ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมา แม็คนั่งหันหลังให้ผมอยู่บนเตียงเหมือนจะดูอะไรบางอย่าง ผมเอาผ้าขนหนูพาดคอไว้เดินไปหาแม็ค
“ดูอะไรอยู่เหรอ” แม็คสะดุ้งแล้วหันมาหาผม
“ทำไมไม่เช็ดผมให้ดีๆ”
“เดี๋ยวก็แห้งน่า ว่าแต่ดูอะไรอยู่อ่ะ” ผมชะโงกหน้าเพื่อมองว่าแม็คอ่านอะไร
“นั่งลงเลย” แม็คซ่อนของบางลงใต้ผ้าห่ม แล้วสั่งให้ผมนั่งลง ผมนั่งลงบนเตียงใหญ่แม็คหันมานั่งซ้อนข้างหลังผมคว้าเอาผ้าขนหนูไปเช็ดผม อ่าสบายจัง เหมือนตอนนั้นเลย
“เหมือนวันนั้นเลยนะที่แม็คเช็ดผมให้ ว่าแต่ตอนนั้นแม็คคิดไงว่าเช็ดผมให้เรา” ผมพูดยิ้มๆ
“อืม เราก็จำไม่ได้นะ รู้อีกทีก็ทำไปแล้ว” แม็คว่าเรียบๆ ผมยิ้มกว้าง นั่งนิ่งให้แม็คเช็ดผมจนแห้ง แต่แม็คก็ยังลูบผมเล่น ผมเอียงหัวอิงมือหนา
“ผมป่านุ่มมาก” แม็คพูดเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า “ผมสีนี้เหมาะกับป่ามากเลยนะ”
“เหรอ อเล็กซ์เป็นคนเลือกสีนี้” มือที่กำลังลูบผมหยุดนิ่ง ผมหันไปมองอย่างแปลกใจ หยุดทำไมกำลังสบายเลย
“อเล็กซ์นี่ใครเหรอเห็นไอ้เต้พูดถึงท่าทางจะสนิทกันมากนะ” น้ำเสียงเหมือนจะหงุดหงิด
“สนิทสิ อเล็กซ์คอยช่วยเหลือหลายๆอย่างพาไปเที่ยวตอนอยู่ที่โน่นเลยไม่เหงาเลยละ” ยิ่งพูดยิ่งคิดถึง อเล็กซ์เหมือนเพื่อน เหมือนพี่ชาย
“นี่เลิกพูดถึงได้แล้ว”
“โอ๊ยเจ็บนะ” ผมโวยวายเพราะแม็คจากที่ลูบอยู่ดีๆก็ขยี้หัวผมซะฟูหมด
“หึงรึไง” ผมถามเล่นๆ
“เออ หึง” ผมรีบหันไปมองแม็คที่ตอนนี้หันหน้าหนีผม ใบหูแดงระเรือ ทำเอาผมยิ้มกว้าง
“แม็คนี่.... แม็คเขินเหรอ เขินเค้าเหรออออ” ผมลากยืนหน้าไปใกล้แล้วยิ้มกว้างทำเสียงล้อ ไม่เคยเห็นแม็คเสียลุคมาก่อนเลย
“ล้อเข้าเดี๋ยวจะยิ้มไม่ออก ลงไปข้างล่างกันเถอะ” แม็คพูดขู่แต่ตอนนี้ผมกลับดูเหมือนเป็นอาการของคนกลบเกลือนความอายซะมากกว่า ผมขำแล้วเดินตามแม็คลงไปข้างล่าง พอดีกับมีคนที่กำลังเดินเข้าบ้านมา
“อ่าวพี่วันนี้กลับบ้านด้วยเหรอ” น้องชายแม็คเหรอ ตัวเท่าๆกันกับพี่ชายเลย มีความคล้ายคลึงกับแม็คอยู่หลายส่วน
“ไงมีนกลับมาแล้วเหรอ พอดีเลยพี่มีคนจะแนะนำให้รู้จัก” แม็คจับไหล่ดันผมให้มายืนอยู่ข้างหน้า
“ใครเหรอ” น้องมีนถามขณะกำลังถอดรองเท้าเงยหน้าขึ้นมามอง
“นี่ป่า แฟนพี่เอง” ผมหันไปมองแม็ค ทำไมบอกน้องแบบนั้น
“โอ้วคนนี้เหรอพี่สะใภ้ สวัสดีครับผมมีนนะครับ ได้ยินพี่แม็คพูดถึงมาตั้งนาน ได้เจอตัวจริงน่ารักกว่าที่พี่แม็คพูดเอาไว้ซะอีก” ผมรับไหว้มีนแทบไม่ทัน รอยยิ้มกว้างของมีนเหมือนกับแม็คเลย
“แม็คนินทาอะไรพี่ไว้บ้างละ”
“โหยพี่อย่าให้พูดถึงมาผมจะเล่าให้ฟัง” มินเดินมากอดคอผม
“เฮ้ยๆนั่นมันเกินไปแล้วนะ” แม็ครีบเดินมาแยกผมกับมีน
“ผมน้องพี่นะ”
“น้องกูก็หวงเว้ย” มีนโวยวายแข่งกันกับแม็ค เหมือนกันจริงๆ ผมแอบขำ นับตั้งแต่ที่เจอกันรู้สึกว่าแม็คจะเพิ่มระดับความหวงขึ้นเรื่อยๆ
แม็คเดินเข้าครัวไปปล่อยให้ผมนั่งคุยกับมีนที่ตอนนี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย มีนคุยเก่งมาก แถมนินทาพี่ตัวเองให้ผมฟังผมได้รู้อะไรหลายๆอย่างเลย ช่วงที่ผมอยู่เมืองนอก แม็คเป็นยังไง
“พี่ป่ารู้ไหม ตอนที่พี่แม็คบอกว่ามีคนที่ชอบแล้วตอนนั้นประมาณพี่แม็คอยู่ปีสามนี่ละมั้ง พ่อพาไปเจอลูกสาวเพื่อนพ่อ พี่ท่านประกาศกลางโต๊ะดินเนอร์ว่ามีแฟนแล้ว แถมยังบอกว่าเป็นผุ้ชาย พูดจบพี่แม็คก็เดินหนีไปเลย จากนั้นก็ทะเลาะกันจนไม่คุยกันเลย” ผมนิ่งอึ้งกับสิ่งที่มีนบอก แม็คบอกพ่ออย่างนั้นเลยเหรอ
“พอผมรู้ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่หรอกนะ แต่บรรยากาศในบ้านนี่อย่างกับสงครามเย็นจนผมทนไม่ไหวระเบิดออกฮ่าๆๆๆ คิดแล้วก็ขำ แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้วละ” มีนยิ้ม แต่ทำไมผมรู้สึกหนักใจจริงๆ ที่จะเจอหน้าคุณพ่อ
“พี่ไม่ต้องกังวลไปหรอก ยิ้มสิทำหน้าเครียดแบบนี้ไอ้พี่บ้ามันได้ฆ่าผมแน่โทษฐานทำพี่ไม่สบายใจ” มีนยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่เหมือนกับแม็คทำให้ผมยิ้มตามได้ไม่ยาก
“คุยอะไรกันอยู่หืม ท่าทางน่าสนุกนะ เดี๋ยวไปทานข้าวกัน มีนไปปลุกดารินหน่อย” แม็คเดินมานั่งข้างๆผมแล้วคว้ามือผมไปลูบเล่น เดี๋ยวนี้รู้สึกแต๊ะอั๋งผมบ่อยจริงๆนะ นิดๆหน่อยก็เอา แทะโน่นเล็มนี่ตลอดเลยนะ
“ใช่ซี่ ผมหมดประโยชน์แล้วก็ไล่ มีแฟนก็ลืมน้อง” มินทำหน้าเศร้า
“ไปดีๆหรือจะให้เตะ” แม็คทำหน้าโหด มีนทำหน้ากวนก่อนจะขึ้นไปปลุกน้องดารีน แม็คจูงมือผมไปที่โต๊ะทานข้าว รอคุณพ่อกลับมาเห็นว่ากำลังจะมาถึงแล้ว อ่าทำไมผมตื่นเต้นอย่างนี้นะ
“ม๊าใจเต้นแรงจังค่ะ” ดารินที่นั่งบนตักผมพูดขึ้น
“อ่า ดาริน อาว่า ดารินเรียกอาป่าดีกว่านะคะ” ทำไมจำแต่สิ่งบ้าๆบอๆที่แม็คสอนได้ละเนี้ย
“ไม่เอ๊า ดารินจะเรียกอาป่าว่าม๊า” ผมแทบจะเอาหัวโขกโต๊ะทานข้าว
“ฮ่าๆๆ ดารินไฮไฟว์กับอาที ฮ่าๆๆๆๆๆ” มีนหัวเราะดังลั่นแล้วยืนมือมาไฮไฟว์กับดาริน เหมือนกันจริงๆสองคนนี้ ดารินนี่ก็อีกคน
“หัวเราะอะไรกันดังไปถึงหน้าบ้านเลย” เสียงเคร่งขรึมดัง
“อ่าวกลับมาแล้วเหรอครับพ่อ” ผมหันไปมองคนที่เดินเข้ามา
“ถ้าไม่กลับแกจะเห็นฉันเหรอมีน” คนที่อยู่ตรงหน้าผมดูเหมือนจะดูหนุ่มและดูภูมิฐานกว่าที่ผมคิดไว้อีก คุณพ่อวางสูทลงเก้าอี้ก่อนที่จะรูดไทลง
“ว่าไงตัวแสบหืม มาให้ปู่หอมที” คุณพ่ออุ้มดารินจากตักผมแล้วฟัดแก้มดาริน
“สวัสดีครับ” ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะยกมือไหว้
“อืม สวัสดี ป่าใช่ไหม” เสียงที่ติดจะขรึมทำให้ผมเกร็งตัวโดยทันที
“ครับ”
“อืมหน้าตาไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลยนะ”
“เอ่อแล้วที่คิดไว้เป็นยังไงเหรอครับ” ผมถามกลับ
“อืมน่ารักกว่าที่คิดไว้อีก” ผมอ้าปากหวอ เพราะไม่คิดว่าคุณพ่อจะพูดแบบนี้ พอเห็นผมทำหน้าเหวอ คุณพ่อก็ยิ้ม รู้แล้วว่าสองคนนี้ได้รอยยิ้มนี้มาจากใคร พิมพ์เดียวกันชัดๆ
“พ่ออย่าแกล้งแฟนผม เป็นไงละ น่ารักอย่างที่ผมเล่าไหม”
“น่ารักจนไม่น่ามาคบกับแก แถมยังโง่ปล่อยให้เค้าหนีไปอยู่เมืองนอก” คุณพ่อยักคิ้วเท่ๆใส่แม็ค โอ๊ยคุณพ่อเท่มากเลยอ่ะ
“นี่ๆทำตาเคลื้มใส่พ่อทำไม”
“นี่พอๆกินข้าวเถอะ” คุณพ่อนั่งลงซักพักแม่บ้านก็ยกอาหารเข้ามา การทานอาหารมื้อนี้เรียกได้ว่าเกินความคาดหมายของผม บรรยากาศสบายๆมีเสียงหัวเราะตลอดเพราะคุณพ่อมักจะแหย่ผมให้แม็คโวยวาย โดยมีกองเชียร์คือดารินที่หัวเราะร่า หลังจากทานข้าวเสร็จก็พากันมานั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น
“นี่แกจะวอแวป่าอะไรขนาดนั้นห๊ะ” คุณพ่อปรายตามาว่าแม็ค เพราะแม็คดูเฉยๆกับนอนหนุนตักผมแล้วคว้ามือไปจับ ถึงแม็คไม่อายแต่ผมกับอายคุณพ่อกับน้องมีน
“ทำไมพ่อผมพอใจอ่ะ”
“มึงนี่นะ พ่อขึ้นไปนอนก่อนนะป่า ตามสบายนะ” คุณพ่อยิ้มก่อนจะลุกเดินขึ้นห้อง
“ครับคุณพ่อ” ผมยิ้มกว้าง
“นี่ๆพอได้แล้ว”
“แม็คเป็นอะไรของนาย”
“หึงมีไรไหม”
“นั่นพ่อนะแม็ค”
“ไม่รู้ไม่สน” ผมแทบจะหมดคำพูดของแม็คอะไรจะเวอร์ขนาดนั้น มีนส่ายหน้าเซ็งๆก่อนจะขอตัวพาดารินไปนอน ปล่อยให้ผมกับแม็คอยู่กันสองคน แม็คไม่ว่าอะไรแต่ลูบมือผมเล่นไปเรื่อย
“ป่า มาอยู่ด้วยกันเถอะ”
“ห๊ะ”
“นะ อยู่ด้วยกันกับเราเถอะ เราไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว” พี่ท่านจะรุกผมไปถึงไหน
“นี่ถามจริง ชวนเรามาอยู่ด้วยนี่ขอแม่เราหรือยัง” ผมว่าขำๆ ถ้าจะให้มาอยู่ด้วยกันจริงๆผมคงได้เขินตายเข้าซักวัน
“เฮ้ยจริงสิ ขอเบอร์แม่หน่อยซิ เราจะโทรไป” ผมอ้าปากค้าง
“แม็คนายจะเร็วไปแล้วนะ นี่ตกลงขอคบเราหรือขอชื้อขายกันแน่ห๊ะ” ผมว่าด้วยความโมโห แม็ครีบเหมือนเล่นขายของนั่นทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด แถมยังรุกหนักจนผมตั้งตัวไม่ทัน
“เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะป่า”
“แม็คเราไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ เราดีใจนะแม็คที่แม็คมาขอคบ แม็คเรายังชอบแม็คไม่เคยเปลี่ยน เราอยากรู้จักแม็คให้มากกว่านี้ แม็คไม่เหมือนคนที่อยู่มอปลายคนที่เราเคยรู้จัก”
“ป่า เราไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะ เราขอโทษ”
“แม็คเราขอให้เราเรียนรู้กันก่อนนะ”
“โถก็นี่ไงอยู่ด้วยกันก็เท่ากับเรียนรู้กันไปด้วย นะป่านะครับ” สายตาเว้าวอนที่ส่งออกมาทำให้ผมพูดไม่ออก คนอะไรคิดเองเออเองตลอด
“นะ นะครับที่รัก”
ฉ่า เหมือนระบบความคิดผมพังทลาย คำว่าที่รักกับรอยยิ้มที่มีสเนห์ทำเอาผมหน้าร้อนฉ่า
“ใครที่รงที่รัก อย่ามามั่วน่า” ผมหันหน้านีแม็คที่เอาแต่จ้องหน้าผม แล้วเราก็ปล่อยให้ความเงียบเดินไป
“ดึกแล้วขึ้นนอนกันดีกว่านะ”แม็คลุกขึ้นดึงตัวผมตัวปลิวตามขึ้นห้องไป พอถึงห้องแม็คเข้าห้องน้ำ ผมนั่งนิ่งๆอยู่ที่เตียง ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าแม็คซ่อนอะไรไว้ใต้หมอนผมขึ้นไปค้นใต้หมอน สมุด สมุดบันทึกเล่มนี้ทำไมมันดูคุ้นๆนะ ผมเปิดดูลายมือก็เห็นลายมือที่คุ้นตา ไม่คุ้นได้ยังไงละ นี่มันสมุดบันทึกของผมนี่หน่า ทำไมมันถึงอยู่กับแม็คได้ ผมเปิดไล่ที่ละหน้า จนถึงวันสุดท้ายที่ทะเล ซึ่งมันควรจะเป็นเช่นนั้น แต่หน้าถัดไปกับมีลายมือที่ผมไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ เขียนอยู่เต็มไปหมด ผมไล่อ่านทีละตัวอักษรยิ่งอ่านยิ่งทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เรื่องราวที่แม็คเขียนไว้ ทั้งความรู้สึกทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ผมค่อยๆอ่านไปทีละหน้า ทุกตัวอักษร คำว่ารัก และคิดถึง ขอโทษ ผมจดจำทุกๆคำ
“ยังไม่ง่วงเหรอ” แม็คนั่งลงข้างๆผมตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ผมหันไปมองแม็คที่ดูจะตกใจมากที่เห็นผมร้องไห้ พอผมกลับมาทำไมผมถึงร้องไห้บ่อยจริงๆ กลายเป็นคนเจ้าน้ำตาไปเสียแล้ว
“ป่า ป่าเป็นอะไรร้องไห้ทำไมครับ” ผมโผเข้าไปกอดแม็คที่ยังงงอยู่ แต่ก็ยังกอดตอบผม
“เห็นจนได้สินะ”
ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราสองคนมีความรู้สึกไม่ต่างกัน
“ขอบคุณนะแม็ค” ผมขอบคุณที่รอผม แม็คกอดผมแน่นขึ้น
“พอแล้วร้องมากปวดหัว ไปล้างหน้าล้างตาดีกว่านะครับคนดี” ผมพยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา ผมกลับออกมาแม็คก็นอนเล่นอยู่บนเตียง ผมสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มแม็คพลิกตัวมานอนมองหน้ากัน
“ฝันดีนะครับ” แตะริมฝีปากเบาๆที่หน้าผาก ผมยิ้มกว้าง
“ฝันดีเหมือนกันนะ” ผมขยับเข้าไปซุกตัวใกล้ๆแม็ค ก่อนจะหลับตาลง คืนนี้ผมคงฝันดีที่สุดแน่ๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮอลลลกว่าจะได้ลง คนไข้มาเยอะเกิน 5555555
ปั่นสุดชีวิต ใกล้แล้วนะ ใกล้จบแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ใครเม้นเค้าบวกเป็ดให้ทุกคนแล้วนะ
รักนะ