ตอนที่ 23
“ปล่อยแขนเต็นนายแชมป์” นพเดินไปออกคำสั่ง เมื่อเห็นท่าทีตกใจของเต็น
“เป็นใครถึงมาสั่งผม” แชมป์หันมาถาม นพกำลังจะแนะนำตัวแต่เต็นชิงเอ่ยแย้ง
“เขาเป็นเพื่อนเต็นน่ะ จะคุยกับเต็นไม่ใช่เหรอ คุยดิ แต่ปล่อยแขนก่อนนะ”
“ไม่ใช่ตรงนี้” แชมป์เอ่ยบอก เพราะนึกอยากคุยกับคนตรงหน้าสองต่อสองมากกว่า
“ถ้างั้นก็คงไม่ได้คุยแล้วล่ะ เพราะเต็นคงไม่สะดวกไปคุยที่อื่น” เต็นปฏิเสธเพราะนึกเกรงใจคนที่มาด้วย เด็กหนุ่มเครียดหน่อยๆ กับแววตาคล้ายคนไม่พอใจของแชมป์ ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยบอกเสียงแข็งด้วยสรรพนามใหม่
“นายกล้าปฏิเสธฉันเหรอเต็น”
“นายก็เห็นนี่ว่าเรามากับเพื่อน” เต็นอธิบาย โดยใช้สรรพนามใหม่เช่นกัน
แชมป์หันมองหน้าอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ตัว เริ่มมองพินิจบุคลิกและการแต่งตัวสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างจึงเปรยขึ้น
“คืนดีกันแล้วเหรอ”
เต็นกับนพมองหน้ากันเมื่อฟังประโยคที่หลุดออกมาจากปากคนตรงหน้า ทั้งสองแสดงท่าทีไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ แชมป์จึงเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นจริง เด็กหนุ่มปล่อยแขนของคนที่ตนจับอยู่ลงช้าๆ รู้สึกใจกระตุกอย่างประหลาดเมื่อชายหนุ่มที่ตนคิดว่าเป็นคนรักเก่าฝ่ายนั้นเดินไปโอบไหล่คนๆ นั้นไว้แล้วเอ่ย
“แล้วนายยังคิดจะเข้ามาเป็นมือที่สามอยู่อีกหรือเปล่าล่ะ”
“นพ”
เต็นครางเรียกชื่อคนโอบไหล่ เห็นสายตาเยาะหยันที่เจ้าตัวส่งให้อีกคนแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
“อย่าเพิ่งดีใจไปหน่อยเลยครับ แฟนคุณเคยใจง่ายยังไงต่อไปแม้ผมไม่เข้ามาแทรกกลางก็คิดเหรอว่าเขาจะไม่ไปหลงลมปากผู้ชายที่ไหนอีก คนนิสัยมักมากแบบนี้หลุดจากชีวิตผมไปน่ะถือว่าเป็นบุญผมแล้วล่ะ ขอให้โชคดีละกันดูแลเขาดีๆ ล่ะ เป็นไปได้ใช้โซ่ล่ามไว้เลยก็ดีนะ จะได้ไม่ไปควงคนนั้นทีคนนั้นทีประจานการส่ำส่อนของตัวเอง” แชมป์เอ่ยว่าทันควันเมื่อเห็นท่าทีและสีหน้าเยาะหยันของชายหนุ่มชื่อนพ ที่ต้องใช้คำรุนแรงขนาดนั้นเพราะกำลังสับสนกับความรู้สึกตัวเองทั้งวูบไหวที่เห็นสองคนคืนดีกัน ทั้งโกรธเกลียดที่ตัวเองถูกมองด้วยแววตาเยาะหยัน ร้ายกว่านั้นคือคิดว่าคนอย่างเต็นมารยาน่าจะพอตัวไม่อยากนั้นคงไม่ควงคนนั้นที คนนี้ทีอย่างที่เห็น เด็กหนุ่มนึกพาลไปว่าตอนที่คนๆ นี้ร้องให้จะเป็นจะตายเพราะตนคงเป็นแค่ละครหนึ่งฉากที่เรียกร้องความสนใจจากตน ลับหลังพอปาดน้ำตาเสร็จคงไประเริงรักกับคนมากหน้าหลายตาอยู่เป็นแน่
เต็นกลืนก้อนสำลักลงอกหลังฟังคำต่อว่าจากปากคนเคยรู้จักจบ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงกับการโดนตราหน้าว่าเป็นคนมักมากแบบนี้ ในเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างมันพาให้คนพูดคิดไปเช่นนั้น คนไม่รักดีอย่างเขาสมควรแล้วล่ะที่จะต้องโดนด่าว่าแรงๆ แบบนี้ คงไม่ใช่เฉพาะเด็กหนุ่มที่ตัวเองหลงไปติดพันทั้งๆ ที่มีคนรักอยู่จะคิดแบบนี้แค่เพียงคนเดียวหรอก หากคนทั้งโลกรับรู้เรื่องราวความเหลวไหลของเขาจะมีใครสักกี่คนกันที่จะไม่ต่อว่าและสงสารในความหลงผิดที่กระทำ สิ่งที่เกิดขึ้นเด็กหนุ่มถือว่ามันเป็นตราบาปในใจที่คงไม่มีคำแก้ตัวใดๆ มาลบล้างให้ใครๆ เข้าใจและมองลึกถึงจิตใจที่เคยดีงามและซื่อสัตย์ต่อคนรักของตัวเองได้ แต่ช่างมันเถอะนะ อดีตมันก็คืออดีตใครที่ไหนจะวกกลับไปแก้ไขได้ อนาคตต่างหากที่ควรจะใส่ใจแม้ว่าภายในใจจะมีปมเกิดขึ้นแล้วว่าเคยเป็นคนมักมาก ไม่รักดี ทำตัวชั่วช้า หรือน่าแขยงจนใครๆ ก็นึกอยากสมน้ำหน้ามากว่าสงสารก็ขอสัญญาว่าจะก้าวเดินต่อไปอย่างคนมีสตินับจากวินาทีนี้
“คุยกันอยู่เหรอครับสีหน้าแต่ละคนเครียดจัง” เสียงดังทักมาทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบของคนสามคน เสียงนั่นเป็นเสียงของกายซึ่งเรียกสติคนทั้งสามได้ดี เต็นรีบกะพริบตาถี่ๆ ไล่หยดน้ำตาที่เอ่อซึมอยู่ให้พ้นไปจากขอบตา อาการนั่นแชมป์สังเกตเห็น นึกเสียใจเมื่อคิดว่าคำพูดตนน่าจะรุนแรงมากไป แต่ยังไม่ทันทำอะไรก็เห็นอีกคนที่ยืนคู่กันเอ่ยปลอบพลางใช้มือเช็ดน้ำตาฝ่ายนั้นให้เห็น
“ไม่เอาเต็น อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านมันไปอย่าขี้แยดิ”
“เต็นขอโทษนพ เต็นขอโทษ” ถึงตอนนี้เต็นถึงกับเก็บกลั้นอาการอ่อนแอเอาไว้ไม่ไหว จากที่นึกน้อยใจในคำพูดที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนมักมาก และการคิดมากว่าคงไม่มีใครเข้าใจและเห็นใจตนพอโดนคำปลอบโยนจากคนข้างตัวน้ำตาเด็กหนุ่มไหลอาบเป็นทางเต็มสองแก้มพร้อมอาการสะอื้นตัวโยนจนคนปลอบใจต้องรีบดึงตัวมากอดซบ
“ไม่เอาเต็นอายเขาอย่าร้องๆ นพอยู่นี่แล้ว ใครจะว่าอะไรก็ช่างเอาเป็นว่านพเข้าใจเต็นนะ อย่าร้อง อย่าร้อง”
แชมป์เบือนหน้าหนีจากภาพที่เห็น นึกไม่ถึงว่าคำพูดตนจะทำให้คนเช่นเต็นจะร้องไห้ได้มากมายขนาดนี้ อยากที่จะเอ่ยขอโทษอยู่เหมือนกันแต่ติดที่ว่าภาพคนรักเก่าฝ่ายนั้นกำลังปลอบโยนเจ้าตัวอยู่จึงไม่รู้จะเอ่ยแทรกได้ตอนไหน
“โอ๊ะ โอ มาดราม่าอะไรกันในห้างล่ะเนี่ย แต่นั่นมัน” กายเอ่ยว่าตอนแรกก่อนจะใช้มือชี้ไปยังร่างของคนที่ตัวเองคุ้นหน้าเหลือเกิน แชมป์เห็นอาการจึงหันมองถามขึ้น
“นั่นมันอะไร”
“เราคุ้นว่ะว่าเคยเห็นหน้านายที่ร้องไห้นั่นที่ไหน”
คำพูดของกายทำแชมป์หันกลับไปมองร่างเต็นอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ได้สงบอาการร้องไห้ได้บ้างขณะผละร่างออกจากคนรัก เด็กหนุ่มสะท้านใจตอนที่เจ้าตัวหันมาประสานสายตาด้วย
เต็นมองสบตาคนตราหน้าว่าตนมักมากชั่วแวบก่อนจะหันไปมองอีกคนที่ยืนอยู่คู่กัน จำได้ว่าเป็นคนรักเก่าของเพื่อนใหม่อย่างแม็ค อารมณ์ตอนนี้กำลังหดหู่เกินจะสงสัยว่าเจ้าตัวมาอยู่นี่ได้ไง จึงละสายตาหนีจากร่างนั้นตอนเจอรอยยิ้มเยาะหยันส่งกลับให้ เด็กหนุ่มหันกลับมาชวนคนข้างตัวเดินจากไปจากตรงที่ยืนอยู่
“เต็น” แชมป์เอ่ยตามหลังเบาๆ เมื่อเห็นสองคนเดินคู่กันไปแล้ว ภาพที่เจ้าตัวร้องไห้เป็นเขื่อนแตกเมื่อครู่ฉายชัดให้รู้สึกจี้ดในใจขึ้นมา แต่ก็จนปัญญาที่จะเดินตามเจ้าตัวไป เมื่อนึกถึงคำพูดของนพ
“แล้วนายยังคิดจะเข้ามาเป็นมือที่สามอยู่อีกหรือเปล่าล่ะ”
*******************************************************************
หลังจากร่างสองร่างเดินลับสายตาไปแล้ว แชมป์เดินเล่นภายในห้างๆ นั้นอย่างเลื่อนลอย ในสมองมัวคิดถึงแต่ภาพที่ตนเห็นผ่านสายตาเมื่อครู่ อาการอ่อนแออ่อนไหวของเต็นเมื่อครู่คงไม่ใช่การเล่นละครหลอกตาเขาแน่ๆ คนอะไรจะร้องไห้เป็นสั่งได้ขนาดนั้นถ้าเป็นการเสแสร้ง แต่นายนั่นจะร้องไห้ทำไมขนาดนั้นล่ะ เจ็บปวดเพราะคำพูดเขาเหรอ เจ็บปวดแล้วทำไมไม่โต้กลับ จะต้องเป็นฝ่ายร้องไห้ขนาดนั้นทำไม หรือภายใจใจเจ้าตัวคิดอะไรอยู่ตอนนั้น
“อ่ะ ซื้อน้ำมาฝาก” หนึ่งเสียงเอ่ยให้ได้ยินตอนเดินอยู่จึงต้องหันหยุดมอง เจอร่างของเด็กหนุ่มชื่อกายกำลังส่งแก้วเครื่องดื่มให้ เด็กหนุ่มปฏิเสธที่จะรับพลางเอ่ยบอกว่าตอนนี้อยากอยู่คนเดียวให้เจ้าตัวเลิกตามซะที
กายไม่สนใจกับการโดนเอ่ยไล่อีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ตื้อเท่านั้นที่จะทำให้ตนได้ชิมรสไอติมแท่งหวานจากเด็กหนุ่มหน้าตาดีขั้นเทพแบบนี้ เด็กหนุ่มไม่ท้อใจที่จะเดินตามคนที่เอาแต่นิ่งไม่พูดไม่จา จนเริ่มทนไม่ไหวจึงเปิดประเด็นพูดคุยเอง
“นายรักนายเต็นนั่นเหรอ”
แชมป์ชะงักเมื่อได้ยินคำทัก หันมาตอบคนทักเสียงขรึม
“มันไม่เกี่ยวกับนาย”
“เกี่ยวดิ ก็นายเคยบอกว่านายเป็นผู้ชายไม่ได้ชอบเกย์” กายยังจำวันแรกที่เจอกับเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ดี
“แล้วฉันบอกแล้วเหรอว่าฉันรักเต็น”
“ไม่บอกหรอแต่อาการนายมันฟ้อง”
“ฟ้องยังไง”
“ก็ที่นายเดินเงียบมาตั้งแต่นายนั่นแยกไปกับผู้ชายอีกคน มันหมายความว่าไงล่ะ ปฏิเสธมาสิว่าในหัวสมองนายตอนนี้ไม่มีภาพของนายเต็นอยู่ในห้วงความคิด”
“ยอมรับก็ได้ว่าฉันคิด แต่ไม่ใช่เพราะรักแน่ๆ ฉันกำลังรู้สึกผิดที่ฉันทำเขาร้องไห้ต่างหาก”
“อย่าปากแข็งหน่อยเลย แต่ก็ช่างเถอะ นายไม่รักนายนั่นก็ดีแล้ว เราจะได้ไม่มีคู่แข่ง”
“นายอย่ามาพูดทำนองนี้กับฉันดีกว่าว่ะกาย ฉันยังยืนยันว่าฉันเป็นผู้ชายที่รักผู้หญิง นายไปตามตื้อคนอื่นเถอะไป”
“นายจะรักชะนี เอ้ย ผู้หญิงก็รักไปดิ ส่วนฉันจะรักนายมีอะไรมั้ย”
อาการดื้อด้านของกายที่เห็นทำเอาแชมป์ระอา อยู่ๆ ก็นึกอยากให้คนที่เดินตามตนตื้อตนแบบนี้เป็นคนอย่างเต็นขึ้นมา แต่โอกาสนั้นคงไม่มีแล้วแน่ๆ ป่านนี้นายนั่นคงกำลังโดนเอาใจจากคนรักที่กลับมาคืนดีกันอยู่แล้วมั้ง เด็กหนุ่มเผลอผ่อนลมหายใจเมื่อนึกถึงข้อนี้ ก่อนจะเดินก้มหน้าต่อไปเงียบๆ กายก็ยังเดินตามอยู่เช่นเคย และเอ่ยขึ้นอีกตอนเดินไปได้สักระยะ
“บอกได้มั้ยว่านายรู้สึกผิดต่อนายเต็นเรื่องอะไร”
“ฉันว่าเขาเป็นคนหลายใจมักมาก แล้วจู่ๆ เขาก็รัองไห้อย่างที่นายเดินมาเห็นน่ะแหละ” แชมป์เอ่ยระบาย เพราะไม่อยากเก็บอารมณ์เก็บกดนี้ไปอีก
“ที่นายว่าก็ถูกแล้วนี่ ทำไมเขาต้องร้องไห้ด้วยล่ะ” กายเอ่ยว่า คราวนี้แชมป์หยุดเดินหันมองหน้า
“นายรู้จักเต็นดีขนาดไหนถึงไปว่าเขา”
“ก็ไม่ดีหรอก เจอแค่ครั้งเดียวตอนเขามั่วอยู่กับแฟนเก่าเรา” กายรายงาน เห็นชัดถึงสีหน้าตกใจของคนได้ยิน ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยถาม
“นายหมายความว่าไง”
กายมองใบหน้าหนุ่มหล่อตรงหน้าพินิจ เป็นไปได้มากที่คนๆ นี้กำลังมีใจให้กับนายเต็นนั่นแต่พยายามฝืนบอกตัวเองว่าไม่ได้คิดอะไร ก็ผู้ชายที่ไหนมันจะยอมรับง่ายๆ ว่าแอบคิดอะไรกับเกย์ ไม่ได้การล่ะ นายเต็นนั่นจะมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญเขาไม่ได้เด็ดขาด แม็คมันก็แอบมาตีท้ายครัวไปแล้ว เด็กหนุ่มผู้นี้เขาขอละกันท่าทางจะมันส์พิลึกตอนได้เสียกัน วุ้ย คิดแล้วหิว!
คิดได้เช่นนั้นการใส่สีตีไข่เต็นให้กลายเป็นเกย์ส่ำส่อนก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก กายเอ่ยว่าตัวเองโดนแย่งคนรักนั่นก็คือแม็คซึ่งคนที่แย่งไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากคนที่เพิ่งผ่านการร้องห่มร้องไห้ไปเมื่อครู่ เด็กหนุ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนไปเจอคนๆ นี้กำลังมั่วเซ็กส์เสพยากับคนรักของตนที่คอนโด วันนั้นสองคนรุมทำร้ายและขับไล่ตนออกจากคอนโดอย่างกับหมูกับหมา ก่อนจะละเลงเพลงรักกันต่อจนหนำใจและประกาศคบกันต่อหน้าต่อตาตนในวันหลัง
แชมป์ช็อคอึ้งในสิ่งที่ได้ฟัง ถามไถ่ช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ซึ่งพอได้คำตอบก็ตัวเย็น
“มิน่าล่ะ มึงถึงหายจากการติดต่อกูไอ้เต็น” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาตอนท้ายสุดเมื่อคิดว่านี่คือสาเหตุที่เต็นเลิกตามตอแยตน ที่แท้ก็ไปแย่งแฟนคนอื่นมากกกอดได้สำเร็จนี่เอง แถมยังเล่นยากันอีก เลวจริงๆ
“เจริญมั้ยล่ะนายนพ จะรู้มั้ยว่าไอ้เต็นนั่นมันเหลวไหลถึงขนาดเล่นยามา” เด็กหนุ่มเอ่ยเยาะหยันออกมาตอนที่นึกหมั่นไส้ในท่าทีปลอบอกปลอบใจคนรักของฝ่ายนั้น
************************************************************
เต็นยังไม่หายจากอาการซึมเศร้าแม้นพจะพากลับห้องพักแล้วก็ตาม
“ให้นพอยู่เป็นเพื่อนมั้ย” นพเสนอตัวเพราะนึกเป็นห่วงในอาการคนรักเก่าที่เห็น
“ไม่เป็นไรหรอก เต็นอยู่ได้ พรุ่งนี้นพต้องทำงานนี่” เต็นปฏิเสธ ตอนนี้นึกอยากอยู่ตามลำพัง อยู่กับความต่ำช้าและจมอยู่กับความรู้สึกผิดในสิ่งที่เคยทำลงไป ยิ่งนพกลับมาดีด้วยเท่าไหร่ เด็กหนุ่มก็นึกละอายใจเท่านั้น
“ทำยังกะนพไม่เคยไปทำงานที่ห้องนี้งั้นแหละ” นพเอ่ยว่าเพราะนึกเป็นห่วงสภาพจิตใจคนรักเก่าขึ้นมาจริงๆ
“นพเข้าใจ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันต่างไปจากเดิมแล้ว นพอย่าพยายามดีกับเต็นเลยนะ มันทำให้เต็นสมเพชตัวเองยังไงไม่รู้ ปล่อยให้เต็นจมอยู่กับความเหลวไหล เหลวแหลกที่เต็นเคยทำไว้เพียงลำพังเถอะ” เต็นเอ่ยระบายเสียงสั่นร้อนถึงนพที่ต้องปลอบอีก
“ไม่เอาน่าเต็น คำพูดอันธพาลของหมาหวงก้างแค่นั้นเต็นจะเก็บเอามาคิดทำไม”
“สิ่งที่แชมป์พูดมันก็ไม่ผิดนี่นพ เต็นมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่เพียงแต่แชมป์จะมองเต็นแบบนั้นคนเดียวหรอก หากว่าใครๆ รับรู้เรื่องราวเต็นก็คงจะโดนตราหน้าว่าไม่รักดี สมน้ำหน้าที่โง่ สมน้ำหน้าที่พลาดเพียงเพราะลมปากคนที่รู้จักกันไม่กี่วันทั้งนั้นแหละ”
“เพราะแบบนี้ใช่มั้ยถึงร้องไห้ไม่ยอมหยุดเนี่ย อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ช่างมันสิ ใครไม่เข้าใจแต่นพเข้าใจเต็น เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นนพก็มีส่วนผิดเหมือนกัน เรากลับมาคบกันใหม่มั้ยล่ะ นายนั่นจะได้รู้ไงว่านิสัยอันธพาลของมันทำอะไรเราไม่ได้”
เต็นอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน น้ำตาค่อยๆ ไหลด้วยความเต็มตื้นที่คนรักเก่าห่วงความรู้สึกตนขนาดนี้ แต่คนเลวๆ อย่างเขาอย่าเอาคนดีมาให้ใครๆ ได้หัวเราะเลยว่าไม่เข็ดเหรอถึงคิดจะกลับมาคบอีก
“เต็นขอบใจนะนพ ขอบใจในความรู้สึกดีๆ ที่มีให้เต็น แต่สิ่งที่เต็นพลาดไป ทำไปมันเลวเกินกว่าที่เต็นจะกล้ามาใช้ชีวิตคู่กับใครๆ ได้อีก เต็นขออยู่คนเดียวเถอะนะ อยู่รับชะตากรรมที่เต็นคิดว่าเวรกรรมคงลงโทษเต็นแล้ว”
“เพ้อเจ้อน่าเต็น คิดอะไรแบบนั้น แต่เอาเถอะวันนี้เต็นไม่พร้อมนพก็ไม่คาดคั้นอะไร แต่ขอให้เต็นรู้ไว้เท่านั้นว่าเต็นยังมีนพที่คอยเข้าใจเต็นอยู่ ขึ้นไปพักผ่อนเถอะไป แล้วก็เลิกคิดมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้นพโทรหา”
เต็นพยักหน้ารับเนือยๆ กับคำบอกของคนเคยคบ ร่างนั้นเดินกลับไปขึ้นรถขับออกไปแล้ว เด็กหนุ่มยืนมองจนลับสายตา….