>>ต่อ<<
เปย์ครั้งที่ 8 ครึ่งหลัง
มือหนาลูบผมนุ่มนิ่มของดำ เขารับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่ถ่ายทอดมา ยอมก้มหน้าลงสบตากับคนตัวเล็กในอ้อมกอดเสียโดยดี กลัวว่าถ้าไม่ยอมมอง ดำจะเป็นกังวลมากกว่านี้ เขาต้องทำให้ดำสบายใจ ไม่ใช่มอบความเศร้าไปเพิ่มเติมเช่นนี้
ดวงตาถ่ายทอดความอบอุ่น ความเสียใจเลือนหายไปเมื่อมองสบกับคนตัวเล็ก ดำใจเต้นกับสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูนั้นดังถูกมนตร์สะกดจนไม่อาจละสายตาไปจากรอยยิ้มบางๆ แสนอบอุ่นนั้นได้
“อย่ากังวลไปเลย ถึงพ่อจะจากไปแล้ว และฉันก็เศร้าเสียใจ แต่ก็ยังคงมีคนคอยอยู่เคียงข้างในวันที่ฉันไม่เหลือใคร คนคนนั้นรักและเอาใจใส่ ดูแลฉันเหมือนลูกแท้ๆ คอยช่วยเหลือทุกอย่าง เปรียบเสมือนพ่อของฉันอีกคนเลยล่ะ...ดำจะให้ฉันเป็นคนคนนั้นได้หรือเปล่า
เพียงแต่ฉันไม่คิดจะเป็นพ่อหรอกนะ” ต้องเป็นคนรักต่างหาก
สิรินต่อประโยคในใจ เขายังไม่อยากให้เจ้าหมาน้อยตื่นกลัวในตอนนี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านั่นคือความปรารถนาที่อยู่ในใจ
“สูด! คุณสิน เป็นลูกพี่ของไอ้ดำ ไอ้ดำต่างหากที่ขออยู่ข้างคุณสิน และขอให้คุณสินเป็นคนสำคัญ อย่าทิ้งไอ้ดำนะครับ” ดำสูดน้ำมูก เช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม พยายามเข้มแข็งด้วยหัวใจที่พองโตเมื่อสิรินขออยู่ข้างๆ เขาในวันที่ไม่เหลือใคร คุณสินให้ความสำคัญกับไอ้ดำขนาดนี้แล้วจะมั่วเศร้าใจอยู่ได้อย่างไร
ไอ้ดำต้องเข้มแข็ง เพื่อทำตามคำมั่นสัญญาว่าจะปกป้องคุณสินสิ จะมัวอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“ฉันบอกไปแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้ดำหายไป เพราะอย่างนั้นอย่าฝันเลยว่าจะได้ห่างจากฉันไปไหนได้ หึหึ” ดวงตาคนตัวโตวาววับ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จุดขึ้นที่มุมปาก ดำขอให้เขาเป็นคนสำคัญ เรื่องดีขนาดนี้ใครจะปฏิเสธได้ ต้องเป็นฝ่ายนั้นต่างหากที่ต้องเตรียมใจรับความรู้สึกของเขา
“ได้เล้ย! ไอ้ดำจะอยู่ใกล้ๆ คุณสินเอง” ดำไม่เข้าใจรอยยิ้มแบบนั้นแต่หน้ากลับแดงก่ำ และหัวใจก็เต้นแรง พาให้ขวยเขินอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็ทำใจกล้ารับปากออกไปด้วยเสียงอันดังก้อง จนคนตรงหน้ายิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ ดำจึงต้องเสตาหลบสายตาวาววับดวงนั้น
คุณสินทำอะไรไอ้ดำนะ ทำไมทั้งรู้สึกอบอุ่น ทั้งยังรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ ไอ้ดำรับปากไปแบบนี้ดีแล้วใช่ไหม
ดำกลืนน้ำลายลงคอ ทั้งที่ใบหน้ายังแดงก่ำ ไม่กล้าสบใบหน้าหล่อเหล่าของคนที่กำลังยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยคิดให้ใครเห็นมาก่อน เขาไม่กล้าแม้แต่ขยับตัว ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเหตุใดบรรยากาศที่อบอวลด้วยความเศร้าจึงแปรเปลี่ยนเป็นบรรยากาศแสนแปลกประหลาดเช่นนี้
กริ๊ง!
เสียงออดช่วยชีวิต ดำหลุดออกจากบรรยากาศชวนทำตัวไม่ถูกอย่างรวดเร็ว รีบบอกสิรินอย่างตะกุกตะกักว่าจะออกไปเปิดประตูโดยไม่รอคำค้านของอีกคนแม้แต่น้อย
สิรินได้แต่มองตามร่างเล็กๆ ที่วิ่งจู๊ดออกจากห้องอย่างรวดเร็วด้วยสายตาแห่งความพอใจ
สิรินกำลังดีใจที่ดำไม่ได้ซื่อบื้อถึงขั้นไม่รู้สึกอะไรกับสายตาของเขา ความเขินอายนั่นทำให้ใจชื้นขึ้น มั่นใจว่าการรุกจีบของเขาได้ผลอยู่ไม่น้อย ถึงจะยืนกรานว่าเขาเป็นลูกพี่ แต่อีกไม่นานหรอกที่เขาจะทำให้ดำเปลี่ยนความคิดเหล่านั้น ก็บอกไปแล้วว่าให้เตรียมใจเอาไว้ หึหึ
“ว้าววว ฝรั่งหัวทอง คุณสินๆ ๆ ฝรั่งหัวทองมาครับ อ้ากก กอดไอ้ดำทำไม ปล่อยนะ ปล่อยๆ” เสียงเล็กแว่วจากหน้าประตู สิรินจึงรีบเดินออกไปดู คิ้วกระตุกรัวๆ เมื่อได้ยินว่าใครคนนั้นกำลังกอดเจ้าตัวเล็กของเขาอยู่ ในหัวคาดเดาถึงคนที่เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
และเป็นไปตามคาดคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกำลังกอดดำแน่น ทั้งยังเอาหน้าถูไถแก้ม ทั้งดึง ทั้งหอมจนกลัวเสียจริงๆ ว่าแก้มเล็กๆ นั่นจะช้ำหมด
“พอได้แล้วมาร์โก้” สิรินรีบสาวเท้าเข้าไปจับแยกทั้งคู่อย่างรวดเร็ว ผลักมาร์โก้ออกเล็กน้อยแล้วดึงดำมาไว้ด้านหลัง มองคนตรงหน้าด้วยสายตาคาดโทษ มาโดยไม่บอกล่วงหน้าแล้วยังมากอดดำโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก เป็นคนที่ทำอะไรไม่ดูอายุตัวเองเลยให้ตายสิ
ฟอด...
“สิน เซอร์ไพรส์ แด๊ดดี้มาเยี่ยมแล้วครับ” คิ้วสิรินกระตุกรัวๆ อีกรอบ ให้ตายเถอะเจ้าฝรั่งงี่เง่านี่ ตั้งใจแกล้งเขาชัดๆ เลย
ฟอด...
“ครับ ยินดีต้องรับครับ...แด๊ด” สิรินหอมแก้มคนตรงหน้าคืนไปหนึ่งฟอด จากที่จะเป็นฝ่ายแกล้ง กลับถูกลูกชายแกล้งคืนจนหน้าแดงแป๊ด อ้าปากผะงาบๆ อย่างทำตัวไม่ถูกอยู่เช่นนั้น สิรินส่งเสียงหึในลำคออย่างคนที่เหนือกว่า จะแกล้งเขายังเร็วไปล้านปี ตาแก่เอ๊ย
จากนั้นก็ละความสนใจจากคนที่หน้าแดงด้วยการหอมจากลูกชาย และคำเรียกที่นานๆ ครั้งที่จะหลุดออกจากปากอีกฝ่ายนั่นอีก
“เข้าไปข้างในเถอะดำ ได้เวลาทานข้าวแล้ว” เพราะเมื่อครู่หลบอยู่ด้านหลัง และยังตกใจจากการจู่โจมของมาร์โก้ไม่หาย ดำจึงไม่ทันได้เห็นว่าสิรินทำอะไร จึงยอมเดินตามสิรินเข้าไปที่ห้องครัวต้อยๆ เหลือบมองมาร์โก้สองสามครั้งทั้งที่ยังก้าวไปข้างหน้า
รู้เพียงว่าสิรินรู้จักคนคนนี้ และฝรั่งหัวทองเป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับดำ เขาเคยเห็นอยู่เพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็จากที่ไกลๆ เท่านั้น วันนี้ได้เห็นเต็มๆ ตาจึงละความสนใจไปไม่ได้
กว่ามาร์โก้จะรวบรวมสติที่แตกกระเจิงให้กลับมาได้ก็ใช้เวลาหลายนาทีทีเดียว
“หนอยย ยิ่งโตยิ่งกินยาก ให้ตายเถอะโดนเอาคืนอีกจนได้ สมเป็นลูกคุณจริงๆ เลยนะสุทิน หึยๆ” มาร์โก้ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว แล้วก็พาลคนที่อยู่บนสวรรค์ไปเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ระบายยิ้มออกมาอย่างพอใจ คิดถึงช่วงเวลาที่คนรักคอยแกล้งเขาแล้วก็มีความสุข สิรินสมเป็นลูกชายของพวกเขาจริงๆ
ตั้งหลักได้แล้วก็หยิบของที่วางเอาไว้แล้วเดินตามเข้าไปในห้องครัวด้วยความเคยชิน
“วันนี้ฉันโชว์ฝีมือเอง หลบไปเลยเจ้าหนู” ว่าพรางยกถุงของสดขึ้นให้ดู มาร์โก้ชอบทำอาหาร สิรินรู้ข้อนี้จึงยักไหล่น้อยๆ แล้ววางมือจากของสดตรงหน้า ยอมมานั่งบนเก้าอี้ข้างดำอย่างว่าง่าย เขาเองก็คิดถึงอาหารฝีมือมาร์โก้ไม่น้อยเลย จะปล่อยท่าทางอวดดีนั่นไปก่อนก็แล้วกัน
“คุณสินๆ” เสียงเล็กๆ กระซิบกระซาบ หลังจากที่สิรินนั่งลง
“หือ มีอะไรเหรอ” ดำไม่ตอบแต่พยักพเยิดหน้าไปยังมาร์โก้ เขายังไม่รู้เลยว่าฝรั่งหัวทองคนนั้นคือใคร แถมยังดูท่าคุ้นเคยกับสิรินอีก ดำรู้สึกคาใจจนอดที่จะถามไม่ได้
“คนนั้น คนที่ฉันบอกว่าเป็นเหมือนพ่ออีกคน” สิรินไม่คิดจะปิดบังอะไรดำ เพราะเขาเชื่อ เชื่อว่าดำจะไม่มีทางหักหลังเขาอย่างแน่นอน ความเชื่อใจที่ยากจะมอบให้คนอื่นนั้น สิรินได้มอบให้ดำอย่างหมดใจ หมายมั่นว่าต่อไปหากดำอยากรู้มากกว่านี้เขาก็พร้อมที่จะเล่าให้ฟัง
“อ๋อ คนนั้นเอง” ดำครุ่นคิดไปถึงเรื่องที่คุยกับสิรินก่อนจะร้องอ๋อออกมาเสียงดัง คนนั้นเอง คนที่อยู่เคียงข้างคุณสินในวันที่เสียคนสำคัญที่สุดไป
แปลว่าคนคนนี้ใจดีมากแน่ๆ ถึงจะเข้ามากอดไอ้ดำทั้งที่พึ่งเคยเจอกัน แต่ไอ้ดำก็ไม่รู้สึกว่าโดนคุกคามเลย สุดท้ายจึงไม่ได้ลงมือทำร้ายอะไร มีเพียงความตกใจเท่านั้น เพราะแบบนี้เองสินะ ไอ้ดำเข้าใจแล้ว ถ้าเป็นคนสำคัญของคุณสิน ก็เป็นคนสำคัญของไอ้ดำเหมือนกัน
“อะแฮ่ม คุยอะไรกันสองคนไม่สนใจฉันเลยนะ แต่ดำนี่น่ารักจริงๆ สินไม่ยอมให้ฉันเห็นผ่านกล้องสักทีก็เลยต้องมาเจอตัวจริง น่ารักสมกับที่หวงจริงๆ ฉันชื่อมาร์โก้ยินดีที่ได้รู้จัก เรียก ลุงมาร์โก้ หรือมาร์โก ก็ได้” มาร์โก้พูดกับดำทั้งที่มือยังขยับหั่นผักอย่างคล่องแคล่ว สายตาที่มองมาก็เต็มไปด้วยความเอ็นดู
“ลุง...มาร์โก้”
“อืม ดูไม่รื่นหูเท่าไหร่ ว่าไปแล้ว เรียกว่า ‘พ่อ’ ไปเลยดีกว่า เพราะอย่างไรฉันก็มาที่นี่เพื่อจดรับรองให้ดำเป็นลูกบุญธรรมอยู่แล้ว เรียกให้ชินไว้เลยก็ได้” มาร์โก้พูดเองเออเองเสร็จสรรพก่อนจะนำสลัดผักที่ราดน้ำสลัดสีเขียวมาวางไว้ตรงหน้าลูกชายทั้งสอง
“อันนี้รองท้องไปก่อน เดี๋ยวจะจัดชุดใหญ่ให้ รอก่อนนะ” ดำมองตามมาร์โก้ ไม่ได้สนใจของกินตรงหน้าแม้แต่น้อย ตอนนี้ความสนใจทั้งหมดของดำอยู่ที่คำพูดเรื่องพ่อลูกที่ออกจากปากมาร์โก้
“พะ พ่อ...ไอ้ดำเรียกได้จริงๆ เหรอครับ” มาร์โก้ยิ้มเอ็นดูก่อนจะวางมือแล้วเดินเข้ามาหาดำ
“ได้สิ ฉันอยากให้ดำเรียกนะ แล้วต่อไปฉันเองก็จะรักดำเหมือนลูกชายคนหนึ่ง ยอมรับรึเปล่า” ดำจับจ้องดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลอย่างไม่วางตา คนตรงหน้ามีแต่ความจริงใจส่งมาจนดำยิ้มออกทั้งที่น้ำตาไหล หัวใจของเขาอบอุ่นเอามากๆ เลย
ไม่เพียงคุณสินที่ยอมรับไอ้ดำ ยอมให้ที่อยู่กับไอ้ดำ คนสำคัญของคุณสินก็ยอมรับไอ้ดำเหมือนกัน คนที่เหมือนพ่อคุณสินยอมให้ไอ้ดำเป็นลูกอีกคน ไอ้ดำมีความสุขจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว
“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ อึก”
“โอ๋ๆ อย่าร้องนะ เด็กดี” มาร์โก้ดึงเด็กน้อยเข้ามากอด โยกตัวไปมาดังปลอบโยนเด็กตัวเล็กๆ ใบหน้านั้นก็ระบายรอยยิ้ม ดำน่ารักจริงๆ เหมาะกับสิรินที่สุด คิดแบบนั้นเหมือนกันใช่ไหม...สุทิน
สิรินมองภาพนั้นด้วยความพอใจ หัวใจเต็มตื้นด้วยความสุข ดีใจที่คนสำคัญทั้งสองเข้ากันได้ดี
“เอาแบบนี้ วันนี้ดำชอบกินอะไรฉันจะทำให้หมดเลย! ” หลังจากเห็นว่าดำเลิกสะอื้นแล้วมาร์โก้ก็เสนอความคิดขึ้นมา ตอนแรกกะจะทำอาหารตามใจตัวเอง แต่เพื่อรับขวัญลูกชายคนใหม่คงต้องเอาใจหน่อยแล้ว
“มาร์- เอ๊ย พ่อทำได้หมดเลยเหรอครับ” ดำเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้าง เรื่องกินขอให้บอก ไอ้ดำเร็วอยู่แล้ว
“แน่นอน สั่งมาได้เลย ไว้ใจได้” พูดเสร็จก็ยกมือชกอกตัวเองหนึ่งที เชิดหน้าอย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะอาหารอะไรมาร์โก้คนนี้ไม่เคยพลาดอยู่แล้ว
“ไอ้ดำชอบกินบุฟเฟ่ต์” เสียงตอบดังฟังชัดพาให้มาร์โก้ยิ้มเก้อ ชั่งเป็นคำตอบที่คาดไม่ถึงเสียจริงๆ
หลังผ่านไปชั่วอึดใจ ทั้งสิรินทั้งมาร์โก้ก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ให้ตายเถอะเจ้าตัวเล็กนี่ชอบทำอะไรที่ไม่คาดคิดจริงๆ
“ดำ มาร์โก้หมายถึงชอบกินอะไรในบุฟเฟ่ต์น่ะ” สิรินอธิบาย เพราะดำมองหน้าเขากับมาร์โก้สลับไปมาอย่างไม่เข้าใจหน้าขึ้นสีน้อยๆ เพราะรู้ว่าตัวเองเผลอไปเข้าใจอะไรผิดเข้า แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพูดผิดตรงไหน
“อ๋อ ไอ้ดำชอบทุกอย่างเลยครับ ที่กินไม่อั้น แล้วก็เลือกกินอะไรก็ได้” ดำตอบชัดถ้อยชัดคำ ก็เขาคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะอย่างนั้นคำที่ตอบโจทย์มากที่สุดคงหนีไม่พ้นแบบบุฟเฟ่ต์อยู่แล้ว
“อืม คิดออกแล้ว” มาร์โก้ได้ฟังก็ไม่คิดจะขัด ยืนคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาเช่นนั้น แล้วรีบเดินออกไปด้านนอกค้นกระเป๋าเดินทางหยิบแท็บเล็ตออกมา เปิดคลังรูปภาพที่รวบรวมภาพอาหารที่เขาเคยทำเอาไว้ จากนั้นก็ยื่นให้ดำ
“วันนี้เสนอเมนูบุฟเฟ่ต์ฉบับมาร์โก้ อยากกินอันไหนจิ้มเลย” จากนั้นก็สาธยายถึงความคิดอันหลักแหลมของตน แบบนี้ก็ตรงตามหัวข้อ ทั้งไม่อั้น และเลือกอันไหนก็ได้แล้ว
ดำมองรูปในแท็ปเล็ตตาวาว ภาพอาหารที่เลื่อนผ่านทั้งแปลกตา ทั้งน่ากินจนน้ำลายไหล ต้องกลืนน้ำลายลงคอหลายต่อหลายครั้ง ยิ่งเลื่อนท้องยิ่งร้องเรียกอยากกินไม่หยุด เลือกยากเพราะเมนูอาหารละลานตาไปหมด
มาร์โก้มองดำเลือกอย่างตั้งใจก็มองเอ็นดู แล้วหันไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ วันนี้เขาคงต้องเข้าครัวแบบเต็มรูปแบบเพราะลูกชายคนเล็กเสียแล้ว ก็ปริมาณอาหารที่ดำกินน้อยเสียที่ไหน สิรินเล่าให้ฟังประจำ วันนี้คงต้องลองกันสักตั้งว่าดำจะอิ่มก่อน หรือเขาจะเหนื่อยก่อนกันแน่!
“จะมาทำไมไม่บอกล่วงหน้า มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่า” ในระหว่างรอสิรินก็เปิดปากถาม เพราะนานครั้งที่มาร์โก้จะทำสิ่งที่นอกเหนือจากตารางชีวิตของตนเอง โดยที่ไม่บอกเขาล่วงหน้าทั้งที่นัดกันเอาไว้เสร็จสรรพ
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แค่อยากมาเจอดำเร็วๆ แล้วสินจะได้ไม่ต้องรีบเร่งเตรียมเอกสารให้ดำด้วย อีกอย่างล่าสุดที่นั่นพึ่งตรวจพบพวกผู้ก่อการร้ายที่ปลอมแปลงเอกสารเข้าไปก่อความวุ่นวาย ตอนนี้ก็เลยมีมาตรการที่เข้มงวดเอามากๆ ไม่อยากให้เสี่ยงกันน่ะ” มาร์โก้ตอบทั้งที่กำลังนำของสดเก็บใส่ตู้เย็น เวลานี้ที่อเมริกาก็วุ่นวายไม่น้อย ถึงเบื้องหน้าจะดูสงบแต่ความจริงกลับเกิดความวุ่นวายอย่างที่ไม่อาจคาดคิด
ด้วยเส้นสายที่วางเอาไว้ และอำนาจที่ครอบครองเอาไว้ในฐานะซิกมานั้น การสืบรู้ความเคลื่อนไหวเบื้องหลังนับว่าไม่ยากเย็นเกินไป แม้การแทรกซึมเข้าไปในช่วงนี้จะทำได้ แต่การหลีกเลี่ยงอันตรายนับว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่า ทั้งเขายังต้องเดินทางมาประเทศไทยอยู่แล้ว เพียงเลื่อนให้เร็วขึ้นอีกหน่อยมันก็ไม่ถือว่าลำบากอะไร
“นั่นสินะ ทำแบบนี้จะรับประกันความปลอดภัยให้ดำมากกว่า ขอบคุณมากมาร์โก้” สิรินเห็นด้วยกับความคิดนี้ เขาจะวู่วามไม่ได้ แม้จะมีอำนาจมากมาย แต่ทุกสิ่งล้วนมีความเสี่ยง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของดำ การกระทำที่มั่นใจว่าดำปลอดภัย 100% นับว่าสมควรที่สุด
“หึหึ ฉันซะอย่าง เด็กอย่างนายก็หัดพึ่งๆ ผู้ใหญ่บ้าง ฉันเคยบอกไปแล้วนะ ไม่ว่าอะไรก็บขอให้บอก สิน นายเป็นลูกของฉันนะ” มาร์โก้มองสิรินด้วยรอยยิ้ม ถึงจะได้เจอกันนานๆ ครั้ง แต่สายสัมพันธ์ของพวกเขาก็ลึกซึ้งจนตัดไม่ขาด เป็นครอบครัวที่ไม่ต้องคำนึงถึงความสมบูรณ์พร้อม เพียงเชื่อใจซึ่งกันและกันก็เพียงพอ ยิ่งมีดำเข้ามาทำให้สิรินได้ใช้ชีวิตอย่างมีชีวิตชีวา มาร์โก้ก็ยิ่งวางใจที่จะปล่อยสิรินให้อยู่ทางนี้ได้มากขึ้น
“รู้แล้ว...ดำอยากกินอะไร” สิรินพึมพำเบาๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง เขารับรู้ถึงความรู้สึกของมาร์โก้ดี เพียงแต่มาร์โก้นั้นก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่เขาต้องปกป้อง ไม่ให้อาสุชาติ หรือคนอื่นๆ เข้ามาทำร้าย เขาจึงต้องเข้มแข็ง และพยายามพึ่งพาตนเองเช่นนี้เสมอมา...สิรินไม่อยากเสียมาร์โก้ไปอีกคน เพราะมาร์โก้เป็นคนที่สำคัญทั้งต่อพ่อของเขา และตัวเขาเอง
“อืม เลือกยากจัง มีแต่ของน่ากินๆ ทั้งนั้น ไอ้ดำอยากลองชิมทั้งหมดเลย” ดำเงยหน้าขึ้นมาตอบ น้ำลายก็ไหลเลอะมุมปาก เป็นสัญญาณบอกว่าดำอยากกินมากจริงๆ
“หึหึ เลอะหมดแล้วเจ้าตัวเล็ก” ว่าจบก็หยิบทิชชู่เช็ดปากให้อย่างเบามือ ดูว่าถ้าให้เปิดไปมากกว่านี้คงน้ำลายหมดตัวไปซะก่อน
“ดำจะได้กินทั้งหมด มาร์โก้ยังอยู่กับพวกเราอีกหลายวัน เพราะอย่างนั้นเลือกของที่อยากกินวันนี้ก่อน ส่วนที่เหลือค่อยกินมื้ออื่นๆ ก็ได้ ไม่ต้องรีบ” ว่าจบก็ลูบหัวหนึ่งทีให้เจ้าหมาจอมตะกละใจเย็นลง ดูสิ ดวงตาเหมือนจะกลายเป็นรูปอาหารหมดแล้ว
“จริงเหรอครับ” ดำตาวาว เขาจะได้กินทั้งหมด ว้าวๆ สุดยอดที่สู้ด
“จริงๆ ว่ามาเลยเจ้าลูกชาย อยากกินอะไร เดี๋ยวปะป๋าจัดให้” เห็นแบบนั้นดำก็กอดแท็บเล็ตวิ่งไปหามาร์โก้ ยกหน้าจอให้ดูเมนูที่ตัวเองอยากกินในทันที
“อันนี้ครับ อันนี้ ไอ้ดำอยากกินอันนี้...ว่าแต่ปะป๋าคืออะไร กินได้รึเปล่า” ชี้เสร็จก็ถามถึงคำที่ตนไม่คุ้นเคยทันที ไอ้ปะป๋ามันคืออะไร อร่อยไหมนะ
“ฮ่าๆ ๆ ปะป๋ากินไม่ได้ครับ ปะป๋าแปลว่าพ่อ แต่คำว่าปะป๋ามันน่ารักกว่า ยิ่งออกจากปากดำยิ่งน่ารัก ปะป๋าเป็นปลื้ม เพราะฉะนั้นเลือกพ่อว่าปะป๋านะครับ” มาร์โก้ร่ายยาว แบบนี้สิถึงน่ารักสมวัย ไม่เหมือนสิรินที่ความน่ารักหายไปหมด โตเร็วซะเหลือเกิน กระซิกๆ วันนี้เขามีความสุขมากจริงๆ
สิรินรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นธาตุอากาศอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นคนสำคัญทั้งสองยิ้มอย่างมีความสุขก็ไม่อยากขัดอะไร ยิ่งมาร์โก้เหมือนย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่พ่อเขายังอยู่ สิรินยิ่งพอใจ
พ่อครับ เห็นรึเปล่า คนรักของพ่อกลับมายิ้มกว้างได้อีกแล้วนะ
ดำเป็นแสงสว่างในชีวิตเขา และยังส่องแสงไปถึงคนสำคัญของเขาด้วย ยิ่งเป็นเช่นนี้ สิรินก็ยิ่งตระหนักในใจว่าชีวิตของเขาขาดดำไม่ได้
“ปะป๋า ไอ้ดำอยากกินอันนี้ครับ” ดำทำตามที่มาร์โก้เรียกร้อง เพราะดูเหมือนคนตรงหน้าจะชอบมากๆ เวลาเขาพูดแบบนี้ มันไม่ได้ยากเย็นอะไร เพราะฉะนั้นไอ้ดำทำได้สบายมาก ไอ้ดำเก่งอยู่แล้ว ฮ่าๆ ๆ
“ฟิชแอนด์ชิปส์ เหรอ ได้ๆ วัตถุดิบพร้อม นั่งรอเลย ระหว่างนี้ก็กินสลัดแซลมอนรองท้องไปก่อนนะ”
“แซลมอนนน” คำว่า แซลมอนทำให้ดำหูผึ่ง จำได้ติดลิ้นว่ามันอร่อยมาก ก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจมากนักเพราะเห็นผักเสียมากกว่า พอรู้ว่ามีแซลมอนด้วยก็รีบกอดแท็บเล็ตวิ่งจู๊ดไปที่เก้าอี้ของตนทันที
มาร์โก้ก็ได้แต่หัวเราะเบาในลำคอ เอ็นดูเจ้าคนเห็นแก่กินขึ้นไปอีก ดูสิ สิรินก็ตามใจเหลือเกิน คีบแซลมอนให้ดำชิ้นแล้วชิ้นเล่า ไม่คิดว่าจะกินเองเลยหรือไร
จากนั้นก็ละความสนใจหันไปทำฟิชแอนด์ชิปส์แทน อาหารจานนี้เป็นอาหารแบบผู้ดีอังกฤษ ดูผิวเผินคล้ายสเต็กปลาชุปแป้งทอด แต่ก็ยังคงมีเส้นแบ่งความแตกต่างระหว่างอาหารอังกฤษกับอเมริกันอยู่เล็กน้อย
ปลาที่ใช้เป็นปลาคอตที่แร่แบบไร้ก้างซีนพลาสติกเอาไว้เรียบร้อย ยังดีที่เขาซื้อติดมาด้วย ไม่เช่นนั้นคงต้องใช้ปลาชนิดอื่นทดแทนซึ่งจะขาดความอร่อยไปบางส่วน ด้วยทาร์ทาร์ซอสที่ใช้กับอาหารชนิดนี้ต้องทำขึ้นใหม่แบบพิเศษ ทั้งมันฝรั่งยังเป็นแบบทำเอง หั่นให้มีขนาดใหญ่กว่าเฟรนด์ฟรายทั่วไป ซึ่งเรียกว่า ชิปส์ ตามชื่ออาหารชนิดนี้
ส่วนดำนั้นกำลังเคี้ยวแซลมอนแก้มตุ่ยอยู่ข้างๆ สิริน คุณสินยังใจดีกับดำเหมือนเดิม ยกแซลมอนให้ดำกินเยอะแยะเลย
ตอนแรกไอ้ดำจะไม่กินผัก เพราะเคยกินไปแล้วมันไม่อร่อย แต่เพราะน้ำจิ้มที่ราดข้างบนเผ็ดซี้ดโดนใจ เข้ากับเนื้อแซลมันกับผักสลัดแบบสุดๆ ทำให้หยุดมือที่ถือส้อมจิ้มลงบนผักครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้
คุณสินบอกว่า น้ำจิ้มเขียวๆ คือน้ำจิ้มซีฟู้ด เอาไว้กินกับอาหารทะเล พอเอามากินกับแซลมอน ปลาที่อาศัยในทะเลมันจึงเข้ากันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังกลบกลิ่นเหม็นเขียวของผักจนหลงเหลือไว้เพียงความอร่อยเท่านั้น
เพียงไม่นานดำก็กินสลัดแซลมอนชามโตจนหมดชาม ไม่เหลือแม้กระทั่งผักสักชิ้นเดียว มาร์โก้ทำอาหารอร่อยมากจริงๆ จนดำมองมาร์โก้ตาวาว
ไอ้ดำอยากให้ปะป๋าอยู่ด้วยตลอดไปจัง
กลิ่นปลาคอตชุปแป้งทอดลอยแตะจมูกดังยั่วยวนให้คนหลงใหล ดำเดินตามกลิ่นไปจนถึงโต๊ะที่วางปลาทอดสีเหลืองแวววาวเอาไว้
อื้อหือ เหมือนในภาพเลย ไอ้ดำขอกินเลยได้ไหม
“ยกไปวางที่โต๊ะได้เลย แล้วต่อไปอยากกินอะไร หือ” เพื่อไม่ให้ขาดตอน หลังจากเห็นดำที่มองฟิชแอนด์ดิปส์ที่ประดับตกแต่งในจานอย่างสวยงามแล้วก็เอ่ยปากเปิดทางให้เจ้าตัวเล็กได้กินตามใจชอบทันที ทั้งยังถามเมนูต่อไปเสร็จสรรพ เห็นคนกินมีความสุขขนาดนี้มาร์โก้ก็สนุกจนหยุดไม่ได้
ดำยื่นแท็บเล็ตให้มาร์โก้ ชี้นิ้วไปบนภาพที่ถูกทำให้มีขนาดเล็กเรียงรายกันเอาไว้
“ไอ้ดำอยากกินอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ อันนี้ด้วย แล้วก็-”
“เดี๋ยวๆ พอก่อนดีกว่า ปะป๋าทำให้ทุกอย่างเลย แต่หลังจากกินเมนูที่ว่ามานั่นหมดก่อนนะ” มาร์โก้รีบหยุดเอาไว้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ววันนี้เขาคงทำได้ไม่ครบทุกเมนูเป็นแน่แท้ ก็ดำเล่นชี้ภาพแบบรัวๆ ขนาดนี้
“ครับผม ปะป๋าเก่งที่สุดเล้ย” ดำว่าง่ายยอมถืออาหารจานปลาตรงหน้ากลับไปนั่งกินที่โต๊ะในทันที เนื้อปลาหนานุ่มด้านใน เคลือบด้วยเกล็ดขนมปังกรุบกรอบด้านนอกให้รสสัมผัสที่อร่อยเคี้ยวได้อย่างไม่มีเบื่อ ดำคิดว่ามันเต็มปากเต็มคำกว่าเทมปุระที่เคยกินมากทีเดียว
ซอสสูตรเข้มข้นช่วยตัดความเลี่ยนของน้ำมันที่ใช้ทอดได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยเพิ่มรสชาติให้มีความหลากหลายทำให้คนกินเจริญอาหารมากขึ้นไปอีก ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ดำก็กินอาหารจานนี้หมดเสียแล้ว กระทั่งซอสที่แยกไว้ในถ้วยเล็กยังถูกกวาดลงท้องไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
อร่อยจัง เมื่อกี้ปะป๋ามันเรียกว่าอะไรนะ ไอ้ดำต้องถามปะป๋าเอาไว้เวลาอยากกินจะได้เรียกถูก
ดำหมายมั่น ยิ่งกินยิ่งถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นสลัดแซลมอน หรืออาหารจานปลาตรงหน้าก็ถูกปากถูกใจดำเป็นอย่างยิ่ง พื้นที่ความสำคัญของมาร์โก้ภายในใจดำจึงเพิ่มมากขึ้นไปอีก
“มาแล้ว ข้าวไข่ข้นเบคอนนุ่มนิ่ม ซุปบอร์ชเพิ่มความหอมหวานของผัก ปูแตงสูตรเพิ่มชีสพิเศษสำหรับคนชอบชีส” อาหารสีสันน่าทานสามอย่างวางลงตรงหน้า ดำตาวาวด้วยความพอใจ ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะหันไปของคุณมาร์โก้อย่างเสียไม่ได้
สมกับเป็นบุฟเฟ่ต์ฉบับปะป๋า รวดเร็วทันใจ แถมยังน่ากินทุกจาน งื้ออ ไอ้ดำรักปะป๋าที่สุดเลย
สายตาวิ๋งๆ ที่ถูกส่งออกมาจากคนตัวเล็กพาให้สิรินคิ้วกระตุกยิกๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพียงเท่านั้นมาร์โก้ก็ดูท่าจะแย่งพื้นที่ของดำไปจากเขาได้เสียแล้ว แต่จะทำอะไรได้ ให้ทำอาหารแข่งเหรอเป็นไปไม่ได้หรอก อย่างดีสรินก็ทำได้แค่อาหารง่ายๆ เท่านั้น ไม่มีทางสู้ได้อยู่แล้ว
เสียงเจื้อยแจ้วเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทวนชื่ออาหารที่ถูกวางตรงหน้าอย่างตั้งใจ พอหมดก็ชี้บอกเมนูใหม่ ประกายเจิดจ้าแสบตาขึ้นเรื่อยๆ เหมือนโลกเหลือพวกเขาเพียงสองคน คนหนึ่งกินอย่างเอร็จอร่อย อีกคนก็คว้ามีคว้ากระทะทำอาหารอย่างมีชีวิตชีวาถูกอกถูกใจที่คนกินชมครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างเป็นภาพที่แผ่ความสุขออกมาจนไม่อาจเข้าไปขัดได้
“เลอะแล้วเจ้าตัวเล็ก กินดีๆ” แต่สิรินก็อดใจที่จะขัดภาพนั้นไม่ได้ ถ้าจะมีความสุขก็อย่าทิ้งเขาไว้คนเดียวสิ แล้วอีกอย่างคนที่มีพื้นที่ภายในใจดำมากที่สุดควรจะเป็นเขาต่างหาก!
“คุณสินอร่อยมากเลย อันนี้ชีสบอลล่ะครับ ชีสยืดๆ อร่อย” และดำก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง เจ้าหมาน้อยยื่นชีสบอลลูกสุดท้ายมาป้อนถึงปาก ถึงจะลืมชั่ววูบ ด้วยสำนึกผิดจึงต้องเอาใจคนตัวโตเสียหน่อย
สิรินยอมอ้าปากกินชีสบอลตรงหน้า อาหารฝีมือมาร์โก้ยังอร่อยไม่เปลี่ยน ทั้งยังมีรสหอมหวานเพิ่มขึ้นมาอีก...บางทีอาจจะเป็นเพราะคนป้อนล่ะมัง
คิดดังนั้นก็ยื่นมือไปขยี้ผมนุ่มนิ่มเบาๆ มองไปยังคนที่ทำอาหารอยู่หน้าเตาอย่างตั้งใจโดยไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมามอง ทั้งคนตัวเล็กตรงหน้ายังยิ้มตาหยี ดวงตากลมโตเหมือนจะปิดลงเสียให้ได้ก็ฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งฟอด
“อืม ทั้งอร่อย ทั้งหอมหวานจริงๆ”
โปรดติดตามตอนต่อไป...
******************************************
กลับมาแล้วค่า
ขอโทษที่กรีนพักไปหลายวันนะคะ
หลังจากที่จบงานสัปดาห์หนังสือ กรีนก็ยอมรับว่าไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลย
อยากนอนพักยาวๆ ซักอาทิตย์ ฮ่า
แต่ในที่สุดก็กลับมาฮึดเขียนอีกครั้ง ต่อไปก็ลงแบบปกติแล้วนะคะ พักพอแล้ว
เจอกันตอนหน้าจ้า