"ตอนที่ 12"
ทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในห้องของลุงผม ผมก็เห็นพี่วิทย์นั่งอยู่ที่โซฟาข้าง ๆเตียงของลุงผม
พอพี่วิทย์เห็นผมก็ยิ้มให้แล้วกำลังจะลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อเดินเข้ามาหาผม แต่พอพี่วิทย์เห็นบูมซึ่งเดินตามหลังเข้ามา
พี่วิทย์ก็หุบยิ้มในทันที แล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิม ผมสังเกตเห็นว่าหน้าพี่วิทย์ดูเศร้ามากๆ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเลยต้องปล่อยเลยตามเลย
ผมเดินเข้าไปหาลุงผมที่กำลังนอนอยู่บนเตียงเพื่อสวัสดีทักทาย คุณลุงและคุณป้าผม พร้อมด้วยแนะนำตัวบูมให้คุณลุงคุณป้าผมรู้จัก
“คุณลุง คุณป้าครับ นี่บูมเพื่อนผมครับ เค้าจะไปอยู่ที่เชียงรายเป็นเพื่อนผมครับ”ผมแนะนำตัวบูมอย่างเป็นทางการกับคุณลุงคุณป้าผม
“สวัสดีครับ คุณลุงคุณป้า ผมบูมครับ รบกวนด้วยนะครับ”บูมแนะนำตัวเองด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมมาก ๆ จนผมไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยว่า บูมจะทำได้ขนาดนี้
“เอ่อ ดีแล้วล่ะ จะได้ไปเป็นเพื่อนกัน ตาโยจะได้ไม่เหงา ลุงฝากบูมดูแลเจ้าโยด้วยนะ”คุณลุงผมพูดกับบูม
“จ๊ะ ดีแล้วล่ะ ป้าก็จะได้หมดห่วง”ป้ายิ้มอย่างใจดี
“ครับ ผมจะดูแลโยอย่างดีเลยครับ” บูมพูดยิ้ม ๆ แล้วหันไปมองพี่วิทย์ที่ตอนนี้หน้าเริ่มที่จะบูดแล้ว
“เออ แล้วโยแนะนำเพื่อนเราให้ตาวิทย์รู้จักหรือยังล่ะ”คุณป้าหันมาถามผม
“เอ่อ คือ..............”ยังไม่ทันที่ผมจะตอบเลย พี่วิทย์ก็พูดสวนขึ้นมาทันที
“ผมรู้จักน้องเค้าแล้วครับคุณป้า รู้จักดีด้วยตอนไปที่กรุงเทพก็เคยเจอครับ”พี่วิทย์พูดแบบไม่ค่อยพอใจแต่พยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
“อ้าวหรอจ๊ะ ดีเลยจะได้มีเพื่อนคุยกันหลาย ๆ คน”ป้าผมพูดโดยที่ไม่รู้เลยว่าผมรู้สึกอึดอัดขนาดไหน
“แล้ววันนี้คุณลุงเป็นอย่างไรบ้างครับ ผมว่าคุณลุงอาการดีขึ้นมากแล้วนะครับ คงใกล้จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”ผมรีบเปลี่ยนเรื่องพูดก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้
“อืมมม ลุงก็ว่าจะออกไปพักที่บ้านแล้วล่ะ แต่ป้าเราน่ะสิ ไม่ยอมให้ลุงไป ลุงละเบื่อไอ้ห้องสี่เหลี่ยมนี่จะแย่แล้ว อยากจะรีบไปซิ่งกับหลานเต็มที”คุณลุงบ่น
“หยุดเลย อาการก็ยังไม่ได้เป็นปกติแล้วจะออกจากโรงพยาบาลได้ไง ถ้าพี่เป็นอะไรไปอีกอ้อจะทำยังไง”คุณป้าหันมาว่าคุณลุงซึ่งทำหน้าจ๋อย ๆ
“พี่ไม่เป็นอะไรแล้ว อ้อก็คิดมาก หรือว่าไม่อยากให้พี่ไปซิ่งกับตาโย...โยดูสิลูก ลุงแก่จนหัวงอกแล้วป้าเรายังขี้หึงไม่เลิกอีก”คุณลุงหันมาพูดกับผมเพื่อหาพวก
“ใครหึง นี่พี่ก็เพิ่งจะดีขึ้นไม่กี่วันอยู่ต่อสักอาทิตย์เถอะ ยังไงรีสอร์ตก็มีโยกับตาวิทย์ดูแลแทนได้”ป้าผมอธิบาย
“เออ พูดถึงตาวิทย์ แล้วพ่อเราเป็นไงบ้างล่ะตาวิทย์”คุณลุงหันไปถามพี่วิทย์ที่กำลังจ้องผมกับบูมอยู่
“เอ่อ ก็ไม่เป็นไรแล้วครับ ผมให้ท่านพักผ่อนอยู่กับบ้าน อาทิตย์หน้าก็คงจะทำงานที่รีสอร์ตเหมือนเดิมได้แล้วครับ”พี่วิทย์ละสายตาหันมาคุยกับลุงผม
“เออ ดีแล้วละ ยังไงลุงก็ฝากตาวิทย์ดูแลโยกับเพื่อนด้วยนะ มีวิทย์อยู่ลุงก็เบาใจ”คุณลุงพูด
“ครับ ผมจะดูแลอย่างดี ไม่ให้คลาดสายตาเลยครับ ถ้ามีใครมาวุ่นวายกับโย ผมจะจัดการเอง”พี่วิทย์พูดจบประโยคก็หันไปมองบูมที่ตอนนี้เริ่มหน้าตึง ๆ แล้ว
“คงจะไม่มีอะไรหรอกครับ คุณลุง ถ้าอย่างนั้นผมขอลาไปที่รีสอร์ตเลยละกันนะครับเดี๋ยวจะไปถึงดึกเกินไป”ผมพูดตัดบทและขอลากลับเพราะท่าทางจะไม่ดีแล้ว
“อืมมม ป้าก็ว่าอย่างนั้นแหละจ๊ะ แล้วนี่ตาวิทย์จะขับรถไปเองหรือว่าให้คนขับรถของน้าไปส่งดีจ๊ะ”ป้าผมเอ่ยถาม
“ผมขับรถมาครับคุณป้า เดี๋ยวผมขับรถไปเอง”พี่วิทย์พูด
“อืมมม เอาอย่างงี้ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมจะขับรถไปอีกคันนึงเผื่อมีอะไรฉุกเฉิน จะได้ไม่ต้องรบกวนพี่วิทย์ขับรถไปรับไปส่งบ่อยๆ”บูมพูดขึ้นมา
“อ้าวแล้วเราเอารถมาหรอจ๊ะ”ป้าผมถามอย่างสงสัย
“เอามาครับ”บูมตอบป้าผมแล้วหันไปยักคิ้วใส่พี่วิทย์ ผมมองบูมด้วยความงุนงง ว่าบูมไปเอารถมาจากที่ไหน
“อืมมม งั้นก็ตามใจนะจ๊ะ แล้วเราล่ะว่าไงตาโย เตรียมตัวหรือยังจ๊ะที่จะมาทำรีสอร์ตแทนลุง นี่เป็นการเตรียมตัวก่อนนะ ก่อนที่จะต้องมาทำจริง ๆ อีก สามปีข้างหน้า”ป้าผมหันมาพูดกับผม
“ครับๆ ผมจะลองดู”ผมพูดเสียงอ่อย ๆ เพราะไม่ค่อยอยากจะทำงานที่รีสอร์ตนัก พลางคิดในใจว่านี่ขนาดเริ่มต้นบูมกับพี่วิทย์ยังงัดกันขนาดนี้ มีหวังไปถึงเชียงราย รีสอร์ตได้ลุกเป็นไฟแน่
“แต่ผมว่าไปรถคันเดียวกันดีกว่านะครับ เพราะบูมไม่ชำนาญเส้นทางเดี๋ยวเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ผมไม่ไว้ใจ ยิ่งต้องขึ้นไปบนเขาด้วย”พี่วิทย์พูดแทรกขึ้นมาหลังจากนิ่งไปนาน
“ไม่เป็นไรครับพี่วิทย์ ผมชอบไปแข่งพวกแรลลี่อยู่แล้วแค่นี้สบายมาก จริงไหมโย”บูมสวนกลับไปพลางหันมาที่ผมเพื่อหาพวก
“เอ่อออ คือ เอายังไงก็ได้”ผมพูดไม่ออกเพราะสายตาที่ดุดันของบูมกำลังจ้องผมอยู่ “แต่ว่า ไปสองคันก็ได้ครับ”ในที่สุดผมก็ต้องพูดออกมา
“ตามใจน้องโยนะ แต่ถ้าน้องโยเป็นอะไรขึ้นมาละก็ พี่ไม่ปล่อยเราไว้แน่”พี่วิทย์หันไปมองบูมอย่างเคียดแค้น
ส่วนคุณลุงกับคุณป้าผมก็คงจะงง ๆ กับท่าทีและอาการของเราทั้งสามคนจนผมต้องรีบตัดบท
“งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า”ผมรีบชิงตัดบทแล้วเดินนำออกไปเลย
หลังจากที่ผมเดินออกมา พี่วิทย์ก็รีบร่ำลาป้ากับลุงผมแล้วเดินตามออกมาปล่อยให้บูมซึ่งกำลังเก็บของอยู่อย่างรีบร้อนเดินตามมา
“เดี๋ยวน้องโย ทำไมน้องโยต้องเอามัน เอ่อ บูมไปที่เชียงรายกับพวกเราด้วยล่ะ น้องโยก็รู้ว่าพี่ไม่ค่อยชอบมัน”พี่วิทย์พูดกับผมหลังจากที่ออกมาจากห้องของลุงผม
“คือว่า................”ผมกำลังจะตอบ แต่บูมซึ่งเดินตามออกมาก็พูดสวนออกมาแทน
“ก็คนมันเป็นแฟนกัน จะไปฮันนีมูนด้วยกันมันผิดตรงไหน อิจฉาละสิ”บูมเริ่มก่อนเลย
“พี่ไม่ได้คุยกับบูม พี่คุยกับโย”พี่วิทย์พยายามพูดสุภาพกับบูม แต่ก็คงจะไม่เป็นผล
“มันก็เหมือนกันแหละพี่ เพราะผมกับโยเป็นคนๆเดียวกันแล้ว จะคุยกับใครก็เหมือนกันจริงไหมครับโย”บูมสวนกลับไปพลางแกล้งพูดอ้อนผมเพื่อให้พี่วิทย์อิจฉา
“คือว่า..............เรารีบไปกันดีกว่านะ เดี๋ยวจะดึก”ผมพูดเพราะรู้สึกอึดอัดมากในตอนนี้
“น้องโยนั่งรถไปกับพี่นะ”พี่วิทย์ชวน
“ไม่ได้ โยต้องนั่งไปกับผม พี่นี่ก็แปลกคน แฟนกันก็ต้องไปด้วยกันสิ”บูมรีบปฏิเสธแทนผม
“ตั้งแต่ที่พูดมา น้องโยยังไม่เคยพูดเลยนะ ว่านายเป็นแฟนกับน้องโย นายฝันไปคนเดียวหรือเปล่า ไปเถอะน้องโย”พี่วิทย์พูดกับบูมและหันมาจูงมือผม
“เอ่อ คือ พี่วิทย์ไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมไปกับบูมเองครับ”ผมสะบัดมืออย่างนิ่มนวลเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียหน้ามากนัก แต่กระนั้น พี่วิทย์ก็เริ่มทำสีหน้าสลดและเศร้าลง
“พี่เข้าใจแล้วล่ะ พี่จะไปรอที่รีสอร์ตนะ”พี่วิทย์ก้มหน้าแล้วเดินจากไป
“ดี รีบไปเลยไป สะใจจริง ๆ ขอบใจมากนะจ๊ะที่รัก”บูมพูดกับผมพลางทำหน้าประจบ
“พอเลย พี่วิทย์เค้าทำอะไรให้ทำไมต้องไปทำกับเค้าแบบนี้ด้วยล่ะ แล้วนี่จะเอารถที่ไหนไป”ผมพูดพลางเดินไปเรื่อย ๆ
“ก็ ก็มันอยากมาจีบแฟนคนอื่นทำไมล่ะ หาแฟนเองไม่ได้หรอไง .... ส่วนเรื่องรถ สบายมาก เดี๋ยวเราออกไปหาเช่ารถกันไง แค่นี้จิ๊บจ๊อย”บูมพูดพลางจูงมือผมเดินไปตลอดทาง
“เฮ้ออออ”ผมได้แต่ถอนหายใจ แต่ก็รู้สึกดีใจและอบอุ่นอย่างประหลาดที่บูมรักผมมากขนาดนี้ เพราะทีแรกผมนึกว่าผมแอบรักเค้าอยู่ฝ่ายเดียว
เราเดินออกมาจากโรงพยาบาล แล้วก็เดินมาหยุดถามยามที่อยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลถึงบริษัทรถเช่า ว่าอยู่ที่ไหน
ซึ่งพี่ยามก็ใจดีพาเดินออกมาชี้บริษัทรถเช่าบริษัทนึง ซึ่งอยู่เยื้อง ๆกับ โรงพยาบาลพอดี เราเลยเดินไปยังบริษัทรถเช่าแห่งนั้นเพื่อติดต่อขอเช่ารถกันไป
หลังจากที่เราสองคนเลือกรถ และกำหนดจำนวนวัน จ่ายตังค์แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ยื่นกุญแจให้บูม แล้วเราก็เดินออกมาเพื่อรับรถและขับไปที่รีสอร์ต
“เดี๋ยวบูม เรายังไม่โทรไปหาเพื่อนเราเลยป่านนี้คงเป็นห่วงเราแย่แล้ว เดี๋ยวเราโทรศัพท์แป๊ปนึงนะ”ผมพูดกับบูมขณะกำลังจะขึ้นไปบนรถ
“เฮ้ย ออฟหรอ เดี๋ยวเราไม่อยู่อาทิตย์นึงนะ เราอยู่เชียงราย ต้องมาช่วยงานที่รีสอร์ตญาติเรา ยังไงฝากจดเล็กเชอร์ด้วยนะ”ผมพูดโทรศัพท์กับออฟขณะนั่งอยู่บนรถกับบูม
“เดี๋ยวแยกนี้ไปทางไหนอ่ะโย”บูมถามขณะขับรถถึงทางแยก
“ตรงไปเรื่อย ๆ เลย จนกว่าจะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา”ผมพูดกับบูมพลางเอามือปิดโทรศัพท์
“นี่โยคุยกับใครน่ะ เสียงคุ้น ๆ”ออฟถามหลังจากได้ยินเสียงบูม
“เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไร คนขับรถน่ะ”ผมรีบปฏิเสธ แล้วหันไปมองบูมที่ยิ้ม ๆ อยู่ “เออ งั้นแค่นี้นะ เราจะบอกทางต่อแล้วเดี๋ยวหลง แล้วเจอกันนะ”ผมพูดพลางกดปิดโทรศัพท์
“ว่าไงครับคุณโย จะให้คนขับรถคนนี้ขับรถไปทางไหนก็เชิญสั่งได้เลยนะครับ”บูมพูดแซวยิ้ม ๆ
“ดีมาก ถ้าอย่างงั้น.......”ผมพูดด้วยสายตาเจ้าเล่ห์พลางจี้เอวบูม “นี่แน่ะแซวดีนัก”ผมแหย่บูม
“เฮ้ย นี่ขับรถอยู่เดี๋ยวก็รถคว่ำหรอก”บูมพูดพลางกระเถิบตัวหนีและบิดเอวไปอีกฝั่ง
“555 บ้าจี้แสดงว่ารักแฟนนะเนี่ย ดี ๆ ๆ”ผมพูดยิ้ม ๆ แล้วพยักหน้าขึ้นลง
“โหหห คนเราเข้าข้างตัวเองชะมัดเลย”บูมพูด
“ใครว่าเข้าข้างตัวเอง ก็จริงหรือเปล่าล่ะ”ผมบอกหน้าตาเฉย
“จริงก็ได้คร๊าบบบบบบบ ถ้าไม่รักแฟนแล้วจะให้บูมไปรักใครที่ไหน”บูมพูดยิ้ม ๆ
“......................”ผมยิ้มเขิน ๆ
แล้วเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะพอดี หลังจากที่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอผมเห็นเบอร์ก็หันไปมองหน้าบูม เพราะเป็นเบอร์ของพี่วิทย์
จนบูมเริ่มสงสัยว่าใครโทรมาแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ครับ มีอะไรครับพี่”ผมกดรับสายแต่ก็พยายามเลี่ยงชื่อพี่วิทย์เพื่อไม่ให้บูมรู้
“น้องโยครับ เดี๋ยวน้องโยล่วงหน้าไปรอที่รีสอร์ตก่อนเลยนะครับ พอดีพี่จะไปรับไอ้จอห์นไปที่รีสอร์ตด้วย”พี่วิทย์พูดอย่างมีเลศนัย
“เอ่อ ครับพี่”ผมรับคำงง ๆ ว่าพี่วิทย์เอาพี่จอห์นไปด้วยทำไม
“งั้นเดี๋ยวเจอกันนะครับ บายครับ”พี่วิทย์พูดจบก็วางโทรศัพท์
“ใครโทรมาอ่ะโย อย่าบอกนะว่าไอ้พี่วิทย์โทรมา”บูมพูดด้วยน้ำเสียงโมโหนิด ๆ
“อืมมม พอดีพี่เค้าโทรมาบอกว่าจะไปรับพี่จอห์นคนที่เราเจอเมื่อเช้าไปเชียงรายด้วยน่ะ”ผมตอบไปตามความจริงแต่ในใจรู้สึกกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
“เชอะ แม่งสู้ไม่ได้ ก็ไปเอาพวกมา เราไม่กลัวมันหรอก จะมาซะกี่คนเราก็ไม่สน”บูมเค้นเสียงออกมา
“อย่าไปสนใจเลยบูม ยังไงเราก็ไม่ได้สนใจเค้าหรอก”ผมพูดเตือน ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่อง
“ก็ลองไปสนใจสิ น่าดู”บูมหันมามองผมและหันกลับไปขับรถ
“ทำไมบูมขี้หึงแบบนี้อ่ะ ทีแรกเรานึกว่าบูมจะเฉย ๆ ซะอีก”ผมแกล้งแซวเล่น
“ก็ไม่ได้จะขี้หึงหรอก พอดีแฟนเราดันมีคนมาสนใจเยอะ อุตส่าห์เลือกที่หน้าตาไม่ดีแล้วนะ ซวยจริงๆ”ดูสิครับ ดูบูมพูด พอบูมพูดเสร็จก็หัวเราะออกมา อย่างงี้มันน่า.....นัก
“หน้าตาไม่ดีแล้วมาเลือกทำไม ไปหาคนที่หน้าตาดี ๆ ไป”ผมเริ่มงอน
“อ่ะนะ ล้อเล่นนิดเดียวเอง ถึงหน้าตาไม่ดีแต่จะรักใครจะทำไม”บูมพูดเป็นจริงเป็นจังจนผมรู้สึกเขิน
“พูดใหม่อีกทีซิ”ผมแกล้งทำไม่ได้ยิน
“เรา.....รัก.....โย ดังพอไหม”บูมตะโกนออกมา
“55555 อยู่แค่สองคน ทำไมต้องตะโกนด้วย”จากนั้นเราก็หัวเราะพร้อมกัน
หลังจากที่รถของเรามาถึงที่รีสอร์ตของคุณลุงคุณป้าผมที่จังหวัดเชียงราย ผมก็พาบูมเข้าไปเก็บของโดยใช้บ้านพักรับรองของรีสอร์ตซึ่งเป็นบังกะโลหลังนึงอยู่ติดกับน้ำตกเป็นที่พักชั่วคราว
บรรยากาศยามค่ำคืนของวันนี้ดูสวยงามกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะผมมากับคนที่ผมรักก็เป็นได้
เราเดินเอาของไปเก็บด้วยกันที่บ้านพักรับรองซึ่งในหนึ่งหลังจะมีสองห้องสามารถเดินไปมาหาสู่กันได้เนื่องจากมีประตูเชื่อมต่อกันด้านในที่เค้าเรียกว่า connecting room
บูมแสดงท่าทีอิดออดนิดหน่อยเหมือนเด็ก ๆ เพราะไม่ยอมไปนอนอีกห้องนึงทั้ง ๆ ที่สามารถเดินผ่านไปมาได้อยู่แล้ว
“ไหนบอกว่าจะให้นอนห้องเดียวกันไง นอนด้วยคนนะครับ นะ นะ นะ เรากลัวผีง่ะ”บูมอ้อน
“555 ไม่เอาหรอก ผีมีที่ไหน อย่างอแงดิ”ผมไม่ยอมอ่อนข้อให้
“คนเป็นแฟนกันก็ต้องนอนด้วยกันดิ เราขี้หนาวอ่ะ”บูมยังคงดื้อ
“หนาวก็ห่มผ้าสิ เดี๋ยวเราขอมาเพิ่มให้”ผมพูดอย่างรู้ทัน
“คนอะไรใจร้ายว่ะ นะ นะ นะ ให้นอนด้วยนะ แค่คืนเดียวก็พอ”บูมอ้อน
“แน่ใจหรือว่าจะได้นอนน่ะ”ผมพูดอย่างรู้ทัน
“อ้าวก็จะได้ไม่ต้องไปโกหกใครเค้าไง เรื่องที่เป็นมากกว่าแฟนน่ะ”บูมเผยความลับออกมาแล้ว
“555 เห็นไหมล่ะที่แท้ก็.........”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดต่อบูมก็เดินเข้ามาโอบกอดผมทางด้านหลัง
“นะครับ คนดี ขอบูมนอนด้วยคนนะ คนอุตส่าห์นั่งเครื่องมาจากกรุงเทพฯ ขอรางวัลหน่อยดิ”บูมพูดข้าง ๆ หูผม
“...............”ผมเริ่มเขินและขนลุก
“ว่าไงอ่ะครับ นะ นะ โยคนดี ขอบูมนอนกอดสักคืนนะ จะได้หายคิดถึงไง”บูมพูดและจูบลงที่แก้มของผม
“เราก็อยากให้บูมมานอนกับเรานะ แต่เราว่ามันยังไม่ถึงเวลา ขอเราพร้อมกว่านี้ก่อนได้ไหม”ผมพูดไปอย่างตรึกตรองแล้วว่า อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มักจะไม่มีคุณค่าเสมอ
“ทำไม หรือว่ากลัวไอ้พี่วิทย์กับไอ้คนหัวแดง(พี่จอห์น)มันจะรู้”บูมปล่อยตัวผมแล้วหันตัวผมกลับมาเพื่อคุย
“ทำไมต้องไปว่าคนอื่นด้วยนะ เราบอกว่าเราขอเวลาหน่อย พวกเราเพิ่งเริ่มจะคบกันเองนะ”ผมพยายามอธิบาย
“เพิ่งคบกันแล้วทำไม หรือว่าโยกำลังคิดนอกใจเรา อยากมีคนอื่นใช่ไหมล่ะ ใครมันเป็นใคร”บูมเริ่มมีโมโหอีกแล้ว
“ก็บูมเป็นแบบนี้ไง เราถึงได้ทะเลาะกัน เราบอกแล้วว่าเราขอเวลาหน่อย ไม่ได้เหรอ”ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
“เราก็เป็นขอเราอย่างงี้แหละจะทำไม ใครใช้ให้โยมีคนมาจีบเยอะล่ะ”บูมเริ่มงอน
“เราก็ไม่ได้อยากให้มีใครมาจีบเรา เราไม่เคยมองคนอื่นเลยบูมก็น่าจะรู้”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจแล้ว
“ใครจะไปรู้ ถ้าโยไม่เล่นด้วยทำไมไม่บอกไอ้พวกนั้นมันไปว่า เรามีอะไรกันและเป็นแฟนกัน”บูมพูดต่อ
“ก็เราบอกแล้วไง ทำไมเราต้องเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าเรามีอะไรกันทั้ง ๆ ที่เราก็ยังไม่ได้มีอะไรกัน
มันเป็นเรื่องที่สมควรพูดเหรอ ไม่จำเป็นเลย พูดเพื่อให้มันได้อะไรขึ้นมาหรอ”ผมเริ่มไม่พอใจแล้วครับ
“ถ้าไม่พูดแบบนั้นพวกมันก็ไม่ยอมเลิกซะที”บูมยังคงเถียงต่อ
“โอเค เราจะไปตะโกนบอกทุกคนเลยดีไหมว่า พวกเรามีอะไรกัน”ผมพูดประชด
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ แค่บอกไอ้พวกนั้นก็พอ”บูมเริ่มอ่อนลง
“เราไม่จำเป็นต้องบอกใครหรอกนะ ว่าเรามีอะไรกัน ทำไมบูมถึงไม่เชื่อใจเราล่ะ เราไม่เคยคิดนอกใจบูมเลยนะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
“เอ่อ เราแค่อยากให้พวกมันไปพ้น ๆ จากเราสองคนสักที แค่นี้เอง”บูมเริ่มสำนึกผิด
“เราว่าอีกหน่อยพวกเค้าก็คงจะไปกันเอง เพราะว่าเราไม่เคยสนใจคนอื่นอยู่แล้ว ขอแค่ให้บูมเข้าใจและรับรู้ก็พอ”ผมพูด
“โอเค เราจะเชื่อใจคนที่เรารัก แต่ถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจอีก เราก็ไม่รู้ว่าเราจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้มากแค่ไหน”บูมเริ่มยอมรับในเหตุผล
“เราขอแค่ให้บูมจำไว้ว่า เราจะไม่มีวันทรยศบูม และความรู้สึกตัวเองหรอก เราสัญญา”ผมพูดอย่างจริงจัง
จากนั้นบูมก็ก้มลงมาจูบผมอีกที ผมรู้สึกเขินมาก ๆ หน้าแดงก่ำเลย แถมยังรู้สึกร้อนแบบวูบวาบ ๆ
“แต่ยังไงวันนี้ โยก็ต้องให้เรานอนด้วยนะ นะครับ นะ”บูมพูดขึ้นหลังจากถอนฝีปากออกจากปากของผม
“นี่ยังไม่เลิกอีกหรอ”ผมแซว
“ไม่ใช่ แค่อยากนอนกอดเฉย ๆ จริงๆ สาบานได้ ด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง”บูมพูดพลางยกนิ้วขึ้นสองนิ้ว
“555 ไม่ต้องสาบานหรอก แต่สัญญานะ ห้ามทำอย่างอื่นไม่งั้นถ้าเราหน้ามืดไม่รู้ด้วยนะ”ผมพูดไปหน้าแดงไป
“ก็ยิ่งดีดิ มามะมาให้เรามัดจำก่อน”บูมพูดพลางทำท่าจะจูบ
“ไม่”ผมรีบผละตัวผมออกจากแขนบูมแล้ววิ่งหนี
“มามะ มาเร็ว ๆ”บูมยังคงวิ่งตามเหมือนเด็ก ๆ
“ไม่”ผมร้องขึ้นอีก จากนั้นเราก็เอาหมอนมาไล่ฟาดกันจนเหนื่อยแล้วนั่งหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข
จบตอนที่ 12 แล้วครับ ตอนนี้ก็น่าจะเป็นอีกตอนที่น่าประทับใจ ....ต้องขอโทษด้วยที่หยุดไปหลายวัน ก็วันหยุดยาวทั้ง ๆ ยังไงก็ขอบคุณครับที่ติดตาม
**************************************************
Tantalum รู้คำตอบแล้วนะครับ ว่าอะไรอยู่หลังประตู ขอบคุณที่ติดตามครับ
b|ueB[o ]YhUb เอ่อ หนูบลู แน่ใจนะว่ายังไม่มี แล้วที่เล่นเอาเล้าป่วนไปหมดละคับ หมายฟายว่าไร
meemewkewkaw เหอเหอ ชอบคนขี้หึงจริงๆ เหรอครับ
[{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}] ชมรมชอบคนขี้หึง
MyLoveMyBabe นีก็อีกหนึ่ง สมาชิชมรม
sak อืมมม ก็ต้องรอดุต่อไปนะครับ ว่าจะใช้ปัญหาที่สำคัญหรือเปล่า