บทที่ 4
เมื่อน้องปูนกลายเป็นคนขับรถ“เป็นอะไรของมึงเนี่ยปูน กูเห็นหงอมาตั้งแต่กลางวันแล้ว”
ให้ทายครับว่าเสียงใคร ใบ้ให้ว่าเป็นคนที่พูดมากที่สุดในกลุ่ม
ถะ ถะ ถะ ถะ ถูกต้องนะครับบ ไอ้กล้านั่นเอง
“กูเห็นนะว่ามึงแอบแต๊ะอั๋งนางฟ้าของมึงด้วย ทำไม...รู้สึกผิดที่ทำลงไปหรือไง”
เออ รู้สึกผิดน่ะใช่ แต่ไม่ใช่เรื่องที่กูจับแขนมิ้มหรอก เรื่องนั้นกูตั้งใจ อิอิ
“คงสงสารศัตรูหัวใจม้างง เมื่อเช้าไปส่งเขาไม่ทันหรือไงวะ”
ไอ้-เชี่ย-ฟ้าาาาา!
“เหมือนควาย เอ้ย หมายความว่าอย่างไรครับน้องฟ้าของพี่กล้า” นั่นไง ต่อมเสือกมันกำเริบเลย
“ก็เหมือนควาย เอ้ย หมายความตามที่พูดนั่นแหละครับ” ไอ้ฟ้าหันมายักคิ้วให้ผม เหมือนในหัวจะได้ยินเสียงมันหัวเราะ ‘หึหึหึ’ เยาะเย้ยด้วย “ถ้าสงสารมากก็รีบไปปลอบนะครับเพื่อนปูน จะได้ไม่รู้สึกผิดมากนัก”
“ทำไมกูต้องไปปลอบมันด้วย ประสาทป่ะมึงเนี่ย”
“เออ ประสาทป่ะไอ้ฟ้า ทำไมปูนมันจะต้องไปปลอบไอ้พี่เอื้ออะไรนั่นด้วย เขามีแฟนแล้วก็ให้แฟนเขาไปปลอบดิวะ” มึงอยู่ข้างกูนะกล้า แต่กูรู้สึกเจ็บลึกๆ ตอนมึงพูดถึงแฟนเขาว่ะ
“กูก็พูดไปเรื่อยแหละมึง อย่าใส่ใจกูเลย”
ไม่นะเพื่อนฟ้า สายตามึงไม่ได้บอกแบบนั้นเลย มันมีประกายบางอย่างที่กำลังบอกว่ามึงสนุกกับเรื่องนี้ว่ะเพื่อน
ป๊าปปป!
ระหว่างที่ผมกำลังเล่นจ้องตากับไอ้ฟ้าอยู่นั้นเอง ฝ่ามือพิฆาตจากสวรรค์ก็ประทับที่แผ่นหลังผมอย่างแรง
“อูยยย” เจ็บฉิบหายเลย
“ทำเป็นสำออยนะมึง”
“สำออยบ้านพี่ดิ เล่นฟาดเข้ามาได้”
“เถียง...เถียง เดี๋ยวกูสั่งซ่อมเลยนี่”
ผมหุบปากฉับในบัดดล แล้วคนที่เป็นเจ้าของฝ่ามือพิฆาตเมื่อกี้ไม่ใช่ใครอื่น พี่บุ๊คพี่รหัสปีสามผมเองครับ แล้วดู...ดูมึงทำตัวนะไอ้พี่บุ๊ค หนวดนี่คิดจะโกนบ้างมั้ย ที่จริงพี่มันหล่อมากนะครับ สาวๆ นี่กรี๊ดพี่มันตรึม แต่ติดที่มันชอบทำตัวเถื่อนๆ แล้วก็เสียงดังผู้หญิงเลยหายหมด พี่มันเป็นพี่วินัยด้วย เป็นไปได้อย่าขัดใจมันเดี๋ยวมันสั่งซ่อม
“ขอโทษครับพี่ ก็พี่เล่นฟาดมาแบบนี้อ่ะ”
“เขาเรียกว่าทักทายเว้ย” พูดจบพี่มันก็นั่งลงข้างไอ้ฟ้า เยื้องกับผม ตรงข้ามกับไอ้โจม
ทักบ้านมึงดิ หลังกูแดงชัวร์เลย
“มึง! มึง! มึง! แล้วก็มึง!” พี่มันเล่นชี้เรียงตัวเริ่มจากไอ้ฟ้า ไอ้กล้า ผมและปิดท้ายด้วยไอ้โจม และด้วยเสียงอันแฝงไปด้วยอำนาจ ของพี่มันเล่นเอาผมสะดุ้งกันยกโต๊ะ
“มะ มีอะไรครับ” ผมเป็นหน่วยกล้าตาย
“พรุ่งนี้ร้านพี่เติม เงิม เงิม สามทุ่มห้ามเลท”
“เอ๋???” ประสานสามเสียง (ไอ้โจมไม่เล่น)
“ทำหน้าอย่างนี้พวกมึงลืมวันเกิดกูกันหรือไง!!”
“เฮือก!”
ฉิบหายกูลืม!
“โดยเฉพาะมึงไอ้ปูนไอ้น้องเวร มึงลืมวันเกิดกูเหรอวะ!” พี่มันตะคอกเสียงดันจนคนที่นั่งอยู่รอบๆ หันมามองเป็นตาเดียว เดือนร้อนผมต้องหันไปขอโทษขอโพยพวกเขา
“มะ ไม่ได้ลืมพี่ คือช่วงนี้มันยุ่งๆ ไงก็เลยลืมว่าพี่จะเลี้ยง แต่ไม่ได้ลืมวันเกิดนะ ผมเตรียมของขวัญไว้ให้แล้วด้วย”
ผมตอแหลครับ ของขวัญเชี่ยไรไม่มีเลยสักอย่าง เอาจริงๆ ก็ลืมไปด้วยแหละว่าพรุ่งนี้วันเกิดพี่มัน
“ดีมาก!!”
จะเสียงดังทำไมคร๊าบ สงสารหูผมบ้างเถอะ
“กูมาบอกแค่นี้แหละ...ไปล่ะ”
“เจอกันพรุ่งนี้ครับพี่” ผมส่งยิ้มแล้วโบกมือให้พี่บุ๊ค ไปก็ดีแล้วครับ สงสารหูตัวเองชะมัด
“มึงเตรียมของขวัญแล้วจริงดิวะ กูหุ้นด้วยได้ป่ะมึง” ไอ้กล้าถามด้วยประกายความหวังในตา
“หึ กูยังไม่ได้เตรียมห่าอะไรทั้งนั้นแหละ”
“อ้าว!”
“ก็กูลืมนี่หว่า มึงช่วยคิดหน่อยดิว่าจะซื้ออะไรให้พี่เขาดี” ได้โอกาสผมก็ถามมันเลยครับ
“ยาอมดีป่ะวะ พี่บุ๊คแม่งชอบเสียงดัง” มึงคิดเหมือนกูเลยเพื่อนหูกูจะแตกล่ะ แต่ของขวัญมึงนี่ก็คิดได้เนาะ
“เอาให้เขามาปาหัวมึงไงไอ้สัด” น้องฟ้าของพี่ปูนไม่เห็นด้วยเหรอครับ งั้นเสนอมาเลย “กูว่าน้ำผึ้งกับมะนาวดีกว่าอีก”
“ถุยยย” ผมกับไอ้กล้าประสานเสียง
“ทำไมไม่ซื้ออะไรที่พี่มันชอบวะ” แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นในบัดดล
“กูก็คิดแบบนั้นแหละโจม”
“หราา”
“เออ กูคิดแบบนี้จริงๆ” ผมหันไปด่าไอ้กล้ากับไอ้ฟ้าทางสายตา “แต่กูคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรเท่านั้นแหละเว้ย”
ไอ้พี่บุ๊คมันชอบอะไรนอกจากส่งเสียดังบ้างวะ…
“แคคตัส”
“หะ?”
“แคคตัสไง พี่บุ๊คมันกำลังอยากได้”
ผม ไอ้กล้า ไอ้ฟ้ามองหน้ากัน พลางส่งสายตาถามกันอย่างไม่ต้องเอ่ยปากว่าไอ้โจมมันรู้ได้ยังไง
“มึงรู้ได้ยังไงวะโจม” ไอ้กล้าเป็นคนถาม ถึงมันจะปอดแหกเรื่องชกต่อยแต่เรื่องเสือกของให้วางใจมันได้เลย
“พี่เขาโพสต์ในเฟซบุ๊คไง มึงไม่อ่านกันเหรอ”
จริงเหรอวะ กูไม่เห็นรู้เลย
“มึงเข้าโลกโซเชียลกี่ครั้งในชีวิตวะปูน”
“อย่างน้อยกูกูกช่นไลน์นะเว้ย” ผมเถียง พูดเหมือนผมเป็นมนุษย์หลังเขาอย่างนั้นแหละ ถึงผมจะไม่ค่อยชอบเล่นก็เถอะ แต่ผมก็มีไอดีไลน์นะ “แล้วจะซื้ออะไรดีวะ แคคตัสมีตั้งหลายพันธ์ุ”
“อะไรก็ได้ พี่มันเพิ่งเลี้ยงได้ไม่กี่วันนี่เอง” หืม ขนาดเลี้ยงไม่กี่วันมึงก็รู้ว่าเขาอยากได้แล้วเหรอโจม “พี่เขาโพสต์เฟซเมื่อสองวันก่อน”
โอเค กูไม่ใส่ใจเอง อย่าให้พี่บุ๊ครู้นะ มึนสั่งซ่อมแน่นอน
“งั้นเอาแคคตัสนี่แหละ พรุ่งนี้ไปซื้อกันเลย” ไอ้กล้าพูดอย่างมุ่งมั่น
ดังนั้นเมื่อสรุปกันได้แล้วเราเลยตกลงที่จะไปซื้อเย็นนี้พรุ่งนี้ที่เลิกเรียนตั้งแต่บ่ายสาม งานนี้ต้องขอบคุณข้อมูลลึกลับจากเพื่อนโจมจริงๆ ที่ทำให้เราได้พบทางสว่าง
♣♣♣♣♣
เย็นวันถัดมา
16.05 น. ณ ร้านขายพืชอวบน้ำโดยเฉพาะ
ไอ้พวกเวรรรรรรร
ไหนบอกจะไปซื้อด้วยกัน แล้วทำไมมึงปล่อยกูมาคนเดียววะไอ้พวกเพื่อนๆ สุดที่ร๊ากก!
“แม่ง พวกมึงนะพวกมึง ทิ้งกู”
ปากผมบ่น ในใจผมด่า เซ็งโคตรๆ ฝากกูซื้อให้แต่ไม่ให้ตังค์มาคืออะไร! (นี่แค้นเรื่องนี้ใช่มะ) แดดนี่แม่งก็ร้อนไปไหนวะ อีกนิดเดียวกูจะเป็นลมแล้วเนี่ย ดีนะที่ร้านติดแอร์
“สงสัยอะไรถามพี่ได้นะน้อง” พี่เข้าของร้านตัวใหญ่บอกพร้อมส่งยิ้มใจดีมาให้ แต่เพราะหมวดที่เฟิ้มของพี่แกทำให้ดูเหมือนการแสยะยิ้มมากกว่า บรึย ขนลุก
“ขอบคุณครับ”
ผมเดินดูของในร้านพี่แกไปเรื่อยๆ ร้านนี้มีแคคตัสเต็มไปหมดเลย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอ ผมอดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ ชื่ชรูปร่างแปลกตาที่สูงไม่มาก แลดูน่ารักน่าถนอม นอกจากต้นแล้ว พี่เขาก็ยังมีพวกอุปกรณ์ที่ใช้ปลูกด้วยนะครับ พวกกรวดหิน ปุ๋ย ช้อนตัก บัวรถน้ำ เรียกว่าครบเครื่องจริงๆ
“ต้นนี้สวยดีแฮะ”
ตัดสินใจล่ะ เอาต้นนี้แหละ
“เอ่อ...”
อีกนิดเดียวเองครับ ผมก็จะได้ต้นไม้ที่ต้องการ แต่ว่าดันมีใครอีกคนเข้ามาคว้ามันไว้ตัดหน้าผมไปเพียงเสี้ยวนาที!
แบบนี้อีกแล้วเหรอวะ ทำไมผมจะต้องโดนคนอื่นชิงตัดหน้าไปก่อนทุกครั้ง พี่ปูนไม่เข้าใจ!
ผมปล่อยมือที่จับทับมืออีกฝ่ายออกก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้ “ขอโทษครับ”
“อยากได้ต้นนี้จะเอาก็ได้นะครับ”
“ไม่เป็นอะไรครับ ผมดูอย่างอื่นก็ได้” ก้มหัวขอโทษไปอีกครั้งก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“คุณครับ”
“หือ? ผมเหรอ”
ผมหันกลับไปถามเขาที่เดินเข้ามาใกล้ อ่า...ออร่าความหล่อแบบนี้มันอะไรกัน ทิ่มตาจนอยากจะหลับตาหลบตวามหล่อเลย เขาหน้าตาดีมาก ออกแนวเข้มๆ แมนๆ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง หน้าคมเข้ม หุ่นก็ดีครับ แบบผู้ชายสปอร์ต ทำนองนั้น ไม่ใช่แนวคุณชายแบบไอ้เอื้อที่เนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ใช่ครับ คุณนั่นแหละ สนใจแคคตัสเหรอ”
“อ๋อ ผมซื้อไปเป็นของขวัญวันเกิดพี่น่ะครับ”
“ช่วยแนะนำมั้ย”
ผมมองฝ่ายตรงข้ามอย่างชั่งใจ คนอะไรวะอัธยาศัยดีชะมัด เพิ่งรู้จักกันแปบเดียวนี่เสนอตัวช่วยกูแล้วเหรอ ไว้ใจได้ป่ะเนี่ย
“อ้าวไอ้ว่าน มึงไปถามน้องแบบนั้นน้องเขากลัวหมดแล้ว” พี่เจ้าของร้านร่างใหญ่ทักขำๆ จากด้านหน้า พาให้คนที่เสนอตัวจะช่วยผมเมื่อครู่ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้อ
“เอ้อเนาะ โทษทีครับ คือผมชื่อว่านนะ”
“ปูนครับ”
“น้องๆ ไอ้ว่านมันเก่งนะ ถ้าน้องไม่รู้จะเลือกอะไรก็ให้มันช่วยเถอะ เก่งจนกูอยากจะยกร้านให้มันอยู่แล้วเนี่ย” ประโยคหลังเหมือนพี่เจ้าของร้านแกจะพูดกับตัวเองนะ แต่มันดังไปหน่อยพวกผมสองคนเลยได้ยิน
ถ้าพี่เจ้าของร้านร่างหมีพูดมาแบบนี้แล้วผมก็ขอรบกวนเลยแล้วกัน จะได้ประหยัดเวลาด้วย
“ถ้าอย่างนั้นรบกวนด้วยนะครับ คือคนที่ผมจะซื้อให้เขาเพิ่งเลี้ยงแคคตัสได้ไม่กี่วันเอง พอจะมีอะไรที่มันสวยๆ แล้วก็เลี้ยงง่ายๆ มั้ยครับ อ้อที่สำคัญราคาย่อมเยาด้วย”
“ฮาๆ โอเคตามผมมาเลย”
…
..
.
พี่ว่านนี่เจ๋งจริงๆ ครับ! (อ้อ พี่ว่าเขาอายุมากกว่าผมปีนึงแหละ เรียนอยู่มหา’ลัยเดียวกันด้วย) ผมได้แคคตัสเป็นของขวัญพี่บุ๊คมันหลายต้นเลย แถมมีพวกอุปกรณ์เสริมให้พี่มันด้วย ราคาร้านพี่หมี (พี่เขาชื่อหมีครับ) ก็โคตรย่อมเยาเลย เอาเป็นว่าผมถูกใจของขวัญนี้สุดๆ ครับ
พี่ว่านเป็นเทวดามาโปรดผมชัดๆ เลย
Rrrrr
“ครับพี่บุ๊ค” ผมรับโทรศัพท์ระหว่างรอลิฟต์ในหอพักไปด้วย มีคนยืนอยู่ก่อนสองสามคน ผมเลยลดเสียงที่คุยกับพี่มันลง
[“คืนนี้ห้ามเบี้ยวนะมึง ถ้าไม่เจอมึงกูสั่งซ่อมแน่”]
นี่ก็ขู่กูจัง ถ้าไม่เห็นว่าเป็นพี่นะกูจะ...จะอะไรดีวะ
“ครับ ไม่เบี้ยวแน่นอน คืนนี้สามทุ่มที่ร้านพี่เติม เงิม เงิมครับ” พูดชื่อร้านนี้ทีไรกูกระดากปากทุกทีเลย ไอ้พี่เติมนะพี่เติม จะตั้งแค่ ‘ร้านพี่เติม’ ก็ไม่ได้ ต้องเดิม ‘เงิม เงิม’ ไปด้วย แม่งมันทำเพื่ออะไรวะ
[“ดีมากไอ้น้อง แล้วอย่าลืมของขวัญกูด้วยล่ะ แค่นี้นะ”] พูดเสร็จพี่มันก็ตัดสายทิ้งเลยครับ
นี่มึง...โทร.มาทวงของขวัญกูชัดๆ เลยนี่หว่า -*-
2 ทุ่ม 45 นาที
ปังๆๆๆๆๆ!
เหตุการณ์นี้มันคุ้นๆ ว่ามั้ยครับ
ขณะที่ผมกำลังจะพรมน้ำหอมเพื่อเพิ่มเสน่ห์ในตัวเองอยู่นั้น พลันที่ประตูก็เกิดเสียงดันสนั่นซึ่งไม่ได้เกิดจากการเคาะแน่นอน นี่มันเกิดจากการทุบ
มึงจะพังประตูก็หรือไง!
ปังๆๆๆ!
“เออๆๆ เปิดแล้วโว้ย!”
ผมเดินไปเปิดประตูอย่างอารมณ์เสีย กะว่าจะด่าไอ้คนที่มาทุบห้องคนอื่นยามวิกาลแบบนี้ให้หูชา แต่พอเปิดมากลับอยากจะรีบกลับเข้าห้อง
ไอ้เชี่ยเอื้อ!
ไวเท่าความคิด ผมรีบดันประตูห้องให้ปิดลงเหมือนเดิม ทว่าร่างสูงตรงหน้าเหมือนจะเดาความคิดผมได้ มันคว้าบานประตูไว้แน่น
“ปล่อยนะเว้ย” ผมพยายามจะดันให้ประตูปิด แต่มันก็ไม่ยอมแพ้ “อะไรของมึงเนี่ย จะมาแก้แค้นที่เมื่อวานไปส่งมึงสายหรือไง”
“เรื่องนั้นกูเก็บไว้คิดบัญชีกับมึงแน่ แต่นี่เป็นเรื่องใหม่”
“จะเรื่องเก่าเรื่องใหม่ก็ไม่สน เหวอ!!”
มันเข้ามาจนได้ครับ!! แถมแรงมันดันประตูจนผมลงไปกองกับพื้น
“เจ็บ…”
“สมน้ำหน้า อยากเล่นตัวดีนัก”
อะไรคือการที่มึงบุกรุกห้องกูแล้วมาด่ากูอีกเนี่ย!
“ห้องมึงนี่ก็รกไม่เปลี่ยนเลยนะ” มันใช้สายตาเหยียดๆ มองไปรอบห้องของผม “แล้วนี่แม่งกลิ่นไรวะ ฉุนชะมัด”
“กลิ่น...ไอ้เชี่ยน้ำหอมกู!!”
ผมกระโจนเข้าหาขวดน้ำหอมที่หกรดพื้นห้อง โอ๊ยยยย หัวใจพี่ปูนแตกสลายอีกครั้ง น้ำหอมขวดนี้ผมเพิ่งใช้ได้ไม่กี่ครั้งเอง
“เพราะมึงเลยไอ้เอื้อ!”
“กลิ่นแบบนี้หกไปก็ดีแล้ว กูไม่ชอบ”
“แล้วทำไมมึงต้องมาชอบด้วย นี่น้ำหอมกูเว้ย!” ผมบอกก่อนจะรีบตั้งขวดน้ำหอมขึ้น ภาวนาให้มันเหลือบ้างสักครึ่งขวดก็ยังดี แต่คำขอผมคงไปไม่ถึงไหน เพราะมันหกจนหมดขวด
ฮือออ น้ำหอมกูววววว
“เดี๋ยวกูซื้อขวดใหม่ให้” มันบอกก่อนจะนั่งลงบนเตียงนอนผมอย่างถือวิสาสะ
“เออ มึงมันรวยนี่ กูต้องเก็บเงินกี่เดือนกว่าจะได้ขวดนี้มามึงรู้ป่ะ แม่งมึงเข้าใจมั้ย มันมีคุณค่าทางใจเว้ย” ว่าแล้วก็ค่อยๆ ประคองขวดน้ำหอมลงบนโต๊ะ ถึงไม่ได้ใช้ขอเก็บขวดไว้ก็ยังดี
“กูไม่ผิด ก็มึงไม่ยอมให้กูเข้ามาเอง”
“กูไม่อยากเห็นหน้ามึงไงไอ้บ้า!!”
“กูไปทำอะไรให้มึง...อ๋อ เรื่องมิ้มใช่มั้ย”
จึก!!
“...”
“เหอะ ถูกสินะ”
“เออกูเกลียดมึง เพราะมิ้มเนี่ยแหละ มึงคือศัตรูหัวใจกูไอ้เอื้อ!” ผมชี้หน้ามัน “รู้แบบนี้ก็ออกไปจากห้องกูเลยไป”
“มึงนี่มันเด็กจริงๆ” มันส่ายหน้าระอา “แพ้ก็หัดยอมรับดิวะ แค่กูกิ๊กับมิ้มมึงถึงกับเกลียดกูเลย”
“นั่นเพราะกูชอบมิ้มเว้ย”
“เออ งั้นก็เรื่องของมึงเถอะ แต่กูบอกให้นะว่ากูกับมิ้มไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“หมายความว่าไงวะ ก็มึงบอกอยู่ว่ากิ๊กกับมิ้ม”
“เรื่องนี้คนฉลาดเท่านั้นถึงจะเข้าใจ”
เข้าใจ = คนฉลาด
ผม = ไม่เข้าใจ = โง่
“มึงด่ากูโง่เหรอ!”
“กูไม่ได้พูดนะ มึงคิดเองทั้งนั้น” มันบอกก่อนที่จะลุกจากเตียงแล้วเดินมาหาผม ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงยีน ดูธรรมดานะครับ แต่พออยู่บนตัวมันแม่งโคตรดูดีเลย
หมับ!
โดยไม่ทันตั้งตัวมือหนาก็คว้าข้อมือผมไว้แน่น
“แต่งตัวเสร็จก็ไปได้แล้ว กูรีบ”
“ไปไหน”
“แล้วมึงจะไปไหนเล่า เร็วเลยเดี๋ยวก็สายโดนพี่บุ๊คด่าไม่รู้ด้วยนะมึง”
มันรู้ได้ไงว่าผมจะไปหาพี่บุ๊ค
“มึงเลี้ยงกุมารเหรอไอ้เอื้อ!”
ผลัวะ!
“โอ๊ย ตบมาทำไมเนี่ย” ผมยกมือลูบหัวที่โดนมันตบปอยๆ
“ตบเบาๆ อย่ามาสำออย”
“กูลองตบมึงบ้างมั้ยล่ะ”
“ลามปามล่ะ กูเป็นพี่มึงนะ” มันทำท่าจะตบผมอีกรอบครับ แต่ก็ไม่ได้ลงมือจริง “มึงคุยโทรศัพท์ซะดังลั่นลิตฟ์ขนาดนั้นเป็นใครก็รู้ทั้งนั้นแหละ กูก็จะไปหาพี่บุ๊คเหมือนกัน มึงไปกับกูเนี่ย ว่าแต่มึงขับรถเป็นป่ะวะ”
“เป็น”
“ดี จะได้ไม่ต้องทิ้งรถไว้ที่ร้าน”
“นี่มึงกะไปเมา”
“กูไม่ได้อยากเมา แต่พี่มึงเล่นกูแน่”
“สรุปว่ามึงรู้จักกับพี่บุ๊ค แล้วมันกำลังจะไปงานวันเกิดพี่มัน โดยให้กูไปด้วยเพราะมึงคาดว่าตัวเองจะต้องเมาอย่างแน่นอน ตอนกลับเลยจะให้กูขับให้ถูกมะ”
“เออ ก็ไม่ได้โง่นี่หว่า”
อ้าว ไหนเมื่อกี้บอกไม่ได้ด่ากูไง
“ก็แค่นี้ แล้วทำไมไม่บอกดีๆ วะ บุกเข้ามาแบบนั้นใครก็ตกใจดิ แถมมึงยังฆาตกรรมน้ำหอมกูด้วย” ผมเหลือบตาไปยังขวดน้ำหอมอย่างเสียดาย เฮ้อ เราเพิ่งจะรู้จักกันแท้ๆ ต้องมาตายจากกันแล้วหรือน้องน้ำหอม “มึงมันฆาตกร”
“มันเป็นอุบัติเหตุเว้ย ทีนี้รู้แล้วก็ไปได้แล้ว เสียเวลาจริงๆ”
“ไม่ต้องจับกูเดินเองได้!”
“อยากจะจับนักแหละแม่ง” มันปล่อยมือทันทีที่ผมบอกก่อนจะออกไปรอหน้าห้อง
เหอะ ที่แท้ก็จะชวนกูไปด้วยกัน แม่งทำไม่ไม่บอกดีๆ วะ ฟอร์มเยอะฉิบหายเลย แล้วนั่น...มึงคิดว่าท่ายืนพิงผนังของมึงเท่นั่งหรือไง มันไม่ได้แม้แต่ขี้เล็บกูด้วยซ้ำ!
“เสร็จแล้ว?”
“เออ!”
ร่างสูงเดินนำไปที่ลิฟต์ด้วยความเร็ว เชี่ยยย ไม่เกรงใจกูบ้างเลย
ไหนเมื่อกี้ใครมาขอให้กูไปด้วย
ตอบ!!
========================================
=============================
ขอบคุณนะคะที่ติดตามกัน ดีใจมากที่มีคนอ่านค่ะ
แล้วฝากติดตามต่อๆ ไปด้วยนะคะ