รักดั่งเส้นขนาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักดั่งเส้นขนาน  (อ่าน 113128 ครั้ง)

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้คับ

อยากบอกว่าถ้าชมแล้ว ต้องมาเขียนต่อนะ

คือแบบว่าพอชมเรื่องไหนแล้วคนเขียนชอบเล่นตัวไม่มาต่ออ่ะ

จริงๆนะ

ปลื้มมากกกกกก  รู้สึกเหมือนกับว่าเจอเหตุการณ์กับตัวเองอ่ะ

เขียนได้ต่อเนื่องไม่ติดขัด แต่ก็แอบอยากรู้เร็วๆเหมือนกันนะว่าคัยอารัยกะคัย

ปล.ขอเชียร์เดชอ่ะ เดชน่าร๊ากกกก

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
เห่อ ๆ ๆ ใหญ่เอ๊ย ตายแหง๋ม ๆ ไอ้ไม้เอาเรื่องแน่ๆ  :laugh:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 12
 o2
ผมตกใจมากคับ ที่อยู่ดีดีไอ้ไม้ก็แวะมาหาต่าย ทั้งๆที่ต่ายก็ขอร้องไว้ว่าไม่ต้องมา ไปทำธุระของไม้เถอะ ต่ายเป็นคนขี้เกรงใจอ่ะคับ รวมถึงผมก็ด้วย เห็นไอ้ไม้มันบอกผมว่าจะไปเล่นเกมตั้งแต่บ่าย แต่ทำไมมันถึงมาอยู่ที่สยามได้นะ กำลังคิดอยู่เพลินๆ โทรศัพท์บ้านก็ดัง พักนี้โทรศัพท์บ้านก็มักจะเป็นสายของผมแหล่ะคับ ผมจึงตรงไปที่โทรศัพท์

“ไอ้ใหญ่เหรอ” – สายปลายทางพูดขึ้นก่อน
“เออ ใครน่ะ”
“จำเสียงกูไม่ได้เหรอ”
“ไอ้ไม้ ทำมาเล่นตัว ไอ้เวร กูรู้น่าว่าเป็นมึง”
“รู้แล้วจะถามทำไมวะ” - ไอ้ไม้มันย้อนผมคับ
“จะคุยอะไรกับกูวะ เรื่องวันนี้ใช่ม๊ะ”
“สมกับเป็นเพื่อนกูจริงๆ” – ไอ้ไม้มันชมผมคับ ไม่รู้จะน่าดีใจยังไงที่ผมเดาเรื่องนี้ถูก
“มรึงอยากรู้ไรวะ กูตอบได้จะตอบ” - ผมถามมัน
“มรึงตอบตามความจริงนะเว้ย อย่าโกหกกู”
“เออ ว่ามา”
“วันนี้มรึงมาอยู่กับไอ้เดชได้ไง”
“ก็บอกต่ายไปเมื่อกลางวันแล้ว ต่ายไม่ได้เล่าให้ฟังเหรอ”
“เล่า ต่ายบอกว่า แกไปซื้อของที่เสาวรีย์ แล้วบังเอิญเจอไอ้เดช มันจะมารอเพื่อน เลยชวนมารอด้วยกัน”
“ก็เออดิ ตามนั้นเลย สงสัยไรวะ”
“กูแอบเห็นว่าพักนี้มรึงดูสนิทกับไอ้เดชจังวะ”
“ก็...ยังไงล่ะ มรึงก็รู้ว่าเดชจะจีบต่าย ก็เลยมาใช้กูเป็นสะพานไงล่ะ ว่าง่ายๆก็คือ พ่อสื่อนั่นแหล่ะ”
“แล้วทำไมมรึงต้องไปที่ห้องมันด้วยวะ”
“กูคิดว่า มันก็คงไม่กล้ามาเจอต่ายพร้อมกับมรึงในห้องไง เพราะที่โรงเรียนน่ะ มรึงน่ะแทบจะตามต่ายทุกนาที เว้นแต่ตอนต่ายเข้าห้องน้ำนั่นแหล่ะ”
“ก็จริงว่ะ แต่ทำไมต่ายเขาไม่ใจอ่อนซักทีวะ”
“อันนี้กูก็ไม่รู้ มรึงก็ไปถามเขาดูดิ”
“แล้วไอ้เดชให้มรึงช่วยจีบต่ายนานยัง”
“ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว ตั้งแต่วันที่อาจารย์สั่งทำสื่อ CAI น่ะ”
“ตอนไหนวะ”
“ก็ที่พวกมรึงต้องมารอกูไปเรียนพิเศษกันน่ะ มีอยู่วันนึงที่ไปกันสายอ่ะ จำได้ป่ะ วันนั้นแหล่ะที่ไอ้เดชมันเริ่มมาคุยกับกู”
“ก็นานเหมือนกันนะ”
“เออดิ”
“กูถามมรึงจริงๆเถอะ ทำไมมรึงต้องไปหามันที่ห้องมันบ่อยๆด้วย”
“ไอ้ไม้ กูถามมึงบ้างนะ ไอ้โอที่อยู่คนละห้องกับมึง ทั้งๆที่รู้จักกับมรึงก็เมื่อไม่นานมานี่เอง มันมาชวนมรึงไปเตะบอล มรึงต้องไปหามันที่ห้องป่ะ” – (ไอ้โอเป็นเพื่อนคนละห้องคับ มันอยู่ที่นี่ตั้งแต่ ม.1 หมือนผม ผมไม่เคยได้อยู่ห้องเดียวกับมันเลยซักครั้ง แต่มันรู้จักพวกผมเหมือนรู้จักกันมานานเลยคับ)
“ก็ไปหามันที่ห้องดิ ถามได้”
“นั่นแหล่ะ ที่กูไปหาไอ้เดช มันก็ไม่มีอะไรหรอก มันก็เรียกไปตามประสาเพื่อนกันน่ะ”
“หรือมึงไปชอบมัน” - ไอ้ไม้แหย่ผม
“มรึงจะบ้าเหรอวะ ไอ้สาด...เด๋วกูก็วางหูไม่ช่วยมรึงซะงั้น”
“โอ๋ๆ เออแล้วทำไมพักนี้ต่ายเดินกับแกบ่อยจังวะ”
“ก็ปรึกษาบางเรื่องที่เขาปรึกษาคนอื่นไม่ได้”
“เรื่องไรวะ”
“ไม่บอก...” - ผมกวนไอ้ไม้
“ใหญ่จ๋า .... บอกหน่อยน้า....”
“เรื่องเรียนน่ะ มรึงช่วยต่ายเขาได้ป่ะล่ะ”
“ไม่ได้จริงด้วย แต่เรื่องรัก กูช่วยเขาได้นะ”
“ไอ้เวน ไม่เจียมอีกน่ะ” - ผมแซวไอ้ไม้มั่ง
“เห็นพักนี้มรึงไปกับต่ายบ่อยเหลือเกิน กูก็เลย...”
“หึงกู ว่างั้นเถอะ” - ผมสวนไปทันที
“เออดิ พอดีเป็นมรึง เลยไม่เป็นไร แต่ว่ามรึงต้องช่วยกูนะ”
“ช่วยไรวะ”
“จีบต่ายไง”
“แล้วทุกวันนี้ที่มรึงทำล่ะ แทบจะปรนนิบัติอย่างกับแฟนกัน นี่ก็ยังไม่ใจอ่อนอีกเหรอ” - ผมถามไอ้ไม้
“ยัง ก็เขายังบอกว่าเพื่อนกัน”
“กูว่ามรึงอย่าเพิ่งเซงเลยว่ะ วันนึงต่ายเขาคงใจอ่อนเองแหล่ะ”

สายเรียกซ้อนดังขึ้น ผมบอกไอ้ไม้ไปรับสายเรียกซ้อนนั้นก่อน

“หวัดดีคับ” – ผมพูดกับปลายสาย
“ไอ้ใหญ่ทำไร รับช้าจัง” – ปลายสายเป็นเสียงเดชคับ ร่าเริงเชียว
“คิดสายซ้อนน่ะ แกนั่นแหล่ะมาเป็นสายซ้อน”
“คุยกับใครอยู่วะ”
“เพื่อนที่ห้อง บอกไปมรึงก็คงไม่รู้จัก”
“ไอ้ไม้หรือเปล่า”
“เปล่า” - ผมโกหก
“งั้นไปคุยก่อนก็ได้ เด๋วเราโทรไปหาใหม่”
“โทรหาเราดิ ไปโทรหาใหม่ทำไม” - ผมกวนเดชเล่นๆ
“เออ อย่าคุยนานนักล่ะ เด๋วเราไม่ได้คุย”
“เออ”

ผมตัดสายเดชไป กลับมาคุยกับไอ้ไม้

“ใครวะใหญ่” - ไอ้ไม้ถามผม
“เพื่อนพ่อโทรมาว่ะ บอกว่ามีธุระ เอางี๊ มีอะไรก็เด๋วไปคุยที่โรงเรียนก็ได้ โอเคนะ” – ผมโกหก รีบตัดบทเต็มที่
“เออได้ๆ แต่อย่าลืมนะเว้ย มรึงต้องช่วยกู อย่าให้จับได้นะว่าไปช่วยไอ้เดช”
“อ่ะนะ รู้แล่วล่ะน่า”

ผมวางสายโทรศัพท์ไปคับ การโกหกก็เหนื่อยเหมือนกัน นอกจากรู้สึกผิดกับเพื่อนแล้ว ยังผิดศีลต่างหาก เฮ้อ บาปแน่เลย เดชก็คงยังไม่โทรมาตอนนี้หรอกน่า แต่...

“หวัดดีคับ”
“ไอ้ใหญ่...” - เดชลากเสียงซะยาวเลย
“คิดถึงเราเหรอ รีบโทรหาน่ะ ตะกี๊ยังวางหูไปไม่ถึง 5 นาทีเลย”
“เออ อยากคุยอ่ะ”
“เพิ่งแยกกันไม่กี่ชั่วโมงเองอ่ะนะ”
“เออ ก็เราอยากคุยอ่ะ”
“แกจะไม่ถามเราซักนิดเหรอว่าเราอยากคุยไม๊ ว่างไม๊ อ่ะไรอย่างงั้น”
“อ่ะอ่ะ ถามก็ได้ ว่างไม๊.....ว่าง โอเค” - เดชถามเองตอบเอง
“เวร วันหลังไม่ต้องถามก็ได้นะ”
“ใหญ่ ทำไมเมื่อตอนบ่ายแกไม่พาต่ายออกมาที่ป้ายรถเมล์”
“ก็อย่างที่บอกไงล่ะว่าเราถึงสยามกันตอนสามโมงครึ่ง”
“แกโกหก เราเห็นนะ แกมากันตั้งนานแล้วตั้งแต่บ่ายสองกว่าๆ”
“แล้วแกทำไมไม่เดินเข้าไปอ่ะนะ แล้วทำไมต้องให้เราเดินออกไปหาด้วยวะ ร้อนว้อย ต่ายเขาไม่อยากออกไปด้วย เขาจะทำการบ้าน” – ผมใส่เป็นชุด ทำเอาเดชอึ้งไปชั่วครู่
“เหรอ ไม่รู้ว่าไปรบกวนต่ายเขา”
“แล้วก็รบกวนเราด้วย” – ผมพูดต่อ
“อย่างแกไม่ถือว่ารบกวน เขาเรียกว่า เพื่อนกัน”
“อ่ะนะ”
“แล้วไอ้ไม้มายังไง”
“ไม่รู้ มันบอกว่าจะไปเล่นเกม จะไปรู้ได้ไงว่ามันจะมารับต่าย”
“เออ วันนี้ไม่ใช่วันของเรา”
“วันหน้าไงล่ะ” - ผมปลอบ
“แกทำไรอยู่วะ”
“คุยโทรศัพท์” - ผมย้อนมัน
“พรุ่งนี้ไปเรียน ร.ด. กับเราได้ป่ะ”
“เออๆ ไปก็ไป”
“เลิกหาข้ออ้างแล้วเหรอ”
“ถ้าไม่อยากไปกับแก ก็คงจะมีข้ออ้างเองแหล่ะ”
“แสดงว่าอยากไปกับเรา”
“อืม” - ผมพูดเบา
“ชัดๆหน่อย ไม่ได้ยิน”
“เออ พรุ่งนี้กูจะไปเรียน ร.ด. กับมรึง พอใจยัง” - ผมพูดเสียงดังเลยคับ
“เออรู้แล้ว แล้วพรุ่งนี้ไปเรียนเช้าป่ะ”
“คงเช้าแหล่ะ”
“ดีเลย ไม่ต้องขึ้นตึกมานะ ไปหาเราที่โรงหาอาหาร”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็เด๋วนายขึ้นตึก เข้าห้องไป กว่าจะออกมาก็คงจะเข้าแถวพอดี นายก็จะไม่ได้กินข้าว เราเป็นห่วงกลัวนายเป็นลมตอนเรียนแล้วจะไม่มีใครพาส่งหมอ”
 “ตอนเรียนคงไม่เป็นลมหรอก เพราะไม่ค่อยจะเรียน”
“เออ เก่งแล้วนี่”
“ตลกแล้วแก เก่งตรงไหน เทพห้องเรามีเป็นสิบ”
“ต่ายเป็นเทพป่ะวะ”
“ก็เป็นได้นะ เทพแห่งความขยัน คนไรวะขยันโคตร แบบฝึกหัดทำล่วงหน้า”
“แล้วตอนนี้แกอยู่กับใครวะใหญ่”
“พ่อกับแม่ แล้วแกล่ะ”
“คนเดียว”
“อิสระดีเนอะ อยากอยู่มั่ง”
“ใกล้สอบมาอยู่กับเราป่ะล่ะ อยู่ฟรี จ่ายค่ากินเองก็พอ”
“จริงเหรอ เออ คิดดูอีกที”
“ไม่ต้องคิด เด๋ววันไหนแกมาที่หอเราดิ”
“หอแกเดือนเท่าไหร่วะ”
“อยู่ฟรี เจ้าของหอเป็นลุงเราเอง อยู่ฟรี แต่น้ำ-ไฟ เสียตัง”
“ไมวะ”
“แม่บอกว่าอย่าไปรวบกวนลุงเขา แค่อยู่ฟรีก็ดีแล้ว”
“ดี เกรงใจซะบ้าง”
“ใหญ่เรามีอะไรจะบอกแกอ่ะ”
“อะไรล่ะ พรุ่งนี้บอกก็ได้”
“คือว่า....เอ่อ...คือ ยังไงดีล่ะ แบบว่าเรา.....”
---------

ต่อตอนหน้าคับ

KATHAE*

  • บุคคลทั่วไป
.
.
.
.
 จิ้มตูด แล้วไปอ่าน คิกๆ :oni1:

ออฟไลน์ ronger

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 599
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เพิ่งได้แวะมาอ่าน สนุกมาก ลำดับเรื่องราวได้เข้าใจง่ายดี o13 
รอติดตามต่อไปนะจ้ะ :a1:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 13
 o7
“คือว่า....เอ่อ...คือ ยังไงดีล่ะ แบบว่าเรา.....” – เดชมันมัวแต่เป็นน้องอ้ำอึ้งคับ
“อะไรล่ะ”
“เด๋วเราบอกพรุ่งนี้ละกัน อย่าลืมมาเช้าๆนะ”
“บอกไรวะ บอกมาเลย ขี้เกียจ เด๋วก็ไม่อยากรู้ซะนี่”
“พรุ่งนี้เราจะบอก นะ”

แล้วมันก็ไม่บอกคับ ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่มันจะบอกผม ผมก็ไม่รู้เมือนกันคับ จนผมนอนคิดอยู่ทั้งคืน ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้คับ ความคิดผมตอนนั้นมันมีแต่เรื่องของเดช เดช และก็เดช ทำไมผมต้องคิดถึงมันด้วย มันมาทำอะไรให้ผมต้องคิด ไม่มีทาง ผมไม่มีวันจะไปชอบมันแน่ๆ

เช้าวันจันทร์ วันที่ผมต้องไปเรียน ร.ด. คับ ผมก็มา ร.ร. เช้าเป็นปกติ (ปกติของวันจันทร์) ผมเดินไปหาเดชที่โรงอาหารตามที่มันสั่งเอาไว้ พอไปถึงมันก็นั่งรอผมกับเพื่อนมันคนนึง หน้าตาเดชไม่สดใสเลยคับ ผมก็ทักเพื่อนมันเป็นพิธี แล้วเพื่อนมันก็ขอตัว(ไปหาแฟนมัน) แล้วก็ยิ้มให้ผมทีนึง ก่อนที่มันจะเดินออกไป ที่โต๊ะนั้นจึงเหลือเดชกับผมสองคน

“แกมานั่งฝั่งเดียวกับเราได้ป่ะวะ” - เดชสั่ง
“ทำไมเราต้องทำตามแกด้วยวะ”
“ก็...มีเรื่องอยากคุยด้วย”
“นั่งตรงข้ามกันก็คุยกันได้ เห็นหน้ากันด้วย” - ผมบอก
“ขอร้องเหอะ เราอาย”
“เออ เออ” – ผมว่าง่ายคับ เดินไปนั่งข้างๆมัน
“เฮ้ย” – เดชเอามือมาจับมือของผมคับ ผมตกใจ
“ชู่ๆ อย่าร้อง”- มันเอามืออีกข้างมาปิดปากผม
“ปล่อย” - ผมสั่ง
“ไม่ปล่อย”
“จะปล่อยดีดีป่ะ” - ผมขู่
“เออ ปล่อยก็ปล่อย แต่นายต้องอย่าไปไหนนะ”
“เออ ไม่ไปไหนหรอกน่า ไหนมีอะไรล่ะ ว่ามาดิ”
“คือไงดีล่ะ ใหญ่ เราท้อว่ะ เราคงสู้ไอ้ไม้ไม่ได้ ยังไงไอ้ไม้คงได้เป็นแฟนต่าย” - เดชพูดไปน้ำตาเริ่มไหล
“….”
“แล้วแก...แกก็จะไม่สนใจเรา ใช่ป่ะ ถ้าต่ายได้เป็นแฟนไม้จริง แกก็จะไม่สนใจเราอีก แกก็จะไม่เป็นเพื่อนเราอีก” - ทีนี้มันร้องไห้ใหญ่เลยคับ
“แกเอาอะไรมาพูด เพื่อนก็คือเพื่อน เป็นเพื่อนกันเราไม่ทิ้งเพื่อนหรอก” - ผมส่งผ้าเช็ดหน้าให้เดชแล้วก็ปลอบ
“แต่ว่า แกต้องมาเป็นเพื่อนเราก็เพราะ..ต่าย”
“มันจะเพราะอะไรก็ช่างเถอะที่เราได้มารู้จักกัน แต่เมื่อรู้จักกันแล้ว ก็รักษามันไว้เถอะ ใครจะได้ต่ายไปเป็นแฟนมันขึ้นกับตัวของต่ายนะเว้ย”
“แต่เราทำให้แกอึดอัดว่ะ เราไม่สบายใจ เราต้องแยกนายออกมาจากพวกไอ้ไม้...”
“จะอะไรก็ช่างเถอะ เรื่องแค่นี้ไอ้ไม้น่าจะเข้าใจ เรารู้จักคนเยอะ จะรู้จักแกอีกคนก็คงไม่แปลกอะไร”
“แต่ว่า...”
“แกไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ปัจจุบันนี้เราเป็นเพื่อนแก เราจะทำตามที่แกขอทุกอย่างถ้าเราทำได้ เข้าใจป่ะ”
“....”

ทีนี้มันร้องไห้หนักกว่าเดิมคับ แล้วมันก็มาซบที่บ่าผม ผมทำอะไรไม่ถูกเลยคับ ผมลูบหัวมันไป มันก็ซบบ่าของผม เราอยู่กันอย่างงี๊นานพอสมควร พอมันเริ่มดีขึ้น ผมเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้มัน มันอายคับ มันก็เลยขอเช็ดเอง

“แกกินข้าวยัง” – ผมถาม
“กินแล้วอ่ะ แกยังไม่ได้กินใช่ไม๊ เรารู้”
“อืม แต่ไม่เป็นไรหรอก”
“อ่ะนี่” – มันล้วงเข้าไปในกระเป๋าของมัน ข้าวเหนียว 1 ห่อ หมูปิ้ง 3 ไม้ มันซื้อมาให้ผม
“อะไรล่ะ”
“ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กินซะ เราจะนั่งดูนายกิน”
“....แล้วเราจะกล้ากินไม๊ คนซื้อเพิ่งจะร้องไห้” – ว่าแล้วผมก็ส่งหมูให้มันไม้นึง แล้วก็ข้าวเหนียวหน่อยนึงให้มัน
“กินด้วยกันเถอะ เรากินไม่ลงว่ะ ถ้าเห็นแกเป็นอย่างงี๊” – ผมบอกเดช ตามันแดงก่ำ มันรับไว้ จะว่าไปตอนที่มันเศร้า ผมทำไรไม่ถูกเลยคับ เหมือนเงียบๆไป เฮ้อ

ออดเข้าแถวดังแล้วคับ ผมพาเดชไปล้างหน้า แล้วก็บอกว่าอย่าคิดมาก ผมจะไม่ทิ้งมันแน่นอน แต่ว่า...มันไปเอาความคิดนี้มาจากไหนอ่ะคับ ที่ว่าผมจะทิ้งมัน เฮ้อ คนปล่อยข่าวก็ช่างปัญญาอ่อนเหลือเกิน

เดี๋ยวนี้วันจันทร์ ผมกับต่ายก็มักจะนั่งด้วยกัน สายตาไอ้ไม้มันก็มองผมอีกดิคับ แต่...ผมก็ไม่สนใจมันหรอก มันรู้อยู่แล้วว่าผมไม่คิดอะไรกับต่าย ผมเอาเรื่องที่เดชร้องไห้ไปเล่าให้ต่ายฟัง ก็เหมือนเดิมแหล่ะคับ ต่ายเป็นคนที่อ่อนไหวง่าย ต่ายรู้สึกผิดมากที่ทำให้คนอื่นร้องไห้เพราะตัวเอง

“เราไม่สบายใจว่ะใหญ่” – หลังจากผมเล่าจบต่ายก็พูดขึ้นมา ตามองกระดานไม่ให้อาจารย์รู้ว่าเราแอบคุยกัน
“นั่นมันก็ เรื่องของแก” – ผมแหย่ต่าย ต่ายมามือมาตีไหล่ผม
“แก จริงๆนะ เราว่าเราคงต้องไปคุยกับเดชเองดีป่ะ”
“เรื่องของแก” - ผมไม่ออกความคิดใดๆทั้งสิ้น
“แกช่วยเราคิดหน่อยเหอะนะ เราทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยมีผู้ชายมาจีบเรา เราทำตัวไม่ถูก”
“อ่อนต่อโลกจริงๆ เฮ้อ” – ว่าแต่เขา ผมเองก้ยังไม่เคยมีแฟนเหมือนกันแหล่ะน่า
“แล้ววันนี้แกจะมาจาก ร.ด. กับเดชป่ะ”
“มั้ง”
“มั้งนี่คือ กลับกับเดชใช่ป่ะ”
“ถ้าเราเจอมัน เราก็ต้องกลับกับมัน ถ้าเราไม่เจอ เราก็กลับกับเพื่อนเราแหล่ะ”
“เราจะออกมาซื้อกับข้าวที่เดิมนะ ถ้าแกจะพาเดชมา....”
“วันนั้นเดชมันลากเรามา เราไม่ได้เต็มใจ” – ผมสวนขึ้นไป
“เออน่ะ เราอยากคุยกับเดชให้มันรู้เรื่อง”
“เออ ถ้าเราเจอมันเราจะพามันมาหาแกละกัน” – ผมบอกปัด
“ขอบใจ แต่แกอย่าให้ไม้รู้นะ”
“มันก็แน่อยู่แล้ว ถ้าไอ้ไม้รู้ เราจะซวยมากกว่าแกอีก เมื่อคืนวานไอ้ไม้โทรหาเราด้วย”
“เหรอ โทรว่าไรมั่ง”
………….. - ผมเล่าเรื่องโทรศัพท์ที่ไม้โทรหาผมคับ
“เรารู้สึกว่า เราเองก็ไม่ได้สวยอะไรนะ ใหญ่ว่าป่ะ”
“ก็สวยอยู่หรอกแก ถ้าสมมุติเราชอบแกจริง แกจะรับรักเราป่ะ” - ผมแหย่ต่าย
“มาดิ ฮ่าๆๆ แต่เรารู้แกไม่ชอบเราหรอก”
“ก็รู้นี่หว่า แกมันไม่ใช่สเปกเรา” – ผมหัวเราะ ต่ายเอามือมาตบไหล่ผมอีกรอบ

คาบเช้า 4 คาบผ่านไป ไม่ได้เรียนซักกะวิชาเลยคับ คุยกันอยู่นั่นแหล่ะ แต่ก็ไม่เสียงดังเหมือนไอ้ไม้หรอกคับ เวลาคุยกับมัน ได้ยินถึงหน้าห้อง อาจารย์เลยด่า พอเลิกเรียนแล้วผมบอกเพื่อนผมว่า ผมจะไปธุระ ไปกันก่อนเลยไม่ต้องรอ แล้วเดี๋ยวเจอกัน ผมบอกเสร็จก็เดินไปหาเดชที่ห้อง มันนั่งอยู่คนเดียวคับ หันหน้าออกไปที่หน้าต่าง จิตใจเหมือนล่องลอยไปไหนต่อไหนแล้ว

“เฮ้ย มาแล้ว” - ผมทักเดช
“มานานยังวะ”
“นานจนเห็นแกทำ MV อยู่อ่ะ”
“เออ ไปกินข้าวกัน”
“เพื่อนแกไปไหนหมดวะ” – ผมถามอย่างสงสัย ปกติมันจะอยู่กับเพื่อนมัน
“หาแฟนมันกันหมด ไอ้เข้มไปหาแฟนที่ห้อง ไอ้เต้ไปหาแฟนรุ่นน้อง ไอ้เอกไปหาแฟนรุ่นพี่”
“เหลือแต่แกที่ไม่มีแฟน ว่างั้น”
“ใหญ่ ตอนนี้เราแทบจะไม่มีใครแล้วว่ะ เพื่อนเราคนเก่าๆหายไปหมด ตอนนี้ก็เหลือแต่แกแล้วแหล่ะที่เป็นเพื่อนเรา” – แล้วมันก็กอดผมคับ โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ในห้อง มีผมกับมัน 2 คน
“แกอย่าไปคิดมากดิ เพื่อนน่ะ ยังไงเพื่อนมันก็ยังอยู่กับแกนะเว้ย”
“ก็เมื่อเช้าอ่ะ ที่เราร้องไห้ เพราะเรากลัว ว่าแกจะทิ้งเราไป”
“กลัวทำไมวะ”
“ก็ทีเพื่อนเรายังทิ้งเราไปได้เลย แล้วทำไมแกจะทิ้งเราไม่ได้” – เดชเริ่มจะร้องไห้อีกแล้ว
“ไม่หรอกน่า มันก็เป็นอย่างงี๊แหล่ะ ซักพักเดี๋ยวมันก็กลับมาหาแก มันก็คงเห่อแฟนเป็นฤดูกาลก็แค่นั้นแหล่ะ”
“แกอย่าทิ้งเราไปไหนนะเว้ย” – ทีนี้มันร้องไห้จริงจังเลยคับ กอดผมเอาไว้ด้วย
“.......” – ผมทำไรไม่ถูกคับ ได้แค่ปลอบมัน ลูบหัวมัน แล้วก็เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้มัน
“เราจะอยู่กับแกเอง ถ้าใครไม่อยู่ก็ช่าง” – ผมบอกมัน
“ขอบใจว่ะ ใหญ่ นายน่าจะมาอยู่กับพวกเราเนอะ เสียดายเรารู้จักนายช้าไปปีนึง”
“มันก็คงดีกว่ารู้จักกันตอน ม.6 นะ”

แล้วเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก เราก็ยังคงอยู่อย่างงั้น จนผมเห็นว่ามันก็สมควรแก่เวลาจะกินข้าวแล้ว ผมจึงพามันลงไปล้างหน้า แล้วก็ไปกินข้าว

“แกยังจะช่วยเรื่องต่ายอยู่ป่ะวะ” – เดชถามผมคับ
“ไม่ช่วยเพื่อนแล้วจะช่วยใครล่ะ”
“ขอบใจว่ะ”
“เราว่าพวกเรารีบกินเหอะว่ะ ไปสายเดี๋ยวโดนวิ่งรอบศูนย์ฝึก” – ผมเร่งมัน ท่าทางมันไม่อยากกิน
“เฮ้ย กินไปนิดเดียวเองอ่ะ” – ผมว่ามัน ปกติมันจะกินข้าวเร็วกว่าผม และก็กินเยอะกว่าผม
“ไม่หิว”
“ถือว่าเราขอร้องเหอะ กินนะเว้ย ถ้าแกไปเป็นลม เราไม่แบกแกกลับนะ”
“ใจดำว่ะ”
“บางเรื่องมันก็...น่าจะคิดเองได้นะ”
“ไอ้ห่าใหญ่ เออ กินก็ได้วะ”
“มันต้องอย่างงั้นดิเดช”

ผมกับมันกินข้าวกันแค่ 2 คนคับ สงสารมันจัง เพื่อนทิ้งไปหาแฟนกันหมด แต่เรื่องเย็นนี้ที่ต่ายบอกว่าจะคุยกับเดช ไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรที่ต่ายอยากเคลียร์ ผมกลัวว่าสิ่งที่ต่ายจะพูดมันจะทำให้เดชไม่สบายใจเข้าไปอีก วันนี้มันเปลี่ยวอะไรของมัน จิตใจมันหวั่นไหวเหลือเกิน สงสารมันคับ กินข้าวกันเสร็จ ผมกับเดชก็ขึ้นรถเมล์ไปเรียน ร.ด. กันคับ ตอนนั้นคนไม่เยอะแล้ว เพราะเขาไปกันหมดแล้ว

“เย็นนี้…” - เราพูดพร้อมกัน
“แกก่อน” - ผมบอกเดช
“เย็นนี้รอเราด้วยนะ” – เดชบอกผมคับ
“จะพาเราไปไหนล่ะเย็นนี้”
“ไปที่หอเรา เราอยากให้นายไป ทุกคนที่เป็นเพื่อนเราเคยไปหอเราหมดแล้ว มีแต่นายที่ยังไม่เคยได้ไป”
“เออ ก็ได้” - ผมตกลง
“แล้วแกจะพูดไรวะใหญ่”
“ไม่มีไรละ”
“อ้าว...”
“คือจะถามแค่ว่า จะให้ออกมารอหรือเปล่า ถ้าจะให้รอก็เด๋วจะได้บอกเพื่อนเราว่าให้กลับไปกันก่อน”
“อ่อ อืม”

ผมไม่ได้บอกเรื่องต่ายที่อยากจะเคลียร์กับเดชให้เดชรู้หรอกคับ วันนี้ผมสงสารมันมาก ไม่รู้มันไปช้ำมาจากไหน แต่ผมจะไม่ทำให้มันช้ำอีก ไม่อยากซ้ำเติมมัน ผมคงให้ไอ้ไม้โทรบอกต่ายว่า ผมมาตามที่ต่ายบอกไม่ได้แล้วแหล่ะ ไว้วันหลังละกัน แต่ผมก็ไม่รู้ว่าต่ายอยากคุยอะไรกับเดชกันแน่ แล้วผมจะบอกให้ไม้โทรหาต่ายยังไง ในเมื่อถ้าผมเจอไอ้ไม้ มันก็ต้องสงสัยผมแน่นอนว่า ผมกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมต้องบอกต่ายด้วย คิดมากเลยคับ คิดจนผมหลับ ส่วนเดชก็นั่งตัวตรงอยู่ริมหน้าต่าง สายตามองผ่านไปเหมือนคนที่ความคิดเลื่อนลอยคับ เฮ้อ!! สงสารมันว่ะ
-----------------

joypluss

  • บุคคลทั่วไป

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 14
 :o8:
ผมกับเดชมาถึงศูนย์ฝึก ร.ด. สายคับ มันแน่นอนเลยคับ ว่าพวกผมจะต้องถูกทำโทษ แต่พอดีที่ว่า เดชเป็นหัวหน้ากองร้อยคับ ผมจึงไม่ถูกทำโทษ ก็เพราะว่าหัวหน้ากองร้อยจะต้องเป็นคนนำสวดมนต์ก่อนจะเรียนทุกครั้ง ผมเลยได้อานิสงส์จากเดชไปด้วย เวลาผมเรียน ร.ด. ผมจะไม่ได้อยู่กับมันหรอกคับ ผมป้ายสีแดง เดชป้ายสีฟ้า ซึ่งมันคนละตำแหน่ง ผมก็อยู่กับเพื่อนผม (มันก็เป็นลิ่วล้อผมดิคับ ผมป้ายสีแดง พวกมันป้ายธรรมดา ผมจึงมักจะมีอภิสิทธิ์เล็กๆ กว่าเพื่อนผม) พอจะเลิกเรียน ก็เหมือนเดิมคับ หน.หองร้อยจะต้องกล่าวอะไรไม่รู้ แล้วพวกเราก็เดินออกจากศุนย์ฝึกไปคับ ผมคิดว่า ผมจะพยายามเดินให้ช้าที่สุด เพราะว่าผมอยู่หมวดสุดท้าย เดชจะอยู่หมวดแรก 

ออกไปที่ป้ายรถเมล์กัน เพื่อนผมบางส่วนก็กลับกันไปแล้ว บางส่วนที่เคยกลับบ้านด้วยกันกับผมก็ยังคงรอผมอยู่ ผมบอกว่าถ้ารถมาก็ไปกันเลย ไม่ต้องรอ วันนี้ไม่กลับทางนั้น เพื่อนผมเชื่อคนง่ายคับ เพราะมันเป็นเทพ เรียนเก่งโคตรแต่เรื่องอื่นๆน่ะหลอกง่ายมาก บางวันหลอกว่าผมทำน้ำหกใส่สมุดมัน มันยังเชื่อเลยคับ ว่าแล้วผมก็ส่งเทพของผมขึ้นรถไป ที่ป้ายรถเมล์ตอนนั้นไม่มีเพื่อนผมอยู่แล้ว เหลือแค่ผมคนเดียว แต่แล้วเดชก็ยังไม่มา ไปไหนวะน่ะ บอกให้รอก็หายไปซะงั้น

รถคันแรกผ่านไป 15 นาที คันที่สองผ่านไป คันที่สามผ่านไป ทำไมมันนานอย่างงี๊ มันไปไหน ใจจึงก็ห่วงกลัวว่ามันจะไปทำไรบ้าๆ มันยิ่งอารมณ์เปลี่ยวๆด้วย หรืออีกใจก็คิดว่า มันลืมป่ะวะ แล้วมันก็ย่องมาด้านหลังผมคับ
 
“รอนานป่ะ”
“เกือบชั่วโมง ไม่นานหรอก ถ้ารถมาอีกคันจะกลับบ้าน”
“ไปหาของกินให้นาย อ่ะ...” – เดชยื่นขนมตาลโรยหน้ามะพร้าวให้ผม
“แกไปไหนมาวะ” - ผมถาม
“ไปหาขนมกิน กว่าแกจะออกมา แกอยู่หมวดสุดท้าย เราก็เลยไปหาของกินแถวนี้ เลยซื้อมาฝาก”
“ขนมตาลอ่ะนะ”
“จะกินไม่กิน หา”
“กิน กิน กินก็ได้” – ผมยัดขนมตาลเข้าปาก ยอมรับว่า หิวเหมือนกัน
“ไปยังไงอ่ะหอแก”
“ก็ นั่งสาย117 ไป เด๋วถึงแล้วบอก”
“เออ”
“แล้วทำไมไปหาของกินนานจังล่ะ” - ผมถาม
“ก็มันไม่ค่อยมีน่ะ เดินไปเกือบบางโพถึงจะเจอ”
“เออ ไกล วันหลังไม่ต้องก็ได้นะ”
“รถเมล์มาแล้ว”

รถเมล์มาแล้วคับ ว่างด้วย ดีจัง ปกติแน่นมากคับ แน่นไปด้วยพวกเรานั่นแหล่ะ ปต่ตอนนั้นไม่มีพวกเราที่เรียน ร.ด. กันแล้ว ก็เลยได้นั่งคับ ที่นั่งสองคน ผมนั่งข้างในคับ เดชนั่งข้างนอก แล้วผมก็หลับไป นานแค่ไหนไม่รู้ นานจนถึงหอเดชคับ มันปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์  ผมถูกลากลงรถเมล์อย่างรวดเร็วก่อนที่จะบอกว่า

“ไม่ลากซะแขนเราหักไปเลยล่ะ” – ผมด่ามัน ด่าเล่นๆแหล่ะคับ
“ขอโทษ ไม่คิดว่าจะขี้เซาอย่างงั้น”
“เออเออ เดินไปไกลป่ะ”
“ไม่ไกล” – แล้วมันก็คว้าแขนผมไปคับ “เดินให้มันไวๆหน่อย”
“ก็ง่วงอ่ะ”
“ให้มันว่อง” – เดชมันกระฉับกระเฉงจังวะ
“แกช่วยปล่อยมือเราก่อนได้ป่ะ”
“ก็นายเดินช้าอ่ะ ไม่ทันใจเรา”
“เออ เราจะเดินให้เร็ว ปล่อยได้แล้ว” – ผมบอกมันให้ปล่อยมือผมซักที มันก็ทำตามคับ
“ก็แค่นั้น” - ผมบอกมัน
“มาเดินใกล้ๆดิ” – แน่ะ มันสั่งผมอีก
“เออรู้แล้ว” – ผมว่าง่ายคับ
“ก็แค่นั้น” - มันย้อนผมคับ
“ย้อนกูเหรอ” – ผมเริ่มมีศัพท์พ่อขุนรามกับมันแล้วคับ
“เออ”

จริงๆ แล้วทางจากปากซอยมันก็ไกลนะคับ แต่ก็เพราะคุยกันไปเพลินๆ ระยะทางมันก็ใกล้นิดเดียวเอง ถ้าให้ผมเดินเอง ไม่ไหวหรอกคับ มันทักลุงยามหน้าหออย่างสบายใจ แล้วก็พาผมขึ้นไปที่ห้องของมัน ห้องพักของมันก็รกแหล่ะคับ ตามประสาเด็กผู้ชาย ม.ปลาย รกจริงจัง แต่ของมีไม่เยอะคับ ก็เลยดูกว้างๆ 

“ห้องรกป่ะวะ” - มันถามผม
“รกกว่าบ้านกูอ่ะ แต่ก็ไม่รกมาก” –ห้องไอ้ไม้รกกว่านี้อีก
“เออ ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนี้แกจะมาใหญ่”
“เออ”

เดชจัดแจงปัดกวาด ทำความสะอาดห้อง มันคงจะอายมั้งคับ เพื่อนใหม่มาห้องมันแต่สุดจะรก ห้องมันมีเตียง 1 เตียง ขนาดที่นอนได้ 2 คนแล้วเบียดกันนิดๆ แล้วก็มีโต๊ะหนังสือ ชั้นวางหนังสือ ตู้เสื้อผ้าเล็กๆ แล้วก็ชั้นวางของ แค่นั้นเลยคับ ของน้อยมากๆ ผมเริ่มเดินสำรวจห้องระหว่างที่เดชกำลังทำความสะอาด ชั้นวางหนังสือและโต๊ะหนังสืออยู่ติดกัน เป็นเรื่องแปลกๆคับที่มันไม่มีการ์ตูนซักเล่ม ถามมันบอกว่า มันไม่ชอบอ่านการ์ตูนคับ บอกว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน อ่านไปก็งั้นๆ มันก็เลยไม่อ่านการ์ตูน มีแต่หนังสือเรียนและหนังสือที่เกี่ยวกับการเรียน หนังสือที่มีความรู้ และหนังสือเกี่ยวกับทหารคับ

ซักพักเดชส่งอัลบัมรูปมาให้ผมดูคับ ผมก็รับมาดู มันถามว่าคนไหนคือมัน ผมชี้ผิดคนคับ (แฮ่ะๆ) หน้ามันเปลี่ยนอ่ะ ผมเลยไม่รู้ว่าคนไหนเป็นมัน รูปนั้นเป็นรูปที่เดชถ่ายกับเพื่อนที่สุพรรณตอน ม.3 ก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่กรุงเทพ ในรูปมีคนอยู่ 4 คนยืนกอดคอกันคับ มันบอกผมว่า การที่เรามีเพื่อนเยอะๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะหาความจริงใจได้จากเพื่อนได้ทั้งหมด มันเลือกที่จะมีเพื่อนน้อยๆ แต่จริงใจให้กัน และสามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขกับมันได้ก็พอคับ มันไม่ขออะไรอีก แตกต่างกับผมคับ ผมเป็นคนที่เพื่อนเยอะมาก เพื่อนผมมีหลายสังกัด เพื่อนในห้อง เพื่อนกรรมการนักรียน เพื่อนในค่าย เยอะแยะมากๆคับ แต่ก็จริงนะ ผมไม่สามารถหาความจริงใจได้จากเพื่อนได้ซักคน เวลาผมมีปัญหา(แต่มักจะไม่ค่อยมี) ที่พึ่งของผมก็คือ ตัวของผมเอง ผมเลือกที่จะไม่ปรึกษาใคร แม้ผมจะไว้ใจเขาก็ตาม แต่ก็ไม่รู้ทำไมว่า เวลาใครมีปัญหา ที่พึ่งแรกๆ ก็คือผม

“มานั่งนี่ดิ” – เดชเรียกผมไปหามันที่เตียง มันนอนเล่นอยู่บนเตียงของมัน
ผมเดินไปหามันอย่างว่าง่าย แล้วก็ไปนั่งปลายเตียง หันหน้าไปหามัน ในมือผมถืออัลบัมรูปที่มันให้ผมดู
“อีกไม่นานแกก็จะมาอยู่ในอัลบัมนี้เว้ยใหญ่”
“เราให้ถ่ายรูปยากนะ หน้าตาเราไม่ดี”
“เพื่อนน่ะ ไม่มีคำว่าหน้าตาหรอก จำไว้”
เราทั้งคู่ดูรูปกันอยู่ เดชนอนคว่ำบนเตียง ในสภาพที่ท่อนบนเปลือยคับ ผมนั่งอยู่ปลายเตียงในชุด ร.ด. เต็มยศ
“.... แกไม่ร้อนเหรอวะ” –เดชถามผม
“ร้อน”
“ไม่ต้องอายเราก็ได้ เสื้อน่ะถอดออกไปเหอะน่า ชุด ร.ด. มันร้อน เรายังทนไม่ได้เลย”
“อายเว้ย ไม่เคยไปถอดให้ใครเขาดู”
“เออน่า อยู่กับเดชไม่ต้องอาย เวลาพวกไอ้เข้มมันมามันยังไม่อายเลย”
“แต่เราอายว่ะ ช่างเหอะ เราทนได้”
“ตามใจแก”
ผมถอดเสื้อนอกออกคับ เหลือแต่เสื้อคอกลมข้างใน มันร้อนจริงๆแหล่ะคับ แต่ผมก็อายมันเหมือนกัน
“ใหญ่ เรามีอะไรอยากให้แกดู”
“อะไรวะ”
“ไดอารี่” - มันส่งไดอารี่ให้ผม
“แกเขียนเป็นกับเขาด้วยเหรอ” – ผมถามอย่าง งง งง
“คนเรามันก็มีโลกส่วนตัวบ้าง”
“หน้าตาเหี๊ยมอย่างแกอ่ะนะ”
“อย่าดูถูก อ่านซะก่อนค่อยวิจารณ์”

ผมรับไดอารี่มา แล้วก็สุ่มมาเป็นบางหน้า อ่านไม่รู้เรื่องคับ อย่างแรกก็คือ ลายมือมันแย่มาก อย่างที่สองก็คือ เรื่องราวที่มันเขียน ผมแทบจะไม่รู้เรื่องเลยคับ ใครคือไอ้ไผ่ ไอ้สัง ถามมันบอกว่า แกเล่นไปอ่านช่วงที่มันเป็น ม.3 แกจะไปรู้จักได้ไง ไอ้ไผ่กับไอ้สังเป็นเพื่อนมันในรูป 4 คนที่มันให้ผมดูแหล่ะคับ

ผมเลยเปิดไปที่หน้าสุดท้ายที่มันเขียน เป็นไดอารี่ของวันอาทิตย์คับ วันอาทิตย์ที่ผมกับต่ายไปสยาม แล้วไอ้ไม้ตามไป ไดอารี่หน้านั้นมีรอยยับมากมาย มีรอยเป็นดวงๆอยู่ด้วย ถ้าเปรียบเทียบกับความยาวของเนื้อหาที่เขียน ตอนแรกๆ มันจะเขียนแค่ว่า วันนั้นมันทำอะไรกับใครที่ไหน แต่ช่วงหลังๆ จะมีความยาวมาก ยิ่งวันสุดท้ายมีความยาว 3 หน้ากว่า เนื้อหาในนั้นนอกจากเรื่องของต่ายแล้ว ก็มีเรื่องของผมด้วยคับ

“...ตอนบ่ายหลังจากที่แยกไปกับไอ้ใหญ่ กูไปกินข้าวกับพวกไอ้เข้มมา กูปรึกษามันบอกว่า เมื่อไหร่ต่ายจะใจอ่อนวะ มันบอกกูว่า กูว่า ยังไงก็ไม่สำเร็จหรอกว่ะ ดูต่ายเขาสนิทกับไอ้ไม้จะตาย ก็ว่ามึงน่ะไม่มีวันหรอก กูก็เถียงว่า ไอ้ใหญ่มันช่วยกูอยู่ มันบอกกูอีกว่า ไอ้ใหญ่น่ะ อย่าไปหวังอะไรกับมัน มึงอย่าลืมว่าไอ้ใหญ่ก็เพื่อนไอ้ไม้ มีเหรอว่ามันจะมาช่วยคนอย่างมึง กูเสียใจมากที่มันว่าไอ้ใหญ่ กูก็เลยบอกมันว่า คนอย่างไอ้ใหญ่น่ะจริงใจ มันก็เป็นเพื่อนกูเหมือนพวกมึงนั่นแหล่ะ ถึงกูรู้ว่ามันอยู่ห้องเดียวกับไอ้ไม้ แล้วไงล่ะ กูจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้เหรอ....”

ข้ามไปอีกประมาณ 2 ย่อหน้า มีเรื่องของผมอีกแล้วคับ

“…กูรอไอ้ใหญ่ รอตั้งแต่บ่ายสองถึงหกโมง แต่แมร่งก็เดินไปกับต่ายแล้วก็ไอ้ไม้ กูรู้ว่ามันเห็นกู แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น ถ้ากูเป็นไอ้ใหญ่ กูคงเข้าใจว่ะที่มันต้องทำอย่างงั้น กูทำให้ไอ้ใหญ่มันไม่สบายใจว่ะ ไอ้เข้มมันก็บอกกูเมื่อกลางวันว่า ที่ไอ้ใหญ่มันมารู้จักมึงก็เพราะต่าย ถ้าไม่มีต่ายไอ้ใหญ่ก็คงไม่มารู้จักคนอย่างมึงหรอก แล้วมึงก็อย่าเชื่อในตัวไอ้ใหญ่มันมาก ถ้ามันเลิกช่วยมึงมันก็คงเลิกคบกับมึง กูเลยทะเลาะกับไอ้เข้มไป กูเสียใจนะไอ้เข้ม เสียใจที่มึงมาดูถูกไอ้ใหญ่  กูเองก็ไม่คิดว่ากูจะต้องมาทะเลาะกับมึงเพราะเรื่องต่ายและไอ้ใหญ่ กูเป็นเพื่อนไอ้ใหญ่ กูจะไม่ยอมให้ใครดูถูกเพื่อนกู”

“กูโทรหาไอ้ใหญ่ กูอยากบอกว่า กูรักมันนะ แต่มันจะอยากที่จะรักกูหรือเปล่า กูรักมันเป็นเพื่อนนะเว้ย กูคุยกับมันแล้วกูรู้สึกดีว่ะ รู้สึกดีกว่าพวกไอ้เข้มอีก แมร่งไม่เคยช่วยแถมจะซ้ำเติม ใช่ดิ แมร่งมีแฟนแล้ว มันจะไปเข้าใจอะไรกู ตอนนี้เพื่อนกูก็เหลือไอ้ใหญ่คนเดียวแหล่ะที่มันจะเข้าใจกู แม้มันดูข้างนอกเป็นคนแข็งๆ กระด้าง ไม่ค่อยแสดงออกว่ามันเป็นคนจริงใจ แต่กูรู้สึกได้ กูโชคดีที่สุดแล้วที่ได้ไอ้ใหญ่มาเป็นเพื่อนกู”

อ่านจบแล้วผมถาม
“แกเขียนไปร้องไห้ไปด้วยเหรอ” – ผมถาม
“เออ เราผิดตรงไหนที่จะเขียนแล้วร้องไห้”
“ไม่คิดว่า แกจะเขียน.....ถึงเราด้วย”
“เฮ้ย เอาน่า เราอยากให้แกได้อ่าน อันนั้นแหล่ะที่เราจะบอกแก”
“แกวางแผนอะไรไว้หรือเปล่าน่ะ”
“เรารู้สึกอย่างงั้นจริงๆ เพื่อน ไม่ง่ายนะเว้ยที่เราจะเลือกใครซักคนมาเป็นเพื่อน แต่ถ้าเราเลือกเขาแล้ว เราจะรักเขาเท่าที่เราจะรักได้ และตอนนี้มันก็เป็น....แก ไอ้ใหญ่” – เดชพูดไปมันมองหน้าผมแล้วก็โอบไหล่ผมคับ
“ขอบคุณนะ เรารู้จักคนมาเยอะ แต่ก็ไม่มีใครที่เขาจะมาเป็นเพื่อนเราอย่างจริงๆ นายก็เป็นเพื่อนรักเรา คนแรกจริงๆ” – ผมเขินๆ นิดหน่อย เดชเองก็ยังคงโอบไหล่ผมเอาไว้ “แต่ว่า แกช่วยเอามือออกไปจากไหล่เราเถอะ เราไม่ชิน”
“เรารักกัน มันก็ต้องแสดงออกกันบ้าง แกมันเป็นคนที่แข็งกระด้าง ไม่มีความรู้สึก”
“เออ เรามันไม่มีความรู้สึก ก็...เราไม่เคยมีเพื่อนแบบแก”
“งั้นก็มีซะ นี่ๆ” – มันแกล้งผมคับ ตบหัวผมแล้วก็กอดผมแรงขึ้นกว่าเดิม ผมไม่อยากจะขัดขืนมันแล้วคับ

มันกอดผมอยู่ได้สักครู่ มันก็ปล่อยคับ เรานอนดูรูปกันต่อ มันก็เล่นหัวผมคับ เกาหัวผมอยู่นั่นน่ะ มันบอกว่ามันชอบเล่นหัวเพื่อน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกดีกับมันอย่างงี๊ ผมไม่เคยรู้สึกอย่างงี๊กับเพื่อนคนไหนมาก่อนเลย จนได้มาเจอมัน เพื่อนผมมีเป็นร้อย เราเล่นกัน เราคุยกันธรรมดา แต่เพื่อนอย่างมัน ถือว่า เป็นเพื่อนที่พิเศษมากเลยคับ 

KATHAE*

  • บุคคลทั่วไป
แล้วใหญ่ ก้อ....


หลงรัก เดช เสียที สิ .........  :L2:


ติดตามต่อ ไป สู้ๆ

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
รออ่านตอนต่อไปครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






joypluss

  • บุคคลทั่วไป
 :a2:   ใกล้ชิดและเข้าใจกัน ขึ้นอีกขั้น 

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะคับ
 :m4:
+1 ให้แล้วเป็นการตอบแทน comment นะคับ

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
สนุกดีฮะ  :m1:

รอตอนต่อไป :oni1:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
 :a5: รึว่า ความรู้สึกใหญ่กำลังจะเปลี่ยนไป  :a11:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
o2
จะเป็นเส้นขนานระหว่างใครกับใครนะ...
เดชจะคิดแค่เพื่อนกับใหญ่จริงเหรอ ???  :เฮ้อ:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 15
 :a2:
“หิวข้าวว่ะใหญ่”
“กินไรดีล่ะ”
“เดี๋ยวพาทัวร์ ตลาดใกล้บ้าน ของกินอร่อย” – เดชแนะนำ
“เลี้ยงปะล่ะ”
“ไรวะ ชอบแต่ของฟรี ไอ้ใหญ่”
“ล้อเล่น เราเลี้ยงก็ได้ เพื่อนคนเดียว เรามีปัญญาเลี้ยง” – ผมบอก

เราสองคนเดินออกมาจากซอย ประมาณทุ่มกว่าๆ แล้วคับ สองข้างทางก็มืดเหมือนกัน เดชขอเดินจับมือผมด้วยคับ มันบอกว่าเพื่อนกันไม่มีใครเขาคิดอะไรหรอก ผมก็เชื่อมันคับ ยอมให้มันจับมือแต่โดยดี จนถึงปากซอย ข้ามถนนไปก็เป็นตลาดแล้วคับ ผมก็ไม่ยักจะสังเกตว่า ตอนผมลงรถเมล์ ฝั่งตรงข้ามมันเป็นตลาด มันบอกผมว่าผมน่ะขี้เซา เลยไม่รู้เรื่องอะไร ถ้าหลอกไปขายก็คงว่าง่าย เราตกลงกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกคับ เดชมันสั่งเส้นใหญ่พิเศษ ผมสั่งเส้นหมี่หมูธรรมดา เมื่อสั่งเสร็จแล้วก็นั่งคุยกัน

“เราต้องซ้อมงานโรงเรียน ทั้งสัปดาห์เลยว่ะ”
“ซ้อมไรวะ”
“งานวันสถาปนาโรงเรียนไง”
“อ่อ จำได้ละ ที่ว่ายิงปืนในสนามรบใช่ป่ะ”
“ความจำดีมากไอ้ใหญ่”
“เออ แล้วไงล่ะ”
“อยู่เย็นเป็นเพื่อนกับเราได้ป่ะ”
“ได้แหล่ะมั้ง เราเองก็ต้องมีประชุมเตรียมงานกับอาจารย์ด้วย เห็นว่าปีนี้จะเชิญผู้ใหญ่มาดูงานกันมากกว่าปีก่อน สงสัยคงได้อยู่เย็น”
“ดีเลย งั้นแกประชุมเสร็จแกมาหาเรานะ”
“แล้วพวกไอ้เข้ม... อ่อเออ ลืมไป แกทะเลาะกับมัน”
“เห็นป่ะล่ะ ว่าแกน่ะใส่ใจเพื่อนมาก”
“พอดีอ่านไดอารี่แล้วจำได้อ่ะ”
“เราเสียใจมากเลยที่ไปทะเลาะกับมัน เพื่อนๆก็ไปเชื่อมันกันหมด”
“ไม่หรอกน่า เดี๋ยวมันก็เข้าใจแก เราเชื่ออย่างงั้น”
“จริงเหรอวะ แต่ว่า เราทะเลาะกันแรงนะ ไม่รู้ดิ ก็ไม่เคยต้องทะเลาะกับมัน แล้วพรุ่งนี้ยังจะต้องซ้อมกับพวกมันอีก ไม่อยากซ้อมเลยอ่ะ อยากลาออก”
“ใจเย็นดิเดช ถ้าขาดแกเขาก็ซ้อมกันไม่ได้ อย่างี่เง่าเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้เราไปช่วยเคลียร์กับไอ้เข้มให้ป่ะ”
“ขอบใจว่ะ แต่ ไม่ดีกว่า มันเป็นเรื่องของเรากับมัน ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องของเรา”
“เราเข้าใจไอ้เข้มนะ มันห่วงแก มันไม่อยากให้แกคิดเรื่องต่ายต่อไปอีก...”
“เรื่องต่ายน่ะไม่เท่าไหร่ แต่มันว่าแก เราทนไม่ได้ว่ะ”
“...ก็ไม่ผิด ที่ไอ้เข้มจะคิดอย่างงั้น เราเองมันก็แค่สิ่งที่จำเป็นในการที่แกจะไปหาต่าย ถ้าแกไม่มีเราแกอาจจะใช้คนอื่นก็ได้ แล้วเราก็คิดเสมอ ว่าถ้าไม่มีต่าย เราก็คงไม่รู้จักแก แล้วก็เมื่อไหร่ที่แกได้ต่ายไปเป็นแฟน แกก็จะไม่เป็นเพื่อนเราอีก เรายอมรับว่าเราก็คิด”
“ไอ้ใหญ่ หยุดเดี๋ยวนี้ ไม่มีทาง แม้เราจะไม่ได้ต่ายเป็นแฟน แต่เราก็ยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับแก”
“เออ ยังไงพรุ่งนี้จะรอฟังข่าวดีนะเว้ย”
“แล้วต่ายล่ะ ตอนนี้ทำไรอยู่แกรู้ป่ะ” - นึกว่ามันจะไม่ถามเรื่องต่ายซะแล้ว
“กินข้าวมั้ง อ่านหนังสือ อยากรู้ก็โทรไปหาเขาดิ”
“เอ่อ คือว่า....”
“มามุขนี้อีกละ อ่ะอ่ะ เดี๋ยวเราโทรไปให้ก็ได้”
“ใหญ่จ๋า....ขอบคุณมาก” – มันจะมากอดผม :กอด1:อีกแล้ว ผมหยุดมันไว้ตรงนั้น

ชิมไปบ่นไป ไม่ใช่บ่นอาหารนะคับ แต่เดชมันก็บ่นๆ บ่นโน่นบ่นนี่ ถ้าเป็นเพื่อนผมล่ะก็ ผมด่าไปแล้วคับ แมร่งจะบ่นไรนักหนา แต่เป็นเดช ไม่รู้ว่าทำไมผมไม่ด่ามันอ่ะคับ ผมฟังมันบ่นแล้วผมเองก็มีความสุขแบบว่า บอกไม่ถูก

จบจากร้านก๋วยเตี๋ยว ไปต่อกันที่ร้านขายขนมปังนึ่ง ผมน่ะเริ่มอิ่มๆแล้วคับ แต่เดช ไม่รู้ไปตายอยากมาจากไหน มันซัดซะอย่างกับพายุ ทั้งๆที่มันก็ตัวเล็กกว่าผม แต่มันก็ไม่อ้วนนะคับ กินเสร็จเราก็เดินออกมารอขึ้นรถ

“ลืมไรป่ะ” – เดชทวง
“ไม่นะ ไม่น่าลืมไรนี่หว่า”
“โทรหาต่าย”
“เออว่ะ แฮ่ะๆ” :m23:

ผมกดโทรศัพท์หาต่ายคับ แต่ไม่รู้ทำไมว่าตอนนั้นมันไม่ค่อยอยากจะกดซักเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับวันที่เราไปกินก๋วยเตี๋ยวเมื่อคืนวันศุกร์ตอนนั้นเลย ตอนนั้นผมมีความรู้สึกว่า ผมอยากกดโทรศัพท์หาต่ายมากๆ อยากให้มันไปพ้นๆผมซักที แต่มาวันนี้ผมไม่ค่อยอยากจะกดไปหาต่ายเพื่อให้มันคุยเลยคับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมแกล้งทำเป็นถามเดชว่าต่ายเบอร์โทรอะไร มันบอกมาอย่างกับจับวางเลยคับ ผมก็กดไปตามระเบียบ

“ฮัลโหล” - สายปลายทางพูดก่อน
“ขอสายต่ายคับ”
“พูดอยู่ค่ะ”
“ใหญ่เองนะ”
“เออใหญ่ว่าไง วันนี้เราก็อุตส่าห์เดินไปซื้อกับข้าวแถวนั้น เผื่อเจอ”
“อ่อเหรอ เราขอโทษละกัน”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“แล้วตอนนี้แกอยู่ไหนใหญ่”
“เออ มีคนจะคุยกับแก” – ผมตัดบท ยื่นโทรศัพท์ให้เดช
“ต่ายเหรอ เดชนะ”
…….
…….
…….
……..
คุยกันซัก 3-4 ประโยค (อีกแล้ว) แล้วเดชก็ส่งโทรศัพท์มาให้ผม
“แกไปทำไรกับเดช”
“มาที่หอมัน”
“แล้วมันก็บังคับแกให้โทร...”
“อืม ถูกของแก”
“แกเป็นไรวะ เสียงดูเหนื่อยๆ”
“ฝึก ร.ด. หนักไปมั้ง สักพักคงหาย” :เฮ้อ:
“ปกติแกไม่ค่อยจะเหนื่อยนะ พลังแกมันเหลือล้น”
“วันนี้มันเหนื่อยนี่หว่า”
“แล้วทำไมแกต้องไปที่หอมัน” – ต่ายถาม
“มันชวน” - ผมตอบเรียบๆ
“แล้วแกไปทำไม”
“ก็มันชวน” – ผมตอบเรียบๆ อีกแล้ว คราวนี้เดชมันมายืนในตู้โทรศัพท์เลยคับ อึดอัดจริงๆ
“แกก็ปฏิเสธได้นี่ ใช่ป่ะ”
“ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง” – เสียงผมเบาลง
“แกรู้ป่ะว่า ทุกครั้งที่แกอยุ่กับมัน เราลำบากใจนะเว้ย เรารู้ว่าแกไม่ได้เต็มใจ แกถูกบังคับทุกครั้ง แล้วเราก็ทำให้แกต้องเป็นอย่างงี๊” – ต่ายบ่น
“เหรอ”
“ก็เออดิ หรือแกไม่ลำบากใจ”
“เออ” - ผมพูดแบบไม่ค่อยจะเต็มเสียง
“เดชอยู่ตรงนั้นป่ะ”
“อยู่ ข้างๆเนี๊ย” – ผมหันไปมองหน้ามัน “มีไรกับมันป่ะ”
“ไมมี แต่เรามีธุระกับแก”
“งั้นพรุ่งนี้ไปคุยที่โรงเรียนก็ได้” - ผมบอกต่าย
“อยากโทรหาแกมากกว่า อยู่โรงเรียนคุยไม่สะดวก”
“ทำไมอ่ะ ทำไมไม่สะดวก”
“แกนั่นแหล่ะ กลางวันก็กินข้าวแล้วก็ชอบแว่บไปไหนไม่รู้” – จริงแหล่ะคับ ก็วันนี้ผมแวบไปหาเดช
“เออเออ พรุ่งนี้จะนั่งให้แกเห็นหน้าทั้งวัน เอาป่ะ”
“แกอย่าประชดดิใหญ่”
“ไม่ได้ประชด จริงๆ”
“จ้าจ้า งั้นเราวางหูก่อนนะ”
“เดี๋ยว เดชมันจะขอคุยด้วย” – มันสะกิดผมตั้งนานแล้วคับ ผมก็เลยส่งโทรศัพท์ให้มัน
“ฝันดีนะต่าย”
……….
……..
……..
แล้วก็วางหูไป

เราเดินออกมาจากตู้โทรศัพท์กันคับ ผมดูซึมๆ ไป เดชมันทัก มันถามว่าผมเป็นไรหรือเปล่า ผมบอกว่าไม่มีไร คงเหนื่อยมั้ง ผมคงเหนื่อยจริงๆ แหล่ะคับ

“ตะกี๊แกยังไม่เป็นอย่างงี๊เลยไอ้ใหญ่ แกเป็นไร”
“ไม่เป็นไรซักหน่อย” - ผมตอบเรียบๆ
“กูไม่เชื่อ ใหญ่ มรึงบอกกูมานะ มรึงเป็นไร” – มันเดินไปข้างหน้า เขย่าแขนผม
“ปล่อย ก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่มีไรหรอกน่า” - ผมพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุดแล้วคับ
“จริงเหรอ ไม่ว่ะ แกไม่เคยอารมณ์ขึ้นๆลงๆ”
“เหรอ”
“ก็เออดิ แกเป็นคนอารมณ์ดีตลอดเวลานะไอ้ใหญ่”
“วันนี้แกก็อาจจะเห็นอารมณ์เราไม่ดีบ้าง แกอาจจะอยากเลิกคบเราก็ได้นะเดช”
“แกเป็นอะไรวะ” – มันเขย่าไหล่ผมคับสายตามันจริงจัง “เราทำให้แกลำบากใจใช่ป่ะ” - มันถาม
“เปล่า”
“แล้วอะไรล่ะ ที่ต่ายคุยม๊ะกี๊”
“ต่ายบอกว่า.....พรุ่งนี้ต่ายขอคุยด้วย”
“คุยกับเราน่ะเหรอ”
“เออ”
“เฮ้ย ใหญ่ ดีใจว่ะ ขอบคุณมากๆ” – มันดีใจ ผมก็อมยิ้มให้มันคับ
“แล้วมะกี๊แกเป็นไร”
“หลอกแกเล่นน่ะ” - ผมบอกมัน
“หลอกซะกูเปื่อยเลย”
“เออเหรอ ไม่คิดนี่หว่า ว่าจะหลอกง่าย”
“ไอ้ใหญ่ แก แมร่ง...เลว แกล้งกู” – มันก็เริ่มไล่เตะตูดผมคับ ผมวิ่งหนีจนถึงป้ายรถเมล์หน้าปากซอยหอมัน
“ตกลงเมื่อกี๊แกไม่ได้เป็นไรใช่ป่ะ”
“เออ” – ผมหันไปบอกมัน พยายามทำตัวเป็นปกติที่สุด
“ไอ้ห่า กูตกใจหมด นึกว่าเพื่อนรักกูถูกแฟนกูด่า”
“ต่ายเขายังไม่ได้เป็นแฟนใครเว้ย” - ผมย้ำ
“วันนึง เขาก็จะต้องเป็นแฟนกู กูจะให้มึงเลือกว่าอยากเป็นเพื่อนเจ้าสาวหรือเพื่อนเจ้าบ่าว”
“.....”

รถเมล์มาแล้ว ผมขอตัวขึ้นรถกลับบ้านผม ก่อนจะขึ้นมันบอกว่า สามทุ่มทำตัวให้ว่าง จะโทรหา แต่มันไม่ดูเวลาตอนนี้เลย สองทุ่มครึ่งแล้ว ให้เวลาครึ่งชั่วโมง ถึงบ้านปุ๊บให้โทรคุยปั้บ เฮ้อ เกิดเป็นไอ้ใหญ่ เหนื่อยจริงๆ
----------------

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ดูแล้วท่าจะส่อแววเศร้ามาลางๆ  :serius2:

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
มันผูกพันกันอ่ะ

มันเริ่มลึกซึ้ง อาจจะเกินเลยกว่าเพื่อนไปได้

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
พักนี้ผมว่างคับ เลยUpdateทุกวัน วันละตอนก็พอคับ มีอะไรก็ comment ไว้นะคับ จะตามอ่านทุกอันเลยคับ
 :oni3:

ตอนที่ 16
 :m29:
ถึงบ้านแล้วคับ แฮ่ะๆ แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน ผมไม่อยากพูดอะไรมากคับ ผมเหนื่อยจริงๆ ทั้งๆที่วันนี้ ร.ด. ก็เรียนไม่หนักเท่าไหร่ แล้วผมเสียพลังงานไปไหนหมดน่ะ กลับมาถึงบ้านผมอาบน้ำเลยคับ แล้วก็กำลังจะเข้านอน

“ฮัลโหล”
“ไอ้ใหญ่เหรอ”
“เออ มีไรอีกล่ะ เมื่อกี๊ก็เพิ่งแยกจากกัน”
“โห โทรมาคุยเล่นไม่ได้เหรอวะ”
“วันนี้เราง่วง”
“แกเป็นไรป่ะเนี๊ย ตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว”
“ไม่ได้เป็นอะไรเว้ย จริงๆ”
“ท่าทางแกไม่สดใสเหมือนทุกวัน”
“คนเราจะอารมณ์ดีได้ทุกวันยังไงล่ะ มันก็ต้องมีบ้างแหล่ะ แต่เราไม่เป็นอะไรจริง”
“หรือแกลำบากใจ...”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ก็เรื่องที่ เราให้แกโทรหาต่าย”
“ทำไมต้องลำบากใจ เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อน ก็เรื่องปกติ เราก็ช่วยเพื่อนทุกคนแหล่ะถ้าเราทำได้”
“เออ ใหญ่ พรุ่งนี้อ่ะ…”
“ทำไมเหรอ”
“อย่าลืมนะ นายประชุมงานเสร็จต้องรอเราด้วย”
“เออ แล้วมีไรอีกป่ะ”
“กูรักมึงนะใหญ่”
“เออ กูรู้แล้ว เพื่อนกัน แค่นี้นะ” - ผมตัดบทคับ

ผมเตรียมตัวเข้านอนคับ แต่ก็ไม่รู้ทำไม ผมยังไม่ง่วง การบ้านก็มี แต่ไม่ทำหรอกคับ เรามีต่ายไว้ให้ลอกการบ้าน ผมคิดอะไรอยุ่เนี๊ย ตอนนี้ในหัวสมองผม มีแต่เดช เดชกับสมุดไดอารี่ที่มันให้ผมอ่าน มันต้องการบอกอะไรผม ต้องการบอกว่า มันรักผม อย่างงั้นเหรอ หรือมันจะบอกอย่างอื่น รู้งี๊ผมน่าจะถามมันตรงๆว่า มันจะบอกอะไรกับผม ใจความในนั้นรู้แค่ว่า ไอ้เข้มมันว่าผม ไอ้เดชมันปกป้องผม เพราะมันรักผม สรุปแล้วก็คือ มันรักผม เป็นเพื่อน เพื่อนแค่นั้นแหล่ะ ไม่มีอะไรที่มันควรจะเกินเลยไปกว่านี้แล้ว แต่การรักเพื่อนเนี๊ย ผมก็เคยได้ยินเพื่อนคนอื่น ไอ้ไม้มันก็เคยบอกผมคับ ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้ไม้หรอก ยังจำได้เลยตอนที่ไอ้ไม้มันบอกรักกับผม ผมยังไล่เตะตูดมันอยู่เลย บอกว่าสยอง กูไม่เอามึงหรอก แต่พอมาวันนี้ คำที่มีความหมายคล้ายๆกัน ออกมาจากคนละคน แต่ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้สึกดีกับเดช – ใช่, ผมอยากให้มันโทรหาผม – ไม่ค่อยเท่าไหร่, ผมต้องถูกมันบังคับให้ทำโน่นทำนี่ – ใช่, ผมเต็มใจทำให้มัน – บางครั้ง, บางครั้งที่ทำอะไรกับเดชก็รู้สึกดีใช่ป่ะ – ใช่, แล้วตอนที่มันกอดผมล่ะ – อบอุ่น รู้สึกดี, ผมชอบเดชแล้วเหรอ – ยังไม่แน่ใจว่ะ ไม่เคยมีความรัก

ถ้าผมชอบเดชจริง แล้วที่เดชจีบต่ายล่ะ เดชชอบต่ายไม่ใช่เหรอ แม้ต่ายเขาจะไม่เห็นคุณค่าของเดชก็ตาม เดชก็ยังพยายาม พยายามแม้จะรู้ว่าสู้ไอ้ไม้ไม่ได้  แล้วผมก็เลือกที่จะอยู่ข้างเดช ทั้งที่ผมเป็นเพื่อนไอ้ไม้ ผมชอบทิ้งไอ้ไม้ไปหาเดช ผมทำตามที่เดชมันขอร้องเกือบทุกอย่าง แต่ผมเองก็ไม่เคยที่จะเชียร์ต่ายให้เลือกเดช ผมยังคงเป็นเพื่อนไอ้ไม้ ผมเป็นเพื่อนเดช ความรู้สึกตอนนี้ผมสับสน ผมรู้สึกอะไรกันแน่ ผมไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ

เช้าขึ้นมาผมตื่นสายคับ มาไม่ทันสัญญาณเรียกแถว แต่ก็ยังมาทันเชิญธงชาติอยู่ดี เพราะเขาต้องรอผมไปเชิญธงชาติแหล่ะคับ ผมโยนกระเป๋าไว้ข้างๆเสาธง แล้วก็เชิญธงชาติตามปกติ ระหว่างที่ผมกำลังเดินถือกระเป๋ากลับมาที่แถว ผมผ่านไปที่แถวที่เดชเข้าแถวอยู่ด้วย มันอยู่หลังสุดของแถว ไม่ได้ยืนติดไอ้เข้มและเพื่อนๆหรอกคับ มันยืนคนเดียว ผมเดินไปหามันที่แถว กะว่าจะไปขยิบตาใส่มันซักนิดแล้วค่อยไปที่แถวตัวเอง มันคว้ามือผมแล้วก็บอกว่า หลังเลิกแถวไปหาที่ห้องเรียนด้วย คับ ผมก็ปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย

ผมเดินไปหาเดชที่ห้องเรียนของมันคับ มันก็ออกมานั่งหน้าระเบียง

“อ่ะ เรารู้ นายยังไม่ได้กินข้าว” – อีกแล้วคับ มันส่งข้าวเหนียวหมูปิ้งมาให้ผมอีกแล้ว
“ให้เรากินแต่หมูปิ้งทุกวัน”
“เออ กินไป ข้าวเช้าดีต่อสุขภาพ”
“หลับคาโต๊ะอ่ะดิไม่ว่า ยิ่งเป็นข้าวเหนียว หลับแน่ๆ”
“กินไป อย่าเรื่องมาก” – แล้วมันก็จับหมูปิ้งยัดปากผม
“แล้วแกกินมายัง” – ผมกำลังเคี้ยวหมูปิ้งที่มันยัดปากผม
“เรียบร้อยแล้ว”
“เออ ดี”
“เพราะแกแหล่ะไอ้ใหญ่ที่ทำให้วันนี้ขึ้นห้องช้า”
“เกี่ยวไรกับเราวะ”
“ก็แกมาสาย เขาเลยเชิญธงชาติขึ้นช้ากว่าเดิม”
“ไม่เกี่ยวแล้วมั้ง วันนี้ ผ.อ. เขามีเรื่องงานวันสถาปนาโรงเรียนมาแจ้งให้ทราบ”
“ส่วนหนึ่งก็เพราะแกด้วยแหล่ะไอ้ใหญ่”
“เออ เราผิด เราผิด”
“เฮ้ย ล้อเล่นน่า”
“เหอะๆ” - เราหัวเราะกันทั้งคู่
“เรายังไม่คุยกับไอ้เข้มเลยว่ะ” – เดชเอ่ยขึ้นก่อน
“ให้เราช่วยไรได้ป่ะวะ”
“ไม่เป็นไร เรื่องของเรา เราจัดการได้”
“ให้ช่วยไรบอกได้นะ”
“ช่วยไรอย่างนึงดิ เย็นนี้รอเราด้วยนะ”
“แกบอกเรารอบที่ 100 แล้วมั้ง รู้แล้ว อยู่รอก็อยู่”
“เออ ดีๆ ขากลับบ้านจะได้ไปหาไรกินกันอีก”
“เฮ้ย ‘จารย์มาแล้วว่ะ ไปก่อนนะ”

คาบช่วงเช้าผ่านไป ไม่มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นหรอกคับ จะมีก็คือ รายงานไดอารี่วิชาภาษาอังกฤษน่ะคับ คือว่าอาจารย์ให้เขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษ ระยะเวลา 1 เดือน ขนาดไดอารี่ภาษาไทยผมยังไม่เคยเขียนเลยคับ แล้วให้มาเขียนไดอารี่ภาษาอังกฤษอีก ผมตายแน่ๆ จะลอกใครดี ศัพท์ยิ่งโง่ๆอยู่ (แต่ไวยากรณ์ได้นะ) ผมนึกถึงเดช (แล้วทำไมต้องนึกถึงมัน) เพราะมันเขียนไดอารี่อยู่ ผมเคยอ่านคับ ที่มันเขียนถึงผม แล้ววันที่ผมได้อ่าน ก็เป็นวันที่ผมรู้สึกแปลกๆไปกับมัน ผมพยายามทำตัวไม่ให้มันมีอะไรเกิดขึ้น ผมทำได้คับ ภายนอกผมทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ข้างใน ใครจะมารู้ใจของผมล่ะ นอกจากตัวของผมเอง

คาบบ่ายมาเยือน ผมนั่งเหม่อมองออกไปนอกประตู คิดว่า บางทีเดชอาจจะเดินผ่านห้องผมก็ได้ เดชมันชอบเดินผ่านห้องผมอยู่บ่อยๆ คงจะมามองต่ายมากกว่าเราแหล่ะ ใช่ดิ เดชชอบต่าย ไม่ได้ชอบเรา เพื่อนแหล่ะว่ะ เพื่อนเท่านั้นที่เราคิดกับมัน และมันก็คงคิดกับเราแค่นั้น เราจะไม่คิดอะไรกับมันนอกเหนือจากคำว่าเพื่อนแน่นอน เหม่อจนได้เรื่อง อาจารย์เรียกผมตอบ ผมตอบไม่ได้ แปลกว่าคราวนี้ไอ้ไม้ที่มาช่วยผมให้รอดจากอาจารย์ ถามมันอีกทีบอกว่า ไปลอกต่ายมา อ้าวซะงั้นเพื่อนกรู

ไม่อยากให้ถึงตอนเย็นเลยคับ เวลาที่ผมจะต้องไปประชุมเตรียมงานกับอาจารย์ หลังเลิกเรียนเสร็จ ผมเก็บกระเป๋า แต่ก็ไม่ได้รีบแต่อย่างใด ผมเก็บไปเรื่อยๆ คิดอยู่นั่นแหล่ะว่าจะเอาอะไรกลับบ้านให้ได้น้อยที่สุด ปกติต่ายจะกลับบ้านเร็ว ไม่รู้ว่ากลับบ้านหรือว่าไปเรียนพิเศษกันแน่ แต่แปลกที่ว่าวันนี้ต่ายอยู่เย็น ต่ายเดินมาหาผม

“คุยไรหน่อยดิ” – ต่ายบอกผม ผมพยักหน้า
“เมื่อเช้าเราเห็นนะ ที่หน้าห้อง”
“เห็นไรล่ะ”
“แกนั่งคุยไรกับเดช”
“คุยอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแกวะ” - น้ำเสียงผมจริงจัง
“ก็.....” – ต่ายถึงกับอึ้งไปซักพัก
“เออ ล้อเล่น มันซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งมาให้เรากิน”
“ไม่ได้คุยอะไรถึงเราใช่ป่ะ”
“ไม่นะ ก็เมื่อวันก่อนมันทะเลาะกับไอ้เข้ม เพื่อนมันน่ะ แล้วทีนี้มันก็เปลี่ยว ไม่มีเพื่อน ก็เลยลากเราไปอยู่กับมันด้วย”
“แล้วทำไมแกต้องไปอยู่กับมันล่ะ”
“เราสงสารมันอ่ะต่าย เพื่อนทิ้งมัน”
“คือที่เราอยากจะเคลียร์กับเดช ก็เพื่อแกแหล่ะใหญ่ ที่จะไม่ต้องมาลำบากเพื่อเราอีก”
“เอางี๊ ต่าย เราเองไม่ได้ลำบากอะไร โอเคป่ะ แกจะได้สบายใจ”
“แต่ว่า...”
“เรื่องของเดชกับแก มันก็คงเป็นเรื่องของแกที่แกจะต้องตัดสินใจ แต่เรื่องของเรากับเดช เราไม่ได้ลำบากใจอะไร ดีซะอีก เราได้เพื่อนเพิ่มขึ้น ขอบคุณแกมากๆนะต่าย”
“ตกลงแกยอมเป็นเพื่อนกับเดชแล้วเหรอ”
“อืม ยิ่งกว่าเพื่อนซะอีกตอนนี้”
“อะไรกันเนี๊ย แกไปชอบเดชเหรอ”
“แกจะบ้ารึไงวะ ฮ่าๆๆ ไม่มีทางหรอก”
“แล้วไป อย่าให้รู้นะเว้ยว่าแกไปชอบมัน” – ต่ายยังคงแซวผม
“เกิดเราไปชอบมันจริงๆ แกต้องรับผิดชอบ” - ผมแหย่ต่ายเล่นๆ
“ยังไง”
“แกต้องมาเป็นแฟนเรา แก้ข่าว ไอ้ไม้ไอ้เดชอะไรน่ะ ไม่ต้อง ไอ้ใหญ่เนี๊ยแหล่ะจะต้องเป็นแฟนต่าย” – ผมพูดจบ ต่ายหัวเราะ

ผมดูเวลาอีกที อ้าว อีก 10 นาทีจะต้องไปประชุมแล้วคับ ผมเลยรีบเก็บของอย่างรวดเร็ว แล้วก็ลาเพื่อนๆห้องผม บอกว่าจะไปประชุม พวกมันชวนผมไปเล่นเกมคับ ผมบอกปัด มันบอกว่าผมไม่ได้เล่นเกมกับพวกมันนานแล้ว อืม ก็จริง ไปกับไอ้เดชตลอดเลยคับช่วงนี้ ผมก็เลยบอกพวกมันว่าสัปดาห์หน้าจะไปเล่นกับพวกมัน สัปดาห์นี้ต้องเตรียมงานวันสถาปนาโรงเรียน

แล้วผมก็เดินออกจากห้องผมไป แล้วก็ไปทางห้องเดชคับ ในห้องเหลือมันกับพวกไอ้เข้มนั่งคุยกันอยู่ มันเห็นผมก็เลยเรียกเข้ามา ผมบอกว่าผมรีบ ถามมันว่าไปซ้อมที่ไหน มันบอกซ้อมที่สนามบอล ประมาณ 6 โมงเย็นถึงเลิก ผมรับรู้แล้วก็เดินจากพวกมันไปโดยที่ไม่ได้ถามว่า เข้มกับเดชคุยกันแล้วตอนไหน

ถึงที่ประชุมแล้วคับ ผมไปแบบว่า พอดีเวลาเป๊ะ อาจารย์มารอพวกเราอยู่ก่อนแล้ว อาจารย์บรี๊ฟงานให้พวกเราฟังอย่างคร่าว แล้วก็ขอความเห็นจากพวกผมไปเล็กน้อย จากนั้นพวกผมจึงประชุมกันต่อ จนเวลาล่วงเลยไปถึง 6 โมงเย็น ผมเริ่มกระสับกระส่ายแล้วคับ พี่ ม.6 เขาถามว่าเป็นอะไร ผมบอกไปว่าเด๋วผมมา ประชุมไปก่อน แล้วผมก็วิ่งไปหาเดชที่สนามบอลคับ กำลังเลิกพอดี เดชกับเพื่อนๆกำลังเปลี่ยนเป็นชุดนักเรียน
 
“แกกลับกันไปก่อนก็ได้นะ” – ผมบอกเดช
“ทำไมวะ”
“ก็เรายังประชุมไม่เสร็จ”
“ใหญ่ เรารอแกได้”
“ก็แกคงจะเหนื่อย เราก็เลยวิ่งมาบอกแกก่อน กลัวแกรอ”
“ก็รออยู่จริงๆแหล่ะ แกก็ไม่มาซักที ประชุมไรนานวะ”
“กับอาจารย์น่ะเสร็จแล้ว แต่ตอนนี้คุยกับพี่ ม.6 ว่ะ ท่าทางจะนาน”
“เรารอแกได้ เดี๋ยวเราออกไปส่งพวกไอ้เข้มก่อน แล้วเดี๋ยวจะกลับมา”
“รอหน้าห้องกรรมการนะ เราอยู่ในนั้น”
“หิวป่ะ” - มันถาม
“นิดหน่อย แต่เดี๋ยวก็คงเลิกมั้ง ค่อยไปกินทีเดียว”
-------------

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ไม่ใช่ต่ายมารับรักเดชนะ สงสัยคงกลายเป็นรักสามเศร้าแน่เลย

รออ่านตอนต่อไปจ้ะ  :L2:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
^
เรากัวต่ายแอบรักใหญ่มากก่าม้างงงง o2

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
ไม่ใช่ต่ายมารับรักเดชนะ สงสัยคงกลายเป็นรักสามเศร้าแน่เลย

รออ่านตอนต่อไปจ้ะ   :L2:

เออแฮ่ะ หวั่น ๆ อยู่เหมือนกันเนี๊ย เกิดต่ายเห็นความพยายามเดชขึ้นมาล่ะก้อ ซวยกันทั้งแถบแน่ :laugh:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 17
 :laugh:
“ไปไหนกันดี” – ผมถามมันก่อน
“เออน่า เดี๋ยวพาไป”

แล้วเราสองคนก็เดินออกจากโรงเรียน ประชุมอะไรน่ะ ยังไม่เสร็จหรอกคับ ผมรำคาญ พูดซ้ำซากอยู่นั้นแหล่ะ ผมบอกว่า เพื่อนมารอกินข้าว พี่ก็เลยให้ผมออกไปได้ เรื่องของเรื่องก็คือ ผมเบื่อที่จะต้องประชุมมากกว่าคับ แล้วก็ ผมก็อยากไปกับเดชด้วยแหล่ะ เราเดินออกไป โดยที่ผมเองก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับเดช ผมก็เลยเดินเงียบ แล้วมันก็ทำลายความเงียบโดยการเดินจับมือ แล้วก็เดินกอดคอกับผม

“แกปล่อยเราเถอะ”
“เป็นไรวะใหญ่ ดูซึมๆ เหมือนหมาหงอย”
“หน้าเราไปเหมือนหมาตรงไหนวะ”
“ตอนนี้ไงล่ะ ฮ่าๆๆ” :laugh:
“แกเคลียร์กับพวกไอ้เข้มแล้วเหรอ”
“เรียบร้อยแล้ว เราคุยกันแล้ว มันก็บอกว่าเสียใจที่มันว่าแกเหมือนกัน”
“ก็ดีแล้ว แกจะได้สบายใจ ไม่ต้องมาเดือดร้อนเราอีก”
“ไอ้ใหญ่ ถามจริงเหอะ ตั้งแต่เราเข้ามาในชีวิตแก แกรู้สึกไรมั่งป่ะ”
“ไม่รู้สึกอะไร ก็แค่...” – ผมลากเสียงยาวๆ
“อะไรล่ะ”
“แค่ มีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีก 4 คน” – ผมหมายถึงเดชและเพื่อนๆของมันอีก 3 คน
“แกรำคาญเรามั่งป่ะ”
“ใครจะกล้าไปรำคาญท่านล่ะคับ”
“ไอ้ใหญ่ เอาดีดี”
“ก็ไม่หรอก มันเหมือนว่า แกมาเติมอะไรบางอย่างให้มันดีขึ้น”
“เช่น...”
“เล่าไปแล้วมันจะยาว เอาเป็นว่า แกทำให้ชีวิตเราดีขึ้นละกัน เข้าใจป่ะ”
“อืม ก็ดี แกก็เหมือนกันนะไอ้ใหญ่ แกช่วยเหลือเรามาตลอด แต่...เราไม่เคยทำอะไรให้แกเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก เห็นเพื่อนมีความสุขเราก็ดีใจ”
“รักแกว่ะ...ไอ้ใหญ่” - มันก็กอดคอผมซะ
“เราว่าแกปล่อยคอเราเหอะ เราไม่ค่อยชิน เวลาใครมาเกาะคอ”
“ทำไมวะ จะเกาะ จะทำไม”
“เราสงสารคนที่จะต้องมาเกาะคอเราว่ะ เราตัวสูง ใครๆก็เกาะคอเราไม่ถึงหรอก แล้วยิ่งแกแขนสั้นๆ มันคงลำบากแกแย่”
“ป้าบ!! โอ่ย” เสียงตบหัวคับ เดชตบหัวผมเบาๆแล้วก็ลูบหัว
“ตบตัวกูทำไม”
“ด่ากรูเตี๊ย ไอ้ใหญ่”
“ฮ่าๆ หลอกด่าไม่รู้ตัว”

เราหัวเราะกัน เล่นกัน กอดคอกันมั่ง จับมือกันมั่ง จนมาถึงแถวหอเดช ตลาดเมื่อวานแหล่ะคับ ผมก็นึกว่ามันจะพาไปกินที่อื่นซะอีก แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกคับ เดชไปไหนผมก็ไปได้ทั้งนั้นแหล่ะ เราไปกินข้าวหมูแดงคับ ผมว่ามันก็ธรรมดานั่นแหล่ะ ไม่รู้มันมีดีอะไรมันถึงพามากินถึงนี่ จริงๆแล้วแถวโรงเรียนก็มีขายนะคับ

กินกันเสร็จแล้ว มันชวนผมไปหอมันคับ “อีกแล้วเหรอ” เออไปก็ได้ พักนี้ผมมักจะว่าง่ายกับเดช พาไปไหนก็ไป เฮ้อ กรูเป็นอะไรเนี๊ย พวกไอ้ไม้ผมยังชอบปฏิเสธมัน มันยังไม่ว่า แต่ไม่รู้ทำไม เวลาผมคิดจะปฏิเสธเดชมั้ง ผมกลับทำไม่ได้ กลัวว่ามันจะเสียใจ คับ ถึงหอพอดี มันทักทายลุงยามหน้าหอ แล้วก็ขึ้นไปที่ห้อง วันนี้ไม่ต้องทำความสะอาดคับ เมื่อวานทำแล้ว ไปถึงห้องมันวางกระเป๋าแล้วก็ถอดเสื้อเลยคับ มันคงไม่คิดว่า ผมอยู่ในห้องเดียวกับมันด้วย ถอดเสื้อเสร็จแล้วมันก็หันหน้ามาหาผม แล้วบอกให้ผมถอดมั่ง ผมอายอ่ะ ก็เลยบอกปัดๆ ว่าผมหุ่นไม่ดี มันก็บอกว่าไม่เป็นไร ถ้าไม่ถอดมันจะมาถอดให้ผม ผมเลยยอมจำนน กลัวว่าถ้ามันมาถอดให้ผมแล้วจะเกิดอารมณ์  ก็เลยถอดไปตามระเบียบ

“ถอดเสร็จแล้วเปลี่ยนกางเกงด้วย” - มันยื่นกางเกงบอลตัวนึงมาให้ผม
“ทำไมต้องเปลี่ยนวะ”
“เออน่า” – แล้วมันก็ถอดกางเกงหน้าผมเลยคับ เหลือแต่ กกน.สีดำ หุ่นมันก็ดีด้วย ผมเห็นแล้วยังเกิดอารมณ์ (คิดไรเนี๊ย) จากนั้นมันก็หยิบกางเกงบอลจากตะกร้ามาใส่
“ไม่ถอดกูถอดให้นะมึง ไอ้ใหญ่” –มันทำท่าจะวิ่งมา
“เออ เออ” – ผมว่าง่ายจริงๆคับ ทำตามมันสั่งทุกอย่าง
“ต้องงี๊ดิ ลูกพ่อ”
“กูเป็นลูกมึงตอนไหน” -เริ่มมีอารมณ์มั่งละ
“น่ารักจริงๆ ไอ้ใหญ่ มีพุงด้วย”
“ใครเขาจะเฟริ์ม เหมือนมึงล่ะ”
“ต้องออกกำลังกายทุกวัน ไม่งั้นมันจะโย้” – แล้วมันก็มาเล่นพุงผม ผมไม่ให้มันเล่นหรอกคับ
“มึงให้กูเปลี่ยนชุดพร้อมรบอย่างงี๊ทำไมวะ”
“พูดกูมึงได้แล้วเหรอไอ้ใหญ่”
“เออ ไม่ใช่ว่ากูพูดไม่เป็น บางทีเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันเขาอาจจะรับกูไม่ได้ ก็ก็เลยพูดเพราะๆ แต่ว่ามึงรับกูได้แล้ว กูก็เลยจะพูดกูมึงกับมึงนั่นแหล่ะ”
“อ่อ เรียกว่า วางตัว ว่างั้น”
“เออ แล้วมึงให้กูเปลี่ยนชุดอย่างงี๊ทำไมวะ” - ผมยังคงถามไอ้เดช
“กูมีบางอย่างให้มึงทำ”
“แล้วให้กูทำไรวะ”
“มึงเข้าไปในห้องน้ำก่อน เดี๋ยวกูตามไป”
“มึงจะปล้ำกูเหรอ”
“กูไม่คิดสั้นขนาดนั้นหรอก”
“โห่ อุตส่าห์ดีใจ”

ผมเดินเข้าห้องน้ำไปคับ ในห้องน้ำมันก็มีอุปกรณ์อาบน้ำทั่วไป อุปกรณ์ล้างห้องน้ำที่มีแต่เป็ดโปรกับแปรงขัดส้วม แล้วก็มีกะละมังแช่ผ้าไว้อยู่ 2 กะละมัง กะละมังแรกเป็นผ้าขาวที่ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อนักเรียน แล้วก็เสื้อใส่เล่นที่เป็นสีขาว อีกกะละมังเป็นผ้าสีคับ แล้วมันก็ยื่นแปรงซักผ้าให้ผม

“เอามาทำไรวะ” - ผมถาม
“ซักผ้าให้หน่อยดิ ซักไม่ทันแล้ว พรุ่งนี้ไม่มีชุดนักเรียนใส่แล้ว”
“แทนที่มึงจะซักเอง มาเดือดร้อนกูทำไม”
“เอาน่า ช่วยกัน กูก็ไม่ได้เอาเปรียบมึง กูก็ซักด้วยกันกับมึงนั่นแหล่ะ” – แล้วมันก็นั่งข้างๆกะละมัง เริ่มขยี๊เสื้อมันตัวแรก
“เออ ก็ได้วะ ถึงว่า ให้กูเปลี่ยนเป็นชุดพร้อมรบ แมร่งใช้กูซักผ้า”
“เออน่า อย่าบ่น กูรู้ว่ามึงน่ะไม่เคยซักผ้า”
“รู้ได้ไงวะ ว่ากูไม่เคยซักผ้าเอง กกน. กูซักเองนะเว้ย”
“มึงมาหัดไว้ เผื่อที่บ้านมึงเขาเป็นอะไร มึงจะได้ทำเป็น”
“กูก็โยนลงเครื่องซักผ้า ก็จบ”
“มึงรู้ป่ะ ว่าโยนลงเครื่อง มันทำให้ผ้ามึงเสื่อมเร็ว”
“ถ้ามันเสื่อม แล้วทำไมเขาขายเครื่องซักผ้าได้วะ”
“ไม่รู้ว่ะ กูไม่ชอบ กูก็เลยซักมือ วันนี้ผ้าเยอะเป็นพิเศษ ไอ้ใหญ่มึงช่วยกูหน่อยละกันนะ”
“กูมาถึงขนาดนี้ละ”
“กกน. ไม่ต้องซักนะเว้ย เดี๋ยวกูซักเอง”
“กูก็ไม่ซักให้มึงหรอกไอ้เดช ไข่มึงน่ะเหม็น” - ผมเริ่มกัดมันคับ
“แล้วไข่มึงล่ะไอ้ใหญ่”
“ไข่กูไม่เหม็นโว้ย กูพ่นน้ำหอมก่อนมาโรงเรียน”
“น้ำหอมกลิ่นเยี่ยวอ่ะดิ”
“ปากเหรอแมร่ง” – ผมตีฟองผงซักฟอกแล้วก็ป้ายหน้ามันคับ แล้วมันก็แกล้งผมคืน

ผมซักผ้ากับมันไป เล่นกันไป คุยโน่นคุยนี้ บางทีมันก็ร้องเพลงเป็นพี่เสกโลโซ (จริงๆคับ หน้าคล้ายๆกันอยู่) กะลามั่งล่ะ เพลงอารมณ์ว่าหมาเห่าเครื่องบินน่ะคับ

“มึงชอบแนวนี้เหรอ” - ผมถามเดช
“ก็มันตรงกับชีวิตกู”
“ยังไง”
“ต่ายเขาอยู่บนฟ้า กูมันก็แค่หมาวัดธรรมดา ไม่มีทางที่กูจะได้ต่ายเขามาเป็นแฟน”
“แล้วกูล่ะ”
“มึงน่ะเป็นหมาวัดที่เพิ่งเอามาปล่อย ทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง”
“อย่ามาปากดี ต่ายเป็นนางฟ้า กูก็เป็นเทวดาล่ะวะ เราอยู่ที่ระดับเดียวกัน มึงน่ะคนละชนชั้น นี่กูลดตัวมาคุยกับมึงก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“โห ไอ้เทวดาตกมาบนยอดเสาไฟฟ้าอ่ะดิ” - มันหัวเราะ
“แล้วไงวะ กูมันเป็นเทวดาตกยาก ให้หมาวัดมันหลอกใช้”
“กูไปหลอกใช้มึงทำไรวะใหญ่”
“ตลอดอ่ะ ให้กูเป็นไม้กันไอ้ไม้มั่งล่ะ เป็นเพื่อนมึงตอนมึงทะเลาะกับเพื่อนมั่งล่ะ ให้กูจีบต่ายให้มึงมั่งล่ะ แล้วก็ให้กูซักผ้าเนี๊ย เกิดมากูยังไม่เคยซักเลย มึงอ่ะบังคับกู”
“กูขอโทษ” – เดชสีหน้าเปลี่ยนไป
“ล้อเล่นเว้ย กูก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก กูเต็มใจ”

1 ชั่วโมงผ่านไป เราซักผ้ากันเสร็จ ผมไม่เคยซักผ้าอย่างงี๊เลยคับ ปวดหลังเอาการ มันเอาผ้าไปตากที่ระเบียงห้อง ผมเก็บล้างอุปกรณ์ซักผ้าในห้องน้ำ ผมเก็บเสร็จแล้วจะไปช่วยมันตากผ้า มันบอกว่าไม่ต้อง ระเบียงมันแคบ เออดี ไม่เหนื่อย แต่ผมปวดหลังมากเลยคับ ก็เลยนอนไปบนเตียงมัน

“ใครให้มึงนอนเตียงกู”
“กูเองแหล่ะ กูจะนอน ปวดหลัง”
“มึงเอาตะกร้าไปไว้ในห้องน้ำหน่อย แล้วก็เอาผ้าถูพื้นในห้องน้ำมาด้วย กูจะเช็ดระเบียง”
“ครับ พ่อ” - ผมตะโกนใส่มัน
“ประชดกูเหรอ”
“เออ” – แล้วผมก็เดินไปเอาผ้าถูพื้นในห้องน้ำมันมาให้มันคับ

หลังจากมันตากผ้าเสร้จมันก็มานอนบนเตียงกับผมคับ ผมกำลังดูอัลบัมรูปของมันอยู่

“ทำไมห้องมึงไม่มีการ์ตูน”- ผมถาม
“การ์ตูนเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ กูเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เออว่ะ แมร่งมีแต่หนังสือยากๆ”
“ใกล้สอบมานอนกับกูนะใหญ่”
“ถ้ากูขอที่บ้านกูได้ กูจะมานอนกับมึงนะ”
“กูอยากให้มึงมาติวหนังสือให้กู”
“คู่มือมึงมีเยอะกว่ากูอีก มึงยังจะมาให้กูติว กูว่ากูยังจะมาขอให้มึงติวให้กูยังจะดีกว่า”
“กูไม่เก่งเหมือนมึงนะเว้ย กูล่ะอิจฉามึงว่ะใหญ่”
“อิจฉาไรวะ คนอย่างกู”
“เรียนเก่ง ทำกิจกรรมเยอะ เพื่อนก็รัก หน้าตาก็ใช้ได้”
“มึงชอบกูเหรอ” - ผมแหย่มัน
“กูก็ปลื้มๆว่ะ กูอยากเป็นเหมือนมึง”
“มึงอย่ามาเป็นกูเลย กูเองก็ไม่ได้คนดีอะไรหรอก”
“ที่สำคัญคือ มึงรู้จักกับต่าย”
“..........” – ผมเงียบไปคับ
“เป็นไรวะใหญ่”
“เปล่า ไม่มีไร” – ผมนอนลืมตา มองไปบนเพดานห้องมันคับ มันก็นั่งพิงหัวเตียง มองดูผมอยู่ข้างๆ
----------------

ปล. แต่งไปก็ซึมๆไปคับ แม้ว่ามันจะผ่านมานานแล้ว แต่ผมไม่เคยลืมฉากนี้เลยคับ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าด้วย.... :sad2:

 :bye2:

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
เป็นกะลังใจให้คนเขียนค้าบ

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
Re: เรื่องเล่า-รัก$
«ตอบ #86 เมื่อ01-08-2008 18:07:38 »

อ๊ากกกกกกกกกกกกก เหมือนจามีความสุข  แต่ ....เศร้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2008 18:55:07 โดย SE7EN_AKIRA »

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: แอบเศร้า

chatnaha

  • บุคคลทั่วไป

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ต่อกันเลยนะคับ พอดีพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้แวะมาลง ขอบคุณทุกคอมเม้นต์สำหรับกำลังใจนะคับ

ตอนที่ 18
 o7
“ต่ายนอนยังวะ” – เดชถามผม ระหว่างที่เรากำลังนอนคุยกัน
“อยากรู้ก็โทรหาเขาดิ” - ผมบอกปัด
“มึงเต็มใจป่ะเนี๊ย”
“เออ”
“มึงคุยก่อนนะ เหมือนเดิม”
“เออ กูรู้แล้ว”

เดชจัดแจงกดโทรศัพท์อย่างกระตือรือร้น แล้วก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ผม

“ขอสายต่ายคับ” – ผมบอกสายปลายทาง
“พูดอยู่ค่ะ”
“ใหญ่นะ”
“เออใหญ่ พอดีเลย กำลังอยากจะคุยด้วย”
“แต่มีคนเขากำลังอยากคุยกับแกมากกว่าเราอีก” - แล้วผมก็ส่งโทรศัพท์ให้เดช
“ต่าย นี่เดชนะ”
……….
………….
……………
……………….
คุยอะไรกันไม่รู้ ผมไม่ได้สนใจหรอกคับ เป็นธรรมดาที่ว่า เวลาใครคุยโทรศัพท์ผมจะไม่ค่อยสนใจ เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาคับ ไม่ว่าใครก็ช่าง แต่ถ้าคุยกันดังๆ ผมก็คงจะได้ยิน ผมก็เลยหันหลังให้เดช แต่ก็ยังนอนอยู่บนเตียงเดียวกับมันแหล่ะคับ ซักพักมันก็ส่งโทรศัพท์มาให้ผม

“มีไร”
“แกไปอยู่นั่นได้ไง”
“เรื่องมันยาว”
“เล่ามาเดี๋ยวนี้”
“ไปเล่าที่โรงเรียนได้ป่ะ”
“คร่าวๆก็ได้ เราเป็นห่วงแก จะ 4 ทุ่มแล้วยังไม่กลับบ้านอีก”
“ก็ไปกินข้าวกับมัน แล้วก็ไปนั่งเล่นหอมัน แค่นั้นเอง”
ถึงตอนนี้เดชมันมากระแซะผมอย่างกับ....(นั่นแหล่ะคับ ไม่อยากบรรยาย)
“แกอย่าทำให้เรารู้สึกผิดไปกว่านี้ได้ป่ะใหญ่” - ต่ายบอกผมอย่างซีเรียส
“เราบอกแกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเราไม่เป็นไร”
“แต่ว่า...ตอนนี้ ใหญ่ แกควรอยู่บ้าน...ทำการบ้าน”
“ถึงเราจะไม่ได้อยู่ที่นี่ เราก็ไปเล่นเกมกับไอ้ไม้อยู่ดี ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไรจริงๆ”
“แต่...”
“ช่างเหอะ แกไม่ต้องมารู้สึกผิดเพราะเรื่องนี้หรอกน่า” ผมถามต่อ “แล้วแกคุยอะไรกับมันมั่งวะ”
“ทั่วไปล่ะ กินข้าว อาบน้ำยัง ทำไรอยู่ แล้วเดชก็บอกอีกว่าอยู่กับแกตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ”
“แล้วแกอยากคุยกับมันป่ะล่ะ เวลามันโทรไป”
“เฉยๆอ่ะ คุยเป็นเพื่อนกัน แต่ก็อย่าโทรมาบ่อยนักนะ แกบอกมันด้วย เราไม่ค่อยชอบคุยโทรศัพท์นานนาน”
“เออ เดี๋ยวบอกให้”
“กลับบ้านไงล่ะใหญ่”
“รถเมล์แหล่ะ”
“กลับดีดีล่ะ”
“เดี๋ยวนะ เดชจะคุยด้วย” – ผมส่งโทรศัพท์ให้เดช
“ฝันดีนะต่าย”

วางโทรศัพท์เสร็จแล้ว มันหันมากอดผมคับ ในสภาพชุดพร้อมรบเหมือนเดิม

“มีความสุขจังเว้ย” - เดชกอดผมแน่น
“กูยินดีด้วยนะ” - ผมบอกเบาๆ
“ใหญ่ มึงมาอยู่กับกูทุกวันได้ป่ะ กูมีความสุขมากเลย”
“กูคงทำไม่ได้หรอก กูไม่อยากกลับบ้านดึกทุกวัน”
“กูเข้าใจว่ะ บ้านมึงน่ะคงจะเคี่ยว”
“มึงก็รู้นี่หว่า กูทำให้เพื่อนได้เกือบทุกเรื่อง แต่บางเรื่องกูก็ต้องดูตัวกูเองด้วย”
“กูเข้าใจ แค่นี้กูก็ขอบคุณมากพอแล้ว”
“อืม”
“รู้ป่ะ ตั้งแต่กูรู้จักมึง กูมีความสุขมากเลยไอ้ใหญ่ กูจะไม่ยอมเสียมึงไปแน่นอน”
“เออ เกิดวันนึงกูรถชนตาย มึงก็ต้องเสียกูไปอยู่ดี”
“มึงอย่าปากไม่เป็นมงคล มึงจะต้องอยู่ข้างกูตลอดไป”
“...........” – ผมเงียบไปคับ มันก็ยังคงกอดผมอยู่อย่างงั้น
“กูอยากกลับบ้านแล้วว่ะ 4 ทุ่มแล้ว เดี๋ยวรถเมล์หมด”
“เดี๋ยวกูออกไปส่ง”

ผมหยิบเสื้อกับกางเกงนักเรียนของผมที่ผมกองไว้กับกระเป๋ามาใส่คับ เดชก็หยิบเสื้อนักเรียนมาใส่เหมือนกัน แล้วเราทั้งคู่ก็เดินลงมาข้างล่างคับ เราเดินคุยอะไรเรื่อยเปื่อยจนถึงป้ายรถเมล์ อยู่ดีดีมันก็พูดขึ้นมา

“มึงไม่มีแฟนเหรอไอ้ใหญ่”
“ไม่ว่ะ ไม่มี”
“กูว่ามึงน่ะนิสัยดีนะ”
“กูอยู่โรงเรียน กูก็นิสัยไม่ค่อยจะดีหรอก ปากหมา ด่าเพื่อน คนอย่างกูใครจะมาเอาเป็นแฟน”
“มึงน่ะชอบด่าตัวเอง”
“หรือว่ามันไม่จริง แรกๆกูด่ามึงเป็นไฟ”
“แล้วตอนนี้มึงไม่ด่ากูแล้วเหรอ”
“หมดอารมณ์ด่าแล้วว่ะ หรืออยากให้กูด่า ได้นะ กูยินดี”
“พอเลย ไอ้ใหญ่” - มันเอามือมาปิดปากผม
“อึง...ออ่อย.....อู (มึงปล่อยกู)” – ผมบอกให้ปล่อย เดชหัวเราะลั่น
“ให้กูหาแฟนให้มึงป่ะใหญ่” - เดชถามผมอีกครั้ง
“ขอบใจว่ะ กูไม่พร้อม”
“เฮ้ย กูว่ามึงน่ะนิสัยดีจะตาย มรึงออกจะ gentleman”
“ฮ่าๆ เหรอวะ ถ้ากูอยากจีบต่าย มึงจะให้กูป่ะ” – ผมแซวมัน ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่มีอารมณ์ที่จะแซว
“ไม่ให้เว้ย อย่ามาหักหลังกูดิ”
“ถ้าเขาบอกว่า เขาชอบกู มึงจะยกต่ายให้กูป่ะล่ะ”
“ถ้าต่ายเขาเลือกมึง กูก็ยินดี”
“กูล้อเล่น ไม่หรอก กูกับต่ายเป็นเพื่อนกันเฉยๆ”
“เออ ให้มันจริงนะมึง กูเหมือนฝากปลาย่างไว้กับแมวเลยว่ะ”
“แล้วมึงถามกูทำไมวะ”
“กูเห็นบางทีดูมึงลอยๆ นึกว่าคิดถึงใครอยู่”
“เออ กูมันคนอารมณ์เปลี่ยว”
“มึงมีไรมึงบอกกูนะ ถ้ากูช่วยได้ กูยินดี”
“เออ ไว้กูจะบอกมึง ถ้ากูเป็นอะไร”

รถเมล์มาแล้วคับ ผมเลยบอกมันก่อนขึ้นรถว่าไม่ต้องโทรมาแล้วนะ มันก็รับคำ แล้วผมก็ขึ้นรถเมล์จากหน้าปากซอยหอมันจนถึงบ้านผม ตลอดทางผมพยายามจะตอบความรู้สึกที่ผมมีอยู่ในใจให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมสับสน เฮ้อ!!ชีวิตผม ผมคิดอะไรอยู่ ในหัวมีแต่เรื่องของเดช เดช และเดช

ทำไมผมถึงรู้สึกดีเวลาที่ผมอยู่กับเดชสองคน มันเอาใจใส่ผมมาก อย่างที่ผมไม่เคยได้รับจากใคร มันก็เป็นเพื่อนผม เพื่อนแค่นั้นเอง มันคงไม่คิดกับผมเป็นอย่างอื่นหรอกมั้ง ผมเข้าใจว่าเดชเป็นคนต่างจังหวัด เวลาคนต่างจังหวัดจะแสดงความจริงใจจะแสดงออกมาอย่างชัดเจนมาก แต่คนกรุงเทพอย่างผม มักจะเก็บความรู้สึกอะไรต่างๆ ไว้ภายใน หรือเพราะบ้านผมสอนมาอย่างงี๊ หรือเพื่อนที่โรงเรียนเวลามีอะไรน่ายินดี เราก็ไม่ค่อยแสดงท่าทางออกมากันหรอกคับ ผมยังไม่เคยเห็นเพื่อนๆเดินกอดคอกันเลย จนถึงปัจจุบัน ผมก็มีกลุ่มเพื่อนคับ เราก็ไม่เคยที่จะกอดคอกันซักที ไม่รู้ดิคับ เป็นเพราะว่า  การกอด ในความคิดผมน่าจะเป็นการแสดงออกถึงความรักล่ะมั้งคับ รักแบบหนุ่มสาวทั่วไป และเพื่อนๆผมก็คงคิดอย่างงั้น 

ผมยอมรับว่าช่วงเวลาที่ผมได้รู้จักมัน มันทำให้ผมมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความรู้สึกขึ้นมาเยอะ แต่ก่อนผมจะไม่แคร์ใคร อยากพูดอะไรก็พูด ผมไม่สนใจด้วยว่าเขาจะคิดยังไง และรู้สึกยังไงในสิ่งที่ผมพูด เดชมันดูผมออกตั้งแต่แรกๆเลยคับว่าผมเป็นคนยังไง ผมเป็นคนตรงๆ มีอะไรในใจก็พูดออกไป สิ่งนี้ล่ะมั้งคับที่มันเป็นจุดแข็งของผม ผมจึงเลือกที่จะอยู่บนความแข็งกระด้างอย่างงี๊มาตลอด แต่พอผมมาเจอมัน ผมเปลี่ยนไปคับ ความรู้สึกที่เคยเข้มแข็งมันกลับอ่อนลงไปอย่างไม่มีเหตุผล ทุกครั้งผมจะต้องหาเหตุผลให้กับทุกการกระทำของตัวเองเสมอ (แม้กระทั่งการเดินทาง ผมต้องเดินทางแบบนี้ เพราะจะไม่เสียเวลา ถ้าผมจะต้องเปลี่ยนทาง ผมจะต้องมีเหตุผลที่จะต้องมายืนยันว่า ถ้าผมเปลี่ยนแล้วจะดีกว่ายังไง) นั่นแหล่ะคับ ผมอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลมาตลอด แต่มาวันนี้ วันที่ผมได้รู้จักเดช ผมไม่เคยต้องถามถึงเหตุผล ผมอยากไปผมก็ไป ผมอยากกินก็กิน ผมอยากคุยอะไรก็คุย

เดชเป็นคนขี้น้อยใจคับ (สังเกตได้จากหลายๆตอน) แต่โกรธง่ายหายเร็ว บางครั้งผมจึงต้องคอยดูแลความรู้สึกของคนอื่นด้วย ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยต้องไปแคร์ใคร มันทำให้ผมเปลี่ยนไปมาก

สรุปแล้ว ผมเปลี่ยนไป เพราะมัน ไอ้เดช

ถึงบ้านแล้วคับ ผมโดนสวดตามระเบียบ โทษฐานว่าผมกลับบ้านดึกโดยที่ไม่บอกที่บ้าน โดนไปซะหูชาเล็กน้อย ลำพังน่ะถ้าผมกลับดึกจะโดนด่าอย่างอ่วม แต่นี่มีโทรศัพท์มาหาผม แม่ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมไปไหน แต่พอได้รับโทรศัพท์ก็อุ่นใจคับ โทรศัพท์บอกว่าใหญ่กำลังกลับบ้าน สงสัยคงเป็นเดชโทรมาบอกที่บ้านผมแน่ๆเลย แม่ผมเลยไม่ว่าอะไรมากคับ แต่ว่าแม่บอกให้โทรกลับไปหาเขาด้วยนะ ผมวางกระเป๋าแล้วก็ไปโทรหาเดช

“มึงฟ้องไรแม่กู”
“เปล่า กูแค่ลืมบอกมึง ว่าถึงบ้านแล้วโทรหาด้วย กูบอกมึงไม่ทัน ก็เลยโทรหาที่บ้านมึง”
“มึงบอกแม่กูไปดิ ว่ามึงให้กูทำไรบ้างที่หอมึงน่ะ”
“อยากให้บอกเหรอ”
“พอเลย กูถึงบ้านแล้ว สุขสบายครบ 32 พอใจยัง”
“กูเป็นห่วงมึง ก็เลยโทร มึงจะไม่ขอบคุณกูซักคำเหรอวะ”
“ขอบคุณครับพ่อ”
“ไอ้ใหญ่ แมร่งกวนไม่เลิก”
“เออ ขอบคุณมากนะเว้ยที่ห่วง”
“เออ แล้วจะนอนเลยป่ะ”
“คงงั้นแหล่ะ”
“การบ้านล่ะ ไม่ทำเหรอ”
“กูไปลอกเพื่อนเอาก็ได้”
“เออ มึงเก่ง กูลืม”
“...........” - ผมเงียบไปซักพัก
“ไอ้ใหญ่ ฝันดีนะเว้ย”
“เช่นกัน แค่นี้นะ จะไปอาบน้ำ”
“เออ หวัดดี”

ผมอาบน้ำเรียบร้อย จัดการกับเอกสารในกระเป๋าผมซักพัก ผมก็เริ่มง่วงแล้วคับ เลยปิดไฟนอน แต่เอาเข้าจริง ผมนอนไม่หลับแล้วคับ คิดไปโน่น เรื่องวันนี้แหล่ะคับ เรื่องที่ผมคิดมาตลอดทางกลับบ้าน สรุปแล้วผมเปลี่ยนไป เพราะเดช ผมตอบตัวเองไม่ได้ซักที คิดไป-มาอยู่นั่นแหล่ะ คิดจนผมแน่ใจแล้วว่า ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ สุดท้ายก่อนตาผมจะปิดลง ผมพูดประโยคนี้เบาๆ ให้ตัวเองได้ยิน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“กูชอบมึงว่ะไอ้เดช”
------------
ปล. พรึ่าเพ้อๆ หน่อยนะคับตอนนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด