EP.5.3 ผมรู้สึกผิดที่เหมือนกับว่าผมคือต้นเหตุให้พี่ต้นกับพี่เกศรินทร์ทะเลาะกัน "พี่มีปัญหากันและต้นเหตุเป็นเพราะเขมหรือเปล่าพี่..ถ้าเพราะเขมพี่เลือกครอบครัวเถอะนะพี่ต้น เขมสงสารตาเอิร์ธ" ผมพูดกับพี่ต้น
"ปัญหาหลายเรื่องนะเขม...แต่ช่างมันเถอะนะ ยังไงพี่ก็ต้องเลือกน้องชายพี่ซิ " พี่ต้นหันหน้ามาพูดกับผมพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบไหล่ของผมและบีบเบา จังหวะพี่ก้องกำลังเดินลงมากับพี่นครินทร์พอดีเลยพี่ต้นเงยหน้ามองพี่ก้องก่อนจะหันมาเลิกคิ้วสูงมองหน้าผมเป็นคำถาม ผมหยักไหล่เป็นเชิงว่าให้พี่ก้องเป็นคนพูดเองจะดีกว่า
"พี่ต้น..หวัดดีครับพี่" พี่ก้องเดินมายกมือไหว้พี่ต้นก่อนจะเข้าไปสวมกอดเหมือนปกติของพี่น้อง พี่ต้นเหล่มองคนที่เดินตาพี่ก้องลงมา ความแปลกใจ
"แฟนนผมครับพี่ต้น ชื่อนครินทร์ เขาเป็นผู้กองคนใหม่เพิ่งเข้ามาประจำการที่ฐานเดียวกันกับผม” พี่ก้องแนะนำพี่นครินทร์ให้พี่ต้นรู้จักในฐานะแฟน ผมแอบยกนิ้งโป้งให้
“รินทร์ครับนี้พี่ต้นพี่ชายคนโตของก้อง " พี่ต้นพยักหน้าพร้อมรับไหว้จากพี่นครินทร์ โดยที่ไม่ได้พูดหรือทักทวงอะไรเลยสักครับ ผมคิดว่าพี่ต้นคงจะเอาไว้ถามทีหลังมากกว่า พี่ต้นนะค้อนข้างวางตัวได้ดีเหมือนกับพ่อผมไม่มีผิด
"แล้วเอิร์ธหลานชายผมละพี่"พี่ก้องทำท่ามองไปรอบๆ และหันไปถามพี่ต้น
"แม่พาเข้าไปเปลี่ยนแพมเพิร์สนะเดี๋ยวก็ออกมา นี้พอพี่บอกจะพามาหาอาๆ เอิร์ธทำท่าตื่นเต้นใหญ่ถามตลอดทางถึงหรือยัง ถึงหรือยัง " พี่ต้นพูดและขำลูกชายไปด้วย และพี่เกศรินทร์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดีเลย
"สวัสดีค่ะน้องก้องสุดหล่อ...เออ..?" พี่เกศรินทร์เดินฉีกยิ้มออกมาตรงเข้ามาทักทายพี่ก้อง เขาจะเป็นมิตรกับพี่ก้อง
แต่ยกเว้นกับผมที่มักจะแสดงสีหน้ารังเกียจผมและยิ่งวันไหนผมพาณัฐกานต์มาด้วยนะ สงครามน้ำลายนี้มักจะเกิดขึ้นจนพี่ต้นต้องขอตัวพาภรรยาและลูกกลับก่อนเสมอแม่ผมเองก็ลำบากใจอีกไหนอีกคนก็ลูกสะใภ้และอีกคนก็แฟนลูกชายคนเล็ก
"สวัสดีครับพี่เกศรินทร์ เออ..นี้นครินทร์ครับพี่เกศ" พี่ก้องแนะนำเพื่อนให้พี่เกศรินทร์รู้จัก พี่เขายิ้มเจื่อนก่อนนะ หันไปมองพี่นครินทร์
"เพื่อนเหรอค่ะ " พี่เกศรินทร์ถามและหันไปยิ้มให้พี่นครินทร์
"แฟนผมครับ" พี่ก้องตอบ ผมหันหน้าไปมองพี่ก้องไหนบอกว่าจะไม่เปิดตัวไง พี่ก้องขยิบตาให้ผมและหันไปโอบไหล่นครินทร์ว่าแฟนกันแน่ชัดแล้ว
"แฟน..เอ๊ะ! น้องก้องไม่เคยมีรสนิยมแบบนี้ไม่ใช่เหรอค่ะ " พี่เกศรินทร์หันไปถามพร้อมทำสีหน้าเหยียดๆทันที มีท่าทีรังเกียจขึ้นมากระทันหันที่ได้ยินว่าพี่นครินทร์เป็นแฟนพี่ก้อง เขาเป็นผู้หญิงที่ต่อต้านเรื่องพวกนี้อย่างรุนแรง ผมเคยเห็นเขาโพสลงในเฟสบุ๊กมัน แรงมาก เขาดูถูกเหยียดหยามด่ากลุ่มคนที่รักร่วมเพศจนผมเองต้องบล๊อคพี่เกศรินทร์ไป
"เกศรินทร์ ..เขาไปช่วยแม่เปลี่ยนผ้าอ้อมลูกซะ นั้นลูกชายเธอนะเธอจะให้แม่ฉันทำอยู่คนเดียวหรือไง " พี่ต้นหันไปบอกเพื่อให้พี่เกศรินทร์ให้ไปทางอื่นแทน และพี่นครินทร์หันมามองพี่ก้อง
"อีกไม่นานผัวกรูคงได้เป็นไปได้วยนี้มันโรคติดต่อหรือไงเนี๊ยะ น่าขยะแขยง!" เสียงจากพี่เกศรินทร์พูดเพื่อจงใจให้พวกผมทั้งหมดได้ยิน พี่นครินทร์ก็มองหน้าพี่ก้องโดยไม่ได้พูดอะไร พี่นครินทร์แค่บีบมือพี่ก้องแค่นั้น ผมเองก็พูดไม่ออกเช่นกัน ผมสงสารพี่ต้นที่สุด
"พี่ขอโทษแทนภรรยาพี่ด้วยนะครับ น้องรินทร์" พี่ต้นพูด
"ไม่เป็นไรครับพี่ต้น เพราะว่าผมนะทำใจได้แล้วว่าเป็นแบบนี้ผมจะเจออะไรบ้าง "พี่นครินทร์พูดปนขำเล็กน้อย
"เอานะมันจะดีขึ้นเชื่อพี่..ไปนั่งดื่มกันหน่อยไหมละ แฟนน้องชายคนที่สอง..ก้อง แกนี่ร้าย
ไม่เบานะ" พี่ต้นพูดพร้อมกับยกแขนตบไหล่พี่ก้องเบาๆ
"ผมดื่มไม่ได้นะครับเพราะว่าเดี๋ยวผมต้องขับรถกลับ..พ่อแม่ผมท่านเข้มงวดเรื่องพวกนี้มาก" พี่นครินทร์บอกพี่ต้นและหันไปยิ้มให้พี่ก้อง
“น้ำผลไม้ไหม ผมไปแวะซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตปากซอย” พี่ก้องถามพี่นครินทร์และโอบเอวพี่นครินทร์ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็น ผมก็แอบยิ้มอยู่คนเดียวไม่ได้เพราะว่ามันน่ารักมากสำหรับผม
ผมสี่คนเดินเข้าไปในห้องครัวแม่จัดโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้วพวกเรานั่งคุยกันไม่ได้เจอกันหลายเดือนก็มีเรื่องคุยกันมากมาย งานพี่ต้นก็เยอะขึ้น ส่วนพี่ก้องก็ต้องเพิ่มเวลาเดิน ลาดตะเวนมากขึ้นและเพิ่มการคุ้มกันครูและนักเรียนผมอยากจะย้ายไปที่นั้นนะแต่พี่ก้องขอร้องไม่ให้ผมไปเขาบอกว่าแค่เขาคนเดียวก็เสี่ยงพอแล้วไม่อยากให้แม่เป็นกังวลเรื่องของผมอีกคน
"เอาละพ่อกับอาๆเขาหิวแล้วลูกมากินข้าวกันดีกว่า ..วันนี้ย่าทำอะไรให้เรานะดูซิ ไก่หวานของเราไงเอิร์ธ...หนูชอบไม่ใช่เหรอลูก" แม่ผมอุ้มตาเอิร์ธมาวางลงที่เก้าอี้ ตาเอิร์ธนั่งลงข้างๆกับผมแววตาใสซื่อคู่นั้นแต่มันแปลกนะตาเอิร์ธกับเลือกที่จะสุงสิงอยู่กับผมทุกครั้งที่มาเที่ยวบ้านทั้งที่พี่เกศรินทร์ตั้งแง่รังเกียจผมออกขนาดนั้นแต่ผมก็รักหลานชายคนนี้มากเช่นกันผมจึงทำเป็นไม่สนใจคำพูดของพี่เกศรินทร์เรียกได้ว่าพยายามจะอดทนให้ถึงที่สุดเหมือนกัน
"คุณมานั่งข้างลูก!" เกศรินทร์บอกพี่ต้นให้มานั่งข้างลูกแทนเธอไม่อยากจะนั่งใกล้กับผมสักเท่าไหร่ แม่ผมหันมองหน้าผมผมพยักหน้าว่าผมโอเค
"อาเข็ม..ตักไก่เอิร์ธหน่อย" เอิร์ธบอกผมพร้อมกับชี้ไปที่จานไก่หวานที่แม่ผมทำให้หลานรักของพวกผม
"เวลาพูดมีครับด้วยซิเอิร์ธครับน้องเอิร์ธ" ผมเลิกคิ้วมองเอิร์ธและยิ้มให้
"อาเข็มตักไก่เอิร์ธหน่อยกั๊บ" หลานชายพูดจาไพเราะผมก็ยิ้มดีใจ พี่ต้นก็เช่นกันแม่ผมก็ด้วยมองหลานตัวน้อยอย่างเอ็นดูแต่มีแค่พี่เกศรินทร์ที่เบือนหน้าหนีหันไปมองทางอื่นแทน
"วันนี้แฟนไม่มาเหรอปกติก็เห็นตัวติดกันจนจะเกยกันอยู่แล้วหรือเรียกว่าจะขี่กันก็ได้นะ”พี่เกศรินทร์พูดถึงแม้จะไม่ได้เจาะจงแต่มันก็ลงผมเต็มๆผมรู้ดี เพราะว่าถ้าพี่เกศรินทร์มา ณัฐกานต์เขาจะยิ่งแสดงออกเพื่อยั่วพี่เกศเพราะว่าเขารู้ดีว่าพี่เกศรินทร์ออกตัวต่อต้านมากแค่ไหน ณัฐกานต์ก็ยิ่งจะทำให้เขาเห็นมากแค่นั้นและมันก็เหมือนการเอาน้ำมันราดลงบนกองไฟ ผมจึงคิดว่าเป็นการดีถ้าหากณัฐกานต์ไม่มาเติมเชื้อเพิ่มอีกขึ้น
"คุณเกศตอนนี้เป็นเวลาทานข้าวนะ ผมขอ!" พี่ต้นหันไปพูดกับพี่เกศรินทร์ สายตาประสานกันและพี่เกศก็หันไปทางอื่นทำเป็นไม่สนใจ
ผมรู้สึกได้ว่าบรรยากาศเริ่มอึมครึม นี้ผมไม่น่าจะมาใช่ไหม ผมรู้สึกผิดที่ผมตัดสินใจ เดินออกจากห้องณัฐกานต์มาเพื่อมาทานอาหารกับแม่และพี่ๆและก็หลานผม
"ทานกันดีกว่าค่ะ ลุูกรินทร์ทานเลยนะลูก แม่ก็ทำอาหารพื้นๆนะ ไม่ได้พิเศษอะไร ทานได้ใช่ไหมลูก" แม่ผมหันไปถามพี่นครินทร์ พี่เขามองพีเกศรินทร์ด้วยสีหน้าค้อนข้างกังวลก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้แม่
"ใครบอกละครับ อร่อยมากต่างหากผมชิมไปหน่อยหนึ่งแล้วก้องเขาให้ผมชิมนะครับ" พี่นครินทร์ชมฝีมือการทำอาหารแม่ของผมตั้งแต่คำแรกที่พี่ก้องตักให้แล้ว
"ปึก" เสียงแก้วน้ำกระแทกลงบนโต๊ะด้วยความไม่พอใจของพี่เกศิรนทร์
"อาเขม...เป่าๆ" ตาเอิร์ธกำลังพยายามตักไก่ทานแต่คงร้อนนะเลยชูขึ้นมาให้ผมช่วยเป่าให้มันให้หน่อย
"คุณ..เป่าไก่ให้ลูกเองซิ" พี่เกศรินทร์ถลึงตาใส่พี่ต้นเขาไม่อยากให้ผมทำให้ลูกชายเขา
"ก็เขมเขาทำให้อยู่...คุณไม่เห็นเหรอเกศ" พี่ต้นพูดตอบโต้กลับทันที
"ตาต้น" แม่ผมรีบส่งเสียงปรามพี่ชายคนโตของผม พี่นครินทร์ก็มองหน้าพี่ก้องด้วยความรู้สึกอึดอัดเหมือนที่พวกผมเป็นอยู่ในตอนนี้แน่ๆ
"เอิร์ธ...มาย่าเป่าให้นะลูก..อาเขมจะได้กินข้าวมัวแต่มาเป่าให้เรานะไม่ได้กินกันพอดี..อาเขมยิ่งผอมๆอยู่" แม่ผมจึงเอื้อมมือมาขอส้อมที่จิ้มไก่ไว้จากตาเอิร์ธไปเป่าให้แทน เด็กอย่างเอิร์ธก็ยังคงใสซื่อเพราะเขาคือผ้าขาวบาง เอิร์ธเงยหน้ามองผมยิ้มตาหยี่
"ก้องครับ...รินทร์กลับก่อนดีกว่านะครับพอดีว่ามันได้เวลาที่พ่อกับแม่รินทร์นัดรินทร์แล้วนะครับเดี๋ยวจะไปไม่ทัน ..คุณแม่ครับรินทร์ขอโทษนะครับเอาไว้วันหลังรินทร์จะมาทานด้วยอีกนะครับ แต่วันนี้คุณพ่อคุณแม่ท่านนัดผมทานข้าวกับ..เพื่อนพ่อนะครับ" พี่นครินทร์พูด พี่ก้องลุกเดินออกไปส่ง พอสองคนนั้นออกไปบรรยากาศกลับยิ่งดูอึมครึมหนักขึ้นกว่าเดิม
ปึก!!!! เสียงช้อนและซ้อมถูกวางลงด้านข้างโดยพี่ต้น
"คุณเป็นบ้าอะไรของคุณนะเกศ!...ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ย! ว่าให้คุณสงบปากสงบคำคุณไว้หน่อย เพราะอย่างน้อยนี้มันก็บ้านของผมและต่อหน้าแม่ของผมและนี้ก็น้องชายผม" พี่ต้นพูดเสียงดังใส่พี่เกศรินทร์แบบนั้น แน่นอนทำให้เอิร์ธหลายชายของผมตกใจดีดตัวขึ้นมากอดผมตัวนี้สั่นไปหมด ผมก็ต้องกอดประคองเอิร์ธไว้เช่นกัน
"คุณรู้จักคำว่ามารยาทไหม..คุณควรจะรักษามารยาทหน่อยในการพูดการจาและยิ่งมีแขกแบบนี้ด้วย..คุณยิ่งไม่ควรจะพูด!!!" พี่ต้นหันไปพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามอดกลั้นจนมือไม้พี่ต้นนี่สั่นไปหมดเช่นกันพี่ต้นกำหมัดไว้แน่น
“ต้น ไม่เอานะลูก” แม่ผมเองก็ใจคอไม่ดี ไม่ต่างจากผมกับเอิร์ทตอนนี้ ผมมองพี่ต้น ผมส่ายหน้าเบาๆว่าพอเถอะ
“ไม่ได้หรอกครับแม่ ลูกสะใภ้มารยาทยอดแย่แบบนี้แม่จะให้ผมเก็บไว้ทำไม “ พี่ต้นหันมาบอกกับแม่ แม่ผมก็ได้แต่สายหัว
"ทำไมเหรอคะคุณต้นตระการ คุณอายเหรอคะ..และนี้มันคือความจริง..และฉันก็จะพูดมันเรื่องของฉัน..ฉันจะพูดมันทุกทีที่ฉันไป " เกศรินทร์เงยหน้าขึ้นตอบพี่ต้นโดยไม่เกรงกลัวสายตาที่ดุดันของพี่ต้นเลยสักนิด
"ผมว่าคุณแม่คุณท่านก็ออกงานบ่อยนะท่านน่าจะบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้บ้างนะเกศรินทร์" พี่ต้นหันไปพูดไม่จะไม่ได้ขึ้นเสียงแต่ทุกคำพูดของพี่ต้นเน้นน้ำเสียงได้เจ็บที่สุดนะผมว่า มันเจ็บกว่าการด่าท่อซะอีก
"นี่คุณ!! คุณกล้าว่าถึงแม่ฉันเลยเหรอ" พี่เกศรินทร์ถลึงตาใส่พี่ต้นอย่างเดือดดานที่ถูกพาดพิงถึงพ่อแม่ ผมคิดว่าพี่ต้นคงเหลืออดแล้วเหมือนกันเพราะว่ามันไม่ใช่ครั้งแรกและไม่ได้ทำให้ผมรูสึกดีขึ้นมาเลย ก็ผมคือตัวต้นเหตุปัญหาครอบครัวของพี่ต้น
"ตาต้น! .ใจเย็นๆลูก หนูเกศด้วยลูก ดูซิตาเอิร์ทตกใจกลัวจนตัวสั่นแล้วนะลูก" แม่ผมก็ร้องเรียกพี่ต้น สีหน้าพี่ต้นบอกได้ว่าโกรธมาก พี่ต้นขบกรามจนขึ้นสันนูนขนาดนั้น
"ฉันอยากจะมาด้วยตายละ ดูซิ ผิดปกติขนาดนี้ ไม่ต้องมากอดมาจับต้องลูกฉันนะ เดี๋ยวลูกฉันจะได้ติดไปด้วย" พี่เกศรินทร์หันขวับมาทางผม ผมก็ต้องวางมือจากเอิร์ท เอิร์ทหันไปมองเกศรินทร์ทำท่าร้องไห้ สายตานี้ไม่จะใช้สายตาของคนเป็นแม่แน่ๆ ก่อนที่พี่เกศนะสบัดสายตากลับไปหาพี่ต้นเหมือนเดิม
"ไอ้โรคตุ๊ดโรคเกย์เนี๊ยะ" ใบหน้าผมชาขึ้นทันทีราวกับถูกตบ
"เธอว่ายังไงนะ..เกศรินทร์.....ขอโทษน้องฉันเดียวนี้!!!" พี่ต้นแผดเสียงดังใส่พี่เกศรินทร์ตาเอิร์ธก็ยิ่งกอดผมแน่นขึ้นดีดตัวไปด้วยเหมือนอยากจะให้ผมพาเขาออกไปจากตรงนี้
"พอแล้วต้น..พอแล้วลูก..ไม่เอานะลููกอย่ามาทะเลาะกันแบบนี้ซิลูก" แม่ผมก็พยายามจะห้ามทั้งคู่
"ไม่..ฉันไม่ขอโทษใครทั้งนั้น"พี่เกศรินทร์ตะคอกเสียงดังพร้อมลุกขึ้นยืนสายตาจิกมองมาที่พี่ต้น
"ได้...ผมเองก็เหลืออดแล้วเหมือนกัน”
“พอผมบอกจะมาหาครอบครัวตัวเองแต่ละทีมีปัญหานั้นปัญหานี้..คุณมันเห็นแกตัวนะรู้ไหม..เกศรินทร์!"พี่ต้นพูดและชี้นิ้วไปที่พี่เกศรินทร์ สายนี้นี้จิ๊กลงไปพร้อมกัน มันไม่เหมือนวันแรกที่แต่งงานกันเลยสายตาทีแพรวพราวแต่วันนี้มันแข็งกร่านจนน่ากลัว
"ถ้าอยู่กันไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ ในเมื่อคุณรับสิ่งที่น้องผมเป็นไม่ได้ ก็หย่ากันไปเลย..นี้มันครอบครัวของผม ..ผมเลือกครอบครัวผมเหมือนที่คุณเลือกเอาแต่ครอบครัวคุณนั้นแหละ" พี่ต้นลุกพร้วดขึ้นเช่นกัน พี่เกศรินทร์ดูจะโกรธพี่ต้นเอามากทีเดียวกำมือแน่นเช่นกัน
"พวกผู้ดีจอมปลอม..กับเงินสกปรกที่คุณกินใช้อย่างสำราญมันมาจากการทำนาบนหลังคนทั้งนั้น..ผมนี่คงภูมิใจตายเลยนะที่ได้ภรรยารวยแต่รวยมากับสิ่งผิดกฏหมาย" พี่ต้นแผดเสียงใส่พี่เกศรินทร์
"แหง๋ๆ ...ไม่เอา..ไม่เอา" ตาเอิร์ธยิ่งดีดตัวขึ้นกอดคอผมแน่นขึ้น ผมก็อุ้มตาเอิร์ทลุกขึ้นก่อน ผมสงสารตาเอิร์ธเหลือเกินนี่เขากลัวจนกอดคอผมแน่น ผมนี้แถบจะหายใจไม่ออก
"ตาต้นใจเย็นๆลูก หนูเกศใจเย็นๆ ดูซิตาเอิร์ธตกใจกลัวใหญ่แล้วนะลูก..แม้ขอละลูก"
"เขมเอาเอิร์ธมาให้แม่ลูกมา..มาหาย่านะลูกนะ" แม่ผมเดินมารับเอิร์ธไปอุ้มแทนผม
"พอเถอะคุณแม่เกศเบื่อ หย่าก็ดีจะได้ไปหาผัวที่มันฉลาดๆหน่อยและที่ไม่ต้องมาอับอายสังคม หนูรับลูกคุณแม่ไม่ได้หรอกนะค่ะ หนูไม่ใช่พวกโลกสวยยอมรับพวกผิดเพศพวกวิกลจริตได้หรอกค่ะคุณแม่"
"ถ้าหนูรู้ก่อนหน้าที่หนูจะแต่งหนูก็คงไม่เลือกแต่งกับลูกชายของแม่หรอกนะคะ..แถมกว่าจะรู้ได้ลูกจะโผ่หัวออกมาอยู่แล้ว" เกศรินทร์พูดสายตาเขาเบี่ยงมามองผมราวกับจะกินเลือดกินเนื้อใช่แต่ก่อนผมก็ไม่ได้เปิดเผยแค่บอกว่าณัฐกานต์เป็นเพื่อนสนิทและตอนนั้นพี่เกศรินทร์เขาก็เป็นคนน่ารักแต่พอเขารู้เรื่องของผมกับณัฐกานค์ ทุกอย่างเปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังเท้าทันที จากที่เคยอยู่กันอย่างมีความสุขก็หายไป ผมเงยหน้ามองพี่ต้นอย่างรู้สึกผิด ผมควรจะเดินออกไปจากตรงนี้หรือเปล่า ผมทำท่าจะลุกแต่พี่ต้นหันมาและทำมือให้ผมนั่งลง อย่าไปไหน พี่ต้นหันไปมองหน้าพี่เกศรินทร์
“คุณนะคงไม่รู้สึกอะไรหรอกใช่ไหมน้องเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ รักชอบเพศเดียวกันแต่ฉันอาย..บ้านฉันมีเชื้อมีตระกูลดีเป็นที่นับหน้าถือตาแต่จะให้ฉันมายอมรับพวกวิกลจริตฉันทำไม่ได้หรอกนะ"
"แหง๋ๆๆๆๆ" เอิร์ธก็ยิ่งร้องไห้ดังขึ้น พี่ต้นก็หันมามองผมอีกครั้ง ผมก็มองพี่ต้นว่าพี่ควรจะเลือกครอบครัวพี่เถอะ เพราะว่าผมสงสารหลาน พี่ต้นพยักหน้าและพี่ต้นก็ลุกขึ้นเทียบเท่ากับพี่เกศรินทร์
"วันจันทร์เจอกันที่อำเภอ..ไปหย่ากันผมเบื่อและพอจบเรื่องพวกนี้เราก็แยกบ้านกันไป " สิ่งที่พี่ต้นพูดออกมาทำให้แม่มองพี่ต้นและกอดตาเอิร์ธไว้แน่น ผมเองก็ตกใจกับสิ่งที่พี่ต้นตัดสินใจในวันนี้
"ผมจะย้ายออกเองส่วนลูกผมจะเลี้ยงเองคุณเลี้ยงลูกไม่ได้หรอกเกศ...คุณรู้ตัวดี.."
"และผมก็รู้ว่าคุณทำอะไรกับเอิร์ธบ้าง แม่บ้านบอกผมหมดแล้ว ว่าเวลาที่คุณโมโหผมคุณก็ลงกับลูก!"
"คุณดูซิลูกตัวสั่นกลัวที่จะอยู่กับคุณแค่ไหน" พี่ต้นพูดชี้ไปที่เอิร์ธที่ร้องไห้กอดแม่ผมแน่น ผมอยากจะเข้าไปกอดหลานแต่ผมก็ไม่อยากให้มันแย่ไปกว่านี้เลยทำได้แค่ยืนดูเฉยๆ น้ำตาปริมๆ แต่ผมต้องไม่ร้องไห้ ผมได้แต่กลั่นมันเอาไว้
"อย่าท้าฉันนะ...ฉันไปแน่..และจำใส่หัวคุณไว้ด้วยนะว่าพ่อฉันก็ช่วยคุณไว้ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่ได้นั่งเก้าอี้และงานสบายแบบนี้หรอกนะ "
“แต่ที่คุณต้องการนะมันไม่ใช่ให้ผมงานสบายหรอกเกศ คุณแค่อยากให้ผมทำให้งานพ่อคุณมันง่ายต่างหากแต่คุณคิดผิด ผมไม่ทำให้งานคนที่ผิดกฏหมายมันได้ลอยอยู่ได้ ต่อให้เขาคนนั้นเป็นพ่อคุณก็ตาม” พี่ต้นพูด พี่เกศรินทร์ที่ยืนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนน้ำเดือดในหม้อ
"ตาเอิร์ธไปกับแม่"พี่เกศรินทร์จะหันไปอุ้มเอิร์ทออกจากแม่ของผม
"ไม่เอา..อยู่ย่า..ฮือๆ...อยู่ย่า" ตาเอิร์ธดิ้นและยิ่งกอดแม่ผมหนักขึ้นไม่ยอมที่จะปล่อยมือคือเขาไม่ยอมไปกับพี่เกศรินทร์
"อย่ามาแตะลูกผมคุณไม่เคยเลี้ยงดูมีแต่คนใช้..ถ้าจะไปก็ไปแต่ตัว...คุณมีเงินไม่ใช่เหรอบินกลับเองได้แต่เงินนะมันหาความสุขใส่ตัวคุณได้แค่ภายนอก ผมนะสะอิดสะเอียนกับผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณแย่แล้วไปจากชีวิตผมซะก็ดีนะ”
“ พอกันที่ ผมทนมามากพอแล้ว 4 ปีที่ผ่านมามันเกินพอสำหรับผมแล้วเกศรินทร์" พี่ต้นพูด ก่อนจะเดินมาอุ้มตาเอิร์ธออกไปจากห้องอาหาร ส่วนพี่เกศรินทร์ก็เดินกระแทกส้นเท้าออกไปเช่นกัน ผมทรุดตัวลงนั่ง ผมมองใบหน้าที่กังวลของแม่
"แม่ครับเขมขอโทษครับแม่" ผมเดินเข้าไปกอดแม่น้ำตาผมไหล ผมทำครอบครัวพี่ชายพังใชไหมครับแม่
"ไม่ใช่ความผิดของเขมหรอกลูก”แม่พูดปลอบผม ผมก็ค่อยปาดน้ำตาลูกชาย ผมไม่อยากหันไปหากเจอว่าหลานยืนอยู่และจะเห็นว่าอาของเขานั้นอ่อนแอ
“เฮ้อ!! ..แม่สงสารตาเอิร์ธ..กินข้าวต่อนะลูกนะแม่จะไปดูหลานกับพี่ต้นเขาซะหน่อย " ผมพยักหน้าและเดินกลับมานั้งลงที่เดิม แม่ผมลุกขึ้น และตอนนี้ผมจะกินลงได้ยังไงอีกละ พี่ก้องเดินกลับเข้ามาพี่ก้องมองหน้าผม พร้อมกับเดินเข้ามากอดผมทันที
"พี่ก้องผมรู้สึกผิดอ่ะ เพราะผมใช่ไหมอะพี่ ที่ทำให้พี่ต้นเขา.."
"ไม่ผิดหรอกเขม ..นายไม่เคยผิดสำหรับพี่วะเขม..ใครไม่รักน้องพี่แต่พี่รักโอเคนะเขม" พี่ก้องพูดปลอบผม
"มีลูกก็ไม่ได้อย่างใจ มีผัวก็เฮงซวย มีคนเอาเงินมาให้ก็ยังโง่ แถมมีครอบครัวก็เป็นตุ๊ดเป็นเกย์ แต่งด้วยก็คิดว่าจะได้หน้าได้ตาอุตสาเป็นถึงปลัดอำเภอแต่ปกครองน้องมรึงยังไม่ได้เลย" เสียงพี่เกศรินทร์ที่ยังคงเอ๊ะอะโวยวายอยู่ที่ห้องรับแขก เขาตะโกนเพื่อให้พี่ต้นได้ยิน
"ออกไปจากบ้านฉันซะ..ออกไป!" เสียงพี่ต้น แสดงว่าพี่ต้นเอาตาเอิร์ธให้แม่ผมดู และพี่ต้นก็คงเดินออกไปหาพี่เกศรินทร์อีกแล้วแน่ๆ ทำให้ผมสองคนลุกพร้วดพากันออกไปก่อนที่จะเกิดความรุนแรงมันไม่เหมาะสมกับพี่ต้น พี่ต้นจะดูไม่ดี
ผมเห็นพี่ต้นถลกแขนเสื้อแต่ผมสองคนเชื่อว่าพี่ต้นไม่ทำร้ายพี่เกศรินทร์แน่นอน พี่ก้องเดินไปจับแขนพี่ต้นไว้กาอน พี่ต้นยืนเอามือเท้าซะเอว พร้อมกับพ่นลมหายใจแรงๆออกมาเหมือนกำลังระงับความโกรธที่ดูแล้วน่าจะสะสมมานานพอดู และพี่เกศรินทร์ลากกระเป๋าเดินทางออกไป และเสียงตาเอิร์ธร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของแม่ผมในบ้าน พี่ต้นยืนมองพี่เกศรินทร์จนเดินพ้นประตูรั่วบ้านออกไป
"พี่ต้น...เขมขอโทษนะพี่" ผมเดินไปหาพี่ต้น พี่ต้นหันมามองผมสองคน
"หมับ" เราสามคนยืนกอดกัน
"เรามีกันสามคนนะอย่าลืมซิ พี่ต้องเลือกน้องแต่ปัญหาวันนี้มันสะสมมานานแล้วไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น มันแค่ช่วยผลักให้มันพังเร็วขึ้นก็แค่นั้น ..แต่พี่โอเค" พี่ต้นพูดพี่ต้นพร้อมกับยกมือขึ้นมาแตะที่หัวผมสองคน แม่ยืนมองผมสามคนกอดกัน
“เขม..นายไม่ใช่ต้นเหตุ พี่มีมากกว่านั้น ไม่ต้องคิดมาก” พี่ต้นพูดกับผมก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อไปดูลูกชายของพี่ต้น คือหลานของพวกผม พี่ก้องก็หยักไหล่ให้ผมกลับเข้าบ้านไป พี่ก้องคงเดินไปปิดล๊อกประตูบ้านแน่ๆ
และการที่เราสามคนรักกันมากขนาดนี้ก็คงเป็นเพราะว่าพ่อกับแม่สอนผมให้รักใคร่ปรองดองกันโดยเฉพาะ ให้รักกันในวันแย่ที่สุดมันจะช่วยให้เราผ่านทุกสิ่งไปได้ ผมยังจำได้ภาพวันที่ผมสามคนกอดกันในวันที่พ่อพวกผมเสีย ผมสามคนกอดกันร้องไห้แบบนี้และนั้นคือน้ำตาลูกผู้ชายสามคนต่อหน้าคนที่พวกผมรักที่สุดจากไปแบบไม่มีวันกลับ
ผมสามคนนั่งอยู่ในห้องครัว ผมเก็บทำความสะอาดทุกอย่างแทนแม่ เพราะว่าแม่ต้องไปดูแลเอิร์ธหลานชายผม พี่ต้นเล่าว่าเอิร์ธไม่ค่อยเข้าหาพี่เกศเลยเพราะว่าเวลาโกรธกันพี่เกศรินทร์มักจะลงที่เอิร์ธก่อนเสมอ เวลาที่พี่ต้นไปทำงานคนใช้ที่บ้านเล่าให้พี่ต้นฟังจนเอิร์ธกลัวแม่ของเขายิ่งกว่ากลัวคนแปลกหน้าซะอีก
และเวลาที่ทะเลาะกันพี่ต้นมักจะปลีกตัวออกไปเพื่อให้ความโกรธลดลงก่อนกลับเข้าบ้าน พี่เกศรินทร์ก็มักจะทุบตีเอิร์ธบ่อยครั้งและคนใช้ต้องเข้าไปห้ามปรามเพราะสงสารเด็กจนเป็นเรื่องเป็นราวทำให้ต้องเปลี่ยนคนใช้ไม่รู้กี่คน ช่วงหลังๆ พี่ต้นจึงไม่กล้าปล่อยลูกชายอยู่กับพี่เกศรินทร์ตามลำพังอีก
“อะพี่” พี่ก้องขับรถออกไปซื้อเบียร์มาให้พี่ต้นนั่งดื่ม เราสามคนนั่งคุยกันดื่มเบียร์กันไปพูดถึงเรื่องราวเก่า ว่าเราสามคนสนิทกันมากแค่ไหนรักกันมากแค่ไหน
“เราไม่ค่อยมีเวลาแบบนี้กันบ่อยๆเลยเนอะพี่ต้น พี่ก็งานเยอะแถมอยู่ไกลส่วนผมก็ไกลเข้าไปใหญ่และเขมอีกคน สงสารแม่นะพี่ต้องอยู่คนเดียว” พี่ก้องพูดพร้อมกับกระดกเบียร์ขวดสีเขียวดื่ม
“พี่ก็รอว่าสักวันพี่อาจจะได้ย้ายกลับมาอยู่กับแม่ เพราะว่าไม่มีใครรักและหวังดีกับเราเท่ากับแม่หรอกจริงไหมวะ” พี่ต้นพูด ผมกับพี่ก้องก็พยักหน้าพร้อมกัน
“และได้อยู่กับน้องๆของพี่เหมือนเช่นตอนยังเด็กๆ คิดแล้วไม่น่าโตขึ้นเลยวะ ปัญหาเยอะมากมาย ไหนจะหน้าที่การงาน ไหนจะต้องมารับมือกับเมียประสาทแดก ทั้งที่..” พี่ต้นพูดแต่พี่ต้นก็เงียบไป
ผมก็เห็นตั้งแต่ตอนที่พี่ต้นแต่งงานแล้วเหมือนพี่ต้นไม่มีความสุขเลย พี่ต้นแต่งานเพราะว่าพี่เกศรินทร์ตั้งครรภ์ในตอนนั้น ตอนนั้นพี่ต้นเพิ่งจะจบปริญญาโทใหม่ๆและพี่ต้นก็สอบติดปลัดได้แต่ได้ที่อำเภอหนึ่งที่เขาใหญ่ แต่ไม่นานพี่เกศรินทร์ก็ให้พี่ต้นทำเรื่องย้ายไปเชียงใหม่ เพราะว่าพ่อของเขาค้อนข้างเป็นผู้มีอิทธิพลที่เชียงใหม่ ผมรู้แค่นั้น
“ตกลงปัญหาของพี่กับเกศพี่เลือกจะจบมันแบบนี้เหรอ พ่อแม่เขาไม่โกรธพี่เอาเหรอ” พี่ก้องหันไปถามพี่ต้น พี่ต้นพยักหน้าเบาๆ
"ยังไงเขาก็เป็นแม่ของเอิร์ธนะพี่" ผมพูดผมแตะลงที่หลังมือพี่ชาย
“ก็คงจะโกรธ หรืออาจจะดีใจก็ได้นะเขาอยากให้พี่เลิกกับลูกสาวเขาจะตายไป ตอนนี้พี่ไปขัดผลประโยชน์กับเขาอยู่ เรื่องการเปิดโรงเลื่อยไม้ผิดกฏหมาย เขาลงทุนกับเพื่อนเขาและเรื่องนี้ด้วยแหละที่ทำให้พี่กับเกศเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้น"
“แต่เรื่องผมก็มีส่วนพี่ต้น เขมขอโทษนะพี่ต้น” ผมพูดขอโทษพี่ต้นอีกแล้ว พี่ต้นหันมาโอบกอดไหล่ผมกับพี่ก้อง
"เลิกโทษตัวเองเขม..มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น..และพี่ก็เลือกครอบครัวของเรา..เรามีกันแค่สามคนพี่น้องนะ พี่สัญญากับพ่อว่าพี่จะไม่ทิ้งน้องๆของพี่" พี่ต้นพูดผมดีใจไหมก็ดีใจนะแต่มันก็รู้สึกผิดในใจอยู่ดี พี่ต้นนั่งคุยกับพี่ก้องส่วนผมผมก็นั่งพลิกมือถือของผมไปมา
ผมไม่ใช่คอนักดื่มนิ ผมควรจะโทรหาณัฐกานต์ดีไหมนะ ปานนี้คงเมากับเพื่อนๆ ยิ่งวันเกิดพุดดิ้งคงจัดกันจนเมาเละนางทำแบบนี้ทุกปีอยู่แล้ว
ผมกดมือถือผมไปเรื่อยๆจนกระทั้งหยุดที่แอพพลิเคชั่นสีเขียวและผมก็กดเปิดอ่านข้อความของคริสโตเฟอร์อีกครั้ง อ่านแล้วมันก็ให้ความรู้สึกดีนะขึ้นมาทันที ผมอ่านไปยิ้มไปด้วย
"ตาต้น!!..มาเอาลูกไปนอนที่ห้องได้แล้วลูก..เอิร์ธหลับไปได้สักพักแล้วลูก..นี้ก็นอนผวาและร้องหาแต่พ่อตลอด..แม่จะเอานอนด้วยแต่คิดว่านอนกับต้นจะดีกว่า ตอนนี้เขาต้องการพ่อนะ" แม่เดินออกเข้ามาบอกพี่ต้น พี่ต้นพยักหน้า พี่ก้องก็ยักไหล่ว่าจะไปนอนแล้วเข่นกัน
“ผมก็จะไปนอนแล้วเหมือนกัน” ผมพูดก่อนที่จะผมจะขึ้นบ้านตามไป ผมก็ต้องเก็บทำทุกอย่างแม่จะได้ไม่ต้องตื่นมาทำตอนเช้า