ตอนที่ 18
ฉันเลือกเธอ“เซนรู้นะ ว่าธามกับปอนด์ . . กำลังจะไปได้ดีด้วยกันเพราะฉะนั้น ขอร้องล่ะ มาหาเซนได้มั้ย ครั้งนี้ . . เป็นครั้งสุดท้าย และเซนจะปล่อยธามไป” ผมนึกถึงคำพูดของเซนขณะที่ขับรถออกจากโรงพยาบาลกลางดึก ทุกอย่างรอบตัวช่างเงียบสงัด แม้จะมีเสียงของเซนดังแว่วเข้ามาอยู่ในหัวเรื่อยๆ แต่ใบหน้าของปอนด์ที่ผมเพิ่งจะจากมานั้นผมก็ยังจำได้ดีพอๆกัน
มันทำหน้าราวกับว่าผมจะไม่กลับไปหามัน ไม่เลือกมันอย่างนั้นแหละ . . อันที่จริงตั้งแต่มันบอกกับผม เอ่อ เรื่องนั้น เรื่องนั้นน่ะ ผมยอมรับเลยว่าผมดีใจมาก มากกกกกกกกกกกก มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก และผมก็เขินมากด้วยจนไม่สามารถพูดอะไรกับมันต่อได้เป็นเรื่องเป็นราวได้เลย ได้แต่กวนตีนมันกลับไปแก้อาการ . . เขินสุดรูติ่ง
แต่การที่เซนพูดอย่างนั้น ในประโยคแบบนั้น มันหมายความว่ายังไง ทำไมทุกสิ่งทุกอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ยากแต่มันกลับดูง่ายมากยิ่งขึ้น ผมคิดว่าการที่ผมมาหาเซนครั้งนี้มันจะเป็นการเคลียร์ความรู้สึกของผมทั้งหมด เพราะที่ผ่านมา . . ผมช่างไม่ชัดเจนเอาเสียเลย
ปากผมบอกว่าอยากคืนดีกับเซน แต่ไหงผมกลับชอบที่จะตัวติดกับปอนด์ ?? ให้ตาย . . ยิ่งคิดทุกอย่างก็ยิ่งชัด ผมอยากจะเอามือมาทึ้งหัวของผมเองชะมัด ณ ตอนนี้ ถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่าผมกำลังขับรถอยู่อ่ะนะ
ร้านที่เซนนัดผมไปอยู่แถวทองหล่อ ผมจำได้ว่าเป็นบาร์ที่โคตรเงียบมากของมาก หวังว่าคืนจะจบอย่างที่เซนพูด จบทั้งความรู้สึกของผมที่มีต่อเซน ต่อเรื่องของเซนที่ผมมิอาจสานต่ออย่างที่ผมเคยคิดว่ามนน่าจะเป็นไปได้
เพราะมีบางคน . . ที่ส่งคำพูด น้ำเสียง แววตา และการกระทำมาให้ผมเมื่อครู่ . . ทำให้ผมรู้สึกได้ตลอดเวลาว่า . . มีคนรอผมอยู่ . . ผมเดินเข้าไปในร้าน ดูเหมือนทั้งร้านจะมีหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่แถวๆบาร์เพียงคนเดียว และที่เด็ดคือไม่มีบาร์เทนเดอร์สักคน ดูปราดเดียวก็รู้ว่าหนุ่มที่นั่งอยู่ที่นั่นคนเดียวก็คือเซน ผมเดินเข้าไปหาช้าๆอย่างกล้าๆกลัวๆ เซนหันมายิ้มให้อย่างอ่อนแรง นั่นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้าเพิ่มมากขึ้นเลยสักนิด
“ว่าไง” เซนพูดด้วยรอยยิ้ม เป็นยิ้มที่ดูดีเช่นเคย และเคยเป็นยิ้มที่ผมเห็นทีไรใจผมต้องสั่นจนแทบคลั่ง . .
แค่ปัจจุบัน . . เจ้าของรอยยิ้มที่ทำให้ผมมีปฏิกิริยาแบบนั้นมันเปลี่ยนคน “ดื่มหนักไปแล้วนะ” ผมเปรยเบาๆ หยิบแก้วที่อยู่ในมือเซนออกไป เซนดูเมามากจริงๆ เพราะแค่นั่งก็ยังทรงตัวไม่ค่อยอยู่
หมับ เซนคว้ามือของผมเอาไว้ ผมสะดุ้งโหยง เพราะเซนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ กลิ่นแอลกอฮอล์หึ่งที่ออกมาจากตัวของเซนไม่ได้ทำให้ความดูดีนั้นมีค่าน้อยลงเลย แต่ตอนนี้ผมเบี่ยงหน้าหลบสุดฤทธิ์ ผมคงเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
“หึ” เซนหัวเราะในคอ จับแก้วขึ้นกระดกอีกครั้ง และก็หยิบขวดที่อยู่ใกล้ที่สุดจากบาร์แล้วก็เท . . “ธามนี่นะ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ยังน่ารัก”
ผมกระพริบตาปริบๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ
“ปอนด์ . . ไอ้เด็กนั่น มันโชคดี” กระดก และก็พูดต่อ “แต่เซนก็เคยเป็นคนโชคดีของนั้นนี่นา”
“ทำไมถึงคิดงั้น”
“รู้อะไรไหม ปอนด์มันเข้ามาอยู่ในใจของธามตั้งนานแล้ว แต่ธามไม่รู้ตัวเลย”
“หมะ ไม่จริงน่า” ผมหนีความจริงเพราะความอับอาย บวกกับเผื่อจะทำให้เซนรู้สึกดีขึ้น แม้ว่านั่นจะเป็นความคิดที่โง่มากก็ตามที
เซนเคาะหัวผมโป๊กๆ แล้วก็หัวเราะก๊ากแบบเมาๆ “ยอมรับความรู้สึกของตัวเองซะบ้าง”
“ธามว่าเซนเมามากแล้วอ่ะ กลับเหอะนะ เดี๋ยวธามขับให้”
“อือออ ไม่อาวววววววววว” เซนปัดแก้วทิ้งจนเกิดเสียงแตกดัง เพล้ง! “บอกแล้วไง ว่าวันนี้ เซนจะให้ธามอยู่กับเซนเป็นครั้งสุดท้ายยย”
“เอ่อ = =”
ไอ้ปอนด์มันรอผมอยู่ . . “วันนั้นเซนไปบ้านธาม ไปเยี่ยมธาม ธามเอาแต่หลับ และก็เอาแต่ละเมอ เพ้อถึงไอ้ปอนด์ เซนเลยลองคิดให้อะไรหลายๆอย่างมันปะติดปะต่อกัน . .”
“ตอนไปเที่ยวกัน . . ธามก็เอาแต่มองปอนด์ สายตาที่ธามมอง รู้มั้ย . . ธามเคยมองเซนแบบนั้นด้วยนะตอนมอปลาย . . ”
“. . ตอนนั้นธาม . . หัวเกรียน”
ไม่ต้องพูดถึง ‘ยุคมืด’ ของผมก็ได้มั้ง “แต่หัวเกรียนก็ยังน่ารักเสมอเลย”
จะชมกันไปถึงไหน ??
“เซนเสียใจมาก ที่เราเลิกกัน รู้ไหม แต่ซันมันเป็นน้อง ถึงแม้เซนจะโกรธหรือเกลียดซันแค่ไหน . .มันก็เป็นน้อง”
“…”
“มันไม่น่าจะเอาไปบอกพ่ออย่างนั้น ไม่น่าเลยจริงๆ”
ที่มาของการที่ผมกับเซนต้องเลิกกัน ก็พอยัยซันซัน ไปบอกกับพ่อของเซนว่าผมกับเซนคบกัน ที่บ้านของเซนจึงปรี๊ดแตก ผิดกับผมที่ป๊าแทบจะยกผมใส่พานขึ้นถวายให้ด้วยซ้ำ ป๊าชอบเห็นผมมีความสุข แต่ผมรู้ว่าความคิดคนเรามันไม่เหมือนกัน กว่าผมจะผ่านจุดนั้นมามันยาก เซนเป็นแฟนคนรัก เป็นรักครั้งแรก ทุกอย่างที่ทำกับเซนมันเป็นครั้งแรกของผมทั้งหมด . .
แต่บางทีชีวิตคนเรามันก็ต้องดำเนินต่อไป ถึงแม้ในตอนนั้นผมจะรักเซนแค่ไหนหรือเสียใจมากสักเพียงใดที่เราเลิกกัน ผมรู้เพียงแต่ว่าในตอนนี้ ถ้าสิ่งเหล่านั้นมันไม่กลับมา . . ผมไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิดเดียว
เพราะไอ้ปอนด์ . . ไอ้ปอนด์เพียงคนเดียวจริงๆ“แต่มันก็ผ่านมาแล้วนี่เนอะ” เซนหาอะไรมากระดกเข้าปากอีกครั้ง คราวนี้จากปากขวดเลยจ้า ผมพยายามแย่งขวดนั่นมาเท่าไหร่ เซนก็แย่งกลับไปจนได้ ตัวเล็กกว่าเค้านี่ลำบากจริงๆน้า “เข้ามาใกล้เซนอีกที เซนไม่รับประกันนะ ว่าจะห้ามใจได้รึเปล่า”
กึก ผมหยุดนิ่งตัวแข็งเป็นท่อนไม้เลยทีเดียว หลังจากที่เซนพูดจบ
“เซนรู้สึกเสียดายวันเวลา ที่ผ่านมา เซนมัวแต่ทำอะไรอยู่ ทำไมเซนไม่ตามมาง้อธาม ก่อนที่ไอ้ปอนด์มันจะมา อ๋อ . . หึ ลืมนึกไป ตอนนั้นไอ้โอ๊ตมันชอบธาม มันชอบเอามากๆ ถึงแม้จะรู้ว่าเซนเป็นแฟนเก่าธามก็ตาม แต่มันก็ชอบ เพราะฉะนั้น เซนเลยง้อธามไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นธามที่มหาลัย เซนต้องหลบทุกครั้ง เซนกลัวตัวเองอดใจไม่ไหว”
“เซน . .” ที่ผมไม่เจอเซนเลย เพราะเหตุผลนี้สินะ เซนรักเพื่อนมากกว่าอะไร ถึงแม้ว่าเพื่อนคนนั้นมันจะดูเลวๆ . . ก็เถอะ
“เซนอยากจะเลิกคบมันเป็นเพื่อนเมื่อรู้ว่ามันทำอะไรกับธามบ้าง แต่ก็คงคล้ายๆกับยัยซัน ยังไงมันก็เพื่อน เฮ้อออออออ”
เซนเป็นคนดีมากจริงๆ . . ผมรู้ความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นผมจะเคยไม่รักเซนได้ไงล่ะ
“ทำไมธามมัวแต่ดูนาฬิกา . .” เซนเปรยขึ้นมา
อยากจะฆ่าตัวเองให้ตาย . . ผมทำอย่างนั้นจริงๆเหรอ ให้ตาย โคตรเสียมารยาทเลยเชี่ยธาม ผมไม่รู้ตัวจริงๆนะ ผมก็แค่กลัวว่าไอ้ปอนด์มันจะรออยู่จริงๆ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่อยากให้มันรอสักเท่าไหร่นักหรอก
เพราะเซนดูน่าเป็นห่วงจริงๆ . .
“ไอ้ปอนด์รออยู่งั้นเหรอ”
“เอ่อ ไม่ใช่อย่างนั้น”
“ขอเซนโทรหามันหน่อยนะ”
“เฮ้ย ไม่ต้องอ่ะ”
แค่นี้เรื่องยังวุ่นไม่พออีกเหรอ T_T
“ไอ้เด็กนี่มันหล่อดีนะ” เซนพูดด้วยน้ำเสียงไม่อภิรมย์สำหรับตัวเองเท่าไหร่ “เซนเจอมันครั้งแรกเซนยังคิดว่ามันหล่อเลย หึ”
“แต่ที่ธามชอบปอนด์ก็ไม่ใช่เพราะว่ามันหล่อหรอกนะ” ผมพูดขึ้น “มันนิสัยดี ชอบดูแลคนอื่น จริงใจ”
“ยอมรับแล้วสินะธาม” “หือ”
“ว่าชอบปอนด์” ชิบหาย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! . . ผมพูดออกไปได้ยังไงแบบนั้น ผมพูดออกไปได้ยังง้ายยยยยยยยย นอกจากจะเป็นการทำให้ตัวเองอับอายขายขี้หน้าแล้ว ยังจะทำให้เซนสะเทือนใจมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย
ตายๆๆ จากที่เคยปากแข็งมาทั้งหมด ทุกอย่าง . . พังป่นปี้
“เฮ้ . .” เซนจับใบหน้าของผมขึ้นมาให้มองสบตา “ยอมรับแล้วรู้สึกดีใช่มั้ย ไม่หนีหัวใจตัวเองมันรู้สึกดีใช่มั้ย . .”
“…”
“อย่ารู้ตัวช้า . . เหมือนกับเซนเลยนะ”
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซนจะประกบปากกับผม ในหัวของผมตื้อไปหมด และที่ปรากฏอยู่ในตาตอนนี้คือใบหน้าของเซนชนิดที่ว่าโคลสอัพขั้นสุด กลิ่นแอลกอฮอล์เต็มจมูกผม . . จนหัวผมมึน ไม่รับไม่รู้อะไรทั้งนั้น “จูบสุดท้ายของเรานะธาม” เซนพูดช้าๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเซ ดีนะที่ผมคว้าไว้ได้ทัน และก็ดีนะที่ผมสามารถรวบรวมสติได้อย่างทันท่วงที ไม่งั้นเซนคงล้มหัวฟาดพื้นเป็นแน่
“เดี๋ยวธามขับไปส่ง”
“รีบกลับไปหาไอ้ปอนด์เถอะ”
“ให้ธามไปส่งดีกว่านะ”
ยังไงผมก็ยังยืนยันที่จะไปส่งเซนด้วยตัวของผมเอง เซนตัวใหญ่มาก แต่ผมก็ใช้ความพยายามในการลากตัวเซนให้ออกจากร้านนั่นและก็ขึ้นรถผมได้ในที่สุด . .
เหนื่อยเป็นบ้า . . บ้านเซนอยู่แถวๆบางนาครับ ไกลมากและไกลเวอร์ ตอนนี้เป็นเวลาตีสองกว่าๆแล้ว ผมไม่อยากให้เซนไปอยู่ตัวคนเดียวในคอนโดในสภาพที่ย่ำแย่แบบนี้ ควรจะอยู่กับครอบครัวของเขานั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด กว่าจะถึงบ้านเซนก็เกือบตีสาม เล่นเอาผมแทบแย่เหมือนกัน เพราะลึกลับซับซ้อนโคตรๆ
ออด ออด
เสียงออดมันควรจะเป็นเสียงนี้สินะ คนที่มาเปิดประตูคงก่นด่าผมในใจอยู่มากแน่ๆ แต่ก็เอาเถอะ ผมมาส่งลูกชายของบ้านนี้เชียวนะ
“คนกำลังหลับกำลังนอน รบกวนอยู่ได้!” แบบนี้เค้าคงไม่เรียกว่าด่าในใจแล้วมั้ง ประตูถูกกระชากให้เปิดออก ผมเห็นซันซันในชุดคลุมชุดนอน กำลังยืนหน้ามุ่ย
“ธาม . .” เธอรำพึง “มาที่นี่ทำไม” เธอมองผมด้วยสายตาเกลียดชัง
“พาพี่ชายเธอมาส่ง” ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ค่อยชอบพูดคุยกับเธอเท่าไหร่นัก “เขาเมาหนัก”
“นายมอมพี่ชายชั้นเหรอ” เธอแหวทันที เดินก้าวฉับๆไปเปิดประตูรถผมและก็ลากตัวเซนออกมา . . ผมเห็นตัวเล็กๆของเธอทำแบบนั้นแล้วคงจะลำบาก จึงอาสาช่วย . . แต่ก็โดนปัดมือออก “เลิกยุ่งกับพี่เซนได้แล้ว!”
“จะให้เลิกยุ่ง ก็คงจะไม่ได้ คนเคยๆรู้จักกันมา” มีเหตุมีผลหน่อยเถอะ โตๆกันแล้ว ผมพูดเพราะผมเริ่มทนไม่ไหว
“ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ป่านนี้พี่เซนคงมีแฟนเป็นผู้หญิงไปแล้ว เพราะนายคนเดียว พี่ชายชั้นเค้าถึงไม่มองคนอื่นๆเลย”
“ยัยซัน . . หละ เลิกบ้าสักที” เซนส่งเสียงร้องออกมา ผมโคตรจะนับถือเซนเลยครับ นี่ขนาดเมาจนยืนไม่ค่อยไหวสติยังอยู่เกือบครบ
“พี่เซน ยังจะเข้าข้างตานี่อยู่อีกเหรอ เลิกซะเถอะ เดี๋ยวซันจะแนะนำเพื่อนๆให้พี่เซนรู้จัก เพื่อนซันเขาก็ชอบพี่เซนกันตั้งหลายคน”
“พอสักทีเถอะยัยซัน พาพี่เข้าบ้านได้แล้ว” เซนดุน้อง จากนั้นก็หันกลับมามองผม “ดูแลตัวเองด้วยนะธาม”
. . สะเทือนใจใช่เล่น “อื้อ เหมือนกันนะเซน”
. . 2 BROKEN HEARTS FALL IN LOVE . .
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์นะ ตอนนี้เกือบตีสี่แล้วครับ ผมอยากให้ไอ้ปอนด์รับโทรศัพท์ผมบ้างก็ยังดี เพราะตอนนี้ผมถึงหน้าโรงพยาบาลแล้ว(บ้านเซนไกลมาก มาก มากจริงๆ) ผมกลัวว่าปอนด์มันจะคิดเป็นอื่นเป็นไกลน่ะ ฝีมือการขับรถของผมนั้นมันช่างอ่อนต่อโลกยิ่งนัก นอกจากร้องเพลงและก็ออกแบบบ้านแล้ว ผมทำอะไรอย่างอื่นเป็นมั้ย TT
และเรื่องที่ผมออกมาฉวัดเฉวียนกลางดึกนี่ไม่สมควรที่จะให้โทมัสรับรู้ได้เป็นอันขาด เพราะกว่าจะอนุญาตให้ผมมาเฝ้าไข้ไอ้ปอนด์ได้ ผมต้องหว่านล้อมชักแม่น้ำมาทั้งสี่ทั้งห้าเพื่อให้โทมัสเชื่อใจว่าผมจะไม่ไปมีอันตรายที่ไหน
แต่ทว่า . . เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!
ใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่ม! เมื่อกี้มีใครสักคนวิ่งตัดหน้ารถผม ผมกระแทกเข้าอย่างจังที่พวงมาลัยตอนที่เหยียบเบรคสุดตีน(ต้องใช้คำนี้จริงๆครับ) ส่วนคนที่ตัดหน้ารถผมไม่รู้จะเป็นอะไรรึเปล่า! เมื่อคิดได้ผมจีงรีบปลดเข็มขัด และเปิดประตูลงมาจากรถทันที
พระเจ้า . . ใครก็ได้ . . ฆ่าผมที น้ำตาของผมหยดแหมะลงกับพื้นทันทีที่ผมเห็นว่าใครนอนอยู่หน้ารถของผมที่มีไฟส่องสว่าง ชุดคนป่วยสีน้ำเงิน เรือนผมสีดำที่ตัดสั้น และที่ช่วยยืนยันได้มากกว่าอะไรทั้งหมดคือผ้าพันแผลที่พันหน้าแข้ง
“ปอนด์!!!” ผมรู้ว่าผมไม่ได้ชนมัน แต่แค่นี้ผมก็โกรธตัวเองจนอยากจะกัดลิ้นให้ตัวเองตายไปเสีย . . “ฮึกกก ทำไมออกมาข้างนอกดึกๆดื่นๆ ฮือออออ ไอ้ปอนด์ เจ็บมั้ย ตอบกูมาสิ!!!!”
ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับภาพวาดของปอนด์บัดนี้ซีดเซียวและมีลมหายใจอ่อนระหวยรวยริน ให้ตายสิ T_T
“ปอนด์ ขอร้องล่ะ ตอบกูหน่อยยย ฮืออออ กูขอโทษษษษ กูไม่ได้ตั้งใจ กูขอโทษนะ ฮืออออๆๆ”
“หมะ มาแล้วเหรอ” ปอนด์พูดแต่ละคำได้อย่างยากลำบากเหลือเกิน นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมกำลังบีบรัด
“มาแล้วสิ!!!” ผมปาดน้ำตา ร้องไห้อย่างกับเด็กทารก “ไปหาหมอกันนะ! ขอโทษจริงๆนะปอนด์ ไม่ได้ตั้งใจ กู ..”
“ไม่เอา . . ไม่ไป”
“ฮึกกก ทำไมไม่ไปล่ะ กูไม่อยากให้มึงเจ็บมากไปกว่านี้นะ!!!!”
“กูหลบพวกพยาบาล . . อยู่แถวนี้” ปอนด์ชี้บอกไปที่ต้นไม้หน้าโรงพยาบาล “เพื่อที่จะรอให้มึง . . กลับมา”
“ทำอะไรโง่ๆอย่างนั้น!! มึงยังไม่หายดีนะ!!!”
“หึหึ แต่มึงก็กลับมาแล้ว”
“เลิกพูดได้แล้ว ฮืออ ขอร้อง ไปหาหมอกัน ขอโทษนะปอนด์ กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“ไม่ไป . .” “…”
“จนกว่าจะรู้คำตอบ” “คำตอบอะไรเล่า!!! มีอะไรสำคัญกว่าชีวิตมึงอีกงั้นเหรอ!!! ไอ้ดื้อ!!!! ฮืออออ กูขอร้อง ไปหาหมอเถอะ กูไม่อยากเห็นมึงเจ็บ กูเห็นแล้วกูจะบ้าตายยยยยยยยยยยย ฮือออออ”
“มึงเลือกกูเหรอ . .” “พูดมากอยู่ได้!!! ฮือออ ไอ้เหี้ย มึงไม่เจ็บกูก็เลือกมึง มึงเจ็บกูก็เลือกมึง ไม่ว่าจะยังไงกูก็เลือกมึง!!! ฮืออออออออออออ”
“. . จริงนะ” “ก็จริงน่ะซี่!!!!!!” เมื่อไหร่มันจะไปหาหมอสักที ผมทั้งรู้สึกผิดทั้งเป็นห่วงมันใจจะขาดอยู่แล้วนะ . . แต่ทว่าน้ำเสียงประโยคล่าสุดทำให้ผมหยุดชะงัก เพราะเสียงไอ้ปอนด์ . . มันแบ๊ว มันไม่เหมือนคนเจ็บ หรือคนที่มีลมหายใจแผ่วๆเลยอะ
ผมหันขวับก้มลงมองหน้าไอ้ปอนด์ทั้งม่านน้ำตา . . ไอ้ปอนด์กลั้นยิ้มไว้อย่างสุดขีด พร้อมกับกระพริบตาปริบๆมองผม
จบเลยกู . . “อยากตายรึไง!!!!!” ผมทุบมันเข้าที่หน้าอกอย่างแรง
“อั้ก!!!” ปอนด์ตัวงอตอนที่ผมทุบเสร็จ แต่ผมไม่สนแล้ว ผมยืนขึ้น และทิ้งให้มันนอนกลางถนนหน้าโรงพยาบาลอย่างนั้น แต่มันนอนได้ไม่นานหรอก เพราะมันไม่เจ็บมากอย่างที่ผมคิด “ถึงแม้จะไม่โดนชนจังๆ แต่ก็เจ็บน้า ข้อเท้าเกือบพลิกแน่ะ!”
“ก็แค่เกือบ!” ผมเช็ดน้ำมูกน้ำตา ตอนนี้หน้าคงเละแล้วก็มั่วไปหมดแล้ว แต่ผมไม่สนเรื่องนั้นหรอก “เดี๋ยวจะเตะซ้ำให้เจ็บจริงๆเลย ไอ้เชี่ยปอนด์”
“ง่ะ” มันเกาหัว ทำหน้าเซ็งแบบเสแสร้งที่สุดในโลก “เมื่อกี้มึงยังบอกเลยว่าเวลาเห็นกูเจ็บแล้วมึงจะบ้าตาย ..”
“ชิ” ผมสูดน้ำมูก หน้าแดงก่ำ ผลักอกไอ้ปอนด์ออก แล้วรีบเปิดประตูรถ
“อ้าว จะไปไหนอ่ะ”
“เอารถไปจอดดิ! จะให้จอดกลางถนนรึไงเล่า!”
“ทำไมอารมณ์เสียจังง่ะ”
“ไอ้ ..” ด่าไม่ออกเลย
“ขับไปจอดแล้วอย่าหนีไปไหนอีกนะ” ปอนด์ยิ้มแฉ่ง “ขี้เกียจรอแล้ว หนาวก็หนาว ยุงก็เยอะ”
“ขึ้นไปรอบนห้องแล้วก็จบ ตัวเองไม่สบายแล้วยังจะลงมาทำบ้าทำห่าอะไรแบบนี้อีก!!!”
“มันดูไม่เท่อ่ะ”
“ฮะ?”
“ไม่เกาหลีเหรอ ทำแบบนี้ พระเอกมารอนางเอก รอนาน มืด หนาว แสดงออกถึงความตั้งใจจริง นี่ถ้ามีฝนตกนะ ใช่เลย . . แต่ไม่เอาอ่ะ แค่นี้ก็จะแย่แล้ว”
“กูไม่ใช่นางเอก!!!!!” จะบ้าตายกับความคิดไอ้ปอนด์
“อิอิ อย่าลืมกลับมานะ รออยู่แถวนี้แหละ”
“ไม่กลับมาหรอก” อารมณ์เสียจริงๆครับ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกโล่งที่ปอนด์มันซีเรียสเรื่องเซนน้อยกว่าที่ผมคิด
“อ้าว” มันทำเสียงหลง โดนซะบ้าง ผมขึ้นรถได้ไม่นาน มันก็ก้าวฉับๆมานั่งข้างๆผมและก็ปิดประตู คว้าหมับเข้าที่มือผม
“อะไรเนี่ย!!!!”
“กลัวไม่กลับมา” “แล้วทำไมต้องจับมือด้วย”
“กลัวธามจะไปไหนไกล” “…” ผมชะงักค้างเติ่งเพราะเห็นรอยยิ้มที่โคตรหล่อของไอ้ปอนด์ มันต้องเป็นเทวดาแน่ๆ . . ยิ้มได้หล่อขนาดนี้น่ะ
“คงไปไหนไม่ได้อีกแล้วแหละ” ปอนด์ยิ้มร่าอีกครั้งแล้วพยักเพยิดให้ผมออกรถ
ผมดีใจที่เหตุผลในการยิ้มของปอนด์ไม่ใช่เพราะใครที่ไหน . . มันเป็นเพราะผม . . ผมไม่อยากจะพรากเอารอยยิ้มหล่อๆนั่นออกจากหน้าของมันแต่วินาทีเดียว . .“ขี้แยเนอะ คนอะไรวะ”ปอนด์ลูบใบหน้าของผมที่ยังมีรอยน้ำตาอยู่ ตอนที่ผมจอดรถอย่างนิ่งสนิทในที่ที่มันควรจะอยู่
“แล้วมึงอยาก . . จูบกับคนขี้แยมั้ยละวะ”
“ฮะ?!!!!!!!!!”
ผมไม่เสียเวลารอฟังคำตอบจากมันหรอก หวานเวอร์
พบกันใหม่ในเวลาอันใกล้
ต้องอ่านนะ ต้องเม้นนะ !!!!
รัก