ตอนที่ 1
ชายข้างกาย
ไม่มีอะไรน่ากลัวกว่าการตื่นนอนขึ้นมาโดยที่หันไปมองข้างๆก็เจอใครก็ไม่รู้
เดี๋ยวนะ! เกิดอะไรขึ้นกับผมวะครับ
จะเริ่มต้นยังไงดี... เอาเป็นว่าเริ่มจากการมองโลกในแง่ดีก่อนก็แล้วกัน
เหตุการณ์นี้อาจเกิดเพราะผมกำลังเมา ใช่ๆ เมา แน่ล่ะเพราะเมื่อคืนผมกำลังฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนเกือบทั้งห้อง ใครเมาก็ช่วยๆกันหิ้วกลับเพราะยังไงก็โรงเรียนชายล้วนเลยไม่ต้องห่วงว่าเพื่อนคนไหนจะโดนฉุดไป
แต่ผมอาจจะคิดผิด! เพราะขนาดผมยังมาอยู่บนเตียงกับใครก็ไม่รู้
เดี๋ยวๆอย่าเพิ่งข้ามไปแบบนั้น เอาเป็นว่าผมควรเรียบเรียงความคิดต่อ
ฉลองให้กับความทุกยากของวัยมัธยมปลายสามปีที่ผ่านไปจึงได้ยกแก้วเรื่อยๆไม่รู้ว่าใครส่งมาให้บ้าง โรงเรียนรัฐบาลก็แบบนี้ปิดเกือบพร้อมๆกันก็เลยมีบางโรงเรียนที่เฮฮาอยู่ใกล้ๆแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากบางครั้งก็เดินไปชนแก้วด้วยก็มี แล้วยังไงต่อนะ อืม... ก็เมา ออกตัวไว้เลยว่าผมไม่ได้คออ่อนแต่ดื่มหนักไปจริงๆก็เลยสลบไม่รู้เรื่อง
“โอ๊ย! เชี่ย!” พอจะขยับตัวความเจ็บแล่นเป็นริ้วๆจากต้นขาและบั้นท้านไล่ขึ้นไปจนสุดกระดูกสันหลังแล้วปรี้ดขึ้นสมอง ไม่ได้เวอร์ครับแต่ปวดหัวจริงๆสงสัยยังเมาค้างอยู่
แต่ข้างล่างนี่ปวดเพราะอะไร!
เท่าที่จำได้คือเมาแล้วก็ฟุบโต๊ะไปแบบนั้นเหมือนจะบอกอะไรเพื่อนไปสักอย่าง หืมมมมม เดี๋ยวนะ!
“ชะ ชะ เชี่ยยยย โมนนน”
“สัดเต้ จะด่ายังเสียงกะตุกอีก แล้วกูชื่อมนต์เรียกซะเสีย อึก แม่งกูเมา” กูก็เมานะได้ข่าว
“มึง มึง มึง อึก ...” เหมือนมีก้อนอะมาจุกที่คอก็เลยหยุดพูดไป
“เชี่ย! กูรอฟังอยู่ เรียกแล้วเงียบนะสัด” พูดแล้วมันก็โบกหัวผมเสียงดังก่อนจะเดินหนีไป
“... อือ พากูกลับที” พูดไปก็ดึงเสื้อคนข้างๆก่อนจะคว้าเอวมากอดหมับแต่ผมคงลืมไปจริงๆว่าเพื่อนของผมมันเดินหนีไปแล้วเมื่อกี้ดังนั้นคนที่กอดตอนนั้นมันเป็นใครนะ แถมเอาหัวไปถูท้องมันอีกต่างหาก
เห... หรือว่าหมอนี่วะ ไอ้คนข้างๆเนี่ย
“ยืนดีๆครับ” เสียงกระซิบที่ข้างหูทำให้ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความสยิวก่อนจะพยายามออกห่างคนที่กำลังหิ้วปีกผมออกจากผับแต่เหมือนอีกคนจะไม่ขยับเลยแถมยังกอดเอวผมเข้ามาหาตัวแน่นขึ้นอีก
“ปล่อย อึก ไปไหน” ตอนนั้นรู้แล้วล่ะครับว่าไม่ใช่เพื่อนของตัวเอง
“ก็จะพากลับไงครับ บ้านคุณอยู่ไหนน่ะ”
“ม่ายกลับ ม่ายปายบ้าน” ไม่ไปกับมึงโว้ย! อยากจะพูดต่อแต่ก้อนสะอึกจุกที่ลำคอเสียก่อน
“ครับๆ ไม่ไปก็ไม่ไป แล้วจะไปไหนล่ะครับ เฮ้ย! คุณๆ”
เอ่อ... ตอนนั้นผมวูบไปครับ ง่วงจัดจริงๆ
ก่อนจะคิดต่อผมคงต้องขอยืมห้องน้ำเจ้าของห้องอาบก่อนเพราะผมรู้สึกร้อนมาก กว่าจะก้าวลงจะเตียงได้แทบทรุดขานี่สันพับๆ หรือเมื่อคืนผมไปล้มที่ไหนมาวะ แล้วเสื้อผ้าผมล่ะ มองหารอบตัวก็ไม่เจอแต่ผมมองโลกในแง่ดีไง ก็เลยได้แต่สงสัยว่าคงอ้วกใส่แล้วมันเอาไปส่งซักคงรวมทั้งของมันด้วย
แผ่นหลังที่นอนคว่ำหันหน้าไปอีกทางดูยังไงก็ไม่ใช่ผู้หญิงเพราะไหล่กว้างกว่าผมอีก หลังขาวๆที่มีรอยเล็บอยู่เต็มเห็นแล้วก็อิจฉาเพราะผมก็ไม่ได้นอนกับใครมาหลายอาทิตย์เนื่องจากเตรียมตัวสอบ เห็นแบบนี้ผมก็เสือผู้หญิงนะครับ
ยังไงก็ช่างเถอะ! แล้วนี่ห้องน้ำมันอยู่ไหน
ห้องกว้างกว่าที่หอพักผมเยอะแถมเฟอร์นิเจอร์อย่างครบ เตียงใหญ่โคตรและนิ่มโคตรเพราะผมทดลองนอนมาแล้ว ชุดโซฟาเล็กๆปลายเตียงแถมทีวีจอยักษ์อีกหนึ่งแล้วก็ประตูอีกสามบานที่อยู่ฝั่งผม ฝั่งที่มันอยู่อีกบานหนึ่งแต่คงเป็นประตูทางออกเพราะเห็นกุญแจแขวนอยู่ตรงนั้น
ผมเดินขาสั่นๆเกาะไปตามผนังจนมาถึงประตูบานแรกแล้วก็กระชากเปิด อ่ะครับ ตู้เสื้อผ้าแต่ลักษณะแปลกๆเพราะมันเรียงแถวกันเข้าไปด้านในแล้วก็มีรางเลื่อนอยู่ข้างบนจึงได้ลองดึงดู
ครืดดดด
เสื้อผ้าที่แขวนบนลางเคลื่อนออกมาตามที่ดึงเมือนราวในห้างทั้งเสื้อและกางเกง เฮ้ย! อย่างเจ๋ง ดีไซน์เก๋สุดๆ
แต่ไหนห้องน้ำผมวะ
ปิดประตูตู้ไว้เหมือนเดิมก่อนจะประคองตัวเองไปประตูบานที่สองที่คิดว่าก็ไม่น่าใช่ประตูห้องน้ำเหมือนกันแต่มันน่าสนใจก็เลยแอบเปิดดู เหลือบไปมองเจ้าของที่ยังนอนนิ่งเหมือนเดิมก็เลยเบาใจ
เชี่ยยยย!
แอคเซสเซอรี่อย่างครบ แว่นตา เข็มขัด นาฬิกา สร้อย กำไล แหวน แล้วก็อะไรอีกเยอะแยะไปหมด เห็นแล้วอิจฉาตาร้อนผะผ่าวเพราะผมนี่กว่าจะได้ซื้อแต่ละทีต้องคิดแล้วคิดอีก ไม่ใช่ว่าบ้านจนนะครับแต่ก็แค่พอมีใช้ไม่ได้ขัดสนแต่ก็ไม่ได้มีถึงขนาดจะให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้ขนาดนั้น
เอาไว้ก่อน ตอนนี้ผมเจอห้องน้ำแล้ว
ห้องน้ำสีขาวกว้างมากถ้าลองเทียบดูแล้วขนาดน่าจะพอๆกับหอพักของผมเลย ชักเริ่มไม่แน่ใจว่าลูกคนรวยที่ไหนพาผมมาเที่ยวห้องแบบนี้
ห้องฝักบัวแยกที่กั้นด้วยกระจกฝ้า ชักโครงที่เป็นสัดส่วนชัดเจน ในสุดเป็นอ่างอาบน้ำที่มีขนาดใหญ่พอสมควรที่ถูกยัดลงในหินอ่อนสีเทาเป็นแท่นสูงขึ้นจากพื้น ทั้งชีวิตไม่เคยนอนแช่อ่างอาบน้ำวันนี้มีโอกาศก็ขอสักวัน หึหึ
มือยังคงไต่ไปตามกำแพงเกาะเกี่ยวผ่านอ่างล้างหน้ากว้างที่มีกระจกบานใหญ่ที่ผมมองแล้วหน้าหัน รอยแดงไล่มาตั้งแต่ต้นคอลงมายังไหปลาร้าและแผ่นอกเต็มไปหมดจนต้องก้มลงสำรวจตัวเองอีกครั้ง
“เวรเอ้ย!” ถึงกับสบถลั่น
อารมณ์ดีๆเมื่อครู่แทบหมดเมื่อก้มลงมองส่วนล่างของตัวเองรอยแดงตามต้นขากลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับความสนใจเมื่อมองผ่านไปเห็นหยดน้ำสีขาวขุ่นไหลาลงมาตามต้นขาของตัวเอง หันไปมองตามทางที่เดินมาก็เห็นรอยหยดเป็นทางจนทำให้หน้าชาเพราะความไม่พอใจที่แล่นเป็นริ้วๆในอก
ทำไมผมไม่รู้สึกจนมาถึงตอนนี้นั้นอาจจะเพราะความเจ็บเบื้องล่างมันชาจนไม่รู้สึกถึงสัมผัสอื่นๆ
ผมจะฆ่ามัน!
ก่อนอื่นต้องทำความสะอาดตัวเองก่อนไม่ใช่เดินโทงๆให้น้ำของใครก็ไม่รู้หยดไปตามทางอย่างน่าอายอีกแบบนี้ จากอ่างอาบน้ำเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นห้องฝักบัวที่อยู่ใกล้ๆแทน แหงนมองก็เห็นปุ่มอะไรไม่รู้อีกสารพัดจนทำให้หงุดหงิดเล็กๆแต่พอเปิดออกมาก็อยู่ในระดับที่เย็นสบายพอให้คลายความรุ่มร้อนได้บ้าง
มาเรียบเรียงความคิดอีกทีว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!
ตอนนั้น รู้สึกว่าเหมือนมีคนเรียกอยู่ใกล้ๆแต่เพราะมันรบกวนการนอนหลับทำให้ต้องกระชากคออีกฝ่ายลงมาจูบเพราะกลิ่นหอมอ่อนๆทำให้นึกถึงผู้หญิงที่เคยนอนด้วยคนล่าสุด
อีกฝ่ายดูเหมือนจะพยายามขืนตัวออกแต่ด้วยผมนอนอยู่บนเตียงแขนสองข้างจึงเกี่ยวอีกฝ่ายลงมาด้วยน้ำหนักทั้งหมดที่มีแล้วเงยขึ้นประกบจูบอีกครั้ง ริมฝีปากนุ่มที่สัมผัสไม่ได้เหมือนของหญิงสาวที่โอนอ่อนผ่อนตามแต่กลับบดเข้าหาเพื่อเป็นฝ่ายนำแทนทำให้ต้องลุกไล่มากขึ้นไปอีก ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากตกเป็นเบี้ยล่างในรสชาติแห่งความสุขบนเตียงหรอก
ร่างกายหนักๆกดทับลงมาก่อนจะสอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาในโพรงปากของผม แผ่นอกไม่ได้นิ่มเหมือนที่เคยเจอแต่ทั้งหนาและแข็งจนรู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่ได้สนใจในเมื่อสติทั้งหมดจดจ่ออยู่กับการเกี่ยวกระหวัดลิ้นต่อลิ้นกับอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้
ไม่นานผมกลับเป็นฝ่ายเดินตามเกมจูบเสียอย่างนั้นทั้งๆที่มั่นใจในความชำนาญของตัวเองพอสมควร
สติที่คงมีไม่มากนักได้แต่ผ่อนปรนและทำตามทุกเสียงที่ได้ยินกระซิบผ่านหู ยิ่งร่างกายภายในร้อนรุ่มด้วยอารมณ์เท่าไหร่ระบบความคิดวิเคราะห์ก็ยิ่งแย่ลงไปเท่านั้น
“ยกแขนขึ้นหน่อยคุณ” เสียงแหบพร่ากระซิบอยู่ข้างๆทำให้ผมยกแขนขึ้นตามที่เจ้าตัวว่าก่อนที่เสื้อจะหลุดออกไป
ตอนนี้ลืมนึกไปแล้วว่าเสียงที่ได้ยินไม่ใช่ของผู้หญิงเหมือนเคย
“อ่ะ อย่ากัด”
ความเจ็บนิดๆที่ต้นคอทำให้ร้องเตือนออกมาเมื่อไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแต่เป็นทุกครั้งที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายปัดผ่าน เรี่ยวแรงที่พอจะเหลืออยู่บ้างกลับหายไปเฉยๆเมื่อถูกมือร้อนลูบไล้ไปตามสีข้างก่อนจะเคลื่อนขึ้นมาบริเวณอก
“อะ อ๊า ไม่เอา อะ เจ็บ”
นิ้วมือทั้งสองข้างเคล้นคลึงยอดอกสีอ่อนจนขึ้นแดงทั้งบดและขยี้อย่างสนุกมือจนรู้สึกเจ็บหากแต่ความเสียดวูบวาบก็ทำให้ร่างกายตื่นตัวยิ่งกว่าเดิม
สัมผัสอุ่นชื้นผละจากลำคอและลาดไหล่ลงไปยังหน้าอกแบนราบที่มียอดอกสีแดงช้ำกำลังชูชันล่อสายตา อีกฝ่ายก้มลงไปงับทันทีแล้วดูดดุนจนต้องใช้มือจิกทึ้งแล้วเบียดเข้าหาเมื่อความเสียววาบแล่นผล่านอย่างหาทางออกไม่เจอ อีกข้างที่ยังว่างก็ถูกมือหน้าคลึงเล่นจนร้องแทบไม่เป็นภาษา หน้าแหงนเชิดไปข้างหลังดวงตาปรือปรอยก่อนจะก้มลงดูอีกฝ่ายเมื่อการกระทำทั้งหมดนั้นหยุดลง
“คุณชื่ออะไร” ถามพลางเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนชิดเพียงปลายจมูก
ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองมาอย่างสนใจและมีความหมายที่แปลไม่ออกมากมายอยู่ภายในนั้น จมูกโด่งเป็นสันสวยคลอเคลียข้างแก้มเบาๆเพื่อรอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจอแต่ก็ไม่มีเสียงตอบออกมาทำให้ต้องกดจมูกลงไปข้างแก้มของอีกฝ่ายแรงๆเพื่อทำโทษ
“อื้อ... ไม่เอา”
“ไม่เอาอะไร ผมถามคุณยังไม่ตอบเลยว่าคุณชื่ออะไร”
“ต่อเร็ว” น้ำเสียงตอบออกไปดูเลื่อนลอยเหมือนกับคนที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ลมหายใจหอบถี่ สายต่อฉ่ำหวานด้วยน้ำตาที่คลอหน่วยจนคนมองต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่เพื่ออดทน
“ตอบผมมาก่อน ชื่ออะไรครับ”
“เต้ ชื่อเต้ อื้อ... มาเร็ว”
“หึหึ ครับๆ” พูดจบก็ก้มลงจูบอีกฝ่ายที่รอรับอยู่ก่อนแล้วทันที
รสจูบหนักหน่วงที่ไม่ต้องค่อยๆละเลียดชิมแบบผู้หญิงทำให้ได้อารมณ์ไม่น้อย ปลายลิ้นถูกดูดดุนจนเจ็บแต่คนข้างล่างก็ตอบโต้ในแบบเดียวกันไปให้ ริมฝีปากบดเบียดจนรู้สึกได้ถึงรสเลือดเฝื่อนพร่าที่ไหลออกมาปนกับความหวานล้ำในรสสัมผัสที่อยู่ในปาก
เต้โอบแขนรอบลำคอแกร่งที่อยู่ข้างบน อีกคนก็ไม่น้อยหน้าใช้ลำตัวบดเบียดลงมาให้อีกคนครางครือ มือที่ว่างก็ลูบไล้ไปมาตามผิวเรียบเนียบตึงแน่นหากแต่พอดีมือจนน่าแปลกใจ
กางเกงถูกดึงออกพร้อมชั้นในสีดำสนิทที่ดูจะเข้ากับมาดแบดบอยของเจ้าตัว แต่ตอนนี้กลับน่ารักน่ามองไปอีกแบบหนึ่งเมื่อกำลังอ่อนเปรี้ยและดูเชื่อฟังแบบนี้
ผมดำสั้นตามแบบฉบับทรงนักเรียนแต่ยาวกว่าเพราะเป็นช่วงสอบและเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงไม่ได้รับการตรวจอย่างเข้มงวดเหมือนปกติ นั่นทำให้ผมเริ่มยาวแต่ไม่ปิดบังหน้าตาทำให้เมื่อแสดงออกทางสีหน้าเขาก็รับรู้ได้จนหมด แก้มแดงน้อยๆทำให้ต้องก้มลงไปฟัดแต่อีกคนขยับหนีติดจะรำคาญ
มือหนาบีบเคล้นไปตามเนื้อตัวเปลือยเปล่าของคนข้างล่างก่อนที่มือข้างหนึ่งปัดผ่านส่วนอ่อนไหวให้อีกฝ่ายสะดุ้ง มือที่เกาะอยู่บนไหล่ผละออกก่อนจะเข้ากอบกุมของตัวเองแล้วขยับเบาๆแต่กลับถูกดึงกลับไปคล้องคอไว้เช่นเดิม
“อะ อ๊า”
ปากที่กำลังจะโวยวายใส่อีกฝ่ายต้องเปลี่ยนเป็นร้องลั่นเมื่อมือหยาบเข้ากอบกุมส่วนนั้นไว้แทนแล้วขยับให้ ความเร็วในการช่วยเหลือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนต้องหายใจหอบถี่แล้วกระชากอีกคนเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อนเพื่อระบายอารมณ์ที่ใกล้จะถึงขีดจำกัดเต็มที
“ระ เร็วหน่อย เร็ว อะ อื้อ หยะ หยุดทำไม” เต้ถามคนข้างหน้าด้วยเสียงที่ยังคงสั่นแล้วจ้องมองด้วยความไม่เข้าใจ พอจะใช้มือของตัวเองเข้าไปช่วยก็โดนรั้งไว้
“เรียกชื่อผมสิ ผมพีท” อีกฝ่ายโน้มหน้าเข้ามาบอกเบาๆ
“ไม่เอา ปล่อยๆ เดี๋ยวทำเอง” พูดพลางดิ้นเพื่อให้หลุดออกจากมือแข็งแรงที่จับข้อมือไว้
พีทกดส่วนแข็งขืนของตัวเองลงไปทาบทับของอีกฝ่ายทั้งๆที่ยังสวมกางเกงอยู่ เมื่ออีกคนกัดปากอย่างห้ามใจตัวเองไว้อีกฝ่ายก็ใช้ส่วนล่างบดคลึงหนักขึ้น
แต่ว่าคนเมาจะทนได้อีกสักกี่น้ำ...
“อึก! อือ”
“จะไม่เรียกจริงเหรอครับ” เขาพูดยิ้มๆก่อนจะหยุดตัวเองไว้ อีกคนที่ใกล้จะปลดปล่อยแต่ถูกปล่อยให้ค้างคายิ่งตัวสั่นยิ่งกว่าเดิมเพราะความต้องการมันทำให้ทรมานแทบบ้า
“อื้อ พีทครับ” เสียงอ๋อยที่ทำให้คนข้างบนยิ้มกริ่มก่อนจะตอบรับ
“ครับ”
“ช่วยหน่อย ช่วยกูหน่อย”
“ไม่เอาสิ ช่วยเต้หน่อย ผมว่าแบบนั้นดีกว่านะ”
เต้แม้มปากแน่นเมื่อได้ยิน แทนตัวเองด้วยชื่อแบบนั้นกับพ่อแม่ยังไม่เคยแล้วจะให้พูดแบบนั้นกับคนอื่นได้ยังไง แต่แล้วความต้องการภายในก็เป็นฝ่ายชนะเมื่อพีทกดตัวลงมาบดเบียดอีกครั้งให้ร่างกายกระตุกวูบ
“ชะ ช่วยเต้ ช่วยเต้หน่อย อะ อ๊า!”
พีทที่ได้ยินใช้มือกอบกุมส่วนอ่อนไหวขนาดที่ว่าได้ว่าไม่น้อยหน้าใครที่สั่นระริกนั้นทันที มือของเจ้าตัวที่จะลงไปช่วยถูกปัดออกทุกครั้งจึงได้แต่คล้องรอบคอของอีกคนไว้แล้วรับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่แทน
“อา พีท เร็ว อือ”
“หึหึ ได้ครับ”
การขยับรูดรั้งเร็วขึ้นหากแต่ก็ไม่ยอมปลดปล่อยเสียทีทำให้พีทหัวเสียไม่น้อยก่อนจะก้มลงไปใช้ปากให้แทนจนเจ้าตัวร้องเสียงหลงห้ามแทบไม่ทัน ก็นะ เต้ก็เสือผู้หญิงพอตัวจะให้หลั่งเร็วมันก็เสียเชิงชายหมดถึงแม้ตอนนี้แทบจะไม้ต้องใช้ความเป็นชายแบบนั้นเลยก็ตาม
“หยะ หยุด อะ อ๊า! มัน มัน อึก”
เต้รีบกระชากผมของอีกฝ่ายออกห่างจากตัวเพราะสุดปลายทางของความต้องการแล้ว ก่อนที่พีทจะปล่อยสิ่งที่อยู่ในปากออกไปตามแรงดึงพอดีกับน้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งออกจากส่วนปลายของอีกฝ่ายจนเลอะหน้าท้องที่ขึ้นลอนน้อยๆ
ไม่มีการปลดปล่อยครั้งไหนรู้สึกเหนื่อยเท่าครั้งนี้จริงๆ
พีทมองดูคนที่อ่อนระทวยอยู่เบื้องหน้าก่อนจะถอดเสื้อผ้าของตัวเองโยนทิ้งไปข้างเตียงแล้วก้มลงไปเล้าโลมอีกฝ่ายต่อเพราะเห็นว่าเต้กำลังจะหลับ
“อย่าพึ่งหนีกันไปก่อนสิ”
เชี่ยยยยย!
ผมทำอะไรลงไป! ยอมมันไปได้ยังไงวะครับเนี่ย!
แถวยังขอให้มันช่วยอีก ใครก็ได้บอกทีว่ามันเป็นแค่ความฝัน
ผมปิดน้ำที่เปิดไว้ช่วยดับความร้อนแต่มันไม่ได้ช่วยเลยสักนิดในเมื่อผมก็ยังรู้สึกร้อนผ่าวอยู่เหมือนเดิม ดูจากอาการปวดระบบจากช่องทางด้านหลังที่ดูจะรุนแรงขึ้นแล้วก็อาการปวดหัวตุบๆที่ไม่ยอมหายไปสักที สันนิษฐานได้ว่าผมกำลังเป็นไข้
ใช้ร่างกายคนอื่นตามใจชอบแถมยังน่าจะรุนแรงน่าดูอีก อย่าให้มีแรงนะ พ่อจะชกให้หน้าคว่ำ
น้ำหยุดไปแล้วแต่รู้สึกได้ว่าน้ำอื่นจากช่องทางด้านหลังยังไหลออกมาไม่เลิก มึงปล่อยข้างในทำไมเยอะแยะวะ ลำบากกูอีกเนี่ย
แล้วมันเอาออกยังไงเฮ้ย!
ยืนทำใจก่อนแปปนึงแล้วใช้มือซ้ายยันผนังด้านหน้าไว้ ขากางออกนิดนึงแล้วใช้มือขวาแตะเบาๆที่ช่องทางด้านหลัง
ซี้ดดดดด!
อย่างเจ็บ! ไอ้สัดพีท! ไอ้เชี่ย!
สบถด่าในใจถึงตัวการไปเรื่อยๆก่อนจะกดนิ้วเข้าไปช้าๆ ถึงกับบ้ำตาคลอเลยครับ เจ็บจริงๆนะให้ตาย
“ให้ช่วยไหมครับ”
เสียงที่ดังมาจากข้างหลังพร้อมกับมือซ้ายเข้ามากดซ้อนกับมือผมที่ดันกำแพง แผ่นอกทาบลงมาบนแผ่นหลังของผมก่อนที่มืออีกข้างจับมือที่ยังคงสอดนิ้วเข้าไปนิดหน่อยไว้ในท่าเดิมอยู่แบบนั้น
tbc
--------------------
ข้าพเจ้ายังมือใหม่ มีอะไรโปรดชี้แนะ