LengZab 11
กรุณาระบุสถานะที่ชัดเจน
50%
วันนี้ย้งยี้ตื่นสายเพราะเมื่อคืนหลังจากอาบน้ำแล้วพี่เล้งก็จับย้งฟัดจนดึกดื่น เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอม เดี๋ยวจูบ เดี๋ยวจับตรงนั้นเดี๋ยวลูบตรงนี้จนย้งช้ำไปหมด เด็กทั้งคู่เล่นกันจนดึกกว่าจะได้นอนก็เกือบตีสอง ย้งยี้ลืมตาขึ้นเมื่อแสงแดดที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างแยงตา แอร์ถูกปิดเหลือเพียงพัดลมที่เปิดจ่อไว้ที่ปลายเตียง ที่นอนด้านข้างว่างเปล่าเหลือเพียงรอยยับย่น ย้งยี้กลิ้งตัวเองเป็นก้อนไปกับผ้านวมดีดดิ้นดุ๊กดิ๊กยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเองอีกพักถึงได้ลุกไปแปรงฟันอาบน้ำ อีตัวดีชะงักกับเงาในกระจก เรือนผมชี้โด่ชี้เด่ไม่เป็นทรงปรกหน้าปรกตา เสื้อเชิ๊ตสีขาวตัวโคร่งที่พี่เล้งเป็นคนโยนให้ใส่กระดุมหลุดไปสองเม็ดเผยให้เห็นอกเนียนขาว กางเกงขาสั้นถูกชายเสื้อปิดจนเหมือนไม่ได้ใส่อะไรไว้ด้านใน
ย้งยี้ไม่คิดเลยว่าตัวเองในกระจกจะดูโตได้ถึงขนาดนี้
ที่สุดดุดตาคือรอยจ้ำสีแดงช้ำที่ต้นคอเด่นหรายิ่งใบหน้าของย้งยี้ยามนี้ริมฝีปากอิ่มเจ่อช้ำ ย้งก็รู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้า
มันดูเหมือนไม่ใช่ย้งเลยซักนิด
คนในกระจกเซ็กซี่เกินไป
ย้งไม่รู้ว่าพี่เล้งอดทนกับย้งในสภาพแบบนี้ได้ยังไงเพราะนอกจากจูบและใช้มือจับตามเนื้อตัวของย้งพี่เล้งก็ไม่ได้ล่วงเกินไปมากกว่านี้ ย้งรู้ว่าพี่เล้งน่ะมีอารมณ์ ก็เล้งน้อยทิ่มขาย้งออกซะขนาดนั้นแต่พี่เล้งก็บอกกับย้งแค่ว่าดึกแล้วนอนเถอะจากนั้นพี่เล้งก็กอดย้งไว้นิ่งๆลูบผมย้งไปมาจนย้งหลับ
ย้งบอกเลยถ้าย้งเป็นผู้ชาย...
ย้งหมายถึงว่าถ้าย้งเป็นผู้ชายแมนๆแบบพี่เล้งย้งคงไม่ปล่อยคนที่มีสภาพยั่วเยแบบนี้ให้รอดไปได้
หรือพี่เล้งจะถือศีลพรหมจรรย์
ไม่ได้นะ...ถ้าแบบนั้นย้งก็อดเอาพี่เล้งทำผัวสิ
ย้งยี้คิดนู่นคิดนี่คิกคักอยู่คนเดียวจนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เดินลงมาชั้นล่างเข้าครัวคุ้ยเอาของสดที่เพิ่งไปซื้อมาวันก่อนออกมา มันเดินไปตวงข้าวใส่หม้อเพื่อหุงให้พอกิน 5 คน วันนี้เป็นวันเสาร์ เล้งกับเจงและอินจะอยู่ที่อู่ทั้งวันเพิ่อทำงานแทนแปะหลิวที่อยู่โยงเฝ้าอู่มาทั้งอาทิตย์ อีตัวดีเอาฟักทองซีกใหญ่ออกมา รวมทั้งกะทิกล่อง เนื้อหมูรวมถึงผักอื่นๆที่จะใช้ มันจัดการปอกเปลทือกฟักทองส่วนที่แข็งๆออกล้างน้ำ ล้างเนื้อหมูหั่นเตรียมไว้พอเสร็จมันก็เอากระทะตั้งไฟเทกะทิกล่องลงไป จริงๆอยากใช้กะทิสดจะได้หอมกลิ่นกะทิแต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปย้งยี้จึงใช้กะทิกล่องเพื่อความสะดวกสบายจะขับรถไปซื้อที่ตลาดก็ขี้เกียจ กระต่ายขูดมะพร้าวที่รุ่นอากงอาม่าเคยใช้กลายเป็นเพียงของประดับครัวที่นานๆทีถึงจะได้หยิบมาใช้เสียครั้งหนึ่ง พอกะทิแตกมันย้งยี้ก็ตักพริกแกงใส่ลงไปคนจนหอมย้งยี้ถึงได้เทเนื้อหมูที่หั่นเตรียมไว้ลงไปรอจนสุกมันก็เทกะทิในกล่องที่เหลือลงไปแล้วก็หยิบเอาฟักทองมาเทใส่ รอจนเดือดปรุงรถแล้วมันก็ไปเด็กใบโหระพามาใส่เป็นอันเสร็จ ย้งยี้ทำไข่เจียวหมูสับกับต้มจืดตำลึงเพิ่มอีกสองอย่างก็ตักใส่ปิ่นโต 2 เถา เถาใหญ่เพื่อเอาไว้กินกับพี่เล้งพี่เจงพี่อิน ส่วนอีกเถามันทำเผื่อแปะหลิว ย้งยี้คดข้าวใส่หม้ออวยใบเขื่องจากนั้นก็จัดการล็อกบ้านแล้วเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ บรรดาคนเฒ่าคนแก่ที่คุ้นหน้าคุ้นตาส่งเสียงร้องทักมันไม่ขาดปาก
“ไปหนล่ะจ๊ะคนสวย”ป้าแจ๋นแม่ค้าขายกล้วยทอดร้องทักเมื่อเห็นอีตัวขาวเดินสว่างมาตั้งแต่หน้าปากซอย
“เอาข้าวไปให้พี่เล้งจ้า”
“แหม...เลี้ยงดีจริงๆ เมื่อไหร่จะแต่งกันล่ะ?”ป้าแกแกล้งถามเหมือนที่เคยหยอกอีตัวดีเล่นตั้งแต่มันยังตัวเท่าเมี่ยง
“ก็กะว่ารอพี่เล้งเรียนจบทำงานทำการก่อนซักสองปีจ้า”มันก็ตามน้ำตามเขาไปทุกครั้งพูดจบก็หัวเราะคิกคักกันกับป้า ย้งยี้เดินผ่านตลาดลัดมาตามถนนด้านหลังจนถึงอู่ของเล้ง เจงกับอินกำลังสาละวนอยู่กับรถมอเตอร์ไซค์คันที่เล้งเคยบอกว่าเป็นของอาจารย์ที่วิทยาลัย
“พี่เจงพี่อินหวัดดีจ้า”มันร้องทักเพื่อนสนิทของเล้งอย่างคุ้นเคย
“เออ หวัดดีๆ”อินเป็นฝ่ายทักกลับก่อนจะกลับไปสาละวนกับรถ
“พี่เล้งอยู่ไหนจ๊ะ?”อีตัวดีชะเง้อหาพี่เล้ง
“อยู่ในครัว”คราวนี้เจงเป็นคนร้องตอบ มันได้ยินเสียงย้งร้องอ้อ และทันทีที่เจงนึกได้ว่าเมื่อครู่เสียงใครมันก็หันขวับไปตามร่างขาวๆที่เดินหิวปิ่นโตเข้าไปในบ้าน
“ชิบหายแล้ว!!”มันร้องออกมาเบาๆ
“เหี้ย...กูลืมไปซะสนิทเลย”คราวนี้อินถึงกับทำปะแจหล่นมือ
ย้งยี้เดินเข้ามาในบ้านของเล้งอย่างคุ้นเคย มันเลี้ยวเข้ามาในครัวเพราะคิดว่าเล้งคงหิวรอไม่ไหวจนต้องเข้ามาทำกับข้าวเองหากแต่ในครัวกลับว่างเปล่ามีเพียงไข่เจียวด้านๆกับผัดกะเพราที่ยังอุ่นๆวางอยู่หน้าเตามีเศษอาหารที่หกเลอะเทอะชามไข่วางทิ้งไว้ในซิ้งค์อย่างไม่น่าดู หม้อข้าวมีน้ำล้นเดือดส่งเสียงขลุกขลัก ย้งวางปิ่นโตและหม้ออวยที่ใส่ข้าวลงบนโต๊ะ ร่างบางเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อดูว่าเล้งทำอะไรอยู่ ย้งยี้ตรงดิ่งไปที่ห้องของเล้ง ประตูห้องเปิดแง้มไว้ไม่ได้ปิดสนิท
“เล้ง”ย้งยี้ชะงักเท้าเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเรียกเล้งเบาๆ ใจของมันเต้นโครมคราม
ย้งเคยดูละครในทีวี ถ้าได้ยินเสียงแบบนี้ ตัวอิจฉามักจะแกล้งสะดุดล้มทับพระเอก หน้าของสองคนก็จะใกล้กันจนเหมือนจะจูบ แล้วนางเอกก็จะเข้าไปเห็นฉากบาดตาบาดใจนั้นแล้วนางเอกก็จะเข้าใจผิดโกรธและงอนพระเอกจนวิ่งหนีไป ตัวอิจฉาก็จะแสยะยิ้มลับหลังที่สร้างความร้าวฉานให้กับพระเอกนางเอกได้
ย้งสัญญาว่าย้งจะไม่เป็นแบบนั้น ย้งมีเหตุผลพอที่จะฟังถ้าพี่เล้งจะแก้ตัวหรืออธิบายอะไร ย้งจะไม่งี่...
ย้งยี้ความคิดสะดุดเมื่อเดินไปจนถึงหน้าประตู ภาพผู้หญิงผิวคล้ำกว่าพี่เล้งกำลังคร่อมพี่เล้งที่นอนราบอยู่บนเตียง ใบหน้าของคนทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบ เรือนผมยาวสลวยระลงบนผิวหน้าของเล้งที่นอนนิ่ง
จะไม่อะไรเลยถ้าส่วนของลำตัวท่อนล่างแนบสนิทกันผ่านเนื้อผ้าบางๆที่ย้งจำได้ว่านั่นมันเป็นกางเกงนอนลายคิตตี้ของย้ง
ย้งยี้มองเครื่องแต่งกายอันคุ้นตาที่ผู้หญิงคนนั้นใส่ก็ให้โกรธนัก
มันเรื่องอะไรกันที่พี่เล้งเอาเสื้อผ้าของย้งให้ชะนีที่ไหนใส่ก็ไม่รู้อ่ะ อ่อ ย้งจำชะนีนางนี้ได้ นางคือคนที่ทักพี่เล้งเมื่อวันที่ไปห้าง
แล้วทำอะไรกัน ทำไมต้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน
แล้วนั่นอ่ะ นม!! หล่อนจะเอานมเบียดแผงอกแน่นๆของพี่เล้งทำไม
ย้งยี้กำหมัดแน่นส่งสายตาไปเผาไหม้คนบนเตียง
แม้ความคิดของย้งยี้จะยาวนานแต่เหตุการณ์จริงเพิ่งผ่านไปราวครึ่งนาที เล้งที่เห็นเงาคนอยู่ปรายสายตารีบหันไปมองทันที
ชิบหาย!!!
ร่างขาวๆของย้งยี้ยืนกำหมัดกัดปากอยู่หน้าห้อง มองลงไปที่ตีนอีย้งกำลังเอาตีนจิกพื้นบ้านเขาจนปูนแทบจะแตก เล้งผลักแก้มบุ๋มที่กำลังทำท่ายั่วยวนเขาออกทันที
“ย้ง คือกูอธิบายได้”
“เอาเสื้อผ้าของย้งไปให้เขาใส่ทำไม”ย้งยี้ไม่ฟูมฟายหรือโวยวายเหมือนที่ตั้งใจไว้ มันคุมน้ำเสียงตัวเองให้นิ่งทั้งๆที่โกรธจนตัวสั่นเทิ้ม ย้งไม่อยากเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนางเอกละครน้ำเน่าที่เคยดู ทั้งที่จริงๆมันอยากจะวิ่งหนีไปแทบแย่ ย้งยี้รู้สึกเหมือนมีใครโยนกองไฟใส่หัว มันทั้งร้อนและทรมาน ตาของมันจ้องมองเสื้อยืดพอดีตัวที่มันชอบใส่นอนเวลามาบ้านเล้ง ปากของมันเริ่มเบะลงเรื่อยๆเป็นอากัปกริยาที่พร้อมจะงอนหรือร้องไห้ได้เดี๋ยวนี้
“สวัสดีจ้า น้องของเล้งใช่มั้ยพี่บุ๋มจำได้เราเคยเจอกัน”แก้มบุ๋มส่งยิ้มหวานหลังจากลุกขึ้นมายืนข้างเล้งหากแต่ย้งยี้เม้มปากตวัดสายตามองข้ามหัวของแก้มบุ๋มเพื่อจ้องตาเล้ง
“พี่เล้งก็รู้ว่าย้งไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร”
“คือบุ๋มเขาทำไข่หกใส่ตัวเองเฮียก็เลยให้เขาขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อ”เล้งพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบเมื่อเห็นอีตัวดีแดงไปทั้งตัวด้วยความโกรธ
“แล้วพี่เล้งขึ้นมาทำไมมาช่วยเขาเปลี่ยนเหรอ”ย้งสวนกลับไปทันที กะอีแค่มาเปลี่ยนเสื้อ ขึ้นมาคนเดียวก็ได้ ทำไมต้องตามขึ้นมานอนคร่อมกันด้วยย้งไม่เข้าใจ ย้งต้องการคำตอบที่เข้าหูและเข้าท่าไม่ใช่ยืนทำหน้ามึนแบบนี้
“น้องย้ง มันไม่มีอะไรเลยจ้า”เป็นแก้มบุ๋มที่พูดแทรกขึ้นมา มือเรียวจับต้นแขนเล้งไว้ หล่อนยิ้มหวานให้คนเด็กกว่า
“คือตอนพี่บุ๋มเปลี่ยนเสื้อพี่บุ๋มเห็นจิ้งจกน่ะก็เลยร้อง เล้งเขาเลยเข้ามาช่วย”
“ก็เลยบังเอิญว่าพี่กลัวมากเลยกระโดดกอดพี่เล้งแล้วก็เลยเสียหลักนอนลงไปบนเตียงใช่มั้ยจ๊ะ”ย้งต่อประโยคให้กับแก้มบุ๋ม หญิงสาวหัวเราะเสียงใส
“แหม เล้ง น้องชายของเล้งเก่งจังเลยนะคะ เดาเรื่องได้ถูกเป๊ะๆเลย”แก้มบุ๋มหันไปพูดกับเล้งจงใจเน้นคำว่าน้องชายจนย้งทำตาคว่ำใส่ หล่อนลูบแขนเล้งราวกับนั่นเป็นกริยาอันเป็นธรรมชาติ เล้งที่เพิ่งรู้ตัวว่าโดนกอดแขนไว้ดึงแขนตัวเองออกอย่างสุภาพ
“พอดีย้งดูละครน้ำเน่าบ่อยนะ พวกตัวอิจฉาชอบทำกันแบบนี้ เสื้อผ้าชุดนี้ย้งยกให้นะไม่ต้องเอามาคืนเพราะย้งคงทำใจใส่ต่อไม่ลง กลัวคันพอดีผิวย้งแพ้ง่ายโดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็แดงไปหมด”ย้งยี้แสร้งยกมือเกาตรงรอยแดงที่คอจงใจเผยให้แก้มบุ๋มเห็น แก้มบุ๋มถึงกับสตั๊นท์ไปนิดหนึ่ง ย้งตวัดตามองเล้งอีกครั้งก่อนจะพูดเสียงเย็น
“ตอนแรกจะขึ้นมาตามลงไปกินข้าว แต่มีคนทำให้กินแล้วนี่ งั้นย้งกินกับพี่เจงพี่อินก็แล้วกัน ส่วนพี่เล้งเชิญกินกันสองคนกับเขาเถอะกินให้อิ่มแล้วค่อยลงไปก็ได้”ย้งยี้ไม่รอฟังคำอธิบายใดใด พอหันหลังให้อีตัวดีก็เบะปากจนแทบจะไปชนกับปลายจมูก มันใช้หลังมือปาดน้ำมูกทิ้ง
ย้งเดินลงมาถึงตีนบันไดก็เจอเจงกับอินยืนเก้ๆกังๆอยู่ สีหน้าของมันสองคนมีทั้งคำถามและคำขอโทษ
“กินข้าวกันพี่เจงพี่อิน ย้งทำกับข้าวมาให้”เจงกับอินมองขึ้นไปก็เห็นเล้งวิ่งตามลงมา ย้งสะบัดหน้าพรืดเดินหนีเข้ามาในครัวทันที มันหยิบจานชามช้อนมาใส่กับข้าวและหยิบจานข้าวมาเพียงแค่สามใบเท่านั้น
“ย้ง แล้วของไอ้เล้งกับอาจารย์บุ๋มล่ะ?”เจงที่เห็นเพื่อนนั่งหน้าบูดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะเอ่ยถาม จริงๆตอนแรกก็นั่งรวมกันแหละ แต่พออีตัวดีมันเห็นว่าเล้งนั่งตรงไหนมันก็กั้นโซนทันที
“เขาก็มีอาหารรอป้อนถึงปากแล้วนั่นไง กับข้าวฝีมือย้งมันจำเจแล้ว หรือพี่เจงกับพี่อินอยากไปกินกับพี่เล้งย้งจะได้เอากลับ”มันไม่พูดเปล่าคว้าเถาปิ่นโตที่เพิ่งถอดทำท่าจะใส่กลับเข้าไปใหม่จนอินต้องรีบจังมือมันไว้ส่งผลให้เล้งที่นั่งอยู่อีกฝั่งตาเขียวปั๊ดมองมือของอินที่จบอีย้งราวกับจะสับให้เละ
ไอ้ชิบหายน่ากลัวจุงเบย อินค่อนขอดในใจก่อนจะรีบปล่อยมือ
“เล้งลองกินผัดกะเพราดูนะ”แก้มบุ๋มดึงความสนใจของเล้งให้ออกมาจากย้งยี้และเพื่อนอีกสองคน เล้งตักข้าวเข้าปากอย่างหงุดหงิด แก้มบุ๋มนั่งรอฟังคำชมด้วยสีหน้าลุ้นๆ
“เป็นไง อร่อยมั้ย?”
“เค็ม ข้าวก็แฉะ “เล้งตอบกลับด้วยคำพูดสุดตรง
“วิจารณ์แบบนี้ไม่เอาตีนยันหน้าเขาไปเลยล่ะ”เจงขำพรืดหันไปกระซิบกับอินเบาๆ ส่วนแก้มบุ๋มกัดริมฝีปากแน่นอย่างสุดอาย แต่หล่อนก็ยังไม่ลดละตักไข่เจียวด้านๆใส่จานให้เล้ง
“งั้นลองไข่เจียวดูนะเล้ง”เล้งมองอีตัวดีตักไข่เจียวใส่จานให้เจงกับอินอย่างหมั่นไส้ มันยกช้อนเข้าปากเคี้ยวแล้วเบ้หน้า
“ไข่ด้านน้ำมันเยิ้มไม่อร่อย”
“อื้อหือ ไข่เจียวหมูสับของย้งยี้ยังแด่วสะเด็ดเหมือนเดิมเลยนะ”
“ใช่ๆกินเปล่าๆไม่ต้องใส่ซอสอะไรเลยยังอร่อย แล้วเนี่ยแกงฟักทอง ฟักทองโคตรมันเลย ใครไม่ได้กินนี่พลาดมาก”
“นั่นสิ น่าสงสารเค้านะครับเพื่อนอิน”
“อร่อยพี่ๆก็กินเยอะๆนะกินหมดแล้วเททิ้งได้เลย ย้งกลับบ้านดีกว่าเดี๋ยวบ่ายจะออกไปซื้อของกับเพื่อน”
“ก็คุยกันแล้วไงว่าไม่ไป”คราวนี้เล้งถึงกับลุกขึ้นพูด มันปัดมือแก้มบุ๋มที่คว้าต้นแขนมันออกอย่างรำคาญ
“ก็ตอนนี้อยากไปแล้วพี่เล้งจะทำไม”มันหันมาเถียงตาใส
“เฮียไม่ให้ย้งยี้ไปนะ”เล้งพยายามใจเย็นเข้าสู้ เขารู้ว่าย้งไม่พอใจเรื่องข้างบนห้องแต่เขาจะพูดอะไรมากก็เกรงใจแก้มบุ๋ม อย่างน้อยนั่นก็ผู้หญิง
“ย้งจะไป ย้งโตแล้วจะไปไหนก็ได้”
“นั่นสิเล้ง น้องของเล้งโตแล้วปล่อยๆแกไปบ้างเถอะ”แก้มบุ๋มรีบพูดเหมือนหวังดี
“พี่คนสวยจ๊ะ ย้งน่ะไม่ใช่น้องแท้ๆของพี่เล้งหรอกนะ เห็นย้ำจังเลยอยากแก้ความเข้าใจผิดให้”คราวนี้ย้งยี้หันไปยิ้มหวานใส่แก้มบุ๋ม
“ส่วนจะเป็นอะไรอยู่ในฐานะไหนก็ถามเขาเอาเองแล้วกันว่าจัดประเภทให้ย้งอยู่ในฐานะไหนย้งไปดีกว่า”ย้งยี้หันหลังเดินออกจากบ้านไปทันที เล้งก้าวพรวดๆเพื่อตามอีตัวดีไป
“เจงอิน แดกเสร็จทำรถให้อาจารย์ที เอาให้เสร็จภายในวันนี้ เขียนบิลเต็มราคา กูไปตามย้งก่อน”เล้งไม่รอฟังคำตอบรับของเพื่อนๆมันวิ่งตามอีย้งที่เดินตัวขาวเห็นหลังไวๆลับมุมถนนไป รีบขนาดไหนเล้งก็นึกไม่ออก เล้งไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าไม่ได้ใส่รองเท้าออกมา ย้งยี้รู้สึกเหมือนมีคนโรคจิตตามมาพอหันไปเห็นเล้งวิ่งสี่คูณร้อยตรงมาที่ตนอีตัวดีก็ตกใจร้องกรี๊ดลั่นแล้วสับขาหนีอย่างไม่คิดชีวิต
พี่เล้งน่ากลัวมาก เหมือนพวกโรคจิตที่กำลังตามฆ่าเด็กในหนังที่เคยดูเลย
ชาวบ้านร้านตลาดที่อยู่ริมทางได้แต่หันมองตามเสียงกรี๊ดของอีย้งที่วิ่งไวผ่านฟิ้วไปตามด้วยเล้งที่ใช้ช่วงขายาวให้เป็นประโยชน์วิ่งตามไปติดๆ
“ไอ้เด็กสองคนผัวเมียนี่มันเล่นอะไรกันอีกแล้ว โตจนป่านนี้ยังไม่เลิกวิ่งไล่จับกันอีก”บรรดาป้าๆแม่ค้าในตลาดที่เห็นเด็กสองคนนั่นจนชินตาหันไปพยักเพยิดให้กัน
ในความคิดของคนเหล่านี้ก็คืออีย้งคงไปกวนตีนจนเล้งโมโหวิ่งตามไปไล่เตะอีกนั่นแหละ
ย้งยี้หยุดยืนกุมซี่โครงหอบจนตัวโยนเมื่อมาถึงบ้าน มันเดินเลาะไปเข้าประตูหลังเพื่อหนีเล้งหากแต่ก่อนที่จะปิดประตูเล้งก็ยึดไว้เสียก่อน แรงมันมีมากกว่าอีย้งที่ป้อแป้เต็มที ต่างคนต่างหอบเหมือนหมาหอบแดดไม่มีผิด
“ปล่อยนะ”อีย้งพยายามดึงประตูปิดแต่เล้งกระชากปึ่บเดียวก็แทบจะปลิวทั้งประตูทั้งคน
“ทำไมไม่ฟังเฮีย”มันถามย้งยี้ด้วยน้ำเสียงขึงขัง ดวงตาของมันตอนนี้ก็น่ากลัว ย้งถอยกรูดเมื่อเล้งก้าวเข้ามาประชิด
“ก็ทำไมต้องฟังล่ะ อย่ามาทำเป็นดุนะ ย้งยังไม่หายโกรธที่พี่เล้งเอาของๆย้งไปให้คนอื่นใส่”
“ก็มันมีแต่ของย้งมั้ยล่ะที่ให้เขาใส่ได้”เล้งพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบเขาดึงอีตัวดีให้หันหน้ามาคุยกันดีๆ
“หรือจะให้เฮียเอาเสื้อผ้าเฮียให้เขาใส่?”อีตัวดีมันเมินหน้าไปอีกทางไม่ตอบ แต่ถ้าถามว่าจะยอมให้พี่เล้งเอาเสื้อผ้าของพี่เล้งให้ยัยแก้มบุ๋มแก้มเบี้ยวอะไรนั่นใส่มั้ย ย้งก็ตอบได้เลยว่าไม่ยอมหรอก ของๆพี่เล้งกลิ่นตัวที่ติดเสื้อของพี่เล้งต้องเป็นของย้งคนเดียว
“แต่คงจะไม่ได้หรอก เพราะเสื้อของเฮียน่ะมีไว้ให้เมียในอนาคตใส่คนเดียว”เล้งดึงอีตัวดีเข้ามากอด มันขำเบาๆเมื่ออีตัวดีในตอนนี้คงจะคิดตามคำพูดของมันได้เอาแต่ซุกหน้าเข้าอกเขา มือที่ว่างของมันก็ทุบหลังเขาจนเกือบหักเพราะความเขิน
บ้าบอว่ะพี่เล้ง มาพูดงี้ได้ไง
ก็มีแค่ย้งป่าววะที่เคยใส่เสื้อบอลของพี่เล้ง
“พี่เล้ง...”อีย้งกลั้นเขินเสร็จก็เอ่ยเรียกเบาๆ
“ตกลงเราเป็นอะไรกัน?”มันเงยหน้าขึ้นถามคำถามที่คาใจ มันเพิ่งนึกได้ว่าเล้งบอกรักมันแต่ก็ไม่แทงสถานะที่ชัดเจนซักที
“รอวันเกิดมึงแล้วจะบอก ตอนนี้เป็นคนคุยไปก่อน”
“อีกตั้งหลายเดือน”มันเบะปากใส่จนเล้งอดไม่ได้ที่จะดึงปากล่างของมันอย่างมันเขี้ยว
“รอกูบอกรักมา 9 ปี มึงยังรอได้ รออีก สี่ซ้าห้าเดือนไม่ตายหรอก”
“ก็ย้งใจร้อนอยากรู้”
“เป็นเมียกูสิเดี๋ยวบอกให้เลย”มันแกล้งบีบแก้มก้นนุ่มๆจนอีตัวดีสะดุ้ง
“อย่ามาทะลึ่งนะพี่เล้ง ไปเคลียร์กับผู้หญิงคนนั้นก่อนเถอะ ย้งไม่ชอบ”
“มันไม่มีอะไร”
“พี่เล้งไม่ใช่คนโง่ พี่เล้งน่าจะดูออก ขนาดย้งโง่ย้งยังดูออกเลยว่าเขาอ่อยพี่”
“อ่อยไม่ขึ้นหรอกไม่มีใครทำกูขึ้นเท่ามึงอีกแล้ว”เล้งตอบยิ้มๆ มันหัวเราะก้ากเมื่อย้งยี้กระทืบเท้าอย่างขัดใจ
“คนลามก ไปไกลๆเลยนะไม่ต้องมาเข้าใกล้”มันผลักเขาเมื่อเถียงสู้ไม่ได้ ย้งยี้เดินตูดบิดหนีเล้งหากแต่เล้งก็ตามมาจับมือมันรั้งไว้
“อะไรอีกล่ะ”แสร้งปั้นหน้าขรึมหันไปถาม
“มีข้าวเหลือมั้ย หิวข้าวอยากกินแกงฟักทอง”มันลูบท้องให้ย้งยี้ดูอย่างน่าสงสาร
“เมื่อกี๊ไม่กินให้อิ่มๆไปล่ะ”
ไม่อร่อย ใครก็ทำอร่อยสู้หนูของเฮียไม่ได้หรอกครับ”เล้งยื่นหน้าไปตอบก่อนถือโอกาสหอมฟอดไปที่แก้มนุ่มของย้งยี้ อีย้งเม้มปากกลั้นยิ้มจนแก้มแทบแตก จมูกมันบานจนน่าขำหากแต่เล้งต้องฮึบไว้ เพราะถ้าขำตอนนี้ข้าวเขิ้วคงไม่ได้กิน
“รอเดี๋ยว มีแกงกับต้มจืดเหลืออยู่ เดี๋ยวเจียวไข่ให้”มันเดินนำเข้าครัวไป เล้งถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยปัญหาตอนนี้ก็เคลียร์ได้ไม่ต้องค้างคานาน
เห็นทีเขาต้องจัดการเหวี่ยงแก้มบุ๋มออกจากวงโคจรซักที ไม่งั้นชีวิตคู่ของเล้งกับย้งหลังจากนี้มีปัญหาแน่
......................................
นอกจากฟักทองที่มัน ย้งก็มันไม่แพ้ฟักทองนะจ๊ะ
อยากกินแกงฟักทองกับข้าวสวยร้อนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ติดแท็กวี้ดวิ้วได้ในทวิต ตามส่องอยู่ตลอดอย่าปล่อยให้คนเขียนเหงา 55555555555555
#พี่เล้งแซ่บมาก
ลืมแจ้งให้ทราบ เดี๋ยวเราจะรีบปั่น 50%ที่เหลือให้ภายในพรุ่งนี้นะคะแต่ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่มีอัพก็รออาทิตย์หน้าเลยเพราะเราต้องเข้ากรุงเทพไปหาหมอที่ศิริราชก่อนค่ะ กลับมาอีกทีวันเลือกตั้งเลยน่าจะยุ่งๆ