนไอ้ภูเลยครับ หมื่นกว่าๆ ใช้น้ำหอมเซเว่นเหมือนเดิมเถอะผมเนี่ย ผมมองหาไอ้สองคนนั่น คือพวกมันหายไปไหนวะ ผมออกจากร้านอารมณ์ดีเล็กน้อย ได้บริหารเสน่ห์ ได้ผลรึเปล่าไม่รู้ แซวไว้ก่อน ผมโทรหาไอ้ตินเมื่อออกมาแล้วไม่เจอพวกมัน
"เฮ้ย มึงอยู่ไหนวะ"
[หอดิ]มันตอบกลับมาด้วยเสียงนิ่งๆ เฮ้ยนี่ผมฟังผิดหรือเปล่าวะ
"ห๊ะ มึงล้อเล่นใช่ไหมวะ"ผมถามงงๆแต่เดินดูรอบๆก็ไม่เจอจริงๆ
[เปล่า]
"เฮ้ย ทำไมทำงี้วะ"ผมเริ่มทำหน้าบูดแล้ว
[ก็เห็นกำลังคุยสนุกๆไม่อยากขัดกูกับพี่ภูเลยกลับมาก่อนไง]อย่าบอกนะว่ามันโกรธเรื่องนี้อ่ะ
"กูแค่คุยเล่นเว้ย"ผมทำเสียงอ่อน
[จะเล่นหรือจริงจังก็แล้วแต่]ผมหงุดหงิดกับน้ำเสียงของมันขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
"เออ งั้นกูกลับไปขอเบอร์เขาแม่งเลย ดีไหม"
[ลองขยับแม้แต่ก้าวเดียวสิ]มันพูดเสียงเรียบนิ่ง ไอ้ผมก็ดันเชื่อมันอีก นี่ขนาดไม่เห็นหน้ามันนะ ยังแอบเกรงๆเลย
"มารับหน่อยครับ"พูดเพราะๆเอาใจมันหน่อย มันถอนหายใจฟึดฟัด
[แท็กซี่]
ตู้ด ตู้ด ตู้ด ตู้ด
แล้วมันก็ปล่อยให้ผมยืนเดียวดายอยู่กับน้ำหอมราคาแพง ไอ้พวกนี่นี้จริงๆเลย ผมจำต้องนั่งแท็กซี่กลับเองจนได้ ไอ้พวกแสบเอ้ย ไม่คิดว่ามันจะกล้าทิ้งผม พอมาถึงห้องพวกมันก็เหลือบมองผมแวบนึงก่อนจะหันไปสนใจโทรทัศน์ต่อ ผมเลยขยับเข้าไปนั่งแทรกกลาง
"เบียดทำไม"ไอ้ตินทำหน้าบูด
"พวกมึงโกรธเหรอวะ แค่นี้เอง--คือกูยอมรับว่ากูผิด กูมันสันดานไม่ดีเอง"ผมเปลี่ยนบทฉับพลันเมื่อเห็นสายตาของไอ้ภู
"ตอแหลไม่มีใครเกินจริงๆเลยมึงเนี่ย ตอบมามึงเอาบัตรกูไปรูดซื้ออะไรเยอะแยะ"ไอ้ภูมองหน้าผมตรงๆ กะจะเซอร์ไพรส์ดันมา
รู้ทันอีก
"กูไม่ได้รูด"แกล้งตีหน้าเซ่อต่อไป แต่ไอ้ภูมันก็วางโทรศัพท์ที่มีข้อความแจ้งเตือนยอดเงินที่ผมใช้ไป
"กูซื้อน้ำหอมให้พวกมึงไง"ผมหยิบออกมาโชว์ให้มันสองคนดู ไอ้ตินดึงกล่องน้ำหอมไปดู
"ทำมาไฮโซ อยู่ๆทำไมถึงอยากซื้อ มึงจะไปใช้กับใคร"มันหรี่ตามองอย่างจับผิด ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่ค่อยใช้น้ำหอมแพงๆ ไอ้พวกนี้เลยสงสัยใหญ่
"วู้ว กูอยู่กับใครล่ะ"มันสองคนทำมาตีหน้าซื่อ
"ใครจะรู้มึงอาจจะซุกซ่อนก็ได้"ไอ้ตินพูดขึ้นมาทำผมหน้างออีกรอบ
"ไม่มีเว้ย"ไม่สามารถหลุดรอดสายตาพวกมันไปได้หรอก
"ใครจะรู้"ไอ้ภูทำเสียงกวนประสาท
"มึงได้ขอเบอร์บีเอที่มึงม้อหรือเปล่า"ไอ้ตินถามสีหน้าหงุดหงิด
"ไม่ได้ขอ ไม่ได้ม้อ"
"ห่างไม่ได้เลยนะ"มันพูดเสีนงมึนตึง
"กูแค่แซวเล่น จริงๆนะเว้ย ไม่มีอะไร เชื่อกูนะ"ผมใช้ลูกอ้อนเอาหน้าไถไหล่ไอ้ตินก่อนจะหันไปหอมแก้มไอ้ภู ไม่คิดจริงๆว่าตัว
เองจะมีโมเม้นแบบนี้ สยองตัวเองจริงๆเลยว่ะ
"อย่าให้รู้ล่ะกัน"ไอ้ภูเข้ามากระซิบเสียงดุ ก่อนจะขบติ่งหูผมเบาๆ ทำเอาผมเสียววูบที่ช่องทองเลย ผมขยับตัวหนีก่อนจะหยิบ
น้ำหอมที่ซื้อมาให้พวกมัน
"กูตั้งใจเลือกมาให้มึงสองคนเลยนะ"
"ตั้งใจจนน่าถีบ"ไอ้ตินทำเสียงยียวน แบบว่าน่าถีบมาก แต่ก็นะ ผมไม่กล้าทำหรอก
"หอมดีนะเว้ย"ว่าแล้วก็ฉีดใส่หน้าใส่ตาไอ้ภู
"เชี่ย เข้าปากกู"มันปัดมือผมออกห่าง
"โทษๆ ไม่ได้ตั้งใจ"กร๊าก ตั้งใจต่างหาก หึๆ ไอ้ตินดมๆน้ำหอมสีหน้าพอใจ
"จีออร์จีโอ อาร์มานี่ซะด้วย"ไอ้ภูแกะน้ำหอมของผมออกมาดมก่อนจะเบ้หน้า
"กูไม่ชอบกลิ่นนี้ว่ะ ฉุนไป"ผมย่นจมูก
"อันนี้ของกู ไม่ได้ให้มึง"ผมดึงกลับแต่มันไม่ยอม
"กูไม่ให้ใช้อ่ะ จะทำไม"ไอ้ภูทำหน้ากวนตีนใส่
"มึงจะหวงกูกระทั่งกลิ่นน้ำหอมเลยเหรอ"ผมเลิกคิ้วมองมันสองคน
"เออดิ ฉีดแล้วมีตัวผู้ตามต้อยๆทำไง"ผมสตั๊นไปหลายสิบวิ เมื่อได้ยินไอ้ภูพูด
"บ้าดิ"
"บ้าอะไร กูพูดจริง ฉีดให้กูสองคนดมก็พอ"ผมเหลือกตามองไอ้ภู
"แบบนี้กูใช้น้ำหอมเซ่เว่นดีกว่า ทเวลพลัสที่มีดาราเกาหลีหล่อๆเป็นพรีเซ็นเตอร์ มึงรู้จักป่ะ"
"ไม่รู้จัก มีใครที่มึงเห็นว่าหล่อกว่ากูด้วยเหรอ"อื้อหือ ไอ้ภูแม่งมั่นหน้าจริงๆ ผมหันไปมองไอ้ตินที่ยังคงเงียบอยู่ เดาได้เลยว่ามันยังโกรธผมอยู่
"ติน มึงชอบไหม"เสี่ยงถามมันบ้าง
"อือ"ตอบโดยไม่มองผม ไอ้ภูคว้าขวดน้ำหอมไปเก็บ มันทำสีหน้าตลกๆใส่ผมก่อนจะลุกจากโซฟาไป
"ยังไม่หายโกรธกูเหรอวะ"มันเมินผมครับ สายตาจับจ้องที่โทรทัศน์ ผมเลยลุกไปบังสายตามัน
"เอ๊ะ ไอ้ฟิก อย่ากวนอารมณ์กูนะ"มันทำหน้าหงุดหงิด ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"คุยกับกูก่อนดิ"มันถอนหายใจ ก่อนจะมองผม
"กูไม่ชอบที่มึงทำแบบนี้ รู้ว่าแค่เล่นๆ แต่นั่นมันต่อหน้ากูเลย มึงจะท้าทายกูใช่ไหม มึงนี่...ชอบทำให้หงุดหงิด"มันขมวดคิ้วแน่น
ผมเลยเลื่อนไปนั่งข้างๆมัน
"เออ ขอโทษ"
"กูไม่เดินเข้าไปถีบมึงตั้งแต่ในร้านก็บุญแล้ว"
"ขอโทษ"
"เงียบ จะดูหนัง"
"ครับๆ"ไอ้ตินขึงตามองที่ผมทำเสียงระรื่นใส่
"ใช้น้ำหอมที่กูซื้อให้ด้วยนะ วันดีคืนดีกูอาจเผลอปล้ำพวกมึงก็ได้"ผมหันไปมองไอ้ภูที่กำลังเล่นเกมส์อยู่บนเตียง
"วันไหนวะ กูจะได้เตรียมตัวถูก"ผมขี้เกียจกวนตีนไอ้ตินแล้ว เดี๋ยวมันจะโกรธเข้าจริงๆ ผมเลยเลี่ยงไปดูไอ้ภูเล่นเกมส์บนเตียง
ทันที ผมนึกขึ้นมาได้ว่ามันเข้าร้านนาฬิกานี่หว่า
"มึงซื้อนาฬิกาหาให้ใคร"
"อีหนู"
"สัดภู เอาดีๆ"มันหันมามองหน้าผม ก่อนจะกระซิบเบาๆ
"กูซื้อ...."
"..."ชักหงุดหงิดล่ะ
"เออ กูซื้อให้พ่อกู"ผมเบิกตามองมันอย่างเหลือเชื่อทันที ไอ้ภูเนี่ยนะ
"ไหนเอามาดูดิ๊"อยากเห็นเฉยๆไม่ได้จับผิดมันเลยจริงๆครับ มันทำหน้าเหนื่อยหน่ายก่อนจะส่งกล่องนาฬิกาให้ผม ผมเปิดดู อืม ดีไซน์สำหรับผู้ใหญ่แก่ๆเคร่งขรึม
"พอใจยัง"มันทำหน้าขำๆ ก่อนจะเอาของคืน กว่าจะนอนกันได้ก็ปาไปเกือบค่อนคืน ไอ้ตินขยับมานอนใกล้ๆผม มันสอดมือมาโอบเอวหลวมๆเอาคางเกยไหล่
"จะว่าไปน้ำหอมมึงนี่หอมดีนะ"มันกระซิบใกล้ๆหูทำผมขนลุกวูบ หมู่นี้ไม่รู้เป็นอะไรทำไมถึงหวิวๆทุกทีเวลาพวกมันเข้าใกล้จุดนี้ ตรงๆคืออารมณ์ขึ้นทุกที ดูเหมือนไอ้ภูที่นอนอยู่ข้างๆจะรู้สึกไม่ชอบมาพากลมันเลื่อนมือมาใกล้ๆ
"ไอ้ฟิกหื่น"มันยิ้มกว้างในความมืด ผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที
"นอนๆ"ผมพูดเสียงอู้อี้ๆเพราะฝังหน้าลงกับหมอน
"เขินเหรอ"ไอ้ตินชะโงกหน้ามาดู มุมปากยกเป็นรอยยิ้ม ที่ผมไม่กล้ามอง ไอร้อนเห่อขึ้นทั้งที่หน้าและที่ใบหู
"ไม่ได้เขิน"ผมนอนหลับตาใจเต้นตึกๆ โอยตาย นี่ผมมาถึงจุดๆนี้ได้ยังไง จุดที่กูเขินพวกมันเป็นสาวน้อยแบบนี้
"เฮ้อ..."ไอ้ภูถอนหายใจด้วยเหตุผลบางอย่าง มันพูดเบาๆในความมืด
"จูบได้ไหม"ผมมึนไปชั่วขณะ คือทุกทีมันไม่เคยขอก่อน มาพูดแบบนี้ผมยิ่งเขิน
"นะ..."มานะมาเนอะ ผมนี่รู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว หน้าจะระเบิดแปลกๆ ใครรู้อาการของผมบ้าง มากำเริบอะไรตอนนี้ ผมลืมตามองไอ้ภู สีหน้ามันกำลังสนุกได้ที่เลยที่ได้แกล้งผมแบบนี้
"กู...ไม่ให้..."ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้า ได้ยินเสียงไอ้ตินหัวเราะเบาๆ
"เริ่มมีฮอร์โมนสาวน้อยแล้วนะมึง"ไอ้ภูพูดพลางหัวเราะ ผมถีบผ้าห่มออกทันที พูดอะไรของมึงวะ ไอ้ภูไม่รอช้าดันหน้าผมไปใกล้ก่อนจะกดจูบลงมา แต่ผมเม้มปากแน่น เหอะ หงุดหงิดมัน ไอ้ภูเลื่อนมือบีบสะโพกผมเบาๆ ลิ้นอุ่นๆไล้ไปตามริมฝีปาก จนผมต้องยอมเปิดรับให้มันจาบจ้วงเข้ามาแต่โดยดี ไอ้ตินขยับมาแนบชิดมากขึ้น อีกมือดึงสะโพกของผมให้แนบชิดกับตัวมัน จนผมรับรู้ถึงไอร้อนมันจงใจเบียดตัวเข้ามาใกล้จนผมหวิวในท้องน้อย ไอ้ภูผละออกมา สายตาวิบวับ
"สองเดือนนะเว้ย"ผมพึมพำขึ้นมาเตือนตัวเองไปพลาง
"อืม ไม่ลืมหรอก"ไอ้ตินตอบเสียงเบา สัมผัสชื้นแฉะไล่วนอยู่แถวๆกกหูจนผมต้องย่นคอหนีเพราะเสียววูบขึ้นมา กางเกงของผม
ถูกดึงลง มือร้อนของไอ้ภูเข้ามากอบกุมจุดไวสัมผัส ผมเผลอปล่อยเสียงครางออกมา หลับตาแน่นเมื่อมือนั้นขยับเป็นจังหวะ จนผมต้องงอเข่าขึ้นมาเพราะแรงอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมา มือนุ่มของไอ้ตินสอดเข้ามาใต้เสื้อ ลูบวนอยู่แถวๆท้องน้อย จนผมต้องหดเกร็ง
"โอย เดี๊ยวๆ"ผมจับข้อมือของไอ้ภูให้ช้าลงหน่อย มันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะปล่อยมือออก ขยับถอดกางเกงของตัวเองทิ้ง มือนุ่มของไอ้ตินเข้ามาทำหน้าที่แทน ผมกดหน้าลงกับหมอนเพื่อปิดเสียงน่าอาย นิ้วมือมันบดขยี้อยู่ที่ยอดอก ริมฝีปากขบเม้มติ่งหูผมอย่างอ้อยอิ่งเหมือนรู้จุดอ่อนของผม
"ฟิก"เสียงกระซิบของไอ้ภูทำให้ผมปรือตามองเมื่อเห็นว่ามันจะให้ผมทำอะไร จึงยกตัวขึ้นมา เท้าแขนกับเตียงก่อนจะช่วยคลายอารมณ์ที่คั่งค้างของไอ้ภูด้วยริมฝีปาก เสียงครางต่ำๆของมันแว่วมา ไอ้ตินขยับมาคร่อมผมก่อนจะรวบทั้งของผมและของมัน ผมเกร็งหน้าท้องจนปวดไปหมด จะถึงที่หมายไอ้ตินมันก็แกล้งจนผมปล่อยออกมาพร้อมๆกับมัน
"ต่อไปอย่าดื้อนะ"มันกระซิบเบาๆก่อนจะขยับมานอนข้างๆผม ใช้เวลานานมากกว่าไอ้ภูจะบรรลุ ไม่อยากจะบ่นว่าเมื่อยปาก เดาว่ามันคงไปแฟ้บมาแน่ๆ
"โทษๆ"มันขำหึๆเมื่อทำผมเลอะไปหมด
"กูง่วงล่ะ จะนอน"มันหยิบทิชชูมาเช็ดๆตรงลำคอให้ผม
"ทำไมเขินเหรอ หน้าอย่างมึงเนี่ยนะ"ไอ้ตินมองผมยิ้มๆ คือผมก็บอกไม่ถูกว่ามาเขินอะไรมันตอนนี้ ผมนอนทั้งๆที่กางเกงเลอะๆแบบนั้นแหละ ช่างแม่งเถอะ ตอนเช้าค่อยอาบน้ำ
"ฟิก..."ไอ้ตินเรียกขึ้นมาเบาๆ ผมอืออออย่างนึกรำคาญเพราะง่วงนอน
"กูหายโกรธมึงแล้ว เมื่อกี้มึงทำตัวน่ารัก"ไอ้สาด พูดทำไม ผมได้แต่นอนนิ่งๆทำเหมือนว่าหลับไปแล้ว ได้ยินเสียงหัวเราะของมัน
ดังขึ้นมาเบาๆ
.........................................................................
ตอนเช้าผมไปเรียนตามปกติ อารมณ์ดีเป็นพิเศษจนลืมเรื่องพี่อันไปเลย ผมมองหาเพื่อนๆที่ไปออกันอยู่ที่ใต้โถงคณะเพราะมีน้องมาเต้นท่าทางแปลกๆให้ดู
“หน้าตาสดชื่นจังพี่ฟิก”ไอ้ขวัญทักก่อนคนแรก ไอ้ชายเดินเข้ามาใกล้ๆก่อนจะดึงปกเสื้อผมลง
“ทำบ้าอะไรวะ”ผมผลักมันออกห่างเมื่อกลุ่มน้องท่าทางแต๋วๆส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด
“ก็หาสาเหตุที่มึงอารมณ์ดีไง”เสียใจไม่มีเว้ย คึๆ ท่าจะดูผมคงต้องถอดกางเกงให้มันดูแล้วล่ะ
“เสือกจริงจังนะมึงเนี่ย”
“ผมจะเอาลายเซ็นของพี่ฟิกต้องทำยังไงอ่ะ”หนุ่มน้อยหน้าขาวๆ หน้าตาจิ้มลิ้มชี้มาที่ผม แถมเน้นคำว่าเอาอีก โอยตาย ผมเจอ
แบบนี้ไม่ไหว ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแต่ผม...กลัวสู้ไม่ได้
“ไม่ต้องทำไงหรอก พี่ไม่ชอบแกล้ง”ผมขี้เกียจอ่ะ ใครมาขอก็ให้ไปง่ายๆแบบนั้นแหละ
“อุ้ย ไม่เป็นไร ผมชอบให้พี่แกล้ง ทั้งคืนเลยก็ได้ ผมยอม”มีเสียงโห่ฮาดังมา ผมเหมือนได้ยินเสียงวิ้งๆในหู เพื่อนเลวก็ไปรับมุกมันอีก เพลียครับ เกรียนไม่ออกเลยกับไอ้พวกนี้ มันมีกันสามคนชื่อขึ้นต้นด้วยตัวปอ.ได้แก่ ปิ๊ก ปอ เปียวเข้าขากันทั้งนั้น
“ถ้างั้นก็...”ชอบโดนแกล้งกันนักใช่ไหม ผมสอดส่องหาพื้นที่ว่างในคณะมีพวกสาขาอื่นจับจองหมดแล้วผมจึงชี้ไปที่ถนนหน้า
คณะ
“ไปกระโดดกบสองรอบหน้าคณะเราจนถึงคณะเกษตร”ทันทีที่ผมสั่งพวกมันก็ทำหน้าเฉาแต่ก็ยอมไปแต่โดยดี กระโดดกบที่ว่า
คือนั่งยองๆแล้วกระโดด เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันเพราะผมก็เคยโดน
“ร้องอ๊บๆด้วยนะ”ผมยิ้มชั่วก่อนจะยืมกล้องถ่ายรูปของไอ้เคนมาถ่ายพวกมัน คนที่เดินผ่านไปมาก็มองเป็นตาเดียว พวกปีสองยกกลองมาตีเพลงเข้าจังหวะให้พวกนั้นด้วย ดูสนุกมากกว่าเหนื่อยอีก
“โอเคๆ พอแล้ว เอาสมุดมา”เดี๋ยวเป็นลมขึ้นมาผมจะซวย หนึ่งในนั้นขยับเข้ามาใกล้ผม ก่อนจะยื่นสมุดมาให้
“พี่ฟิกห๊อมหอม”
“หืม”ผมเงยหน้ามองระหว่างที่เซ็นชื่อให้
“น้ำหอมพี่อ่ะ หอมมม”แล้วมันก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ ผมเอาสมุดฟาดหน้าผากกว้างๆของมันดังเพี๊ยะ
“ลามปามแล้วเฮ้ย”คุยไปคุยมาก็ตลกดีนะ ไอ้เด็กพวกนี้ ไอ้ที่แซวๆมาก็ขำๆตามประสา แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่ขำ นั่นคือ...คุณพี่
อัน! เผอิญพี่เขาเห็นพอดี เขาก็เลยมาทักผมที่นั่งคุยกับพวกมันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใกล้ๆกับคณะเกษตร
“หวัดดีฟิก”พี่อันทักเสียงตึงๆ สามปอ.มองผมกับพี่อันด้วยสายตาสนใจ คงรับรู้ได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ
“สวัสดีครับพี่อัน”ผมทักเสียงแช่มชื่น พี่เขามองผมกับน้องอีกสามคน
“เปิดเทอมไม่กี่วัน เต๊าะเด็กเลยเหรอ”
“เต๊าะเต๊อะอะไรกันคุณพี่ พวกเราแค่คุยกับพี่ฟิกเฉยๆ พี่เป็นอะไรมากป่ะ”ไอ้ปอพูดขึ้นมา ผมแอบปรบมือให้ในใจ
“ใครจะรู้ นิสัยเก่าๆอาจจะออกลายก็ได้”ผมระบายยิ้มแทนอารมณ์หงุดหงิด
“นี่ถ้าพี่ไม่ตื้อไอ้ตินอยู่นะ ผมคงคิดว่าพี่หวงก้างผมแน่ๆ อย่ามายุ่งกับผมมาก แล้วจะหาว่าไม่เตือน”ผมพูดเสียงนิ่ง ถึงยังไงผมก็มีขีดจำกัด ลำเส้นผมมากๆเดี๋ยวจะระเบิดให้ดู ยังจำได้เลยว่าผมเคยต่อยไอ้ภูกับไอ้ตินด้วยช่วงที่มันบังคับผมมากๆน่ะ พี่อันดูตกใจกับท่าทางเอาจริงของผม ก่อนที่พี่เขาจะถอยทัพออกไป
“พี่เขาหาเรื่องมึงเหรอวะ”ไอ้เคนมองตามพี่อันไปงงๆ
“เออ เรื่องไอ้ตินอ่ะ”
“วุ่นวาย”ไอ้เคนพูดสั้นๆ ผมส่งสมุดคืนให้กับทั้งสามคนก่อนจะไล่มันกลับเพราะผมจะคุบกับพวกไอ้เคน
“เรื่องมันเป็นแบบนี้...”ผมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พวกมันฟัง
“พี่เขาจะกล้าทำเหรอ ไอ้ตินมันไม่ใช่เล่นๆเลยนะ น่าจะรู้จักมันดีนะ”ไอ้ชายพึมพำอย่างครุ่นคิด
“พี่เขาคงคิดว่ามีพวกล่ะมั้ง”อาจจะคิดว่ามีม๊าคอยเชื่อก็ได้ แต่ผมตงิดๆกับคำพูดไอ้ตินยังไงไม่รู้ ที่ว่าม๊ามันเองก็ร้ายเหมือน
กัน...อืม...ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ
(ต่อด้านล่าง)